"พระเก๊มาจากไหน"

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย มันตรัย, 7 พฤษภาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ว่าไง คุณมันตรัย ,คุณปทุมธานี ,คุณเด็กวัดป่า<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1179325", true); </script> ,คุณอดุลย์ เมธีกุล


    [​IMG]


    คุณมันตรัย ,คุณปทุมธานี ,คุณเด็กวัดป่า<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1179325", true); </script> ,คุณอดุลย์ เมธีกุล และท่านอื่นๆ

    ช่วยดูให้หน่อยว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง) ในรูปนี้ เป็นพระแท้หรือพระเก๊
    เมื่อตอบแล้ว ขอให้ผู้ที่ตอบและผม ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันตลอดไป และไม่รู้จักกันตลอดไป


    ว่าไงครับ ทั้ง 4 คนยังไม่บอกผมเลยว่า แ้ท้หรือเก๊

    กล้าๆหน่อย ให้สมเป็นลูกผู้ชาย

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, กัณท์ภิรมย์, ปทุมธานี</td></tr></tbody></table>
    อย่าลืมตอบน๊ะคุณปทุมธานี
     
  3. ปทุมธานี

    ปทุมธานี ยอมไม่ทำดีกว่าทำร้ายคนอื่น

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +1,217
    ผมไม่ยุ่งแล้วยังมายุ่งกับผมอีกหรือ ต้องการให้ตอบก็ตอบ

    เก๊ทั้งหมดครับ

    คราวนี้พอได้หรือยัง
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ว่าไง คุณมันตรัย ,คุณเด็กวัดป่า<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1179325", true); </script> ,คุณอดุลย์ เมธีกุล


    [​IMG]


    คุณมันตรัย ,คุณปทุมธานี ,คุณเด็กวัดป่า<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1179325", true); </script> ,คุณอดุลย์ เมธีกุล และท่านอื่นๆ

    ช่วยดูให้หน่อยว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง) ในรูปนี้ เป็นพระแท้หรือพระเก๊
    เมื่อตอบแล้ว ขอให้ผู้ที่ตอบและผม ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันตลอดไป และไม่รู้จักกันตลอดไป


    ว่าไงครับ ทั้ง 3 คนยังไม่บอกผมเลยว่า แ้ท้หรือเก๊

    กล้าๆหน่อย ให้สมเป็นลูกผู้ชาย ให้เหมือนกับคุณปทุมธานี

    .

    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณยายครับ

    ไ่่ม่มีใคร โทร.ไปหาหรอกครับ

    .
     
  7. Starsophere

    Starsophere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +437
    เวรกรรม เวรกรรม ประเทศไทย
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=98668


    <table id="post793162" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">04-11-2007, 05:13 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> ยายผีป่า <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_793162", true); </script>
    สมาชิก กิตติมศักดิ์
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 05:49 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: ที่แผงหนังสือทั่วประเทศที่จำหน่ายนิตยสารพลังจิต.คอม ไปหาซื้ออ่านสิแล้วจะรู้ว่าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด
    อายุ: 40 ปี
    ข้อความ: 3,856 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 225 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 31,958 ครั้ง ใน 3,640 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3340 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_793162" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- icon and title --> อย่ากด "อนุโมทนา" มั่วหากไม่รู้จริงว่าถูก
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> กล่อง " อนุโมทนา" หรือ "ไม่เห็นด้วย" นั้นดีมากค่ะ

    แต่ยายผีป่าขอเตือนเรื่องการคลิก "อนุโมทนา" กับกระทู้ที่มีการบิดเบือน จาบจ้วง หรือหมิ่นประมาท ต่อพระรัตนตรัย และหลักธรรมคำสอนของพระศาสดา

    อย่าคลิก เพราะคนนี้น่าเชื่อถือ อย่าคลิกเพราะคนนี้เป็ฯพวก อย่าคลิกถ้าคนนี้ดังในเวบ (แม้กระทั่งยายผีป่าเอง หากท่านคิดว่าโพสไร้สาระ หรือไม่ถูกต้อง ท่านสามารถคลิกไม่เห็นด้วยได้ค่ะ หรอไม่ต้องอนุโมทนาก็จะดีค่ะ)

    การยินดีกับผู้ที่ทำกรรมเช่นนี้

    อเวจีรอท่านอยู่ค่ะ

    เขาไปไหน เราไปด้วย

    เพื่อนกัน ยินดีด้วยกัน รู้เห็นเป็นใจด้วยกัน

    ย่อมมีที่ไปที่เดียวกัน

    อนุโมทนากับสิ่งที่ถูกต้อง ย่อมมีทางไปดี

    ยายขอเตือนเพราะว่า ทุกคนล้วนรู้ไม่หมดไปทุกอย่าง ยิ่งเวบนี้เด็กเยอะมาก สิ่งต่างๆ ที่สื่อนะคะ ขอให้เราเน้นสิ่งที่ใช่จริงค่ะ อย่าเอาจินตนาการที่มันไม่ถูกต้องหรือความคิดที่เป็นมิจฉาทิฐฐิมานำเสนอมากเลยนะคะ

    พระอริยะท่านอนุโมทนาและแผ่เมตตาให้เรา ท่านคลิกได้ค่ะ เพราะกรรมอะไรก็ตามท่านไม่ทันแล้ว แต่ถ้าเราไม่มั่นใจว่าเราบารมีถึงขั้นโลกุตระแล้ว

    อย่าได้เสี่ยงเลยนะคะ
    </td></tr></tbody></table>

    <table id="post793760" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 05-11-2007, 12:39 AM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #16 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> [​IMG] WebSnow <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_793760", true); </script>
    เว็บมาสเตอร์ (วีระชัย)
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:34 AM
    วันที่สมัคร: Sep 2004
    สถานที่: London, England
    ข้อความ: 6,342 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 1,226 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 38,768 ครั้ง ใน 4,030 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 50000 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_793760" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> -ปุ่มอนุโมทนา คือ เห็นด้วย ยินดี สนับสนุน (ไม่ใช่ปุ่มกดเพื่อบอกคนว่าฉันได้อ่านแล้ว )
    -ปุ่มไม่เห็นด้วย ก็คือ ไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุน

    การกดปุ่มอนุโมทนา ใช้สำหรับ แทนคำพูด แทนการโพส

    ถ้ากดอนุโมทนาอะไรที่เป็นบุญ ก็ได้บุญ
    ถ้าไปกดอนุโมทนากับบาป ก็ได้บาป

    ผู้กดปุ่มควรจะระวังและคิดให้ดีก่อนกด

    -------------

    อ่านเรื่อง อานิสงค์ของการอนุโมทนา</td></tr></tbody></table>
    <table id="post794640" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">05-11-2007, 01:28 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #25 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> โทรศัพท์ <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_794640", true); </script>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: 24-04-2008 08:30 AM
    วันที่สมัคร: Mar 2006
    ข้อความ: 17 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 84 ครั้ง ใน 18 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_794640" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> อยู่ในหนังสือ กระโถนข้างธรรมมาสน์ ของหลวงพี่เล็ก เล่มที่ 3
    เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์บ้างครับ


    ถาม : ผมผิดไปนิดนึงที่จิตคิดพลาดไปนิดพังเลย คือใจเราอยากให้เขาได้ดีมากที่สุดเพียงแต่ว่าลืมของเดิมเขาไป

    ตอบ : ตัวนี้ต้องระวังให้มากที่สุดเลยสำหรับนักปฏิบัติทุกคน เราทำไปถึงตรงไหน ด้วยจิตที่เมตตานะ แต่บังเอิญมันใช้ผิด ด้วยจิตที่เมตตาหวังจะให้เขาได้เหมือนอย่างเราก็แนะนำเขาไป แต่มันกลายเป็นว่าถือเอาทิฏฐิคือความรู้ ความเห็นของตนไปปนกับธรรมะของพระพุทธเจ้าเข้า ไม่ใช่ธรรมะบริสุทธิ์ กลายเป็นกิเลสของเราครึ่งหนึ่ง ระวังให้จงหนักเลย
    หลวงพ่อท่านบอกว่า ท่านต้องไปตามแก้เทศน์อยู่เป็นปี ๆ ไอ้เรื่องนิพพานสูญ ท่านเป็นมหาท่านเรียนมานิพพานัง ปรมังสุญญัง นิพพานสูญ เทศน์ไปหลายจังหวัดเลยต้องมานั่งไล่ว่าไปเทศน์ไว้ที่ไหนบ้าง แล้วย้อนกลับไปแก้เทศน์ให้ ถ้าแก้ไม่หมดเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิ ซวยหนักเลยนะ ทำคนเป็นมิจฉาทิฏฐิโทษหนักถึงขนาดลงนรกโลกันต์ได้ ไม่ใช่อเวจีเฉย ๆ ก็แปลกใจทำไมโทษหนักถึงลงนรกโลกันต์ได้
    ท่านบอกว่าทำให้คนเป็นมิจฉาทิฏฐิ คนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิโอกาสที่จะลงนรกมีมากเกินร้อยเปอร์เซนต์ เมื่อลงนรกไปกว่าจะกลับขึ้นมาเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นถึงมนุษย์แล้วได้เข้าถึงธรรมนะ มันนานแค่ไหน ถ้าหากว่าเป็นมนุษย์ บังเอิญว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิต่อ ทำความชั่วอีกลงนรกอีก เราทำให้เขาห่างความดีขนาดนั้น โทษมันก็เลยหนักมหาศาล ไม่น่าเชื่อเลย สอนคนผิดหน่อยเดียวตัวคนสอนลงโลกันต์ไปเลย</td></tr></tbody></table>
     
  9. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,189
    ผมขอตอบเสี่ยสิธิพงเลยนะครับ ว่าพระที่เสี่ยเอาลงถามทั้งหมดนั้นเป็นพระที่เรียกกันในภาพระสากลว่า "เก๊เน่าๆ"ครับ ดูว่าจะเหมือนหยาบคาย แต่ในวงการพระเขาเรียกกันแบบนั้น แต่เสี่ยจะให้ผมสาบาน ผมไม่สาบานนะครับ เพราะใครทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วอยู่แล้ว ตามหลักศาสนาพุทธ ไม่ต้องอ้างนรกสวรรค์ให้เมื่อยปากครับ ถ้าผมทำชั่ว ก็ย่อมได้รับผลกรรมตามที่ผมก่อ แต่ถ้าใครที่แอบอ้างสร้างเรื่องเพื่อรายได้และชักจูงให้คนหลงผิด อย่างนั้นกรรมมันจะต้องตามไป และดูๆแล้วกรรมก็จะทำให้คนเพี้ยนไปจึงหลงอยู่ในแต่สิ่งครอบ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รับทราบ เรื่องดูพระพิมพ์(พระเครื่อง)

    กล้าๆหน่อยมันตรัย กล้าๆหน่อย ไหนบอกว่า ไม่ชอบพวกผิดเพศ ไม่ใช่หรือ อย่าไปดูถูกกัน ดังนั้นทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายหน่อยน๊ะ กล้าๆหน่อย ให้ไวด้วยมันตรัย ดูพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2517 ยังดูไม่เป็นเลย แล้วจะไปดูพระ ปี 2400 กว่าๆ

    ไม่เห็นยากอะไรเลย โธ่ มันตรัย


    ตามนี้เลย

    บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ และทั้ง 16 ชั้นฟ้าว่า พระพิมพ์กรุวัดพระแก้วมีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อมันตรัย ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้าพระพิมพ์กรุวัดพระแก้วไม่มีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้้ บุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล
    การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  11. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,189
    ตอนนี้กระทู้ที่เขียนและหาข้อมูลเพื่อให้คนที่สนใจพระแท้และหลีกเลี่ยงพระเก๊มือผี กำลังถูกใช้เบี่ยงเบนประเด็น เป็นกระทู้แก้ต่างให้กับคนกลุ่มนึง ถึงกระทู้นี้จะถูกระงับ แต่การเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับพระเก๊เหล่านี้ก็จะยังไม่หมดไป และตราบที่ทางเวปเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนทัศนะคติของผู้คน ให้กลับมาศึกษาพระเครื่องในแนวทางที่ถูกต้องและเป็นสากล ไม่ใช้ความรู้สึกจินตนาการและจิตใต้สำนึกที่ผิดๆมาตัดสิน
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มันตรัย [​IMG]
    ผมขอตอบเสี่ยสิธิพงเลยนะครับ ว่าพระที่เสี่ยเอาลงถามทั้งหมดนั้นเป็นพระที่เรียกกันในภาพระสากลว่า "เก๊เน่าๆ"ครับ ดูว่าจะเหมือนหยาบคาย แต่ในวงการพระเขาเรียกกันแบบนั้น แต่เสี่ยจะให้ผมสาบาน ผมไม่สาบานนะครับ เพราะใครทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วอยู่แล้ว ตามหลักศาสนาพุทธ ไม่ต้องอ้างนรกสวรรค์ให้เมื่อยปากครับ ถ้าผมทำชั่ว ก็ย่อมได้รับผลกรรมตามที่ผมก่อ แต่ถ้าใครที่แอบอ้างสร้างเรื่องเพื่อรายได้และชักจูงให้คนหลงผิด อย่างนั้นกรรมมันจะต้องตามไป และดูๆแล้วกรรมก็จะทำให้คนเพี้ยนไปจึงหลงอยู่ในแต่สิ่งครอบ



    มันตรัย

    ทำอะไร ไม่ใช่ว่าไม่มีใครรู้ ถึงคนไม่รู้ บัญชีของนายนิริยบาล ก็มีปรากฎอยู่แล้ว

    แต่รู้เหมือนกันว่า คนอย่างมันตรัย ไม่สนเรื่องบุญ เรื่องบาปอยู่แล้ว ทำอะไร ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี กลับไปเป็นเด็กเดินของอย่างเดิมน่าจะดีกว่า


    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อย่าพึ่งพูดมากเลยมันตรัย

    ให้ไวหน่อย ถ้าเก่งจริง

    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    รับทราบ เรื่องดูพระพิมพ์(พระเครื่อง)

    กล้าๆหน่อยมันตรัย กล้าๆหน่อย ไหนบอกว่า ไม่ชอบพวกผิดเพศ ไม่ใช่หรือ อย่าไปดูถูกกัน ดังนั้นทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายหน่อยน๊ะ กล้าๆหน่อย ให้ไวด้วยมันตรัย ดูพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2517 ยังดูไม่เป็นเลย แล้วจะไปดูพระ ปี 2400 กว่าๆ

    ไม่เห็นยากอะไรเลย โธ่ มันตรัย


    ตามนี้เลย

    บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ และทั้ง 16 ชั้นฟ้าว่า พระพิมพ์กรุวัดพระแก้วมีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อมันตรัย ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้าพระพิมพ์กรุวัดพระแก้วไม่มีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้้ บุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล
    การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, มันตรัย, eakbordin, jirautes, noolegza</td></tr></tbody></table>
    อย่าเบี่ยงเบนประเด็นซิมันตรัย เคยพูด(โพส)อะไร ต้องกล้ารับหน่อย

    ก็ไหนบอกว่า พระกรุวังหน้า หรือพระกรุวัดพระแก้ว เก๊ไง
    .
     
  15. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,189
    เสี่ยครับ เสี่ยก็เป็นอีกคนนะครับที่ผมคงจะไม่ให้ความสนใจเพราะว่าจะทำให้กระทู้เยิ่นเย้อและไม่ก่อให้เกิดประโยชกับผู้ที่ต้องการศึกษาพระแท้สากลนิยม เสี่ยชอบพระเก๊มือผีนอกระบบแบบที่เสี่ยกับพวกชอบกันนั้นเสี่ยก็กลับไปอยู่ในที่ๆของเสี่ยเถอะครับ อย่าออกมาข้างนอกเลย สร้างอณาจักรของเสี่ยไปเถอะครับ ผมเองไม่ได้ต้องการตั้งตัวจากเรื่องพระเครื่อเก๊มือผีนอกสารบบ หรือแม้แต่พระแท้สากลนิยม แต่สิ่งที่ทำนี่เพียงเพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ถึงวงการพระเกีมือผี ว่ามันเป็นยังไงเท่านั้นเอง และอย่าพยายามอ้างการทำบุญ แยกแยะให้ออก ถ้าพวกคุณเอาพระแท้ๆแม้จะไม่มีราคาค่างวด แต่มีพุทธคุณและไม่ใช่พระเก๊มือผี
    ดูอย่างพระพลังจิตของทางเวป ยังสามารถช่วยคนได้ ช่วยให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ แล้วพระเก๊ของพวกคุณทำอะไรได้บ้าง ไปละครับ ผมมีหน้าที่ที่จะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับพระเก๊มือผีต่อไป จะไม่ให้ราคาใดๆกับพวกคุณเด็ดขาดครับ และขอความกรุณาคุณและสาวกของคุณอย่าไปกล่าวคำผสุรวาส ลบหลู่ดูหมิ่นผู้ที่ไม่เห้นด้วยกับพระเก๊มือผีนะครับ เพราะพวกเขาไม่ได้เข้าไปยุ่มย่ามในกระทู้ของคุณเลย เขามาแสดงความคิดเห็นผ่านกระทู้ของผู้ที่เห็นด้วยเท่านั้น ขอเถอะนะครับคุณเสี่ยสิทธิพง
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มันตรัย เป็นไง ไม่กล้าเหรอ
    ปัญญามันตรัย มีแค่นี้เองเหรอ ปากบอกว่า พระวังหน้าหรือพระกรุวัดพระแก้ว เป็นพระเก๊มือผี แต่เวลาให้สาบาน กลับไม่กล้า แสดงความกล้า แสดงว่าข้าเป็นลูกผู้่ชายตัวจริง กล้าทำ กล้ารับผิด-ชอบ


    ไม่เห็นยากอะไรเลย โธ่ มันตรัย

    ตามนี้เลย


    *********************************************

    บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ และทั้ง 16 ชั้นฟ้าว่า พระพิมพ์กรุวัดพระแก้วมีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อมันตรัย ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้าพระพิมพ์กรุวัดพระแก้วไม่มีจริง ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong ขอให้ประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้้ บุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ มันตรัย จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล
    การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  17. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    -*- อ่านตั้งแต่หน้าแรกยันหน้านี้ แรงกันจังเลย ผมเดาว่าคุณมัณตรัยน่าจะเพีียงยกเอาข้อความจากคอลัมนิสมาให้ทราบเท่านั้นเ่อง ซึ่งเราก็ไมู่รู้ว่าคนเขียนเนี่ยรู้จริงหรือปล่าว ซึ่งบุคคลที่กล่าวว่ามีจริง ก็น่าจะเอาของจริง ประวัติคร่าวๆ ( ลงไปบ้างแล้ว ) และที่มาที่ไปของวัตถุมงคลที่มีอยู่ แจ้งให้ผู้ที่บูชาทราบว่ามาจากไหน ใครให้มา ซึ่งก็อาจจะมีจริงๆ ก็ได้( ตามพระศาสดาฯ ไม่เชื่อจนกว่าจะพิสูจน์ได้เอง ) แต่ที่นี้คนที่ผ่านมาอย่างผมยังสงสัยเลยว่ามาจากไหน คุณเล่นอ้างบารมี วาระที่มาถึง แล้วคนบุญน้อยอย่งผมจะได้ทราบเมื่อไหร่ล่ะครับ
    .... แล้วคุณมันตรัยล่ะครับ คุณโทรหาคุณยายผีป่าหรือยัง สงสัยก็ถามเขาสิครับว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไร ไม่ใช่มาแย้งๆว่าไม่มีจริง เรามาหาบรรทัดฐาน ที่หนีจากข้อสรุปเซียนลวงโลก เพื่อเป็นวิทยาทานแก่คนรุ่นหลังกันดีไหม....
    ข้อขัดแย้งเกิดขึ้นได้ในสังคมมนุษย์ เพียงแต่มนุษย์ต่างจากสัตว์ตรงที่ ยอมรับในข้อเท็จริงนั้น....
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กฎกติกาสากล ที่มันตรัยกล่าวถึง เป็นกติกาที่คนซื้อ-ขายพระ ตั้งเป็นกฎเกณฑ์ไว้ เพื่อซื้อ-ขายพระเครื่อง คนที่ตั้งกติกา ก็เป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มีอาชีพค้า-ขายพระ และไม่เสียภาษีอากรให้กับรัฐบาล ในการพัฒนาประเทศชาติ กติกานี้ เป็นกติกาที่ต้องทำให้พระเครื่อง มีน้อย สร้างดีมาน และสร้างซับพลาย ให้ดีๆ กลุ่มไหนมีพิมพ์ไหนหรือรุ่นไหน ก็ต้องโปรโมทว่า พิมพ์นี้หรือองค์นี้แท้ ถ้าไม่มี ตีเก๊ไว้ ลองไปคิดเล่นๆกันดู

    ไม่เชื่อ ไ่ม่ว่ากัน แล้วแต่ใครจะิคิดอย่างไร

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    http://www.mazdaclub.net/module_view...view&cid=27474


    <table id="Table_View" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="80%" width="780"><tbody><tr valign="top"><td background="./themes/rotary/images/set-0/main_02.jpg" height="80%" width="10">
    </td> <td style="background: white url(./themes/rotary/images/set-0/main_05-mod_01-view.jpg) repeat scroll 0% 50%; -moz-background-clip: -moz-initial; -moz-background-origin: -moz-initial; -moz-background-inline-policy: -moz-initial;" height="80%" width="766"> <!-- --> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="620"><tbody><tr><td class="STYLE_NORLINE" align="left">
    นรก สวรรค์<hr width="500"></td></tr></tbody></table> <table style="margin-left: 40px;" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="620"> <tbody><tr> <td colspan="2"> นรก คือ อะไร?
    ตายแล้วไปไหน? สถานที่ที่มนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ต้องเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่ 31 ภูมิ หาก อยากจะทราบว่าใครตายแล้วไปไหน หรือ อยากทราบว่า..ตัวเราเองเมื่อตายแล้วจะต้องไปอยู่ที่ใด ก็มีวิธีสังเกตง่ายๆ คือ เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ เราชอบทำอย่างไร พอตายแล้ว ก็ต้องไปรับผลแห่งการกระทำ ของตนเองอย่างนั้น เรียกได้ว่า “ตายแล้ว ก็ไปสู่ที่ชอบ...ที่ชอบ” เช่น




    นรกขุมที่ 1 สัญชีวนรก
    เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบฆ่าสัตว์ ชอบบี้มดตบยุงเป็น ประจำ หรือฆ่ามนุษย์ด้วยกัน รวมทั้ง ฆ่าตัวตาย ด้วย ตายแล้วก็ต้องไปตก นรกขุม ที่ 1 ชื่อว่า สัญชีวนรก ซึ่งเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับผู้ที่ชอบการฆ่าโดยเฉพาะ

    นรก ขุมที่ 2 กาฬสุตตนรก
    เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบลักขโมย ฉ้อโกง ตายแล้วก็ ต้องไปตกนรกขุมที่ 2 ชื่อว่า กาฬสุตตนรก




    นรก ขุมที่ 3 สังฆาฏนรก
    เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบประพฤติผิดในกาม ตายแล้ว ก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 3 ชื่อว่า สังฆาฏนรก




    นรก ขุมที่ 4 โรรุวนรก
    เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบพูดโกหก พูดคำหยาบ พูด ส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ ตายแล้วก็ต้องไป ตกนรกขุมที่ 4 ชื่อว่า โรรุวนรก




    นรก ขุมที่ 5 มหาโรรุวนรก
    เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบดื่มสุรา หรือเสพสิ่งมึนเมา ยาเสพติด ตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 5 ชื่อว่า มหาโรรุวนรก


    นรก ขุมที่ 6 ตาปนนรก
    เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบเล่นการพนันทุกชนิด ตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 6 ชื่อว่า ตาปนนรก




    นรก ขุมที่ 7 มหาตาปนนรก
    เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ชอบเที่ยวกลางคืน มัวเมาในอบายมุข ตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 7 ชื่อว่า มหาตาปนนรก




    นรก ขุมที่ 8 อเวจีนรก
    เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ทำอนันตริยกรรม เช่น ฆ่าบิดา มารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำสงฆ์ให้แตก กัน หรือทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต ตายแล้วก็ต้องไปตกนรกขุมที่ 8 มีชื่อว่า อเวจีนรก (ถึงแม้จะทำแค่เพียงครั้งเดียว ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ก็ถือเป็นกรรม ที่หนักมาก ต้องตกอเวจีมหานรก ได้รับ ทัณฑ์ทรมานที่แสนสาหัส มีอายุยาวนาน กว่านรกขุมอื่นๆ)



    ในทางตรงกันข้าม ถ้าชอบทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิเจริญภาวนา หรือชอบ บำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ ก็จะมีสวรรค์ 6 ชั้น พรหม 16 ชั้น อรูปพรหม 4 ชั้น เป็นที่ไปเสวยผลบุญหลังจากละสังขารในโลกมนุษย์แล้ว

    สำหรับคนที่เป็นประเภทวัดก็เข้า เหล้าก็กิน บุญก็ทำบาปกรรมก็สร้าง อย่าง นี้ก็ต้องไปประเมินผลกันตอนใกล้จะละโลก อีกที ช่วงนั้นเรียกว่า “ศึกชิงภพ” ขึ้นอยู่ว่า บุคคลผู้นั้น มีจิตเกาะเกี่ยวอยู่กับสิ่งที่เป็น บุญหรือเป็นบาป ถ้านึกถึงบุญได้ จิตผ่องใส ในขณะสิ้นลม ก็ได้ไปสู่สุคติภูมิก่อน (แล้ว บาปกรรมที่ทำไว้จะตามมาส่งผลในภายหลัง) แต่ถ้าช่วงนั้นใจนึกถึงสิ่งที่ทำไม่ดีไว้ จิตใจเศร้าหมองในขณะสิ้นลม ก็จะไปสู่ ทุคติภูมิก่อน (แล้วผลบุญตามมาส่งผลใน ภายหลัง)

    ยมโลก อุสสทนรก มหานรก ต่างกันอย่างไร ?



    *มหานรก เป็นนรกขุมใหญ่ มี 8 ขุม อยู่ลึกไปตามลำดับ จากขุมที่ 1 ซึ่งมีขนาดเล็กไปถึงขุมที่ 8 ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด

    อุสสทนรก เป็นนรกขุมบริวาร อยู่รอบๆ มหานรกขุมใหญ่ทั้ง 4 ทิศ มี 128 ขุม

    ยมโลก เป็นนรกขุมย่อยๆ อยู่รอบนอกของอุสสทนรก มี 320 ขุม รวมทั้งหมด นรกมี 456 ขุม เป็นภพละเอียดอยู่ลึกลงไปใต้เขาพระสุเมรุที่มีเขาตรีกูฏ 3 ลูก รองรับอยู่ เกิดขึ้นด้วยกระแสบาปของมนุษย์ เป็นแดนสำหรับลงทัณฑ์ทรมานกายละเอียดของอดีตมนุษย์ที่ทำบาปอกุศล




    สภาพของมหานรก
    มีความร้อนแรงมาก ไฟในมหานรกนั้นร้อนแรงกว่าในอุสสทนรกและยมโลกเป็นล้านๆ เท่า ไฟในยมโลกยังมีสีสันคล้ายกับไฟในเมืองมนุษย์ คือ พอ มองออก แต่ไฟในมหานรกนั้นมีเปลวสีดำ ภพของมหานรก ก็ ใหญ่กว่า อายุของสัตว์นรกก็ยืนยาวกว่า หากเปรียบเทียบ กันแล้ว อุสสทนรกกับยมโลกเป็นสถานที่ที่มนุษย์ไปรับผลกรรมที่เป็นเศษกรรมเท่านั้น แต่ในมหานรกนั้นคือ ส่วนเต็มๆ ของกรรม



    ผู้ที่ตกไปอยู่ในมหานรก คืออดีตมนุษย์หรือสัตว์ที่ทำ กรรมชั่วหนักๆ หรือทำกรรมชั่วอยู่เป็นประจำเมื่อตายแล้ว กระแสบาป จะดึงดูดกายละเอียดลงไปเกิดในมหานรกทันที ไม่ได้มีใครมารับตัวเหมือนไป ยมโลก สัตว์นรกในมหานรกจะถูกลงทัณฑ์ที่แตกต่างหลากหลาย ได้รับความทุกข์ทรมาน อย่างแสนสาหัส มีนายนิรยบาลหรือนางนิรยบาล ซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ไม่มีชีวิตจิตใจ เกิดขึ้นด้วยอำนาจของ บาปอกุศล ร่างกายใหญ่โตมโหฬารสูงใหญ่ปานภูเขา มีสีผิวดำมืด เหมือนกับถ่าน คอยลงทัณฑ์ทรมานสัตว์นรก โดยไม่มีเวลาหยุดพักแม้สักวินาทีเดียว จนสิ้นอายุขัยของสัตว์นรกนั้น กว่าจะพ้นจากมหานรกได้ก็ยาวนานมาก ตั้งแต่ 1,620,000 ล้านปีมนุษย์ จนถึง 1 อันตรกัป* เลยทีเดียว ใช้กรรมในมหานรกเสร็จแล้ว ต้องไปรับ ผลกรรมต่อที่อุสสทนรกขุมบริวารอีก



    อุสสทนรก
    เป็นนรกขุมบริวารที่มีขนาดเล็กกว่ามหานรก และการทัณฑ์ทรมาน ก็เบาบางกว่า เช่น เป็นนรกอุจจาระเน่า นรกขี้เถ้าร้อน นรกป่าไม้งิ้ว นรกป่าไม้ใบดาบ เป็นต้น สัตว์นรกที่นี่จะมีความทุกข์น้อยกว่าในมหานรก ไฟนรกร้อนแรงน้อยกว่า และยังพอมีเวลาว่างเว้นจากการทัณฑ์ทรมานบ้างเล็กน้อย ผู้ที่อยู่ในอุสสทนรก มาจากสัตว์นรกที่ใช้กรรมในมหานรกมาเบาบางแล้ว จึงมาใช้ เศษกรรมในอุสสทนรกต่อ เมื่อได้รับทัณฑ์ทรมานอยู่ในอุสสทนรกเป็นระยะเวลายาวนานมาก จนกระทั่งกรรมเบาบาง ก็จะวิ่งหนีทะลุมิติไปเข้าสู่เขตของยมโลก เพื่อไปรับวินิจฉัยบุญบาปในยมโลกต่อไป








    ยมโลก
    เป็นนรกขุมย่อยๆ อยู่รอบนอก อุสสทนรก นอกจากจะเป็นสถานที่ลงทัณฑ์ทรมานแล้วยังมีความพิเศษกว่าอุสสทนรกและมหานรก คือ

    1. เป็นสถานที่วินิจฉัยบุญบาปของสัตว์นรกที่มาจากอุสสทนรก ว่าจะให้ไปรับทัณฑ์ทรมานที่นรกขุมไหนต่อ หรือให้ไปเกิดยังภพภูมิต่างๆ เช่น ให้ไปเกิดเป็นมนุษย์หรือไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน เปรต อสุรกาย เป็นต้น

    2. เป็นสถานที่ตัดสินบุญบาปของผู้ที่ตายจากเมืองมนุษย์ ที่ใจไม่เศร้าหมองแต่ ก็ไม่ผ่องใส เมื่อตัดสินแล้วก็จะส่งไปเกิดตามภพภูมิต่างๆ เช่น ให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ หรือไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก หรือชาวสวรรค์ เป็นต้น

    3. หากมีมนุษย์ผู้ใดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่ผู้ตายยังอยู่ใน ภพภูมิที่ไม่สามารถรับบุญได้ บุญนั้นจะมาคอยอยู่ที่ยมโลกเพื่อรอส่งผล โดยเฉพาะวันพระ ขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง ในยมโลกจะหยุดการลงทัณฑ์ทรมานชั่วขณะหนึ่ง หากมีคน ในเมืองมนุษย์ทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ บุญนั้นจะถึงแก่สัตว์นรกในทันที ทำให้ระยะเวลาที่ ต้องได้รับทัณฑ์ทรมานสั้นลง หรืออาจพ้นกรรมไปเกิดเป็นมนุษย์หรือไปเกิดในภพภูมิอื่น เราอาจจะถือได้ว่า ยมโลกเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อระหว่างภพมนุษย์กับ ภพภูมิอื่นๆ ก็ได้ เพราะเป็นที่รองรับสัตว์นรกที่มาจากอุสสทนรก และรองรับกายละเอียด ที่ตายจากเมืองมนุษย์ เพื่อมาตัดสินบุญบาปแล้วส่งไปเกิดในภพภูมิต่างๆ


    เมื่อมนุษย์ตายลง ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่จะมารับตัวไปที่ยมโลกทุกรายเสมอไป ผู้ใดทำบุญหรือบาปไว้มาก กำลังบุญหรือบาปนั้น จะดึงดูดไปสู่ภพภูมิที่เหมาะสมเอง แต่ถ้าบุญ ก็ทำบาปก็สร้างปะปนกันไป ในขณะใกล้ตายจิต ไม่ถึงกับเศร้าหมอง แต่ก็ไม่ผ่องใส หรือ ตายด้วยอุบัติเหตุไม่ทันได้รู้ตัว กายละเอียดจะหลุดออกมายืนมองเห็นตัวเอง พูดกับใคร ก็ไม่มีใครพูดด้วย เมื่อนั้นจึงรู้ว่าตัวเองตายแล้ว


    ในระหว่าง 7 วันนั้น ถ้ากาย ละเอียดของผู้ตายนึกถึงบุญที่ตนเคย ทำไว้ได้ ใจก็จะผ่องใสได้ไป เกิดใหม่ในภพภูมิที่เป็นสุคติ แต่ถ้านึกถึงบุญไม่ออก พอครบ 7 วัน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นกุมภัณฑ์ นุ่งผ้าหยักรั้งสีแดง ถือโซ่ตรวนและหอก แหลมมารับเอาตัวไป ถ้ากายละเอียดขัดขืน กุมภัณฑ์ซึ่งมีกำลังมากกว่า จะทุบตีลากจูง พาเดินไปไม่กี่ก้าวก็ผ่านอุโมงค์ทะลุมิติไปถึงหน้าประตูยมโลก ไปที่ลานตัดสิน ซึ่งมีสภาพมืด บรรยากาศทึมๆ ร้อนอบอ้าวมาก แต่ก็มืดและร้อนน้อยกว่าในอุสสทนรกและในมหานรกหลายล้านเท่า

    ทั้งสองข้างทางมีเจ้าหน้าที่ยืนเรียงรายถืออาวุธสลับกับประทีปโคมไฟที่ร้อนแรง น่าสะพรึงกลัว หดหู่ และน่าสยดสยอง พอไปถึงโรงพิพากษา ก็ต้องนั่งคุกเข่าต่อหน้าพญายมราช เพื่อทำการไต่ถาม ช่วยให้นึกถึงบุญ และถ้านึกถึงบุญที่เคยทำไว้ได้ เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปเกิดใหม่ในสุคติภูมิ แต่ถ้านึกถึง บุญไม่ออกและมีบาปที่ตนเองเคยทำไว้ ก็ต้องถูกส่งไปเกิดในทุคติภูมิ เป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย หรือไปรับโทษทัณฑ์ทรมานในขุมนรกของยมโลก โดยมีกุมภัณฑ์ที่มีหน้าที่ ลงทัณฑ์ทรมาน มีร่างกายสูงใหญ่ สูงยิ่งกว่าต้นยางนาสูงๆ สีผิวดำแดง ดำอมเขียวหรือ ดำอมม่วง น่ากลัวมาก แต่ยังดูดีกว่านายนิรยบาลในมหานรก กุมภัณฑ์เหล่านี้เป็นยักษ์ ชนิดหนึ่งอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา หมุนเวียนกันมาทำหน้าที่เป็นช่วงๆ


    ทำบุญอะไรจึงได้ไปสวรรค์ในแต่ละชั้น?
    *สวรรค์
    คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของเทวดา เป็นโลกที่อยู่อาศัยของกายละเอียดอันเป็นทิพย์ ที่มีรัศมีสว่างไสวรอบกายตลอดเวลา มีทั้งหมด 6 ชั้น

    เหตุที่ทำให้มาเกิดเป็นเทวดาเพราะได้ สร้างบุญกุศลไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ เมื่ออุบัติขึ้นก็ตั้งอยู่ในวัยหนุ่มสาวทันที งดงามตลอดเวลา จนกว่าจะถึงเวลาจุติ ไม่มีความแก่บังเกิดขึ้นเหมือนในเมืองมนุษย์

    วิมานปราสาทคือที่อยู่อาศัยของเทวดา ล้วนมีความวิจิตรงดงาม มีขนาดแตกต่างกัน มี ความเป็นอยู่สะดวกสบาย มีอาหารทิพย์บังเกิด ขึ้น มีบริวารคอยรับใช้ใกล้ชิด เสื้อผ้าเป็นทิพย์ วิจิตรงดงาม บังเกิดขึ้นให้สวมใส่ กิจกรรมแต่ละวันก็มีการเที่ยวเพลิดเพลินบันเทิงอยู่กับการชมสวน

    การสังสรรค์กันระหว่างทวยเทพทั้งหลาย ส่วนจะอุบัติขึ้น ณ สวรรค์ชั้นไหน เป็น เทวดาประเภทใด และอยู่ในฐานะอะไรนั้น ก็ ขึ้นอยู่กับบุญที่ตัวเองสั่งสมมาเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ซึ่งได้มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 37 เรื่อง ทานสูตร สรุปย่อได้ดังนี้


    เกิดบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
    มีจาก หลายสาเหตุ คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ทำบุญไม่ ค่อยเป็นไม่รู้หลักการทำบุญ และไม่ค่อยได้สั่งสม บุญ นานๆ ทำครั้งหนึ่ง เมื่อทำก็ทำน้อย หรือ ทำบุญเอาคุณ บุญที่ได้ก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่สมบูรณ์ บาปในตัวก็มีอยู่ แต่ว่าบุญมากกว่า เมื่อละโลกใจนึกถึงบุญก่อนก็ไปสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เชิงเขาสิเนรุ สวรรค์ชั้นนี้จะมีความหลากหลายมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้ชิดกับพื้นมนุษย์มากกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ และมีบางส่วนที่มีที่อยู่ซ้อนกับภูมิมนุษย์ ที่ได้ชื่อสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เพราะมีเทพผู้เป็นใหญ่ครองสวรรค์ชั้นนี้อยู่ 4 ท่าน คือ ท้าวธตรฐ ปกครองเทวดา 3 พวก ได้แก่ คนธรรพ์ วิทยาธร กุมภัณฑ์ ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกครุฑ ท้าววิรูปักษ์ ปกครองพวกนาค ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองพวกยักษ์




    เกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
    คือเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งดีงาม เป็นสิ่งที่ควรทำ กระทำแล้วก็สั่งสมบุญ สั่งสมเทวธรรม มีหิริ โอตตัปปะด้วย เมื่อละโลกก็จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าตัดของเขาสิเนรุ ที่ชื่อว่า ดาวดึงส์ เพราะเป็นที่อยู่ของเทพผู้ปกครองภพถึง 33 องค์ โดยมีท้าวสักกเทวราช หรือพระอินทร์ เป็นประธาน และที่สำคัญมีพระธาตุจุฬามณี ซึ่งทุกวันพระเทวดาจะมาประชุมกันที่สุธรรมาเทวสภา เพื่อรับฟังโอวาทจากท้าวสักกะ





    เกิดบนสวรรค์ชั้นยามา
    คือเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ทำบุญเพราะอยากจะสืบทอดและรักษาประเพณีแห่งความดีงามนั้นไว้ ทำนองว่าวงศ์ตระกูลสร้างสมความดีมาอย่างไรก็อยากจะรักษาประเพณีไว้ หรือผู้หลักผู้ใหญ่สอนอย่างไร บรรพบุรุษทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ทำกันไปตามธรรมเนียม เช่น เห็น ปู่ย่าสร้างโบสถ์ บำรุงวัด สร้างพระประธาน ก็ทำตามนั้นด้วย หรือพระภิกษุที่รักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ที่พระต้องมีหน้าที่รักษาพระพุทธศาสนา เมื่อละโลกแล้ว ส่วนใหญ่จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขึ้นไป




    เกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต
    หรือในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันเรียกกันว่า ดุสิตบุรี คือ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ทำบุญเพื่อปรารถนาสงเคราะห์โลก ปรารถนาให้ชาวโลกมีความสุข มีความคิดที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อตนเองอย่างเดียว แต่เพื่อสงเคราะห์โลก เพื่อนมนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย เมื่อละโลกแล้วก็จะไปสวรรค์ ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงถัดจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป



    เกิดบนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี
    คือ เมื่อ ครั้งเป็นมนุษย์ เห็นผู้อื่นทำบุญแล้วได้รับ การยกย่อง ส่งเสริม จึงอยากจะทำบุญนั้นบ้าง อยากจะเป็นอย่างนั้นบ้าง เมื่อละโลกแล้ว จะไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป




    เกิดบนสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี
    คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ทำบุญด้วยความเลื่อมใส เคารพในทาน ทำแล้วมีความรู้สึกปลื้มใจ ในบุญที่ทำนั้น เมื่อละโลกแล้วจะบังเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ ซึ่งตั้งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นนิมมานรดีขึ้นไป





    ความเป็นอยู่ของชาวสวรรค์แต่ละชั้น จะมีความประณีตยิ่งๆ ขึ้นไปตามลำดับชั้น ถ้าใครทำบุญมามาก จนครบทุกอย่างดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ปรารถนาจะไปอยู่ ณ ที่ใด ก็สามารถจะไปสวรรค์ชั้นที่ต้องการได้ เหตุแห่งการกระทำที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นสาเหตุหลักๆ เป็นภาพรวมของการทำบุญที่ทำให้ไปเกิดในสวรรค์ในแต่ละชั้นแต่อาจ จะมีองค์ประกอบและปัจจัยอย่างอื่นเสริมอีกด้วย


    สวรรค์ชั้นดุสิตหรือดุสิตบุรี ดีอย่างไร?

    ทำไมพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและนักสร้างบารมีทั้งหลายถึงเลือกที่จะอยู่ชั้นนี้ ?

    สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ มีความกว้างใหญ่ไพศาลมาก มีท้าวสันดุสิต ซึ่งบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว เป็นผู้ปกครองภพ ที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดุสิตอยู่สูงขึ้นไปจากยอดเขาสิเนรุ อยู่ในอากาศเหนือสวรรค์ชั้นยามา 42,000 โยชน์ บนสวรรค์จะไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทำให้ไม่มีเงา ไม่มีมุมมืดบนสวรรค์ อยู่ได้ด้วยความสว่างจากวัตถุสิ่งของต่างๆ เช่น กายของเหล่าเทวดา วิมาน สวน สระ สิ่งแวดล้อมต่างๆ มีแต่ความสว่าง จึงไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์

    ลักษณะของสวรรค์ชั้นดุสิต จะไม่ได้กลมอย่างโลกมนุษย์ แต่จะกลมแบบราบ ถ้ามองจากสวรรค์ชั้น ยามาขึ้นไป จะมองเห็นเป็นแสงสว่าง นุ่มเนียนตา และถ้ามองจากสวรรค์ ชั้นดุสิตขึ้นไป ก็จะเห็นแสงสว่างนุ่ม เนียนตาของสวรรค์ชั้นนิมมานรดี หรือถ้ามองลงไปที่ดาวดึงส์ก็จะเห็น ว่ามีขนาดเล็กนิดเดียว เพราะสวรรค์ชั้นดุสิตใหญ่กว่า

    โครงสร้างของสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานของท้าวสันดุสิตเป็นศูนย์กลาง ของสวรรค์ชั้นนี้ แล้วแบ่งออกเป็น 4 เขต วนโดยรอบวิมานของท้าวสันดุสิต ดังนี้

    เขตที่ 1 เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้า คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ซึ่งอยู่ชั้นในสุด

    เขตที่ 2 เป็นที่อยู่ของนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ซึ่งวงบุญพิเศษของผู้ที่มีมโนปณิธานจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ให้หมดจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ก็จะอยู่ในเขตนี้ด้วย

    เขตที่ 3 เป็นที่อยู่ของอนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับ พยากรณ์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังต้องสร้างบารมีอีกมาก

    เขตที่ 4 เป็นที่อยู่ของผู้ที่ทำกุศลมาก และมีกำลังบุญมากพอที่จะได้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เป็นเขตทั่วไป นอกเหนือจาก 3 เขตแรก



    สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการ หนึ่งในความ พิเศษนั้นก็คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวก เพื่อตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต แล้วทำไมพระบรมโพธิสัตว์ หรือบัณฑิตทั้งหลายจึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ทั้งที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาที่จะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย 3 ประการ คือ

    1. พระโพธิสัตว์สามารถจุติ ลงมาได้ตามใจปรารถนา หมายความ ว่า โดยปกติเทวดามีเหตุแห่งการจุติ หลายประการ เช่น หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่เหล่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย ในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เมื่อจะจุติลงมา สร้างบารมี หรือมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ อธิษฐานจิต สามารถดับวูบลงมาเกิด ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของ ชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ

    2. เนื่องจากสวรรค์ชั้นนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ ล้วนแต่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและช่วยสรรพสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพานไม่ประมาทในการดำรงชีวิตเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความ เบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท่านท้าวสันดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ที่มีบุญบารมีมากมาแสดงธรรมให้ฟัง

    3. ขนาดอายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ คือ 4,000 ปีทิพย์ ซึ่งไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ถ้ามี อายุขัยนานเกินไปจะทำให้เสียเวลา
    </td> </tr> <tr bgcolor="#efefef"> <td align="left"> โดย: 22 วันที่: 20 Apr 2007 - 10:22
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table>
    </td> </tr> </tbody></table>
    ไม่รู้ว่า การขโมยของในย่ามพระ หรือการบังคับขอของมาจากพระ มีกรรมยังไงบ้างเนี่ย

    ถ้าคนที่ขโมยของในย่ามพระ มันเลวระยำจริงๆ ที่บ้านมันไม่ได้สั่งสอนมา จึงประพฤติตนแบบนี้



    .
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    สวัสดีครับทุกท่าน ผมได้รับมอบหมายให้มาดูแลปัญหาเรื่องข้อพิพาทในกระทู้นี้

    ผมขออนุญาตแจ้งพี่ๆทั้งหลาย โดยเฉพาะคู่กรณีทั้งสองว่า การ "โต้แย้ง" นี้เริ่มพัฒนาเป็นการ "โต้เถียง" ระหว่างคู่กรณี 2 ราย

    บังเอิญตอนนี้ทั้ง 2 ท่านไม่ได้ดูอยู่ ผมจะให้โอกาสท่านทั้ง 2 "โต้" กันถึง 18.00 น. แล้วผมจะขอ "ปิด" กระทู้นะครับ

    หลังจากนี้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะมี (ร่าง) กฎระเบียบใหม่ของห้องพระเครื่องออกมาครับ ซึ่งจะมาขอหารือกับเพื่อนๆ ห้องพระเครื่องอีกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตครับ

    ขออนุโมทนา
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...