พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000143982

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>แต่ว่ามีอยู่ว่า ประชาชนไปเยี่ยมอยู่มากมาย ที่โรงพยาบาล มีประชาชนไปเยี่ยมเต็มลาน ห้องชุมนุมเต็ม ก็เลยทำให้สบายใจว่ามีคนเอาใจใส่คนที่ไม่สบาย ให้กำลังใจ วันนี้ต้องชมคนไทยว่า คนไหนไม่สบาย ก็ให้กำลังใจ เพราะว่าคนไหนไม่สบาย รู้ว่ามีคนเอาใจใส่ ก็สบาย อย่างที่เข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ตัวว่าไม่สบาย เขาหาว่าเราจะแย่ ก็ดูแล คนเขาว่าว่าพิการที่สมอง สมองเรา เราก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไร ทำไปทำมาบอกว่าเป็นที่ลำไส้ เขาบอกว่าพิการ หรือป่วยที่ลำไส้ เขาก็หาใหญ่ ตามธรรมดาลำไส้ที่พิการ เขาจะดูทางซ้าย แต่ทำไปทำมากลับดูว่าเป็นพิการทางขวา ขวาของเรา เขาก็ดูทางซ้าย ทางซ้ายไม่มีอะไร เขาก็เคาะใหญ่ เคาะมา ไม่เป็นไร แท้จริงเป็นทางขวา เขาก็บอกว่าประหลาด ว่าพิการทางขวา

    เรานึกว่าตัวเราเป็นประหลาด เวลาดูว่าป่วยทางไหน ก็มาดู ว่าป่วยทางขวา ก็แล้วไป แต่ทีหลังทำไปทำมาก็เรียบร้อย ดูแล้วไม่เป็นแล้ว ไม่เป็นแล้ว เขาก็บอกว่าเป็นที่สมอง เป็นที่สมองไม่ใช่ของเรา เป็นที่สมองของหมอ เพราะว่าพิการ ที่จริงพิการที่สมองของหมอ แล้วเสร็จแล้วไปเข้าเครื่อง ในเครื่องทำโป๊งๆๆๆๆ ว่าไม่เป็นอะไร ไม่มีพิการ ก็เลยออกจากโรงพยาบาลดีกว่า ถ้าอยู่ในโรงพยาบาลจะพิการจริงๆ เพราะว่าอยู่โรงพยาบาลนี่แย่ เกือบจะเปลี่ยนโรงพยาบาล เปลี่ยนไปโรงพยาบาลที่อยู่ฝั่งนี้ ไปอยู่ฝั่งโน้น จะเป็นบ้า แล้วก็นึกไป ไปดูว่าทำไมเป็นบ้า เป็นบ้าเพราะน้ำมันจะท่วม น้ำจะท่วม น้ำมันขึ้นเลย ขึ้นไปขึ้นมาแล้วใครมาบอกว่าน้ำจะท่วม แต่น้ำไม่ท่วม เพราะมีโครงการ มีโครงการที่พระประแดง แต่ถ้าพูดไปพูดมาเขาเอาเรือของกองทัพเรือ เขาสร้าง เรือใหญ่ เขาบอกว่าให้ไปเรือนี้ ก็เลยเอาเรือนั้นมาจอด เรือสวยด้วย ก็เลยร่ำลือกันใหญ่ว่าพรุ่งนี้จะเสด็จฯ เรายังไม่ไป เพราะว่ามีงาน มีงานตลอดปี ตลอดทั้งเดือน ก็เลยต้องปฏิเสธ เขาบอกว่า ไม่ใช่พรุ่งนี้ มะรืนนี้สิไป บอกว่าจะไป จะไปเยี่ยมโครงการที่พระประแดง บอกว่ายังไม่ไป ไม่เชื่อ แต่ทำไปทำมาก็เชื่อ เรือไปเอามาแล้ว ไม่งั้นเอาเรือมาจอด ให้เราไป เราก็เลยบอกว่าเรือนี่ใช้น้ำมัน เปลืองน้ำมันเหมือนกัน แต่เราจะใช้ไบโอดีเซล เขาบอกว่าใช้ไม่ได้ ถ้าใช้ไม่ได้ เราไม่ไป แต่เรือที่เป็นเรือแท็กซี่ เขาใช้ไบโอดีเซลได้ เดี๋ยวนี้กำลังพัฒนาไบโอดีเซล เพราะว่าถ้าใช้ดีเซล เปลือง แล้วก็ดีเซลมันจะหมดโลกแล้ว แต่ไบโอดีเซลแบบฝรั่ง 10 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าไบโอเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เราไม่ยอม เราจะใช้ไบโอดีเซล 100 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าดีเซลแบบไบโอ แบบพืช ใช้ 100 เปอร์เซ็นต์

    อย่างคราวก่อนนี้ไป แล้วก็นายกฯ ใช้ไบโอ 100 เปอร์เซ็นต์ ไบโอ ใช้น้ำมันแบบแก๊สโซฮอล์ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ 10 เปอร์เซ็นต์ อย่างที่เขาใช้ ขึ้นภูเขา ขึ้นตรงเขื่อน ขึ้นชัน เขาก็ไปได้ดี รถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์แบบของเรา ก็ขึ้นได้ดี แต่ว่ามาถึงนี้น้อยหน่อย ราคาถูกกว่า ถูกกว่าดีเซลเดี๋ยวนี้ ก็ใช้ดีเซลแบบแก๊สโซฮอล์ มาตอนนี้จะใช้ดีเซลแบบน้ำมันปาล์ม น้ำมันปาล์ม 100 เปอร์เซ็นต์ จะใช้ได้ ไม่ต้องใช้ดีเซลสั่งมาจากเมืองแขก ถ้าเราใช้ดีเซลจากเมืองแขกอีกหน่อยก็หมด อีกหน่อยหมด เดี๋ยวนี้เขาก็มี เขาก็ไม่ใช้แต่จะเก็บเอาไว้สำหรับมาขายให้เรา เราต้องเสียแพงๆ เราจะใช้ไบโอดีเซลแบบน้ำมันปาล์มที่เราปลูกเอง เราปลูกเองอาจจะมีน้อยหน่อย ก็ใช้น้อย อย่าไปฟุ่มเฟือยใช้มากเกินไป น้ำมันใช้น้อยๆ หน่อย แต่เราจะมีใช้ ปลูกต้นปาล์มแล้วมาทำเชื้อเพลิง ต้นปาล์ม มาทอดปลาอะไรต่างๆ ได้ แล้วก็มาใส่ในรถดีเซล ได้ใช้แล้วก็ใช้ได้ มันวิ่งช้าหน่อย วิ่งช้าก็ไม่เป็นไรเราอย่าเร่งรีบ ชีวิตอย่าให้เร่งรีบมากเกินไป แต่ราคาก็ถูก ฉะนั้น คือหลักว่า ใช้ของราคาไม่แพงเกินไป อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับไฮสปีดดีเซล แต่ก็ไปได้ ก็ขอให้คิดว่าทำอะไรต้องประหยัด คนก็ว่า ประหยัด ประหยัดดีกว่าไม่มีเลย ถ้าไม่มี ถ้าไม่มีดีเซลเราก็ต้องไปซื้ออยู่ดี

    เราไปซื้อก็มี 2 แห่งที่เขาขายเป็นสำคัญ ก็คือ ของแขก ของฝรั่ง ของฝรั่งก็คืออเมริกัน เขาไม่ ของอเมริกันเขาไม่ค่อยขาย เขาบอกเขาไม่มี แท้จริงเขามีเยอะ แต่ว่าเขาไม่ขายเพราะว่าเขาเก็บเอาไว้มาขายให้เราแพงๆ ที่จริงน้ำมันจะเป็นดีเซล หรือน้ำมันเบนซิน มันราคาไม่ถึงที่เขาขายกัน จนกระทั่งเขาแย่เพราะว่าเขาขายแพงเหลือเกินเลยขายไม่ได้ ขายไม่ออก บางทีต้องลดราคา เราซื้อน้ำมันราคาถูกของเราเอง ถูกกว่าของฝรั่ง ของแขก แล้วก็อาจจะคุณภาพกำลังน้อยกว่าดีเซลที่ขุดจากดิน แต่ที่จริงที่ขุดจากดินนั้นราคาไม่น่าจะแพงอย่างนั้น แต่เราโลภอยากได้น้ำมันที่มีกำลังก็เลยยอมเสียเงิน เสียเงิน ซึ่งเราควรจะไปใช้อย่างอื่น

    ฉะนั้นการที่เราเสียรู้ทั้งฝรั่ง ทั้งแขก เสียเงินให้เขา ฝรั่งกับแขกเขาได้เงินเยอะๆ ก็ไปซื้ออาวุธ เขาสลับสู้รบกันเอง อิรักเขาก็มีน้ำมันมาก แต่ว่าเขาไม่ขาย เขาไม่ขายก็ขายไม่ได้ไม่มีโรงที่จะกลั่น ก็ขายให้เราแล้วเราเอามากลั่นแล้วเราก็ขายให้แขก แต่เขาซื้อในราคาถูกเขาขายในราคาแพง ไอ้นี่มันไม่ค่อยถูกหลักการค้า การค้าที่รัฐบาลมีผู้เชี่ยวชาญการค้า ต้องขายอะไรให้ราคาแพงจะได้มีกำไรแล้วซื้อราคาถูก แต่เราทำตรงข้าม เราซื้ออะไรราคาแพง ขายราคาถูก อย่างนี้เราแย่ เพราะเราไม่มีทางจะขายอะไรราคาแพง เพราะบอก อู้..เขาขาดทุน เวลาไปที่ร้านบอก ผมขาดทุน เป็นเสียงภาษาแขก เสียงภาษาจีน ภาษาฝรั่ง เขาต้องบอกเขาขาดทุน ถ้าเราขายในราคาแพง โห..มันแพงเกินไป แล้วก็เลยซื้อไม่ได้ เขาบอกเขาซื้อไม่ได้ เพราะว่าเวลาจะซื้อเขาเขาก็ขายไม่ได้เขาขาดทุน

    ที่จริงเราคนไทยเราใจดีเกินไป เรายอมขาดทุน ความจริงถ้าเราขายอะไรไม่ให้ขาดทุน ซื้ออะไรไม่ให้ขาดทุน เรารวย เมืองไทยนี่รวย แต่ว่าเราใจดีเกินไป ต่างประเทศเขาบอกเขาขาดทุน ลงท้ายก็เชื่อเขา ไม่ดี เราขาดทุนไม่ได้ ไม่รู้รัฐบาลชุดนี้จะซื้ออะไรขายอะไรให้ขาดทุนหรือเปล่า แต่ก่อนนี้ขาดทุนเสมอ ฉะนั้นเราจะต้องพยายามจะทำอะไรที่เราไม่ขาดทุน คือทำเอง ต้องทำเอง

    แล้วที่รัฐบาลสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียง หมายความว่า เราไม่ทุกข์ว่าเขาจะว่าว่าเราเอากำไรมากเกินไป เราไม่เอากำไรมาก เราไม่ทำให้ขาดทุน เราไม่ทำให้มีกำไรมากเกินไป เพราะเราขายกันเอง ก็กันเอง ก็ไม่ต้องขายแพง กันเองไม่ต้องซื้อแพง ฉะนั้นเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้หมายความว่า ขาดทุน ขาดทุนก็ขาดทุน แต่ว่าขาดทุน กำไร ของเราเองกันเอง นี่พูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงมาหลายปีแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจกัน เพิ่งมาเข้าใจเดือนหนึ่ง สองเดือนนี่ ฉะนั้นก็ขอให้ไปศึกษาต่อในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียงคืออะไร ไม่ใช่เพียงพอ คือว่าไม่ได้หมายความว่าให้ทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง ทำกำไรก็ทำ ถ้าเราทำกำไรได้ดี มันก็ดี แต่ว่าขอให้มันพอเพียง ถ้าท่านเอากำไรหน้าเลือดมากเกินไป มันไม่ใช่พอเพียง

    นักเศรษฐกิจเขาว่าพระเจ้าอยู่หัวฯ นี่คิดอะไรแปลกๆ ก็แปลกสิ ขายไม่ให้ได้กำไร ซื้ออะไรไม่ขาดทุน เป็นเศรษฐกิจพอเพียง คือไม่ต้องหน้าเลือด แล้วไม่ใช่จะมีกำไรมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ให้พอเพียง ไม่ใช่เรื่องของการค้าเท่านั้นเอง เป็นเรื่องของการพอเหมาะพอดี เราทำพอเหมาะพอดีก็ดี พูดไปพูดมาเรื่องเดี๋ยวก็จะเกิดเอา

    เราสร้างเรือ เราสร้างเรือให้พอเพียง เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง นั่นน่ะมันไม่พอเพียง มันเล็กเกินไป ยังเล็กเกินไป ก็อาจจะควรใหญ่กว่าหน่อย แต่ถ้าใหญ่เกินไป ไม่พอเพียง ถ้าเล็กเกินไปก็ไม่พอเพียง เรือที่เขาจะทำ เรือดำน้ำ เรือดำน้ำดำลงไป ไปปักเลนเลย เดี๋ยวเขาโกรธเอา ว่าเรือแรงๆ ไป ดำน้ำ ไม่พอ ใครมาเครื่องบิน เห็นแจ๋วเลย ต้องไปจมเลนถึงจะไม่เห็น แล่นๆ ไปปักเลน ถ้าอยากไปที่ๆ ลึก ก็ไปอยู่นอกเส้น ก็รู้สึกว้าเหว่ ไกลกัน ไอ้เรือดูแลใกล้ฝั่งนี่ดีกว่า แต่ลำที่เราสร้างก็ใช้ได้ดีแล้ว แต่ที่ควรจะสร้างต่อไปให้ใหญ่กว่านี้ ใหญ่กว่านี้หน่อย แต่ตอนนี้คงไม่มีเงินแล้ว ต้องใหญ่กว่าหน่อย เพราะว่าถ้าไม่ใหญ่พอ จะไม่สามารถที่จะปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง

    นี่พูดกลายเป็นราชการลับ ถ้าพูดราชการลับว่า เรือที่ควรจะซื้อคือเรือของรัสเซีย เรือที่เขาสร้างใหม่ ใหญ่กว่าที่เราสร้างไม่มาก นั่นจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ถ้าซื้อของรัสเซียราคาไม่ถึงครึ่งของเยอรมัน ของอเมริกัน อเมริกันก็โกรธแน่เราไปซื้อของรัสเซีย ลองไปดู ลองไปดูเรือของรัสเซีย แต่เขาอาจจะไม่ขายให้ก็ได้ ลงท้ายทำไมทำมาเขาอาจจะขายในราคาแพง แต่ความจริงก็ควรจะขายเรา ขายเรา ไปขอเขาดู มันของรัสเซียดีจริงๆ แต่รู้ไม่ได้เดี๋ยวเขาขายให้เราลำโปเกโปเกก็ได้

    เนี่ยพูดความลับราชการ แต่เมืองไทยความลับราชการก็เผยเรื่อย เผยความลับราชการ ก็ไม่รู้ละ ทองแดง ถ้าเผยความลับราชการก็อาจจะดีก็ได้ เพราะว่าความลับราชการก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี ยังไงก็จะทำอะไรก็มาเผยกันหมดก็ได้ ทุกกองทัพ กองทัพเรือ ก็เรือดำน้ำ กองทัพอากาศ ก็มีเรืออะไร สมัยใหม่ แต่เดี๋ยวนี้เกิดจะมาซื้อลำนิดเดียวแต่ราคาแพงเหมือนเราลำใหญ่ แต่ตอนนั้นจะซื้อลำใหญ่ราคานิดเดียวเหมือนลำเล็ก

    แต่ว่า แต่ก่อนจะซื้อเครื่องบินลำใหญ่ในราคาลำเล็กก็ชอบกลอยู่นะ ก็รัสเซียเหมือนกัน ทำไปทำมาจะซื้อเรือรัสเซีย เรือบินรัสเซีย เราไม่เห็นด้วย แต่จะซื้อเรือน้ำรัสเซียก็น่าใช้ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็ชวนกันซื้อเครื่องบิน อย่าซื้อเรื่องบินรัสเซีย ซื้อเรือรัสเซีย ไม่อย่างนั้นจะชนกัน เรือของรัสเซีย เรือน้ำของรัสเซีย เข้าใจว่าดี เรือบินของรัสเซีย เข้าใจว่าใช้ไม่ได้ เพราะไปดู

    นานๆ ทีได้พบกันก็ต้องปรารภกันว่าอะไรควรจะทำ ไม่ควรจะทำ เรือบิน ก็ตกลงกันแล้วแต่ถึงเวลาได้เรือบินมาน่าจะล้าสมัยแล้ว 2 ปีกว่าจะได้ 2 ปีคงล้าสมัยแล้ว เรือบินไม่ใช่รัสเซีย เรือบินของสวีเดน ก็ดูดีเพราะว่าลำมันไม่ใหญ่ กองทัพบกก็จะไปซื้อรถล้าสมัย ล้าสมัยเหมือนกัน

    เอ้อ คนไทยนี่ชอบซื้ออะไรล้าสมัย แต่เอามาเล่นก็ดีเหมือนกัน รถถังล้าสมัย แต่เมืองไทยนี่ใช้รถถังทันสมัยมันใช้ไม่ได้ มันจมเลน จมเลนแล้วก็ ถ้าจมเลนปั๊บมันก็หมดสมัย มันลำบากที่จะซื้อ เดี๋ยวนี้จะซื้อ รัฐบาลก็หมดสมัยแล้ว อีกหน่อยก็หมดสมัย อีกไม่กี่เดือนก็หมดสมัย เอาไว้ให้รัฐบาลใหม่เขาซื้อ รถถัง รถอะไร แต่อย่างนี้แนะนำการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ประชุมนี้ ที่ประชุมนี้ก็ใหญ่กว่าสภาฯ นะ มีคนมากกว่า มีคนตั้ง 20,000 คน เขาฟังข้างนอกเขาก็งง เดี๋ยวว่าพูดเรื่องอะไร

    ยังไงก็ตาม ที่พูดอย่างนี้นะให้เห็นว่าเราต้องคิดดีๆ ว่าจะซื้อ จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จะซื้อยังไง รู้สึกว่าท่านก็คงงงหมดแล้วว่าไม่ได้พูดถึงพลเรือน ว่าจะซื้ออะไร มีแต่จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ก็ต้องซื้อ ต้องมี เพราะว่าเดี๋ยวนี้น้ำท่วมก็ใช้กองทัพ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ไปช่วยชาวบ้าน ฟากพวกพลเรือนไม่มีอาวุธที่จะไปช่วยพวกที่เดือดร้อน พวกที่ต้องการใช้ เรียกว่าอาวุธสำหรับช่วยประชาชน ยังไงพลเรือนก็ต้องมีอาวุธละกัน

    แต่ก่อนนี้พูดถึงตำรวจ เป็นกองทัพ แต่เดี๋ยวนี้เขาไม่เป็นแล้ว แต่ว่าต้องใช้อาวุธสำหรับช่วยชาวบ้าน คงต้องเลิกพูด เพราะว่าถ้าพูดมากเดี๋ยวท่านก็งอนว่า จะมาใช้เงินเยอะแยะ ไหนๆ เรารวยแล้ว เดี๋ยวนี้เรารวย เงินบาทมีราคาสูง สูงเกินไปก็ใช้ซิ เงินบาทสูงเกินไปก็ใช้ ใช้ในที่ที่ควร ไม่ทราบ เราเดี๋ยวนี้ไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นที่หมอเขาว่า สมองเราฝ่อ แต่เรารู้สึกสมองเราไม่ฝ่อ แต่เขาว่าว่าเราฝ่อ ฟังว่ารัฐบาลหรือเมืองไทย ประชาชน มีเงินเยอะ มีเงินเกิน ก็ใช้สิ เขาหาว่าเราเศรษฐกิจพอเพียง คำว่า พอเพียง ถ้ามีเงินก็ต้องใช้ ไม่ใช่ขี้เหนียว ถ้ามีเงินไม่ต้องขี้เหนียวซื้อไปเถอะอะไรก็ตาม เครื่องบิน เรือ รถถัง ซื้อ ถ้ามีเงินเยอะ ก็ถือว่าสนับสนุนให้จ่าย เดี๋ยวนี้เขา ในหนังสือพิมพ์เห็นรึเปล่า ว่าเขาสนับสนุนให้จ่าย ถ้ามีก็จ่าย แต่ถ้าไม่มีก็ระงับหน่อย มันเป็นอย่างนี้คนเราก็พูดเกินไปเสมอ อย่าให้เขา

    ตอนนี้ ที่ท่านมาให้พร อวยพร ก็นับว่าดีมาก ทำให้มีกำลังใจ แต่ไม่ทราบว่าคิดถูกหรือไม่ถูกเพราะว่า ท่านไม่ได้บอกอะไร เรามีเงินเยอะใช่ไหม ดูท่าทางว่ามีเงินเยอะ ก็ถ้ามีเงินเยอะก็จ่าย ใช้เงินให้สมกับที่เรามีเงิน ถ้าไม่มีเงินแล้วจ่ายจะอันตราย แต่ถ้ามีเงินและไม่จ่ายก็อันตรายเหมือนกัน เพราะว่า คนที่มีเงินแล้วไม่จ่าย หมายความว่า จะเก็บไว้ทำอะไร บางคนมีเงินแล้วไม่จ่าย ให้คนอื่นจ่าย ก็หมายความว่า คนที่ไม่มีเงินบอก ใช้เงินเถอะ เพื่อที่จะได้กำไร คนที่มีเงินยิ่งอยากได้กำไร อย่างนี้ไม่ดี ฉะนั้นก็ต้อง คนที่มีเงินก็จ่าย แล้วก็ช่วยคนที่ไม่มีเงิน นี่รู้สึกตัวว่าพูดอะไรที่ถูกต้อง คนที่มีเงินต้องจ่ายคนที่ไม่มีเงินต้องไม่จ่าย แต่คนเขาคิดตรงข้าม คนที่ไม่มีเงินต้องจ่าย อย่างสมัยนี้ คนไม่มีเงิน ให้ใช้เงิน ใช้เงินมากๆ เพราะว่าถ้าคนไม่มีเงินใช้เงินมากๆ ก็ต้องไปกู้ คนที่มีเงินมากๆ ก็ได้กำไร ไม่พอเพียง

    ก็ยังไงก็ ขอให้ที่ท่านมานี่ ได้ผลไปคิด ให้ไปคิดว่าควรจะทำอะไร แล้วท่านก็มีความคิดดีอยู่แล้ว อย่าไป ที่พูดว่า อย่าไปมีปมด้อยว่าไม่มีความคิด ว่าซื้อเรือ ซื้อเครื่องบิน ซื้อรถถัง ก็ไปซื้อเถอะ เรือน่ะ สร้างเอง ให้เขาสร้าง เรืออันไหนที่สร้างไม่ได้ ไปสร้างที่อื่น แล้วก็ไปสร้างที่ๆ เขาแล่นๆ ไปมันคลอนหมด ไปซื้อเรือที่แล่นๆ จะไปสู้กับเขาไม่ได้ เพราะว่ามันคลอนหมด สร้างเองดีกว่า นี่เขางงว่าทำไมยุให้สร้างเรือ สร้างเรือเอง ให้คุณภาพดี ไม่ให้คลอน แต่ก็ต้องมีเงินไปสร้างเอง มันตก

    ก็ยังไงก็ คงพูดมากเกินไป ทองแดงก็เมื่อย แต่พูดอะไรก็เห็นด้วยล่ะนะ อ้าว ยังไม่ไป ยังไม่ไป ก็ขอบใจที่ท่านมา ขอให้ท่านสามารถที่จะมีจิตใจที่เข้มแข็ง แข็งแรง แล้วก็เพื่อที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ก็จะเป็นประโยชน์แก่ท่านเอง ก็ขอขอบใจอีกทีที่มา"

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD vAlign=top width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD class=hit align=left height=19>ข่าวล่าสุด ในหมวด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>“ในหลวง” ทรงแนะคนไทยยึดมั่นซื่อสัตย์สามัคคี เพื่อชาติมั่นคง</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>พระบารมี ตระการตา นิทรรศการเฉลิมพระกียรติฯ ที่เมืองทองธานี</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>"ในหลวง-ราชินี" เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ ( 3 )</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>"ในหลวง-ราชินี" เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ ( 2 )</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>“ในหลวง-ราชินี” เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ( 1 )</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    วันนี้ได้โอนเงินที่รับพระมาแล้วโดยการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง จ.ชัยภูมิ
    จำนวน 2,000 บาท ขอโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยครับ
     
  3. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  4. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขอให้ พระเจ้าอยู่หัว "ในหลวง" พ่อใหญ่ของเรา ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=100183&page=8

    <TABLE class=tborder id=post847148 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 07:56 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #156 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>กุ้งมังกอน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_847148", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:19 PM
    วันที่สมัคร: Aug 2006
    ข้อความ: 126 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,352 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 1,018 ครั้ง ใน 125 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 131 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_847148 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->วันนี้ได้โอนเงินร่วมทำบุญเหรียญเบญจพิทักษ์โดยฝากคุณหนุ่มไว้ 1,000 บาท
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ กุ้งมังกอน [​IMG]
    วันนี้ได้โอนเงินร่วมทำบุญเหรียญเบญจพิทักษ์โดยฝากคุณหนุ่มไว้ 1,000 บาท
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันนี้ตอนเย็น โอนให้เรียบร้อยแล้วนะครับ
    ส่วนค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ผมจ่ายให้ครับ

    โมทนาทุกบุญด้วยครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.matichon.co.th/khaosod/view_newsonline.php?newsid=TVRFNU5qWTRPVFkyTUE9PQ


    วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เวลา 20:43 น. ข่าวสดออนไลน์

    [​IMG]


    [​IMG]


    ทึ่งด.ช.วัย12หาเงินช่วยเด็กเอดส์

    เก็บขวดขายได้8หมื่นบาท-บริจาคหมด

    เมื่อ 3 ธ.ค. หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ รายงานว่า เด็กชายซุน ฮุ่ยซี วัย 12 ปี นักเรียนในเมืองฮาร์เอ่อปิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้รับรางวัลระดับชาติเนื่องในวันเอดส์โลก หลังจากเด็กรายนี้ทำความดี ด้วยการบริจาคเงินถึง 20,000 หยวน หรือ 83,000 บาทที่ได้จากการเก็บ-ขายขวดพลาสติกน้ำอัดลมและน้ำผลไม้ 160,000 ใบ ให้กับเด็กกำพร้าในหมู่บ้านที่เชื้อเอดส์แพร่ระบาดในมณฑลเหอหนาน พร้อมกับยังบริจาคหนังสือให้อีก 800 เล่ม
    เด็กชายซุนเรียนอยู่โรงเรียนเสี่ยวหง เริ่มระดมเงินตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อได้ยินว่าจะมีการก่อสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไชนีส เรด ริบบิ้น ในเขตชางไค ให้กับผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ตกเป็นเหยื่อจากการขายเลือดประทังชีวิต ทีแรกด.ช.ซุนนำเงินในกระปุกที่เก็บไว้ 222 หยวน หรือ 920 บาทไปบริจาค จากนั้นใช้วิธีหาเงินด้วยการเก็บขวดพลาสติกตามถนนเวลาเลิกเรียนไปขาย แม้ว่าจะถูกเพื่อนล้อ
     
  7. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    "รักกัน ไม่สู้ รู้ใจกัน" คุณหนุ่ม ขอบคุณครับ.
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กษัตริย์นักประดิษฐ์ ทรงพัฒนาเทคโนโลยีบำบัดทุกข์บำรุงสุขปวงประชา
    http://www.manager.co.th/Science/Vie...=9500000143964

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 ธันวาคม 2550 21:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปรีชาสามารถยิ่งในด้านการประดิษฐ์ พระองค์ทรงให้กำเนิดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่มากมายที่ช่วยแก้ปัญหาให้แก่ราษฎรได้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ในหลวงทรงมีพระวิริยอุตสาหะในการออกแบบต่อเรือใบด้วยพระองค์เอง</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับเครื่องบินปฏิบัติการฝนหลวง (ภาพจาก สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เครื่องบินแอร์ทรัค เครื่องบินปฏิบัติการฝนหลวงในอดีต (ภาพจาก สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>โต๊ะทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เรียบง่าย แต่ให้กำเนิดผลงานจากพระอัจฉริยภาพมากมาย</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>กังหันน้ำชัยพัฒนา หรือเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย ผลงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนับ 10 รางวัล </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สมาพันธ์นักประดิษฐ์นานาชาติทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลจีเนียสไพรซ์ ในผลงาน เรื่อง
     
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ผมว่า....รักดีกว่าเยอะครับ สมัยเด็กๆผมก็ได้แค่รู้ใจแต่เค้าไม่รักด้วย ก็ หอ-แอ-วอ-ไม้โทครับ:'(
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แบบนี้ ต้องท่องคาถา ไม่รักก็ต้องรักแล้วล่ะ ทีนี้...(ping-love

    แต่ลงได้รักแล้ว ต่อไปคงทุกข์จากการพลัดพรากอีก...ก็ไม่พ้นแห้วอีกนะ (cry)

    แต่หนนี้ ตั้งใจแห้วเอง...(deejai)
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไปเจอของดี เอามาฝากคุณน้องนู่ครับ ...

    http://palungjit.org/showthread.php?t=67467&page=325

    <TABLE class=tborder id=post845706 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date -->[​IMG] เมื่อวานนี้, 12:04 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#6469 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>thongdee1<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_845706", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:32 AM
    วันที่สมัคร: Apr 2006
    ข้อความ: 28 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 14 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 269 ครั้ง ใน 27 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_845706 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

    สีผึ้งสายล่างของหลวงปู่แรงจริงๆ
    วันที่ 11 ผมทาตรงนั้นแบบเต็มๆ
    โดยหารู้ไม่ว่าทาตรงนั้นแบบเต็มสูตรแล้วจะคึก
    ผลก็คือคึกทุกคืน
    ต้องใช้พลังจิตอันแรงกล้ากดข่มมันเอาไว้ทุกคืน
    งานนี้เท่ากับว่าเป็นการฝึกใช้พลังจิตเอาชนะพลังทางเพศที่คึกได้คึกดีทุกค่ำคืนไปในตัว
    หลังจากเคยใช้พลังจิตเอาชนะยาปลุกเซ็กซ์ที่ถูกใครก็ไม่รู้เอามาใส่อยู่เรื่อยมาจนชาชินไปแล้ว
    จากการนี้ผมค้นพบความจริงอย่างหนึ่งคือ
    สีผึ้งสายล่างนั้นถ้าทาถูกจุดแล้วซึมเข้าไปรวมตัวอยู่ตามจุดสำคัญต่างๆในขณะที่สวดประจุแล้ว
    ทาแค่ครั้งเดียวก็พอไม่จำเป็นต้องทาหลายครั้ง
    เพราะพลังจะอยู่ตลอดแถมยังดึงพลังจากจักรวาลมาเสริมได้ตลอดด้วย
    แม้ไม่ตั้งใจที่จะดึงเอาพลังจักรวาลมาเสริม สีผึ้งที่รวมตัวกันอยู่ตรงนั้นก็จะดึงพลังจักรวาลมาเสริมและดึงดูดสาวๆสวยๆมาเกี่ยวพันกับเราเอง
    งานนี้คนที่ไม่ยอมมีเมียแบบผมก็เลยตกที่นั่งลำบากต้องใช้พลังจิตข่มมันเอาไว้ทุกคืน
    ใครที่ลงสีผึ้งสายล่างวันที่ 11 ที่ล้วงลงไปทาตรงนั้นถ้าทาได้ถูกจุดแล้วเอาสายสิญจ์ไปทาบตรงนั้นในขณะที่มีการสวดประจุสีผึ้งสายล่างน่าจะได้รับผลเช่นเดียวกันกับผม
    คือทั้งเป็นเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามทั้งยังคึกทุกคืนอีกด้วย
    คนอื่นคึกแล้วยอมตามอำนาจแล้วไปทำกิจของฆราวาส แต่ของผมคึกแล้วผมใช้ฝึกพลังจิต
    ใครจะเอาอย่างผมก็ได้นะ
    เวลาคึกก็นั่งดูๆๆๆๆๆ ดูจนมันเลิกคึก ที่ดูนี่คือใช้จิตดูนะ ไม่ใช่ใช้ตาดู
    ถ้าชอบแบบหนอก็ภาวนาว่าคึกแล้วหนอ กำลังคึกอยู่หนอ อ่อนกำลังลงแล้วหนอ หายคึกแล้วหนอ
    พอคึกใหม่ก็กำหนดว่า มันคึกอีกแล้วหนอ มันกำลังคึกหนอ มันคึกน้อยลงแล้วหนอ มันเลิกคึกแล้ว เราชนะแล้วหนอ
    ผมสงสัยว่ามีใครบางคนแอบเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่ลงในขวดสีผึ้งสายล่างนะ
    แต่ทำไงได้ผมรับมาเต็มๆแถมมีการสวดประจุอัดสีผึ้งลงตรงนั้นแบบเต็มๆซะด้วยซิ งานนี้พวกที่แอบเอายาใส่ลงขวดไม่ได้เสียแรงเปล่า แต่น่าจะเสียยาเปล่านะ

    จากการตรวจสอบพลัง และประสบการณ์ตรง ผมพบว่า

    สีผึ้งสายล่างนี้หากทาที่ตรงนั้นในวันที่ 11 จะมีอำนาจในการดลจิตดลใจให้สาวๆสวยๆอยากมีอะไรกับเรา

    ใครที่ทาที่ท้องหรือท้องน้อยในวันนั้นน่าเสียดายเป็นยิ่งนัก เพราะจะไม่ได้รับความพิเศษแบบนี้
    อำนาจดึงดูดดลจิตดลใจให้สาวๆต้องการมีอะไรเป็นพิเศษกับเรานั้นใครที่ได้ยินเสียงความคิดของสาวๆจะรู้ได้เป็นอย่างดีว่าของเค้าแรงจริงๆ

    สีผึ้งสายล่างนั้นถ้าไม่มีใครแอบเอายาปลุกเซ็กส์ใส่ลงไปแล้วละก็หากสาวๆทาลงไปตรงนั้นก็จะมีพลังดึงดูดและดลจิตดลใจให้ผู้ชายที่อยู่ใกล้อยากมีอะไรด้วย และหากชายหนุ่มคนใดไปมีอะไรกับหญิงที่ทาสีผึ้งสายล่างเข้าละก็งานนี้น่ากลัวคงหลุ่มหลงติดพันหญิงคนนั้นจนโงหัวไม่ขึ้นเป็นแน่
    แต่สีผึ้งสายล่างที่ทานอกพิธีอาจจะไม่เกิดพลังดลจิตดลใจเพศตรงข้ามแบบที่กล่าวข้างต้นเพราะไม่ได้รับการสวดประจุ
    ที่ผมรู้แบบนี้เพราะ
    วันที่ 11 นั้นหลังจากที่ผมออกจากศาลาผมก็เจอกับกลุ่มสาวๆวัยรุ่นแล้วสาวๆพวกนั้นก็พยายามที่จะให้ผมจีบ แต่ผมจีบสาวไม่เป็นและอีกอย่างก็รีบด้วย
    จากนั้นผมก็พบว่าพวกสาวๆ ที่เห็นผมมักจะพากันมองผมแล้วก็คิดอะไรแปลกๆ ชอบกล
    บางคนก็พยายามที่จะให้ผมจีบแล้วก็คิดแต่จะให้ผมมีอะไรด้วย
    นี่แหละคือผลของการกล้าที่จะล้วงลึกลงไปทาสีผึ้งสายล่างในวันที่ 11 ละ
    พลังของสีผึ้งสายล่างที่ลงในวันที่ 11 นั้นแรงมากจริงๆ แรงอย่างชนิดเหลือเชื่อ
    ใครที่หาแฟนไม่ได้ ถ้าไปลงสีผึ้งสายล่างแล้วทาตรงหัวมังกร(อย่าเถรตรงไปทาหัวรูปปั้นมังกรเข้าละ)ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหาแฟนหาเมียไม่ได้ เพราะยังไงซะพลังที่ลงเอาไว้ตรงนั้นก็จะดึงดูดตรงนั้นของเพศตรงข้ามให้มาเอง
    ที่หลวงปู่ว่าสุดยอดในวันที่ 11 นั้นสุดยอดจริงๆ
    สีผึ้งสายล่างนั้นพลังในการดึงดูดอวัยวะของเพศตรงข้ามนั้นสูงมาก

    ผมรู้สึกว่าคนที่แอบเอายาปลุกเซ็กส์ใส่ลงในขวดนั้นเค้าแค่คิดจะเอาชนะผมไม่ได้หวังร้ายกับใคร
    โชคดีที่วันที่ 11 ผมมากับน้องชาย งานนี้เลยรอดตัวไป โดนยาป้ายก็ไม่เป็นไร เอาตัวรอดได้สบายมาก
    ถ้าไปคนเดียวสงสัยรอดยาก
    คนคำนวนรึจะสู้ฟ้าลิขิต
    555
    <!-- / message -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]ถ้าจำไม่ผิด สีดำข้างบนจะเป็นสีผึ้งรุ่นแรก ส่วนสีดำข้างล่างนี่ไม่แน่ใจว่า รุ่น สอง หรือ สาม เดี๋ยวรอพี่สามมาเฉลย อีกที ฮิฮิ ที่ผมไม่มีแยกรุ่นนะครับ มีแต่รวมรุ่น 1-3 ผสมกันหมดแล้ว ขอรับ (โพสไว้ให้อิจฉาเล่น ฮิฮิ)

    สมัยตอนที่ได้มาใหม่ๆ ผมชอบเอาทาบริเวณ ตันเถียน เพราะพลังไหลไปมา วูบวาบดี ตอนนั้นระดับพลังอยู่ในขั้นกลางๆ ประมาณ 60 กว่าๆ เดี๋ยวนี้ไม่ไ้ด้ทาแล้ว เพราะม่ายจำเป็น ใช้วิชาหยินหยางดีกว่า ง่ายกว่า กันเยอะเลย


    ใช่แล้วครับ สีดำสนิทเป็นสีผึ้งสายล่างครับ ส่วนที่เหลือเป็นสีผึ้งสายบนครับ แต่ที่เห็นเป็นสีน้ำตาลก้มีเนื้อว่านผสมมากครับ ที่ผมมีอยู่ดำสนิทครับ(เนื้อว่าน) ส่วนที่ออกหม่นๆก็ขึ้นกับส่วนผสมที่หลวงปู่ใส่ครับ ใช้ได้เหมือนกันครับ

    <TABLE class=tborder id=post846813 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] เมื่อวานนี้, 03:20 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#6487 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>thongdee1<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_846813", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 11:32 PM
    วันที่สมัคร: Apr 2006
    ข้อความ: 28 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 14 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 269 ครั้ง ใน 27 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_846813 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->สามารถรับรู้การไหลวนของหยินหยางได้ก็นับว่าดีแล้ว ก้าวต่อไปคือการควบคุมพลังให้มารวมที่จุดตังชั้ง แล้วทำการดึงดูดพลังอันบริสุทธิ์จากทุกจักรวาลมารวมที่ร่างกายเรารวบรวมเก็บสะสมเอาไว้ที่จุดตังชั้ง
    เก็บรวบรวมเอาไว้ใช้ในการฝึกวิชาเซียน

    ในการศึกษาค้นคว้าทางด้านคาถานั้น
    พี่ Robert น่าจะลองไปหาคัมภีร์ไสยศาสตร์ ฉบับสมบูรณ์ อาจารย์ โหรญาณโชติ มาอ่านนะครับ
    ตำราเล่มนี้ค่อนข้างสมบูรณ์ในระดับหนึ่งครับ มีการชี้แนะ สอนเคล็ดลับการใช้คาถา เคล็ดลับการวางจิตในขณะใช้คาถา
    ตำราเล่มนี้หนามากข้างในมีคาถาเยอะมากๆ ตำราเล่มนี้ผมเคยเห็นมีในภาพยนต์เรื่องจอมขมังเวทย์ด้วยครับ
    ผมเคยเห็นตำรานี้ที่สวนจตุจักร ตอนนี้น่าจะยังมีขายอยู่ครับ

    http://www.dharma-gateway.com/monk/m...p-see-hist.htm
    <!-- / message -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message -->
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ได้อัดMP3 พระราชดำรัสของพระองค์ท่านที่พระราชทานให้ไว้ ไม่รู้ว่าเหล่ารัฐมนตรีที่รับผิดชอบทั้งหลายจะทำงานสนองเบื้องพระยุคลบาทได้แค่ไหน พระองค์ท่านยังตรัสว่า เพิ่งจะเข้าใจเรื่อง"พอเพียง"กันได้เดือน ๒ เดือนนี้เอง ทั้งๆที่ตรัสมานานมาก..


    จำวิธี zip ไม่ได้ เลย นำภาพจากทีวีมาให้ชมกันไปก่อน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010087.jpg
      P1010087.jpg
      ขนาดไฟล์:
      265.7 KB
      เปิดดู:
      71
    • P1010088.jpg
      P1010088.jpg
      ขนาดไฟล์:
      312.2 KB
      เปิดดู:
      44
    • P1010091.jpg
      P1010091.jpg
      ขนาดไฟล์:
      463.2 KB
      เปิดดู:
      51
    • P1010094.jpg
      P1010094.jpg
      ขนาดไฟล์:
      246.6 KB
      เปิดดู:
      47
    • P1010096.jpg
      P1010096.jpg
      ขนาดไฟล์:
      348.5 KB
      เปิดดู:
      42
    • P1010117.jpg
      P1010117.jpg
      ขนาดไฟล์:
      334.2 KB
      เปิดดู:
      44
    • P1010119.jpg
      P1010119.jpg
      ขนาดไฟล์:
      298 KB
      เปิดดู:
      62
    • P1010131.jpg
      P1010131.jpg
      ขนาดไฟล์:
      215.5 KB
      เปิดดู:
      47
    • P1010122.jpg
      P1010122.jpg
      ขนาดไฟล์:
      256.3 KB
      เปิดดู:
      48
    • P1010137.jpg
      P1010137.jpg
      ขนาดไฟล์:
      519.8 KB
      เปิดดู:
      47
    • P1010130.jpg
      P1010130.jpg
      ขนาดไฟล์:
      474.5 KB
      เปิดดู:
      62
    • P1010110.jpg
      P1010110.jpg
      ขนาดไฟล์:
      582.9 KB
      เปิดดู:
      46
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2007
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ขอบคุณครับท่านเพชร ผมหมายถึงตอนเด็กๆครับ โตแล้วเลิกแล้วครับ แค่ ผบ.ก็ ออ-อัว-กอ แล้วครับ ไม่มีปัญญา ไป แก็ก ใครที่ไหนครับ ว่าไปแล้ว ไอ้ โดตัวแสบอีก ทำหน้าที่แทนแม่ได้ชะงักเลย เวลานั่งกินข้าวแอบ มองใครอยู่มันจะสะกิดแล้ว ถามว่า แอบแหล่สาวหรือพี่ เฮ้อ!!! อดครับ[Embarrass
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไอ้คุณโดนี่สงสัยจะได้ค่าขนม"พิเศษ"จากคุณแม่มากนะ ลองตรวจสอบดูหน่อยนะท่านน้องนู๋ รับสินบนแต่เด็กไม่ดี
     
  15. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    แห้วคือสมหวัง, สมหวังคือแห้ว, แห้ว ก็คือ สมหวัง นะอิอิอิ ณ.ตอนนี้นะ
    ปล่อยวาง ปล่อยวาง บทบาทของแต่ละคนย่อมต่างกันแต่แนวทางเดียวกัน
    จุดประสงค์คือ สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ
    (ดูหนังชุดมากไป เลย คมคาย คมคาย ซะหน่อย อิอิอิ 5 )
     
  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ท่านกุ้ง นี่ก็อีกคน พูดอาราย.... กำกวมมากเลยครับ(one-eye) สำเร็จอารยเนี่ย
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันที่ 05 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10861
    http://matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01lad01051250&day=2007-12-05&sectionid=0115


    "..ทำงานกับฉันไม่มีอะไรจะให้ แต่จะมีประโยชน์ต่อผู้อื่น.." พระราชกระแสรับสั่งที่ตรึงอยู่ในใจ ดร.สุเมธ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ไม่แปลกใจเลยที่หลายครั้งเราได้เห็นภาพน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มของพสกนิกรชาวไทย เมื่อได้เฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ประทับอยู่ในหัวใจของปวงชนชาวไทยทุกคน พระองค์ทรงเป็นพ่อหลวงของแผ่นดิน พระองค์ทรงงานอย่างหนักเพื่อปวงชนชาวไทย

    ผู้หนึ่งซึ่งได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาอย่างยาวนาน กว่า 26 ปี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ถ่ายทอดเรื่องราวแสนประทับใจ รวมถึงพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ผ่านใน รายการ "เจาะใจ" ซึ่งจะออกอากาศในวันที่ 6 ธันวาคม 2550 นี้

    ดร.สุเมธเล่าตอนหนึ่งในช่วงที่พระองค์ทรงพระประชวรว่า ไม่ว่าจะทรงพระประชวรหรือไม่สิ่งที่อยู่ในพระราชหฤทัยตลอดเวลาคือเรื่องงาน

    "ตอนการผ่าตัดครั้งล่าสุด ผมเป็นประธานสารสนเทศเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร มีหน่วยงานหนึ่งที่มีความรับผิดชอบเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องไม้ถวายพระองค์ พระองค์รับสั่งให้ติดตั้งแลปท็อปในห้องที่โรงพยาบาล ติดคอมพิวเตอร์ในโรงพยาบาล เนื่องจากพระองค์ต้องการติดตามพายุที่เข้าประเทศไทย ผมมานั่งคิดว่าตามปกติพวกเราวันที่จะเข้าผ่าตัดในใจคงไม่คิดอะไรแล้วคงคิดแค่การผ่าตัด แต่ในพระราชหฤทัยพระองค์ คิดเป็นห่วงกังวลเรื่องน้ำ เรื่องพายุ เจ้าหน้าที่ติดตั้งเสร็จก่อนสามชั่วโมงที่เสด็จถึงโรงพยาบาล เพราะฉะนั้นตลอดเวลาพระองค์คิดแต่เรื่องงาน"

    ดร.สุเมธบอกอีกว่า สำหรับพระองค์แล้วการทรงงานอาจจะถือว่าเป็นเรื่องพักผ่อนแบบหนึ่งก็ได้ เพราะสังเกต อย่างพวกเราเวลาพักผ่อนก็ทิ้งงานไปเลย แต่พระองค์ท่าน เท่าที่ได้สังเกตรู้สึกว่าเวลาที่ทรงมีความสุขที่สุดคือเวลาที่ทรงงาน

    "เวลาที่ผมตามเสด็จฯ พระองค์จะรับสั่งและสอนพวกเราอยู่เสมอว่า ต้องสนุก ถ้าไม่สนุกต้องไม่ทำ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าทรงสนุกมากเลย มีปัญหาท้าทาย คิดว่าทำให้ทรงมีพระพลานามัย และกำลังใจอะไรต่างๆ"

    เมื่อถามว่า ในหลวงทรงงานหนักอย่างมาก ในฐานะที่ได้ถวายงานอย่างใกล้ชิด คำว่า ในหลวงทรงงานหนักนั้นหนักมากแค่ไหน ดร.สุเมธบอกว่า หลายคนอาจนึกว่าในฐานะพระเจ้าแผ่นดินคงจะทรงงานสบายๆ แต่สังเกต 60 ปีที่ผ่านมา พระองค์จะทรงงานอยู่ในถิ่นทุรกันดารทั้งสิ้น ที่สบายๆ ไม่ค่อยมี

    "ในแง่กายภาพก่อน ร่างกายต้องแข็งแรงมาก เวลาพวกเราปล่อยตัว จะโดนดุว่าเป็นนักพัฒนาปล่อยตัวไม่ได้นะ ร่างกายต้องแข็งแรง โดนดุอยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าเรื่องพระวรกายจะระมัดระวังมาก ออกกำลังกายทุกวัน เรื่องพระกระยาหารก็ทรงระมัดระวัง พระองค์ท่านบอกว่าการเป็นนักพัฒนาร่างกายต้องแข็งแรง 26 ปีที่ผ่านมา สมัยก่อนที่เสด็จออกเยี่ยมราษฎรอย่างระยะที่สูงสุดปี 2524 จำว่าได้อยู่ต่างจังหวัด 8 เดือน อยู่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ จะประทับแห่งละประมาณ 2 เดือน 4 แห่งก็ 8 เดือน ประทับอยู่ในกรุงเทพฯ 2 เดือนเท่านั้น ทุกวันเสด็จฯออกเกือบทุกวัน ต้องยอมรับว่าเหนื่อยมาก นี่คือเอาแค่ร่างกายยังไม่คิดถึงสติปัญญาอะไรต่ออะไรต่างๆ แต่ละวันต้องเดินทางนานมาก และแต่ละวันก็เริ่มตั้งแต่ 3-4 โมงเย็น ไปจบเอาตอนเที่ยงคืน ช่วง 4- 5ทุ่ม ยังประทับอยู่ตามป่า ใช้ไฟฉายส่องตามแผนที่ เป็นเรื่องปกติของพระองค์ท่าน"
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานอย่างหนัก พระองค์ตรัสถึงความเหนื่อยเหน็ดบ้างไหม ผู้ถวายงานพระองค์บอกว่า พระองค์บ่นแต่เห็นคนอื่นเหนื่อย วันหนึ่งจำได้เสด็จฯไปบนเขา วันนั้นทุกคนเหนื่อยกันมาก ขึ้นไปถึงจุดหนึ่งแล้วทอดพระเนตรเห็นอาณาบริเวณทั่ว จำได้พอเสด็จฯไปถึงบนยอดเนินเขา ดูแผนที่เสร็จ เหลียวมาจะรับสั่งแต่ไม่เห็นใครเลย ทุกคนทรุดนั่งอยู่ เหลียวไปเหลียวมาทุกคนสู้คนอายุ 60 ไม่ได้สักคนหนึ่งเลย แต่ละคน 40 ปี 50 นั่งหมดเลย

    "แน่นอนตอนนี้ต้องยอมรับ จะนำพระองค์ท่านไปสมบุกสมบันแบบเดิมคงไม่ได้แล้ว เรื่องงานนั้น ก็จะรับสั่งผ่านสมเด็จพระเทพฯมา เพราะว่าสมเด็จพระเทพฯทรงเข้าเฝ้าฯอยู่เป็นประจำ หรือผ่านหน่วยงานอื่นตลอดเวลา เรื่องงานพระองค์ไม่ทรงขาด"

    ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ภาพที่พสกนิกรชาวไทยได้เห็นจนเจนตา คือ ภาพที่พระองค์เสด็จฯยังถิ่นทุรกันดาร ดร.สุเมธบอกเหตุผลว่า พระองค์เคยรับสั่งว่างานพัฒนาต้องเห็นด้วยตา ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง

    "จะเห็นว่าเวลาพระองค์เสด็จฯไปทรงงานจะมีกล้องถ่ายรูปจะมีอะไรต่อมิอะไร เป็นอุปกรณ์ช่วยในการพัฒนา ทรงถ่ายภาพไว้จะได้จำได้ว่าภูมิประเทศตรงนั้นเป็นลักษณะไหน พระองค์ทรงรับสั่งต้องสัมผัส บางทีข้าราชการก็นั่งเทียน วาดแผนที่แต่ไม่เคยเห็นสถานที่ แต่สำหรับพระองค์ท่านต้องไปและติดตามงานด้วยพระองค์เองทุกครั้ง เห็นว่าจะเสด็จฯไปอีกหนเพื่อดูการเปลี่ยนแปลง ทั้งภูมิประเทศ โครงการ ทั้งคน ได้ผลกระทบอะไร ติดตามอย่างใกล้ชิด แน่นอนพระองค์พระชนมพรรษา 80 พรรษา ทรงปฏิบัติอย่างนั้นก็คงจะไม่ถูกต้อง ต้องปรับไป แต่งานต้องต่อเนื่อง"

    ดร.สุเมธบอกอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงเรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ เพราะเวลานี้ธรรมชาติแปรปรวนมาก ที่ผ่านมาทั้งเกิดสึนามิ ดินถล่มพังทลายที่อุตรดิตถ์ มีผลกระทบเยอะ ที่สำคัญส่งผลกระทบถึงหลายร้อยหลังคาเรือน ความแปรปรวนนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ภาวะโลกร้อน ส่งผลกระทบเยอะ พระองค์ทรงวิตกในเรื่องนี้มาก

    เมื่อถูกถามว่า เวลาที่ปฏิบัติงานไม่ตามมาตรฐาน โดนดุบ่อยไหม ดร.สุเมธบอกว่า เป็นของแน่อยู่แล้ว พระองค์ท่านเวลาทำงานเพื่อความสุขของประชาชนต้องรวดเร็วฉับพลัน

    "ในช่วงที่ได้ถวายงานใหม่ๆ เป็นข้าราชการ เข้าเฝ้าฯวันศุกร์รับสั่งไปดูสิที่บริเวณนั้นชาวบ้านเขาอดน้ำอยู่ เรากราบทูลว่าเช้าวันจันทร์ข้าพระพุทธเจ้าจะรีบไปเลย เพราะเย็นวันศุกร์ วันเสาร์-อาทิตย์หยุด ท่านก็มองหน้า บอกว่าความทุกข์มีวันหยุดด้วยเหรอ อีกครั้งต่อหน้าสาธารณ เหตุการณ์น้ำท่วมพระองค์ท่านเรียกประชุมเลย พระองค์ท่านเรียกประชุม น้ำไหลมาจากทางเหนือ ไหลมาวินาทีกี่ลูกบาศก์เมตร ทุกคนบอกว่าจะรีบทำเช้าวันจันทร์ แต่พระองค์บอกว่าน้ำมันไหลมาเรื่อยๆ ให้ไปเดี๋ยวนี้เลย เป็นต้น แต่ทรงดุไม่ได้ทรงกริ้ว บางทีดุมากเห็นหน้าจ๋อยก็พระราชทานองค์พระมาให้องค์หนึ่ง อยากรู้ว่าดุมากแค่ไหนดูที่องค์พระที่พระองค์ท่านพระราชทานมาให้ (หัวเราะ)"



    นอกจากนี้ ยังได้ถามถึงหลักในการบริหารเงินของพระองค์ ดร.สุเมธเล่าว่า พระองค์บริหารค่าใช้จ่าย ทรงมัธยัสถ์มาก ทุกบาททุกสตางค์ของพระองค์จะใช้อย่างระมัดระวัง ทรงรับสั่งสมัยยังทรงพระเยาว์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนีได้ทรงฝึกทุกพระองค์ให้ทรงประหยัด การประหยัดไม่ใช่ขี้เหนียว แต่ต้องรู้จักใช้ให้คุ้มค่าเงิน อะไรที่ไร้สาระไม่เอา

    "สังเกตว่าพระเจ้าแผ่นดินของเราประหยัดมาก ตอนที่เข้าไปถวายงานปี 2524 ผมพยายามมองๆ ฉลองพระองค์ สังเกตฉลองพระองค์ทรงใช้เป็นสิบๆ ปี เอาภาพสองภาพมาเปรียบกัน 20 ปี ทรงใช้ฉลองพระองค์เดิม ไม่เปลี่ยนแบบเลย วันหนึ่งจ้องข้อพระหัตถ์อยากจะรู้ว่าทรงใช้นาฬิกาอะไรทรงรู้พระองค์ยี่ห้อใส่แล้วโก้ (ไซโก้) ผมจำแบบไว้ ไปดูที่ร้านนาฬิกา พระเจ้าแผ่นดินของเราใส่นาฬิกาเรือนละ 750 บาท"

    ตลอดระยะเวลากว่า 26 ปี ดร.สุเมธ ประมวลคำสอนที่ได้จากการถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจำนวน 14 ข้อ

    "ตอนแรกผมเคยประมวลไว้ 9 ข้อ แต่ตอนหลังมานั่งไตร่ตรองล่าสุดได้ 14 ข้อ พระองค์ท่านก่อนทรงงานต้องเตรียมข้อมูล ต้องรอบรู้ ถ้าไม่รู้อย่าเพิ่งขยับ ในตำหนักสวนจิตรฯมีการทดสอบอะไรต่างๆ ให้แน่ใจถึงจะเอาไปแจกชาวบ้าน โดย 14 ข้อ คือ 1.ต้องเป็นผู้รอบรู้ 2.อดทนมุ่งมั่น ยึดธรรมะและความถูกต้องอยู่ตลอดเวลา 3.ชัดเจนต้องอ่อนน้อมถ่อมตน แล้วต้องเรียบง่ายประหยัด ข้อนี้สะท้อนจากพระองค์ท่าน พระองค์คุกเข่านั่งคุยกับประชาชน จำไว้เป็นใหญ่เป็นโตต้องถ่อมเนื้อถ่อมตน 4.ซื่อสัตย์ สุจริต กตัญญู ความกตัญญู สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระองค์ก็ทรงเยี่ยม แม้พระพี่นางเวลานี้ก็เสด็จฯทรงเยี่ยมทุกวันเลย ถ้าไม่มีพระราชกิจ ท่านน่ารักมาก ด้วยความกตัญญูเราต้องมี 5.ต้องตั้งใจจริงและขยันหมั่นเพียร 6.ต้องรับฟังความเห็นคนอื่น พระองค์ท่านเวลาจะตัดสินใจจะทำอะไร ไม่ใช่นึกจะทำก็ทำเลย ท่านจะทรงเรียกปรึกษาคนนั้น คนนั้นเก่งจะถามคนนี้ และจะเห็นว่าทรงทำประชาพิจารณ์ทุกโครงการเลย แต่เราไม่รู้ เห็นไหมเสด็จฯลงจากรถทรงทักทายประชาชนเลย นั่นคือทำประชาพิจารณ์ ทรงถามประชาชนก่อน ทรงคิดแบบนี้ เอาไหม ใครที่ได้เข้าเฝ้าฯใกล้ๆ จะเห็นว่าประชาพิจารณ์ มีบางแห่งที่ประชาชนไม่เอาๆ ก็ไม่ทำ เป็นพระเจ้าแผ่นดินจะขัดประชาชนได้อย่างไร 7.ต้องมุ่งประโยชน์คนส่วนใหญ่ เพราะถ้าส่วนใหญ่อยู่ไม่ได้ เราเองก็อยู่ไม่ได้ นึกถึงประเทศชาติก่อน ถ้าประเทศชาติอยู่ไม่ได้เราก็อยู่ไม่ได้ แล้วต้องนึกถึงความต้องการประชาชน และรักประชาชนก่อน 8.รู้รักสามัคคี มีความเมตตา 9.ต้องพึ่งตัวเองเป็นที่ตั้ง อย่าไปอิจฉา 10.รู้จักให้ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่กัน 11.อย่าใจร้อน เริ่มเล็กๆ ไปหาใหญ่ 12.ยึดความพอดีของตัวเองเป็นที่ตั้ง 13.เน้นธรรมชาติ อย่ามองข้าม 14.รู้รักสามัคคี เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ทำอะไรต้องรู้ก่อนลงมือปฏิบัติ ความสามัคคีสำคัญคืออย่าเก่งคนเดียว ชักชวนคนอื่นมาทำด้วย ส่วนเข้าใจเข้าถึงพัฒนา คือจะทำอะไรก็ต้องเข้าใจเสียก่อน แล้วต้องให้เขาเข้าใจเราด้วย ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน พอสองคำนี้บังเกิดแล้วการพัฒนาก็จะเกิดขึ้น"

    ที่สำคัญ ดร.สุเมธยังบอกผ่านรายการเจาะใจอีกว่า ประโยคหนึ่งที่ฝังอยู่ในใจแทบไม่รู้ลืม คือ เมื่อครั้งหนึ่งได้ไปเข้าเฝ้าฯเมื่อรัฐบาลจัดข้าราชการคนหนึ่งเข้าไปถวายงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่งว่า "ขอขอบใจนะที่จะมาช่วยฉันทำงาน แต่ขอบอกไว้ก่อนนะทำงานกับฉันๆ ไม่มีอะไรจะให้นะ แต่จะมีความสุขที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น"

    "เป็นประโยคที่เรียบง่าย แต่ยิ่งใหญ่ เป็นประโยคที่จุดไฟแสงสว่างให้กับตัวผมเลย นอกจากความสุขที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น นับแต่นั้นมาประโยคนี้เป็นประโยคที่นำทางชีวิตผม"

    ในตอนท้าย ดร.สุเมธตอบคำถามที่ว่า จากลักษณะสังคมที่มองว่าเป็นสังคมแตกแยก วุ่นวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวิตกกังวลหรือไม่ ดร.สุเมธตอบว่า "คงตอบไม่ได้ แต่ว่าจากกระแสพระราชดำรัส พระองค์ทรงเป็นห่วงแน่นอน เพราะทุกคนเป็นลูกของพระองค์ท่าน พระองค์สอน พระองค์ท่านปราม ต้องรักษาบ้านไว้ ถ้าเรามัวทะเลาะกันอยู่บ้านก็พัง เราเดือดร้อนแน่นอนที่สุด ตรงนี้สำคัญบ้านเราอาศัยอยู่พวกเราต้องรักษาบ้านไว้ให้ได้" ดร.สุเมธตอบในตอนท้าย

    เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ประโยคที่พสกนิกรชาวไทยจะร่วมกันเปล่งเสียงออกมาจากหัวใจ คือ "ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=49686&NewsType=2&Template=1

    ผักบร็อกโคลีรักษาโรคอัลไซเมอร์

    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ใครที่ชอบทานผักบร็อกโคลีบ้าง รู้หรือไม่ว่าช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาบอกกัน...
    ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ลอนดอน ระบุว่า มีผักและผลไม้ 5 ชนิด มีสารประกอบที่ทำหน้าที่เหมือนกับยาที่ใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์ ได้คือ ผักบร็อกโคลี มันฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล และหัวไชเท้า โดยเฉพาะผักบร็อกโคลีมีสารดังกล่าวเยอะที่สุด
    รู้อย่างนี้แล้ว ควรหันมารับประทานผักบร็อกโคลีแก้โรคอัลไซเมอร์กันดีกว่า.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หนังสือทรงคุณค่าแห่งปี...ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสฯ นับแต่ปี ๒๔๙๓ – ๒๕๔๘
    http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9500000144157
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 ธันวาคม 2550 05:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=432 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=432>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    “ราษฎรทั้งหลาย
    ในวันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช ๒๔๙๓ นี้ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย จงช่วยดลบันดาลให้ท่านทั้งหลาย ประสบแต่ความเจริญสุขสวัสดี เพื่อจะได้ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ ทำนุบำรุงชาติบ้านเมืองของเราให้รุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้น

    ในไม่ช้านี้ ข้าพเจ้าจะกลับเมืองไทยมาพบกับท่านแล้ว ขณะนี้สุขภาพของข้าพเจ้าดีขึ้นบ้าง แต่ยังมีอาการปวดศรีษะมากอยู่เสมอๆ ตั้งแต่คราวรถชน แพทย์ลงความเห็นว่า ยังไม่ควรกลับมาถูกอากาศร้อนอย่างเมืองไทยในระยะนี้ แต่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นการสมควรและจำเป็นจะได้กลับเข้ามาปฏิบัติราชการที่สำคัญตามที่ข้าพเจ้าได้เคยพูดไว้เมื่อก่อนที่จะจากท่านมาเมื่อสามปีก่อนนั้น

    ข้าพเจ้าหวังว่าท่านทั้งหลาย จะใช้เวลาในปีใหม่นี้ให้เป็นประโยชน์ ขอให้ท่านจงอยู่เย็นเป็นสุข ตั้งมั่งอยู่ในสามัคคีธรรมและช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคใดๆ ที่จะมีมา เพื่อชาติบ้านเมืองของเราจะได้วัฒนาถาวรสืบไป.”

    --------------------

    ข้อความข้างต้นคือพระราชดำรัส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานแก่ประชาชนในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๙๓ นับเป็นพระราชดำรัสครั้งแรก ก่อนพระองค์จะเสด็จนิวัติพระนครเพื่อทรงกระทำพิธีราชาภิเษก ขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ประทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้นพปฏลมหาเศวตฉัตร ในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ แล้วพระราชทานอีกหนึ่งพระบรมราชโองการแก่ไพร่ฟ้าพสกนิกรของพระองค์ ณ วันนั้น ว่า

    “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

    -------------------


    จวบจนวันนี้ “พ่อของแผ่นดิน” ยังคงมอบคำสอนอันมากคุณค่า มอบปรัชญาอันลุ่มลึกให้แก่ลูกๆ เสมอ ทว่า ในท่ามกลางวิกฤติปัญหาสังคมที่ถาโถมเข้ามา หรือแม้แต่ในยามปกติสุขก็ตามที จะมีลูกสักกี่คน ที่นึกถึง “คำของพ่อ” แล้วนำมาเป็นเข็มทิศนำพานาวาชีวิตก้าวข้ามฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามไปได้


    เพื่อให้ประชาชนได้น้อมนำพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้งน้อมนำเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติหน้าที่การงาน
    กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จึงจัดทำหนังสือ

    “ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๔๙๓ – ๒๕๔๘” ขึ้น ซึ่งนอกจากจุดประสงค์ข้างต้นแล้ว ยังเพื่อเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดี เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ด้วย


    สำหรับความพิเศษของหนังสือชุดนี้ คือการรวบรวมพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดระยะเวลา ๕๕ ปี
    รวมทั้งสิ้น ๒, ๑๔๒ องค์ คือนับแต่ครั้งแรกที่พระองค์ทรงพระราชทานแก่พสกนิกร กระทั่งถึงปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ไว้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดครั้งหนึ่ง

    หนังสือชุดนี้ มีทั้งสิ้น ๘ เล่ม หนากว่า ๔, ๒๐๐ หน้า พร้อมดีวีดีในการสืบค้นข้อมูลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสอีกหนึ่งแผ่น จัดพิมพ์จำนวนจำกัดเพียง ๕, ๐๐๐ ชุดเท่านั้น

    รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ผู้สนใจติดต่อขอรับใบสั่งจองได้ที่ สำนักงาน กบข.
    หรือศูนย์หนังสือซีเอ็ดทั่วประเทศ ทั้งสามารถดาวน์โหลดใบสั่งจองได้ที่เว็บไซต์
    กบข. www.gpf.or.th

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    เนื้อความในหนังสือ ใช่ว่ามีความสำคัญอยู่ที่เปรียบเสมือนหลักยึด หรือแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ผู้อ่านจะได้รับ หากแต่ยังสะท้อนถึงความเป็นไปของยุคสมัย สะท้อนถึงวิถีชีวิต หรือสภาพปัญหาต่างๆ ของสังคมด้วย
    ดังที่ วิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ กบข. เคยกล่าวไว้ว่า

    ทุกพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระองค์ท่านล้วนสะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ซึ่งหมายถึงประโยชน์ที่จะเกิดแก่ประเทศชาติและประชาชน ยึดมั่นในความสามัคคี ความสงบเรียบร้อยของชาติบ้านเมือง การร่วมปลูกจิตสำนึกในคุณธรรม จริยธรรม ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ทุกยุคสมัย ทั้งนับได้ว่าเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของชาติไทยในแต่ละปีไว้อย่างชัดเจน นับเป็นสิ่งประเมินค่ามิได้ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย

    ดังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และพฤษภาทมิฬ 2535

    -------------
    พระราชดำรัส ณ หอพระสมุด สวนจิตรลดา วันอาทิตย์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖


    "วันนี้ เป็นวันมหาวิปโยค ที่น่าเศร้าสลดอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอดระยะเวลา ๖-๗ วัน ที่ผ่านมา ได้มีการเรียกร้องและการเจรจากัน จนกระทั่งนักศึกษาและรัฐบาลทำข้อตกลงกันได้ แต่แล้วมีการขว้างระเบิดขวดและยิงแก็สน้ำตาขึ้น ทำให้เกิดการปะทะกัน และมีคนได้รับบาดเจ็บหลายคน ความรุนแรงได้ทวีขึ้นทั้งพระนคร ถึงขั้นจลาจล และยังไม่สิ้นสุด มีคนไทยด้วยกันต้องเสียชีวิตนับร้อย


    ขอให้ทุกฝ่ายทุกคนจงระงับเหตุแห่งความรุนแรงด้วยการตั้งสติยับยั้ง เพื่อให้ชาติบ้านเมือง คืนสู่สภาพปรกติเร็วที่สุด


    อนึ่งเพื่อขจัดเหตุร้ายนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อค่ำวันนี้ ข้าพเจ้าจึงแต่งตั้งให้ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี


    ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายร่วมกันสนับสนุน เพื่อให้คณะรัฐบาลใหม่สามารถบริหารงานแผ่นดินได้โดยมีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม และแก้ไขสถานการณ์ให้คืนสู่สภาพเรียบร้อยให้โดยเร็ว ยังความสงบสุขความเจริญรุ่งเรือง ให้บังเกิดแก่ประเทศและประชาชนชาวไทยโดยทั่วกัน."

    ------------------

    พระราชดำรัส (๑)
    ในโอกาสที่นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรี และ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรี นำพลเอก สุจินดา คราประยูร และพลตรี จำลอง ศรีเมือง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
    วันพุธที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๕ เวลา ๒๑.๓๐ น.

    "๑. คงไม่เป็นที่แปลกใจทำไมถึงเชิญให้ท่านมาพบกันอย่างนี้ เพราะว่าทุกคนก็ทราบว่าเหตุการณ์มีความยุ่งเหยิงอย่างไร และก็จะทำให้ประเทศชาติล่มจมไปได้ แต่ที่จะแปลกใจก็อาจจะมีว่าทำไมเชิญ พลเอก สุจินดา คราประยูร และพลตรี จำลอง ศรีเมือง เพราะว่าอาจจะมีผู้ที่เป็นตัวแสดง ตัวละครมากกว่านี้ แต่ที่เชิญมาเพราะว่า ตั้งแต่แรกที่มีเหตุการณ์ สองท่านเป็นผู้ที่เผชิญหน้ากัน และก็ในที่สุด การต่อสู้หรือการเผชิญหน้า กว้างขวางออกไป ถึงได้เชิญสองท่านมา


    ๒. การเผชิญหน้าตอนแรก ก็จะเห็นจุดประสงค์ของทั้งสองฝ่ายได้ชัดเจนพอสมควร แต่ต่อมาภายหลัง ๑๐ กว่าวัน ก็เห็นแล้วว่าการเผชิญหน้านั้น เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างมาก จนกระทั่งผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม ก็จะเสียทั้งนั้น เพราะว่าทำให้มีความเสียหายในทางชีวิตเลือดเนื้อของคนจำนวนมากพอสมควร แล้วก็มีความเสียหายทางวัตถุ ซึ่งเป็นของส่วนราชการและส่วนบุคคล เป็นมูลค่ามากมาย

    นอกจากนั้นก็มีความเสียหายในทางจิตใจและในทางเศรษฐกิจของประเทศชาติอย่างที่จะนับคณาไม่ได้ ฉะนั้นการที่จะเป็นไปอย่างนี้ต่อไป จะเป็นด้วยเหตุผลหรือต้นตอใดก็ช่าง เพราะเดี๋ยวนี้เหตุผลเปลี่ยนไป ถ้าหากว่าเผชิญหน้ากันแบบนี้ต่อไป เมืองไทยมีแต่ล่มจมลงไป แล้วก็จะทำให้ประเทศไทยที่เราสร้างเสริมขึ้นมาอย่างดีเป็นเวลานาน จะกลายเป็นประเทศที่ไม่มีความหมาย หรือมีความหมายในทางลบอย่างมาก ซึ่งก็เริ่มปรากฏผลแล้ว

    ฉะนั้นจะต้องแก้ไข โดยที่ดูว่ามีข้อขัดแย้งอย่างไร แล้วก็พยายามที่จะแก้ไขตามลำดับ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ ปัญหาที่มีอยู่ทุกวันนี้ สองสามวันนี้มันเปลี่ยนไป ปัญหาไม่ใช่เรื่องของที่เรียกว่าการเมือง หรือเรียกว่าของการดำรงตำแหน่งอะไร มันเป็นปัญหาของการสึกหรอของประเทศชาติ ฉะนั้นจะต้องช่วยกันแก้ไข"

    ------------------

    สุดท้าย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาโครงการ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของหนังสือชุดนี้ว่า

    “ตลอดระยะเวลากว่า ๖๐ ปี ที่ทรงครองราชย์ พระองค์ได้ทรงสั่งสอนประชาชนพสกนิกร ในแง่มุมต่างๆ ทั้งในด้านการพัฒนาประเทศ ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นประโยชน์ ควรค่าแก่การรวบรวมและเผยแพร่...นับเป็นองค์ความรู้ที่เงินทองก็ไม่เทียบเท่าคุณค่าของความหมายที่เป็นมงคล”


    นอกจากความหมายเลอค่าในวโรกาสมหามงคล เหตุการณ์สำคัญในแต่ละยุคแล้ว คุณธรรมที่ “พ่อ” ปลูกฝังแก่ลูกๆ ตลอดกึ่งศตวรรษที่ผ่านมา อันว่าด้วยความสามัคคี มีน้ำใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ก็ได้รับการบันทึกไว้อย่างครบถ้วนในหนังสือชุดนี้ด้วยเช่นกัน

    --------------
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ที่สุดแห่งความทรงจำของพสกนิกร
    http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9500000144161
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 ธันวาคม 2550 07:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=337 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=337>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 80 พรรษา คอลัมน์ชวนอ่านขอแนะนำนิตยสารที่มีรูปเล่มงดงาม เข้ากับวาระอันสำคัญมาฝากท่านผู้อ่านให้ได้เลือกดูเลือกชมกันตามแต่ความสนใจ


    ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือน ธ.ค. โดดเด่นด้วยพื้นปกสีชมพูสดใส ส่งให้ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์แลดูงดงาม อ่อนโยน ชวนให้น่าหยิบจับขึ้นมาเปิดอ่าน เนื้อหาข้างในยังคงมากด้วยสาระและเรื่องราวที่น่าสนใจหลายเรื่อง อาทิ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ เถลิงพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ในโลกตะวันตก โดย ไกรฤกษ์ นานา, จากมหากาพย์และเทวนิยาย ถึงพระผู้เป็นนายแผ่นดิน : การ “สืบ” และ “สร้าง” ความหมายของพระเจ้าแผ่นดินไทย ผ่านซุ้มเฉลิมพระเกียรติ 60 ปี ครองราชย์ โดย อภิลักษณ์ เกษมผลกูล และพระพี่นาง โดยศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=349 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=349>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    LIPS ฉบับนี้ ยังคงคอนเซ็ปต์งดงามอลังการภาพกราฟฟิกสวยหรู เป็นพื้นหลังรองรับภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงโบกพระหัตถ์ แย้มสรวลเล็กน้อย ดูงดงามยิ่งนัก รอยแย้มพระโอษฐ์ของพระเจ้าอยู่หัว, รอยพระบาททรงยาตรา (เรื่องเล่าจากองคมนตรี) และเรื่องเล่าจากภาพเล่าเรื่อง พระเจ้าอยู่หัวในดวงใจ อนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง ช่างภาพมากฝีมือ คือความโดเด่นของลิปส์ในเดือนแห่งการเฉลิมพระเกียรตินี้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=346 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=346>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นี้
    ** นิตยสารแก้จนประจำเดือนธันวาคมก็สวยงามไม่แพ้ใคร เพราะได้ รักกิจ ควรหาเวช กราฟฟิกดีไซเนอร์ที่เชื่อมือได้ มารับหน้าที่ออกแบบปก ฉบับนี้ทีมงานแก้จนพาผู้อ่านร่วมซาบซึ้งในพระปรีชาภาพ ปราชญ์แห่งน้ำ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่านสารคดีดนตรีเล่าเรื่อง “น้ำคือชีวิต” นอกจากนั้น ยังมีเรื่องราวอีกมากที่น่าอ่านไม่แพ้กัน อาทิ ไอเดียเจ๋งๆ ของนักธุรกิจหนุ่มที่นำเอาขยะมารีไซเคิลเป็นของแต่งบ้านได้อย่างสร้างสรรค์

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=341 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=341>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นิตยสาร แพรว เล่มล่าสุด ภูมิใจนำเสนอ บทความเทิดพระเกียรติ เรื่อง
    “พ่อผู้พอเพียง” ที่ทิ้งท้ายไว้ด้วยคำถามน่าคิด ว่าเราทุกคนคิดเดินตามรอยที่พ่อแผ้วถางไว้บ้างหรือไม่ ?

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=340 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=340>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    at office นิตยสารสำหรับหนุ่มสาวคนทำงาน มีสกู๊ปที่น่าสนใจ เรื่อง
    “พระราชภาระ ที่ไม่มีกษัตริย์ชาติใดเสมอเหมือน”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ปิดท้ายด้วยหนังสือ “80 พรรษา พระบรมฉายาลักษณ์ ที่สุดแห่งความทรงจำของพสกนิกรชาวไทย” ที่นอกจากภาพสี่สีสวยๆ ตลอดทั้งเล่มแล้ว ยังมีตัวแทนปวงชนชาวไทยอีก 80 ชีวิตจากหลากหลายอาชีพ หลายวงการ มาร่วมถ่ายทอดถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...