พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    เบื้องหลังหลายๆเรื่อง ผมเองก็ทราบมา แต่คงนำมาออกอากาศไม่ได้

    ต้องผู้ที่ดูเป็นแล้วถึงจะทราบว่า อะไรเป็นอะไรสำหรับรูปภาพพระพิมพ์ หรือ พระบูชาต่างๆครับ


    .
     
  2. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    จริงดังคำพี่ท่านว่าคนสมัยก่อนมีความรู้แถมคู่คุณธรรม แหมงานนี้คุณพี่หนุ่มงานเข้าอีกจนได้ 555 สำหรับพี่หนุ่มผมคิดว่าพี่ท่านมีเมตตาสูงแต่สำหรับผู้รับผมคิดว่าก็ต้องแล้วแต่วาสนาบารมี ของบางอย่างอยู่กับผู้นั้นได้แต่พอให้อีกท่านไปกลับรักษาไว้ไม่ได้ ข้อนี้คุณพี่หนุ่มทราบดีพี่ท่านจึงคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาอยู่แล้วละครับ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของผู้รับเสมอ แต่ผู้ขอย่อมเป็นที่เกลียดชังของผู้ให้ ข้อนี้ครูบาอาจารย์ผมสอนเน้นย้ำเสมอมาและผมจะรับมาจดจำเสมอครับ ดีใจจริงๆที่ได้พี่ๆท่านผู้รู้จริงๆคอยแนะนำให้ไม่หลงทางเสมอมา ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาสวัสดีท่านน้อง<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปฐมครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    สมัยก่อน เทคโนโลยีการเรียนรู้ การเผยแพร่ข้อมูลไม่รวดเร็วแบบปัจจุบัน กว่าจะได้ความรู้แต่ละเรื่องต้องลงทุนลงแรงมากครับ สมัยนี้หากสนใจในเรื่องราวใดๆ การค้นคว้าหาข้อมูลไม่ได้ยากเย็นมากนักเหมือนสมัยก่อน อยู่ที่ความตั้งใจ สนใจมากกว่า แต่ภูมิต้านทานสู้คนรุ่นแรกๆที่มีความสนใจใฝ่รู้เป็นทุนเดิมไม่ได้ เพราะนั่นเขาต้องถูกลองผิด

    [​IMG]

    อย่างพิมพ์นี้ก็เป็นของกรุพระราชวังสีทา พิมพ์ราชกุมาร ลองขอพี่หนุ่มนะ พี่หนุ่มยังไม่เคยเผยแพร่ในที่ใด ถึงเผยแพร่ก็จะมีอักษรแสดงสิทธิ์ทับไปหมด
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]

    [​IMG]

    พิมพ์นี้หรือครับลุงเพชร ม่ายเห็นรู้จักเลยครับ เค้าเรียกพิมพ์ราชกุมาร หรือครับ จาได้นำไปสอนตาลุงบ้างครับ หุ หุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ตาลุงเอาอีกแล้ว สายลับกระจอกข่าวสืบมาว่า ตาลุงมีพิมพ์ราชกุมารเยอะ..หุ..หุ.. เดี๋ยวซักครู่ตาลุงจะฝากกูรูมาลง..หุ..หุ..ถามอะไรไปตาลุงเขามีหมด รู้หมด...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    มีหลังไมค์มาให้แก้ไข จากพิมพ์ราชกุมร เป็นพิมพ์หลวงปู่บุญ ครับ ผมก็ยังลองผิดลองถูกอยู่นั่นเอง ฝีมือตกครับ ขออภัยๆ แต่ก็ถือหลอกล่อให้ท่านผู้ชมจะได้ชมพิมพ์ราชกุมารอย่างแน่นอน ตาลุงจะฝากกูรูมา หรือพี่หนุ่มจะนำมาลงก็ติดตามชมกันครับ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    **********

    [​IMG]

    พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ของวังหน้า แต่หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ท่านได้นำพิมพ์นี้ไปใช้ที่วัดกลางบางแก้วครับ

    พิมพ์ราชกุมาร เป็นอีกพิมพ์หนึ่ง ส่วนรูปไว้ผมส่งให้ชมทาง Email หรือว่า สอบถามท่านน้อง<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->คนดัง ได้ครับ

    -------------------------------------------------------------------


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    พระปิดตากรุพระราชวังสีทา กรุนี้ยังไงก็ทันพระเจ้าอยู่หัวพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว.. เคยลงให้ทำบุญสร้างถนนกันแล้ว 2 ภาพนี้ย่อเล็กลง ตาดีก็copy ไปลองหาดูแถวท่าพระจันทน์ หากมั่นใจว่า กรุนี้จะกองเป็นภูเขา..หุ..ห....
    [​IMG] [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ตาลุงบอกเคยลงไปแล้วครับ ที่ถามว่ามาจากลุงหนุ่มปล่าวปรากฎมาจากแหล่งอื่นครับ แบบนี้ช่ายปล่าวครับ หุ หุ
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พิมพ์นี้ เป็นพิมพ์ที่สร้างที่วังหน้าเช่นกัน

    ปัจจุบันมีปลอมเยอะมากครับ

    ผมเคยนำไปสอบถามกับปู่ ปู่บอกว่า เป็นพระฤาษี(ที่อยู่ในคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) ) ท่านอธิษฐานจิตครับ


    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    เห็นหรือเปล่าครับ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->:::เพชร::: และคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nongnooo มาทีไร พาพวกมาเยอะทุกรอบเลย


    [​IMG] [​IMG] พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... (29 คน กำลังดูอยู่) ([​IMG] 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)


    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พิมพ์นี้ก็สร้างหลายๆครั้ง มีหลายพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงครับ


    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    สื่อจีนเผยภาพ 12 ชั่วโมงสุดท้ายของนักโทษก่อนถูกประหาร




    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ifeng.com

    เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน เว็บไซต์ไชน่าสแม็คของจีน ได้เผยแพร่ภาพของนักโทษหญิงชาวจีนทั้ง 4 คน ซึ่งในวันที่ 24 มิถุนายน 2546 นักข่าวได้รับอนุญาตให้เข้าไปบันทึกภาพได้ในสถานกักกันแดน 1 เมืองวูฮัน ก่อนจะมีการประหารชีวิตภายใน 12 ชั่วโมงข้อหากระทำผิดลักลอบขนส่ง และค้ายาเสพติด

    ตามรายงานระบุว่า สื่อมวลชนได้รับการอนุญาตเข้าไปบันทึกภาพในสถานกักกัน แดนที่ 1 ในเวลา 21.00 น.ของวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2546 เพื่อให้ได้เห็นว่า คืนสุดท้ายของนักโทษทั้ง 4 คนนี้ต้องทำอะไรบ้าง



    [​IMG]

    ในคืนวันที่ 24 มิถุนายน ที่สถานกักกันแดน 1 นักโทษหญิงได ดองกุย ได้ลองสวมใส่เสื้อที่ผู้คุมซื้อมาให้ ตามคำขอร้องเธอ



    [​IMG]

    ไดดองกุย พับเสื้อผ้าใหม่ไว้บนที่นอนของเธอ เป็นเสื้อผ้าที่เธอขอร้องให้ผู้คุมซื้อให้ใส่ก่อนถูกประหารชีวิต



    [​IMG]

    เวลา 21.30 น. นักโทษหญิง ได ดองกุย ทานซุปถั่วเขียว และอาหารแม็คโดนัลด์ที่ถูกเตรียมไว้ให้



    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการป้อนลิ้นจี่ให้กับได ดองกุย ผู้ซึ่งกำลังจะถูกพาตัวไปยังแดนประหารอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า



    [​IMG]

    หลี จูฮัว นักโทษประหารหญิง ผู้ต้องหาลักลอบค้ายาเสพติด กำลังให้นักโทษทั่วไปจดความต้องการและพินัยกรรมต่าง ๆ ของเธอ



    [​IMG]

    22.07 น. เจ้าหน้าที่ 2 คนนั่งคุมนักโทษทั่วไปที่ร่วมเล่นไพ่ผ่อนคลายให้กับนักโทษประหาร 2 ราย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างสบาย ๆ ไม่ตึงเครียด



    [​IMG]

    นักโทษประหาร ฮี ซุ่ยหลิง ดูจะตื่นเต้นและแอบประหม่า จึงมีพูดติด ๆ ขัด ๆ บ้าง



    [​IMG]

    นักโทษประหาร ฮี ซุ่ยหลิง มีความสุข ได้หัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะต้องลาโลกใบนี้ไป ไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้



    [​IMG]

    ฮี ซุ่ยหลิง นักโทษประหาร ลองรองเท้าคู่ใหม่ที่จะสวมใส่ไปลานประหาร



    [​IMG]

    นักโทษคนอื่นทำการป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับฮี ซุ่ยหลิง ความผิดพลาดจากการค้ายาเสพติดลักลอบขนยาเสพติด 7,000 กรัม ทำให้หญิงวัย 25 ปี รายนี้ ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยที่ไม่มีโอกาสแก้ตัว



    [​IMG]

    22.40 น. ฮี ซุ่ยหลิง ร้องเพลงร้องขอถึงสวรรค์ อ้อนวอนโอกาสอีกครั้งเพื่อเธอจะสามารถกลับไปแก้ไขโชคชะตาใหม่ได้



    [​IMG]

    เช้าวันที่ 25 มิถุนายน เวลา 05.40 ที่แดนกักกัน 1 บรรยากาศเงียบสงบ ในภาพเห็นนักโทษทั่วไปหญิงกำลังเอาน้ำไปให้นักโทษประหารล้างหน้าในตอนเช้า



    [​IMG]

    06.00 น. ตำรวจหญิงอนุญาตให้นักโทษทั่วไปรายอื่น ช่วยทาสีเล็บเท้าให้กับหลี จูฮัว นักโทษประหาร



    [​IMG]

    06.07 น. ก่อนการประหารจะเริ่มขึ้น นักโทษจัดเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้า เวลาใกล้เข้ามาทุกที



    [​IMG]

    06.11 น. นักโทษหญิง ฮี ซุ่นหลิง กำลังสวมใส่เสื้อผ้า โดยผู้คุมขังได้ลองทาบให้ ว่าชุดไหนเหมาะกับเธอก่อนเวลาจะใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ



    [​IMG]

    06.17 น. ฮี ซุ่ยหลิง และมา ชิงชุย รับประทานอาหารเช้าตามที่พวกเธอชอบ ที่ครั้งนี้จะเป็นอาหารมื้อสุดท้าย



    [​IMG]

    06.29 น.และแล้วเวลาประหารใกล้เข้ามาถึง ฮี ซุ่ยหลิง เก็บอาการไม่อยู่ร้องไห้ออกมา ต้องใช้ทิชชู่คอยซับน้ำมูกน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ยั้ง



    [​IMG]

    06.30 น. ก่อนการประหาร ฮี ซุ่ยหลิง ทำการจัดแต่งทรงผมให้สวยงาม เจ้าหน้าที่นำเจลแต่งผมมาให้เธอ ได้เห็นรอยยิ้มของเธออีกครั้ง



    [​IMG]

    มา ชิงชุย นักโทษวัย 49 ปี นักโทษประหาร ที่ต้องคดีลักลอบขนยาเสพติด 2,300 กรัม ถูกนำตัวเดินออกจากห้องขังชั่วคราว เพื่อส่งตัวไปยังแดนประหาร



    [​IMG]

    07.21 น.เจ้าหน้าที่ทำการส่งตัวไปยังแดนประหาร ทำการถอดกุญแจมือ และโซ่ล่าม เพื่อให้เจ้าหน้าที่แดนประหารได้ล่ามโซ่อันใหม่



    [​IMG]

    09.45 น. ท่ามกลางสื่อมวลชนมาบันทึกภาพ ขณะผู้คุมคุมตัว ฮี ซุ่ยหลิง หนึ่งในสี่นักโทษประหาร มายังลานประหาร เธอเป็นคนเดียวที่ร้องไห้ออกมา ด้วยความที่่เธอเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุด


    -http://hilight.kapook.com/view/65262-

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    'บีเอส' จุลินทรีย์ฆ่ายุงรำคาญตัวร้าย...ตายเรียบ

    วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2554 เวลา 08:20 น.



    หลายคนคงได้ติดตามการรายงานข่าวภาวะน้ำท่วมใหญ่ใจกลางเมืองหลวงของไทย ผ่านทางสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ระดับน้ำหลายพื้นที่ลดลง คิดว่าปัญหาน่าจะเบาบางลงบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เลย เพราะในความเป็นจริงที่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมต้องประสบพบเจอ นอกจากปัญหาข้าวของเครื่องใช้เสียหาย ไหนจะเชื้อราหรือสารพัดสิ่งสกปรกที่เปรอะเปื้อนทิ้งไว้เป็นคราบให้ได้รู้สึก เหนื่อยอกเหนื่อยใจกับการปรับปรุงซ่อมแซมกันครั้งใหญ่แล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายพื้นที่ชุมชนต้องประสบอยู่เป็นปัญหาใหญ่ที่ทั้งหนักหนาและ สาหัส นั่นคืออาการคันที่ไม่ได้มาจากเชื้อราใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เป็น “ยุง” สัตว์ที่ร้ายกว่าเสือ และมีอยู่ชุกชุมมากผิดปกติในช่วงนี้นั่นเอง
    ข้อมูลตามการบอกเล่าของ ศ.ดร.วัฒนาลัย ปานบ้านเกร็ด อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เกี่ยวกับยุงที่มีมากในระยะนี้ว่า ส่วนใหญ่เป็นยุงรำคาญ จะพบเกิดขึ้นในชุมชนที่มีน้ำเน่าขังจะมีลักษณะตัวเล็กแต่กัดเจ็บเหลือเกิน โทษร้ายของมันสามารถเป็นพาหะในการนำเชื้อโรคโรคเท้าช้างและโรคไข้สมองอักเสบ มาสู่คนได้ แต่ภัยของมันที่ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นความรำคาญ เพราะอาการคันที่เกิดจากการถูกกัด
    “การแพร่พันธุ์ของยุงชนิดนี้ทำได้ไวไม่แพ้ยุงสายพันธุ์อื่น คิดดูว่าโดยปกติยุงรำคาญตัวเมียมีชีวิตอยู่ได้เป็นเดือนและสามารถวางไข่ใน น้ำได้ทุก 2 วัน ส่วนยุงตัวผู้จะอยู่นาน 7 วันตามวงจรชีวิตของมัน และแม้ว่ายุงจะใช้เวลาราว ๆ 10 วันกว่าจะเจริญเติบโต แต่ต้องไม่ลืมว่าปริมาณในการวางไข่ได้แต่ละครั้งมีจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาวะที่มีแหล่งเพาะพันธุ์ คือน้ำเน่า น้ำขังเต็มไปหมด ก็ยิ่งช่วยให้เพิ่มปริมาณยุงได้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ”
    แน่นอนว่าวิธีเบื้องต้นที่ใช้จัดการกับเจ้ายุงร้ายในบ้านเรือนคือการฉีด พ่นยาฆ่าแมลง แต่เนื่องจากปริมาณของยุงมีมาก และยังสามารถเกิดได้เรื่อย ๆ แบบนี้ วิธีที่เหมาะสมกว่าคือการกำจัดต้นตอของยุงตั้งแต่แรกเกิด..
    ศ.ดร.วัฒนาลัย กล่าวว่า ด้วยลักษณะการวางไข่ของยุงรำคาญ จะวางไข่เป็นแพบนผิวน้ำ ดังนั้นจึงง่ายต่อการกำจัดด้วยการฉีดพ่นเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า บีเอส “BS” หรือ Bacillus sphaericus ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง สามารถสร้างสารพิษที่ไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์ สิ่งแวดล้อม และเป็นสารพิษที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกแล้วถึงประสิทธิภาพใน การควบคุมปริมาณยุงรำคาญได้
    “เนื่องจากธรรมชาติของลูกน้ำยุงจะกินอาหารในลักษณะดูดน้ำเข้าไปและกิน แบคทีเรีย ยีสต์ และสาหร่ายเล็ก ๆ ที่ดูดเข้ามาพร้อมกับน้ำเป็นอาหาร โดยหากินและขึ้นมาหายใจอยู่ในระดับผิวน้ำ ดังนั้นการควบคุมลูกน้ำยุง จึงควรฉีดพ่นเชื้อให้กระจายบนผิวน้ำ หรืออาจใช้ของแขวนลอย เช่นฟองน้ำชุบเชื้อวางลงไปบนผิวน้ำที่เห็นมีลูกน้ำยุงว่ายอยู่ ซึ่งภายหลังจากที่ลูกน้ำยุงดูดกินเชื้อเข้าไป หากกินเข้าไปมากก็จะตายภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่ถ้ากินเชื้อเข้าไปน้อยลูกน้ำยุงจะตายภายใน 1-2 วัน ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ หากปริมาณน้ำท่วมขังลึกสูง เชื้อแบคทีเรียที่ฉีดพ่นอาจจมทำให้ต้องมีการฉีดพ่นซ้ำบ่อยครั้ง จากปกติที่ต้องใส่เชื้อเดือนละครั้งหรือทุก 2 สัปดาห์ กรณีที่เห็นว่ามีลูกน้ำยุงรำคาญเพิ่มขึ้นมา”
    สำหรับแบคทีเรียบีเอส ที่กล่าวถึงนี้ ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานในการดำเนินการ เริ่มตั้งแต่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มอบงบประมาณ 4 แสนบาทสำหรับการว่าจ้างบริษัทเอกชนในการผลิตเพื่อเพิ่มปริมาณเชื้อ ให้ได้จำนวน 7 พันลิตร หรือคิดเป็นปริมาณการใช้งานจริงได้ประมาณ 60 ชุมชน ขนาดชุมชนละ 300-400 หลังคาเรือน พื้นที่แต่ละหลังคาเรือนประมาณ 25x30 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังให้ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ จากนั้นคณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จะลงพื้นที่เพื่อทดสอบฤทธิ์ในการฆ่าลูกน้ำยุงรำคาญต่อไป
    “อย่างไรก็ตามการผลิตเชื้อบีเอส เพื่อลดปริมาณลูกน้ำยุงรำคาญ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นการสุ่มตัวอย่างพื้นที่ดำเนินการ โดยกรมควบคุมโรคจะเลือกพื้นที่ 60 ชุมชน ในจังหวัดปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยา ที่มีชุมชนเครือข่ายซึ่งสามารถที่จะช่วยเก็บข้อมูลประกอบการทดลองใช้ ผลิตภัณฑ์เพื่อวัดผลสำเร็จของการดำเนินการ ส่วนการผลิตเชื้อบีเอส เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไป คาดว่าต้องใช้งบประมาณ 2-3 ล้านบาท หากได้รับการอนุมัติก็จะสามารถเร่งผลิตได้ทันต่อการใช้งานจริงภายในเดือน ธันวาคมนี้”
    ในขณะที่ รศ.ดร.ชำนาญ อภิวัฒนศร หัวหน้าภาควิชากีฏวิทยาการแพทย์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล เล่าว่า จากการทดสอบประสิทธิภาพของเชื้อบีเอสในเบื้องต้น บริเวณพื้นที่ ม.มหิดล ศาลายา นครปฐม พบว่าเชื้อดังกล่าวใช้ได้ผลดี โดยดูจากการสำรวจตัวอย่างน้ำก่อนฉีดพ่นเชื้อ จะพบว่าในน้ำจากแหล่งน้ำท่วมขัง 1 กระบวย หรือคิดเป็น 1 หน่วย พบปริมาณลูกน้ำราว 200-300 ตัว และเมื่อฉีดพ่นเชื้อแบคทีเรียแล้วตรวจวัดซ้ำในเวลาไม่กี่ชั่วโมงพบว่าปริมาณ ลูกน้ำยุงลดลงประมาณ 100 ตัว และภายใน 1-2 วันเห็นผลได้จริงว่าลูกน้ำยุงตายทั้งหมด
    “ทั้งนี้คงต้องมีการประชาสัมพันธ์ด้วยว่า เชื้อดังกล่าวใช้กำจัดได้เฉพาะลูกน้ำยุงรำคาญเท่านั้น ขณะที่เรายังคงตรวจสอบอยู่ว่าแหล่งน้ำขังที่ได้มีการฉีดพ่นเชื้อและทำลายลูก น้ำยุงไปแล้ว นานเท่าใดกว่าที่ยุงจะสามารถบินกลับมาวางไข่ซ้ำได้ นอกจากนี้การฉีดพ่นเชื้อเพื่อฆ่าลูกน้ำยุง ชาวบ้านจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในระยะแรก เนื่องจากไม่ได้ลดปริมาณของยุงที่เป็นตัวโตเต็มวัย ดังนั้นหากจะให้ได้ผลรวดเร็ว จะต้องมีการฉีดพ่นหมอกควันเพื่อกำจัดยุงรำคาญ โดยปัญหาอยู่ที่การทำความเข้าใจการฉีดพ่นว่าต้องทำในเวลากลางคืนเท่านั้น เพราะเป็นเวลาที่ยุงจะออกหากิน หากสามารถใช้ 2 วิธีนี้ควบคู่กันก็จะยิ่งลดปริมาณยุงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
    แต่อย่างไรก็ตามยังมีข่าวดีและข่าวร้ายอีกนิดเกี่ยวกับการคงอยู่ของเจ้า ยุงรำคาญในช่วงนี้ ข่าวร้ายคือจากการสำรวจในพื้นที่พบยุงชนิดนี้สามารถบินได้ไกลถึง 3 กิโลเมตร ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะยังพบยุงบินมาจากแหล่งอื่นเพื่อสร้างความรำคาญ ส่วนข่าวดีคือยุงชนิดนี้เกิดและเจริญเติบโตเฉพาะน้ำขังและเน่าเหม็น ดังนั้นหากมีระบบการระบายน้ำที่ท่วมขังออกได้ ปัญหานี้ก็จะหมดไปในที่สุด
    เช่นกัน.
    จินดาวัฒน์ ลาภเลี้ยงตระกูล



    -http://www.dailynews.co.th/education/1257-

    .
     
  9. kantamatt

    kantamatt สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    เรื่องของการตอบแทนพี่ที่ขอให้ผมปฏิบติโดยการจงรักภักดีตอบแทนทุนประเทศไทย, ช่วยปกป้องศาสนาพุทธ และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น
    ทั้งหมดนั้นเป็นอาชีพของผมครับ และผมก็ยึดอาชีพนี้มาตั้งแต่ปี 2529 แล้วครับ
    และก็มีสิ่งที่ดี ๆ มาแนะนำให้ผมอีก คือการไหว้ 5 ครั้ง แถมยังเอาคอเป็นประกันอีก อย่างนี้จะไม่ทำได้ยังไง ผมจะทำตามที่แนะนำมาครับ ก็ต้องขอขอบคุณพี่มาก ขอบคุณครับ
     
  10. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    สวยงามจริงๆครับ หาดูยาก โมทนาสาธุด้วยครับที่ได้ครอบครอง

    ขอบคุณครับที่ลงภาพให้ชมครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ต้องขอโมทนาบุญทุกอย่างครับ



    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ข้าวผัด 1 จานของในหลวง ที่ทำให้คนไทยอิ่มใจ




    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก [ame="http://www.youtube.com/watch?v=M9Jbg0jTCF0&feature=player_embedded"]Youtube.com โพสต์โดย fonchonrat [/ame]

    เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ทางกระทรวงพลังงาน ได้ผลิตภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในชื่อ "ข้าวผัดอิ่มใจ" ...ภาพยนตร์ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นต้นแบบแห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยแท้จริง

    เนื้อหาของภาพยนตร์ดังกล่าว เป็นพระราชกรณียกิจที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จากคำบอกเล่าของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ย้อนกลับไปเมื่อ 27 ปีที่แล้ว ใน วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2527 บ่ายวันนั้นทีมงานทุกคนไปถึงที่นั่นและยังไม่มีใครได้กินข้าว ในโรงครัวมีเหลือเพียงข้าวผัดติดก้นกระบะ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเสวยเพียงข้าวผัดแห้ง ๆ ที่รับสั่งให้คนตักไว้เท่านั้น ทั้งที่พระองค์ทรงเป็นถึงพระเจ้าแผ่นดิน จะรับสั่งให้ทำใหม่เท่าไรก็ได้

    ...จะเห็นได้ว่า พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยทรงเป็นแบบอย่าง และแรงบันดาลใจให้พวกเราทุกคนรู้จักคุณค่าของสิ่งของทุกสิ่ง เพราะเพียงข้าวผัด 1 จาน ก็ต้องใช้ ต้องสิ้นพลังงานเช่นกัน...

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=M9Jbg0jTCF0&feature=player_embedded"]"?????????????" ?????????????? - YouTube[/ame]


    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ






    "ข้าวผัดอิ่มใจ" กระทรวงพลังงาน

    -http://www.youtube.com/watch?v=M9Jbg0jTCF0&feature=player_embedded-

    -http://hilight.kapook.com/view/65305-
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อัญเชิญ พระทันตธาตุ-ภูฏาน ประดิษฐานสนามหลวง


    อัญเชิญ"พระทันตธาตุ"จากภูฏานประดิษฐานสนามหลวง



    [​IMG]




    [​IMG]


    เวลา 16.40 น. วันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ คณะสงฆ์ ข้าราชการ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนทั่วไป ร่วมพิธีอัญเชิญพระทันตธาตุจากราชอาณาจักรภูฏาน ประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในราชอาณาจักรไทย เฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา

    โดยมีน.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้อนรับคณะผู้แทนรัฐบาลราชอาณาจักรภูฏานผู้อัญเชิญพระทันตธาตุ ประกอบด้วยนายเดโช ซังเก วังชุก องค์คมนตรี ผู้แทนสมเด็จพระราชาธิบดีราชอาณาจักรภูฏาน และซัมเตน ดอจิ จูกลา โลเปน หัวหน้าคณะผู้อัญเชิญพระทันตธาตุ

    จากนั้นอัญเชิญพระทันตธาตุประดิษฐานเข้าพัก ณ ห้องรับรองพิเศษ ก่อนอัญเชิญพระทันตธาตุประดิษฐานขึ้นรถบุษบกอัญเชิญออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ โดยขบวนรถเดินทางไปบริเวณแยกคอกวัว ถนนราชดำเนินนอก ในช่วงดังกล่าวขบวนปรับเป็นให้รถวิ่งช้า มีวงโยธวาทิตบรรเลงนำหน้าขบวน ส่วนบริเวณสองฟากถนนมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมถวายสักการะพระทันตธาตุ

    ทั้งนี้ คณะสงฆ์ คณะรัฐมนตรี และคณะทูตานุทูตจากประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา รวมทั้งคณะกรรมการจัดงานและพุทธศาสนิกชน ต้อนรับขบวนอัญเชิญพระทันตธาตุที่เดินทางถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

    เวลา 18.30 น. นพ.สุรวิทย์ อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนบุษบกและถวายสักการะหน้าบุษบกที่ประดิษฐานพระทันตธาตุ โดยมีพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เป็นเสร็จพิธี

    น.พ.สุรวิทย์กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคลเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฎานเสด็จฯ ไทย เมื่อเร็วๆ นี้ พระองค์รับสั่งต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าราชอาณาจักรภูฎาน มีความเต็มใจที่ให้ประเทศไทยได้อัญเชิญพระทันตธาตุของพระกัสสปะพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 ประดิษฐานประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ให้ประชาชนชาวไทยมีโอกาสสักการะเป็นสิริมงคลกำลังใจ

    เนื่องในปีแห่งมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนชาวไทยมีกำลังใจที่เข้มแข็งในภาวะที่ประเทศไทยได้รับภัยพิบัติจากอุทกภัยครั้งใหญ่ไปได้ พระทันตธาตุองค์นี้ได้เก็บรักษาไว้ในพระบรมมหาราชวังแห่งภูฏาน ยังไม่เคยได้รับให้นำออกไปต่างประเทศ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้อัญเชิญจากประเทศภูฏานมาประดิษฐานในประเทศไทย นับเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ราชวงศ์ไทยกับภูฏาน ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่พี่น้องประชาชนชาวไทยจะได้สักการะพระทันตธาตุ





    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU1qZ3pOems1T1E9PQ==&sectionid=-



    -------------------------------------------------------------------



    [​IMG]

    นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
    ผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

    อัญเชิญ พระทันตธาตุ จากราชอาณาภูฏาน ประดิษฐาน ณ สนามหลวง เพื่อเป็นโอกาสอันดีให้ชาวไทยได้สักการะ และเสริมสิริมงคล

    วานนี้ (2 ธันวาคม) ทีท่าอากาศสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคณะสงฆ์ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ร่วมพิธีอัญเชิญพระทันตธาตุจากราชอาณาจักรภูฏาน มาประดิษฐานชั่วคราวที่ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา

    โดยมี น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ต้อนรับคณะผู้แทนรัฐบาลจากราชอาณาจักรภูฏาน จากนั้นได้อัญเชิญพระทันตธาตุประดิษฐานเข้าพัก ณ ห้องรับรองพิเศษ ก่อนอัญเชิญพระทันตธาตุประดิษฐานขึ้นรถบุษบกอัญเชิญออกจากท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ โดยขบวนรถเดินทางไปบริเวณแยกคอกวัว ได้มีวงโยธวาทิตบรรเลงนำหน้าขบวน ส่วนบริเวณสองฟากถนนมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาร่วมถวายสักการะพระทันตธาตุ และเมื่อไปถึงยังท้องสนามหลวง นพ.สุรวิทย์ ได้อัญเชิญพระทันตธาตุขึ้นประดิษฐานบนบุษบกน โดยมีพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เป็นเสร็จพิธี

    ทั้ง นี้ น.พ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคลเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฎานเสด็จมาเยือนไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้ พระองค์ได้รับสั่งต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ราชอาณา จักรภูฎาน มีความเต็มใจที่ให้ประเทศไทย ได้อัญเชิญพระทันตธาตุของพระกัสสปะพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 มาประดิษฐานประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ให้ประชาชนชาวไทยได้มีโอกาสสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคล และกำลังใจ

    นอกจากนี้ น.พ.สุรวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า เนื่องในปีแห่งมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนชาวไทย มีกำลังใจที่เข้มแข็งในภาวะที่ประเทศไทยได้รับภัยพิบัติจากอุทกภัยครั้งใหญ่ ไปได้ ทาง ราชอาณาจักรภูฎาน ได้เก็บพระทันตธาตุองค์นี้ไว้ยังไม่เคยได้รับให้นำออกไปต่างประเทศ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่ได้อัญเชิญจากประเทศภูฏาน มาประดิษฐานในประเทศไทย ถือว่าเป็นความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ราชวงศ์ไทยกับภูฏาน และเป็นโอกาสอันดีที่พี่น้องชาวไทย จะได้สักการะพระทันตธาตุ



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    [​IMG]

    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU1qZ3pOems1T1E9PQ==&sectionid=-

    -http://hilight.kapook.com/view/65303-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3-1.JPG
      3-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      1,379
    • 3-2.JPG
      3-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.8 KB
      เปิดดู:
      1,359
  15. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เปิดได้แล้วครับ ลุงหนุ่ม รูปแรกผมว่างั้นๆนะครับ ส่วนรูปที่2 นี่สุดยอด แม้ว่าเหมือนกระดาษปกติแต่กระแสพุ่งเข้าปวดหัวมากเลยครับ หุ หุ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า หากต้องการที่จะได้ ผมจะส่งให้ทางEmail ครับ

    สำหรับท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้าท่านใด มีความประสงค์ที่ต้องการจะได้ แจ้งผมมา ผมจะส่งให้ทางEmail ครับ

    ส่วนรูปเป็นอะไร ขอไม่แ้จ้งบนบอร์ดครับ


    :cool: :cool: :cool: :cool: :cool:

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...