พระกรุฮอดแห่งอาณาจักรล้านนาอายุ 1,300 ปี

ได้ความรู้เยอะเลยครับกระทู้นี้

 

เห็นด้วยครับว่าเป็นการทำครอบพระเศียรในภายหลังครับ พี่ถึงบอกว่าศิลปะมีลักษณะขัดกับยุคสมัย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ลำพูน อยู่ภายในพระบรมธาตุหริภุญชัยหรือ น่าสนใจครับจะต้องหาโอกาสไปที่นั่นชมศิลปะแล้วล่ะ

วัยรุ่นจำนวนน้อยนะครับที่จะสนใจเรื่องราวของโบราณที่ทรงคุณค่าทั้งทางโลก และทางธรรม อีกอย่างหนึ่งพี่ได้เคยเห็นการ post ของน้องSERAPHIM จากหลายๆกระทู้แล้ว ก็นับว่าพี่ไม่ได้กล่าวเกินจริงครับ...ขอชมเชยจากใจจริง งานบูรณะพระโมคคัลลานะช่วงหลังพรรษานี้พี่ต้องขอความรู้ของน้องแน่ๆ ทั้งการใช้แผน 1 และ 2 ครับ

 

(verygood)

 

โมทนาสาธุครับ น้องchaipat พี่เชื่อว่าน้องทำได้อย่างแน่นอน เห็นกันมานานหลายเดือนแล้ว ทำบุญแบบไม่หวังผลตอบแทนคือหลักการของน้อง chaipat อยู่แล้วนี่ครับ คนที่มีจิตใจมาถึงขั้นนี้ได้นับว่ามีน้อยคนครับเท่าที่เคยพบมามีไม่กี่คน ทรัพย์สินวัตถุธาตุเป็นเรื่องรอง การพบกันเป็นไปตามพรหมลิขิต การจากกันก็ได้ถูกหนดไว้หมดสิ้นแล้วเช่นกัน มนุษย์มีเวลาในชีวิตมากที่สุดตอนไหนหรือ? ตอบ ก็เมื่อเวลาที่เราเริ่มเกิดใหม่ๆจะมีมากที่สุด แล้วลดลงทุกเวลาทุกนาที เมื่อก่อนเคยสงสัยว่าเราทุกคนเป็นผู้ลิขิตชีวิตของเราเอง เราทุกคนก็ขวนขวายพยายามกันทุกเรื่องนะครับ ทำให้เราเชื่อว่า เราเติบโต ก้าวหน้าเพราะตัวของเราเอง จนวันหนึ่งได้พบเรื่องราวของศาสตร์ๆหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า"วิชา 8 เทวดา ๙ อรหันต์" ทำให้ความคิดเราเปลี่ยนไปจากเดิม แท้ที่จริงเราทุกคนเกิดมาตามผลกรรมที่ทำไว้ทั้งดี และไม่ดี การเกิดมานี้ก็เพื่อสร้างกรรมดี ชดใช้กรรม เราทุกคนถูกกำหนดมาให้มีหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วนั่นเอง รวมทั้งกำหนดเวลาตาย ตายเมื่อใด และตายด้วยอะไร ศาสตร์ความรู้ที่สูงกว่านั้น ต้องรอผู้มีบุญวาสนา มีคุณธรรม เพราะเส้นแบ่งบุญ และบาปมันชัดเจนมาก...

ผลทางตรงที่ได้ผลจากพระกรุฮอดนี้คือกสิณ นำมาใช้คู่กับการจับลมหายใจเข้าออก กำกับการภาวนาตามแนวทางของสำนักอาจารย์แต่ละคน เรียกว่าตามจริตละกันครับ ทั้ง 3 สิ่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกันกับภาพพระพุทธในจิตลอยเด่น เย็น สงบ จิตดำดิ่งดีครับ พี่ไม่ทราบว่าเป็นผลจากการที่เราฝึกการใช้พลังจิตใต้สำนึกด้วยหรือเปล่าที่มีเทคนิคการเข้าไปในคลื่น Alpha ได้อย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นพร้อมกัน หรือแทบจะไล่เลี่ยกันครับ...

 

พี่ขอจับคำๆหนึ่งในหลายประโยคมาสังเคราะห์เพิ่มนะครับ

...........

ซึ่งท่านได้ปฏิบัติชำระกำจัดกิเลส ตัณหา อวิชชาโมหะ
ความมืดบอดที่ครอบงำจิตใจจนหมดสิ้นไป ทำให้"รู้"เห็นสิ่งต่างๆ ที่บุคคลที่มีกิเลสตัณหา โมหะ อวิชชาครอบงำอยู่ไม่สามารถเห็น.....


คำว่า "รู้" นี้ตึความได้ 2 แบบใหญ่ๆด้วยกันคือ


1. "รู้"ว่าเรารู้(อะไร) และ"รู้"ว่า เราไม่รู้(อะไร) คนประเภทนี้พัฒนาตนเองไปสู่สภาวธรรมที่สูงขึ้นได้ คือรู้แจ้งแทงตลอดนั่นเอง


2. ไม่"รู้"ว่าไม่"รู้" คนประเภทนี้พัฒนายาก เพราะเข้าใจว่า"รู้"แล้วนั่นเอง คนประเภทนี้มักมีอัตตาสูง และเข้าใจว่าความอ่อนน้อมคือความอ่อนแอ


คนตาบอดมืดมิด ทราบได้อย่างไรว่า บุคคลที่กำลังติดต่อด้วยนั่นมีความรู้สึก ดี หรือ ไม่ดี หรือจริงใจ หรือไม่จริงใจ ได้อย่างไร ธรรมชาติ หรือประสบการณ์ทางจิตที่สร้างให้เขามีความสามารถพิเศษที่"รู้"ได้ดีกว่าคนตาดีๆ???


...........เพียงแต่ส่วนที่ดีของการมีเท่านั้น"

เพราะฉะนั้นผมจึงคิดว่า ไม่ให้ไปโลภไปอยาก เพราะไม่ใช่ความสุขจริงๆ จากการมี หรือเป็นความทุกข์จริงๆ จากการไม่มีนี้.......


"มี"คือสภาวะหนึ่ง


"ไม่มี"ก็คือสภาวะหนึ่งซึ่งก็ยังมีอยู่นั่นเอง หากความไม่มีอยู่เหนือความไม่มีจริงๆ นั่นคือสภาวธรรมที่ยกสูงขึ้นเหนือความไม่มีจริงๆ ซึ่งจริงแล้วมันไม่มีอยู่แต่เดิมแล้วนั่นเอง แต่เราไปสร้างให้มันมี และไม่มีขึ้น หากนำคำว่า"รู้"ในความหมายที่ 1 นี้มาพิจารณาควบคู่กับความมีความไม่มี จะนำไปสู่สภาวธรรมที่เรียกว่า "อนัตตา" คือความว่างจากอาสวะกิเลสทั้งปวงนั่นเองครับ...



โมทนาสาธุครับ

 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ลำพูน อยู่นอกวัดครับ ใกล้ๆกันกับวัดพระบรมธาตุ
แต่พิพิธภัณฑ์ของวัดก็ใช่ย่อยครับ รวมงานพุทธศิลป์ดีๆไว้มากมายไม่แพ้กันครับ
ส่วนเรื่องงานบูรณะพระอัครสาวกนั้นยินดีเต็มที่ครับ

 

ที่ลำพูนนี้พี่เคยไปสอบบัญชีที่บริษัทแห่งหนึ่งทำด้านผลิตยาสูบ ที่นั่นมีเครื่องถ้วยเซรามิกมากมาย อีกทั้งพระบรมธาตุก็ศักดิ์สิทธิ์ และสวยงาม เป็นดินแดนของพระแม่จามเทวีเลยนะ น่าเสียดายที่วันหยุดในสัปดาห์หน้ามี trip สิ้นสุดที่สุโขทัย ไปตามรอยพระร่วงเจ้า ยังไงคงได้ไปแน่

 

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>บทความหน้าสนใจครับ

คมเลนส์ส่องพระ
</TD></TR><TR><TD vAlign=top>20 กรกฎาคม 2550 20:39 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- *** ช่วงนี้ว่างเว้นงานประกวดพระไปหลายอาทิตย์ ทำเอานักส่งพระเข้าประกวดเหงาใจไปตามๆ กัน แต่สนามพระทุกแห่งก็ยังคงมีผู้สนใจเดินเข้าออกกันเป็นว่าเล่น แม้ว่ากระแสจตุคามฯ จะแผ่วเบา แต่นักสะสมพระกรุพระเก่ากลับสวนกระแสคึกคักขึ้นมาแทน

** "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้ขอนำเสนอพระองค์แรก คือ พระเชียงแสน พิมพ์สมาธิ กรุเมืองฮอด จ.เชียงใหม่ เนื้อแก้วจุยเจีย ซึ่งถือว่าเป็นรัตนชาติที่มีพลังอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเอง เป็นพลังที่สามารถปกป้องคุ้มครองภัยมิให้เป็นอันตรายแก่ผู้มีไว้สักการบูชา
** เมื่อปี ๒๕๐๒ ทางราชการมีโครงการสร้าง เขื่อนภูมิพล ที่ จ.ตาก อันจะเป็นสาเหตุทำให้ เมืองฮอด จ.เชียงใหม่ บางส่วนต้องจมอยู่ในน้ำ กรมศิลปากร จึงได้สำรวจองค์เจดีย์ทุกวัดในเมืองฮอด เพื่อนำพระพุทธรูปและโบราณวัตถุทั้งหมดมาเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ทำให้มีการขุดพบ พระแก้วจุยเจีย มากที่สุด นับเป็นการขุดพบครั้งใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ โอกาสนั้น สมพงษ์ สมวงษ์ เจ้าของโรงแรมศรีราชาลอดจ์ จ.ชลบุรี ขึ้นไปทำธุระที่เชียงใหม่ ก็ได้ไปดูการขุดหา พระแก้วจุยเจีย นี้ด้วย จึงได้เช่าบูชาพระแก้วจำนวนหนึ่งมาศึกษาเป็นความรู้ หนึ่งในนั้นคือองค์ในภาพนี้ นอกจากนี้ สมพงษ์ สมวงษ์ ยังได้พระหักชำรุดอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้นำมอบให้ ชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ เพื่อเป็นมวลสารในการผสมสร้าง จตุคามรามเทพ รุ่น "เทวาสองหลักเมือง" ใครที่ได้เช่าบูชาจตุคามฯ รุ่นนี้ จึงเท่ากับมี แก้วจุยเจีย กรุเมืองฮอด อันศักดิ์สิทธิ์ผสมอยู่ด้วยทุกองค์
** หลังจากแถลงข่าวเปิดตัว จตุคามรามเทพ รุ่น "เทวาสองหลักเมือง" ไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ ๑๐ กรกฎาคม ปรากฏว่ากระแสตอบจากผู้ศรัทธาสนใจ จตุคามรามเทพ ที่สร้างโดยองค์กรอันน่าเชื่อถือได้ เป็นไปอย่างสวยงาม ศุภชัย เรืองสรรงามศิริ (ตี๋เหล้า ท่าพระจันทร์) ประธาน ชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยอดจองกำลังไปได้ด้วยดี เพราะจตุคามฯ รุ่นนี้พิถีพิถันการจัดสร้างเป็นพิเศษ โดยเน้นในเรื่องของพิมพ์ทรงองค์พระ เนื้อหามวลสาร และพิธีกรรมที่สมบูรณ์ถูกต้องที่สุด ติดต่อสอบถามได้ที่โทร.๐-๒๒๒๕-๒๕๕๖, ๐-๒๖๒๓-๕๗๗๙ หรือที่ www.thaprachan.com "ตี๋เหล้า" ผู้อาวุโสของวงการพระเครื่องเมืองไทย บอกว่า จตุคามฯ รุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อนำรายได้มอบเป็นการกุศลแก่องค์กรต่างๆ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล-คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และครู ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้-ไถ่ชีวิตโค กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล-อีกส่วนหนึ่งเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และจัดตั้งมูลนิธิชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ เพื่อช่วยเหลือสาธารณกุศลในด้านต่างๆ
** วิจิตร ปิยะศิริโสฬส ทายาทร้านขนมไทย "แสน-สอง" เมืองสงขลา นับเป็นนักสะสมระดับแถวหน้า ที่มี พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ อยู่มากมายหลายรุ่นหลายองค์ วันนี้ให้ภาพมาอีกองค์หนึ่ง เป็นพระรุ่น หลังเตารีด พิมพ์กลาง ปั๊มซ้ำ ปี ๒๕๐๕ องค์นี้เป็นพระดูง่าย เคยส่งประกวดได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้วหลายครั้ง ใครผ่านไปทางสงขลา อย่าลืมแวะไปคุยกันได้ที่โทร.๐๘-๙๑๓๒-๑๕๘๘
** วันอาทิตย์ที่ผ่านมา...ลงเรื่องราวของ พระพุทธชินราช กรุต้นลั่นทม เนื้อชินเงิน ในบริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ของ วันชัย เอกสมบัติชัย เกิดมีเนื้อที่ไม่พอ เลยไม่นำภาพลงประกอบ วันนี้จึงขอแก้ตัว นำภาพ พระพุทธชินราช กรุต้นลั่นทม มาลงให้ศึกษาเป็นวิทยาทาน
** นิตยสาร "พระท่าพระจันทร์" ฉบับใหม่ปก พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ พร้อมกับเรื่องประกอบในเล่ม โดย ม.ร.ว.อภิเดช อาภากร และภาพ พระซุ้มกอ แท้และสวยให้ชมอีกกว่า ๒๐ องค์
** นิตยสาร "อมตพระเครื่อง" จัดทำโดย ป๋อง สุพรรณ แชมป์แฟนพันธุ์แท้ (พระเครื่อง) มีภาพ พระแท้ นับพันองค์ให้ชมให้ศึกษากันอย่างจุใจ โดยเฉพาะ องค์จตุคามรามเทพ มีมากมายหลายรุ่น
** หนังสือเฉพาะกิจจากค่าย "คเณศ์พร" อีกเล่มที่นักสะสม จตุคามรามเทพ ต้องมีไว้เป็นคู่มือ คือ "ทำเนียบจตุคาม ๓๐๐ รุ่น" มีภาพสวยคมชัด พร้อมรายละเอียดของการจัดสร้างที่ชัดเจน วางตลาดแล้ว สอบถามได้ที่โทร.๐-๒๖๗๘-๐๕๖๔
** อ.สนิท-อ.ศศิธร คดชาคร เป็นเจ้าภาพอุปสมบท ธิติพันธุ์ คดชาคร (นุ่น) บุตรชาย ณ พัทธสีมาวัดกษัตราธิราชวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันนี้ เวลา ๐๘.๓๐ น. เพื่อนพ้องน้องพี่ในแวดวงพระเครื่องที่รู้จักมักคุ้นกับ อ.สนิท ตลอดจนท่านผู้ที่เคารพนับถืออย่าลืมไปร่วมอนุโมทนาโดยพร้อมเพรียงกัน
** วันพรุ่งนี้ มีงานแถลงข่าวที่ โรงแรมเวลล์ จ.นครปฐม เกี่ยวกับงานประกวดพระที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๑๙ สิงหาคม นับเป็นงานยักษ์อีกงานหนึ่งในปีนี้ เพราะ อ้วน นครปฐม ให้การสนับสนุนสุดกำลัง
** เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา "คมเลนส์ส่องพระ" ได้ร่วมเดินทางกับคณะของ พระอาจารย์ธวัชชัย ธมฺมชโย เจ้าอาวาส วัดสันโป่ง อ.ลี้ จ.ลำพูน ไปยังประเทศอินโดนีเซีย เพื่ออัญเชิญวัตถุมงคลองค์ จตุคามรามเทพ รุ่น "ล้านนา" ชุดกรรมการพิเศษ "บุโรพุทโธ" พร้อมด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์อีกจำนวนหนึ่ง โดยได้รับอนุญาตให้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกและเทวาภิเษก ณ ฐานองค์พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ เมืองย็อกจากาต้า ท่ามกลางความสนใจของบรรดาพุทธศาสนิกชนที่กำลังสักการบูชาองค์พระมหาเจดีย์ และพี่น้องชาวอินโดนีเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุลลิมผู้มีจิตใจเป็นกลาง บางคนถึงกับร่วมนั่งสมาธิกับคณะของเราอีกด้วย แม้ว่าขณะประกอบพิธีจะมีแสงแดดแรงกล้าสักเพียงใดก็ตาม ทุกคนก็ไม่ท้อถอย เสร็จพิธี พระอาจารย์ธวัชชัย ได้แจกจตุคามรุ่นพิเศษนี้แก่ผู้ร่วมในพิธีโดยทั่วถึง
** จตุคามรามเทพ รุ่น "ล้านนา" ชุดกรรมการพิเศษ "บุโรพุทโธ" นี้ได้รับการออกแบบ แกะพิมพ์ และกดพิมพ์โดย อ.มนตรี จันทพันธ์ ผู้ร่วมออกแบบและแกะแม่พิมพ์ องค์จตุคาม - องค์รามเทพ รุ่น สุริยัน - จันทรา และพระพุทธสิหิงค์ ปี ๒๕๓๐ รุ่นแรก ที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้
** สำหรับ จตุคามรามเทพ รุ่น "ล้านนา" ชุดกรรมการพิเศษ "บุโรพุทโธ"ลักษณะ มีรูปแบบด้านหน้าเป็น องค์จตุคามรามเทพ นั่งเรือนาคราชราชันย์ดำแห่งทะเลใต้ ด้านหลังเป็นพระราหุ ๘ ตน ล้อมจักรพร้อมด้วยรูปสัตว์ประจำปี ๑๒ นักษัตร ตรงกลางเป็นยันต์มีดวงตา ๒ ดวง ในส่วนของชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ผสมสร้างจตุคามรุ่นนี้ อ.มนตรี ได้นำผงวิเศษต่างๆ ที่ได้รับมาจากการที่มีส่วนร่วมสร้าง จตุคามรามเทพ รุ่นแรก ปี ๒๕๓๐ มาเป็นส่วนผสมหลักไว้มากมาย รวมกับผงศักดิ์สิทธิ์จากที่ต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่ง วัตถุประสงค์การจัดสร้าง ๑.เพื่อจัดสร้างศาล และรูปเหมือนองค์จตุคาม สูง ๑.๑๙ เมตร และองค์รามเทพ สูง ๑.๑๖ เมตร เพื่อประดิษฐานไว้ ณ จ.เชียงใหม่ อันเป็นการเผยแผ่พระบารมีขององค์พ่อไปยังภาคเหนือ โดยมีเป้าหมายอาณาบริเวณพื้นที่ศาลทั้งหมด ๔ ไร่ ด้วยกัน ๒. เพื่อจัดสร้างอุโบสถ หอคำ ที่ วัดสันโป่ง อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งออกแบบโดย อ.มนตรี จันทพันธ์ ๓. เพื่อจัดสร้างอาคารเรือนพยาบาล โรงเรียน เวียงเจดีย์วิทยา อ.ลี้ จ.ลำพูน
** จตุคามรามเทพ รุ่น "ล้านนา" ชุดกรรมการพิเศษ "บุโรพุทโธ" จำนวนสร้าง ๙๙๙ ชุด ใน ๑ ชุดมีจตุคามฯ ๔ องค์ คือ พิมพ์กลม (๕.๕ ซม.) เนื้อผงสีดำ ๑ องค์ เนื้อผงสีขาว ๑ องค์ และ เหรียญพิมพ์กลม (๓.๒ ซม.) เนื้อกะไหล่ทอง ๑ เหรียญ เนื้อกะไหล่เงิน ๑ เหรียญ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ กิตติพงศ์ โสภา โทร.๐๘-๙๗๐๐-๑๙๙๔ หรือที่ www.jatukarm-lanna.com/
** จากการที่ได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมในพิธีครั้งนี้ แล่ม จันท์พิศาโล ได้เห็นความตั้งใจจริงของ พระอาจารย์ธวัชชัย และคณะ ในการจัดสร้าง จตุคามรามเทพ รุ่น "ล้านนา" ชุดกรรมการพิเศษ "บุโรพุทโธ" จึงคิดว่าจะเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความศรัทธาสนใจจากผู้เคารพนับถือ องค์พ่อจตุคามฯ ด้วยใจจริง ทราบว่าขณะนี้มีลูกศิษย์ของท่านที่อยู่ในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฯลฯ ได้สั่งจองกันมาแล้ว จำนวนมากพอสมควร และคงจะเหลืออยู่ในเมืองไทยไม่เกินครึ่งหนึ่งเท่านั้น
** และในวันพรุ่งนี้ที่ วัดสันโป่ง อ.ลี้ จ.ลำพูน พระอาจารย์ธวัชชัย จะประกอบพิธีกดพิมพ์นำฤกษ์ จตุคามรามเทพ รุ่น "ล้านนา" พิมพ์สามครูบา (ครูศรีวิชัย-ครูบาขาวปี- ครูบาชัยยะวงศา) ซึ่งเป็นพิมพ์สำหรับผู้ศรัทธาเลื่อมใสเช่าบูชาเป็นองค์ๆ ท่านที่อยู่ในละแวก จ.ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ ไปร่วมพิธีกันได้เลย
** สำหรับเรื่องราวของการเดินทางไปสักการะ พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ หรือ บรมพุทโธ จะได้นำมาเสนอในเร็วๆ นี้
** "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้มีเพียงเท่านี้ พบกันใหม่ในพรุ่งนี้...นะมัสเต ***
0 แล่ม จันท์พิศาโล 0

-->
*** ช่วงนี้ว่างเว้นงานประกวดพระไปหลายอาทิตย์ ทำเอานักส่งพระเข้าประกวดเหงาใจไปตามๆ กัน แต่สนามพระทุกแห่งก็ยังคงมีผู้สนใจเดินเข้าออกกันเป็นว่าเล่น แม้ว่ากระแสจตุคามฯ จะแผ่วเบา แต่นักสะสมพระกรุพระเก่ากลับสวนกระแสคึกคักขึ้นมาแทน ** "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้ขอนำเสนอพระองค์แรก คือ พระเชียงแสน พิมพ์สมาธิ กรุเมืองฮอด จ.เชียงใหม่ เนื้อแก้วจุยเจีย ซึ่งถือว่าเป็นรัตนชาติที่มีพลังอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเอง เป็นพลังที่สามารถปกป้องคุ้มครองภัยมิให้เป็นอันตรายแก่ผู้มีไว้สักการบูชา ** เมื่อปี ๒๕๐๒ ทางราชการมีโครงการสร้าง เขื่อนภูมิพล ที่ จ.ตาก อันจะเป็นสาเหตุทำให้ เมืองฮอด จ.เชียงใหม่ บางส่วนต้องจมอยู่ในน้ำ กรมศิลปากร จึงได้สำรวจองค์เจดีย์ทุกวัดในเมืองฮอด เพื่อนำพระพุทธรูปและโบราณวัตถุทั้งหมดมาเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ทำให้มีการขุดพบ พระแก้วจุยเจีย มากที่สุด นับเป็นการขุดพบครั้งใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ โอกาสนั้น สมพงษ์ สมวงษ์ เจ้าของโรงแรมศรีราชาลอดจ์ จ.ชลบุรี ขึ้นไปทำธุระที่เชียงใหม่ ก็ได้ไปดูการขุดหา พระแก้วจุยเจีย นี้ด้วย จึงได้เช่าบูชาพระแก้วจำนวนหนึ่งมาศึกษาเป็นความรู้ หนึ่งในนั้นคือองค์ในภาพนี้

http://www.komchadluek.net/2007/07/21/j001_127917.php?news_id=127917
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พระพุทธปางรำพึง ในพระอิริยาบถยืนพระหัตถ์ทั้งสองประสานยกขึ้นประทับที่พระอุระ(อก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย

ความเป็นมา
ขณะประทับเสวยวิมุตติสุขใต้ต้นไทร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพิจารณาเห็นว่า บุคคลในโลกเปรียบเสมือนบัว ๔ เหล่า ดังนี้

อุคฆฏิตัญญู คือพวกสติปัญญาดี เมื่อได้ฟังธรรมสามารถเข้าใจได้รวดเร็ว เสมือนดอกบัวพ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที

วิปจิตัญญู คือพวกสติปัญาปานกลางเมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตาม ฝึกฝนเพิ่มเติม จะเข้าใจในไม่ช้า เสมือนดอกบัวปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป

เนยยะ คือพวกสติปัญญาน้อย เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตาม และฝึกฝนเสมอก็จะเข้าใจ เสมือนดอกบัวใต้น้ำซึ่งจะโผล่ขึ้นเบ่งบานในวันหนึ่ง

ปทปรมะ คือพวกไร้สติปัญญา แม้ฟังธรรมก็ไม่เข้าใจเสมือนดอกบัวจมโคลนตม ไม่มีโอกาสเบ่งบาน

พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานว่าจะแสดงธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ และจะดำรงพระชนม์อยู่จนกว่าจะได้ประกาศพระพุทธศาสนาให้แพร่หลายแก่ชนทุกหมู่เหล่า

พระ ๒ องค์นี้มีขนาดเกือบเท่าฝ่ามือ สีบุษย์น้ำทอง สีเมื่อสะท้อนแฟลชดูแตกต่างจากสีธรรมชาติ เมื่อต้องแสงไฟก็เป็นอีกมิติหนึ่ง

 

นำแหวนทราวดีอายุ ๑,๔๐๐ ปี เพื่อเปรียบเทียบความกลมกลึงของการขัดผิวโลหะให้ดูกลมมนเรียบไม่บาดมือ ซึ่งเทียบอายุของพระแก้วกรุฮอดแล้วก็พอๆกัน การขัดหินสี หรือพระแก้วมีจริงในสมัยนั้นก็ไม่น่าเป็นข้อกังขาใดๆครับ

 

สวยยยยยยยย มากกกกกกกกกกกกครับ

(verygood)

 

ขอร่วมอนุโมทนาด้วยครับ
ตอนนนี้ผมก็แขวนพระกรุฮอดพิมพ์พระพิฆเนศครับ ดีมากๆๆครับ

 

สวยงามแท้ๆครับ

 

ผมคนนึงที่ชอบพระหินจุยเจียที่ทำจากหินแท้ มีหลายชื่อที่เรียกกันนะครับ 1 หินจุยเจีย 2 หินโป่งข่าม 3 หินเขี้ยวหนุมาน 4 หินควอตซ์ 5 คริสตัล ครับ
ผมจะมีร้านที่เชียงใหม่ แกะพระโดยตรง ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจระหว่างคนซื้อคนขายครับ
ใครต้องการเช่าบูชาพระหินจุยเจีย หินแท้ 100%
ติดต่อสอบถามได้ที่
086126211 อาวุธ ช่างแกะสลัก
ร้านหยกพระสิงห์ ในวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ต.พระสิงห์ อ.เมือง เชียงใหม่
e-mail & msn : mixtwoken@hotmail.com
ขอบพระคุณครับ

 

กำ บอกเบอร์ไม่ครบ 0846126211 เบอร์นี้ครับ ใครสนใจ ก็ติดต่อมาได้ครับ

 

ศาสตร์แห่งพลังสากลก็มักถือเอาจักระทั้ง ๗ เป็นที่ตั้งของฐานพลังต่างๆ กำหนดสีขึ้นมา พระกรุฮอดมีหลายสี หลากมิติ ก็สามารถนำมาทำงานตรงนี้ได้ หากรู้จักวิธีการประยุกต์ใช้ จุดนี้เองที่พระแก้วกรุฮอดเป็นที่ต้องการของต่างชาติที่เข้าใจเรื่องของจักระ ที่ทำงานด้านจิตบำบัด เรื่องของสี(colour healing)

และเหนือไปกว่านั้นคือใช้สำหรับการฝึกกสิณ ซึ่งก็คือกรรมฐานใน ๔๐ กองนั่นเอง





<CENTER><CENTER></CENTER></CENTER>

 

สีโทนเดียวกัน แต่คนละเฉดสีก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน พระพุทธฮอดบางส่วนนี้ ผมลองนำไปจัดวางที่มีแดดส่องถึง...

 

พิมพ์พระสังกัจจาย เป็นพิมพ์ที่มีน้ำหนักมาก เมื่อเทียบกับพระพุทธที่มีขนาดเท่าๆกัน..

 

พระพุทธปางสมาธิ ปางมารวิชัยสีแดงที่เห็นนี้ ความจริงเป็นสีบุษย์น้ำผึ้งที่มีความเข้ม และอาจจะเกี่ยวข้องมุมตกกระทบของแสงภายในองค์พระ จึงสะท้อนเห็นเป็นสีแดง ผมใช้ฉากผ้ากำมะหยี่สีน้ำตาล บางภาพใช้แฟลช บางภาพเป็นแสงของไฟนีออนสีขาว ภาพชุดนี้ ยังไม่ได้เก็บภาพกับแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน ภาพที่ได้จึงยังไม่ถือว่าเป็นธรรมชาติของสีองค์พระเท่าไหร่ มีโอกาสจะเก็บภาพให้ชมกันอีกครั้ง..

ภาพที่ส่องกับแสงนีออนจะเห็นว่าไม่ใช่สีแดง แต่เป็นสีบุษย์น้ำผึ้ง

 

พระเทริดขนนกพิมพ์ที่ ๑ ตาเปล่ามองว่าเป็นสีออกไปทางสีน้ำตาลม่วง แต่ความจริงเป็นสีบุษย์น้ำผึ้ง พระพิมพ์เทริดขนนกนี้ ส่วนของเทริดมีความเปราะมาก จะสังเกตเห็นว่า เมื่อนำมาส่องกับไฟนีออน หรือแดด จะเห็นแสงบริเวณยอดเป็นสีน้ำตาลอ่อนกว่า ส่วนนี้เปราะบางที่สุด...

ดังนั้น สีบุษย์น้ำผึ้งนี้ อาจจะทำให้เรามองเป็นสีแดง หรือสีน้ำตาลม่วง ได้ทั้งนี้ขึ้นไปแสงที่ตกกระทบพื้นผิวด้านนอก และด้านใน