**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

มวลสารศักดิ์สิทธิ์
(ใช้จัดสร้างพระผง รุ่นล้างอาถรรพ์)
​

.....วันนี้เป็นวันฤกษ์ดีท่านอาจารย์สันติ ได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่เก็บไว้หลายสิบปี มาทำพิธีพลีมวลสารเพื่อจัดสร้างพระผงรุ่นล้างอาถรรพ์ โดยใช้ผง"แก้วมณีกาฬ" เป็นหัวเชื้อมวลสารหลักในการจัดสร้าง...

​

....ในภาพจะมีผงมงคลต่างๆ ในตลับเป็นผงที่เหลือจากการทำ"ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์" ของมูลนิธิกองทุนหลวงพ่อปาน ที่ได้มอบให้มาเป็นมวลสาร ที่มีสวนผสมของ"ลูกแก้วผงมณีนพรัตน์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก"

....ในขวดพลาสติกฝาสีม่วง คือผงพุทธคุณ 108,ผงคราบเกาะที่บริเวณพัทธสีมาของ 7 วัด,ผงธูปเสกหลวงพ่อสม สุชีโว,ผงกรรมฐานหลวงปู่แหวน,ผงกรรมฐานหลวงปู่หลุย,ผงแป้งเสกหลวงปู่บุดดา เป็นต้น

....ตะกรุด"สุคะโต" อ.สันติ จารเมื่อปี2560 หลวงปู่เย็น แห่งวัดภูความเงินอธิษฐานจิตให้(หลวงปู่เย็นมณระภาพปี2562),และตะกรุดมหาบุรุษ8จำพวก ,ผงยาว้านมงคล

​

....ก้อนที่เห็นในภาพคือผงยาว่านมงคลตำรับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว มีการขุดเก็บในกรุที่ บ้านวังแท่น จังหวัดเลย(พุทธคุณดีเด่นด้านเมตตามากๆ),พระปิดตาผงใบลานเผาของแท้ๆหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม อ.สันติ มอบให้นำมาพลีเป็นมวลสาร

​

......ตะกรุด "สุคโต" อาจารย์สันติจารตั้งแต่ปี 2560 หลวงปู่เย็นเมตตาอธิษฐานจิตให้ ที่จะนำมาบรรจุในพระผง "ล้างอาถรรพ์" ชุดนี้ครับ และในขวดคือ "ผงแก้วมณีกาฬล้างอาถรรพ์ วัดภูความเงิน"

​

.....พิธีพลีมวลสาร อ.สันติ นำมวลสารทั้งหมดผสมทำพิธีพลีและจารยันต์ "สุคโต" ลงบนมวลสาร ก่อนคลุกเคล้าผสมกันทั้งหมด และนำผง "แก้วมณีกาฬผสมลงไปทั้งหมดขวดครับ"

ผงสีดำคือ "ผงแก้วมณีกาฬ" เป็นหัวเชื้อทั้งหมด
​

​

 

พระพิมพ์ขุนแผน
รุ่นล้างอาถรรพ์

เปิดดูไฟล์ 5587843
​

.....เป็นพระพิมพ์ขุนแผน เพื่อเป็นพิม์ใช้สร้างรุ่นล้างอาถรรพ์ โดยนำผงวิเศษต่างๆดังที่ได้กล่าวมาแล้วที่ผสม "ผงแก้วมณีกาฬ" และผง "หอยพันปีที่แข็งเป็นฟอสซิลแล้ว" มาปั้มเป็นองค์พระพิมพ์นี้ ด้านหลังปั้มด้วยยันต์ "สุคโต" ภายในยันต์กังหัน อันเป็นเคล็ดการหมุนของพระคาถาที่ลง ในที่นี้หมายถึงยันต์คำว่า "สุคโต ภควา"

​

.....อักษรคำว่า "สุคโต ภควา" อ่านว่า สุ-คะ-โต ภะ-คะ-วา ตัวอักษรที่โบราณจารย์รจนา นำเข้ามาในส่วนของยันต์กังหันครับ 3 ตัวอักษรแรก ที่นำมาบรรจุในยันต์กังหันว่า สุคโต เป็นบทหนึ่งในบทสรรเสริญพุทธคุณแปลว่า "ผู้เสด็จไปดีแล้ว" เคล็ดตรงนี้โบราณจารย์ท่านถือว่า "ไปดีมาดี" เพราะพระพุทธเจ้าท่านเป็นผู้ไปด้วยดีแล้ว หมายถึงไปเป็นสุข ไปในดินแดนที่ไม่เกิดอีก(นิพพาน) เพราะไม่มีที่สุดใดดีไปกว่าการไปถึงซึ่งพระนิพพานอีกแล้ว ตรงนี้เรียกตัวอักษรสุคโต การนำมาลงในโครงสร้างยันต์ "กังหัน" เพราะกังหันหมายถึงเคล็ดการพัดไปของลม คือตราบใดที่เรามีลมหายใจอยู่หรือที่ใดมีลมเข้าถึง ผู้มียันต์นี้ติดตัวย้อมเป็นผู้ไปพบเจอแต่สิ่งที่ดี มาก็ดีไปก็ดี โบราณจารย์กล่าวไว้...

....อักษรต่อมาที่อยู่ด้านล้างยันต์กังหัน อ่านว่า ภะ-คะ-วา เป็นตัวอักษรที่โบราณจารย์รจนา มาจากบทหนึ่งในบทสรรเสริญพุทธคุณแปลเป็นพระนาม"เรียกขานพระพุทธเจ้า" ซึ่งแปลว่า "ผู้มีโชค" การนำอักษรดังกล่าวมารวมกับยันต์ "สุคโต ภควา" แปลรวมความว่า "ไปดีมาดีมีโชค"
นี้คือการนำคำเป็นมงคลมารจนา เป็นบทเป็นคาถามาผสมเพื่อน้อมนำพลังงานความหมายมาใช้มาเป็นคุณแก่ผู้บูชา

เปิดดูไฟล์ 5587887
แบบพิมพ์และตัวอย่างปั้มยันต์
​

......และในการนี้คณะผู้จัดสร้าง โดย อ.สันติ วรรณภิรมณ์(ท่านเป็นอาจารย์ร่ำเรียนวิชามาจากสายวัดประดู่โรงธรรม) ได้มอบตะกรุด "สุคโต" ให้นำมาบรรจุภายในองค์พระด้วยทุกองค์ ท่านกล่าวว่า "ตะกรุดสุคโตภควา นี้ท่านจารไว้ตามสูตรโบราณ และกำกับเสกด้วยคาถาส่วนหนึ่งของ "อิติปิโสรัตนมาลา108" เพราะคำว่า สุ-คะ-โต-ภะ-คะ-วา ในอิติปิโสรัตนมาลา ชุดคาถา 6 บทมากำกับทุกดอก มีคุณวิเศษทุกตัวอักษร" ซึ่งยันต์นี้ท่านจารไว้ตั้งแต่ปี 2560 และขอเมตตาหลวงปู่เย็น ฐานธัมโม อธิษฐานจิตให้หนึ่งวาระ(ยิ่งเพิ่มพลังงานมากขึ้น)

แผ่นจารขนาด 1 นิ้ว"ยันต์สุคโตภควา"
ที่นำมาทำตะกรุดบรรจุในองค์พระเพื่อเพิ่มพุทธานุภาพ

....อาจจะเปิดร่วมบุญเร็วๆนี้ครับ(ในนามวัดวารินทราวาส)....






​

 

....วันนี้ 25/2/2564 คณะผู้จัดสร้างพระผงล้างอาถรรพ์ โดย อ.สันติ วรรณภิรมณ์ ได้ให้คณะนำมวลสารทั้งหมดที่ผสมแล้วไป "หมักดิน" ตามพิธีโบราณโดยหมักใน"น้ำพิธี"น้ำพิธีหมายถึงการนำ น้ำมนต์7วัด,น้ำว่านขาว,น้ำมันชาตรี,น้ำแก้ว16หยด,น้ำสรงพระพุทธรูป7วัด,น้ำว่านยา,น้ำหลักเมือง(เป็นน้ำที่ใช่ในพิธีฝังเสาร์เชื่อว่าล้างอาถรรพ์ความไม่ดีทุกประเภท) ครับนำน้ำทั้งหมดมาผสมรวมกันก่อนแล้วจึงนำมวลสารทั้งหมดลงไปแช่ โดยที่มวลสารต่างๆจะดูดซึมน้ำเข้าไปแล้วจะจับกันเป็นก้อน จากนั้นก็ตากลมไว้จนแข็ง แล้วนำมาลงอักขระปลุกเสกก่อนจึงนำมาตำและกรองให้ละเอียดก่อนจะนำผงดังกล่าวมาผสมและปั้มเป็นพระต่อไปครับนี้จึงเรียกว่า "ผงล้างอาถรรพ์"

ผงมวลสารที่เตรียมไว้ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น


วันนี้นำมาหมักน้ำมนพิธี รออีกระยะหนึ่งจึงนำมาตำเป็นผง​

​

***กรรมวิธีมากมายครับกว่าจะได้ทำเป็นพระผงล้างอาถรรพ์ตามแบบโบราณ อ.สันติ เป็นผู้หนึ่งที่คณาจารย์สายเมืองเลย ไม่ว่าพระหรือฆราวาสจะรู้กันดีว่า ถ้า อ.สันติ สร้างพระต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ เพราะท่านทำตามแบบที่เล่าเรียนมาทุกประการ***

...เท่าที่ทราบการจัดสร้างครั้งนี้จำนวนไม่มากนะครับ อัตตราร่วมทำบุญก็ไม่แพงด้วยแต่มีการเปิดจองทั้งในกลุ่มลูกศิษย์ท่านด้วยจึงเกรงว่าจะได้มาจำนวนไม่มาก ไว้พระจริงออกจะนำข่าวมาแจ้งให้ท่านสมาชิกที่สนใจทราบอีกครั้งนะครับ เพราะสอบถามเข้ามาเป็นการส่วนตัวจำนวนมาก

...และมีสมาชิกท่านหนึ่ง ท่านรู้จักผง"แก้วมณีกาฬ" นี้ด้วยและบอกกับผู้เขียนทางข้อความว่า "คุณพ่อเค้าเคยพาไปหาที่ภูควายเงินนี้มาแล้วเมื่อ 20ปีก่อน เห็นกับตาว่าแก้วนี้ เคลื่อนที่ไปไหนมาไหนเองได้และมีแสงสว่างออกมาได้จริงๆ ตอนนั้นคุณพ่อของเขาได้มาเม็ดเล็กๆเท่าเม็ดถั่วแดง ปัจจุบันพ่อยังเลี่ยมห้อยติดตัวอยู่เลย ตัวเขาเองก็แปลกใจว่าอยู่ๆมาเจอในเว็ปนี้อีกครั้งนึกว่าไม่มีใครรู้จักสะะอีก ดังที่ผมได้บอกกล่าวเล่าไปในกระทู้ก่อนๆนี้ครับ"

 

วันนี้ 26/2/2563 คณะท่าน อ.สันติ นำมวลสารที่เป็นแผ่นก้อนมวลสารมาทำการบดละเอียดครับ ซึ่งก่อนบดละเอียด อ.สันติ ท่านได้จารยันต์ "พุทโธ อัปปมาโณ"(คุณพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ) ลงบนแผ่นก้อนมวลสารที่แข็งแล้ว และอธิษฐานจิตขอเมตตาพุทธรังษีบารมีธรรมพระพุทธเจ้า(พุทโธ อัปปมาโณ อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ) ท่านบอกว่า"น้อมรังษีธรรมของพระพุทธเจ้าที่ไม่มีประมาณ ตามสูตรหลวงพ่อสละ วัดประดู่โรงธรรม"

....ก่อนนำไปบดละเอียดเป็นผง"เป็นผงล้างอาถรรพ์" เสร็จสิ้นพิธีทำผงซึ่งผงนี้จะนำไปกดพระเลยนะครับไม่เจือปูนอีก เพราะถือว่าเป็นผงที่สำเร็จแล้ว พิเศษครับ "อ.สันติ ได้นำผงล้างอาถรรพ์ที่สร้างพระผงล้างอาถรรพ์หลวงปู่ศรีจันทร์ เมื่อปี 2544 ที่เหลือ(ขอไว้จากผู้สร้าง) หลวงปู่หมุน ปลุกเสกแล้ว" นำมาผสมเป็นหัวเชื้ออีกครั้งด้วยครับ ขลังสุดๆครับ....

ผงวิเศษต่างๆที่นำมาผสมและแช่น้ำมนพิธีป็นก้อน






​

.....ผงล้างอาถรรพ์หลวงปู่ศรีจันทร์ ปี2544(สูตรเดียวกัน)หลวงปู่หมุน ปลุกเสก นำมาผสมก่อนจบการทำผง และจะนำไปปั้มพระเป็นการต่อไปครับ... ชัดเจนทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบครับ

​

 

ดินต้นกัปป์คืออะไร??
​

.....วันนี้ 28/2/2564 ผู้เขียนได้เดินทางไปบ้านพักท่าน อ.สันติ วรรณภิรมณ์ เพื่อรองไปตามดูว่า พระผงล้างอาถรรพ์เปิดจองแล้วหรือยัง ปรากฏว่าไปแล้วไม่เจอท่าน อ.สันติ แต่เจอคนงานที่ทำงานอยู่บ้านท่านแทน บอกว่าอาจารย์ไปธุระข้างนอก ไปนานแล้วเดียวคงกลับผู้เขียนก็คิดว่าคงจะไม่รอเพราะทราบจากคนงานท่านว่าพระยังไม่เปิดจอง

....แต่ตอนผู้เขียนกำลังคุยอยู่กับคนงานที่บ้านท่านบังเอิญสังเกตุไปเห็นว่า คนงานที่บ้านท่านกำลังตำอะไรอยู่จึงได้สอบถามดู คนงานที่บ้าน อ.สันติตอบว่า "อาจารย์ท่านสั่งให้บดดินต้นกัปป์ไว้ ท่านจะเอาไปทำพระ" เอ๋...ผู้เขียนจึงเลยเริ่มสนใจขึ้นมา ก็เลยรอ อ.สันติ ท่านกลับมาเผื่อจะได้เรียนสอบถาม

....นั่งรอไม่นานประมาณ 10 นาที รถตู้ท่านอาจารย์สันติก็มาถึง ท่านก็ลงมาจากรถกำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่ท่านชำเลือกมาเห็นผู้เขียนนั่งดูคนงานท่านกำลังบดดินต้นกัปป์อยู่ ท่านก็เลยเดินเข้ามาปราศัยพูดคุยด้วย ผู้เขียนจึงได้มีโอกาสสนทนากับท่านอยู่สักพัก ได้ความเรื่องดินต้นกัปป์ว่า...

....ท่านอาจารย์สันติบอกว่า "ดินต้นกัปป์หรือดินปฐมกัปป์ เป็นดินชุดแรกที่กำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้”(ดินปฐมกัปป์) ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านกาลเวลามายาวนานเป็นอสงไขย กัปป์แล้ว ในพระไตรปิฏกเรียกว่า ง้วนดิน(พระสูตรอ้างอิง อัคคัญญสูตร) เป็นดินชุดแรกที่เกิดขึ้นบนโลก มีกลิ่นหอมดังเนยสด อันเกิดจากเมื่อโลกถือกำเนิดขึ้นเป็นก้อนดาวเคราะมีความร้อนสูงมาก(กล่าวตั้งแต่สมัยยังไม่มีสัตว์เกิดขึ้นบนโลก) ฝนก็จึงตกลงมาบนโลกเป็นครั้งแรก อันเกิดจากไอความร้อน เมื่อหน้าดินอันร้อนละอุโดนฝนเข้า หน้าดินก็เย็นลงเกิดเป็นไอน้ำและเกิดเป็นก้อนเมฆ ดินที่ร้อนมากๆถูกฝนก็เย็นตัวลงเกิดเป็นง้วนดิน มีกลิ่นหอมมากจนไปถึงชั้นพรหมโลก เหล่าเทวดาเทพพรหมทั้งหลายที่ได้กลิ่นก็ต่างลงมาดมและชิมดู ปรากฏว่าง้วนดินมีรถอร่อยเป็นทิพย์ หอมมาก ทำให้เหล่าเทวดาต่างลอยลงมากิน จนหลงไหลติดในรสชาติ ทำให้จิตใจเต็มไปด้วยความยึดติด จึงเป็นเหตุทำให้ลงมาเกิดเป็น "สัตว์" บนโลก " นั้นเอง(ตำราว่าแบบนั้น อ.สันติ กล่าวพร้อมหัวเราะ..)

....อ.สันติ ว่าท่านได้มาจาก"หลวงพ่อวิลาศนั้นแหละ" ท่านให้มาตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว ท่านบอกว่า(หมายถึงหลวงตาวิลาศบอก) ได้มาจากฤาษีที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ ฤาษีได้มาจากถ้ำลับแล ต้องเดินเข้าไปในถ้ำลึกมากๆจึงจะพบ "ง้วงดิน" หรือดินต้นกัปป์ หรือ ดิน "ดินปฐมกัปป์" อ.สันติท่านบอกว่าเก็บไว้นานแล้ว ครั้งนี้โอกาสอันดีท่านจึงได้นำมาทำพิธีพลีและมาตำให้ละเอียด ก่อนจะนำไปผสม "ทำพระผงล้างอาถรรพ์" ท่านบอกว่าจะผสมทีหลังเวลาตำกับมวลสารแล้ว จะไม่นำมาผสมกับมวลสาร "ล้างอาถรรพ์" เพราะมวลสารนั้นสำเร็จเป็นผงแล้ว แต่จะผสมกันทีหลังเพื่อเป็นการเสริมตอนตำปั้มเป็นพระครับ

อ.สันติ กล่าวว่า "ดีนะในตำราบอกเป็นเมตตามาก ขนาดเทวดายังต้องลงมาหลงไหลเป็นเคล็ดตามพระไตรปิฏกก็ได้ ท่านว่าแล้วแต่คนจะเชื่อตำราว่าแบบนั้น ไอ้เราก็เกิดไม่ทันหรอก ...ท่านหัวเราะ"

 

​

.....เรียนแจ้งเรื่องพระผงรุ่นล้างอาถรรพ์ครับ ตอนนี้ทางคณะผู้จัดสร้างโดย อ.สันติ ได้ดำเนินการปั้มพระผงแล้วนะครับ คาดว่าจะได้เพียง 385 องค์ครับ โดย อ.สันติ ท่านเปลี่ยนบล็อกพิมพ์ใหม่จาากบล็อกพิมพ์ขุนแผนแบบโบราณ(ซึ่งเป็นแบบแรก) แต่เมื่อลอกลายทำเป็นบล็อกแล้ว ไม่สวยและบล็อกแตกง่ายเพราะองค์พระบาง การนำมวลสารและตะกรุด"สุคโตขนาด 1 นิ้ว"บรรจุด้านหลัง พระจึงออกมาไม่สวย

..... อ.สันติ จึงดำริให้ลอกลายพิมพ์พระใหม่เป็นพิมพ์ "พระขุนแผน" ของหลวงปู่ทิม และดำเนินการแกะบล็อกแล้ว ตอนนี้ทางโรงงานได้รับผง"ล้างอาถรรพ์"และกำลังปั้มพระและฝังตะกรุดแล้วครับ แล้วจะแจ้งวันเปิดจองร่วมบุญเร็วๆนี้ครับ หลังจากที่มีสมาชิกหลายๆท่านสอบถามเข้ามา

**********
​

......ในการนี้ท่าน อ.สันติ ปรารถว่าท่านที่ร่วมบุญในครั้งนี้ต่อ 1 รายชื่อ ท่านจะมอบ "ผงล้างอาถรรพ์" ให้ด้วยคนละ 1 ตลับครับ ผงล้างอาถรรพ์นี้ เป็นผงที่สำเร็จแล้วและเป็นเนื้อผงเดียวกันกับนำไปปั้มเป็นพระ เป็นผงที่ทำตามสูตรโบราณจารย์คือ มีส่วนผสมของผงเสาร์หลักเมือง,ดิน 7 โป่ง,ดิน 7 ท่า,ผงคราบเสาร์เสมา 7 วัด,ผงแก้วมณีกาฬ,และผงวานยาต่างๆของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว,ผงหลวงปู่ดู่,และผงกว่า 10 ขนิด เป็นต้น

.....นำมาผสม(ดังรูปในโพสต่างๆ) ทำพิธีพลี "ดินต้นกัปป์" แล้วนำผงเดิมล้างอาถรรพ์ของหลวงปู่ศรีจันทร์ที่หลวงปู่หมุนปลุกเสก ผสมเข้าไปด้วยหลังจากนั้นนำไปผสมและทำพิธีหมักดินเป็นก้อน ตากแห้งแล้วนำก้อนมวลสารมาลงยันต์ "รัศมีธรรมพระพุทธเจ้าอันไม่มีประมาณ" ก่อนนำไปขึ้นผงอีกครั้ง เป็นผงล้างอาถรรพ์

.....ผงล้างอาถรรพ์ที่จะนำแจกให้นี้ อ.สันติท่านบอกอุปเท่ห์ว่า "นำไปใช้ได้สารพัด ถ้าใครจะสร้างบ้านใหม่ให้นำผสมทรายจะเป็นทรายเสก แล้วเทลงหลุมเสาร์เอกบ้านก็จะเป็นการฝังอาถรรพ์ตามโบราณจารย์ บ้านจะอยู่เย็นเป็นสุขภัยอันเกิดจากไฟจากฟ้าก็ดี จะไม่ทำอันตรายใดๆบ้านเรือนนั้นได้เลย ถ้ามีบ้านอยู่แล้วจะทำให้เป็นพิธีฝังอาถรรพ์ให้นำผสมกับทราย ทรายนั้นจะเป็นทรายเสก ให้โปรยรอบบ้านก็จะมีผลเช่นเดียวกันกับฝังอาถรรพ์เลยที่เดียว สิ่งไม่ดีก็ไม่สามารเข้ามาภายในบ้านได้ คนในบ้านจะอยู่เย็นเป็นสุข...." จะแจกให้ท่านที่ร่วมบุญท่านละ 1 ตลับครับ

...อ.สันติ กล่าวว่าผงที่ทำครั้งนี้ถูกต้องตามแบบของ "หลวงปู่ศุข วัดปากกลองมะขามเฒ่า" และผสมผงแก้วมณีกาฬด้วย สมัยก่อนหลวงปู่ศุข เวลาท่านจะทำพิธีไหว้ครูบูชาพระ ท่านจะทำผงนี้ก่อนแล้วนำไปผสมทราย ก่อนให้ลูกศิษย์นำไปโปรยรอบวัดในวันงาน ท่านว่าพวกอมนุษย์หรือคนคิดไม่ดี จะไม่สามารถเข้ามาวัดได้เลย"

********



​

.....และในการนี้ท่าน อ.สันติ ปรารถว่าท่านที่ร่วมบุญในครั้งนี้ต่อ 1 รายชื่อ จะมอบ "ตะกรดมหาบุรุษสี่จำพวก" ให้อีก 1 ดอกด้วยครับ ท่านบอกว่าตะกรุดนี้ท่านได้เรียนมาจาก "พระอาจารย์ธูป จ.ลำพูน" พระอาจารย์ธูปเรียนมากับ หลวงพ่อพล วัดวังยายหุ่น หลวงพ่อพลเรียนมาจากหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาป้อง(ศิษย์หลวงปู่มั่น) หลวงปู่สิมเรียนมาจาก "พระครูบาศรีวิชัย"

ซึ่งเป็นเป็นตะกรุดที่ลงหัวใจ "อริสัจสี่ไว้" ลงในแผ่นขนาด 1 นิ้ว(อ.สันติลงตามสูตรของครูบาศรีวิชัย) โบราณท่านบอกว่ายันต์นี้ ไปอยู่ในที่แห่งใดที่แห่งนั้นจะเกิดความอุดมสมบูรณ์ มีความเจริญเกิดขึ้นในที่นั้นๆ วัดล้างถ้ามียันต์นี้อยู่ก็จะมีผู้คนมาบูรณะให้ ถ้ามีกิจการร้านค้านำไปติดบูชาไว้ ก็จะมีคนเข้าออกตลอดไม่เงียบเหงา นี้ตะกรุดวิชานี้ท่านว่ามีมาเป็นพันๆปีแล้ว พระครูบาศรีวิชัยท่านได้มา และจารยันต์นี้ลงไปในพระธาตุดอยสุเทพด้วย จนถึงปัจจุบันผู้คนยังขึ้นไปกราบไหว้องค์พระธาตุอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว(รายละเอียดยันต์นี้หาดูได้ตามเวปต่างๆครับ)

เปิดดูไฟล์ 5600893 ​

***ตะกรุดทั้งหมดได้รับการอธิษฐานจิตจาก ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง โดย อ.สันติ ได้นำไปขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตให้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมนี้ครับ*** แจกฟรีครับ

​

 

ขอร่วมบุญพระผงล้างอาถรรพ์ 2 องค์ครับอาจารย์

 

ยังไม่เปิดนะครับ รออีกสักระยะครับ ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับอาจารย์

 

**ยันต์ไตรสรณคมน์-ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์**
(พุทธคุณยอดคุ้มครองป้องกันภัย-หนุนนำโภคทรัพย์)
​

...โบราณจารย์ในสมัยก่อน การที่ท่านนำตัวอักษรต่างๆที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรม มารจนาประดิษฐ์อักขระเป็นยันต์ในรูปทรงต่างๆ เจตจำนงเพื่อเป็นการน้อมนำกระแสพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติ ทั้งที่เกิดจากคุณงามความดี ทั้งเกิดจากกระแสต่างๆ มาหนุนนำหนุนเนื่องเกี่ยวกับการดำเนินวิถีชีวิต ให้เกิดผลในรูปแบบต่างๆ ตามเจตนากระแสพลังงานนั้นๆทั้งเป็นไปในทางที่ดีและไม่ดี ขึ้นอยู่ที่ว่าผู้ทำผู้สร้างจะเจตนาให้กระแสนั้นๆเป็นไปในทางใด..

ยันต์ไตรสรณคมน์ - ยันต์นี้โบราณจารย์ถือว่าเป็นยันต์ที่มีความเก่าแก่ที่สุด เท่าที่พอจะทราบข้อมูลได้ครับ ว่ากันว่าเป็น"พุทธวจน" ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเป็นแนวนโยบายที่ทรงว่างหลักไว้ในการ"เข้าบวช" ในพุทธศาสนา โดยทรงตรัสว่า"ผู้ใดที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในคำสอนของพระพุทธองค์ และมีความปรารถนาจะบวช ให้ผู้นั้นหรือให้ภิกษุสาวกผู้นั้นนำผู้ที่เลื่อมใส มาหาพระพุทธองค์ให้ทรงเป็นผู้บวชให้แต่เพียงผู้เดียวโดยทรงให้กล่าวว่า ..."พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ. สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ."... จากนั้นให้นำผ้ากาสาวพัสตร์มาหุ้มห่ม และรับพุทธโอวาท จึงถือเป็นภิกษุในพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์" ดังนั้นคำกล่าวดังกล่าว ....จึงถือเป็นคำปฏิญาณต่อหน้าพระพุทธเจ้าว่า "จะมีพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึกตลอดชีวิต"

....ด้วยเหตุนี้โบราณจารย์ท่านจึงถือว่าคำของพระพุทธเจ้า "เป็นคำวาจาสิทธิ์" มีพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณ สาวกที่บวชและได้กล่าวคำไตรสรณคมน์นี้นอกจากจะเป็นการบวชทางกายแล้ว ยังถือว่าเป็นการน้อมนำพลังงานธรรมทั้งสามประการให้มาบังเกิดทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาทางใจ เมื่อพระสาวกเข้าป่าหรือไปประกาศศาสนาในที่แห่งหนใด ย้อมทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาแก่ผู้พบเห็น เกิดความปลอดภัยในภยันตรายต่างๆในที่ที่ไป
มีความสวัสดิมงคล สมบูรณ์พูลผลทั้งทางโลกและทางธรรม มีคุณอเนกอนันต์อันไม่มีประมาณ

**********


หลวงปู่ดู่เล่าเกี่ยวกับอานิสงส์
"พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ"​

.....ถ้าจะวิเคราะห์ถึงคำภาวนานี้แล้ว ไตรสรณคมน์มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณคือ ในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ได้มีพุทธานุภาพให้พระสาวกทำการบวชกุลบุตรได้ โดยการเปล่งวาจาระลึกถึง ไตรสรณคมน์ แล้วก็เป็นภิกษุได้อย่างสมบูรณ์

หลวงปู่เคยถาม สมเด็จพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ฯ ว่า ผู้ที่ภาวนาไตรสรณคมน์เป็นนิจศีล ก่อนตายระลึกถึงไตรสรณคมน์ แล้วจะไปสวรรค์ได้หรือไม่ สมเด็จตอบว่า ได้แน่นอน พร้อมกับยกพระบาลีว่า "เยเกจิ พุทธัง สรณังคตา เสนะ เตคมิสสันติ อบายภูมิ ปหาย มานุสัง เทหัง เทวกายัง ปริปูเรส สันติ" แปลว่า บุคคลบางจำพวก หรือบุคคลใดมาถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะที่พึ่งแล้ว บุคคลเหล่านั้นย่อมไม่ไปอบายภูมิทั้ง ๔ มีนรก เป็นต้นเมื่อละร่างกายอันเป็นของมนุษย์นี้แล้ว จักไปเป็นหมู่แห่งเทพยดาทั้งหลายดังนี้​

ข้อความนี้ อ้างอิงมาจาก สมัยที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยพระอรหันต์หนุ่ม ๕๐๐ รูป ประทับอยู่ที่ป่ามหาวัน ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ เทวดาทั้งหลายพากันมาดูและกราบนมัสการ พร้อมกับกล่าวคาถานี้ มีลูกศิษย์ที่นั่งสมาธิ และเห็นหลวงปู่ทวดท่านกล่าวว่า "ไตรสรณคมน์เป็นรากแก้วของพระศาสนา พระพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ เข้ามาบวชถือเป็นสมมุติสงฆ์ เมื่อแสวงหาสัจธรรมจนบรรลุมรรคผล ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ ซึ่งเรียกว่า พระธรรม พระองค์ได้ พุทโธ คือ ผู้รู้ กลายเป็น พระพุทธเจ้า และเมื่อเทศน์โปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ได้รู้ธรรมตามที่สอน ก็กลายเป็นพระอริยสงฆ์สืบต่อๆ กันมา ทำให้ศาสนาไม่สูญหายไปไหน"​

พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระเถระองค์สำคัญในยุคปัจจุบัน ท่านกล่าวว่า "สรณะทั้ง ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มิได้เสื่อมสูญ อันตรธานไปไหน ยังปรากฎแก่ผู้ปฏิบัติเข้าถึงอยู่เสมอ ผู้ใดมายึดถือเป็นที่พึ่งของตนแล้ว ผู้นั้นจะอยู่ในกลางป่าหรือเรือนว่างก็ตาม สรณะทั้ง ๓ ก็ปรากฎแก่เขาทุกเมื่อ จึงว่าเป็นที่พึ่งแก่บุคคลจริง เมื่อปฏิบัติตามสรณะทั้ง ๓ จริงแล้ว จะคลาดแคล้วจากภัยทั้งหลายอันก่อให้เกิด ความร้อนอกร้อนใจ ได้แน่นอนทีเดียว"​

ข้อความนี้ทรงแสดงไว้ใน "อุณหัสสวิชัยสูตร" ที่พระพุทธองค์เทศน์โปรด สุปฐิตะเทพบุตร เมื่อถึงกาลที่จะต้องจุติจากสวรรค์ เพราะหมดบุญ ทรงรู้ด้วยพระญาณว่า เทพบุตรองค์นี้ทำแต่ความชั่ว แต่ก่อนมรณะ มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยเพียงชั่วขณะ ทำให้ไปเกิดเป็นเทวดา แต่เมื่อได้ดีแล้วก็ลืมความดี ตั้งหน้าทำแต่สิ่งที่ไร้สาระ ถ้าสิ้นจากชาตินี้ไปแล้ว เธอจะไปเกิดเป็นสัตว์นรกอีกหลายร้อยชาติ ถ้าเราเทศน์เรื่องธรรมจักร เธอจะรับไม่ได้ต้องเทศน์เรื่องนี้ เมื่อสุปฐิตะเทพบุตรฟังเทศน์แล้ว ก็สำเร็จเป็นพระโสดาบัน ปิดอบายภูมิได้แน่นอน ซึ่งพระสูตรนี้ (อุณหัสสวิชัยสูตร) แปลเป็นไทยว่า "พระธรรมเป็นของยิ่งในโลกทั้งสาม สามารถชนะ ซึ่งความร้อนอกร้อนใจ อันเกิดแต่ภัยต่างๆ (อุณหัสส) จะเว้นจากอันตรายทั้งหลาย ได้แก่ อาชญาของพระราชา เสือสาง นาค ยาพิษ ภูติผีปีศาจ หากว่ายังไม่ถึงกาลที่จักตายแล้ว ก็จะพ้นไปได้ด้วยอำนาจแห่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ตนน้อมเอาเป็นสรณะที่พึ่ง ที่นับถือนั้น" จึงนิยมเอาพระสูตรนี้มาสวดในงานต่ออายุ จนกระทั่งปัจจุบัน

ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ - ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ พื้นฐานมาจากยันต์จตุโร ซึ่งเป็นยันต์ที่ใช้ได้ครอบจักรวาล มีการนำไปใช้หลากหลาย เช่น นำไปประกอบในยันต์โสฬสมงคล ลงบนอาวุธและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ลงศิลาฤกษ์ ลงเสาเอก เป็นต้น ซินแสบางท่านนำไปใช้ประกอบการปรับฮวงจุ้ย
สำหรับยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ตรงกลางจะเป็นตัวเลขแล้วล้อมรอบด้วยอักขระ นิยมลงในแผ่นโลหะ ทอง นาค เงิน ทองแดง เมื่อลงอักขระตามตำราแล้ว จึงนมัสการหรือเสกด้วยคาถา ๑๐๘ จบ ดังต่อไปนี้ "จัตตุโร นะวะโม ทะเวโช ตรีนิ ปัญจะ สัตตะ อัฏฐะ เอกะ ฉัฏฐี ธาเรนตุ สัพพะโสตถีภะวันตุเมฯ"พุทธคุณเน้นในด้านเจริญด้วยโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมา และรักษาทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัว

....ยันต์นี้อาจารย์บุญเลิศ ท่านเรียนมาจากตำรา อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ทั้งวิธีการลงยันต์แบบตารางม้าหมากรุก(แบบตัวL) ทั้งเขียนการลงตาราง และลงม้วนหัวมุมยันต์ ตามตำราโบราณทุกประการ

...ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ เป็นฤกษ์อำมฤตโชคอำมฤตโชควันวสันตวิษุวัตปรากฏการณ์ ดาวเคราะห์เรียงตัวเป็นเส้นตรง 4 ดวง ถือเป็นวันมหาโชคมีพลังงานโดยธรรมชาติอย่างมาก ท่านอาจารย์เลิศ ท่านจึงจะลงตะกรุด "แบบพิศดาร 2 ด้าน" และม้วนเป็นตะกรุดทั้งยันต์ไตรสรณคมน์(ด้านซ้าย) ยันต์จักตุโรบังเกิดทรัพย์(ด้านขวา อีกด้าน) ประกบกัน 2 แผ่นยาว 2 นิ้ว อาจารย์เลิศจะเสกอธิษฐานด้วยคาถาจักตุโร 108 ในคืนนั้น(พร้อมทำพิธีบูชาพระตอนเช้า)และจะนำไปขอเมตตาครูบาอาจารย์เมตตาอธิษฐานจิตเสริมพุทธานุภาพลงอีกครั้ง นับเป็นการเสร็จสิ้นตามแบบพิธีโบราณจารย์ครับ

.... อ.เลิศ กล่าวว่า ถ้าผ่านฤกษ์นี้ไปต้องรออีก 30 ปีจึงจะได้เจออีกท่านพูดติดตลกว่า "ถึงเวลานั้นถ้าไม่ตาย ฉันจะอายุ104(ท่านหัวเราะไปพราง)"​

 

ข้อความจากไลน์กลุ่มคณะผู้จัดสร้างจากทางโรงงานที่รับปั้มพระครับ
ได้นำมวลสารทั้งหมดและฝังตะกรุดแล้ว รอแห้งครับคงเปิดจองเร็วๆนี้
(พระผงล้างอาถรรพ์ ปัจจัยทั้งหมดถวายวัดวารินทราวาสครับ สร้างได้แค่ 480 องค์ ให้บูชาเพียงองค์ละ 80 เท่านั้น)

***ว่ากันว่าเวลาส่องลงไปดูในองค์พระทุกองค์ จะเห็นเม็ดแก้วมณีกาฬ เป็นเม็ดๆคล้ายๆเม็ดทรายติดทุกองค์เลยครับ***






​

 

ผมขอน้อมกราบอนุโมทนาบุญที่ท่านอาจารย์สันติ วรรณภิรมณ์ และ คณะผู้จัดสร้างพระผงล้างอาถรรพ์ในวาระนี้ได้เคยได้สร้างกระทำบำเพ็ญมาตั้งแต่ในอดีตชาติจนถึงปัจจุบันวันนี้ด้วยครับ _/|\_ _/|\_ _/|\_

สร้างพระ 1 องค์ ได้อานิสงส์ 5 กัป.... ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สร้างด้วยอะไรก็ตาม หมายความว่าบุญกุศลจะตามหนุนส่งท่านไปทุกภพทุกชาตินานถึง 5 กัป.... (หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)

ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี ใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน (หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว) อ้างอิงจากในโพสต์ #1 และ #1 ครับ

… ขออำนาจบุญจงรักษาท่านอาจารย์สันติ วรรณภิรมณ์ และ ครอบครัว กอปรกับคณะผู้จัดสร้างพระผงล้างอาถรรพ์ในวาระนี้ และ ทุกๆท่านที่เข้ามาร่วมบุญในกระทู้นี้ หรือ ร่วมอนุโมทนาบุญในกระทู้นี้ด้วยเทอญ… สาธุครับ _/|\_
… บุญรักษาครับ

ปล. … หากผมมีวาสนาเพียงพอขอให้ผมจองได้ทันสัก 1 องค์ด้วยเถิด… ผมขอแค่องค์เดียวจริงๆครับ... เมตตา อนุเคราะห์ และ สงเคราะห์ผมด้วยเถิด… _/|\_

 

ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญบูชา
"พระผงขุนแผน รุ่น ล้างอาถรรพ์" จัดสร้างในนาม "วัดวารินทราวาส"


​

....ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญบูชา"พระผงขุนแผน รุ่น ล้างอาถรรพ์" จัดสร้างในนาม "วัดวารินทราวาส" ปัจจัยจากการบูชาพระถวายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟและค่าบำรุงถาวรวัตถุทางพุทธศาสนาต่างๆภายในวัดต่อไป เพราะปีนี้หลวงตาวิลาศ ปสาทิโก เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ท่านจำพรรษาอยู่เพียงองค์เดียวด้วยอายุวัย 77 ปี จึงจะได้ปัจจัยส่วนนี้น้อมถวายเพื่อเป็นปัจจัยในกิจกรรมดังกล่าวของวัดต่อไป..

....พระผงพิมพ์ขุนแผนชุดนี้ จัดสร้างแบบพิมพ์ของพระขุนแผนหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ โดยคณะอาจารย์สันติ วรรณภิรมณ์ อาจารย์ฆราวาสศิษย์สายวัดประดู่ทรงธรรม ท่านได้นำสูงการทำผงมงคลแบบโบราณ โดยนำมวลสารตั้งต้นตั้งแต่นำมวลสารต่างๆ เช่น ผงว่านต่างๆ108,ผงพระบางขุนพรหม,ผงยาจินดามณีสูตรหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว,ดิน 7 ท่า 7 โป่ง,ผงเสาร์พัทธสีมา 8 วัด,ร่วมไปถึงผงธาตุกายสิทธิ์ "แก้วมณีกาฬ" หลวงปู่เย็น แห่งถ้ำภูควายเงิน เป็นมวลสารตั้งต้น และมีผงพระล้างอาถรรพ์หลวงปู่ศรีจันทร์ปี 2544 หลวงปู่หมุนอธิษฐานจิต อีกด้วย(ดังในโพสที่ #3721)

....นำมาผสมและหมักผงด้วยน้ำว่าน,ว่านเหลือง ปล่อยให้แข็งก่อนนำมาทำพิธี "จารยันต์รังษีธรรมพระพุทธเจ้าอันมีคุณไม่มีประมาณ"ดังในโพส #3723" ก่อนนำมาจารและอธิษฐานจิต โดยท่านอาจารย์สันติ ผู้ทำพิธีการตามสูตรโบราณจารย์(ดังในโพส #3724) และผสมดินต้นกัปป์ลงไปด้วย เฉพาะทำผงก็เกิดความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังยิ่งนัก

​

*********************************



​

- ผู้ที่ร่วมบูชาองค์ละ 80 จะได้รับพระผงขุนแผนพิมพ์ล้างอาถรรพ์ 1 องค์ ในการนี้ท่านที่จองทุกท่านจะได้รับผงล้างอาถรรพ์และตะกรุดมหาบุรุษแปดจำพวกท่านละ 1 ชุดด้วยครับ

ผงแก้วมณีกาฬ"ผงกายสิทธิ์แก้วดำ"
หลวงปู่เย็น วัดถ้ำภูความเงิน​

- "ผงล้างอาถรรพ์" ผงล้างอาถรรพ์นี้ เป็นผงที่สำเร็จแล้วและเป็นเนื้อผงเดียวกันกับนำไปปั้มเป็นพระ เป็นผงที่ทำตามสูตรโบราณจารย์คือ มีส่วนผสมของผงเสาร์หลักเมือง,ดิน 7 โป่ง,ดิน 7 ท่า,ผงคราบเสาร์เสมา 7 วัด,ผงแก้วมณีกาฬ,และผงวานยาต่างๆของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว,ผงหลวงปู่ดู่,และผงกว่า 10 ขนิด เป็นต้น

.....นำมาผสม(ดังรูปในโพสต่างๆ) ทำพิธีพลี "ดินต้นกัปป์" แล้วนำผงเดิมล้างอาถรรพ์ของหลวงปู่ศรีจันทร์ที่หลวงปู่หมุนปลุกเสก ผสมเข้าไปด้วยหลังจากนั้นนำไปผสมและทำพิธีหมักดินเป็นก้อน ตากแห้งแล้วนำก้อนมวลสารมาลงยันต์ "รัศมีธรรมพระพุทธเจ้าอันไม่มีประมาณ" ก่อนนำไปขึ้นผงอีกครั้ง เป็นผงล้างอาถรรพ์

.....ผงล้างอาถรรพ์ที่จะนำแจกให้นี้ อ.สันติท่านบอกอุปเท่ห์ว่า "นำไปใช้ได้สารพัด ถ้าใครจะสร้างบ้านใหม่ให้นำผสมทรายจะเป็นทรายเสก แล้วเทลงหลุมเสาร์เอกบ้านก็จะเป็นการฝังอาถรรพ์ตามโบราณจารย์ บ้านจะอยู่เย็นเป็นสุขภัยอันเกิดจากไฟจากฟ้าก็ดี จะไม่ทำอันตรายใดๆบ้านเรือนนั้นได้เลย ถ้ามีบ้านอยู่แล้วจะทำให้เป็นพิธีฝังอาถรรพ์ให้นำผสมกับทราย ทรายนั้นจะเป็นทรายเสก ให้โปรยรอบบ้านก็จะมีผลเช่นเดียวกันกับฝังอาถรรพ์เลยที่เดียว สิ่งไม่ดีก็ไม่สามารเข้ามาภายในบ้านได้ คนในบ้านจะอยู่เย็นเป็นสุข...." จะแจกให้ท่านที่ร่วมบุญท่านละ 1 ตลับครับ ...อ.สันติ กล่าวว่าผงที่ทำครั้งนี้ถูกต้องตามแบบของ "หลวงปู่ศุข วัดปากกลองมะขามเฒ่า" และผสมผงแก้วมณีกาฬด้วย สมัยก่อนหลวงปู่ศุข เวลาท่านจะทำพิธีไหว้ครูบูชาพระ ท่านจะทำผงนี้ก่อนแล้วนำไปผสมทราย ก่อนให้ลูกศิษย์นำไปโปรยรอบวัดในวันงาน ท่านว่าพวกอมนุษย์หรือคนคิดไม่ดี จะไม่สามารถเข้ามาวัดได้เลย"

​

- "ตะกรดมหาบุรุษสี่จำพวก" ให้อีก 1 ดอกด้วยครับ ท่านบอกว่าตะกรุดนี้ท่านได้เรียนมาจาก "พระอาจารย์ธูป จ.ลำพูน" พระอาจารย์ธูปเรียนมากับ หลวงพ่อพล วัดวังยายหุ่น หลวงพ่อพลเรียนมาจากหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาป้อง(ศิษย์หลวงปู่มั่น) หลวงปู่สิมเรียนมาจาก "พระครูบาศรีวิชัย"

ซึ่งเป็นเป็นตะกรุดที่ลงหัวใจ "อริสัจสี่ไว้" ลงในแผ่นขนาด 1 นิ้ว(อ.สันติลงตามสูตรของครูบาศรีวิชัย) โบราณท่านบอกว่ายันต์นี้ ไปอยู่ในที่แห่งใดที่แห่งนั้นจะเกิดความอุดมสมบูรณ์ มีความเจริญเกิดขึ้นในที่นั้นๆ วัดล้างถ้ามียันต์นี้อยู่ก็จะมีผู้คนมาบูรณะให้ ถ้ามีกิจการร้านค้านำไปติดบูชาไว้ ก็จะมีคนเข้าออกตลอดไม่เงียบเหงา นี้ตะกรุดวิชานี้ท่านว่ามีมาเป็นพันๆปีแล้ว พระครูบาศรีวิชัยท่านได้มา และจารยันต์นี้ลงไปในพระธาตุดอยสุเทพด้วย จนถึงปัจจุบันผู้คนยังขึ้นไปกราบไหว้องค์พระธาตุอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว(รายละเอียดยันต์นี้หาดูได้ตามเวปต่างๆครับ) ***ตะกรุดทั้งหมดได้รับการอธิษฐานจิตจาก ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง โดย อ.สันติ ได้นำไปขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตให้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมนี้ครับ*** แจกฟรีครับ

*********

ด้านหลังบรรจุตะกรุด "สุคโต ภควา" ปั้มยันต์สุตโค


​

....อักษรคำว่า "สุคโต ภควา" อ่านว่า สุ-คะ-โต ภะ-คะ-วา ตัวอักษรที่โบราณจารย์รจนา นำเข้ามาในส่วนของยันต์กังหันครับ 3 ตัวอักษรแรก ที่นำมาบรรจุในยันต์กังหันว่า สุคโต เป็นบทหนึ่งในบทสรรเสริญพุทธคุณแปลว่า "ผู้เสด็จไปดีแล้ว" เคล็ดตรงนี้โบราณจารย์ท่านถือว่า "ไปดีมาดี" เพราะพระพุทธเจ้าท่านเป็นผู้ไปด้วยดีแล้ว หมายถึงไปเป็นสุข ไปในดินแดนที่ไม่เกิดอีก(นิพพาน) เพราะไม่มีที่สุดใดดีไปกว่าการไปถึงซึ่งพระนิพพานอีกแล้ว ตรงนี้เรียกตัวอักษรสุคโต การนำมาลงในโครงสร้างยันต์ "กังหัน" เพราะกังหันหมายถึงเคล็ดการพัดไปของลม คือตราบใดที่เรามีลมหายใจอยู่หรือที่ใดมีลมเข้าถึง ผู้มียันต์นี้ติดตัวย้อมเป็นผู้ไปพบเจอแต่สิ่งที่ดี มาก็ดีไปก็ดี โบราณจารย์กล่าวไว้...

....อักษรต่อมาที่อยู่ด้านล้างยันต์กังหัน อ่านว่า ภะ-คะ-วา เป็นตัวอักษรที่โบราณจารย์รจนา มาจากบทหนึ่งในบทสรรเสริญพุทธคุณแปลเป็นพระนาม"เรียกขานพระพุทธเจ้า" ซึ่งแปลว่า "ผู้มีโชค" การนำอักษรดังกล่าวมารวมกับยันต์ "สุคโต ภควา" แปลรวมความว่า "ไปดีมาดีมีโชค"
นี้คือการนำคำเป็นมงคลมารจนา เป็นบทเป็นคาถามาผสมเพื่อน้อมนำพลังงานความหมายมาใช้มาเป็นคุณแก่ผู้บูชา​

......และในการนี้คณะผู้จัดสร้าง โดย อ.สันติ วรรณภิรมณ์(ท่านเป็นอาจารย์ร่ำเรียนวิชามาจากสายวัดประดู่โรงธรรม) ได้มอบตะกรุด "สุคโต" ให้นำมาบรรจุภายในองค์พระด้วยทุกองค์ ท่านกล่าวว่า "ตะกรุดสุคโตภควา นี้ท่านจารไว้ตามสูตรโบราณ และกำกับเสกด้วยคาถาส่วนหนึ่งของ "อิติปิโสรัตนมาลา108" เพราะคำว่า สุ-คะ-โต-ภะ-คะ-วา ในอิติปิโสรัตนมาลา ชุดคาถา 6 บทมากำกับทุกดอก มีคุณวิเศษทุกตัวอักษร" ซึ่งยันต์นี้ท่านจารไว้ตั้งแต่ปี 2560 และขอเมตตาหลวงปู่เย็น ฐานธัมโม อธิษฐานจิตให้หนึ่งวาระ(ยิ่งเพิ่มพลังงานมากขึ้น)​

​

************

​

....สำหรับท่านผู้มีจิตศรัทธาอยากร่วมบุญในครั้งนี้ บูชาองค์ละ 80 บาท ท่านจะได้ครับพระ 1 องค์(และของแถมมงคลดังที่กล่าวข้างต้น) สามารถจองและโอนปัจจัยได้ตั้งแต่บัดนี้ 17/3/2564 ไปจนถึงวันที่ 21/3/2564 หลังงานพิธีอธิษฐานจิตแล้วจะจัดส่งพระที่ระลึกให้ทุกท่านที่จองต่อไปครับ และสามารถติดตามงานพิธีอธิษฐานจิต ได้จากบอร์ดนี้เรื่อยๆครับ จะลงให้ทราบเป็นระยะจนกว่าจะจัดส่งให้ทุกท่านครับ

อนุโมทนาครับ​

 

พระผงขุนแผน รุ่น ล้างอาถรรพ์" จัดสร้างในนาม "วัดวารินทราวาส"

ร่วมบุญ 4 องค์ครับ

 

ขอร่วมทำบุญ 10 องค์ครับ

 

ร่วมบุญ 20 องค์ครับ อาจารย์

 

ขอร่วมบุญ "พระผงขุนแผน รุ่น ล้างอาถรรพ์" 5 องค์ครับ

 

พระผงขุนแผน รุ่น ล้างอาถรรพ์" จัดสร้างในนาม "วัดวารินทราวาส"

ร่วมบุญ 20 องค์ครับ

 

ขอร่วมบุญพระผงล้างอาถรรพ์ 5 องค์ครับอาจารย์

 

ร่วมทำบุญพระผงขุนแผน รุ่น ล้างอาถรรพ์" จัดสร้างในนาม "วัดวารินทราวาส" 4 องค์ครับ สอบถามอาจารย์ ตะกรุดของท่านอาจารย์บุญเลิศ**ยันต์ไตรสรณคมน์-ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์** มีให้ร่วมทำบุญหรือเปล่าครับ ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ด้วยครับ