พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

สวัสดีตอนเช้าครับพี่ธุรี.....วันนี้มาเช้าจัง..(^^)

 

สวัสดีตอนเช้าครับพี่ธุลี-ดิน วันนี้ไม่มีพระสวยๆมาให้ชมหรือครับพี่

 

:z2พี่รุ่งคะ
อนุมัติแล้ว...ค่ะ

 

ถึงจะสิ้นวิญญานกี่ครั้ง
ฉันก็ยัง...ฝังใจ"รอคอย"

 

จะชมพระอะไรครับ เดี๋ยวจัดให้ครับ

 

กระดาษยันต์หลวงปู่ทิมสวยมากครับ (ขอโทษครับกระดาษหรือผ้ายันต์ครับพี่เสือ)

 

ผมว่าน่าจะกระดาษยันต์นะครับพี่ธุลีดิน ดูจากแสงสะท้อน

 

สวัสดีพี่ๆทุกท่าน ยาม สายๆครับผม

 

เป็นภาพกระดาษในหนังสือ หอฉัน ของหลวงปู่ทิม ครับ ผ่านการปลุกเสกด้วยครับ

 

ผมก็มีอยู่ใบหนึ่งครับ

 

แอบซุ่มอยู่ครับ

 

หวัดดียามเกือบเพลเด้อพี่น้อง บ่ซำบายครับ สงสัยสิเป็นไข้น้อ:'(

 

นิมิตเห็น"พระอรหันต์"
:z7น้องนอร์คะ
;k02นิมิต หมายถึง ฝันที่เป็นจริง<O</O
<O</O
ใครก็ตามที่มีนิมิตเห็นพระอริยสงฆ์ที่เป็นถึงพระอรหันต์ได้ คนๆนั้นจะต้องมีจิตที่บริสุทธิ์มากพอสมควร จึงจะเห็นนิมิตเช่นนั้นได้ น้องนอร์ฝันเห็นพระอรหันต์ทั้ง 2 รูปนั้น เป็นการบอกให้ทราบว่า น้องนอร์มีจิตที่บริสุทธิ์มากๆและมีนัยนะบ่งบอกว่าน้องนอร์เป็นคนที่มีพลังทางจิต(เพราะเคยฝึกจิตมาก่อนตั้งแต่ในอดีตชาติค่ะ)
;aa10 แต่ในชาติปัจจุบัน น้องนอร์กำลังเริ่มต้นเดินทางเข้าสู่เส้นทางธรรม (จากการที่น้องนอร์เริ่มๆจะสนใจในเรื่องของพระพุทธศาสนาและเริ่มต้นในเรื่องของการปฏิบัติธรรม )
;k05 พูดง่ายๆว่า ปัจจุบันน้องนอร์เริ่มฝึกพลังทางจิต(จาการฝึกสมาธิไงคะ)ถือเป็นการต่อยอดเพิ่มเติมพลังทางจิตจากที่เคยบำเพ็ญมาแต่ในอดีตชาติ (และยังติดตัวมาในชาตินี้ แต่น้องนอร์เองไม่ทราบว่าตนเองมีพลังจิต แต่การนิมิตเห็นพระอรหันต์มีความหมายนัยยะเช่นนั้นค่ะ)
อนึ่ง ยังมีนัยยะความหมายถึง "การหวังในสิ่งใด จะสมหวังดังปรารถนาอีกด้วยนะคะ"
;aa32 และการปฏิบัติธรรมของแต่ละคน ก็มิได้หมายความว่า ถ้าปฏิบัติธรรม ทำสมาธิแล้ว จะเกิดพลังจิตทุกคน หรือจะมีอภิญญาทุกคน(หาได้เป็นเช่นนั้นไม่..) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ"วาสนาบารมีทางธรรม"ของแต่ละคนด้วย
(deejai) เพราะคนบางคนปฏิบัติธรรมมานานชั่วชีวิต ไม่พบเจออะไรเลยก็มี เช่นกันบางคน ปฏิบัติธรรมมานาน...แต่ไม่มีพลังจิตเลย มีเพียงแค่"ญาน"อย่างเดียว ก็เยอะแยะมากมาย
rabbit_sleepyญาน ก็คือ การหยั่งรู้หรือปัญญา กล่าวคือ สามารถรู้เห็น มีจิตสัมผัส มีลางสังหรณ์ แต่ไม่มีพลังจิต
(tm-love)การนิมิตเห็นท่านเป็นเพราะน้องนอร์เคยอธิษฐานจิตเอาไว้ชาติก่อน และต้องเคยมีความเกี่ยวพันกันกับท่านทั้งสองมาก่อน ท่านมาปรากฎในนิมิตเช่นนั้นเพื่อเสริมพลังทางจิตให้แก่น้องนอร์ค่ะ และเป็นสัญญานบ่งบอกว่าในวันข้างหน้า น้องนอร์อาจจะเดินทางเข้าอยู่ในเส้นทางผ้ากาสาวพัตร์ได้ค่ะ<O</O
(smile)อนึ่งยังเป็นนิมิตหมายที่สำคัญที่เป็นสัญญานบ่งบอกให้ทราบว่าหากน้องนอร์เข้าสู่เส้นทางผ้ากาสาวพัตร์ จะไปได้ไกลและจะเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากๆอีกด้วยนะคะ
(f) นิมิตของน้องนอร์ แปลโดยพระคุณเจ้าซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของพี่ลับแลนะคะ
ใครจะไปรู้ว่า....วันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า
(kiss) เราอาจจะมี เจ้าคุณนอร์...เกิดขึ้นอีกท่านก็ได้....
ไม่แน่หรอกนะคะ

 

เราไม่เด่น ไม่ดัง ถึงขนาดที่จะกำหนดได้ขนาดนั้นครับพี่สุข

มีคนจองเราก็ดีใจแล้วครับ เพราะเราต้องเปิดจองแข็งกับการทำงานของช่าง

ทุนเราไม่หนา สายป่านเราไม่ยาว และของต้องจ้างเค้าทำครับพี่ :'(

 

รับเช้าวันดีๆสำหรับทุกๆท่านและผู้ซุ่มดูครับ..(^_____^)

หลวงพ่อเงินย้อนยุค
พี่ที่ทำงานเก่าไปทำบุญที่วัดบางคลานเมื่อ10ปีก่อน และนำมามอบให้เป็นที่ระลึกก่อนจากกัน ^__^

 

ไม่เป็นไรครับ ร่วมกันทำบุญหลาย ๆ ท่านเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ครับ

ถึงวันหล่อพระเมื่อไหร่บอกผมก่อนนะครับ จะส่งมวลสารไปให้ ตอนนี้ยังไม่ส่ง รอให้ได้หลาย ๆ ครูบาอาจารย์

ไม่แน่หรอกครับ พระกริ่งรุ่นนี้อาจจะดังขึ้นมาก็ได้ครับ "ดี"ในทุก ๆ ด้าน

 

พระหลวงพ่อเงินดูขลังดีครับคุณนอร์

พลซุ่มยิง "คนชอบพระ" หายไปเลยครับ สงสัยคงซุ่มถ่ายภาพพระอยู่ครับ

ผมยังจัดระเบียบไม่เสร็จเลยครับ

 

(deejai)พระภิกษุสงฆ์รูปใด....ที่เข้าไปบิณฑบาตรในพระราชวังโดยไม่ได้รับกิจนิมนต์มาก่อน???

ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน(ท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว)
จึงทำให้พระอริยสงฆ์รูปหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รับกิจนิมนต์ แต่เข้าไปรับบิณฑบาตรในพระราชวังได้อย่างน่าอัศจรรย์ เป็นยิ่งนัก
(f) พระภิกษุรูปนั้น ...ก็คือ
หลวงปู่ขาว อนาลโยค่ะ(deejai)

 

ผมก็ว่างั้นอ่ะครับ...สงสัยซุ่มเก็บของดีอยู่แน่ๆ คงกะจัดหนักที่เดียวเลย อิอิ ^^

กราบหลวงปู่ขาว อนาลโย ครับ.....^__^

 

วันนี้ (22 ก.พ.) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทเนื่องในวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2555 ความว่า วันมาฆบูชาอันเป็นอภิลักขิตกาลที่สำคัญวาระหนึ่งของพระพุทธศาสนา ได้เวียนมาถึงอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 7 มีนาคม 2555 นี้ เมื่ออภิลักขิตกาลเช่นนี้เวียนมาถึง ก็เตือนจิตให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญ ในพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นในวาระนี้ คือ จาตุรงคสันนิบาต การประชุมที่พร้อมด้วยองค์ 4 คือ พระอรหันตสาวก 1,250 รูป มาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พระอรหันตสาวกเหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุ พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ และวันนั้นเป็นวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ หรือเดือน 3 ฉะนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงวาระสำคัญดังกล่าวแล้ว พุทธศาสนิกชนทั่วไปจึงได้ทำการบูชาเป็นพิเศษขึ้น เรียกว่า มาฆบูชา

วันมาฆบูชา จึงเป็นการบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ที่รวมเรียกว่า พระรัตนตรัย ซึ่งเมื่อเรียกโดยระบุชื่อแล้ว ดูเหมือนจะเป็นคนละอย่างต่างกัน แต่ว่าโดยสารัตถะ หรือความหมายที่แท้จริงแล้ว พระรัตนตรัยนั้นก็รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ พระธรรม ความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้และพระสงฆ์ได้ทรงรักษาไว้และปฏิบัติสืบต่อกันมานั้นเอง และพระธรรม ความจริงที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน ที่เรียกรวมว่า พระพุทธศาสนานั้น ก็สรุปลงเป็นหลักสำคัญดังที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ในโอวาทปาติโมกข์ 3 ข้อ คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม และการชำระจิตของตนให้บริสุทธิ์

ฉะนั้น ผู้ที่ระลึกถึงพระพุทธโอวาทนี้อยู่เสมอ จึงเท่ากับระลึกถึงพระรัตนตรัยอยู่เสมอ ผู้ที่มีพระธรรมคำสอน ทั้ง 3 ประการนี้อยู่ในใจ ก็เท่ากับมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่ในใจ ผู้ที่น้อมนำเอาพระธรรมคำสอนทั้ง 3 ประการนี้ มาปฏิบัติเป็นปกติประจำวัน ก็ได้ชื่อว่าได้ปฏิบัติบูชาพระรัตนตรัย พร้อมทั้งได้ปฏิบัตินับถือพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

อนึ่ง ในปีพุทธศักราช 2555 นี้ เป็นวาระครบ 26 ศตวรรษแห่งพระพุทธศาสนาที่ประดิษฐานมั่นคงอยู่ในโลก นับว่า เป็นอภิลักขิตกาลที่พิเศษอีกวาระหนึ่ง จึงควรที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จักถือเป็นโอกาสใส่ใจศึกษาและตั้งใจ ปฏิบัติพระพุทธศาสนากันอย่างจริงจังอีกวาระหนึ่ง เพื่อความดำรงคงอยู่ของพระสัทธรรม อันจะอำนวยสันติภาพและสันติสุขแก่โลก ตลอดไปชั่วกาลนาน...