ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ขอบพระคุณครับ

 

รายงานตัว คืนนี้เดินทางไปกทม เพื่อเตรียมไปงานบวช
น้องท่านหนึ่งที่เคยดูดวงให้ น้องจะบวชตามที่เคยทายทักไว้
ส่วนวันเสาร์ ก็จะหาโอกาสไปพบกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง
ซึ่งเป็น เจ้าสำนัก ในการปฏิบัติสมาธิ และมีพลังจิตสูง

ส่วนวันอาทิตย์ถ้ามีโอกาส คงจะได้ไปกราบท่าน พระเย็นเต็ก
เจ้าอาวาสวัดโพธิแมนคุณาราม หวังว่าบุญคงถึง
เป็นวัดจีนนิกายมหายาน. สาธุในบุญที่นำพาไป

ส่วนวันจันทร์มีนัดกับครูบาบุญมี เพื่อถวายเงินอีกประมาณ
5,xxx บาท จากกัลยาณมิตร หลายท่าน

สาธุ หลวงพ่อโทรมาบอกว่า ซื้อกระเบื้องเตรียมปูแล้วนะโยม
มาถ่ายรูปไปให้ญาติโยมที่ทำบุญมา ได้ดู ได้เห็นร่วมกัน

 

กลับบ้านมา เจอกล่องไปรษณีย์ เปิดมาวันนี้ น้ำตาไหลพราก
กัลยาณมิตรนามว่า พ่อณภัทรส่งมาให้ มันดีงามมากในจิตใจ

วัวธนูตัวนั้น เห็นด้วยจิต เป็นวัวธนูสีแดงขนาดใหญ่ แต่มีลวดลายยันต์สีทอง
ดูคึกคัก ดุดัน มีพลัง

ผงยาจินดามณีในตลับเหมือนแผ่พลังงานได้

พญานครุฑตนนี้ ที่สุดของความขลัง

และที่เข้มขลัง ก็เหรียญราหู ขนาดใหญ่ ของหลวงพ่อหนุน

 

ไม่ได้ฟังเพลงนานแล้วจ้า อยู่ดีๆ ช่วงนี้ก็ได้ยินเพลงนี้บ่อยมาก

 

เพลง... วัยรุ่น มั่กๆ

 

เมื่อวาน ไปวัดประชาบำรุงมาค่ะ ทำบุญเพิ่ม 5,100 บาท
คุณน้ำทิพย์ วงศ์กุศลศิริ 4,000
คุณเชิงชาญ 100
คุณ pruek 500
เพื่อนคุณpruek 100
คุณฉวี 100
คุณเกษ ลี 200
คุณหมอเทส 100

ตอนนี้ปูไปได้เกือบครึ่งศาลา เป็นค่ากระเบื้อง 24,246 บาท
ค่าแรงช่าง 10,000

 

บอกบุญวันพระค่ะ สร้างสมเด็จองค์ประถม วันที่ 8 พฤศจิกายน 2558
วัดวนาสันต์ ต.แดงใหญ่ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์
ขนาดหน้าตัก 10 ศอก สูง 9 เมตร

ใช้บัญชีของพระนะจ๊ะ

บัญชี ... พระประทีป สุภัทโท

หวังว่าคงได้พบกัน

 

มาเล่านิทาน การผจญของจารุ ที่ไปกทม วันเสาร์-วันอาทิตย์
เพื่อพบกัลยาณมิตรท่านหนึง ผู้มีพลังจิตสูง
แต่ไม่ยอมให้บอกชื่อเสียงเรียงนาม

 

เป็นโอกาส เนื่องจะไปบวชวันอาทิตย์ จึงขึ้นกทม ตั้งแต่ศุกร์
วันเสาร์ก็ไปเที่ยวเล่น ตอนเย็นมีนัดกับ ผู้เปิดบ้านเป็นสถานฝึกสมาธิ

และแอบสงสัยว่า คนนี้แหละวะ ที่อยากเจอตัวจริงตั้งแต่เขียนกระทู้มา
กระแสพลังงานรุนแรงมาก มาหลายๆ ทาง

แต่จะโดนทดสอบหรือเปล่าน้อ เราก็ไม่มีวิชาอะไรซะด้วย เลยลากเพื่อนสาวไปด้วยหนึ่งคน 555 เพื่อนไม่รู้อิโหน่อเหน่ บอกจะพาไปพบครูสมาธิ เพื่อนก็เป็นคนปกติ
แต่จิตใจดีมาก ชอบทำบุญเป็นนิจ

 

ไปบ้านของ คุณที ละกัน นามสมมุติ 555
เกือบถึงทุ่มกว่า คุณทีดูอ่อนเพลีย เพิ่งกลับจากงาน
ก็เกรงใจ สนทนาเรื่องทั่วไป กะว่าจะกลับล่ะ เกรงใจ
คุณทีบอกให้อยู่ก่อน อุตส่าห์มาตั้งไกล ก็เลย เอาวะ งั้นขอทดสอบเตโชกสิณ
ได้มั้ยคะ เห็นแต่ตัวหนังสือ ได้ยินแต่เรื่องเล่า ขอทดสอบ
แบบว่า ฮัลโหล เทส

 

คุณทีบอกว่า วันนี้ เหนื่อยนะ ลองดูก็ได้
แล้วก็เริ่มนำสวดมนต์ ด้วยบทธรรมดา ทั่วไป
แต่คุณที นั้นก่อนนั่งสมาธิ บอกว่าตนเองนั้น
กำหนดจิตได้สามสาย ทั้งธรรมกาย สัมมาอรหัง
และมโนมยิทธิ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เมื่อสวดมนต์เสร็จ คุณทีนั่งสมาธิโดยกล่าวนำ
ให้ตัดทุกสิ่ง และเหลือเพียงจิต ในอวกาศอันกว้างใหญ่

แต่จารุไม่รู้สึกร้อนเลย กลับเย็นอย่างเดียว
แล้วนิมิตแรกที่เห็นคือ ดอกบัวในกายของจารุ
ดอกบัวนั้น วันนั้นเป็นสีชมพู ไม่ใช่แก้วใส
ดอกบัว ณ ศูนย์กลางกาย ประมาณใต้ลิ้นปี่ เริ่มหมุนไม่หยุด
หมุนไม่ติดขัด หมุนเร็วมาก

ปล่อยดวงจิต ไม่สนใจทั้งการหมุน และเรื่องราวใดๆ
คอยระวังไฟจากเตโชกสิณ

ปรากฏกายแก้ว ประกายพรึก สดใสงดงามมาก มานั่งประจัญหน้ากับจารุ
ตอนนั้นแทบสะดุ้งจากสมาธิ OMG ฆารวาสแบบไหน ทำได้แบบนี้

กำหนดจิต แต่ที่แปลกใจ กายแก้วนั้น พยามจะหมุนเข้ามาประทับลงบนจิต
ของจารุ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด กายในของจารุกลับถอยห่าง หนีไปเรื่อยๆ
ถอยแบบถอยหลังไปเอง จนกายแก้วนั้น กลับมาประจัญหน้ากันอีกครั้ง

กายแก้วนั้นหายไป แล้วกลายเป็นการย้อนอดีตของจารุ เริ่มจากปัจจุบัน
จนไปถึงเด็ก แต่พอจะย้อนไปมากกว่าชาตินี้ ดวงจิตของจารุกลับปิดเอง
อัตโนมัติ แต่เท่าว่า เห็นทุกสิ่งทุกรายละเอียดในชีวิต

จากนั้นกลายเป็นความว่างเปล่า ในอวกาศ ปรากฏวิมานสีทอง
ที่งดงามของเทวดา บนสวรรค์ ล่องลอยเป็นสีทองเอิบอาบ
จิตพุ่งไปที่วิมาน เตรียมเข้าวิมาน ปรากฏเหมือนแผ่นกระจกใส
เมื่อมองไปเบื้องบน ปรากฏแสงสีรุ้ง ของมณีสวรรค์ อันทรงพลัง
เมื่อมองลงไป เบื้องล่าง เห็นเป็นบ้านของคุณที เราก็อ้อ อ๋อ เหรอ

แล้วก็ยังสงสัย พยายามกำหนดจิตไปกลางวิมาน ด้วยความสงสัยในจิตบางอย่าง

ปรากฏรูปครุฑสีทองขนาดใหญ่ เท่าวิมานนั้น บดบังจนมิด

เล่นเอาเหงื่อตก จะร้อง ไอ้หยา ก็เกรงใจ

จริงๆในใจวันนั้น ร้องว่า ชิบหาย แล้ว 555 อุทานเป็นกุลสตรีมาก

 

เพียงแวบเดียว วิมานและพญาครุฑก็หายไป
วิมานแบบไหนมีพญาครุฑดูแล

มองเห็นแสงสีทองแวบขึ้นมา เป็นเทวดาที่หน้าตางดงามมาก
ถือพระขรรค์ทองมา แล้วอยู่ดีๆจากลอยมา เทวดาองค์นั้น
ก็ไปนั่งบนม้าสีทอง แล้วลอยมาไกล้ๆ มายักคิ้วหลิ่วตา จนหนวดกระดิก

แล้วจารุก็ถอนออกจากสมาธิ

ป.ล.เทวดาองค์นั้นใส่เสื้อเต็มยศ

 

คุณที ทำหน้าเรียบเฉย แล้วสอบถามว่าจารุเห็นอะไรบ้าง
ก็เล่าไป และบอกว่า เทวดานั้น คือกายทิพย์แปลงของคุณทีใช่มั้ย

คุณที ก็ขำๆ และยอมรับ


จากนั้นก็ลากลับบ้าน นึกว่าจะจบ เปล่ามีต่อภาคสอง

 

ท่ามกลางความงุนงง เฮ้ย แปลงกายทิพย์ได้เลยเหรอวะ
คุณทีก็บอกจะตามไปพบที่งานบวช เพราะคุณทีอยากพบ
ผู้เป็นเจ้าของหินต่างดาว ที่จารุได้สัมผัส แต่จารุก็บอกว่า ไม่แน่ใจนะ

จนวันอาทิตย์ ก็ไปงานบวช เจ้าของหินก็ไม่มาตามที่คาด เลยโทรไปบอก
ตอนนั้นเกือบสิบเอ็ดโมง พิธีการเกือบเสร็จ เหลือแต่พระใหม่ฉันท์อาหาร

คุณทีก็มา แล้วแอบบอกว่า ไม่ต้องรอพระนะ เดี๋ยวจะพาไปทานข้างนอก
(วันนั้นเพื่อนคนเดิมก็ไปด้วยนะ เลยคิดว่า มาแปลก ต้องการอะไรกันแน่
แต่ก็เกรงใจ ด้วยวัยวุฒิ และคุณวุฒิ เลยคิดว่า แกคงรีบวุ้ย)

คุณทีพาไปวัดโพธิแมนคุณาราม วัดจีนที่พระรามสาม คิดว่าคงจะได้พบ พระอาจารย์เย็นเต็ก จึงรีบพาเพื่อนตามคุณทีไป

ก็ไปที่ร้านอาหารที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว คุณทีก็สั่งอาหาร
แต่อาหารยังไม่ทันมา แกก็เปิดฉากเล่าว่า เมื่อวานเกิดสภาวะ
ที่แกไม่เคยเจอมาก่อน เพราะแกไม่ได้ลงสมาธิลึก ดอกบัวในกายแก
กลายเป็นดาบสิบเล่มปักดาบลง ไม่ได้ชูขึ้น มาล้อมรอบตัวแก เหมือน
ป้องกันจากจารุ (ก็เลยคิดว่า อ้อ เรื่องนี้เอง ที่อยากรู้ ถ้ามาอ่าน จะตื้บตูมั้ย)

ก็บอกไม่ทราบค่ะ ไม่เคยเป็น 555 เคยเป็นแต่จักร แกก็นั่งจ้องหน้า
(เพื่อนตูตอนนั้น ทำหน้าที่เพื่อนที่ดีมาก ทำหูทวนลม 555)
แล้วก็เริ่มส่งกระแสจิต ตาดำของแกดำมาก เหมือนมีจักระหมุนวน

กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แต่ในใจส่งจิตประทะกัน เจริญพรล่ะ ดีน้ำต้มยำไม่เดือด
อ้อ มันเดือดด้วยแอลกอฮอลล์ 555 เริ่มเหนื่อย เนื่องจากกายสังขารไม่ฟิต

คุณทีบอกไม่ได้ส่งกสิณไฟมา แต่วันนั้น มาจากภายในตัว มาแบบเป็นคลื่นไม่หยุด
เบิร์นแคลอรี่กันเพลินเลยวันนั้น จารุก็พยายามเยือกเย็น นึกว่าจะกลายเป็นน้ำ
แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นไฟหุ้มร่างจารุทั้งร่าง ไปนั้นออกมาจากในกายจารุ
เพื่อผลักดันพลังงานที่จะไหลเข้าร่าง

 

เมื่อจารุและคุณที เริ่มประชุมเพลิงกันอย่างเมามัน โดยเพื่อนไม่รู้อิโหน่อิเหน่นั่งอยู่
และแล้วก็หยุดลง กินข้าวเสร็จ นึกถอนใจ อุ้ย ไปวัดรีบกลับบ้านดีกว่า

เดินผ่านไปอีกสองร้าน เจอร้านไอติมกับกาแฟ น่ารักทีเดียว แต่ตอนนั้น

หนูอยากกลับบ้าน คุณทีก็บอกว่าอยากทานกาแฟ (สงสัยจะร้อน เซ็งเป็ด 555)
คุณทีก็ชวนกินติม คิดในใจว่า อายุเลยเลขสาม แหมไปนั่งสนทนาในร้านไอติม
แกก็พยายามชวนคุยต่อ ว่าเห็นอะไร ในตัวอีก ก็เลยบอกไม่เห็น (ไม่อยากเห็นแล้ว)

กินไอติมไป เย็นไป เหมือนโดนคลื่นน้ำ เข้าไป จิตใจก็เริ่มเอร็ดอร่อยกับไอติมของโปรด ตัดเรื่องอื่นออกไป ขอบใจนะคุณที 555
ตอนท้ายๆ ก็สนทนาเรื่องมนุษย์ต่างดาว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณทีไม่บอกเลยว่าเห็นอะไรในตัวจารุบ้าง
ซึ่งคงไม่เห็นอะไร เพราะไม่มีอะไร 555

จากนั้น ก็ไปวัดโพธิแมน แกก็คงเลิกเล่น แล้วก็ไปไหว้พระอย่างสงบ
วัดสวยงามมาก แล้วก็แยกย้ายกันกลับ

ทุกอย่างที่เขียนนั้น เป็นความรู้สึกจารุเพียงฝ่ายเดียว แกอาจไม่ได้ส่งอะไรมาเลย
อาจจะมโนไปเอง อากาศคงร้อนมากไป หรือไอติมคงเย็นไป

ฟังเป็นนิทานสนุกๆ

แต่ขอบอก เพลียและร้อนมาก จนวันนี้เพิ่งหาย แต่ทางคุณทีก็บอกไม่รู้เรื่อง

 

แต่ในจิตวันนั้น ก็เห็นอดีตของคุณทีในหลายภพหลายชาติ แต่ไม่บอกดีกว่า
ไม่ใช่เรื่องของเรา แกก็ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่แล้ว สาธุ จบ (กั๊กบ้างไรบ้าง 555 ทีคุณทีไม่เห็นบอกไรเลย)
นอนดีฝ่า

 

ขอบคุณค้า สนุกสุดๆๆ เอา ไอสครีม มากำนัลค่ะ อิอิ

 

ขอเพิ่มรส รัมเรซิ่น ถ้วยนึง

 

ป.ล.แถมท้ายเรื่อง วันที่ไปบ้านคุณที
ขากลับจากบ้านคุณที นั่งแท็กซี่ กลับ
กำลังนินทาคุณทีให้เพื่อนฟังอย่างเมามัน
ผ่านไปสิบนาที เมามัน นินทาจนเพลิน
บอกเพื่อนว่า ก่อนมาหาคุณที มีเสียงกระซิบว่า ระวังคุณทีจะตามไปงานบวช
ยังบอกเสัียงนั้นไปว่า ไม่น่าเป็นไปได้
เพื่อนก็เลยบอก เออ งงทำไมเค้าอยากไป
เเสียงโทรศัพท์เข้า
คุณทีโทรมา คิดในใจว่า อุ้ย สงสัยได้ยิน ลืมไปว่ามีหูทิพย์(มั้ง)
คุณทีบอกว่า จารุมีกุมารหรือพรายกระซิบใช่มั้ย คอยกระซิบเรื่องต่างๆ
เพราะเห็นตอนนั่งสมาธิ มีเด็กคนนึงแอบอยู่ข้างหลัง เพราะคุณทีแปลง
กายทิพย์เป็นยักษ์หินแกล้งเด็ก ขอโทษด้วยนะ พร้อมเสียงหัวเราะ

แล้วก็บอกอีกว่า เพื่อนมีเทวดาผช ดูแลอยู่ แค่นี้ แล้วก็วางหูไป

 

ป.ล.2 วันที่ไปบ้านคุณที ก่อนนั่งสมาธิ คุณทีก็พาชมรอบบ้าน
บ้านเค้าแปลกมาก เป็นที่อาศัยของภพภูมิหลายชั้น ทั้งหิมพานต์
ทั้งกินรี รุกขเทวดา นาคราช แต่วันที่ไป คุณทีพาจอดรถลงหน้าบ้าน
ตรงหน้าบ้านซิ สัมภเวสีเต็ม เพราะแกคงสวด แผ่ ทุกวัน เค้าเลยมารับบุญ

พอเข้าไปในบ้าน ก็เป็นที่โล่งๆ มีโต๊ะรับแขกไม้ มุมหนึ่งทำเป็นโต๊ะหมู่บูชา
มีพระประธานขนาดใหญ่ จารุก็นั่งกับพื้น

บ้านคุณทีเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ชั้นบนก็ทำเป็นห้องไว้รับพระสงฆ์ หรือฆารวาสที่
มาพัก มาฝึกสมาธิ ส่วนแกนอนชั้นล่าง แกบอกให้ขึ้นไปดูชั้นสอง ว่ามีอะไรบ้าง

ก็คิดในใจ ขึ้นไปไมว้า ไปดูห้องโล่งๆ แกบอกพระธาตุเก็บอยู่ชั้นสอง ก็เลยไปก็ไป
ก็ไปดู เห็นเป็นห้องโล่ง มีที่นอนพับๆ ไว้ให้คนมานอน จนไปถึงห้องใหญ่ ที่ให้พระสงฆ์นอนกำลังจะก้าวเท้าเข้าไป
แวปมาในจิต ผญ ผมยาวมาก ใส่ชุดผ้าฝ้ายขาวกับผ้าถุงยาว เหมือนพวกคนเหนือ ตาคว่ำมาเชียว ตะโกนดังมาก เข้ามาทำไม

จารุก็ออกมายืนข้างๆคุณทีกับเพื่อน แล้วบอก ข้างบนเหมือนมี ผ...คน อยู่นะ
มารู้ตัวอีกทีเพื่อนลงไป คุณทีตามไป เรารีบเดินลงบันไดไป คุณทีหันมาถามว่า
อ้าวทำไมไม่ปิดไฟ จารุไม่พูดอะไร เดินจ้ำลงชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว

คิดในใจว่า พาตูมาดูผี เพื่อ???? เห็นงี้ กลัวผีนะเฟ้ย

ตอนหลังคุณทีมาเฉลยว่า มีผีผญ อยู่ชั้นสองจริง