ฝันได้พบยมบาลและท่านเตือนเรื่องเพื่อน

อเสวนา จะ พาลานัง ปัณฑิตา นัญจะ เสวะนา หรือแปลง่าย ๆ ว่า อย่าคบหรือพูดคุยด้วยคนพาล ให้คบหรือพูดคุยด้วยบัณฑิต ซึ่งคนไทยในยุคเก่าก่อนท่านเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน ท่านยังสอนลูกหลานอยู่เสมอในเรื่องนี้ว่า

 

เอ้อ ผมอยากทราบเรื่องราวของลุงพุฒอะครับ ...แฮะๆ อย่างที่คุณนาคราชอธิบายไว้นี้มีข้อมูลจากที่ไหนเหรอครับ หรือว่าได้ไปประสบกันมาแล้วจริงๆ ?

 

เห็นด้วยน่ะคับ ที่พี่เว็บคิดจัดระเบียบ แต่ถ้าให้ดีผมเห็นว่าความคิดใครบางคนที่ไม่เข้าท่าเข้าทาง ไม่ต้องให้มีเลยจะมีกว่า พี่เว็บไม่ควรเปิดเสรีมากเหมือนที่อื่นถ้าความคิดใดที่ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ไม่เป็นไปเพื่อการขบคิดพิจารนาธรรมมะหรือบ้าไม่เลิก พี่ท่านควรลบออกให้หมด เพราะน้องเองเห็นว่าเป็นการไม่สมควรเลยที่ใครๆ จะมาใช้บอร์ดนี้บ่อนทำลายพระศาสนา จะเป็นมลทินแห่งบารมี ตอนนี้บอร์ดที่สะอาดๆ มีไม่มากแล้ว อยากให้พี่เว็บลองคิดดูน่ะคับ ถ้าเป็นผม ผมเองจะขวนขวายทุกวิถีทางที่จะดำรงพระศาสนาไว้ให้ได้ไม่วางเฉยในเรื่องนี้แน่ ความคิดใครบางท่านเห็นแล้วชวนให้เกิดศรัทธาแต่บางคนเห็นแล้วก็สลดใจ พี่ท่านคิดว่าสิ่งใดที่สะอาดก็ทำเทอญ ขออวยพร

 

WebSnow เข้าใจแล้วใช่มั๊ย? ที่ ฝันได้พบยมบาลและท่านเตือนเรื่องเพื่อน

และคืนวันที่ 25/1/48 WebSnow ก็ได้ฝันอีกว่าไฟไหม้เว๊ปบอร์ด

จากข้อความตอนหนึ่งในห้องจักรวาลคู่ฯ

ให้ WebSnow สังเกตุว่า Forumใด ที่อยู่บนสุดในเว๊ปบอร์ด (ห้องวิทย์ฯ) ใช่หรือเปล่า? ไฟไหม้ในความหมายคือ จะเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง หรืออาจเกิดการทะเลาะกันขึ้น ในบอร์ดของห้องวิทย์ฯ

ก็แสดงว่า "ผมส่งจิตไปให้คุณได้รับรู้ ... ได้สำเร็จ" ?
กรุณาอย่าเชื่อผมนะ ... ผมแค่ทดลองส่งจิตไปแค่นั้น ไม่ได้เล่นไสยศาสตร์ นะครับ แต่ถ้าใครเล่นไสยศาสตร์ อันนั้นไม่เกี่ยวกับ ปู่ NiNe นะจ้ะ.......

 

ใช่มั๊ย?

 

ถูกต้องที่สุดค่ะ เรื่องของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องที่สูงส่งมาก อาจจะเล่นกันมากเกินไป

 

การส่งกระแสจิต ... ไม่ใช่การเล่นไสยศาสตร์อย่างแน่นอน
แต่เมื่อทางกฎหมายเอาผิดกับคนเล่นกระแสจิตไม่ได้... หรือสรุปง่ายๆ ก็คือ ... เอาผิดกับคนเล่นไสย์ศาสตร์...ไม่ได้ ... ก็แปลว่าไม่ได้กระทำผิดตามกฎหมายเฉกเช่นกัน (อุว๊ะ ... สำนวนคุ้นๆ แฮะ)

 

เอ่อ ผมไม่ได้เป็นศิษย์ หลวงพ่อพุทธทาสนะครับ แต่ผมสงสัยว่าคุณ websnow ทราบได้อย่างไรว่า หลวงพ่อพุทธทาสเข้าใจธรรมลึกๆของพุทธเจ้าผิด ฟังตามคำบอกเล่าจากใครมาหรือเปล่า พุทธเจ้าบอกว่าอย่าเชื่อตามที่อาจารย์บอก อย่าเชื่อตามคำล่ำลือ จงพิสูจน์ก่อนแล้วจึงเชื่อ ที่บอกอย่างนี้ไม่ใช่ว่าผมเก่งนะ ผมก้อไม่ค่อยรู้อะไรหรอก แต่ท่านด้งออกจะขนาดนั้น ในหลวงก้อเสด็จไปกราบนมัสการ จะเป็นไปได้หรอ เพราะว่าพระแต่ละองค์ที่ในหลวงของเราเสด็จไป สุดยอดทั้งนั้นนะ ผมว่าน่าจะอยู่กลางๆมากกว่า สมมุติว่าท่านผิดจริง เราก้อไม่ผิด ถ้าท่านถูกจริง เราก้อไม่ผิด และผมก้อยากทราบว่า ท่านพุทธทาสเข้าใจอะไรผิด จึงนำมาสอนมหาชนให้ผิด ผมอยากรู้เพราะไม่ทราบจริงๆ

 

ท่านพระพุทธทาสสอนถูกแล้วเด้อ

 

ผมก็ฝันเห็นยมบาลแต่น่ากลัว

เมื่อประมาณ เดือนเศษ ๆ ผมฝันว่า เห็นชายผู้หนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาหา ไม่แน่ใจว่าวิ่งมาทำร้ายหรือไม่ไม่แน่ใจ เพราะในฝันไม่เห็นหน้าเป็นเงามืด ๆ ตะคุ่ม ๆ พอเห็นว่าเป็นยมบาลก็ประชิดตัวแล้ว แล้วเข้ามาทำร้ายโดยเอาเก้าอี้มามาฟาด ตอนแรกกลัว ๆ แว๊บนึง แต่นึกได้ว่า เอ๊ะ! โมโหดีกว่า โทษฐานมาทำให้ตกใจก่อน ถ้ากลัวเดี๋ยวมันจะได้ใจ ก็เลยวิ่งไล่ต่อยยมบาล แล้วยมบาลก็วิ่งหนีข้ามถนนหายไป เล่าให้ฟังเฉย ๆ พอตื่อนเช้ามาไปดูผลการเรียน ตามความคาดหมายครับ ติด F เซ็งมาก

ฝากถึงคุณยายด้วยครับ เรื่องข้อมูล โยคีตาทิพย์ ผมได้รับแล้ว คุณยายเป็นคนแรกเลยที่ให้ข้อมูล ขอบใจ ขอบตับ ขอบม้าม กิง ๆ กั๊บ เดี๋ยวถ้าว่าง ๆ ถ้าผมมีโอกาส ได้เข้าเว็บนี้บ่อย ๆ จะหาโอกาสมาบอกเล่า ว่า เหตุใดถึงตามหาที่อยู่โยคีตาทิพย์

 

คุณ websnow บอกแล้วว่าฝันฝันแบบนี้มีฉะเพราะคนบ้าเท่านั้นใครๆก็ว่าบ้า เราก็บ้าแบบนี้เหมือนกัน ถ้าไม่บ้าลงนรกเข้าประตูพระนิพพานไม่ได้หรอก

 

อื่ม ผมว่าคุณกำลังสบประมาทพระที่ดีรูปหนึ่งอย่างแรงนะ ผมไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของท่านพุทธทาส แต่ผมเชื่อว่าท่านพุทธทาสไม่ได้ไปอยู่กับลุงพุฒิอะไรนั่นของคุณหรอก ท่านอาจจะไม่สำเร็จอรหันต์เพราะท่านหมกมุ่นเรื่องการศึกษาตำรับตำรามากเกินไป แต่ท่านก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรเลย ท่านเป็นคนที่ศรัทธาในพระพุทธองค์และคำสอนของพระผู้มีพระภาคเป็นอย่างมาก และท่านก็ไม่ได้สอนอะไรคนผิดๆ และจะว่าไปตามพระไตรปิฏกสัตว์ตัวแรกที่ไปอยู่สวรรค์ชั้นพรหมก็ยกตัวเองว่าเป็นพรหม ผมเลยเดาเอาว่าสัตว์ตัวแรกที่ไปอยู่ในนรกก็ยกตัวเองว่าเป็นยมบาลกระมั่ง ทุกอย่างมีสิ้นสุดทั้งนรกและสวรรค์ เพราะพุทธองค์ท่านตรัสไว้ในพรหมชาลสูตรแล้วถึงว่ามีครั้งหนึ่งที่โลกสิ้นไปเป็นเวลานาน... (ไปอ่านเอง)
ผมว่าพวกคุณต่างหากที่น่าเป็นห่วง ยิ่งคุณบอกว่าได้ไปพบพระพุทธเจ้าผมยิ่งห่วงใหญ่
ถ้านิพพานเป็นอะไรสักอย่างที่จิตไปสถิตย์ได้ นึกจะนอนตรงไหนก็มีเตียงมารับ นึกอยากได้อะไรก็ได้หน่ะ ผมคิดว่ายังจัดว่าเป็นภพอยู่
ผมเชื่อว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ ไม่อย่างนั้นพระพุทธองค์จะตรัสไว้เหรอว่า ธรรมของพระองค์ประณีต เข้าใจยาก ต้องปฏิบัติด้วยตนเอง
คุณยังไม่เข้าใจ ยังยอมรับไม่ได้ว่านิพพานไม่มีตัวตน นั่นก็คือคุณยังมีอัตตาอยู่
เมื่อคุณมีอัตตาอยู่แล้วคุณจะเข้าถึงนิพพานได้อย่างไร
มันก็ไม่แปลกที่คุณยอมรับไม่ได้เพราะคุณคงนึกไม่มีตัวตนจะเป็นความสุขได้อย่างไร ก็เพราะสิ่งที่คุณนึกนั่นแหละพระพุทธองค์ท่านเรียกว่า อวิชชา เพราะคำถามของคุณพระพุทธองค์ท่านจึงตรัสว่าคำสอนของท่านเข้าใจยาก (ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน) และเพราะคุณคิดว่าคุณไปนิพพานได้คือคุณยังยึดมั่น ยึดติดอยู่
ปล่อยจิตตัวคุณเองออกจากนิพพานที่คุณไปบ่อยๆ แล้วคุณจะพบอะไรมากกว่านั้น
คนทุกๆคนเหมือนคนที่แขวนเกาะกิ่งไม้อยู่ที่หน้าผาสูง
คำสอนของพระพุทธองค์เหมือนคำพูดที่บอกว่าอย่าไปยึดกับมันปล่อยมันไป แล้วเธอจะพบนิพพาน ตั้งแต่เกิดจนบัดนี้ผมก็ยังไม่เห็นคนในยุคหลังกึ่งพุทธกาลคนไหนกล้าปล่อยมือจากกิ่งไม้สักคนเห็นเกาะกันแน่น รวมทั้งผมด้วย

 

ผมเองก็เคยมีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วไอ้ความคิดแบบนี้ เพราะมันเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นเท่านั้น คุณคิดแค่ในสิ่งที่เห็นในสิ่งที่คุณคิดว่าคุณสัมผัสมันได้ทั้ง กาย วาจา ใจ และขอย้ำว่าแม้แต่สิ่งที่สัมผัสได้ด้วยใจก็หาใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป ผมเองก็เคยอ่านตำรับตำราของท่านพุทธทาสมาบ้าง แต่ก็โดยสรุปแล้วทำไมถึงมาพูดกันแค่ว่าท่านตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ผมถามจริงๆ ว่ามันสำคัญแค่ไหน และมันเป็นสิ่งที่ควรแล้วรึที่จะเอาเวลามาดูความเป็นไปของผู้อื่น แม้ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านไปอยู่ไหน และก็ไม่อยากจะทราบด้วย ถึงจะรู้ไปจิตใจเราก็ไม่ได้สูงขึ้น และเรื่องพระนิพพานนี่ คุณคิดเอาเองว่า มีตัวตน และ ไม่มีตัวตน ผมก็คงจะบอกได้เลยว่า มันก็เป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละ ทั้งมีตัวตน และ ไม่มีตัวตน และอีกอย่างนะ คือไม่ใช่ทั้งสองอย่าง งงกันไหม ถ้างงก็บอกได้เลยว่านั่นแหละคือความคิดเห็นความเชื่อของจิตที่ยังไม่บรรลุ มันก็ย่อมต้องไม่เข้าใจเป็นธรรมดา คุณจะเอาความคิดในแบบโลกๆ มาวัดพระนิพพานว่าเป็นอนันตาอย่างเดียวมันก็ไม่ถูก หรือว่าเป็นอัตตาอย่างเดียวมันก็ไม่ถูก เพราะความถูกที่เราคิดและเข้าใจอยู่ที่ชาติมานานนับอสงไขยไม่ได้ มันก็หนีไม่พ้นโลก แล้วจะเอาความคิดอะไรไปเทียบกับพระนิพพาน ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ พระนิพพานเป็นอย่างไร ผมว่าผมตอบได้อย่างมั่นใจ 100 % อย่างที่ไม่กลัวปรามาสพระรัตนตรัย ไม่กลัวว่าถ้าผิดจะต้องลงนรกขุมลึกที่สุดนานที่สุด ผมของตอบสั้นๆ ว่า พระนิพพานเป็นที่ๆ จิตไปแล้วมีความสุขที่สุดยิ่งกว่าสุขใดๆ ในโลก ถ้าคุณทำความรู้สึกนี้ได้คุณจะรู้เองแหละว่าไอ้ความสุขแบบพระนิพพานที่ว่ามันน่าจะเป็นอย่างไร ก็ตอบได้ในต่อมาเลยก็คือตามแต่ใจจะคิด มันเป็นอิสระจากทุกสิ่งทุกอย่าง จิตเป็นอิสระทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น และถ้าคุณจะยังคิดว่าพระนิพพานยังสูญ เงียบสนิท ไม่มีอะไรเหลือเลย ว่างเปล่า ผมคงบอกได้คำเดียวว่าคุณอยากไปอยู่ในที่ๆ เป็นอย่างนั้นเหรอ ผมว่าจิตใจคุณเองก็ต้องตอบได้ทันทีว่าไม่ต้องการ ผมไม่ได้ว่าผมเก่งกาจมาจากไหนถึงจะมาอธิบายปัญหาอะไรแบบนี้ แต่ผมเพียงอยากจะสื่อให้เห็นถึงคำตอบของทุกสิ่งมาจากใจของตนเองทั้งสิ้น ตราบใดที่ใจคุณยังหาคำตอบจากภายนอกจิตใจของตนเอง ตราบนั้นคุณก็ไม่รู้แจ้งในคำตอบนั้น ถามใจตัวคุณเองให้มากๆ นะครับ ธรรมะทั้งหมดก็เป็นไปเพื่อให้จิตใจหลุดพ้นจากห้วงแห่งทุกข์เท่านั้น ไม่มีธรรมะใดของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ที่จะไม่กล่าวถึงทุกข์ และให้เห็นทางดับทุกข์เลย ลองมองดูนะครับจิตตนเองน่ะครับ ขอบคุณครับ

 

สุดยอดครับ

 

ใช่แล้ว แม่นแล้ว

เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่า เพื่อนส่วนหนึ่งในเว้บเรามักเอาเรื่องศาสนามาพูดกันผิดๆ
บางที เพื่อยืนยันให้คนอื่นเชื่อถึงขั้นอุปโรกตัวเองก็มี เราก็อ่านเยอะแต่ก็ไม่ได้ติติงอะไร เพราะติติงครั้งหนึ่งก็โดนว่าดูถูก เราก็กลัวอยู่ไม่รู้ว่าจะดูถูกหรือผิดเพราะเรากับผู้พูดก็ไม่ได้รู้จักมักจี่กัน เขาเป็นคนธรรมะ หรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือแค่ก่อกวนหรือเปล่าก็ไม่แน่ หรือแค่ดึงดูดความสนใจ กันหละน้อ... ต้องระวังคำพูดอยู่แหละนะ ...
[b-wai]

 

คุณเวปสโนว์ ช่วยบอกหน่อยว่า ท่านพุทธทาสเข้าใจธรรมลึกๆของพระพุทธเจ้าผิดตรงไหน ถ้าคุณไม่ตอบผมจะไม่เข้าเวปนี้อีก

 

(bb-flower (bb-flower (bb-flower