ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

................
....................................................
........หลายท่าน..ผมเชื่อว่า..ท่านสงสัยว่า..ผมเอาข้อมูลมาจากไหนมาเล่า..เป็นตุเป็นตะ...
โดยเฉพาะ..ท่านที่ไม่เคยอ่าน..ผม..พระ..มาก่อนหน้าตั้งแต่ต้น..หรือ..อ่านผ่านๆ..เฉพาะเรื่อง
ที่น่าสนใจ...แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้..ของผม..ที่อ่านหมดทุกอย่าง...คงไม่ค่อยสงสัย....
....เพราะ..ผมเล่าเรื่องราวของผม..มาตั้งแต่เด็ก..จนโต...ที่มาที่ไปของผม..แล้วผมมาชอบเรื่อง
นี้ตั้งแต่เป็นเด็กได้ยังไง....ขอแนะนำ..สำหรับท่านที่สงสัย..ก็ลองกลับไปอ่านตั้งแต่ต้น..ก็คง
พอจะGetได้บ้าง...ผมจะขอขยายความ..จากบทความเก่าๆ..ของผมเพิ่มเติม...เพื่อให้ท่านเข้าใจ
..........อันนี้...ขอแทรกหน่อย...เพื่อจะได้เข้าใจดีขึ้น....
................ผมเคยเล่าไปบ้างแล้วว่า...ผมเป็นคนขึ้สงสัยมาตั้งแต่เด็ก..และ..ชอบประวัติศาสตร์..
..ชอบรื้อ..ชอบค้น..และตั้งคำถามที่มาที่ไป..ในสิ่งที่ผมสงสัย....พอผมเริ่มมาสนใจเรื่องพระ
เครื่อง...มนก็ยิ่งมีสิ่งที่ผมอยากรู้มากขึ้น............
...........โชคดีอย่างหนึ่ง..ของผมที่...ผมเป็นคนที่กล้าถาม..และ..คุยกับผู้ใหญ่มากๆ..หรือ..คนแก่
..มาตั้งแต่เด็ก...ซึ่งเมื่อ ๕๐ ปีก่อน..เด็กๆไม่เหมือนเดี๋ยวนี้..ส่วนใหญ่จะกลัวผู้ใหญ่..ยิ่งคนแก่
..ก็ยิ่งไปกันใหญ่..อาจเพราะ..การเลี้ยงเด็กของคนยุคนั้น...พ่อแม่..ไม่ใช่เพื่อนเล่น..หรือ..ทำตัว
เป็น..พี่ชาย..หรือ..พี่สาว..แบบยุคนี้(ความจริง..ไม่ใช่แค่สมัยนี้หรอกครับ..มันเริ่มมา สามสิบกว่า
ปีแล้วมั้ง)...เด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ตั้งแต่รุนพ่อขึ้นไป..ห้ามพูดเล่นกับผู้ใหญ่..ดุอะไร..ก็ต้องหยุด
..ถ้าขัดขืนเป็นโดนฟาด...ยิ่งผู้ใหญ่มากๆยิ่งต้องเคารพ......นั่นคือ..สาเหตุที่..เด็กๆก็เลยจะไม่ค่อย
จะสบายนัก..ที่จะอยู่กับคนแก่..ยิ่งถ้าไม่ใช่ญาติตัวเอง..ยิ่งแล้วกันไปใหญ่...
....(..พี่ๆผม..รวมทั้ง..ผม..ไม่เคยมีใคร..เข้าไปกอดพ่อแม่..อย่าว่าแต่หอมแก้ม..แบบเด็กยุคนี้....
......เพราะ...ไม่ใช่วิถีที่คนยุคนั้น..จะทำ)...............
.............แต่ผมเอง...เป็นเด็กกล้ามาตั้งแต่เด็กเล็กๆ...ผมไม่กลัวคนแก่...เพราะเด็กๆผมจะเป็น..เด็ก
เฮฮา..ตลก..แต่ไม่เคยเกินเลยต่อผู้ใหญ่..ผู้ใหญ่มากๆ..หรือ..คนแก่..ก็เลยเอ็นดู..และ..มักจะบอก
กับ..พ่อแม่..ผมคล้ายๆกันว่า.."มัน..หมื่นทะเล้น..ดี"(ภาษาโบราณ..ขอโทษด้วยถ้าไม่เข้าใจ).....
..................ผมจึงกล้า..เข้าไปถาม..คนแก่..ยิ่งแก่มากๆแต่ไม่หลงยิ่งดี...เพราะความคิดผมว่า...
...ผมจะได้ร้เรื่องเก่าๆมากขึ้น...บางทีก็ถามเรื่องเก่าๆทั่วไป..แต่ถ้าผมแย็บไปเรื่องพระ..แล้ว..
ท่านไหน..รู้เรื่องดี..ผมก็จะยิ่งถามใหญ่...แล้วบางคนใจดี..ก็เล่าแถมเรื่องทั่วๆไป..ต่อให้อีก...
...ซึ่ง..เป็นที่มา..ในบทความ..ผม..พระ..ที่..ผ่านๆมา..หลายๆตอน..........
.......คนที่ผมถาม..ก็มี..หลากหลายระดับ...หลากหลายอาชีพ..และที่มา...ผมเป็นคนช่างคุย...
ผมคุยได้หมด....ตั้งแต่..ญาติ...ไปจนถึง..คนที่เคารพนับถือ..ของพ่อแม่...ตลอดจนคนอื่น...
วเลาได้เจอพบ..แล้ว..ใจดีคุยกับเรา..........
..............ส่วนใหญ่..เกือบทั้งหมด..เกิดในยุค..รัชกาลที่ ๕...แต่บางท่านก็..ยังเป็นเด็กอยู่..ใน
ยุคนั้น....แต่ส่วนมาก..ก็โตเป็นหนุ่มรู้เรื่อง..มีเมีย..กันแล้ว.....
............ลองบวกลบ..คุณหารดู....เมื่อปี..๒๕๑๒....ผมไปคุยสอบถามข้อมูลกับคนแก่..ที่อายุ
ประมาณ ๗๕ (หลายท่าน..ที่ผมไปถาม..มากกว่า ๘๐ ก็มี)...ลองลบ..พ.ศ..ท่านจะทราบปี
เกิดได้...นั่นคือ...เกิดปี ๒๔๓๗...(อยู่ในกลางยุครัชกาลที่ ๕)....สิ้นสุดยุครัชกาลที่๕ คือ..
พ.ศ. ๒๔๕๓ อายุเขาก็ ๑๖ ปี..แต่ ๑๖ ปี..เมื่อกว่าร้อยปีก่อนนะ..มีเมียแล้วนะครับ..รู้เรื่อง
..และ..ทำงานกันแล้ว.....ดังนั้น..เขาทราบความเป็นไปในยุคนั้น..เป็นอย่างดี..แล้วเรื่องย้อนไป
ถึง รัชกาลที่ ๔ เขาก็ยังได้รับทราบมาจาก..พ่อแม่เขาด้วย..........
...............ดังนั้น..ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่า..ผมเอาข้อมูลมาจากไหน..เล่าเป็นตุเป็นตะ...
...ผมไม่ได้ลอกมาจากใคร..ฟังมาจากหู..ของเจ้าตัวที่มีประสพการณ์..ในยุคนั้นจริงๆ..หลาย
ท่าน..แล้วแต่ละท่าน..ก็เป็นคนที่มีการศึกษาพอสมควร.....ทำให้ผมไม่จำเป็นต้องไปพึ่งข้อ
มูลคนอื่น..เพราะ..ผมไม่ทราบที่มาที่ไปเป็นยังไง....
..........สำหรับ...หลายท่าน..ก็คงพอจะเข้าใจขึ้นได้บ้างนะครับ...แต่สำหรับ..คนที่สงสัย..
ข้องใจ..ความน่าเชื่อถือ..ของข้อมูลของผม..ผมไม่ว่าอะไรครับ..เป็นสิทธิของท่าน..แต่แนะนำ..ว่า
ควรเลิกอ่านซะ...เพราะมันจะเสียเวลาคุณเปล่าๆ
..............................ต่อตอนหน้าครับ..ผมจะกลับมาเข้าเรื่องอีกที...........

 

คุณลุงทิ้งท้ายน่าสนใจมากๆ เลยครับ เหมาะสำหรับเด็กใหม่แบบผมเลย
ตอนนี้ผมมีอยู่องค์นึงที่สร้างปี 2517 ครับ (พระผงรัตนเกษม หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ออกที่ วัดพลับพลา จ.นนทบุรี ปี 2517) ตอนนั่นเห็นปีลึกแต่ค่าบูชาไม่แพงผมเลยเช่ามาเมื่อปีก่อนตอนไปเที่ยวที่ลำปางมาครับ ไม่รู้รุ่นนี้พอไหวมั้ยครับคุณลุง

 

ขอบคุณมากครับพี่ modpong

 

........
...ขอบคุณครับ.....ก็ของวัดพลับพลานี่..เขาก็เล่นกันนี่ครับ..แต่ผม..ไม่เคยสัมผัส..ถ้าท่านปลุกเสกจริง..ก็คงไม่มีปัญหาหรอกครับ..รุ่นไหน..ก็ได้..
..แต่..ของ พ.ศ.เก่า..ไม่เกินปี..๑๘..นี่..ระวังของปลอม..เพราะ..มีทั้งเหรียญ..พระโลหะ..และพระผง..

 

ผมออกตัวเลยครับว่าดูไม่เป็นจริงๆ ตอนเช่าก็เช่าจากในวัดแห่งนึง ในจังหวัดลำปาง
แต่ก็แอบสงสัยนะครับ.....ว่าทำไมรุ่นนี้ พศ. ลึกขนาดนี้ ถึงยังมีเหลือถึงปี 2555 ได้ ทั้งๆ ที่น่าจะหมดไปตั้งนานแล้ว (หรือว่าผมโชคดีจริงๆ 5555+)
ก็คิดว่าถ้าอย่างไรแล้ว อย่างน้อยก็ได้ทำบุญกับพระกับเจ้า ได้ถวายปัจจัยช่วยทำนุบำรุงวัดครับ

ของเก๊ ของปลอม ผมก็กลัวนะครับ แต่ผมกลัวที่สุดคือ "ของเสริม" ครับคุณลุง
แบบผมเองที่มีแค่ตาเนื้อแบบนี้ก็จนด้วยเกล้าจริงๆ ครับ.....

 

...นั่นแหละ..เราเห็นมั้ยที่ผมเขียนว่า.."...ถ้าท่านปลุกเสกจริง.."....ไว้ก่อนหน้าตั้งแต่แรก..
...ซึ่งผม..ให้ตวามสำคัญมากกว่า..แต่ถ้าอ่านเผินๆ..แล้วจะข้ามไป..
...เป็นเรื่องที่ผม..ไม่อยากพูดตั้งแต่..แรกเพราะ..เป็นอีกส่วนที่นำมาให้เกิดปัญหา..กับ..พระของ..หลวงพ่อเกษม..
............ถ้าถามตามหลักความเป็นจริง...รุ่นนี้..เหลือที่วัดพลับพลา..ได้ยังไง..เมื่อปีที่หลวงพ่อเกษมเสีย..ตั้งประมาณ ๒,๐๐๐ องค์..(ปี ๒๕๓๔ รึเปล่าไม่แน่ใจ)...ทั้งๆที่รุ่นนี้..ก่อนหน้าปีนั้นก็มีของปลอมแล้ว..และตอนนั้น
ก็..เป้นชื่อ..พระผงรูปเหมือน..ธรรมดาๆ....
...ผมจะไม่พูดต่อ..ใช้สมองคิด..ความสมเหตุ..สมผลเอา..เรื่องความเป็นมา..ของรุ่นนี้ไปหาอ่านเอาเอง...

 

ชัดเจนครับคุณลุง ขอบคุณมากครับ
แล้วแบบนี้คุณลุงพอจะแนะนำได้มั้ยครับว่า ผมพอจะเลือกรุ่นไหน ไว้ให้อุ่นใจและปลอดภัยดีครับ

 

.....นั่นเป็นที่มา..ของ..
...รุ่นไหน..ที่ระบุแยกชนิด..จำนวนการสร้างชัดเจน..และ..มาจาก(ผู้สร้าง..)..หน่วยงานราชการ..ขนาดใหญ่..หรือ..เป็นหน่วยทหาร..จะน่าเชื่อถือ....
...เพราะอะไร..หน่วยงานราชการขนาดใหญ่..อย่างของจังหวัด..กรมฯหรือ..หน่วยงานทหาร..ผู้รับผิดชอบแต่ละขั้นตอน..จะมีการระบุตัว..และเป็นคนในก็คือ..ข้าราชการ..หรือ..ทหาร..มีขั้นตอนชัดเจน..จะมีรายงานทุกระยะ..เป็นลายลักษณ์อักษร..เรียกว่า..ถ้ามีปัญหา..พวกนี้เสร็จ..อีกอย่าง..พวกโรงงาน..ก็ไม่กล้าตุกติก..
....เพราะ..ถ้าเป็นที่อื่นความน่าเชื่อถือ..น้อยแล้ว..เรื่อง..เอารูปแสดงการ..ทำลาย
บล็อก..มาโชว์นั้น..ยืนยันอะไรไม่ได้..ถ้าจริงๆทำไว้เกิน..แต่แรกในจำนวนมาก..โดยที่รู้กันกับ..
โรงงาน..แต่กรรมการอื่นไม่ทราบ..กรรมการนับจำนวนพระ..เข้าพิธี...
...แต่พวกนี้เอาที่เกิน..เก็บไว้แล้ว..มันก็ดูไม่ผิดปกติ.....
...ทำลายบล็อก..ก็ทำลายไป..ถ่ายรูปโชว์ประกอบ..อย่างเท่ห์..สร้างความ
มั่นใจ...รอของจริง..ปล่อยให้หมด..ก่อนแล้วทิ้งช่วง..ค่อยๆทยอยเอาของ
ตัวเองออก...............
........มีกัน..เยอะแยะ..หลายหลวงพ่อ........
.........................................
....ที่ผมเอ่ยมา..แล้วค่อนข้างชัวร์สำหรับเหรียญ..ก็คือ...
......ไม่เกินปี ๑๘ แล้ว..ไม่ใช่รูป..หรือ..หน้า..ของหลวงพ่อ..เรียกว่า....
...ไม่ว่า..ทั้งหน้า..และ..หลัง..ไม่มีรูปหลวงพ่อ..อยู่เลย..
..เว้นเฉพาะรุ่นอย่าง..เหรียญพระครูพิชัยมงคล..อันนี้ปลอมเพียบ..
ในปัจจุบัน..เพราะ..เป็นรุ่นแรกๆ....
...ของ..จะราคาถูกค่อนข้างมาก..และ..ถ้าจะมีปลอม..ก็น้อยมากเช่น
กัน..เพราะ..พอมีหน้าอื่น..ที่ไม่ใช่..หลวงพ่อ..ก็แทบจะปล่อยไม่ออก
อยู่แล้วตั้งแต่ต้น...
.....ที่ผมจะแนะนำ..วิธีนี่..แผลงหน่อยนะ..ตามสไตล์ผม..
...ก่อนอื่น..ของที่จะทำ..นี่..ควรเป็นของที่ใช้ส่วนตัว..ไม่ต้องโชว์ใคร
.....เรายึด..พุทธคุณเป็นหลัก....
..........ก่อนอื่น...เลือก..เหรียญแบบที่ว่ามาก่อน...
..ผมยกตัวอย่างให้ ๒ เหรียญ..ที่ถูกมาก...
๑. หลวงพ่ออุ่นเรือน วัดป่าดัวะ หลวงพ่อปลุกเสกปี ๒๕๑๖..
....เหรียญนี้อย่าดูถูกว่า..เป็นของเล่นนะครับ..ที่เอามาเสนอ..เพราะมั่นใจ..เพราะ..เมื่อปี ๒๕๒๐ ผมไปทำงานที่ลำปาง..ผมก็เดินเล่นชมเมือง..ตอนที่ว่าง...ชมศิลปโบราณ..ของเมือง..แล้วก็เลยเข้าไปในวัด...ต่อเข้าไปในโบสถ์..ชมจิตรกรรม..ลายรดน้ำทอง..ไปเรื่อยเปื่อย...
....เดินไปที่มุมโบสถ์..ก็เจอตู้กระจกมั้ง..แล้วก็เห็นเหรียญดำๆ..วางอยู่
..หลายเหรียญ..ผมก็ถามพระที่ค่อนข้างอวุโส..นั่งอยู่ใกล้แถวนั้นว่า..
....เหรียญอะไร..ขอชมหน่อย..ทำนองนี้..แต่บนตู้..หรือ..ข้างๆตู้ผมก็
จำไม่ได้แล้ว..มีรูปถ่ายหลายใบ..ติดอยู่..และเห็นรูปหลวงพ่อเกษม
กำลังปลุกเสกอยู่ด้วย...
.........ท่านก็หยิบมาให้ดู..แล้วก็บอกว่า..เหรียญหลวงพ่ออุ่นเรือน..ที่วัดนี้..แต่เหรียญนี้..หลวงพ่อเกษมปลุกเสกนะ..แล้วท่านก็ชี้ให้ดูรูป..ในงานพิธี..แล้วผมก็ก้มมองดุเหรียญ..เหรียญทำได้ขี้เหร่มาก..แต่..ด้านหลังระบุว่า..ยันต์และปลุกเสกโดย..หลวงพ่อเกษม.....
..........ผมก็เลยถามต่อว่า..ทำนองว่า..นี่ก็หลายปีแล้ว..ยังจำหน่ายไม่หมด..หรือ..ครับ..ขนาดหลวงพ่อเกษมปลุกเสก..
....ท่านก็บอกว่า..จำหน่ายไม่หมดหรอก..เพราะชาวบ้านเขาบอกว่า..
เหรียญไม่สวย..(ก็แหง..ปกติ..ของท่านเจ้าประจำคนออกแบบ..ก็..เกษม มงคลเจริญ..ต่างกันยังฟ้า..กับ..เหว)..แล้วก็ไม่มีหน้า..หลวงพ่อเกษมด้วย..ก็เลยเหลือจนทุกวันนี้(๒๕๒๐)..ที่มีอยู่ในตู้นี่....ผมส่องดูผิวเหรียญ
เพื่อความแน่ใจอีกที..ก็OK..ก็เลยเช่ามา..รู้สึกว่า..จะ ๑๐ บาทมั้ง..เอาแค่
เหรียญเดียว..เหตุผล..น่าเชื่อถือ..หลักฐานน่าเชื่อถือ..เป็นผมเป็นชาวบ้าน
ธรรมดา..ก็คงไม่เช่าหรอก..
.....ผมถึงบอก..อันนี้ของจริงครับ..ไม่มีเสริมแน่นอน..เพราะของที่มีอยู่ยังปล่อยไม่ออก..นี่ถ้าผม..ไม่ไปเช่าคงอีกนาน..กว่าจะได้คนเช่าใหม่..
.........ครับยืนยันว่า..ไม่ใช่ของเล่นแน่นอน......
......ยาวอีกแล้ว..ไม่จบ..ต้องไปต่อตอนหน้า...เลยยังไม่ได้กลับเข้าเรื่องเดิม..ซะที

 

ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจ ยิ่งอ่านยิ่งเห็นภาพตาม ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆครับ
แอบรอรายชื่อเหรียญที่สองครับคุณลุง

 

.........
...ต่อจากเมื่อวาน.....
..........................
๒. เหรียญเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี มทบ.๗ ลำปาง ปี ๒๕๑๘......
..............เหรียญนี้..สร้างและปลุกเสกพร้อมกันกับ..เหรียญหลวงพ่อเกษม มทบ.๗ ลำปาง........
.....ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่า..สร้างจำนวนเท่าไหร่..แต่น่าจะเป็นพันขึ้นไป..แต่ที่น่าแปลกใจคือ...ตามจริงแล้ว..คนทั่วไป..รู้จักน้อย..ต้องชอบประวัติศาสตร์ถึงจะรู้จักท่าน...เป็นทหารนักรบ..ที่ถือว่า..เป็นรองแค่..เจ้าพระยาบดินทร์เดชา(สิงห์)..เท่านั้น..เป็นแม่ทัพปราบฮ่อ..แต่ที่คนสร้างน่าจะคิดซักหน่อยว่า..นอกจากท่านจะไม่ใช่พระแล้ว..ท่านก้ไม่ใช่คนที่..คนทั่วๆไป..เคารพบูชา(ภาวนาถึง)..แม้แต่ทหารทั่วไป....
...พอมาทำรูปแบบแล้ว..ก็มีแต่รูปท่านคนเดียว..แล้วใครจะเช่า..นอกจากพวกนายทหาร..(ชั้นประทวน..เขาก็ไม่เอา)...ผลก็เลย..ในช่วงแรก..เหลือเยอะ..แต่ก็ค่อยๆหมดไปทีหลัง..นี่ถ้าคิดซักหน่อย..เอารูปท่านไว้หลัง..ด้านหน้าเป็น..หลวงพ่อ..ป่านนี้
ราคา..ก็คงไม่ถูกอย่างนี้....
......เหรีนญสวยมากครับ(ไปเปิดในเน็ตเอา)..เพราะเป็นฝีมือ..ของ..ช่างเกษม มงคลเจริญ..เจ้าเก่า..รูปเหรียญก็เท่ห์..ออกเป็นกลมๆแต่มีเหลี่ยมเว้าๆ....
....ถ้าถามพุทธคุณ..ก็..รับรองว่าไม่ต่างจาก..หลวงพ่อเกษม มทบ.๗ ลำปาง..ปี ๒๕๑๘ แน่(ก็สร้างปลุกเสกพร้อมกัน)....
..........นี่แค่ตัวอย่างนะ..ที่ผมนึกออก...ก็น่าจะมีเหรียญอื่นอีกที่มีรูปแบบนี้..และ
สร้างไม่เกินปี ๒๕๑๘....ก็จะใช้วิธีการ..ที่มจะเล่าต่อไปนี้ได้เหมือนกัน...
....................................................
....จิตวิทยาคน..มันมีผลมาก..เมื่อเราศรัทธาใน..หลวงพ่อใด..เราก็อยากให้..
หลวงพ่อนั้นๆ..มีรูปอยู่ด้วย..เวลาเอาพระอาราธนา..เรามองพระ..เพื่อนึกถึงท่าน..แล้วก็จบอารธนา...นี่ก้คือทั่วๆไป....
....แต่ถ้าไม่มีรูปท่านอยู่เลย...บางคนก็ไม่คิดห้อยแล้ว..แถมมามีรูปท่านอื่นอีกซะ..ใครก็ไม่รู้..สมมุติว่า..เอามาห้อยเวลามองพระ..แล้วจะจบมันก็..ขัดความรู้สึกอีก...
.....ดังนั้น..เหรียญรูปแบบนี้..จึง..ราคานอนก้น...ยกเว้นจะมีประสพการณ์เจ๋งๆ.....อย่างเหรียญพระครูพิชัยมงคล.........
........................................................
....วิธีการ..ก็กำปั้นทุบดิน..เอามันง่ายๆ...ไม่มีรูปหลวงพ่อใช่มั้ย..ก็ไปเอา
รูปหลวงพ่อ..มาแปะทับแทน..แล้วก็เลี่ยมอคริลิค..หุ้มไปเลย...
....เรื่องไม่ยาก..ก็แค่..เอารูปท่านที่อยู่ในหนังสือพระ..เอาที่ขนาดหน้าท่านทั้งใบหน้า..บรรจุ..ในเหรียญได้..ตัดให้เล็กว่าขอบเหรียญหน่อย..
...เวลาเลี่ยมเอาไปด้วย..แล้วบอกช่างให้มัน..วางรูปหลวงพ่อทับด้านหน้าเหรียญไปเลย(ไม่ต้องไปติดกาว)..เลี่ยมอัดไปพร้อมกัน..แค่นี้ก็เสร็จ...
....ถ้าบางคนหนังสือพระ..ไม่ค่อยมี..ก็เอารูปจากเน็ตนี่แหละ..ไปprintออกมา..กระดาษแข็งหน่อย..แต่ถ้าจะให้ดี..เอาไปอัดเป็นรูปถ่ายเลย..สวยด้วย..ภาพเนียน..กระดาษแข็ง...ข้อดีคือ..เลือกรูปที่ชอบได้..เพราะในเน้ตมีรูปท่าน..ตั้งแต่หนุ่มยันแก่...ทั้งสีทั้งขาวดำ..ข้อสำคัญ..ก็อบมาแล้ว..ดูขนาดด้วย..ย่อขยายให้..พอดีใกล้เคียง..กับ..ขนาดเหรียญ...แล้วเราก็เอากรรไกรมาตัดภายหลัง.....
......ตุณทำแค่นี้..เวลาหยิบเหรียญมาดู..ก็ไม่ตะขวงใจแล้ว..ยกขึ้นจบภาวนา..แบบสบายใจ..แล้วเรื่องพุทธคุณก็คือจากท่าน.......
..........ผมบอกไปตอนต้นแล้วว่า..สำหรับผู้ที่เอาพุทธคุณเป็นหลัก..เอาไว้ใช้เอง....เราไม่โชว์ใคร...ไม่ต้องไปเสียเงิน..หลักพันไปเช่า..แถมยังโอกาศเก๊น้อยมาก(..ผมว่า..ไม่น่าจะมีเก๊นะ..ไม่เห็นมีใครเล่น..)......
.....แล้วแต่ว่า..คุณจะทำใจได้รึเปล่า..แบบนี้..แรกๆอาจตลก..แต่ซักพักก็ชิน...

 

จริงอย่างคุณลุงว่าครับ ตัวเราเองจะทำใจได้รึเปล่า
รู้ทั้งรู้ว่าของดี ของแท้ เป็นทุนเดิม เป็นไส้ใน แต่เอาไปให้ใครดู (โชว์)ไม่ได้

จริง ๆ แล้วพระเครื่องเมืองไทย จากเดิมท่านสร้างไว้ใช้ แต่ต่อ ๆ ไป เรากลับใช้เหมือนกัน แต่ใช้ไว้โชว์ ......จุดประสงค์คลาดเคลื่อนออกไปจากเดิม

หรือแท้จริงแล้วหลวงพ่อเกษมท่านตั้งใจให้เป็นแบบนี้ เพราะท่านอาจจะทราบว่า ต่อไปในยุคหน้า ของเก๊ ของเสริม จะมีมากมาย ส่วนของแท้ก็จะหายากราคาแพงเกินกว่าชาวบ้านธรรมดาจะหามาบูชาได้ ท่านจึงใช้วิธีนี้เป็นทางออกเพื่อโปรดชาวบ้าน........

 

........
...หลายคน..คงสงสัย..ว่า..ผมมีอะไรบ้าง..นอกจาก..วัดป่าดัวะ...
...มันมีทั้ง..ยังมี..และเคยมี....แต่ที่ว่านี่..ลงทุนแค่วัดป่าดัวะ..องค์เดียว..
ที่เหลือ..มาจากพ่อทั้งนั้น..ทั้งที่ให้..และขอ...
๑. เหรียญทองแดงระฆังปี ๑๖(ยังมีอยู่)
๒. เหรียญเงินกองพันลำปาง ๑๗ (ขโมยขึ้นบ้าน..เมื่อ๖ ปีที่ๆแล้ว..สงสัยมันเล่นพระด้วย..เลือกหยิบไปเลย..เดิมผมห้อยอยู่..แล้วจะถอดเปลี่ยนไปเข้าอีกพวง..เลย
วางไว้ก่อน...ของอื่นหายไม่เจ็บใจเท่า..อันนี้)
๓. เหรียญเงินมทบ.๗ ลำปาง ๑๘ (ยังอยู่)
๔. เหรียญทองแดงชุบทองกิ่งไผ่(มีกิ่งไผ่ที่ห่วงด้วย)..(ให้ลูกน้องไปแล้ว)
๕. เหรียญนวะกองพันเชียงใหม่ ๑๘(ยังอยู่)
...ที่เขียนมานี่..แค่บอกให้ทราบนะครับ..เดี๋ยวบางท่านจะสงสัย..เอ้..ไม่ใช่ลูกศิษย์
หลวงพ่อ..ไม่ได้นับถือเป็นพิเศษ..ไหงมาเขียนซะเยอะแยะ..แค่พอรู้เท่านั้นครับ
..แล้วไอ้ที่บอกว่า..ยังอยู่..นี่ไม่ได้มาอ่อย..นะครับ..เพราะ..พระทั้งหมดผมไม่ขาย..
ให้ลูกหลานหมด......
(..เพิ่มเติมให้หน่อย..เพราะเกรงใจ..พวกพี่ๆเขา...ผมเลย..ไม่ขอ..เหรียญนางเหลียว..กับ..เหรียญพระครูพิชัยมงคล..มาด้วย
...ความจริง..กลัวพ่อจะว่า..ว่า"..มันจะขนให้หมดเลยรึ..")

 

ถ้าผมเป็นลูก เป็นหลานคุณลุงนี้สบายเลยครับ
ของดี ๆ ทั้งนั้นเพียบเลย ^^

 

ไกลหลายครับอ้าย
ขอแบบใกล้ ๆ แถวอีสานได้บ่ครับ

 

...น้องเอ้ย...เราก็รู้อยู่แล้ว..ว่า...แถบอีสาน..พี่เคยไปไหว้อยู่แค่..๒ องค์...คือ
๑.หลวงพ่อมา วัดวิเวกอาศรม..ร้อยเอ็ด
๒. หลวงพ่อคำพันธ์ วัดพระธาตุมหาชัย..นครพนม
...เรื่องเกี่ยวกับ..ท่านก็เล่าไปหมดแล้ว....
.......เอ้า..มีอยู่เรื่องนึง..เป็นข้อสังเกต..สืบเนื่องมาจาก..บทความที่แล้ว..เรื่อง..เหรียญที่..ตัวหลวงพ่อองค์ที่ดัง..ไม่ได้มีรูปอยู่ในเหรียญ...รูป..ที่อยู่นั้น..เป็นหลวงพ่อไม่ดัง........
......ก็..หลวงพ่อคูณ..ขวัญใจมหาชน..นี่แหละครับ
..........ตอนนั้น..พ่อผมไปตรวจ..หน่วยทหารในปกครอง..ที่โคราช..น่าจะปี..๒๕๑๖..หรือ..๒๕๑๗..ลูกน้องที่เป็นนายทหารผู้ใหญ่ของแถวนั้น..ก็พาพ่อไปกราบ..หลวงพ่อคูณ..เป็นครั้งแรกเหมือนกัน..ที่พ่อได้พบท่าน...แล้วท่านก็แจก..ของมา ๒ อย่าง(แต่..จำนวนเป็นสิบ)..
๑. เป็นรูปพระพุทธปั๊มพ์..เนื้อทองแดง..ขนาดเล็กรมดำ..รูปสามเหลี่ยม..มนๆ..มีไข่ปลาอยู่ที่ริมขอบ..รายรอบ...ไม่มีชื่อบอกอะไร..สูงประมาณ ๑.๕ ซม.(จำนวน ๗ องค์)
๒. เหรียญหลวงพ่อคง วัดถนนหักใหญ๋ โคราช เหรียญรูปไข่..ขนาดใหญ่..ปลุกเสกโดยท่าน..ทุกเหรียญ(จำนวน ๗ เหรียญ..ตามคนในครอบครัว..)..มีรอยจารด้านหน้าทั้งหมด..สร้างปี ๒๕๑๖
.....พ่อกลับบ้านมาแล้วก็เล่า..ว่า..พ่อผม..ชอบหลวงพ่อคูณมาก..ยังไม่แก่ (..หลวงพ่อคูณ อ่อนกว่าพ่อผม..หลายปี..)..ทั้งกุฎิ..ไม่มีของสะสสมอะไร..เลย...แล้วก็..แบ่งพระให้ผม..(แต่ผมก็ดูหมดทุกองค์)..
.....ตอนนั้น..ผมยังไม่รู้จักท่านมากมาย..หนังสือพระยังไม่ได้ลง
(..ถ้าเป็นปี ๑๖ หนังสือฯยังไม่มี..ถ้าเป็นปี ๑๗ หนังสือฯออกเป็นปีแรก
..ก็ไม่น่า..จะลง..เพราะที่ลง..มีน้อยมาก(๑ ใน นั้น ก็หลวงพ่อเกษม )
พระอีสานจะมีลงก็เป็น..อาจารย์มั่น..กับ..ลูกศิษย์ท่านบางองค์เท่านั้น)
..แต่เคยลง..ในหนังสือพิมพ์..เพราะความดัง..ส่วนในสนามนั่น
ท่าน..มีชื่อเสียงอยู่แล้วพอควร..เรื่องตะกรุดฝังใต้ท้องแขน..
...เหรียญรุ่นแรกท่าน..ยังไม่ดัง......
......ที่กล่าวมา..ก็จะพูดถึง..เหรียญหลวงพ่อคงนี่แหละ...
..ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้..หลวงพ่อคูณ..ก็จะทราบว่า..เป็นอาจารย์..ที่ประสิทธิประสาท..วิชาให้ท่าน..เป็นหลักใหญ๋..หรือ..ครูใหญ่ของท่านนั่นเอง..ที่ท่านเคารพเทิดทูนมากที่สุด.....
...ผมเคยเล่าเรื่อง..หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน..ที่ท่านทำเหรียญบูชา..อาจารย์ท่าน...ว่า..ท่านจะทำเป็นพิเศษ..ยิ่งกว่าที่เป็นรูปตัวเองซะอีก....
........ผมมาอ่านประวัติหลวงพ่อคูณในภายหลัง..จากตอนนั้นซัก ๕-๖ ปี..ถึงได้ทราบว่า..หลวงพ่อคงเป็นอาจารย์ท่าน..และมาทราบประวัติเหรียญนี้..หลังจากนั้นเป็นสิบปีว่า..เป็นเหรียญรุ่นที่หลวงพ่อคูณลงเหล็กจาร..ทุกเหรียญ..ไม่มีเว้น..ปลุกเสกนาน...ผมก็กลับไปคิดถึง..หลวงพ่อจันทร์..ว่าคงเป็น..ทำนองเดียวกัน..ที่ทำเป็นพิเศษเพื่อ..บูชาอาจารย์...ยิ่งกว่า..เป็นรูปของตัวเอง...ผมก็ดีใจ...เพราะเรามีเหรียญพิเศษแบบนี้...ดีใจกว่าตอนที่ได้..เหรียญปี ๑๗ หลวงพ่อคูณซะอีก...
.....เท่าที่ทราบ..เมื่อสิบกว่าปีก่อน..เหรียญนี้..ก็ไม่มีใครสนใจ..ในตลาดกลาง..ก๋อย่างว่า..ไม่มีหน้าหลวงพ่อคูณ..แล้วของหลวงพ่อคูณก็มีให้เล่น..เยอะแยะ..ในใจผมยังคิดเลยว่า..ซักวันเหรียญนี้..ต้องมีราคาแน่...
......มาดูตอนี้..ซิครับ...ปลอมเพียบเลย..คนหันมาเก็บสะสม..กันใหญ่..เพราะเนื่องจากราคาถูก(ในช่วงแรกๆ..ตอนนี้ไม่ถูกแล้ว)..
..คนมาเจาะลึกกันเรื่องประวัติเหรียญ..แถมทุกเหรียญลงเหล็กจาร..จากมือท่านเอง...ผู้อ่านคงทราบว่า..เหรียญรูปหลวงพ่อคูณรุ่นไหน..ที่มี..การจารของหลวงพ่อคูณ..ราคาจะบวกขึ้นมากเท่าไหร่...
....แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคากการณ์ไว้จริงๆ..ว่าจะดัง..ตอนนี้ใครคิดจะไปเช่า
ก็ไม่ถูกแล้ว..แต่ก็ยังถูกกว่ารุ่นดังๆ..หลายรุ่น..แต่น่ากลัวเท่าเขา..เพราะของปลอมออกกันเกลื่อน......
......เอาแค่นี้..พอนะ..พลศิริ..น้องรัก..ขอมา..จัดไป..

 

........
..............................................................................
ต่อจากบทความเดิม...
...เมื่อพูดถึง..สังคมคนชอบพระ..ในสมัยนั้น..ไม่ใช่พระเครื่องนะครับ..อย่างที่บอกไปว่า..
พระที่ดังๆส่วนใหญ่..ยังอยู่ในกรุ..กัน..(พระดังๆขึ้นชื่อ..สมัยก่อน..อันดับ๑ คือ..กริ่งคลองตะเคียน)
...ผมบอกไปแล้ว..ว่า..เป็นเครื่องราง..ก็..ไม่กี่อย่างเท่านั้น..แต่หลักๆ..คือ...
............พระพุทธรูป....ทุกปาง..ที่ขนาดพอจะเอามาใส่..ในห้องพระได้...มันเป็นการแข่งขันกัน
ด้วยว่า..ใครจะหาได้เก่งกว่ากัน..ของใครสวยกว่ากัน..เวลาพวกนิยมพระ..ไปเยี่ยมบ้านกัน...
สิ่งแรก..ก็ไปดู..พระพุทธรูปนั่นแหละ...แล้วก็ถ้า..ชอบพอก็อาจเอามา..แลกกัน...พระยุคนั้น
ยอดนิยม..ก็ยังเหมือนสมัยนี้..คือ..พระสุโขทัย..และ..พระเชียงแสน...พระอยุธยาอยู่อันดับหลัง
เพราะ..สวยน้อยกว่าเขา......เรียกว่า..ตั้งแต่..หน้าตักเป็น..ศอก..ลงมา..ยัน ๒นิ้ว........
...........สื่อก็อย่างที่บอกครับ..ปากอย่างเดียว..ปากต่อปาก..จาก ๑ เป็น ๒ เป็น ๔ เป็น ๑๖..ไปเรื่อยๆ
....การซื้อขายกัน..ก็มีแล้วนะครับ..ในพวกกลุ่มเดียวกัน..ที่แข่งกันมากๆ...คือ..ส่วนใหญ่..
จะเป็นใบสั่ง..โดยให้..ลูกน้อง..หรือ..เพื่อนดำเนินการให้..อย่างอยู่กันที่..บางกอก..นี่..แหล่งที่
หา..ก็..ตั้งแต่..กำแพงฯ..พิษณุโลก..ขึ้นไปถึงยัน..เชียงราย..แถมข้ามไปฝั่งลาวเลย(..ตอนนั้น..ลาว
ยังอยู่กับไทย)...เพราะสมัยก่อน..วัดร้างมีเยอะมาก..ริมแม่น้ำน่าน..แม่น้ำยม...เวลาผ่านไปตอน
หลัง..น้ำเซาะวัดลง..แม่น้ำไปมากต่อมาก (..ผมเคยเล่าไปตอนก่อน..ใน..ผม..พระ..นี่แหละ...
..ว่า..สมัยพ่ออยู่พิษณุโลก..เมื่อปี ๒๔๘๓ พ่อบอกเมื่อเทียบกับ..ตอนหลังที่พ่อกลับไปอีก..
ก็ร่วมสี่สิบปีก่อน....พ่อบอก..วัดร้างริมแม่น้ำน่าน..หายไปหลายวัด...)....เขาก็เริ่มไปหากันที่นี่
แหละ..เพราะยุคนั้น..วัดร้าง..จะรกทึบ..ไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าไปกัน..กลัวผี......ก็เรียกกันว่า..
..ขนเข้าบางกอก..กันไม่รู้เท่าไหร่..นอกจากบางกอก..ก็ยังมีเมืองใหญ่..อย่าง..นครสวรรค์..โคราช
..เชียงใหม่..ที่มีสังคมผู้นิยมพระพุทธรูป..สั่งกันเข้าไป...
..............ก่อนจะถึง...จุดที่มีการเปลี่ยนแปลง..ให้เริ่มนิยมพระเครื่องกันนั้น....
.....มันเริ่มจาก..สื่อ(ปาก)...ทำงาน..ให้ผู้คนเริ่มสนใจ..ในหลวงพ่อต่างๆกันที่ไม่ใช่..หลวงพ่อที่
อยู่ใกล้บ้าน..หรือ..ย่านที่ตัวอยู่...........สาเหตุ..ก็.มาจาก..หวย ก.ข. นั่นแหละครับ.....
.....หวย ก.ข. นั้นเริ่มต้นจริงๆ..ในสมัยรัชกาลที่๓ ..แต่มารุ่งเรื่อง..ยากดี..มีจน..ทั่วหัวระแหง
...รอบๆพระนคร..รวมถึงเมืองนนท์..ปากน้ำ..ด้วย..ก็..สมัยรัชกาลที่ ๔.........
...............ชาวบ้าน..ทั้งหลายที่เล่น..ก็อยากถูกกันทั้งนั้น...แล้วจะหาตัวช่วย..ได้ที่ไหนละ...
........................................ก็..คนที่ใบ้หวยแม่นๆ...นั่นแหละครับ.....................
....คนที่จะใบ้หวย..ก็ต้องเป็นผู้ทรงฌาณ..สามารถ..เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้........
.....แล้วคนประเภทนี้..เกือบทั้งหมด...ก็คือ...พระสงฆ์.....
............................ต่อตอนหน้า................................

 

ผมขอแทรกคำถามได้มั้ยครับคุณลุง.......
ไม่ทราบว่าในปัจจุบันนี้ คุรลุงมีคำแนะนำมั้ยครับว่า
ควรไปกราบครูบาอาจารย์องค์ใดดีที่ท่านยังดำรงค์ขันธ์และโปรดลูกหลานอยู่ แบบไม่มีทศกัณฐ์
อย่างว่าแหละครับ ผมยังเสพย์ติดวัตถุด้วยแหละครับ เผื่อได้ของดีระดับตำนานติดมือกลับบ้านบ้างครับผม

 

........
...................
...อันนี้บอกก่อนได้เลยว่า...ถ้าจะถามชื่อตัวบุคคล...ผมตอบไม่ได้..แน่นอน
..เพราะ..ผมเลิกเล่นพระมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว......
...และ..ผมยุติการเข้าไปหาอาจารย์ต่างๆมาประมาณ ๒๐ ปี...
.....หลวงพ่อองค์สุดท้านที่ผมว่าดี..และ..ผมไปหาท่าน..ท่านก็เสียแล้ว
..ไปเมื่อ..ต้นปีนี้เอง..ที่ีทราบเพราะ..ลงข่าวหนังสือพิมพ์...
..นั่นคือ..หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย.....
.......อาจารย์ที่ผมรู้จัก..ไม่มีผู้ใด..ดำรงค์ขันธ์..อยู่แม้แต่..องค์เดียว..
..ถ้าผมจะไปแนะนำ..ท่านอื่นที่ผมไม่ได้..รู้จัก..สัมผัสด้วยตัวเอง...
.........นั่นก็ไม่ใช่ ผม Modpong อย่างแน่นอน...
...ดูที่คำถามก่อนว่า..มันขัดแย้งกันเอง..นะครับ...
....."ของดีระดับตำนาน"...นั้น...ต้องมาอาจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
โด่งดังมากๆ...ในยุคนี้..ผมว่าหายากมากๆ..ที่จะไม่มี..คิว..หรือ..มี
คนจัดการ...ถึงแม้ตัวอาจารย์ท่านเอง..ไม่ไได้เลือกที่รักมักที่ชัง...
..แต่ไอ้พวกคนที่..อยู่กับท่าน..เป็นคนดูแลท่าน..เขาก็มีสิทธิ์ของเขา
...ดังนั้น..ถ้าอยากจะได้แบบ..ที่บอกมา..ต้องเป็นแค่ของดี(จริงๆ)เฉยๆ
...และมาจากอาจารย์ที่ดังพอประมาณ..ต้องคิดความสมเหตุสมผลด้วย..
.........ขอแนะนำ..ของผม..หลักการแรก..ในการที่จะหาอาจารย์
ที่น่าเคารพ..แล้วมาเป็นที่ยึดถือ..ทำของขลังได้ดี....
คือ.....
๑. ต้อง....สมถะ....นี่คือ..คุณสมบัติของพระภิกษุของพระพุทธเจ้า...
....ไม่มีการสะสมของ..ใดๆทั้งสิ้น..นอเหนือ..จากสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิต..ประจำวันของสงฆ์..ยุคนี้..เพิ่มเติมได้บ้าง..อย่างกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า..หรือ..พัดลม...
..ไม่อยู่ห้องแอร์..ไม่มีโทรศัพท์มือถือ..ไม่มีคอมพ์..ทีวี..วิทยุ..เพราะไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน.
๒. ต้อง..นิ่ง...คือไม่กระวนกระวาย..ไม่ล่อกแล่ก..พูดจาชัดเจน..จะน้อย..จะมากไม่เป็นไร..แล้วแต่บุคคลิกต้องชัดเจน...ให้ดูจากตาของท่าน..ได้เลย..ต้องไม่มีการเหลือบ..หรือ..กลอกตา..มองโน่นมองนี่..ถ้ามองต้องหันไปทั้งหน้า
๓. ต้องมี...สมาธิ..ระหว่างสวด..ให้พร..หรือปลุกเสกอะไร..ไม่ยุกยิก..เกาโน่น..เกานี่..หาว..บิดร่างกาย(แก้เมื่อยขบ)....
๔. ต้อง..ทำของแล้ว..ขลังจริง..มีประสพการณ์เกิดกับผู้ใช้มาแล้วมากๆ...แบบที่ว่า..ไม่ต้องใช้แรงเชียร์จากสื่อหนังสือ...ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงนับถือ..ไม่ใช่มีแต่..คนมาจากถิ่นอื่นอย่างเดียว....
..............เอาแค่นี้..ก็..พอแล้ว.......
....จำไว้..ของดี..หายาก....

 

รับทราบครับคุณลุง

 

ขอบพระคุณครับอ้ายมดที่จัดมาซะจนจุใจครับ
แต่ใน พ.ศ.นั้น ยังบ่เกิดเลยอ้าย
มีแต่เหรียญพ่อคูณแม้จะเป็นปีบ่เก่าปานใด๋ก็ภูมิใจครับผม