ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

..เหตุแห่งบุญถวายภัตตาหาร และโรงทานก๋วยเตี๋ยว วัดดอนธาตุ ๑๕ วัน..

ขออนุญาตเล่าถึง การสร้างบุญถวายภัตตาหาร และโรงทานครั้งนี้ ทางวัดดอนธาตุได้จัดปฏิบัติธรรมพิเศษ มาจากพระอาจารย์บุญช่วย สุธีโร ท่านเจ้าอาวาสได้กล่าวว่า..

"มีเทวดาที่วัดดอนธาตุให้จัดปฏิบัติธรรมพิเศษ เป็นรัดเร่งพระภิกษุสามเณร อุบาสก เนื่องจากเหลือเวลาน้อยแล้ว "

ท่านกล่าวเพียงเท่านี้ไม่กล่าวอะไรอีก เดิมทีอุปัฏฐากของวัด ไม่คิดว่าจะบอกบุญมา แต่เนื่องจากระยะเวลาปฏิบัติยาวถึง ๑๕ วัน เกรงว่า ชาวบ้าน ซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน กำลังทรัพย์ไม่มากนัก เกรงการต้อนรับพระภิกษุจากทุกสารทิศไม่เต็มที่ จึงโทรแจ้งมาค่ะ

ทราบจากผู้ประสานงานว่า "หลวงพ่อบอกว่า ครั้งนี้แปลก ไม่ได้แจ้งข่าวอะไรมากนัก ปกติใกล้ ๆ วันพระจะเริ่มทะยอยมา แต่ครั้งนี้พระมาล่วงหน้าหลายวัน จากหลายจังหวัด คล้ายท่านเหล่านั้นจะทราบอะไรล่วงหน้า"


ดิฉันได้ฟังเช่นนั้น จึงคิดว่า "เหตุแห่งการบรรลุธรรมอย่างหนึ่ง นอกจากสัปปายะดีแล้ว ก็มีอาหารดี หากได้อุปัฏฐากด้วยอาหารที่ดี มีอนามัย ส่งผลให้พระภิกษุ-สามเณร-อุบาสก-อุบาสิกาเหล่านั้น มีำกำลังที่จะพิจาณาธรรมได้ง่าย เป็นกำลังให้ท่านเหล่านั้นได้บรรลุธรรมในที่สุด"

จึงตัดสินใจว่า จะบอกบุญแก่กัลยาณมิตรทั้งหลายช่วยกันสนับสนุนท่านเหล่านั้น โดยให้อาหารที่ดี เป็นอานิสงส์ใหญ่ ส่งผลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ และมั่นคงในฐานะ

นอกจากนี้ ขออนุญาตนำปัจจัยจากกองบุญพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร เพื่อร่วมถวายน้ำเย็น และน้ำปานะ ตามสมควร

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านอีกครั้งค่ะ

Numsai

 

..ประวัติดวงแก้วชุดดำรงดิเรกฤทธิ์ ตอน ๑๐ เจ้าชายมหัทธโชติอภิเษกพระธิดานาคา..

(ต่อจากหน้า ๓๖๐ )​

หลังจากตามหาเจ้าหญิงสิริธารณีแล้วไม่พบ เจ้าชายมหัทธโชติกับวาตมัยยะนายทหารคู่ใจจึงได้เดินทางต่อไป ถึงป่าทิศตะวันออกของโสฬสสนคร พบถ้ำ ๆ หนึ่งจึงได้เข้าไปหาที่พัก พบภายในถ้ำสะอาดสอ้าน จึงทราบว่า น่าจะมีคนอยู่ จึงหาที่หลบมุม พร้อมกับนอนหลับพักผ่อน เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาหลายวัน

คืนนั้น ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย เจ้าชายมหัทธโชติได้ตื่นขึ้นมาพบว่า ตนได้นอนในถ้ำมีลักษณะเป็นห้องคล้ายสี่เหลี่ยม ลักษณะพื้นถ้ำ เป็นหินทรายแก้ว ระยิบระยับ งดงามมาก

อีกมุมหนึ่งของห้อง เห็นวาตมัยยะนายทหารคนสนิทหลับอยู่จึงไม่คิดจะปลุกต้องการให้พักผ่อน จึงเดินออกจากห้องนั้น ได้ยินเสียงพูดคุยกันแว่ว ๆ

พบพระฤาษีตนหนึ่งกำลังนั่งสนทนาธรรมกับหญิงสาว อีก ๒ -๓ คน โดยหญิงสาวเหล่านั้นนั่งหันหลังให้ตน กำลังคุยกันอย่างออกรสชาติ เมื่อเดินเข้าไปกราบพระฤาษี ได้เห็นหน้านางเหล่านั้น จึงจำได้ว่า หนึ่งในสตรีที่พบ คือ เจ้าหญิงสิริธารณี จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง


แต่ต้องข่มอารมณ์ตนเองไว้ เนื่องจากอยู่ต่อหน้าพระดาบส จึงได้ระงับอารมณ์ของตนไว้ ส่วนเจ้าหญิงสิริธารณีไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด ได้เพียงหันมาแย้มโอษฐ์เล็กน้อยตามมารยาท และได้ลาพระฤาษีกลับเมืองของตน
หลังจากที่เจ้าหญิง และคนสนิทกลับไปแล้ว พระฤาษีได้เรียกเจ้าชาย และคนสนิทเข้ามาพบ ได้ถามไถ่เรื่องราวกันตามสมควร พระฤาษีจึงได้รับเจ้าชายเป็นศิษย์ โดยเริ่มฝึกวิชาต่าง ๆ
เจ้าชายมหัทธโชติได้ทราบในเวลาต่อมาว่า พระฤาษีที่อยู่ตรงหน้ามีนามว่า “เมตตปาละฤาษี” เป็นอาจารย์ของ พญาสิงหลนาคราช ซึ่งเป็นพระบิดาของเจ้าหญิงสิริธารณีนั่นเอง

เจ้าชายมหัทธโชติรู้สึกปิติใจอย่างยิ่งที่ทราบว่า ทุก ๆ เดือนเจ้าหญิงสิริธารณีจะต้องมาอุปัฏฐากพระอาจารย์ เป็นเวลา ๓ วัน ส่วนเจ้าหญิงอีก ๒ องค์จะมาเพียงเดือนละ ๒ วันเท่านั้น

ในช่วงระหว่างเจ้าชายมหัทธโชติอยู่ฝึกวิชานั้นเอง ทำให้เกิตคุ้นเคยกับพระธิดาทั้ง ๓ ของพญาสิงหลนาคราช โดยเฉพาะเจ้าหญิงสิริธารณีพระธิดาองค์โต เริ่มมีจิตใจหวั่นไหว โอนเอียงไปทางเจ้าชายมหัทธโชติซึ่งเป็นเจ้าชายรูปงาม มีอัธยาศัยดีพร้อมทุกด้าน อีกทั้งเป็นคนที่ดูไม่เคร่งเครียด เวลานางอยู่ด้วยรู้สึกมีความสุข

โดยนางไม่ทราบว่า เจ้าหญิงสิริรัตนาน้องสาวคนเล็กก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน พวกนางจึงได้ขอพระบิดาไปอุปัฏฐากพระอาจารย์บ่อยขึ้น

พญาสิงหลนาคราชเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของพระธิดาทั้งสอง ให้คนไปสืบข่าวว่า เจ้าชายผู้นี้มีอัธยาศัยเป็นอย่างไร ทราบว่า เจ้าชายมีอุปนิสัยดี มีความเป็นผู้นำ และเป็นผู้เก่งกล้าสามารถใช้เวลาฝึกวิชาเพียง ๕ เดือนก็สำเร็จ


วันหนึ่งขณะที่เจ้าหญิงสิริธารณีกำลังเล่นน้ำ อยู่กับนางนาคมาณวิกา ๔-๕ ตน(แปลงกายเป็นมนุษย์) มีพญาครุฑนามว่า “สัจจธาตุครุฑา” ได้เห็นความงามของเจ้าหญิงสิริธารณี จึงเกิดความปรารถนาจะนำไปเป็นสนมของตน จึงได้บินโฉบมาอุ้มเจ้าหญิงสิริธารณีไป นางกำนัลต่างร้องเสียงดัง

ทำให้เจ้าชายมหัทธโชติที่กำลังทบทวนวิชาที่เรียนอยู่บริเวณนั้นได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ พระเมตตาปาละฤาษีจึงมอบพระขรรค์แก้ว และเกือกแก้วที่สามารถเหาะตามพญาสัจจธาตุครุฑาได้ทัน ทรงใช้พระขรรค์ฟันพญาครุฑนั้นจนสิ้นใจ จากนั้นได้พาเจ้าหญิงสิริธารณีกลับเมืองบาดาลทันที


พญาสิงหลนาคราชเกิดความพึงพอใจยกเจ้าหญิงสิริธารณีให้เป็นพระมเหสีของเจ้าชายมหัทธโชติ ส่วนเจ้าหญิงสิริรัตนาก็เกิดความเสียใจ ถึงกับตรอมใจไม่ยอมเสวยอาหาร ที่พระบิดาให้ยกพระกนิษฐาให้อภิเษกกับเจ้าชายมหัทธโชติ

พญาสิงหลนาคราชทราบภายหลัง จึงยกพระธิดาองค์เล็กให้เป็นพระมเหสีอีกองค์ และได้เนรมิตเมืองใหม่ให้กับเจ้าชายมหัทธโชติครองเมืองนามว่า “ทวินาคินทร์นคร” โดยชาวเมืองนั้นเป็นชาวนาคพิภพ แต่ใช้วิชาแปลงกายเป็นมนุษย์


เวลาผ่านไปเกือบ ๑ ปี เจ้าชายมหัทธโชติคิดว่า สมควรแก่เวลาจะพาพระมเหสีทั้งสองไปพบพระบิดาและพระมารดาของตน จึงได้พาพระมเหสีทั้ง ๒ และบริวารกราบลาพญาสิงหลนาคราชออกเดินทาง

เมื่อไปถึงเมืองมหัทธศิฐีนคร ได้พาพระมเหสีทั้งสองไปกราบพระเจ้าอนันตราชและพระมเหสี พระนางปวาราณี แม้ทราบว่าพระมเหสีทั้งสองของพระโอรสองค์เล็กเป็นพระธิดาพญานาคินทร์ ก็ไม่ได้รังเกียจ

ทรงได้สั่งให้คนสร้างวังที่ติดกับริมฝั่งน้ำ เพื่อพระธิดาทั้งจะได้ไปมาระหว่างเมืองบาดาล กับมหัทธศิฐีนครได้สะดวก โดยพระราชวังที่สร้างใหม่นั้น ติดกับเป็นที่ดินสัทธาเศรษฐีบิดาของสิริรัตนะเทพธิดาที่ได้จุติมานั่นเอง

 

..ประวัติดวงแก้วชุดดำรงดิเรกฤทธิ์ ตอน ๑๒ เจ้าชายพลสิทธิ์อภิเษกสมรส..


ครั้นเจ้าชายมหัทธโชติได้เดินทางมาถึงแล้ว พระเจ้าอนันตราชได้จัดงานอภิเษกสมรสให้แก่เจ้าชายพลสิทธิ์ และนางมัทธานา บุตรบุญธรรมของมหาศนชาตะพราหมณ์ และมหาศินีพราหมณีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องจากทรงเป็นรัชทายาท มีการเฉลิมฉลองถึง ๑๕ วัน ๑๕ คืน ชาวเมืองต่างปิติยินดียิ่งนัก

นอกจากนี้ พญาสิงหลนาคราช(คุณ Prapart54) และเจ้าหญิงสิริมารตี ได้เดินทางมาร่วมงานนี้ด้วย โดยพักอยู่ที่เมืองติดแม่น้ำของเจ้าชายมหัทธโชตินั่นเอง

กล่าวถึงเจ้าชายอัสรินทร์ตาปะนาคราชนั้น แม้พญาสิงหลนาคราชจะยกเจ้าหญิงสิริธารณีให้แก่เจ้าชายมหัทธโชติ ซึ่งเป็นมนุษย์ ท่านก็ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด ซ้ำยังส่งเครื่องบรรณาการณ์แก่เจ้าหญิงทั้งสอง เพื่อร่วมแสดงความยินดี

ส่วนเจ้าชายศิลวัตรนาคราช(คุณ am12) ได้เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้เช่นกัน แม้จะรู้สึกเสียใจ จึงได้พยายามตัดใจ ต่อมาได้มีโอกาสพบกับเจ้าหญิงสิริมารตีบ่อยครั้ง ทำให้ทั้งคู่เกิดความสนิทสนมกันมากขึ้น ทำให้เจ้าหญิงสิริมารตีเริ่มหวั่นไหว และแอบหลงรักเจ้าชายเจ้าชายศิลวัตรนาคราช


พญาสิงหลนาคราชนั้น ทราบด้วยวารจิต จึงคิดว่า ควรหาโอกาสให้ทั้งสองได้เรียนรู้กันมากขึ้น จึงวางแผนให้เจ้าหญิงสิริมารตีคอยอุปัฏฐากพระเมตตาปาละมากขึ้น เนื่องจากทราบว่า เจ้าชายศิลวัตรนาคราชจะไปเรียนวิชาต่อ หลังจากกลับจากงานอภิเษกครั้งนี้ โดยมีเจ้าชายดำรงฤทธิ์ตามไปด้วย

ต่อมาพระดาบสทั้ง ๗ ต่างได้เดินทางกลับมาโปรดบิดามารดา และได้ให้พรแก่กนิษฐาบุญธรรม และเจ้าชายพลสิทธิ์ พร้อมกันนั้นได้นำดวงแก้วมณีนามว่า..

"ดวงแก้วพลสิทธิ์มณีโชติให้แก่เจ้าชายพลสิทธิ์(ท่านมุจลินทร์เทพบุตร) เพื่อเป็นของขวัญในวันสยมภู(แต่งงาน)”


ดวงแก้วนี้เป็นดวงแก้วคู่บารมีของเจ้าชายพลสิทธิ์แต่กาลก่อน เมื่อเสร็จสิ้นงานอภิเษก พระดาบสทั้ง ๗ ได้กลับยังที่พำนักของตน หลังจากอภิเษกเพียง ๓ เดือน พระนางมัทธานาทรงพระครรภ์

 

ประวัติดวงแก้วชุดดำรงดิเรกฤทธิ์ ตอน ๑๓ วิภาวตี-ธิดาเศรษฐี..


ขอย้อนถึงสิริรัตนะเทพธิดา หลังจากขึ้นไปกราบขอพรท้าวสักกเทวราช ก่อนจุติมาเป็นมนุษย์ว่า..

“ขอให้หม่อมฉันได้จุติในตระกูลเศรษฐีผู้ใจบุญ ได้สั่งสมบุญบารมีเพิ่ม ขอให้หม่อมฉันเป็นผู้มีครูอาจารย์ดี ครูอาจารย์ที่เลิศ และได้ครองคู่กับพญาสุจิตตยักษ์ พระสวามีในอดีตด้วยเถิด
(ซึ่งได้จุติเป็นเจ้าชายไวยยจักร พระโอรสของพระเจ้าพันธุรัตน์ แห่งเมืองโกลิยนคร ก่อนหน้า ๑๕ ปี)”



หลังจากนางรับพรจากท่านท้าวสักกเทวราชแล้ว ได้เข้าผลสมาบัติ จากนั้นได้เคลื่อนภพลงมาจุติ เป็นธิดาของท่านสัทธาเศรษฐี และนางสิริปุญญา มีนามว่า วิภาวตี
ท่านสัทธาเศรษฐีนั้น มีภรรยา ๒ คน คือ นางจันทมาศ และนางสิริปุญญา นางจันทมาศ ภรรยาหลวง แต่งงานกันมาหลายปีแต่ไม่มีบุตรด้วยกัน

ต่อมานางจึงพานางสิริปุญญา ซึ่ง เป็นญาติห่าง ๆ ของนาง และเป็นเด็กกำพร้า เพื่อให้แต่งงานเป็นภรรยาคนที่ ๒ ของท่านสัทธาเศรษฐี

นางสิริปุญญา มีอายุ ๑๗ ปี เป็นเด็กสาวกำพร้าบิดามารดา ซึ่งนางสิวาณี ญาติห่าง ๆ ของนางจันทมาศเลี้ยงดูตั้งแต่เป็นทารก นางสิวาณีนั้น ได้ติดหนี้นางจันทมาศ จึงได้ส่งนางสิริปุญญา ตั้งใจจะให้เป็นเด็กรับใช้แก่นาง เมื่อนางจันทมาศ เห็นหน้าตาสะสวยของนางสิริปุญญา จึงคิดว่า

“สามีของเรานั้น ปรารถนาจะมีบุตรธิดา เราก็ไม่สามารถมีบุตรธิดาได้ อีกไม่นาน เขาคงจะมีภรรยาใหม่เป็นแน่ เราจะยกนางสิริปุญญาให้เป็นภรรยาอีกคนของสามีเรา”


สำหรับนางสิริปุญญานั้น นางไม่ได้ปฏิเสธ แม้เป็นผู้มีจิตใจอ่อนโยน ไม่เคยคิดร้ายต่อผู้อื่น เป็นคนที่มีความกตัญญู มักชอบสวดมนต์ บูชาบวงสรวงเทวดา ทำให้เป็นที่รักของเทวดาทั้งหลาย

ก่อนที่สิริรัตนะเทพธิดาจะมาจุติ นางสิริปุญญาได้ฝันว่า มีดวงแก้วมณีลอยมาหาดวงแก้วมณีนี้ มีแสงสว่างสุกสกาว เมื่อนางได้กอดแก้วมณีไว้ ต่อมามีพญายักษ์ผู้มาแย่งแก้วมณีนั้นจากนางไป นางได้ร่ำไห้จนตื่น

ท่านสัทธาเศรษฐีนั้น มีความรักต่อภรรยาคนนี้มาก จึงได้ให้พราหมณ์ผู้หนึ่งนามว่า “สายัญพราหมณ์” เพื่อให้ทำนายฝัน พราหมณ์ได้ทำนายว่า..

“ท่านทั้งสองจะได้บุตรที่เกิดมาเป็นผู้มีบุญมาเกิด หญิงก็ดี ชายก็ดี แต่ภายหลังบุตรนั้น จะถูกพรากจากไปด้วยเหตุแห่งกรรม ”


แม้จะมีความกังวลใจบ้าง แต่ท่านสัทธาเศรษฐีคิดว่า อาจจะหาทางแก้ไขเรื่องนี้ได้ จึงได้ให้บริวารบำรุงครรภ์ของสิริปุญญา ภรรยาที่สองเป็นอย่างดี ทำให้นางจันทมาศเกิดความอิจฉาริษยาอยู่ลึก ๆ นางไม่คิดว่า ท่านสัทธาเศรษฐีจะมีความรักความเสน่หาในนางสิริปุญญามากเพียงนี้ ทำให้นางนึกชิงชังทารกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก

ต่อมาเมื่อจนครบกำหนด ๑๐ เดือน นางได้กำเนิดบุตรสาวหน้าตาน่ารัก นางจึงตั้งนามว่า “วิภาวตี” หมายถึงผู้นำแสงสว่างโดยการบำเพ็ญพรต โดยนางเลี้ยงบุตรสาวด้วยตัวเอง

ท่านสัทธาเศรษฐียิ่งทะนุถนอมภรรยาคนที่ ๒ ยิ่งทำให้นางจันทมาศยิ่งมีใจริษยามากขึ้น เมื่อท่านเศรษฐีไม่อยู่ นางหาทางกลั่นแกล้งนางสิริปุญญา โดยการใช้งานหนัก และห้ามไม่ให้บริวารอื่น ๆ ช่วย นางสิริปุญญามิได้ปริปากบ่นแต่อย่างใด


เป็นที่เช่นจนวิภาวตีกุมารีมีอายุได้ ๕ ขวบ ด้วยบุญเก่ากุมารีผู้นี้เริ่มระลึกได้ว่า นางจุติมาจากที่ใด นางจึงได้นำผลไม้ถวายแก่เทวาอารักษ์ อธิษฐานขอให้มารดาของตน พ้นจากการกลั่นแกล้งของนางจันทมาศ และให้มารดาอโหสิกรรมในการกระทำนั้น วิภาวตีสามารถพูดคุยกับเทวดารักษาบ้าน

เทวดารักษาบ้านได้บอกแก่กุมารีว่า “เป็นกรรมของทั้งสองที่ต้องใช้กรรมกัน ขอให้เธอตั้งใจประพฤติศีลให้บริสุทธิ์ โดยงดจากการฆ่าสัตว์ ไม่เอาของที่ผู้อื่นไม่อนุญาต ไม่พูดปด ไม่มีความรักระหว่างเพศ ไม่ดื่มน้ำเมา และต้องแผ่ความรักความเมตตาแก่นางจันทมาศให้นางมีความเมตตาต่อเธอ และมารดา”

วิภาวตีกุมารี จึงตั้งใจจะรักษาศีลนางพยายามทำความดีทุกอย่างและแผ่เมตตาแก่นางจันทมาศใช้เวลาหลายปี จนนางมีอายุได้ ๑๓ ขวบ ท่านสิทธาเศรษฐีถึงแก่ชีวิตกระทันหัน หลังจากเสร็จงานพิธีแล้ว

นางจันทมาศจึงได้ระลึกได้ว่า "บัดนี้สามีของเราได้เสียชีวิตไปแล้ว อีกอย่างสองแม่ลูกมิเคยทำความเดือดร้อนแก่เรา เราควรต้องสงเคราะห์แก่สองแม่ลูกนี้”

จากนั้น นางจึงได้นำทรัพย์ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนของสามีมอบแก่นางสิริปุญญา และวิภาวตี จากนั้นนางแยกเรือนออกไปให้พ้นจากความเป็นทาสของนาง แต่ยังสามารถไปมาหาสู่กันได้ ทำให้ทั้งสองมีความสุข โดยนางสิริปุญญาได้ลืมเรื่องคำทำนายเสียสนิท

 

ผมและครอบครัวญาติมิตรขอร่วมทำบุญถวายปัจจัยจำนวน 1500 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 2144064587 พุทธารา โรจนฤทธิกร อันได้แก่
1. โครงการปล่อยปลา 108 ตัวทุกสัปดาห์ และถวายเทียน 108 เล่ม
2. โครงการถวายสัปทน 2 คัน
3. โครงการถวายภัตตาหารและโรงทานก๋วยเตี๋ยว 15 วัน ณ วัดดอนธาตุ จ.อุดรธานี
ทั้งนี้ ผลอานิสงส์ที่เกิดขึ้นจากการทำบุญทำทานในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม(พระพุทธสิกขีทศพลที่๑) องค์วิสุทธิเทพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ องค์พระปฐมปัจเจกพุทธเจ้า (มังคละปัจเจก)และองค์พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ตลอดจนเหล่าเทพธรรมบาลประจำตัว ทวยเทพเทวา เทวดาประจำหน่วยงานใหม่ เทพาอารักษ์ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ เจ้านาย และท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้าและครอบครัวญาติมิตรด้วยเทอญ และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับสมาชิกกองบุญพระพุทธวิปัสสีฯและพี่น้ำใสในครั้งนี้ด้วยครับ /\ /\ /\ สาธุครับ

 

โอน ร่วมบุญภัตตาหารและโรงทานก๋วยเตี๋ยว วัดดอนธาตุจำนวน1500 บาท ผ่านเคาเตอร์ธนาคารกรุงเทพ เวลาประมาณ11.00น. 28/4/2557
1.คุณพ่อลิบฮึง แซ่อึ๊ง และครอบครัว 500 บาท
เพ็ชรรัตน์ แซ่อึ๊ง และครอบครัว 1000 บาท
อนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน

 

สวัสดีทุกท่านครับ

ผมขอร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหาร และโรงทานก๋วยเตี๋ยว ณ วัดดอนธาตุ ๒,๐๐๐ บาท
โอนในวันที่ ๒๘/๐๔/๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๘.๐๐ น.
ธ.กรุงเทพ ๒๑๔๔๐๖๔๕๘๗

ร่วมบุญดวงแก้วจุลจักรพรรดิ์ชุดที่ ๑๒ และ ๑๓ ชุดละ ๑ ดวง จำนวน ๑,๗๘๐ บาท
โอนในวันที่ ๒๘/๐๔/๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๘.๐๘ น.
ธ.ไทยพาณิชย์ ๐๘๐๒๕๒๖๔๗๒

ขออนุโมทนาในบุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ

 

จันทรกาล น้องเอ็ม น้องเจน น้องจุ๊บแจง ร่วมทำบุญโรงทาน 600 บาทค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

 

วันนี้เวลา 17:05น. ได้โอนเงินจำนวน 999.99 บาทเพื่อร่วมบุญบูชาดวงแก้วชุดที่ 11
หนึ่งดวง เข้าบัญชี SCB เลขที่ 0802526472

โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

 

สาธุครับ คุณธวัชชัยฝากแจ้งได้รับดวงแก้วจุลจักรฯแล้ว
และบอกว่าเมื่อได้รับถือดวงแก้วมาดู ปรากฎว่า" ร้องไห้อย่างมากมายไม่มีสาเหตุ มือไม้สั่นเทาคุมตัวเองไม่อยู่
อาการคล้ายคนทรง" ครับ
ฝากขอบคุณ คุณพี่น้ำใส และขออนุโมทนาบุญครับ

 

กรุณาฝากบอกคุณธวัชชัยด้วยค่ะ "ให้ทำสมาธิและตั้งจิตอธิษฐานต่อดวงจิตที่มาแทรก ทำให้เกิดปิติอย่างแรงกล้าว่า

"สมบัติเก่าได้คืนมา อย่าหลงยึดเรื่องในอดีต เพราะอดีตผ่านไปแล้ว ขอให้เร่งบำเพ็ญบารมีร่วมกัน

ทำปัจจุบันให้ดี ยกระดับจิตให้สูงขึ้น เพื่อให้พ้นจากกองทุกข์แห่งวัฏฏสงสารนี้

การแทรกจิตมนุษย์ หาใช่หนทางแห่งการสร้างบุญไม่ ทำให้มนุษย์ต้องลำบาก ยิ่งทำให้ห่างธรรมะแห่งการหลุดพ้น นับแต่นี้ไป พันธนาการทั้งปวงที่เคยมีต่อกันมา เป็นอันสิ้นสุด เพื่อให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไป

ขอบุญกุศลแห่งการที่ได้สร้างพระพุทธวิปัสสีฯ จงมีแก่เธอ และบริวารที่ติดตามกันมา รวมทั้งบุญที่สร้างในกองบุญนี้ เป็นแสงสว่างนำทางเธอทั้งหลายไปสุคติภูมิด้วยเถิด"

จากนั้นให้คุณธวัชชัยไปถวายเพลพระด้วยอาหารคาวหวาน พร้อมด้วยสังฆทานอุทิศบุญให้แก่ดวงจิตเหล่านั้นอีกครั้งค่ะ

ขอให้น้อง Prar และคุณธวัชชัยเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ

บุญรักษาค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ pizza4G ด้วยค่ะ เลขที่บัญชีธนาคารกรุงเทพนี้ เปิดเฉพาะกิจ เพื่อบุญภัตตาหาร และโรงทานเพียงอย่างเดียวค่ะ

พี่จะไม่โอนจากบัญชีนี้นะคะ สำหรับปัจจัยที่โอนผิดบัญชี จำนวน ๑๐๐๐ บาท

ขออนุญาตร่วมบุญภัตตาหารและโรงทานในนาม..ครูบาอาจารย์สืบ ๆ กันมาของพี่ มีหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และพระราชพรหมยานเถระ วัดท่าซุง ท่านจิตโต บ้านสบายใจ ท่าน widya ท่านเจมส์โบ โดรจีร์

และครูบาอาจารย์ในสายพระฤาษีมี หลวงปู่อาจารย์ใหญ่หลวงปู่เกษรี หลวงปู่อัสดง หลวงปู่อัสรินทร์ พระสัจจฤาษี และสหธรรมิกทุก ๆ ท่าน มีหลวงปู่ฤาษีนารอด หลวงปู่ฤาษีเดินดง หลวงปู่ฤาษีตาไฟ เป็นต้น

โดยจะโอนชดเชยใน ๒ รายการแทนภายหลังค่ะ

ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้วิบากกรรมทั้งหลายที่เราเคยมีต่อกัน ขอให้กรรมเหล่านั้น จงสลายไป

นับแต่นี้ไป ขอให้มีผลต่อการเกื้อกูลกันโดยธรรมด้วยเถิด สาธุ...

ขออนุโมทนาบุญอีกครั้ง
Numsai

 

ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งที่เจตนาและไม่เจตนาก็ดี
ขอผลบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาทั้งหมดทั้งมวลทุกภพทุกชาติจงบังเกิดเป็นปัจจัย
ให้วิบากกรรมทั้งหลายที่เคยผูกเคยอาฆาตมาดร้ายต่อกันได้จบและหมดสิ้นไปโดยพลัน
ขอบารมีแห่งองค์สมเด็จพ่อองค์ปฐมบรมพุทธเจ้าและองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ
พระองค์ได้โปรดเป็นประทานพรให้ข้าพเจ้าและท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายกลายเป็น
กัลยาณมิตรแห่งธรรม เกื้อกูลกัน ให้เข้าถึงธรรมแห่งการหลุดพ้นได้โดยง่ายและโดยพลัน
ด้วยเทอญ. สาธุและขอกราบอนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสและสมาชิกกองบุญพระพุทธวิปัสสีฯ
ทุกๆท่านด้วยครับ /\ /\ /\

 

สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาครับ และขอขอบพระคุณแทนคุณธวัชชัยครับ
ขอร่วมบุญเจ้าภาพโรงทานที่วัดดอนธาตุ จ.อุดรธานีด้วยครับ จะโอนเงินพรุ่งนี้ครับ
ตอนนี้ผมยังไม่สามารถบอกคุณธวัชชัยได้ครับ เพราะคุณธวัชชัยกำลังสวดถวายพรพระกับครอบครัว
เพื่อบูชาและรับพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับจากคุณพี่ครับ สักพักผมจะแจ้งให้ครับ
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาอีกครั้งครับ
ขอให้คุณพี่น้ำใสสำเร็จตามปรารถนาทุกประการเป็นอัศจรรย์ ครับ
สาธุ สาธุ

 

เรียนคุณ น้ำใส

แจ้งโอนเงินครับ วันนี้ 28/04/2557 ฝากผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเมกาบางนา เวลา 19.01 น
เป็นเงิน 2,000 บาท (ช่วยค่าจัดส่งและส่วนที่เหลือทำบุญร่วมทั้ง 3 รายการครับ)
แจ้งที่อยู่ทาง p.m นะครับ

 

เช้านี้โอนร่วมบุญภัตตาหารและโรงทาน 90 บาท เข้า บ/ช ปลายทาง 17.30 น.

 

Transfer has been made according to the following details.
From Account
Account No. Savings - XXXX526472
New Balance
To account
Account nickname - Account No. พุทธารา โรจนฤทธิกร - 2144064587
Account Name PHUTTARA ROJJ
Bank Name BANGKOK BANK PUBLIC COMPANY LTD.
Transfer Option
Transfer Option Real-time


Amount transferred
Amount 950.00 Baht
Fee 25.00 Baht
Description น้องธรรมวิวัฒน์ 450 บาท 500 พุทธารา
Transaction Date - Time 29/04/2014 - 10:18:16
Account Debit Date - Time 29/04/2014 - 10:18:16
___________________________________________



โอนปัจจัยเข้าบัญชีภัตตาหาร และโรงทานก๋วยเตี๋ยว ๙๐๐ บาท

๑. ร่วมบุญในนามท้าวสักกเทวราช พระมเหสีทั้ง ๔ แลมเหสักขเทพ ๓๓ องค์ พร้อมบริวาร จำนวน ๕๐๐ บาท

ขอผลบุญนี้ มีอานิสงส์ประดุจท่านทั้งหลายดังกล่าวมาแล้วได้กระทำด้วยตนเอง สาธุ..

๒. โอนส่วนของน้องธรรมวิวัฒน์ ทำบุญทุกวัน ๑๕ วัน รวมปัจจัย ๔๕๐ บาท

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

Your transfer has been completed1-2-3
This transfer has been processed.
Bank Reference No.
68027730
Date
29 Apr 2014
Time
10:25:24 Bangkok, Thailand (GMT +7:00)
Transfer From:
Account
BBL 214-4-064587
Account Name
พุทธารา โรจนฤทธิกร
Transfer To:
Account
BBL 972-0-099291
Account Name
นาง ลำเนาไพร บัวแก้ว / ลำเนาไพร บัวแก้ว
Send SMS

Amount
14,000.00
Fee
0.00

________________________________________

โอนปัจจัยร่วมบุญเป็นเจ้าภาพภัตตาหาร และโรงทานก๋วยเตี๋ยว ๒ วัน ๆ ละ ๒๐๐ ชาม ในวันที่ ๒๙-๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ รวมปัจจัย ๑๔,๐๐๐ บาท


ขอให้อุปสรรคทั้งหลายในชีวิตของท่านหมดสิ้นไป มีแต่ความคล่องตัวทั้งการเงิน การงาน ครอบครัวมีความสุข มีศรัทธา ศีล ปัญญา และจาคะเสมอกัน


ขอให้มีชื่อเสียงที่ดีทั้งตามลม และทวนลม เดินไปทางไปที่ใดได้รับการต้อนรับ

ตราบใดที่ยังไม่เข้าพระนิพพาน คำว่าอดอยากยากจน ไม่มี ไม่สำเร็จ อย่าได้ปรากฏ และขอให้เป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรมโดยง่าย พร้อมด้วยคุณสมบัติดังที่ได้ปรารถนาแต่กาลก่อน สาธุ..

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

แจ้งโอนเงินแล้วค่ะ ดังนี้นะคะ


๑. ท่านสิทธิสัตตะและครอบครัววรรัตน์ได้โอนร่วมบุญถวายภัตตาหารและโรงทานก๋วยเตี๋ยว
จำนวน ๕๐๐ บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ วันนี้ ๒๙/๐๔/๕๗


Transaction is completed.

From Account : Savings, 744-1-33416-1
To Bank : Bangkok Bank
To Account : 214-4-06458-7
Account Name : PHUTTARA ROJJ
Amount : 500.00
Fee : 25.00



๒. ได้โอนเงินบูชาดวงแก้วจุลจักรพรรดิจำนวน ๒ ดวงแล้วดังนี้ค่ะ



1 | Transfer Details 2 | Review & Confirm 3 | Acknowledgements


ท่านได้ทำการโอนเงินเรียบร้อยแล้ว
บัญชีผู้โอนเงิน
เลขที่บัญชี ออมทรัพย์ - XXXX013003
ยอดเงินคงเหลือในบัญชี
บัญชีผู้รับเงิน
เลขที่บัญชี 0802526472 - นางสาว พุทธารา โรจนฤทธิกร


จำนวนเงิน
จำนวนเงินที่ต้องการโอน 1,800.00 บาท
ค่าธรรมเนียม 0.00 บาท
วันที่ทำรายการ 29/04/2557 - 11:01:30


ขอรบกวนพี่น้ำใสส่งตามที่อยู่จ.อุดรธานีค่ะ
ขอขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ
และขอโมทนาสาธุบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมบุญด้วยใจศรัทธาและบริสุทธิ์ค่ะ
กราบโมทนาสาธุทุกประการค่ะ

 

วันนี้ ประมาณเที่ยงวัน
นางสาวนันท์นภัส โชคสุวรรณเลิศและครอบครัว
ร่วมบุญถวายภัตตาหารและโรงทานก๋วยเตี๋ยว จำนวน 500 บาทค่ะ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะค่ะ