ปิดครับ #สรุปรายการหน้าที่ 27

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Anantsit, 24 เมษายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  2. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2566 เลขพัศดุไปรษณีย์ไทย (EMS)
    ฐิตารีย์ (นอกเว็ป) ปทุมธานี = ED 5196 6391 5 TH ขอบพระคุณครับ
     
  3. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2566 เลขพัศดุไปรษณีย์ไทย (EMS)
    sumobaimon = ED 5601 9349 1 TH ขอบพระคุณครับ
     
  4. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 170

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG

    P4.jpg P5.jpg P6.jpg P7.jpg P8.jpg

    เหรียญนาคปรกโสฬสมหามงคลบรมจักรพรรดิ เนื้อตะกั่ว
    หลวงพ่อมหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ จังหวัดลำพูน ปี พ.ศ.2557

    #รุ่นนี้จัดว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกของวัด ที่สร้างขึ้นครับ สวยงาม ด้านหน้าเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเครื่องจักรพรรดิ ประทับนั่งบนดอกบัว บนนาคปรกเก้าเศียร มีคุณทางปรกป้องคุ้มครอง เจริญไปด้วยโภคทรัพย์ดุจพระเจ้าจักรพรรดิ ด้านล่างเป็นยันต์ครูองค์หลวงพ่อ ณะภะระ เป็นอักษรที่ครูบาอาจารย์ถอดระหัส กลยันต์แล้ว จะเหลือเพียง ๓ ตัว ท่านกล่าวว่า อักษรฆ่าไม่ตาย มีคุณแคล้วคลาดปลอดภัย

    #ครูบากฤษดา ท่านบอกว่า เป็นคาถาหัวใจพระรอด เมื่อวานตอนนำพระพิฆเนศไปอธิฐานจิต พอยกกล่องพระขึ้นไป ท่านหยิบเหล็กจารย์ขึ้นมาก่อนเลย ท่านบอกไหนเอามา จะทำพระนาคปรกหรืออืมพระใส่เสื้อเกาะ ผมหัวเราะแฮะๆ ครับผมทรงเครื่องจักรพรรดิครับ ยังไม่ทันได้กราบเรียนและไม่ได้นำเหรียญลองพิมพ์ให้ท่านดูเลย ผมก็เปิดกล่องพระเอาแผ่นเงินจำนวน ๖ แผ่น ถวายท่านท่านก็จารให้เลย(เพราะตั้งใจจะขอให้ท่านลงแผ่นยันต์ให้อยู่แล้ว) ผมเข้าใจว่าแฟนผมได้กราบเรียนครูบาก่อนหน้าแล้วว่าจะขอจารแผ่นยันต์ตอนผมลงไปเอากล่องพระ แต่ถามแล้วปรากฎว่าไม่ได้คุยอะไรกับท่าน พอท่านจารไปแผ่นที่ ๓ ท่านลงยันต์ ณะภะระ ให้ แล้วพูดว่า เอ้านี้ ที่เธอนำยันต์นี้ลงไว้ที่เหรียญ เราลงยันต์นี้ให้ไปเป็นชนวนนะ ผมยิ้ม โดนอีกแระ ครูบาท่านทราบได้อย่างไร หลังจากลงแผ่นเงินเสร็จอธิฐานจิตให้อีกครั้ง ครับ

    #ทองคำหล่อสมเด็จองค์ปฐม วัดพุทธโมกข์ผสมในเนื้อครับ พระกริ่งเจริญลาภยศบารมี มีชนวนหล่อหลวงพ่อเงินรุ่นพระพิจิตรเยอะมาก วัวเนื้อนวะนับสิบองค์ พระกริ่งจตุรพิธ เน้อเงิน ๓ องค์ พระกริ่งปวเรศ ชนวนมีฟ้าฟิ้น อันเข้มขลัง มีชนวนมีดสายฟ่าญาท่านสวน ชนวนพระกริงสายรก ชนวนพระกริ่งสิขีทศพล ฯลฯ ไม่จองกันไว้ จะมาหาทีหลังไม่มีแล้วนะครับ สร้างน้อยครับ

    #พระครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง เมตตาจารแผ่นเงิน จำนวน ๖ แผ่น เป็นชนวน

    #รุ่นนี้ผู้สร้างตั้งใจทำถวายเป็นพิเศษ เป็นพุทธบูชา อาจาริยบูชา ครับ ควรเก็บไว้แจกเป็นของขวัญแด่คนที่ท่านรัก มีคุณค่าทางใจมากครับ ถึงคราวคับขันคุณพระรัตนตรัยเทพพรหมเทวาจะคุ้มครองท่านให้ปลอดภัยครับ

    #พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน และ ตุ๊พ่อมหาสิง พุทธาภิเษกวันที่ 15 สิงหาคม 2557

    ที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ พระอาจารย์เล็ก ตุ๊พ่อมหาสิงห์ ผู้สร้างได้นำวัตถุมงคล มีเหรียญปรก และพระกริ่งเข้าพิธี ซึ่งหลังจากพิธีพุทธาภิเษกเสร็จใช้เวลายาวนานกว่าทุกครั้งที่ได้เคยเข้าพิธีมา
    #พระอาจารย์เล็กท่านได้กล่าวว่า ในช่วงกำลังทำพิธีปรากฎแสงประกายสีม่วงคลุมวัตถุมงคล ท่านจึงกราบจึงกราบทูลถามพระ พระท่านตรัสว่า พิธีพุทธาภิเษกนี้ท่านสงเคราะห์เรื่อง คือใครที่บูชาวัตถุมงคลชุดนี้ให้อาราธนาบารมีพระ เคารพในพระรัตนตรัยเป็นปกติ หากมีผู้คิดร้ายกับเรา เขาเหล่านั้นจะแพ้ภัยตนเอง ไม่ต้องไปทำร้ายเขาตอบ เขาจะได้รับผลสะท้อนกลับไปหาตัวเองภ่ายแพ้แก่เรานั้นแล ส่วนเรื่องอื่นๆพระท่านสงเคราะห์ทุกด้านครับ

    #ครูบากฤษดา อธิฐานจิต วันที่ 18 สิงหาคม 2557


    ยันต์ โสฬสมหามงคล
    ประกอบด้วยยันต์ ๔ ชั้น
    ๑. ยันต์เทพาวุธ สำหรับขับไล่ภูตผีปีศาจ ทำลายไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ทุกชนิด
    ๒. ยันต์โสฬส ป้องกันอุปัทอันตรายทั้งปวง กันฟ้า กันไฟ กันโจรภัย กันภูตผีปีศาจ กันคุณผีคุณคนทุกชนิด
    ๓. ยันต์ตรีนิสิงเห ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ กันโรคระบาด กันภูตผีรบกวน ทำน้ำมนต์คลอดบุตรง่าย กันคุณไสยลมเพลมพัด บ้านหรือที่ใดร้ายอยู่ยาก ให้อธิษฐานฝังดินแก้ไขกลับร้ายเป็นดี
    ๔. ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ เรียกเงินเรียกทอง ค้าขายดี รักษาทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัว ร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป
    เวลาเสกให้ว่าคาถาทั้งหมด ๑๐๘ จบ เมื่อจะอาราธนาติดตัวให้ใช้คาถา “อิทธิฤทธิพุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด”

    รายละเอียดภายใน
    เลขยันต์ที่ใช้เขียนไว้ ๓ ชั้น คือ
    รอบนอกสุด พระคาถาโสฬส (ตรงบริเวณตัวเลขที่เป็นพื้นสีเขียวอ่อนทั้งหมด)
    พระคาถาโสฬส
    โสฬะสะมังคลัญเจวะ ๑๖ นะวะโลกุตตะระธัมมา ๙
    จัตตาโร จะมะหาทีปา ๔ ปัญจะพุทธามหามุนี ๕
    ตรีปิฏะกะ ธัมมักขันธา ๓ ฉะกามาวะจะราตะถา ๖
    ปัญจะทะสะภะเวสัจจัง ๑๕ ทะสะมังสีละเมวะจะ ๑๐
    เตระสะธุตังคาจะ ๑๓ ปาฏิหารัญจะทะวาทะสะ ๑๒
    เอกะเมรุจะ ๑ สุราอัฏฐะ ๘
    ทะเวจันทังสุริยัง สัคคา ๒ สัตตะสัมโพชฌังคาเจวะ ๗
    จุททะสะจักกะวัตติจะ ๑๔ เอกาทะสะวิษณุราชา ๑๑
    สัพเพเทวาสะมาคะตา เอเตนะมังคะละเตเชนะ
    สัพพะโสตถีภะ วันตุเม

    ชั้นกลาง พระคาถาตรีนิสิงเห (ตรงบริเวณตัวเลขที่เป็นพื้นสีม่วงอ่อนทั้งหมด)
    มะอะอุ ตรีนิสิงเห ๓
    สะธะวิปีปะสะอุ สัตตะนาเค ๗
    อาปามะจุปะ ปัญจะเพรชฉลูกัญเจวะ ๕
    นะมะพะทะ จะตุเทวา ๔
    อิสวาสุ สุสวาอิ ฉะวัจฉะราชา ๖
    ทีมะสังอังขุ ปัญจะอินทรานะเมวะจะ ๕
    มิ เอกะยักขา ๑
    อะสังวิสุโลปุสะพุภะ นะวะเทวา ๙
    สะหะชะฏะตรี ปัญจะพรหมาสะหัมปะติ ๕
    พุทโธ ทะเวราชา ๒
    เสพุเสวะเสตะอะเส อัฏฐะอรหันตา ๘
    นะโมพุทธายะ ปัญจะพุทธานะมามิหัง ๕

    ชั้นในสุด พระคาถาจตตุโรบังเกิดทรัพย์ (ตรงบริเวณตัวเลขที่เป็นพื้นสีชมพูอ่อนทั้งหมด)
    จัตตุโร ๔ นะวะโม ๙
    ทะเวโช ๒ ตรีนิ ๓
    ปัญจะ ๕ สัตตะ ๗
    อัฏฐะ ๘ เอโก ๑
    ฉะวัจฉะราชา ๖

    ส่วนความแตกต่างของยันต์นั้น ถ้าเป็นยันต์โสฬสมหามงคล

    รอบนอกใช้พระคาถาจตุราวุธ ประกอบด้วย (บริเวณที่เป็นที่เหลืองอ่อน)
    ด้านซ้าย อาวุธอาฬะวะกะยักษ์ มีผ้าพันคอเป็นอาวุธ อาฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง
    ด้านขวา อาวุธพระยายม มีนัยน์ตาเป็นอาวุธ ยะมัสสะ นะยะนาวุธัง
    ด้านบน อาวุธพระอินทร์ มีสายฟ้าเป็นอาวุธ สักกัสสะ วะชิราวุธัง
    ด้านล่าง อาวุธท้าวเวสสุวัณ มีคทาเป็นอาวุธ เวสสุวัณณัสสะ คะทาวุธัง

    ความรู้พึงมีได้จากการศึกษา ควรช่วยกันรักษาอย่าให้สูญไป

    จะตุโร นะวะโม ทะเวโช
    ตรีนิ ปัญจะ สัตตะ
    อัฏฐะ เอโก ฉะวัจฉะราชา

    มะอะอุ ตรีนิสิงเห สะธะวิปีปะสะอุ สัตตะนาเค
    อาปามะจุปะ ปัญจะเพชรฉลูกัญเจวะ
    นะมะพะทะ จะตุเทวา อิสวาสุ สุสวาอิ ฉะวัจฉะราชา
    ทีมะสังอังขุ ปัญจะอินทรานะเมวะจะ
    มิ เอกะยักขา อะสังวิสุโลปุสะพุภะ นะวะเทวา
    สะหะชะฏะตรี ปัญจะพรัหมาสะหัมปะติ
    พุทโธ ทะเวราชา เสพุเสวะเสตะอะเส อัฏฐะอะระหันตา
    นะโมพุทธายะ ปัญจะพุทธานะมามิหัง

    โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมา
    จัตตาโร จะ มะหาทีปา ปัญจะพุทธามะหามุนี
    ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา ฉะกามาวะจะราตะถา
    ปัญจะทะสะภะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ
    เตระสะธุตังคาจะ ปาฏิหารัญจะทะวาทะสะ
    เอกะเมรุ จะ สุราอัฏฐะ ทะเวจันทังสุริยังสัคคา
    สัตตะสัมโพชฌังคาเจวะ จุททะสะจักกะวัตติจะ
    เอกาทะสะวิษะณุราชา สัพเพเทวาสะมาคะตา
    เอเตนะมังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถีภะวันตุเม

    สักกัสสะ วะชิราวุธัง ยะมัสสะ นะยะนาวุธัง
    อาฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง เวสสุวัณณัสสะ คะทาวุธัง
    จัตตาโร เต อาวุธา สัพพะศัตรู วินาสสันติ

    #เคยมีผู้รับพระไปนำไปตรวจสอบขอชมบารมี ทราบว่าพระพุทธานุาพสูงครับ ปกป้องคุ้มครองสูงครับ แต่แฝงด้วยพลังเย็น เป็นเมตตามีลาภด้วยครับ

    #เห็นมีผู้รู้บอกว่า ต่อไปเหรียญนี้จะเป็นตำนาน หากันไม่ได้ง่ายครับ เพราะครั้งนี้พระท่านสงเคราะห์แบบจัดเต็ม ยาวนานเป็นพิเศษ มีผลเรื่องคุ้มครองสูงมาก สะท้อนกลับผู้ที่คิดไม่ดีกับเรา แถมมีโชคลาภเมตตาด้วยครับ เพราะท่านปู่นาคราชท่านเป็นเจ้าทรัพย์เพชรนิลจินดามากมายมหาศาล และที่วิหารวัดถ้ำฯ องค์หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านสั่งให้หลวงพ่อสิงห์สร้างองค์พญานาคเจ็ดเศัยรไว้ได้สวยงามและศักดิ์สิทธิมากครับ

    #เหรียญนาคปรกบรรเทากรรม และรักษาโรคได้ ท่านสมาชิก ท่านหนึ่งแจ้งว่า เขาปวดหัวเป็นอะไรไม่ทราบ ปวดหัวและมีเลือดออกจมูก เหมือนกำเดาไหล แม้นั่งทำงานในห้องแอร์ ก็ไหลออกมา ตัดสินใจโทรมาขอแบ่งเนื้อเงินไปบูชา หนึ่งเหรียญ เลี่ยมพลาสติกแขวนขอบารมีพระช่วยรักษาโรค แขวนช่วงแรกๆ ก็ยังมีเลือดไหลอยู่ ผมบอกให้ไปหาหมอเถอะ สัปดาห์ต่อมาส่งข้อความ มาบอกว่า ตอนนี้เลือดไม่ไหลแล้วครับ อาการเหมือนปกติแล้วครับ

    #เหรียญนี้มีอานุภาพคุ้มครองเป็นพิเศษ ติดตัวกันไว้ดีครับ อานุภาพสะท้อนกลับ ป้องกันอันตราย อานุภาพคลุมทุกด้านเน้นป้องกันเป็นหลักครับ

    #พุทธานุภาพของพระชุดนี้เป็นสุดยอดมหาสะท้อน แรงและเร็ว มากๆ อีกทั้งสามารถอาราธนาทำน้ำมนต์ และยังมีความพิเศษสุดๆ คือ " ใช้คลายกฎแห่งกรรมได้."แถมมีพุทธคุณเด่นทางโชคลาภ และอื่นๆครบทุกด้าน ตลอดจนภายในองค์พระมีพญานาครักษาอีกนี้ คือ ความพิเศษที่มีของพระชุดนี้....


    #พระอาจารย์กล่าวว่า " เหรียญพระนาคปรก วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ตอนพุทธาภิเษกเห็นแสงสีม่วงคลุมวัตถุมงคล #แล้วมีประกายเหมือนกับฟ้าแลบ

    อาตมาก็สงสัยว่าอะไร ?

    พระท่านบอกว่าทำให้เพื่อการป้องกันเป็นพิเศษ
    ถ้าใครคิดร้ายจะแพ้ภัยตนเอง ก็แปลว่ารุ่นนี้ดุมาก..!"
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๗


    = Sold Out

    14/6/2566 EMS : ED 6342 2696 8 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2023
  5. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +868
    จอง170
     
  6. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  7. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 171

    P1.JPG P2.JPG P3.jpg

    เหรียญหลวงปู่ท่อน ญาณธโร เนื้อทองแดง ที่ระลึกอายุครบ ๘๔ ปี
    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จังหวัดเลย

    #พิเศษ เหรียญนี้มีรอยจารชัดเจน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  8. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 172

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG P4.JPG

    L1.jpg L2.jpg L3.jpg L4.jpg A16.jpg L5.jpg L6.jpg L7.jpg

    พระกริ่งมหาโชคจันทร์เพ็ญ เนื้อชนวน คุณแม่ถุงเงิน

    เครดิตข้อมูล : กลุ่ม FB คุณแม่ถุงเงิน


    = Sold Out

    22/6/2566 EMS : ED 6342 0514 6 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2023
  9. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 173

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG

    A1.jpg A2.jpg A3.jpg

    พระสิวลีหลังพระสังกัจจายน์ รุ่นแรงครู ปีพ.ศ.2560
    เนื้อผงพุทธคุณผสมผงพระเก่าหลวงพ่อกวย
    หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) จังหวัดชัยนาท

    #วัตถุมงคลหลวงพ่อกวย ชุตินธโร ในพิธีใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ รุ่น แรงครู ณ มณฑปประดิษฐาน รูปเหมือนหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    พิธีบริกรรมภาวนาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ในวันเสาร์ที่ 16 ธ.ค. เวลา 14.29 - 16.39น. โดย หลวงพ่อชุบ วัดวังกระแจะ จ.กาญจนบุรี และ ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค. เวลา 9.19 -10.59 น. โดย หลวงพ่อสุรศักดิ์ วัดประดู่(พระอารามหลวง) จ.สมุทรสงคราม และ เวลา 9.59 - 11.09 น.โดย หลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณ จ.ชัยนาท พระเถราจารย์ทั้งสามรูปนี้ได้ กล่าวว่า " หลวงพ่อกวย ท่านได้มาปลุกเสกพระให้ที่นี่ด้วยนะ "

    #พระครูบาอาจารย์ที่มีรายชื่อนิมนต์ ปลุกเสก ในพิธี ดังนี้
    - พระสุธีวราภรณ์ วัดพระบรมธาตุวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท
    - พระธรรมปริยัติโมลี วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร เจ้าคณะภาค 3 ประธานจุดเธียนชัย
    - พระครูโฆสิตพัฒนคุณ วัดโฆสิตาราม
    - เจ้าคณะตำบลดอนกำ รองประธานฝ่ายสงฆ์
    - หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณ จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อฤาษีตาไฟ วัดเทพหิรัณย์ จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อกำจัด วัดป่าสัก จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อสำอางค์ วัดบางพระ จ.นครปฐม
    - หลวงพ่อสมบูญ วัดลำพันของ จ.สุพรรณบุรี
    - หลวงพ่อติ่ว วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี
    - หลวงพ่อชุบ วัดวังกระแจะ จ.กาญจนบุรี
    - หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่
    -หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
    - หลวงพ่อสาน วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
    - หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
    - หลวงพ่อรักษ์ วัดสุทธาวาสวิปัสสนา จ.อยุธยา
    - พระครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน
    - หลวงพ่ออุดมทรัพย์ วัดเวฬุวัน จ.ศรีษะเกษ
    - หลวงพ่อญา วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    - หลวงพ่อธีรวัจน์ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
    - หลวงพ่อสำรายญ วัดสง่างาม จ.อยุธยา
    - หลวงพ่อปืน พระครูปืน วัดลาดชะโด จ.อยุธยา
    - หลวงพ่อเหลือ วัดขอนชะโงก จ.สระบุรี
    - หลวงพ่อนะดี วัดเนินสาธาร จ.อุทัยธานี
    - พระมหาฐิติวัยน์ วัดพระบรมธาตุวรวิหาร พระผู้ดำเนินการ

    #หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน เมตตาเป็นประธานดับเทียนชัยวัตถุมงคล รุ่น"แรงครู" เป็นครั้งประวัติศาสตร์ หลังเสร็จพิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อเล็กและพระคณาจารย์ทุกรูปต่างกล่าวเหมือนกันว่า “หลวงพ่อกวย ท่านได้มาร่วมเสกวัตถุมงคลของท่าน ด้วยองค์ท่านเอง” พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวันงานพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นแรงครู ๑๑๒ ปีหลวงพ่อกวย เพิ่งเห็นหลวงพ่อกวยเป็นพระนารายณ์ ๘ กรก็วันนั้นแหละ ท่านจำเป็นที่ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะว่าลูกศิษย์ลองของกันอุตลุด ท่านเองเห็นใครไม่ไหวก็ช่วยกันให้เขา ข้างโน้นที ข้างนี้ที ข้างนั้นที ก็เลยเป็นนารายณ์ ๘ กรไปเลย ที่ขำก็คือ ๘ มือยังจะกันไม่ไหว ลูกศิษย์ของขึ้นกันเหลือเกิน ทำไมชอบเล่นคนอื่นกันจริง ? ถ้าเจอลูกศิษย์เฮี้ยน ๆ อย่างนี้ อาจารย์ปวดหัวตายเลย ลองกันไปลองกันมา ท่านก็ช่วยคนโน้น ช่วยคนนี้ เป็นอะไรที่เห็นแล้วคิดว่า..ถ้าลูกศิษย์กูเป็นอย่างนี้ เตะเลย! ...(หัวเราะ)..."

    #พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อกวยเป็นพระที่รักลูกศิษย์อย่างเหลือเชื่อ ถ้าเพื่อลูกศิษย์แล้วท่านทำให้ทุกอย่างจริง ๆ อาตมายังทึ่งเลยว่าพระที่รักลูกศิษย์ขนาดนี้ยังมีอยู่ พวกเราไม่ได้มาสายเดียวกับหลวงพ่อกวย หลวงพ่อกวยท่านพระโพธิสัตว์แท้ ท่านช่วยเขาทุกเรื่อง ส่วนพวกเราถ้าเกินกำลังก็ปล่อยวาง แต่ของท่านไม่ใช่ ท่านช่วยทุกเรื่อง ต้องบอกว่าท่านเป็นหนึ่งในพระอาจารย์ในดวงใจของอาตมา เรื่องของสายธรรมครู บาอาจารย์บังเอิญทับรอยกันพอดี ถ้าได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ลูกหาของท่านก็ถือว่าโชคดี ต้องทำบุญร่วมกันมากี่ชาติก็ไม่รู้"
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙

    #"หากมึงคิดถึง ก็มาหากูที่รูปนี้ กูอยู่ที่นี่ คอยดูแลพวกมึงอยู่" วาจาประกาศิต หลวงพ่อกวย ชุตินธโร พระอริยาจารย์ ผู้เป็นดั่งพ่อของศิษย์ พิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ วันอาทิตย์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ มณฑปหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม โดยพระเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์วิทยาคมหลากหลายสายวิชาแห่งยุคปัจจุบันร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกอย่างเข้มขลัง พระเกจิเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ เปี่ยมด้วยสรรพพุทธาคมทุกรูปนาม ที่ได้เข้าร่วมบริกรรมภาวนาอธิษ ฐานจิตปลุกเสกหนุนบารมีแรงครูหลวงพ่อกวยในมหาพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล รุ่น แรงครู ครั้งประวัติ ศาสตร์ ณ มณฑปประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน หลังเสร็จสิ้นพิธีดับเทียนชัย ว่า ..." หลวงพ่อกวย ท่านก็มาปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นนี้ ในพิธีนี้ด้วยนะ "

    <<<<< ข้อมูลเพิ่มเติม "คลิกที่นี่ครับ" >>>>>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  10. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 174

    P1.JPG P2.JPG

    A1.jpg A2.jpg

    เหรียญพระพุทธรัตนแสงแก้ว หลังแม่พระธรณี นิโรธสมาบัติ ปีพ.ศ.2556
    ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จังหวัดเชียงราย


    #ปลุกเสกในพิธีนิโรธกรรมครั้งที9 ในวันที่ 16 มกราคม ปีพ.ศ.2556 ณ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย

    ด้านหน้า : พระพุทธรัตนแสงแก้ว ด้านหลัง : แม่พระธรณี

    ครมาอริยชาติท่านเป็นศิษย์ศึกษาวิชาและศาสตร์ทางล้านนานมามากมายจากหลายครูบาอาจารย์ ได้แก่ ครูบาจันติ๊บ,ครูบาชุ่ม,ครูบาดวงดี,ครูบาจันทร์แก้ว,ครูบาอินตา,ครูบาผัด ฯลฯ

    นับว่าทานเป็นพระอาจารย์ แม้อายุยังน้อย แต่คงแก่เรียนมาก วิชาทั้งหลายที่ท่านศึกษามาทานได้
    ทดลองแล้วว่าหาได้จริง และช่วยสงเคราะห์ผู้คนได้จริง หายากแล้วในปัจจุบันที่จะมีผู้รู้จริงแบบท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  11. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 175

    P1.JPG P2.JPG

    พระผงยอดธงหลังพระเจ้าตากสิน (แบบปั๊มตรายาง)
    หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง จังหวัดจันทบุรี


    พระสมเด็จชุดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยท่านพระมหาลอย จัตตมโล พระลูกวัดของวัดพลับบางกะจะ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ได้ขออนุญาตท่านเจ้าอาวาสวัดพลับจัดสร้างพระผงขึ้นมา เพื่อแจกจ่ายแก่ญาติโยม โดยท่านพระมหาลอยได้นำมวลสารต่างๆตั้งแต่สมัยหลวงปู่เหรียญ อดีตเจ้าอาวาสและเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดพลับบางกะจะ และมวลสารต่างๆมาผสม และกดพิมพ์เป็นองค์พระขึ้นมา ได้ประมาณ 1,000 องค์

    โดยพุทธลักษณะด้านหน้าเป็นรูปพระยอดธงพระเจ้าตากสินมหาราช มีอักขระขอมรายล้อมองค์พระอ่านว่า " พุทโธอะระหัง อะระหังพุทโธ สุคโต ภะคะวา นะเมตตาจิต " และ " นะ จัง งัง "
    ส่วนด้านหลังเป็นพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงถือพระแสงดาบ พร้อมด้วยพระนามของพระองค์ และด้านล่างเป็นชื่อ วัดพลับ จันทบุรี ที่มุมทั้ง 4 ด้านประกอบด้วยอักขระขอม 4 ตัวคือหัวใจธาตุทั้ง 4 อ่านว่า " นะมะพะทะ "

    ด้วยเหตุที่ทางวัดพลับบางกะจะจัดสร้างพระผมพิมพ์นี้ ก็เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงกอบกู้เอกราชชาติสยาม จนได้รับชัยชนะ ด้วยการรวบรวมไพร่พลที่เมืองจันทบุรี และวัดพลับบางกะจะนี้ เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงได้ตั้งสัตยาธิษฐาน และทรงสร้างพระยอดธงบรรจุกรุเอาไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ แทนคุณผืนแผ่นดิน และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา

    หลังจากได้กดพิมพ์พระเสร็จแล้ว ได้นำพระทั้งหมดมาขอเมตตาให้องค์หลวงปู่พิศดูช่วยอธิษฐานจิตให้ เป็นระยะเวลา 1 ไตรมาส (3เดือน) จากนั้นได้มอบพระพิมพ์นี้ถวายให้องค์หลวงปู่ไว้แจกแก่ผู้ศรัทธา ประมาณ 300-400 องค์(ส่วนของวัดเทพธารทองจะมีปั๊มตรงยางกลมๆครับ ถ้าเป็นพระส่วนของวัดพลับ จะไม่ได้ปั๊มตรายางกลมๆ แต่ว่าหลวงปู่เมตตาอธิษฐานให้พร้อมกันทั้งหมดครับ) ส่วนพระที่เหลือนั้น ท่านพระมหาลอยได้นำไปแจกจ่ายญาติโยม และบรรจุกรุไว้ที่วัดพลับ เพื่อสืบทอดพระศาสนาต่อไปครับ

    #พระผงยอดธง หลังพระเจ้าตากสินชุดนี้ สร้างพร้อมกันกับพระผงสมเด็จ หลังพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ พระพุทธบาท 4 รอย

    เครดิตข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงปู่พิศดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  12. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2566 เลขพัศดุไปรษณีย์ไทย (EMS)
    sunmk = ED 6342 2696 8 TH ขอบพระคุณครับ
     
  13. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg

    ธนบัตรแบงค์ 20 บาท มีรอยจารชัดเจน
    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน สุรินทร์

    ภาพข้อมูลเพิ่มเติม :
    #รอยจารด้านเดียว - จารโดย หลวงปู่หงษ์
    #รอยจารสองด้าน - จารโดย ลูกศิษย์

    เครดิตข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงปู่หงษ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2024
  14. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,961
    ค่าพลัง:
    +6,557
    ขอจองครับ
     
  15. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  16. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 177

    P1.JPG P2.JPG

    พระนาคปรกอธิษฐาน เนื้อเกษรผสมผงปฐวีธาตุ
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จังหวัดนครพนม

    #พระนาคปรกอธิษฐานสร้างขึ้นเมื่อปี42
    ช่วงนั้นหากใครไปกราบหลวงปู่คำพัน มักจะถามหาปฐวีธาตุของหลวงปู่
    ซึ่งหลวงปู่ได้ให้รับรองเองว่า “กันนิวเคลียร์ได้”
    ผมได้เข้าไปกราบหลวงปู่พร้อมหินกรวดแม่น้ำโขงถุงใหญ่ (4กิโลฯ)
    เพื่อขอเมตตาหลวงปู่อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ หลังจากหลวงปู่อธิษฐานเสร็จ ได้ขอปฐวีธาตุกลับมา1กำมือ
    พร้อมเรียนถามหลวงปู่ว่า “ถ้านำปฐวีธาตุไปบดเป็นผงแล้วทำพระยังจะกันนิวเคลียร์ได้อยู่รึเปล่าครับ”
    หลวงปู่ก็ตอบว่า “ได้ แต่ต้องเอามาให้หลวงปู่อธิษฐานซ้ำ”
    หลังจากสนทนากับหลวงปู่ซักพักจึงลาหลวงปู่กลับ
    ตอนกราบลา หลวงปู่ได้ดันถุงใส่ปฐวีธาตุกลับมาพร้อมพูดว่า “จะเอาไปสร้างพระไม่ใช่เหรอ”
    ผมจึง คิดว่าหลวงปู่คงต้องการให้สร้างพระมาถวายจึงได้นำปฐวีธาตุถุงใหญ่กลับมาทำพระ
    ซึ่งตอนนั้นผมเป็นเพียงนักศึกษามหาลัยปี 1
    และแทบไม่มีความรู้เรื่องการสร้าพระเลย
    หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในวงการสร้างพระคือ
    คุณอำพล เจน ที่เป็นธุระในการเขียนยันต์ข้างหลังองค์พระซึ่งเป็นพุทธคาถาในพุทธทำนาย
    คุณเนาว์ นรญาณที่เป็นธุระในการทำแม่พิมพ์พระฯ
    และคุณรณธรรม ธาราพันธุ์ ที่ให้คำปรึกษาพร้อมวลสารในการสร้างพระ ฯลฯ
    หลังจากสถาปนาเป็นองค์พระแล้วซึ่งแบ่งเป็นเนื้อโรงงาน 5,000 องค์
    เนื้อเกสรซึ่งกดมือกันเองอีกหลายพันองค์ (จำจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ซึ่งน่าจะราว5000องค์)
    ได้ไปถวายหลวงปู่เพื่ออธิษฐานหลังวันเข้าพรรษาปี42 หนึ่งวัน
    เมื่อไปถวายหลวงปู่ได้สั่งให้เก็บไว้ก่อนท่านยังไม่อธิษฐานเดี๋ยวนั้น
    และพระได้อยู่กับท่านจนออกพรรษาได้ราว5วันจึงได้ไปถวายพระนาคปรกเนื้อเกสรอีกราว5,000 องค์ที่กดกันเองในพรรษา
    (พระที่กดในพรรษาจะบรรจุทรายคำไว้ที่ด้านหลังองค์พระทุกองค์)
    โดยหลวงปู่ได้เก็บพระที่ถวายไว้ในช่วงเข้าพรรษาทั้งหมด(พระชุดแรก)ไว้ที่หัวนอนท่านตลอดพรรษา
    และระหว่างสนทนาได้เล่าถวายให้ท่านฟังถึงการทำพระที่กดมือกันเองออกมาไม่สวย
    ท่านก็เมตตาให้กำลังใจว่า “ไม่เป็นไรอย่างพระสมเด็จวัดระฆังก็กดมือเหมือนกัน”
    และทราบว่าพระชุดนี้หลวงปู่มิได้จำหน่ายจ่ายแจก จนผ่านไปหลายปีจึงได้ยินว่าคุณเง็กได้รับแจกมา

    #พระปรกอธิษฐาน เป็นนามที่คุณเง็ก บางลำภู
    ได้เรียกพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ของหลวงปู่คำพัน วัดธาตุมหาชัย
    เมื่อไปถามคุณเง็ก ถึงที่มาของชื่อจึงทราบว่า
    มีคราวหนึ่งเพื่อนคุณเง็กซึ่งรู้จักกับหลวงปู่คำพันเป็นอย่างดี
    ได้ฝากปัจจัยไปถวายหลวงปู่ เมื่อคราวที่คุณเง็กได้ไปกราบหลวงปู่ที่วัด
    พร้อมกำชับให้กราบเรียนหลวงปู่ด้วยว่า เขาขอพระหลวงปู่เป็นที่ระลึกด้วย
    หลังจากคุณเง็กได้กราบเรียนหลวงปู่แล้ว
    หลวงปู่จึงหยิบพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ขึ้นมาแจกทุกคนคนละ1องค์และได้ฝากไปให้เพื่อนคุณเง็กด้วย
    โดยหลวงปู่ได้กล่าวว่า “อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา”
    ตั้งแต่นั้นมาที่พันทิพย์งามวงศ์วานก็เรียกพระรุ่นนี้ว่า พระปรกอธิษฐาน
    ซึ่งคุณเง็กเล่าว่าปรกติเวลาหลวงปู่แจกพระให้คุณเง็ก
    ท่านจะแจกเป็นกำแต่กับพระรุ่นนี้ท่านให้แค่คนละ1องค์เท่านั้น
    เป็นประกอบกับคำกล่าวของหลวงปู่คำพันที่ว่า
    อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา
    จึงเป็นเหตุให้คุณเง็กซึ่งเป็นเซียนใหญ่พระหลวงปู่คำพัน
    ได้เริ่มกว้านเก็บพระปรกอธิษฐานตั้งแต่นั้นเป็นตนมา
    คุณเง็กเล่าต่อว่าพระหลวงปู่คำพันที่คุณเง็ก มีประสบการณ์มี2อย่าง
    คือพระพุทธปฐวีธาตุและพระปรกอธิษฐาน


    #หากจะกล่าวถึงการเล่นแร่แปรธาตุแล้ว หลายท่านคงจะทราบว่ามีอยู่หลายอย่าง และหลายแบบตามแต่ครูบาอาจารย์แต่ละท่าน จะมีวิธีและวิชาอันแก่กล้าที่สามารถเสกหรือทำของต่างๆ ให้มีความขลัง

    ด้วยบทพระเวทย์ วิทยาคม อันแก่กล้า หรือด้วย จิต กฤตยา หรือบุญฤทธิ์ อะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้สิ่งของนั้นๆ ศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครอง ให้คุณแก่ผู้ที่ศรัทธานับถือ นำไปติดตัวไว้ใช้แล้วบังเกิดสิ่งอัศจรรย์ เหนือธรรมชาติ ที่วิทยาศาสตร์อันทันสมัยในปัจจุบัน ไม่สามารถอธิบายเป็นเหตุผลออกมาได้

    ผู้ที่มีความนับถือ ศรัทธาต่อองค์ครูบาอาจารย์ ผู้เป็นเจ้าของแห่งธาตุวิเศษ สิ่งเหล่านี้ ทางพุทธศาสนาเรียกว่า "ปัจจัตตัง" คือ สิ่งเฉพาะตน

    "ปฐวีธาตุ พระเพชรแห่งแม่น้ำโขง" ปฐวีธาตุของ เจ้าคุณสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนมนี้ มีความเป็นมา ครั้งตั้งแต่ท่านยังเป็นเพียงพระภิกษุธรรมดาของชาวบ้านตำบลมหาชัย จ.นครพนม
    แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีดีอยู่ในองค์ท่าน จากการปฏิบัติธรรม ฝึกจิต ตามแนวทางกรรมฐาน พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล บูรพาจารย์ใหญ่ของสำนักกรรมฐานในยุคนั้น และวิชาสายพระเวทย์ของ ปะขาวครุฑ ซึ่งเป็นสายวิชาของ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก ผู้โด่งดังสองคาบฝั่งโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ในช่วงแรกนั้น ทหารและตำรวจในพื้นที่ ต่างทราบถึงกิตติคุณท่านดีว่า เป็นพระดี มีวิชา จากปากคำของชาวบ้าน ปากต่อปาก ทำให้ทหารและตำรวจเข้าหาท่าน และจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือ ขอของดี แต่ท่านปฏิเสธไป พร้อมกับบอกว่า ท่านเป็นเพียงพระธรรมดารูปหนึ่ง ไม่มีอะไรจะให้ได้ นอกจากพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เมื่อได้ฟังดังนั้น ทั้งกลุ่มทหารและตำรวจ จึงลาท่านกลับไป แต่ด้วยกิตติคุณและบารมีธรรมของท่าน ทำให้ทั้งตำรวจ ทหาร และข้าราชการหลายกลุ่มยังเดินทางมาพบท่าน และก็เช่นเคย คือ ขอของดีจากท่าน เพื่อเป็นสิริมงคล และคุ้มครอง เพราะในสมัยนั้น (ก่อนปี พ.ศ.๒๕๐๐) บ้านเมืองยังคงเต็มไปด้วย โจร ผู้ร้าย สัตว์ป่านานาชนิด และฝ่ายที่มีอุดมการณ์ที่แตกต่างจากรัฐบาลไทย ซึ่งทำให้การทำงานของข้าราชการฝ่ายต่างๆ มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตสูง เมื่อความศรัทธาที่มีต่อท่านมากขึ้น จึงเป็นที่มาของ ปฐวีธาตุพระเพชร แห่งแม่น้ำโขง

    ศรัทธาของผู้ที่มาพบท่าน และต้องการขอของดีไว้คุ้มครองตัว เมื่อมีมากขึ้น ท่านจึงเอ่ยปากจะทำของดีให้ โดยให้ชาวบ้านและเหล่าทหารที่มาพบ ไปช่วยกันนำ หิน ที่อยู่ในแม่น้ำโขงขึ้นมา ซึ่งมีอยู่หลากหลายวรรณะ สีสันแตกต่างกันออกไป หลายลักษณะ สุดแต่ผู้ใดจะเก็บมาได้แบบไหน เมื่อได้จำนวนมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงให้นำออกมากองรวมกันแล้ว เสกตามสายวิชาที่ท่านได้เรียนมา
    หลวงปู่คำพันธ์ ได้แจก หินเสก ให้ลูกศิษย์ ชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะเห็นว่าเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อเกิดประสบการณ์ จากเรื่องประสบอุบัติเหตุ ที่ผู้ประสบเหตุการณ์นั้นรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์สารพัดเรื่องราว ทำให้ปฐวีธาตุ และชื่อเสียงของหลวงปู่คำพันธ์ ยิ่งขจรขจายกว้างขวางยิ่งขึ้น

    จากการบอกกล่าวของผู้รู้ทางด้านวัตถุมงคลของ หลวงปู่คำพันธ์ ให้ข้อมูลว่า การเสก ทำของ หรือการเล่นแร่แปรธาตุ จากหินแม่น้ำธรรมดาๆ นั้น ให้เป็นของมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว หลวงปู่จะเสกด้วยจิตอันแก่กล้า และพระเวทที่ใช้เสกปฐวีธาตุนั้น คือ มนต์คาถาชินบัญชร เฉกเช่นเดียวกันกับ ปฐวีธาตุ ของ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านบอกกล่าวกับศิษย์ว่า หลวงปู่ตั้งให้ไว้เป็นองค์พระ เป็นของวิเศษ ที่จะคุ้มครองคุ้มภัยกับผู้ที่มีไว้บูชา ให้หมั่นอาราธนาและสวดพระคาถาชินบัญชรอยู่เป็นนิตย์ ผู้ที่ปฏิบัติดี จะสามารถสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ปฐวีธาตุได้ง่าย
    ทั้งนี้หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้ให้ชื่อปฐวีธาตุของท่านว่า "พระเพชร" เพราะเสกหนุนธาตุต่างๆ ให้เป็นองค์พระ และธาตุปฐวี คือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกว่า "พระเพชร" อันเป็นที่มาแห่งปฐวีธาตุเพชรธาตุแห่งแม่น้ำโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ และ ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต มีความเหมือนกันหลายอย่าง คือ หลวงปู่คำพันธ์เสกและตั้งเป็นองค์พระ ท่านเรียก "พระเพชร" ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านก็เสกและตั้งเป็นองค์พระเช่นเดียวกัน ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ เรียกปฐวีธาตุของท่านว่า "พระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ"

    ความสำคัญที่คล้ายคลึงกันของปฐวีธาตุทั้งสององค์ท่านอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ พุทธมนต์ และพระคาถา ที่ใช้ในการอธิษฐานจิตลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน ใช้"พระคาถาชินบัญชร" เป็นตัวบทกำกับในการตั้งเป็นองค์พระลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน
    ส่วนความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณของปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์แห่งวัดธาตุมหาชัย ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุที่เย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยที่เกิดจากรังสีของความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้
    ในขณะที่ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์นั้น เมื่อท่านได้อธิษฐานจิตเสร็จ ท่านได้มอบให้ลูกศิษย์ไว้ แล้วท่านได้กล่าวกับศิษย์ว่า พระแม่ธรณีนี้วิเศษนักหนา ท่านได้อธิษฐานให้เป็นของวิเศษ ให้เป็นพระแม่ธรณี เพราะพระแม่ธรณีมีคุณอันอเนกอนันต์ เปรียบดังคุณแห่งมารดา ที่รักลูกจนหาที่สุดมิได้
    ท่านกล่าวกับศิษย์ว่า รักษาไว้ให้ดี กันฟ้า กันไฟ ได้นะ กันรังสีของนิวเคลียร์ได้ด้วย ซึ่งปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์มีจำนวนน้อยมาก เพราะท่านทำไว้ก่อนท่านจะมรณภาพเพียงไม่นาน คือ ช่วงวาระสุดท้ายของสังขารท่าน
    ฉะนั้น กรณีที่มีหลายคนมีหินแล้วบอกว่าเป็นปฐวีธาตุของเจ้าคุณนรรัตน์ ขอให้ท่านใช้สติ และปัญญาแห่งชาวพุทธ พิจารณาที่มาที่ไปอย่างถ่องแท้ด้วย
    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์นั้น ยังพอที่จะหาได้จากผู้รู้จริง แต่ควรจะเป็นการมอบให้กัน โดยไม่มีราคาค่างวด เหตุเพราะเป็นหินนั่นเอง ลักษณะและการพิจารณา ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า เสกหรือไม่เสก แท้หรือไม่แท้ แตกต่างจากพระเครื่องอย่างสิ้นเชิง
    ให้ท่านคิดดูว่า พระเครื่องที่ดูแล้วสามารถบอกได้ว่าชนิดไหน สำนักใดผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยังโดนของเก๊ เลียนแบบ

    ส่วนหินแม่น้ำนั้น สามารถหยิบหาที่ไหนมาก็ได้ แล้วบอกว่า เป็นปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ นำมาตั้งราคาค่างวดซื้อขายกัน โดยมิได้ทำบุญเช่าหามาจากวัด นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีศรัทธา แต่ไม่ใช้ปัญญาในการพิจารณาแบบชาวพุทธแท้จริง ท่านอาจจะแขวนกรวดงาน หรือหินตู้ปลาที่ไหนก็ได้ นับว่าเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
    สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณคณะศิษย์ธาตุมหาชัย ที่เอื้อเฟื้อภาพ และข้อมูล ซึ่งเป็นผู้จัดทำหนังสือ "สัมผัสแห่งอริยะ" ซึ่งถือเป็นหนังสือที่รวบรวมทุกเรื่องราวของ หลวงปู่คำพันธ์ ได้อย่างสมบูรณ์เล่มหนึ่ง


    แต่เพราะ"พระเพชร"หรือ"ปฐวีธาตุ"นั้น หากจะว่ากันโดยกายภาพภายนอกแล้ว ก็คือ"ก้อนกรวด"เราดีๆนี่เอง
    ไม่อาจ"ตอกโค้ด"หรือ"รันนิ่งนัมเบอร์"แยกของเสกกับไม่เสกได้
    ต้องได้มาจาก"แหล่งที่เชื่อถือได้"เพียงสถานเดียวเท่านั้น จึงจะวางใจได้ว่า ไม่ได้เอากรวดตู้ปลา หรือกรวดก่อสร้างเปล่าๆมาห้อยให้หนักคอ หนักใจแท้ทีเดียว

    ด้วยเหตุนี้ จึงคณะศิษย์ของหลวงปู่คำพันธ์ จึงได้นำปฐวีธาตุมาสร้างเป็นองค์"พระเครื่องพระบูชา"เป็นหลายรุ่นหลายแบบด้วยกัน เพื่อตัดปัญหาดังกล่าวให้สิ้นไปโดยปริยาย อันเป็นการกระทำที่ชาญฉลาด น่าอนุโมทนาสาธุการด้วยเป็นอย่างยิ่ง
    หนึ่งใน"พระผงพระเพชร"ของหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัยที่หลวงปู่ท่านสั่งให้สร้างไว้ด้วยองค์เอง ซึ่ง"พุทธวงศ์"รู้เห็น,ช่วยเหลือในการจัดหาแม่พิมพ์มาตั้งแต่ต้น ที่ใคร่จะขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานสืบไปก็คือ"พระนาคปรกอธิษฐาน" ที่หลวงปู่คำพันธ์"รัก"และ"แจกยาก"ที่สุดชุดหนึ่งเลยนั่นเทียว..!!?!

    แต่ก่อนที่จะเล่าล้วงลูกลึกไปถึงปฐมเหตุแห่งการจัดสร้างอันมีที่มาที่ไปค่อนข้างจะผิดแผกจากปกติภาพทั่วไป ก็ใคร่ขอพูดถึงเรื่องของพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ชุดนี้ก่อนสักเล็กน้อย
    แต่แรกสร้าง ก็ไม่ตั้งชื่อวิจิตรพิศดารอะไร นอกจากจะเรียกหาตามรูปลักษณ์อย่างเรียบง่ายที่สุดแต่เพียงว่า "พระนาคปรกใบโพธิ์" เท่านั้น
    จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณ"เง็ก บางลำพู" เซียนพระสายเจ้าคุณนรรัตน์ฯและหลวงปู่คำพันธ์รุ่นแรกๆ ซึ่งนับถือหลวงปู่คำพันธ์เป็นชีวิตจิตใจอย่างยิ่ง ได้เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปกราบหลวงปู่ถึงวัดธาตมหาชัย อันเป็นกิจวัตรที่คุณเง็กได้กระทำมาโดยตลอด แทบไม่มีการว่างเว้นเลยแม้สักเดือนเดียว
    ในฐานที่เป็นศิษย์เก่าแก่ที่เคารพนับถือกันมานาน หลวงปู่คำพันธ์มักจะหยิบพระเครื่องรางให้คุณเง็ก บางลำพูทีละ"เป็นกำเป็นหอบ"เป็นของฝากจากนครพนมไปแจกจ่ายคนที่กรุงเทพอยู่เสมอๆ
    แต่มาคราวนี้ การกลับไม่เหมือนเดิมอย่างน่าประหลาดใจ
    เพราะหลวงปู่คำพันธ์ หยิบ"พระนาคปรกใบโพธิ์"ให้คุณเง็กเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น..!!!!
    ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่ หรือองค์ที่สิบยี่สิบเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว..!?!?
    ยิ่งไปกว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์ยังสั่งกำชับอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วยว่า
    "ปรารถนาอยากได้อะไร ลองอธิษฐานดูได้น๊ะ..!!??"

    ด้วยเหตุแห่งคำสั่งของหลวงปู่คำพันธ์ดังกล่าวข้างต้น "พระนาคปรกใบโพธิ์" จึงมีอันได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อที่ไพเราะและแฝงไว้ด้วยความนัยที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งในพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ด้วยประการฉะนี้ฯ

    สำหรับปฐมเหตุแห่งการอุบัติแห่ง"พระนาคปรกอธิษฐาน"รุ่นนี้ เกิดจาก"บอล" เด็กหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นปี 1 (ประมาณปี 2541)ซึ่งสนใจศรัทธาพระสายกรรมฐานเป็นพิเศษได้ให้เพื่อนไปหา"กรวดแม่น้ำโขง"ถุงใหญ่ น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัมให้ถวายให้หลวงปู่คำพันธ์เสกเพื่อเอาไว้"กันนิวเคลียร์"ตามกระแสนิยมในยุคนั้นที่สถานการณ์บ้านเมืองและโลกค่อนข้างที่จะร้ายแรง เสี่ยงที่จะเกิดสงครามใหญ่มิใช่น้อย โดยเมื่อเสกเสร็จ "บอล"ก็กราบเรียนถามหลวงปู่คำพันธ์ทีเดียวว่า
    "หลวงปู่ครับ ถ้าเอาปฐวีธาตุนี้ไปบดสร้างเป็นองค์พระแล้ว จะกันนิวเคลียร์ได้เหมือนกันหรือเปล่าครับ..???"
    หลวงปู่คำพันธ์ตอบทันทีว่า
    "ได้..!!!!"
    แต่...
    "ต้องเอามาให้หลวงปู่ปลุกเสกอีกทีหนึ่งน๊ะ..!!!!"

    และภายหลังจากที่ได้สนทนาธรรมกับท่านจนพอสมควรแก่กาลเวลาอย่างยิ่งแล้ว ก่อนที่จะลาหลวงปู่คำพันธ์กลับ "บอล"ก็ล้วงเอาปฐวีธาตุออกจากถุงมากำมือหนึ่งด้วยหมายใจจะนำไปแจกจ่ายเพื่อนสนิทมิตรสหายเป็นการส่วนตัว พร้อมกราบเรียนท่านว่า
    "ปฐวีธาตุส่วนที่เหลือ ผมขอถวายหลวงปู่นะขอรับ..."
    ในทันใด สิ่งที่ไม่คาดคิดก็พลันเกิดขึ้นเมื่อหลวงปู่คำพันธ์ผลักถุงปฐวีธาตุทั้งหมดนั้นออกมา พร้อมกับออกปากทีเดียวว่า
    "เอ้า..เอาไป จะเอาไปสร้างพระมิใช่หรือ..??!!??"
    และนี้เอง ก็คือปฐมเหตุแห่งการสถาปนา"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตามรูปแบบภายนอกทั่วไปแล้ว ไม่น่าจะมีความสลักสำคัญอันใด ด้วยเป็นเพียง "พระเครื่องเด็กสร้าง" เท่านั้น...
    แต่ไปๆมาๆ "พระนาคปรกอธิษฐาน"กลับกลายมาเป็นอีกหนึ่งในพระเครื่องดีที่หลวงปู่คำพันธ์"รัก"และ"โปรดปรานสงวนรักษา"มากที่สุดชุดหนึ่งในกาลต่อมาอย่างเหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง
    เพราะหากไม่นับ"ศิษย์ต้น"ที่ตามปกติ หลวงปู่จะเทย่ามแจกพระให้ทีละเป็นกำเป็นหอบเป็นปกติอย่าง"เง็ก บางลำพู" แต่ท่านกลับให้เพียงองค์เดียวอย่างน่าฉงนอย่างที่กล่าวไว้แต่เบื้องต้นแล้ว ที่สุด แม้แต่"นายทหารชั้นผู้ใหญ่" บรรดาศักดิ์สูงท่านหนึ่งไปกราบท่าน แทนที่จะให้พระเหรียญพระกริ่งพระบูชาราคาสูงๆมาแจกให้สมกับศักดิ์ศรีทหารใหญ่อย่างที่น่าจะเป็น
    แต่คราวนั้น หลวงปู่คำพันธ์กลับเลือกหยิบ"พระนาคปรกอธิษฐาน"นี้ให้ทหารไทยใจหาญเพียง"โดดๆ"องค์เดียว..!!!???
    ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่นอกเหนือจากนี้เป็นอันเด็ดขาด
    และแม้แต่"ศิษย์ใกล้ชิด"คนอื่นๆ หลวงปู่ท่านก็มิได้แจกพร่ำเพรื่อแต่อย่างใดทั้งสิ้น
    แต่ท่านจะเลือกให้เฉพาะผู้ที่"นับถือกันจริง"แต่เพียง"สถานเดียว"และเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น
    "สงวนรักษา"อย่างยิ่งถึงขนาดนี้จริงๆ......

    และภายหลังจากที่ได้รับคำประกาศิตจากหลวงปู่คำพันธ์มาเช่นนั้น "บอล"จึงได้นำเรื่องนี้มาปรึกษาในการสร้างกับ"พุทธวงศ์" ซึ่งเคยได้กราบไหว้ใกล้ชิดท่านมาบ้าง ทำให้รู้ถึงความเป็น"พระดีพระเก่ง"อย่างครบเครื่องแห่งท่าน จึงยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มใจพร้อมกับได้จินตนาการดำริเสนอไอเดียไปว่า
    "อันหลวงปู่คำพันธ์นี้ ทราบมาว่าท่านมีความเกี่ยวข้องกับพญานาคอย่างยิ่ง (บางท่านว่า ท่านเคยเป็นพญานาคผู้มีศักดิ์ใหญ่และมีฤทธิ์มากมาแต่ชาติปางก่อน) แม้ปฐวีธาตุในสายของท่าน ก็เกี่ยวข้องกับพญานาคอยู่ด้วย จึงเห็นควรที่จะสร้างเป็นพิมพ์นาคปรก เห็นถ้าจะเหมาะจะควรที่สุดเป็นแน่..."

    และยังทราบความเพิ่มเติมมาอีกด้วยว่า พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ยังได้เคยกล่าวพยากรณ์เรื่องราวบางประการไว้กับผู้ใกล้ชิดเมื่อครั้งกระนั้น แต่มีเนื้อความที่มาสอดคล้องเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่คำพันธ์อย่างพอดีน่าอัศจรรย์ยิ่งอีกด้วยว่า
    "พระรูปเหมือนใบโพธิ์อันโด่งดังของท่านนั้น ต่อไปจะมีพระเกจิคณาจารย์สร้างตามแบบอย่างกันมากมาย แต่จะไม่มีชื่อเสียงเทียบเท่า ยกเว้นจะมีพระทางภาคอีสานองค์หนึ่ง และพระองค์นั้นจะต้องเสกปฐวีธาตุได้ด้วยฯ"
    ด้วยเหตุดังกล่าวแม้นี้ พระนาคปรกที่จะทำ ก็ควรที่จะสร้างเป็นพิมพ์"ใบโพธิ์"ด้วย จึงจะสอดคล้องต้องกับคำพยากรณ์ของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯเมื่อครั้งกระนั้นไม่ผิดคำอย่างแท้ทีเดียว......

    อาจเป็นเพราะได้กระทำการอันคล้อยตามกับ"มติสวรรค์" ตามสุภาษิตจีนบทหนึ่งที่ว่า "คล้อยฟ้าดินรุ่ง ขืนฟ้าดินดับ"เช่นนี้ ผลลัพท์จึงออกมา"เกินควรเกินค่า"กับความที่เป็น"พระเด็กสร้าง" จนที่สุด ได้กลายเป็นของดีที่พระอริยสงฆ์ระดับหลวงปู่คำพันธ์"เมตตาโปรดปราน"และสงวนเก็บรักษาหวงแหนใส่ใจเป็นกรณีพิเศษตราบจนมรณภาพ ละม้ายแม้นกับกรณีของ"เหรียญเมตตาหลวงปู่สิม" ที่ก่อน" นิพพาน"ไม่เท่าไร หลวงปู่สิมก็ยังปรารภถึงด้วยความพึงใจอยู่ แทบไม่มีข้อแตกต่างกันเลยแม้เพียงนิดเดียว....

    อนึ่ง ยิ่งหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ยังได้เคยกล่าวชมเชยหลวงปู่คำพันธ์กับคุณสุธันย์ สุนทรเสวี นักสร้างพระมือดีแห่งสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงครามมาแต่ครั้งกระโน้นอีกด้วยว่า "หลวงปู่คำพันธ์ที่นครพนมนั้น เก่งเรื่องธาตุน๊ะ"ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นการันตีรับรองความ"เก่งแท้แน่จริง" แห่งหลวงปู่คำพันธ์ให้เป็นที่แจ้งประจักษ์อย่างสิ้นสงสัย
    เพราะรู้อยู่แก่ใจดีว่า ย่อมเป็นการที่ยากยิ่งนักที่หลวงปู่สิมจักกล่าวยกย่องสรรเสริญหรือชมเชยผู้ใดหรือพระไหนได้ง่ายๆ หากไม่"สุดยอด"อย่างแท้จริง จริงๆ
    แต่หากลองได้"ออกปาก"รับรองแม้เพียงคำครึ่งคำ ประโยคครึ่งประโยคแล้วไซร้ ก็ไม่มีใดต้องสงสัยตลอดชั่วกัปกัลป์เลยนั่นเทียว....
    ซึ่งก็ทำให้"พุทธวงศ์"พลอยได้ซึมซาบและติดอุปนิสัย"เอาแต่ของดีจริงถึงดีที่สุดเพียงสถานเดียว"ของหลวงปู่สิมมาอย่างสนิทจนแก้ไม่ออก ลบไม่หายตราบเท่าถึงวินาทีนี้ด้วยเช่นกัน


    แต่แม้กระนั้น ก็ไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนเลยว่า ในกาลต่อมา จะได้มีวาสนามีส่วนในการสร้าง"พระนาคปรกอธิษฐาน" ในรูปแบบและเนื้อหาที่"ลงตัว"ด้วยเหตุทุกสถาน อันเป็นการสืบสานคำพยากรณ์"เจ้าคุณนรรัตน์" ผนวกกับคำการันตีจาก"หลวงปู่สิม" กับรุ่นน้องร่วมอุดมการณ์ถวายหลวงปู่คำพันธ์อย่างถึงที่สุดเห็นปานนี้ได้....
    "นึกไม่ถึง"มาก่อนเลยจริงๆ............

    และต่อไปนี้ คือ"ลำดับผลการดำเนินงาน"แห่ง "พระนาคปรกอธิษฐาน" ของ"บอล" ที่ได้ทำรายงานมานำเสนอ จึงขอนำมาโพสต์ไว้เป็นจดหมายเหตุหลักฐานสืบไปเมื่อหน้าต่อไปเลยทีเดียว...
    "....ต่อไปนี้ เป็นการโม้ส่วนตัว สำหรับพระ Perfect ชุดนี้ ซึ่งมีองค์ประกอบที่ทำให้พระชุดนี้ Perfect ก็คือ
    1.เป็นรุ่นที่หลวงปู่คำพันธ์เมตตาสั่งให้ทำเอง
    2.เป็นรุ่นที่ใช้ปฐวีธาตุผสมมากสุดๆ (ปฐวีธาตุเกือบ 4 กิโลกรัม(4,000 กรัม)ต่อพระขนาดปลายนิ้วก้อยเพียง 5,000 องค์)
    3.เป็นรุ่นที่รวมพลังกันนิวเคลียร์ไว้ถึง 3 ประการ คือ
    3.1 , ปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์
    3.2 , พระหลวงปู่ทวด พิธีเปิดโลกชำรุดถึง 20 องค์(บดใส่เฉพาะพระนาคปรกอธิษฐานเนื้อดำ)
    3.3 , ด้านหลังประจุยันต์พุทธคาถาจากพุทธทำนายของหลวงปู่คำพันธ์เอง
    4. เป็นรุ่นที่ใช้เนื้อพิเศษมากๆ โดยเฉพาะชุดเนื้อดำ ได้ผสมพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง(มีผงเก่าของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต เจ้าตำรับชินบัญชรคาถาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์) อยู่เป็นอันมาก
    5.เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ เพื่อแจกเท่านั้น ทั้งยังได้แยกบล็อคออกจากกันมิให้ทำซ้ำได้อีก โดยบล็อคด้านหลังได้นำถวายให้หลวงปู่คำพันธ์ท่านเก็บรักษาไว้ด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
    6.องค์เสกเป็นผู้ทรงทั้งวิชาและวิมุติ แถมยังเก่งเรื่องธาตุเป็นพิเศษ การทำให้พลังจากผงปฐวีธาตุที่บดสร้างกระจายไปทั่วและโดดเด่นออกมาได้ จึงไม่น่าจะใช่เรื่องยาก ยิ่งท่านมีเวลาเสกนานถึง 3 เดือน จึงไม่ต้องบรรยาย
    7.เป็นรุ่นที่หลวงปู่ท่านเมตตาสั่งเองให้เก็บไว้กับท่าน 1 ไตรมาสก่อน
    8.สำหรับเนื้อที่กดกันเอง(สีดำ) ใช้น้ำมนต์หลวงตามหาบัวเพียวๆในการนวดเนื้อ
    9. ฯลฯ

    สำหรับ Ball จึงถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงสุดๆที่ทำมา สำหรับ Ball เองไม่ได้รู้จักหลวงปู่คำพันธ์เป็นการส่วนตัว แม้ปัจจุบัน(พ.ศ. 2542) ท่านก็ยังจำหน้า Ball ไม่ได้เลย นับเป็นโชคอย่างยิ่งที่หลวงปู่คำพันธ์ท่านเมตตาให้ได้ทำบุญใหญ่เช่นนี้
    และต้องขอขอบพระคุณพี่เนาว์ที่เมตตาเป็นธุระในการดำเนินงานหลายอย่าง รวมถึงร่วมบุญในครั้งนี้ด้วย ขออนุโมทนาครับ......."

    หมายเหตุ , มีผู้ฝึกสมาธิท่านหนึ่ง ซึ่งคุ้นเคยกันมานานได้ลองตรวจพุทธคุณของพระนาคปรกอธิษฐานรุ่นนี้ดู ปรากฏผลเป็นที่น่าสนใจมาก จึงเห็นควรนำมาเสนอเพื่อเป็นเครื่องเจริญศรัทธาแก่ผู้ที่มีวาสนาได้ไว้สักการะบูชาสืบไป.....
    "พระนาคปรกอธิษฐานนี้ สัมผัสครั้งแรก จะรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความร้อนฝ่ายอิทธิฤทธิ์แผ่ซ่านออกมาก่อนเลย แต่พอยิ่งเข้าสมาธิลึกเข้าๆ ก็จะปรากฏกระแสเย็นปรากฏขึ้นมาแทน จึงอาจที่จะกล่าวได้ว่า พระองค์นี้ ถึงพร้อมด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญญฤทธิ์ครบถ้วน...!!!!"
    "และในนิมิต ยังพบด้วยว่า ในพระนาคปรกอธิษฐานองค์นี้ จะได้มีพญานาคเพียงตัวเดียวหรือจำพวกเดียวก็หามิได้ แต่มีพญานาคหลายจำพวกด้วยกันเข้ามาอยู่รวมกันเต็มไปหมด เท่าที่เห็นก็มีพญานาคสีทอง,สีเขียว,สีนิล,สีน้ำเงิน เลื้อยเข้ามาพันไปหมดทั้งตัว พลังนี้ซ่านขึ้นหัวไปเลย...!!!"

    "นอกจากนี้ ยังเห็นกระแสพลังใสสว่างอย่างไม่มีประมาณ 2 สายวิ่งเข้ามาเชื่อมถึงกัน ก่อนจะม้วนตัวเวียนขวาเป็นทักษิณาวัตร แล้วเปลี่ยนสภาพเป็นดวงใสสว่าง และพลังแห่งพุทธะก็ได้แสดงออกมาในรูปของพระพุทธรูปแก้วใสผุดขึ้นมาจากดวงใสนั้นอีกทีหนึ่ง...

    ได้ทราบมาว่า "ปฐวีธาตุ"ปกติเพียงหนึ่ง จะมี"พญานาค"ประจำอยู่แบบ"1 By 1" ก็ยังมีอิทธานุภาพใหญ่ยิ่งดังกล่าวข้างต้นเห็นปานนี้
    ก็แล้ว"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตรวจพบว่า ไม่ใช่เพียงหนึ่ง แต่มีพญานาคอยู่ถึง 4 ตระกูลใหญ่ จำนวนนับไม่ได้ปรากฏอยู่ภายในดังกล่าวข้างต้น จะทรงกฤษฏาภินิหารสักเพียงไหน คงไม่จำต้องอธิบาย
    นี้จึงเป็นการเฉลยความลับสวรรค์ที่หลายๆคนหลายๆท่านข้องใจสงสัยกันมานานว่า ทำไมหลวงปู่คำพันธ์จึง"สงวนรักษา"ในพระนาคปรกอธิษฐานที่ภาพลักษณ์ภายนอกเป็นเพียงพระ"เด็กสร้าง"ชุดนี้อย่างผิดปกติธรรมดา ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยนำมาแจกเป็นของขวัญในงานรับปริญญาเป็นกำๆยังกับของโหลของสนามนับเป็นร้อยๆ ทำเอา"นายพล"ท่านหนึ่ง เมื่อได้มาเห็นเข้าถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด เพราะขนาดตัวท่านเองเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หลวงปู่คำพันธ์ยังให้มาแค่"องค์เดียว"เท่านั้นเห็นเพียงนี้ได้.....

    "พญานาค" เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นสัตว์ในวรรณคดีด้วย และไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา แบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ
    1.ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง
    2.ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว
    3.ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง
    4.ตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ

    พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ แบบโอปปาติกะเกิดแล้วโตทันที แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม แบบชลาพุชะเกิดจากครรภ์ แบบอัณฑชะเกิดจากฟองไข่ พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก
    เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ

    หมายเหตุ 2, พระนาคปรกอธิษฐานที่ทำการตรวจพุทธคุณในครั้งนี้ เป็น"เนื้อธรรมดาสีนวล"เท่านั้น
    หมายเหตุ 3 ,แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ในความแม่นยำในการตรวจพลังในคราวนี้ ก็อยู่ตรงที่พระองค์ที่ว่านี้ ได้มีการตรวจพบแต่เบื้องแรกว่า มี"พลังงานพิเศษ"บางอย่าง มีลักษณะเป็นดวงสว่างแทรกอยู่ด้วยอย่างน่าประหลาดใจ
    เป็นพลังอะไรที่"ไม่เหมือน"กับพลังของหลวงปู่คำพันธ์ แต่ใสสว่างใกล้เคียงกันอย่างน่าอัศจรรย์
    เมื่อได้ฟัง "พุทธวงศ์"ก็ได้แต่อมยิ้มแก้มแทบปริ ก่อนที่จะเฉลย"ความลับ"ประการหนึ่งให้ฟังทันทีว่า ก่อนที่จะนำพระนาคปรกอธิษฐานองค์นี้มาตรวจเพียงหนึ่งวัน "พุทธวงศ์"ได้ตั้งใจที่จะนำไปถวาย"พระ"องค์หนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากเรื่องการ"ดูจิต" (ขอสงวนนามไว้ในฐานที่เข้าใจ) ซึ่งเคยทราบว่า ท่านเคยไปกราบและเรียนกรรมฐานจากหลวงปู่คำพันธ์มาแต่ก่อนเป็นอนุสรณ์
    ขณะที่ได้พบกับพระสายดูจิตองค์นั้นนั่นเอง โดยในมือพนมไหว้นั้นมี "พระนาคปรกอธิษฐาน"อยู่ภายใน พระสายดูจิตองค์นั้นเมื่อเดินผ่านมา ก็เอื้อมมือมาจับมับเข้าที่ข้อมือของ"พุทธวงศ์"ทันที เป็นนัยให้ตามท่านเข้าไปสอบถามเรื่องธรรมะเป็นการเฉพาะอย่างไม่นึกฝันมาก่อน
    นี้จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจไม่ถวายพระนาคปรกอธิษฐานองค์"ในมือ"นี้เสียดื้อๆอย่างนั้นนั่นแหละ
    เพราะถือว่าเป็นกรณีพิเศษว่า ลำพังคนทั่วไปจะมีโอกาสได้คุยกับ"หลวงพ่อดูจิต"องค์นี้เพียงคำครึ่งคำก็แสนยาก
    แต่นี้ท่านคว้าข้อมือไปคุยเป็นการส่วนตัวแบบนี้ ก็นับเป็นวาสนาอย่างสุดๆไปถึงเพียงไหน คงไม่ต้องอธิบาย
    พูดอย่างติดตลกได้ก็คือ วันนั้นทั้งวัน แทบไม่อยากจะอาบน้ำล้างไม้ล้างมือเลยทีเดียว!?!?

    ประมาณว่า กลัว

    "ละอองมือ"แห่งท่านจะหายไปจากตัวนั่นแล

    แต่จุดหลักใหญ่ใจความที่จะหมายจะเล่าในที่นี้ ก็คือว่า ชั่วเสี้ยววินาทีที่"หลวงพ่อดูจิต"จับข้อมือของ"พุทธวงศ์"เพียงแว่บเดียว กระแสพลังแห่ง"ปราณ"และ"ธาตุรู้"อันเข้มแข็งแห่งท่านยังสามารถไหลแทรกเข้าไปปรากฏใน"พระนาคปรกอธิษฐาน"จนมีการตรวจพบเป็น"พลังงานพิเศษ"ทั้งๆที่มิได้มีการบอกกล่าวมาก่อนได้อย่างไม่ผิดพลาด เห็นปานนี้
    ก็แล้ว "พญานาค"ถึง "4 ตระกูลใหญ่" จำนวนนับไม่ได้ ซึ่งเป็น"พลังงานหลัก"ของพระนาคปรกอธิษฐานที่หลวงปู่คำพันธ์ได้บรรจงเสกประจุนานถึงไตรมาส 3 เดือนที่ปรากฏในสมาธิ จะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปได้ไฉน ก็ขอท่านทั้งหลายได้โปรดใช้วิจารณญาณวินิจฉัยกันเอาเองเทอญฯ

    เครดิตข้อมูล : "เนาว์สถิตย์"


    = Sold Out

    1/1/2567 EMS : ED 1338 4348 3 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2024
  17. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2566 เลขพัศดุไปรษณีย์ไทย (EMS)
    shaj = ED 6342 0514 6 TH ขอบพระคุณครับ
     
  18. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 178

    P1.jpg P2.jpg A2.jpg

    พระกสิณ พิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง จังหวัดจันทบุรี

    #เลี่ยมกรอบเงินสวยงาม พร้อมบูชาครับ


    ‪#‎พระกสิณ‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬ หลวงปู่พิศดู
    มีคำถามเข้ามาถามผมหลายคำถาม ว่าเหตุใดพระที่องค์หลวงปู่พิศดูได้จัดสร้างขึ้นในยุคแรกๆจึงเรียกว่า พระกสิณ จึงเป็นที่มาของการเขียนข้อความเหล่านี้ ตามสติปัญญาที่ผมพอจะเข้าใจ และพอจะถ่ายทอดได้ เพื่อบันทึกไว้ในกระดานนี้เป็นกรณีศึกษาครับ
    ขึ้นชื่อว่ากสิณนั้นตามข้อความที่ผมได้หยิบยกมาให้ทุกท่านได้ศึกษากันก่อนหน้านี้ น่าจะพอมีประโยชน์ในการทำให้เข้าใจเรื่องของกสิณมากขึ้น ต่อจากนี้ผมจะได้อธิบายให้เห็นถึงความเป็นพระอัจฉริยภาพขององค์หลวงปู่ที่ท่านทำพระของท่านประกอบรวมเข้ากับคำว่า กสิณ
    พระ = ประเสริฐ (ยิ่ง)
    กสิณ = กำหนดจิตเพ่งอารมณ์(กรรมฐาน) ทำให้เกิดฤทธิ์
    พระ+กสิณ = สิ่งประเสริฐ(พระ) ที่สำเร็จได้ด้วยการกำหนดเพ่งจิต ทำให้เกิดฤทธิ์..

    หรืออีกความหมายหนึ่ง คือ สิ่งประเสริฐ(พระ) ที่สามารถใช้ในการกำหนดเพ่งอารมณ์ในการทำกรรมฐาน สามารถทำให้เกิดฤทธิ์..
    วัตถุทั้งหลายในโลกล้วนแต่ประกอบไปด้วย "ธาตุ" ธาตุทั้งหลายในโลกนี้มีอยู่ด้วยกันหลักๆ 4 ธาตุด้วยกัน คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยธาตุทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนแต่มีประโยชน์ของแต่ละธาตุไป แม้แต่ร่างกายของคนเราก็ยังประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 ประชุมรวมกันขึ้นเป็นกาย หากขาดธาตุใดธาตุหนึ่งแล้วร่างกายก็ย่อมเสื่อมสลายลงไป..
    แบบแผนการปฏิบัติพระกรรมฐานนั้นมีมากมายถึง 40 กอง แต่ละกองก็ถูกกำหนดเป็นทางให้ผู้ปฏิบัติว่าจะเลือกแบบใด เพื่อให้ตรงตามแก่จริตวิสัยของตน ที่มุ่งหวังในผลอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุด แต่ว่ามีกรรมฐานอยู่ 10 ใน 40 กองที่เรียกว่า หมวดกสิณ 10 ผู้ที่บำเพ็ญธรรมที่มุ่งหวังในฤทธิ์อภิญญา พึงเลือกปฏิบัติพระกรรมฐานในหมวดนี้ แต่ทว่า.. การปฏิบัติในหมวดของกสิณนั้นค่อนข้างยากเอาการ และต้องมีความเพียรพยายามสูงจริงๆ หากว่าในระหว่างที่ปฏิบัตินั้น ผู้ปฏิบัติฝืนตั้งอารมณ์ผิด หรือทำเกินคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ ก็อาจมีผลข้างเคียงโดยอาจทำให้เสียจิตได้ เพราะฉะนั้นจะมีผู้ที่สำเร็จในหมวดของกสิณนับว่ามีน้อยยิ่งนัก ยิ่งถ้าได้สำเร็จกสิณครบทั้ง 10 กองด้วยแล้วยิ่งหาได้ยากยิ่ง..
    หากผู้ที่สำเร็จชำนาญในกสิณทั้ง 10 กอง ก็จะสำเร็จเป็นพระอภิญญา ที่มีอิทธิฤทธิ์ จะสามารถบันดาลในเรื่องต่างๆให้เป็นได้ดังปรารถนา พระระดับนี้ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องขลังศักดิ์สิทธิ์ไปหมด เพราะว่าจิตของท่านนั้นเสมือนเป็นแหล่งพลังงานที่ระเบิดตัวเองออกมาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งการที่ท่านเหล่านั้นสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาด้วยความตั้งใจ และเจตนาเพื่อที่ต้องการสงเคราะห์โลกนั้น ยิ่งจะมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษทีเดียว

    การทำพระผงในยุคแรกขององค์หลวงปู่พิศดูนั้น ได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2520 โดยท่านได้กำหนดจัดสร้างขึ้นด้วยองค์เอง เพื่อสำหรับแจกให้กับญาติโยมเพื่อใช้ป้องกันภัยต่างๆ ตลอดจนเป็นเครื่องเมตตามหานิยม ความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัย และถึงที่สุดให้ทุกคนเข้าถึงธรรม
    พระของท่านทำด้วยเนื้อผงวิเศษที่ท่านเขียน-ลบสูตรด้วยตนเอง ผงธูปกรรมฐาน ประกอบกับการใช้วัตถุธาตุต่างๆ ที่มีคุณในตัว บางอย่างเป็นแร่วิเศษเป็นของทนสิทธิ์ตามธรรมชาติ ว่านยา ไม้กาฝากมงคลต่างๆที่เก็บสะสมมาตั้งแต่สมัยเดินธุดงค์ และมวลสารที่มีผู้นำมาถวาย ดินหรือปฐวีธาตุในวัด ฯลฯ ซึ่งมวลสารเหล่านี้รวมแล้วก็ประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 นั่นเอง ใช้เป็นมวลสารในการสร้างพระของท่าน เพื่อผลแห่งการอธิษฐานตั้งธาตุ หนุนธาตุ แปลธาตุ โดยอาศัยผลแห่งการอธิษฐานเดินประจุกสิณ 10 ประการ อันประกอบไปด้วยฤทธิ์ ที่อธิษฐานไว้ในองค์พระที่ได้จัดสร้างเหล่านั้น จึงได้เรียกว่า " พระกสิณ " หากว่าผู้อธิษฐานไม่สำเร็จในกสิณจริงแล้ว ย่อมไม่อาจสามารถทำพระกสิณให้สำเร็จได้เลย
    อันผลแห่งการใช้กสิณ 10 ในการอธิษฐานพระของท่านนี้ ยังผลให้บังเกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์โดยตรงต่อผู้บูชา หลวงปู่ท่านอธิษฐานพระของท่านไว้เหมือนเป็นแก้วสารพัดนึก อันเกิดจากดวงจิต ดวงธรรม มหาบารมีอันบริสุทธิ์ แห่งคุณพระศรีรัตนตรัย พรหมเทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย อีกทั้งพระเหล่านี้อยู่กับท่านทุกวันนับเป็นเวลาหลายปีด้วยกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าสรรพวิชาใดๆที่มี ท่านก็คงอธิษฐานใส่ไว้จนหมดสิ้น และทราบมาว่า หลวงปู่ท่านมีวิชาเอกอยู่วิชาหนึ่งคือวิชา หัวใจมหาพรหม ที่หลวงปู่ท่านตั้งใจอธิษฐานใส่ไว้ในองค์พระด้วย อันหัวใจมหาพรหมนี้ ถ้าให้กล่าวก็คงคล้ายคลึงกับวิชา โสฬสมหาพรหม ที่ว่ากันว่าหากผู้ใดได้มีไว้บูชา ก็เหมือนมีพระพรหมคอยปกปักรักษาผู้นั้นมิให้ตกต่ำ และสามารถดลบันดาลในสิ่งที่ปรารถนาได้(แต่ไม่เกินกฏแห่งกรรมของผู้นั้น) เรียกง่ายๆว่า จะมีเทพชั้นพรหมคอยรักษาประจำองค์พระทั้งหมดทุกองค์นั่นเอง หากเราหมั่นทำบุญ สวดมนต์บูชา แผ่เมตตาอยู่เสมอ ก็จะได้รับพลวประโยชน์เสมอมิได้ขาด

    และที่สำคัญท่านสอนให้ผู้ที่ได้รับพระไป นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือการใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงธรรม โดยการกำหนดเพ่งมององค์พระนั้นให้จำภาพได้ จากนั้นให้ทำสมาธินึกถึงภาพพระ ภาวนาว่า พุท-โธ เป็นการกำหนดอารมณ์สมถกรรมฐาน จนจิตเกิดเป็นสมาธิ ก็จัดว่าเป็นกสิณได้กองหนึ่งด้วย ซึ่งมีผลต่อทิพย์จักษุญาณ อันเป็นประโยชน์มากในการปฏิบัติ.. ไม่ว่าผู้ใดได้รับพระไปแล้วหากทำได้ตามนี้ ท่านบอกว่า " ผู้นั้นใช้ของเป็น " หมายความว่า ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระจะสามารถช่วยเราได้เต็มที่... ลองคิดดูว่าพระนี้กว่าจะใช้เวลาสร้างได้ถึงขนาดนี้ และเวลาในการอธิษฐานอยู่กับหลวงปู่ท่านนับว่ายาวนานเป็นที่สุด แน่นอน เรื่องพลังงานไม่ต้องพูดถึงว่าจะมากเพียงใด และพระที่มีประจุพลังงานมากๆ หากคนเรานำมาใช้แขวนอย่างเดียวไม่หมั่นบูชาด้วยใจที่ศรัทธา ก็คงใช้ประโยชน์จากพลังงานนั้นได้เพียงแค่ไม่กี่ % แต่ก็มากพอแล้วที่จะคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุขได้อย่างสบาย แต่เมื่อเทียบกับพลังงานทั้งหมดที่มี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความศรัทธา และกำลังใจของเราด้วยเป็นสำคัญครับ ความศรัทธาในการบูชานั้น ก็เหมือนกับเราเปิดก็อกพลังงานนั่นเอง ยิ่งมีศรัทธามาก หมั่นบูชาด้วยความเคารพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติบูชา ก็เหมือนทำให้เราสามารถเปิดก็อกพลังงานได้อย่างเต็มที่นั่นเองครับ.. สาธุ

    #หลวงปู่พิศดูท่านมีเจตนาสร้าง “พระกสิณ” วัตถุมงคลชั้นดีเหล่านี้เพื่อเตรียมไว้ให้โดยอนาคตังสญาณอันแจ่มใสของท่าน อันจะได้สงเคราะห์ศิษย์ในยุคหลังๆ โดยท่านได้เตรียมทำผง ทำแบบ และกดพระด้วยคนเองในปีประมาณ 2520 โดยบอกกับศิษย์ในยุคนั้นว่าจะได้ช่วยคนอีกหลายคนได้พ้นภัยและลืมตาอ้าปาก ใครเลยจะคาดมาก่อนว่าในปลายปี2540 ประเทศไทยจะลอยตัวค่าเงินบาทจนทำให้หลายกิจการต้องล้มละลายจนถัดมาในเดือนสิงหาคม ปี2542 ที่เมืองจันทบุรีต้องจมบาดาลครั้งใหญ่ตามที่หลวงปู่ได้เปรยไว้กับคนใกล้ชิด
    หลวงปู่พิศดู...พระธุดงค์เพื่อวิปัสสนากรรมฐานสายธรรมยุตินิกายอีกองค์หนึ่งที่เป็นหนึ่งในร้อย ที่ตั้งใจสร้างวัตถุมงคลด้วยตนเอง ทั้งการลบผง เสกผง ทำแม่พิมพ์ กดพระพิมพ์และนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลชุดนี้ทุกวันคืนซ้ำไปมาจนเต็มล้นสำหรับพระกสิณที่ท่านตั้งใจทำไว้เป็นครั้งแรกหลังจากออกจากป่ามาอยู่สังคมเมือง เป็นการเตรียมทำไว้เพื่อสงเคราะห์แก่สัตว์โลกที่ต้องเผชิญชะตาชีวิตที่หนีไม่พ้นในวันหน้า วัตถุมงคลของท่านได้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้างกับคนที่ได้บูชาติดตัว ประสบการณ์เกิดขึ้นมากหลายอย่างสำหรับคนในละแวกภาคตะวันออก แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่นักสะสมพระเพราะคนที่จะได้ไปบูชามักจะเป็นคนเข้าวัด สนใจการปฏิบัติภาวนาและพอรู้จักชื่อท่านบ้าง เซียนพระมืออาชีพไม่ค่อยสนใจพระของท่านมากนักเพราะไม่สวย ไม่นิยมและไม่มีสะสมในสต๊อคพระ แต่กับคนในวิถีปฏิบัติจะรับรู้กันดีว่าท่านเป็นหนึ่งในปฐพีเช่นกัน เกือบครึ่งของวัตถุมงคลของท่านได้ตกไปอยู่ต่างแดนต่างแผ่นดินและก่อเรื่องเหนือคาดหมายไว้มาก

    หลวงปู่ให้ศิษย์ของท่านเอาพระกสิณลงไปแจกคนในเมืองจันทบุรีและอำเภอรอบนอกในปี2542 ก่อนน้ำท่วมใหญ่ในจันทบุรีแค่เดือนเศษๆเท่านั้น แต่ก่อนหน้านั้นในช่วงปลายปี2540 ท่านก็ได้แจกพระกสิณให้คนที่ไปกราบท่านที่วัดบ้างแล้ว
    หลวงปู่พิศดูได้เริ่มให้ศิษย์ของท่านนำพระกสิณลงจากเขาคิชฌกูฏเพื่อแจกให้กับชาวบ้านในเขตจันทบุรีทั้งในละแวกใกล้เคียงและในเขตอำเภอต่างๆตลอดจนพ่อค้าประชาชนในตัวจังหวัดจันทบุรี โดยเป็นการแจกฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าบูชาแต่อย่างใดตั้งแต่ปลายปี2540 เป็นต้นมาหลังจากท่านได้ปลุกเสกมานานนับ20 ปีจนถึงเวลาอันควร โดยท่านบอกกับคนที่นำไปตะเวนแจกว่า “ให้แจกไปโดยทั่วถึงกันแล้วแต่คนจะเห็นคุณค่าตามแต่วาสนาของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน” ศิษย์รุ่นเก่าๆของท่านหรือบุคคลที่ได้รับแจกยุคก่อนนั้นบางท่านก็ได้รับไว้บ้านละหลายองค์ และมีภาระในการรักษาสิ่งมงคลเหล่านี้ไว้มานานหลายปี

    ผมเองไม่ใช่สายตรงหรือเป็นศิษย์ของหลวงปู่ท่านแต่อย่างใด เพียงแต่วัตถุมงคลทุกชิ้นที่ศิษย์รุ่นเก่าของหลวงปู่ที่เคยรับใช้ใกล้ชิดในวัดได้มอบให้เพื่อนำมาให้คนที่เห็นคุณค่าได้แบ่งไปบูชานั้น เป็นไปโดยมหัศจรรย์ในการพบเจอและเมตตามอบให้มา ทั้งหมดได้มีการคัดแยกและตรวจสอบโดยคนรู้จริงสองท่านในจันทบุรีมาแล้ว ดังนั้นผมจึงมีภาระในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งเผื่อบางที-บางคนอาจมีวาสนาร่วมกันกับหลวงปู่พิศดูในการจะเกื้อกูลหนุนเนื่องให้ชีวิตความเป็นอยู่ดียิ่งๆขึ้นไป
    ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิน และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ..
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพรอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ
    ข้อมูลคุณทุเรียนทอด

    #เหตุผลสำหรับความน่าสนใจในพระกสิณของหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง จันทบุรี
    1. เป็นวัตถุมงคลที่สำเร็จขึ้นโดยพระอภิญญาใหญ่ ที่ทุกท่านได้ยอมรับในความเป็นพระอรหันต์
    2. เป็นวัตถุมงคลในยุคแรกสุดของท่าน ที่ได้มีความประสงค์การจัดสร้างเพื่อสงเคราะห์แก่ศิษย์
    3. เป็นวัตถุมงคลไม่กี่ประเภทในสายธรรมยุตินิกายที่ได้กำหนดให้สร้าง ลบผงและกดพระด้วยตัวเอง
    4. เป็นของมีการปลุกเสกทับถมนับครั้งไม่ถ้วน อธิษฐานจิตยาวนานมากเป็นพิเศษตลอดเวลากว่า 20 ปี
    5. เป็นวัตถุมงคลที่ท่านลงไว้ครบถ้วนทุกวิชาและวิชาเฉพาะทาง ทั้งด้านจิตตานุภาพและธรรมฤทธิ์
    6. เป็นวัตถุมงคลที่มีอายุการสร้างมานานพอสมควร มีธรรมชาติ มีความเก่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
    7. ท่านรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลชุดนี้มาแต่สมัยก่อนแล้วว่า “พระนี้ดีมากและจะโด่งดังมาก”
    8. มวลสารและของวิเศษที่ท่านมอบให้นำมาสร้างล้วนเป็นของพิสดารที่ท่านรวบรวมไว้เมื่อครั้งเดินธุดงค์
    9. มีประวัติการสร้างไว้ชัดเจนโดยตัวท่านและศิษย์ใกล้ชิด ไม่ได้สร้างโดยโรงงาน ยังมีคนรุ่นเก่าให้ข้อมูลได้
    10. วัตถุมงคลชุดนี้มีไม่มากนัก และส่วนหนึ่งไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศไว้มากมายเป็นที่เสาะแสวงหากัน
    11. มีประสบการณ์สูงล้ำและเด่นชัด ชนิดปากต่อปากมาแต่ยุคสมัยก่อนแล้ว คนในพื้นที่ให้การยอมรับมานาน
    12. ประสบการณ์ที่มีได้มากหลายคนคือด้านคุ้มครองป้องกันและเจริญด้วยลาภยศสักการะและมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

    เครดิตข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงปู่พิศดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  19. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 179

    P1.jpg P2.jpg P3.jpg

    L1.jpg L2.jpg L3.jpg L4.jpg L5.jpg L6.jpg L7.jpg L8.jpg L9.jpg

    พระกริ่งมหาโชคจันทร์เพ็ญ เนื้อสัมฤทธิ์ขัดเงา คุณแม่ถุงเงิน

    #สร้างเพียง 259 องค์


    = Sold Out

    28/9/2566 EMS : ED 8613 2975 5 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2023
  20. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,218
    ค่าพลัง:
    +4,549
    รายการที่ 180

    P2.jpg

    A1.jpg

    ผ้ายันต์พระพรหมสี่หน้า
    หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    ผ้ายันต์พรหมสี่หน้าถอดแบบมาจากตำรับหลวงปู่สี วัดสะแก ซึ่งหลวงพ่อลำใย ปลุกเสกตั้งแต่ปี 2555 ถึงปี 2557 ซึ่งหลวงพ่อลำใย เมตตาได้มอบให้ มา ร่วมทำบุญ เพื่อทอดกฐินวัดขุนทราย เมื่อวันที่ 1 พย 58 โดยคณะลูกศิษย์สร้างถวาย

    จำนวนการสร้างเพียง 300 ผืนเท่านั้น

    เครดิตข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงพ่อลำใย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...