ปัญญาของพระโสดาบันต่างจากปุถุชนยังไง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย จิตสิงห์, 12 พฤษภาคม 2011.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    พระอริยเจ้าก็พบอนัตตา(ว่าง)
    พระอริยบุคคลก็พบอนัตตา(ว่าง
    ใครเห็นธรรมก็จะเห็นจิตอนัตตา(ว่าง)
    ตัวตนเป็นอนัตา(ว่าง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ครับดีแล้ว ถ้าสังเกตจิตลองสังเกตดูด้วยครับว่าตัวอยากใช่ตัวเราหรือ
    เปล่า
     
  3. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    เรื่องดูจิตหรอ คำนี้ที่รึเปล่าที่ติดใจ
     
  4. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ระวังเหยียบกับดัก ขี้หมา เข้านะเว้ย เห้ย จิตสิงห์

    คำถามบางคำถามไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ

    เพราะคำตอบมันมีอยู่ในคำถามนั้นอยู่แล้ว
     
  5. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    เป็นยังไงครับอนัตตา
    ต้องว่างๆ กลวงๆไม่คิดอะไรรึเปล่าครับ
    พี่ศรียังใช้เงินอยู่รึเปล่าครับ
     
  6. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    พระโสดาบัน แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างไร ผมได้อ่านหนังสือของพระราชพรหมญาณ ซึ่งท่านใช้ถ้อยคำด้วยภาษาง่ายๆ อ่านเข้าใจง่าย

    พระโสดาบัน ไม่จำเป็นต้องเป็นพระเสมอไป เป็นชาวบ้านปกตินี่แหละ แต่ท่านมีความดีอยู่ 3 ประการ คือ
    1 สักกายะทิฎฐิ ท่านเข้าใจและตระหนักเสมอว่า ร่างกายนี้มันต้องตายแน่นอน ไม่จำเป็นต้องเห็นว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ตน เพราะความเห็นเช่นนั้นเป็นระดับพระอรหันต์ไปแล้ว
    2 วิจิกิจฉา ท่านมีความเชื่อมั่น เคารพในพระรัตนไตร เชื่อในความดีของพระพุทธเจ้า
    3 สีลัพพสปรามาส ท่านดำรงศีล (ตั้งแต่ศีล 5) เป็นปกติ และไม่ทำศีลขาดโดยตั้งใจ

    จากที่กล่าวมา จะเห็นว่าพระโสดาบันก็คล้ายๆคนดีคนหนึ่งในสังคม แต่ท่านมีความดีสามประการอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปุถุชนส่วนมากไม่ค่อยจะมีกัน
    พระโสดาบันมีความอยากร่ำอยากรวยได้ โกรธได้ โมโหได้แต่ไม่อาฆาติ มีสามี มีภรรยาได้ ร้องไห้ได้ เหมือนคนปกติ (แต่อยู่ในกรอบของศีล5 สำหรับฆราวาส) ถ้าเป็นพระก็กรอบ 227 ข้อ
     
  7. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เปล่าเลย เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเล็กน้อย ไฉนเลยจะมีความสำคัญ


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>จิตดวงนี้ไม่เคยตาย </TD></TR></TBODY></TABLE>

    คำนี้ต่างหาก ที่ท่านควรใส่ใจว่า จะกระทำไว้ในใจอย่างไร
     
  8. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เอ่อนี้ท่าน จิตสิงห์ email ของท่านคือ jitsingweb@hotmail.com

    ดูเหมือนว่า คำว่า sing ไม่ได้มาจากคำว่า singha (สิงห์) แต่จะเป็น

    สิง ที่แปลว่า สิงสู่ จึงทำให้มีคำว่า web ตามหลัง

    หากเป็นเช่นนั้น ท่านมีความเห็นว่า จิตนี้สิงสู่อยู่ในเว็บ ได้ กระนั้นหรือ
     
  9. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ความอยากไม่ใช่ตัวเราครับ
    เป็นจิต จิตหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมาแล้วดับไป หากไม่รู้ตัวก็จะเคลื่อนไปเป็นเจตนาต่างๆ
    ก็ต้องว่ากันไปตั้งแต่ ตาเห็น จำได้ ปรุงแต่ง เกิดการกระทำ ไปตามเหตุปัจจัย
     
  10. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    เคยได้ยินมา คุณคิดยังไงล่ะครับ
     
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เหวยๆ กระไรหนอ ตัณหาจึงเป็นจิต จิตจึงเป็นตัณหา

    ตะกี้ยกมาว่า จิตไม่เคยตาย ไหงคราวนี้ จิตหนึ่งมีปรากฏแล้วดับ

    แถม เจตนา หรือ นาแห่งจิต กลับเคลื่อนตัวได้อีก ทั้งๆที่มันมีอยู่
    เต็มผืนนาอยู่ก่อนแล้ว สุดท้าย เอาเหตุปัจจัยมาเป็นผลชี้วัดการแปรผัน
    ทั้งๆที่ พระพุทธองค์ตรัสชี้ถึงแต่ การดับของเหตุเหล่านั้น เป็นหลัก

    โสดาบันที่ไหน สาธยายไม่ตรงกับ "ยงฺกิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมํ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  12. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ผมกระทำไว้ในใจแล้ว หากจะถามผมก็พูดว่า

    อึ๊ก

    อึ๊ก

    อึ๊ก

    คุณหละจะออกจาก ป่า ท่าไหน
     
  13. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ผมเนี่ย นายจิตสิงห์ ผู้ไม่อ้อมค้อม เกลียดมากคนที่ล่วงเกินสิทธิบุคคล
    เอาเมลมาแปะแบบไม่อนุญาติน่ะ

    เอาออกซะนะ แล้วจะสนทนาด้วย
     
  14. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ความอยากไม่ใช่ตัวเรา แต่มันเป็นความรู้สึกที่เป็นตัวเราใช่ไหมครับ
    พอมีตัณหาอยากได้ ไม่อยากได้มันยังไม่มีความรู้สึกว่าเป็นตัวเราใช่
    ไหมครับ ขั้นนี้มันมีความรู้สึกว่าของเรา พอถึงอุปาทานมันก็เกิดตัวเรา
    ที่อยากได้ขึ้นมา ความรู้สึกว่าเป็นเราที่อยากได้หรือไม่อยากได้อะไร
    ซักอย่าง ก่อนถึงขั้นนี้ยังไม่มีความรุ้สึกว่าเป็นตัวเราใช่ไหมครับ
    คุณคิดว่าทำยังไงมันถึงจะมาไม่ถึงขั้นนี้ครับ
     
  15. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    รู้ที่อายตนะครับ
    ในสติปัฏฐาน มีความตอนหนึ่งว่า
    สักว่าเป็นที่อาศัยให้ระลึก เธอย่อมไม่ยึดติดอะไรในโลกด้วย

    การเจรฺญสติด้วยการรู้ธาตุบ่อยๆ ทั้งภายในภายนอกบ้าง มันสกัดความปรุงแต่งได้ครับ
     
  16. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เอาอะไรมาอ้างว่าไม่อนุญาติ

    ก็ผมเข้าไปใน รายละเอียดสมาชิก แล้วก็ได้รับ email นี้มา
    อย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา ตามระบบที่เว็บมีให้ ไม่ได้ล่วงละเมิด
    เพราะ คุณเปิดให้เพื่อนสมาชิกสามารถเข้าถึงได้โดยอิสระ เพื่อ
    การสนทนาหลังไมค์

    คำกล่าวว่า ไม่อนุญาติ จึงเป็น คำโกหก ควรระงับไว้ แล้วกลับคำเสีย
    เพื่อให้ไม่มี "ภัยเวร 5 ประการ" โดยไม่ควรเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  17. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ครับดีมาก แต่รู้อย่างไรล่ะครับใครเป็นตัวรู้ใช่อุปาทานที่ปรุงแต่งเสร็จ
    จนมีความรู้สึกว่าเป็นตัวเราหรือเปล่าที่รู้หรือเป็นตัวอื่น
     
  18. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    เอาล่ะจะสนทนาด้วยก็ได้

    คุณเป็นคนพูดเก่งใจเร็ว ทายว่า นิสัยจริงเป็นคนไม่สู้คน
    คุณเป็นคนติดกับอนุพยัญชนะ ทายว่ามีมานะเป็นที่ตั้ง
    ข้อดีคือมีใจเป็นโพธิสัตว์อยู่บ้าง แต่ก็เป็นเรื่องคิดเอาเอง เพราะไม่น่าใช่คนที่ชอบเคลื่อนไหวร่างกาย
     
  19. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    เจตนา ก็คือจะทดสอบความมีตัวตน นั่นล่ะ

    ทีนี้พอผู้เสียหาย มีทีท่าร้อนตัวขึ้นมา ก็ทึกทักเอาว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ เพราะยังมีตัวตน

    กำ ซึ่งจริงๆ มันน่าจะพึงสังวรณ์ มีสามัญสำนึกให้มากกว่านี้ ในสิ่งที่จะทดสอบ

    ก็ยังดีไม่อยู่กันซึ่งหน้า ไม่เอามีดมาแทงหลัง ก็ดีแล้ว พอเจ้าตัวร้องเจ็บ แสดงอาการของเวทนา

    โห้ ....ไม่ใช่แล้วๆ

    เห็นโดนมาหลายคนแล้วในเวบนี้ อนุสัยอันถาวร

    เยอะ...
     
  20. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ผมปัญญาน้อยมากครับ
    ตอบแบบคนรู้น้อย เอาตั้งแต่ดาเห็น ขณะเห็น เราไปรู้เรื่องอื่นได้ไหมครับ ในเมื่อจิตเกิดดับทีละขณะ แต่เร็วมาก จนเราเข้าใจว่ารู้หลายๆอย่างได้พร้อมกัน

    ตารู้รูป มันไม่รู้ความหมายอะไร เป็นแค่รู้สี รู้เส้นแสงเงา แต่เราไปจำได้ หรือไม่ได้ก็ตาม มันปรุงแต่งต่อเนื่องไป

    ค่อยศึกษาไปทีละขณะ ว่าจริงไหม
    รูปปรมัตถ์ ทางอายตนะ มันก็ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส รุ้อารมณ์
    รู้อ่อน แข็ง ร้อน เย็น ในชีวิตประจำวันก็มีเท่านี้
    นี่เขาเรียกรู้ทันปัจจุบัน ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...