ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. kung

    kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +770

    ขออนุญาติสอบถาม อ. ครับ

    แล้วถ้าเราส่งพลังทุกวันอย่างต่อเนื่อง พลังไม่สามารถช่วยแก้ที่
    ต้นเหตุได้เลยหรือครับ งั้นก็เท่ากับว่า พลังทำได้แค่เพียงบรรเทาปวด
    โดยปล่อยให้ต้นเหตุนั้นๆเดินหน้าต่อไปตามปัจจัยหรือครับ

    ผมเคยรักษาคนที่เส้นสะบักหลังจม เขาปวดแขนมากยกไม่ขึ้น
    ก็แตะอยู่หลายอาทิตย์ ทุกครั้งที่แตะรู้สึกถึงเส้นเอ็นเคลือนตัวไปมา
    แล้ววันหนึ่งระหว่างแตะก็มีเสียงดังปึก ได้ยินทั้ง 2 คน เขาหายปวด
    แต่ตอนนี้เลิกรักษาแล้ว ว่าจะรอดูอาการว่าจะปวดขึ้นมาอีกไหมครับ

    อ.ช่วยเฉลยคำตอบด้วยนะครับ จะรอฟังครับ คำตอบของคำถามนี้ครับ

    หลายๆท่านที่รู้จัก สุวิ คงสงสัยว่า
    ก็ในเมื่อ สุวิมีความรู้เรื่องพลัง และสามารถให้คำตอบในเรื่องของพลังได้เกือบทุกแง่มุม
    ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วยอันเกิดจากกุลฑาลินี
    การรับปิดจักระ(ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน)
    การแก้ปัญหาพลังกระจุกตัวในร่างกายแบบต่างๆ
    ฯลฯ

    เมื่สุวิ สามารถใช้พลังได้มากมายหลายรูปแบบ
    และเคยใช้พลังรักษาข้ามโลกมาแล้ว
    แต่ทำไมวันนี้ สุวิ จึงหันกลับมาใช้ยา(สมุนไพร) และการนวด ในการรักษาโรคต่างๆ
    แต่ถ้าถามว่า วันนี้สุวิ เลิกใช้พลังรักษาโรคแล้วหรือ
    เปล่าเลย ยังคงใช้อยู่ แต่แอบใช้ปนๆกันไปกับการใช้ยาและการนวด

    เพื่อนๆลองหา หาสาเหตุดู ว่าทำไม


    ขอบพระคุณ อ. มากครับ
     
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเลือดลมสัตรี)

    ข้อความที่เขียนเล่านี้ ได้ถอดความเป็นภาษาปัจจุบัน และได้รวมคัมภีร์ย่อยที่เกี่ยวเนื่องกับโรคโลหิตระดูสัตรี

    เริ่มเรื่อง
    เมื่อกุมารีมีอายุพ้นวัยแห่งตานซางแล้ว ต่อมระดูโลหิตก็จะเริ่มทำงาน
    ทำให้แต่ละเดือนก็จะมีโลหิตระดูมา
    ในกุมารีและสตรีบางจำพวก เมื่อถึงรอบเดือนก็ให้เจ็บปวดทรมาร
    พระอาจาย์เจ้าได้กล่าวถึงโรคแห่งเลือดลมสัตรีเพศไว้ดังนี้

    อาการโรคโลหิตสัตรี ที่ปรากฏมีอยู่ ๒ ลักษณะ คือ
    ๑. โลหิตปกติโทษ แบ่งลักษณะการเกิดได้ ๕ ประการ
    ๒. โลหิตทุจริตโทษ แบ่งลักษณะที่เกิดได้ ๒ แบบใหญ่ๆ แต่ละแบบยังแยกย่อยดังนี้
    - ๒.๑ โลหิตทุจริตโทษอันเกิดจาก กองธาตุ ๔ ประเภท
    - ๒.๒ โลหิตทุจริตโทษอันเกิดจาก เหตุอุบัติต่างๆ ๕ ประการ

    แต่ละลักษณะของการเกิดโลหิตระดู จะทำให้เกิดอาการโรค ต่างแบต่างชนิดกันไป
    และโบราณจารย์ ก็ได้ตั้งยาแก้ไว้แต่ละอาการ โดยละเอียด
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    จะเห็นได้ว่าคุณต้องส่งพลังรักษาทุกวัน นานแค่ใหนไม่รู้ กว่าเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อจะคลายตัว จนกลับเข้าที่
    ถ้าเป็นกระดูกเคลื่อน เวลาที่ใช้ก็ยิ่งนานกว่า
    และถ้าเป็นกับกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่เช่นสะโพก พลังต้องใช้มากขึ้น เวลายิ่งนานขึ้น
    และในช่วงเวลาที่รอ หรือระหว่างการรักษา หากมีเหตุอะไรบางอย่างไปเสริมอาการที่เป็น อาการจะทรุดลงทันที
    เราแทบเริ่มส่งพลังรักษากันใหม่หมด

    แต่การนวดที่สุวิใช้ เป็นการบังคับ ใช้พลัง เขี่ยให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูก กลับเข้าที่ทันที
    อาการที่เจ็บอยู่จะหายเดี๋ยวนั้น (จะเหลืออาการอีกเล็กน้อย อันเกิดจากความล้าของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ)

    การส่งพลังรักษาจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่อาจกำหนดเวลาได้
    ส่วนวิธีที่สุวิใช้ แล่นบังคับเอาดื้อๆ แบบวัยรุ่นใจร้อนนะ
    ดีคนละแบบ

    การใช้ยาก็เช่นกัน บางอาการโรค ต้องให้ฤทธิยาคงอยู่นตัวคนไข้ตรอดเวลา จึงจะคุมการรักษาได้
    แต่การใส่พลัง จะดีตอนขณะใส่พลัง หลังจากนั้นพลังจะค่อยๆลดลงจนหมดฤทธิ์ในการรักษา
    ถ้าใส่พลังมาก จะรักษาได้เร็วหรือไม่ ไม่ใช่เลย ถ้าใส่มากเกินจะเป็นโทษซะด้วยซ้ำ
    ถ้าจะใช้พลังรักษาจริงๆ อาจต้องให้เป็นเวลาเหมือนการกินยา วันละ ๒-๓ ครั้งเช้าเย็น ครั้งละ ๓-๕ นาที อย่างนี้เป็นต้น

    แต่ที่สุวิทำ เพียงแต่แอบอัดพลังลงไปในยา ลูปๆปัดๆที่ตัวคนไข้ แล้วให้กลับบ้านได้

    การรักษาโรคของสุวิ ไม่ได้แสดงความวิเศษอะไรมากมาย
    คนไข้เพียงรู้สึกเข้าท่ากว่าหมอทั่วไปเท่านั้น
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต ๒. (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเลือดลมสัตรี)

    โลหิตปกติโทษเป็นเช่นไร

    เมื่อสัตรีถึงเวลาครบรอบมีระดู ก็ให้เจ็บป่วยมีอาการซ้ำๆทุกครั้งเมื่อเริ่มมีระดู
    และอาการนั้นๆจะหายไปเมื่อเมื่อระดูออกหมดสิ้นแล้ว

    โลหิตปกติโทษ ๕ ประการ

    ๑. โลหิตระดูอันบังเกิดแต่หัวใจ เมื่อใกล้โลหิตระดูจะมานั้นให้มีอาการ
    ให้เพ้อคลั่ง พูดคนเดียว นอนไม่หลับ สะดุ้งหวาดผวา เห็นอะไรขวางหูขวางตา
    ขึงโกรธในเรื่องต่างโดยง่าย ครั้นระดูมาแล้วอาการนั้นก็หายไป

    ๒. โลหิตระดูอันเกิดแต่ขั้วดี เมื่อใกล้ระดูมาให้มีอาการ
    ให้เป็นไข้ คลั่งไคล้ นอนละเมอเพ้อพก สะดุ้งหวาดวา พูดคนเดียว ครั้นระดูออกมาแล้วอาการนั้นก็หายไป

    ๓. โลหิตระดูอันเกิดแต่ผิวเนื้อ เมื่อใกล้จะมีระดูมาให้มีอาการ
    ให้มีอาการร้อนในผิวเนื้อ ผิวหนังแดงดั่งผลตำลึงสุก บางทีมีผื่นผุดขึ้นทั้งตัวดัง่เป็นหัด
    บ้างผิวหนังก็ช้ำฟกเป็นแว่นเป็นวง(เส้นเลือดฝอยแตก) ครั้นระดูออกมาหมดสิ้นแล้ว อาการนั้นก็หายไป

    ๔. โลหิตระดูอันเกิดแต่เส้นเอ็น เมื่อใกล้จะมีระดูมา
    ให้สะบัดร้อนสะบัดหนาว ดุจดังไข้จับ ปวดศีรษะมาก ครั้นระดูออกมาสิ้นแล้ว อาการนั้นก็หายไป

    ๕. โลหิตระดูอันเกิดแต่กระดูก เมื่อใกล้จะมีระดูมา
    ให้ปวด ให้เมื่อยขบไปทุกลำข้อลำกระดูกดังจะขาดออกจากกัน
    ให้เจ็บบั้นเอว เจ็ยสันหลัง มักบิดเกียจคร้าน ครั้นระดูออกมาสิ้นแล้วอาการนั้นก็หายไป
    .
     
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต ๓. (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องโลหิตระดูแห่งสัตรีเพศ)

    โลหิตทุจริตโทษ เป็นอย่างไร

    โดยปกติ สัตรี เมื่อถึงเวลารอบเดือนมา เคยมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ประจำ(ปกติโทษ) หรือไม่มีอาการโรคเลย
    อยู่ๆก็แปรไปมีอาการแปลกใหม่ขึ้นมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังที่จะกล่าวต่อไป
    และอาการนั้นๆก็ยังคงให้โทษอยู่เป็นประจำ(อย่าสับสนกับ โลหิตปกติโทษ)
    บางครั้งก็แปรเปลี่ยนไปมาหลายอย่าง
    ลักษณะระดูโลหิตดังที่กล่าวมาคือ ระดูโลหิตทุจริตโทษซึ่งมีลักษณะการเกิด ๒ แบบใหญ่ คือ

    ๑.โลหิตทุจริตโทษอันเกิดจากกองธาตุ ๔ ประการ
    ๒. โลหิตทุจริตโทษอันเกิดจาก อุบัติโรค ๕ ประการ

    โลหิตทุจริตโทษอันเกิดจากกองธาตุ
    เมื่อฤดูกาลแปรเปลี่ยน อายุมากขึ้นตามกาลเวลา อาหารการกิน ภูมิประเทศที่อยู่ อริยาบทอันเป็นปกติวิสัยในการดำรงชีพ
    ทั้งหมดล้วนทำให้มหาภูติรูปสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ แปรเปลี่ยน เกิดความไม่สมดุลย์ในกาย
    แล้วกระทบลงบนธาตุดินอันเป็นแกนหลัก ในความเป็นมนุษย์ จึงก่อให้เกิดโรคขึ้น

    ๑. โลหิตระดูอันบังเกิดแต่กองเตโชธาตุ
    สัตรีใดมีสามีแล้วหรือยังไม่มีก็ดี เมื่อระดูจะมีมา ให้มึนตึงไปทั้งตัวแล้วระดูจึงมา ให้ร้อนในช่องคลอดดุจถูกพริก
    โลหิตที่ออกมานั้นเป็นฟอง มีสีเหลืองดั่งน้ำฝางทีบีบมะนาวลงไป (สีของน้ำฝาง เป็นสีแดงอมชมภูสดใส บีบมะนาวลงไป สีจะเปลี่ยนเป็นเหลืองแปลกๆ)
    ร้อนผิวเนื้อมาก ให้อาเจียร ให้เหม็นอาหาร บริโภคอาหารไม่ได้ สะบัดร้อนสะบัดหนาว ดุจเริ่มเป็นไข้
     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ๒. โลหิตระดูอันบังเกิดแต่กอง วาโยธาตุ
    ถ้าเกิดแก่สัตรีใด มีสามีแล้วหรือยังไม่มีก็ดี เมื่อจะมีระดูมานั้น ให้ท้องขึ้นท้องพอง ให้จุกเสียดเป็นกำลัง
    ให้ตัวร้อน ให้จับไข้เป็นเวลา ให้คลื่นเหียนอาเจียรแต่ลมเปล่า
    ระดูมีมาไม่สะดวก มีสีดุจน้ำดอกคำอันจาง(สีแดงออกเหลือง) ให้เจ็บให้ปวดเป็นกำลัง

    ๓. โลหิตระดูอันบังเกิดแต่กอง อาโปธาตุ
    ถ้าเกิดแก่สัตรีใด มีสามีแล้วหรือยังไม่มีก็ดี เมื่อจะมีระดูมานั้น กระทำให้ลงไปวันละ ๕-๖ ครั้ง (ท้องเสีย ไม่มีสาเหตุ)
    ระดูที่เดินออกมานั้นเป็นเมือกเป็นมัน เหม็นคาวยิ่งนัก บางทีเป็นเปลวดุจปะระเมหะและไข่ขาว โลหิตนั้นสีใสเดินไม่สะดวก
    ให้ปวดท้องมาก บริโภคอาหารไม่ได้
    ปะระเมหะ หมายถึง ลักษณะของการตกตะกอน และแขวนลอยเป็นก้อนอยู่ในของเหลว(จำนวนน้อย) มีลักษณะข้นๆเขละๆ (นึกถึงไข่ขาวที่กึ่งดิบกึ่งสุขเติมซอท)

    ๔. โลหิตระดูอันบังเกิดแต่กอง ปถวีธาตุ
    ถ้าเกิดแก่สัตรีใด มีสามีแล้วหรือยังไม่มีก็ดี เมื่อจะมีระดูมานั้น ให้ปวดเมื่อยไปทุกลำข้อลำกระดูก
    ระดูเดินหยดย้อยมิได้สะดวก บางทีเป็นมันเป็นเมือก บางทีเป็นปะระเมหะระคนออกมากับโลหิต เหนียวดุจยางมะตูม ทำให้ร้อน ทำให้แสบ
    ให้จุกเสียด ให้ท้องขึ้นเป็นกำลัง
    ระดูนั้นมีสีดำ แดง ขาว เหลืองระคนกันออกมา มีกลิ่นคาวยิ่งนัก ให้ปวดในอุทรเป็นกำลัง
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต ๔. (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องโลหิตระดูแห่งสัตรีเพศ)

    โลหิตทุจริตโทษอันเกิดจาก อุบัติโรค

    ในชีวิตประจำวันแห่งสัตรีเพศ มีการเคลื่อนไหวกระโดดโลดเต้น ผ่านร้อนผ่านหนาว การสมสู่ มีบุตร อุบัติวภัยต่างๆ กระทบให้ชอกช้ำ ฯลฯ
    สิ่งเหล่านี้ล้วนกระทบสู่ระบบโลหิตระดู มากบ้างน้อยบ้าง พอสรุปลักษณะและอาการโรคได้ ๕ ประการ

    ๑. โลหิตระดูร้าง (มีเหตุให้เกิดโลหิตระดูร้าง/แห้งไป ๕ ประการ)
    เมื่อจะบังเกิด โลหิตระดูก็มิได้มาตามปกติ บางทีมีสีดำและมีกลิ่นเน่าเหม็น
    บางทีมีสีจางดุจน้ำชานหมาก บางทีใสดุจน้ำคาวปลา บางทีขาวดุจน้ำซาวข้าว กระทำให้เจ็บปวด ต่างๆนาๆ
    บางทีให้ระดูโลหิตทีผิดปกติอยู่ ก็งวดน้อยลงจนขาดหาย
    ครั้นเป็นนานเข้าโรคมักแปรไปเป็นมารโลหิต (โรคท้องบวมโตอันเกิดจากโลหิตตกเป็นลิ่มเป็นก้อนอยู่ในท้อง-ซิสส์)

    ๒. โลหิตคลอดบุตร
    หลังจากคลอดบุตรแล้ว โลหิตเดินไม่สะดวก(ขับออกไม่หมด) ตั้งขึ้นเป็นลิ่มเป็นก้อน ให้จุกแดกขึ้นแดกลง(ลมเป็นลูกวิ่งไปมาในท้อง)
    บางทีให้คลั่ง ขบฟัน ตาเหลือกตาช้อน ขอบตาเขียวริมฝีปากเขียว เล็บมือเล็บเท้าเขียว
    โบราณเรียก สันนิบาตหน้าเพลิง(ติดเชื้อบาททะยักในกระแสโลหิต-เลือดเป็นพิษ)
    หรือเกิดจากโลหิตตีกลับ(บ้างตีกลับเข้าในท้องน้อยเกิดถุงซิสส์ บ้างรกคลอดไม่หมดเกิดโลหิตเป็นพิษ)
    อาการเหล่านี้หาแพทย์แผนปัจจุบันสถานเดียว (เท่าที่ทราบจะช่วยไม่ทัน/ช่วยไม่ได้ ครึ่งๆ)

    ๓. โลหิตต้องพิฆาต
    เมื่อถูกทุบถองโบยตี ตกต้นไม้ เกิดอุบัติเหตุให้ชอกช้ำ มีอาการไข้ โลหิตช้ำตกสู่ภายในระคนเข้ากับโลหิตระดู
    แล้วตีกลับสู่ท้องน้อยทิ้งนานไป เกิดแห้งกรังเป็นลูกเป็นก้อนติดอยู่กระดูกสันหลัง(ซีสส์ชนิดหนึ่ง)

    ๔. โลหิตเน่า
    อาศัยโลหิตระดูร้าง โลหิตคลอดบุตร โลหิตต้องพิฆาต และโลหิตตกหมกช้ำ ที่เน่าคั่งค้างอยู่ จึงเรียกว่า โลหิตเน่า
    เมื่อจะให้โทษ โลหิตเน่าอันมีพิษกล้าก็แล่นไปทุกขุมขน
    บางทีจับหัวใจ บางทีผุดออกมาที่ผิวเนื้อเป็นวงดำ แดง เขียว ขาวก็มี
    บางทีผุดขึ้นดังผดทำพิษให้คันเป็นกำลังทุรนทุรายยิ่งนัก

    ๕. โลหิตตกหมกช้ำ
    อาศัยซึ่งโลหิตเน่า เป็นเหตเพราะแพทย์ ได้ทำการรักษา ใช้ยาประคบ ยาผาย ยาขับโลหิต ไม่ถึงกำลังโรค (หรือคนไข้กินยาครึ่งๆกลางๆ ไม่หายดีก็หยุดยา)
    และโลหิตที่ถูกขับนั้นก็ระสำระสายกระจายไป แล้วตกหมกช้ำอยู่
    บางทีให้ตกหมกช้ำอยู่ในเส้นเอ็น หัวเหน่า และอวัยวะข้างเคียง
    เมื่อจะให้โทษก็คุมกันเข้า ตั้งเป็นลูกเป็นก้อน เป็นฝีมดลูก ฝีที่ปอด ฝีเอ็น ฯลฯ และมารโลหิต
    หากมีพวกไวรัสเข้าแทรกก็แปรไปเป็นมะเร็ง
     
  8. Da_li

    Da_li เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +1,223

    โอ้...โรคนี้นี่ขนาดเครื่องเอกซเรย์กับเครื่องสแกนยังตรวจไม่พบเลยหรือค่ะ
    แต่ อ.สุวิ บอกสาเหตุของโรคได้ถูกต้อง (good) คือ เดิมคุณแม่ดาหลีปวดและเจ็บสะโพกก่อน (พอ อ. บอกถึงนึกออกค่ะ) ตอนหลังอาการเจ็บสะโพกหายไป แล้วก็มาเจ็บเข่าและขาค่ะ


    ขั้นตอนการรักษาตามที่ อ. บอกคือ ให้นวดจัดกล้ามเนื้อและกระดูกก่อนนั้นต้องใช้เวลากี่ครั้ง แล้ววันพุธ อ.สุวิยังรับรักษาอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขรึเปล่าค่ะ จะได้ไปพบค่ะ...
    หากยังไม่ได้นวดจัดกระดูก สามารถทานยาลดกรดยูริและยาเพิ่มธาตุไฟก่อนได้หรือไม่ค่ะ

    ขอบคุณค่ะ..
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยังอยู่ที่กระทรวงครับ ทุกวันพุธ
    ยาน้ำมะละกอทานได้ครับ ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาแผนปัจจุบันเยอะ

    เพิ่มเติม
    ช่วงเดือนสิงหาคม ไม่ได้เข้ากระทรวงครับ ทั้งเดือน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2008
  10. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ขอคารวะในคุณงามความดี มีเมตตา ของ อ.suwi
    ที่คอยชี้แนะช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ที่ยังต้องผจญกับทุกข์ทางกาย
    และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ทุกข์ทางใจ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0025.gif
      0025.gif
      ขนาดไฟล์:
      9.2 KB
      เปิดดู:
      1,543
    • homage.gif
      homage.gif
      ขนาดไฟล์:
      4.9 KB
      เปิดดู:
      1,534
    • 95702fm9.gif
      95702fm9.gif
      ขนาดไฟล์:
      6.4 KB
      เปิดดู:
      1,519
    • coeur_005.gif
      coeur_005.gif
      ขนาดไฟล์:
      14.4 KB
      เปิดดู:
      1,535
    • boythank1.gif
      boythank1.gif
      ขนาดไฟล์:
      16.9 KB
      เปิดดู:
      1,527
    • onion-D74.gif
      onion-D74.gif
      ขนาดไฟล์:
      8.8 KB
      เปิดดู:
      1,522
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ขอบคุณครับ

    คิดถึงครับ
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต ๕. (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องโลหิตระดูแห่งสัตรีเพศ)

    เหตุให้เกิดโลหิตระดูร้าง และแห้งไป ๕ ประการ)

    ๑. มีกามราคะจัด อำนาจจากไฟราคะเผาโลหิตให้แห้งไป

    ๒. บริโภคอาหารเผ็ดร้อนมากเกินไป เป็นเหตุให้ระดูพิการได้

    ๓. มีโทษะเป็นนิจ หรือทำงานหนักมากเกินไป เป็นเหตุให้ระดูนั้นแห้งไป

    ๔. มีโมหะอยู่เป็นนิจ หรือออกกำลังกายมากเกินไป เป็นเหตให้โลหิตนั้นแห้งไป

    ๕. เป็นด้วยกรรมพันธุ์ติดต่อจาก บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ของหญิงนั้น

     
  13. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,843
    ตกลงผลดีคือ .. (รู้สึกยังไม่จบข้อความยังไง..)
     
  14. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,843
    ขอบคุณค่ะ
    เป็นคำตอบที่ใช่จริงๆ :)
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต . (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องโลหิตระดูแห่งสัตรีเพศ)

    ว่าด้วยยาและการรักษา ๑.

    ในแต่ละอาการโรค พระอาจารย์เจ้าท่านตั้งยาไว้ให้ อาการละ ๓-๗ ขนาน
    อาการโรค ทั้งปกติโทษ ทุจริตโทษ รวมๆกันก็กว่า ๑๔-๑๕ อาการ
    ทำให้มียามากกว่า ๖๐-๑๐๐ ขนาน

    เหตุที่มียามากเป็นเพราะ
    บางที ผู้ป่วยยังมีอาการร่วมหลายแบบ อยู่ในตัวผู้เดียว เช่น
    ปว่ยเป็น โลหิตปกติโทษอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ เกิดมีโรคปัถวีพิการเข้าแทรก อาการก็แปรไป ยาที่ใช้ก็แปรตามด้วย ทำให้มียามากมาย
    ซึ่งขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณา ตั้งยาให้เหมาะกับบุคคล กินแล้วหายขาด

    ในช่วง ร้อยสองร้อยปีที่ผ่านมา ครูอาจารญ์ได้สรุปตัวยากลางๆไว้ ประมาณ ๔-๖ ขนาน สามารถรักษาคลอบคลุมได้เกือบทุกอาการ
    และสรุปวิธีการรักษาไว้เป็นรูปธรรม
    มีทั้งยาขับ ยาบำรุง ยาอายุวัฒนะชลอความเหี่ยวย่น ใส้ปิ้ง แม้อายุจะ ๘๐

    สาวๆทั้งหลายต้องติดตามอย่ากระพริบตา
    สงสัยให้รีบถาม (ไม่หวงความรู้ครับ)

     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    <TABLE class=tborder id=post1397166 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --><!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>kikinlala<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1397166", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2005
    ข้อความ: 2,176
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,151
    ได้รับอนุโมทนา 9,821 ครั้ง ใน 1,980 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 833 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1397166 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi [​IMG]
    คุณลองย้อนกลับไปที่ หน้า 3-4 จะมีวิธีการฝึกอยู่ ลองฝึกดูครับ สงสัยมีอาการอย่างไรถามได้ ไม่หวงความรู้ครับ

    เมื่อคุณใช้พลังจิตเป็น สิ่งที่คุณอยากรู้อยากถาม ผมไม่ต้องตอบครับ คุณจะรู้จะเห็นเอง
    มีทุนอยู่แล้ว หัดใช้นะครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอบคุณค่ะ
    เป็นคำตอบที่ใช่จริงๆ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ได้ข่าวร้องเพลงเพราะนะครับ
    ขอมาฟังบ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2008
  17. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    ยังไม่จบครับ แต่พิมพ์ช้า แต่พอก่อน ไม่อยากพากระทู้ อ.suwi ออกทะเล
    ;aa21
     
  18. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต . (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องโลหิตระดูแห่งสัตรีเพศ)

    ว่าด้วยยาและการรักษา ๒.

    ความผิดปกติของระดูโลหิตสัตรีทั้งหมดเราเรียกว่า โลหิตระดูพิการ มีสองลักษณะคือ
    ๑. ระดูยังมีมา แต่ผิดปกติ มีอาการต่างๆนาๆ ดังที่กล่วมา
    ๒. ระดูแห้งไป เมื่อถึงเวลามา ก็ไม่มาตามปกติ (การตั้งครรภ์ ไม่เกี่ยวกับอาการนี้นาครับ)

    การรักษาอาการทั้งสองแบบจะต่างกัน

    อาการแบบที่ ๑. ระดูผิดปกติ เราจะจ่ายยารักษาดังนี้
    ขนานที่ ๑. ให้ยาประจุโลหิต ถ่าย/ขับโลหิตเสียให้สิ้น แล้วจึง
    ขนานที่ ๒. ให้ยาปลูกไฟธาตุ ให้ไฟธาตุสมบูรณ์ดี แล้วจึง
    ขนานที่ ๓. ให้ยาบำรุงโลหิต ทำให้โลหิต เลือดฝาดสมบูรณ์ เปล่งปลั่งไปทั่วตัว

    ส่วนอาการแบบที่ ๒. โลหิตแห้งไป ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม
    ยาที่จะใช้จะให้ตามลำดับดังนี้
    ขนานที่ ๑. ให้ยา ปลูกไฟธาตุ ทำให้ธาตุในร่างสมบูรณ์ก่อน แล้วจึง
    ขนานที่ ๒. ให้ยา บำรุงโลหิต ทำให้ร่างกายมีเลือดฝาดสมบูรณ์ แล้วจึง
    ขนานที่ ๓. ให้ยา ประจุโลหิต เพื่อกระตุ้นและขับโลหิตให้กลับมีมาดังเดิม

    เทคนิค การกินยา
    อาการในแบบที่ ๑ ให้กินยาประจุโลหิตก่อน จนถึงเวลามีรอบเดือน แล้วให้หยุดยา
    เมื่อระดูสิ้นแล้ว ให้กินยาบำรุงไฟธาต และยาบำรุงโลหิต (เช้ากินบำรุงไฟธาตุ เย็นกินยาบำรุงโลหิต) กินยาประจุโลหิตก่อนนอน

    อาการในแบบที่ ๒.
    ในช่วงรอบเดือน (๒๗-๓๐ วัน) ให้แบ่งเป็นสี่ช่วง

    ช่วงที่ ๑. เป็นช่วงที่ระดูกำลังมา ให้หยุดการกินยาทั้งหมด (ประมาณ ๓-๗ วัน) เมื่อระดูสิ้นแล้ว ให้เริ่มกินยา
    ช่วงที่ ๒. เมื่อระดูสิ้นแล้ว ให้เริ่มกินยาขนานที่ ๑. เป็นเวลาประมาณ ๗-๑๐ วัน
    ช่วงที่ ๓. กินยาขนานที่ ๒. ต่อไปเป็นเวลา ๗-๑๐ วัน
    ช่วงที่ ๔. กินยาขนานที่ ๓. ต่อไปอีก ประมาณ ๗ วันหรือจนกว่า ระดูจะมา
    เมื่อระดูมาแล้วให้หยุดยาทั้งหมด
    พอระดูสิ้นแล้ว จึงกินยาในช่วงที่ ๒. ช่วงที่ ๓ และช่วงที่ ๔ ต่อไปเป็นรอบที่สอง

    การกินยาดังกล่าว ต้องกินติดต่อกันอย่างน้อย ๓-๖ เดือน จึงจะหาย
    บางคนอาจต้องกินต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2008
  19. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต . (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องโลหิตระดูแห่งสัตรีเพศ)

    ว่าด้วยยาและการรักษา ๓.


    ยาประจุโลหิต
    ยาประจุโลหิต เป็นยาร้อน ใช้ในการขับโลหิตระดูที่เน่าเสียให้ไหลออกนอกร่างกายให้สิ้น ไม่ให้ไหลย้อนกลับ
    หากโลหิตระดูไหลย้อนกลับ ก็จะทำให้เกิดซีสเป็นลูกเป็นก้อนอยู่ในท้อง บ้างแห้งติดกระดูกสันหลัง
    ช็อกโกแลตซีส ก็เป็นหนึ่งในอาการนี้

    ยาประจุโลหิตมีหลายขนาน มีตั้งแต่ขับแรงสุดๆ และที่ใช้ทั่วไป เช่น
    ยาขับโลหิต
    ยาพรหมภักดิ์
    ยาไฟประลัยกัลป์ (บอกต้วยาให้)
    ยาประสะไพล (บอกตัวยา)

    ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2008
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    คัมภีร์มหาโชติรัต . (คัมภีร์ว่าด้วยเรื่องโลหิตระดูแห่งสัตรีเพศ)

    ว่าด้วยยาและการรักษา ๓.(ต่อ)

    ยาบำรุงไฟธาตุ(ยาปลูกไฟธาต)
    ในสัตรีส่วนใหญ่ที่มีอาการของโลหิตระดูพิการ จะมีอาการของไฟธาตุพิการด้วยเสมอ
    ยาปลูกไฟธาตุนี้เมื่อใช้ร่วมกับ ยาบำรุงโลหิต จะทำให้สัตรี มีน้ำมีนวล ใสปิ้งปั้งน่ามองยิ่งนัก

    สัตรีแม้ไม่มีปัญหาในเรื่องระดูพิการ ก็สามารถกินยานี้ได้ โดยลดส่วนการกินลงและใช้เป็นยาประจำตัว
    ซึ่งสามารถแก้อาการต่างๆอันเกิดจากไฟธาตุพิการได้ (เปิดย้อนกลับไปดูเรื่องไฟธาตุพิการ)
    ผู้ชายก็กินได้นะจ๊ะ

    ยาบำรุงไฟธาต มี
    ยาปลูกไฟธาตุ
    ยาบำรุงไฟธาต
    ยาฯลฯ

    ยาบำรุงโลหิต
    ในแต่ละรอบเดือน สตรีจะเสียโลหิตจำนวนหนึ่งไปกับระดู ทำให้ร่างกายต้องสร้างเลือดขึ้นมาชดเชยทุกๆเดือน
    สัตรีส่วนใหญ่จึงมีปัญหาใลหิตน้อย โลหิตจาง (ร่างกายสร้างไม่ทัน เนื่องจากธาตุไฟพิการ และเหตุอื่นๆ)
    ยานี้จะทำให้สัตรมีเลือดฝาดสมบูรณ์

    ยาบำรุงโลหิตที่น่าสนใจมี
    ยากำลังราชสีห์
    ยากำลังแสงพระอาทิตย์
    ยาปลูกโลหิต
    ฯลฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...