ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

***กราบขอบพระคุณอาจารย์สุวิมากมายค่ะ**

กระจ่างแจ้งทุกอย่างแล้วค่ะ บังเอิญอ่านเมล์ก่อนมาอ่านเว็บนี้จึงมีคำถามไปรบกวนอาจารย์อีก แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ ขอโทษอาจารย์ด้วยนะคะที่มีปัญหาเยอะจัง

**อาจารย์คะอุ๋ยมีก้อนโตที่ก้านคอตอนนี้ใครเห็นก็ทักว่ามันโต อาจารย์เคยบอกว่า
มันเป็นก้อนเลือดที่คั่งต้องนวดปรับสมดุล นอกจากการนวดอาจารย์พอจะมียาทามั๊ยคะ

 

แฟนผมเครียดกับทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ และหงุดหงิดง่าย ซึ่งเค้าก็รู้ตัว

ตอนนี้ทำงานเครียดตลอด ทำให้ 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดอาการหัวหมุน ทำให้เดินไม่ค่อยตรง ต้องหยุดเดิน หรือจับคนข้างๆ เป็นอาการชั่วขณะ แต่เป็นบ่อยๆ มาๆ หายๆ บอกเวลาไม่ได้

ต้องแก้ไขอย่างไรครับ ขอบคุณล่วงหน้า

 

ก้อนที่ก้านคอ ปกติเกิดจากเลือดลมคั่งอันเกิดจากเส้นเอ็นที่ยึดกระดูกคอเคลื่อน
นอกจากจะมีก้อนแล้ว ยังจะปวดลำคาญ มากบ้างน้อยบ้างที่ก้านคอ บางคนลามมาถึงบ่าและคอด้านหลัง บางคนปวดไปถึงฐานกระโหลก
ถ้าเกิดจากอาการนี้ ยาทาหรือกินไม่หายหรอกครับ ต้องนวดปรับดุลย์ภาพอย่างเดียว

 

ตัวยาที่จะช่วยแฟนคุณได้ที่สำคัญมี ๒ ตัว
๑. ยาปลูกเตโช
๒. ยาหอม ห้าเจดีย์ (หรือยาหอมอะไรก็ได้ที่แก้วิงเวียน หัวหมุน) กินครั้งละอย่างน้อย ๑/๒ - ๑ ช้อนชา

วิธีกิน ยาปลูกเตโช + ยาหอม อัตราส่วนอย่างน้อย ๑ : ๑ ผสมกัน(อาจ ๑ : ๒ ก็ได้)
ยาปลูกเตโช จะกินแบบเม็ดก็ได้(กินครั้งละ ๑ เม็ด) แต่ยาหอมต้องกินแบบผง ใช้ชงน้ำกิน
ใช้ดอกมะลิตากแห้ง ชงน้ำร้อน กรองเอาแต่น้ำ เป็นกระสายยา ละลายยาหอมกิน (ระวังดอกมะลิที่ฉีดยาฆ่าแมลง - กินแล้วหายเลยจะ -หายจากโลกนี้นะ)

กินยาอย่างน้อยวันละ ๓-๔ ครั้ง (ยาปลูกเตโช ไม่ควรกินเกิน วันละ ๔ เม็ด)
ส่วนยาหอมกินได้เรื่อยๆ วันละ ๔-๖ ครั้ง กินประมาณ ๑-๒ วันอาการก็ดีขึ้นแล้ว

ยังมีตัวยาช่วยอีก ๒ ตัว คือ(กินหรือไม่กินก็ได้)
กระชาย และใบบัวบก ทั้งสองอย่างมีทำแบบอัดแคปซูลขายในตลาดทั่วไป
ให้กินอย่างละ ๑ เม็ด วันละ ๑ ครั้ง พร้อมยาปลูกเตโช ๑ เม็ด ในเวลาเย็น หรือก่อนนอน

ทั้งหมดต้องกินนานประมาณ ๑ เดือนขึ้นไปจึงจะหาย
ให้ชงน้ำดอกคำฝอย + มะนาว +น้ำผึ้ง ๑ ช้อนชา กินบ่อยๆจะทำให้หายเร็วขึ้น

 

***ขอบคุณมากค่ะอาจารย์

อาการเป็นแบบที่อาจารย์บอกเลยค่ะ เบื่อมากเลยค่ะ แล้วการนวดปรับสมดุลต้องนวดกี่ครั้งคะ

 

ขอบพระคุณมากค่ะ มีอะไรที่วิพอจะหาไปฝากจารย์จาำกอังกฤษไหมคะ อาจจะเป็นพวกหนังสืออะไรที่จะมีประโยชน์ในการรักษาน่ะค่ะ หรืออาจจะเป็นขนมที่จารย์ชอบทาน มีน้ำหนักรวมกับลูก 40กิโลแต่ไม่มีอะไรจะถือไปมีแต่พวกขนมและช๊อกโกแล็ต ที่จะไปฝากเพื่อนๆ และเด็ก ๆเท่านั้นค่ะ

 

ไม่แน่ครับ บางคน ๓-๕ ครั้งก็หาย
แต่มีบางท่าน กาละให้ โอกาสเหมาะ ครั้งเดียวก็หายได้
บางท่าน ที่ไม่ยอมกัน ก็เพียงค่อยยังชั่วขึ้นพออยู่กันได้

ไม่ต้องงงกับสำนวนนะครับ เป็นเรื่องของลมเพลมพัดนะเอาแน่ไม่ได้
แต่ทุกคนที่มาหาผมจะมีอาการดีขึ้นทุกคน
แต่จะหายขาดหรือไม่ขึ้นอยู่กับ...ยอมกันหรือไม่

 

ขอบคุณมากครับ
ไม่ต้องหอบหิ้วพะรุงพรังให้มาก มีเพียงน้ำใจมาฝากก็ซึ้งมากแล้ว
เคยไปอเมริกาแล้วหอบหิ้วเหมือนไอ้บ้าหอบฟาง โอ้ กว่าจะเดินหลุดออกมาได้ แทบตาย
ขอบคุณอีกครั้งครับในไมตรี

 

สวัสดึค่ะ อ.สุวิ

อาจารย์กลับมาแล้วหรึอค่ะ
เสาร์-อาทิตย์นี้ อ.อยู่บ้านรึเปล่าค่ะ จะพาคุณแม่ไปนวดค่ะ...

 

เสาร์-อาทิตย์นี้ อยู่กรุงเทพฯครับ
จะมาโทรนัดเวลาที่แน่นอนอีกครั้ง

 

ได้รับยาแล้วค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากนะคะ คราวหน้าอาจารย์ส่งแบบ
ลงทะเบียนก็ได้ค่ะ (เกรงใจ) ;aa22


**อาจารย์มีโอกาสมานครปฐมบ้างมั๊ยคะ**

 

อาจารย์สุวิคะ ถ้าจะทานยาปลูกเตโช + ยาปรับตรีธาตุ และ ไพล แบบผง ทานพร้อมกัน คือชงทานร่วมกันจะดีหรือไม่คะ แล้วอาหารต้องห้ามมีไหมคะ

 

ทานร่วมกันได้ครับ อัตราส่วน ยาปลูกเตโช ๒ เม็ด ยาปรับตรีธาตุ ๑ เม็ด ไพล ๑ เม็ด (กินได้ตลอดครับ)
ถ้าใช้แบบผง แนะนำให้ ผสมยาก่อนตามอัตราส่วน แล้วตักยาที่ผสมแล้วประมาณ ๒ ช้อนชา เอามาผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนกินสะดวกสุด

***** อ้อ..ผสมไพลเพิ่มเป็น ๑-๒ ส่วน ผสมกินตอนก่อนมีประจำเดือน ประมาณ ๗-๑๐ วันนะและช่วงนี้ไม่ควรผสมยาปรับตรีธาต

อาหารต้องห้ามมี ของหมักดองทุกชนิด หน่อไม้

 

เทคนิค การใช้ยาปลูกเตโช ในโรคต่างๆ

 

เรียน อ.สุวิค่ะ
เป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก ประหลาดมาก เป็นแต่ขาซ้าย ถือว่าเป็นโรคใช้เวรใช้กรรม ก้อพอทำใจ แต่เมื่อต้นเดือน ต.ค. นี้ เป็นเกี่ยวกับกระดูกเสื่อม ไปโดนเส้นประสาท ทำให้มีอาการชาและปวดขาซ้าย แต่เดินได้ ก้อรักษาแผนไทย ทำกายภาพบำบัด ดึงหลัง กระตุ้นไฟ ประคบร้อน ไปเรื่อยๆ แล้วก้อทำงานไป รู้ทั้งรู้ว่างานที่ทำนี่ทำให้อาการไม่ดีขึ้นเท่าไร ต้องก้มๆเงยๆ ยกโน่น ยกนี่บางที ซึ่งก้อเลี่ยง ๆๆ แต่งานก้อต้องทำ ปวดก้อปวด ไปนวดแผนไทย กดจุดก้อไม่หาย อาจารย์พอจะแนะนำได้ไหมคะ เพื่อที่จะได้ทำงานได้เต็มที่เหมือนตอนก่อนมีอาการ นั่งสมาธิก้อไม่ค่อยไหว ปวด....... ขอขอบพระคุณอาจารย์มากมากค่ะ

 

เท่าที่พิจารณาดู อาการของคุณเกิดจากการเคลื่อนของกล้ามเนื้อเส้นเอ็นและกระดูก อันเกิดจากอริยาบถทีผิดท่า ซึ่งเกิดจากการทำงานซ้ำๆในท่าทางเดิมๆ

อาการดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการกินยา มันเพียงแต่ช่วยบันเทา เมื่อหมดฤทธิ์ยาก็มีอาการอีก
การบริหาร ท่าโยคะจะช่วยได้ แต่ต้องใช้ให้ถูกท่า ที่ใช้แก้อาการ หากใช้ท่าผิดอาการจะหนักขึ้น
การแนะนำท่าโยคะ คงต้องตรวจอาการดูก่อน ว่าลักษณะการเคลื่อนเส้นเอ็นและกระดูก มีลักษณะใด ไม่อาจแนะนำมั่งๆ

การนวดจัดกระดูก "ไคโรแพคติก" จะช่วยได้มาก หากได้ผู้ที่ชำนาญจริงๆ แต่ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง ค่อนข้างแพงมาก(1,500-2,500.-)

และหากอยู่ในกรุงเทพฯ โทรหาผมอาจช่วยคุณได้ ถ้าเวลาว่างตรงกัน

 

ท่านอาจารย์นอนยังอ่ะครับ ศิษย์มังกรมาขอความช่วยเหลือ คือ...งี้ครับจารย์

เมื่อวานผมออกไปเดินตามแบบของคุณโอม คือเดินขนลุกและหายใจแค่ลิ้นปี่

ยิ่งเดินก็ยิ่งมันส์ เพราะรู้สึกไม่เหนื่อย แต่...หลังจากการเดินสักพัก ผมได้นั่งลง

สักครู่แล้วลุกขึ้นยืน รู้สึกมีเสียงดังของเส้นเอ็น "กรึ๊บ" ดังแรงมาก และเจ็บ

เสียวแถวบริเวณด้านหลัง (ประมาณกึ่งกลางเอว จักรที่ 3) หลังจากที่เส้นเอ็นดังแล้ว

อ้ายเส้นที่ผมว่า มันกลับเปลี่ยนเป็นเส้นเย็น ๆ วาบ ๆ บอกไม่ค่อยถูก....คือพอดัง "กรึ๊บ"

แล้ว เส้นมันเปลี่ยนเป็นเย็นเดี๋ยวนั้นเลย

มาวันนี้ต้องหยุดเดินครับ เพราะยังเจ็บนิด ๆ อยู่ เลยแค่รอดูอาการ...กับพอดีผมมี

คนรู้จักที่เป็นโรคกระดูกทับเส้นปราสาท ซึ่งขณะนี้เขาผู้นั้นก็เดินหลังตรงไม่ได้ ต้องเดิน

หลังค่อม ๆ ไปตลอดชีวิต....คือที่ผมเรียนถามอาจารย์ก็อยากได้ความรู้เกี่ยวกับอาการ

เส้นเอ็นดังที่แจ้งมาครับ...กลัวต้องเดินหลังค่อม

 

เวลานั่งสมาธิ เหมือนมีเส้นสีแดง เป็นขีดตรง ๆ สั้น ๆ อยู่ในความมืด หลังจาก

นั้นอ้ายเส้นขีดแดง ๆ มันขยายวงกว้างขึ้นเลื่อย ๆ หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นเป็น

เส้นขีดตรง ๆ แต่คราวนี้เป็นสีน้ำเงิน และขยายวงกว้างเหมือนกัน...ทั้งสีแดงและ

น้ำเงินดูเหมือนกับจะเข้ามาผสมพันธ์กัน........เวลาผ่านไปสักครู่ เห็นดวงกลม

แสงขนาดเท่าลูกบอล สว่างมาก ลอยอยู่เหนือกระหม่อม สัก 2 วินาที แล้ว

หายไป ซึ่งเป็นคนละดวงกับที่ผมเคยโพสต์ไว้ในกระทู้ของคุณโอม

อุปทานมันเกาะอีกหรือเปล่าครับจารย์...มานชอบมาหลอกให้วัยรุ่นเซ็ง

(เกิดวันเดียวกับที่เส้นเอ็นดัง)

 

มังกรบูรพา

ถ้าเธอย้อนไปอ่าน เส้นสิบพิศดาร
เธอจะเห้นเส้นพลังงานที่แนบอยู่กับเส้นเอ็นที่สันหลังสองเส้น มีชื่อ ๑. อิทา ๒.ปิงคลา
ทั้งสองเส้นนี้เกี่ยวเนื่องกับสมอง และก้านสมอง และยังเกี่ยวเนื่องกับ สุริยันแลจันทราอีกด้วย
อิทา (ด้านซ้าย) เกี่ยวเนื่องและดูดซับพลังงานจาก จันทรามณี (ความเย็น)
ปิงคลา(ด้านขวา) เกี่ยวเนื่องและดูดซับพลังงานจาก สุริยะรัตมณี (ความร้อน)

ในทางเดินลมปราณ โดยเฉพาะประตูลม ในคนปกติอาจมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาฝังตัวซ่อนเร้นอยู่ ดูดกินพลังงานของเรา และปล่อยของเสียทิ้งไว้ให้เราชำระล้าง
เมื่อเรามีพลังมากพอ มันจะกระตุ้นให้เกิดพลังงานก้อนใหญ่ให้ผ่านสถานที่ปิดกั้นนั้นให้ปลอดโปรง
ตอนที่ทำนพทะลุทะลวงพังทลายย่อมมีเสียงดังเป็นธรรมดา เบาบ้างดังดุจฟ้าผ่าข้างหูบ้าง
ตอนทำนพพังทะลายอาจมีบ้างที่ทำให้กล้ามนื้อบริเวณนั้นเจ็บปวด วันสองวันก็หาย
ถ้าไม่หายในวันสองวัน แสดงว่ามีการบาดเจ็บต้องค้นให้เจอว่ากระดูกเส้นเอ็นเคลื่อนหนือไม่ แล้วทำการรักษาตัวเอง
ฤๅษีลีลาที่บอกเล่าไว้ คือขบวนการ ขบวนท่าที่ใช้ในการรักษาตนเอง
และความรู้ทั้งหมดที่สุวิใช้รักษาคนไข้ ล้วนมาจาก ฤๅษีลีลาทั้งสิ้น

ความเย็นวาบที่รู้สึก จะมาจากด้านซ้ายก่อนแล้วกระจายออกไป
ส่วนความร้อน จะเริ่มกระจายจากด้านขวา

ส่วนเส้นแสงสีแดงคือพลังจากมังกรไฟ(สุริยรัตมณี-ปิงคลา)
สีน้ำเงินเกิดจากมังกรน้ำ (จันทรามณี-อิทา)
ดูให้ดีๆตรงกลางระหว่าง สุริยันและจันทรา(เส้นสีแดง-น้ำเงิน)จะมีสิ่งขวางอยู่คล้ายๆเสาต้นหนึ่ง คล้ายเยื่อบางๆอันหนึ่ง

มังกรทั้งสองจะเข้าพัวพันกันกับเสาต้นนี้(เหมือนกับที่มังกรบูรพาเห็น)
เสาต้นนี้คือ สิ่งที่เรียกว่า สุมนานที (บนยอดเสามีหัวเสากลมๆด้วยนะ)
เยื่อบางๆที่เห็นจะเป็นตัวดูดซับหล่อหลอมสุริยันและจันทราเข้าด้วยกัน
ดูดซับพลังทั้งหมดเข้าสู่สุมนานที อันเป็นแม่น้ำใหญ่แห่งพลังชีวิตมนุษย์

 

อีก 2 เส้นที่อยู่ข้างจักระที่ 7 ไปอีกประมาณ 1 นิ้วเป็นเส้นอะไรครับพี่