ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข่าวสั้นจากหมอนิด

    [​IMG]


    ผมขอเตือนส่งท้ายถึงคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 102996.jpg
      102996.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.8 KB
      เปิดดู:
      1,692
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2008
  2. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
     
  3. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    คนไทย ชอบตำแหน่ง ชอบหน้าตาและทรัพย์พึงมีพึงได้จากการมีตำแหน่ง
    แต่มักไม่ดูว่าตัวมีความสามารถเหมาะสมหรือไม่

    ลูกชายตอนเขาอายุ ๑๒ บอกว่าหมดหวังกับคนไทย
    ถามว่าทำไมจึงพูดเช่นนั้น
    เขาบอกว่า คนไทยไม่ต้องการทำงานเป็นทีม
    เขาเล่นฟุตบอลกับลูกคนมีสตางค์ที่โรงเรียนในวิชาพลศึกษา
    ครูฝรั่งสอนให้ผ่านลูกอย่างไร ไม่มีัใครฟัง
    ทุกคนคิดแต่จะยิงประตูเสียเอง...

    ก็คงเห็นตัวอย่างจากผู้ใหญ่นั่นแหละ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัญญาณอันแท้จริง !(แห่งโลกยุคหน้า)

    [​IMG]

    "และสัญญาณอันแท้จริง !(แห่งโลกยุคหน้า) ได้ใกล้เข้ามาแล้ว ทันใดนั้นเอง มันก็ทำให้ดวงตาของพวกไร้ศรัทธาเหลือกถลน(พร้อมกับรำพึงว่า)โอ้ ! ความวิบัติแห่งเรา เพราะเราอยู่ในความหลงลืมจากวันนี้โดยแท้ ยิ่งกว่านั้นเราเป็นผู้ฉ้อฉล.." กุรอาน 21:97

    ต่อไปนี้คือลำดับเหตุการณ์ก่อนชั่วโมงสุดท้ายจะมาถึง ตามหะดิษของท่านนบีฯ โดย เชคอาลี อาลี มูฮัมมัด ได้รวบรวมไว้ใน 'อัซร็อตอัซซาอะห์' ดังต่อไปนี้

    สัญญาณเล็ก ได้แก่

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]- การมาของศาสดาคนสุดท้าย นั่นคือ ท่านศาสดามูฮัมมัด
    (ขอความสันติสุข จงประสบแด่ท่าน)
    - แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
    - ลมพายุจะรุนแรงมากขึ้น
    - ความตายจะดาษดื่น
    - มนุษย์จะแข่งขันกันประดับประดามัสยิด
    - คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก
    - คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจได้กลับถูกบิดพลิ้ว
    - การผิดประเวณี (ซินา) จะดาษดื่น
    - สุรา ดอกเบี้ย จะกลายเป็นสิ่งอนุมัติ
    - ในมัสยิดจะมีเสียงอึกทึก ครึกโครม
    - คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นแรก
    - ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นในทุกหัวระแหง
    - ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก
    - อุตริกรรม (บิดอะห์) จะปรากฎชัด
    - สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือนสตรี
    - สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย ความอายจะน้อยลง
    - ผู้ทุจริตได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง
    - ผู้คนจะอ่านอัลกุรอานกันเพียงลิ้น (ขาดการปฏิบัติตาม)
    - การนินทาให้ร้ายจะแพร่ขยาย
    - การสาบานด้วยสิ่งอื่น จากอัลลอฮจะมีมาก
    - การหย่าร้างจะเกิดขึ้นมาก
    - ความชั่วช้าเลวทรามจะปรากฎชัด
    - มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์กิเลสและตัณหาของตน
    - บุรุษจะถูกทำลาย เพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ
    - มนุษย์จะตัดขาดจากญาติมิตร
    - สมาธิของคนละหมาดจะหายไป
    - ประชาชาติจะแตกออกเป็น 70 กว่าจำพวก
    - วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งหนึ่งปีเสมือนหนึ่งเดือน และหนึ่งเดือนเสมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนกับหนึ่งวัน
    - การแต่งงานเกิดขึ้น เพราะสมบัติเป็นเหตุ
    - เรื่องราวของมนุษย์ที่ได้ยิน ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน
    - การตลาดจะฝืดเคือง
    - การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมีมากขึ้น
    - ความรับผิดชอบจะหายไป ความวุ่นวายสับสนจะแทนที่
    - ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก (ดุนยา)
    - หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี
    - ทานบังคับ (ซะกาต) ถูกนำมาจำหน่าย ค่าแรงและถูกมอบให้แก่ผู้ไม่มีสิทธิรับ
    - บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล
    - ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่จะขึ้นแสดงธรรม
    - เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก
    - คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณของพวกเขา
    - สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ
    - เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก
    - ความบริสุทธิ์จะหายไปจากการงาน
    - คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน
    - การพนันจะมีมาก
    - ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น (ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)
    - มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรก และหันเหออกจากการภักดีต่ออัลลอฮ
    - ผู้หญิงจะมีจำนวนมากกว่าผู้ชาย
    - อิสลาม จะเข้าไปทุกๆประตูบ้าน!

    สัญญาณใหญ่ ที่จะปรากฏขึ้นต่อมาได้แก่

    1.การปรากฏตัวของอิหม่ามมะฮุดี(ผู้นำทางด้านจิตวิญญาณ)
    2.การเกิดขึ้นของดัจญาล (ซาตาน)
    3.การกลับมายังโลกของนบีอีซา (เยซู)
    4.การปรากฏตัวของญะญูจญ์และมะญูจญ์..(ก๊อกและมาก๊อก)
    5.มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน (ดาบบะตุลอัรฏ)
    6.เกิดควันไฟมหึมาบนท้องฟ้า
    7.การขึ้นของดวงอาทิตย์ในทิศที่มันเคยตก (ทางด้านตะวันตก)

    รายละเอียดจากหลักฐาน (ฮะดิษ) ของท่านศาสดามูฮัมมัด
    (ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน) ได้กล่าวไว้ปรากฏดังนี้
    *อิมรอน บิน ฮูเซ็น กล่าวว่า ฉันได้อยู่กับท่านศาสนทูตของอัลลอฮ
    ขณะที่มีบางคนจากพวก ตามีม มาหาท่าน ซึ่งท่านศาสดาได้กล่าวว่า

    'จงรับฟังข่าวดีเถิด ลูกหลานของตามีม 'ซึ่งพวกเขากล่าวตอบว่า... 'ท่านได้ให้เราแล้วซึ่งข่าวดี ! ดังนั้นจงมอบให้กับเราซึ่งบางสิ่งเถิด'และมีผู้คนจากชาวเยเมน ได้เข้ามา และท่านศาสดาได้กล่าวว่า'จงรับฟังข่าวดีเถิด ผู้คนแห่งชาวเยเมน เนื่องจากลูกหลานของตามีมไม่ยอมรับมัน 'พวกเขากล่าวว่า 'เราได้ยอมรับแล้ว และเรามาท่านก็เพื่อจะได้มีความรอบรู้ในศาสนาและจะมาถามท่านเกี่ยวกับจุดกำเนิดของสิ่งนี้ว่าเป็นอย่างไร.?'

    ศาสดาได้กล่าวว่า ' พระองค์ทรงคงอยู่ ..และไม่มีสิ่งใดคงอยู่ก่อนพระองค์บัลลังก์ของพระองค์อยู่เหนือน้ำ จากนั้นพระองค์ทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดินและทรงจารึกทุกสิ่งไว้ในบันทึก' รายงานโดย บุคอรี

    *อุมัร กล่าวว่า ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ ได้ลุกขึ้นยืนท่ามกลางหมู่พวกเขาและได้เล่าให้พวกเขาฟัง ถึงการเริ่มต้นของสิ่งถูกสร้าง จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่ชาวสวรรค์จะได้เข้าสู่ที่พำนักของเขา และชาวนรกจะได้เข้าสู่ที่พำนักของเขาซึ่งบางคนก็จำกันได้ บางคนก็หลงลืม* …รายงานโดย บุคอรี

    *อบู ฮุรอยเราะฮ ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮได้จับมือฉันไว้และกล่าวว่า 'พระเจ้าทรงสร้างโลกในวันเสาร์ สร้างภูเขาในวันอาทิตย์สร้างต้นไม้ใน วันจันทร์ สร้างสิ่งที่น่าเกลียดในวันอังคาร สร้างแสงสว่างในวันพุธ ส่งสิงสาราสัตว์มายังโลกในวันพฤหัสบดีและได้สร้างอาดัม ในเวลาบ่ายแก่ ๆ ของวันศุกร์ นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายสำหรับการสร้างและเป็นเวลาชั่วโมงสุดท้ายของวัน(สิ้นโลกยุคเก่า) ระหว่างเวลากลางวันกับกลางคืน'..*…รายงานโดยมุสลิม

    *ท่าน อบู ฮุรอยเราะฮ ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'เมื่อเวลาสั้นเข้ามา ความรู้จะถูกถอนออกไป สงครามกลางเมืองจะปรากฏขึ้นความตระหนี่ถี่เหนียวจะถูกหว่านเข้าไปในหัวใจของผุ้คน และ ฮัรจฺ จะเกิดขึ้นอย่างดาษดื่น' ท่านได้ถูกถามถึงความหมายของคำว่า ฮัรจฺ ท่านกล่าวว่ามันหมายถึง การล่าสังหาร ' * ..รายงานโดยบุคอรี และมุสลิม

    *ท่าน อบู ฮุรอยเราะฮ ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'ยังพระองค์ที่ในพระหัตถ์ของพระองค์นั้นคือ วิญญาณของฉันโลกจะยังไม่จบสิ้น จนกระทั่งวันหนึ่งมาถึงยังมนุษยชาติ เมื่อฆาตกรจะไม่รู้ว่าเขาฆ่าไปทำไม หรือคนที่ถูกสังหารก็ไม่รู้ว่า ทำไม เขาจึงถูกฆ่า' ท่านถูกถามว่า มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ? ท่านได้ตอบว่า 'มันจะเกิดความยุ่งเหยิง และผู้ฆ่า และผู้ที่ถูกฆ่าจะไปนรก' รายงานโดยมุสลิม

    *ท่าน อบู ฮุรอยเราะฮ ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'ชั่วโมงสุดท้ายยังไม่มาถึง จนกว่าทรัพย์สินจะมีอย่างเหลือเฟือและท่วมท้น จนกว่าชายคนหนึ่งนำเงินซะกาต บนสมบัติของเขามาและหาผู้ใดจะมารับมันจากเขาไม่ได้ และจนกว่าแผ่นดินอาหรับจะกลายเป็นทุ่งหญ้าและแม่น้ำ' รายงานโดยมุสลิม

    หมายเหตุ อินชาอัลลอฮ ! มันใกล้เข้ามาแล้วที่ว่าแผ่นดินอาหรับจะกลายเป็นทุ่งหญ้าและแม่น้ำ เพราะเนื่องมาจากปัญหาภาวะโลกร้อน ช่างสมจริงตามที่ท่านรซูล ได้กล่าวไว้เลย !

    *ท่าน อนัส ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า 'สัญญาณน้อยที่สุดของชั่วโมงสุดท้าย จะมีไฟ ซึ่งรวบรวมมนุษยชาติมาจากตะวันออกและตะวันตก* รายงานโดยบุคอรี

    *ท่าน อาลี ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า 'เมื่อผู้คนของฉันทำสิบประการ การทดสอบจะถูกส่งมายังพวกเขาท่านได้จาระไนสิ่งเหล่านี้ แต่มิได้กล่าวถึงว่า การศึกษาจะถูกแสวงหาเพื่อวัตถุประสงค์อื่น นอกไปจากศาสนาท่านกล่าวว่า 'ลูกจะแสดงความกรุณาต่อเพื่อนของเขา และบอกปัดบิดาของเขา' และท่านได้กล่าวอีกเช่นกันว่า'การดื่มสุรา และการสวมใส่ผ้าไหม(ในหมู่ผู้ศรัทธาจะแพร่หลาย)* รายงานโดยติรมีซี

    *ท่าน อบู ฮุรอยเราะฮ ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'ชั่วโมงสุดท้ายจะยังไม่มาถึง จนกว่า ยูเฟรติส (แม่น้ำในอิรัค)จะเปิดเผยให้เห็นภูเขาทองคำ อันจะทำให้ผู้คนต่อสู้กัน เก้าสิบเก้าในร้อยคนของพวกเขาจะถูกสังหาร แต่ทุกคนในหมู่พวกเขาจะกล่าวว่า'บางทีฉันอาจจะเป็นคนหนึ่งที่หนีรอดไปได้' รายงานโดยมุสลิม

    ท่าน อนัส ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า 'ในหมู่สัญญาณแห่งชั่วโมงสุดท้าย ความรู้จะถูกถอนออกไป ความโง่เขลาจะแพร่ระบาด การล่วงประเวณีจะมีอย่างดาษดื่น การดื่มสุราจะเป็นที่แพร่หลาย จำนวนผู้ชายมีน้อย จำนวนผู้หญิงจะมีมาก ดังนั้นผู้หญิงห้าสิบคน จะมีผู้ชายเพียงคนเดียว คอยดูแลเหล่านาง'รายงานโดยบุคอรี และมุสลิม

    *ท่าน ญาบิร บิน ซามูรา ได้เล่าว่าได้ยิน ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'ก่อนที่จะถึงชั่วโมงสุดท้าย จะมีผู้โกหกที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นจงระมัดระวังพวกเขา'รายงานโดยมุสลิม

    *ท่าน ญาบิร บิน อับดุลลอฮ ได้เล่าว่า ไม่มีตั๊กแตนมาปรากฏให้เห็นเลยในระหว่างปีหนึ่งของการเป็น คอลีฟะฮฺ ของ ท่าน อุมัร ในปีที่ท่านเสียชีวิตและท่านรู้สึกเป็นห่วงกังวลอย่างมากในเรื่องนี้ ท่านได้ส่งม้าเร็วคนหนึ่งไปยังเยเมนอีกคนหนึ่งไปยังอิรัก และอีกคนหนึ่งไปยังซีเรีย เพื่อไปสอบถามดูว่ามีใคร?เห็นตั๊กแตนบ้างไหม? ม้าเร็วที่กลับมาจากเยเมนได้นำมันมาเต็มกำมือและโปรยมันไปต่อหน้าท่าน และเมื่ออุมัรได้เห็นแล้ว

    ท่านกล่าวว่า'อัลลอฮ ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด' และเล่าว่าได้ยิน ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'พระเจ้าผู้ทรงเกรียงไกร และทรงจำเริญ ได้ทรงสร้างสัตว์พันชนิด หกร้อยชนิดอยู่ในทะเล และสี่ร้อยชนิดอยู่บนพื้นดิน สัตว์ชนิดแรกที่จะสูญพันธ์คือตั๊กแตน และเมื่อมันสูญพันธ์แล้ว ชนิดอื่น ๆ ก็จะตามซึ่งกันและกันไป เสมือนลูกประคำที่ร้อยเชือกไว้' รายงานโดยไบฮะกี ในหนังสือ ชูอับ อัลอีมาน

    *ท่าน อบู กะตาดะ ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'สัญญาณ(วันสิ้นโลก)นี้จะมีมา ภายหลังจากสิ้นศตวรรษที่สอง' รายงานโดย อิบนิมาญะฮฺ

    *ท่าน อับดุลลอฮ บิน มัสอู๊ด ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'โลกนี้จะยังไม่ถึงกาลอวสาน จนกว่าอาหรับ จะถูกปกครองโดยชายคนหนึ่งของครอบครัวของฉัน ซึ่งชื่อของเขานั้น จะเหมือนกันกับชื่อของฉัน'รายงานโดยติรมีซี และอบูดาวูด เป็นผู้ถ่ายทอด

    *ท่าน อุมมุ ซะลามะฮ ได้เล่าว่าได้ยิน ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'มะฮดี จะมาจากครอบครัวของฉัน เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจาก ฟาติมะฮฺ' อบูดาวูด เป็นผู้ถ่ายทอด

    *ท่าน ยะฮ์ยา บิน อบีตอลิบ รายงานการรับฟังมาจาก อาลี บินอซิมจาก อตา บิน อัลซาอิบ จากบิดาของเขา จากอับดุลลอฮ บิน อุมัร ผู้ซึ่งเล่าว่าท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า 'ชั่วโมงสุดท้าย(กาลอวสานของโลก)จะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่า มะฮุดี จากผู้สืบสายของฉัน จะมาปรากฏตัว มะฮุดี จะยังไม่มาปรากฏ จนกว่าจะมีผู้โกหกจำนวนหกสิบคน มาปรากฏตัว ทั้งหมดของเขานั้นจะประกาศว่า 'ฉันเป็นศาสดาคนหนึ่ง'

    *ท่าน อบู สะอี๊ด อัลคุดรี ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า'มะฮุดี จะมาจากเชื้อสายของฉัน เขาจะมีหน้าผาก และจมูกโด่งเขาจะมาบรรจุโลกนี้ไว้ด้วยความเสมอภาค และความยุดิธรรม ดังที่มันเคยถูกบรรจุไว้ด้วยการกดขี่ ข่มเหง และจะมาปกครองเป็นเวลาเจ็ดปี**ถ่ายทอดโดย อบูดาวูด

    *ท่าน อบู สะอี๊ด เล่าว่าได้ยิน ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวถึงการทดสอบซึ่งจะบังเกิดขึ้นกับผู้คนที่นี้ ถึงกับว่าชายผู้หนึ่งจะไม่สามารถหาที่หลบซ่อนซึ่งเขาจะหนีไปให้พ้นจากการถูกกดขี่ โดยกล่าวว่า 'พระเจ้าจะทรงส่งชายผู้หนึ่งจากลูกหลานและครอบครัวของฉัน โดยที่เขาจะมาเป็นผู้บรรจุโลกนี้ไว้ด้วยความเสมอภาค และความยุติธรรม ดังที่มันได้เคยถูกบรรจุไว้ด้วยการกดขี่ข่มเหงบรรดาผู้ที่อยู่บนชั้นฟ้า และบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่บนพื้นพิภพจะยินดีปรีดากับเขา ฟ้าจะไม่หยุดยั้งที่จะให้น้ำฝนของมัน แต่มันจะหลั่งลงมาอย่างท่วมท้นและโลกก็จะไม่หยุดผลิตพืชพันธุ์ของมัน แต่จะงอดเงยดังกับว่าผู้ที่มีชีวิต อยากให้คนตายฟื้นคืนชีพ ในช่วงเวลาเจ็ดแปด หรือเก้าปี* โดยฮะกีม เป็นผู้ถ่ายทอด

    *ท่าน ญะอฺฟัร (อัซซาดิก) ได้รับฟังจากบิดาของเขา(มุฮัมมัด บากิร) ว่าคุณปู่ของเขา (อาลี บิน อัลฮุซเซ็น ซัยนุ้ลอาบีดีน) ได้รายงานว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ กล่าวว่า 'จงปิติยินดี และจงปิติยินดีอีกผู้คนของฉันนั้นเปรียบเสมือนฝน มันไม่อาจรู้ได้ว่าตอนสุดท้าย หรือตอนแรกของมันจะดีกว่ากัน หรือมันเปรียบเสมือนสวน ๆ หนึ่ง ซึ่งจากมันนั้นกองทหารกองหนึ่ง สามารถใช้เลี้ยงดูกองทัพได้เป็นเวลาปีหนึ่ง

    จากนั้นกองทัพอีกกองหนึ่ง ก็สามารถใช้เลี้ยงดูกองทัพได้เป็นเวลาอีกปีหนึ่ง และบางทีกองทัพสุดท้าย ซึ่งจะมานั้นอาจจะกว้างขวางที่สุด ลึกที่สุด และสวยงามที่สุดผู้คนจะหดหายไปได้อย่างไร ซึ่งเมื่อฉันเป็นคนแรก มะฮฺดี เป็นคนกลางและมะซีฮะ (นบีอีซา) เป็นคนสุดท้าย แต่ในช่วงเวลานั้น จะมีบุคคลหนึ่งที่คดโกง ซึ่งเขามิได้เป็นของฉัน และที่ซึ่งฉันก็มิได้เป็นของเขาถ่ายทอดโดยฮาซิม

    **ในระกว่างการสร้างอาดัม กับการมาของชั่วโมงสุดท้ายนั้น ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นเรื่องร้ายแรงมากไปกว่า ดัจญาล**.

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=355312

    ยุคทองของพระมะฮุดี
    (จากบันทึกในศาสนาอิสลาม)

    [​IMG]

    การมาของมะฮฺดีจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างต่อมวลมนุษย์และโลก ?

    เราจะมาหาคำตอบสำหรับคำถามนั้นในภาพยนตร์ของเรา เราจะมาดูกันว่าจะมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นในโลกบ้าง หลังจากการมาปรากฏกายของมะฮฺดี และมาสำรวจดูลักษณะของช่วงเวลาที่ถูกเรียกว่า “ยุคทอง” กัน ยุคทองคือช่วงเวลาที่มะฮฺดีทำให้หลักคำสอนอันมีคุณค่าจากอัล-กุรอานแพร่หลายออกไป และประชาชาติได้มาพบกับการศรัทธาที่แท้จริง การพัฒนาทั้งสองด้านนี้จะทำให้เกิดผลทางกายอย่างมากมายขึ้นในยุคทอง ความปลอดภัย ความมั่นใจ และความยุติธรรมจะถูกสถาปนาขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ มวลมนุษย์จะทิ้งความเสียหายทางเศรษฐกิจเอาไว้ข้างหลัง จะไม่มีใครขัดสนและยากจนอีกต่อไป และผู้ที่ขอจะได้รับมากกว่าที่เขาขอ จะมีความอุดมสมบูรณ์อย่างชนิดที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน และสินค้าจะถูกแจกจ่ายไปให้แก่ผู้ที่ขอทุกคน โดยไม่จำเป็นต้องคำนวณนับเลย

    ลักษณะที่เด่นอีกอย่างของเวลานี้คือ สงครามและความขัดแย้งจะจบสิ้นลง บรรยากาศแห่งความสงบสุขและมิตรภาพจะพัฒนาขึ้น ระหว่างชุมชนที่เป็นศัตรูกัน ในช่วงเวลานี้มนุษย์จะได้รับประโยชน์จากคุณค่าของเทคโนโลยีทั้งหมด และการพัฒนาทางเทคโนโลยีจะถูกนำมาใช้เพื่อความสะดวกง่ายดาย เพื่อความสนุกสนานและการพักผ่อนของมนุษย์ จะมีการเปิดศักราชใหม่ในวงการแพทย์ การเกษตร การสื่อสาร เทคโนโลยีทางอุตสาหกรรมและการขนส่ง นับเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่สำหรับมุสลิมทุกคน ที่ได้รับรู้ข่าวอันน่ายินดีแห่งช่วงเวลาเป็นสุขนี้ ยุคที่เจริญรุ่งเรืองจะผ่านมาด้วยการมาของมะฮฺดี และหลักธรรมคำสอนอันประเสริฐที่จะเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าหลักคำสอนนั้น คือ หลักคำสอนจากอัล-กุรอาน

    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2008
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การปะทะกันของสองความเชื่อ

    [​IMG]

    การสู้รบกันฆ่ากันในสงครามใหญ่น้อยที่คนตายและบาดเจ็บนับล้าน ๆ คนในอดีต มาจากความขัดแย้งในเรื่องความเชื่อและอุดมการณ์เกือบทั้งสิ้น ที่แก่งแย่งทรัพยากรธรรมชาติและเพราะความขัดแย้งอื่น ๆ มีน้อย ดังนั้น จึงมีความพยายามหลีกเลี่ยงถกเถียงกันในเรื่องความเชื่อและศาสนา เพราะอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและทำร้ายกันได้ ​

    ในประวัติศาสตร์ คนส่วนใหญ่รู้เรื่องสงครามครูเสดซึ่งเป็นสงครามสู้รบกันนับร้อยปีระหว่างผู้ที่มีความเชื่อในศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม ซึ่งนักเขียนบางคนได้เขียนถึงการปะทะกันระหว่างสองอารยะธรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก โดยเฉพาะในปลายคริสตศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 ที่ความระแวงสงสัยกันระหว่างคนสองศาสนาเริ่มแผ่ขยายมากขึ้น และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครปรารถนาหากผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายไม่หาทางป้องกันไว้ก่อน ​

    ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมา การก่อการร้ายขนาดใหญ่โดยกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะเหตุการณ์ 9-11 การต่อสู้ในอัฟกานิสถาน อิรัก เชซเนีย ฯลฯ ขยายตัวกว้างขวางมากขึ้น จนหลายฝ่ายวิจารณ์การกระทำดังกล่าวของกลุ่มหัวรุนแรงที่พยายามอ้างศาสนา ในขณะที่หลายฝ่ายเห็นว่าเป็นการบิดเบือนศาสนา มีการตอบโต้กันผ่านสื่อในหลายโอกาส เช่น การทำภาพการ์ตูนล้อเลียนผู้นำศาสนาอิสลามโดยนักเขียนชาวคริสต์ เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น ​

    เมื่อปี 2549 พระสันตปาปาองค์ปัจจุบัน ยังเคยกล่าวระหว่างเสด็จเยอรมนีซึ่งพาดพิงคำสอนของผู้นำศาสนาอิสลามว่าสนับสนุนให้ใช้กำลังในการเผยแพร่ศาสนา ทำให้คนมุสลิมทั่วโลกมีปฏิกิริยาต่อต้านอย่างกว้างขวาง องค์กรอิสลาม 38 องค์กรทั่วโลกได้ส่งจดหมายประท้วง จนพระสันติปาปาต้องเรียบออกมากล่าวขอโทษโดยอ้างว่า พระองค์เพียงต้องการบอกว่า ศาสนาและความรุนแรงไปด้วยกันไม่ได้ แต่ศาสนาและเหตุผลไปด้วยกันได้ ต่อมา พระสันตปาปาไปเยือนตุรกีเพื่อทำความเข้าใจกับประเทศอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง ​

    อย่างไรก็ดี เมื่อตุลาคม 2550 พระสันติปาปาได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมระหว่าง นักบวชอาวุโสของศาสนาอิสลามและคริสต์ครั้งแรกเพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกัน และสร้างสันติภาพแห่งโลก โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 คณะทำงานสองฝ่ายได้เตรียมงานประชุมครั้งสำคัญในปลายปี และในวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2551 โรมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างนักบวชคริสต์และมุสลิมเป็นครั้งแรก ​

    โดยมีคณะผู้แทนระดับสูงของอิสลาม 138 คนจาก 43 ประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มสุหนี่ ชีอะ ซูฟีและอื่น ๆ เดินทางมาเยือนกรุงโรมซึ่งถือว่าไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักเพื่อมาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและหาจุดร่วมกันระหว่างสองศาสนาที่ใหญ่ที่สุด ( คริสต์ 2,000 ล้านคน ส่วนมุสลิม 1,300 ล้านคน) เพราะศาสนาทั้งสองนับถือพระเจ้าองค์เดียวกัน และเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น และได้รับการสอนว่า ต้องรักเพื่อนบ้านเหมือนกับรักตัวเอง ​

    ถ้าสองศาสนาใหญ่เข้าใจกันได้ดี ก็จะขยายไปยังกลุ่มผู้นับถือศาสนายูดายซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกยิวด้วย เพราะต่างก็มีพระเจ้าองค์เดียวกัน เพียงแต่อาจเข้าใจพระเจ้าไปคนละอย่าง อีกทั้งมุสลิมไม่ยอมรับเรื่องพระบิดา พระบุตร และพระจิต ตามความเชื่อของชาวคริสต์​

    อย่างไรก็ดี นอกจากพูดคุยกันเรื่องศาสนาแล้ว ผู้นำศาสนาคริสต์ยังได้พูดถึงเสรีภาพในการนับถือศาสนาในประเทศที่มีมุสลิมเป็นคนส่วนใหญ่ สิทธิที่เท่าเทียมกันของสตรี การกดขี่คนศาสนาอื่น รวมทั้งเรื่องประชาธิปไตยด้วย ศักดิ์ศรีของมนุษย์และการเคารพซึ่งกันและกันซึ่งเชื่อว่าผู้นำมุสลิมหลายประเทศคงไม่เห็นด้วยในหลายเรื่อง ทำนองมาพบกันเพื่อ "ตกลงว่าไม่ตกลง"​

    ผู้นำศาสนาทั้งสองได้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการลดความเข้าใจผิด และหันมาสร้างความใจอันดีระหว่างกันระหว่างศาสนาและวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ทั้งสอง ซึ่งทำความสบายใจให้กับชาวโลกทั้งที่นับถือศาสนาคริสต์และอิสลาม และคนที่นับถือศาสนาอื่น เพื่อไม่ให้กลุ่มหัวรุนแรงนำศาสนามาอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมในการก่อการร้าย โดยที่เห็นว่า การก่อการร้ายที่ระบาดไปทั่วโลกในปัจจุบันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามแต่อย่างใด แต่มีคนพยายามเอาศาสนามาตีความบิดเบือนเพื่อสนับสนุนการกระทำของตน ทำให้ความบริสุทธิ์ของศาสนาถูกกระทบ ​

    บทวิเคราะจากหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อิสราเอลกับภัยคุกคาม

    [​IMG]
    นางทซีปี ลิฟนี่ ว่าที่นายกรัฐมนตรีประเทศอิสราเอล

    ตัวละครสำคัญตัวหนึ่งในเวทีการเมืองและความมั่นคงในตะวันออกกลางหนีไม่พ้นอิสราเอลประเทศเล็กๆ ซึ่งถูกล้อมกรอบโดยประเทศอาหรับที่ตั้งใจจะบดขยี้อิสราเอลให้ได้ เพราะฉะนั้นเป้าหมายของอิสราเอลคือ จะทำอย่างไรเพื่อให้อยู่รอดท่ามกลางศัตรูทุกด้าน ยกเว้นด้านที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเท่านั้น

    คนยิวตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาดูโลกต้องเจอกับสภาวะสงครามแล้ว เพราะฉะนั้นคนยิวซึ่งมีอยู่ 6.65 ล้านคน ทุกคนไม่ว่าผู้ชายผู้หญิงต้องเป็นทหาร ยกเว้นเด็กเล็กกับคนแก่มากๆ เท่านั้น กำลังทหารมีทั้งหมด 605,000 คน​

    เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอาหรับที่ล้อมรอบ ไม่ว่าจะเป็นอียิปต์ จอร์แดน เลบานอน ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย อิสราเอลมีทั้งจุดที่แข็งกว่าและจุดอ่อนกว่า แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ มีประชากรเพียง 6.65 ล้านคน ในขณะที่อียิปต์มี 70.7 ล้านคน ซีเรียมี 17.15 ล้านคน อิหร่านมี 66.62 ล้านคน ซาอุดีอาระเบียมี 23.5 ล้านคน แต่ขนาดทางเศรษฐกิจของอิสราเอลใหญ่ถึง 99.5 พันล้านดอลลาร์ เป็นที่สองรองจากซาอุดีอาระเบียซึ่งมีจีดีพีถึง 139.3 พันล้านดอลลาร์ และอิหร่าน 113.7 พันล้านดอลลาร์ เพราะสองประเทศนี้ส่งออกน้ำมันทำรายได้หลักเข้าประเทศ ​

    คนยิวมีรายได้ต่อหัวเฉลี่ยคนละ 15,000 ดอลลาร์ มากที่สุดเหนือกว่าคนซาอุฯ และคนอิหร่านด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับอัตราการรู้หนังสือของคนยิวโดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 95 สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

    หากพูดถึงกำลังรบซึ่งเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะเมื่อเกิดสงคราม อิสราเอลมีกำลังทหาร 605,000 คน พอฟัดพอเหวี่ยงกับอิหร่านซึ่งมี 665,000 คน เมื่อพูดถึงอาวุธแล้ว อิสราเอลมีเครื่องบินรบ 474 เครื่อง ยังเป็นรองอียิปต์ (585) ซีเรีย (589) แต่มีเฮลิคอปเตอร์มากที่สุด มีรถถังซึ่งใช้ในทะเลทราย 4,300 คัน เป็นรองแค่ซีเรียซึ่งมี 6,000 คัน มีเรือรบ 51 ลำ รองจากอิหร่าน 68 ลำ รวมทั้งมีเรือดำน้ำ 3 ลำ ​

    จุดแข็งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นยังไม่รวมจุดแข็งที่สุดที่คนอื่นมีน้อยคือ คนยิวมี "สมอง" ในทุกด้าน "คุณภาพ" ของคนยิวเหนือกว่าคนอาหรับเพื่อนบ้าน คนยิวค้าขายเก่งแบบคนจีน จนถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อค้าหน้าเลือด คนยิวเปลี่ยนทะเลทรายให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่เขียวชอุ่ม คนยิวรบในสงครามขนาดใหญ่มาแล้ว 3 ครั้ง ชนะทุกครั้ง ที่ยังกินกันไม่ค่อยลงนักคือซีเรีย

    จุดอ่อนที่สุดของอิสราเอลคือ พื้นที่ของประเทศที่เล็กนิดเดียว มีลักษณะเรียวยาวจากเหนือลงใต้ ส่วนที่แคบที่สุดที่ถูกโจมตีได้ง่ายอยู่ในรัศมีปืนใหญ่ 20 กิโลเมตรเท่านั้น ​

    ประเทศอาหรับสามารถที่จะยิงปืนใหญ่จากที่สูงคลุมพื้นที่ของอิสราเอลในสมัยที่ยังไม่มีการพัฒนาขีปนาวุธ ดังนั้น อิสราเอลจึงต้องยึดพื้นที่จากเพื่อนบ้านเพิ่มเติม ยึดที่สูงข่ม เช่น ที่ราบสูงโกหร่านที่ซีเรียเอาปืนใหญ่ไปตั้งและยิงถล่มอิสราเอลเสมอ เพื่อให้พ้นจากรัศมีปืนใหญ่ ปัจจุบันทุกตารางนิ้วของอิสราเอลตกเป็นเป้าหมายทำลายของขีปนาวุธจากรัฐอาหรับที่ยังตั้งตัวเป็นศัตรูกับอิสราเอล เช่น อิหร่าน ซีเรีย อิรัก แม้ปัจจุบันอิรักซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญที่สุดและเคยยิงจรวดถล่มอิสราเอลมาแล้ว ถูกสหรัฐฯ ส่งทหารไปยึดครองไว้แล้วก็ตาม ยังเหลือซีเรียและอิหร่าน ​

    จรวดสกั๊ดจากซีเรียมีรัศมียิงเมืองใหญ่ๆ ในอิสราเอล และใช้เวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น จรวดชีฮับ-3 ของอิหร่านสามารถยิงถึงอิสราเอลได้ภายใน 10 นาที ​

    สู้กับศัตรูแบบหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างที่คนไทยพูดไว้เห็นทีจะไม่รอดแน่ๆ ดังนั้น ประการแรกอิสราเอลจึงต้องหาคนตัวใหญ่หนุนหลัง นั่นคือสหรัฐฯ ประการที่สองต้องหาทางเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรโดยมีสหรัฐฯ ช่วยเหลือ และประสบความสำเร็จไปแล้วกับอียิปต์ จอร์แดน ​

    ล่าสุดคือเลบานอน ส่วนอิรักก็หมดสภาพไปแล้ว ยังเหลืออยู่เพียงอิหร่านกับซีเรียเท่านั้นที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายปาเลสไตน์และเลบานอนให้โจมตีอิสราเอลอยู่เนืองๆ ​

    ถ้าอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ได้ จะเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่ออิสราเอล ยิวคงไม่รอให้อิหร่านผลิตนิวเคลียร์ได้ สิ่งที่อิสราเอลจะทำคือ ส่งเครื่องบินรบไปโจมตีโรงงานผลิตนิวเคลียร์เสียก่อน เช่นที่เคยทำมาแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตามหลักนิยมการรบของอิสราเอลคือ ชิงโจมตีก่อน แบบคนตัวเล็กขอต่อยก่อน แล้วถอยไปแอบอยู่ข้างหลังผู้ใหญ่คือสหรัฐฯ

    สหรัฐฯ และอิสราเอลมีผลประโยชน์ร่วมกันต่ออิหร่านและซีเรีย นั่นคือต่อต้านการก่อการร้ายที่อิหร่านและซีเรียสนับสนุน และไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ เพราะกลัวว่าอาวุธดังกล่าวอาจตกไปอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้ายเอามาโจมตีสหรัฐฯ และอิสราเอล ​

    แต่ที่สิ่งที่สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้อิหร่านหรืออิรัก หรือประเทศอิสลามหัวรุนแรงมีอาวุธนิวเคลียร์ เพราะเกรงว่าอิสราเอลจะอ้างความชอบธรรมในการมีอาวุธนิวเคลียร์อย่างเปิดเผย ในเมื่อเป็นที่รู้กันดีว่าอิสราเอลจะผลิตอาวุธนิวเคลียร์เมื่อไรก็ได้ ​

    ถึงตอนนั้นสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะเสี่ยงต่อการเกิดสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาของประเทศในภูมิภาคและนอกภูมิภาค

    บทวิเคราะจากหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ (วันอังคาร 22 มีนาคม 2548)

    ที่มา http://www.the-thainews.com/analized/inter/int220348_1.htm
    <DD>

    </DD>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2008
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตลาดโรงเกลือวุ่น เขมรไม่รับแบงก์พันไทย

    [​IMG]

    สระแก้ว 20 ธ.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ธ.ค.) บรรดาพ่อค้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    21 ธ.ค. 51

    เมื่อเดือนที่แล้วเห็นช้างสามเศียร 2 เชือก มาท่องเว็บนี้ หายไปไหนแล้วครับ? ขอเชิญมาให้ความรู้กับเพื่อนสมาชิกด้วยกัน
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2008
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กรมอุตุฯ สหรัฐเตือนประชาชนระวังพายุหิมะลูกใหม่

    [​IMG]

    21 ธ.ค.-จากสภาพอากาศเลวร้ายทั่วทั้งประเทศทำให้สหรัฐต้องประกาศเตือนผู้คนให้หลีกเลี่ยงการใช้ยวดยานและท้องถนน

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่า ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐวอชิงตัน มีสภาพอากาศเลวร้ายอย่างมากและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้คนได้ นอกจากนี้ ยังได้ประกาศเตือนให้ผู้คนระวังพายุหิมะลูกใหม่ที่กำลังจะเข้ามาอีกด้วย จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากพายุหิมะแล้ว 1 คน การเดินทางทางอากาศต้องล่าช้า ถนนหนทางหลายสายถูกหิมะปกคลุมจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ผู้คนหลายพันคนในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และบางคนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้มากว่า 1 สัปดาห์แล้วท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น

    ทางการรัฐมินนิโซตา และ ไอโอวา ต้องประกาศเตือนให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการใช้ท้องถนน เนื่องจากพายุหิมะและกระแสลมแรงทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจำนวนมาก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐยังได้ประกาศเตือนพายุหิมะในรัฐมินนิโซตา ไอโอวา และ ดาโคตา ด้วย ขณะที่พื้นที่บางส่วนของรัฐมินนิโซตา เซาท์ดาโคตา มีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสแล้ว ส่วนที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เนวาดา และ แอริโซนา ยังคงตกอยู่ในสภาพเลวร้ายเช่นกัน หิมะตกหนักอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงหลายพื้นที่ในรัฐอิลลินอยส์ อินเดียนา มิชิแกน วิสคอนซิน นิวยอร์ก และ เพนซิลเวเนีย.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 12:17:47

    หิมะพัดกระหน่ำภาคเหนือจีน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 21 ธ.ค. – หิมะและสภาพอากาศหนาวเย็นพัดเข้าสู่ภาคเหนือของจีน ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนนับหมื่น

    สำนักอุตุนิยมวิทยาจีนรายงานว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีอุณหภูมิลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เช่นเดียวกับหลายมณฑลในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ซึ่งเกิดน้ำค้างแข็งและหิมะตกหนัก โดยคาดว่า สภาพอากาศหนาวเย็น รวมทั้งหิมะและน้ำค้างแข็งจะเข้าสู่พื้นที่ในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในอีกสองวัน

    ด้านสถานีโทรทัศน์จีนรายงานว่า ที่เมืองเทียนจิน ติดกับกรุงปักกิ่งนั้น หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้ต้องระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่ท่าอากาศยานนานาชาติปินไห่ รวมทั้งต้องปิดถนนและทางรถไฟ อนึ่ง สภาพอากาศหนาวเย็นผิดฤดูและพายุหิมะซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในภาคกลางและภาคใต้ของจีนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 ราย ทั้งยังสร้างความเสียหายต่อระบบขนส่ง ไฟฟ้าและประปา โดยคาดว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบหลายล้านคน.- สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 15:22:06

    เหตุจลาจลที่กรีซเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้ว

    [​IMG]

    เอเธนส์ 21 ธ.ค.- เหตุจลาจลตามท้องถนนในกรีซยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองทวีความตึงเครียดเพราะรัฐสภาเตรียมลงมติร่างงบประมาณในวันนี้

    การปะทะกันระหว่างวัยรุ่นและตำรวจขยายวงรุนแรงขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากประชาชนหลายร้อยคนชุมนุมกันที่เขตเอ็กซาร์เชียในกรุงเอเธนส์ จุดที่วัยรุ่นชายวัย 15 ปีถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมและกลายเป็นชนวนเหตุประท้วงมาจนถึงขณะนี้ ผู้ประท้วงที่ยึดมหาวิทยาลัยเอเธนส์โปลีเทคนิคขว้างระเบิดเพลิงและก้อนหินใส่ตำรวจ ทำให้ตำรวจตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศมีการทุบทำลายรถตำรวจ อาคารรัฐบาลและธนาคาร
    กลุ่มสหภาพแรงงานเพิ่มแรงกดดันรัฐบาลฝ่ายขวาก่อนที่รัฐสภาจะออกเสียงพิจารณาร่างงบประมาณในวันนี้

    รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีคอสตาส คารามานลิส ต้องการลดหนี้สาธารณะที่สูงถึงร้อยละ 93.9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) รัฐบาลเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเฉพาะปี 2552 จะต้องชำระหนี้ 12,000 ล้านยูโร (ราว 600,000 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 19 ของรายได้ และเกือบร้อยละ 5 ของจีดีพี เหตุประท้วงที่ยืดเยื้อยังทำให้พรรคฝ่ายค้านมีคะแนนนิยมเหนือพรรคประชาธิปไตยใหม่ของนายคารามานลิสร้อยละ 38.5 ต่อ 32.5.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 19:33:13

    ชาวซิมบับเวหลายล้านคนเผชิญภาวะอดอยาก

    [​IMG]

    ซิมบับเว 21 ธ.ค. - ชาวซิมบับเวหลายล้านคนกำลังเผชิญสภาพความอดอยาก ภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ้

    โทรทัศน์สกายนิวส์ของอังกฤษ รายงานสถานการณ์ในซิมบับเว ระบุ ชาวบ้านหลายล้านคนโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ กำลังเผชิญภาวะอดอาหารและวิกฤติด้านมนุษยธรรม ภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ้ ภาพจากโทรทัศน์เผยให้เห็นความพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดของชาวบ้าน ท่ามกลางอาหารเพียงน้อยนิด ชาวบ้านหลายคนหิวโหยจนออกไปหาอาหารกันไม่ไหว ขณะที่โรคท้องร่วงซึ่งเกิดจากอาหารเป็นพิษ ยังทำให้ชาวบ้านป่วยและล้มตายกันจำนวนมาก

    รายงานของสหประชาชาติ ระบุมีผู้เสียชีวิตจากโรคท้องร่วงแล้ว 1,123 ราย ล้มป่วยมากกว่า 20,000 คน. -สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 01:03:23

    นายกฯ เยอรมนีเตือนเศรษฐกิจปีหน้าทรุดหนัก

    [​IMG]

    เบอร์ลิน 21 ธค. - นางอังเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวเตือนว่า สถานการณ์เศรษฐกิจปี 2552 จะยิ่งเลวร้ายหนักกว่าเดิม โดยเตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ในเดือนมกราคมเพื่อแก้ปัญหาการว่างงาน

    ผู้นำเยอรมนี กล่าวว่า ทุกวันนี้มีบริษัทที่ประสบปัญหาทางการเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการให้มากขึ้น และจะมีแผนเศรษฐกิจต่อไปในเดือนมกราคม หลังจากที่ นางแมร์เคิล เผชิญกับเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลเยอรมนีไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีแมร์เคิล กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวัง และต้องสร้างงานใหม่ด้วย .-สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 09:57:41

    ภูเขาไฟระเบิดช่วยให้เขตร้อนเย็นลงในช่วง 450 ปีที่ผ่านมา

    [​IMG]

    ปารีส 21 ธ.ค.- ผลการศึกษาพบว่า ภูเขาไฟระเบิดช่วยให้พื้นที่เขตร้อนมีอุณหภูมิเย็นลงเป็นครั้งคราวในช่วง 450 ปีที่ผ่านมา เพราะได้พ่นเถ้าถ่านที่ช่วยปกคลุมชั้นบรรยากาศโลกและช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์กลับออกไป

    ผลการศึกษาของคณะนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยโรซานน์ ดาร์ริโก จากหอดูดาวลามอนท์โดเฮอร์ตี้ในสหรัฐช่วยสนับสนุนการวิจัยก่อนหน้านี้ที่ว่า ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ เช่น กรากาตั้วในอินโดนีเซียปี 2426 ช่วยให้โลกเย็นลงในระดับหนึ่ง พวกเขาวิเคราะห์อุณหภูมิมหาสมุทรตั้งแต่ 30 องศา ใต้เส้นศูนย์สูตรขึ้นไปจนถึง 30 องศาเหนือเส้นศูนย์สูตร รวบรวมบันทึกข้อมูลอุณหภูมิย้อนกลับไปเกือบ 500 ปี

    จากแหล่งสำคัญ 3 แห่งคือแกนน้ำแข็ง วงปีของต้นไม้และแนวปะการังพบว่า ช่วงที่ผิวน้ำมหาสมุทรระดับความลึก 1 เมตร มีอุณหภูมิเย็นลงคงที่นานที่สุดคือช่วงต้นคริสต์ศักราชปี 1800 หลังจากภูเขาไฟตัมโบราบนเกาะซุมบาวาของอินโดนีเซียระเบิด ภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดเมื่อปี 2358 รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ พ่นหินหลอมละลายออกมามากถึง 50 ลูกบาศก์กิโลเมตร

    อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ระหว่างภูเขาไฟระเบิดกับอุณหภูมิผิวน้ำมหาสมุทรเย็นลงเริ่มเห็นไม่ชัดเจนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพราะโลกร้อนขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล.. -สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 18:18:10

    ระบบอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศได้รับการซ่อมแซมแล้ว

    [​IMG]

    ปารีส 21 ธค. - บริษัท ฟรานซ์ เทเลคอม แถลงว่า เรือฝรั่งเศสพาคณะเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมเคเบิลใต้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เสียหายจนใช้การไม่ได้ หลังส่งผลให้ระบบโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ขาดการติดต่อไปทั่วตะวันออกกลาง และเอเชีย

    อียิปต์เป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อวันศุกร์ แต่สำนักข่าวมีนาของทางการอียิปต์ รายงานว่า ระบบการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตจะกลับมาให้บริการได้ตามปกติในวันนี้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานอินเทอร์เน็ตขัดข้องในประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย ปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ แต่ส่วนใหญ่กลับมาให้บริการตามปกติในวันเสาร์

    ทั้งนี้ ประเทศหลายสิบแห่งดำเนินการระบบเคเบิลดังกล่าวร่วมกัน ซึ่งเคเบิลแรกมีความยาวเป็นระยะทาง 40,000 กิโลเมตร และเชื่อมต่อ 33 ประเทศ ส่วนอีกเคเบิลที่สองมีความยาว 20,000 กิโลเมตร และให้บริการใน 14 ประเทศ เจ้าหน้าที่เครือข่ายผู้ให้บริการของรีไลเอินซ์ คอมมิวนิเคชั่น โทษว่า ระบบเคเบิลอาจเสียหายจากการถูกสมอเรือที่ผ่านเมืองท่าอเล็กซานเดรีย ของอียิปต์ ซึ่ง บริษัท ฟรานซ์ เทเลคอม ระบุว่า อาจเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 09:38:18

    ทางการมาเลเซียให้ชาวบ้านบางส่วนกลับบ้านได้ หลังเกิดดินถล่ม

    [​IMG]

    มาเลเซีย 21 ธ.ค. - ทางการมาเลเซียอนุญาตชาวบ้านบางส่วนกลับเข้าพื้นที่ประสบภัยดินถล่มได้แล้ว หลังตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย

    ชาวบ้านผู้พำนักอยู่ในเขตดินถล่มแถบชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับอนุญาตจากทางการกลับเข้าถิ่นฐานเดิมได้แล้วบางส่วน หลังต้องถูกอพยพออกนอกพื้นที่มากกว่า 3,000 คน และต้องรอจนกว่าเจ้าหน้าที่ด้านธรณีวิทยาเข้าตรวจสอบพื้นที่ว่ามีความปลอดภัยเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบางส่วนยังต้องรอการตรวจสอบพื้นที่อีกนานราว 1 เดือน นับตั้งแต่วันเสาร์ กว่าจะได้รับอนุญาตกลับเข้าพื้นที่ได้หรือไม่

    เหตุดินถล่มเพราะฝนตกหนักดังกล่าว ทำให้บ้านเรือนราษฎรพังเสียหาย 188 หลัง คอนโดมิเนียมพัง 2 หลัง มีผู้เสียชีวิตด้วยหลายคน. -สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 03:02:58

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2008
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โหรดัง โสรัจจะ ทำนายต้นปี 52 ดวงเมือง แรง-ร้าย

    [​IMG]

    เฉพาะท่านที่สนใจในคำทำนายของโหรท่านนี้ ก็เข้าไปอ่านดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ ส่วนท่านที่ไม่เชื่อเรื่องของโหราศาสตร์ ก็อย่าเข้าไปอ่านให้เสียอารมณ์เลยครับ

    http://horoscope.sanook.com/playfortune/playfortune_02201.php
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 02201_002.jpg
      02201_002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      1,762
  12. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    มาช่วยยืนยันครับ ผมมีโอกาสได้พบหลวงพ่อสายหลวงปู่ใหญ่และหลวงพ่อฤาษีฯ ท่านก็เดาๆ บอก
    มาประมาณนี้แหละครับ ถ้าเลื่อนยังไม่เกิดช่วงนี้ เว้นระยะห่างไม่นาน ก็จะเกิดครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2008
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ว่าด้วยเรื่องดวงของ Thailand & USA

    [​IMG]

    สาเหตุของการที่สหรัฐถูกก่อการร้ายในครั้งนี้(9/11) มาลองคิดๆ ดูนะ ประเทศไทยในสมัยอยุธยาเสียกรุงให้พม่า และพระเจ้าตากสินก็ทรงกู้เอกราชคืนมาได้ "ปีที่ประกาศเอกราชของไทยตอนนั้นเป็นปีเดียวกับที่อเมริกาสร้างชาติ" พอดี ต่อจากนั้นในสมัย ร.5 ในหลวง ร.5 ท่านประกาศเลิกทาส "ปีที่ประกาศเลิกทาสของไทยก็เป็นปีเดียวกับการเลิกทาสในอเมริกา" เหมือนกัน

    จะว่าไอ้ที่ตรงกันเป็นเรื่องบังเอิญ? ถ้าจะคิดอย่างนั้นก็คงได้ล่ะมั๊ง แต่ลองมาคิดดูอีกมุมนะ

    โซนที่ตั้งของอเมริกาที่แม้จะใหญ่กว่าไทยตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ตามโซนละติจูด+ลองติจูดแล้ว มันเป็นตำแหน่งที่ตรงข้ามไทยพอดี สรุปคือโลกกลมๆ ใบนี้ ประเทศไทยจะอยู่ในตำแหน่งที่ตรงข้ามกับสหรัฐอย่างพอดิบพอดี และก็เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ในหมู่ของคนเชื่อเรื่องดวงว่า ในตำแหน่งที่ตั้งของอะไรต่างๆ จะเรียกว่าหลักฮวงจุ้ย ที่ตรงดีนี้ดีหรือไม่ดียังไง

    ในเรื่องของอเมริกากับพี่ไทยก็เหมือนกัน เป็นเรื่องของฮวงจุ้ยครับท่าน ทีนี้มันต่างกับฮวงจุ้ยบ้านเรือนเล็กทั่วไปนิดหนึ่ง เพราะมันเป็นโซนที่ค่อนข้างใหญ่ ฮวงจุ้ยตรงนี้มันก็ขึ้นอยู่กับอิทธิพลและตำแหน่งของดวงดาวด้วย ตรงนี้ไม่ขอกล่าวถึงนะครับมันยุ่งยาก ใครอยากรู้ไปเรียนโหราศาสตร์เองนะ

    ที่อยากจะบอกก็คืออเมริกากับไทยน่ะ มีฮวงจุ้ยเหมือนกันเลย เพราะงั้นเลยมีดวงที่คล้ายกัน ถ้าเกิดเหตุการณ์สำคัญอะไรๆ ขึ้นกับไทย อเมริกาก็จะเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ขึ้นเหมือนกัน ในทางตรงกันข้ามถ้าเกิดเหตุการณ์ที่อเมริกาพี่ไทยก็เกิดด้วยครับ

    มันก็เลยเป็นเหตุผลให้ดวงเมือง ของอเมริกากับไทยคล้ายกันมาก ทว่าก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นผลมาจากเรื่องอิทธิพลดวงดาวเล็กน้อย ก็ตรงนี้เองแหล่ะที่ทำให้ขนาดของประเทศไทยต่างกับอเมริกา อย่างเทียบขนาดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ คือดาวพีค (บอกก่อนว่าตั้งชื่อเองครับ) ที่โคจรผ่านและเป็นอิทธิพลต่อดวงของอเมริกากับไทยมันคนละเรื่อง มันก็เลยส่งผลให้ในความเหมือนกันของไทยกับอเมริกา จะมีความแตกต่างกันมากเช่นกัน อันนี้เรียกว่าเป็นดวงตรงข้ามกันครับ คือมีดวงเหมือนกันและตรงข้ามกัน อันนี้ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของดวงดาวและตำแหน่งที่ "ตรงข้าม" กันด้วย

    ***ในกรณีเดียวกัน ลองเทียบดวงของญี่ปุ่นกับอังกฤษก็เป็นเหมือนกับครับแต่ไม่ชัดเจนเท่าไทยกับอเมริกา เพราะแค่ฮวงจุ้ยคล้ายกัน แต่ยังไม่ขั้นตรงข้าม***

    ทีนี้มันก็มีดาวพีคอยู่ดวงหนึ่ง ก็ไม่รู้เป็นดาวอะไร ว่าตำแหน่งของดาวดวงนี้มันมักจะอยู่แถวอเมริกาอยู่เรื่อย โคจรมาไม่ถึงไทยหรือไงก็ไม่รู้ คือตามวงโครจรโลกมันไม่กลมใช่ไหม พอโคจรมาแถวนี้ก็จะเฉียดไปอยู่มุมอื่นซะอยู่เรื่อยไม่ถึงไทยสักที ไอ้ดาวพีคดวงนี้อยู่ไหนที่นั่นรุ่ง อิทธิพลของดวงดาว (ดวงนี้โดยเฉพาะ) มันมีผลต่อดวงของประเทศไทยกับอเมริกาด้วย ก็อย่างที่ว่าไทยกับอเมริกามันเป็นส่วนผกผันกันน่ะ เมื่อไหรที่อเมริกาดวงดี (ดาวพีคลำเอียง) เมื่อนั้นไทยก็จะผกผันคือดวงตก ด้วยเหตุผลด้านฮวงจุ้ยดังที่ว่าแล้ว และเมื่อไหร่ที่ดาวพีคยุติธรรมมาเยือนไทย เมื่อนั้นก็ถึงคราวอเมริกาดวงตกมั่ง และเวลานี้...

    ไทยกำลังดวงพีค! พีคสุดๆ ครับ (สังเกตได้จากเศรษกิจเริ่มกระเตื้อง) เพราะงั้นอเมริกาก็เลยดวงตก โดนก่อการร้ายไปตามระเบียบ อันนี้จริงๆ นะ อย่างตอนสงครามอ่าวฯ ไง ตอนนั้นไทยก็กำลังรุ่ง สหรัฐเลยต้องทำสงครามเลย มันเป็นเรื่องของดวงน่ะ

    ทั้งนี้ทั้งนั้นที่เขียนยาวๆ มาทั้งหมดนี่ก็เพื่อจะบอกว่า "จงดวงตกไปซะเถอะนะอเมริกา เพื่อชาติไทยจงเจริญ! ไชโย!"

    จาก : Aquarius - 16/09/2001 02:58

    ที่มา http://board.dserver.org/S/SAIYAVED/00000198.html

    ฝนตกที่บ้านน้อง(USA) ฟ้าร้องถึงบ้านพี่(Thailand)

    [​IMG]

    เกริ่นหัวข้อไว้เพื่อให้มองเห็นภาพในเชิงเปรียบเทียบ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งใดๆ(ลัคนา) ย่อมมีผลถึงอีกสถานที่หนึ่งได้ ดังที่ท่าน อ.ประยูร พลอารีย์ เคยยกตัวอย่าง ทิ้งไว้เป็นปริศนาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอเมริกามีอะไร เดี๋ยวในเมืองไทยก็จะเกิดขึ้น ในลีลาแบบเดียวกัน โดยท่านยกตัวอย่างกรณี JFK(ประธานาธิปดี)ถูกลอบสังหาร ในเมืองไทยก็เกิดกรณี จอมพลสฤษดิ์เสียชีวิต สมดังคำกล่าวที่ว่า สรรพสิ่งต่างๆ ในโลกนี้จะเหมือนกันในทางปรัชญา

    หากจะตีความต่อ วิเคราะห์ได้ว่า ระหว่าง 2 ประเทศจะต้องมีโครงสร้างปัจจัยทางโหราศาสตร์ สัมพันธ์กันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะลัคนา หรือเมอริเดียน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญกับสถานที่ ​

    จึงสามารถตั้งเป็นข้อสมมุติฐานเบื้องต้นได้ว่า การที่เหตุการณ์ของ 2 ประเทศ เกี่ยวข้องกัน เพราะ ทั้ง 2 ประเทศ มีลัคนา หรือเมอริเดียน สัมพันธ์กัน​

    จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นมีข้อสังเกตุดังนี้

    1. ดวงเมืองของไทย (21/04/2325 06:54 กรุงเทพ) ลัคนาทำมุม 135 องศา กับ เมอริเดียนของดวงเมืองอเมริกา (04/07/2319 17:10 Philadelphia) ดังนั้น ปัจจัยทางโหราศาสตร์ใดที่สัมพันธ์กับลัคนาหรือเมอริเดียน ย่อมเกี่ยวข้องกันทั้ง 2 ประเทศ​

    2. ดวงเหมายันปี 2458 ลัคนา USA ทำมุม 150 องศา กับ ลัคนา Thailand เป็นปีที่ JFK(ประธานาธิปดี ถูกลอบสังหาร)​

    เป็นเรื่องที่ควรเก็บข้อมูลต่อว่า การจับคู่ดังกล่าวทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สมคล้อยกันทางปรัชญา หรือไม่​

    กลับมาที่ปีนี้ จากการที่ได้เกริ่นหัวเรื่องไว้ ดูจากภาพด้านบนจะเห็นว่า ลัคนาไทย เล็งกับ ลัคนาอเมริกา ดังนั้น น่าที่จะติดตามเหตุการณ์เพื่อพิจารณาความเกี่ยวพันกันของทั้ง 2 ประเทศ เพราะในปีนี้เหตุการณ์บ้านเมืองในอเมริกา น่าสนใจทั้งในแง่เศรษฐกิจ และการเมือง พอๆกับประเทศไทย ​


    **************************************************<!-- / message --><!-- attachments -->​
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "โอบามา" กับ "อภิสิทธิ์"
    ฝนตกที่บ้านน้อง(USA) ฟ้าร้องถึงบ้านพี่(Thailand)


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    เวลานี้ เหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา มีจุดน่าสนใจที่คล้ายคลึงกันอยู่มาก ​

    สามารถนำมาเปรียบเทียบ ไม่ใช่เพราะเหมือนกันทั้งหมด แต่ก็มีจุดร่วมสะท้อนภาพประเด็นสำคัญทางการเมืองในขณะนี้ ​

    เริ่มตั้งแต่ทำเลที่ตั้งของประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ทั้งสองประเทศอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรเหมือนกัน และที่สำคัญ ตำแหน่งที่ตั้งอยู่คนละฟากฝั่งของโลกพอดี ​

    ภูมิศาสตร์ของทั้งสองประเทศ ยังเหมือนกันอีก คือ มีทั้งเขตพื้นที่ติดทะเล และพื้นที่ไม่ติดทะเล เป็นพื้นที่ห่างจากชายฝั่งทะเล อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน ​

    ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ คือ วิกฤติเศรษฐกิจ ในขณะที่ประเทศไทยของเราหนักกว่า คือ นอกจากต้องรับมือกับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องเผชิญกับวิกฤติการเมือง ความแตกแยกรุนแรงภายในประเทศอีกด้วย ​

    สหรัฐอเมริกาเพิ่งจะได้ผู้บริหารประเทศคนใหม่ เป็นคนหนุ่ม ชื่อ "นายบารัก โอบามา" ตัวแทนจากพรรค Democrat (ประชาธิปัตย์) เป็นประธานาธิบดี ในขณะที่ประเทศไทยก็กำลังหาผู้บริหารประเทศคนใหม่อยู่เหมือนกัน ​

    ล่าสุด มีข่าวว่า ส.ส.จำนวนกว่า 260 คน ร่วมกันแถลงสนับสนุนให้ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (Democrat) เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ​

    ถ้าเป็นจริง จะเท่ากับว่า ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ได้มีผู้บริหารประเทศในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรงเหมือนๆ กัน คือ ทั้งโอบามาและอภิสิทธิ์ ต่างก็มีอายุ 40 ปีเศษเหมือนกัน โดยอภิสิทธิ์อ่อนวัยกว่า 1 ปี ​

    ทั้งสองคน ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือถูกปรามาสว่า อ่อนพรรษา อ่อนประสบการณ์เหมือนกัน แต่อภิสิทธิ์เคยเป็นรัฐมนตรีหลายสมัย โอบามาเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภา และทั้งสองก็โต้ตอบในทำนองเดียวกันว่า ถ้ามีประสบการณ์ในทางชั่วร้าย การไม่มีประสบการณ์ย่อมจะดีกว่าไม่ใช่หรือ ​

    นอกจากนี้ ทั้งสองคน ยังมีปูมหลัง พื้นฐานการศึกษาที่ดีเหมือนกัน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก นายโอบามาเรียนจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด นายอภิสิทธิ์ก็เป็นคนเรียนเก่ง จบเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ​

    คนหนุ่มสองคนนี้ เป็นคนฉลาดหลักแหลมทั้งคู่ ไหวพริบดี คมคาย เข้าใจปัญหา เข้าใจสังคมได้รวดเร็ว สามารถใช้ภาษาและศัพท์ง่ายๆ เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง กินใจ ​

    ที่ผ่านมา ในการรณรงค์ทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ (Democrat) ของนายอภิสิทธิ์ใช้สีฟ้าเป็นสัญลักษณ์มาโดยตลอด เช่นเดียวกันกับพรรค Democrat (ประชาธิปัตย์) ของนายโอบามา ในขณะที่คู่แข่งทางการเมืองของ "อภิสิทธิ์และโอบามา" ต่างก็ใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์เหมือนกันอีกด้วย ​

    ยิ่งกว่านั้น พรรค Democrat (ประชาธิปัตย์) แห่งสหรัฐอเมริกา กับพรรคประชาธิปัตย์ (Democrat) ของประเทศไทย ก็มีลักษณะคล้ายกัน คือ โน้มเอียงไปในทางนโยบายเสรีนิยมทางเศรษฐกิจ สนับสนุนการแข่งขัน โดยที่ภาครัฐมีบทบาทในการกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมคล้ายๆ กันอีกด้วย ต่างกับคู่ต่อสู้ ที่เน้นระบบทุนนิยมสามานย์ ​

    แหล่งเงินทุนสนับสนุนทางการเมืองของพรรค ก็ยังคล้ายๆ กันอีกด้วย คือ ทั้งประชาธิปัตย์และเดโมแครต ต่างก็มีนายทุนและผู้สนับสนุนพรรคที่กระจายตัว ไม่มีการผูกขาด หรือผูกติดกับรายใหญ่ รายหนึ่งรายใด แต่มีการระดมเงินสนับสุนนจากรายเล็กรายน้อยจำนวนมาก บริจาคตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักแสนหลักล้าน ในขณะที่พรรคคู่แข่ง กลับอาศัยนายทุนใหญ่ของพรรค เสมือนเป็นนายทุนเจ้าของพรรคกลายๆ เพราะมีกลุ่มทุนรายใหญ่ให้การสนับสนุนกระจุกตัว เช่น บรรดาธุรกิจของผู้บริหารพรรค เป็นต้น ​

    น่าคิดว่า การเมืองในเชิงพื้นที่ของสหรัฐอเมริกาก็คล้ายๆ กับประเทศไทยอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าดูในเชิงพื้นที่ เชิงภูมิศาสตร์ จะพบว่า ในสหรัฐ บรรดาเมืองที่อยู่ติดกับชายทะเลทั้งหลายมักเลือกพรรคเดโมแครต เหมือนกับเมืองไทย ที่เมืองชายทะเลส่วนใหญ่ ตั้งแต่ ตราด ระยอง ชลบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ลงไปจนถึงปลายด้ามขวานทอง ทั้งฝั่งอ่าวไทยและข้ามไปถึงฝั่งอันดามัน ก็ล้วนแต่สนับสนุนเดโมแครตแห่งประเทศไทยทั้งสิ้น ​

    อันที่จริง คำว่า "เดโมแครต" ถ้าแปลเป็นไทย ก็คือ "ประชาธิปัตย์" (ประชาธิปัตย์ แปลว่า Democrat) ​

    ที่คล้ายกันอีกอย่างคือ ในพื้นที่ส่วนกลางของสหรัฐ หรือบริเวณตอนกลางๆ ลึกเข้าไปข้างในจากชายฝั่งทะเล พื้นฐานความคิดของคนอเมริกันส่วนใหญ่จะอนุรักษ์นิยม มักจะมองเห็นว่าสหรัฐเป็นศูนย์กลางของโลก เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่าง ประเทศอื่นๆ ในโลกนี้แทบไม่มีความหมาย ไม่มีผลต่อความคิด การคิดตัดสินใจทุกเรื่องมักจะมองแค่ตนเอง ​

    ส่วนประเทศไทย พื้นที่ลึกจากชายฝั่งทะเลเข้าไปในแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ หรือภาคอีสานตอนบน ความตื่นตัวและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารยังไม่ทั่วถึง ผู้คนส่วนใหญ่จึงมักติดกับผลประโยชน์เฉพาะหน้าของตนเอง ​

    น่าคิดว่า ก่อนหน้าที่โอบามาและอภิสิทธิ์จะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ผู้นำคนก่อนของทั้งสองประเทศ (บุชและทักษิณ) ต่างก็ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา โดยบุชใช้ความรุนแรงกับชาวมุสลิมในประเทศอิรักและตะวันออกกลาง ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ความรุนแรงกับมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการฆาตกรรมในสงครามยาเสพติด ซึ่งทิ้งปัญหาและบาดแผล สั่งสมเอาไว้มาก ​

    และน่าสนใจว่า ก่อนหน้าอภิสิทธิ์และโอบามา ผู้บริหารของประเทศทั้งสอง ก็มีธุรกิจพลังงานและโทรคมนาคม ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ โดยบุชเกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงาน ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณมีธุรกิจโทรคมนาคม และกำลังจะคืบคลานไปหาธุรกิจพลังงาน ​

    ขณะนี้ ทั้งโอบามาและอภิสิทธิ์ ล้วนต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมของตนเอง โดยโอบามาประกาศต้องการเปลี่ยนแปลงสหรัฐอเมริกา รณรงค์ผ่านคำว่า Change ในขณะที่อภิสิทธิ์ก็ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า เพื่อให้ประชาชนในประเทศมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่า โดยไม่ยอมรับและต้องการจะทำให้เป็นจุดเปลี่ยนของ "ระบอบทักษิณ" ​

    นายโอบามา อาจจะมีโอกาสทางการเมืองที่เอื้อต่อการทำงานมากกว่าอภิสิทธิ์ เพราะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ต้องกังวลกับการต่อรองทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งการเมืองอเมริกันยังมีลักษณะของความตรงไปตรงมามากกว่าการเมืองเก่าๆ แบบศรีธนญชัยของไทย และไม่ต้องผจญกับพฤติกรรมของคนในระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทย ​

    การเปลี่ยนแปลงที่สหรัฐอเมริกาเริ่มต้นไปแล้ว มีแผนการรับมือวิกฤติเศรษฐกิจ มีการตั้งคณะผู้บริหารประเทศที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณสมบัติเหมาะสม ไม่ได้ยึดถือว่าจะต้องเป็นวงศาคณาญาติ หรือเป็นพรรคพวกของตนเอง แต่เลือกคนที่ดีที่สุด เหมาะสมกับงานและผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติมากที่สุด ​

    น่าชื่นชมนายโอบามา ทันทีที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา เขากล่าวปราศรัยว่า "ผมจะเป็นประธานาธิบดีของคนที่เลือกผม และคนที่ไม่ได้เลือกผม" ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณของประเทศไทย-ผู้นำของระบอบทักษิณ ​

    น่าสนใจว่า หากนายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะสามารถนำพาประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ? จะจัดการกับปัญหาความแตกแยกและความล้มเหลวที่รัฐบาลชุดก่อนทิ้งไว้ได้อย่างไร? จะระดมคนไทยและผู้มีฝีมือ รับมือและฝ่าฟันปัญหาผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจได้อย่างไร ? และจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในระบบการเมืองไทยให้ดีกว่าการเมืองแบบเก่าๆ ได้อย่างไร ในช่วง 3 ปี ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ ? ​

    ขณะนี้ คือ โอกาสสำคัญของการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย จากวิกฤติของความขัดแย้งสู่ความร่วมมือของการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า ไม่ได้อยู่ในมือ "อภิสิทธิ์" คนเดียว แต่อยู่ในมือของพวกเราทุกคน ​

    ขอให้โอกาสครั้งนี้ เป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ก้าวพ้นจากวิกฤติที่สุดในโลก และเดินไปสู่อนาคตใหม่ที่ดีกว่าเก่าของคนไทย ทุกคน ​

    ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง วันที่ 8/12/2008​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2008
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์สนามบินเดนเวอร์ มีผู้บาดเจ็บ 58 คน

    [​IMG]

    ลอสแองเจลิส 22 ธ.ค. – โฆษกสายการบินคอนติเนนตัล แอร์ไลนส์ เผยว่า เกิดเหตุเครื่องบินสายการบินคอนติเนนตัล แอร์ไลนส์ ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์ และเกิดไฟไหม้ขณะนักบินนำเครื่องขึ้นบินจากท่าอากาศยานในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโดของสหรัฐ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 58 คน

    โฆษกสายการบินคอนติเนนตัล แอร์ไลนส์ ระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 ที่มุ่งหน้าออกจากท่าอากาศยานนานาชาติเดนเวอร์ สู่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์ เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้เครื่องพุ่งลงลำห้วยที่มีความลึกราว 13 ม. จากนั้นก็เกิดไฟลุกไหม้ที่ด้านขวา และภายในของเครื่องได้รับความเสียหาย ส่วนเครื่องยนต์ด้านซ้ายหลุดออกจากตัวเครื่อง ภายหลังเกิดเหตุมีการอพยพผู้โดยสารออกทางออกฉุกเฉิน ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บล่าสุดอยู่ที่ 58 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลของเที่ยวบินนี้ และจะวิเคราะห์หาสาเหตุอุบัติเหตุในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

    ด้านโฆษกคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า เที่ยวบินที่ประสบอุบัติเหตุมีผู้โดยสาร 110 คน และลูกเรืออีก 5 คน ในจำนวนนั้น 5 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า มีการบาดเจ็บรุนแรงเพียงใด อุบัติเหตุครั้งนี้ยังทำให้ต้องเที่ยวบินในท่าอากาศยานนานาชาติเดนเวอร์เมื่อวานนี้ และวันนี้ต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากต้องปิดปิดรันเวย์ครึ่งหนึ่ง -สำนักข่าวไทย

    2008-12-22 08:49:04

    พายุหิมะกระหน่ำสหรัฐ การคมนาคมป่วน

    [​IMG]

    ซีแอตเติล 22 ธ.ค.-พายุหิมะพัดถล่มพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคเหนือของสหรัฐเมื่อวานนี้ ทำให้นักเดินทางในวันหยุดต้องตกค้าง และทำให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เนื่องจากเกิดพายุหิมะ และฝนเยือกแข็งทางพื้นที่ตะวันออกและตะวันตกของประเทศ

    พายุหิมะครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่พัดกระหน่ำพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ถือเป็นการเริ่มต้นของฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้เที่ยวบิน และการจราจรในสัปดาห์สุดท้ายก่อนเทศกาลคริสต์มาสต้องล่าช้า

    พื้นที่ภาคตะวันตกในเมืองซีแอตเติล และพื้นที่บางส่วนของรัฐวอชิงตันก็ถูกพายุหิมะพัดถล่มเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นพายุหิมะที่ตกหนักที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา วัดปริมาณหิมะได้ 5-9 นิ้ว ส่งผลให้หลายพื้นที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ สภาพหิมะที่ตกหนักประกอบกับกระแสลมแรงทำให้ต้องปิดถนนสายสำคัญข้ามหุบเขาทางตะวันออกของเมืองซีแอตเติล

    สภาพอากาศที่เลวร้ายยังทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน ส่งผลให้ผู้สัญจรหลายพันคนต้องตกค้างที่ท่าอากาศยานซี-แทค ในเมืองซีแอตเติล เช่นเดียวกับท่าอากาศยานนานาชาติโลแกน ในนครบอสตัน ที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยว รวมทั้งมีเที่ยวบินล่าช้าจำนวนมาก ขณะที่การจราจรทางบกก็ติดขัดเช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณใกล้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เพราะนักจับจ่ายต่างรีบซื้อของในเทศกาลคริสต์มาสให้เสร็จ.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-22 08:21:29

    หิมะกระหน่ำหนักทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ

    [​IMG]

    สหรัฐ 22 ธ.ค.-พื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐได้รับผลกระทบจากพายุหิมะที่พัดถล่มอย่างหนักตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    หิมะและฝนน้ำแข็งหนักที่ตกกระหน่ำอย่างหนักส่งผลให้การเดินทางและสัญจรบนทางหลวงแถบตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ ทั้งในเมืองซีแอตเติล พอร์ตแลนด์ และโอลิมเปียของรัฐโอเรกอน เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากพื้นถนนมีหิมะปกคลุมหนาถึง 9 นิ้ว จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบางส่วน ที่เมืองเซนทราเลียมีหิมะปกคลุมสูงถึง 10 นิ้ว บ้านเรือนราว 20,000 หลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

    เนื่องจากเสาไฟฟ้าหักโค่นหลังไม่สามารถทานน้ำหนักน้ำแข็งที่เกาะติดสายไฟฟ้า ทางการท้องถิ่นหลายเมืองในรัฐโอเรกอน วอชิงตัน และนอร์ทดาโกตา ประกาศเตือนประชาชนให้ระวังภัยจากพายุหิมะและฝนน้ำแข็ง รวมถึงบางส่วนของรัฐอิลลินอยส์ ไอโอวา และมินเนโซตา ที่พยากรณ์อากาศเตือนว่าอาจเกิดหิมะตกหนักในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-22 02:26:25

    อัฟกันยินดีหากสหรัฐจะเพิ่มทหารหลายหมื่นนาย

    [​IMG]

    อัฟกานิสถาน 21 ธ.ค.-ทางการอัฟกานิสถานยินดีที่สหรัฐประกาศต้องการจะส่งทหารไปเพิ่มในอัฟกานิสถานอีกราว 2-3 หมื่นนายในปีหน้า

    โฆษกกระทรวงต่างประเทศอัฟกานิสถาน ระบุว่าทางการอัฟกานิสถานหวังให้สหรัฐส่งกำลังทหารเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ทางภาคใต้และตะวันออกของประเทศ ซึ่งยังเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มตอลีบาน และยังเกิดเหตุรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงมีส่วนช่วยในการฝึกความพร้อมด้านต่าง ๆ ของกองกำลังความมั่นคงอัฟกานิสถาน ก่อนหน้านี้ พลเรือเอก ไมค์ มุลเลน ประธานเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐ เปิดเผยว่า

    เขาต้องการจะส่งทหารเข้าไปประจำการเพิ่มในอัฟกานิสถานอีกราว 20,000-30,000 นาย ช่วงฤดูร้อนปีหน้า เพื่อเข้าไปปฏิบัติการสมทบกับทหารสหรัฐที่ประจำการอยู่แล้ว 31,000 นาย แต่กลุ่มตอลีบานประกาศกร้าวว่ากองกำลังสหรัฐจะต้องพ่ายแพ้สงครามอย่างหมดรูป เหมือนอย่างที่กองกำลังอดีตสหภาพโซเวียตเคยประสบมาแล้ว เมื่อช่วงทศวรรษหลังปี 2523 .-สำนักข่าวไทย

    2008-12-21 23:05:43

    ยอดส่งออกญี่ปุ่นดิ่งลงในเดือนพฤศจิกายน

    [​IMG]

    โตเกียว 22 ธ.ค. - กระทรวงการคลังญี่ปุ่น แถลงว่า ตัวเลขการส่งออกญี่ปุ่นลดลงอย่างมากเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 26.7 ในเดือน พ.ย. เนื่องจากปริมาณความต้องการลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา

    ตัวเลขขาดดุลการค้าญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่ารวม 223,400 ล้านเยน (87,500 ล้านบาท) เนื่องจากยอดส่งออกลดลงร้อยละ 26.7 เมื่อเทียบกับปีก่อนมาอยู่ที่ 5.3 ล้านล้านเยน จึงทำให้ตัวเลขดังกล่าวลดลงตามไปด้วย นับเป็นยอดส่งออกลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการบันทึกสถิติเมื่อปี 2523

    เจ้าหน้าที่คลัง กล่าวว่า ยอดส่งออกที่ลดลงอย่างมาก เป็นผลมาจากเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ดังนั้น ความต้องการสินค้าญี่ปุ่น โดยเฉพาะรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงลดลงทั่วโลก เช่น การส่งออกไปยังสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกลดลงร้อยละ 33.8 ในเดือนพฤศจิกายน.- สำนักข่าวไทย

    2008-12-22 10:43:55

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2008
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนายประเทศไทยและอเมริกาที่คล้ายคลึงกัน

    [​IMG]

    นอสตราดามุสเขียนเอาไว้ที่ เซ็นจูรี่เล่ม 6 โคลงบทที่ 97 ว่า

    “ ท้องฟ้าจะถูกเผาผลาญ ณ องศาที่ 45 เพลิงจะพุ่งเข้าสู่เมืองใหม่ในบัดดล
    ดวงไฟใหญ่จะแตกกระจายทะลวงพุ่งขึ้นมา"

    เขาพูดถึงเมืองที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามว่าเป็น ดินแดนที่ 45 ตรงกับเส้นรุ้งที่ 45 อันเป็นที่ตั้งของมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

    หนุมาน ผู้นำสาร ทำนายว่า

    ผู้มีอำนาจบางประเทศ ฝ่าฝืนโองการสวรรค์ เอาท้องฟ้าเป็นสนามรบ บ้านเมืองหลวง(ของไทย) จะลำบาก ระเบิดหลงมาตกใส่เพราะ เป็นกรรมประเทศ ระเบิดทำลายล้างยิ่งกว่าระเบิดใดๆ

    ฝูงชนหนีภัยรอบใหญ่ เข้าป่าเขา เข้าถ้ำ มุดรู โลกจะระส่ำระสาย เพราะเปลือกโลกตื่นขึ้นมาอาระวาด คนที่มีสัญญากับหลักสัจจะธรรม จะรอดพ้นภัย

    โหรตาทิพย์ เอ็ดการ์ เคย์ซี ทำนายว่า

    แกนโลกได้เริ่มผิดปกติมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1887 ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็ทำให้ขั้วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ เรื่อยมา และต่อไปในอนาคตฤดูกาลของโลก จะผันแปรในระดับรุนแรงยิ่งขึ้นไปกว่านี้ และจะบังเกิดมหันตภัยต่อมวลมนุษยชาติทั่วโลก

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำโลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้งหนึ่ง เมืองลอสแองเจรีส ซานฟรานซิสโก และนิวยอร์ก จะถูกทำลายจมหายลงไปในน้ำทะเล อันเป็นส่วนหนึ่งของภัยพิบัติที่จะบังเกิดขึ้นทั่วโลก

    อ.ปริญญา ตันสกุล ทำนายว่า

    “... ประเทศไทยเรา ด้ามขวานจะหักเป็นสามท่อน ที่ว่าหักคือจมทะเลไปหมดเลย หลายคนก็บอก เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเกิดหรอก เหมือนที่ว่ากรุงเทพเนี่ย ไม่เกิดแผ่นดินไหวหรอก ผมบอกว่าเกิด ! ขนาดเมืองกาญจน์จะเกิดแผ่นดินไหวตั้ง 7 ริกเตอร์ กรุงเทพฯก็เตรียมตัวอันตรายได้แล้ว"

    ที่อเมริกา จะถูกพายุที่รุนแรงถล่มอย่างหนักหน่วง พร้อมเกิดแผ่นดินไหวฉับพลัน 24 ริกเตอร์ เป็นระยะเวลา นานถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกนี้ อเมริกาจะถูกแบ่งเป็น 2 ซีก กลายเป็นเกาะ 2 เกาะ นิวยอร์คจะทรุดตัวเหลือเพียงบางส่วน นอกนั้นจะจมหายไปในท้องทะเลจนจนหมดสิ้น

    ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ ทำนายว่า

    “สัญญาณอันตรายจะเกิดขึ้นด้วยคลื่นความถี่ ภาพภัยพิบัติล่าสุดที่เห็นคือ ภูเขาไฟในอินโดนีเซียปะทุและระเบิด เกิดคลื่นยักษ์ในอ่าวไทย ไม่ใช่สึนามิ แต่จะเป็นคลื่นที่ระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมเข้ามาพร้อม กับพายุที่มีความรุนแรงกว่าปกติ คนที่อยู่แถวริมทะเลจะได้รับผลกระทบ อาทิ เพชรบุรี สมุทร ปราการ”

    ดร.กัญจีรา อธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่า จากภาพที่เห็นตั้งสมมุติฐานว่าบริเวณอ่าวไทย เลียบชายฝั่งเป็นดินใหม่ที่มีโคลน เมื่อมีการขยับตัวของแผ่นดินเกาะสุมาตราก็จะมี ลักษณะเหมือนโดมิโน เมื่อตรงนี้ขยับตรงโน้นก็ขยับต่อทีละนิดไปเรื่อย ๆ ในอ่าวไทยมีหลุมใหญ่จากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ สูบน้ำมันมานาน 20-30 ปี ของเหลวถูกสูบขึ้นมา ความสมดุลของโลกก็สูญเสียไป ฉะนั้นแผ่นดินต้องเลื่อนลงไปทดแทน พื้นทรายทรุดตัวลงช้า ๆ สิ่งที่เข้าไปแทนที่คือ ทราย ฟองอากาศ พื้นดินจะขยับไปเรื่อย ๆ ซึ่งต้องมีผลกระทบ

    ไทยจะพบภัยพิบัติธรรมชาติรุนแรง จะเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก แผ่นดินทรุด กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมแผ่นดินไหวมีตึกสูงถล่ม ภาคใต้จะเกิดคลื่นพายุหนัก ซึ่งจะเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดที่กระทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรม ราช แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ภาคเหนือ จะมีน้ำป่าไหลหลากรุนแรง ภูเขาเกิดแตก โดยเฉพาะที่ น่าน แพร่ และที่ อ.เถิน จ.ลำปาง เพราะมีการขุดเจาะภูเขาทำเหมืองกันมาก”


    *********************************************​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 02220_002.jpg
      02220_002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.3 KB
      เปิดดู:
      1,716
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2008
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ โดยจิตอาสา

    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #2edce7 0px solid; BORDER-TOP: #2edce7 0px solid; BORDER-LEFT: #2edce7 0px solid; BORDER-BOTTOM: #2edce7 0px solid; BACKGROUND-COLOR: #2edce7" cellPadding=5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD><TABLE cellPadding=5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0><TBODY><TR><TD style="WIDTH: 240px" vAlign=top>สกู๊ปพิเศษ
    เปิดกระเป๋ายังชีพ

    จิตอาสาต้นแบบ
    สะท้อนภาพภัยพิบัติจากสองกระจกเงา

    บทความ
    คำเตือนย่อมไร้ค่า ถ้าไม่ฟัง

    ดูแลหัวใจอาสา
    สองใจอาสาเพื่อนพึ่งภาฯ ยามวิกฤติ

    สาระน่ารู้
    เตรียมตัวเตรียมใจรับมือภัยพิบัติ

    deep insight
    เดินไปกับจิตอาสา



    </TD><TD style="WIDTH: 430px" vAlign=top>"ภัยพิบัติ" หรือ เหตุการณ์ที่เป็นภัย ฟังแล้วดูน่าตกใจใช่ย่อย เราอาจจะคิดถึงสึนามิ พายุแคททารีน่า พายุนากิส แผ่นดินไหว โคลนถล่ม ฯลฯ

    แต่จริงๆ แล้วเหตุการณ์ที่เป็นภัยอาจจะมาจาก แก้วบาดเท้า ฝาท่อน้ำเปิดทิ้งไว้ ฝนตก น้ำท่วม ลมกรรโชกแรง แบตมือถือระเบิด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดรอบตัว อยู่บนหน้าผาก โหนกคิ้ว ใต้ฝ่าเท้า ข้างๆ โต๊ะทำงาน บนฟ้า หรือ ใต้ดิน

    จะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อเหตุและปัจจัยพร้อม มันก็เกิด

    สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ทำให้เหตุปัจจัยของเหตุแห่งภัยนั้นลดน้อยถอยลง เริ่มจากรู้จักสิ่งรอบตัวของเรา ในบ้าน บนถนนที่เดินทุกวัน รถเมล์ที่ขึ้นประจำ ปลูกต้นไม้เยอะๆ ธรรมชาติจะได้สบายใจขึ้น ฯลฯ และสิ่งที่มิพักควรลืม คือ "สติ" ในการใช้ชีวิต

    จิตอาสารฉบับนี้แม้จะชื่อ "เรื่องการรับมือภัยพิบัติ" แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่า "การเตือนให้ตระหนัก ไม่ใช่ตระหนก"

    การตระหนักก็คือการรู้ดีๆ นี่เอง น่าแปลกใจว่าประวัติศาสตร์มนุษย์เราใช้ชีวิตกันยาวนานนับพันปี หลายยุคสมัย แต่ไม่ว่าจะกี่ชีวิตต่างก็ต้องการ "รู้ตัวเอง" เท่านั้น

    บรรณาธิการจิตอาสา
    volunteerspirit
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา http://www.volunteerspirit.org/?q=node/509
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2008
  18. A+O

    A+O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +120
    หมอเขียนไว้ว่า \"....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 ธันวาคม 2008
  19. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 672 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6598 ข่าวสดรายวัน


    ศก.ฟุบ-คนอังกฤษกระเป๋าฉีกแห่ทิ้งสุนัข




    ซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่า มูลนิธิช่วยเหลือสุนัขในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า สภาพเศรษฐกิจฝืดเคืองทำให้ประชาชนแห่ทิ้งสุนัขตัวโปรด เพราะชีวิตประจำวันต้องรัดเข็มขัด ไม่มีเงินเหลือพอดูแลสัตว์เลี้ยง

    นายริชาร์ด มัวร์ ผู้จัดการด๊อกทรัสต์ มูลนิธิช่วยเหลือสุนัขและสุนัขจรจัดใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ระบุว่า จำนวนสุนัขถูกเจ้าของทอดทิ้งช่วงปลายปีนี้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์จนทางมูลนิธิไม่มีสถานที่รับเลี้ยงสุนัขที่เข้ามาใหม่

    "ศูนย์รับสุนัขของเรามีสุนัขอาศัยอยู่เต็มจนล้น แต่ทุกวันนี้ยังมีคนติดต่อนำสุนัขมาทิ้งไว้ไม่ขาดสาย เมื่อเทียบกับปีก่อน สุนัขในศูนย์มีเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ปัญหาใหญ่อีกเรื่องก็คือยอดเงินบริจาคช่วยเหลือมูลนิธิในปีหน้าอาจลดหายไปไม่น้อย" มัวร์ กล่าว

    นายมัวร์ระบุว่า 2 สาเหตุสำคัญที่เจ้าของสุนัขแจ้งกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ได้แก่ บ้านถูกยึดกับตกงานเป็นเหตุให้ไม่มีปัญญาซื้อหาอาหารมาเลี้ยงสุนัขได้อีกต่อไป ขณะเดียวกัน ยอดคนใจบุญที่แจ้งความประสงค์ติดต่อขอรับสุนัขไปเลี้ยงดูลดลงน่าใจหาย เพราะต้องยอมรับว่าการซื้อหาหรือเลี้ยงสัตว์สุนัขสักตัวในอังกฤษไม่ใช่เรื่องถูกๆ มีค่าใช้จ่ายพอสมควร อาทิ ค่าประกันสุขภาพ ค่าอาหาร ค่าตัดแต่งขน ค่าของเล่น รวมๆ แล้วต้องควักกระเป๋าสูงถึง 15,000 ปอนด์ หรือ 900,000 บาทต่อตัว

    ทั้งนี้ ซีเอ็นเอ็นแจ้งด้วยว่า จากการสำรวจศูนย์สงเคราะห์สุนัขหลายแห่งในอังกฤษพบว่าเต็มเช่นกัน
    [/FONT]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 97 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6598 ข่าวสดรายวัน


    ศก.เยอรมนีฟุบหนัก




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 21 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีประเทศเยอรมนี ออกโทรทัศน์กล่าวคำเตือนถึงประชาชนว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของเยอรมนีในปีหน้าจะยิ่งเลวร้ายหนักกว่าเดิม พร้อมกับบอกเป็นนัยว่า ในเดือนมกราคม 2552 รัฐบาลมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 มูลค่า 1.99 ล้านล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่ดำเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจริงจังเท่าที่ควร
    [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
    แก๊งแมวช่วยเด็ก

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"เมาคลี ลูกหมาป่า" มีมาแล้วในนิทาน เที่ยวนี้ถึงคราว "ลูกแมวป่า" บ้างล่ะ

    เดลี่เมล์รายงานเรื่องราวจากอาร์เจนตินา เบบี๋เพศชายรายหนึ่งถูกทิ้งไว้ริมถนน ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น

    ตำรวจหญิงอาลิเซีย ลอเรน่า ลินด์กวิสต์ ผ่านไปเห็นฉากชวนตื่นตะลึงเข้า ขณะที่แมวป่า 8 ตัวกำลังมุง "เลีย" เด็กอยู่

    ฮั่นแน่!...คิดว่าจะเลียชิมรสรึเปล่า...ไม่ใช่นะ

    เมื่อคุณตำรวจพาเด็กไปถึงมือหมอ หมอบอกว่าที่เด็กรอดตายมาได้ ต้องขอบคุณแก๊งแมวเหมียวที่หน้าตาแบบในรูปนี้แหละ เพราะมันทำให้เด็กอุ่นอยู่ได้

    ด้านตำรวจสืบไปสืบมา ไปเจอพ่อเด็กจนได้ เป็นคนเร่ร่อนที่พลัดหลงกับลูกหลายวันก่อน ตอนไปเก็บขยะขาย

    แถมบอกว่า ก่อนหน้านี้แก๊งแมวป่ามาคอยดูแลลูกชายตนอยู่บ่อยๆ


    ...งั้นเจ้าหนูก็เป็นเมาคลี ลูกแมวป่าตัวจริงล่ะ!

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>"หวัดนก"โผล่ไต้หวัน



    เมื่อ 21 ธ.ค. เอพีรายงานว่า ทางการไต้หวันยอมรับว่าตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกระบาดในฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองเกาสง ทางภาคใต้ เมื่อช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังสัตว์ปีกในฟาร์มล้มตายจำนวนมากโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่างไรก็ตาม เชื้อที่ตรวจพบเป็นเชื้อสายพันธุ์ เอช 5 เอ็น 2 ไม่รุนแรงเท่ากับเชื้อเอช 5 เอ็น 1 ที่ทำให้คนติดเชื้อเสียชีวิตได้ นอกจากนั้น ยังสั่งทำลายสัตว์ปีกในพื้นที่ไปแล้วกว่า 18,000 ตัวและระงับการส่งออกสัตว์ปีก


    แบงก์ปลอม

    เมืองไทย 25 น.

    นายมหาเศรษฐี



    จะมองเป็นเรื่องเล็กก็ได้หรือจะถือเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ผิด

    นั่นคือกรณีการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอม

    ที่บอกว่าเล็กนั้นเปรียบเทียบจากสถิติการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตลอด 11 เดือนของปีนี้ที่มีมูลค่ารวมของธนบัตรปลอมแค่ 12.3 ล้านบาท ขณะธนบัตรที่หมุนเวียนอยู่ในระบบมีถึง 8.5 แสนล้านบาท

    เป็นแค่ทรายเม็ดเดียวบนผืนหาด

    แต่ถ้ามองถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอมต่อเศรษฐกิจทั้งระบบแล้ว นี่คือการบ่อนทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศเลยทีเดียว

    เพราะค่าของธนบัตรนั้นไม่ได้อยู่ที่คุณภาพของกระดาษหรือรูปลักษณ์การพิมพ์ แต่อยู่ตรงความเชื่อถือของสังคมว่ากระดาษแผ่นนี้มีมูลค่าแค่นั้น กระดาษแผ่นนั้นมีมูลค่าแค่นี้

    ยามที่ธนบัตรปลอมแพร่ระบาด ความเชื่อมั่นของชาวบ้านต่อธนบัตรในมือย่อมลดลงเพราะไม่แน่ใจว่าเงินที่มีอยู่ขณะนี้เป็นธนบัตรจริงหรือปลอม พ่อค้าแม่ขายก็ต้องคอยระมัดระวังไม่กล้าสุ่มสี่สุ่มห้ารับเงิน ต้องตรวจสอบละเอียด

    พื้นที่ที่มีการพบธนบัตรปลอมแพร่ระบาดมากที่สุดได้แก่บริเวณจังหวัดตามชายแดน เกินกว่าครึ่งเป็นธนบัตรมูลค่า 1,000 บาท จากนั้นก็ไล่เรียงลำดับลงมาตามมูลค่าหน้าธนบัตร

    ซึ่งก็มีเหตุผลอยู่ เพราะการปลอมธนบัตรมูลค่า 20 บาทกับ 1,000 บาทนั้นต้นทุนไม่ต่างกันและโทษที่ลงก็เท่ากัน แล้วมันเรื่องอะไรจะไปปลอมธนบัตรมูลค่าต่ำให้เสียเวลา ไหนๆ จะเสี่ยงทำผิดกฎหมายแล้วก็พิมพ์มันชนิดราคาสูงสุดเลยไม่ดีกว่าหรือ

    ก่อนหน้านั้นมีข่าวว่ารัฐบาลนาซีของเยอรมันเมื่ออดีตก็เคยมีแผนที่จะพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ปลอมเพื่อบ่อนทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐมาแล้ว และเมื่อไม่นานนี้ก็มีข่าวอีกว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือก็มีความคิดแบบเดียวกัน

    แต่ในกรณีการปลอมธนบัตรของไทยเราคงไม่เกี่ยวกับว่ามีประเทศไหนต้องการบ่อนทำลายเศรษฐกิจไทยทั้งระบบหรอก แต่เป็นเพราะปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศเสียมากกว่า

    เศรษฐกิจตกต่ำ คนตกงานเยอะ โจรผู้ร้ายก็ต้องชุม การปลอมธนบัตรถือเป็นอาชญากรรมลักษณะหนึ่งซึ่งทำได้ไม่ยากและให้ผลตอบแทนสูง เรื่องของเรื่องคงมีแค่นี้แหละ

    คำเตือนของทางการให้ประชาชนคนไทยระมัดระวังการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอมในการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จึงเหมาะสมกับกาลยิ่ง เพราะถ้าใครเจอเข้ามีหวังเที่ยวไม่สนุกแน่

    หากเป็นผู้รับก็คือการสูญเงินแต่ถ้าเป็นผู้จ่ายมีหวังได้ย้ายนิวาสสถานไปอยู่ในคุก

    สรุปก็คือไม่ว่าจะเป็นผู้รับหรือผู้ใช้ธนบัตรปลอมล้วนต้องประสบทุกข์ทั้งสิ้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ความดี ****

    ท่านพูด ท่านกล่าว... การกระทำที่เป็นความดี
    แต่เมื่อ ท่านทำไม่ได้.... คำพูดของท่าน ก็ถูกทำลายด้วยการกระทำของท่านเอง
    ท่านก็จะไม่มีค่าอะไร... เพราะ ทำลายความจริง ทำลายศาสนศาสตร์ และขัดสัจจธรรม
    กลายเป็น ผู้ทำไม่ได้...ผู้ขาดสัจจะทำ
    ตัวกระทำไม่ตาย....ตัวกระทำของท่านคือ ตัวกระทำที่ทำไม่ได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...