ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=585 height=10><TABLE class=news2006_topic width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left>อียูตั้งกองเรือปราบโจรสลัดโซมาเลีย

    </TD><TD align=right width=100>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=news2006_graylight height=10>โดย คม ชัด ลึก<SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT> <!--START-->วัน พุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551 02:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=news2006_black cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=10 rowSpan=6></TD><TD width=575><!img001:m:r>สหภาพยุโรป (อียู) จัดตั้งกองเรือปราบปรามโจรสลัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (8 ธ.ค.) ประกอบด้วยเรือรบ 6 ลำ และเครื่องบินตรวจการณ์อีก 3 ลำคอยลาดตระเวนอยู่ในทะเลแถบปลายแหลมแอฟริกาที่ชุกชุมไปด้วยโจรสลัด ซึ่งจัดว่าเป็นงานที่หนักมากเพราะน่านน้ำแถบนี้กินเนื้อที่ถึง 1 ล้านตารางกิโลเมตร ขณะที่มีเรือถูกโจรสลัดเข้าโจมตีแล้วเกือบ 100 ลำในปีนี้ รวมถึงเรือเอกรัตน์ นาวา 5 ของไทย
    กองเรือลาดตระเวนนี้มีรหัสปฏิบัติการว่า ยูแนฟฟอร์ อตาลันตา มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองนอร์ทวูด ใกล้กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในช่วงปีแรกจะมีเรือจาก 8 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ เนเธอร์แลนด์ สเปน และสวีเดน คอยคุ้มกันเรือ และดำเนินการปราบปรามกลุ่มโจรสลัดภายใต้การบัญชาการของ พล.ร.อ.ฟิลิป โจนส์ จากอังกฤษ
    ในช่วงแรกที่ออกปฏิบัติการ กองเรือปราบโจรสลัดจะนำเรือของกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จำนวน 4 ลำมาใช้ก่อน คาดว่าจะสามารถออกปฏิบัติการเต็มกำลังได้ก่อนสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ด้านสมาคมเจ้าของเรือยุโรปกล่าวว่า ขอให้อียูให้ความสำคัญต่อเรือที่มีความเสี่ยงที่จะถูกโจรสลัดจี้เป็นพิเศษ ได้แก่ เรือลำใหญ่ที่แล่นช้ามาก หรือกินน้ำลึก เพราะทำให้โจรสลัดสามารถขึ้นมาบนเรือได้โดยง่าย
    // <!-- google_ad_client = pub-1044823792492543; google_ad_slot = 8122705396; google_ad_width = 250; google_ad_height = 250; //-->//
    อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิชาการ และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงมองว่า การตั้งกองเรือลาดตระเวนอาจเป็นการแก้ปัญหาโจรสลัดที่ปลายเหตุ เพราะต้นตอที่แท้จริงเกิดจากปัญหาความยากจน และความรุนแรงในโซมาเลีย ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนายเซโยอุม เมสฟิน รัฐมนตรีต่างประเทศของเอธิโอเปีย ที่ชี้ว่าเป็นการยากที่จะปราบปรามโจรสลัด หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในโซมาเลียให้อยู่ในความสงบเสียก่อน ทั้งนี้ น่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลียเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญที่นำไปสู่คลองสุเอซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันมากถึง 30% ของโลก จึงเป็นเป้าหมายของกลุ่มโจรสลัดที่ดักปล้นเรือสินค้าเพื่อเรียกค่าไถ่ก้อนโตจากรัฐบาลต่างประเทศ หรือเจ้าของเรือ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีเรือสินค้าถูกปล้นแล้วนับร้อยลำ ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังคงมีเรือสินค้าหลายสิบลำพร้อมลูกเรือที่อยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มโจรสลัด ซึ่งมีอาวุธหนักที่ทันสมัย พร้อมสปีดโบ๊ทที่มีความเร็วสูง วันเดียวกัน มีรายงานว่าสำนักงานการเดินเรือระหว่างประเทศ (ไอบีเอ็ม) ได้ออกคำเตือนเรือทุกลำที่แล่นผ่านทะเลจีนใต้ นอกชายฝั่งเกาะเตียวมาน ซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซีย ให้ระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เนื่องจากเพิ่งเกิดเหตุกลุ่มโจรสลัดที่มีมีดและปืนเป็นอาวุธปล้นเรือ 3 ลำแล้วจี้เรือโยงที่ลากเรือบรรทุกไป 1 ลำ ขณะที่กำลังเดินทางจากสิงคโปร์มายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยปล้นเงินสดและโทรศัพท์มือถือจากลูกเรือก่อนจะหนีไป<!--END-->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเลี่ยงวิกฤติเศรษฐกิจโลก

    [​IMG]

    หากจะย้อนเวลากลับไป ในช่วงเวลาก่อนที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งนั้น ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยหลายๆ อย่างดังนี้

    - ชนชั้นกลาง มีภาระหนี้สินในครัวเรือนมากกว่าเงินออม เนื่องจากรอความหวังจากเงินโบนัสที่สูงลิบลิ่วในแต่ละปี

    - เกษตรกรขายที่ทำกินหรือกู้หนี้ยืมสิน มาเพื่อซื้อสินค้าตามกระแสโลกาภิวัฒน์ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ TV เป็นต้น

    - ราคาที่ดินขยับสูงขึ้นมากอย่างน่าใจหาย เนื่องจากมีการแย่งกันซื้อเพื่อเก็งกำไร

    - เกิดอาชีพนายหน้าต่างๆ ขึ้นมากมาย เพราะซื้อง่ายขายคล่อง

    - เกิดธุรกิจลูกโซ่โดยการชักจูงสมาชิกมาร่วมทำธุรกิจ โดยมุ่งหวังหาจำนวนสมาชิกให้ได้มากที่สุด มากกว่ามุ่งขายผลิตภัณฑ์

    [​IMG]

    [​IMG]

    สังเกตว่าเราไม่ได้มีการคิดผลิตสินค้าของเราเอง เช่น การผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ การแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นอาชีพหลักของชาติเรา และก่อให้เกิดผลผลิตภายในประเทศ เพื่อส่งออกสู่ตลาดโลกได้ นั่นคือเราไม่มีเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

    ในขณะเดียวกันนั้น ธนาคารพาณิชย์หรือนักธุรกิจไทยก็ไปกู้เงินดอกเบี้ยต่ำจากต่างประเทศ เข้ามาเพื่อปล่อยกู้ภายในประเทศ แล้วเก็งกำไรจากผลต่างอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ได้เตรียมรับกับความไม่แน่นอนของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากค่าเงินบาทของไทยในขณะนั้นยังไม่ได้ปล่อยลอยตัว

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    จะเห็นได้ว่าชาวไทยจำนวนมากในยุคนั้น ไม่ค่อยรู้จักประมาณตนเอง ร่ำรวยอย่างไร้เหตุผล ก็เลยจนเพราะไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีนั่นเอง ณ วันนี้ ถ้าชาวไทยเราทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้ในการดำรงชีพ การทำงาน และการบริหารประเทศอย่างจริงจังแล้ว โอกาสที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง...อีกครั้ง...ก็คงหมดไป

    Posted by สุภา, วันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2550, 01:58:17 น.


    [​IMG]

    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2008
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปลูกพืชสวนครัวไม่กลัวจน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เชิญมาปลูก ฟัก แฟง แตงน้ำเต้า
    อีกกะเพรา โหระพา หน้า-หลังบ้าน
    พืชสวนครัว ปลูกกันไว้ ได้รับประทาน
    ข้าวในจาน ปลอดสารพิษ ชีวิตดี

    พริก มะเขือ ปลูกข้าง ทางน้ำไหล
    ปลูกตำลึง ริมรั้วไว้ ไม่เปลืองที่
    มะละกอ ฟักทอง บวบ ควบผักชี
    ข่า ตะไคร้ ปลูกให้มี ที่ข้างครัว

    ปลูกมะกรูด งามงาม สองสามต้น
    ใช้ปรุงปน เครื่องแกงไทย ไปได้ทั่ว
    ปลูกกระชาย ห้าวา พารอดตัว
    เก็บส่วนหัว ปลูกต่อ พ่อแม่พันธุ์

    หัวขิงแก่ ขยายตา นำมาปลูก
    จะเกิดลูก ขิงใหม่ ใต้ดินนั้น
    ขิงผัดไก่ ผัดหมู ชูชีวัน
    รสลือลั่น ขิงดองหวาน น้ำตาล-เกลือ

    ตำน้ำพริก โปรดจำ เร่งสำนึก
    ปลูกมะอึก สิบต้น ผลล้นเหลือ
    อีกมะนาว สองสามต้น ผลเป็นเบือ
    มะขามเปรี้ยว ปลูกเผื่อไว้ ใช้ถาวร

    มะกอกป่า ต้นใหญ่ ใบสะพรั่ง
    ใบอ่อนช่าง โอชา อย่าว่าสอน
    จิ้มปลาร้า ลาบเผ็ดเผ็ด เด็ดทุกตอน
    ลูกสุกกล้อน ตำส้มตำ ฉ่ำชื่นใจ

    ปลูกมะยม มะกอก ออกเป็นกร้าม
    ผลงามงาม เชื่อมน้ำตาล รสซ่านไส้
    ดอง แช่อิ่ม จิ้มพริกเกลือ แซบเหลือใจ
    น้ำลายไหล ใครเห็น เป็นชุ่มคอ

    ปลูกมะดัน กันไว้บ้าง ข้างริมน้ำ
    ต้มปลาทู อร่อยล้ำ เปรี้ยวฉ่ำศอ
    เหลือแช่อิ่ม จิ้มพริกเกลือ ไม่เหลือพอ
    เด็กเด็กขอ มะดันดอง ถองทุกคน

    คันดินปลูก พืชคนรวย กล้วยน้ำว้า
    เป็นสินค้า ต้น ปลี อีกที่ผล
    ขุดทองกัน สิบปี มีแต่จน
    ปลูกกล้วย ห้าสิบต้น ไม่จนทอง

    ปลูกขนุน หนุนดวง ไม่ร่วงตก
    ขนุนดก ชะตาดี ไม่มีสอง
    ขนุนสุก ผ่าดูซี สีเรืองรอง
    กินกันครอง แครงกะทิ สุดวิจารณ์

    หรือจะกิน เคียงเคล้า กับข้าวเหนียว
    กินเดี่ยวเดี่ยว กรอบนุ่น ชุ่มหอมหวาน
    เม็ดโตโต เก็บไว้ปลูก กินลูกนาน
    เหลือต้มทาน ไส้กะหรี่ปั๊บ รับรองดี

    กินมะม่วง หวานหอมเด็ด เก็บเม็ดไว้
    ปลูกหัวไร่ ปลายทุ่ง บำรุงที่
    เด็ก นกกา อาศัยพอ ต่อชีวี
    บารมี แผ่ไป ไม่โรยรา

    มะม่วงสุก ข้าวเหนียวมูน แม่คุณเอ๋ย
    หลับสะเบย ครึ่งวัน กันเจียวหนา
    เหลือกวนทำ ไส้ขนม สมคณา
    ทำเงินตรา เข้ากระเป๋า ของเราตุง

    ริมริมน้ำ อย่าลืมนะ ปลูกกะเฉด
    ผักบุ้งเทศ ผักบุ้งไทย ปลูกในทุ่ง
    ผัด แกงส้ม รวกเข้าสิ กะทิปรุง
    ขายข้ามทุ่ง ข้ามท่า ฟ้าเมืองไทย


    อย่าลืมปลูก แปลงแมงรัก ไว้สักนิด
    กินแก้พิษ แก้แพ้ ทั้งแก้ไข้
    ขนมจีน แมงรักแกล้ม แช่มชื่นใจ
    เม็ดแช่ใส่ น้ำหวาน ทานชื่นทรวง

    ขอกล่าวเตือน ชายไทย ในทุกที
    ถ้ารอรี แล้วหนา น่าเป็นห่วง
    จะจ่ายเงิน อีกหลายเท่า กระเป๋ากลวง
    น้ำตาร่วง เผลาะเผลาะ เพราะเกียจคร้าน ...เอย...

    บทกลอนโดย (พระราชวิจิตรปฏิภาณ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 64876487.jpg
      64876487.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89 KB
      เปิดดู:
      3,586
    • rr13034553.jpg
      rr13034553.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.5 KB
      เปิดดู:
      2,742
    • untitled.JPG
      untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      63.9 KB
      เปิดดู:
      53
    • 02642_002.jpg
      02642_002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.2 KB
      เปิดดู:
      2,591
    • 26194.jpg
      26194.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      51
    • 1207134020.jpg
      1207134020.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      50
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข่าวเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์

    [​IMG]

    ญี่ปุ่นพัฒนาเทคโนโลยีถ่ายทอดภาพที่สมองของมนุษย์คิดเอาไว้

    โตเกียว 11 ธ.ค.- คณะนักวิจัยในญี่ปุ่น พัฒนาเทคโนโลยีถ่ายทอดภาพที่สมองของมนุษย์กำลังคิดเอาไว้ ซึ่งถ้ามีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้ไปอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้รู้ได้ว่า มนุษย์กำลังคิดอะไรในใจ หรือถ่ายทอดความฝันออกมาเป็นภาพผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้

    คณะนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการระบบประสาทวิทยาคอมพิวเตอร์ เอทีอาร์ ในญี่ปุ่น ยืนยันประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดภาพที่สมองของมนุษย์กำลังคิดเอาไว้ แต่ในเบื้องต้นจะเป็นภาพอย่างง่าย ๆ จนกว่าจะมีการพัฒนาต่อไป ให้สามารถถ่ายทอดภาพได้อย่างซับซ้อนขึ้น เป็นภาพที่มนุษย์คิดเอาไว้ในใจ หรือปรากฏในรูปของความฝัน

    นักวิจัยระบุว่า ถือเป็นครั้งแรกที่มนุษย์จะได้เห็นสิ่งที่คิดไว้ในสมองถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพ ตามปกติ เวลาคนเราจ้องมองไปที่วัตถุชิ้นหนึ่ง จอประสาทตาของเราก็จะจดจำภาพของวัตถุชิ้นนั้นไว้ แล้วถ่ายทอดเป็นสัญญาณส่งต่อไปยังสมองในส่วนควบคุมการมองเห็น แต่นักวิจัยในญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการจับเอาสัญญาณดังกล่าวมาถ่ายทอดเป็นภาพผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์

    โดยนักวิจัยทดลองให้อาสาสมัครกลุ่มหนึ่ง ดูตัวอักษร 6 ตัว ของคำว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6587 ข่าวสดรายวัน


    สวีเดนแชมป์ลดโลกร้อน




    เมื่อ 10 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เยอรมันวอตช์ และเครือข่ายปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศของยุโรป (ซีเอเอ็น) เปิดเผยตัวเลขชี้วัดสภาพอากาศระบุว่า สวีเดนเป็นประเทศที่ควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกได้มากที่สุด รองลงมาได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส อินเดีย ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 26 ขณะที่ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่แย่ที่สุด รายงานระบุด้วยว่า ไม่มีประเทศใดเลยที่ปกป้องภูมิอากาศของประเทศตัวเองได้เป็นที่น่าพอใจ และไม่มีประเทศใดที่แสดงความตั้งใจลงมืออย่างจริงจังเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะโลกร้อน

    รถบัสไฟลุกย่างอินเดีย 63 ศพ



    เมื่อ 10 ธ.ค. สำนักข่าวไอเอเอ็นเอสของอินเดียรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัส 52 ที่นั่งที่บรรทุกนักแสวงบุญกว่า 100 คน วิ่งด้วยความเร็วสูงบนถนนในรัฐอุตตระประเทศ ทางเหนือของอินเดีย ยางล้อระเบิด พลิกคว่ำและลื่นไถลไปไกลหลายร้อยเมตรแล้วเกิดไฟลุกไหม้ท่วมคัน มีผู้ถูกย่างสดเสียชีวิต 63 ราย รถคันดังกล่าวเพิ่งเสร็จจากการพาผู้โดยสารชาวฮินดูไปทำบุญที่เมืองมธุรา ผู้โดยสาร 33 คนหนีออกมาได้ทันโดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนขับหนีไปและถูกจับได้ในเวลาต่อมา


    กรีซเดือดวันที่5ม็อบปะทะตำรวจ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    กรีซเดือด- หนุ่มวัยรุ่นชาวกรีกเงื้ออิฐบล็อกเตรียมขว้างเข้าใส่อาคารรัฐสภากลางกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ท่ามกลางความวุ่นวายที่ม็อบปะทะตำรวจ ในการประท้วงที่ย่างเข้าสู่วันที่ 5 ซึ่งความรุนแรงมีชนวนมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเด็กชาย อายุ 15 ปีเสียชีวิต เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามข่าว (เอพี)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 10 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานสถานการณ์การประท้วงในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ที่บานปลายกลายเป็นจลาจลที่รุนแรงที่สุดนับแต่มีการประท้วงในช่วงเวลา 5 วันว่า ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนที่ด้านนอกรัฐสภา ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงปาระเบิดขวดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขว้างก้อนอิฐก้อนหินใส่รัฐสภา แก๊งวัยรุ่นหลายกลุ่มบุกปล้นร้านค้าในหลายเมือง เผาอาคารและปิดถนน ส่งผลให้เที่ยวบินต้องยกเลิก โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศต้องจัดหาแพทย์ไว้เตรียมรักษาผู้บาดเจ็บ ธนาคาร และโรงเรียนต้องปิดทำการ

    ผู้ประท้วงเพิ่มขึ้นกว่าหมื่นคนในกรุงเอเธนส์และเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะรอบบริเวณทำเนียบรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นายคอสตาส คารามานลิส โดยชนวนความวุ่นวายเริ่มมาจากที่กลุ่มวัยรุ่นโกรธแค้นที่ตำรวจยิงนายอเล็กซานโดรส กริโกรเพาโลส อายุ 15 ปี เสียชีวิตเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา วัยรุ่นชายคนดังกล่าวอยู่ในกลุ่มที่ปาก้อนหินใส่รถสายตรวจในกรุงเอเธนส์ ทำให้ตำรวจ 2 นาย ไม่พอใจและยิงปืนขู่แต่ทำให้นายอเล็กซานโดรสเสียชีวิต

    ด้านตำรวจอ้างว่า เพียงแต่ยิงขู่แต่กระสุนสะท้อนไปถูกผู้เสียชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับผลการชันสูตรศพที่ชี้ว่า นายอเล็กซานโดรส เสียชีวิตจากการที่กระสุนกระดอนมาโดนหน้าอกหลังจากไปกระทบของแข็ง ไม่ใช่ถูกยิงโดยตรง แต่เหตุการณ์ลุกลามบานปลายเนื่องจากเดิมประชาชนไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้วที่ไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจน การว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น และคดีอื้อฉาวทางการเมือง

    พรรคสังคมนิยมซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากรัฐบาลสูญเสียความไว้วางใจจากประชาชน โดยผลสำรวจความนิยมของรัฐบาลชี้ว่า ร้อยละ 68 เห็นว่ารัฐบาลจัดการกับวิกฤตไม่ถูกต้อง ประชาชนไม่พอใจการเปลี่ยนแปลงระบบบำนาญ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และเรื่องคุณภาพการศึกษา แต่นายคารามานลิสยังคงยืนกรานไม่ลาออกและไม่จัดการเลือกตั้งใหม่แต่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายปรองดองและยุติการชุมนุม

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
    จีดีพีปี"52โตแค่2%-สาหัสสุดรอบ11ปี ธนาคารโลกชี้คนจน-แรงงานไร้ฝีมือกระอักจ่อเตะฝุ่น



    น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย แถลงว่า ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี"52 ยังคงได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกและการค้าที่ถดถอย รวมทั้งภาวะการเมืองภายในที่ยังขาดเสถียรภาพโดยเฉพาะผลกระทบจากการปิดล้อมสนามบินนานาชาติสุวรรณ ภูมิ จึงประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีหน้าจะอยู่ที่ 2% เท่านั้น ต่ำสุดในรอบ 11 ปี อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสขยายตัวต่ำกว่านี้หากจากนี้ไม่มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพเพียงพอจะบริหารประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของจีดีพีในปีนี้คาดจะอยู่ที่ 3.9% จากคาดการณ์เดิม 5% โดยปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ของปีที่ขยายตัวต่ำเพียง 0.8% ซึ่งเป็นผลจากการเมืองภายใน

    "กลุ่มคนที่จะได้รับผลกระทบหลักจากการที่จีดีพีขยายตัวต่ำที่ 2% ในปีหน้า คือ กลุ่มคนจน รากหญ้า เกษตรกรในต่างจังหวัด และแรงงานไร้ฝีมือในโรงงาน เพราะคนกลุ่มนี้จะเป็นคนแรกที่ถูกเลิกจ้าง ซึ่งแตกต่างจากปี"40 ที่คนชั้นกลางถึงสูงได้รับผลกระทบหนัก ฉะนั้นนโยบายจากภาครัฐ เช่น งบกลางปีแสนล้านบาท ถือเป็นเรื่องดีที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่สิ่งสำคัญคือการนำมาใช้จะต้องเน้นแก้ปัญหาเฉพาะกลุ่ม เกาให้ถูกที่คัน ส่วนการ ปล
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พระพุทธเจ้าไม่เอาดี ไม่เอาชั่ว ****

    สัตว์โลกห่อหุ้มเต็มไปด้วยกรรม กำลังโบกสะบัด
    เราควรที่จะหยิบปัญญาในศาสนาพุทธมาพิจารณา
    เพื่อลดละ ตัดกิเลสอารมณ์ของตนให้เบาบางลง

    พระพุทธเจ้าไม่เอาดี ไม่เอาชั่ว
    เพราะเกรงว่าต้องเกิดดีมาเอาชั่ว
    เพราะเกรงว่าต้องเกิดชั่วมาเอาดี
    พระพุทธเจ้าจึงไม่เอาทั้งดี ไม่เอาทั้งชั่ว

    ลองพิจารณาดู เรามุ่งหลุดพ้นแล้วเราจะเอาอะไร !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2008
  7. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    วันนี้ 18.00-24.00 น. รอดูพระจันทร์ดวงใหญ่กว่าปกติเพราะอยู่ใกล้โลกมาก แล้ว วันที่ 13-14 ธ.ค.51 รอดูฝนดาวตก 60ดวง รึเปล่าจำไม่ได้ เวลา ตั้งแต่ 21.00 น.
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สกัดจับกุมได้ทันควันคนขับ-กระเป๋ารถทัวร์ฮือรุมสกรัมผู้โดยสาร </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พนักงานรถทัวร์ ป.2 โคราช-กทม.สุดโหด

    คนขับ-กระเป๋ารุมสกรัมผู้โดยสาร พนักงานต้อนรับสาวร่วมแจม ถีบกระเด็นตกรถ หัวแตกเย็บ 7 เข็ม เหตุแค่เหยื่อขอลงปลายทางที่ อ.แก่งคอย แต่รถไม่จอดจึงขอลงเปลี่ยนคัน ทำกระเป๋าเลือดขึ้นหน้า ตรงเข้าชกต่อย ส่วนที่เหลือมาร่วมแจม ตร. ทางหลวงสกัดจับได้ คุมตัวทั้งหมดไปดำเนินคดี

    พนักงานรถทัวร์ ป.2 สุดโหดรุมสกรัมผู้โดยสารอ่วมครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.

    พ.ต.ท.ประจันทร์ แสงมณี สวส.สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 9 ธ.ค. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ยาม หน้าโรงปูน ทีพีไอ ถนนมิตรภาพ อ.มวกเหล็ก ว่า มีเหตุผู้โดยสารถูกคนขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร และพนักงานต้อนรับหญิงของรถโดยสาร ป.2 สีส้ม สายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ ทะเบียน 10-3483 นครราชสีมา เลขข้างรถ 21-4 ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ มาขอความช่วยเหลือ ขณะนี้ได้นำตัวส่ง รพ.มวกเหล็กแล้ว จึงรีบไปตรวจสอบ พบนายพิเนตร เพิ่มขึ้น อายุ 44 ปี ชาวบ้าน ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก กำลังให้แพทย์เย็บศีรษะที่ถูกตีจนแตกเลือดอาบ ต้องเย็บ 7 เข็ม ส่วนที่ขาทั้งสองข้างมีรอยเขียวช้ำ

    สอบสวนนายพิเนตร ผู้เสียหายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางจากบ้านพักมารอขึ้นรถโดยสารที่ศาลาที่พักผู้โดยสารหน้าฟาร์มโคนมมวกเหล็ก

    เพื่อต้องการไปเอารถยนต์ส่วนตัวที่ซ่อมไว้ที่ อ.แก่งคอย ไม่นานนักก็ได้มีรถยนต์โดยสาร ป.2 คู่กรณี เข้ามาจอดรับผู้โดยสาร ตนจึงได้ขึ้นรถคันดังกล่าว เมื่อรถวิ่งมาได้ราว 2 กม. พนักงานเก็บค่าโดยสารได้เข้ามาเก็บค่าโดยสาร พร้อมสอบถามว่าจะไปลงที่ใด ตนจึงแจ้งว่าจะไปลงที่หน้าปากทางเข้า อ.แก่งคอย แต่พนักงานเก็บค่าโดยสารได้ตอบกลับมาว่า รถไม่จอดที่แก่งคอยแต่จะเลยไปจอดที่ จ.สระบุรี ตนจึงขอร้องให้ช่วยจอดรถให้ลง ทำให้พนักงานเก็บค่าโดยสารโวยวายเสียงดัง กล่าวหาว่าตนทำให้เสียเวลาจึงเกิดโต้เถียงกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ เมื่อคนขับรถเห็นดังนั้นได้จอดรถเข้าข้างทางแล้วหยิบเอาเหล็กแป๊บยาวประมาณ 60 ซม. ตรงเข้ามารุมทุบตี รวมถึงพนักงานต้อนรับเป็นหญิงได้เข้ามาใช้เท้าถีบจนตนตกจากรถ ท่ามกลาง สายตาของผู้โดยสารรายอื่น ๆ

    จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวได้ลงจากรถมารุมสกรัมตนก่อนพากันขับรถหลบหนีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ตนจึงพาร่างอันสะบักสะบอมไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจป้อมยามหน้าโรงปูนฯ ให้ช่วยเหลือนำส่งโรง พยาบาลดังกล่าว

    ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสามารถ สกัดจับกุมรถโดยสารคันก่อเหตุเอาไว้ได้ และคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.มวกเหล็ก พร้อมของกลางท่อนเหล็กแป๊บที่ใช้ก่อเหตุ 2 อัน ทราบชื่อคนขับ นายมานะ เผยกลาง อายุ 28 ปี, นายวิฑูรย์ เกษแสงสี พนักงานเก็บค่าโดยสาร และ น.ส.ทองศรี แสนละเอียด พนักงานต้อนรับ จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายพิเนตร ที่เดินทางมาให้ปากคำหลังทำแผล ได้โอดครวญว่า “ขนาดผมเป็นผู้ชายยังถูกทำร้ายขนาดนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวมาเจอปัญหาอย่างผมจะทำอย่างไร ค่ำมืดดึกดื่นยิ่งอันตราย จึงฝากผู้เกี่ยวข้อง ขนส่งจังหวัดช่วยกวดขันดูแลด้วย”.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ขึ้นพรวดๆ ถึงเวลาน้ำมันถั่วเหลืองลดทันที 3 บาท </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (10 ธ.ค.) ว่า นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ออกตรวจดูผู้ประกอบการโรงงานผลิตน้ำมันถั่วเหลือง บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์พืช จำกัด จ.สมุทรปราการ

    เพื่อรับทราบสถานการณ์ราคาน้ำมันถั่วเหลือง โดยผู้ประกอบการชี้แจงว่า แม้ว่าราคาต้นทุนวัตถุดิบในตลาดโลกจะลดลงตามราคาน้ำมัน แต่ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองได้นำเข้าถั่วเหลืองมาเก็บสต็อกไว้ล่วงหน้า 2-3 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการแบกรับภาระต้นทุนสต็อกดังกล่าวค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองยินดีแบ่งเบาภาระให้กับผู้บริโภค จึงยอมปรับลดราคาน้ำมันถั่วเหลืองจาก 49.50 บาท/ขวดขนาด 1 ลิตร ลดเหลือ 46 บาท/ขวดขนาด 1 ลิตร มีผลตั้งแต่วันนี้ และมองว่าแนวโน้มราคาน้ำมันถั่วเหลืองยังปรับลดลงได้อีก 1-2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบในตลาดโลกปรับลดลง แต่วันนี้ถือว่าเป็นวันแรกที่น้ำมันถั่วเหลืองจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป ให้มีราคาไม่เกิน 46 บาท/ขวดขนาด 1 ลิตร


    “ส่วนน้ำมันปาล์มที่มีการจำหน่ายได้จำหน่าย 36-38 บาท/ขวดขนาด 1 ลิตร เห็นว่าราคามีแนวโน้มลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้ไป กรมการค้าภายในจะติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทุกประเภทให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยในสัปดาห์หน้าจะเรียกกลุ่มรายการสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหมดมาหารือ โดยเฉพาะฟาร์มสุกร เพื่อประเมินราคาให้เป็นธรรมสะท้อนกับต้นทุน หากราคาสินค้ามีแนวโน้มลดลง อาจทำให้สินค้าทุกประเภทลดลงตามไปด้วยอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ธ.โลกชี้ปีหน้าเศรษฐกิจไทยโต2% ตัวเลขต่ำสุดรอบ11ปี-สาวโรงงานเสี่ยงตกงานสูง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบเนื้อหาข่าวอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ธนาคารโลกมองจีดีพีไทยปี 2552 โตได้แค่ 2% ต่ำสุดในรอบ 11 ปี ส่งออกชะลอตัวมาก ท่องเที่ยวรับผลกระทบหนัก ขณะที่การลงทุนและการบริโภคชะลอ สาวโรงงานเสี่ยงตกงานย้ายเข้าภาคเกษตร คาดไตรมาส 4 จีดีพีหดเหลือ 0.8% แต่ไม่เกิดภาวะเงินฝืด

    ดร.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า

    จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในปีหน้า จะทำให้ภาคการส่งออกที่แท้จริงขยายตัวได้เพียง 2% แต่หากคิดเป็นการส่งออกที่ยังไม่ได้หักเงินเฟ้อ การส่งออกของไทยปีหน้าจะขยายตัว 8% ชะลอลงจากปีนี้ที่ขยายตัวได้ 19.5%
    ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 2% ชะลอตัวลงจากปีนี้ ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% โดยอัตราการเติบโต 2% ถือเป็นการขยายตัวในระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา


    ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้การส่งออกปีหน้าของไทยชะลอตัวลงมาก คือ การที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นตลาดส่งออกของไทยชะลอตัวลงมาก ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าน้อยลง เช่นเดียวกับในด้านการท่องเที่ยว ที่จะได้รับผลกระทบจากอำนาจซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และยังได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศด้วย


    ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ทั้งการลงทุนและการบริโภคก็คาดว่า

    จะชะลอตัวต่อเนื่องจากปีนี้ โดยการลงทุนภาคเอกชนในปี 2552 จะขยายตัวได้ไม่มาก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงของลูกค้ามากขึ้น ทำให้สินเชื่อไม่ขยายตัวมากเท่ากับปีนี้ อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การอนุมัติโครงการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในปีนี้ปรับลดลงเกือบครึ่งหนึ่งของปีก่อน ทำให้การลงทุนจริงมีไม่มาก


    ดร.กิริฎากล่าวด้วยว่า

    การชะลอตัวของภาคธุรกิจและการบริโภคจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในปีหน้า
    โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบหลักจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในครั้งนี้ คือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม และคนงานที่ถูกเลิกจ้างนี้อาจจะหันไปพึ่งพางานในภาคเกษตรหรือทำกิจการค้าปลีกมากขึ้น


    นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปีนี้ด้วยว่า

    น่าจะขยายตัวได้เพียง 0.8% ซึ่งเป็นผลมาจากภาคบริการที่อาจจะไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเลยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบของการปิดสนามบินสุวรรณภูมิในกลางไตรมาส รวมทั้งการส่งออกก็ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นจากผลกระทบเศรษฐกิจโลก ขณะที่การใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐก็คาดว่าไม่ขยายตัวเพิ่มจากปีก่อนเช่นกัน


    "แม้เศรษฐกิจในไตรมาส 4 ของปีนี้ และเศรษฐกิจปีหน้าจะชะลอตัวลง แต่ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืดเหมือนกับประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจการเงินโลกอย่างรุนแรง" ดร.กิริฎากล่าว


    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศต่างๆ ได้รับผลกระทบมากกว่าไทย ดังนั้น ไทยอยู่ในสถานะที่จะปรับตัวได้ จากที่มีการคาดกันว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติปี 2554-2555 ประเทศไทยก็ควรใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โรคร้ายที่มากับโลกร้อน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>โลกร้อนไม่ได้นำมาแต่ความร้อนเท่านั้น แต่ยังนำภัยอันตรายมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภัยธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมถึงอันตรายจากโรคร้ายได้อีกด้วย

    แพทย์สาขาโรคติดเชื้อ บอกว่า ในภาวะโลกร้อนและอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้นหลายองศาเซลเซียสนั้น จะทำให้ภูมิภาคที่มีอากาศเย็นเริ่มร้อนขึ้น และโรคภัยต่างๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับประเทศในแถบร้อนก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ส่วนประเทศในแถบร้อนที่ปกติอุณหภูมิสูงอยู่แล้วนั้น ก็มีความเสี่ยงยิ่งขึ้นต่อโรคภัยต่างๆ มากขึ้นไปอีก โรคที่จะมาในภาวะโลกร้อน สามารถแบ่งได้เป็น 3 โรคใหญ่ๆ คือ

    1. ฮีตสโตรก (Heat Stroke)

    ภาวะเป็นลมเนื่องจากความร้อนสูงเกินไป นับเป็นด่านแรกของภัยสุขภาพยุคโลกร้อน ซึ่งโรคนี้คนในประเทศร้อนมักจะไม่ค่อยเกิดอาการมากนัก เนื่องมาจากการชินกับความร้อน แต่ในอนาคตข้างหน้า เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นไปอีกประมาณ 7-10 องศาเซลเซียส คนในประเทศร้อนก็อาจจะเกิดอาการนี้ได้บ่อยๆ เช่นกัน

    อาการที่ว่านี้จะเกิดจากการที่ร่างกายนั้นได้รับความร้อนมากจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นจากการออกกำลังกาย หรือการเล่นกีฬาในภาวะอาการ้อนจัดเป็นเวลานาน จนอุณหภูมิในร่างกายสูงเกินขีดที่จะทนทานได้

    เมื่อโลกร้อนมากขึ้น คนในประเทศหนาวอย่างในยุโรปจะมีภาวะฮีตสโตรกเกิดขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากภาวะที่อากาศร้อนเกินไปจนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ เสียเกลือแร่ในร่างกายได้ ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ซึ่งเหล่านี้อาจจะทำให้เสียชีวิตได้

    2. อาการภูมิแพ้

    อาการเช่นนี้แพทย์สาขาโรคติดเชื้อ บอกว่าเกิดจากภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสูงมาก จนทำให้เกิดกรีนเฮาส์เอฟเฟ็กต์ บรรยากาศร้อนขึ้น ซึ่งเมื่อคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นมากๆ จะไปกระตุ้นให้สาหร่าย พืช หรือวัชพืชบางอย่างที่ปกติไม่ขึ้นอยู่ในที่สูงหรือในอากาศหนาวขยายตัวได้มากขึ้นในที่ที่อากาศหนาว และเมื่อวัชพืชเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น อาจก่อสารให้เกิดภูมิแพ้ได้มากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการสร้างละอองเกสรที่ลอยมาในอากาศทำให้เกิดภูมิแพ้ได้มากขึ้น รวมทั้งเรื่องของมลภาวะก็อาจช่วยกระตุ้นให้คนที่เป็นโรคหอบหืดเกิดอาการได้มากขึ้นและบ่อยขึ้น หรือคนที่เป็นโรคหลอดลมอักเสบจากการสูบบุหรี่ก็จะมีปัญหามากขึ้นด้วย

    3. โรคที่มากับแมลง

    เนื่องจากแมลงบางชนิด เช่น ยุง แมลงวัน จะชอบอากาศอบอุ่น ค่อนข้างร้อน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค เช่น โรคไข้เลือดออก มาลาเรียได้มากในประเทศร้อน ขณะที่ในภูมิภาคที่มีอากาศหนาวอย่างยุโรปนั้น มักจะไม่ต้องกังวลกับเรื่องไข้เลือดออกหรือมาลาเรีย เนื่องจากแมลงวันจะอาศัยอยู่ในอากาศเย็นไม่ค่อยได้

    แต่เมื่อโลกร้อนขึ้น บริเวณที่แมลงเหล่านี้สามารถขยายพันธุ์ไปได้ก็จะเพิ่มมากขึ้น มีการพบโรคเหล่านี้ในสถานที่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน คือ ในที่ที่มีอากาศหนาว อย่างเช่น ในประเทศโคลัมเบียที่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 7,000 กว่าฟุต ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของโลก หรือที่อินโดนีเซียในบริเวณภูเขาสูง อากาศเย็น พบว่ามีโรคมาลาเรียเกิดขึ้นเช่นกัน

    มีการยอมรับจากเวทีการประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคติดต่อในภาวะโลกร้อนระดับนานาชาติว่า หนึ่งในโรคที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในยุคโลกร้อนที่ต้องจับตามองคือ ไข้เลือดออก เพราะนอกจากจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยแล้ว ในขณะนี้ยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำโรค ได้ขยายเวลาออกหากินจากช่วงกลางวันเป็นช่วงหลัง 5 ทุ่มด้วย ซึ่งทำให้ยากต่อการป้องกันหรือวินิจฉัยโรค เนื่องจากแยกแยะได้ลำบากว่ายุงนั้นเป็นยุงลาย หรือยุงรำคาญที่หากินช่วงค่ำไปถึงดึก

    ยิ่งไปกว่านั้นยุงลายตัวผู้ในยุคโลกร้อนยังถูกตรวจพบว่ามีเชื้อไวรัสที่ก่อโรคไข้เลือดออก ทั้งที่ไม่ได้ดูดเลือดเป็นอาหารแบบตัวเมีย ซ้ำบางตัวยังมีเชื้อไวรัสนี้ถึง 2 สายพันธุ์ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

    # # #
    ที่มา : นิตยสาร Health Plus
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ดื่มน้ำมากดี"ไม่ป่วย-อายุยืน" </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>หลายร้อยปีมาแล้วมีผู้พยายามคิดค้นหาทางทำให้อายุยืน มีสุขภาพดี ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ซี่ง ดร.มิฮาอิล ชีพินอฟ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เชื่อว่าวิธีที่ทำให้อายุยืนอาจเป็นวิธีง่ายๆ แค่ดื่มน้ำ

    ดร.ชีพินอฟอธิบายว่า ในน้ำมี "ดิวทีเรียม" รูปแบบของไฮโดรเจนชนิดหนึ่งที่หายาก และมีน้ำหนักมากกว่าไฮโดรเจนปกติถึง 2 เท่า "ดิวทีเรียม" นี้ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพ เมื่อเซลล์ถูกสารเคมีที่เกิดขึ้นจากการย่อยอาหารแปรเปลี่ยนเป็นพลังงาน โดยเซลล์ที่เสื่อมสภาพนี้ต่อไปอาจกลายเป็นเซลล์มะเร็ง

    จากการทดลองของ ดร.ชีพินอฟ ที่ทำกับไส้เดือนและแมลงหวี่พบว่า เมื่อไส้เดือนได้รับ "ดิวทีเรียม" อายุของไส้เดือนเพิ่มขึ้น 10% ส่วนแมลงหวี่อายุเพิ่มขึ้น 30% นอกจากการเพิ่มจำนวน "ดิวทีเรียม" ในน้ำเพื่อไว้ในการดื่มกินแล้ว ดร.ชีพินอฟยังแนะว่า อาจเพิ่ม "ดิวทีเรียม" ในอาหารต่างๆ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ได้ด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    100 ข้อคิดพินิจธรรม... <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>๑. จงทำดี อย่าหวังค่าตอบแทน ถึงแม้จะเป็นเพียงคำสรรเสริญก็ตาม

    ๒. จงทำดี ให้มันดี ถึงแม้ผลงานออกมาไม่ดี ก็ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว

    ๓. จงทำดี แต่อย่าอวดดี เพราะทุกคนก็มีดีไม่เหมือนกัน

    ๔. อุปสัคมักจะเกิดขึ้นในขณะที่กำลังทำความดี ดีเหลือเกินหนี้สินเก่าจะได้หมดไป

    ๕. อุปสัคมักจะไม่เกิดขึ้นในขณะกำลังทำความชั่ว เพราะเป็นทางกู้หนี้สินใหม่เข้ามาแทน

    ๖. ทุก ๆ คนปรารถนาแต่สิ่งที่ดี ๆ แต่ไม่รู้จักการทำความดี

    ๗. ควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ อย่าพยายามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

    ๘. คนโง่ไม่มีความพยายามที่จะเข้าใจอะไรได้เลย
    ได้แต่เอะอะโวยวายว่า ...ทำไมถึงเป็นแบบนี้
    ทำไม... ? ถึงต้องเป็นเรา ทำไม ...ทำไม ...

    ๙. ผู้ฉลาดในธรรม ยอมรับว่า ...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว... ซึ่งไม่มีอะไรที่น่าตกใจเลย เพราะเป็นเรื่องธรรมดา

    ๑๐. ชีวิตที่ไม่ขาดทุน คือการไม่เคยทำความชั่วเลย

    ๑๑. เพราะฉะนั้นคนเราเจอทั้งสุขและทุกข์ เพราะว่าทำทั้งดี ทำทั้งชั่ว

    ๑๒. การตามใจตัวเองอยู่เสมอ เป็นทางตันในการดำเนินชีวิต

    ๑๓. การขัดใจตัวเอง ก็คือการขัดเกลาหนทางให้ราบเรียบ

    ๑๔. ถ้าหากเราอยากให้คนอื่นมาเข้าใจหรือเอาใจในตัวเรา
    เหมือนกับว่าเรายังเป็นเด็กไร้เดียงสาไม่รู้จักเติบโตเลย

    ๑๕. เราพยายามที่จะเข้าใจคนอื่น มากกว่าที่จะให้คนอื่นมาเข้าใจ
    ตอนนี้ เรากำลังจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว

    ๑๖. หลาย ๆ ชีวิต เดินสวนทางกันไปมาอยู่ในขณะนี้
    มีทางดำเนินชีวิตไม่เหมือน และก็มีอุปสรรคที่ไม่เหมือนกัน

    ๑๗. เราอย่าเข้าใจว่า มีความทุกข์มากกว่าคนอื่น
    คนอื่นมีความทุกข์มากกว่าเราก็ยังมี

    ๑๘. การร้องไห้เป็นการแสแสร้งที่แบบเนียนเหลือเกินในวัน
    เพราะพรุ่งนี้เราจะร้องเพลงก็ได้

    ๑๙. เพราะฉะนั้น เวลาเรามีความทุกข์
    ก็อย่าเข้าใจว่า เรามีความทุกข์
    เวลาเรามีความสุข ก็อย่าเข้าใจว่า เรามีความสุข
    ไม่เช่นนั้นเราต้องเป็นคนบ้า
    ร้องไห้บ้าง ร้องเพลงบ้าง ตามประสาคนบ้า

    ๒๐. คนอื่นจะให้ได้ดังใจเรานั้น ทุกอย่างไม่มีเลย
    เพียงแต่เรายอมรับเขา อยู่ในฐานะใดฐานะหนึ่งเท่านั้น

    ๒๑. แม้แต่ตัวของเราเองก็ยังไม่ได้ดังใจเรา
    แล้วคนอื่นจะให้ได้ดังใจเรานั้น เป็นอันไม่มี

    ๒๒. เราไม่ได้ดังใจเขา จะให้เขาได้ดังใจเราอย่างไร

    ๒๓. ปรารถนาสิ่งใด อย่าพึงดีใจไว้ล่วงหน้า
    พลาดหวังสิ่งใด อย่าพึงเสียใจตามหลัง

    ๒๔. ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นเช่นนั้นเอง

    ๒๕. หากยึดถือมาก ให้ความสำคัญมันมาก ทุกข์มาก

    ๒๖. หากยึดถือน้อย ให้ความสำคัญมันน้อย ทุกข์น้อย

    ๒๗. ยินดีไปตามความอยาก คือความมักมากไม่มีสิ้นสุด

    ๒๘. แท้จริง ผัว ไม่มี เมียไม่มี ลูกไม่มี ทรัพย์สมบัติก็ไม่มี
    แต่ความยึดมั่นด้วยความลุ่มหลงอย่างหนาแน่นว่าเรามี

    ๒๙. สักวันหนึ่ง เราคงจะไม่มีอะไรสักอย่างเลย ถึงวันนั้น เราทำใจได้ไหม ?

    ๓๐. การเกิดขึ้น เพื่อเริ่มต้นไปสู่ความดับลง
    ท่านจะยึดถือ หรือไม่ยึด นั้นมันเป็นเรื่องของท่าน

    ๓๑. อุปาทานคือความยึดมั่นถือมั่น กับความรับผิดชอบ มันคนละอย่างกัน

    ๓๒. วันนี้ต้องดีกว่าวานนี้ พรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้

    ๓๓. ทำดีในวันนี้ พรุ่งนี้จะดีของมันเอง

    ๓๔. คนโง่จะเสียใจ ร้องไห้ตลอดวัน โดยไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

    ๓๕. ส่วนคนฉลาด จะรีบแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้

    ๓๖. เรารักในสิ่งใด จะต้องจากในสิ่งนั้น ช้าหรือเร็วมันอีกเรื่องหนึ่ง

    ๓๗. ถ้าผัวตายก่อนเมีย เมียจะต้องเสียใจ
    ถ้าเมียตายก่อนผัว ผัวจะต้องเสียใจ ทำอย่างไร จึงจะไม่เสียใจ

    ๓๘. ถ้าไม่อยากเสียใจ เมื่อจากกันไป ก็อย่าดีใจเมื่อตอนได้มา

    ๓๙. ท่านแน่ใจหรือว่าท่านเป็นพระเอกหรือนางเอกตลอดนิรันดรกาล

    ๔๐. ใช่แน่นอน ! ท่านเป็นตัวเอกในเรื่องของท่าน
    แต่ท่านอาจจะเป็นตัวสำรองในเรื่องของผู้อื่น

    ๔๑. เรายืนอยู่บนสนามชีวิต ต้องต่อสู้อุปสรรคทุกรูปแบบ
    จนกว่าจะปิดฉากละครแห่งชีวิต ด้วยการตายลงไป

    ๔๒. บทเรียนในตำราเรียน กับบทเรียนในชีวิตจริง มันคงละอย่างกัน

    ๔๓. ไม่มีตำราเล่มไหน ที่จะสอนเราทุกอย่างก้าว
    ว่าวันนี้เราจะต้องเจออะไรบ้าง และจะต้องแก้อย่างไร ?

    ๔๔. เสียเงินทอง เสียสิ่งของ เสียเวลา และก็เสียใจ เป็นการจ่ายค่าเทอมชีวิต

    ๔๕. คนฉลาดจะจ่ายค่าเทอมที่ถูกที่สุด ส่วนคนโง่จะจ่ายค่าเทอมที่แพงกว่ากัน

    ๔๖. ที่จริงคนตาบอด พิกลพิการเขาน่าจะเป็นทุกข์มากกว่าเรา
    ทำไม ? เขายังยิ้มแย้มแจ่มใสได้

    ๔๗. ทำไมเราจึงทุกข์กว่าคนพิกลพิการเล่า ?

    ๔๘. กายพิการ แต่ใจไม่พิการ
    ใจพิการ แต่กายไม่พิการ อย่างไหนดีกว่ากัน ?

    ๔๙. เราสามารถตัดสินหนทางดำเนินชีวิตของเราเองได้ ดีหรือชั่ว อยู่ที่ตัวของเรา

    ๕๐. คนอื่นสามารถบังคับเราเป็นเพียงบางเวลา
    ส่วนใจของเรานั้น ไม่มีใครสามารถบังคับได้นอกจากตัวของเราเท่านั้น

    http://widget.sanook.com/static_content/full/graphic/12674999c26a45fb04d5b22416ca893b_1203073489.gif[img]

    [/COLOR][/SIZE][SIZE=3][COLOR=#008080]๕๑. ถึงแม้งานจะสับสนยุ่งยากเหลือเกิน
    หากใจมีอิสระแล้ว ไม่เห็นจะยุ่งยากตรงไหน

    ๕๒. ทุกคนเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ ตายเพื่อทำหน้าที่ ดีกว่าตายเพราะไม่ทำหน้าที่

    ๕๓. รับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบเพื่อนที่ดี และรับผิดชอบสังคม

    ๕๔. วันนี้เราด่าเขา วันหน้าเขาต้องด่าเรา
    ชาตินี้เราฆ่าเขา ชาติหน้าเขาจะต้องฆ่าเราอย่างแน่นอน

    ๕๕. คนทำบาป เพราะเห็นแก่กิน
    ไม่ต่างอะไรกับกินอาหารผสมยาพิษอย่างเอร็ดอร่อย
    กินมากก็มีพิษมา กินน้อยก็มีพิษน้อย

    ๕๖. กฎหมายทางโลก คุ้มครองสัตว์บางจำพวกเท่านั้น
    ส่วนกฎแห่งกรรมทางธรรม คุ้มครองสัตว์ทุกจำพวก

    ๕๗. กฎระเบียบของทางโลก อนุโลมไปตามความอยาก
    ส่วนกฎทางธรรมอนุโลมไปตามความเป็นจริง

    ๕๘. กรรมคือการกระทำให้สัตว์หยาบ และละเอียดประณีตต่างกัน

    ๕๙. ไม่มีพระเจ้าองค์ใด ที่จะสร้างเรา
    ไม่มีพระเจ้าองค์ใด ที่จะทำให้เราร่ำรวยได้
    ไม่มีพระเจ้าองค์ใด ที่จะทำให้เราเป็นผู้บริสุทธิ์ได้นอกจากตัวของเราเอง

    ๖๐. คำว่า ...ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว... มากเหลือเกินที่คนได้ยิน น้อยเหลือเกินที่คนรู้จัก

    ๖๑. เหตุการณ์ความเป็นไปของทางโลก ไม่มีสิ้นสุด
    เราไม่สามารถจะติดตามได้ตลอดกาลเพราะอายุยังมีที่สิ้นสุด
    เราจะบ้ากับมันหรือไม่บ้า มันก็เป็นไปอยู่อย่างนั้น

    ๖๒. เพื่อมิให้เสียเวลา จงกลับมามองดูจิตใจของตนเอง ทำไมถึงซอกแซกสับส่ายถึงขนาดนั้น

    ๖๓. มันเคยตัว เพราะเราให้โอกาสมันมากเกินไป
    เพราะรักมันมาก จึงไม่กล้าขัดใจ นาน ๆ ไปอาจกลายเป็นโรควิกลจริตทางด้านจิตใจ

    ๖๔. การเอาชนะใจตนเอง ไม่ให้ไหลสู่อำนาจฝ่ายต่ำ เป็นสิ่งประเสริฐแท้

    ๖๕. วันนี้ เราตามใจของตนเอง ด้วยอำนาจแห่งความอยาก
    วันพรุ่งนี้ เราต้องหมดโอกาสที่จะสบายใจ

    ๖๖. วันนี้ เราไม่ตามใจตนเอง พรุ่งนี้ เราจะอยู่อย่างสบาย

    ๖๗. ยิ่งแก่ ยิ่งงก เพราะเขางกมาตั้งแต่ยังไม่แก่ ยิ่งแก่ ยิ่งดี เพราะเขาดีตั้งแต่ยังไม่แก่

    ๖๘. การวิ่งไปตามความอยาก คือการฆ่าตนเองด้วยความพอใจ

    ๖๙. ศัตรูมักมาในรูปรอยแห่งความเป็นมิตร ความทุกข์มักมาในรูปรอยแห่งความสุข

    ๗๐. น้ำหวานผสมยาพิษ คนโง่จะชอบดื่ม
    เพราะไม่รู้ ยาเสพติด ทำลายร่างกายตนเอง คนโง่ก็จะพากันเสพทั้งที่รู้

    ๗๑. ความสบายกายและสบายจิต
    จะหาซื้อด้วยเงินแสนเงินล้านไม่มีเลย ไม่จำเป็นจะต้องซื้อด้วยเงินและทอง

    ๗๒. คนที่มีศรัทธา มีคุณค่ายิ่งกว่าเงินแสนเงินล้าน

    ๗๓. เมื่อมีศรัทธา ควรมีปัญญาประกอบด้วย
    ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นคนงมงาย ขาดเหตุผล

    ๗๔. คนนิยมสร้างพุทธ ที่เป็นรูป คือพุทธรูป
    แต่ไม่นิยมสร้างพุทธ ที่เป็นนาม คือสภาวธรรมที่รู้แจ้ง รู้จริง ทำให้รู้จักพุทธะ

    ๗๕. ความจริงต้องมีให้พิสูจน์ จึงจะถือว่าจริงแน่นอน
    คนโง่จะไม่เชื่อตั้งแต่เริ่มต้น จึงไม่พบกับความจริงในชีวิต มีแต่ความงมงายในชีวิต

    ๗๖. คนใดถือสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระ
    ถือสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระคนนั้นมีทางดำเนินในทางที่ผิด
    เขาจะไม่พบแก่นสารชีวิตที่แท้จริงเลย

    ๗๗. ผู้ที่หลงเปลือกนอก ย่อมไม่เห็นแก่นใน
    ผู้ถึงแก่นใน ย่อมเข้าใจเปลือกนอก

    ๗๘. ความสนุกสนานมัวเมาประมาทในชีวิต
    ไม่ใช่หนทางดำเนินชีวิตที่แท้จริง มันเป็นหนทางที่ทำให้เสียเวลา

    ๗๙. หากคนให้ความสำคัญกับการ กิน เล่น เสพกาม และนอน
    มากกว่าคุณธรรม เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานจะไม่ดีกว่ากันหรือ ?
    เพราะว่าไม่มีกฎหมายห้าม

    ๘๐. หากจิตใจเต็มด้วยความโลภ โกรธ หลง
    ช่องว่างในหัวใจไม่มี มีแต่ความอึดอัด

    ๘๑. อาหารที่กินเข้าไปมาก แสนจะอึดอัด แต่มีทางระบายออก

    ๘๒. ยิ่งความโลภ โกรธ หลง ลดลงมากเท่าไร
    ความปลอดโปร่ง ยิ่งมีขึ้นมากเท่านั้น

    ๘๓. แสงสว่างในทางธรรม จุดประกายให้ชีวิต ให้พบแต่ความสดใส

    ๘๔. ความสุขทางโลก เหมือนกับการเกาขอบปากแผลที่คัน ยิ่งเกายิ่งมัน
    เวลาหยุดเกา มันแสบมันคัน เพราะเป็นความสุขเกิดจากความเร่าร้อน

    ๘๕. เมื่อตอนที่อยากได้ ก็เป็นทุกข์ขณะที่แสวงหา ก็เป็นทุกข์
    ได้มาแล้วกลัวฉิบหายไป ก็เป็นทุกข์

    ๘๖. เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็ต้องมี เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ย่อมไม่มี

    ๘๗. หากมีแล้ว ทำให้มีความสุข ควรมี
    ถ้าหากมีแล้ว ทำให้มีความทุกข์ ไม่รู้จะมีไว้ทำไม ?

    ๘๘. ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เที่ยง เราไปยึดมั่นความไม่เที่ยงนั้นว่าความสุข

    ๘๙. แม้ความสุขนั้นมันก็ไม่เที่ยง จะไปหวังเอาอะไรอีกเล่า ?

    ๙๐. พบกันก็เพื่อจากกัน ได้มาก็เพื่อจากไป

    ๙๑. มองทุกข์ให้เห็นทุกข์ จึงจะมีความสุข

    ๙๒. ความเบาใจ คลายกังวล ย่อมมีได้ แก่บุคคลผู้เข้าใจธรรมะ

    ๙๓. ยิ่งเข้าถึงธรรมที่เป็นจริงมากเท่าใด ความเบาสบายใจยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

    ๙๔. เพราะความสุขทางโลก ไม่ให้อะไรมากไปกว่าความเพลิดเพลิน
    มัวเมา ประมาทในชีวิต จนลืมทางธรรม

    ๙๕. ทางเดิน ๒ ทาง ทางโลก และ ทางธรรม

    ๙๖. ทางโลก คือการปล่อยใจไปตามความอยากในโลกีย์ ทางธรรม
    คือการควบคุมใจตนเอง ให้มีธรรมเป็นเครื่องคุ้มครอง

    ๙๗. ผิดหวังทางโลก ยังมีทางธรรมคุ้มครอง หากคนนั้นรู้จักธรรม

    ๙๘. ผิดหวังทางโลก อยากทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
    แม้กระทั่งตนเอง คนนั้นแหละ ไม่รู้จักธรรม

    ๙๙. ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ควรยึดถือมั่น

    ๑๐๐. มันเป็นเช่นนั้นเอง

    [B][COLOR=#3366ff][CENTER][B][COLOR=#3366ff]ที่มา : ธัมมทินน์...[/COLOR][/B][/CENTER]
    [/COLOR][/B][/COLOR][/SIZE]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[IMG]http://variety.teenee.com/foodforbrain/img3/50341.gif</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>บทเตือนสติตน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    บทเตือนสติตน


    หนทางการดำเนินชีวิตของคนเรา ล้วนตกอยู่ในโลกของความผูกพัน (รัก โลภ โกรธ หลง) อยู่กับสิ่งที่เป็นอนิจจัง ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถหลุดพ้นจากวังวนแห่งทะเลทุกข์ได้ ทำให้ชีวิตต้องตกอยู่ในความมืดมนอันธการสับสนและสูญเปล่าอย่างไร้ค่า

    ในยุคปัจจุบันถึงกำหนดกาลปกโปรดเผยแพร่หลักสัจธรรมเพื่อเป็นหนทางสู่ความหลุดพ้น ผู้ที่โชคดีจึงได้รับการถ่ายทอดหลักสัจธรรมรู้หนทางการหลุดพ้น จะละเลยไม่ได้ที่จะต้องเอาใจใส่ในการสร้างคุณงามความดี เสริมสร้างคุณธรรมบารมีและเป็นผู้ที่มีจิตสำนึกที่ดี อีกทั้งต้องหมั่นคอยสำรวจตรวจสอบและเตือนสติตนเองอยู่เสมอ

    ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องอ่านหนังสือเพื่อแสวงหาความเข้าใจและแนวทางการดำเนินชีวิต บทเตือนสติตนเองคงจะให้ประโยชน์กับท่านได้ไม่มากก็น้อย


    พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง


    1. รู้จักพอ เป็นโชคเป็นลาภ นำมาซึ่งความสุข
    ไม่รู้จักพอ เป็นคนโลภ นำมาซึ่งการเวียนว่าย

    2. รู้จักหยุดภายในให้สงบ เป็นความร่มเย็นของจิตใจ นำมาซึ่งนิพพาน
    ไม่รู้จักภายในให้สงบ เป็นคนวุ่นวาย นำมาซึ่งความเดือดร้อน

    3. รู้จักวาง เป็นผู้เจริญ นำมาซึ่งไร้พันธนาการ
    ไม่รู้จักวางเป็นคนยึด นำมาซึ่งความวุ่นวาย

    4. รู้จักใช้ปัญญาเป็นผู้รู้ตื่น นำมาซึ่งความเบิกบาน
    ไม่รู้จักใช้ปัญญา เป็นคนโง่เขลา นำมาซึ่งการวุ่นวาย

    5. รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น เป็นผู้เมตตา นำมาซึ่งความสุข
    ไม่รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนเห็นแก่ตัว นำมาซึ่งยากเข็ญ

    6. รู้จักอภัย เป็นผู้มีธรรม นำมาซึ่งความผาสุข
    ไม่รู้จักอภัย เป็นคนช่างจดช่างจำ นำมาซึ่งความโดดเดี่ยว

    7. รู้จักเมตตาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ นำมาซึ่งธรรม
    ไม่รู้จักเมตตาไร้ซึ่งธรรม นำมาซึ่งความเดือนร้อนวุ่นวาย

    8. รู้จักบำเพ็ญธรรม เป็นผู้น่าเลื่อมใส นำมาซึ่งการหลุดพ้น
    ไม่รู้จักบำเพ็ญธรรม เป็นคนน่าเวทนา นำมาซึ่งการเวียนว่าย

    9. รู้จักดีชั่วเป็นผู้กำลังบำเพ็ญ นำมาซึ่งการเจริญรอยตามพุทธะ
    ไม่รู้จักดีชั่ว เป็นผู้มืดมน นำมาซึ่งการเวียนว่าย

    10. รู้จักเกรงกลัวต่อบาป เป็นผู้ยำเกรงต่อกฎฟ้าดิน นำมาซึ่งความบริสุทธิ์
    ไม่รู้จักเกรงกลัวต่อบาป เป็นผู้ถือตน นำมาซึ่งความเดือดร้อน

    11. รู้จักธรรม เป็นผู้มีปัญญา นำมาซึ่งแจ่มแจ้ง
    ไม่รู้จักธรรม เป็นผู้มืดมน นำมาซึ่งความลุ่มหลง

    12. รู้จักสัจธรรม เป็นผู้กระจ่างโลก นำมาซึ่งความสว่าง
    ไม่รู้จักสัจธรรม เป็นผู้ลุ่มหลง นำมาซึ่งมืดมน

    13. รู้จักช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น เป็นผู้กระจ่างธรรม นำมาซึ่งความอบอุ่น
    ไม่รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนเห็นแก่ตัว นำมาซึ่งโดดเดี่ยว

    14. รู้จักผันแปรกฎแห่งกรรม เป็นผู้มีปัญญา นำมาซึ่งสุข
    ไม่รู้จักผันกฎแห่งกรรม เป็นผู้มืดมน นำมาซึ่งทรมาน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>15. รู้จักหน้าตาของตนที่แท้จริง เป็นผู้แยบยล นำมาซึ่งการหลุดพ้น
    ไม่รู้จักหน้าตาที่แท้จริง เป็นคนลุ่มหลง นำมาซึ่งความมืดมน

    16. รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นผู้น่ายกย่อง นำมาซึ่งจริยา
    ไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นผู้เย่อหยิ่ง นำมาซึ่งผู้อื่นไม่ชื่นชอบ

    17. รู้จักรักษามิตรไมตรี เป็นที่ชื่นชอบ นำมาซึ่งสมานฉันท์
    ไม่รู้จักรักษามิตรไมตรี เป็นผู้โดดเดี่ยว

    18. รู้จักชีวิต เป็นผู้กว้างขวาง นำมาซึ่งปัญญา
    ไม่รู้จักชีวิต เป็นผู้ลุ่มหลง นำมาซึ่งมืดมน

    19. รู้จักยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นชัยต่อชีวิต นำมาซึ่งเบิกบาน
    ไม่รู้จักยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นคนอมทุกข์ นำมาซึ่งความมืดมน

    20. รู้จักถนอมบุญสัมพันธ์ เป็นที่ชื่นชอบ นำมาซึ่งอนาคต
    ไม่รู้จักถนอมบุญสัมพันธ์ เป็นคนขาดคุณธรรม นำมาซึ่งโดดเดี่ยว

    21. รู้จักอดทน เป็นยอดคน นำมาซึ่งศรัทธา
    ไม่รู้จักอดทน เป็นคนอ่อนแอ นำมาซึ่งปัญหา

    22. รู้จักระวัง เป็นคนรอบคอบ นำมาซึ่งความละเอียดอ่อน
    ไม่รู้จักระวัง เป็นคนประมาท นำมาซึ่งเดือดร้อน

    23. รู้จักใช้วาจา เป็นศรีแก่ตัว นำมาซึ่งจริยา
    ไม่รู้จักใช้วาจา เป็นคนเลอะเลือน นำมาซึ่งภัย

    24. รู้จักถนอมกาย เป็นศรีแก่ตัว นำมาซึ่งสรรเสริญ
    ไม่รู้จักถนอมกาย เป็นคนลุ่มหลง นำมาซึ่งมืดมน

    25. รู้จักประมาณตน เป็นผู้น่าเลื่อมใส นำมาซึ่งจริยา
    ไม่รู้จักประมาณตน เป็นคนถือตน นำมาซึ่งภัย

    26. รู้จักวางตน เป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล นำมาซึ่งเลื่อมใส
    ไม่รู้จักวางตน เป็นคนอวดดี นำมาซึ่งผู้อื่นไม่ชื่นชอบ

    27. รู้จักประหยัด เป็นผู้ถนอมบุญ นำมาซึ่งวาสนา
    ไม่รู้จักประหยัด เป็นคนฟุ่มเฟือย นำมาซึ่งความเดือดร้อน

    28. รู้จักสร้างบุญบารมี เป็นฐานของผู้บำเพ็ญ นำมาซึ่งรู้แจ้ง
    ไม่รู้จักสร้างฐานบารมี เป็นผู้มืดมน

    29. รู้จักทุกข์ เป็นผู้รู้สัจชีวิต นำมาซึ่งรู้ตื่น
    ไม่รู้จักทุกข์ เป็นคนวุ่นวาย นำมาซึ่งเดือดร้อน

    30. รู้จักสุข เป็นผู้รู้สัจชีวิต นำมาซึ่งรู้ตื่น
    ไม่รู้จักสุข เป็นคนวุ่นวาย นำมาซึ่งเดือดร้อน



    ขอบคุณบทความจากวิธีดอทคอม
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภัยหนาวส่งผลกระทบทั้งคน-สัตว์

    [​IMG]

    ภูมิภาค 12 ธ.ค. - อากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อทั้งคนและสัตว์

    ตำรวจและเจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย ซึ่งประจำอยู่บริเวณด่านตรวจแม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย ต้องก่อไฟผิงคลายหนาว ขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจสกัดจับสิ่งผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับตำรวจและทหารที่ร่วมกันตั้งด่านตรวจบริเวณ ถ.พหลโยธิน แม่สาย-พะเยา หลังว่างเว้นจากการตั้งด่าน ได้ร่วมกันก่อไฟผิงคลายหนาวในเวลาค่ำคืน ไม่เว้นแม้แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยตามบริษัทและสถานที่ราชการ

    ขณะที่ชาวเชียงรายออกมาจับจ่ายซื้อเสื้อกันหนาวเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศการจำหน่ายเสื้อกันหนาวริมถนนในตัวเมืองเชียงราย เป็นไปอย่างคึกคัก และมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

    ส่วนที่ จ.พิษณุโลก อุณหภูมิที่ลดลงจนเหลือ 4-5 องศา ทำให้ชาวเขาเผ่าม้ง บ้านใหม่ร่องกล้า อ.นครไทย ซึ่งมีพื้นที่อยู่บนภูเขาสูง จำนวน 250 ครอบครัว ประสบภัยหนาวอย่างหนัก ต้องก่อไฟผิงคลายหนาว เนื่องจากขาดแคลนเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ส่งผลให้เด็กและคนชราจำนวนมากป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ

    นอกจากนี้ สัตว์ก็ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะลิงที่วัดถ้ำผาหมากฮ่อ ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งมีอยู่กว่า 700 ตัว ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากขาดแคลนอาหาร มีเพียงใบไม้ใบหญ้ารอบวัดให้กินประทังชีวิต แม้นักท่องเที่ยวจะนำอาหาร ทั้งกล้วย แตงกวา มาให้ลิงกิน แต่ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากที่วัดถ้ำผาหมากฮ่อมีลิงอยู่เป็นจำนวนมาก. - สำนักข่าวไทย

    2008-12-12 05:07:05

    ลำปางประกาศ 3 อำเภอ คุมระบาดปากเท้าเปื่อยในสัตว์

    [​IMG]

    ลำปาง 11 ธ.ค.- นายปริยัติ สุวัฒนานันท์ ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานโรคปากเท้าเปื่อยใน 3 อำเภอ คือ อ.เมือง แม่ทะ และแม่เมาะ มีโค-กระบือป่วยกว่า 30 ตัว ตายไปแล้ว 2 ตัว ล่าสุดจังหวัดประกาศให้เป็นเขตโรคระบาดแล้ว

    โดยเฉพาะพื้นที่บ้านม่อนแสนศรี ม.6 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ ต้องคุมเข้มเป็นพิเศษ เนื่องจากมีโค-กระบือตาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ของโรคได้แล้ว พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโค-กระบือ ในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร และจะฉีดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่มีการเลี้ยงกว่า 200,000 ตัว ภายในเดือนธันวาคม เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นเอื้อต่อการแพร่ระบาดของเชื้อได้ดี สำหรับพื้นที่ควบคุมโรคนั้นไม่ให้เคลื่อนย้ายสัตว์เด็ดขาด และขอให้ประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากพบโค-กระบือ มีอาการเริ่มแรกซึม น้ำลายไหลออกจากปากมากผิดปกติ และมีตุ่มใสบริเวณปาก รวมถึงเท้ามีรอยแตก.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-11 13:08:39

    หอยเลี้ยงสุราษฎร์ฯ ตายเกือบหมดอ่าวหลังฝนถล่ม

    [​IMG]

    สุราษฎร์ธานี 11 ธ.ค. - นายศิลา วันดี ประธานชมรมผู้เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งอ่าวบ้านดอน อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกิดฝนตกต่อเนื่องมากว่า 3 สัปดาห์ ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งอ่าวบ้านดอนทั้ง อ.เมือง และกาญจนดิษฐ์ ได้รับความเสียหายอย่างมาก

    เพราะปริมาณน้ำจืดได้ไหลลงสู่อ่าวกว่า 200,000 ไร่ ไปจนถึงเกาะปราบ ทำให้หอยแมลงภู่ หอยนางรมและหอยแครง อายุระหว่าง 6 เดือนถึง 2 ปี แช่น้ำจืดนานกว่า 20 วัน และตายเกือบทั้งอ่าว ประเมินความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ คาดว่าเทศกาลปีใหม่นี้หอยแครง หอยแมลงภู่ และหอยนางรม อาจขาดตลาดและมีราคาแพง. - สำนักข่าวไทย

    2008-12-11 18:18:06

    ไฟไหม้ห้องเช่ากลางเมืองสมุทรปราการวอด 10 คูหา

    [​IMG]

    สมุทรปราการ 12 ธ.ค. - เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องเช่า ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ เสียหาย 10 คูหา ส่วนสาเหตุและค่าเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลบางเมือง จ.สมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง นำรถดับเพลิง 7 คัน เข้าฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ห้องเช่า ภายใน ซ.บุญศิริ แยกพร้อมนิมิต ซ.9 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ แต่การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากบริเวณเกิดเหตุเป็นห้องเช่าติดต่อกันหลายคูหา และมีถังแก๊สหุงต้มระเบิดเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบพบห้องเช่าได้รับความเสียหายทั้งหมด 10 คูหา แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    นางปราณีย์ สมเสนาะ ซึ่งพักอาศัยอยู่ห้องเช่าที่เกิดเหตุ ให้การว่า เพลิงลุกไหม้มาจากชั้นบนและลุกลามไปอย่างรวดเร็ว และมีเสียงระเบิดเป็นระยะ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากห้องเช่าเป็นลักษณะครึ่งตึกครึ่งไม้ อยู่ในสภาพเก่า อย่างไรก็ตาม จะประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ. - สำนักข่าวไทย

    2008-12-12 01:08:26

    จันทบุรีเร่งแก้ปัญหาช้างป่าเขาสอยดาวยกโขลงกินพืชไร่

    [​IMG]

    จันทบุรี 11 ธ.ค.- โขลงช้างป่าเขาสอยดาว-จันทบุรี กัดกินผลผลิตชาวบ้านเสียหายกว่า 50 ไร่ เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าฯ ห่วงช้างถูกทำร้าย จัดกำลังเฝ้าระวังและแนะวิธีป้องกันให้ชาวบ้าน

    พ.ต.ท.คัคคพงษ์ พิมพ์เสน ผบ.ตชด.114 อ.สอยดาว จ.จันทบุรี พร้อมนายแถม คเชนทร์ชาติ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านคลองพอก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อ.สอยดาว ร่วมตรวจร่องรอยบริเวณไร่มันสำปะหลังหมู่บ้านคลองพอก หมู่ 8 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว หลังชาวบ้านแจ้งว่ามีโขลงช้างป่ากว่า 20 เชือก บุกทำลายผลผลิตเสียหายไปกว่า 50 ไร่ รวมทั้งสวนกล้วย มานานหลายสัปดาห์ ชาวบ้านต้องหาวิธีการป้องกันไว้ทุกคืนทั้งจุดไฟและจุดปะทัดไล่ การตรวจสอบพบต้นมันสำปะลังที่ถูกช้างหักโค่นกระจัดกระจายตลอดทางกว่า 3 กิโลเมตร พร้อมกองมูลช้างหลายสิบกอง

    หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านคลองพอก กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบช้างป่าโขลงนี้มีกว่า 20 ตัว รวมถึงช้างแม่ลูกอ่อนอย่างน้อย 3 ตัว ส่วนจ่าโขลงเป็นช้างเพศผู้อายุราว 40 ปี ตัวสูงใหญ่มากกว่าช้างธรรมดาทั่วไป โขลงช้างป่าดังกล่าวอาศัยอยู่ริมคลองกวดกรองบริเวณป่าอ่างฤาใน หรือป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกติดกับผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อ.สอยดาว ห่างจากหมู่บ้านคลองพอกประมาณ 3 ก.ม.

    สาเหตุที่ช้างต้องออกมาหากินจากป่า เนื่องจากป่าปรุหรือป่าที่เป็นแหล่งอาหารของช้าง ประกอบด้วยดงหญ้าคา หญ้าสาบเสือ เถาวัลย์และพืชอื่น ๆ พื้นที่หลายสิบไร่บริเวณคลองกวดกรองถูกช้างกัดกินจนหมด โดยช้างจะออกมาหากินตามไร่เฉพาะช่วงค่ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์จะร่วมกับตำรวจ ตชด.114 จัดเวรยามมาดูแลหมู่บ้านคลองพอกทุกคืน เพื่อให้คำแนะนำการป้องกันที่ถูกต้องแก่ชาวบ้าน และไม่ให้ช้างถูกทำร้าย เพราะเป็นสัตว์อนุรักษ์.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-11 10:47:19

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์คึกคัก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 11 ธ.ค. - นักท่องเที่ยวแห่ไปสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ อย่างคึกคัก ยอดดอยเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง และอุณหภูมิลบ 1 องศาเซลเซียส

    นักท่องเที่ยวหลายพันคนแห่ขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอุณหภูมิบนยอดหญ้าในช่วงเช้า -1 องศาเซลเซียส จนเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง ทำให้ดอกไม้เมืองหนาว ทั้งใบและกลีบดอกเน่าเสียหาย ขณะที่บริเวณพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นไปสัมผัสความหนาวเย็น และชมไม้ดอกเมืองหนาว รวมทั้งดอกกุหลาบพันปี ซึ่งกำลังออกดอกสีแดงบานสะพรั่ง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจำนวนมากยังนำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรี ราชานุสรณ์ สัฐพรรษา สถาพรพิพัฒน์ ภายในพระมหาธาตุนภเมทนีดล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินแกรนิต ประดิษฐานอยู่บนจุดสูงสุดในประเทศ และเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อธิษฐานขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และมีพระพลานามัยแข็งแรง. - สำนักข่าวไทย​

    2008-12-11 05:03:37 ​

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • naphaphonphoomsiri001.jpg
      naphaphonphoomsiri001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.5 KB
      เปิดดู:
      1,761
    • naphatmethanidon001.jpg
      naphatmethanidon001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.9 KB
      เปิดดู:
      1,690
    • 0000001397EAFGM.jpg
      0000001397EAFGM.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.4 KB
      เปิดดู:
      1,925
    • DSCF0787-copy.jpg
      DSCF0787-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.8 KB
      เปิดดู:
      52
    • 170.jpg
      170.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.2 KB
      เปิดดู:
      49
    • 53077b58.jpg
      53077b58.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.5 KB
      เปิดดู:
      2,892
    • 171.jpg
      171.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83 KB
      เปิดดู:
      52
    • 1179506244.jpg
      1179506244.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.6 KB
      เปิดดู:
      66
    • 1199372268.jpg
      1199372268.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.8 KB
      เปิดดู:
      1,894
    • DSCF0764-copy.jpg
      DSCF0764-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.2 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSCF0780-copy.jpg
      DSCF0780-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.2 KB
      เปิดดู:
      55
    • DSCF0778-copy.jpg
      DSCF0778-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.2 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSCF0758-copy.jpg
      DSCF0758-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134.7 KB
      เปิดดู:
      61
    • 124.jpg
      124.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.9 KB
      เปิดดู:
      1,683
    • 183.jpg
      183.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.4 KB
      เปิดดู:
      1,647
    • 152.jpg
      152.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69 KB
      เปิดดู:
      58
    • 153.jpg
      153.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.7 KB
      เปิดดู:
      53
    • 116.jpg
      116.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.8 KB
      เปิดดู:
      1,728
    • 115.jpg
      115.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.5 KB
      เปิดดู:
      57
    • 109.jpg
      109.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66 KB
      เปิดดู:
      67
    • 182.jpg
      182.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.8 KB
      เปิดดู:
      54
    • 187.jpg
      187.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      49
    • 188.jpg
      188.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.9 KB
      เปิดดู:
      65
    • 1179738503.jpg
      1179738503.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.1 KB
      เปิดดู:
      67
    • 1179738883.jpg
      1179738883.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.3 KB
      เปิดดู:
      65
    • 1179739015.jpg
      1179739015.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91 KB
      เปิดดู:
      59
    • DSCF0742-copy.jpg
      DSCF0742-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.1 KB
      เปิดดู:
      55
    • DSCF0745-copy.jpg
      DSCF0745-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.4 KB
      เปิดดู:
      58
    • DSCF0768-copy.jpg
      DSCF0768-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.6 KB
      เปิดดู:
      57
    • DSCF0722-copy.jpg
      DSCF0722-copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108 KB
      เปิดดู:
      74
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2008
  16. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    ข่าวเก่าไปหน่อยแต่มีความน่าสนใจครับ



    ผู้ดีวิตก'บุช'บุกอิหร่านก่อนหมดวาระ
    [​IMG]

    ลอนดอน - วิกฤติอิหร่านยังไร้ทางออก เจ้าหน้าที่อังกฤษหวั่นผู้นำสหรัฐทิ้งทวนเปิดปฏิบัติการบุกอิหร่านใน 2 ปี ขณะไอเออีเอชี้อิหร่านไม่ยอมปฏิบัติตามมติยูเอ็นในเส้นตาย ส่งผลมหาอำนาจ 6 ชาติเรียกประชุมหาทางออกวันจันทร์นี้
    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : หนังสือพิมพ์ เดอะ ไทม์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลอังกฤษแสดงความวิตกว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐจะโจมตีอิหร่านก่อนที่เขาจะครบกำหนดพ้นตำแหน่งในอีกไม่ถึง 2 ปี ข้างหน้า
    "มีความวิตกว่าบุชจะพยายามจัดการปัญหาอิหร่านผ่านการใช้กำลังทหาร" เดอะ ไทม์ รายงานอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งกล่าวด้วยว่า บุช ไม่อยากลงจากตำแหน่งโดยปล่อยให้เรื่องอิหร่านค้างคาไปถึงประธานาธิบดีคนใหม่
    ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ เดอะการ์ดเดียน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ตรวจไม่พบสถานที่เก็บซ่อนอาวุธของอิหร่านตามข้อมูลที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐหาให้
    รายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ แห่งอังกฤษกล่าวยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ว่า อังกฤษไม่ได้วางแผนบุกอิหร่าน หรือได้รับข้อมูลว่าสหรัฐกำลังวางแผนบุกอิหร่าน
    ทั้งนี้ อิหร่านไม่ยอมยุติการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียมภายในกำหนดเส้นตายที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำหนดไว้ ล่าสุดไอเออีเอยืนยันในรายงานตรวจสอบการปฏิบัติตามมติของยูเอ็นฉบับล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ว่า อิหร่านยังไม่ได้ระงับกิจกรรมเกี่ยวกับการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม
    สหรัฐเปิดเผยว่า จะกดดันให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ลงมติรอบใหม่เพื่อบีบให้อิหร่านยุติการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียมและกลับมานั่งโต๊ะเจรจา ส่วนวันจันทร์นี้ จะมีการหารือปัญหาดังกล่าว ระหว่าง 6 ชาติมหาอำนาจ ประกอบด้วย รัสเซีย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหรัฐ ที่กรุงลอนดอน
    ด้านนายปีเตอร์ บูเรียน ทูตสโลวะเกียซึ่งนั่งเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ประจำเดือนกุมภาพันธ์เปิดเผยว่า เขาจะเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯ ในสัปดาห์หน้า เพื่อหามาตรการที่เป็นไปได้กับอิหร่าน คณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อเดือนธันวาคม ซึ่งรวมการห้ามขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับนิวเคลียร์ให้อิหร่าน และสั่งอายัดทรัพย์ของชาวอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยนิวเคลียร์

    ที่ มา http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/23/WW19_1901_news.php?newsid=56089


    ทัพมะกันตั้งทีมลับ วางแผนบุกอิหร่าน

    เมื่อ 23 ก.ย. หนังสือพิมพ์เดอะไทม์สรายงานว่า กองทัพอากาศสหรัฐหน่วยยุทธการพิเศษ ภายใต้รหัส ปฏิบัติการรุกฆาต วางแผนลับกำหนดยุทธศาสตร์ทำสงครามโจมตีอิหร่าน ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งกับสหรัฐอย่างหนักเรื่องโครงการนิวเคลียร์

    หน่วยยุทธการพิเศษดังกล่าวมีสมาชิก 20-30 คน ประกอบด้วยคนระดับมันสมองจากกองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) และผู้เชี่ยวชาญด้านการรบไฮเทคผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่จัดทำรายงานส่งตรงถึงพล.อ.ไมเคิล มอสลีย์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐและทำเนียบขาว รายละเอียดต่างๆ ของปฏิบัติการรุกฆาตดำเนินการมาประมาณ 2 ปี เริ่มต้นโดยกองบัญชาการกลางสหรัฐ แต่หยุดไปช่วงหนึ่ง และกลับมาเดินหน้าใหม่อย่างลับๆ ในเดือนมิ.ย. 2550 พร้อมกับตั้งสำนักงานอยู่ที่ตึกเพนตากอน ท่ามกลางภาวะตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัฐบาลอิหร่านกับสหรัฐและสหประชาชาติ หลังจากอิหร่านยืนยันไม่ยอมหยุดโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งต่อยอดไปสู่การสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้

    ที่มา http://news.giggog.com/world/cat12/news11185/


    มะกันเปลี่ยนแผนโจมตีอิหร่าน

    เบี่ยงเบนประเด็นอ้างถูกโจมตีก่อน

    ผู้นำสหรัฐสั่งเปลี่ยนแผนโจมตีอิหร่าน จากที่จะโจมตีบริเวณโรงงานนิวเคลียร์ไปเป็นการโจมตีกองกำลังปฏิวัติอิหร่านแทน หลังเห็นว่าใช้เรื่องนิวเคลียร์มาเอาผิดไม่ได้ จนต้องเบี่ยงเบนประเด็นไปที่ทหารอเมริกันตกเป็นเหยื่อของการโจมตีจากกองทัพปฏิวัติอิหร่านในอิรัก
    ขณะที่อิหร่านยังคงเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของนานาชาติเรื่องการยุติโครงการนิวเคลียร์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแกนนำในการเรียกร้องและพร้อมที่จะเปิดฉากโจมตีอิหร่านอยู่ตลอด ยังคงมีความเคลื่อนไหวในการเตรียมพร้อมเพื่อโจมตีอิหร่าน ล่าสุด มีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐได้เปลี่ยนแผนจากการโจมตีบริเวณโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ไปเป็นที่กองกำลังปฏิวัติอิหร่านแทน
    โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน นิตยสารนิวยอร์กเกอร์ของสหรัฐ รายงานว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ผู้นำสหรัฐได้สั่งการให้หัวหน้าเสนาธิการทหารร่วมทบทวนความเป็นไปได้ในการโจมตีอิหร่าน ซึ่งอาจจะพุ่งเป้าไปที่กองกำลังปฏิวัติอิหร่าน ด้วยการกล่าวหาว่ากองกำลังปฏิวัติอิหร่านเป็นพวกที่โจมตีกองทัพสหรัฐในอิรัก จากเดิมที่ก่อนหน้านี้สหรัฐได้มีแผนที่จะทิ้งระเบิดโจมตีบริเวณที่ต้องสงสัยว่าเป็นโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
    ในบทความของนายซีมัวร์ เฮิร์ช ผู้สื่อข่าวสายสืบสวนของนิวยอร์กเกอร์ รายงานว่า แม้ว่าบุชจะยังไม่ได้มีคำสั่งเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารกับอิหร่าน แต่การวางแผนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ของสหรัฐก็กำลังขยายปฏิบัติการพุ่งเป้าไปที่อิหร่านอย่างเต็มที่ โดยแผนใหม่ของสหรัฐจะเป็นการใช้กองทัพเรือของสหรัฐยิงจรวดจากทะเลเพื่อโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน และทิ้งระเบิดถล่ม รวมทั้งแผนการทำลายสถานที่สำคัญของกองกำลังปฏิวัติอิหร่าน ทั้งค่ายฝึก โกดังเก็บเสบียง กองบัญชาการและศูนย์ควบคุม
    ทั้งนี้ บุชและที่ปรึกษาตกลงที่จะเปลี่ยนแผนในการต่อสู้กับการก่อการร้ายในอิหร่านเสียใหม่เนื่องจากเห็นว่าคงไม่สามารถทำให้ทุกคนเห็นว่าอิหร่านเป็นอันตรายเพราะนิวเคลียร์ได้ เนื่องจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐเชื่อว่ารัฐบาลอิหร่านอาจจะต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี จึงจะสามารถทำอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมาได้ ดังนั้น การจะใช้กำลังโจมตีอิหร่านได้ก็ควรจะเป็นเรื่องการกล่าวหาว่าอิหร่านโจมตีกองทัพสหรัฐซึ่งจะทำให้การโจมตีอิหร่านนั้นดูมีเหตุผลมากขึ้น
    นายซีบิกนิว เบรซินสกี้ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ สมัยประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ หนึ่งในผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างประเทศของรัฐบาลบุช กล่าวว่า เรื่องของอิหร่านจะไม่เหมือนกับสมัยอิรัก เพราะสหรัฐจะทำตัวเหมือนกับตกเป็นเหยื่อเสียเอง และเกมใหม่ครั้งนี้คือ การแสดงให้เห็นว่าอิหร่านทำอะไรที่เกินตัว และต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีทหารสหรัฐในอิรักและอัฟกานิสถาน อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองผู้หนึ่งเปิดเผยว่า ดิ๊ก เชนีย์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นผู้ที่พยายามผลักดันให้มีการเผชิญหน้ากับอิหร่านเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แม้ว่าทางพรรครีพับลิกันจะแสดงความห่วงกังวลว่าการใช้กำลังใดๆ กับอิหร่านอาจจะทำให้เกิดหายนะทางการเมืองกับทางพรรค เหมือนกับที่เคยส่งทหารไปรบในอิรักจนทำให้คะแนนนิยมตกวูบมาแล้ว (เอเอฟพี)

    ที่มา http://news.giggog.com/


     
  17. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6588 ข่าวสดรายวัน


    พิษสารเคมีกระจาย เปลี่ยนเพศสัตว์จากชายเป็นหญิง




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>จำนวนสารเคมีที่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางเพศในสัตว์ป่า สัตว์มีกระดูกสันหลัง รวมทั้งมนุษย์ เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรายงานนี้ทำโดย นางเกวน ลียองส์ ที่ทำให้กับกลุ่ม "เคมทรัสต์" ที่พิทักษ์สิ่งแวดล้อม

    ในรายงานเปิดเผยว่า สารเคมีที่ทำให้สัตว์เปลี่ยนเพศกลายเป็นหญิง พบมากในกล่องบรรจุอาหาร น้ำยาทำความสะอาด พลาสติก สีทาบ้าน ขยะ เนื่องจากมีสารเคมี เช่น "ไบฟีนอล เอ" และ "ฟธาเลทส์" มีความคล้ายคลึงกับฮอร์โมนเอสโตรเจนของหญิง

    สารเคมีเหล่านี้แพร่ลงไปตามชั้นดิน แม่น้ำ ลำคลอง ทะเล อากาศ ทำให้อวัยวะเพศผิดปกติ จำนวนอสุจิลดลง หรือแม้แต่เปลี่ยนเพศชายให้กลายเป็นเพศหญิง อย่างสัตว์ป่าที่ได้รับผลกระทบแล้วมีทั้ง หมี ปลา นกอินทรี วาฬ

    นอกจากนี้ในการศึกษาอื่นยังพบว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จำนวนอสุจิของชาวตะวันตกลดลง 30% ประเทศที่มีมีสารเคมีคล้ายเอสโตรเจนตกค้างมากอย่าง รัสเซีย อิตาลี และแคนาดา มีจำนวนทารกเพศหญิงเกิดมากกว่าทารกเพศชายถึง 2 เท่า

    ปลาเพศผู้กว่าครึ่งหนึ่งของอังกฤษที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่ำมีการพัฒนาของไข่ ปลาเพศผู้บางตัวกลายเป็นเพศเมียไปเลย หลังจากได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนจากยาคุมกำเนิดที่เข้าไปปนเปื้อนในแม่น้ำ นกตัวผู้ร้องเพลงนานกว่าเดิมและร้องคล้ายกับนกตัวเมีย 40% ของคางคกยักษ์ในรัฐฟลอริดาพัฒนาอวัยวะเพศทั้ง 2 เพศ

    งานศิลป์จากผัก



    [​IMG]
    จูตั้วฉีนำผักผลไม้ต่างๆ มาทำเป็นงานศิลปะเลีย
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>













    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 2602 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6588 ข่าวสดรายวัน


    เลือดโชกเวทีละคร-มีดจริงปาดคอหอย




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 11 ธ.ค. หนังสือพิมพ์เดลี่เทเลกราฟรายงานว่า เกิดเหตุละครเวทีสยองขึ้นในโรงละครเบิร์กเธียเตอร์ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากนายแดเนียล โฮเวลส์ พระเอกละคร วัย 30 ปี ใช้มีดพับของจริงเชือดคอหอยตัวเองบนเวทีจนเลือดพุ่งกระฉูดล้มลงดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด เพราะนึกว่าเป็นมีดปลอมสำหรับประกอบฉาก ขณะที่ฝ่ายคนดูนึกว่านายโฮเวลส์แสดงสมบทบาทและใช้เอฟ เฟ็กต์เลือดนองท่วมพื้นเวทีเหมือนจริงจึงปรบมือดังสนั่นโรงละครโดยไม่รู้ความจริง

    ตำรวจกรุงเวียนนาสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ทีมงานละครเวทีเรื่อง "แมรี่ สจ๊วร์ต" ไปซื้อมีดพับดังกล่าวจากร้านค้าแห่งหนึ่งในเวียนนา และที่ด้ามมีดยังมีป้ายราคาติดอยู่ ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าทีมงานฝ่ายพร็อพ หรือฝ่ายอุปกรณ์ประกอบฉากลืมเปลี่ยนใบมีดใหม่ให้เป็นใบมีดปลอมเพื่อใช้ในการแสดง หรือมีทีมงานบางคนซึ่งมีปัญหากับนายโฮเวลส์จงใจสับเปลี่ยนใบมีดจริงเพื่อวางแผนฆาตกรรมนายโฮเวลส์กลางเวที
    [/FONT]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ผลยันไข้หวัดนกโผล่ฮ่องกงชนิดมรณะ



    เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแถลงยืนยันเป็นทางการว่า ผลการตรวจเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่ระบาดอยู่ในฟาร์มเลี้ยงไก่ตอนนี้เป็นชนิดสายพันธุ์มรณะ เอช 5 เอ็น 1 นับเป็นการพบเชื้อเอช 5 เอ็น 1 ในเขตนี้ครั้งแรกในรอบ 6 ปี ล่าสุดทางการสั่งทำลายไก่ 90,000 ตัวในพื้นที่ดังกล่าวทันทีเพื่อจำกัดวงโรคระบาด

    ด้านประธานสมาคมค้าส่งสัตว์ปีกฮ่องกงแจ้งว่า เมื่อช่วงต้นปีทางการสั่งห้ามนำลูกเจี๊ยบจากจีนเข้ามาฮ่องกง ส่งผลให้เกษตรกรบางกลุ่มลักลอบนำไข่ไก่ซึ่งเตรียมฟักเป็นตัวจากจีนเข้ามาในฮ่องกง จึงขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเร่งจัดการการลักลอบนำเข้าไข่ไก่จากจีนโดยด่วน อย่างไรก็ตาม นายหว่อง หยี-ฉวน เจ้า ของฟาร์มใกล้กับชายแดนจีนที่พบเชื้อระบาดครั้งล่าสุด ปฏิเสธว่าตนไม่ได้ลักลอบนำเข้าไข่จากจีนและเรียกร้องให้สมาคมหาหลักฐานมาพิสูจน์ข้อกล่าวหาดังกล่าว

    วันเดียวกัน นายชิเงรุ โอมิ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก เรียกร้องรัฐบาลชาติเอเชียเร่งเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดนกให้มากขึ้น โดยระบุว่าการระบาดครั้งใหม่ในฮ่องกงชี้ให้เห็นว่าโรคดังกล่าวยังคงเป็นภัยคุกคาม


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 103 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6588 ข่าวสดรายวัน


    เตือนโคอาล่าสูญพันธุ์




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า นางเดบราห์ ทาบาร์ต แกนนำ "มูลนิธิโคอาล่าออสเตรเลียน" กลุ่มอนุรักษ์หมีโคอาล่า เตือนว่า โคอาล่า สัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย อาจสูญพันธุ์ไปจากประเทศ ถ้ารัฐบาลยังไม่เร่งออกมาตรการป้องกันและอนุรักษ์แหล่งอาหารของสัตว์สายพันธุ์นี้ ซึ่งในอดีตโคอาล่าในออสเตรเลียมีมากนับล้านตัว แต่หลังถูกมนุษย์ล่าเอาขนมาขายอย่างหนักตั้งแต่ 80 ปีก่อนเป็นต้นมา ทำให้ประชากรโคอาล่าเหลือไม่ถึง 100,000 ตัว
    [/FONT]

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางความเจริญของโลก

    [​IMG]

    พระฯ ท่านพยากรณ์ว่า
    (จากนักปฎิบัติธรรมสายมโนมยิทธิท่านหนึ่งโปรดใช้วิจารณญาณ)

    หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีฯ พาไปศึกษาธรรมในส่วนคำพยากรณ์ฯ กับพระฯ มีดังนี้คือ:-

    ในอนาคตอันใกล้นี้ คนไทยจะปกครองโลกธาตุและจักรวาล เพราะเวลานี้พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่าน ได้มาถือกำเนิดบนแผ่นดินไทยมานานแล้ว ถ้าหากว่าผู้ใดบำเพ็ญบารมีมาถูกต้องตามแบบแผน และกฎกติกาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายบัญญัติไว้จริง โอกาสที่จะไปทำบุญและเข้าถึงธรรมจากท่านก็มีอยู่มาก ถึงแม้ผู้ที่มาปฏิบัติจะเข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์ได้มากก็จริงอยู่ แต่ถ้าจะไปรู้เรื่องส่วนตัวที่ละเอียดของพระโพธิสัตว์ แต่ละท่านย่อมเป็นไปไม่ได้ เช่น จะไม่รู้ว่าท่านเป็นใครมาเกิด บำเพ็ญบารมีมาแล้วเท่าไร ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ใดมา ในพุทธกาลนี้มีชื่อสมมติว่าอะไร และในพุทธกาลหน้ามีชื่อสมมติว่าอะไร

    เหตุปัจจัยที่จะทำให้คนไทยเป็นใหญ่ในโลกธาตุคือ

    ๑) ทรัพยากรบุคคล อันได้แก่ พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่าน ซึ่งมาเกิดเป็นคนไทย ท่านเหล่านี้มีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ แม้แต่พรหมเทวดาที่อยู่ในทุกๆ ภพภูมิ ก็ยังให้ความเคารพท่านอยู่ตลอดเวลา

    ๒) ทรัพยากรธรรมชาติ อันมีอยู่มากมายในผืนแผ่นดินไทย เช่น น้ำมัน ทองคำ ยูเรเนียม รัตนชาติ รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ อีกจำนวนมาก


    ***********************************************************

    คำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล

    ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลาง(ความเจริญ)ของโลก และเป็นประเทศแรก ที่มีผู้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้ เป็นแห่งเดียวของโลก โดยใช้พลังจิตในการขับเคลื่อน โดยที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้ ให้เกิดพลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของโลก ให้เสียหายอย่างเช่นในปัจจุบัน

    นอกจากนี้ต่อมไพนีล หรือตาที่ 3 ของมนุษย์ จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีต

    ในระยะเวลาไม่นานนัก พระศรีอริยเมตไตรยจะเปิดเผยพระองค์ เพื่อปลอบประโลมสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับมวลมนุษยชาติ ที่มีความบอบช้ำทางจิตใจ ซึ่งในขณะนี้พระองค์ท่านได้เสด็จลงมาบนโลกมนุษย์แล้ว กำลังเป็นสามเณรในพุทธศาสนาและพระองค์ได้มา ปรากฎที่ประเทศไทยนี่เอง !!

    ที่มา http://www.xraythai.com/webboard/ind...pic=919&page=4

    บทความ...จากคุณคนไกล

    เรื่องของภัยพิบัติ จะค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆแหละ เทวดาเขากำลังคัดมนุษย์เข้าสู่ยุคพระยาธรรมิกราช ผู้ที่สร้างสมบารมีมาไม่พอและไม่มีศีลธรรมก็ค่อยๆทะยอยตายไป ด้วยอำนาจแห่งเทพเจ้าผู้ทำหน้าที่ ทางด้าน ดิน น้ำ ลม ไฟ โรคภัย อุบัติเหตุ/ภัยสงคราม..............

    ครูบาอาจารย์ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า อันพระทรงเครื่อง อย่างพระแก้วมรกต เป็นต้น เป็นสัญญลักษณ์ของพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระยาธรรมหรือพระยาธรรมิกราช) ซึ่งต่อไปไม่เกินปี พ.ศ. ........ ก็จะได้เห็นว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นเป็นอย่างไร (ที่จริงท่านเล่าให้ฟังรายละเอียดมีมาก แต่จะไม่ขอกล่าวในที่นี้) ท่านว่ารอให้ประเทศไทยเกิดเหตุใหญ่เสียก่อน (และจะมีความวิบัติเกิดขึ้นทั่วโลก) เทวดาผู้ทำหน้าที่ เขาจะล้างพวกไม่มีศีลธรรมออกไปก่อน (คนไม่มีบุญจะต้องตายหมด) หลังจากนั้นพระยาธรรมจึงจะมาทำนุบำรุงพระศาสนาและพระอรหันต์ที่อยู่ในที่เร้นลับก็จะปรากฎตัวออกมาเต็มเมือง พุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองพอๆกับสมัยที่พระพุทธเจ้ายังอยู่นั่นแหละ แล้วถึงตอนนั้นจะได้เห็นเองว่าพระอรหันต์จริงๆนั้นเขาเป็นกันอย่างไร และจะได้คุยกับเทวดา เขาจะมาเป็นตัวสดๆแบบคนนี่แหละ

    "อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล" จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟัง และจากที่ตัวเองปฏิบัติจิตไปพบเห็น ก็ไปพบว่าผู้ที่ขี่จักรได้นั้นมีอยู่จริงในโลกทิพย์ ซึ่งพระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นท่านขี่จักรไปได้ทั่วจักรวาล - คนไกล

    จากคุณ : คนไกล [06 เม.ย. 48 [15:26 ]

    ที่มา เว็บลานธรรม
    http://larndham.net/index.php?showtopic=11923&st=39<!-- / message --><!-- edit note -->​

    หมายเหตุ

    ตามความคิดของผม คิดว่าเรื่องประเทศไทยจะสร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้นั้น ที่จริงแล้วก็คือ"จักรแก้ว"ของพระเจ้าจักรพรรดิราช(พระศรีอาริย์) นั่นเอง เพราะขับเคลื่อนด้วยพลังจิต ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงใดๆ อันจะทำลายสิ่งแวดล้อมเหมือนอย่างในปัจจุบันนี้ครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 07bi0.jpg
      07bi0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.3 KB
      เปิดดู:
      5,374
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2008
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ที่สุดแห่งเทคโนโลยี ยุคชาววิไล
    โดยคุณม้งคละ

    [​IMG]

    เมื่อนั้น พระราชา(พระศรีอาริย์) ก็เริ่มคิดค้นถึงเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ที่เป็นที่รวมของทุกสิ่งทุกอย่าง คือ เป็นเครื่องมือที่สามารถจะดึงอณูธาตุที่มีในอากาศมาขึ้นรูปเป็นวัตถุสิ่งของต่างๆได้ตามปรารถนา โดยไม่ต้องได้ตัดไม้เพื่อมาทำกระดาษ ไม่ต้องขุดดินระเบิดหินเพื่อมาทำซีเมนต์หรือก้อนอิฐ ไม่ต้องผลิตคอมพิวเตอร์เป็นจอๆ แบบมีแป้นควบคุมนี้มาใช้

    ด้วยว่า ข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ มีความสิ้นอายุไป แล้วก็กลับกลายเป็นของเสียในภายหลัง มีความล้าหลัง มีคุณสมบัติหลายอย่างไม่ตรงตามปรารถนา ประกอบกับในเวลานั้น ปัญหาขยะในโลกก็ยังคงมีอยู่ แม้ว่าเทคโนโลยีที่พยายามพิจารณาดีแล้วนั้นจะก่อมลพิษน้อยก็ตาม แต่มันก็ยังมีอยู่ สืบต่อไปในระยะกาลประมาณหนึ่ง ก็มีอันต้องสะสมกันล้นพื้นที่ได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ พระราชาจึงพิจารณาเพื่อสร้างวัตถุอันเป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยีขึ้นมา คือจักรรัตนะ หรือจะเรียกว่า เครื่องควบคุมพลังงานหรือธาตุในจักรวาลให้เป็นไปตามใจปรารถนา ก็ได้

    ก็จักรรัตนนี้นั้น เมื่อปรากฏสำเร็จขึ้นมาแล้ว จะมีคุณสมบัติในการควบคุมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในขอบเขตเท่าที่ใจนึกได้ โดย เครื่องมือชนิดนี้จะตอบสนองโดยตรงต่อความนึกของมนุษย์ ในการป้อนข้อมูลเข้าจักรรัตนะ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยแป้นพิมพ์ ไม่ต้องอาศัยหน่วยความจำภายนอก และขอบเขตในการควบคุมธาตุ กว้างใหญ่ไปเท่าที่ใจของผู้เป็นเจ้าของจะนึกถึงได้ ...

    จักรรัตนะนี้ รับข้อมูลเข้าไปในรูปของอารมณ์จิต จึงมีอานุภาพเป็นทิพย์ มีความสามารถในการเร่งพลังงานข้ามมิติแห่งกาลเวลาเข้าไปยังภพภูมิต่างๆในต่างมิติได้ สามารถจะไปนรกสวรรค์ได้ ไปพรหมโลกได้ คือ ไปได้ทุกที่ที่มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เท่าที่ใจของเจ้าของจะนึกถึง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็จะใช้งานแค่ในขอบเขตจักรวาลหนึ่งเท่านั้น ไม่ค่อยนำไปใช้งานข้ามแกแล็กซี่นัก แต่ในความจริง จักรรัตนะ สามารถเดินทางข้ามแกแล็กซี่ได้

    เมื่อต้องการจะเข้าไปศึกษาเรื่องราวของวัตถุธาตุในจักรวาล เช่น โครงสร้างดาวโลกชมพู โครงสร้างดวงอาทิตย์ หรือเนบิวลา หรือวัตถุอื่นใดในวงกว้างนั้น จักรรัตนะจะเร่งพลังงานเข้าไปไว้ในระดับทิพย์ที่ไม่แตะต้องกับธาตุ 4 แบบมนุษย์ แล้วแทรกซึมเข้าไปในเนื้อวัตถุธาตุเหล่านั้นได้ มีการนำเสนอโครงสร้างของดวงดาวเหล่านั้นได้คล้ายอย่างที่คอมพิวเตอร์นำเสนอข้อมูลในรูปกราฟฟิก จะต่างกันก็แค่ว่า จอมอนิเตอร์สำหรับจักรรัตนะแล้ว เป็นจอที่ไม่มีขอบเขตแน่นอน

    ไม่ใช่เพียงเท่านั้น จักรรัตนะนั้นเอง ยังมีกำลังอำนาจในการขยายอณูแห่งธาตุเข้าไปยังระดับโครงสร้างที่เล็กลงๆ ไปเรื่อยๆ ได้ตามปรารถนา

    เรียกจักรรัตนะว่า เป็นเครื่องมือสารพัดจะนึก สารพัดจะใช้ก็ได้

    เพราะเหตุที่จักรรัตนะมีความพิเศษอย่างนี้ จึงมีอานุภาพครอบงำแม้กระทั่งอานุภาพของเหล่าเทวดา จึงมีอำนาจในการจัดอารักขาป้องกันภัยอันตรายให้พระราชาได้ตามที่พระราชาปรารถนา

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้รู้แจ่มแจ้งโลก เมื่อกล่าวถึงโลกในมุมอันเป็นทีสุดแห่งความเจริญในด้านความรู้เทคโนโลยี พระองค์จึงกล่าวถึง จักรรัตนะนี้ ว่า เป็นสิ่งพิเศษสูงสุด และตรัสเรียกพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้สามารถก่อเหตุปัจจัยให้เหมาะสมในการปรากฏจักรรัตนะนั้นว่า เป็นอัจริยะมนุษย์ เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นอัจริยะมนุษย์ คือสามารถคิดค้นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่อาจจะคาดคิดถึง แม้กระทั่งจะจินตนาการว่ามันมี มนุษย์ทั้งหลายก็ไม่กล้าจะจินตนาการ

    แต่บุคคลพิเศษผู้นั้น กลับมีกำลังปัญญาข้ามกรอบมนุษย์ทั่วไปนั้นไป จึงกล่าว่า พระเจ้าจักรพรรดิเป็นบุคคลพิเศษ และเพราะความที่พระเจ้าจักรพรรดิทำประโยชน์เกื้อกูลโลก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทวดาและมนุษย์ จึงดำรงอยู่ในฐานะที่ควรเคารพสักการะ ควรแก่การระลึกถึง ผู้ที่ระลึกถึงพระเจ้าจักรพรรดิ มีผลให้เข้าสู่สุคติภูมิได้ หลังจากตายเพราะกายแตก

    พระเจ้าจักรพรรดินั้นเอง คือพระธรรมราชา เป็นราชาโดยธรรม เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลก ในคุณสมบัติต่างๆ

    แม้จะอย่างนั้นก็ตาม พระเจ้าจักรพรรดิผู้พิศษเยี่ยงนั้น ก็เปรียบไม่ได้แม้เสี้ยวหนึ่งในแสนโกฏิเสี้ยวแห่งองค์คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?p=339554
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2008
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์) ท่านไม่ได้มาแทนใครนะครับ เพราะท่านเป็นกษัตริย์ของคนทั้งโลก กษัตริย์ของประเทศต่างๆ ในโลกนี้รวมทั้งของประเทศไทยด้วย ก็ยังอยู่เป็นปกติเช่นเดิม พระเจ้าจักรพรรดิ์พระองค์นี้(พระศรีอารย์) จะมาในลักษณะที่พิเศษกว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์องค์อื่นๆ เพราะไม่ได้เกิดในตระกูลกษัตริย์ จึงต้องรอให้พระอินทร์ท่านมาทำพิธิมุรธาภิเษกให้ครับ

    โดยพระอินทร์(ท้าวสักกะเทวราช) ท่านจะมาเนรมิตปราสาทราชวังที่ทำด้วย แก้ว 7 ประการ 1 หลัง ทอง 1 หลัง และ เงิน 1 หลัง รวม 3 หลัง ให้กับพระเจ้าจักรพรรดิ์ และจะมาเนรมิตบ้านเรือน ให้คนที่หนีรอดจากภัยพิบัติได้อยู่อาศัยจำนวน 36 ล้านหลัง โดยจะอาศัยพื้นที่บางส่วนของประเทศไทย ประเทศพม่า และประเทศลาว มาตั้งเป็นอาณาจักรแห่งสัมมาทิฏฐิแห่งใหม่ของโลก เป็นศูนย์กลางการปกครองโลกในยุคชาววิไลครับ

    ข้อมูลทั้งหมดนี้ ผมเขียนขึ้นมาจากการที่ได้ศึกษารวบรวมความรู้ทั้งหมด ที่ผมได้ศึกษามาจากทั้งตำนานพื้นบ้าน พุทธพยากรณ์ และจากคัมภีร์ทางศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และศาสนาฮินดูครับ จึงพอจะประมวลได้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้นี้ ว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์จะเสด็จมาปกครองโลกนี้ในลักษณะเช่นใด (จะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านครับ)

    เรื่องพระอินทร์ท่านมาเนรมิตปราสาท ขึ้นบนโลกมนุษย์ ให้กับผู้มีบุญนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันนะครับ ในพระไตรปิฎกก็มีบันทึกยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ที่เคยเกิดมาแล้วในสมัยพุทธกาล ในเรื่องของท่านโชติกะเศรษฐีดังนี้ครับ


    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พราหมณวรรคที่ ๒๖</BIG> <CENTER class=D></CENTER></CENTER>
    หน้าต่างที่ ๓๓ / ๓๙.

    ท้าวสักกะเสด็จมานิรมิตสมบัติให้โชติกเศรษฐี

    ท้าวสักกะทรงใคร่ครวญดูว่า "นี้เหตุอะไรหนอแล?" ทรงทราบว่า "ชน<WBR>ทั้งหลาย<WBR>กำลัง<WBR>จับ<WBR>จอง<WBR>ที่<WBR>ปลูก<WBR>เรือน<WBR>เพื่อโชติกะ" ทรงดำริว่า "โชติกะนี้ จักไม่อยู่ในเรือนที่ชนเหล่านั่นทำแล้ว, การที่เราไปในที่นั้น ควร" แล้วเสด็จไปที่นั้นด้วยเพศแห่งนายช่างไม้ ตรัสว่า "พวกท่านทำอะไรกัน?"

    เหล่าชน. พวกฉันจับจองที่ปลูกเรือน สำหรับโชติกะ.

    ท้าวสักกะตรัสว่า "พวกท่านจงหลีกไป, โชติกะนี้จักไม่อยู่ในเรือนที่พวกท่านปลูก" แล้วทอดพระเนตรดูภูมิประเทศประมาณ ๑๖ กรีส. ภูมิประเทศนั้นได้เป็นที่สม่ำเสมอในทันใดนั้นนั่นเอง ดุจวงกสิณ. ท้าวเธอทรงดำริอีกว่า "ขอปราสาท ๗ ชั้นสำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ จงชำแรกแผ่นดินผุดขึ้น ณ ที่นี้" แล้วทอดพระเนตรดู. ปราสาท (เห็นปานนั้น) ผุดขึ้นแล้วในขณะนั้นนั่นเอง.

    ท้าวสักกะทรงดำริอีกว่า "ขอกำแพง ๗ ชั้น ที่สำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ จงผุดขึ้นแวดล้อมปราสาทนี้" แล้วทอดพระเนตรดู. กำแพงเห็นปานนั้นผุดขึ้นแล้ว.

    ครั้งนั้น ท้าวเธอทรงดำริว่า "ขอต้นกัลปพฤกษ์ทั้งหลาย จงผุดขึ้นในที่สุดรอบกำแพงเหล่านั้น" แล้วทอดพระเนตรดู. ต้นกัลปพฤกษ์ทั้งหลายเห็นปานนั้น ผุดขึ้นแล้ว. ท้าวเธอทรงดำริว่า "ขุมทรัพย์ ๔ ขุม จงผุดขึ้นที่มุมทั้ง ๔ แห่งปราสาท" แล้วทอดพระเนตรดู. ทุกสิ่งได้มีอย่างนั้นเหมือนกัน.

    ก็บรรดาขุมทรัพย์ทั้งหลาย ขุมทรัพย์ขุมหนึ่งได้มี<WBR>ประมาณ<WBR>โยชน์<WBR>หนึ่ง, ขุม<WBR>หนึ่ง<WBR>ได้<WBR>มี<WBR>ประมาณ ๓ คาวุต, ขุมหนึ่งได้มีประมาณกึ่งโยชน์, ขุมหนึ่งได้มีประมาณคาวุตหนึ่ง,<SUP>๑-</SUP> ที่ซุ้มประตูทั้ง ๗ ยักษ์ ๗ ตน ยึดการรักษาไว้แล้ว. ในซุ้มประตูที่ ๑ ยักษ์ชื่อยมโมลีพร้อมด้วยยักษ์พันหนึ่งที่เป็นบริวารของตน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๒ ยักษ์ชื่ออุปปละพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๒ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๓ ยักษ์ชื่อวชิระพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๓ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว,

    ที่ซุ้มประตูที่ ๔ ยักษ์ชื่อวชิรพาหุพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๔ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๕ ยักษ์ชื่อสกฏะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๕ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๖ ยักษ์ชื่อสกฏัตถะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๖ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๗ ยักษ์ชื่อทิสามุขะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๗ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว. ทั้งภายในและภายนอกแห่งปราสาท ได้มีการรักษาอย่างมั่นคงแล้ว ด้วยอาการอย่างนี้.

    ___________________________________________________
    <SUP></SUP>
    <SUP>๑-</SUP> เบื้องหน้าแต่นี้ คำพูดอย่างนี้ ปรากฏโดยมาก :-
    ก็ประมาณนั่น ได้เป็นประมาณแห่งปากขุมทรัพย์ที่เกิดขึ้นแก่พระโพธิสัตว์. เบื้องล่างได้มีที่สุดแผ่นดิน, ประมาณขอบปากแห่งขุมทรัพย์ที่เกิดขึ้นแก่โชติกเศรษฐี ท่านมิได้กล่าวไว้. ขุมทรัพย์ทุกขุมเต็มเปี่ยมเทียวผุดขึ้น เหมือนผลตาลที่เขาฝานหัวฉะนั้น, ลำอ้อย ๔ ลำเป็นวิการแห่งทองคำ ประมาณเท่าต้นตาลรุ่นๆ เกิดขึ้นที่มุมปราสาททั้ง ๔. ลำอ้อยเหล่านั้นมีใบเป็นวิการแห่งแก้วมณี มีข้อเป็นวิการแห่งทองคำ. นับว่าสมบัตินั้นเกิดขึ้นแล้ว เพื่อแสดงบุรพกรรม (ของเขา).

    ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=36&p=33
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...