ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** ชื่อ ความหมาย ****

พระไตรปิฎก ที่มนุษย์ยุคปัจจุบันบันทึกขึ้นมา
พระไตรปิฎก ที่มีอยูจริงในธรรมชาติ ที่คู่โลกมานานแสนนาน
ชื่อเหมือนกัน ความหมายต่างกัน เพราะต่างมุมมอง
แต่ก็เรื่องการปฏิบัติตนเพื่อหลุดพ้นทุกข์ เหมือนกัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ไม่ว่าศีลข้อใด ก็ต้องอาศัยสัจจะในตนเอง
เพื่อให้กายวาจาใจ เป็นไปตามข้อกำหนดนั้น
รับศีล แล้วไม่มีสัจจะ ก็ไม่เกิดผลเที่ยง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เที่ยง ไม่เที่ยง อยู่ที่กายวาจาใจตรงกัน ****

โลกไม่เที่ยง เพราะคนขาดสัจจะ
ถ้าคนมีสัจจะ โลกก็เที่ยง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

กายเปรียบดังพระไตรปิฎกให้ศึกษา...เมื่อรู้ให้ปล่อยวาง...ยึดถือก็หนัก...
ใจเปรียบดังพุทธะ...อยากพบพุทธะ...ให้หาใจตนให้เจอ...

 

แผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์นอกชายฝั่งญี่ปุ่นแต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย​

​

โตเกียว 4 ธ.ค.

 

*** ต้อนรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ****

การต้อนรับแขก ... ยอมรับให้แขกเข้าบ้าน
ต้อนรับพระไตรปิฎก .... ยอมรับสัจจะมาปฏิบัติในใจตน

การต้อนรับสิ่งศักดิ์สิทธิ ไม่ใช่จัดงานพิธีใหญ่โตอย่างที่คิด
การต้อนรับทางธรรม เป็นเรื่องการเปิดใจกว้างรับสัจจธรรม

ดูเหมือนว่า หลักสัจจธรรม จะเป็นของแปลกใหม่ของผู้คนทุกยุคทุกสมัยที่มีผู้หนึ่งค้นพบ
กว่าจะเชื่อว่าโลกกลม เขาก็ต้องใช้เวลาศึกษา
เราทุกคนมุ่งหาสัจจธรรม พยายามหาทางพ้นทุกข์
อะไรที่จะทำให้นิสัยแต่ละอย่างหมดไปได้จริง ???

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เพื่อค้นหาความจริงที่หายไปตามเวลา ****

พระพุทธเจ้า...ท่านทรงเตือนเกี่ยวกับความเชื่อในรูปแบบต่างๆ
เราน่าจะใช้ สมาธิพิจารณา แต่ละสิ่งด้วยตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ข้าพเจ้าไม่ได้บอกว่าพระไตรปิฎกปัจจุบันนั้นอาจจะไม่มีการปรุงแต่ง แต่ถ้าท่านคิดว่าท่านคือผู้บริสุทธ์ท่านก็ลงนรกเกินครึ่งแล้ว ขนาดท่านท้าวผกาพรหมถ้าพระพุทธองค์ไปโปรดดั่งในบทสุดท้ายของพาหุง ท่านก็เตรียมลงนรกหลังท่านสิ้นอำนาจบุญเพราะท่านเชื่อว่าท่านคือสุดยอดไม่มีวันตายหรือที่เรียกว่านิพพาน ทุกวันนี้เราไม่ต้องการพวกที่สอนแบบสูงๆหรือเล่้นลิ้นให้ตีความ เพราะทุกวันนี้พุทธศาสนิกชนก็หาคนเข้าถึงเข้าใจยากอยู่แล้ว จุดมุ่งหมายของการสอนคือเพื่อโปรดผู้คนทำให้ผู้คนเข้าใจเท่านั้น ถ้าสอนแหวกแนวแต่หาทำให้คนที่เข้าใจไม่ได้หรือเข้าถึงพระธรรมก็จงสอนในสิ่งที่ัมันง่ายต่อการเข้าใจหรือที่มันเข้าถึงง่ายหน่อยเถอะ เพื่อกรุณาพวกเขาหน่อยเถอะ ผมเลยชอบแบบที่ท่านหลวงพ่อจรัญสอนไม่ต้องผิดแผกเพื่อความอยากดัง เอาแค่กตัญญู รักษาศีล ปฏิบัติสติปัฏฐานสี่ให้ได้ ไม่ต้องไปไกลมาก ช่วยตัวเองให้ได้แล้วช่วยผู้อื่น ตอนนี้คนที่สามารถสอนให้พวกคนส่วนใหญ่เข้าถึงพระศาสนายังจำเป็นกว่าพวกเล่นลิ้นจะสอนอวดอุตริเพื่อให้ดูเด็กแนว ท่านสอนสัจจะให้รับสัจจะแต่ถามหน่อยว่ามันไปได้ไกลไหมถ้าไร้ตัวอื่นไร้บารมีอื่น เอาแค่เข้าถึงเข้าใจที่พระไตรปิฎกสอนให้ได้ก่อนเถอะแล้วค่อยมาสอนอย่างอื่นที่นอกเหนือจากนั้น ดั่งอุปมาจะกระแดะแต่งกลอนแต่ถ้าทักษะภาษาคำศัพท์ยังไม่ดี มันจักฉิบหายในระยะยาวเพราะมันจะไปยึดติดกับสิ่งที่ผิด ให้เพราะพริ้งยังไงก็อาจจะมีจุดผิดมากกว่าผู้ที่ได้รับการศึกษา แม้ก้าวหน้าได้เหนือกว่าผู้อื่นในตอนต้นเพราะปัญญาดีแต่สุดท้ายมันก็จบลงได้แค่เหมือนฤาษี ไม่งั้นรจนะพระไตรปิฎกที่มีอยู่ในตอนนี้ไม่สามารถทำให้เกิดพระอริยะเจ้าหลังพระพุทธองค์ปรินิพพานหรือพระอริยะเจ้าองค์อื่นท่านคงข้ามขั้นกันเกลี้ยงแล้วถ้าไร้ความจำเป็น ผมก็บอกแล้วว่าสัจจะมันก็ดีแต่ท่านจะมาสอนแหวกแนวนะท่านอยู่ระดับไหนให้ดูสำรวจสำรวมตัวหน่อยเถอะ ไม่งั้นนรกถามท่านเอา ผมหวังดีนะครับ

 

......แก้ไข......

 

เรื่องของพระศรีอาริย์และพระรามโพธิสัตว์

​

อนาคตพุทธวงศ์ 10 พระองค์ มีดังนี้ :-

1. พระศรีอริยเมตไตรย -จะตรัสรู้ที่ต้นกากะลิง
2. พระรามเจ้า -จะตรัสรู้ที่ ต้นแก่นจันทน์แดง
3. พระธรรมราช -จะ ตรัสรู้ที่ ต้นกากะลิง (อดีตคือ พระเจ้าปัสเสนทิโกสน)
4. พระธรรมสามี -จะ ตรัสรู้ที่ ต้นรังใหญ่ (อดีตคือ พระยามาราธิราช)
5. พระนารท -จะ ตรัสรู้ที่ ต้นแก่นจันทน์แดง (อดีตคือ อสุรินทราหู)
6. พระรังศรีมุนี -จะ ตรัสรู้ที่ ต้นดีปลีใหญ่ (อดีตคือ โสณะพราหมณ์)
7. พระเทวเทพ -จะ ตรัสรู้ที่ ต้นจำปา (อดีตคือ สุพะพราหมณ์)
8. พระนรสีหะ -จะ ตรัสรู้ที่ ต้นไม้แคฝอย (อดีตคือ โตไทยพราหมณ์)
9. พระติสสะ -จะ ตรัสรู้ที่ ต้นไทร (อดีตคือ ช้างธณะบานหัตถีนาลาคีรี)
10. พระสุมังคะละ -จะ ตรัสรู้ที่ ต้นกากะลิง (อดีตคือ ช้างปาเลไลย) ​

************************************************************

หลวงพ่อเสือ วัดไผ่สามกอ จ.ฉะเชิงเทรา

​

ปฐมวัย

หลวงพ่อเสือ เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๕ ที่ จ. ชลบุรี
โยมบิดา ชื่อ นายแสวง โยมมารดาชื่อ นางลำเจียก

ด้วยบารมีที่ได้สร้างสมมาแต่อดีตชาติ ทำให้หลวงพ่อเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันตั้งแต่เด็ก เมื่อได้มีโอกาสติดตามพ่อแม่ไปวัดตอน๕ - ๖ ขวบ และได้ฝึกหัดทำสมาธิ จึงได้รับรู้ถึงความสงบสุขอันเกิดจากจิตที่เป็นสมาธิ

อายุ ๑๖ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดหลวง จ.ชลบุรี และได้ติดตามพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์ หลังจากนั้น ๗ วัน ท่านจึงแยกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ตามลำพัง

ในปีต่อมาหลวงพ่อได้ธุดงค์ไปสกลนคร พระอาจารย์ที่นั่นได้แนะนำให้เดินทางไปพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ท่านจึงเริ่มออกเดินทาง ผ่านอุดรธานี ไปจนถึงพม่า อาศัยพักอยู่ที่วัดโชติการาม โดยมี พระอาจารย์โชติกะธรรมจริยะ คอยแนะนำ และให้ความสะดวกตลอดเวลา ๖ เดือน

เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านก็ธุดงค์กลับไปที่พม่าอีกครั้งหนึ่ง โดยพักอยู่ที่วัดซันคยองวิหาร ถึง ๒ ปี ณ ที่นี้หลวงพ่อได้พบกับ ท่านเลดี สย่าดอ มหาเถระ ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นผู้คอยแนะแนวทางการปฏิบัติธรรม การศึกษาพระไตรปิฏกให้

....หลังจากนั้นหลวงพ่อยังได้เดินทางไปที่ลังกา ได้พบและศึกษากับ ท่านญาณโปนิกมหาเถระ

มัชฌิมวัย

กลับจากลังกาแล้ว หลวงพ่อได้พักปฏิบัติธรรมที่ถ้ำเชียงดาว ๓ ปีเศษ
ต่อจากนั้นได้มาพักอยู่ที่หมู่บ้านชาวเขา บนดอยปุย สอนธรรมะ และรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวเขา เป็นเวลาถึง ๙ ปี จึงเดินทางกลับมาบ้านเกิด ที่ชลบุรี โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะมาช่วยเหลือชาวบ้านทั้งการให้ธรรมะ และช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุได้ ๔๕ ปี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแถบจังหวัดชลบุรี และจังหวัดฉะเชิงเทรา

ต่อมามีชาวบ้าน ต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมใจกันสร้างกุฏิเล็กๆ และนิมนต์ให้ท่านอาศัยอยู่ จนในที่สุดสร้างเป็นวัดขึ้น ให้ชื่อว่า

 

ชายแดนจันทบุรีทวีหนาว เหลือ 9 องศาฯ-ลำปางป่วยนับพันราย​

​

ภูมิภาค 4 ธ.ค. - ชาวบ้าน-พระสงฆ์ 2 อำเภอชายแดน จ.จันทบุรี ประสบภัยหนาวจำนวนมาก เฉพาะพระสงฆ์อาพาธนับร้อยรูป ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำกว่า 10 องศาฯ ส่วนชาวลำปางป่วยเข้ารักษาตามโรงพยาบาลแต่ละอำเภอ รวมวันละ 3,000 ราย

พระครูสถิต ธรรมานุวัตร เจ้าคณะตำบลทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ประธานศูนย์สงเคราะห์คนชรา อ.โป่งน้ำร้อน อ.สอยดาว เปิดเผยว่า ผลกระทบจากอากาศหนาวเย็น นอกจากทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วยจำนวนมาก ยังมีพระสงฆ์อาพาธนับร้อยรูปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงแม่ชีและคนชราป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ปวดตามข้อ และโรคระบบทางเดินหายใจ โดยพระสงฆ์ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ตามปกติ เนื่องจากต้านทานกระแสลมแรงไม่ไหว ซึ่งสิ่งที่ต้องการคือความช่วยเหลือเครื่องกันหนาวที่ยังขาดแคลนจำนวนมาก เพราะปีนี้หนาวเย็นมาก โดยจุดวัดอุณหภูมิที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวแสดงระดับอากาศอยู่ที่ 9.8 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับ อ.โป่งน้ำร้อน อุณหภูมิอยู่ในระดับเดียวกัน

นพ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า มีผู้ป่วยโรคทางเดินหายจากภาวะอากาศหนาวเย็นเข้ามารักษาตามโรงพยาบาลรัฐทั้ง 12 อำเภอ รวมวันละ 3,000 ราย เฉพาะโรงพยาบาลศูนย์ลำปางเฉลี่ยวันละ 600 ราย ส่วนใหญ่มีอาการไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล แต่สิ่งเป็นห่วงคือ การก่อกองไฟผิงคลายหนาวตามหมู่บ้านต่าง ๆ ขอให้ระมัดระวังการสูดดมควันไฟ โดยเฉพาะคนชราและเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานน้อย หากสูดควันไฟเข้าไปมากจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ. - สำนักข่าวไทย

2008-12-04 10:59:43

หนาวนี้ ที่ภูเรือ​

​

​

เลย 3 ธ.ค.- ช่วงนี้อากาศทางภาคอีสานหนาวเย็นลงอีก ปีนี้ฤดูหนาวมาถึงช้ากว่าทุกปี รวมถึงที่บ้านหินสอ อ.ภูเรือ จ.เลย

หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าหนาวสุดในสยาม ก็ได้รับผลกระทบกับฤดูกาลที่แปรปรวน จนขณะนี้มีแม่คะนิ้งแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมและสัมผัสได้กับความหนาวเย็นได้.-สำนักข่าวไทย

2008-12-03 20:31:39

จ.เลย มีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็น​

​

เลย 4 ธ.ค.- นายมานิตย์ มกรพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า แม้ปีนี้อากาศหนาวมาช้าคือ ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน แต่หนาวจัดกว่าปีที่แล้ว

ซึ่งสถานีอุตุนิยมวิทยาเลย รายงานสภาพอากาศเช้าวันนี้ (4 ธ.ค.) ว่า อุณหภูมิพื้นราบต่ำสุดที่ อ.ภูเรือ 10.5 องศาเซลเซียส ยอดดอย อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 7.5 องศาฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 8.0 องศาฯ ส่วนผู้ประสบภัยหนาวนอกจากขาดแคลนเครื่องกันหนาว และจังหวัดนำผ้าห่มไปแจกจ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาในเบื้องต้น ขณะนี้ช่วยเหลือไปแล้ว 1,500 ผืน ที่อำเภอนาแห้ว และด่านซ้าย ล่าสุด พบว่ามีหญิงวัย 82 ปี ราษฎรบ้านนาผักก้าม ต.เหล่ากอหก อ.นาแห้ว เสียชีวิตจากหนาวเย็น.-สำนักข่าวไทย

2008-12-04 13:46:36

พรุ่งนี้อุณหภูมิภาคเหนือลดอีก 2-4 องศาฯ​

​

เชียงใหม่ 4 ธ.ค. - ศูนย์อุตุฯ ภาคเหนือ เตือนความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จะแผ่ปกคลุมอีกในวันพรุ่งนี้ อุณหภูมิจะลดลงอีก หรืออยู่ต่ำกว่า 10 องศาฯ

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานพยากรณ์อากาศว่า วันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้ง ส่งผลให้ภาคเหนือเพิ่มความหนาวเย็น และอุณหภูมิลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไป กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายขณะสัญจรผ่านบริเวณหมอกปกคลุม

สำหรับสภาพอากาศที่ จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาฯ สูงสุด 26-29 องศาฯ โดยเฉพาะยอดดอยอ่างขาง 4 องศาฯ และดอยอินทนนท์ 7.5 องศาฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ จ.เชียงใหม่ ประกาศเป็นพื้นที่พิบัติภัยหนาวทั้งจังหวัดแล้ว

นางอัจฉรา สงวนพงษ์ นายกเหล่ากาชาด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า วันที่ 8-12 ธ.ค.นี้ สภากาชาดไทยและกองทัพอากาศ จะจัดกิจกรรมบรรเทาภัยหนาวเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช ในพื้นที่ 5 อำเภอ จ.เชียงใหม่ คือ อ.ไชยปราการ อ.พร้าว อ.แม่วาง อ.ดอยสะเก็ด และ อ.สันป่าตอง นอกจากนี้ ยังมีบริการด้านทันตกรรมด้วย. - สำนักข่าวไทย

2008-12-04 17:35:28

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

ผู้คนนับพันอพยพไปแอฟริกาใต้ หลังอหิวาต์ ระบาดในซิมบับเว​

​

แอฟริกาใต้ 4 ธ.ค. - ผู้คนนับพันพากันอพยพไปยังแอฟริกาใต้ หลังอหิวาตกโรคระบาดในซิมบับเว จนมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 600 คน

องค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า อหิวาตกโรคที่แพร่ระบาดในซิมบับเว ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 565 คน และมีผู้ติดเชื้ออีก 12,500 คน นับเป็นการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศที่กำลังมีปัญทาทางการเมืองระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน

อัตราการติดเชื้ออหิวาตกโรคในซิมบับเวมีสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากผู้คนไม่สามารถเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาด ขณะเดียวกัน ชาวซิมบับเวหลายร้อยคนพากันข้ามพรมแดนไปยังแอฟริกาใต้ในแต่ละวัน เพื่อขอรับการรักษา ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องให้รัฐบาลซิมบับเวประกาศภาวะภัยพิบัติแห่งชาติ.-สำนักข่าวไทย

2008-12-04 10:08:47

ซิมบับเวประกาศให้อหิวาตกโรคเป็นภัยฉุกเฉินแห่งชาติ​

​

ซิมบับเว 4 ธ.ค. - ซิมบับเวประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ หลังอหิวาตกโรคคร่าชีวิตผู้คนในประเทศไปเกือบ 600 คน

สื่อของซิมบับเว รายงานว่า รัฐบาลซิมบับเวได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคเป็นภัยฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งการแพร่ระบาดทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 565 คน ขณะที่โรงพยาบาลของรัฐไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ รัฐบาลซิมบับเวยังร้องขอให้นานาชาติยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เพื่อยับยั้งโรคระบาดและฟื้นฟูระบบสาธารณสุขของประเทศ

ด้านองค์การการกุศลหลายแห่งเตือนว่า การแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคในซิมบับเว เริ่มลุกลามเข้าไปยังแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของซิมบับเวแล้ว. -สำนักข่าวไทย

2008-12-04 15:10:17

สหรัฐเผยต้องยับยั้งแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์และชีวภาพ​

​

วอชิงตัน 4 ธ.ค. - นายโจ ไบเดน ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐดำเนินการน้อยเกินไปในการต่อต้านการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง หลังได้รับรายงานจากรัฐสภาที่เตือนเรื่องภัยคุกคามเร่งด่วน

นายไบเดน ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบปะกับสมาชิกคณะกรรมการป้องกันการแพร่ขยายอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง และการก่อการร้ายของสหรัฐว่า สหรัฐไม่ดำเนินการดีพอที่จะป้องกันไม่ให้อาวุธอันตรายที่สุดในโลกไปตกอยู่ในมือของกลุ่มผู้ก่อการร้าย และเขาตั้งตาคอยคุยกับนายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ในเรื่องการบริหารประเทศให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ด้านโฆษกของนายไบเดน ระบุว่า ประเด็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับนายไบเดน มาโดยตลอด และเขาจะคงให้ความสนใจในเรื่องนี้ในการบริหารงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายโอบามา ต่อไป

รายงานที่นายไบเดน ได้รับนั้น จัดทำขึ้นโดยรัฐสภาสหรัฐมีใจความเตือนว่า หากประชาคมโลกยังไม่ดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อภัยคุกคามเร่งด่วนนี้ กลุ่มก่อการร้ายอาจเปลี่ยนวิธีการโจมตีไปใช้อาวุธชีวภาพแทน และเป็นอาวุธขนาดเล็กเท่าซองจดหมายที่บรรจุเชื้อแอนแทรกซ์อยู่ภายใน ดังนั้นรายงานฉบับนี้จึงแนะนำให้มีการเข้มงวดในการตรวจตราห้องปฏิบัติการทางชีวภาพของสหรัฐ ทำให้ข้อตกลงการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างประเทศมีความเข้มงวดขึ้น และไม่ส่งเสริมการให้เงินสนับสนุนโครงการไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของพลเรือน. - สำนักข่าวไทย

2008-12-04 10:32:32

ฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจากน้ำท่วม 29 ราย​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

มะนิลา 4 ธ.ค. - หน่วยกู้ภัยฟิลิปปินส์ กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 29 คน และประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยราว 50,000 คน จากอุทกภัยทั่วพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์

สำนักงานป้องกันภัยพลเรือน รายงานว่า ฝนตกหนักในสัปดาห์นี้ ทำให้น้ำท่วมเมือง 48 แห่ง ที่เกาะลูซอน และเกาะมินดาเนา ทางภาคตะวันออก ประชาชน 400,000 คน ได้รับความเดือดร้อน กระแสน้ำท่วมบ้านเรือนเกือบ 10,000 หลัง ชาวบ้านเกือบ 24,000 คน ต้องอยู่ในที่พักชั่วคราวกว่า 100 แห่ง ทั้งถนน สะพาน อาคารโรงเรียน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่รัฐบาลเร่งดำเนินการช่วยเหลือแล้ว. - สำนักข่าวไทย

2008-12-04 17:55:54

อินเดียปรับยอดผู้เสียชีวิตมุมไบมาอยู่ที่ 172 คน​

​

มุมไบ 4 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่อินเดีย แถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีพร้อมกันที่นครมุมไบของอินเดีย ซึ่งรวมถึงโรงแรมหรู 2 แห่ง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน มีจำนวนทั้งสิ้น 172 คน และมีผู้บาดเจ็บราว 296 คน

แถลงการณ์ของทางการอินเดียระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่โรงแรมทัชมาฮาล มีจำนวน 52 คน ส่วนที่โรงแรมโอเบรอย มีจำนวน 38 คน หลังจากที่กลุ่มมือปืนบุกยึดโรงแรมทั้งสองแห่งกลายเป็นสนามรบในช่วงเวลา 60 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ตำรวจระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตไว้ที่ 188 คน ซึ่งปรับลดจากเดิมที่ระบุไว้ 195 คน เนื่องจากมีรายงานซ้ำซ้อนกัน .-สำนักข่าวไทย

2008-12-04 19:27:24

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

เตือนภัยพิบัติในไทย เหนือ-อีสานหนาว ใต้น้ำท่วมแรง

​

โครงการการพัฒนาการจัดการภัยพิบัติภาคประชาชนมูลนิธิกระจกเงา แจ้งเตือนประชาชนถึง สถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ว่า เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงประกอบกับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยทำให้เกิดฝนตกหนักใน บริเวณภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะสงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส

ข้อสังเกต ปริมาณน้ำฝนในปีนี้มากกว่าปกติโดยมีปริมาณน้ำฝนประมาณ 500 มิลลิเมตร ต่อสัปดาห์ซึ่งปกติแล้วในช่วงเวลาเดียวกันจะมีปริมาณน้ำฝนประมาณ2-300 มิลลิเมตรต่อสัปดาห์นอกจากนั้นพฤติกรรมการตกของฝน จะตกเป็นหย่อมๆ ไม่ได้แพร่กระจายทำให้เกิดน้ำท่วมในเฉพาะจุดที่ฝนตก

การคาดการณ์ระยะสั้น คาดว่าจะมีฝนต่อเนื่องไปอีก 1 สัปดาห์ เนื่องจากมีความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณใกล้อ่าวไทยและมีความเป็นไปได้ที่จะ เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคใต้ตอนล่างและอาจจะทำให้ฝนตกหนัก น้ำท่วมดิน ถล่มในบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ทั้งนี้หย่อมความกดอากาศต่ำนี้อาจจะพัฒนากลายเป็นพายุดีเปรสชั่นได้ในอีก 2วันนี้

สถานการณ์ภัยหนาว ภาคเหนือ และอีสาน เนื่องจากความกดอากาศสูง(เย็น) จากไซบีเรียกำลังแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย จะ ทำให้อากาศหนาวเย็นลงในช่วงอีก 2-3 วันจากนี้ และต่อเนื่องไปอย่างน้อย 1 สัปดาห์โดยจะเริ่มหนาวเย็นที่ภาคอีสานตอนบนก่อนและภาคเหนือและภาคกลางตาม ลำดับ

โดยรวมคาดว่าปีนี้สถานการณ์ภัยหนาวน่าจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านๆ มา เนื่องจากมีความกดอากาศสูง(เย็น)แผ่ลงมาตลอดเวลา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่เชียงดาวต่ำสุด 6.5 องศา(พื้นราบ) และยอดดอย 0-4 องศา ใครชอบอากาศหนาวเตรียมเสื้อหนาวไปเที่ยวสิ้นปีกันได้เลย อย่างไรก็ตาม ภัยหนาว ไมใช่เรื่องสนุกของคนอีกหลายล้านคนซึ่งในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากภัยหนาว จำนวนมาก ดังนั้น เรื่องที่อาจจะเป็นความตื่นเต้นของใครบางคนแต่บางคนอาจไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น ด้วย

สุดท้าย มนุษย์กำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกซึ่งก่อให้เกิดภัย พิบัติมากมายเพียงพอแล้วหากมนุษย์จะไม่ช่วยกันทำให้ภัยพิบัติเหล่านั้นเกิด ขึ้นไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ หรือภัยอันเนื่องมาจากฝีมือมนุษย์ในรูปแบบของการจราจลก็จะเป็นสิ่งที่ดีไม่ น้อย

ทั้ง นี้ มูลนิธิกระจกเงา เปิดรับบริจาค ถุงเท้าถุงมือ หมวกไหมพรม ของใหม่ หรือใช้แล้ว(ซักให้ด้วยนะครับ)เพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังประสบภัยหนาวใน ปัจจุบัน ส่งมาได้ที่มูลนิธิกระจกเงา 41 อาคารเลิศปัญญาชั้น 9 ห้อง 907 ซอยศรีอยุธยา 12 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

นักวิชาการจีนเตือนสังคมเสี่ยงวุ่นวายเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว​

​

ปักกิ่ง 5 ธ.ค.- นักวิชาการจีนเตือนว่าจีนเสี่ยงเกิดความวุ่นวายทางสังคมขนานใหญ่ในปีหน้าเพราะเศรษฐกิจชะลอตัวและมีคนตกงานเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งสร้างงานเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนา

นายโจว เทียนหยง นักวิจัยของเซ็นทรัลปาร์ตี้สคูล สถานศึกษาหลักของผู้นำจีน เขียนบทความในหนังสือพิมพ์ไชน่าอีโคโนมิกส์ไทมส์ คาดการณ์ว่าจำนวนคนยากจนและตกงานจะเพิ่มขึ้นเพราะอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะลดลงเหลือร้อยละ 7.5 ในปีหน้า ต่ำสุดในรอบหลายปี ความตึงเครียดระหว่างคนจนกับคนรวยอาจปะทุกลายเป็นเหตุไม่สงบ

โจรขโมยจะชุกชุมและสถานการณ์จะลุกลาม จนกลายเป็นเหตุวุ่นวายทางสังคมขนานใหญ่

นายโจวแย้งตัวเลขการว่างงานในเขตเมืองของรัฐบาลว่าต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้บรรดาผู้นำประเมินอันตรายของเศรษฐกิจชะลอตัวที่จะมีต่อเสถียรภาพทางสังคมต่ำเกินไป รัฐบาลประเมินตัวเลขปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 4 ทั้งที่ความจริงสูงถึงร้อยละ 12 และอาจจะเพิ่มเป็นร้อยละ 14 ในปีหน้า

ทัศนะของนักวิชาการจีนรายนี้แม้ไม่ได้สะท้อนนโยบายของรัฐบาล แต่บ่งบอกได้ว่าแวดวงนักวิชาการกำลังเป็นห่วงอย่างยิ่งถึงอันตรายที่จะเกิดจากการส่งออกชะลอตัวและการที่โรงงานพากันปิดตัวมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

2008-12-05 11:30:42

ที่มา ที่มา http://news.mcot.net/international/

อ้างอิงจากคำทำนายของ เอ็ดการ์ เคซีย์ (Edgar Cayce)​

​

เอ็ดการ์ เคซีย์ เป็นชาวอเมริกัน เกิดที่เมืองเวอร์จิเนียบีช มลรัฐเวอร์จิเนีย เป็นโหรดูทางในที่มีชื่อกระฉ่อนไปทั่วโลก เอ็ดการ์ เคซีย์ ได้ทำนายเหตุการณ์ที่จะอุบัติขึ้นในอนาคตไว้ดังนี้

สงครามโลกครั้งที่ 3

เอ็ดการ์ เคซีย์ ได้ทำนายไว้เช่นเดียวกับโหรชาวคริสต์คนอื่นๆ ว่าสงครามที่จะเกิดก่อนสิ้นยุคนี้ รัสเซียกับอเมริกาจะเป็นพันธมิตรทำสงครามกับจีน ทั้งนี้โดยจีนจะเป็นฝ่ายบุกประเทศอื่นๆ ก่อน เป็นมหาสงครามที่ยิ่งใหญ่และโหดร้ายทารุณยิ่งกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

โดยเริ่มแรกจะมีการปะทะกันทางพรมแดนของจีนกับประเทศเพื่อนบ้าน และจีนก็ดำเนินยุทธศาสตร์ "คลื่นมนุษย์" โดยส่งกองทัพประชาชนจำนวน 800 ล้านคน บุกทั่วทุกสารทิศ ประเทศที่จะตกเป็นเหยื่อของสงครามรุกรานจากจีน ในช่วงแรกๆ คือ คาบสมุทรอินโดจีน (ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา) อินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อิหร่าน โซเวียต ซีเรีย และกรีซ เมื่อยึดครองประเทศเหล่านี้ได้หมดแล้ว ก็จะบุกเข้ายึดกลุ่มประเทศ ยุโรปตะวันออก หลังจากนั้นก็จะบุกออสเตรีย เบลเยี่ยม อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอแลนด์

แต่ทั้งนี้ฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์จะทำสัญญาสันติภาพกับจีน ทำให้ทั้งสองประเทศนี้รอดพ้นจากความหายนะจากกองทัพจีนได้ นอกจากนั้นแล้ว ประเทศแอลเบเนียก็จะไม่ถูกจีนรุกรานเพราะจะเข้าเป็นพันธมิตรกับจีน โดยจีนจะปกครองประเทศต่างๆ ในยุโรปด้วยความโหดร้ายทารุณ มีการทำทารุณกรรมต่างๆ แก่ประชาชน ส่วนสตรีก็จะถูกข่มขืนกระทำชำเราไม่เว้นแต่ละวัน และเลือดจะนองทั้งแผ่นดินและแผ่นน้ำ

ที่มา:-หนังสือคำพยากรณ์โลก โดยนาวาโททองใบ หงษ์เวียงจันทร์ พิมพ์ที่โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หมายเหตุ

เหตุการณ์ในประเทศจีนในตอนนี้ น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะถ้าประเทศจีนเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ หรือมีภัยน้ำท่วมใหญ่ขึ้นมาอีก บวกกับปัญหาทางเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมาก อาจทำให้เกิดปัญหาอดอยากขาดแคลนอาหารขึ้นในประเทศจีน ซึ่งมีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน

ซึ่งถ้าเกิดการจลาจลแย่งชิงอาหารเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนคงคุมเหตุการณ์ไม่อยู่แน่ๆ ดังนั้นรัฐบาลจีนอาจจะตัดสินใจดำเนินยุทธศาสตร์ส่ง "คลื่นมนุษย์" โดยมีกองทหารนำหน้า เข้าไปยึดครองแหล่งอาหารในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนของตัวเองก็เป็นได้ครับ

การทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจนี้ ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็มักจะนำมาใช้เสมอๆ เพราะเป็นหนทางที่ง่ายที่สุด ได้ผลเร็วที่สุด และยังสามารถรักษาอำนาจของตัวเองให้มั่นคงได้อีกด้วย

**************************************************​