ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

กรณีศึกษาของภัยทางน้ำในเวียตนาม


ในเขตลาวไค ทีมีผู้่เสียชีวิตแล้ว ๔๙ คน และไม่พบอีก ๓๗ คน



In Lao Cai -- where 49 people have died in the worst storms to hit the region in decades -- hopes of finding the 37 people still missing were now fading, said Thao A Tua, a provincial emergency services official.


ในหลายแห่ง โคลนและหินจากภูเขาฝังทั้งหมู่บ้าน หน่วยค้นหาทำงานได้ลำบากมากเพราะเราไม่มีอุปกรณ์และการขุดต้องทำด้วยมือ


"In several areas, mud and rocks from the mountains have buried entire villages," he told AFP. "The search effort has been difficult because we don't have equipment and the digging has to be done manually.

เราก็ได้พยายามอย่างดีที่สุด แต่เราคิดว่าชาวบ้านตายหมดแล้ว ร่างคงถูกฝังใต้ซากปรักหักพัง หรือถูกพัดไปกับแม่น้ำแดง


"We are trying our best, but we really think they have all died. Their bodies might be buried below the rubble, and they could even have been swept away, down the Red River."
Across the north, more than 670 houses have been destroyed, over 17,700 buildings flooded and damaged, and 14,000 hectares (34,600 acres) of crops wiped out, the central government said.


ตัดจากข่าว เอเอฟพี

http://afp.google.com/article/ALeqM5g1WZFB2qaty1axvNiPsnzLNH1VEQ

หลวงพ่อในป่าเพชรบูรณ์ให้ไปเอารถแบ็คโฮและรถอีแต๋นมาจากอุดรธานีในสัปดาห์นี้ บอกว่าถ้าไม่เอามาตอนนี้วันหลังจะไปเอาไม่ได้ นอกจากจะเอาเฮลิคอปเตอร์ไปเอา
หรือว่าเหตุจะเกิดคล้ายคลึงกับเวียตนาม...

ใช้วิจารณาญาณในการอ่านค่ะ

 

น่าสงสารชาวเวียตนาม เพิ่งจะเริ่มมีเศรษฐกิจดี ก็เจอวิกฤตการเงิน
แล้วก็เจอวิกฤตภัยพิบัติอีกครั้ง
ความตายไม่ไกลเราเลย

 

แถบอุดร หนองคาย... เชียงแสน... กลัวน้ำจากโขง แผ่นดินเลื่อน โคลนถล่ม...

กรุงเทพฯ และอ่าวไทย อาจเกิดพายุหมุนและ storm surge


http://www.nytimes.com/2008/05/26/world/asia/26myanmar.html?_r=1&oref=slogin
๓ พค. เกิดพายุนาร์กิสที่ย่างกุ้ง เมืองหลวงเดิม
ภาพนี้ ๒๖ พค. ๕๑ ภาพข้างบนถ่ายบนถนน เห็นผู้คนรออาหาร
รัฐบาลเขาไม่ใส่ใจ

ถ้าเหตุเกิดกับกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เมืองหลวงมีคนกว่าสิบล้านคน หัวใจประเทศ
ดูความแข็งแกร่งของรัฐบาลปัจจุบัน.. คิดว่าคนของเราจะเป็นอย่างไร..
คนจำนวนมากรับภัยในเวลาเดียวกัน ทุกอย่างถูกตรึง เพราะเมืองหลวงเป็นอัมพาตจากพายุ ไม่มีการสั่งงานจากส่วนกลาง
การสูญเสียคงใหญ่หลวงนัก

งานสึนามิ สูญเสียระดับท้องถิ่น ส่วนกลางและส่วนอื่นมาช่วย
ถ้าพายุหมุนเข้ากรุงเทพฯ ท้องถิ่นน้อยใหญ่จะมาแบกภาระช่วยอย่างไร
ทางการแพทย์คงเรียกว่าน้ำท่วมปอดและสมองไม่สั่งการ...
ฝากคิดๆดูค่ะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เวียดนามระทมดินถล่มฝังทั้งหมู่บ้านพายุมาอีกลูก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 สิงหาคม 2551 20:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600></TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>

หมดสิ้นทุกอย่าง-- ราษฎรที่หมู่บ้านตุ่งจิน (Tung Chin) จ.ล่าวกาย (Lao Cai) มองดูอาณาบริเวณที่เคยมีบ้าน 19 หลังคาอยู่ที่นั่นก่อนที่จะถูกกระแสน้ำพัดหายไป พายุโซนร้อนกัมมูริพัดเข้าสู่ภาคเหนือเวียดนามเมื่อวันศุกร์ (13 ส.ค.) จนถึงวันอังคารพบผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 110 คน อีกราว 50 คนยังสูญหาย พืชผลถูกทำลายไปกว่า 80,000 ไร่ (ภาพ: AFP) ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ฮานอย (เอเอฟพี) — เมื่อวันอังคาร (12 ส.ค.) นี้ ทางการเวียดนามใช้เฮลิคอปเตอร์กองทัพบกหลายลำ ออกค้นหาผู้ประสบภัยพิบัตินับพันๆ คนที่ยังคงติดค้างอยู่ตามแหล่งต่างๆ หลังจากพายุโซนร้อนกัมมูริ (Kammuri) ทำให้เกิดฝนตกหนัก ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

เจ้าหน้าที่ในจังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า หลายหมู่บ้านเกิดดินถล่มลงทับทั้งหมู่บ้าน และเชื่อว่า ผู้ที่ยังสูญหาย อาจจะเสียชีวิตแล้วทั้งหมด

ในวันเดียวกัน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลาง ได้เตือนว่า พายุลูกใหม่กำลังจะเข้าอีกภายในวันสองวันนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้สั่งการให้ทางการท้องถิ่นต่างๆ ระดมช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่

ทางการได้ยืนยันในวันเดียวกันพบผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและแผ่นดินเลื่อนแล้วอย่างน้อย 113 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 45 คน และสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ได้ออกเตือนให้พื้นที่ต่างๆ ระวังพายุที่กำลังจะเคลื่อนผ่านเวียดนามใกล้กับแนวเดิมของพายุกัมมูริ

พายุลูกล่าสุดนี้พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ภาคเหนือเวียดนามาตั้งแต่วันศุกร์ (8 ส.ค.) ทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตเขาเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำในแม่น้ำลำธารเอ่อล้นตลิ่ง เกิดแผ่นดินเลื่อนและดินถล่ม นับเป็นพายุลูกแรกที่ส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามในปีนี้

เมื่อต้นปีหลายจังหวัดในภาคเหนือได้เห็นน้ำค้างแข็ง และเกิดหิมะตกในเขตภูเขา อากาศเลวร้ายและหนาวเย็นจัดเป็นเวลานานเกือบ 2 เดือน

ทางการได้ส่งทหาร ตำรวจ ตลอดจนอาสาสมัครกู้ภัยนับพันๆ คน เข้าสู่พื้นที่ภัยพิบัติตั้งแต่วันเสาร์ การค้นหาดำเนินไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากถนนหนทางถูกตัดขาดและสภาพท้องฟ้าปิดไม่เอื้ออำนวยต่อการค้นหาทางอากาศ

เส้นทางรถไฟสายเหนือระหว่างกรุงฮานอยกับ จ.ล่าวกาย (Lao Cai) ถูกน้ำพัดตัดขาดมาตั้งแต่วันเสาร์

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500></TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ราษฎรบ้านตุ่งจินอีกกลุ่มหนึ่งมองดูซากหักพังซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังเป็นบ้านอันอบอุ่นริมลำธารน้ำใน จ.ล่าวกาย ทางตอนบนของประเทศ พายุทำลายทุกอย่างลงในชั่วพริบตา (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เฮลิคอปเตอร์กองทัพได้ขึ้นบินสำรวจในเขตเขาภาคเหนือใกล้กับชายแดนจีน ซึ่งมีชนชาติส่วนน้อยจำนวนมากติดอยู่ตามที่สูงต่างๆ ทหารราว 2,700 นายถูกส่งเข้าสู่พื้นที่ภัยพิบัติใน จ.ล่าวกาย กับ จ.เอียนบ๋าย (Yen Bai) เพื่อนำผู้ประสบภัยกว่า 5,000 คนไปยังที่ปลอดภัย

นายเจิ่นวันแอ็ง (Tran Van Anh) เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ จ.เอียนบ๋าย กล่าวว่า ที่นั่นพบผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 40 คน อีกหลายคนยังสูญหาย ผู้เสียชีวิตบางคนถูกกระแสน้ำพัดไปไกลมาก

เจ้าหน้าที่ค้นหากู้ภัยใน จ.ล่าวกาย กล่าวว่า โอกาสที่จะพบผู้สูญหายจำนวน 37 คนเลือนลางลงไปทุกที ขณะที่มีผู้เสียชีวิตในจังหวัดนี้รวม 49 คน นับเป็นภัยพิบัติครั้งรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในจังหวัดทางตอนเหนือสุดแห่งนี้

“ในหลายท้องถิ่นดินได้ถล่มลงฝังทั้งหมู่บ้าน.. การค้นหาเพื่อช่วยเหลือเป็นไปอย่างลำบากเพราะว่าพวกเราไม่มีเครื่องมือ ต้องขุดหาเอา” เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่ง กล่าว

“เราได้พยายามทำอย่างสุดความสามารถ แต่เราเชื่อว่าพวกเขาเสียชีวิตแล้วทั้งหมด พวกเขาคงจะถูกฝังกลบ หรืออาจจะถูกพัดหายลงแม่น้ำแดงไปแล้วก็เป็นได้” เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว

ตามรายงานเมื่อวันอาทิตย์ คนงานก่อสร้างใน จ.กว๋างนิง (Quang Ninh) จำนวนหนึ่งถูกฝังทั้งเป็นเมื่อเกิดดินถล่มทับลงเต็นท์พักของพวกเขาที่อยู่ริมทาง

ทางการในกรุงฮานอย แถลงในวันเดียวกันว่า ทั่วทั้งภาคเหนือมีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำพัดจนพังไปกว่า 670 หลังคาเรือน อีก 17,700 หลังถูกน้ำท่วมและเสียหาย นาและไร่รวมเนื้อที่ 14,000 เฮกตาร์ (87,500 ไร่) ถูกทำลายสิ้น

นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนติดค้างอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทางตอนเหนือ เนื่องจากเส้นทางสัญจรถูกตัดขาด แม้ว่าฝนจะหยุดตกตั้งแต่วันจันทร์แต่เส้นทางคมนาคมก็ยังใช้การไม่ได้ หลายท้องถิ่นผู้คนเริ่มหิวโหยเนื่องจากไม่มีอาหาร

ทางการได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าและกรมประทานตรวจเช็กสภาพเขื่อนและฝายกั้นน้ำต่างๆ ตามแม่น้ำฮว่าบิ่ง (Thai Binh) กับแม่น้ำแดง (Song Hong) หลังจากระดับน้ำสูงขึ้น

</TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000095186

 

อีสานน้ำโขงหนุนสูงเริ่มท่วมบางพื้นที่​

​

ภูมิภาค 11 ส.ค.-บ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำโขงใน จ.หนองคาย เริ่มประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว ขณะที่มุกดาหารระดมกระสอบทรายหลายพันใบป้องกันน้ำท่วมย่านการค้าตลาดอินโดจีน

ศูนย์สำรวจอุทกวิทยาหนองคายรายงานการวัดระดับแม่น้ำโขงล่าสุดเวลา 11.30 น.วันนี้ (11 ส.ค.) บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อยู่ที่ 12.34 เมตร และเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้วในชุมชนจอมมณี เขตเทศบาลเมืองหนองคาย และ อ.ท่าบ่อ 3 ตำบล คือ ต.ปะโค ต.เวียงคุก และ ต.โพนสา ชาวบ้านเก็บสัมภาระไว้บนชั้นสอง ส่วนบ้านชั้นเดียวต้องขนย้ายข้าวของไปไว้ที่อื่นชั่วคราว โดยเฉพาะชุมชนจอมมณีพื้นที่เป็นแอ่งกระทะและอยู่ใกล้กับลำห้วยสาขาของแม่น้ำโขง จึงมีความเสี่ยงเกิดภาวะน้ำท่วมมาก และขณะนี้จังหวัดประกาศเตือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขงให้เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า และสามารถอพยพออกจากพื้นที่ได้ทันทีหากเกิดภาวะฉับพลัน

ด้านนายสัมฤทธิ์ โภคสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กำชับเจ้าหน้าที่ระดมกระสอบทรายกว่า 4,000 ใบ วางกั้นริมฝั่งแม่น้ำโขงในพื้นที่ปากห้วยมุก เพื่อป้องกันน้ำเข้าถึงเขตสำคัญ โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจตลาดอินโดจีน พร้อมจัดเตรียมเรือท้องแบน 3 ลำ สำหรับช่วยเหลือราษฎรพื้นที่น้ำท่วมสูง เนื่องจากสถานการณ์แม่น้ำโขงไม่น่าวางใจ โดยวันนี้ระดับน้ำสูงถึง 11.23 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติประมาณ 2 เมตร อีกทั้งยังมีฝนตกในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง.-สำนักข่าวไทย

2008-08-11 14:16:48

เชียงแสนวิกฤติหนัก น้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร ​

​

​

เชียงราย 12 ส.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ว่า เข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้ว ล่าสุดมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว รวม 3 ตำบล คือ ตำบลเวียง ตำบลแม่เงิน ตำบลบ้านแซว

บ้านเรือนราษฎรกว่า 500 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 2 เมตร พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายแล้วกว่า 3,000 ไร่ ส่วนถนนสายเชียงแสน -เชียงของ บริเวณรอยต่อบ้านเกาะผาคำ และบ้านสบกก ตำบลบ้านแซว มีน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ผู้ที่จะเดินทางต้องเลี่ยงไปใช้ถนนสายอำเภอดอยหลวง และอำเภอเชียงของแทน

อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้เร่งจัดส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเรือท้องแบนออกไปช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ประสบภัยแล้ว ด้านนายมานพ ไทยหล่อ หัวหน้าศูนย์สำรวจอุทกภัย 12 เชียงแสน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วเฉลี่ยชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกต่อเนื่อง ซึ่งจะหนุนให้แม่น้ำคำและแม่น้ำกกเพิ่มระดับสูงขึ้นด้วย ดังนั้น จึงขอเตือนให้ราษฎรที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงด้านล่าง แม่น้ำคำ และแม่น้ำกก เตรียมอพยพสิ่งของไว้ในที่ปลอดภัย เพราะคาดว่าน้ำจะล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

2008-08-12 11:55:10

เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ในระยองท่ามกลางฝนตกต่อเนื่อง

​

ระยอง 12 ส.ค.-ฝนที่ตกลงมาติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดระยอง

โดยเฉพาะในเขตตลาดเมืองระยอง เกิดน้ำท่วมขังตามถนนสายต่างๆบริเวณโดยรอบ บางแห่งสูงเกือบ 1 เมตร ส่งผลให้การจราจรติดตัดอย่างหนัก ส่วนบริเวณตลาดสดศูนย์การค้าสตาร์น้ำท่วมขังสูงกว่า 50 เซนติเมตร และจนถึงขณะนี้ก็ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้น้ำท่วมขยายวงกว้างออกไปอีก

ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจังหวัดหนองคาย ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั้งพื้นที่เกษตรและบ้านเรือน อาทิ หมู่บ้านในเขาอำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอท่าบ่อ อำเภอเมือง และอำเภอโพนพิสัย และมีน้ำท่วมถนนหลายสายในเทศบาลเมืองหนองคาย โดยเฉพาะถนนประจักษ์ รถเล็กสัญจรไปมาได้อย่างลำบาก.-สำนักข่าวไทย

2008-08-12 10:30:50

ที่มา http://news.mcot.net

 

วันนี้ดร.สมิทธิ ได้มาบรรยายเรื่องภัยพิบัติที่ศาลากลางจ. สมุทรปราการ ครับ มีบรรยายทั้งวัน

ทางกลุ่มพลังจิตได้ส่งตัวแทนไปร่วมฟังบรรยายแล้วครับ หากท่านใดสนใจ ไปร่วมฟังได้ครับ

จากที่โทรมารายงานทราบว่าทางคนในพื้นที่สนใจมากๆมาร่วมฟังกันเกือบ พันคนครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รู้ทัน

 

*** สัจจะธรรม หลักเดียวสูงสุด ****

ไม่มีคนใดอยู่เหนือ หลักสัจจะธรรม
ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
หลงออกนอกศาสนา คือลัทธิ คือความเห็น ไม่ใช่ความจริง จะเป็นไฟเผาตัว
หยุดอยู่ในความสงบด้วย สัจจะ คือ ทางรอด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** พระเวช ****

กรรมใหญ่หลวง...ต้องพึ่งโลกุตตระ สัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

นิด้าโพล เชื่อเกิดความุรนแรงหากรัฐบาลพยายามแก้ รัฐธรรมนูญ

​

สำนักวิจัย

 

...คนดี มีศีลธรรม ทุกเช้าค่ำ จำพุทธะ...

...จงหลีกหนี หลบอยู่ที่ปลอดภัย...

...เกิดเหตุใดขอใหผ่านพ้น เถิด...

ข้าพเจ้าเคยกล่าวไว้ ตั้งแต่วันที่ ๘ มิ.ย. แต่การนั้นได้มีพระอรหัตย์ หลายองค์
ได้แผ่เมตตาใหญ่ให้สรรพสัตว์ และแล้วเมื่อกำลังของคนที่ขาดศรัทธา...
ศรัทธาน้อยลง มัวแต่ลุ่มหลงในสุขโลกต่างๆ เขาเหล่านั้นมิเคยคิดที่จะ
แผ่เมตตา นำผู้คนทั้งหลายให้ได้มีปัญญา มีสติ ตั้งสติ เพื่อความสงบสุข

แต่เขาเหล่านั้นหวังแต่ความปราถณาใน ลาภ ยศ สรรสริญ สุข ฯ
จนนำพาคนเหล่าหนึ่งขาดการยึดเกาะในทางธรรมบริสุทธิ์
เขาเหล่านั้นร่วมกัน...ก่อธาตุภูมิ โทสะธาตุ โมหะธาตุ โลภะธาตุ ราคะธาตุ...ให้เกิดขึ้นแล้วจำนวนมาก

เมื่อเหล่าธรรมใด พบแล้วซึ่งเหตุสมควร...ดังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว...

...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...

ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้น สมควรเกิดขึ้น สมควรอยู่ ณ ที่นั้นๆแล้ว
ท่านผู้เข้าถึงอภิธรรมธาตุแล้ว ละแล้ว รู้แล้ว เห็นแล้ว ...
จึงวางเฉยไว้ ให้ชำระไปตามเหตุนั้นๆ ตามสมควรเถิด...

ท่านสาธุชน พุทธบุตรเหล่าใด ปฏิบัติดีแล้ว รู้แล้ว แจ้งแล้ว
อย่าได้ลังเล อย่าได้สงสัย อย่าได้หนีซึ่งเหตุของตนเลย
สรรพทุกข์ สรรพเคราะห์ วิบากกรรมทั้งหลาย
ได้จำแนกไว้แล้ว ทุกสรรพชีวิต อยู่ ณ ที่ใด ตรงไหน...
มีวาระกรรมตามสมควรแก่ตนดีแล้ว ...

จึงหมั่นน้อมระลึกนึกถึง...พระพุทธะ พระธรรมะ พระสังฆะ ไว้ให้สนิทจิตเถิด
ท่านเหล่าใดได้หมายหวังไว้ พระนิพพานเป็นที่สุดท้าย
ท่านเหล่าใดได้หวังไว้ พระโพธิญาณเป็นที่หมาย

ขอให้ท่านผู้เจริญในธรรมถึงหมั่นหมายนั้นไว้อย่าได้ละ...
น้อมนำพาจิตเหล่าใดที่ได้แล้วซึ่งทิพย์วิญญาณ จิตธรรมญาณ...
ช่วยนำพา ช่วยส่งเสริม ช่วยชำระ เขาทั้งหลายเถิด...


ขอให้ท่านผู้เจริญในธรรมทั้งหลายขอให้ได้ทิพย์วิญญาณ ทิพย์ธรรมญาณ กันถ้วนทั่วเถิด....


...มีมากมายไม่สิ้นสุด มีมากมายสิ้นสุดก็เริ่มใหม่ มีมากมายบอกไปไม่สิ้นสุด
มีมากมายสิ้นสุดก็เริ่มใหม่...


จิตนิมิต...

 

วันนี้เวลาประมาณ 15.00 สังเกตุเห็นมดดำขนก้อนขาว ๆ ( ไม่รู้ว่าเป้นอาหาร หรือ ไข่ หรือ ตัวอ่อน ) เดินขบวนอย่างรวดเร็ว เพื่อย้ายขึ้นที่สูง เลยเอาข่าวมาแจ้งให้ได้ทราบครับ

ใครเห็นพฤติกรรมผิดปกติ ก็มาโพสบอกกล่าวกันดู นะครับ ถ้ามีข้อผิดสังเกตุจะได้เตรียมตัวตุนเสบียงอีกรอบ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กทม.สนองพระราชเสาวนีย์-ทำคู่มือ Storm surge แจก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 สิงหาคม 2551 17:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คลื่น Storm surge ที่เกิดจากอิทธิพลของพายุในทะเล</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>กทม.สนองพระราชเสาวนีย์เดินหน้าปรับภูมิทัศน์ให้เมืองกรุงนำสายไฟฟ้าลงดิน เฟสแรกเริ่ม ก.ย.นี้ พร้อมจัดทำคู่มือแจกประชาชนเตรียมรับภัย Storm surge 17 ส.ค.นี้ ลงพื้นที่เสี่ยงภัยและซ้อมแผนปฏิบัติการ

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า หลังจากที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์เกี่ยวกับการปรับปรุงภูมิทัศน์กรุงเทพฯ ให้สวยงาม ด้วยการนำสายไฟฟ้าลงดินนั้น ซึ่งตั้งแต่ปี 2549 กทม.โดยสำนักการโยธา (สนย.) ได้ร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน โดยมีระยะเวลาการดำเนินโครงการเบื้องต้นจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2551-เดือนสิงหาคม 2552 งบประมาณ 165 ล้านบาท ในถนน 17 สาย อาทิ ถนนเพลินจิต ถนนราชประสงค์ ถนนราชดำริ ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 6 ถนนนครสวรรค์ ถนนสวรรคโลก นอกจากนั้น มีโครงการระยะที่สอง ที่ใช้งบประมาณ 158 ล้านบาท ดำเนินการที่ถนนหน้าพระลาน ถนนสนามไชย และ ถนนข้าวสาร ซึ่งจะมีการลงนามกับ กฟน.ในเดือนกันยายน พ.ศ.2551 คาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ พ.ศ.2553

นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า ทาง สนย.จะนำเสนอแผนงานว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้าจะดำเนินการโครงการสายไฟฟ้าลงดินในถนนสายใดพื้นที่ กทม.ใดบ้าง เบื้องต้นประเมินไว้ว่า จะทำเป็นโครงการระยะยาว 10 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2551-2565 แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการในถนน 32 สาย รวมระยะทาง 119 กิโลเมตร และ ระยะที่ 2 ดำเนินการในถนน 18 สาย รวมระยะทาง 61 กิโลเมตร งบประมาณที่ใช้ทั้งหมด 77,700 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณให้

นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กทม.มีแนวคิดที่จะรวมสวนสาธารณะ คือ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สวนจตุจักร สวนเบญจกิติ (สวนรถไฟ) เพื่อให้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่สร้างปอดให้กับคนกรุงเทพฯ และเตรียมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จักสวนสาธารณะใน กทม.มากขึ้น เพื่อให้ไปใช้และทำกิจกรรม อาทิ สวนเบญจกิติ ซึ่งมีความสวยงาม แต่ประชาชนยังรู้จักกันน้อย หรือแม้แต่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ที่มีพรรณไม้แต่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการน้อยเช่นกัน

นอกจากนี้ นายอภิรักษ์ ยังกล่าวถึงการตรียมแผนปฏิบัติการหากเกิดคลื่นพายุ ซัดฝั่ง หรือ Storm surge โดยทางสำนักการระบายน้ำ (สนน.) สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) ได้นำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.ในระดับวิกฤต และกรณีเกิดคลื่นซัดฝั่งมารายงานต่อคณะผู้บริหาร เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์และเฝ้าระวัง รวมถึงการประสานความร่วมมือและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ โดยจะมีการซักซ้อมแผนปฏิบัติการในวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคมนี้ พร้อมกับลงตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง ใกล้ชายฝั่งทะเลกทม. เช่น บางขุนเทียน ทุ่งครุ บางบอน รวมถึงบริเวณต่อเนื่องกับจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร

สำหรับกรณีคลื่นซัดฝั่ง ได้มีการเตรียมออกแบบแผนปฏิบัติการอย่างชัดเจนโดยมีมาตรการก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และการฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ ซึ่งจะมีการจัดตั้งองค์กรปฏิบัติการระดับ กทม.เพื่ออำนวยการกำกับและประสานงานการปฏิบัติรวมกับศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.และองค์กรระดับศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า แบ่งเป็นศูนย์ฝั่งพระนคร ฝั่งธนบุรี เพื่อกำกับดูแลพื้นที่เสี่ยง และเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อม โดยจะมีการซ้อมแผนในวันอาทิตย์นี้เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำคู่มือปฏิบัติตน เบื้องต้นสำหรับประชาชนเพื่อนการเตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุขึ้น สำหรับการเตรียมแผนความพร้อมดังกล่าวเป็นเพียงการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุเท่านั้น ไม่ได้ยืนยันว่าจะมี Storm surge เพราะจากการายงานย้อนหลังยังไม่มีข้อบ่งชี้จะเกิดพายุซัดฝั่งในพื้นที่ กทม.แต่อย่างใด ฝากถึงประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลระดับน้ำขึ้น น้ำลง ปริมาณน้ำฝนได้ที่เว็บไซต์ กทม.ที่ www.bangkok.go.th ตั้งแต่ 17 ส.ค.เป็นต้นไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

น้ำป่าหลากท่วม ถ.สระบุรี-หล่มสัก รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่าน

​

เพชรบูรณ์ 13 ส.ค. - น้ำป่าจากเทือกเขาค้อไหลหลากเข้าท่วมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้

เจ้าหน้าที่จากแขวงการทาง ตำรวจ และอาสากู้ภัย ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อดูแลความปลอดภัย หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาค้อไหลหลากเข้าท่วมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 237-238 พื้นที่บ้านคลองมะนาว ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมต่อหลายจังหวัด ถูกน้ำท่วมเป็นระยะทางประมาณ 700 เมตร สูงประมาณ 50 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง. - สำนักข่าวไทย

2008-08-13 15:09:28

เหนือ-อีสาน ฝนยังกระหน่ำหลายพื้นที่จมน้ำ​

​

ภูมิภาค 13 ส.ค.- ราษฎรพื้นที่ภาคเหนือและอีสานยังคงเดือดร้อนถูกน้ำท่วมบ้านเรือนที่เพชรบูรณ์น้ำป่าเขาค้อหลากท่วมถนนสายหลัก ขณะที่แม่น้ำโขงล้นตลิ่ง นครพนมท่วมหนัก อ.ศรีสงคราม เกือบมิดหลังคาบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงฝนตกสะสมมาตลอด 2-3 วัน ใน จ.เพชรบูรณ์ ล่าสุดน้ำป่าจากเขาค้อไหลหลากท่วมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก สูงกว่า 30 เซนติเมตร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 237

 

หายไปหลายวัน คิดถึงพี่ๆ ชาวพลังจิตเหมือนกัน
พอดีผมไปบ้านแฟนที่เชียงรายมาครับ อากาศหนาวทีเดียวผมแปลกใจมาก เพราะที่แม่ฮ่องสอนยังไม่หนาวเท่านี้เลยครับ..กลางคืนต้องห่มผ้าห่ม 2 ฝืน ที่แม่ฮ่องสอนกลางคืนยังเปิดพัดลมเลยครับ...จะว่าฝนตกก็ไม่ใช่ เพราะที่ไหนๆก็ตกเหมือนกัน อาจเป็นเพราะมีน้ำใต้ดินสะสมมากหรือเปล่าก็ไม่รู้...อากาศเลยเย็น(อันนี้ผมคิดเองครับ)
ไปเชียงรายก็แวะไปสถานที่ปฏิบัติธรรม ไปหาพระอาจารย์(นุ่งขาวห่มขาว)...แย็บถามถึงเรื่องภัยพิบัติท่านว่าปีหน้าหนักแน่นอน
แล้วพอดีมีพระภิกษุรูปหนึ่งมาอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมด้วย ท่านบอกว่าอยู่ปราจีนบุรี ผมได้สนทนากับท่านแล้วรู้สึกว่าพระภิกษุรูปนี้ไม่ธรรมดาแน่ (อายุประมาณ 60 -65 ปี) เพราะไม่เคยรู้จักกันแต่พูดทักผมเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมเป๊ะๆ ก็เลยถามท่านว่าเห็นเขาพูดกันว่ากรุงเทพฯน้ำจะท่วมหนักหรือครับ ท่านบอกว่ามันไม่ได้ท่วมมันจะหายไปเลย ท่านบอกว่าท่านอยู่ปราจีน ก็จะย้ายขึ้นทางเหนือเหมือนกัน บอกลูกศิษย์ท่านที่เชื่อฟังให้เตรียมตัวย้ายกันได้แล้ว
พอดีมีลูกศิษย์อยู่ที่กรุงเทพฯ (มาปฏิบัติธรรมที่เชียงราย) บอกว่าจะลากลับกรุงเทพฯวันนี้ 13 ส.ค.51 ท่านบอกว่าไม่น่ากลับเลยนะ กรุงเทพนี่....ไว้มีอะไรก็จะมาเล่าสู่กันฟังต่อครับ
...

 

สรุปสถานการณ์น้ำแม่น้ำโขง
วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2551
​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc>แม่น้ำโขงที่เชียงแสน</TD></TR><TR><TD><HR color=#0000ff></TD></TR><TR><TD> ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่สถานีเชียงแสนมีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 เวลา 07.00 น. วัดระดับน้ำได้ 10.49 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="46%">

กลับไปด้านบน​

</TD><TD width="54%">

สถานีหนองคาย​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffcc>แม่น้ำโขงที่เชียงคาน</TD></TR><TR><TD width="50%"><HR color=#0000ff></TD></TR><TR><TD> ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่สถานีเชียงคาน มีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 เวลา 07.00 น. วัดระดับน้ำได้ 16.46 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>

กลับไปสถานีเชียงแสน​

</TD><TD>

กลับไปด้านบน​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffcc>แม่น้ำโขงที่หนองคาย</TD></TR><TR><TD><HR color=#0000ff></TD></TR><TR><TD> ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่สถานีหนองคาย มีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 เวลา 07.00 น. วัดระดับน้ำได้ 13.15 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>

กลับไปสถานีเชียงคาน​

</TD><TD>

กลับไปด้านบน​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffcc>แม่น้ำโขงที่นครพนม</TD></TR><TR><TD><HR color=#0000ff></TD></TR><TR><TD> ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่สถานีนครพนม มีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 เวลา 07.00 น. วัดระดับน้ำได้ 12.19 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>

กลับไปสถานีหนองคาย​

</TD><TD>

กลับไปด้านบน​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffcc>แม่น้ำโขงที่มุกดาหาร</TD></TR><TR><TD><HR color=#0000ff></TD></TR><TR><TD> ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่สถานีมุกดาหาร มีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 เวลา 07.00 น. วัดระดับน้ำได้ 12.09 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>

กลับไปสถานีนครพนม​

</TD><TD>

กลับไปด้านบน​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffcc>แม่น้ำโขงที่โขงเจียม</TD></TR><TR><TD><HR color=#0000ff></TD></TR><TR><TD> ระดับน้ำแม่น้ำโขงที่สถานีโขงเจียม มีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 เวลา 07.00 น. วัดระดับน้ำได้ 13.19 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ที่มา http://202.129.59.150/brdh/mkriver.htm

 

http://news.sanook.com/social/social_297453.php

<TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=585 height=10><TABLE class=news2006_topic width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left>ปลุกปากน้ำตื่นรับมือคลื่นยักษ์แรงเท่าพายุนาร์กีส

</TD><TD align=right width=100></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD class=news2006_graylight height=10>โดย คม ชัด ลึก<SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT> <!--START-->วัน พฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=news2006_black cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=10 rowSpan=6></TD><TD width=575>สมิทธ เตือนชาวปากน้ำรับมือคลื่นหนุนสูง สตอร์ม เซิร์จ ส.ค.-กย.นี้ ชี้รุนแรงเท่านาร์กีส สมัคร สั่ง มท.1 ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเหนือ-อีสานด่วน

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช​

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมเสวนา

 

ตกลงเืืรื่อง LHC เป็นอย่างไรต่อครับ รบกวนช่วยนำ้มาเล่าต่อ อันนี้น่าสนใจกว่ามดอพยพหนีน้ำเยอะเลยครับ

 

เขาเลื่อนเดินเครื่องเป็นกันยายน ชนอนุภาคตัวแรกพย. ค่ะ
ไปลุ้นตอนชน..

 

ตกลงเลื่อนเป็น 10 กันยาหรือครับ งั้นก็คงหายใจไม่โล่งต่อ