ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ภาพยนต์เตือนภัยภูเขาไฟเยลโล่สโตน !!!

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Yh61G9PUSlc"]SUPER ERUPTION Official Trailer (2013) - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=uzk1uqxpfoY#t=38"]2012 - Yellowstone explodes [HD] - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2014
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คลื่นความร้อนทำไฟป่าในออสเตรเลียรุนแรงขึ้น

    [​IMG]

    เมลเบิร์น 17 ม.ค.- ตำรวจออสเตรเลียแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 1 รายเพราะไฟป่าที่กำลังโหมไหม้ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั่วประเทศกำลังช่วยกันควบคุมไฟป่าที่รุนแรงขึ้นเพราะคลื่นความร้อน

    ตำรวจเผยว่า พบผู้เสียชีวิตที่เมืองโรสแกปในอุทยานแกรมเปียนส์ รัฐวิกตอเรีย ถือว่าเสียชีวิตเพราะผลจากไฟป่า เจ้าหน้าที่รัฐวิกตอเรียเตือนว่า สภาพการณ์จะเลวร้ายลงอีกในวันนี้ เพราะลมเปลี่ยนทิศ ทำให้กระแสลมแรงขึ้นและจะโหมไฟให้รุนแรงขึ้น ขณะที่ผู้คนเริ่มอพยพออกจากเมืองฮอลส์แกป ริมอุทยานแกรมเปียนส์ตั้งแต่คืนที่ผ่านมาเพราะเห็นแสงไฟแดงฉานบนเทือกเขาในอุทยาน และมีกลุ่มควันลอยลงมาปกคลุมเมือง

    ส่วนที่รัฐเซาท์ออสเตรเลีย สถานการณ์มีแนวโน้มจะเลวร้ายลงเช่นกันในวันนี้ เพราะเกิดฟ้าผ่าเสี่ยงทำให้เกิดไฟป่าเพิ่มขึ้นอีกหลายจุด และที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประชาชนยังคงทำความสะอาดย่านเพิร์ทฮิลส์หลังจากไฟป่าเผาผลาญบ้านไป 56 หลังเมื่อวันอาทิตย์ สันนิษฐานว่าต้นเพลิงเกิดจากเสาไฟฟ้าล้ม

    สำหรับอุณหภูมิที่นครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย คาดว่าจะอยู่ที่ 44 องศาเซลเซียสในวันนี้ และที่เมืองแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย คาดว่าจะอยู่ที่ 42 องศาเซลเซียส เกิน 40 องศาเซลเซียสเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 17 ม.ค. 2557 13:12 |

    จีนพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก H7N9 รายใหม่ 4 ราย

    [​IMG]

    ฝูโจว 17 ม.ค.-ทางการสาธารณสุขมณฑลฝูเจี้ยนของจีนรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H7N9 รายใหม่ 4 รายในมณฑลเจ้อเจียง และมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อวานนี้

    รายงานระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 รายในเมืองฉวนโจว มณฑลฝูเจี้ยน เป็นชาย มีอายุ 30 ปี และ 60 ปี ทั้งสองมีอาการป่วยหนักและกำลังรักษาตัว ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 2 รายในมณฑลเจ้อเจียง เป็นหญิงวัย 20 ปี และชายวัย 58 ปี ทั้งสองมีอาการป่วยหนักเช่นกัน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H7N9 ในมณฑลเจ้อเจียง เพิ่มเป็น 14 คนในปีนี้

    นอกจากมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลฝูเจี้ยน ในปีนี้ยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H7N9 ในมณฑลเจียงซูและมณฑลกวางตุ้ง และนครเซี่ยงไฮ้ด้วย และยังพบกรณีต้องสงสัยติดเชื้อในมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

    สำนักข่าวไทย TNA News | 17 ม.ค. 2557 11:25 |

    เกาหลีใต้กำจัดเป็ดหลายพันตัวหลังสงสัยไข้หวัดนกระบาด

    [​IMG]

    โซล 17 ม.ค.-เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีใต้เริ่มกำจัดสัตว์ปีกหลายพันตัวในวันนี้ หลังจากผลการตรวจสอบเบื้องต้นชี้ว่าอาจเป็นการระบาดของไข้หวัดนกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554

    กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้รายงานว่า มีรายงานการระบาดของไข้หวัดนกที่ฟาร์มสัตว์ปีกแห่งหนึ่งในเมืองโกชาง จังหวัดจอลลาเหนือ ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 300 กิโลเมตร เมื่อวานนี้ ล่าสุดทางการท้องถิ่นเริ่มกำจัดเป็ดกว่า 20,000 ตัว ที่ฟาร์มดังกล่าว และมีการบังคับใช้มาตรการกักโรคที่ฟาร์ม 24 แห่งใน 4 จังหวัด ซึ่งมีประวัติซื้อเป็ดจากฟาร์มในเมืองโกชาง
    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจตัวอย่างที่ได้จากฟาร์มในเมืองโกชางเพิ่มเติม แต่กระทรวงการเกษตรระบุว่า มีแนวโน้มสูงที่จะมีการยืนยันว่าเชื้อที่พบในตัวอย่างเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1

    การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในเกาหลีใต้ครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 โดยทางการได้กำจัดสัตว์ปีกกว่า 6 ล้านตัวในฟาร์มกว่า 280 แห่งทั่วประเทศ.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 17 ม.ค. 2557 15:35 |

    จีนเริ่มผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียว

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 17 ม.ค.-เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจีนแถลงว่า จีนเริ่มผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียวแล้ว โดยอนุญาตให้คู่สามีภรรยามีลูกได้ 2 คน หากฝ่ายสามีหรือภรรยาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัว

    สมาชิกสภามณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ลงมติผ่านการปรับแก้กฎข้อบังคับท้องถิ่นเมื่อวันจันทร์ คณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขและวางแผนครอบครัวแห่งชาติจีนกล่าวยืนยันว่า มณฑลเจ้อเจียงเป็นแห่งแรกในประเทศที่ผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียวโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในที่ประชุมพรรคเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้รับการรับรองในรัฐสภาเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์เตือนว่า จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกจะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานภายในอีก 2 ทศวรรษ.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 17 ม.ค. 2557 18:19 |

    ที่มา Digital Media and Online Services of News and Entertainment by MCOT Plc. | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "ป๋าเปรม" ยังแข็งแรงดี !!!

    [​IMG]

    คนสนิท "ป๋าเปรม" ยัน "ป๋าเปรม" ยังแข็งแรงดี ชี้มีพวกไม่หวังดีจ้องทำลาย

    เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ว่า พล.อ.เปรม ถึงแก่อนิจกรรมแล้วด้วยอาการภาวะลำไส้ใหญ่อักเสบและติดเชื้อในกระแสโลหิต เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 24 พ.ย.ว่า ขณะนี้ พล.อ.เปรมยังคงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมายังทำกิจกรรมเดินออกกำลังกายรอบบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ และ ที่ผ่านมา พล.อ.เปรม ก็ไม่ได้มีอาการป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบแต่อย่างใด

    ทั้งนี้มองว่า กระแสข่าวดังกล่าวถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องจากผู้ไม่หวังดี ที่หวังผลจ้องทำลายพล.อ.เปรม อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรม ยังออกงานอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะการประชุมองคมนตรีที่ทำเนียบองคมนตรีที่ พล.อเปรม จะเป็นประธานการประชุมด้วยตนเองทุกครั้ง.

    เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา 21:51 น.

    ที่มา www.dailynews.co.th

    ถามมา - ตอบไป : เป้าหมายยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในการแก้ไขปัญหาชาติ

    ถาม : พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้ให้โอวาทแก่นายกรัฐมนตรี แก่คณะนายทหาร ตำรวจ และแก่คณะข้าราชการภาคอีสาน รวม 3 ครั้งแล้ว รู้สึกว่ามีนัยยะที่สำคัญมาก แต่ไม่ค่อยเข้าใจและไม่ค่อยชัดเจน จึงอยากให้คุณไพศาลช่วยให้ความเห็นหรืออธิบายเพิ่มเติมด้วย

    ตอบ : ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้ให้โอวาทรวม 3 ครั้งแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะผู้นำทหาร ตำรวจ และแก่แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะข้าราชการภาคอีสาน ผมได้ติดตามและศึกษาโอวาททั้ง 3 วาระนี้เพราะเห็นว่ามีนัยยะสำคัญดังที่ตั้งคำถามนั้น ดังนั้นจึงมีความยินดีที่จะได้ออกความคิดเห็นตามที่ผมเข้าใจ ดังต่อไปนี้

    โอวาทครั้งที่ 1 กล่าวกับนายกรัฐมนตรีและคณะ มีใจความสำคัญอยู่ที่ "เมื่อท่านนายกฯไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่านายกฯได้รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมมาเพื่อจะไปปฏิบัติให้บรรลุตามที่มีพระราชกระแสรับสั่ง ผมว่าโจทย์ของพระเจ้าอยู่หัวสั้นและชัดเจน แต่คำตอบของท่านนายกฯคงจะใช้เวลานาน ผมมั่นใจว่าท่านนายกฯจะตอบโจทย์ข้อนี้ได้" คือการเน้นย้ำให้รัฐบาลถือรับสั่งไปปฏิบัติ โดยมีเป้าหมายคือ "โจทย์" ที่นายกได้รับพระราชทานมา และเมื่อไปดูกระแสพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่นายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ปรากฏความสำคัญอยู่ตรงที่ทรงเน้นย้ำให้รัฐบาลทำบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยและทำให้ประชาชนเป็นสุข ซึ่งประธานองคมนตรีเห็นว่าแม้เป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่ยากเกิน การทำเป้าหมายนี้ให้สำเร็จ ประธานองคมนตรีได้แนะนำว่าจะต้องถือคาถา 5 คำคือ หนึ่งก็ต้อง “อดทน” สองก็ต้อง “อดกลั้น” สามก็ต้อง “เสียสละ” สี่ก็ต้อง “ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง” และห้าคือ “สร้างศรัทธาให้เกิดขึ้น”

    โอวาทครั้งที่ 2 กล่าวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะผู้นำฝ่ายทหารและตำรวจ มีใจความสำคัญอยู่ที่ การทำให้กองทัพงามสง่าน่าเกรงขาม การดำรงความมุ่งหมายของกองทัพ ตั้งแต่สูงสุดไปจนถึงข้างล่างสุด การประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชา การยึดมั่นในปณิธานของทหาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและทหารของชาติว่าเราจะทำอะไรให้กับชาติบ้านเมืองบ้าง และต้องเป็นกลางทางการเมืองจริง ๆ ไม่ไปเดินตามหลังนักการเมือง แต่จะต้องดูแลชาติบ้านเมือง เป็นหลักของชาติบ้านเมืองด้วย ตราบใดที่ชาติบ้านเมืองมีปัญหา พวกเราจะต้องมาช่วยกันคิดว่า ในฐานะที่เราเป็นทหารเราควรจะทำอย่างไร ทำไมถึงจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นต้น

    โอวาทครั้งที่ 3 กล่าวกับแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะข้าราชการภาคอีสาน ซึ่งมีนัยส่งสัญญาณถึงรัฐบาล ข้าราชการทั้งทหาร ตำรวจ และพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนทุกภาคส่วนว่า สถานการณ์ในปัจจุบันนี้แม้ยุ่งยาก แต่ไม่ยากเกินกว่าที่จะแก้ไข พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เผยนัยว่าในอดีตสถานการณ์ยุ่งยากกว่านี้เราก็แก้ไขสำเร็จมาแล้ว ตรงนี้มีนัยยะสำคัญมากที่สุดรองจากเป้าหมายที่ได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีเพราะมีช่องว่างระหว่างบรรทัดมาก เนื่องจากพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นั้นมีปกติพูดน้อย พูดลึก แต่คมกล้า การพูดถึงเรื่องนี้จึงต้องย้อนไปดูอดีตเมื่อครั้งที่พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่ามีเหตุการณ์อะไร และได้ใช้ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีอะไรในการแก้ไขปัญหาของชาติ จึงจะเข้าใจนัยยะของโอวาทครั้งนี้ได้

    ตรวจค้นดูแล้วก็ปรากฏว่าเมื่อครั้งที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น มีวิกฤตร้ายแรงทั่วด้าน

    ในประเทศ มีปัญหาทางการเมือง เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีพรรคการเมือง เป็นรัฐบาลผสม ซึ่งต้องประคองสถานการณ์อย่างละเอียดอ่อนลึกซึ้ง และยังมีปัญหาสงครามกลางเมืองกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทยขยายเขตปฏิบัติการในทางรุก เป็นพื้นที่ถึง 47 จังหวัด เป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของประเทศ และมีแนวโน้มว่าจะยึดอำนาจรัฐได้สำเร็จ เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องมาร่วม 20 กว่าปี และไม่มีรัฐบาลไหนแก้ไขได้ ทั้งยังมีวิกฤตทางเศรษฐกิจที่รุนแรง ถึงกับต้องลดค่าเงินบาทถึง 2 ครั้ง และฟื้นฟูเงินคงคลัง ตลอดจนภาวะขาดดุลทุกประเภทจนเป็นผลสำเร็จ รวมทั้งการกำจัดนักการเมืองที่โกงและฟื้นฟูระบอบนิติรัฐขึ้นในประเทศได้สำเร็จ

    ชายแดนภาคใต้มีปัญหาสงครามกลางเมืองที่สับสนมาก พรรคคอมมิวนิสต์มาลายาเข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการในชายแดน ทำสงครามกับมาเลเซีย ทำให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งเป็นประจำ มีขบวนการแบ่งแยกดินแดน มีการเคลื่อนไหวของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยด้วยกำลังอาวุธ มีขบวนการเบอซาตู และมีกองทัพปลดแอกประชาชนมุสลิมแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นกองกำลังผสมระหว่างพลพรรคคอมมิวนิสต์มาลายากับพรรคคอมมิวนิสต์ไทย เป็นเหตุการณ์สับสนและยุ่งยากที่สุดเพราะเป็นสงครามที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งยังมีมหาอำนาจเข้าแทรกแซงอีกด้วย

    ชายแดนด้านติดกับกัมพูชาก็เผชิญหน้ากับกองทัพเวียดนาม ซึ่งรุกเข้ายึดครองกัมพูชาและจ่อคุกคามชายแดนไทย ในขณะที่อำนาจรัฐกัมพูชาก็เอนเอียงเข้าข้างเวียดนาม ทำให้เอกราชอธิปไตยตกอยู่ในความเสี่ยงที่ร้ายแรง มีการปะทะตามแนวพรมแดนเป็นระยะ ๆ

    ชายแดนด้านติดกับลาวก็เผชิญหน้ากับกองทหารลาวที่มีกองทัพเวียดนามหนุนหลัง มีการปะทะตลอดแนวพรมแดน

    ชายแดนด้านติดกับพม่าก็มีการปะทะตลอดแนวพรมแดนกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย และการเข้าตีของกองทัพพม่าที่บางครั้งส่งผลกระทบต่อดินแดนไทย ในขณะที่มีการแทรกแซงจากชาติมหาอำนาจด้วยเช่นเดียวกัน

    ดังนั้นสถานการณ์ในยุคนั้น หากเทียบกับปัจจุบันจึงต้องถือว่าสลับซับซ้อน รุนแรง และแหลมคมกว่าปัจจุบันมาก แต่รัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก็มุ่งมั่นแก้ไขได้สำเร็จในทุกด้าน คุณูปการนี้จึงส่งให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้รับพระมหากรุณาไว้วางพระราชหฤทัยให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีและเลื่อนเป็นประธานองคมนตรีจนถึงปัจจุบันนี้

    มาตรวจดูยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลในขณะนั้นใช้ในการบริหารจัดการปัญหาชาติอาจสรุปได้ดังนี้

    1. ยุทธศาสตร์ในการสร้างความมั่นคงของชาติ ภายในใช้ยุทธวิธีให้อภัย จึงมีการกำหนดนโยบายการเมืองนำการทหาร ตามคำสั่ง 66/2523 ส่งผลให้มีการยุติสงครามและเข้าร่วมพัฒนาชาติไทย ควบคู่กับยุทธวิธีแยกปลาจากน้ำ คือแยกหัวโจกตัวร้ายออกจากประชาชน พวกหัวโจกตัวร้ายก็อยู่ไม่ได้ ไม่ถูกกำจัดก็ต้องถูกจับ หรือเข้ารายงานตัว และยุทธวิธีในการสร้างความสามัคคีในชาติโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางเพียงศูนย์เดียว ภายใต้สิ่งที่เรียกว่าเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

    2. ยุทธศาสตร์ในการสร้างสันติภาพตลอดแนวชายแดนไทย ใช้หนทางสันติวิธี ใช้ยุทธวิธีประสานกับชาติมหาอำนาจ ควบคู่กับยุทธวิธีในการประสานผลประโยชน์กับประเทศเพื่อนบ้านและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพไทยในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยของชาติ

    3. ยุทธศาสตร์ทางการเมือง ใช้ยุทธวิธีเอาความดีชนะความชั่ว เชิดชูคำขวัญบ้านเมืองเป็นของศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชทรงปกป้องคนดีและสาปแช่งคนชั่วให้มีอันเป็น ชำระสะสางให้คณะรัฐมนตรีมีความบริสุทธิ์และปรีชาสามารถ อุทิศตนเพื่อชาติบ้านเมือง สนับสนุนคนดีให้มีอำนาจ ร่วมงานกับพรรคการเมืองที่ดี บี้พรรคการเมืองชั่วไม่ให้อยู่ในวงอำนาจ ส่งเสริมข้าราชการดี กำจัดข้าราชการชั่ว สร้างความยุติธรรมในบ้านเมือง ปราบปรามผู้ทุจริตและประพฤติชั่วอย่างเฉียบขาด โจรผู้ร้ายจึงหายสาบสูญ ข้าราชการก็รับใช้ประชาชน ไม่กล้าฉ้อราษฎร์บังหลวง

    เหล่านี้จึงอาจเป็นสัญญาณจาก 3 โอวาทของประธานองคมนตรีที่เผยความนัยทั้งเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีในการแก้ไขปัญหาชาติ ซึ่งควรร่วมกันคิดอ่านและทำให้ปรากฏเป็นจริงขึ้น.

    โดย paisal

    ที่มา www.oknation.net/blog/print.php?id=381766
     
  4. comfx22

    comfx22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +234
    การตูน family guy ตอนช่วยชีวิต brian

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=vbT0bEzu884]Family Guy - Brian Dead! OFFICIAL Death Scene - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=xsQnkQbyilc]Family Guy - Brian Is Back ! (Stewie saves Brian Griffin) | HDRAWR - YouTube[/ame]
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ชาวฟิลิปปินส์เรือนแสนแห่อพยพหนีภัยดินถล่ม - น้ำท่วมฉับพลัน ขณะยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสู่ 37 ราย

    [​IMG]

    เอเอฟพี – ชาวฟิลิปปินส์เรือนแสนพากันหนีน้ำท่วมที่มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพายุที่กำลังเคลื่อนตัวใกล้เข้ามา ในการอพยพระลอกใหม่ของแดนตากาล็อก ทางการแถลงวันนี้ (17) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศอันเลวร้ายในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เขยิบขึ้นเป็น 37 ศพแล้ว

    ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ประชาชนเกือบ 13,000 คน ต้องละทิ้งหมู่บ้านของตัวเอง ที่ตั้งอยู่ตามแนวตลิ่งริมแม่น้ำอากูซันที่กำลังเผชิญกับภัยน้ำท่วม บนเกาะมินดาเนา ทางใต้ของฟิลิปปินส์ สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในพื้นที่ดังกล่าวระบุในรายงานความคืบหน้า

    “พื้นที่แถบนี้มักมีฝนตกในช่วงเวลาราวๆ นี้ทุกปี แต่สถานการณ์ในปีนี้เลวร้ายจริงๆ” จอห์น อัวยัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของหน่วยงานรัฐบาลกล่าวกับเอเอฟพี

    ทางด้าน หน่วยงานสภาพอากาศของรัฐ ระบุว่า ระบบอากาศในบริเวณนอกชายฝั่งทางทิศตะวันออกของฟิลิปปินส์ได้ก่อตัวเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และจะพัดถล่มชายฝั่งเกาะมินดาเนาในวันพรุ่งนี้ (18) ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่แอ่งอากูซันซึ่งตอนนี้กำลังประสบน้ำท่วม อาจต้องเผชิญสถานการณ์ที่ร้ายแรงกว่าเดิม

    อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่พายุลูกนี้จะไม่เคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ใกล้เคียงที่ก่อนหน้านี้เผชิญมหาพายุไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” ซึ่งทำให้มีชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตหรือหายสาบสูญไปเกือบ 8,000 คน ทั้งยังส่งผลให้ชาวตากาล็อกกว่า 4 ล้านคนต้องกลายเป็นคนไร้บ้านเมื่อเดือนพฤศจิกายน นับเป็นข่าวดีเล็กๆ ที่หายากสำหรับชาติเอเชียที่บอบช้ำจากภัยธรรมชาติแห่งนี้ กระนั้น ชาวเกาะมินดาเนาจำนวนมากก็ยังคงต้องเตรียมรับมือกับสภาพอากาศอันเลวร้ายระลอกใหม่

    [​IMG]

    อัลซีซาร์ เอาเรเลียว นักพยากรณ์อากาศกล่าวในการแถลงข่าวว่า “คาดว่าจะมีฝนตกหนักในแถบ (อากูซัน) ตั้งแต่คืนนี้ (17) ไป”

    “ประชาชนได้รับแจ้งเตือนว่ามีความเป็นได้ที่จะเกิดดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน” เรย์นัลโด บาลีโด โฆษกของสภาลดความเสี่ยงและบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าว

    เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนกล่าววันนี้ (17) ว่า ในตอนนี้มีชาวฟิลิปปินส์กว่า 218,000 คนอพยพไปอยู่ตามโรงเรียนและอาคารของหน่วยงานรัฐบาลในพื้นที่เขต 3 ทางตะวันออกของมินดาเนาเป็นการชั่วคราว หลังประสบกับสภาพอากาศรุนแรงนานนับสัปดาห์

    น้ำท่วมและดินถล่มซึ่งเป็นผลมาจากฝนที่เทกระหน่ำลงมาได้คร่าชีวิตชาวบ้านในแอ่งอากูซันแล้ว 18 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือหญิงที่จมน้ำเสียชีวิตวานนี้ (16) และนักสำรวจทอง 3 คนที่ถูกดินถล่มลงมาทับ

    พวกเขากล่าวเสริมว่า ผู้เคราะห์ร้ายอีก 19 คนเสียชีวิตก่อนหน้านี้ในสัปดาห์เดียวกัน ในบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของเกาะมินดาเนา ซึ่งรวมถึงพื้นที่ที่เพิ่งฟื้นตัวจากไต้ฝุ่นโบพาซึ่งทำให้มีประชาชนเสียชีวิตหรือสูญหายถึง 19,000 ราย เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2012

    [​IMG]
    ภูเขาลูกหนึ่งในเกาะมินดาเนาเกิดถล่มลงมาหลังเกิดฝนตกหนักในวันที่ 14 มกราคม​

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2557 15:50 น.

    ที่มา www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000006383

    แดนจิงโจ้เผชิญวิกฤต “ไฟป่า” โหมรุนแรงจนเกินควบคุม 70 จุด - ปชช.หลายร้อยเร่งอพยพ

    [​IMG]

    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - คลื่นความร้อนอันเข้มข้น และกระแสลมแรงได้พัดโหมกระพือไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ในหลายสิบจุดทั่วออสเตรเลียวันนี้ (17 ม.ค.) ส่งผลให้ประชาชนหลายร้อยคนต้องละทิ้งบ้านเรือนท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดไฟป่า “แบล็กแซทเทอร์เดย์” ซึ่งกลืนกลินชีวิตชาวแดนจิงโจ้ไป 173 ราย ในปี 2009

    พบผู้เสียชีวิตหนึ่งรายที่อุทยานแห่งชาติ “แกรมเปียนส์” ในรัฐวิกตอเรีย ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากเมลเบิร์นไปทางตะวันตก 300 กิโลเมตร พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่ไฟป่ากำลังลุกไหม้รุนแรงจนเกินจะควบคุม ส่งผลให้อุณหภูมิของพื้นที่โดยรอบพุ่งขึ้นสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ทั้งยังเผาผลาญและสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนที่อยู่อาศัย

    วิกตอเรียเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบหนัก ในเวลาที่เกิดไฟป่ารุนแรงจนเกินจะควบคุมใน 70 จุดของออสเตรเลีย โดยรัฐอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เซาท์ออสเตรเลีย เวสต์เทิร์นออสเตรเลีย และนิวเซาท์เวลส์

    เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้ประกาศเตือนภัยใน 7 พื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายหนัก กระตุ้นให้ชาวบ้านหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

    เครก แลปสลีย์ อธิบดีกรมดับเพลิงวิกตอเรียกล่าวว่า ไฟที่ไหม้กินพื้นที่ 131,250 ไร่ในอุทยานแกรมเปียนส์นั้นรุนแรงมากจนส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศ โดยทำให้เกิดฟ้าผ่าและและไฟลุกไหม้เพิ่มขึ้นอีกหลายจุด

    นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของกระแสลมแรงจากทิศใต้ และพายุฝนฟ้าคะนองที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันนี้ (17) อาจส่งผลให้ไฟลุกลามมากกว่าเดิม

    ทั้งนี้ พื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียได้ถูกคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศได้กล่าวเตือนว่า คลื่นความร้อนอาจเข้มข้นและกินเวลานานกว่าเดิม ทำให้เกิดความกังวลในชะตากรรมของพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งพืชผลทางการเกษตรของออสเตรเลียแห่งนี้

    [​IMG]
    เครื่องบินของกรมดับเพลิงวิกตอเรียกำลังโปรยสารเคมีเพื่อควบคุมไฟป่าที่ลุกโชนในอุทยานแกรมเปียนส์ของออสเตรเลีย​

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2557 18:27 น.

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000006473
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2014
  6. suwit117

    suwit117 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2013
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +176
    วันเวลาใกล้เข้ามา

    วันเวลาที่ใกล้เข้ามา สิ่งสำคัญ ความดี ทาน ศีล ภาวนา


    http://osk80.thaiportal.net/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3/tabid/337/articleType/ArticleView/articleId/574/-.aspx
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มกราคม 2014
  7. suwit117

    suwit117 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2013
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +176
    มาแนะนำวัตถุมงคลที่มีอานุภาพป้องกันรังสีและภัยพิบัติกันครับ

    http://palungjit.org/threads/มาแนะนำวัตถุมงคลที่มีอานุภาพป้องกันรังสีและภัยพิบัติกันครับ.283883/

    พระเครื่องบางรุ่น ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ) พุทธาภิเษก ที่ซอยสายลม(พหลโยธิน8) ยังมี รายได้เข้าวัด
    ����ѵ����� �������Ѵ��ҫا��к�ҹ�����
    พระอาจารย์ต่างๆก็มีอีก ต้องสอบถามท่านดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มกราคม 2014
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ชาวอินโดฯ กว่าหมื่นคนต้องพลัดที่อยู่จากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในกรุงจาการ์ตา

    [​IMG]

    จาการ์ตา 19 ม.ค.-ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยว่ามีประชาชนมากกว่า 10,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านในกรุงจาการ์ตา เนื่องจากอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน ชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ต้องอาศัยเรือบดยางขนาดเล็ก และต้องเดินฝ่าน้ำท่วมซึ่งมีความลึกถึงเอว

    พื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ต่างจมอยู่ใต้น้ำ ถนนหนทางบางแห่งไม่สามารถใช้สัญจรได้ ขณะที่น้ำท่วมอาคารบางส่วนรอบนอกกรุง เช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะสุลาเวสี ทางตอนเหนือ ที่จมอยู่ในน้ำ โดยมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในพื้นที่แล้ว 19 คน

    เจ้าหน้าที่จากหน่วยพิบัติภัยกล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนในกรุงจาการ์ตา 10,530 คน ต้องพลัดที่อยู่ สาเหตุมาจากฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมหนักพร้อมกัน ผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในกรุงจาการ์ตา 5 คน สาเหตุการตายจากโดนไฟฟ้าดูดและจมน้ำ

    สำนักข่าวไทย TNA News | 19 ม.ค. 2557 17:11 |

    ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุลูกแรกของปีในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 40 รายแล้ว

    [​IMG]

    มะนิลา 19 ม.ค.- ทางการฟิลิปปินส์เปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากพายุเหล่งเหลงพายุหมุนเขตร้อนลูกแรกของปีนี้ในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 40 รายแล้ว ท่ามกลางแนวโน้มที่จะเลวร้ายยิ่งขึ้นหลังนักพยากรณ์อากาศเตือนว่าจะมีฝนตกหนักมากขึ้น

    พายุฤดูร้อนลูกนี้พัดถล่มเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 580,000 คน และทำให้อีก 161,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัยและต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพของทางการชั่วคราว

    สภาการจัดการและบรรเทาความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติในกรุงมะนิลาได้ปรับเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตจากเมื่อวันศุกร์ สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่าจะมีฝนตกปานกลางถึงหนักมากในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะมินดาเนา พร้อมกันนี้ ยังได้มีการประกาศเตือนภัยจากพายุในอีก 8 จังหวัดบนเกาะดังกล่าวในอีก 36 ชั่วโมงข้างหน้า โดยคาดว่าพายุจะมีกำลังเร็วลม 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะมาพร้อมพายุฝนฟ้าคะนอง นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าพายุลูกแรกของปีจะนำพาพายุฝนเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ตอนกลางของประเทศ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังคงไม่อาจฟื้นฟูจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเมื่อช่วงปลายปี 2556 ที่ผ่านมา.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 19 ม.ค. 2557 14:18 |

    หิมะตกทางใต้ของภูเขาแอนดิสเปรูเป็นครั้งแรก

    [​IMG]

    ปรู 18 ม.ค.-เกิดหิมะตกในบริเวณทางใต้ของภูเขาแอนดิส ประเทศเปรู ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น

    พื้นที่สูงในเขตอาเรกีปา ทางใต้ของภูเขาแอนดิส เต็มไปด้วยหิมะที่ตกหนัก จนท่วมถนนที่เชื่อมต่อระหว่างเขตอาเรกีปากับเขตชีเวย์ ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางการต้องส่งรถกำจัดหิมะออกมากวาดออกไปไว้ข้างทาง นอกจากนั้นยังทำให้สัตว์พื้นเมือง เช่น ลามะ และแกะ หาอาหารกินไม่ได้เพราะถูกหิมะทับ

    สำหรับฤดูร้อนของประเทศเปรูนั้น เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมและไปสิ้นสุดในราวเดือนมีนาคม.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 18 ม.ค. 2557 16:11 |

    ที่มา Digital Media and Online Services of News and Entertainment by MCOT Plc. | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ผู้ประท้วงยูเครนปะทะเดือดตำรวจกลางกรุงเคียฟ ปชช.เรือนแสนร่วมแสดงพลังต้านกฏหมายห้ามชุมนุม

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เกิดการปะทะกันรอบใหม่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงเคียฟของยูเครน หลังกลุ่มผู้ประท้วงพยายามจะนำรถบัสที่กั้นขวางเส้นทางมุ่งหน้าไปยังรัฐสภาออก ขณะที่จำนวนผู้ที่ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลบนท้องถนนในกรุงเคียฟในวันอาทิตย์ (19) มีจำนวนสูงถึง 100,000 คน

    รายงานข่าวระบุว่า จุดที่เกิดการปะทะกันหนักที่สุดระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับตำรวจ คือ พื้นที่ซึ่งอยู่ห่างจากจัตุรัสเอกราชในกรุงเคียฟราว 100 เมตร โดยการปะทะกันเริ่มขึ้นหลังจากผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง พยายามช่วยกันนำรถบัสที่กีดขวางคันหนึ่งออกจากเส้นทางมุ่งหน้าไปยังรัฐสภา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ จนเกิดการปะทะกันในที่สุด ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงใช้สิ่งของแทบทุกอย่างที่หาได้เป็นเครื่องมือ “ทำร้ายเจ้าหน้าที่”

    ด้านวิทาลี คลิตช์โก อดีตนักมวยชื่อดังซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในแกนนำฝ่ายค้านออกมาเปิดเผยว่า เขาพยายามห้ามปรามกลุ่มผู้ประท้วงให้ยุติการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่เป็นผล และถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์วุ่นวายที่สุด นับตั้งแต่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลยูเครนปะทุขึ้นเมื่อ 2 เดือนก่อน หลังรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิชล้มแผนทำข้อตกลงปูทางไปสู่การเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และหันไปกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซียแทน

    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพฤหัสบดี (16) สภาผู้แทนราษฎรยูเครนเพิ่งผ่านความเห็นชอบต่อ “กฎหมายห้ามชุมนุมประท้วง” ซึ่งมีระวางโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี หวังใช้กำราบสกัดกั้นประชาชนเรือนแสนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านประธานาธิบดียานูโควิช โดยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลประณามการโหวตกฎหมายฉบับนี้ของรัฐสภายูเครนด้วยคะแนนเสียง 235 จากทั้งหมด 450 เสียง ว่าเป็นการ “รวบอำนาจ”

    ภายใต้กฎหมายใหม่ซึ่งผ่านความเห็นชอบของรัฐสภายูเครน ผู้ที่ชุมนุมปิดอาคารสถานที่สาธารณะมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ส่วน ส.ส.หรือผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากหรือหมวกปิดบังใบหน้า จะถูกปรับเงินหรือถูกจับกุมได้ทันที นอกจากนั้น กฎหมายฉบับนี้ยังห้ามมิให้มีการเผยแพร่ข้อความดูหมิ่นผ่านอินเทอร์เน็ต โดยผู้ฝ่าฝืนจะต้องโทษปรับ หรือถูกบังคับใช้แรงงานสูงสุด 1 ปี

    เมื่อเดือนธันวาคม ชาวยูเครนจำนวนหลายแสนคนได้ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกรุงเคียฟ และเมืองทางตะวันตกของประเทศ หลังประธานาธิบดียานูโควิช ตัดสินใจล้มเลิกการทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการเมืองและการค้ากับอียู

    และถึงแม้จำนวนผู้เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจะลดลงไปบ้าง แต่แกนนำฝ่ายต่อต้านยังคงปักหลักยึดพื้นที่จัตุรัสแห่งเอกราชใจกลางกรุงเคียฟ หรือที่เรียกว่า จัตุรัสไมดาน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2557 01:13 น.

    ที่มา www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000007081

    รัสเซีย-จีน บรรลุข้อตกลงจัดซ้อมรบร่วมในน่านน้ำยุทธศาสตร์ “เมดิเตอร์เรเนียน”

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัสเซียและจีนบรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในวันอาทิตย์ (19) เตรียมจัดการซ้อมรบร่วมในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมแดนหมีขาว

    คำแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า รัสเซียและจีน บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการจัดซ้อมรบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน น่านน้ำยุทธศาสตร์สำคัญของโลกที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรป แอฟริกา และภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการซ้อมรบร่วมดังกล่าวซึ่งยังไม่กำหนดวันเวลาที่แน่ชัด จะมีขึ้นในน่านน้ำฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

    รายงานข่าวระบุว่า รัสเซียจะส่งเรือลาดตระเวน “ปีเตอร์ มหาราช” ติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ พร้อมด้วยลูกเรือที่ไม่เปิดเผยจำนวนเข้าร่วมการซ้อมรบกับจีน ขณะที่รัฐบาลแดนมังกรจะส่งเรือรบเคลื่อนที่เร็ว “หยานเจิ้ง” เข้าร่วม โดยวัตถุประสงค์หลักในการซ้อมรบของรัสเซียและจีนในน่านน้ำเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกครั้งนี้ถูกระบุว่าคือการฝึกซ้อมภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย และปฏิบัติการร่วมอื่นๆ กลางทะเล

    การบรรลุข้อตกลงซ้อมรบร่วมในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างรัสเซียและจีน มีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วทั้ง 2 ประเทศเพิ่งจัดการซ้อมรบร่วมกันนาน 3 วันที่นอกชายฝั่งเมืองท่าวลาดิวอสต็อค ทางภาคตะวันออกไกลของรัสเซียซึ่งถือเป็นการซ้อมรบทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดที่จีนเคยเข้าร่วม โดยในครั้งนั้น จีนส่งเรือรบเข้าร่วมถึง 7 ลำ รวมถึงเรือพิฆาต 4 ลำ

    ทั้งนี้ รัสเซียและสาธารณรัฐประชาชนจีนจัดการซ้อมรบร่วมกันบ่อยครั้งนับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา โดยส่วนใหญ่เป็นการซ้อมรบภายใต้กรอบความร่วมมือขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization : SCO) ที่มีชาติสมาชิก 6 ชาติ คือ รัสเซีย จีน คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2557 03:01 น.

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000007086
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2014
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    น้ำจะกระฉอกไปทั่วทั้งโลก !!!

    [​IMG]

    มนุษย์ต่างดาว....กล่าวถึง....ภัยพิบัติ

    กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เป็นชื่อกลุ่ม ที่มนุษย์ต่างดาวสื่อสารข้อมูลมาให้ใช้ชื่อนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 เป็นต้นมา เรียกว่า.....เป็นวันแรกของการเข้าสู่ระบบทำงาน.....ร่วมกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา เพราะก่อนหน้านั้น อยู่ในขั้นตอนการเรียน การคัดเลือกบุคคล การฝึก ซึ่งมีปฏิบัติธรรม การฝึกจิตเพื่อปล่อยวาง และการฝึกรับข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาว ควบคู่กันไป โดยการฝึกแบบเป็นกลุ่ม....เริ่มต้นที่เขากะลา และการฝึกเดี่ยว....ของบุคคลมากมายที่ระบบวางไว้ กระจายอยู่ทั่วไปตามจุดต่าง ๆ ทั่วโลก

    ชื่อกลุ่มเขากะลา เริ่มมีการใช้มาตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาวบนเขากะลา มาเปลี่ยนใช้ชื่อเป็น กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547 ประเดิมเริ่มแรก ของชื่อกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ปีแรกที่เปลี่ยนชื่อ คือเข้าสู่ระบบการเตือนภัย ก็เกิดสึนามิครั้งใหญ่ขึ้นมาวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ให้เห็น ในเอเซียนี่เอง ทั้งในประเทศไทย และอีกหลายประเทศ มีการสูญเสียกันมากมาย

    ซึ่งระบบ ให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ไปออกรายการ V.I.P. เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2547 ตามที่ได้ติดต่อมา พร้อมกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เรื่องการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา และการมาโลกมนุษย์เพื่อเตือนภัยพิบัติ และให้ความช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติบนโลกใบนี้ ตอนสัมภาษณ์นั้น ใครจะรู้บ้างว่า ภัยพิบัติทางน้ำครั้งใหญ่กำลังใกล้จะมาถึง สัมภาษณ์และบันทึกรายการ 16 ธันวาคม 2547 สึนามิถล่มชายฝั่งอันดามัน 26 ธันาคม 2547 ห่างกันเพียง 10 วัน

    การกล่าวถึงภัยพิบัตในวันนั้น จึงเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า การรู้ล่วงหน้า ...... มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ การที่จะเข้าไปแทรกแซงในแรงกรรม ตามกาลเวลาที่ต้องเกิดขึ้น ณ ที่นั้น ๆ มันทำไม่ได้ มันช่วยกันไม่ได้ ไปขัดขวางไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ที่ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด กลไกของธรรมชาติ ของไกของจักรวาล เป็นกลไกที่ยิ่งใหญ่ ต้องเป็นไปตามกรรม วิบากกรรมนั้น ๆ

    ซึ่งตอนนี้ แรงกรรมทั้งหลาย ได้กระจาย ได้ส่งผลไปทั่วโลกแล้ว ภัยพิบัติได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นมากมาย กรรมทั้งหลาย จึงให้ผล จึงมุ่งไปในประเทศที่สร้างแรงกรรมเหล่านั้น แม้จะช่วยไม่ได้ เพราะมนุษย์โลกส่วนใหญ่ต้องไปตามกรรมเหล่านั้น แต่ยังมีผู้ที่มีบารมี ผู้ที่สร้างกรรมดีไว้อีกมากมาย ที่ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องสูญสลายไปกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ยังมีบารมีมากพอที่จะอยู่ต้องอยู่ เพื่อดำรงรักษาเผ่าพันธ์ของมนุษยชาติไว้ และเริ่มเข้าสู่กลไกของธรรมชาติ ยกระดับจิตเพื่อการคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง

    กฏของธรรมชาติ ก็ต้องดูแล รวมถึงเทพทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ก็ต้องดลใจให้บุคคลนั้น ๆ ระลึกรู้และ ตระหนักถึงเรื่องของภัยพิบัติ แล้วหันหน้าเข้าหาธรรมเป็นที่พึ่ง มาเรียนรู้กฏธรรมชาติ มาปฏิบัติตามบารมีเก่าที่สะสมมา เพื่อจะนำพากันเข้าสู่ยุคใหม่ เข้าสู่ยุคศิวิไล คือยุคทองอีกครั้งหนึ่ง และนับจากนั้นมา ภัยทางธรรมชาติเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรื่อยมา จนหลายคนเริ่มตระหนักว่า ธรรมชาติที่เคยสงบ เคยร่มเย็น จะไม่กลับมาให้เห็นอีกแล้ว มีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น จนถึงปัจจุบัน ภัยทั้งหลายในธาตุทั้ง 4 กลายเป็นภัยพิบัติรายวันไปแล้ว

    มนุษย์ต่างดาว เคยกล่าวถึงเรื่องของภัยพิบัติในภาพรวมของโลกใบนี้ไว้หลายครั้ง เมื่อมีผู้ถาม ว่าต่อไปเหตุการณ์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ในตอนที่ยังไม่เคยมีเหตุการแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม หรือทอนาโด พายุถล่มมากมายอย่างในวันนี้ จะขอนำการกล่าวถึงภัยพิบัติบนโลกใบนี้ ของมนุษย์ต่างดาว ที่ได้เคยกล่าวไว้ ในปี 2541 บนเขากะลา และบอกถึง ที่มาของเหตุภัยพิบัติ ว่าเกิดจากอะไร แรงกรรมมีอานุภาพมากแค่ไหน มนุษย์จึงต้องเผชิญกับมหันตภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นนี้.

    ขอให้ท่านผู้อ่าน ใช้วิจารณญาณในการอ่าน ในการรับรู้ข้อมูล แล้วไตร่ตรองในข้อมูลที่ได้รับมานี้ ควรเชื่อหรือไม่อย่างใด อย่าได้ตื่นตระหนกใด ๆ ควรทำความเข้าใจ ว่าเหตุใด ...ภัยพิบัติจึงต้องเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ แล้วถามตัวเองว่า ถึงเวลาหรือยัง ทีเราจะหันมาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังสักที.
    ..............................................................................

    การให้โอวาท จากผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต บนเขากะลา เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2541

    การให้โอวาทในวันนี้ มีการเปิดมิติให้เห็นกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว เป็นครั้งแรกด้วย ขอนำการตอบคำถาม ในเรื่องราวของภัยพิบัติต่าง ๆ มาให้ได้รับทราบในบางส่วนค่ะ

    (คุณภัทรพล) สงครามโลกเกิดก่อน หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดก่อนครับ

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้น ทางด้านการเกิดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกเจ้าที่มีบารมีก็จะรับรู้ จะสังเกตุได้ เริ่มเตือนจากทางน้ำ ทางดิน ทางลม มีอยู่แล้ว แต่ภัยพิบัติที่เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่ถึงจะกวาดล้างมนุษยชาติไปเกือบ 100 % นั้น จะต้องเกิดหลังสงครามโลกของเจ้า รบราฆ่าฟันกันลงไป ทำให้ภัยพิบัตินั่นคือจุดสูงสุด สุดขีดของแรงกรรม กฎของธรรมชาติจึงจะกวาดล้างอีกครั้งหนึ่ง

    นั่นคือสงครามโลกของเจ้าจะเกิดขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่เป็นลักษณะของการเตรียมการ การรวบรวม การประมวลผล การทดสอบ การหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน....

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) สิ่งที่เจ้าได้เคยพูดมา ที่เจ้าได้เคยศึกษามา แกนโลกเอียง มันไม่ใช่เอียงโดยไม่มีสาเหตุหรอกนะ เนื่องจากแรงกรรมอันสูงสุด ทำให้วงโคจรของโลกของเจ้า ของดวงดาวของเจ้าในระบบสุริยะ มันเกิดการแปรปรวน เหตุเกิดจากกรรม .... กรรมดำ ... ที่สะสมกันมามากกว่า 70 % มันส่งผล ส่งผลระดับโลก ระดับจักรวาล

    สิ่งที่พวกเจ้าคิดไม่ถึง คิดว่าเป็นธรรมชาตินั้น มันไม่ใช่ จุดกำเนิดเกิดจากกรรมดำ มันมีอำนาจมากเพราะสั่งสมกันไปทั้งโลก มันก็เลยส่งผลถึงจักรวาล ทำให้เดือดร้อน ทำให้แกนโลกของเจ้าเอียง

    มันมาจากจุดเล็ก ๆ เหมือนน้ำหยดหนึ่ง หยดกันเข้าไป เป็นเดือนเป็นปี มันก็เต็มโอ่ง เป็นปี เป็นหลายสิบปี มันก็เต็มแท็งก์ แต่กรรมที่พวกเจ้าทำกันไว้นั้น เป็นปี เป็นหลายสิบปี มันก็รวมกัน จากกระแสกรรมของต่างคนเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมกันส่งผลถึงทั้งโลก ส่งผลถึงทั้งจักรวาล มันไม่น่าเกี่ยวกันได้ แต่มันก็เกี่ยวกัน

    ตอนนี้มันกลียุค มันสั่นสะเทือนไปทั้งจักรวาลแล้ว ไม่งั้นข้าพเจ้าคงไม่มาหรอก ข้าพเจ้าอยู่โน่น ไกลกว่าเจ้า เทคโนโลยีของพวกเจ้าไปไม่ถึงข้าพเจ้า แต่กรรมของเจ้ามันไปถึงแล้ว มันเป็นเรื่องเหลือวิสัยของพวกเจ้าที่จะคิดกัน เทคโนโลยี ยานอวกาศของพวกเจ้ากี่หมื่นกี่แสนปีก็ไปไม่ถึงข้าพเจ้า เป็นจุลไปหมดก่อนที่จะไปถึง แต่กรรม กรรมมันไปถึงแล้ว มันกระจายไปทั่วจักรวาลแล้ว มันส่งผลถึงสนามแม่เหล็กบิดแกนโลกเอียง เออ...กรรมดำนี่มันมีอานุภาพนะ

    (คุณภัทรพล) ..... ร้ายแรงกว่าปรมณู

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) .... นั่นแหละ มันร้ายแรง อะไรที่เป็นคนกดจุดปรมณูเจ้ารู้ไหม ? ก็กรรมนั่นแหละ กรรมดำนั่นแหละมันไปกด กด กด และปรมณูมันก็ระเบิด สิ่งที่เป็นเหตุ มันอยู่ที่กรรมดำ เพราะฉะนั้น ไอ้คนที่กดนั่นแหละมันก็มีกรรมดำเป็นเหตุอยู่ มันถึงสามารถกดได้ แต่สิ่งนี้ ทวยเทพที่เขามาแก้นี้ จะมาแก้กรรมดำ เรามาช่วยกัน....แก้กรรมดำ ...แต่มันไม่สามารถหยุดยั้งกรรมดำทั้งมากได้หรอกนะ

    (คุณภัทรพล) ที่ว่าภัยจากน้ำนี้ ไม่ทราบว่าอันดับต่อไป น้ำนี้จะทำยังไงบ้างครับ เพราะภัยจากน้ำ มีหลายแบบเหลือเกิน น้ำท่วม คลื่นสึนามิ ลานีย่า

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) ไอ้เศษ ๆ ที่มันเกิดขึ้นเป็นการเตือนนั้น มันไม่ได้ 10 ส่วน ใน 100 ส่วนหรอกนะ มันไม่ถึง ไอ้คลื่นที่ชาวต่างชาติของเจ้าได้รับการประสบนั้น มันเป็นการทำตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของธรรมชาติ ที่ถึงกำหนดแรงกรรมของเขา แต่ผู้มีบารมี ได้รับรู้ รับเห็น จากการสื่อสารของเจ้า ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจ เป็นตัวอย่างให้เห็น เพราะสิ่งที่พวกเจ้าจะไม่เคยพบเคยเห็นนั้น จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าความเจริญทางด้านเทคโนโลยีสูงสุดจากต่างจักรวาล และภัยพิบัติสูงสุดจากโลกของเจ้า

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) ข้าพเจ้าได้บอกไปในกาลก่อนแล้วว่า ภัยธรรมชาตินั้น มันจะมีขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ทุกวินาที มันเกิดขึ้นอยู่ เมื่อโลกของเจ้านะ กลม ๆ อย่างนี้นะ จุดตรงกลางเจ้ารู้มั๊ย...จุดกลางมันเป็นความร้อน ความร้อนอย่างมาก เมื่อได้เวลาของกรรมดำของเจ้า มันจะปะทุจากข้างในออกมา จนถึงผิวเปลือกของเจ้า ข้างนอกของเจ้าเป็นน้ำ เป็นดิน เป็นธาตุเย็น แต่ข้างในล่ะ มันเป็นธาตุร้อน

    เพราะฉะนั้น ธาตุร้อนที่อยู่ในพื้นพิภพนั้น พอได้เวลาที่กรรมดำของพวกเจ้ามันรวมกันไปในส่วนมาก มันก็จะดึงดูดเอาธาตุร้อนนั้นมาปะทุ ในจุดที่มันเป็นกรรมหนัก อย่างที่พวกเจ้าพบกันว่า เป็นภูเขาไฟใต้น้ำนั่นแหละ มันคือการปะทุของแรงกรรม เพราะฉะนั้น ทั่วโลก ทั่วสากลจักรวาลของเจ้า มันสามารถปะทุได้ทุกที่ ทั้งประเทศที่ไม่มีภูเขาไฟ หรือประเทศที่มีภูเขาไฟ ทั้งในใต้น้ำ ทั้งในใต้พื้นดิน มันจะมีรอยแตก รอยปะทุนั้นเป็นไปได้ทั้งหมด

    (คุณภัทรพล) ....ที่ว่าน้ำจะกระฉอกทั้งโลก

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) .... น้ำที่มันจะกระฉอกไปทั่วทั้งโลกนั้น โดยทั่วถึงกัน พร้อมกัน ในเวลาใกล้เคียงกันนั้น มันต้องมาจากแรงกรรมของพวกเจ้า ที่ดึงดูดวัตถุที่มาจากนอกโลก วัตถุนั้นมันมาตามกรรมดำของพวกเจ้านั่นแหละ

    (คุณสมจิตร) ที่ว่าดาวหางหรือคะ

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) ...มันไม่ใช่ดาวหางหรอกนะ มันเป็นสะเก็ดดาว เป็นอุกกาบาต มันมาตามแรงกรรม มันก็เป็นธรรมชาติอันหนึ่ง เหมือนต้นไม้ เหมือนก้อนหินในโลกของเจ้าน่ะแหละ แต่มันลอยอยู่นอกโลก รอเวลา ไอ้โลกอันไหนมันถึงเวลาข้าก็จะไป โลกอันนี้ถึงเวลาข้าก็มา..ตูม..ตูม

    เพราะฉะนั้น เจ้าได้ถามถึงเรื่องของน้ำ ธาตุน้ำจะกระฉอกกันทั่วทั้งโลกนั้น ถ้าทั่วทั้งโลกในเวลาใกล้เคียงกันนั้น ข้าพเจ้าก็จะบอกสาเหตุ ว่ามาจากวัตถุที่มาจากนอกโลก นั่นคือธรรมชาติอันหนึ่ง เขามาตามแรงกรรมของเขา ไม่มีใครกลั่นแกล้งเจ้า แต่พวกเจ้าสั่งสมแรงกรรมกันเป็นส่วนมากถึง 70 % หรือมากกว่านั้น เขาจึงดึงดูดแรงกรรม

    แต่นั่นจะมาในระยะท้ายของภัยพิบัติ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เขามานั้น มันจะกวาดล้าง กวาดล้างกันไปเกือบทุกชีวิต ยกเว้นในบางชีวิตที่มีการเตรียมการอยู่ในที่ที่ปลอดภัย โดยเทพที่มีญาณหยั่งรู้ มีการเตรีมการไว้ก่อน แต่ชีวิตที่เหลือโดยบังเอิญนั้น ก็จะเป็นบ้าเป็นบอกันไป เพราะทนไม่ได้ในการที่ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนร่วมประเทศ เพื่อนร่วมจังหวัด เพื่อนร่วมตำบล เพื่อนร่วมหมู่บ้านต้องตายไปต่อหน้าต่อตา สติก็จะวิปลาศ.

    (คุณภัทรพล) ท่านครับ กลียุคจบแล้ว เขาว่าก็ต่อด้วย.."ยุคทอง" ยุคทองของโลกเรายังมีไหมครับ?

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) .... ยุคทอง เป็นคำเปรียบเปรย ไม่ใช่ยุคที่มีทองหรอกนะ เป็นยุคที่มีความศิวิไลในด้านจิตใจ นั่นยิ่งกว่าทองในประเทศของเจ้าเสียอีก เพราะฉะนั้น ในเมื่อเกิดกลียุค คนชั่ว 70 % ถูกกวาดล้างลงไป คนดีที่ยังเหลือรอดอยู่ เจ้าก็คำนวนเปอร์เซ็นต์ดูสิ พอคนชั่วตายไป คนดีตอนแรกมี 30 % พอตอนหลังก็จะกลายเป็น 80 - 90 % เพราะว่าคนชั่วมันตายลงไป เข้าใจไหม?

    ในเมื่อเหลือแต่คนดี ธรรมชาติ ก็เป็น "กฏธรรมชาติ" เมื่อเหลือแต่คนดีในส่วนมาก เหลือแต่ผู้มีบารมีในส่วนมาก ก็จะมี "ปาฏิหาริย์ทางธรรมชาติ" ในสมัยก่อนธรรมชาติมันไม่ร้อนอย่างนี้ แดดของเจ้ามันไม่ร้อนอย่างนี้ ต้นไม้ของเจ้ามันไม่แห้งแล้งอย่างนี้ แต่เพราะบุญบารมีของพวกเจ้าม้นน้อยลง ธรรมชาติมันก็เลยแปรปรวน ดินก็แห้งแล้ง น้ำก็มาในวาระที่ไม่ควรจะมา ในที่ที่จะเพาะปลูกก็ไม่มา มาในที่ที่ไม่ต้องการ เพราะอะไร? ก็เพราะแรงกรรมของพวกเจ้า

    เพราะฉะนั้น "ยุคทอง" มันไม่ต้องรอเวลานานหรอกนะ หลังจากภัยพิบัติของพวกเจ้า ได้เกิดการกลียุคขึ้น มีภัยพิบัติกวาดล้างคนเลวลงไปจนเกือบหมดแล้ว และผู้ที่ยังรับเศษกรรมจากความชั่วของตัวเอง ได้มีการได้รับกรรมไปในระยะหนึ่งแล้ว ยุคทองนั้น ก็จะมีปาฏิหาริย์อื่น ๆ ผุดขึ้นมา ทรัพย์สินเงินทองจะผุดขึ้นมาจากดิน เจ้าก็คงนึกภาพกันไม่ออก ทองจะผุด แร่ธาตุทองจะผุดขึ้นมาจากดิน ต้นไม้ใบหญ้าแปลก ๆ จะขึ้นมาให้พวกเจ้าได้รับรู้ เจ้าเคยได้ยินไหมล่ะ?

    เจ้าก็ศึกษามามาก ในสมัยก่อน ต้นไม้เกิดขึ้นวันเดียวให้พวกเจ้าได้กินผลกันได้ อะไรนะ ข้าวอะไรของพวกเจ้าน่ะ มันมีจริง ๆ นะ แต่ในสมัยนั้น ผู้มีบารมี....มีอยู่เยอะ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องมาปลูกข้าว ทำนา ใช้แรงควาย ใช้แรงวัวอย่างพวกเจ้านี้หรอก จะทำมาหากินยังต้องไปรังแกสัตว์ มันก็กรรมของพวกเจ้าที่ต้องเกิดมาในยุคนี้ จะประกอบอาชีพสุจริตยังต้องมีการทำกรรมเข้าไปในส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้น ในยุคของเจ้าเป็นกลียุค มันหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ในสมัยก่อน ไม่ต้องไปทำกรรมหรอก อยู่ดี ๆ ต้นไม้ก็ขึ้นมา เจ้าก็กินได้ เหมือนในสมัยนี้ ต้นไม้ที่มีผลกินได้เลยก็มีไม่ใช่รึ? ผลไม้ของเจ้า เจ้าไม่ต้องไปหุงหา เจ้าก็กัดกินได้เลย ข้าวในสมัยก่อนก็เหมือนกัน เขาไม่ต้องไปหุงหา เขาก็สามารถกินได้เลยเหมือนกัน มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นนิยาย หรือเขาแต่งมาหลอกพวกเจ้าหรอกนะ มันเป็นเรื่องจริง.

    (คุณภัทรพล) เชื่อแล้วครับว่า ปัญญาของดาวพลูโตนี้ไม่ธรรมดา เหนือกว่าโลกมนุษย์มาก... ผมจะได้แก้ไขในอินเตอร์เน็ตภาษาไทยว่า... วิธีแก้..ก็คือปฏิบัติธรรม

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) ... ข้าพเจ้าจะขอให้ความกระจ่างในแง่ธรรมะกับเจ้านะ.... ที่เจ้าบอกนั้นว่า "ปฏิบัติธรรม" นั้น ในฐานะที่เจ้าเป็นประชาสัมพันธ์ เจ้าควรจะได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องของจุดมุ่งหมาย นอกจากผู้ที่มีบารมีจะต้องรู้ถึงการปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ใช่แค่สวดมนต์นะ ปฏิบัติธรรมนั้น เจ้าก็จะต้องรู้เหตุ เจ้าไปบอกกับพวกเขานะ ถ้าเจ้ามีโอกาส บอกกับผู้ที่มีความรู้ ไม่ว่าระดับไหนก็ตาม ต้องรู้เหตุ...รู้เหตุของภัยพิบัติ..ว่าเกิดจากอะไร ?

    เขาจะปฏิบัติธรรมได้ เขาต้องรู้เหตุภัยพิบัติครั้งนี้ เมื่อเข้าใจแล้ว และรู้ว่าเหตุนั้นเกิดจาก "กรรมดำ" ที่ทำกันเป็นส่วนมาก และผู้ที่มีบารมีที่จะรอดพ้นภัยนั้น นั่นก็คือเหตุที่ดี ทำไมต้องมีการช่วยเหลือจากผู้ที่มาจากต่างจักรวาล หรือจากเทวโลก ก็เพราะว่าผู้ที่มีบารมี ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้ก่อกรรมดำขึ้นนั้น และเป็นผู้ที่มีบารมีเก่าอยู่ สมควรได้รับการช่วยเหลือนั้น นั่นก็คือ...เป็นผล...จากการที่เขาได้ทำเหตุที่ดีอยู่แล้ว

    เพราะฉะนั้น ภาษิตของเจ้าว่าไงนะ....คนดีตกน้ำไม่ใหล ตกไฟไม่ไหม้..ใช่ไหม? เจ้ากำลังจะตกไฟกันนะ เจ้ากำลังจะตกน้ำ กำลังจะตกไฟกันอยู่ .... ไฟจากฟากฟ้า มันตกลงมาได้ทุกที่นะ อุกกาบาตที่มันหล่นลงมานั้น และที่มันชนกันนอกจักรวาลนั้น จะทำให้เป็นสะเก็ดไฟ เพราะฉะนั้น ภาษิตนี้นะ เจ้าเอาไปบอกเขาได้ คนดีตกน้ำไม่ใหล ตกไฟไม่ไหม้ .... เจ้าจะได้ประสบกันในอนาคตอันใกล้นี้

    เพราะอะไร เพราะเจ้าอยู่ในที่นั้น ถ้าเจ้าไม่ได้รับการเตือน ถึงเจ้าจะมีบารมีแต่อยู่ในกรุงเทพฯ เจ้าเหลือไหม ? เจ้าเหาะได้ไหม? เจ้าเหาะไม่ได้ เจ้าก็ต้องจมน้ำไป แต่ตกน้ำไม่ใหลเพราะอะไร เพราะเจ้าอยู่ในที่ที่เจ้าจะต้องตกน้ำอยู่แล้ว แต่มันไม่ใหลไปเพราะเทพเขาดึงตัวเจ้าขึ้นมาบนเขานี้

    ตกไฟไม่ไหม้เพราะอะไร ถ้าเจ้าอยู่ในสถานที่ที่จะต้องมีลูกไฟจากฟากฟ้า หรือมีอัคคีภัยเกิดขึ้นแล้ว เจ้าตกอยู่ในสถานที่นั้นก็ต้องไหม้นะ แต่ตกน้ำไม่ใหล ตกไฟไม่ไหม้เพราะอะไร เพราะเทพเขาดลใจให้ผู้ที่มีบารมี ให้มาอยู่ในสถานที่ที่มันปลอดภัย เพราะฉะนั้น คำภาษิตนี้เป็นคำโบร่ำ โบราณ แต่มันใช้ได้จริงนะ แต่อย่าไปเถรตรงนะว่า หล่นลงไปในน้ำแล้วมันไม่ใหล หล่นลงมันก็ต้องใหลไป แต่การตกน้ำไม่ใหล ตกไฟไม่ไหม้ ข้าพเจ้าขออธิบายอย่างนี้

    เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมให้เป็นคนดี ที่จะตกน้ำไม่ใหล ตกไฟไม่ไหม้นั้น เจ้าก็ต้องไปบอกเขา ให้ปฏิบัติธรรมรู้หลัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา..... นั่นก็คือ "แก่นแท้.....ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนมากที่สุด" ไม่มีธรรมะไหน สั่งสอนมากที่สุดเท่าธรรมะนี้

    เพราะฉะนั้น อนิจจัง...คืออะไร? อนิจจังคือความไม่เที่ยง ให้เขารู้เหตุของความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นโลกมนุษย์ บ้านเรือนของเจ้า หรือแม้แต่สวรรค์วิมาน มันก็ไม่เที่ยง ทุกขัง...คือมันเป็นทุกข์ ความเป็นทุกข์ในหลักของพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ คือความทนอยู่ไม่ได้ มันไม่เป็นอย่างนี้ ความไม่เที่ยง มันก็คือความเป็นทุกข์ในตัวอยู่แล้ว ร่างกายของเจ้าที่มันเป็นทุกข์ เพราะต่อไปมันก็ต้องแก่ ต้องตาย นั่นแหละ คือมันเป็นทุกข์

    เพราะฉะนั้น เจ้าอย่าว่าแต่ร่างของเจ้าเลยนะ .... ไอ้โลกใบนี้ ที่มันเป็นที่รองรับทุกสิ่งทุกอย่างนั้น มันก็เป็นทุกข์นะ ตอนนี้มันกำลังจะบิดตัวอยู่แล้ว เพราะมันเป็นทุกข์ มันต้องเปลี่ยนแปลง แล้วคำว่า ..อนัตตา...คือไม่มีตัวตน คือมันไม่ใช่ของแท้แน่นอน เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็น " ธรรมะ " .. ให้เจ้าบอกเลย ...ว่าที่ข้าจะมาช่วยเหลือผู้คนนี้ คนที่มีธรรมะ ไปรู้หลักนี้ ไปเรียนรู้เหตุ ไปเรียนรู้หลัก เพราะพอเขาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิเพื่อพิจารณา ไม่ใช่นั่งสมาธิเฉย ๆ มันช่วยอะไรไม่ได้ นั่งสมาธิแล้วต้องพิจารณาถึงหลักนี้ด้วย

    แล้วผู้มีบารมีที่ปฏิบัติธรรมนั้น เทพทั้งหลายก็จะลงรักษา แล้วจะดลบันดาลให้ได้รับรู้ข่าวสาร ถึงการช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติในศาสตร์ต่าง ๆ ที่มีในหลายสถานที่ แล้วเขาก็จะได้รับการช่วยเหลือมากันในสถานที่ปลอดภัยเอง เจ้าต้องบอกเขาถึง "แก่นแท้" นะ ถ้าบอกปฏิบัติธรรม ปฏิบัติธรรม บางคนก็บอกว่า ข้าก็เข้าวัด เข้าวัดอยู่ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย มันก็ต้องมีหลาย ๆ อย่างนะ ปฏิบัติธรรมนั้น ก็คือต้องรู้หลักที่เป็นหัวใจของพุทธศาสนา ... เออ..มี 3 คำเท่านั้น..

    (คุณภัทรพล)..ท่านครับ ทุกอย่างวันนี้เคลียร์ ผมจะเป็นคนดีที่สุด จนถึงสิ้นสุดลมสุดท้าย.

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) เออ..เจ้าจะถามอะไรอีกเป็นวาระสุดท้าย แต่ข้าพเจ้าก็จะขอบอกว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดเวลา แม้แต่ยานอวกาศของข้าพเจ้า ที่ให้ร่างองค์อินทร์เห็นน่ะ มันก็ตื่นเต้นนะ เพราะมันมีความชื่นชอบในเทคโนโลยี่ อยากจะส่องกล้องไป อยากจะส่องกล้องมา

    (คุณภัทรพล)..ตรงเขามียอดแหลม ๆ สีตะกั่วนั้น ท่านทราบไหมครับว่า...นั่นคืออะไร ?

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) ... เออ เจ้าพิจารณากันต่อไปละกัน มันต้องใช้ความอดทนในการสังเกตุ การดู ทำไมต้องทำอย่างนี้ เพราะต่อไปเจ้าต้องใช้ปัญญาในการสั่งสอนคน ในการรู้เหลี่ยมคนอีกเยอะ ถ้าสงสัยก็มาดูไป มันจะหายไปไหม หรือจะมาใหม่ หรือจะมาเพิ่ม...

    (คุณภัทรพล)..ขนาดจานบินยังไปบ้านผมเลย ไปเฉพาะเวลาที่ผมเดินออกมา แปลกมาก

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) มันไม่แปลกหรอกนะ ไปเพื่ออะไร ? สักวันหนึ่ง เจ้าก็จะต้องมีความฉุกคิด....สิ่งที่เงินซื้อไม่ได้จึงมาหาเรา ..... เจ้าไปคิดเอา

    (คุณภัทรพล)..ความรู้ที่ท่านให้ มากกว่าทองที่ได้รับ ทรัพย์สินที่ข้าพเจ้ามี

    (ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) ขอสรุปแค่นี้ รับบารมีจากข้าพเจ้านะ..

    ..............................................................................

    จบการให้โอวาทจาก "ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต" วันที่ 5 กันยายน 2541 เวลา 17.30 นาฬิกา ณ เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์. เขียนโดย UFO KAOKALA ที่ 03:47

    ที่มา UFOKAOKALA: มนุษย์ต่างดาวกับการเตือนภัยบนโลกใบนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    แผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ที่นิวซีแลนด์

    [​IMG]

    เวลลิงตัน 20 มค. – ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.3 ริกเตอร์เขย่านิวซีแลนด์ในวันนี้ สะเทือนอาคารหลายแห่ง ข้าวของตกลงมา แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายมากนัก

    รายงานของศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐระบุว่า แผ่นดินไหว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.52 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 09.52 น.ที่ผ่านมาในไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่ทางเกาะเหนือห่างไปราว 115 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเวลลิงตัน และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 27 กิโลเมตร รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ทั่วเกาะเหนือและเกาะใต้ ทั้งยังมีอาฟเตอร์ช็อกย่อยตามมาอีก

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ม.ค. 2557 11:06 |

    อากาศที่เย็นลงช่วยให้ควบคุมไฟป่าออสเตรเลียได้ดีขึ้น

    [​IMG]

    ซิดนีย์ 20 ม.ค.- สำนักข่าวเอเอพีในออสเตรเลียรายงานว่า อากาศที่เย็นลงและกระแสลมที่เบาลงช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมไฟป่า 2 จุดในย่านเกรตเตอร์ฮูม ทางใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่ถือว่าโหมไหม้รุนแรงที่สุดในขณะนี้

    เอเอพีรายงานว่า ยังคงมีไฟป่าลุกไหม้เกือบ 100 จุดทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ ในจำนวนนี้ 26 จุด เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ส่วน 2 จุดในย่านเกรตเตอร์ฮูมที่ถือว่ารุนแรงที่สุดเจ้าหน้าที่ยังคงประกาศให้ชาวบ้านเฝ้าระวังและพร้อมเตรียมตัว สื่อออสเตรเลียหลายแห่งรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,000 นายระดมกำลังควบคุมไฟป่าทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ในวันนี้ หลังจากไฟป่าเริ่มเกิดขึ้นในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัดเมื่อสัปดาห์ก่อน.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ม.ค. 2557 09:00 |

    น้ำท่วมเฟรนช์ริเวียรา ตาย 2 อพยพกว่าร้อยคน

    [​IMG]

    เอแยร์ 20 ม.ค.- น้ำท่วมเฟรนช์ริเวียรา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน สูญหาย 1 คน และอีกกว่า 150 คน ถูกอพยพทางอากาศไปยังพื้นที่ปลอดภัย

    เจ้าหน้าที่เผยว่า บ้านเรือน 4,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้หลังจากน้ำท่วมจังหวัดวาร์ ชายชราวัย 73 ปี ถูกน้ำท่วมเสียชีวิตในห้องใต้ดิน และชายอีกคนถูกกระแสน้ำซัดเสียชีวิตขณะอยู่ในรถ สถานการณ์น่ากังวลอย่างยิ่งและคาดว่าจะยังไม่ดีขึ้นเพราะฝนตกมากเป็นประวัติการณ์ ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ทางการจะส่งเฮลิคอปเตอร์ 8 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 500 นายและตำรวจ 200 นายไปยังพื้นที่ประสบภัย หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้อพยพประชาชนกว่า 150 คนออกจากพื้นที่ประสบภัยหนักที่สุด

    นายกรัฐมนตรีฌอง มาร์ก เอโรลต์จะเดินทางไปเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยในเช้าวันนี้ จังหวัดวาร์ตั้งอยู่บนชายฝั่งริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เรียกว่าเฟรนช์ริเวียรา เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเพราะปกติแล้วสภาพอากาศดีและมีแดด.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ม.ค. 2557 08:40 |

    สหรัฐขอให้ชาวอเมริกันเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมในไทย

    [​IMG]

    วอชิงตัน 20 ม.ค.- สหรัฐขอให้พลเมืองชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วงในไทย หลังจากเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในระหว่างการชุมนุม

    กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงเตือนการเดินทางซึ่งมีผลไปจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ว่า ขอให้ชาวอเมริกันพึงระมัดระวังว่าการชุมนุมที่ตั้งใจให้เป็นการชุมนุมอย่างสันติอาจกลายเป็นการเผชิญหน้าและความรุนแรงได้ จึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการชุมนุม ตื่นตัวต่อสิ่งรอบตัวและหมั่นติดตามข่าวสารจากสื่อไทย

    แถลงการณ์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ยังไม่แน่นอน คาดว่าการชุมนุมที่กำลังดำเนินอยู่ในกรุงเทพฯ ชั้นในเป็นหลัก และพื้นที่อื่น ๆ ประปรายในไทยจะดำเนินต่อไป สถานที่ประท้วงบางแห่งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวและห้างสรรพสินค้ายอดนิยม ซึ่งบางครั้งอาจปิดหรือลดเวลาให้บริการอย่างกะทันหัน นอกจากนี้ ยังอาจมีการประท้วงในจุดอื่น ๆ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ม.ค. 2557 09:52 |

    ที่มา Digital Media and Online Services of News and Entertainment by MCOT Plc. | MCOT.net
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    น้ำท่วมในนครหลวงอินโดนีเซียคร่าชีวิตประชาชน 8 ราย

    [​IMG]

    จาการ์ตา 20 ม.ค.-สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียว่า น้ำท่วมเป็นวงกว้างในกรุงจาการ์ตา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และทำให้ประชาชนกว่า 60,000 คน ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ขณะที่ฝนยังคงตกหนักในนครหลวงของอินโดนีเซีย

    หัวหน้าหน่วยการจัดการของสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติกรุงจาการ์ตารายงานว่า ฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนอีกจำนวนมากต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอาคารสำนักงาน โรงเรียน เต็นท์ และมัสยิด จนถึงขณะนี้จำนวนผู้อพยพอยู่ที่ 63,958 คน โดยพวกเขาอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 297 จุด

    เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ระดับน้ำลดลงเล็กน้อยในวันนี้ แต่ยังคงมีฝนตกหนักเป็นระยะๆ และทางการได้ประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง เนื่องจากสำนักอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องในกรุงจาการ์ตาในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากมีผู้เสียชีวิต 8 ราย จากการจมน้ำและถูกไฟฟ้าดูดนับจนถึงขณะนี้

    รายงานระบุว่า น้ำท่วมกรุงจาการ์ตาตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่าระดับน้ำยังไม่เพิ่มสูงขึ้นเท่าระดับน้ำในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับน้ำที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี และทำให้การดำเนินการของทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอัมพาต นอกจากนี้พื้นที่อื่นๆ ของอินโดนีเซียยังประสบภัยน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มเช่นกัน รวมถึงจังหวัดเปกาลองกันบนเกาะชวาลาง จังหวัดสุมาตราใต้ จังหวัดสุลาเวสีใต้ และจังหวัดจัมบี ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ม.ค. 2557 17:48 |

    เซี่ยงไฮ้พบผู้เสียชีวิตเพราะเอช 7 เอ็น 9 สองคน

    [​IMG]

    เซี่ยงไฮ้ 20 ม.ค.-นครเซี่ยงไฮ้ของจีนแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิต 2 คน จากเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 หนึ่งในนั้นเป็นศัลยแพทย์ และถือเป็นผู้เสียชีวิต 2 รายแรกในปีนี้ของเซี่ยงไฮ้

    คณะกรรมาธิการสาธารณสุขและวางแผนครอบครัวนครเซี่ยงไฮ้เผยว่า ศัลยแพทย์ที่เสียชีวิตอายุ 31 ปี ทำงานที่โรงพยาบาลประชาชนเขตใหม่ผู่ตง ขณะที่หนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้เดลี่รายงานว่า ศัลยแพทย์นายนี้ทำงานในห้องฉุกเฉิน และยังคงไปทำงานทั้งที่เป็นไข้มาร่วมสัปดาห์ เขามีภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตอีกคน คณะกรรมาธิการฯ เผยว่า เป็นเกษตรกรชายวัย 77 ปี และปีนี้พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 รวมแล้ว 7 คน

    จีนพบเชื้อไวรัสชนิดนี้ระบาดในคนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน จุดกระแสวิตกว่าอาจกลายพันธุ์สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้โดยง่าย ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงอย่างมากหลังผ่านพ้นเดือนมิถุนายน แต่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ปีที่แล้วทั้งปีจีนพบผู้ติดเชื้อ 144 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 46 ราย ส่วนปีนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ม.ค. 2557 16:26 |

    จีนจำคุกตลอดชีวิตคนงานฉีดยาฆ่าแมลงในเกี๊ยวแช่แข็งส่งไปญี่ปุ่น

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 20 ม.ค.-ศาลจีนตัดสินจำคุกตลอดชีวิตอดีตคนงานโรงงานอาหารที่ฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไปในเกี๊ยวแช่แข็งส่งออกไปญี่ปุ่น ทำให้ผู้บริโภคในญี่ปุ่นล้มป่วย 10 คน เมื่อปี 2551 ต้องเรียกคืนสินค้าหลายล้านถุง และความสัมพันธ์ของสองประเทศตึงเครียด

    สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ศาลเมืองสือเจียจ้วง เมืองเอกของมณฑลเหอเป่ย์ ทางตอนเหนือของประเทศ ตัดสินจำคุกตลอดชีวิตนายหลู เยวี่ยถิง วัย 39 ปี เขาไม่พอใจเรื่องเงินเดือนจึงก่อเหตุในปลายปี 2550 ด้วยการฉีดเมทามิโดฟอส ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงชนิดหนึ่ง เข้าไปในเกี๊ยวแช่แข็งที่ส่งไปจำหน่ายในเมืองเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ทำให้มีผู้ล้มป่วย 4 คน และยังส่งออกไปญี่ปุ่น ทำให้มีผู้ล้มป่วย 10 คน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 2 ปี จึงสามารถจับกุมตัวเขาได้ในปี 2553.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 20 ม.ค. 2557 13:43 |

    ที่มา http://www.mcot.net/
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ภาระกิจยับยั้งพิบัติที่จะเกิดกับประเทศไทยให้ลดลงเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ !!!

    [​IMG]

    เรื่องด่วนมาก เกี่ยวกับภัยพิบัติ "ที่นอกเหนือธรรมชาติ" จากอัญญสิทธิ์ เวปพลังจิต

    ระหว่าง วันที่ ๙ – ๑๔ ต.ค. ๕๔ ข้าพเจ้า, อ.ศ้กดาและคณะเดินทางไปนครต้าลี่(อาณาจักรน่านเจ้าของไทยในอดีต) ประเทศจีน เพื่อหาทางหยุดยั้งภัยพิบัติ อุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย เราเดินทางไปนครต้าลี่ด้วยความทุกข์อย่างใหญ่หลวง ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวไทยและบ้านเมืองของเรา กี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น กี่ล้านชีวิตที่ต้องสูญสิ้นเพราะอุทกภัยที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์กลุ่ม หนึ่งที่ต้องการจะครองโลก

    ก่อนเดินทางไปมณฑลยูนนาน นครต้าลี่ ประเทศจีน เรากำลังพูดคุยกันว่า เราอยากไปช่วยผู้ที่กำลังประสบกับภัยพิบัติ เราจะเริ่มจากจังหวัดไหนก่อน ที่ไหนที่ขาดแคลนมากที่สุดที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ที่ผ่านมา อ.ศักดาและข้าพเจ้า พยายามแจ้งข่าวเตือนภัยแก่ญาติธรรมและพี่น้องชาวไทยมาโดยตลอด ทั้งภาพแผนที่ประเทศไทยที่แสดงพื้นที่ส่วนที่จมและส่วนที่เหลือรอดจาก อุทกภัยและการตระเตรียมทั้งสถานที่อยู่ที่จะปลอดภัย และสิ่งที่ควรตระเตรียมไว้เมื่อเกิดภัยพิบัติทั้งอาหาร, ยารักษาโรค, ไฟฉาย, เตาแก๊ส, เตาถ่าน, น้ำมันเชื้อเพลง เป็นต้น

    แต่บ้านเมืองเราทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปรกติ ทำให้ท่านคิดว่ามันไม่มีอะไรและดำรงชีวิตอยู่ในความประมาท ไม่มีการสำรองทั้งที่พัก(บ้านหลังที่ ๒ ทางภาคเหนือหรืออีสาน)และอาหาร แต่ก็มีญาติธรรมจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่เชื่อ ได้ขายบ้านที่อยู่ในภาคกลาง, ภาคใต้และภาคตะวันออก มาซื้อที่ดินและปลูกบ้านทางภาคเหนือ เพื่อเตรียมรับกับภัยพิบัติและภัยจากสงครามโลก เพราะพวกเรารู้ดีว่าหลังจากภัยพิบัติ น้ำไป ไฟจะมา สงครามจะเกิด ทั้งสงครามกลางเมืองและสงครามโลก ข้าวปลาอาหารจะขาดแคลน ที่มีก็จะราคาแพงมาก แย่งกันอยู่ แย่งกันกิน ไม่ว่าจนหรือรวย ถึงเวลามีเงิน ก็หาซื้ออาหารไม่ได้ ไม่มีใครต้องการเงินมากกว่าอาหาร

    เบื้องบน บอกว่า...การเข้าไปช่วยเหลือชาวสยามที่กำลังประสบภัยนั้น มีผู้ที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว แค่เธอทั้ง ๒ ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุ ท่านบอกว่า...

    “โพธิสัตว์น้อย จงฟังเรา! ทุกข์ของแผ่นดินน่าเวทนานัก หากเป็นกรรมเราจะนิ่งเฉย แต่นี่เกินจากกรรมอันกำหนดแล้ว จำเป็นต้องลงมาช่วยแก้ไข ถ้าหากเป็นกรรมที่ชาวสยามทำกับพระโพธิสัตว์(คิดร้าย มุ่งร้ายต่อพระเจ้าอยู่หัวฯ) เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม แต่นี่เกินจากกรรมนั้นแล้ว มีทางเดียวที่ยุติอุทกภัยครั้งนี้ได้ คณะของโพธิสัตว์น้อยต้องเดินทางไปยังทะเลสาบเอ๋อไห่ ไปกราบพระแม่กวนอิม ขอมังกรดำให้มาจัดการพญาอินทรีย์ไม่เช่นนั้นหยุดไม่อยู่ แผ่นดินสุวรรณภูมิ(ไทย-ลาว-พม่า-จีน-เวียดนาม-มาเลเซียและสิงค์โปร์) จะกลายเป็นทะเล ชีวิตนับล้านจะสูญสิ้น ให้ทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จจงได้ ถึงลำบากก็ต้องทำ ๕ ชีวิตเดินทางไปยังทะเลสาบเอ๋อไห่ให้เร็วที่สุดไม่เช่นนั้นจะหยุดภัยครั้งนี้ ไม่ได้เลย

    พรุ่งนี้อัญเชิญ “พระสยามเทวาธิราช” ไปไว้ที่ริมโขง เขื่อนจีนจะแตกในไม่ช้า มีแต่พระสยามเทวาธิราชเท่านั้นที่จะหยุดภัยพิบัติได้ และไปให้ถึงชายแดนไทย ไปให้ถึงเอ๋อไห่ให้เร็วที่สุด เร่งทำภารกิจให้เร็วที่สุด อัญเชิญพญามังกรดำมาปราบพญาอินทรีย์ให้จงได้ เขาเท่านั้นจะหยุดพญาอินทรีย์อยู่ ซาตาน, พญามาร, อสูรเป็นผู้กระทำ ห้ามก้าวล่วงวิบากกรรมของมนุษย์ เราจะหยุดยั้งกรรมนั้นไม่ให้เกินกฎสวรรค์ เราจำเป็นต้องหยุด หยุดยั้งให้ได้!” “อัญเชิญ พญามังกรดำแล้ว เอาน้ำจากทะเลสาบเอ๋อไห่กลับมาผสมกับน้ำมนต์ของเรา แล้วเทลงไปยังแม่น้ำสำคัญ ปิง, วัง, ยม, น่านและแม่น้ำโขง แต่เหตุที่เกินขึ้นจะยังไม่จบลงง่ายๆ ใช้เวลาอีกหลายเดือน ภารกิจครั้งนี้! จะช่วยบรรเทาความเสียหายของประเทศเหลือเพียง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ไม่เช่นนั้นจะเสียหายถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ของประเทศ กรุงเทพฯ จะเสียหาย ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ทำ ไม่แก้กรุงเทพฯ จะเสียหาย ๗๐ เปอร์เซ็นต์

    พระแม่กวนอิมจะนำทหารกองทัพธรรมของท่าน ๑.๕ ล้านคนมาด้วย จะลงมาแฝงในร่างของทหารไทยและประชาชนไทยในการทำกำแพงกั้นน้ำ ช่วยกันบรรจุสิ่งของไปแจกคนที่ถูกน้ำท่วมและแฝงในร่างของเศรษฐี คนมีเงินให้ช่วยบริจาคทรัพย์ ช่วยคนถูกน้ำท่วม ในที่สุด ธรรมะจะต้องชนะอธรรม”

    พี่น้องชาวไทยทุกท่าน! ข้าพเจ้า, อ.ศักดาและคณะ ได้ทำภารกิจตามบัญชาเบื้องบนครบถ้วนทุกประการแล้ว และความหมายที่เบื้องบนบอกคือ อุทกภัยที่เกิดขึ้น เกิดจากภัยธรรมชาติเพียงเล็กน้อย แต่มนุษย์ซ้ำ และเป็นผู้ที่ก่อให้เกิดขึ้น ซาตาน มาร พญามาร หมายถึงชาวต่างชาติที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการทำให้เกิดภัยธรรมชาติพวกเขามี กำลังเงินและกำลังคน และประเทศไหน? ที่สัญลักษณ์ของประเทศคือ พญาอินทรีย์ ท่านลองคิดดูเอง นี่แหละ! ซาตานตัวจริง หน้าฉากทำรักษ์โลก รักพี่น้องร่วมโลก หลังฉาก คือ ซาตานลวงโลก ศาลโลกตัวจริง! ตัดสินชีวิตมนุษย์โลก เพื่อกอบโกยทรัพยากรในแผ่นดินของเขา

    เบื้องบนอีกพระองค์ ได้บอกกับข้าพเจ้าว่า... พญามารเขาว่าเขาคิดดี เขาคิดถูก เขาบำเพ็ญมาไม่น้อย แต่เขาคิดแตกต่างจากเรา เรานับถือพระพุทธเจ้า ปฏิบัติตามคำสอนขององค์พระศาสดา พญามารก็เช่นกัน เข้าก็มีคนของเขาที่ลงมาเกิดและเชื่อในสิ่งที่เขาคิดและทำ เขาคิดว่าตัวเองคือ ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก มีสมองที่ดีแต่มุ่งทำลายสรรพชีวิต เขามีเทคโนโลยีชั้นสูง เขาคิดว่าประชากรในโลกนี้มีมากเกินไปและมีแต่คนไร้ประโยชน์ เพราะอย่างนั้นทำให้ประชากรโลกเหลือให้น้อยที่สุด และสร้างโลกใหม่ขึ้นมาคือ โลกของซาตาน ไม่มีประเทศ ไม่มีศาสนา คัดเลือกไว้เฉพาะคนที่มีประโยชน์กับเขาและคนที่เก่งที่สุดในแต่ละสาขาอาชีพ เก่งที่สุดทางด้านวิชาการ เขาต้องการครองโลกควบคุมและเป็นเจ้าของโลกมนุษย์ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ผู้ใดทำกรรมใดไว้จะต้องรับผลแห่งกรรมนั้นการเบียดเบียนชีวิตไม่ว่าคนหรือ สัตว์เป็นบาป คนเราฆ่าก็ตาย

    ไม่ฆ่าก็ตาย เกินขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นสิ่งที่แน่นอนและเป็นไปตามกฎแห่งกรรม พี่น้องชาวไทยและญาติธรรมที่รักทุกท่าน! พวกนี้เขาเกลียดคนผิวเหลืองและพวกอาหรับมากที่สุดและเขาคิดว่าไร้ประโยชน์ มากกว่ามีปะโยชน์ ประชากรในโลกนี้มีมากเกินไป เพราะฉะนั้นต้องล้างโลก โดยใช้น้ำ ตามด้วยไฟ และก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๓ แต่เขาต้องเข้ายึดประเทศไทยให้ได้ก่อน เพราะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ เขาเลือกประเทศไทยเป็นเมืองหลวงของรัฐโลกใหม่ เป็นพื้นที่ๆ เอื้อต่อการทำสงครามต่อเนื่องทั้งกับจีน, อาหรับและทุกประเทศที่ไม่ร่วมมือกับเขา ใช้ภาคใต้ของไทยเป็นที่ตั้งฐานทัพและเลือกประเทศไทยเป็นที่อยู่ของพวกเขา เพราะเป็นเขตอบอุ่น มีอาหารสมบูรณ์

    คนกลุ่มนี้ที่ต้องการจะครอบครองโลกเขาเลือกประเทศไทย แต่...เขาไม่ได้เลือกคนไทย ตายมากเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าเขาทำสำเร็จ จะไม่มีขอบขัณฑสีมาอีกต่อไป ขอบขัณฑสีมาของประเทศไทยอยู่ตรงไหน? อีกหน่อยเราจะบอกลูกหลานไทยของเราว่ายังไง? ประเทศไทยคือเมืองในอดีตหรือ? คนกลุ่มนี้จะสร้างรัฐโลกใหม่ ไม่เอากษัตริย์ ไม่มีประเทศ ไม่มีศาสนา เขาต้องการครองโลก นี่คือเรื่องจริงและกำลังเกิดขึ้น ได้ปรากฏให้พวกเราได้เห็นกันแล้ว!

    ขั้นแรก ใช้เงินซื้อคนไทยให้มาเป็นพวก ร่วมปฏิบัติงาน โดยเฉพาะคนที่มีอำนาจ ผู้นำมวลชน คนที่ประชาชนเชื่อถือ ให้ภาคใต้แบ่งแยกด้านศาสนาและใช้ภาคใต้เป็นที่ตั้งฐานทัพเพื่อทำสงคราม, ภาคอีสานแบ่งแยกด้านฐานะ คนรวย-คนจน ใช้เงินซื้อให้เข้าร่วมปฏิบัติการ, ภาคเหนือ-กลาง แตกแยกด้านทางความคิด,ภาคตะวันออกและชายฝั่งทะเลทั้งหมด นำคนของเขาที่ฝึกการรบไว้แล้ว เช่นโรฮิงญ่า ยิว มุสลิมหัวรุนแรง เข้ามาเป็นแรงงานตามร้านอาหาร โรงงาน ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ

    ขั้นที่ ๒ ยุให้เกิดความแตกแยกกันเองภายในประเทศและทำลายในหลวงฯ- พระราชินีและราชวงศ์ทุกทาง ล้มระบอบกษัตริย์ให้ได้

    ขั้นที่ ๓ ทำฝนให้เกิดน้ำมากที่สุดทั่วประเทศ เริ่มทางภาคเหนือ เพราะน้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ระเบิดเขื่อนให้ได้ทำ เพื่อให้แผ่นดินไทยกลายเป็นทะเล

    ขั้นที่ ๔ เมื่อประชาชนไทยเดือดร้อน ฉากหน้าส่งทหารและอาหารเข้ามาช่วยเหลือ แต่จริงๆ แล้วฉากหลังนำเรือบรรทุกเครื่องบินรบ ๕ ลำพร้อมเรือพิฆาตเข้ามาสู่อ่าวไทย(ถ้าช่วยน้ำท่วมจะเอาเข้ามาทำไม?)

    ขั้นที่ ๕ ส่งนักรบซาตานกระจายไปทุกแห่ง เพื่อเริ่มปฏิบัติการ ที่ไหนมีพนังกั้นน้ำเข้าทำลาย โดยใช้คนไทยที่ถูกล้างสมองและซื้อได้เป็นผู้ทำ ทหารและประชาชนที่สร้างพนังกั้นน้ำก็ไม่พอใจ จะเกิดการปะทะกัน นักรบซาตานก็ใช้อาวุธเข้าจัดการทหารและประชาชน เพื่อให้เกิดสงครามกลางเมือง ทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ

    ขั้นที่ ๖ เข้ายึดประเทศไทย คนไทยขายชาติ จะหลบเข้าไปอยู่ในเรือรบพญาอินทรีย์ เขารู้กัน!

    พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน! เขาไม่ได้จะทำเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น เขาทำทั้ง ๗ ประเทศ คือแผ่นดินสุวรรณภูมิทั้งหมดให้กลายเป็นทะเล เมื่อภารกิจเขาทำสำเร็จยึดได้หมดแล้ว เขาจะปล่อยน้ำลงทะเล แผ่นดินก็จะกลับคืนมา ขณะนี้ประเทศเม็กซีโก เอซาวาดอร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ พม่าฯลฯ ก็โดนด้วย แผ่นดินที่ยากจน เขาจัดการก่อน แม้แต่คนในประเทศเขาเอง เขาก็ไม่ได้คิดว่าเป็นประชาชนของเขาและพวกเราจะทำอย่างไร?

    - เตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรคที่ใช้เป็นประจำ (อย่างต่ำ ๖ เดือน) เตาถ่าน น้ำมันเชื้อเพลิง เสื้อกันหนาวอย่างหนาและอย่างบาง(สงครามโลกเกิด เราจะตกอยู่ในความหนาวเย็น) ท่านที่ใช้แว่นตาให้เตรียมไว้ คอนแทกเลนซ์เตรียมไว้ ของใช้ส่วนตัวทุกอย่าง รวมทั้งของใช้ส่วนตัวหญิง อย่างน้อย ๖ เดือน อย่าลืม เตรียมให้พ่อแม่ด้วย ถ้าท่านต้องทานยาทุกวัน รีบขอหมอเตรียมไว้ พยายามคิดว่าอะไรที่ต้องใช้และจำเป็นต้องจัดเตรียม ให้รีบทำ ไม่มีเวลาแล้ว

    • ขอให้ออกจากกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลได้แล้ว ให้มาอยู่ทางเหนือหรืออีสาน อยู่ห่างจากตัวเมืองอย่างน้อย ๒๕ กิโลเมตร อย่าอยู่ในตัวเมือง เบื้องบนเตือนว่า..มีเขื่อนที่จะต้องระวังและอาจแตกได้ ๓ เขื่อน คือเขื่อนศรีนครินทร์, เขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาทและเขื่อนแม่งัด จ.เชียงใหม่ ถ้าเขื่อนแม่งัดแตก ท่านบอกว่า..มีเวลาหลบภัย ๕ ชั่วโมงเท่านั้น ทางภาคใต้จะกลายเป็นเกาะเล็ก เกาะน้อย ถ้าที่ไหนมีพระสยามฯ จะพาผู้คนขึ้นที่สูง

    • เรื่องนี้สำคัญต้องจำไว้! ถ้าเกิดสงครามโลกและมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์เมื่อไหร่ เรามีเวลาเพียง ๓ วันเท่านั้นที่จะหลบภัยจากกัมมันตรังสี ภายใน ๓ วันจะถึงประเทศไทย ให้หลบอยู่ที่พระใหญ่ พระใหญ่จะมีรัศมีป้องกันได้ ๕ กิโลเมตร เบื้องบนบอกว่า...จะมีคนไทยเสียชีวิตประมาณ ๑๕ ล้านคน จำไว้! ที่พระใหญ่ คือ ที่หลบภัย และที่ไหนมีพระสยามเทวาธิราชที่นั่นจะปลอดภัย ใครลงชื่อให้กับผู้ที่คิดร้ายกับพระมหากษัตริย์และแผ่นดิน เก็บกลับหมด

    • จะมีโรคใหม่เกิดขึ้น จะมีเลือดไหลออกมาทางจมูก ทางตา ทางหู ทางรูขุมขน ถ้าเอามือเข้าไปแตะ ผิวหนังตรงนั้นจะเน่าทันที ตายโดยไม่รู้สาเหตุภายใน ๔-๙ วัน เกิดจากแสงสุริยเทพ ใครเป็นคนดีรักษาศีล ๕ อย่างน้อย สวดมนต์ภาวนา(เพราะการรักษาศีลและการสวดมนต์จะเป็นพลังที่ปกป้อง คุ้มครองเราได้) จะมีแก้วใสครอบ จะปลอดภัย เขารบกันอย่าออกไปยุ่ง เมื่อถึงเวลาจะบอกอีกที

    • ซาตานลวงโลกใช้ไทยและไต้หวันเป็นฐานรบ ตะวันออกกลางจะเละดูไม่จืด ข้าศีกเข้ามาอยู่ในบ้านเราเป็นล้าน ศึกนอกจะใหญ่ ศีกในจะยุ่ง มันเป็นชะตาฟ้า ไม่สามารถหยุดได้ เขามีเครื่องที่วิ่งอยู่ใต้ดินได้ หัวเหมือนรถไฟ เป็นสว่าน มีคนอยู่ในนั้น เจาะลงไปให้เกิดโพรงใต้ดิน ยิงขึ้นไปข้างบนได้ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ลงไปฝังระเบิดไว้ทุกเมืองในโลก จาคอป เป็นคนตัดสินใจว่าจะกดปุ่มหรือไม่ เจาะไว้ใต้ประเทศ ถ้ากดปุ่ม คนจะตายกว่าครึ่งโลก

    • อ.ศักดาและข้าพเจ้า ถวายสังขารเป็นพุทธบูชา อุทิศชีวิตเพื่อในหลวงฯ และแผ่นดินไทย ข้าพเจ้ามีเลือดไทยไม่เต็มร้อย แต่ข้าพเจ้าก็รักในหลวงฯ และแผ่นดินไทยมากกว่าคนไทยบางคนที่มีเลือดไทยเต็มร้อย ทำไมต้องทำลายบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง เป็นขี้ข้าต่างชาติ ลืมคุณพระราชาที่รักษาแผ่นดิน ปกป้องแผ่นดินและทุ่มเททุกอย่างเพื่อประชาชน กรรมที่ทำกับพระองค์ท่านและราชวงศ์ จะวิบัติทั้งครอบครัว ทางสุดท้ายของชีวิต คือขุมนรก

    • ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระแม่กวนอิม, ทหารของพระแม่, พญามังกรดำและบริวาร จะช่วยเราได้และจัดการกับพญาอินทรีย์สำเร็จ แต่คนไทยจะฆ่ากันเอง โดยมีต่างชาติเสี้ยม ผู้มีอำนาจรู้เห็นเป็นใจ กรรมจริงๆ

    • เบื้องบน บอกว่า...ถ้าคนดีมีศีลธรรม มีอำนาจ สงครามโลกจะจบภายใน ๒ ปี แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ ๑๑ ปีถึงจะจบ

    • อย่าเก็บเงินดอลล่าร์กับยูโรไว้ ทุกสิ่งที่เตือนมา เชื่อก็รอด ไม่เชื่อก็ไม่รอด

    • ญาติธรรมที่รักทุกท่าน ท่านทราบหรือไม่ว่า...ทางไปสวรรค์ ไปทางไหน? ไปทางเรือ ทางรถหรือขี่จรวด?.. ไปด้วย ทาน ศีล สมาธิ และปัญญา เป็นพาหนะ ทำให้เกิดตบะ ปัญญามหาศาล หนทางสู่เบื้องบน มุ่งสู่แดนนิพพาน ทำเถิด ปฏิบัติได้แล้ว คนส่วนใหญ่รู้ธรรมมาก แต่ปฏิบัติน้อย

    • รวมตัวถวายคืนพระราชอำนาจให้ในหลวงฯ ให้ได้ แผ่นดินสยามอันสงบสุขจะกลับคืนมา วิบากกรรมของแผ่นดินไทยจะจบ ไพร่ฟ่า หน้าใส

    • คนที่เกิดมาในแผ่นดินสยาม จิตเดิมอาจไม่ใช่คนสยาม แผ่นดินไทยของเรารบราทำศึกมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง ข้าศึกศัตรูเสียชีวิตในแผ่นดินไทยมากมาย เขาตายที่ไหน เขาเกิดที่นั่น เพราะฉะนั้นคนที่คิดร้ายต่อแผ่นดินไทย ต่อในหลวงฯ ต่อราชวงศ์ เพราะจิตเดิมของเขาไม่ใช่คนไทย จิตเดิมของเขามุงร้ายต่อแผ่นดินไทยอยู่แล้ว ขอให้พวกเราชาวไทยแผ่เมตตาให้กับเขา ขออโหสิกรรมให้ซึ่งกันและกัน ช่วยให้ภัยทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับประเทศเรา เบาบางลง

    ปล. ถ้าท่านต้องออกจากบ้าน แต่ไม่มีที่พักอาศัย ข้าพเจ้าและ อ.ศักดา ขอเชิญท่านมาพักที่พระไตรรัตนะเทวสถาน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่(อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ๒๕ ก.ม.) พวกเราได้เตรียมเสบียงอาหาร เครื่องนอน พร้อมสำหรับทุกท่าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

    ที่มา www.108dee.tht.in/forcast07.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2014
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สัญญาณของ "ฟ้ามืด แผ่นดินเคลื่อน"

    [​IMG]

    น้ำมหาศาลจะมาจากทางทะเล ปั่นป่วนไปหมดทั้งโลก สาเหตุมาจากลาวาร้อนใต้ผืนโลกที่กำลังแทรกแผ่นดินขึ้นมาจากมหาสมุทร พิกัดอยู่ระหว่าง ญี่ปู่น ไต้หวัน และ ฟิลิปปินส์ เมื่อความร้อนจัดจากลาวากับความเย็นจัดจากน้ำใต้ทะเลปะทะกัน ประกอบกับแรงดันสูงจากลาวาใต้โลกปริมาณมหาศาลดันทะลุเปลือกโลกขึ้นมา แรงดันจากใต้โลกจะยกยกผืนน้ำให้สูงขึ้นจากระดับปกติเป็นร้อยเมตร ขณะที่โลกก็หมุนไป ก็จะก่อตัวเป็นพายุใหญ่ยักษ์หอบเอาน้ำและโคลน เมื่อพายุน้ำหมุนผ่านที่ไหนก็จะกวาดพื้นที่นั้นไปกับน้ำด้วย เส้นทางของมหันตภัยที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านบอกเตือนไว้คือผ่านไต้หวัน เวียดนาม เขมร ลาว ไทย ศรีลังกา อินเดีย ฯลฯ ไปรอบโลก และประเทศที่พายุนี้ผ่านจะราบคาบครับ ท่านบอกว่าขนาดมหึมาของพายุจะคลุมพื้นที่ระหว่างใต้หวันกับฟิลิปปินส์เต็มพื้นที่

    เมื่อพายุน้ำหมุนนี้ผ่านไทย กทม.จะจมทันทีครึ่งนึงพร้อมๆกับจังหวัดชายทะเลหลายจังหวัด ในส่วนของ กทม ที่จะจมทันทีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านให้เอาแนวทางรถไฟเป็นเส้นแบ่ง หลังจากนั้น กทม.จำค่อยๆจมลงอีก(เข้าใจว่าแผ่นดินทรุดต่ำลง ประกอบกับระดับน้ำสูงขึ้นอันเนื่องมาจากคลื่นสูงหลายสิบเมตรซัดชายฝั่ง) ทั้งพายุใหญ่ คลื่นใหญ่ แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ถึงเวลานั้นน้ำที่มาจากเขื่อนนั้นจิ๊บๆไปเลยครับ หลังจากนั้นแรงสั่นสะเทือนทั้งหลายแหล่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดหนัก แล้วเกิดแผ่นดินแยก เขื่อนแตก น้ำเขื่อนก็จะไหลลงมาซ้ำเติม ท่วมหนักไปอีก

    ทางแก้มีทางเดียวคือ หนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป

    ผมน่ะเชื่อเกินร้อยครับ เมื่อมีสัญญาณมา ผมจะหนีก่อนเป็นคนแรกๆเพราะไม่อยากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ในวันเกิดเหตุท่านบอกว่าจะมีปรากฏการณ์ทางท้องฟ้าในตอนบ่ายของวันนึง ท่านให้ผมพาญาติพี่น้องและญาติธรรม ออกจาก กทม.ทันที เพราะหลังจากนั้นจะเกิดโกลาหล เดินทางออกจาก กทม. ได้ยาก ประกอบกับฝนจะตกอย่างหนัก ลมแรง น้ำท่วมฉับพลัน ที่จริงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเตือนผมมาอย่างต่อเนื่องเกือบสองเดือนแล้วและผมก็เตรียมการมาระยะนึงแล้ว เคยถามท่านว่ากาลเวลาที่จะเกิดเหตุจะมีการเปลี่ยแปลงไม๊ ท่านบอกว่าสัจจธรรมเปลี่ยนไม่ได้ ก็ต้องเตรียมการแข่งกับเวลาครับ

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านบอกผมว่า "ผู้ที่รู้แล้วไม่เตรียมการ เป็นผู้ที่ประมาทยิ่งกว่าผู้ที่ไม่รู้อะไรเลย" อย่างน้อยๆก็เตรียมปัจจัยสี่ไว้ในสถานที่ปลอดภัย เพื่อความไม่ประมาทครับ ของผมจะเตรียมทุกอย่างพร้อมภายในเดือน มี.ค. นี้ และจะมีเวลาส่วนที่เหลือเพียงน้อยนิดเตรียมอย่างอื่นๆ ต่อไป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาเตือนผมเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 54 ท่านบอกว่านับจากวันนั้นมาไม่เกิน 5 เดือนภัยพิบัติก็จะมาถึง กทม.ตอนนี้เวลาผ่านไปแล้วเกือบ 2 เดือน ก็เหลือเวลาอีกประมาณ 3 เดือนครับ

    จากนั้นท่านมาเตือนบ่อยขึ้นเกือบทุกสัปดาห์ หลายพระองค์ก็วนเวียนกันมาเตือนให้เก็บของเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอพยพไปอีสาน ดูแล้วเวลาแต่ละวันนับจากวันที่ท่านมาเตือนมีค่ามากๆ ที่จริงวันนึงก็ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง ถ้าหากคิดแล้วทำเลย และรู้สึกว่าเวลาแต่ละวันผ่านไปเร็วมากครับ หลังจากเกิดภัยจากน้ำแล้ว ภัยอื่นๆก็จะตามมาอีก เป็นระลอกๆ ภัยจากคนมีแน่นอน เมื่อข้าวยากหมากแพง ขาดอาหาร คนก็จะแย่งชิง เข่นฆ่ากัน ส่วนใหญ่คนเหล่านั้นเขามีกรรมติดตามมาทันก็ต้องชดใช้กัน ถึงตอนนั้นเมืองใหญ่ไม่น่าอยู่แล้วเพราะระบบการปกครอง การบริหารจะล่มสลายไปด้วย จะเป็นกลียุคโดยสมบูรณ์อยู่ระยะนึง

    ดังนั้นการที่เราจะไปอยู่ที่ไหนนั้นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเอาไว้ด้วย ที่ผมเตรียมนั้นก็เหมือนสร้างชุมชนอิสระขึ้นมาชุมชนนึง มีครบทุกอย่าง เครื่องป้องกันตัวก็ต้องมีไว้ให้ครบถ้วน ไม่ต้องติดต่อกับโลกภายนอกสักครึ่งปีหรือหนึ่งปีก็สามารถอยู่กันเองได้

    ส่วนคนที่เขามีบุญกุศลยังไงก็มีเหตุให้อยู่รอดปลอดภัยครับ

    เชียงใหม่ มีทั้งทีึ่ปลอดภัยและไม่ปลอดภัย ที่ปลอดภัยนั้นต้องไม่อยู่ในแนวของทางน้ำหรือใกล้เคียงและควรหลีกเลี่ยงเส้นแนวแผ่นดินไหวด้วย อันนี้ต้องศึกษาลักษณะของพื้นที่ทางธรรมชาติ เพราะแถบนั้นเป็นภูเขาสูงน้ำจะไหลเร็วและแรง ประกอบกับจะมีดินถล่มด้วยครับ น้ำท่วมครั้งที่แล้ว ผมทราบล่วงหน้า 4 เดือน แต่ท่านมาเตือนให้เก็บของขึ้นที่สูงก่อนน้ำมาถึงบ้าน 2 อาทิตย์และผมถามท่านว่าน้ำจะเข้าบ้านไม๊ ท่านบอกว่าน้ำจะไม่เข้าบ้าน แต่จะปริ่ม ผมลองวัดดูเหลืออีก 15 เซนติเมตรน้ำก็จะเข้าบ้าน จากนั้นน้ำก็ค่อยๆลดลง

    เรื่องภัยพิบัติจากทะเลคราวนี้ ท่านบอกผมไว้ล่วงหน้าประมาณ 13 ปี และท่านมาเตือนให้เก็บของเตรียมอพยพล่วงหน้า 5 เดือน และก็เตือนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างที่ท่านบอกนั่นแหละ หลังจากนั้นใครจะอยู่แบบทุกข์มาก ทุกข์น้อย ก็อยู่ที่การเตรียมการของแต่ละคน

    คณะผมตุนข้าวเปลือกกับข้าวสารรวมกัน 30 ตัน น้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 15,000 ลิตร เครื่องปั่นไฟ ขนาด 5 kva 3 เครื่อง เครื่องสีข้าวด้วยมือ 5 เครื่อง เครื่องโม่แป้ง ตะเกียงน้ำมันก๊าซ 20 อัน รถมอเตอร์ไซด์ 2 คัน รถจักรยาน 3 คัน เครื่องปั๊มน้ำแรงลม 2 ชุด(ดึงน้ำจากบ่อบาดาล) บ่อน้ำชักรอก 3 บ่อ เลี้ยงปลา 5 กระชัง บึงน้ำ 4 บึง ที่ทำนา 25 ไร่ ที่ดินปลูกผัก 5 ไร่ ที่เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ รวมทั้งที่พัก(ห้องชุด) ประมาณ 20 units และที่พักรวม จำนวนหนึ่ง ตู้รถไฟ(ความยาว 16 เมตร) 3 ตู้ เอาไว้เป็นที่พักของญาติธรรม และมีวิหารขนาด 1200 ตรม. 1 หลัง ขนาด 100 ตรม. 2 หลัง ที่กันแดด กันฝนที่จะรองรับคนได้ประมาณ 500 คน เต๊นท์ประมาณ 40 หลัง รวมทั้ง เสื้อผ้ากันหนาว จอบ เสียม ขวาน สุนัข 6 ตัว แมว 5 ตัว ฯลฯ สรุปแล้ว ตุนทุกอย่างที่ขวางหน้าอันนี้เป็นของส่วนกลางที่จะใช้ร่วมกัน แต่สำหรับแต่ละคนเขาก็ซื้อของไว้เป็นของส่วนตัวอีกส่วนนึง ถ้าให้ได้ราคาถูกก็คือซื้อมามากๆแล้วก็แบ่งกัน

    ที่จริงในพุทธสถานฯผมต้องการรองรับญาติธรรมที่สนิทๆ ญาติผมและของญาติของญาติธรรม รวมกันไม่เกิน 200 คน แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ปู่ขาวมหาราช ท่านมาบอกว่า ลูกจะมีที่พักรองรับผู้คนไม่เพียงพอ ให้สร้างเพิ่มเติม ลูกต้องเมตตาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันให้มาก อันนี้ทำเอาผมกลุ้มเลย เพราะคณะผมเตรียมกันจนหมดหน้าตักแล้ว คนมามากเราจะเลี้ยงไม่ไหว เมื่อถึงเวลาเราคงหาช่องทางในการสื่อสารบอกกันยากครับ เพราะเมื่อถึงตอนนั้นความแปรปรวนทางบรรยากาศจะทำลายระบบการสื่อสารแทบทั้งหมด โดยเฉพาะเครื่องมือสื่อสารที่ต้องใช้ไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งระบบจะถูกทำลายโดยพลังประจุไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่ก่อตัวขึ้นในบรรยากาศ ฟ้าจะผ่าสนั่นหวั่นไหวตลอดเวลาโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งหลายฟ้าจะลงหมด

    แค่เสียงดังมากๆนี่จิตก็คงจะตกไปอยู่ที่ตาตุมแล้วครับ จิตที่รับสภาวะนี้ได้ดีต้องฝึกให้จิตไม่สะดุ้งสะเทือนเมื่อมีเสียงดังมากๆจึงจะไม่กระทบจากเหตุการณ์นี้ครับ สำหรับผู้ที่จะหนีไปทางอีสานหรือทางเหนือ ก็พยายามเลี่ยงริมน้ำโขงไว้นะครับ เมื่อถึงเวลานึงมวลน้ำขนาดใหญ่จะพัดผ่านแม่น้ำโขงด้วยครับ มาทั้งน้ำทั้งโคลนสีแดงๆ อยู่ห่างแม่น้ำโขงไว้สักประมาณ 1 กม. ก็น่าจะดีครับ พุทธสถานที่ผมจะไปอยู่นั้นจะอยู่ห่างจากน้ำโขงประมาณ 1.5 กม. เมื่อน้ำโขงไหลผ่านไปแล้ว ต่อไปริมฝั่งจะมาอยู่ใกล้กับที่ผมอยู่ประมาณ 1 กม.

    ผมเองน่าจะหนีจาก กทม.ไปล่วงหน้าก่อนภัยพิบัติมา สัก 1-2 สัปดาห์ ก็คงประมาณหลังสงกรานต์ไปแล้วล่ะครับ หลังสงกรานต์ก็ไม่แน่ว่าจะได้มีเวลามาโพสต์ในนี้อีกหรือไม่ เพราะต้องเตรียมพร้อมหลายๆอย่าง ในวันเกิดเหตุในเมืองไทยจะมีสิ่งบอกเหตุคือในตอนบ่ายท้องฟ้าจะมืดมิดกลายเป็นกลางคืนจากนั้นภายในไม่กี่ ชม. น้ำก็จะเข้า กทม. ครับ

    นั่นคือสัญญาณของ "ฟ้ามืด แผ่นดินเคลื่อน" ครับ

    ถึงเวลานั้น ทุกคนจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไม่มากก็น้อย ญาติพี่น้องของพวกเราบางคนก็จะไม่รอด บางส่วนก็จะสูญหาย บางคนก็จะสูญเสียความมั่นใจ ที่จะทำอะไรต่อไปข้างหน้าเพราะอาจจะต้องเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ก็เตรียมใจกันไว้แต่เนิ่นๆครับ เมื่อเวลามาถึง จิตเราจะได้ปล่อยว่างในสิ่งที่เราสูญเสียไปได้ ฯลฯ

    ที่จริงในกึ่งพุทธกาลนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอีกวาระนึงทางศาสนา ที่แฝงไว้ด้วยภัยธรรมชาติ ที่จะทำการแบ่งแยกบุคคลที่มีศีลธรรม และบุคคลที่ด้อยศีลธรรม ออกจากกัน วัฏจักรมันเป็นมาอย่างนี้ ทุกกาลศาสนา เป็นช่วงสุดท้ายของการสร้างบารมีในศาสนาพระสมณโคดม และเข้าสู่จุดเริ่มต้นสร้างบารมี ไปสู่ศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรย ครับ

    หลังเหตุภัยพิบัติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาคงจะให้ผมอยู่ทำหน้าที่ต่อไปอีกระยะนึง โดยมีภาระงานทางศาสนาอีกหลายอย่างที่รออยู่เบื้องหน้า เช่น สร้างเจดีย์ฯ ต่อให้เสร็จ (โดยไม่มีเทคโนยี) ตอนนี้ท่านให้เร่งตอกเสาเข็มของฐานเจดีย์ ให้เสร็จไว้ก่อนภัยพิบัติ ต่อไปอาจจะต้องทำหน้าที่ ชี้แนวทางการยกระดับจิตใจให้กับผู้ที่ประสบกับการสูญเสียที่มาเกี่ยวข้อง ฯลฯ

    ท่านบอกว่าเมื่อภัยพิบัติผ่านไป บุคคลที่อยู่รอดกลุ่มหนึ่ง จะมาช่วยกันสร้างเจดีย์ฯ เพื่ออุทิศกุศลให้บุคคลที่ล่วงลับไปในภัยพิบัติ โดยผมเป็นผู้เริ่มต้นในการสร้างไปก่อน วิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยมีองค์ความรู้ ในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้พื้นโลกมากนัก มีข้อจำกัดอยู่มากครับ คราวนี้ใครๆ เขาก็เตรียมรับน้ำจากเขื่อนและแม่น้ำ ปรากฏว่าน้ำจะมาจากคลื่นทะเลเป็นหลัก อันนี้แทบไม่มีทางป้องกันเลยครับ

    ที่จริงผู้ที่ท่านเมตตามาบอกกล่าว เรื่องภัยพิบัติ และเตือนให้เตรียมตัวมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังๆนี่ ไม่ใช่เฉพาะ พระเกจิในประเทศไทย อย่างเช่น ปู่ทวด เท่านั้นแต่ยังมีองค์ต้นธาตุต้นธรรม(องค์อชิตะ) ซึ่งท่านเป็น แสงแห่งธรรม เป็นใหญ่อยู่ในอนันตจักรวาล(เป็นพระพุทธเจ้า ที่เป็นใหญ่กว่าพระพุทธเจ้าทั้งหมด ที่มีมาจำนวนนับไม่ถ้วน) และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมในจักรวาลนี้(พระพุทธเจ้าวิปัสสีหรือปู่ขาว มหาราช) หรือพระพุทธเจ้าสิขีทศพล ที่หลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านกล่าวถึง(ปู่ขาวมหาราช ท่านบอกผมอย่างนั้น) รวมทั้งพระศรีอริยเมตรัย ก็มาเตือนเรื่องภัยพิบัติบ่อย

    สำหรับ องค์อชิตะ นี้เป็นคนละองค์กับพระศรีฯนะครับ ชื่อพระศรีฯ ที่มาจุติในยุคพุทธกาล ไปซ้ำกับชื่อของ องค์อชิตะ ผู้ที่สื่อสารกับท่านเหล่านี้ได้ในคณะของผมนั้น ไม่ใช่มีเฉพาะผมคนเดียว แต่ยังมีพระสงฆ์อีกรูปนึง และฆราวาสอีกคนนึง ก็สามารถรับสื่อจากองค์อชิตะได้ เช่นเดียวกัน และอาจจะมีคนอื่นๆ ที่เขาสามารถสื่อสารกับท่านเหล่านั้นได้อีก แต่อาจจะยังไม่เปิดเผยตัวก็เป็นได้

    การที่จะเข้าถึง องค์อชิตะ (ผมเรียกท่านว่าปู่อชิตะ)นั้น ต้องฝึกจิตให้เข้าถึงความว่าง เลยความว่างไป ก็จะเป็นแสงครับ แสงที่สามารถสื่อสารกับจิตวิญญาณของเราได้นั้นแหละ คือ องค์อชิตะ ครับ ผมเลยไม่รู้จะเรียกแสงนั้นว่าอะไร จึงเรียกท่านว่า "แสงแห่งธรรม" อาจจะเข้าใจยาก สำหรับผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงตรงนี้ การสื่อสารกันนั้นเป็นการสื่อสารแบบจิตต่อจิตเท่านั้นครับ

    ก็ถือว่าเป็นบุญของเรา ที่ท่านเหล่านั้นมาโปรด จากเหตุที่เราเคยสร้างบุญกุศลในพุทธศาสนามาในพุทธันดรอื่นๆ จนส่งผลมาถึงพุทธันดรนี้ และเหตุจากพุทธันดรนี้ก็จะส่งผลไปถึงการทำหน้าที่ต่อไป ในพุทธันดรหน้าต่อไป ก็เป็นอันว่าจะหมดหน้าที่ในกึ่งกลางศาสนาของพระศรีอริยเมตรัย จึงจะหมดหน้าที่ตามที่ปรารถนามาทำในภัทรกัปป์นี้

    ที่จริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ผมกล่าวถึง ท่านบอกผมว่า ท่านก็ต้องการสื่อสารกับนักปฏิบัติทั้งหลาย แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของบารมีรองรับ และหน้าที่ที่คนส่วนใหญ่ ไม่ได้สร้างบารมีมารองรับ และไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกัน จึงไม่สามารถรองรับญาณบารมีของท่านเหล่านั้นได้ หรือแม้แต่ผู้ที่มีบารมีรองรับเพียงพอ แต่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกัน ท่านก็จะไม่สื่อสารด้วย

    ดังนั้น การที่ท่านเหล่านั้นเมตตามาบอกกล่าวเรื่องของภัยพิบัติ ซึ่งสิ่งที่ท่านบอกกล่าวมานั้น ก็ย่อมเป็นสัจจะธรรมเช่นกัน จึงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผมเองก็รอพิสูจน์สัจจะธรรมอันนี้อยู่เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

    อ่าวไทย และจังหวัดที่เสี่ยงที่จะโดนมหาสึนามิถล่ม !!!

    คลื่นน้ำสูงมากๆ จะเคลื่อนจากฝั่งอ่าวไทย ข้ามไปทะเลอันดามัน มาพร้อมๆ กันทั้งพายุหมุนและคลื่นขนาดมหึมา ลูกแล้วลูกเล่าครับ ซัดเข้ามาตรงแนวที่เคยคิดกันว่าจะขุดคอคอดกระ แล้วด้ามขวานไทยจะขาดสองท่อน รวมทั้งจะมีคลื่นสูงมากๆขนาดภูเขา ผมประมาณว่า คลื่นขนาดเท่าเกาะภูเก็ต มั้งครับ น้ำและโคลนจากคลื่นยักษ์นั้นคงจะกวาดเอาพื้นที่ข้างเคียงไปด้วยเป็นระยะหลายร้อยกิโลเมตรจากศูนย์กลางของพายุหมุน

    ใน กทม. ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านเคยทำภาพให้ผมดูนั้น น้ำจะขึ้นสูงประมาณตึก 4 ชั้น ครับ (ระดับน้ำความลึกน่าจะประมาณ 10 เมตรกว่าๆ) คลื่นที่เข้ามาทางฝั่งทะเล ท่านเคยทำภาพให้ดู ก็ขนาดเท่าเกาะใหญ่ๆ ความแรงจากคลื่นซัดนั้น จะแรงและเสียงดังมาก ทำให้อาคาร บ้านเรือนต่างๆ สั่นสะเทือน ขนาดความรู้สึกในความเป็นทิพย์นั้น ความแรงคล้ายๆ จะทำให้หัวใจผมหลุดกระเด็น ออกมาจากตัวเลยครับ

    ฤา กรุงเทพฯจะกลายเป็นทะเลในเร็วๆนี้

    สิ่งที่จะฝากเตือน ก็คือ ใครจะประสบกับเหตุการณ์รุนแรงขนาดไหนก็แล้วแต่ ขอให้ตั้งสติให้ดี มิฉะนั้นแล้วจะเกิด สติวิปลาสโดยทันที ที่บางคนบอกกันว่าจะคุมสติได้นั้น ผมว่าไม่แน่นักหรอก เพราะในความเป็นจริงมันรุนแรงเหลือเกิน ยังไงก็ขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทก็แล้วกัน ผมเองบอกกับตัวเองไว้ว่า จะหนีก่อนใครๆ เพราะว่าถ้าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ คงจะคุมสติตัวเองได้ยากเช่นกัน เพราะขณะที่นั่งสมาธิ เมื่อมีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาใกล้ๆ จิตผมยังสะเทือนไหว ก็แสดงว่า ยังใช้การไม่ได้ ที่จะเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ของภัยพิบัติ ครั้งนี้ ถ้าหนีไปก่อนจะปลอดภัย ทั้งธาตุขันธ์และจิตวิญญาณของตนเอง

    ยังไงก็อย่าลืมเร่งเตรียม "เสบียงบุญ" กันนะครับ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อทุกคน ถ้าไม่มีเสบียงบุญนี่ สิ่งต่างๆ ที่เราเตรียมกันเอาไว้ก็ไร้ค่าครับ ผมล่ะขอพึ่งพระบารมีองค์ต้นธาตุต้นธรรม (องค์อชิตะ) องค์พระวิปัสสี และก็พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ นี้ครับ นี่คือ เสบียงบุญหลักๆ ของผมที่เตรียมมาอย่างยาวนานสิบกว่าปีครับ ทุกคนเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง???

    จากอัญญาสิทธิ์

    ที่มา www.108dee.tht.in/forcast06.html

    หมายเหตุ

    ถึงแม้ว่าภัยพิบัติจะไม่ได้เกิดขึ้นในปี 2555 อย่างที่คุณอัญญาสิทธิ์ได้ทำนายเอาไว้ก็ตาม แต่ผมเห็นว่าภัยพิบัติอาจจะเกิดขึ้นในปี 2557-2560 นี้ก็เป็นได้ครับ เพราะถ้าเกิดสงครามกลางเมืองในประเทศไทย อเมริกาย่อมต้องฉวยโอกาสส่งกองทหารเข้ามาแน่นอน โดยอ้างว่าเพื่อรักษาความสงบ และประเทศจีนก็อาจจะส่งกองทหารเข้ามาด้วยเช่นกัน เมื่อนั้นประเทศไทยก็กลายเป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกขึ้นมาได้ และถ้าเกิดสงครามโลก ภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ก็ย่อมจะเกิดขึ้นตามคำทำนายอย่างหลีกเลี่ยงไปไม่ได้เลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2014
  15. k8132

    k8132 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2012
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +285
    หรืออาจจะเป็นข่วง 13-18 นี้หรือเปล่า ลองฟังท่านนี้ครับประมาณนาทีที่ 23 ก็อย่าไปเน้นฟ้งเรื่องการเมืองนะครับ ฟังแต่เรื่องภับธรรมชาติของเรานิดหน่อยครับ
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=fAHDlcidpuM]ดร.กัญจิรา นอสตราดามุสหญิงเมืองไทย "กับจุดจบการเมืองไทย" - YouTube[/ame]
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เรื่องราวความแค้นเก่าๆ แต่หนหลัง....???

    [​IMG]

    ปิยาจาโร สมาชิก

    ก็พอทราบจากท่านผู้รู้มาบ้าง ไม่รู้ว่าจะคล้ายกันไม๊ ประมาณว่าสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก(รัชกาลที่1) แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พม่ายกทัพมาตีสยามสมัยนั้น ไทยมีแม่ทัพทั้งวังหน้าวังหลังเก่งมาก เอาชนะข้าศึกได้ ตามกฏก็ต้องจับพม่าที่ยกทัพมาตีประหารชีวิต ก่อนตายพม่าคนนั้นฝังแค้น..ก็มาเกิดเป็นนายคนนี้แหละ ส่วนลูกเมียที่นายพม่าคนนั้นพามาด้วย พอแพ้กษัตริย์ไทยท่านใจดีมีเมตตา ท่านก็นำมาเป็นข้าทาสรับใช้(คนแม่)ส่วนลูกสาวเขาก็ให้มาเป็นสนมน้อยของวังหลัง

    เจ้าลูกสาวพม่าถึงเขาได้เป็นสนม แต่ด้วยความที่รักพ่อ สนมงามพม่าผู้นั้นเขาก็ยังโกรธแค้นที่ฆ่าพ่อเขา พอเธอตายในภพชาตินั้น มันเลยฝังแค้น ก็เลยมาเกิดภพชาตินี้ พากันมาเกิดหมดเลย พ่อ แม่ ลูก วังหน้า วังหลัง และ....พวกทหารพม่าทหารไทย ที่ตายในสงครามมากันครบดังที่เห็น คนพ่อคือใคร...แม่คือ...ลูกสาวคือ...(สมัยที่เป็นพม่าสวยมาก พอมาเกิดชาตินี้ก็สวยแต่ไม่ฉลาด อดีตชาติเป็นยังไงชาตินี้ก็เป็นยังงั้นเชื่อพ่อเชื่อแม่) วังหน้าคือ...วังหลังคือ..กำนันมั้ง นี่แหละพวกเขาก็เลยต้องมาสะสางกันอีกในชาติสุดท้ายนี้

    แต่ถ้าจะแก้ไขกรรมได้ เหล่าพม่าที่มาเกิดในชาตินี้ พวกเขาต้องอโหสิกรรมแก่พระมหากษัตริย์ไทย ทหารไทย คนไทย เพราะพวกเขาอยากยกทัพมาตีเมืองไทยก่อน เขาแพ้ศึกสงครามเขาก็ต้องถูกประหารตามกฎสมัยนั้น ถ้าเราไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา ชาตินี้เขามาเกิด เขาก็ได้คืนหลายอย่างแล้ว ทรัพย์สมบัติที่พวกเขาขนมาจากพม่าที่ถูกไทยยึด.. เขาก็เอาคืนไปหลายแสนล้านแล้ว สมัยที่ถูกจับมาเป็นเชลย ก็เลี้ยงดูอย่างดี ให้เป็นถึงสนม....(แล้วยังจะมางอนท่านกำนันไปไย) ชาตินี้เขาให้มาเกิดเป็นคนไทยแล้ว เพื่อมาแก้ไขกรรม...ก็ทำไม่สำเร็จ เพราะดวงจิตเดิมฝังแค้นไว้มากมาย...

    คร่าวๆประมาณนี้ครับ คนที่ออกมาก็คือทหารไทยทหารพม่า รบกันเหมือนเดิม ฝ่ายที่ชนะก็ต้องเป็นไทยอีกอยู่ดี...สาธุ ถ้าเรื่องไม่จบก็จะมีผู้หวังดีท่านมาจัดการอีกแรง.. เพราะท่านไม่ต้องการให้เกี่ยวกรรมกันไม่รู้จบ ท่านเลยเมตตาจัดการให้ เพราะท่านทำจะไม่เกิดผิดบาปใดๆ..ท่านผู้มีเมตตาต่างๆเหล่านั้นคือ..ดิน น้ำ ลม ไฟ (ภัยธรรมชาติท่านมาจัดการเองครับ) คนดีอย่ากลัว คนชั่วเจอแน่....

    ที่มา http://palungjit.org/threads/บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ-เรื่องภัยพิบัติ.311084/page-110
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • hqdefault.jpg
      hqdefault.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.8 KB
      เปิดดู:
      2,315
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เหยื่อซูเปอร์ไต้ฝุ่นอพยพหนีน้ำท่วมภาคใต้ฟิลิปปินส์

    [​IMG]

    บูตูอัน 21 ม.ค.-หน่วยฉุกเฉินในฟิลิปปินส์ช่วยอพยพประชาชนหลายพันคนทั่วพื้นที่ภาคใต้ในวันนี้ ซึ่งรวมถึงผู้ไร้ที่อยู่จำนวนมากจากพายุไต้ฝุ่นเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว หลังฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมเมืองต่างๆ และพื้นที่การเกษตรหลายแห่ง

    ผู้รอดชีวิตจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนหลายร้อยคนต้องอพยพซ้ำอีก เพื่อหนีพายุหมุนเขตร้อนอากาตอน หลังจากที่อยู่อาศัยชั่วคราวเสียหายและถูกทำลายทางเกาะซามาร์ เต็นท์หลายหลังพังลงมา เนื่องจากรับปริมาณน้ำฝนไว้ไม่ไหว และแผ่นพลาสติกมุงหลังคาขาด

    ฟิลิปปินส์เผชิญไต้ฝุ่นเฉลี่ย 20 ลูกในแต่ละปี โดยเฉพาะไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่พัดกระหน่ำเกาะทางภาคกลางเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,100 คน และทำลายล้างชุมชนชายฝั่งทั้งแถบบนเกาะเลย์เตและซามาร์

    สำนักข่าวไทย TNA News | 21 ม.ค. 2557 16:36 |

    ชาวอินโดนีเซียหลายหมื่นคนอพยพหนีน้ำท่วม

    [​IMG]

    อินโดนีเซีย 21 ม.ค. - ฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ของอินโดนีเซีย

    พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดอยู่ที่เขตซูบัง ในจังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต่างพากันอพยพ บางคนต้องไปอาศัยอยู่ใต้สะพานลอย ขณะที่ในกรุงจาการ์ตา มีประชาชนที่ต้องอพยพกว่า 60,000 คน ล่าสุดแม้ระดับน้ำบางพื้นที่ลดลง แต่คาดว่าฝนจะตกหนักต่อเนื่องตลอดสัปดาห์.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 21 ม.ค. 2557 16:23 |

    เวียดนามรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกเอช5เอ็น1 รายแรกในปีนี้

    [​IMG]

    ฮานอย 21 ม.ค.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างประกาศของสำนักงานเวชศาสตร์ป้องกัน สังกัดกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามวานนี้ว่า เวียดนามมีรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช5เอ็น1 เป็นรายแรกในปี 2557 ในจังหวัดบิงห์ฟวกทางตอนใต้ของเวียดนาม

    รายงานระบุว่า เหยื่อเป็นชายวัย 52 ปี เขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา มีอาการไข้ ไอ และหายใจไม่สะดวก ภายหลังผู้ป่วยรายนี้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช5เอ็น1 หลังจากผลการทดสอบไข้หวัดนกเป็นบวก โดยปอดของเขาถูกทำลายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของเวียดนามในปีนี้ หลังจากที่เวียดนามไม่มีรายงานการติดเชื้อไข้หวัดนกเอช5เอ็น1ในคนมานานถึง 9 เดือน

    ทั้งนี้ สำนักเวชศาสตร์ป้องกันได้แนะให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการรับประทานสัตว์ปีกที่ป่วย ตายหรือไม่ทราบที่มา และหากพบว่ามีสัตว์ปีกป่วยหรือตายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทางการทันที

    ไข้หวัดนกเป็นโรคติดต่อซึ่งมีแหล่งที่มาจากสัตว์โดยเกิดจากเชื้อไวรัสที่โดยปกติแล้วมักจะแพร่ไปสู่นก และหมู แต่ก็สามารถแพร่ระบาดมาสู่คนและทำให้เสียชีวิตได้.

    สำนักข่าวไทย TNA News | 21 ม.ค. 2557 11:25 |

    ที่มา Digital Media and Online Services of News and Entertainment by MCOT Plc. | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ดวงเมือง 2557 "มะเมีย"หฤโหด!

    [​IMG]

    ...พักครึ่งให้ได้ชิล...ชิลกับลมหนาวในช่วงเปลี่ยนผ่านของปี แต่ก็แค่ระยะสั้นๆ เท่านั้น แม้จะยุบสภา จนกำหนดการเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกที แต่การชุมนุมยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ในทางตรงกันข้ามกลับจะยังคงเดินหน้าต่อไป แรงขึ้นๆ เรื่อยๆ กระทั่งเป็นที่กังวลกันนักว่าเหตุการณ์จะลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมือง

    หันไปกาง "ศาสตร์แห่งโหร" อ่านการวิเคราะห์ดวงเมืองของ โสรัจจะ นวลอยู่ นักพยากรณ์ชื่อดัง ที่แต่ละปีมักสร้างความฮือฮาด้วยความแม่นยำของคำพยากรณ์ไม่ว่าจะในเรื่องของบ้านเมือง เศรษฐกิจ อุบัติภัย ตลอดจนคำทำนายเกี่ยวกับการสูญเสียบุคคลสำคัญ

    ปีนี้ พ.ศ.2557 "โสรัจจะบอกว่า "หนักใจ" ทีเดียว" เป็นอีกปีที่การพยากรณ์เหตุการณ์ความเป็นไปในบ้านเมืองตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี 2557 มีจุดที่ยุ่งยากและมีอะไรต่อมิอะไรขมวดปมกันยุ่งจนแทบไม่อยากจะดู เพราะแทบจะหาเรื่องดีๆ ไม่ได้เลย

    "ที่น่าสังเกตคือ ดวงเมืองในปี 2557 นี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับดวงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเดือนมิถุนายน 2475 และดวงกรุงศรีอยุธยาคราวเสียกรุงครั้งที่ 2!!!"

    คนไทยในปี 2557 กำลังจะเข้าสู่แดนมิคสัญญีโดยแท้ บ้านเมืองตกอยู่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน มีความแตกแยก ยากแค้น เกิดการเสื่อมศรัทธาของประชาชนพลเมืองเมื่อฝ่ายผู้ปกครองและพรรคพวกตั้งหน้าตั้งตาจะกอบโกยท่าเดียว ใช้อำนาจไม่เป็นธรรมฟาดฟันศัตรูทางการเมืองอย่างโหดร้าย ซึ่งแน่นอนว่าผลย่อมกระทบไปถึงเศรษฐกิจที่ชะงักงัน ภายใต้โครงสร้างการเมืองใหม่

    โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจ มติชนออนไลน์
    วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 10:30:27 น.

    ...ต่อไปนี้คือ คำพยากรณ์ที่สรุปมาเป็นบางส่วน เดือนต่อเดือน ใครใจไม่แข็งพอ กรุณาอย่าอ่านต่อ....!

    ดวงเมือง 2557 "มะเมีย"หฤโหด! : มติชนออนไลน์
     
  19. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    ๒๑ ม.ค. ๕๗ กลเกมส์เทวโลก

    ๒๓ ธ.ค.๔๖ สองเทวดาโดดร่ม

    ทางเทวโลกลงมาเก็บกวาด

    สรุป จุดจบ ครบพัน
    เวรกรรม ที่สร้าง กันไว้
    ครบรอบ ท่านก็ จัดให้
    คงไว้ แก่ผู้ ดูดี

    องค์อินทร์ ๙๗
     
  20. iamprateep

    iamprateep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    448
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,685
    วังหน้าท่านเป็นคนดีมาก ... บูรณะปฏิสังขรวัด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนามากมาย
    ในยุคนั้น ตามหนังสือผมไม่ได้อ่านมากนัก ... ก็ลำบากใจ สมัยเปลี่ยนยุคก็เปลี่ยน แต่
    กรรมไม่เปลี่ยน ย่อมสนองตามที่ได้กระทำใว้เสมอๆ กรรมไม่เลือกที่รักมักที่ชังสักนิดเลย ...

    ควรพิจารณาละกรรมชั่วทุกอย่าง ทำแต่กรรมดี และเจริญกรรมฐานไปพระนิพพานกันดีกว่า
    อันนี้ถ้าปฏิบัติได้สำเร็จกิจ ก็สรุปได้ว่าจะต้องปลอดภัยได้ถาวรครับ ... ^^ ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...