ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข้อความจาก โรเบิร์ต์จี บาร์บาเรีย

    [​IMG]

    หลังจากได้มีประสบการณ์ ครั้งแรกกับพระเจ้า ใน ปี 1997, ข้าพเจ้าได้พูดกับพระเจ้าทุกวัน และการสนทนาของพวกเรานั้น พระเจ้าได้เตือนข้าพเจ้าในความทรงจำเกี่ยวกับ เหตุการ์ณการรอคอย การถูกรับไปกลางอากาศจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หมายสำคัญ เกือบทั้งหมดได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับยุคสุดท้าย ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลได้ บันทึกไว้ ดังนั้นมีคำถามเกิดขึ้นว่า เป็นวันและ เวลาไหน ที่จะมีการถูกรับไปกลางอากาศ จะมาถึง เพราะว่าแน่นอนที่สุดว่าไกล้เข้ามา จนถึงกับกำลังเคาะ(น็อค)ประตู

    [​IMG]

    พระเจ้าได้บอกข้าพเจ้าเกี่ยวกับจำนวน ของคนที่ได้ถูกรับไปในกลางอากาศ รอบแรก ซึ่งการถูกรับไปกลางอากาศ สมาชิกในโบสถ์ มีจำนวนน้อยมาก(อยู่นอกโบสถ์จะถูกรับไปมากกว่า) และพระคำภีไบเบิ้ลได้ ได้ เรียกว่า เจ้าสาวของพระคริสต์ ซึ่ง ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ เพียง 800,000 คน และเด็ก(ต่ำกว่ายี่สิบ) 9,600,000 คน เมื่อรวมเปรียบเทียบ 10,400,000 คน( 800,000 + 9,600,000 = 10,400,000 ) กับจำนวนผู้คนในโลกทั้งหมดมากกว่า 6,000,000,000 คน ซึ่งจำนวนนี้เป็นแสดงให้เห็นว่า น้อยกว่า หนึ่งในสิบ ของหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก

    สำหรับ จำนวน ประชากรที่เหลือในโลก ยังคงหลงอยู่ภายในโลก ที่ต้องเข้าสู่ 21 เดือน ของ การทุกข์ ยากลำบากในโลก( Great Tribulation ) ขณะที่รอคอยรอบสอง ของการถูกรับไปกลางอากาศ (จะมาถึง)ซึ่งเรียกว่า การถูกรับไปกลางอากาศกับธรรมมิกชนผู้บริสุทธิ์(ไม่มีมลทินใดๆ) 144,000 คน ร่วมกับ 389,600,000 คน ในพระคำไบเบิ้ล เรียกว่า แขกรับเชิญมางานเลี้ยง(ที่ถูกเลือก) นี้คือคนทั้งหมดที่จะถูกรับไปจากโลก ขณะมีชีวิตอยู่ ผู้ซึ่งที่ได้เข้าอาณาจักรสวรรค์ หลังจากที่ มิลลิเนียม (หนึ่งพันปีได้เสร็จสิ้น ) ดังนั้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้สอนจากที่โบสถ์ เพราะผู้คนที่ได้เข้าสวรรค์ ท่ามกลางคนที่มีชีวิตอยู่ ในระหว่างยุคสุดท้าย ประมาณ 400,000,000 จากประชากร โลกมากกว่า ขณะนี้ 6,000,000,000

    ผู้ที่เหลือยู่บนโลก หลังจาก ไม่การถูกรับไปกลางอากาศรอบสอง กับธรรมิกชนที่ไร้มลทิน ประมาณ 2,000,000,000, หนึ่งในสามของประชากรโลก รอการฟื้นคืนชีพ จากความตายและมีชีวิตอีกครั้ง และพระเยซูคริสต์ จะได้ ปกครอง ในระหว่างหนึ่งพันปี สวรรค์ บนโลก ซึ่งเรียกว่า มิลลิเนียม คนเหล่านี้ เรียกจากพระคำภีร์ไบเบิ้ลว่า ผู้ที่วิญญาณถูกตัดหัว และพวกเขาไม่ได้เข้าสวรรค์ หลังจากหนึ่งพันปี ที่ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาจะกลายเป็นผงคลีดิน

    ในโลก ผู้คนเหล่านี้ที่ถูกตัดหัว เพราะ ปฎิเสธการรับ เครื่องหมายของสัตว์ร้าย (หก - หก - หก ( 666 ) ที่มือขวา และที่หน้าฝาก) ที่จะมีชีวิต และได้ร่วมเห็นการปกครองของพระเยซูคริสต์ 1000 ปี ซึ่งเป็นรางวัลที่เขาไม่ได้ปฎิเสธพระนามของพระเจ้าจึงได้ถูกฆ่า และเห็นการปรากฏของพระเยซูคริสต์ (เสด็จมากลางอากาศที่ทุกคนเห็นว่าเป็นพระเจ้า) และหนังสือ สามเล่ม ที่ข้าพเจ้าได้เขียน สำหรับพระเจ้า คือกุญแจของพวกท่านที่จะไม่ พลาดการถูกรับกลางอากาศ เพราะหนังสื่อสามเล่มเป็นการช่วยเหลือ ที่ท่านสามารถจะได้รับ น้ำแห่งชีวิต ซึ่งประกอบด้วยพระคำของเจ้า ซึ่งเป็นน้ำแห่งชีวิต จำเป็นสำหรับ การบัพติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ของท่านและความรอดด้วยพระคุณ เรียกตามพระเยซูคริสต์ ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลว่า คำสัญญาของพระบิดา

    โรเบิร์ต์จี บาร์บาเรีย (ผู้เขียนข้อความ)

    โน๊ต :
    พระเจ้าบอกว่าข้าพเจ้าว่า หลายๆคนที่อ่านข้อความนี้ จะปฎิเสธที่จะเชื่อถึงแม้ได้เผยให้เห็นความจริง มีพระคำภีร์สนับสนุนหมดทุกอย่าง ในการบอกข้อความเหล่านี้ และเราจะอ้างอิงถึงพระคำภีร์ บ้างบางส่วน

    ก่อนอื่น ที่ได้กล่าวถึงคือ ประชาชนกลุ่มน้อยที่ได้รับ การถูกรับไปในกลางอากาศ และได้รับชีวิตนิรันดร์ (ชีวิตอมตะ) อยู่บนสวรรค์( เป็นนิจนิรันดร์ ) พระเยซูคริสต์ ได้กล่าวไว้ ตามด้านล่างนี้

    คนแสวงหาความรอดมีน้อย คนจำนวนมากจึงหลงไป
    มัทธิว 7:13 จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่และทางกว้างนั้นนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก

    มัทธิว 7:14 เพราะว่าประตูทางตรงซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย
    พระคำภีร์ได้หมายถึง แน่นอนที่สุดว่ามีหลายคนในพวกท่านได้เลือกเดินทางไปที่พินาศที่ถูกทำลาย (หมายถึงทางที่ไปนรก)
    ขณะที่มีเพียงส่วนน้อย จากพวกท่านที่ได้ ถูกรับไปกลางอากาศ และได้รับชีวิตนิรันดร์อมตะ ซึ่งได้อยู่ บนสวรรค์ ถึงกระนั้นท่านก็ยังไม่เชื่อ เพียงเพราะท่านได้ไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ ประกาศตัวเองว่าเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ และเรียกตัวเองว่าเป็น คริสเตียน เพราะว่าท่านได้รับบัพติสมาในน้ำ ท่านคิดว่าท่านได้รับความรอด สำหรับท่านที่เข้าใจแบบนั้นบางที่อาจจะไม่ใช่ เพราะท่านสามารถได้รับความรอดจากผ่านการบัพติสมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ และการที่ท่านไปที่โบสถ์และได้รับการบัศติสมาในน้ำ ไม่ได้มีความหมายอะไรที่สมบูรณ์

    เหตุการณ์ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ บัพติสมา เป็นการเกิดจากพระวิญญาณ และไม่ใช่จากเนื้อหนัง(ร่างกาย) ที่รับบัพติสมาในน้ำ และคนจะสามารถรับได้คือ พระเจ้าเห็นว่าควรค่า(เห็นมีค่า)ที่จะได้รับ พระเยซูคริสต์ได้กล่าวไว้ว่า

    มัทธิว 7:21 มิใช่ทุกคนที่ร้องแก่เราว่า ` พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า ' จะได้เข้าในอาณาจักรแห่งสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้

    มัทธิว 7:22 เมื่อถึงวันนั้นจะมีคนเป็นอันมากร้องแก่เราว่า ` พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์ได้พยากรณ์ในพระนามของพระองค์ และได้ขับผีออกในพระนามของพระองค์ และได้กระทำการมหัศจรรย์เป็นอันมากในพระนามของพระองค์มิใช่หรือ

    มัทธิว 7:23 เมื่อนั้นเราจะแจ้งแก่เขาว่า เราไม่เคยรู้จักเจ้าเลย เจ้าผู้กระทำความชั่วช้า จงไปเสียให้พ้นจากเรา


    มัทธิว 7:21-23 สามข้อ ข้างบน หมายถึงผู้ที่ได้ไปนมัสการที่โบสถ์ และได้บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือองค์กรในหลายด้าน และถึงแม้จะได้รับคำตอบจากคำอธิษฐานให้ผู้อื่นประสบผลสำเร็จ และท่านอาจได้รับการเจิมในการทำงานของพระเจ้า แต่ถ้ายังไม่ได้รับบัพติสมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ยูดาส เคริโอ เป็นตัวอย่างเหตุการณ์นี้ได้ดี เพราะเขาได้รับบัศมาในน้ำและได้รับการเจิมที่จะทำงานของพระเจ้า เขาได้ขับผี และรักษาโรคผู้ที่ป่วย และได้ติดตามพระเยซูคริสต์ ไปทุกที่แต่อย่างไรก็ตาม ยูดาสได้อยู่ในนรกทุกวันนี้

    พระเจ้าบอกข้าพเจ้าว่า ก็มีบางคนในพวกท่านได้ เมื่อได้อ่านหนังสือเล่ม นี้ และบอกว่า ชายคนนี้พยามยามจะให้คนตกใจเพื่อพวกเขาจะได้ซื้อหนังสือ แต่ข้าพเจ้าสามารถบอกท่านได้เลยว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนหนังสือของพระเจ้าเหล่านี้เพื่อการกำไร แต่ได้เป็นการเตือนประชาชนไม่ให้ถูกนำผิดโดยคำสอนของโบสถ์ ทั่วทั้งไบเบิ้ล พระเจ้า โมเสส และพระเยซุคริสต์ ได้ตักเตือนว่าท่านอาจถูกหลอกโดย ผู้พยากรณ์เท็จซึ่งมาจากซาตาน

    ผู้พยากรณ์เท็จเหล่านี้ พยายามที่จะประกาศตัวเองว่าเป็นคริสเตียน และได้ยืนอยู่บนธรรมมาส์ ทุกๆวันอาทิตย์ และอ้างอิงพระคำภีร์ ตลอด แต่อย่าลืมว่า ซาตานได้มาเข้าไกล้พระเยซูคริสต์ในที่โล่งในป่า ซาตานได้ใช้พระคำภีร์ พยายามที่จะหลอกลวงพระเยซูคริสต์ โดยอ้างพระคำภีร์ ด้วย

    เรารู้จักผู้พยากรณ์เท็จได้โดยคำสอนของเขา มัทธิว 7:15 จงระวังผู้พยากรณ์เท็จที่มาหาท่านนุ่งห่มดุจแกะ แต่ภายในเขาร้ายกาจ นี้คือสิ่งที่อ้างจากหนังสือสามเล่ม ที่ข้าพเจ้าได้เขียนตามคำสั่งของพระเจ้า และทุกสิ่งได้อ้างอิงจากพระคำภีร์ หลายคนที่ได้อ่าน กระเพาะที่ย่อยอาจจะปวดมวล(ขม)เพราะปฏิเสธที่จะเชื่อ ว่า พระคำภีร์เป็นความจริง นั้นได้แตกต่างที่พวกเขาได้ถูกสอนมาจากที่โบสถ์

    ขอให้เป็นไปดังที่บอก ว่าท่านจะเลือกที่จะรับใช้ศาสนาของท่านหรือรับใช้พระเจ้า แต่ท่านไม่สามารถรับใช้สองอย่างในเวลาเดียวกัน

    วิวรณ์ 10:10 ข้าพเจ้ารับหนังสือเล็กๆนั้นจากมือทูตสวรรค์แล้วก็กินเข้าไป ขณะที่มันอยู่ในปากของข้าพเจ้านั้นมันก็หวานเหมือนน้ำผึ้ง แต่เมื่อข้าพเจ้ากินมันเข้าไปแล้วท้องข้าพเจ้าก็ขม
    วิวรณ์ 10:11 และท่านบอกข้าพเจ้าว่า เจ้าต้องพยากรณ์อีก ต่อชนชาติทั้งหลาย บรรดาประชาชาติ ภาษา และกษัตริย์

    ข้อความนี้ได้ ให้ยอห์นเป็นคนพูด และ 144,000 ผู้ที่บริสุทธิ์ไร้ มลทิน ที่ได้กล่าวถึงในหนังสือที่ข้าพเจ้าได้เขียน


    หมายเหตุ

    ผมต้องขอโทษท่านที่นับถือศาสนาคริสต์ด้วยครับ ถ้าข้อความที่ท่านได้อ่านนี้อาจจะทำให้ท่านไม่พอใจไปบ้าง ผมก็ขอให้ถือว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเพียงคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเว็บพลังจิตแห่งนี้เลยนะครับ เพราะถ้าวิเคราะห์จากหลักแห่งความเป็นจริงแล้ว คนเราจะถูกรับตัวขึ้นไปกลางอากาศในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น หนทางที่เป็นไปได้ก็มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น ก็คือถูกมนุษย์ต่างดาวรับตัวขึ้นไปในยานอวกาศขนาดยักษ์นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2012
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เขื่อนภูมิพลปรับยุทธศาสตร์เตรียมรับน้ำใหม่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เขื่อนภูมิพล ปรับยุทธศาสตร์เตรียมรับน้ำใหม่ พร้อมรับมือมรสุมได้ 3 - 4 ลูก เร่งระบายน้ำทั้งหมด
    <!--<script type="text/javascript"> google_ad_channel = '3694366847'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </script> <script type="text/javascript" src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js"></script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></script>-->[​IMG]

    <!-- <iframe src="http://www.bangkokbiznews.com/home/banner/all-ad-300-indetail.php" frameborder="0" scrolling="no" width="300" height="250"></iframe> -->

    นายณรงค์ ไทยประยูร ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลว่า พร่องน้ำลงไปเหลืออยู่ที่ร้อยละ 85 จึงมีน้ำอยู่ที่ 11,500 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยได้รับแผนการระบายน้ำจากคณะอนุกรรมการจัดสรรน้ำ เพื่อการเพาะปลูกในฤดูแล้ง กำหนดว่าจากเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนเมษายน 2555 ต้องระบายน้ำออกไป ต้องระบายน้ำออกไปถึง 7,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เพื่อเตรียมรอรับน้ำใหม่


    ขณะเดียวกันเขื่อนภูมิพลจำเป็นต้องเดินเครื่องทุกเครื่องอย่างเต็มที่

    โดยมีเป้าหมายในเดือนมกราคมนี้ต้องระบายน้ำออกไป 1,650 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันถ้าเดินเครื่องในลักษณะนี้ทั้งเดือนก็จะทำได้ตามเป้าหมาย และในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม มีปริมาณที่จะให้ระบายได้อยู่ที่ 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร และในเดือนเมษายนจะระบายได้ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร


    นายประยูร กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้เขื่อน และคณะอนุกรรมการจัดสรรน้ำ

    ทางรัฐบาลต้องการใช้ประโยชน์จากเขื่อนในการควบคุมน้ำหลาก แต่เดิมกระบวนการหรือแนวคิดมีการเก็บน้ำเพื่อเกษตรกรรม แต่ในปีนี้นโยบายก็เปลี่ยนไปซึ่งต้องมีการระบายน้ำมากขึ้น โดยคณะอนุกรรมการจัดสรรน้ำจะนำเรื่องนี้เข้าประชุมอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม น้ำต้นทุนก็มีส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม 2555 ต้องมีการปล่อยน้ำไปตามที่กำหนดไว้


    ฉะนั้นหากว่าระบายน้ำไปตามที่กำหนดไว้อีกครั้งหนึ่ง ก็จะมีช่องว่างของพื้นที่รับน้ำใหม่โดยสามารถรับน้ำใหม่ได้ 6,500 ล้านลูกบาศก์เมตร จะสามารถรองรับต่อมรสุมที่จะเข้ามา 3 - 4 ลูก ในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน และเดือนตุลาคม จึงมีความเป็นไปได้ว่า เขื่อนจะต้องกักเก็บน้ำลดลง
    <!-- Tags Keyword -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>"ยงยุทธ" วอน "สมิทธ" อย่าลาออกกยน.เลย บอกที่ผ่านมารับฟังตลอด </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง ความเหมาะสมกรณีที่นายสมิทธ ธรรมสโรช กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารการจัดการน้ำ (กยน.) เตรียมลาออกจากคณะกรรมการชุดนี้ว่า

    ขอให้นายสมิทธร่วมในคณะกรรมการชุดนี้ต่อไป เนื่องจากมีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลรับฟังนายสมิทธ มาโดยตลอด


    ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น แม้ว่า นายผดุง จะมีภาพเป็นมือขวาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เห็นว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อล้างบางข้าราชการกระทรวงมหาดไทย แต่เป็นการแต่งตั้งตามความรู้ ความสามารถ ที่เหมาะสม ทั้งนี้ ตำแหน่งทางการเมืองต้องมีการหมุนเวียนสลับ เพื่อความเหมาะสม




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. เบื้องต้น

    เบื้องต้น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +13
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พันธะสัญญาจากผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: 'Microsoft Sans Serif', 'Microsoft Sans Serif', Verdana, Helvetica"><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: 'Microsoft Sans Serif', 'Microsoft Sans Serif', Verdana, Helvetica" vAlign=top>ข้อความส่วนหนึ่งของผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต ถ่ายทอดข้อความเป็นคลื่นเสียงไว้ ณ เขากะลา [​IMG] วันที่ 10 ตุลาคม 2541.....
    สิ่งที่ข้าพเจ้าจะอยู่ช่วยเหลือพวกเจ้านั้น ได้เคยกล่าวไว้แล้วในกาลก่อน มีในบันทึกนะ ก็จะบอกอีกสักครั้งหนึ่งว่า ข้าพเจ้าจะมาช่วยทั้งเทคโนโลยี ซึ่งเป็นวัตถุที่เจ้าเห็นกัน และมาทั้งพระญาณ ซึ่งผ่านร่างที่เป็นมนุษย์เพื่อสื่อสาร
    การอยู่ช่วยเหลือของข้าพเจ้า ก็จะช่วยเหลือตั้งแต่ก่อนเกิดภัยพิบัติ อย่างเช่นในขณะนี้ มาให้พวกเจ้าเห็น มาให้พวกเจ้าเชื่อตามแต่บารมี ท่านที่มีบารมีตามแต่วาระจิต ก็จะได้เห็นข้าพเจ้าในความชัดเจน
    </TD><TD style="FONT-SIZE: 13px; WIDTH: 120px; FONT-FAMILY: 'Microsoft Sans Serif', 'Microsoft Sans Serif', Verdana, Helvetica" width=120>
    [​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    เจ้าคนที่ถามครั้งก่อนนี้ ก็ไปถามเขาดู เขาได้เห็นความชัดเจนมาก
    และสำหรับการที่จะอยู่ช่วยเหลืออันดับแรกนอกจากในขั้นต้นนี่นะ.... มาให้พวกเจ้าเห็นกันนะ

    สงครามโลกของพวกเจ้า ก็ต้องได้รับความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว ไม่อย่างนั้นแล้ว โลกมนุษย์ของเจ้ามันคงพังพินาศกันไปมากกว่านี้ ถ้าไม่ได้รับการสกัดกั้นด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว จากจักรวาลโลกุกะตาปากะดิกอง และจักรวาล และจากพระญาณ และยานฯ อวกาศของข้าพเจ้า

    ส่วนที่ 3 ก็คือ ช่วงในการเกิดภัยพิบัติ จะมีความโกลาหลวุ่นวายมากมายกันเหลือเกินในโลกมนุษย์ของพวกเจ้า ตอนนี้ก็ถือดีกันอยู่ แต่พอตอนนั้นจะเหมือนลูกหมาตกน้ำ... หมดแล้ว...ลาภยศ...ไอ้ที่มันลดยาก มันจะลดลงไป หลุดลงไปเลย มันไม่มีแล้ว เหลือแต่ตัว ตัวเองก็แทบจะมากันไม่ถึง เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก็จะกระเซอะกระเซิง เป็นที่น่าเวทนา

    เพราะว่าพวกข้าพเจ้า เมื่อหลังเกิดภัยพิบัติ และจะอยู่ช่วยเหลือพวกเจ้าจนสามารถตั้งตัวกันได้ แล้วก็จะต้องถอนทัพกลับไป เพราะไม่สามารถจะอยู่ได้เลยตามกฎธรรมชาติ

    เพราะฉะนั้น การมาช่วยเหลือนั้น ตั้งแต่ก่อนเกิด จนเกิดภัยพิบัติ จะอยู่กับเจ้านี่แหละ..... และหลังจากเกิดภัยพิบัติ ก็จะอดอยาก ยากแค้น แร้นแค้นกันแล้ว เทคโนโลยีของข้าพเจ้า ก็จะนำมาให้พวกเจ้าในการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจัย 4
    ดาวพลูโต (โมโนแกรม: [​IMG]สัญลักษณ์ทางดาราศาสตร์ของดาวพลูโต ) เป็นดาวเคราะห์แคระในระบบสุริยะ อยู่นอกวงโคจรของดาวเนปจูนออกไป ในบริเวณแถบไคเปอร์ มีขนาดเล็กกว่า ดวงจันทร์ 7 ดวงในระบบสุริยะ (ดวงจันทร์ของโลก ไอโอ ยูโรปา แกนีมีด คัลลิสโต ไททัน และไทรตัน) ดาวพลูโตมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2,390 กิโลเมตร มีดวงจันทร์บริวาร 3 ดวง ชื่อ คารอน (มีขนาดประมาณ 1/5 ของพลูโต) นิกซ์ และไฮดรา (2 ดวงหลัง ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2548)
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: 'Microsoft Sans Serif', 'Microsoft Sans Serif', Verdana, Helvetica"><TR><TD style="FONT-SIZE: 13px; WIDTH: 100px; FONT-FAMILY: 'Microsoft Sans Serif', 'Microsoft Sans Serif', Verdana, Helvetica" width=100><LI class=margintop style="OVERFLOW-Y: auto; OVERFLOW-X: auto">[​IMG]</TD><TD style="FONT-SIZE: 13px; FONT-FAMILY: 'Microsoft Sans Serif', 'Microsoft Sans Serif', Verdana, Helvetica">Comment จากคุณสุดใจ เขากะลา
    นี่คือข้อมูล และวัตถุประสงค์ ที่...กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้รับการสื่อสารข้อมูลมาจากมนุษย์ต่างดาวโดยตรง และเผยแพร่มาอย่างต่อเนื่อง


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    และเป็นข้อมูล ที่มนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา...แจ้งเพื่อทราบ.. เพื่อจะได้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันค่ะ . ซึ่ง ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ระบบได้มีการมาวางโครงการ มาเตรียมการให้ความช่วยเหลือ มาฝึกบุคคลที่จะทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว มาเตรียมการยกระดับจิตใจมนุษย์โลก เพื่อให้มีการปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่น เพื่อจะได้นำอุปกรณ์เทคโนโลยีจากต่างดาว ไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันในยามวิกฤติ

    ทุกอย่าง ที่มนุษย์ต่างดาวได้ดำเนินการนั้น ต้องใช้เวลามานับ 10 ปี โดยจะค่อย ๆ อธิบายโครงสร้างของระบบอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้มนุษย์รับทราบในเรื่องของกฏธรรมชาติ ให้ทำความเข้าใจในเรื่องของขันธ์ 5 เพื่อปล่อยวาง ละการยึดมั่นถือมั่น ค่อย ๆ เปิดเผยในเรื่องของเทคโนโลยี โดยมีการนำจานบินมาปรากฏให้เห็น ให้รับรู้ถึงอุปกรณ์ไฮเทคจากต่างดาว

    นั่นเป็นเพราะว่า มนุษย์โลกในส่วนใหญ่ จะเป็นผู้ที่มีความกลัวเป็นพื้นฐาน มีความกลัวที่จะถูกคนอื่นมารุกราน และยิ่งเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีสูง ก็ย่อมกลัวมากกว่าเป็นธรรมดา เพราะว่าเทคโนโลยีของตนนั้นสู้ไม่ได้

    ดังนั้น ด้วยความกลัวเป็นพื้นฐาน จึงมีการเข้าใจว่า....มนุษย์ต่างดาวจะมายึดโลก จะมาทำลายล้าง จึงต้องทำการป้องกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ที่มีความเข้าใจไปในลักษณะเช่นนั้น

    ดังนั้นเว็บไซด์ www.ufokaokala.com แห่งนี้ จึงจำเป็นต้องแจ้งข้อมูลที่...ถูกตรง....ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา) ที่ได้รับการสื่อสารมาจากมนุษย์ต่างดาว ทีติด ต่อสื่อสารกับกลุ่มนี้ฯ เป็นหลักเท่านั้น

    เพราะไม่เช่นนั้น จะเป็นการสับสนปนเปกันไปในข้อมูลของกลุ่มต่าง ๆ ที่มีข้อมูลแตกต่างกันออกไป ก็จะมีคำถาม มีข้อสงสัย มีการอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในคำถาม ในความสงสัยในข้อมูลจากสถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ตรงกันกับของกลุ่มประสานงานฯ ที่ได้แจ้งเพื่อทราบไว้

    ซึ่งข้อมูลของกลุ่มต่าง ๆ ที่ติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวจากดวงดาวต่าง ๆ นั้น ก็ย่อมเป็นข้อมูลที่กลุ่มนั้น ๆ ได้รับมา และได้นำออกมาเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปได้รับทราบ

    ซึ่งทางกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เคารพในสิทธิ์ของแต่ละข้อมูลจากกลุ่มต่าง ๆ ที่ได้รับการสื่อสารมา โดยมิได้ไปตัดสินว่าข้อมูลของกลุ่มใด ๆ นั้น ผิดหรือถูก เพราะทุกกลุ่มย่อมรับข้อมูลแตกต่างกันไปแต่ละดวงดาว

    เพียง แต่... กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ขออนุญาตเผยแพร่ข้อมูล เฉพาะที่กลุ่มประสานงานฯ ได้รับมาจากมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา...เท่านั้น

    ซึ่งหากท่านที่สนใจ เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวในกลุ่มอื่น ๆ ท่านสามารถติดตาม ค้นคว้าข้อมูลได้ จากกลุ่มนั้น ๆ โดยตรง ในเว็บไซด์ที่กลุ่มนั้น ๆ ทำขึ้นเพื่อการเผยแพร่ โดยนำลิ้งค์มาฝากไว้เพื่อให้ท่านที่สนใจได้ไปติดตามอ่านกัน
    จึงขอย้ำอีกครั้ง .... ในเรื่องของ...มนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา ว่ามาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลกจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น....ไม่ได้มาเพื่อยึดโลก ดังที่บางกลุ่มได้กล่าวไว้แต่ประการใด...

    ซึ่งถ้าจะยึดโลก เป็นเรื่องง่ายของมนุษย์ต่างดาว เพราะเทคโนโลยีมนุษย์ไม่มีทางที่จะไปสู้รบปรบมือกับเขาได้เลย ถ้าจะยึดโลกจริง ก็คงยึดได้ไปนานแล้ว
    แต่การจะช่วยนี่สิ เป็นเรื่องยาก....ต้องใช้เวลา ต้องค่อย ๆ ทำความคุ้นเคย ค่อย ๆทำความไว้วางใจ ค่อย ๆ อธิบาย ค่อย ๆ เปิดเผยให้เกิดความคุ้นเคยกัน ก่อนที่จะทำงานร่วมกัน

    ทั้งหมดนี้....ก็เพื่อจะช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นจากภัยพิบัตินั่นเอง
    และในขณะนี้ สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวได้เคยแจ้งเพื่อทราบไว้เมื่อหลายปีก่อนนั้น ได้เริ่มปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ทั้งเรื่องของภัยพิบัติจากธรรมชาติ เรื่องของจานบินที่เริ่มปรากฏอย่างมากมายทั่วโลก เรื่องมนุษย์ต่างดาวที่เริ่มสื่อสารกับกลุ่มบุคคลต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องของอุปกรณ์เทคโนโลยีจากต่างดาวที่นำมาให้มนุษย์โลกได้นำไปใช้ เรื่องของมิติต่าง ๆ ที่มนุษย์โลกได้เริ่มพบเจอ และเทคโนโลยีจากต่างดาวอีกมากมาย ที่เริ่มมีหลักฐาน และมีการสัมผัสได้อย่างมากมายในขณะนี้.

    ที่มา http://ainews1.com/article553.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2012
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พันธะสัญญาของพระเจ้า

    [​IMG]

    "สิ่งที่ข้าพเจ้าจะอยู่ช่วยเหลือพวกเจ้านั้น ได้เคยกล่าวไว้แล้วในกาลก่อน มีในบันทึกนะ ก็จะบอกอีกสักครั้งหนึ่งว่า ข้าพเจ้าจะมาช่วยทั้งเทคโนโลยี ซึ่งเป็นวัตถุที่เจ้าเห็นกัน และมาทั้งพระญาณ ซึ่งผ่านร่างที่เป็นมนุษย์เพื่อสื่อสาร การอยู่ช่วยเหลือของข้าพเจ้า ก็จะช่วยเหลือตั้งแต่ก่อนเกิดภัยพิบัติ อย่างเช่นในขณะนี้ มาให้พวกเจ้าเห็น มาให้พวกเจ้าเชื่อตามแต่บารมี ท่านที่มีบารมีตามแต่วาระจิต ก็จะได้เห็นข้าพเจ้าในความชัดเจน"

    ศาสนาคริสต์ (อังกฤษ: Christianity) หรือที่ราชบัณฑิตยสถานให้เรียกว่า คริสต์ศาสนาเป็นศาสนาแห่งความรัก เพราะพระเจ้าทรงรักมนุษย์ ทรงรักประชากรของพระองค์ ทรงสร้างสัตว์ต่างๆขึ้นมาเพื่อรับใช้ เป็นอาหารแก่มนุษย์ และทรงให้มนุษย์ลงสู่นรกเมื่อไม่ศรัทธาในพระเจ้า ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่นับถือศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงมนุษย์โดยใช้เวลาเพียง 6วัน และหยุดพักในวันที่ 7 เมื่อไม่ถึง 6000 ปีก่อน

    พระเจ้าคือพระยาห์เวห์ (พระบิดา) มีพระเยซูคริสต์เป็นศาสดา ศาสนาคริสต์เชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียวซึ่งดำรงในสามพระบุคคล ในพระลักษณะ"ตรีเอกภาพ" หรือ "ตรีเอกานุภาพ" (Trinity) คือ พระบิดา, พระบุตร และพระจิต (พระวิญญาณบริสุทธิ์) มีคัมภีร์คือพระคริสตธรรมคัมภีร์หรือคัมภีร์ไบเบิล (The Bible) ศาสนาคริสต์มีผู้นับถือทั้งหมด 2,100 ล้านคน ถือว่าเป็นศาสนาที่มีจำนวนผู้นับถือมากที่สุดในโลก

    ศาสนาคริสต์ มีรากฐานมาจากศาสนายูดาห์ (หรือศาสนายิว) โดยมีเนื้อหาและความเชื่อบางส่วนเหมือนกัน โดยเฉพาะคัมภีร์ไบเบิลฮิบรู ที่คริสตศาสนิกชนรู้จักในชื่อพันธสัญญาเดิม (The Old Testament) โดยในพระคริสตธรรมคัมภีร์ 5 เล่มแรกจากทั้งหมด 46 เล่มใน ภาคพันธสัญญาเดิม ที่เรียกว่าเบญจบรรณ/ปัญจบรรพ (Pentateuch) ได้รับการนับถือเป็นคัมภีร์ของศาสนายูดาห์และศาสนาอิสลามด้วยเช่นกัน โดยในพระธรรมหลายตอนได้พยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ (Messiah) ที่ชาวคริสต์เชื่อว่าคือพระเยซู เช่น หนังสือประกาศกอิสยาห์ บทที่ 53 เป็นต้น

    คริสตชนนั้นมีความเชื่อว่า พระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์ จากหญิงพรหมจรรย์ (สาวบริสุทธิ์) โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เพื่อไถ่มนุษย์ให้พ้นจากความบาปโดยการสิ้นพระชนม์ที่กางเขน และทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายในสามวันหลังจากนั้น และเสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระบิดา ผู้ที่เชื่อและไว้วางใจในพระองค์จะได้รับการอภัยโทษบาป และจะเข้าสู่การพิพากษาในวันสุดท้ายเหมือนทุกคน จะรอดพ้นจากการถูกพิพากษาให้ตกนรก แต่จะเป็นการพิพากษาเพื่อรับบำเหน็จรางวัลแทนในวันสิ้นโลก (Armageddon) และได้เข้าสู่พระราชัยสวรรค์ แต่ถ้าผู้ใดไม่เชื่อจะถูกปรับโทษหลังความตาย

    ที่มา http://th.wikipedia.org
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1258368960.jpg
      1258368960.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.3 KB
      เปิดดู:
      1,884
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2012
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระชาวทิเบต ใช้ญาณมองเห็นมนุษย์ต่างดาวกำลังช่วยโลก จากภัยพิบัติในปี ค.ศ.2012

    [​IMG]

    พระชาวทิเบตได้ใช้ญาณ มองเห็นถึงพลังของมนุษย์ต่างดาวช่วยโลก จากการชำระล้างในปี 2012 การใช้ญาณหยั่งรู้นั้น ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ของเหล่านักบวชทิเบตเลย

    หลายพันปีกับการใช้ญาณหยั่งรู้ ในช่วงกลางของพิธีกรรมทางจิตวิญญาณ จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมชาวธิเบตไปแล้ว อะไรก็ตามที่นักแสวงบุญชาวอินเดีย เข้ามาเรียนรู้จากวัดทิเบตไม่กี่แห่ง ที่อยู่ภายใต้การปกครองของจีนนั้น เป็นเรื่องน่าตื่นตระหนกและน่าชื่นชม

    จากการใช้ญาณหยั่งรู้ ของเหล่าผู้แสวงบุญเหล่านั้น ทำให้เห็นถึงพลังของโลก ที่ใช้ในการทำลายตัวเอง พวกเขายังเห็นว่าโลกไม่ได้ถูกทำลายจากใคร(แต่ใช้พลังของตัวมันเอง) ในช่วงระหว่างเวลาปัจจุบันจนถึงปี 2012 พลังอันมหาศาลจะทำสัญญาต่อเนื่องจากสงครามแต่ละพื้นที่ การก่อการร้ายและสงครามดักซุ่ม จะกลายเป็นปัญหาหลัก ในระบบการปกครองของโลก จะมีบางอย่างเกิดขึ้นในปี 2010

    ในช่วงนั้น พลังของโลกจะถูกคุกคาม เพื่อให้เกิดการทำลายล้างต่อกัน ในระหว่างปี 2010 และ 2012 ทั่วทั้งโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ที่ขั้วแม่เหล็กและเตรียมการสำหรับวันหายนะครั้งยิ่งใหญ่ การแทรกแซงการเมืองที่หนักหน่วง และการเจรจาต่อรองจะไร้ผล ปี 2012 โลกจะเริ่มกระโจนเข้าสู่การทำลายล้างโดยอาวุธนิวเคลียร์ และช่วงนั้นอะไรบางอย่างที่สำคัญ จะเกิดขึ้น คำกล่าวโดยพระชาวธิเบต

    พลังเหนือธรรมชาติจะเข้าแทรก จุดมุ่งหมายของโลกไม่ใช่เพื่อการทำลายล้างตัวเองในเวลานี้ การแปลความหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ จากคำพูดของนักบวชได้สร้างหลักฐานว่า มนุษย์ต่างดาวได้กำลังเฝ้ามองเราทุกๆ ย่างก้าว พวกเขาจะมาปรากฎตัวในปี 2012 และช่วยเหลือโลกจากการทำลายล้างตัวเอง เมื่อถามถึงเรื่องยูเอฟโอ ที่ปรากฎในประเทศอินเดียและจีน พระท่านยิ้มและบอกว่า เหล่าผู้มีญาณหยั่งรู้เหล่านี้ กำลังเฝ้ามองเราอยู่

    เหล่ามนุษย์ไม่สามารถและไม่ได้รับอนุญาต ให้เปลี่ยนแปลงอนาคตต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ มนุษย์ทุกคนแม้ว่าการกระทำที่เรียกว่า “กรรม” จะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ที่จะเกิดขึ้นในระดับหนึ่ง แต่การเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเองอย่างใหญ่หลวง เพื่อเข้าสู่ระบบการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงนั้นย่อมไม่ได้รับอนุญาต พระท่านยังกล่าวอีกว่า หลังจากผ่านพ้นปี 2012 ไปแล้ว อารยะธรรมของเราจะเข้าสู่ยุคสุดท้ายของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และจะเข้าสู่ยุคของจิตวิญญาณและ ไม่เน้นด้านวัตถุธาตุและเคมี

    หลังจากปี 2012 เทคโนโลยีของเราก็จะเปลี่ยนทิศทาง ผู้คนจะเรียนรู้แก่นสารแห่งจิตวิญญาณ (ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและวิญญาณ) การกลับชาติมาเกิดและความจริงจะถูกเชื่อมต่อกับสิ่งที่เรียกกันว่า “พระเจ้า” การพบเห็นยูเอฟโอในประเทศอินเดียและจีน ได้เพิ่มขึ้นโดยผู้คนหลายกลุ่ม มีหลายคนพูดว่าทั้งอินเดียและจีน ต่างก็กำลังติดต่อกับพวกมนุษย์ต่างดาว

    ในปัจจุบันการปรากฎตัวของยูเอฟโอ ส่วนใหญ่ได้ถูกพบเห็นในประเทศที่ได้พัฒนาเรือดำน้ำติดนิวเคลียร์นุค เมื่อถามว่าถ้ามนุษย์ต่างดาวได้ปรากฎตัวให้เห็นจริงๆ ในปี 2012 คำตอบจากผู้หยั่งรู้คือ พวกเขาจะเปิดเผยตัวเอง ในรูปแบบที่ไม่ทำให้พวกเรากลัว พวกเขาจะปรากฎโฉมเมื่อจำเป็นเท่านั้น ขณะที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของพวกเรากำลังก้าวหน้า โชคชะตาก็ดลบันดาลให้เรา ได้พบและผูกสัมพันธ์กับพวกเขาโดยปริยาย

    จากการบอกเล่าของผู้หยั่งรู้ โลกของเราได้รับพรและกำลังถูกปกป้องอย่างต่อเนื่อง จากอันตรายทุกรูปแบบในทุกเวลา ที่เราไม่เคยแม้จะตระหนักถึง ขณะที่เทคโนโลยีของเราก้าวหน้า เราจะตระหนักว่ากลุ่มที่อยู่ด้านนอกนั้นรักษาเราอย่างไร

    สาส์นจากเพื่อนต่างดาวมาเตือนชาวโลก
    โดยคุณ Haruaki_nสมาชิก

    ที่มา 2012, MARS, UFO, ALIENS, Pole Shift, Time Travel, NASA, PLANET X, POLE SHIFT, MARS, MOON, SPACE, ORION, TIME TRAVEL, HAARP, DULCE, PROPHECY, UFO Video
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2012
  7. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    29 ม.ค. 55

    8 ต.ค. 51

    ใบเสร็จราคา 11,111บาท ที่เก็บไม่ได้ ชีเปลือย คนหนี

    จะเกิดปัญหาการเงินรุนแรง คนจนมากขึ้น คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น

    9 พ.ย. 51 ผลไม้เมืองนอก

    โดน m79 ตาย5

    16 พ.ย. 51

    ยาเสพติด เศรษฐกิจถอยหลัง ยาตราม้าเดินหน้า

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำกาแทน
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "การให้ย่อมก่อให้เกิดการได้"

    [​IMG]
    ในยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์(ศรีอาริย์) จะมีต้นกัลปพฤกษ์ทิพย์เกิดขึ้นมามากมาย

    บุญฤทธิ์--ฤทธิ์ที่ทุกคนสร้างได้ง่ายๆ

    บุญ แปลว่าการชำระ มีอาการคือการสละ มีผลเป็นอิสรภาพ มีรสเป็นความสุข มีผลต่อเนื่องเป็นฤทธิอำนาจตามกฎธรรมชาติ ทุกสิ่งมีปฏิภาวะและมีแนวโน้มปรับสู่สมดุล ดังนั้นใครสละสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น ยิ่งสละมากก็ยิ่งได้โดยง่าย

    เช่น ในสมัยพุทธกาลมีคหบดีคนหนึ่ง เมื่อต้องการข้าวสารก็เพียงแต่ทำการวยยกขึ้นไปบนท้องฟ้า ข้าวสารก็จะไหลมาตามกรวยลงหม้อจนพอเพียง

    หรือเช่น บุคคลที่จะบวชกับพระพุทธเจ้า หากบุคคลใดมีจีวรทานโดยมาก พระพุทธเจ้าก็จะหยิบจีวรจากอากาศมาประทานให้ หากใครไม่ทำบุญด้วยจีวรทานมาก่อน พระพุทธองค์ก็จะให้ไปหาผ้าจีวรมาก่อนจึงจะบวชให้ เป็นต้น

    ผู้ที่มีสิทธิ์ได้สิ่งใดโดยง่ายนั้นล้วนเป็นผู้เคยสละสิ่งนั้นมาก่อนโดยมาก นั่นเป็นไปตามกฎแนวโน้มแห่งดุลยภาพของปฏิภาวะที่ว่า การให้ย่อมก่อให้เกิดการได้

    สิ่งที่ให้และได้นั้น มิได้หมายถึงเพียงสิ่งของเท่านั้น ยังหมายรวมถึงภาวะนามธรรมที่เป็นบุญรูปแบบต่างๆ ด้วย กล่าวคือ

    1. บุญเกิดจากการให้ ทั้งให้สิ่งของ ทรัพย์ เวลา โอกาส สิทธิ การอภัย ล้วนเป็นบุญทั้งนั้น

    2. บุญเกิดจากความมีวินัยในตนเอง คนจะมีวินัยในตนเองได้นั้นต้องสละกิเลส สละความเคยชิน และสละอารมณ์ที่กำเริบได้จึงจะบริหารตนให้อยู่ในวินัยได้ ความมีวินัยในตนเองจึงเป็นภาวะแห่งบุญประการหนึ่ง

    3. บุญเกิดจากการฝึกอบรมจิตใจ คนจะฝึกอบรมจิตใจให้สงบ มั่นคง และเป็นสุขได้ ต้องกล้าสละความยึดถือ ผูกพันทางใจกับทุกสิ่งที่แปรปรวน และประคับประคองจิตด้วยสติอย่างต่อเนื่อง การภาวนาสมถะและวิปัสสนาควบคู่กันไปจนปรากฏความสงบสุขและมั่นคงจึงเป็นบุญอย่างยิ่ง

    4. บุญเกิดจากความอ่อนโยน คนจะอ่อนโยนได้นั้นต้องสละความหยิ่งทะนง การถือตัวและความกร้าวของตัวตน ความอ่อนโยนจึงเป็นลักษณะของบุญประการหนึ่ง

    5. บุญเกิดจากการขวนขวายช่วยเหลือผู้อื่น คนจะช่วยเหลือผู้อื่นได้นั้นต้องสละความเห็นแก่ได้ ความหวงแหนในความเป็นส่วนตัว การช่วยเหลือผู้อื่นจึงเป็นไปได้ และเป็นบุญนำมาซึ่งความสุข

    6. บุญเกิดจากการอุทิศความดีให้ผู้อื่น เมื่อทำความดีมาโดยมากแล้ว ความเลวร้ายประการหนึ่งของคนดีคือการติดดี ยึดถือว่าความดีเป็นของตน ตัวเป็นคนดีอย่างโน้นอย่างนี้ จนก่อให้เกิดตัวตน ความจองหอง ความประมาทและความหายนะตามมา แท้จริงแล้วความดีนั้นดี การทำดีโดยเหมาะสมย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่การติดดีนั้นเลว ด้วยเหตุนี้พระพุทธบรมครูเจ้าจึงทรงสอนให้สละความดีอีกชั้นหนึ่งจึงจะโปร่งโล่งและเกิดบุญสมบูรณ์ นี่คือที่มาของธรรรมเนียมอุทิศส่วนกุศลเสมอเมื่อได้ทำความดีชุดหนึ่งๆ

    7. บุญเกิดจากการยินดีในความดีของผู้อื่น เมื่อมีคนทำความดีหรือได้ดีจากการทำดี ถ้าใครอิจฉา จิตใจของผู้นั้นจะตกต่ำ ถูกกดอยู่ในความไม่พึงใจและความไร้ประโยชน์ทันที แต่ถ้ายินดีกับความดีและผลดีของผู้อื่น จิตใจของผู้นั้นจะอยู่ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าความดีนั้นๆ การที่จะยินดีในความดีของผู้อื่นได้นั้นต้องสละความอิจฉา ริษยา และนิสัยมักเปรียบเปรยตนออกให้สิ้น ในวัฒนธรรมของผู้ดีจึงมีการแสดงความยินดีกับความดีของผู้อื่นเนืองๆ เพราะเป็นบุญประการหนึ่ง

    8. บุญเกิดจากการศึกษาสัจจธรรม ชีวิตของคนจำนวนมากผิดพลาดและล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะไม่เข้าใจสัจจะ หรือเข้าใจแต่ไม่เคารพสัจจะ สร้างความปรารถนาขัดแย้งกับกฎธรรมชาติ ป่ายปีนไปในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือไม่เหมาะสมโดยโครงสร้าง การดำเนินชีวิตเช่นนี้เป็นชีวิตที่โง่ ดังนั้นการยอมสละปรารถนาแห่งความโง่และตัวโง่ออกจากชีวิต ยอมศึกษาและสำเหนียกสัจจะแท้ๆ แห่งธรรมจะทำให้สามารถบริหารชีวิตสู่ประโยชน์สูงสุดที่เป็นไปได้อย่างเป็นสุข การศึกษาสัจจธรรมให้ถ่องแท้จึงเป็นบุญประการหนึ่ง

    9. บุญเกิดจากการแสดงสัจจะ เมื่อรู้ เข้าใจ และยอมรับสัจจะแล้ว การแสดงออกซึ่งสัจจะผ่านวิถีชีวิต พฤติกรรม คำพูด และผลงานรูปแบบต่างๆ ก็เป็นบุญประการหนึ่ง เพราะทุกขณะที่แสดงธรรมผ่านกิริยาอาการต่างๆ เป็นการกำกับตนให้อยู่ในครรลองธรรมและเป็นการเหนี่ยวนำให้ผู้อื่นรู้ เข้าใจและได้ประโยชน์จากความเป็นจริงแท้ที่ล้ำค่าด้วย ด้วยเหตุนี้พระพุทธบรมครูเจ้าจึงตรัสว่า "การให้ธรรมเป็นทานย่อมชนะการให้ทั้งปวง"

    10. บุญเกิดจากการทำความรู้ความเห็นให้ตรงความเป็นจริง ในที่สุด การปรับแม้ทุกความนึกคิดให้ตรงสู่สัจจะสูงสุดได้นั่นคือบุญอันยอด เพราะเมื่อทำเช่นนั้นได้ นั่นหมายถึงการบรรลุธรรมสูงสุดด้วยปัญญาอันสมบูรณ์ ชีวิตจะไม่ผิดพลาดอีกต่อไป อยู่ในสารัตถะแท้โดยสมบูรณ์



    <CENTER>บุญเก่าบุญใหม่</CENTER>

    ตรงนี้สิ่งที่ควรเข้าใจก่อนมีสองประเด็น คือ 1) การทำบุญในปัจจุบัน 2) การเรียกบุญในอดีตมาใช้

    อย่างในกรณีที่แม่ค้าที่ขายดีกว่าเพราะทำบุญไว้ดีแล้วประการหนึ่ง และเพราะตั้งจิตไว้เป็นบุญในปัจจุบันอีกประการหนึ่ง สองสิ่งนี้จะต้องไปด้วยกันจึงจะเกิดผลขึ้นทันที

    ทำบุญปัจจุบันนั้นเราทุกคนสามารถทำได้โดยทันที เริ่มต้นด้วยเจตนาแห่งบุญ คือไมว่าเราจะทำอะไรก็ตามถ้าเราตั้งจิตเพื่อประโยชน์สุขของมหาชน มันเป็นบุญ เหมือนพนักงานขาย ถ้าไปขายด้วยความคิดว่าฉันจะต้องทำยอดให้ได้เยอะๆ ฉันจะต้องเป็นเซลล์ที่ยิ่งใหญ่ อันนั้นเป็นบารมี แต่ไม่เป็นบุญ

    หรือถ้าคิดว่าฉันจะต้องมีคอมมิสชั่น เท่านั้น เท่านี้ นั่นเป็นความโลภ จิตมันจะตึง แต่ถ้าไปขายด้วยความคิดที่ว่า เรามีสินค้าดี เรามีของดี เราจะให้เพื่อนของเราได้รับของดีนี้ ทำให้ประชาชนเข้าใจของดีและได้ประโยชน์จากของดีนี้ ทั้งสามกรณีใจมันต่างกันนะ

    ใจคนหนึ่งทำด้วยอาการที่เป็นบารมี
    ใจคนหนึ่งทำด้วยอาการที่เป็นกิเลส
    ใจอีกคนหนึ่งทำด้วยอาการที่เป็นบุญ

    คนที่เขารับรู้รับฟังคนที่มาด้วยใจที่เป็นบุญ เขาจะรู้สึกสบายใจที่สุด รู้สึกอิ่มเอิบไม่ระแวงแคลงใจ และตัดสินใจซื้อง่าย ซ้ำยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันด้วย

    นี่คือตัวอย่างการตั้งใจให้เป็นบุญในปัจจุบันและผล

    พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า เมื่อบุคคลใดตั้งจิตไว้ดีแล้ว สิ่งที่ดีทั้งหลายย่อมตามบุคคลนั้นไป เสมือนล้อเกวียนตามรอยเท้าโคกระนั้น ดังนั้น เมื่อเราตั้งจิตไว้เป็นบุญ มันจะไปเกี่ยวเหนี่ยวนำบุญในอดีตของเรามาประกอบกับบุญปัจจุบัน ที่นี้อะไรมันก็ง่ายไปหมด แต่ถ้าจิตเราตั้งไว้เป็นบาป มันจะไปเกี่ยวเหนี่ยวนำเอาบาปที่เราสะสมไว้มาประกอบกัน อะไรมันก็ยุ่งยากไปหมดเลย เพราะในชีวิตของเราตั้งแต่สมัยเป็นสัตว์เซลล์เดียวมาเป็นสัตว์หลายเซลล์ กระทั่งมาเป็นมนุษย์ในบัดนี้ เราทำกรรมดีและกรรมชั่วมาแล้วนับไม่ถ้วน ถ้าเราตั้งจิตไว้อย่างไร เราจะไปเกี่ยวเหนี่ยวนำเอากรรมอย่างนั้นจากธนาคารกรรมของเรานั่นเองมาใช้

    การตั้งจิตไว้ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าท่านทั้งหลายจะทำหน้าที่อะไร อาชีพอะไรก็ตาม จงตั้งใจให้เกิดประโยชน์ต่อมหาชนแล้วมันจะเป็นบุญ เช่น ถ้าท่านเป็นครู ฉันมาสอนเพราะฉันอยากได้เงิน แค่นี้มันไม่เป็นบุญ แต่ถ้าคิดว่าฉันมาสอนเพื่อที่จะสร้างอนุชนที่เป็นแบบอย่าง สร้างคนดีในสังคม เพื่อให้คนดีเหล่านั้นเกื้อกูลสังคมต่อไป อย่างนั้นเป็นบุญ

    ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา เป็นแพทย์ เป็นสื่อมวลชน เป็นอะไรก็ตาม ท่านสามารถตั้งจิตให้เป็นบุญได้ เพียงแต่ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนให้กระจายกว้างออกไปสู่สังคมโลกทั้งหลาย

    เมื่อตั้งใจเป็นบุญปัจจุบันแล้ว หากรู้วิธีเรียกบุญเก่ามาใช้ด้วยก็เหมือนคนที่มีทุนเดิมและเอาทุนเดิมมาสร้างความสำเร็จใหม่ ย่อมสร้างได้เร็วและยิ่งใหญ่กว่าคนที่เริ่มใหม่หรือคนที่มีบุญเก่าแต่ไม่รู้จักวิธีเอามาใช้

    การเรียกบุญในอดีตมาใช้ก็คือการอธิษฐานใช้อำนาจบุญของตนที่สั่งสมไว้ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ การใช้บุญเก่านั้นเราจะใช้เพื่อสร้างบุญใหม่คือเอาบุญมาต่อบุญให้งอกเงยเท่านั้น เช่นเดียวกันกับเอาทุนมาต่อทุนให้งอกงามดุจเดียวกัน

    เมื่อบุญเก่าและบุญใหม่ผนวกกันแล้ว ความสำเร็จต่างๆ จะง่ายกว่าไม่มีบุญเลย และเมื่อท่านประกอบกับหลักการบริหารที่เหมาะสมแห่งโลกด้วยแล้ว ความสำเร็จก็จะยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นอีกอักโข

    บุญนั้นทำให้สำเร็จโดยง่ายแม้ในสิ่งที่ยาก การบริหารที่เหมาะสมนั้นทำให้สำเร็จยิ่งใหญ่แม้ในสิ่งเล็กน้อย เมื่อเข้าใจตรงนี้แล้ว ต่อไปต้องเข้าใจบุญและกระบวนการสร้างบุญแต่ละประเภท และการบริหารที่เหมาะสม

    พระพุทธเจ้าทรงให้เทคนิคหรือหลักสูตรในการสร้างบุญที่เป็นหลักใหญ่ๆ เลยมี 10 ประการ ได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา ประพฤติอ่อนน้อม ขวนขวายในกิจผู้อื่น ฟังธรรม แสดงธรรม อุทิศส่วนกุศล อนุโมทนาส่วนกุศล และทำความรู้ความเห็นให้ตรงกับสัจจะ ทั้งหมดนี้คือบุญ เป็นขบวนการชำระจิตใจตนเอง



    <CENTER>บุญแห่งน้ำใจและการให้</CENTER>

    การให้ คือบุญประการแรกที่ทุกคนสามารถสร้างได้ การให้เป็นบุญใหญ่ เพราะถ้าให้ได้หมดทุกสิ่งแม้ตัวตน ก็หลุดพ้นเท่านั้นเอง

    แต่กว่าจะถึงขั้นนั้น หัดให้จากที่ง่ายๆ ไปก่อน เช่นให้สิ่งของ ให้เวลา ให้โอกาส ให้ความเข้าใจ ให้ความรู้ หรือให้วิทยาทาน กับการให้อภัย ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เราจะต้องทำความเข้าใจกัน จากนั้นจึงให้ธรรมะสัจจะที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าในบรรดาการให้ทั้งปวง การให้ธรรมประเสริฐสุด ไม่มีอะไรอื่นแล้วที่จะยิ่งไปกว่าการให้ธรรมทาน

    การให้อื่นๆ นั้นพวกเราให้กันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ยิ่งให้มากโดยเหมาะสมก็ยิ่งมีบุญอันเกิดจากการให้มาก สิ่งที่ควรเข้าใจเพิ่มเติม คือ การให้อภัยและการให้ธรรม จากนั้นก็ควรเข้าใจวิธีการให้ที่เหมาะสมและอานิสงส์แห่งการให้

    การให้อภัย

    การให้อภัยเป็นการชำระที่ยอดเยี่ยม เป็นบุญที่ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมอย่างไร

    1.มันชำระความแค้นในใจเรา ตราบใดที่เรายังไม่ให้อภัยคนอื่น มันมีความแค้นอยู่ และตราบใดที่ความแค้นมันยังอยู่ในใจเรา มันย่อมกัดกร่อนจิตใจเราไปเรื่อยๆ โดยลำดับ ทำให้เราทุกข์ตรมเศร้าหมอง ปีติสุขเหือดแห้งหดหายไป พระพุทธเจ้าจึงบอกว่าความแค้นนั้นย่อมฆ่าผู้แค้นเสมือนขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่กระนั้น คือขุยไผ่ยิ่งโตเท่าไรต้นไผ่ก็ยิ่งตายเท่านั้น ความแค้นยิ่งใหญ่เท่าไร จิตใจเราก็ยิ่งหมองไหม้เท่านั้น ดังนั้น การให้อภัยเป็นการชำระใจของเราโดยตรง นั่นประการแรก

    2.การให้อภัยคือการชำระกลไกกรรม กรรมไม่ดีทั้งหลายที่มันพัวพันกัน ผูกกันไว้ เหนี่ยวกันไว้ในส่วนที่ไม่ดีที่ต้องเกิดเรื่องไม่ดีกัน พออภัยให้แก่กันแล้วมันหลุดเลย กรรมนั้นกลายเป็นโมฆะ กรรมที่ไม่ดีเป็นโมฆะ ก็เหลือแต่สภาพที่เป็นกลางและดี เห็นไหม ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกลายเป็นดี เขาเรียกว่าเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร ใจเราก็สุข มันก็เหนี่ยวนำไปในทางที่ดี ทำอะไรทำด้วยกัน ช่วยกันคนละไม้ละมือ มันก็นำไปสู่ความสำเร็จได้โดยง่าย นี่คือกลไกธรรมชาติ

    เรื่องของการอภัย มันยังมีอีกประการหนึ่งที่จะต้องระวังไว้ ใจเราจะต้องพร้อมอภัยในทุกคน ทุกเรื่องเสมอ ตลอดเวลา แต่การประกาศอโหสิกรรมจะให้ได้ผลก็ต่อเมื่อคนที่เขาทำผิดนั้นเขาได้สำนึกผิดและได้ตั้งใจว่า ต่อไปนี้จะไม่ทำผิดอย่างนั้นอีก เมื่อนั้นเราประกาศอโหสิกรรมจึงจะได้ผล แต่ถ้าเขายังไม่สำนึกผิดแล้วเราไปประกาศอโหสิกรรมเสียก่อน เขาจะรู้สึกว่าทำผิดก็ไม่เป็นไร ใครก็ไม่ว่าอะไร มันก็จะสะสมความเข้าใจผิดและความผิดไปเรื่อยๆ

    การให้ธรรมะ

    การให้ธรรมทานมีอยู่สองระดับ ระดับหนึ่งคือให้ตัวสัจจะ ให้ตัววิธีการ ให้ตัวเทคนิค ระดับที่สองคือให้ตัวสภาวะ คือทำให้เขาเข้าสู่สภาวะได้จริงๆ ทำให้เขาสงบจริงๆ ทำให้เขามีความเชื่อมั่นจริงๆ ทำให้เขาบริสุทธิ์ได้จริงๆ

    เราสามารถให้กันได้ทั้งสองส่วน ในส่วนแรกให้ด้วยการบรรยาย ด้วยการแนะนำ ส่วนที่สองให้ด้วยการนำปฏิบัติ การสร้างบรรยากาศหรือระบบระเบียบรองรับ

    การให้ธรรมะนั้น ต้องให้ทั้งสองส่วนแล้วจะสมบูรณ์


    การให้ที่เหมาะสม

    การให้จะมีผลเป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่ เมื่อ

    1) ให้สิ่งที่ควรให้

    2) ให้แก่ผู้ควรได้รับ คือผู้ที่เขาสามารถได้ประโยชน์จากการให้นั้นจริง

    3) ให้ในเวลาที่เหมาะสม คือเวลาที่เขาต้องการจริงๆ ถ้าเวลาที่เขาไม่ต้องการ เราไปยัดเยียดให้ ของเราจะไม่มีค่า เขาไม่นำไปใช้และไม่ได้อานิสงส์

    4) ให้ในปริมาณที่เหมาะสม คือ ไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่เบียดเบียนตนไม่กระทบคนอื่น การให้ทุกชนิด ถ้ามากไป น้อยไป ส่วนที่เกินไปนั้นไม่เกิดประโยชน์และมักเกิดโทษด้วยซ้ำ

    5) ให้โดยเจตนาที่เหมาะสม คือ
    ถ้าให้เพราะจำใจ ผลบุญจะน้อยที่สุด
    ถ้าให้เพราะเกรงใจ ผลบุญน้อยมาก
    ถ้าให้เพราะทำตามๆ กันไป ผลบุญจะน้อย
    ถ้าให้เพราะเห็นว่าดี ผลบุญปานกลาง
    ถ้าให้เพราะยินดีและมีความสุขที่จะให้ ผลบุญมาก
    ถ้าให้เพราะสละ ละวาง ผลบุญมากที่สุด
    ดังนั้น จะให้ทั้งทีก็ควรให้บุญมากเข้าไว้เท่าที่จะตั้งเจตนารมณ์ได้ จะได้คุ้มแก่การให้

    6) ให้โดยเคารพ คือโดยมีจรรยามรรยาท มิใช่โดยการดูหมิ่นดูแคลน หาเราให้โดยเคารพ เราก็จะได้รับโดยเรียบร้อยเช่นกัน

    นั่นคือการให้ที่เหมาะสม

    อานิสงส์แห่งการให้

    การให้แต่ละชนิดมีอานิสงส์ต่างกัน เช่น

    การให้ทรัพย์ จะทำให้หาทรัพย์โดยง่าย
    กานให้อาหาร จะทำให้อุดมสมบูรณ์
    การให้ผ้า จะทำให้ผิวพรรณงาม
    การให้การรักษาพยาบาล จะทำให้สุขภาพดี
    การให้ยานพาหนะหรือการเดินทาง จะทำให้ราบรื่น
    การให้ความเข้าใจ จะทำให้ได้มิตรมาก
    การให้อภัย จะทำให้ได้อิสรภาพ
    การให้สรรเสริญ จะทำให้ได้ชื่อเสียง
    การให้ความรู้ จะทำให้ได้ปัญญา
    การให้ธรรมะ จะทำให้ได้ระดับวิวัฒนาการสูงขึ้น
    การให้ชีวิต จะทำให้ได้บารมี


    เป็นต้น

    เมื่อชีวิตต้องการหลายๆ อย่าง ก็ควรให้หลายๆ อย่างไปตามความเหมาะสมแก่บุคคล สถานการณ์และเป้าหมาย นี่เป็นบุญแรกที่เราหมั่นสร้างสมให้กลายเป็นฤทธิ์ได้


    โดยคุณ rinnn สมาชิก

    ที่มา http://palungjit.org/threads/บุญฤทธิ์-ฤทธิ์ที่ทุกคนสร้างได้ง่ายๆ.30414/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1311077816.jpg
      1311077816.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.8 KB
      เปิดดู:
      1,862
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2012
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เร่งระบายน้ำในเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์ให้เหลือน้ำเพียงร้อยละ 83-85 เพื่อเตรียมรับมือกับอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งถือเป็นการระบายน้ำออกจากเขื่อนที่เพิ่มขึ้น หากเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดย กฟผ.ได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่เพื่อให้ทราบถึงการระบายน้ำแล้ว
    นายวันชัย ประไพสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กฟผ. เตรียมระบายน้ำออกจากเขื่อนใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์จะอยู่บนพื้นฐานของการบรรเทาปัญหาอุทกภัยเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาได้ทยอยระบายน้ำในเขื่อนไปแล้ว ส่งผลให้มีปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล 85% จากเดิม 99.4% และเขื่อนสิริกิติ์ 83% จากเดิม 99.8% โดยการปล่อยน้ำจากเขื่อนในปีนี้เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา เพราะมีปริมาณน้ำเหลือในเขื่อนจำนวนมาก ขณะที่เริ่มมีฝนตกเข้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปี เฉลี่ยอัตราการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลอยู่ที่วันละ 58 ล้านลูกบาศเมตร ในขณะที่อัตราสูงสุดสามารถระบายน้ำได้วันละ 60 ล้านลูกบาศเมตร
    ทั้งนี้ เขื่อนสิริกิติ์สามารถระบายน้ำได้วันละ 57 ล้านลูกบาศเมตร เพราะมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ท้ายน้ำที่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่จึงระบายน้ำได้จริงเพียงวันละ 39-44 ล้านลูกบาศเมตร อย่างไรก็ตามได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ท้ายเขื่อนในอำเภอวิชัย ให้รับทราบ และมีมาตรการป้องกันไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำแล้ว
    ที่มา thaipbs.or.th



    [​IMG]
    เว็บไซต์เดอะ มิเรอร์ ได้เผยภาพส่วนตัวของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซี ขณะอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ที่กรุงเบอร์ลิน และคฤหาสน์หรูหราในแคว้นบาวาเรีย ที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา งานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้
    โดยรายงานระบุว่า ภาพเหล่านั้น ถ่ายโดยนายฮิวโก แจเกอร์ ช่างภาพไม่กี่คนที่มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับท่านผู้นำ ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายไว้ในช่วง 2 ปีก่อนหน้าการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเขามีภาพดังกล่าวกว่า 2,000 รูป
    อย่างไรก็ดีช่วงที่เกิดสงครามโลกในปี 1945 เชื่อกันว่าเขาได้ซ่อนภาพทั้งหมดไว้ในกระเป๋าเดินทางหนังใบหนึ่ง ขณะถูกตรวจค้นโดยทหารอเมริกัน และยังได้เก็บภาพบางส่วนไว้ในขวดโหลแก้ว 12 ใบ นอกเมืองมิวนิก ก่อนที่จะมีผู้กู้คืนได้ทั้งหมดในปี 1955
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]



    [​IMG]
    ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะที่ตึก 3 ตึก ถล่มลงมาที่ใจกลางนครริโอ เดอจาเนโร เมื่อกลางดึกของคืนวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนี้พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายกว่า 17 คน
    ซึ่งภาพกล้องวีดีโอจากตึกตรงข้ามเผยให้เห็นภาพคนกำลังวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ในขณะที่ฝุ่นควันพวยพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันปกคลุมจอไปหมด จากนั้นไม่นานฝุ่นควันก็จางลง และเผยให้เห็นภาพคนที่ผ่านไปมาต่างมุงดูบริเวณที่เกิดเหตุกระทั่งตำรวจมาถึงและมีการสั่งให้อพยพออกจากที่จุดเกิดเหตุ
    สำหรับอาคารที่เกิดเหตุทั้ง 3แห่ง เป็นอาคารขนาด 20 ชั้น 10 ชั้น และ 4 ชั้น ที่ใช้เป็นสำนักงาน แต่เคราะห์ดีที่เป็นเวลาเลิกงาน จึงไม่ค่อยมีคนอยู่ในขณะเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะเกิดจากโครงสร้างของตึกใดตึกหนึ่งไม่ได้มาตรฐาน ไม่เกี่ยวกับการรั่วไหลของแก๊สแต่อย่างใด
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ทั่วทุกภาคมีฝนตกเพิ่ม ตกหนักบางแห่ง - อีสานตอนบนฝนฟ้าคะนองอุณหภูมิลด3-5 องศา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 30 มกราคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา

    ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเป็นแห่งๆ ในระยะนี้ อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ ตอนบนของภาคอากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด กระบี่ ตรัง และ สตูล อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> "อุตุ" เผยพายุเข้าไทยอีก 2 - 3 ลูก ช่วงกลางปีนี้ เตือนรับมือน้ำท่วม </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุถึงข้อมูลในการพยากรณ์สภาพอากาศ

    ในช่วงเดือน พ.ค. - ต.ค. จะมีพายุเข้าประเทศจำนวน 2 - 3 ลูก ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ส่วนค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝนในปีนี้ถือว่าสูงกว่าปกติ หรือร้อยละ 30 แต่จะไม่สูงเท่าปีที่ผ่านมา ส่วนในปีนี้ ประเทศไทยจะประสบปัญหาอุทกภัยอีกหรือไม่นั้น นายสมชาย อ้างว่า อยู่ที่การบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าแม้ปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะเยอะ แต่ไม่รุนแรง เพราะหน่วยงานต่างๆ มีการเตรียมความพร้อม

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตะลึงธุรกิจ'เนื้อแมว' ความขัดแย้งในสังคมจีน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เสียงร้องโหยหวน และกลิ่นสาบแมวที่โชยออกมาจากบ้านไม้ชั้นเดียวหลังเก่าๆ แถวชานเมืองอู่ฮั่น ในมณฑลเห่อเป่ยทางตอนกลางของจีน

    คือแหล่งกักกันแมวชะตาขาด ที่นอนเบียดเสียดอยู่ในกรงแคบๆ รอวันถูกเชือดเป็นอาหารจานเด็ดขึ้นภัตตาคารระดับเหลา

    "หลังจากรวบรวมแมวได้สัก 300 ตัว พวกมันก็จะถูกส่งขายให้กับร้านอาหารในมณฑลกวางตุ้ง และพื้นที่ในเขตปกครองกว่างซีจ้วง" หนุ่มใหญ่ แซ่โจว จากเมือง เส้ากั๋น อายุ 60 ปี ลูกจ้างสถานีขนส่งแมวอธิบายให้ฟัง

    ก่อนจะเล่าถึงความนิยมของชาวจีนภาคใต้ที่แห่บริโภคเนื้อแมวเพื่อบำรุงกำลังในช่วงหน้าหนาว เป็นเหตุให้เจ้านายของโจวเปิดสถานีขนส่งแมวบนถนนไป่ฉาโจว อเวนิว ในเมือง อู่ฮั่น เมื่อ ต.ค. 2554

    โจวได้รับเงินประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นค่าจ้างสำหรับเฝ้าแมว และลำเลียงพวกมันขึ้นรถบรรทุก

    "บางครั้งมีแมว 70-80 ตัวต่อวัน แต่บางวันก็มีแค่ 20-30 ตัว เท่านั้น" โจวพูดถึงสินค้าหลักของธุรกิจ พร้อมชี้ให้ดูแมวนับร้อยตัวในกรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ที่วางเรียงรายอยู่มุมมืดของบ้านหลังโทรม ส่วนใหญ่เป็นแมวพันทางที่พบเห็นได้บ่อยตามท้องถนน และ มีบ้างเป็นบางครั้งที่แมวเลี้ยงราคาแพงจะหลงเข้ามา

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>"ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ลงเอยด้วยราคาเท่ากันหมด ที่ 10 หยวน (ราว 50 บาท) ต่อกิโลกรัม และจะมีราคาสูงถึง 800 บาทต่อกิโลกรัมในร้านอาหาร" โจวกล่าว

    แมวดวงตกเหล่านี้ถูกจับมาจากมณฑลอันฮุย และมณฑลเจียงซู ก่อนจะเข้ากระบวนการตรวจสอบโรคติดต่อ จนได้ใบรับรองยืนยันความปลอดภัย

    ในกวางตุ้ง 'เนื้อแมว' คือวัตถุดิบหลักของอาหารจานโปรดประจำท้องถิ่น อย่าง "มังกร(งู) เสือ ไก่" ซึ่งชาวจีนบางกลุ่มมีความเชื่อผิดๆ ว่า 'เนื้อแมว' มีสรรพคุณให้พลังงาน ความอบอุ่น เพิ่มธาตุไฟ ช่วยคลายความเหน็บหนาวในร่างกาย

    เฟิง ตงเม่ย ผู้อำนวยการมูลนิธิสัตว์เอเชีย (เอเอเอฟ) กล่าวว่า "เนื้อแมวได้รับความนิยมอย่างมากในกวางโจว โดยเฉพาะร้านอาหารชานเมือง แหล่งรวมนักกินตัวยงที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และพวกคนเถื่อนผู้ชื่นชอบอาหารป่า ที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลให้ยอดบริโภคเนื้อแมวในจีนพุ่งสูงถึง 4 ล้านตัวต่อปี"

    ขณะที่ชาวจีนตอนเหนือถือว่าการบริโภคแมวเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้

    เช่นเดียวกับหนุ่มสาวแดนมังกรที่หันมาสร้างกระแสเมินประเพณีนิยม ต่อต้านการกินเนื้อแมว เนื้อสุนัข รวมตัวเรียกร้องกฎหมายเพื่อยุติพฤติกรรมอำมหิต ที่ทั่วโลกตัดสินว่าชาวจีนเป็นชาติมหาโหด กินได้หมดไม่เลือกหน้ากระทั่งหมา แมว

    อัน เซียง ทนายความชาวจีน ผู้ดูแลเรื่องสิทธิและการคุ้มครองสัตว์ ระบุว่า การค้าเนื้อแมวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ภายใต้พ.ร.บ.การ บริหารแหล่งทรัพยากรอาหาร กระทรวงสาธารณสุข เมื่อก.ค. 2550 ซึ่งมีใจความว่า "อาหารที่ไม่ได้บริโภคตามปกติในประเทศจีน จำเป็นต้องได้รับการรับรองจัดอยู่ในสถานะแหล่งอาหารชนิดใหม่ ซึ่งผู้ค้าในธุรกิจนี้ต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่" ก่อนกฎหมายฉบับเดียวกันจะเพิ่มข้อจำกัดในเดือน พ.ย. 2550 ว่า

    "อาหารที่บริโภคในบางประเทศเป็นส่วนน้อย หรือบางพื้นที่ภายในประเทศ ให้ถือรวมจัดเป็นแหล่งอาหารชนิดใหม่เช่นกัน"

    แต่ในเมื่อกฎหมายได้ล้อมกรอบปัญหาค้าหมาแมวในจีนไว้อย่างชัดเจน เหตุใดการลักลอบ ด้วยการขนใส่รถบรรทุกขึ้นทางด่วน ทำให้เห็นจะจะ กลับไม่ถูกดำเนินคดี เหลือไว้เพียงข้อสงสัยไร้ที่สิ้นสุดว่า หมาแมวอีกกี่ล้านตัวที่จะต้องสังเวยชีวิตให้กับความอยากของมนุษย์ และรัฐบาลจีนเคยคิดจะลงมือปราบปรามอย่างจริงจังหรือไม่

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    27 ม.ค. 55 สองภาพ

    ภาพหนึ่ง รวมกลุ่ม ชุมธรรม
    ป้องกัน เพศภัย ที่มา
    ภาพสอง ต่างดาว ลงมา
    ช่วยพา คนดี หนีภัย

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน<!-- google_ad_section_end -->

    30 ม.ค. 55 ภาพขยาย

    ภาพในนิมิต ผมได้เห็นยานนอกโลกมากันมากมาย มีหลายขนาดด้วยกัน ยานลำใหญ่ได้ฉายแสงลงมายังพื้นโลก จากนั้นมนุษย์ต่างดาวก็ทะยอยกันลงมาตามลำแสง ส่วนใหญ่ก็จับกลุ่มคุยกันกับมนุษย์โลกแสดงว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มดี

    นอกออกไปผมได้เห็นมนุษย์ต่างดาวที่มีรูปร่างคล้ายสัตว์ประหลาด กลุ่มนี้น่าจะเป็นผู้ทำลาย

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  12. ยัย fame

    ยัย fame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +104


    อยากคุยกับมนุษย์ต่างด้าวจัง........ไม่รู้เค้าจะคุยภาษาไทยได้หรือเปล่านะ...........เรื่องนี้เหมือนมีคนเอามาโพสต์ไว้เหมือนกันว่ามนุษย์ต่างด้าวจะมารับคนดี......ไปไว้สถานที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ
     
  13. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ไม่ต้องหวัง ว่าจะพูดไทยได้ไหม เวลาเขาพูดด้วยได้ยินในหัวเลย ข้อมูลครบแต่ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเข้าใจเป็นในภาษาไหน
     
  14. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    เป็นกระแสที่มีคนสนใจพอดูละนะ เรื่องพายุสุริยะ ที่ว่ากันว่า จะมาพร้อมกับภัยธรรมชาติ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=bkO3a98M5Q8&feature=player_embedded]แผนคณะกรรมการจัดการน้ำ กยน คาดการณ์น้ำ น้ำท่วม แผนจัดการน้ำ 2555 และพายุสุริยะ กับ ดร - YouTube[/ame]#!
     
  15. zare2021

    zare2021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +381
    <table width="100%" background="/images/bg_board.gif" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="70%"><table class="body" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="headline" valign="top" width="96%">"ดร.ดูม"กูรูนักพยากรณ์ ระบุ วิกฤตนุคอิหร่าน จะถีบราคาน้ำมันแตะ 150 ดอลลาร์/บาเรล</td> <td width="2%"> </td> </tr> </tbody></table></td> <td valign="top" width="30%"><table class="body" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> ผู้เขียน: poo</td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> นาย นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์และนักพยากรณ์ชื่อดัง ซึ่งได้รับสมญาว่า"Dr.Doom"ซึ่งเคยพยากรณ์ว่าโลกจะเผชิญวิกฤตการเงินในปี 2008 อย่างแม่นยำ กล่าวระหว่างการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออกโรงพยากรณ์ว่า โลกจะต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตปั่นป่วนที่สุดจากความขัดแย้งกรณีอิหร่าน และโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งมีอิสราเอล และสหรัฐ เข้ามาร่วมวิกฤต และจะส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกที่ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาเรล พุ่งไปถึงระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาเรล

    นอกจากนี้ โลกยังต้องเผชิญสถานการณ์ไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย เช่น วิกฤตยูโรโซน วิกฤตงบประมาณของสหรัฐ การเติบโตของจีนที่ไม่สมดุลย์และไม่ยั่งยืน ซึ่งพึ่งพาเฉพาะการส่งออกและการลงทุนด้านทรัพย์สินคงที่ การออมระดับสูง และไม่เพียงพอต่อบริโภค ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะเปราะบาง

    เขากล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างล่าช้าในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าจะนำไปสู่การฟื้น ตัวรูปตัว"ยู" แทนที่จะเป็นตัว"วี" และจะต้องใช้เวลาอีก 3-5 ปีในการฟื้นตัวเพราะปัญหาหนี้สินท่วมระบบโลก

    นอกจากนี้ นายนูเรียล ยังพยากรณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะเติบโตเพียง 1.7-1.8 % และมีอัตราคนว่างงานสูง ขณะเดียวกัน เขาเรียกร้องให้ ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยเปลี่ยนการลงทุนที่ก่อให้เกิดผลผลิตด้วยกว่า เช่น การลงทุนด้านการเงิน ที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์ ไปสู่การลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ โครงสร้าง เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ
    วันที่ : 31 มกราคม 55
     
  16. พลอยแสด

    พลอยแสด สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +6
    จาก http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%93.269042/page-3

    ".... เมื่อวันเสาร์ได้มีโอกาสไปกราบพระอาจารย์รัตน์ ได้มีโอกาสสนทนาและท่านได้เมตตาตอบคำถามที่พวกเราถามกัน

    ท่านบอกว่า ท่านเคยบอกลูกศิษย์ของท่านไว้ตั้งแต่ทองบาทละ 4,200 บาท ให้เก็บทองไว้ เพราะทองจะขึ้นถึง สองหมื่น และเมื่อทองแตะสองหมื่น คือ จะมีเหตุการณ์หลายๆ อย่างเกิดขึ้น ท่านบอกว่าตอนนี้ทองแตะสองหมื่นหรือยัง? เห็นไหมมันมีเหตุการณ์หลายๆ อย่างในหลายประเทศ แล้วท่านก็ถามว่าทองแตะสองหมื่นเมื่อไหร่ เลยตอบท่านว่าประมาณต้นปี (นี่คือจุดเริ่มแล้ว)

    แล้วท่านเสริมว่าให้ดูราคาน้ำมันนะ เป็นอีกจุดสังเกตหนึ่ง คือ ถ้าราคาน้ำมันไปแตะที่ 150 ดอลล่าร์/บาร์เรล ตอนนั้นเศรษฐกิจโลกจะพังคลืน ให้จับตาดูไว้จะได้ไหวตัวทัน...."
     
  17. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649

    Last updated: January 16, 2012 6:22 pm

    Saudi Arabia targets $100 crude price
    By Javier Blas and Guy Chazan

    Saudi Arabia is aiming to keep oil prices at about $100 a barrel, a third above its previous public target, in a sign that Riyadh needs higher oil revenues to sustain a big rise in public spending.

    Ali Naimi, the Saudi oil minister, on Monday for the first time said the world’s largest oil producer aimed to keep oil prices at the triple-digit level.


    [​IMG]

    High quality global journalism requires investment. Please share this article with others using the link below, do not cut & paste the article. See our Ts&Cs and Copyright Policy for more detail. Email ftsales.support@ft.com to buy additional rights. Saudi Arabia targets $100 crude price - FT.com

    “Our wish and hope is we can stabilise this oil price and keep it at a level around $100 [a barrel],” Mr Naimi told CNN. “If we were able as producers and consumers to average $100 I think the world economy would be in better shape.”

    Brent crude oil prices rose 56 cents on Monday to $111 a barrel amid rising tension between western nations and Iran over Tehran’s nuclear programme.

    The new favoured price – a de facto target – is a third higher than the $75-a-barrel level that King Abdullah said was a “fair price” in November 2008. Riyadh is traditionally seen as a price moderate within the Opec oil cartel. But Mr Naimi’s comments put the kingdom in line with price hawks such as Venezuela.

    The revised target is in part a reflection of rising public spending in the wake of the Arab spring. “The Saudis need to spend more money to keep their citizens quiet and prevent protests,” said Carsten Fritsch, oil analyst at Commerzbank.

    Bill Farren-Price of consultants Petroleum Policy Intelligence added that there was a “consensus” within Opec that $100 a barrel was the appropriate price level for its members’ fiscal requirements and the need to invest to boost supply. “The context is an industry where a lot of new investment is predicated on that kind of price level.”

    King Abdullah announced two populist programmes of handouts and a boost to public spending last year at a cost of $129bn – equal to more than half the country’s oil revenues. The largesse failed to satisfy democracy activists who were angry that the package did not include reforms.

    The International Monetary Fund estimates that Riyadh needs at least $80 a barrel to balance its budget, up from about $50 a barrel in 2008. Only a decade ago Saudi Arabia was able to balance its budget with oil prices averaging $20-$25.

    Jadwa, a Riyadh-based investment house, estimates that the kingdom’s fiscal expenditure for 2012 will grow by 19 per cent this year, the biggest annual rise in six years. Paul Gamble, Jawda head of research, said: “The budget highlights the government’s intention to continue to stimulate the economy.”

    Saudi Arabia is not alone. The fiscal break-even price for the United Arab Emirates, Iran and Iraq has also risen to between $80 and $100 a barrel, according to IMF estimates. Mohammed Al Hamli, UAE oil minister, last year told an industry conference that the “reasonable” price for oil was between $80 to $100 a barrel.

    Copyright The Financial Times Limited 2012. You may share using our article tools.

    Please don't cut articles from FT.com and redistribute by email or post to the web.


    Saudi Arabia targets $100 crude price - FT.com



    .
     
  18. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    เกือบแล้ว
     
  19. sug552

    sug552 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +250

    http://www.oil-price.net/


    <table border="0"><tbody><tr valign="top"><td>
    </td><td>
    </td></tr><tr><td colspan="2">
    Crude Oil and Commodity Prices
    January, Tuesday 31 2012 - 14:22:31
    <table border="0"><tbody><tr valign="top"><td><table summary="Crude oil and commodity prices (c) http://oil-price.net" style="font-family: Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 12px; background-color: rgb(239, 239, 239); border-collapse: collapse; text-align: left; border: 1px solid rgb(0, 0, 0); padding: 0px; border-spacing: 0px;"> <tbody style="padding: 0px;"> <tr style="padding: 0px;"> <td style="padding: 0px;"> <table style="font-family: Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 12px; background-color: rgb(239, 239, 239); text-align: left; border: 0px none; padding: 0px;" width="100%"> <tbody style="padding: 0px;"> <tr><td style="background-color: rgb(206, 207, 206); font-size: 18px; font-weight: bold; white-space: nowrap;" colspan="4" align="center"> WTI Crude Oil</td> </tr> <tr> <td style="font-size: 22px; font-weight: bold; white-space: nowrap;"> $98.03 </td> <td style="font-size: 16px; font-weight: bold; color: red; text-align: left; white-space: nowrap;"> ▼0.75 </td> <td>
    </td> <td style="font-size: 16px; font-weight: bold; color: red; text-align: left; white-space: nowrap;"> 0.76% </td> </tr> <tr><td style="font-size: 9px; font-weight: bold; white-space: nowrap;" colspan="2"> 14:27 PM EST - 2012.01.31 </td></tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td> <table style="font-family: Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 12px; background-color: rgb(239, 239, 239); border-collapse: collapse; text-align: left; border: 0px none; padding: 0px;"> <tbody style="padding: 0px;"> <tr style="padding: 0px;" valign="center"><td style="padding: 0px;" align="center"> [​IMG] </td> </tr> <tr> <td> <table style="font-family: Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 12px; background-color: rgb(239, 239, 239); border-collapse: collapse; text-align: left; border: 0px none; padding: 0px;" width="100%"> <tbody style="padding: 0px;"> <tr><td> [​IMG] </td> <td> [​IMG] </td> <td> [​IMG] </td> <td> [​IMG] </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> </tbody> </table> </td> </tr> </tbody> </table> To get the WTI oil price, please enable Javascript. </td><td><table summary="Crude oil and commodity prices (c) http://oil-price.net" style="font-family: Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 12px; background-color: rgb(239, 239, 239); border-collapse: collapse; text-align: left; border: 1px solid rgb(0, 0, 0); padding: 0px; border-spacing: 0px;"> <tbody style="padding: 0px;"> <tr style="padding: 0px;"> <td style="padding: 0px;"> <table style="font-family: Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 12px; background-color: rgb(239, 239, 239); text-align: left; border: 0px none; padding: 0px;" width="100%"> <tbody style="padding: 0px;"> <tr><td style="background-color: rgb(206, 207, 206); font-size: 18px; font-weight: bold; color: rgb(0, 0, 0); white-space: nowrap;" colspan="4" align="center"> Brent Crude Oil</td> </tr> <tr> <td style="font-size: 22px; font-weight: bold; white-space: nowrap;"> $110.91 </td> <td style="font-size: 16px; font-weight: bold; color: green; text-align: left; white-space: nowrap;"> ▲0.18 </td> <td>
    </td> <td style="font-size: 16px; font-weight: bold; color: green; text-align: left; white-space: nowrap;"> 0.16% </td> </tr> <tr><td style="font-size: 9px; font-weight: bold; white-space: nowrap;" colspan="2"> 14:22 PM EST - 2012.01.31 </td></tr> </tbody> </table> </td> </tr> <tr> <td> <table style="font-family: Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 12px; background-color: rgb(239, 239, 239); border-collapse: collapse; text-align: left; border: 0px none; padding: 0px;"> <tbody style="padding: 0px;"> <tr style="padding: 0px;" valign="center"><td style="padding: 0px;" align="center"> [​IMG] </td> </tr> <tr> <td> <table style="font-family: Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 12px; background-color: rgb(239, 239, 239); border-collapse: collapse; text-align: left; border: 0px none; padding: 0px;" width="100%"> <tbody style="padding: 0px;"> <tr><td> [​IMG] </td> <td> [​IMG] </td> <td> [​IMG] </td> <td> [​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table> <ins style="display: inline-table; border: medium none; height: 60px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 468px;"><ins id="aswift_3_anchor" style="display: block; border: medium none; height: 60px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 468px;"></ins></ins>
    </td></tr> <tr><td colspan="2"> <table summary="Crude oil and commodity prices (c) http://oil-price.net" style="font-size: 14px; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(255, 255, 255); border-collapse: collapse; text-align: left; border: 0px solid rgb(85, 85, 85);"><tbody><tr> <td style="font-size: 10px; font-weight: bold; border-bottom: 0px solid rgb(204, 204, 204); color: rgb(0, 51, 102); padding: 2px; white-space: nowrap;"> Crude Oil Price by OIL-PRICE.NET © </td></tr><tr><td> <table summary="Crude oil and commodity prices (c) http://oil-price.net" style="font-size: 14px; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(255, 255, 255); border-collapse: collapse; text-align: center; border: 1px solid rgb(85, 85, 85);"> <tbody><tr style="background-color: rgb(220, 220, 220);"> <td style="font-size: 14px; font-weight: bold; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;" colspan="2">Price</td> <td style="font-size: 14px; font-weight: bold; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;" colspan="3">Change</td> <td style="font-size: 14px; font-weight: bold; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;">Trades</td> <td style="font-size: 14px; font-weight: bold; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;" colspan="2">Volume</td> </tr> <tr style="background-color: rgb(255, 255, 255);"> <td style="font-size: 14px; font-weight: normal; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;" colspan="2">14:22 - $ 98.03 </td> <td style="font-size: 14px; font-weight: normal; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(199, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;" colspan="3"> [​IMG] 0.75 0.76% [​IMG] </td> <td style="font-size: 14px; font-weight: normal; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;"> 193,422 </td> <td style="font-size: 14px; font-weight: normal; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;" colspan="2">307,184 </td> </tr> <tr style="background-color: rgb(220, 220, 220);"> <td style="font-size: 14px; font-weight: bold; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;">Range</td> <td style="font-size: 14px; font-weight: bold; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;">Open</td> <td style="font-size: 14px; font-weight: bold; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;" colspan="3">52 Wk Range</td> <td colspan="3" style="font-size: 14px; font-weight: bold; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;">1 Year Forecast</td> </tr> <tr style="background-color: rgb(255, 255, 255);"> <td style="font-size: 14px; font-weight: normal; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;">97.90 - 101.29</td> <td style="font-size: 14px; font-weight: normal; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;">98.88</td> <td style="font-size: 14px; font-weight: normal; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;" colspan="3">75.92 - 114.18</td> <td colspan="3" style="font-size: 16px; font-weight: normal; border: 1px solid rgb(85, 85, 85); color: rgb(0, 0, 0); padding: 2px; white-space: nowrap;">$113 / Barrel</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2012
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวของเวียดนาม เผยภาพงานเทศกาลปีใหม่ในหมู่บ้าน Nem Thuong ของเวียดนาม ที่มีชื่อว่า “Hoi Chem Lon Te Thanh” หรือเทศกาลอุทิศหมูแด่ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านซึ่งจะจัดขึ้นทุกวันที่ 6 ของเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนาม
    ทั้งนี้เทศกาลนี้ หมู 2 ตัวที่แข็งแรงจะถูกเลือก และพาไปเดินรอบหมู่บ้านในช่วง 09.00- 11.00 น. จากนั้นจะถูกพามาที่ลานกลางหมู่บ้าน แล้วผู้ชาย 2 คนที่มีความคุ้นเคยในการเลี้ยงหมู ซึ่งต้องมีอายุ 50 ปี พอดี จะฆ่าหมูที่ถูกเลือก โดยการมัดขาทั้ง 4 ข้าง ก่อนใช้มีดกรีดไปตามตัว ถือเป็นการทำบุญอุทิศให้แก่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งหมู่บ้านแห่งนี้ จากนั้นชาวบ้านจะนำเงิน เชือก และอุปกรณ์ทำสวน ไปป้ายที่เลือดของหมู ตามความเชื่อที่ว่าจะนำความสุขและโชคลาภและสุขภาพที่ดีมาให้
    อย่างไรก็ตามเทศกาลนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในอินเตอร์เน็ต หลังจากภาพการเฉลิมฉลองแสนโหดร้ายนี้ถูกเผยแพร่ออกไป คนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า มันเป็นวัฒนธรรมที่โหดร้าย บางคนกล่าวว่า สำหรับพวกเขาอาจถือการฉลองดังกล่าวเป็นเรื่องดี แต่คนทั่วโลกไม่น่าจะเห็นด้วย
    Mthai News
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    แท็ก : ปีใหม่, เทศกาลฆ่าหมู, เวียดนาม


    [​IMG]
    นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากรายงานการตรวจหาเชื้อพิษสุนัขบ้าในหัวสุนัขที่ส่งตรวจที่สถานเสาวภาช่วงระหว่างวันที่ 4- 23 ม.ค. 2555 ที่ผ่านมา พบว่า
    หัวสุนัขจำนวน 6 หัว มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จึงประสานข้อมูลกับทางสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ ถึงที่มาของหัวสุนัข พบว่ามาจากแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง และแขวงบางมด เขตทุ่งครุ ส่วนอีกหัวมาจากซอยลาซาล 52 เขตบางนา เป็นสุนัขไม่มีเจ้าของอยู่ในอู่ซ่อมรถ ซึ่งเป็นสุนัขแม่ลูกอ่อน 3 ครอก รวมแล้วประมาณ 20 ตัว และหลังเกิดเหตุพบว่า เจ้าของอู่ซ่อมได้นำสุนัขทั้งหมดไปปล่อยที่วัดคลองปลัดเปรียง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัด แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีสุนัขป่วยหรือตายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม จะมีการประสานกับกรมปศุสัตว์เพื่อเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับสุนัขและแมว รวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ในพื้นที่ต่อไป
    ดังนั้นกรมควบคุมโรค จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่ที่พบสุนัขมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าและพื้นที่ใกล้เคียง ให้สำรวจตรวจสอบว่า มีสัตว์เลี้ยง เด็ก หรือคนในบ้าน เคยคลุกคลีกับสุนัขในย่านนั้นหรือไม่ และถ้ามีสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว ในระยะนี้ไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน รวมทั้งควรเฝ้าระวังว่ามีสุนัขแปลกหน้า หรือมีอาการน่าสงสัยในย่านนั้นหรือไม่ ในกรณีที่รู้ตัวว่าเคยคลุกคลีหรือสัมผัสกับสัตว์ในพื้นที่ที่กล่าวมาแล้ว ควรไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน เพราะโรคพิษสุนัขบ้ามีระยะฟักตัวในคนตั้งแต่ 7 วัน ถึง 2 ปีครึ่ง มากกว่าระยะฟักตัวในสัตว์ ส่วนคนทั่วไปมักมีความเชื่อที่ผิดๆ ว่า ลูกสุนัขจะไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งไม่เป็นความจริง หากลูกสุนัขคลุกคลีกับสุนัขที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ก็อาจจะรับเชื้อมาได้เช่นกัน
    “ภายหลังเกิดเหตุการณ์อุทกภัย พบว่ามีสุนัขพลัดหลง สุนัขจรจัดมากขึ้น จึงควรระวังในการเก็บมาเลี้ยง หรือเล่นกับสุนัข เพราะสุนัขอาจจะไปรับเชื้อจากสุนัขที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และมีเชื้ออยู่ในน้ำลายได้”
    สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขในปี 2552 มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 24 ราย ปี 2553 จำนวน 15 ราย และ ปี 2554 เสียชีวิต 7 ราย สาเหตุที่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง เนื่องจากกรมควบคุมโรคมีการรณรงค์ ให้ความรู้และประชาสัมพันธ์เรื่องโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้ผู้ที่สัมผัสกับสุนัข หรือสัตว์ที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ามารับการฉีดวัคซีนเร็ว จึงลดการเสียชีวิตลงได้
    ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าตนได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคเร่งประสานกับทางกรุงเทพมหานคร ในการเข้าไปตรวจสอบและควบคุมโรคในพื้นที่ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์ในชุมชนใกล้เคียง นอกจากนี้ อาจจะมีการดำเนินการสำรวจและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ในพื้นที่ประสบอุทกภัยภายหลังน้ำลดด้วย เพราะได้รับรายงานว่ามีสัตว์พลัดหลงและจรจัดเพิ่มมากขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...