ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ทั่วประเทศยังมีฝนตกชุก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 28 กันยายน 2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่เข้ามา ปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนประกอบกับ คลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาเข้ามาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นในระยะนี้


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    [/FONT]
    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ทำไมวัยรุ่นยุคนี้ โตขึ้นอยากเป็นดารานักร้องกันหมด?

    [​IMG]

    ผมเห็นดาราหลายคนนะครับที่เรียนจบ เสียดายความรู้ น่าจะนำมาทำประโยชน์ได้เยอะ ยิ่งตอนนี้ AF บ้าพวกนี้ มอมเมาเยาวชน โตมาร้องเพลงดี เต้นเก่ง หน้าตาดี ก็หากินได้แล้ว อยากจะให้เยาชนยุคนี้มาสนใจด้านระบบสมองกลให้มากๆๆ เพราะด้านนี้แสดงให้ให้ถึงความก้าวหน้าของชาติ มันจะดูเท่กว่า คุณถือ blackberry อีกครับ

    โดยคุณ kritsada 12-08-2010

    คงเพราะคิดกันว่า การเป็นดารานักร้องทำให้โด่งดัง เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มวัยรุ่นและหาเงินได้เยอะ โดยใช้พลังงานสมองแค่น้อยนิดล่ะมั้งคะ

    โดยคุณ fisho 12-08-2010

    สำหรับธุรกิจนี้ น่าเสียดายที่หลายคนเข้ามาเพราะถูกหลอกให้เห็นภาพฝัน (ที่ใหญ่ไป) และส่วนมากล้มเหลวก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ข้อแตกต่างที่สำคัญข้อหนึ่งระหว่าง "ขายตรงกับ ดารา" คือขายตรงใช้ความสามารถรอบตัว(รอบด้าน)เป็นเครื่องมือ ในขณะที่ดารา(ส่วนใหญ่ เดี๋ยวนี้) มักจะใช้ หน้าตา เสียง สื่อ เส้นสาย หรือพรสวรรค์เป็นเครื่องมือ, ซึ่งจะเห็นได้ว่าอย่างแรกเราสร้างได้ แต่อย่างหลังใช้เรื่องของบุญกรรมที่ทำกันมาเป็นทุนครับ

    - สำหรับเรื่องดารา ที่ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วย มีแค่เรื่องเดียว คือผมเชื่อว่าเป็นดารา เมื่อตายแล้วลงนรกค่อนข้างแน่นอนครับ..

    โดยคุณ Lastman 12-08-2010

    ที่มา http://www.electoday.com/bbs/viewthread.php?tid=7260

    ************************************************************

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

    ถาม : เมื่อกี้ผมเล่าให้น้องเขาฟังครับ เรื่องดารา ถ้าไม่เคยทำบุญอย่างอื่น ตกนรกหมดเพราะทำให้คนยึดติด ก็รู้สึกเอ๊ะ ในเมื่อดาราเขาทำสัมมาอาชีวะแล้ว ทำไมต้องไปตกนรกด้วย ในเมื่อถ้าเขาไม่ทำเขาก็ไม่มีกิน ?

    ตอบ : มันเป็นมิจฉาทิฏฐิ คือ สิ่งที่เขาทำมันค้านกับธรรมะที่แท้จริง เพราะว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นมายา มันทำให้คนหลงยึดติดอยู่

    สังเกตไหมล่ะว่า นางอิจฉาเข้าไปในตลาด ดีไม่ดีเจอเปลือกทุเรียน ไม่ก็รองเท้าขว้างเอานั่นน่ะ คนมันยึดขนาดนั้น

    พระพุทธเจ้าสอนให้ละ พวกนี้ทำให้ยึด มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน เรียกว่ามิจฉาทิฏฐิ โทษของมิจฉาทิฏฐินี่มันหนักมากนะ อเวจีที่เดียว น่าสงสารมากเลย

    ในพระไตรปิฎกมีอยู่ คือ พระตาลปุตตคามินีเถระ ท่านเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก ได้รับการอบรมมาจากวงการนักแสดง เขาบอกไว้ว่า บุคคลที่สร้างความรื่นเริงให้แก่ผู้อื่น จะได้เป็นสหายของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ก็คือว่าจะได้ไปเกิดที่นั่น ภาษาบาลีฟังยากมันต้องแปลเป็นไทยอีกทีหนึ่ง ท่านเองท่านก็ยึดมั่นในจุดนั้นมา

    คราวนี้พอไปเปิดการแสดงที่เมืองสาวัตถี ได้ยินมาว่าสมณโคดมทราบเรื่องทุกอย่าง ได้โอกาสก็เข้าไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่าสิ่งที่ท่านทำจะให้ท่านได้เกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จริงไหม พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ดูก่อนมายาการ อย่าเพิ่งให้เราพยากรณ์เลย ท่านเองถามถึง ๓ วาระ พอถึงครั้งที่ ๓ พระพุทธเจ้าบอกว่าลงอเวจีมหานรก

    คราวนี้ดีตรงที่ว่าท่านเชื่อ นั่งร้องไห้เลย ถามว่าทำอย่างไรถึงจะรอดได้ พระพุทธเจ้าบอกว่า บวชแล้วปฏิบัติ ไม่นานท่านก็เป็นพระอรหันต์ รอดไปถ้าไม่เชื่อก็ซวย

    คราวนี้มันมีตัวอย่างอยู่ ดาราวัยรุ่น ธรรม์ โทณวณิก ที่ตาย ดูคนไปงานศพกี่หมื่น ถ่ายรูปลงหนังสือพิมพ์ออกมาเห็นแล้วตกใจ มันทำให้คนติดได้ขนาดนั้น แล้วดาราเพลงร็อคของญี่ปุ่น มันมากันที คนแห่กันไปดอนเมือง รถติดบรรลัยวายวอดเลย คนติดมันขนาดไหน แต่มันเป็นการยึดในทางที่ผิด จริง ๆ แล้วการปฏิบัติมันต้องปล่อย ยึดเมื่อไหร่ก็อยู่แค่นั้นแหละ

    ถาม : แต่มันเป็นเรื่องทางโลกนะครับ ไม่มีก็ไม่ได้
    ตอบ : ก็มันไม่มีก็ได้ ถ้าหากว่าคนเราพอใจมีธรรมะประกอบอยู่ แต่บังเอิญว่าคนเรามันไม่สนใจจะหันมาหาธรรมะ มันสนใจแต่ทางด้านโน้นจริง ๆ แล้วพวกนี้น่าสงสารมาก การแสดง แสง สี เสียง อะไรต่าง ๆ ก็ดี ที่มันเกิดขึ้นมา เพื่อกระตุ้นในเรื่องของรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เหล่านี้ มันทำให้ปีติเกิดขึ้นในใจชั่วคราว ทำให้จิตมันฟูขึ้นมา ทำให้รู้สึกว่ามีความสุข แต่มันเป็นความสุขที่เกิดจากการกระตุ้นภายนอก

    มันไม่เหมือนกับ การรักษาศีลเจริญภาวนาที่เป็นความสุข ที่เป็นปีติที่เกิดขึ้นจากภายใน มันอยู่ยั่งยืนยงกว่า เพราะมันสร้างขึ้นมาเอง แต่ว่าอันโน้นมันเกิดจากการกระตุ้นภายนอก เมื่อขาดสิ่งกระตุ้นนั้นมันก็ขาดไป พวกนี้ก็จะเกิดอาการทุกข์ขึ้นมา ทุกข์ตรงที่ว่า เอ๊ะ ทำไมไอ้ความสุขที่เคยมีมันหายไป ก็ตะเกียกตะกายไปหาอีก ก็ต้องไปกินเหล้าเมายา ไปเต้นรำ ไปเข้าคลับเข้าบาร์กัน เข้าโรงหนังฟังเพลง ไปกรี๊ดกันถึงจะมัน

    ถาม : พวกนักร้องก็เหมือนกันหรือครับ
    ตอบ : เหมือนกันหมด พวกนี้ส่วนใหญ่แล้วทำให้คนยึดติด ถ้าไม่เคยทำบุญอื่นมา ในลักษณะที่เรียกว่ากำลังใจทรงตัวนะ โอกาสรอดอเวจีน้อยเต็มที น่าสงสาร

    ถาม : อย่างนี้พวกนักฟุตบอล มันก็เกี่ยวเนื่องไหมครับ ?
    ตอบ : มันก็มีสิทธิ์เหมือนกัน

    ถาม : อย่างพวกแมนยู ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล
    ตอบ : พวกนี้จริง ๆ มันไม่น่าโทษเขานะ ไอ้คนระยำดันไปติด

    ถาม : เลยพาเขาซวยไปด้วย
    ตอบ : ต้องดูเจตนาของเขา ถ้าเจตนาของเขาคือว่าวางลีลา จะมีท่าแปลก ๆ อะไรออกมาเพื่อดึงดูดใจคน นี่เจตนาชัดเลย โทษ ๑๐๐% แต่ถ้าหากว่าเป็นอาชีพของตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด คนอื่นจะเป็นอย่างไรเราไม่เกี่ยว นี่โอกาสรอดยังมีเยอะ คราวนี้แบบแรกมันจะเยอะ เป็นแบบแรกเกือบหมด

    ถาม : ตายแน่ เดวิด เบคแฮม ...(หัวเราะ)... โฮ ทั้งสามีภรรยาเลย
    ตอบ : เอาให้ถึงเวลาก็ไปดูแล้วกัน ถ้าคนไปติดเขาเองน่ะ จริง ๆ แล้ว โทษเขาไม่มี แต่ว่าพวกนี้ส่วนใหญ่เจตนาหาจุดเด่นขึ้นมาเพื่อดึงดูด มันช่วยได้เยอะ ชื่อเสียงของตัวเองก็ได้ เงินทองก็มากขึ้น

    ถาม : ถ้าเป็นดารา ก็คิดว่าเราทำหน้าที่ของเรา
    ตอบ : คือทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดไป แล้วถึงเวลาเรื่องของบุญของบาปนะ บาปเราก็ละ บุญเราก็ทำ ให้จิตใจมันเกาะบุญมากกว่าบาป โอกาสรอดมันก็มี

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1082
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2010
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,704
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ไม่เป็นตนเอง ****

    ชอบไปดึงตัวกระทำของคนอื่นมาเข้าตน
    ชอบไปเอานิสัยคนอื่นมาเป็นของตน
    ทำปล่อยๆ นิสัยตนเองเดิมก็มีอยู่แล้ว ยิ่งเข้ามาเพิ่มอีก
    อย่างคนบ้า เดี๋ยวก็เป็นคนนั้น เดี๋ยวก็เป็นคนโน้น
    ตัวกระทำมันแสดงออกมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เชียงใหม่-น้ำป่าทะลักลงแม่น้ำปิงเพิ่มระดับขึ้นใกล้วิกฤติ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    น้ำป่าจากพื้นที่อำเภอแม่แตง และเชียงดาว ทะลักลงแม่น้ำปิง ทำให้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วใกล้จุดวิกฤติที่จะล้นตลิ่ง ขณะเดียวกันน้ำในแม่น้ำปิงเป็นสีแดงจากดินโคลน มีท่อนไม้และเศษไม้ไหลมากับน้ำจำนวนมาก

    หลังจากที่เกิดฝนตกหนักทางตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ในพื้นที่อำเภอไชยปราการ อ.เวียงแหง อ.เชียงดาว และอำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำแม่แตง และแม่น้ำปิง โดยเฉพาะน้ำแม่แตง ฝนที่ตกในพื้นที่อำเภอไชยปราการซึ่งเป็นต้นน้ำทำให้เกิดน้ำป่าไหลลงน้ำแม่แตงจนล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่แตง และมีรายงานว่าที่บ้านแม่ตะมาน เกิดน้ำป่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งปางช้างของเอกชนชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของขึ้นบนที่สูง ขณะที่ปางช้างก็ต้องอพยพช้างขึ้นไปอยู่บนที่สูง

    ขณะเดียวกันน้ำจากน้ำแม่แตงได้ไหลงสู่แม่น้ำปิงที่มีระดับเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แม่น้ำปิงยิ่งเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เฉลี่ยแล้วชั่วโมงละ 9-10 เซนติเมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ณ จุดวัดระดับน้ำ พี 67 บ้านแม่แต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำวัดได้ 3 เมตร 45 เซนติเมตร ระดับน้ำไหลผ่าน 330 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่จุดวัดระดับน้ำพี 1 เชิงสะพานนวรัตน์ เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ วัดระดับน้ำได้ 2 เมตร 90 เซนติเมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้เกือบ 1 เมตร ใกล้จุดวิกฤติที่ 3 เมตร 70 เซนติเมตรคาดว่าหากระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างนี้อาจจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงล้นตลิ่งได้ในคืนนี้

    จากน้ำป่าที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิงพบว่าน้ำในแม่น้ำปิงมีลักษณะเป็นสีขุ่นแดงจากดินโคลน อีกทั้งน้ำป่าระลอกน้ำได้พัดพาเอาเศษต้นไม้ และท่อนไม้จำนวนมากไหลมากับน้ำด้วย คาดว่าจะเป็นน้ำป่าที่พัดมาจากน้ำแม่แตงคืนที่ผ่านมา

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

    พิษณุโลก-น้ำท่วมบางระกำ ปิดเรียน 2 แห่งไม่มีกำหนด

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    น้ำท่วมอำเภอบางระกำเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดโรงเรียน 2 แห่งในพื้นที่ประกาศปิดการเรียนการสอนไม่มีกำหนด ส่วนชาวบ้านอาจต้องทนอยู่กับสภาพน้ำท่วมขังไปจนถึงฤดูหนาวนี้

    สถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ยังวิกฤต ล่าสุดระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นทำให้ในโรงเรียน 2 แห่ง คือโรงเรียนบ้านกรุงกรัก และโรงเรียนบ้านท่านางงาม ต้องประกาศปิดเรียนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากอาคารเรียนบางหลังถูกน้ำท่วม อีกทั้งเส้นทางไปโรงเรียนถูกน้ำท่วมสูง เช่นกัน เกรงว่านักเรียนอาจได้รับอันตรายจากน้ำท่วม

    ขณะที่ประชาชนชาวบางระกำ ต้องหันมาใช้รถยนต์ที่ใช้ในการเกษตรเป็นพาหนะสัญจรไปมาแทนรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ชาวบ้านเชื่อว่าน้ำยังคงท่วมสูงขึ้นอีก เนื่องจากได้รับแจ้งเตือนว่ายังมีฝนตก และน้ำไหลมาสมทบในเขตอำเภอบางระกำทำให้ชาวบ้านต้องทนกับสภาพน้ำท่วมไปจนถึงต้นฤดูหนาวอย่างแน่นอน

    ล่าสุดในอำเภอบางระกำ มีพื้นที่ ๆ ถูกน้ำท่วม ได้แก่ ตำบลบ่อทอง ท่านางงาม ชุมแสงสงครราม บางระกำ คุยม่วง วังอิทก นิคมพัฒนา ส่วนความเสียหายยังไม่สามารถสำรวจได้ต้องรอหลังน้ำลดก่อน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

    ปทุมธานี-น้ำท่วมหนักหลายจุดหลังฝนถล่ม

    [​IMG]

    หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี จ.ปทุมธานี เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลังฝนตกหนักกว่า 1 ชม.เมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ถนนพหลโยธินขาออก และถนนรังสิต-ปทุมธานี มีน้ำท่วมสูง ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวเหยียด

    ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ไม่เชื่อว่าน้ำจะท่วมหนักและรวดเร็วขนาดนี้ แค่ฝนตกลงมาเพียงไม่กี่นาที โดยนายเก่ง อายุ 28 ปี มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว บอกว่าขณะที่ฝนตกหนักกำลังขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่หน้าหมู่บ้าน ได้มีลูกสาว 3 คน โทรศัพท์มาบอกว่าน้ำท่วมเข้าบ้าน จึงรีบกลับไปดูพบว่าน้ำท่วมเข้าบ้านแล้ว เก็บข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าหนีน้ำไม่ทัน จึงเปียกน้ำได้รับความเสียหาย โชคดีที่ลูก ๆ ไม่ได้รับอันตรายจากสายไฟฟ้าที่เปียกน้ำด้วย ไม่คิดว่าฝนที่ตกลงมาเพียงไม่กี่นาทีจะทำให้น้ำเข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็วขนาดนี้ และมีสีดำคล้ำ ส่งกลิ่นเหม็นเน่า จึงอย่างให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาด้วย หากเกิดฝนตกหนักเป็นระยะเวลานานกว่านี้ระดับน้ำคงสูงขึ้นกว่านี้

    เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองรังสิต ต้องเร่งสูบน้ำเพื่อระบายน้ำให้ลดลงเนื่องจากน้ำจากท่อระบายน้ำก็เอ่อขึ้น ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำ หวั่นติดเชื้อโรค เนื่องจากน้ำมีสีดำคล้ำ และมีกลิ่นเหม็น

    สำหรับน้ำท่วมครั้งนี้เนื่องจาก เมื่อเวลา 22.00 น.วานนี้ (27 ก.ย.) เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ติดต่อกันประมาณ 1 ชม.ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงหลายจุด โดยเฉพาะที่หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ระดับน้ำสูงประมาณ 30-60 ซม.และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ชาวบ้านเก็บของหนีน้ำไม่ทัน นอกจากนี้เส้นทางถนนพหลโยธินฝั่งขาออก ถนนรังสิต-นครนายก และ ถนนรังสิต-ปทุมธานี น้ำท่วมถนน ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวเหยียดหลายสิบกิโลเมตร เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    28 ก.ย. 53


    9 พ.ย. 51 ผลไม้เมืองนอก ภาค1 (แจกน้อยหน่าเหล็ก)
    เที่ยวนั้นมีคนตายจากการยิงลูกระเบิดเข้าไปในสภาไม่น้อยกว่า 5ราย

    7 ก.ย. 53 เมฆดำ พายุหมุน ไฟไหม้

    28 ก.ย. 53 ผลไม้เมืองนอก ภาค2
    ภาพที่เห็นคล้ายกับระเบิดที่ทำเอง ความยาวขนาดข้าวหลามนำมามัด
    รวมกัน สองอันบ้าง สามอันบ้างเป็นแผงๆ

    วันนี้ได้ฟังข่าวทาง จ.ส.100 ขณะที่กลับจากส่งลูกสาวคนกลางไป ม.เกตษร
    เวลาเที่ยงกว่า ว่าเกิดเพลิงไหม้บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ที่ซอย พหลโยธิน 56 ถ้ารวม
    ที่ไหม้ที่สิงห์บุรีน่าจะเป็นรายที่7




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    โดย NoOTa

    "ในหลวง"รับสั่งคนมีมาก ควรที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันคนไม่มี ส่วนผู้ไม่มี ไม่ควรรอช่วยเหลือต้องพยายาม


    [​IMG]

    เวลา 17.33 น. วันที่ 27 กันยายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรี และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นการส่วนพระองค์ มีพระราชดำรัส ให้คนที่มีมาก ควรแบ่งปันแก่ผู้ไม่มี ส่วนผู้ที่ไม่มี ไม่ควรรอคอยแต่ความช่วยเหลือ หากช่วยเหลือกันดังนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะสงบสุข ...


    เวลา 17.33 น. วันที่ 27 กันยายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรี และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นการส่วนพระองค์

    โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับหลักการที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขว่า "บุคคลที่นับได้ว่า มีสิ่งต่างๆ มากกว่าผู้อื่น สมควรที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือแบ่งปันแก่ผู้ไม่มี อย่างพอเหมาะพอสม และตนเองไม่เดือดร้อน ส่วนผู้ที่ไม่มี ก็ควรพยายาม ไม่ควรรอคอยแต่ความช่วยเหลือ หรือคิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ หากช่วยเหลือกันดังนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะสงบสุข ... "



    ---------------------------
    ที่มา: มติชนออนไลน์
    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1285594084&grpid=02&catid=42
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2010
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    จับตา'อาวุธเชื้อโรค'จากไวรัสหวัด 2009

    [​IMG]

    เมื่อปี 2544 สหรัฐจับกุมชายที่มีเชื้อแอนแทรกซ์ไว้ในครอบครอง และเตรียมก่อวินาศกรรมโดยโปรยเชื้อเหนือเมืองลาสเวกัส ในฐานะอาวุธเชื้อโรคประสิทธิภาพสูง เช่นเดียวกับกรณีนักวิจัยต่างชาติติดต่อขอตัวอย่างเชื้อเมลิออยโดซิส (melioidosis) จากไทย โดยคนไทยกังวลว่าเชื้อดังกล่าวจะถูกพัฒนาเป็นอาวุธเชื้อโรค ส่งผลให้ทางการไทยเข้มงวดมากขึ้นกับการแลกเปลี่ยนเชื้อโรคร้ายแรงระหว่างประเทศ รวมถึงเชื้ออุบัติใหม่อย่าง ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไข้หวัดนกและซาร์ส

    ท่ามกลางการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดของฝ่ายความมั่นคง ฟากแวดวงนักวิจัยตระหนักถึงภัยร้ายแรงจากอาวุธเชื้อโรคเช่นกัน โดยมหาวิทยาลัยมหิดลศึกษาหาแนวทางรับมือ และพบว่าสมุนไพรหลายชนิดมีศักยภาพสยบพิษจากอาวุธชีวภาพไม่ด้อยไปกว่ายาเคมีนำเข้า

    มหาหิงคุ์หยุดหวัดใหญ่ 2009

    "มหาหิงคุ์" สมุนไพรบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อในเด็ก ที่คนไทยคุ้นเคยกันดีนั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ตะวันออกกลาง ไม่ใช่สมุนไพรไทยอย่างที่หลายคนเข้าใจ ล่าสุดรายงานการวิจัยจากจีน ที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ ระบุถึงยางจากลำต้นมหาหิงคุ์มีคุณสมบัติต้านไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ก่อโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ในระดับความเข้มข้นสูงกว่า ยาต้านไวรัสในกลุ่มอะแมนตาดีน (amantadine)

    นักวิจัยในจีนศึกษาพบยางจากลำต้นมหาหิงคุ์ ประกอบด้วยสารสำคัญ 9 ชนิด ที่สามารถต้านไวรัสเอช 1 เอ็น 1 และยืนยันด้วยผลการทดลองในสัตว์ งานวิจัยนี้ยังได้รับเลือกให้ติดอันดับงานวิจัยที่น่าสนใจอีกด้วย

    "จากข้อมูลการวิจัยในจีน จึงมีความเป็นไปได้หากจะพัฒนายาชนิดใหม่จากมหาหิงคุ์ สำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมถึงผู้ตกเป็นเหยื่ออาวุธชีวภาพซึ่งพัฒนาจากเชื้อชนิดเดียวกันนี้ในอนาคต ทางนักวิจัยมหิดลก็สนใจที่จะศึกษาต่อยอดสมุนไพรมหาหิงคุ์สู่การนำไปใช้เช่นกัน" รศ.อ้อมบุญ วัลลิสุต หัวหน้าภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าว

    งานวิจัยจากคณะเภสัชฯ ยังพบสูตรค็อกเทลสมุนไพรที่มีฤทธิ์ยับยั้งอาการผิดปกติของทางเดินหายใจ ระบบเลือดรวมถึงเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยเพิ่มทางเลือกในการรักษา นอกจากยาแผนปัจจุบันเพียงอย่างเดียว

    “พืชสมุนไพรและสัตว์สมุนไพรหลายชนิดมีสารสำคัญที่ยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรค สารดังกล่าวอยู่ในรูปของสารเคมี หรือเปปไทด์และโปรตีน การวิจัยเชิงลึกจะเพิ่มความสามารถในการค้นหายาต้านจุลชีพ เพื่อพัฒนาเป็นเครื่องมือต้านภัยจากอาวุธชีวภาพได้มากขึ้น” ดร.จิระพรรณ จิตติคุณ ภาควิชาเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มองเห็นความเป็นไปได้ในการพัฒนาเปปไทด์ต้านจุลชีพ เพื่อเป็นทางเลือกต่อกรอาวุธชีวภาพ กล่าว

    กองทัพจับตาเชื้ออุบัติใหม่

    ด้านพลตรีหม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล ผู้ชำนาญการกองทัพบกในฐานะที่ปรึกษากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ให้คำจำกัดความของอาวุธชีวภาพว่า จะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาโดยผู้มีเจตนาร้าย ที่ต้องการแยกเชื้อโรคไปเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวน และเมื่อนำใส่เข้าไปยังร่างกายมนุษย์แล้ว จะสามารถเพิ่มจำนวน ทำให้มีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต

    อาวุธชีวภาพถูกเลือกใช้ในการก่อการร้าย เนื่องจากมีราคาถูกเมื่อเทียบกับอาวุธชนิดอื่น อีกทั้งไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยระบบป้องกันภัยมาตรฐาน ทำให้มีความพยายามพัฒนาอาวุธชีวภาพจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ตลอดจนสารพิษต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อโรคติดต่อระหว่างสัตว์กับคน อย่างไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ไวรัสไข้หวัดนกรวมถึงเชื้อโรคอื่นๆ เช่น ซาร์ส ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ

    แม้ว่าประเทศไทยยังไม่พบการก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธชีวภาพ แต่กองทัพบกยังคงให้ความสำคัญกับทั้ง 2 ประเด็น โดยเฉพาะอาวุธชีวภาพที่พัฒนาขึ้นได้จากเชื้อโรคและไวรัส ขณะที่อาวุธนิวเคลียร์ยังคงอยู่ภายใต้สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งไทยเป็นประเทศภาคีสมาชิก

    “ภัยจากอาวุธชีวภาพเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กองทัพให้ความสนใจ ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อหามาตรการเฝ้าระวัง และร่วมกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ตลอดจนหาแนวทางจัดการปัญหาที่เกิดจากอาวุธชีวภาพที่พัฒนาโดยเชื้อโรคอุบัติใหม่ อย่างเอช 1 เอ็น 1 ด้วย”

    นอกจากนี้ กองทัพจะพยายามผลักดันแผนฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี เพื่อให้เกิดการบังคับใช้ในทางปฏิบัติ ซึ่งขณะนี้ได้นำเสนอแผนดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาเห็นชอบ

    กรุงเทพธุรกิจ 23 มี.ค. 2553

    ที่มา http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_herbal/news_detail.asp?cat=G&id=51
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2010
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    นิมิตเหตุการณ์วันพิพากษาโลก
    โดย ซาร่า ฮอฟแมน แปลโดย 1p2m

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เขียนเมื่อ วันที่ 14 มีนาคม 2006 นิมิตของวันพิพากษาโลก

    ซาร่า ออฟแมน ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อปี 1979 (แต่ไม่สำเร็จ) เธอกล่าวว่าเธอจำต้องฟื้นกลับขึ้นมาและทำบางสิ่งในชีวิตให้สำเร็จ แต่สิ่งแรกก็คือเธอได้รับการสำแดงเกี่ยวกับวาระวันพิพากษาโลก (หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมคนที่คิดฆ่าตัวตายอย่าง ซาร่า ถึงได้รับเลือกจากพระเจ้าให้ได้เห็นนิมิต พระเจ้าทรงมีหนทางในแบบที่เราไม่อาจคาดคิดได้ ดังตัวอย่างหลาย ๆ ตอนในพระคัมภีร์ที่พระเจ้าไม่ได้เลือกคนที่เราคิดว่าดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบ)

    ต่อไปนี้คือภาพมุมกว้างของโลกที่ข้าพเจ้าเห็นจากมุมกว้างและแคบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เหมือนกับเราอยู่นอกโลก ในอวกาศและกำลังบินเข้ามาใกล้โลก

    ข้าพเจ้ารู้ว่านี้คือสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องตัดสินใจกลับมายังโลก(ฟื้นขึ้นมา) กลับมาสู่ชีวิตที่น่าระทมอีกครั้ง ร่างกายส่วนหนึ่งข้าพเจ้าต้องการไปสู่โลกฝ่ายวิญญาณหรือสวรรค์ แต่อีกส่วนหนึ่งก็อยากกลับไปสู่ร่างกายเดิมและดำเนินชีวิตใหม่ ความรู้สึกภายในเหมือนว่ากำลังชักเย่อกันอยู่ และสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังจะไปพบเห็นนั้นก็ช่วยให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าจะต้องไปบอกเมื่อข้าพเจ้าได้กลับมายังกายเดิม (จิตวิญญาณกลับมาเข้าสู่ร่าง)

    ทุกอย่างวนกลับมาอีกเหมือนเล่นวีดีโอเทปไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าได้ซึมซับเห็นทุกสิ่งอย่างชัดแจ้งและสมบูรณ์ ขณะที่โลกเคลื่อนใกล้เข้ามาข้าพเจ้าได้เห็นโลกทั้งใบและเห็นหลาย ๆ ประเทศ

    ข้าพเจ้าไม่รู้จักประเทศต่าง ๆ ดีนัก แต่ขณะที่ได้มองเห็นผืนแผ่นดินก็พอจะรู้ว่าเป็นประเทศอะไรบ้าง ข้าพเจ้ามองไปที่ตะวันออกกลางได้เห็นมิสไซต์พุ่งออกจากลิเบีย พุ่งเข้าโจมตีอิสราเอลเกิดระเบิดเป็นรูปดอกเห็ดใหญ่โตมาก ข้าพเจ้ารู้ว่ามิสไซต์นั้นแท้จริงแล้วเป็นของอิหร่าน ที่ได้แอบนำมาซ่อนเก็บไว้ที่ลิเบีย นั่นคือระเบิดนิวเคลียร์ และเกือบในทันทีทันใดก็มีมิสไซต์พุ่งออกจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง มิสไซต์พุ่งข้ามไปมาทั่วทั้งโลก ข้าพเจ้าได้เห็นการระเบิดของนิวเคลียร์ ที่ไม่ได้มาจากมิสไซต์อย่างมากมาย แต่เป็นการระเบิดจากใต้ดินชนิดหนึ่ง ข้าพเจ้ารู้ว่าในอนาคตจะมีสงครามนิวเคลียร์แน่นอนทั่วทั้งโลก และต่อไปนี้คือภาพการเริ่มต้นของสงครามว่าเริ่มต้นได้อย่างไร

    ข้าพเจ้าเปลี่ยนการเพ่งมองจากตะวันออกกลางไปที่อเมริกา และกำลังจะได้เห็นสิ่งที่นำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งข้าพเจ้าจะเป็นพยานถึงสิ่งนี้ ขณะที่มองดูไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือนั้น ข้าพเจ้าได้เพ่งดูไปที่แถวชายฝั่งตะวันออกขึ้นไปจนถึงนิวยอร์ก ได้เห็นตึกมากมายและผู้คน และก็ได็เห็นตึกสูงกำลังพังทลายลงมาที่พื้นดินมีควันกระจายอย่างน่ากลัว ซากปรักหักพัง ฝุ่งคลุ้งไปทั่ว (เธอเห็นภาพตึกเวิร์ดเทรดถล่มหรือเปล่า?) ข้าพเจ้าเห็นผู้หญิงอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในอ้อมแขนวิ่งหนีจากจากตึกที่ถล่ม

    ผู้หญิงผมยาวสีดำ หยิกเล็กน้อยพาดไหล่ ใส่ชุดสูทผ้าขนสัตว์สีแดงปลายสีเข้มหรือออกสีเปลือกไม้ ไม่ใส่แว่นตา เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ดูอายุประมาณ 6-7 ปีผมสั้นเลยคางสีน้ำตาลทรงผู้หญิง พวกเขาจับมือกันวิ่งหนีจากตึกสูงที่กำลังถล่มลงมา ฝุ่นควันหนาทึบมากและทำให้พวกเขาแยกจากกัน เด็กร้องอย่างตกใจกลัวหาแม่หลายครั้ง ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาจะเป็นหรือตาย ข้าพเจ้าเห็นหน้าของผู้หญิงคนนี้ได้อย่างชัดเจนและระบุตัวถ้าหากได้เห็นรูปของเธอ หรือบอกให้นักวาดรูปวาดภาพของเธอได้ ข้าพเจ้าสงสัยว่าตึกถล่มเพราะแผ่นดินไหวหรือไม่ แต่ในความรู้สึกที่เห็นก็คือ ไม่ใช่ แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใดแน่

    สิ่งต่อมาก็คือข้าพเจ้ารู้สึกได้มากกว่าที่เห็นแม้จะช่วงสั้น ๆ คือหลังจากเหตุการณ์นี้ไม่นาน การค้าขาย การซื้อขายก็หยุดชงักหรือกล่าวได้ว่าเศรษฐกิจยุติลง หรือเกือบล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครมีเงินถืออยู่เลย

    ต่อมาข้าพเจ้าเห็นผู้คนล้มป่วยและค่อย ๆ ตายไป สิ่งที่เห็นนี้เจาะจงลงไปยังเมืองใหญ่ ๆ 4 เมืองคือ นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก และ ซอร์ลเลค เชื้อโรคก็เริ่มแพร่กระจายโดยเกิดตุ่มสีขาว ๆ ไปทั่วตัวคน บางตุ่มก็ขนาดเท่าเหรียญบาทอยู่บนมือ แขนและหน้า และพัฒนาไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นตุ่มพองฟูสีขาวอย่างน่ากลัว ผู้คนเริ่มเดินสะดุดหกล้มลงและตายในเวลาอันรวดเร็วอย่างมากมาย หรือภายใน 24 ชม.

    ข้าพเจ้าเห็นบางคนมีเลือดออกมาจากจมูก ปากตา และหู มันเริ่มต้นคล้ายไว้รัสไข้หวัดใหญ่และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าเชื้อผุพองสีขาวที่เห็น ประชาชนที่ได้รับเชื้อโรคนี้ตายเร็วกว่าเดิมเสียอีก สิ่งนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอเมริกา คนหลายแสนเริ่มอ่อนแอเจ็บป่วยด้วยเชื้อโรคสองชนิดนี้ (ถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีชีวภาพ?)

    ข้าพเจ้ารู้ว่ามันคือเชื้อโรค และมีหลายชนิดมาก แต่สองตัวแรกบรรจุใส่ภาชนะขนาดเล็ก ๆ ที่ขนเข้ายังอเมริกา มันมีลักษณะคล้ายกับเหยือกเบียร์ และข้าพเจ้าเห็นเหมือนกับมีคนถือมันและนำมันไปลงบนพื้นในที่ ๆ มีฝูงชนเยอะ ๆ และคนก็ติดเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว

    ในเมืองเหล่านี้ที่บอกมามีเชื้อโรคกระจายไปทั่ว ประชาชนก็พยายามหนีออกจากเมืองไปนอกเมือง มีจลาจลวุ่นวายาทั้งเมือง สังคมแตกสาแหรกขาด ไม่มีไฟฟ้าอีกต่อไปโดยข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไม และไม่รู้ว่าจะมีได้อย่างไร มีรถยนต์เต็มไปหมดขวางกั้นถนนและคนจำนวนมากได้เดินเท้าเปล่า เชื้อโรคกระจายออกไปทั่วโดยเริ่มต้นที่เมืองเหล่านี้

    ประชาชนเริ่มหนีไปยังเมืองอื่น ๆ และก็มีแก็งอันธพาลโจมตีและฆ่าประชาชน ในเมืองที่ถูกโจมตีด้วยเชื้อโรคนั้นก็จราจลวุ่นวายทั้งเมือง มีการปล้นสะดม ฆาตกรรม พังพินาศสิ้น คนจำนวนมากดูเหมือนกับเสียสติบ้าคลั่ง ข้าพเจ้ารู้สึกว่าระบบไฟฟ้าล้มเหลวไปทั้งเมืองและไม่มีอะไรนอกจากการวิ่งหนีวุ่นวาย ไม่มีการติดต่อสื่อสารหรืออะไรเลยไม่ว่าที่ไหนในประเทศ ไม่มีการทำงาน ไม่มีการออกอากาศวิทยุหรือโทรทัศน์ ข้าพเจ้าเห็นประชาชนขว้างปาก้อนหินใส่กระจก หน้าต่าง เพื่อขโมยทีวีในร้านซึ่งข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นความบ้าคลั่งจริง ๆ เพราะขโมยทีวีไปก็ใช้ไม่ได้

    ในทันใดนั้น ในขณะที่ข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกา ข้าพเจ้าก็กระโดดกลับมามองแถวตะวันออกกลางและได้เห็นบางสิ่งในอิสราเอล เป็นความเลวร้ายเช่นเดียวกัน คือข้าพเจ้าได้เห็นเชื้อโรคบางชนิดหรือโรคร้ายบางอย่างที่นั่น ข้าพเจ้ารู้โดยไม่ทราบสาเหตุเลยว่าเชื้อโรคที่ใช้ในอเมริกานั้นก็เป็นชนิดเดียวกับที่นำมาใช้ในอิสราเอลด้วย

    ในชั่วขณะหนึ่งข้าพเจ้าก็ได้พุ่งกับมาที่อเมริกา ได้เกิดฤดูหนาวที่น่ากลัวอย่างยาวนานขึ้นซึ่งยาวไปจนถึงหน้าร้อน นั่นทำให้หลายคนประหลาดใดและเป็นจุดเริ่มต้นของความอดอยากขาดแคลนอาหารอย่างเต็มที่ แต่จริง ๆ แล้วที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้นเพิ่งจะเริ่มความอดอยากครั้งยิ่งใหญ่อย่างเต็มขนาด เพราะความอดอยากได้เริ่มมาแล้วตั้งแต่เกิดเพราะพายุ ความแห้งแล้ว น้ำท่วมหรือโรคระบาด ซึ่งเกิดมาเป็นเวลาหลายปีนำหน้าฤดูหนาวที่ยาวนานนี้แล้ว

    มันดูเหมือนเป็นปีที่ตามมาด้วยฤดูหนาวที่ยาวนาน เริ่มเมื่อทุกสิ่งเริ่มต้นล่มสลายลงอย่างรวดเร็วหรือ ทุกสิ่งพังทลายหักทับถมกันโดยไม่มีสิ้นสุด ข้าพเจ้าไม่แน่ใจเรื่องเวลาชัดเจนนักเพราะข้าพเจ้าเห็นหลาย ๆ สิ่งดูเหมือนเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในเวลาใกล้เคียงกันมาก

    ในช่วงระหว่างและหลังจากฤดูหนาวที่ยาวนานนี้ เชื้อโรคได้แพร่กระจายไปทุกที่ และเพิ่มความเลวร้ายขึ้นอีก เศรษฐกิจล่มสลายอย่างสมบูรณ์พร้อมทั้งระบบไฟฟ้าด้วยมีการจราจล ไร้กฎหมายบ้านเมือง อย่างสมบูรณ์ทั่วทั้งอเมริกา ไม่มีรัฐบาลเพราะทุกอย่างล่มสลาย ไม่มีอาหารอีกต่อไป ข้าพเจ้าได้เห็นประชาชนพยายามค้นหาอาหารและประสาทเสียอย่างสุดขีดเพราะไม่มีอาหารกิน และได้เห็นประชาชนขุดดินเพื่อหาหนอนกินเพราะความหิวอย่างมาก

    ในระหว่างนี้ข้าพเจ้าได้คิดถึงเกี่ยวกับน้ำ เพราะมีน้ำอยู่เพียงน้อยนิด และน้ำที่เหลือเกือบทั้งหมดเป็นพิษ หากว่ามีใครดื่มเข้าไปก็จะติดเชื้อและตาย คนจำนวนมากไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะตายเพราะพวกเขาหิวน้ำอย่างมาก

    ประชาชนบางส่วนดูเหมือนจะบ้าคลั่งเสียสติ และเข้าร่วมไปกับแก็งอันธพาลต่าง ๆ เพื่อไล่ฆ่าคนอื่น ๆ โดยเหตุผลเพราะอยากฆ่า ซึ่งเป็นความเลวร้ายสุดขีด ในขณะที่บางส่วนก็ฆ่าฟันคนอื่นเพราะต้องการอาหาร พวกเขาดูเหมือนสัตว์ร้าย สัตว์ป่าที่ไร้ซึ่งการควบคุมตนเองอย่างสิ้นเชิง มีการขมขื่น ปล้นสะดม เผาทำลาย ไล่ฆ่าสับประชาชนข้าพเจ้าเห็นพวกเขาเข้าไปยังบ้านของคนต่าง ๆ และเข้าไปฉุดลากคนในบ้านที่ซ่อนตัวออกมาและขมขื่น และฆ่าสับพวกเขา

    ดูเหมือนกับความกลัวและความเกลียดชังได้พุ่งออกมาจากตัวของคน ครอบครัว ภรรยา สามิ ความรักระหว่างกันไม่มีเหลืออีกต่อไป มีแต่ความอยู่รอดเท่านั้น สามีจะฆ่าภรรยาและลูก ๆ ของเขาเพื่ออาหารและน้ำดื่ม แม่จะฆ่าลูก ๆ เป็นความเลวร้ายอย่างถึงที่สุดเกินจะบรรยายได้

    ในอากาศดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหมอกควัน และตึกจำนวนมากถูกเผาทำลายไม่มีใครดับไฟ ในขณะที่ข้าพเจ้ามองดูฉากแห่งความวุ่นวาย การพังทลายและหมอกควัน ก็สังเกตุเห็นกลุ่มแสงกระจายไปทั่วอเมริกา ข้าพเจ้าคาดว่าน่าจะประมาณยี่สิบหรือสามสิบ และส่วนมากจะวางอยู่บริเวณตะวันตกของอเมริกา เพียงสามหรือสี่กลุ่มอยู่ทิศตะวันออก กลุ่มแสงเหล่านี้ดูเหมือนจะส่องผ่านความมืดออกมาและทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกสนใจและเพ่งดู สงสัยว่ามันคืออะไร

    ข้าพเจ้าได้เห็นว่ามันคือกลุ่มของประชาชนที่รวมตัวกันและคุกเข่าอฐิษฐาน แสงเหล่านี้ออกมาจากตัวพวกเขา ข้าพเจ้านึกได้ทันทีว่ามันคือความดีและความรักของพระเจ้าข้าพเจ้าเข้าใจว่าพวกเขาคงมารวมตัวกันเพื่อความปลอดภัยและห่วงใยคนอื่นมากกว่าตัวเอง บางกลุ่มเล็ก ๆ มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่บางกลุ่มก็มีคนหลายพันคน

    ข้าพเจ้าระลึกได้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะส่วนใหญ่ของเมืองนี้รวมตัวกันก่อนการโจมตีด้วยเชื้อโรค และพวกเขามีการจัดเตรียมการอย่างดีแล้ว ก็ดูเหมือนพวกเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและได้เตรียมรับมือไว้ ข้าพเจ้าไม่เห็นมีผู้นำหรืออะไรควบคุม แต่เห็นคนจำนวนมากเกาะติดพวกเขาแม้ไม่มีอะไรแต่อะไรทำให้พวกเขายึดถือไว้ได้

    ในเมืองแห่งแสงสว่างนี้มีอาหารและการแบ่งปันอาหารให้คนที่เข้ามาร่วมในกลุ่ม มีสันติและความปลอดภัย พวกเขาอาศัยอยู่ในเต้นท์ มีเต้นท์หลายชนิด ส่วนมากจะเป็นผ้าห่มคลุมขึงกับเสา ข้าพเจ้านึกถึงพวกแก็งอันธพาลที่ไม่ยุ่งกับกลุ่มประชาชนเหล่านี้ แต่จะเลือกโจมตีประชาชนที่ไร้การป้องกัน พวกเขายังคงอธิษฐานต่อผู้ที่พยายามจะมายังเมืองแห่งแสงสว่างนี้ คนจำนวนมากในเมืองนี้มีปืนเพื่อป้องกันตนเองจากพวกแก็งและดูเหมือนพวกแก็งไม่ต้องการต่อสู้กับพวกเขา

    ข้าพเจ้าเห็นว่าเมืองแห่งแสงสว่างเหล่านี้ นับแต่แรก ๆ ที่ข้าพเจ้าคิดถึง ในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นประชาชนในกลุ่มก็เริ่มออกไปยังที่ต่าง ๆ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาไปที่ไหนแต่ดูเหมือนพวกเขาจะรวมตัวกันที่ภูเขาหรือที่สูง ขณะที่ข้าพเจ้ามองดูเมืองแห่งแสงสว่างนี้ ก็เห็นมิสไซร์พุ่งออกมาและโจมตีบางเมืองและมีควันรูปดอกเห็ดพุ่งขึ้นเกิดขึ้นทั่วอเมริกา บางส่วนเป็นมิสไซร์ซึ่งข้าพเจ้ารู้ว่ามาจากรัสเซียแต่บางส่วนเป็นระเบิดที่อยู่ในอเมริกาแล้วนั่นเอง พวกเขานำมาซ่อนไว้ในรถบรรทุกหรือรถยนต์และระเบิด

    ข้าพเจ้ามองอย่างเจาะจงไปที่ ลอส แองเจลิส ลาสเวกัส และนิวยอร์ก ที่ถูกโจมตีด้วยระเบิด นิวยอร์กถูกโจมตีด้วยมิสไซร์ แต่ ลอสแองเจลิส ดูเหมือนถูกโจมตีด้วยระเบิดในรถบรรทุกหรือหลาย ๆ อย่าง แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นมิสไซร์ ส่วนทางเหนือของเมือง ซอล์ค เลค มีระเบิดดอกเห็ดกลุ่มหนึ่งแต่ไม่มีมิสไซร์

    ในความมืดมิดข้าพเจ้าเห็นลูกไฟเล็ก ๆ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าสิ่งนี้อาจเกิดก่อนหรือหลังกลุ่มควันดอกเห็ด แต่มีลูกไฟเป็นล้าน ๆ ตกลงทุกที่ และร้อนมาก มีขนาดเท่ากับลูกกอล์ฟ ขณะที่มันตกลงมาจากฟ้ามันก็มีสายเปลวไฟเป็นหางมีควันตามหลัง และไม่ว่ามันตกกระทบอะไรก็จะเกิดไฟลุก ไม่ว่าจะตัวคน ตึก ต้นไม้ กระจก และทุกสิ่ง ข้าพเจ้าไม่รู้ได้ว่ามันคืออะไรหรือมาจากไหน เพราะในเวลานี้ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนคนป่วยที่ต้องได้เห็นภาพเหล่านี้และเพียงได้แต่มองโดยไม่สามารถถามอะไรได้

    หลังจากควันดอกเห็ดลอยพุ่งขึ้นเบื้องบนแล้ว ข้าพเจ้าได้เห็นกองทหารรัสเซียเคลื่อนพลบุกเข้ามาในอเมริกา มีพลร่มลงตามที่ต่าง ๆ จำนวนมากมาก่อนหน้านั้นจากฝั่งตะวันออก และเห็นพลร่มลงที่เมือง ซอล์ค เลค และข้าพเจ้าเห็นกองทหารจีนเคลื่อนพลเข้ามาทางฝั่งตะวันตกใกล้ ลอส แองเจลิส และประชาชนที่ยังคงอยู่ก็เริ่มต่อสู้ด้วยปืนของพวกเขาแต่ไม่เห็นทหาร(อเมริกา)ใด ๆ

    นี่คือสงครามนิวเคลียร์ ที่ข้าพเจ้าได้เห็นตอนเริ่มแรกและรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก อย่างที่ได้เห็นมาก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าไม่เห็นสงครามมากนัก แต่พอรับรู้ได้ว่ามันจะกินเวลานานมากนัก และรัสเซียและจีนจะแพ้ แต่ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด

    กลุ่มควัน(จากระเบิดนิวเคลียร์)จะหนามาก ๆ ทั้งมืดและหนัก เป็นสิ่งที่ดูจะเลวร้ายพอ ๆ กับจุดกำเนิดของมัน และในทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว สิ่งนี้จะเกิดในฤดูหนาว ซึ่งดูเหมือนเป็นฤดูหนาวที่ยาว นานมาก จนทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นเกือบทั้งปี แผ่นดินไหวดูเหมือนจะเริ่มในฝั่งตะวันตกรอบ ๆ รัฐ ไอดาโฮ และไวโอมิ่ง และแผ่กระจายไปทั่วทุกที่

    ข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวใหญ่โจมตีเมือง ยูทาห์ และ แคลิฟอร์เนีย มีแผ่นดินไหวทั่วแคลิฟอร์เนียร์ แต่ ลอส แองเจลิส และ ซานฟรานซิสโก ถูกทำลายพินาศ แผ่นดินไหวนี้กระตุ้นให้เกิดภูเขาไฟระเบิดทั่วตลอดฝั่งตะวันตก และพ่นควันขี้เถ้าจำนวนมหาศาลอย่างรุนแรงขึ้นสู่อากาศ และอากาศก็มืดมิดสกปรก ดวงอาทิตย์ก็มืดลงเพราะควันและเกิดฝนขี้เถ้าตกกระจายไปทั่ว

    ข้าพเจ้าเห็นคลื่นยักษ์พักถล่มชายฝั่งตะวันตก และเห็นว่ามันเกิดขึ้นทั่วชายฝั่งทะเลทั่วทั้งโลก เมืองลอส แองเจลิส เกือบทั้งหมดถูกคลื่นกวาดสิ้น คลื่นนั้นใหญ่มาก ๆ ข้าพเจ้าเห็นกำแพงน้ำ สูงกว่าตึกจำนวนมาก บางทีอาจสูงถึง 20 ฟุต(6 เมตร) พัดถล่มเมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ ข้าพรู้สึกแปลกใจมากเพราะเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากมหาสมุทรมาก และสงสัยว่าคลื่นเดินทางจากมหาสมุทรมาตลอดทางจนถึงเมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ได้อย่างไร

    ข้าพเจ้าเห็นได้ว่ามันไม่ได้มาจากมหาสมุทรแต่มาจากใต้ติด ข้าพเจ้าเห็นการแตกออก ของพื้นดินอย่างรวดเร็วรอบ ๆ เมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ เปิดออกและมีน้ำพุ่งออกมาจากใต้ดินที่ลึกมาก มีน้ำจำนวนมากมหาศาลอยู่ใต้ดินและแผ่นดินไหวได้ผลักดันมันออกมาเมื่อน้ำพัดทำลายเมือง ก็ไม่มีตึกหลงเหลืออยู่อีก เป็นการทำลายล้างอย่างน่ากลัวจนไม่มีอะไรเหลืออยู่ และน้ำไหลไปจาก ไอดาโฮ ลงไปยังเมือง ซีดาห์ ใกล้ ๆ เลวร้ายอย่างมาก

    ส่วนในเมืองมีการพังทลายอย่างใหญ่หลวง ตึกส่วนมากพังทลายสิ้น มีเศษอิฐปูนกระจายไปทั่ว แม้ว่าแผ่นดินไหว เชื้อโรค น้ำท่วม ภูเขาไฟ และคลื่นยักษ์ จะฆ่าคนไปจำนวนมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ตายเพราะถูกแก็งอันธพาลฆ่า และฆ่ากันเอง ไม่ได้มาจากภัยพิบัติทำลายล้างที่น่ากลัว ขณะนั้นเองข้าพเจ้าก็ได้เห็นโลกทั้งหมด ดูเหมือนย่ำแย่เพราะสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นบนโลก และก็มีการปฏิกิริยาต่อต้านในที่สุด ข้าพเจ้าเห็นเหมือนว่าโลกนี้ต้องการทำความสะอาดตัวเอง ต่อสิ่งเลวร้ายวุ่นวายและความความชั่วร้ายที่ครอบงำมนุษย์อยู่

    เพราะภูเขาไฟระเบิดทุก ๆ ที่ ทำให้มีฝุ่นขี้เถ้าผสมกับอากาศ ขี้เถ้าได้ตกลงทุกที่ ทำให้ทุก ๆ ที่เกือบจะมืดสนิท เชื้อโรคก็กลับมาเลวร้ายเพิ่มอีกอย่างมาก ข้าพเจ้าได้เห็นประชาชนล้มตายบนพื้นอย่างชัดเจน และมีเชื้อโรคอื่น ๆ อีกด้วย ประชาชนมีตุ่มแผลบนตัวและเริ่มออกเลือดไปทั่วตัว และก็เริ่มแตกกระจายหรือรวมตัวกันไปเป็นอะไรบางอย่างที่บอกไม่ได้เป็นก้อนเนื้อและกระดูก ข้าพเจ้าก็ไม่อาจจะบรรยายสิ่งที่เห็นได้ ศพคนตายมีอยู่ทุกที่

    หลังจากฤดูหนาวที่น่ากลัวนี้ ข้าพเจ้าได้เห็นหน่วยกู้ภัยได้เก็บศพคนตายกองทับถมกันและเผารวมกัน ส่งกลิ่นเหม็นสุดขีด ข้าพเจ้าสามารถได้กลิ่นได้แม้จะเพียงเล็กน้อยการเผาศพคนตายเหล่านี้เกิดขึ้นช่วงเล็ก ๆ ในระหว่างเกิดจราจลวุ่นวาย แต่มีคนไม่มากนักที่กังวลถึงเรื่องความอยู่รอดมากกว่าจนไม่ใส่ต่อคนตาย

    สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็นมากกว่าสี่อย่าง ข้าพเจ้าได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่ใจกลางอเมริกา มันน่ากลัวมากดูเหมือนจะแยกอเมริกาออกเป็นครึ่งหนึ่งตรงบริเวณเริ่มแม่น้ำ มิสซิบซิบปี้ รอยแตกนี้เปิดออกและทำให้แผ่นดินจมหายลงไปทั้งหมด มันกว้างเป็นไมล์และแผ่นดินก็จมลงไปในนั้น ดูเหมือนมันกลืนทุกสิ่งลงไปและน้ำจากอ่าวเม็กซิโกก็ไหลลงไปด้วยทำให้เกิดทะเลสาบขนาดใหญ่ แต่มันไม่ได้เป็นทะเลสาป แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลในพื้นแผ่นดิน

    และข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวที่น่ากลัวเป็นชุด ๆ ไปทั่วโลก แต่มีไม่มากที่เป็นแผ่นดินไหวเดี่ยว ๆ มันจะเป็นคลื่นแผ่นดิวไหวอันเดียวกัน เป็นแผ่นดินไหวที่ใหญ่โตอย่างมากสุด ๆ ที่เขย่าโลกทั้งโลก และเพราะแผ่นดินไหวนี้ ทำให้น้ำไหลเข้ามาท่วมแผ่นดินทั่วทั้งโลก กำแพงน้ำยักษ์พัดถล่มชายฝั่งทั่วโลก แผ่นดินไหวและกำแพงน้ำที่เกิดก่อนหน้านี้ดูจะเล็กกว่าข้าพเจ้าไม่รู้ว่าแผ่นดินไหวที่แบ่งอเมริกาออกเป็นสองส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินไหวที่เกิดทั่วโลกด้วยหรือไม่

    และข้าพเจ้าได้เห็นลมที่พัดอย่างรุนแรงมาก พัดผ่านบนแผ่นดินโลก ขณะที่ลมพัดข้าพเจ้าเห็นประชาชนวิ่งหนีเข้าถ้ำต่าง ๆ หรือรอยแตกของเปลือกหินต่าง ๆ เพื่อหนี มันน่ากลัวมาก ลมพัดต้นไม้และทุกสิ่งปลิวหมด มันดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเฮอร์ริเคนหรือทอร์นาโด ทุก ๆ สิ่งถูกพลัดปลิวหมด ข้าพเจ้าเข้าใจโดยไม่ต้องถามว่า แผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลกนี้และลมนี้ เกิดจากวัตถุขนาดใหญ่อันหนึ่ง มันดูเหมือนดาวเคราะห์หรือบางสิ่ง (ดาว Nibiru ที่กำลังมา?) โดยมันเคลื่อนที่เข้ามาใกล้โลกและมีผลกระทบต่อทุกสิ่งบนโลก และนั่นคือจุดจบที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ใกล้เข้ามา

    และข้าพเจ้าก็กลับมาสู่อวกาศนอกโลก มองเห็นโลกทั้งโลกจากระยะไกลอีกครั้ง ข้าพเจ้าเห็นลูกบอลไฟขนาดใหญ่ ใหญ่กว่าโลกสองหรือสามเท่า (ลูกไฟที่ดาว Nibiru ปล่อยออกมาเพราะถูกกระตุ้นจากดวงอาทิตย์ ?)วิ่งเข้ามาที่โลกมันมีสีแดงเจิดจ้ามากและมีสีทองผสม และทันใดนั้นมันก็พุ่งมาห่อหุ้มโลกทั้งโลก เมื่อข้าพเจ้าเห็น เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ประหลาดกว่าสิ่งใด ๆ ก็ได้สงสัยว่าคืออะไร ข้าพเจ้าได้เห็นมันกำลังพุ่งมาเผาโลกซึ่งเป็นไปตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้

    2 เปโตร 3:7 "แต่ว่าท้องฟ้าอากาศและแผ่นดินโลกที่อยู่เดี๋ยวนี้ พระองค์ทรงเก็บงำไว้โดยคำตรัสนั้นสำหรับให้ไฟเผา คือเก็บไว้จนถึงวันทรงพิพากษาและวันพินาศแห่งบรรดาคนอธรรม"

    ข้าพเจ้าเข้าใจได้ว่าก่อนที่มันจะเกิดขึ้นนั้น (ก่อนลูกไฟวิ่งมาเผาโลก) พระเยซูคริสต์จะปรากฎต่อคนทั้งโลกและพวกประชาชนที่เป็นคนดีที่ข้าพเจ้าได้เห็นแต่แรกนั้น(ที่อยู่ในเมืองแห่งแสงสว่าง และที่อื่น ๆ ทั่วโลกและรวมตัวอธิษฐาน) จะถูกรับขึ้นไปจากโลกพร้อมกับพระคริสต์ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป แต่พวกประชาชนที่หลงเหลืออยู่ที่เป็นพวกคนชั่ว คนไม่ดีต่าง ๆ คนทำบาป จำนวนหนึ่งที่รอดตายจากภัยพิบัตินับแต่ครั้งแรก แต่ก็มีไม่มากและที่เหลือก็จะถูกไฟเผา

    --------------------------- จบ ---------------------------------

    ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jesuscomingverysoon&date=04-02-2010&group=1&gblog=3<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2010
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ปีนี้ผมคิดว่าน่าจะหนาวมาก และแห้งแล้งต่อเนื่องมากด้วยครับ
     
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    [​IMG]
    ปรัชญาที่ 1 มดไม่เคยละความพยายาม
    หากมันมุ่งหน้าไปทางทิศใด แล้วเกิดอุปสรรค = ถูกปิดกั้นหนทาง
    มันจะพยายามหาทางเดินทางอื่น มันจะได้ขึ้นไต่ลงไต่ไปรอบๆมันจะมองหาหนทางอื่นเสมอ

    ข้อคิด

    จงอย่าละความพยายามในการหาหนทางไปสู่สิ่งที่หมายมาด


    ปรัชญาที่ 2 มดคิดถึงฤดูหนาวตลอดฤดูร้อน
    มันไม่เคยรักสบายจนคิดเพียงว่าคิมหันต์ฤดู จะคงอยู่ตลอดเวลา
    ดังนั้น มันจึงพยายามเก็บสะสมเสบียงไว้สำหรับเหมันต์ ตลอดฤดูคิมหันต์หรรษา

    ข้อคิด

    จงตะหนักถึงความเป็นจริง และเตรียมรับกับเหตุการณ์ในอนาคต


    ปรัชญาที่ 3 มดคิดถึงฤดูร้อนตลอดฤดูหนาว
    ท่ามกลางความหนาวเหน็บแห่งเหมันห์ มันจะเตือนตัวเองว่า "ความลำบากจะอยู่เพียงไม่นาน แล้วเราก็จะพ้นจากสภาวะเช่นนี้"
    เมื่อวันที่แสงแห่งความอบอุ่นแรกสาดส่อง มันจะออกมาเริงร่า หากอากาศกลับกลายเป็นหนาวอีกครั้ง มันจะเข้าไปในโพรงอีกครั้ง
    และออกมารับความอบอุ่นในวันอากาศดีโดยทันใด

    ข้อคิด
    จงมองทุกสิ่งในเชิงบวกตลอดเวลา


    ปรัชญาที่ 4 ทุ่มเททุกสิ่งเท่าที่สามารถ
    มดสามารถเก็บเกี่ยวเสบียงตลอดฤดูร้อนเพื่อเตรียมพร้อมฤดูหนาวให้มากเท่าที่มันจะทำได้

    ข้อคิด

    จงพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเต็มกำลัง


    สรุป

    1)
    อย่ายอมแพ้


    2)
    มองไปข้างหน้า


    3)
    มองโลกในแง่ดี


    4)
    ทำเต็มความสามารถ

    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สรุปผลสอบ"พระปราโมทย์"ไร้ผิด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยผลสอบ"พระปราโมทย์" สรุปไร้ผิด


    เมื่อเวลา 15.00 วันที่ 28 ก.ย. นายวีรณัฐ โรจนประภา ประธานมูลนิธิบ้านอารีย์ พร้อมด้วยคณะผู้แทนกลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนา ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงเกี่ยวกับ พระปราโมทย์ ปาโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม ใน 3 ประเด็นคือ 1.เรื่องของเงินบริจาค 2.เรื่องของพระธรรมวินัย การอวดอุตริมนุสธรรมว่าเป็นอรหันต์ และ 3.เรื่องของการตั้งกุฏิแม่ชีอรนุชและพระปราโมทย์ในพื้นที่ลับ โดยประเด็นเรื่องเงินบริจาค นายอภิชาติ อัศวเรืองชัย อดีตประธานกรรมการสวนสันติธรรม ยืนยันว่าการที่สวนสันติธรรมอ้างว่าตนเองมีส่วนรับรู้เรื่องเงินเข้าออกในบัญชีทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริง

    ส่วนประเด็นการอวดอุตริมนุสธรรมว่าเป็นอรหันต์

    ในการแถลงข่าวมีการเปิดคลิปเสียง คลิปวีดีโอ หนังสือ และการบรรยายธรรมของพระปราโมทย์ให้สื่อมวลชนได้ฟัง เพื่อเป็นหลักฐานการอวดอุตริของพระปราโมทย์ที่ว่าเป็นพระอรหันต์ พร้อมทั้งมีการนำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ เกี่ยวกับการตั้งกุฏิของแม่ชีอรนุชกับพระปราโมย์ว่าตั้งอยู่ใกล้กัน

    ทางด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า

    ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีพระปราโมทย์ ที่ ผวจ.ชลบุรีตั้งขึ้นได้สรุปออกมาแล้วว่า ไม่พบความผิดปกติในกรณีของบัญชีเงินฝากและที่ดินของสวนสันติธรรม ส่วนกรณีเรื่องคำสอนที่มีผู้ร้องเรียนว่าเข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรมนั้น ทางเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี (ธรรมยุต) ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ทุกภาคมีฝนตกหนักและตกชุกหนาแน่นระยะนี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานความกดดันสูงทำให้ภาคกลาง ตะวันออก และใต้ยังมีฝนตกชุกหนาแน่น และตกหนักบางแห่งระยะนี้
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่เข้ามาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่คลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.



    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ร้อยเอ็ด มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และ นครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    <!-- Tags Keyword -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ธรรมชาติเริ่มวิบัติ! ดินถล่มเม็กซิโกทับบ้านปชช.กว่า300หลัง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดเหตุดินจากภูเขาถล่มเป็นทางยาวกว่า 200 เมตร

    ทับบ้านเรือนราษฎรมากกว่า 300 หลัง ในรัฐโออาซากา ทางภาคใต้ของเม็กซิโก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องมาจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งมีความกังวลว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากเหตุภัยธรรมชาติครั้งนี้มากกว่า 1,000 รายด้วยกัน

    หลังเหตุการณ์ผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถเดินทางถึงที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากดินถล่มทับเส้นทางสัญจร ล่าสุดมีรายงานว่า ดินถล่มครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 8 คน สูญหายราว 100 คน

    อย่างไรก็ตาม เหตุดินถล่มดังกล่าวในแถบภูเขาในรัฐโออาซากา เป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ของเม็กซิโกที่เพิ่งผจญความหายนะทางธรรมชาติครั้งรุนแรงใรรอบไม่กี่เดือนนี้


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    16 เหตุผล ที่ว่าทำไมเวียดนามกำลังแซงหน้าไทย

    อ่านแล้วก็คงได้แต่แค่เสียว แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะประเทศไทยก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เริ่มออกเดินพร้อม ๆ กับญึ่ปุ่น แล้วก็ปล่อยให้ประเทศอื่น ๆ ที่เคยมาดูงานในประเทศไทยอย่างไต้หวัน เกาหลี เวียดนามและอีกสารพัดประเทศที่ล้าหลังกว่าเรา พอดูงานเสร็จก็แซงหน้าไทยไปอย่างไม่เห็นฝุ่น เพราะคนไทยมีนิสัยอนุรักษ์นิยมความคิดเห็นแบบผิด ๆ เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ระดับชนชั้นปกครองไปจนถึงระดับชาวบ้านธรรมดา ๆ นิสัยแบบนี้มันฝังรากลึกมานานจนยากจะเยียวยาแล้วล่ะ หรือคุณว่าไงEmail: sopon@thaiappraisal.org


    ดร.โสภณ พรโชคชัย .(1).
    ประธานกรรมการ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย .(2).


    ตอนนี้เวียดนามกำลัง "ฮิต" ติดตลาด มีคนสนใจไปลงทุนกันมากมาย...มีเสน่ห์มากกว่าไทยด้วยซ้ำไป เวียดนามยังไม่อาจไล่ทันไทยในเร็ววันนี้หรอกครับ (ปลอบใจสักหน่อย).แต่มีศักยภาพที่จะยิ่งใหญ่เหนือไทยได้ในวันหน้า...เราควร สังวรและพิจารณาให้ดี หลายเรื่องเราควร "เอาเยี่ยงกา" มาลองดูกันครับ

    1. สนามบินสะดวกกว่าไทย
    อันที่จริงสนามบินหลายแห่งในประเทศไทยทันสมัยกว่าสนามบินกรุงฮานอยและนครโฮ ชิมินห์ แต่ที่เวียดนาม เครื่องบินจอดถึงงวงเสมอ...ไม่ต้องต่อรถโค้ชให้เสียอารมณ์แบบบ้านเรา และที่สำคัญในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า นครโฮชิมินห์จะมีสนามบินใหม่ที่ใหญ่กว่าสุวรรณภูมิของเราในขณะนี้เสียอีก

    2. คนเวียดนามรักชาติ
    ไม่ต้องดูอื่นไกล เขานิยมอาหารของเขาเอง..ประเภทอาหารแฟชั่น/ขยะของฝรั่งเข้าไปตีกินในประเทศ เขาได้ยาก...คุณสมบัติที่ไม่ยอมเป็นเมืองขึ้น (แม้ทางความคิด) กับใครเช่นนี้เชื่อว่าเหนือกว่า "เลือดไทย" ที่ทำท่าจะเจือจางลงทุกวัน

    3. "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง"
    คนเวียดนามที่เราเห็นแต่งตัวดูปอน ๆ นั้น...เขาชอบสะสมทอง ว่าง ๆ ก็เอามาชื่นชมเล่นเงียบ ๆ... เขาไม่ต้องการทำตัวหรูหรา…เพราะเดี๋ยวถูกเพ่งเล็ง เขามีเงินสะสมไว้มาก แต่ไม่เปิดเผย...ซื้อของก็มักใช้เงินสด ซื้อบ้านอาจมี(กระผม)้เงินบ้าง แต่ก็ยังจำกัดมาก ข้อนี้อาจทำให้ระบบการเงินของประเทศไม่หมุนเวียนมากนัก…แต่ผมก็ยังนิยมความ มัธยัสถ์...มากกว่าการสุรุ่ยสุร่าย สังเกตง่าย ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือสนนราคาของอาหารเวียดนามนั้น.. หาได้ถูกกว่าไทย....มาตรฐานค่าครองชีพไม่ได้ต่ำกว่าไทยเลย...นี่แสดงว่า ....เขามีแหล่งรายได้ที่ไม่เปิดเผยหรือรับ job ทำงานพิเศษต่าง ๆ..ไม่ใช่กินแต่เงินเดือนปกติ

    4. คนเวียดนามชอบค้าขาย
    เปิดร้านค้าขายแทบทุกหัวระแหง ในทุกท้องที่มีสินค้าครบถ้วนไม่ต้องไปเดินห้างใหญ่หรือไม่ต้องไปย่านการค้า ใด...ด้วยความนิยมค้าขายโดยสายเลือดบวกกับความขยันขันแข็งเช่นนี้...โอกาส ที่เวียดนามจะแซงไทยได้ คงไม่ไกลเกินเอื้อม

    5. มีขอทานน้อยกว่าไทย
    ในนครโฮชิมินห์ที่มีประชากรไม่แพ้กรุงเทพมหานคร...แต่แทบจะหาขอทานไม่พบ มีแต่คนอุ้มลูกจูงหลานมาขายหมากฝรั่งให้พอรำคาญเล่น คนใจอ่อนก็อุดหนุนกันไปบ้าง แต่ประเภทเป็นขอทานแท้ ๆ...แทบไม่เคยพบ ทางการเขาเอาจริง จับและกวาดต้อนไปฝึกอาชีพ....ไม่ปล่อยให้เกลื่อนถนนแบบไทยที่มีกระทั่งขอทาน เขมรมาเพ่นพ่านเต็มไปหมด (น่าอนาถแท้ ๆ ประเทศไทย)

    6. (แทบ) ไม่มีปัญหายาเสพติด หรือเด็กเกเร-อันธพาล
    ที่เวียดนามใครขืนเสพหรือค้ายาเสพติด...มีโอกาสเกิดใหม่สูงมาก....เขาไม่ ค่อยขังให้เปลืองข้าวแดงเสียด้วย…ย่านอิทธิพลค้ายาหรือขาใหญ่แบบสลัมเมือง ไทย... แทบหาไม่ได้…ที่เคยมีก็ถูกรื้อไปสร้างแฟลตกันแทบหมดแล้ว

    7. เศรษฐกิจ "กระดี๊กระด๊า" ดูดีไปหมด!
    ทั้งนี้เพราะเติบโตปีละ 7-10% มาหลายปี ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เวียดนามก็กระอักแบบไทย...แต่ฟื้นตัวเร็วกว่าและฟื้นตัวอย่างมั่นคงกว่าไทย มาก...อนาคตของประเทศแลดูสดใส อยู่ในช่วงขาขึ้น...มีการพัฒนาสาธารณูปโภคอย่างขนานใหญ่และต่อเนื่อง

    8. ให้การต้อนรับกระทั่งมหาวิทยาลัยต่างชาติ
    นี่เป็นมิติที่ขอย้ำถึงการส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติในเวียดนาม ..มหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศสามารถเข้าไปตั้งสาขาได้....ผิดกับของไทย ที่กีดกันมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศ...มหาวิทยาลัยไทยหลายแห่งกลัวการออกนอก ระบบ..เพียงเพราะเกรงใจอาจารย์ที่เป็นข้าราชการ...จะสูญเสียผลประโยชน์ ....แต่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของนักศึกษาและประเทศชาติ

    9. แทบหา "บ้านว่าง" (บ้านที่สร้างเสร็จแต่ไม่มีผู้เข้าอยู่) ไม่ได้เลย
    ที่อยู่อาศัยทุกระดับราคาต่างมีคนเช่าหรือซื้ออยู่อาศัย ที่ว่างมีไม่ถึง 5-10% นี่แสดงว่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจของอสังหาริมทรัพย์…แทบไม่ปรากฏให้เห็นใน เวียดนามเลย

    10. ระบบผ่อนบ้านมีหลักประกัน (ของไทยยังล้าหลังกว่า!)
    ในเวียดนามบ้านสร้างเสร็จก็แสดงว่า....การผ่อนชำระค่าบ้านเสร็จพอดี...ซึ่ง เป็นลักษณะ escrow account ที่ป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการ...นำเงินไปหมุนทางอื่นหรือนำไปซื้อรถเมอร์เซ เดส....โครงการต้องนำเงินงวดของการผ่อน....มาก่อสร้างบ้านจนแล้วเสร็จ..และ หากใครจะขอ(กระผม)้ ....ก็ต้องติดต่อสถาบันการเงินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว....เมื่อสถาบันการเงิน ตกลง....สถาบันการเงินนั้น...ก็จะผ่อนชำระกับโครงการจนแล้วเสร็จแทนเราต่อไป

    11. กล้าย้ายสถานที่ราชการออกนอกเมือง แล้วนำที่ดินทำเลทองมาพัฒนา
    ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือหรืออื่น ๆ ในฟิลิปปินส์ถึงขนาดย้ายค่ายทหารออกไปนอกเมือง เพื่อนำที่ดินทำเลทองมาพัฒนาเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ... แต่สำหรับไทย คงทำไม่ได้เพราะ "เขตทหารห้ามเข้า" (ฮา) หรือเพราะเรามัก "เจาะยาง"ด้วยการตีขลุมว่า ...ขืนเอาทรัพย์สินไปหาผลประโยชน์เชิงพาณิชย์....อาจเกิดการการฉ้อราษฎร์บัง หลวง..นี่คือกระบวนการกีดกัน/ยับยั้งความเจริญของชาติอย่างแท้จริง

    12. กฎหมายเวนคืนศักดิ์สิทธิ์ทางราชการ
    เวียดนามสามารถย้ายชาวบ้านได้ทุกบริเวณที่ต้องการ....อาจมีอิดออดบ้าง แต่ต้องไปภายในเวลาที่รวดเร็ว ....จะมาอ้างรักถิ่นฐานอนุรักษ์เครือข่ายเพื่อนบ้านหรือรักษาจิตวิญญาณชุมชน ไม่ได้เด็ดขาด....และโดยความศักดิ์สิทธิ์นี้เอง....พื้นที่แปลงขนาดใหญ่จึง สามารถนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วง ที...นี่เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้เวียดนามก้าวล้ำนำไทยที่ "ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก" เช่นทุกวันนี้

    13. กฎหมายมีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
    บางครั้งแม้แต่ข้าราชการยังตามไม่ทัน....แต่เป็นข้อดีอย่างยิ่งที่ทำให้ กฎหมายสามารถตอบสนองสถานการณ์ใหม่ ๆของการพัฒนาประเทศ ....ไม่เหมือนไทย ที่การแก้ไขกฎหมายเพื่อชาติและประชาชนเชื่องช้าเป็นที่สุด.... เช่น เรามี พรบ.ผังเมืองตั้งแต่ 2475 แต่มีผังเมือง กทม. ฉบับแรกเมื่อปี 2535 หรืออีก 60 ปีถัดมา! เพราะชนชั้นนำของประเทศ...ไม่ต้องการให้ที่ดินของตนเสียผลประโยชน์นั่น เอง.(3).

    14. ปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างจริงจัง
    ท่านเชื่อหรือไม่กัปตันเครื่องบินเวียดนามแอร์ไลน์...ถูกไล่ออกเพียงเพราะ ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าประเทศ...มูลค่าเพียงหลักแสนบาท...โดยไม่ผ่านด่าน ศุลกากร ..นักฟุตบอลเวียดนาม 4 คน....ที่ไปรับสินบนในงานแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์เมื่อปี 2548…ขณะนี้ยังติดคุกหัวโตอยู่เลย (4).
    เรื่องนี้ประเทศไทยในยุคคุณธรรมนำการเมือง.... เทียบอะไรเขาได้หรือไม่

    15. การเมืองเวียดนามมีแต่ความมั่นคง ไม่มีรัฐประหาร
    ผมได้รับเชิญจากสมาคมนายธนาคารมาเลเซีย (Malaysian Investment Bankers Association) ไปพูดที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เขาบอก (เชิงขอบคุณประเทศไทย) ว่า หลังรัฐประหารของไทย... มาเลเซียได้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆเงินลงทุนแทนที่จะมาไทย....กลับไปมาเลเซีย ...ที่เวียดนามก็เช่นกัน...นักลงทุนไปกันมากมาย.... นักลงทุนทั่วโลกแทบจะข้ามหัวประเทศไทยไปหมด...เพราะเขาไม่นิยมรัฐประหาร!

    16. ข้อสุดท้ายนี้น่ากลัวที่สุดกล่าวคือ.... เวียดนามกำลังรวมตัวกัน....แต่ไทยกำลังจะแตก....
    นับจากสิ้นสุดสงครามเวียดนามเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา....เวียดนามเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นยิ่ง ๆ ขึ้น.... คนเวียดนามโพ้นทะเล ส่งเงินกลับบ้านจำนวนมหาศาลถึง 150,000 ล้านบาท .(5).แต่ประเทศไทยของเรากลับกำลังจะแตกแยก...ภาคใต้ไม่แน่ว่า...จะต้องปล่อย ให้ปกครองตนเองหรือกลายเป็นประเทศอิสระในไม่ช้าไม่นานนี้ (โอมเพี้ยง ขอให้เดาผิด)....การแตกแยกคุกรุ่นของคนในประเทศ...กลับยิ่งเพิ่มขึ้นหลังรัฐ ประหาร....ไทยกับเวียดนามสวนกระแสกันอย่างนี้ ....แล้วไทยจะเหลือหรือ....
    ผมไม่ได้เชียร์เวียดนาม.... แต่หวั่นใจว่าไทยเราจะถอยหลัง...ก็ได้แต่หวังว่าข้อคิด 16 ข้อนี้จะทำให้เราได้ "เสียวสันหลัง" กันเสียบ้าง ปรองดองกันเถอะครับ จำไว้ว่า "เข่นฆ่ากันทำไม… เราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งผอง ...ไทยฆ่าไทย ให้ชาติอื่นครอง วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลาน" .(6)..

    หมายเหตุ
    ดร.โสภณ พรโชคชัยเคยเป็นที่ปรึกษารัฐบาลเวียดนาม...ด้านการวางระบบการประเมินค่า ทรัพย์สินประจำการอยู่ที่กรุงฮานอย…แต่ได้เดินทางไปศึกษาเกี่ยวกับอสังหาริม ทรัพย์ในนครอื่นด้วย…

    ดร.โสภณมีอาชีพเป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สินและนักวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์
    ...ยังเป็นกรรมการที่ปรึกษาหอการค้าไทยสาขาอสังหาริมทรัพย์...
    ผู้แทนสมาคมประเมินค่าทรัพย์สินนานาชาติ (IAAO) ประจำประเทศไทย
    และกรรมการสภาที่ปรึกษา Appraisal Foundation ซึ่งก่อตั้งโดยสภาคองเกรสเพื่อการควบคุมการประเมินค่าทรัพย์สินในสหรัฐ อเมริกา
     
  13. goldbell

    goldbell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,340
    เทพยดาถวายพยากรณ์แก่ท่านพ่อลี


    [​IMG]

    ในปีพุทธศักราช 2499 ท่านพ่อลี ธัมมธโร ได้เที่ยววิเวกไปทางจังหวัดเลย โดยไปพักอยู่ ณ ถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง อันเป็นสถานสัปปายะที่ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ได้เคยธุดงค์มาพำนักปฏิบัติธรรม

    วันหนึ่งในเวลากลางคืน ขณะที่ท่านพ่อลีดำเนินจิตเข้าสู่สมาธิธรรมอันละเอียดสุขุม จิตของท่านได้ปรากฏนิมิตขึ้นพร้อมทั้งบอกให้รู้ว่า...

    ทางตะวันตกของภูกระดึงมียอดเขาสูง มีต้นไม้หลากชนิดนานาพันธุ์ บางต้นสูงระฟ้าดารดาษด้วยกิ่งก้านสาขา แนวพนาทั้งหมดสีเขียวสดสลับสล้างกับสีเหลืองอ่อน เป็นดินแดนที่มนุษย์ทั่วไปไม่เคยได้พบเห็น เปลี่ยวกายแต่ไม่เปลี่ยวจิต เป็นภพภูมิที่เป็นอยู่ด้วยสิ่งอันเป็นทิพย์

    มีบุรุษผู้หนึ่งรูปร่างสูงใหญ่กำยำ นุ่งผ้าสีเหลืองแก่กำลังเหาะเหินเดินฟ้า เอามือคว้าอากาศไปมา เราเหาะเข้าไปยืนอยู่ใต้รักแร้ของเขา เขาบอกว่า เขาเป็นเทพบุตรชื่อ สันตจิตโต

    สันตจิตโตเทพบุตรนั้นได้บอกเหตุ 3 ประการคือ

    1. ต่อแต่นี้ไปมนุษย์จะลำบาก จะเกิดโรคตายด้วยน้ำเป็นพิษ พิษนี้มีอยู่ 2 ชนิดคือ หนึ่ง หมอกน้ำค้างอันเป็นพิษ เมื่อตกรดลงมาในนา คุณภาพของข้าวจะเสื่อมคนกินอาจเกิดโรค และสอง น้ำฝนอันเป็นพิษ ถ้าพบน้ำฝนแปลกอย่าฉัน ให้สังเกตดังนี้ คือ น้ำฝนสีแดง และสีเหลือง มีรสผิดธรรมดา ถ้ากินเข้าไปจะเกิดถ่ายท้อง เกิดเป็นเม็ดผื่นคัน ถ้ากินเข้าไปมากอาจถึงแก่ความตาย

    2. สันตจิตโตเทพบุตรนั้น ชี้นิ้วไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทันใดนั้นน้ำทะลุขึ้นจากแผ่นดินถึงนภากาศ น้ำนี้ไหลไปถึงไหน มนุษย์จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าใช้น้ำนี้รดผลไม้จะเกิดโรคร้าย อายุมนุษย์จะสั้นเข้าทุกที

    ท่านพ่อลีจึงถามว่า “เรื่องราวเหล่านี้แก้ได้ไหม ?”

    เทพบุตรตอบว่า “โรคที่เกิดจากน้ำถ้าแก้ไม่ทันต้องตายใน 3 วัน 5 วัน 9 วัน”

    ท่านพ่อถามว่า “แล้วตัวอาตมาเองจะเป็นเช่นไร”

    เทพบุตรตอบว่า “ตัวท่านจะไม่เป็นอะไรเพราะท่านรู้จักบุญคุณของผู้ใหญ่ ถ้าโรคนี้เกิดกับใครจะบอกยาให้ขนานหนึ่ง ให้เอามะขามมาปอกเปลือกออกแช่น้ำเกลือ หรือผสมน้ำกระเทียมดองกิน อาการของโรคนั้นจะหายโดยพลัน"

    3. ได้ปรากฏเหตุการณ์บนยอดเขา พอเทพบุตรนั้นยื่นมือออกไปทางไหนต้นไม้ทางนั้นก็หักเป็นระนาว เราจึงถามว่า “เพราะเหตุไรต้นไม้จึงหักโค่นเช่นนั้น”

    แกตอบว่า “ในกาลข้างหน้าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะไร้ศีลธรรม คนในชาติจะลำบาก”

    ท่านพ่อลีเล่าว่า ในครั้งนั้นท่านได้สนทนากับสันตจิตโตเทพบุตรเป็นอเนกปริยาย ได้ความรู้เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับพวกกายทิพย์เพิ่มเติมอีกไม่น้อย เป็นที่ประทับใจไม่รู้ลืม เขาได้ปฏิสันถารต้อนรับท่านเป็นอย่างดี ท่านพ่อลีได้แสดงอริยสัจจ์ 4 มรรค 8 ให้เขาฟัง เพื่อมิให้เขาประมาทและนอนใจกับการเสวยทิพยสมบัติซึ่งตกอยู่ในกฎอนิจจังเหมือนกับโลกมนุษย์ทั่ว ๆ ไป สอนให้เขาพยายามปฏิบัติธรรมเพื่อความสิ้นทุกข์เข้าสู่แดนแห่งพระนิพพานอันเป็นอมตะ และเป็นที่สุดแห่งภพชาติอย่างแท้จริง

    สันตจิตโตเทพบุตรเป็นผู้มีจิตใจงามพร้อมรองรับอรรถธรรมที่ท่านแสดง ได้ฟังข้อธรรมดังนั้นก็พลันมีรัศมีกายโชติช่วง เป็นเครื่องบอกความหมายแห่งการได้ดื่มด่ำในรสพระธรรมอันเป็นทิพย์ เขาแสดงความขอบคุณที่ท่านเดินทางมาโปรด คราวหน้าหากมีโอกาสบุญอำนวย เขาขอกราบอาราธนาท่านกลับมาโปรดอีกครั้ง

    เมื่อท่านพ่อลีพร้อมด้วยพระติดตามอีกสองรูปคือ พระปลัดศรี และ พระจูม พร้อมด้วยฆราวาสอีกสองคนพักปฏิบัติธรรมอยู่ที่ถ้าผาบิ้งเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ท่านก็ออกธุดงค์ต่อทะลุป่าเขาและดอนดงกระทั่งถึงตำบลหนึ่ง ชาวบ้านได้เล่าเหตุการณ์แปลกประหลาดให้ฟังว่า

    เมื่อคืนนี้มีหมอกไหลผ่านไปในสวนยา(สูบ)ของเขา หมอกไปถึงไหนใบยาก็ร่วงโรยไปหมด และมีข่าวประกาศว่าที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ชาวบ้านได้รองน้ำฝนมีสีชากิน ตายไปสิบกว่าคน ทั้งสองเรื่องที่ได้ฟังท่านก็รู้สึกว่าแปลก เพราะตรงกับนิมิตที่เห็นพอดี<!-- google_ad_section_end -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]

    </FIELDSET>
     
  14. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ขออนุญาตเอาไป FW ต่อนะคะ มีประโยชน์มากค่ะ อยากให้เผยแพร่ในวงกว้าง

    แจกแจงเหตุผลได้ละเอียด ชัดเจนดีมากค่ะ ขออนุญาตไป FW ต่อค่ะ



     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คนกรุงเก่าหวั่นน้ำเหนือไหลท่วมพื้นที่ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ชาวกรุงเก่า ยังหวั่นน้ำเหนือไหลท่วม หลังน้ำลดลงและฝนยังตกหนักทั่วกรุง


    วันนี้ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้ออกทางออกสำรวจระดับน้ำใน แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา ในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงนี้ระดับน้ำดังกล่าวได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ประชาชนและชาวบ้าน ในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เตรียมทำความสะอาดบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมกว่า 1 เดือน และขนข้าวของย้ายลงจากที่สูงหลังจากขนหนีน้ำท่วม แต่บางรายก็ไม่มั่นใจกับสถานการณ์น้ำที่ลดลงจึงยังคงระมัดระวังการเตือนของกรมอุตุนิยมฯอย่างต่อเนื่อง โดยที่ ม.1 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณซอย 6,7 ชาวบ้านได้สร้างสะพานไม้ทางเดินหนีน้ำในขณะที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมสูงในพื้นที่ดังกล่าวเป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร แต่ในตอนนี้น้ำดังกล่าวได้ลดลงแล้วแต่ชาวบ้านยังคงไม่รื้อถอดสะพานไม้ทางเดินหนีน้ำ เพราะเกรงว่าจะมีการปล่อยน้ำลงมาจากทางภาคเหนืออีกและน้ำอาจไหลเข้าท่วม จึงได้มีการจัดตั้งสะพานดังกล่าวอยู่ดังเดิมเพราะเกรงว่าน้ำจะเอ่อเข้าท่วมอีกแล้วจะสร้างไม่ทัน พร้อมทั้งยังคงติดตามข่าวถึงระดับน้ำจากทางภาคเหนือที่อาจไหลลงมาทำให้น้ำท่วมอีกอย่างต่อเนื่อง

    ขณะเดียวกันหลังจากที่ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ลดระดับลง

    โดยเมื่อช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มีฝนตกหนักเกือบทุกวันทำให้น้ำฝนที่ตกดังกล่าวเอ่อท่วมบ่อน้ำบริเวณโดยรอบภายในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แต่น้ำดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งระบายน้ำดังกล่าวออกแล้วและหาก1-2 วันนี้ไม่มีฝนตกหนักลงมาอีกน้ำดังกล่าวก็คงลดลงจนกับมามีสภาพปกติ



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]

    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=407 height=335>
























    <embedtype="application/x-shockwave-flash" width="407.6" height="335" src="http://video.mthai.com/Flash_player/flowplayer/flowplayer-3.1.5.swf" flashvars="config=http://video.mthai.com/get_config.php?id=1285751233" allowfullscreen="true" data="http://video.mthai.com/Flash_player/flowplayer/flowplayer-3.1.5.swf"></embed></OBJECT></P>
    29 ก.ย.ทีมข่าว Mthai news รับแจ้งจาก นายนัฐพนธ์ พึ่งวาส พนักงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแห่งหนึ่ง และเป็นสมาชิกในเว็บไซต์เอ็มไทย ว่าตนเองพบวัตถุลึกลับปรากฎในภาพวิดิโอที่ถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา
    นายนัฐพนธ์ เล่าว่า วันที่บันทึกภาพ เป็นเวลา 05.42 น. ตนได้ขึ้นไปชมธรรมชาติใกล้กับสถานปฏิบัติธรรมที่วัดถ้ำพระภูวัว อ.เซกา จ.หนองคาย โดยต้องการบันทึกวิดีโอภาพความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศในบริเวณนั้นเก็บไว้ให้เพื่อนๆชม
    [​IMG]
    ทั้งนี้ ขณะที่บันทึกภาพไม่ได้สังเกตุเห็นหรือได้ยินเสียงวัตถุดังกล่าว จนเมื่อนำคลิปกลับมาดูในจอขนาดใหญ่อีกครั้ง ก็พบมีวัตถุลึกลับบินผ่านไปอย่างรวดเร็ว (หากหยุดภาพแล้วดูในวินาทีที่ 3 จะพบวัตถุที่เคลื่อนที่เร็วมาก)
    อย่างไรก็ตาม นายนัฐพนธ์ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้ฟันธงว่าเป็นยูเอฟโอ หรือจานบินแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าเป็นวัตถุลึกลับ ซึ่งอยากให้ทาง Mthai News นำเสนอเพื่อให้สมาชิกและคนทั่วไปรับชมและพิจารณาเอง
    ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นเครื่องบินรบหรือเฮลิคอปเตอร์ ก็ไม่น่าจะบินเร็วหรือเงียบได้ขนาดนั้น โดยได้ทดสอบด้วยการนำกล้องตัวเดียวกันไปถ่ายภาพเฮลิคอปเตอร์ ปรากฏว่าใบพัดที่หมุนเร็วก็ยังช้ากว่าวัตถุลึกลับที่ปรากฎในคลิป
    อย่างไรก็ตาม บริเวณวัดถ้ำพระภูวัว เป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธารที่สำคัญ มีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติ ดังนั้น หากเป็นจานบินมนุษย์ต่างดาวจริง ก็อาจมาเพื่อสำรวจทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณนั้น
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ———————————————————————–
    ภาพความอุดมสมบูรณ์ ของบริเวณใกล้เคียง
    [​IMG]
    [​IMG]
    ภาพจาก deb100.com
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
    สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
    สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000

    <?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" width="500" layout="standard" show_faces="false" href="http://news.mthai.com/headline-news/88935.html"><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 500px; HEIGHT: 22px; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" id=f211ddee3064924 class=fb_ltr onload=FB.Content._callbacks.f192304ccaf85f9() src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?api_key=119964314714764&channel_url=http%3A%2F%2Fstatic.ak.fbcdn.net%2Fconnect%2Fxd_proxy.php%23cb%3Df3ac8bdc2e3af56%26origin%3Dhttp%253A%252F%252Fnews.mthai.com%252Ff33f25dddb14c8c%26relation%3Dparent.parent%26transport%3Dflash&href=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fheadline-news%2F88935.html&layout=standard&locale=th_TH&node_type=link&sdk=joey&show_faces=false&width=500" frameBorder=0 allowTransparency name=f2f067410341b8 scrolling=no></IFRAME></fb:like>
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,704
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** โปรดสัตว์ ****

    ระวังน้ำท่วม อยู่บนภูเขาสูงก็ท่วมได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 03:21 น. ข่าวสดออนไลน์


    น้ำป่าหลากพังสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก

    อ.แม่แตงเชียงใหม่

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 28 กย 53 นายเสถียร ใจคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกื้ดช้าง อ.แม่แตงเชียงใหม่ รายงานความเสียหายจากเหตุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุทำให้ลำน้ำแตงเพิ่มปริมาณสูงขึ้น และหลากบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมลำน้ำแตง 18 หลังคาเรือน พื้นที่ทำการเกษตรเสียหาย ประมาณ 40 ไร่ และสิ่งสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น สะพานคอนกรีตบ้านป่าข้าวหลามทรุดตัว จำนวน 1 แห่ง ดินถล่มทับเส้นทาง จำนวน 10 สาย ผนังกั้นน้ำคอนกรีตพังทะลาย 1 แห่ง และสะพานสลิงขาดบ้านสบก๋าย 1 แห่ง

    สำหรับสิ่งสาธารณประโยชน์ที่เสียหายอย่างหนัก คือสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามลำน้ำแตง บ้านป่าข้าวหลาม หมู่ที่ 7 ซึ่งเป็นสะพานได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พระราชทานตามที่ราษฎรร้องขอตอนที่พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร เมื่อวันที่ 21 เดือนมกราคม 2552 และเพิ่งก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนมิถุนายน 2553 ยังไม่ได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ จนตอนนี้สะพานเกิดการทรุดตัว ชาวบ้านรอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าพื้นที่ให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน เพราะทำให้การสัญจรลำบาก

    [​IMG]

    [​IMG]

    พิศดารคนอาศัยอยู่กับผึ้งหลวง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>

    เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 5 บ้านเหล่า เขตเทศบาลตำบลบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านจำนวนมาก กำลังมุงดูรังผึ้งหลวง ขนาดเท่าจานใส่ข้าว ที่มาทำรังบริเวณมุมโต๊ะ ข้างบันไดใต้ถุนบ้านของนายอำนวย ภูใบบัง อายุ 48 ปี โดยเจ้าของบ้านอ้างว่าผึ้งหลวงรังดังกล่าวไม่ใช่ผึ้งธรรมดา ไม่ต่อยทำร้ายคน เป็นผึ้งแห่งโชคลาภ นำโชคมาให้กับเจ้าของบ้านมาหลายครั้ง

    ทั้งนี้นายอำนวย เจ้าของบ้านยังจับรังผึ้งหลวงและจับตัวผึ้งอย่างสบายใจโดยไม่มีความเกรงกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกายใดๆ ทั้งนี้ยังระบุว่า ผึ้งหลวง เริ่มมาทำรังในวันเข้าพรรษา จะไม่ทำร้ายใครในบ้านอยู่มาเกือบ ๆ 2 เดือน ไม่มีใครโดนทำร้ายถือถูกต่อย ในบ้านมีคนอยู่ด้วยกัน 4 คน แรกๆ ก็กลัวกันแต่ตอนนี้ปกติดีไม่มีใครกลัวอะไร แต่ถ้าหากมีคนมาทักลองของไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้งน่าจะหวานหรือทักในทายในสิ่งไม่ดีผึ้งก็จะแห่รุมมาต่อยต้องวิ่งหนีออกจากบ้านทีเดียว

    สำหรับการพบผึ้งหลวงมาทำรังในบ้านของชาวบ้านครั้งนี้นับว่ามีความแปลกพิศดารเป็นอย่างมากเพราะโดยปกติผึ้งหลวงจะเป็นสัตว์ที่มักจะทำรังบนที่สูง ไม่ว่าจะเป็นยอดต้นไม้ หรือตึกสูง แต่ครั้งนี้กลับมาอาสัยอยู่ใต้โต๊ะบริเวณใต้ถุนบ้าน และที่น่าพิศวงอีกเรื่องคือปกติผึ้งหลวงเป็นสัตว์ที่ดุร้ายไม่สามารถมีใครมาเข้าใกล้ได้แต่ที่นี่จับต้องเล่นได้


    [​IMG]

    [​IMG]

    ทุกข์ชาวบางระกำ น้ำท่วมนาข้าวหมดตัว

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 29 ก.ย. สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ว่ายังมีชาวนาอีกหลายตำบลได้รับผลกระทบจากเหตูการณ์น้ำท่วมขังมานานกว่า 2 เดือนแล้ว มี 11 ตำบลเสียหาย รวม 120 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5,817 ครัวเรือน บ้านพักถูกน้ำท่วมขัง 2,832 หลัง พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 120,841 ไร่ บ่อปลาถูกน้ำท่วม 859 บ่อ วัด 3 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง

    นายนิว แป้นบูชา อายุ 53 ปี และนางมาลี แป้นบูชา อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 5 ต.ท่านางงาม เปิดเผยว่า เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมที่นาจำนวนกว่า 60 ไร่ และน้ำยังเอ่อล้นท่วมทางเข้าบ้านพักสูงกว่า 2 เมตร จนไม่สามารถเดินทางสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก ต้องใช้เรือหางยาวแทนการขับรถยนต์ ส่วนข้าวในนาที่ปลูกเอาไว้จำนวน 60 ไร่ ก่อนหน้าเหลือไม่กี่วันจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ ถูกน้ำท่วมขังเสียหายทั้งหมด ทำให้ได้รับความเสียหายทั้งค่าปุ๋ยค่ายาฆ่าแมลง แรงงานที่จ้างมาดำนา ฉีดยาฆ่าหญ้า ประมาณ 1 แสน บาท ตนเองก็ต้องไปกู้ยืมจาก ธกส.มาเพื่อลงทุน ตอนนี้ก็ไม่รู้จะนำเงินที่ไหนไปใช้หนี้ธนาคาร

    นายมงคล บ่องเขาย้อย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านห้วยชัน ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ ออกสำรวจลูกบ้านที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมนาข้าว ให้ชาวบ้านเตรียมหลักฐานมายืนต่อตนเองเพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานในการขอเงินชดเชยจากทางเกษตรจังหวัด ในวันนี้มีชาวบ้านมายืนเอกสารจำนวน 30 ราย รวมพื้นที่กว่า 2 พันไร่ ก็จะรวบรวมเอกสารยื่นเสนอไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

    โฮ่งแสนรู้ คาบถังร่วมขบวนบิณฑบาต

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวจ.ปทุมธานี รายงานเรื่องราวความน่ารักของสุนัขแสนรู้ที่คาบถังพลาสติกเดินบิณฑบาตกับพระ ที่วัดทองสะอาด หมู่ 2 ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว

    พระณรงค์ คุณวีโร เลี้ยงสุนัขแสนรู้ พันธุ์ลาบราดอร์ ชื่อเจ้าจังโก้ วัย 5 ปี สีดำ เจ้าของเป็นเจ้าของโรงงานที่นอนขนาดใหญ่ มีอยู่มีกินสะดวกสบาย แต่เจ้าจังโก้กลับชอบอยู่กับพระที่วัด เช้ามืดจะตื่นมาเรียกพระและเด็กวัด ออกเดินบิณฑบาตในหมู่บ้าน โดยคาบถังพลาสติก 1 ใบ เดินบิณฑบาตพร้อมกับพระและเด็กวัด สร้างความน่ารัก น่าเอ็นดูให้แก่ผู้ที่พบเห็น ชาวบ้านที่ทำบุญใส่บาตรก็รู้สึกได้ทำบุญกับพระและได้ทำทานให้อาหารสุนัขด้วย

    พระณรงค์ กล่าวว่า ดูแลเจ้าจังโก้มาตลอดกว่า 1 ปีแล้ว เวลาจะทำอะไรเจ้าจังโก้ก็จะคอยเข้ามาช่วยงานวัดตลอด รดน้ำต้นไม้ ซ่อมแซมวัด กวาดลานวัด ฯลฯ ทุกอย่างที่อาตมาทำงานวัด เจ้าจังโก้ก็จะคอยเข้ามาช่วยคาบสิ่งของหรืออุปกรณ์ช่วยทำงานตลอด อย่างบิณฑบาตแต่เช้ามืด เจ้าจังโก้ก็จะมาเรียกเด็กวัดให้ตื่นออกบิณฑบาต โดยมีกระป๋องพลาสติกคู่ใจ คาบหิ้วออกไปบิณฑบาตทุกเช้า ชาวบ้านที่ใส่บาตรก็เอ็นดู นำอาหารมาเป็นทานใส่ให้เจ้าจังโก้ด้วย ชาวบ้านบอกว่าเหมือนได้ทำบุญด้วยและทำทานด้วย ได้บุญหลายต่อ

    [​IMG]

    [​IMG]

    สั่งปรับคดีซากหนูซุกขนมปัง



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เอพีรายงานว่า เมื่อ 28 ก.ย. ศาลออกซ์ ฟอร์ด อังกฤษ ตัดสินคดีที่นายสตีเฟน ฟอร์ส พ่อลูกสอง วัย 41 ปี กรณีพบซากหนูทั้งตัวในก้อนขนมปังยี่ห้อโฮวิส ระหว่างทำแซนด์วิชให้ลูกๆ ศาลมีคำสั่งปรับบริษัทพรีเมียร์ ฟูดส์ ผู้ผลิต 250,000 บาท และจ่ายค่าชดเชยอีก 555,000 บาท จากการทำให้นายฟอร์สต้องรู้สึกสะอิดสะเอียน ผู้ตรวจสอบพบว่า หนูถูกตัดหางขาดด้วย










    สิ้นโรส-ไททานิค ลาโลกวัย100ปี



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ฮอลลีวู้ดทูเดย์รายงานว่า เมื่อ 28 ก.ย. นางกลอเรีย สจวร์ต อดีตนักแสดงสาวสวยผมบลอนด์แห่งฮอลลีวู้ดยุค 30 ผู้กลับมาโด่งดังอีกครั้งในยุค 90 จากบทบาท "โรส" ในภาพยนตร์อลังการที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล "ไททานิค" และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากบทนี้ เสียชีวิตแล้วขณะ อายุ 100 ปีพอดี จากระบบทางเดินหายใจล้มเหลวที่บ้านพักในนครลอสแองเจลิส หลัง ป่วยเป็นมะเร็งปอดมานาน 5 ปี และเคยต่อ สู้กับมะเร็งเต้านมเมื่อ 20 ปีก่อน

    ซิลเวีย ธอมป์สัน ลูกสาว กล่าวว่า แม่ไม่เคยวิตกกับเรื่องป่วย ไม่เคยไปใส่ใจ ซึ่งนั่นเป็นผลดีกับแม่มาก แม่มีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ตนไม่เสียใจ แต่กลับดีใจกับแม่ที่มีชีวิตที่ คุ้มค่า ทั้งนี้ ในช่วงที่อาชีพการแสดงรุ่งโรจน์ สจวร์ตเคยเล่นหนังเรื่อง ดิ อินวิสิเบิ้ลแมน และโกลด์ ดิกเกอร์

    แอลเอร้อนสถิติ 45 องศา



    ลอสแองเจลิสไทมส์รายงานว่า เมื่อ 28 ก.ย. อุณหภูมิของนครลอสแองเจลิสในรัฐแคลิฟอร์ เนียของสหรัฐ ทำสถิติร้อนที่สุดในรอบ 133 ปี สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติแถลงว่า อุณหภูมิในย่านใจกลางเมืองพุ่งขึ้นถึง 45 องศาเซลเซียส เบียดแซงสถิติร้อนสุดอันเดิมเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2543 ไป 1 องศา โดยทั้งรัฐแคลิฟอร์ เนียโดนคลื่นความร้อนถาโถมตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเพราะความกดอากาศสูง กั้นไอเย็นจากมหาสมุทรแปซิฟิกไม่ให้พัดเข้ามาได้ตามปกติ

    ข่าวนี้ LA ใกล้เป็นร้อยเอ็ดแล้ว

    'กรุงเก่า'อนุรักษ์ตักบาตรน้ำผึ้ง



    นายรัตนะ พันธ์สวัสดิ์ นายกอบต.บ้านโพ เปิดเผยว่า ทางอบต.ร่วมกับทางอำเภอบางปะอินและวัดทองบ่อ ได้จัดประเพณีตักบาตรน้ำผึ้งของชาวไทยเชื้อสายรามัญ ซึ่งมีแห่งเดียวในจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์วัฒนธรรมและสืบสานประเพณีของชุมชนให้คนรุ่นหลัง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน

    ซึ่งประเพณีตักบาตรน้ำผึ้งจัดให้มีขึ้นในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 โดยชาวบ้านจะนำอาหารคาวหวานมาทำบุญตักบาตรเช่นเดียวกับเทศกาลวันพระทั่วๆ ไป แต่ที่พิเศษคือการนำน้ำผึ้งที่บรรจุในขวดรินลงในบาตรพระจนครบทุกรูปในบางหมู่บ้านหญิงสาวจะนำผ้าเช็ดหน้ามาถวายพระโดยรองไว้ที่ก้นบาตรตามคติความเชื่อของคนโบราณ

    ด้านพระครูอาทรพิพัฒนโกศล เจ้าอาวาส กล่าวว่า ประเพณีตักบาตรน้ำผึ้งเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวรามัญ เพื่อเป็นการบูชาพระสงฆ์ชาวรามัญเชื่อว่ามีอานิสงส์มาก พระสงฆ์จะเก็บน้ำผึ้งไว้เพื่อใช้เป็นส่วนผสมยาในคราวจำเป็น เพราะเป็นส่วนผสมของยาโบราณที่พระสงฆ์ไม่สามารถจัดหาเองได้ ชาวบ้านจึงจัดให้มีการตักบาตรน้ำผึ้งขึ้น ปัจจุบันน้ำผึ้งเริ่มหายาก ประเพณีตักบาตรน้ำผึ้งจึงค่อยๆ เลือนหายไป

    ถวายความรู้ดับเพลิงภิกษุ-สามเณร



    น.ส.นพมาศ อินจันทร์ ประธานชมรมดับเพลิงเวียงโกศัย จ.แพร่ เปิดเผยว่า จากการเกิดอัคคีภัยขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ทั้งอาคารบ้านเรือนราษฎรหรือวัด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินจำนวนไม่น้อย ดังนั้น ชมรมดับเพลิงเวียงโกศัย จึงเล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันการเกิดอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะวัด ซึ่งมักจะมีการจุดธูปเทียนเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและการทำบุญของพุทธศาสนิกชนทั่วไป การที่พระภิกษุ-สามเณร มีความรู้เกี่ยวกับการดับเพลิงเบื้องต้น การใช้ถังเคมีดับเพลิงอย่างถูกวิธี จะสามารถระงับเหตุเบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดการลุกลามหรือความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้น ชมรมดับเพลิงเวียงโกศัยจึงร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดแพร่ จัดกิจกรรมถวายความรู้การดับเพลิงเบื้องต้นแก่พระภิกษุ-สามเณร และถวายถังดับเพลิงแก่วัดต่างๆในจังหวัดแพร่ ณ พุทธสถานวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร

    จากนั้นได้ดำเนินการไปยังวัดในเขตอำเภอต่างๆ เช่น วัดสูงเม่น อ.สูงเม่น วัดแพร่ธรรมมาราม อ.เด่นชัย วัดบ้านกลาง วัดบ้านคุ้ม อ.สอง วัดทุ่งคั๊วะ อ.ร้องกวาง และหากวัดใดมีความสนใจจะให้ชมรมดับเพลิงเวียงโกศัยถวายความรู้การดับเพลิงเบื้องต้นแก่พระภิกษุ-สามเณร และรับถวายถังดับเพลิง สามารถติดต่อได้ที่ จ่าเอก เอกพงษ์ ถุงเงิน เลขานุการชมรม โทร.085-041-0209

    ไม่กินน้ำ

    ไหลตามโลก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ตัวเทาฟู หัวฟู หูยิ่งฟ่องฟู

    เธอนั้นหรือคือตัว "ไม่กินน้ำ"

    โคอาลา-Koala

    นามนั้นเธอได้แต่ใดมา ตอบว่า ได้มาจากความช่างสังเกตของบางคน

    บางคนที่ว่า เขาคือเจ้าของแผ่นดินครั้งกระโน้น

    ซึ่งทุกวันนี้คือออสเตรเลีย

    ดินแดนแห่งพี่โจ้และน้องโคนี่ไง

    ทั้งวี่ทั้งวันมันจะเกาะหนึบอยู่กับต้นยูคาลิปตัส (เหมือนแพนด้าแนบแน่นกับใบไผ่)

    กินใบยูคาเป็นอาหาร และในใบนั้นก็มีน้ำซึ่งร่างกายโคอาลาสามารถนะเธอ สามารถดูดซึมไว้ได้เป็นส่วนใหญ่

    มันจึงไม่ต้องไปหาน้ำกินจากที่อื่น ด้วยซ้วบเข้าไปพร้อมใบไม้แล้ว

    เห็นดังนั้น อะบอริจินส์ เจ้าถิ่น จึงเรียกทันที

    โคอาลา แปลว่าไม่กินน้ำ

    ที่นี่ ไม่ใช่ออสเตรเลีย แต่เป็นเยอรมนี

    สวนสัตว์ดุยส์บูร์ก ภูมิใจซาเหนอน้อง 1 ขวบ

    เป็นหนุ่มน้อยชื่อ ธาเลรา

    เห็นยิ้มส่งมานั่นไหม ยิ้มชวนฉ่ำชื่นใจ จากตัวไม่กินน้ำ


    ขอถามหน่อยนะแบบว่าสงสัยว่าทำไมเขาจึงบอกว่ากรุงเทพเป็นนครแห่งโสเภนี เขาเอาเกณท์อะไรมาเป็นเกณท์ ครับจำนวนคุณโสริว่าอะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2010
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194


    เข้าไปอ่านดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ

    Yahoo! รู้รอบ - จริงหรือที่ว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงแห่งโสเภณีของโลก?
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    Shocking revelation: Former Air Force personnel disclose UFO, alien-related threats



    (NECN: Washington) - A press conference was held this afternoon at the National Press Club in Washington, where at least a dozen former U.S. Air Force personnel, mostly officers who worked on secret projects connected to sensitive nuclear weapons sites, are admitting that they were privy to UFO and alien-related incidents -- that occurred during their time of service.

    In this clip, you will hear from: Retired Air Force Captain Robert Salas, Former Air Force Lieutenant Colonel Dwayne Arneson and Former Air Force Official Bill Jameson.
     

แชร์หน้านี้

Loading...