ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    พักนี้เหมือนถูกเร่งให้ปฏิบัติแล้ว เร่งมือกันนะค่ะทุกท่าน ธรรมเท่านั้นค้ำจุนโลก ^^
     
  2. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    24 ก.ย. 53 มาตามนัด

    21 ส.ค. 53 น้ำท่วม
    หลังจากที่ได้ลงบทความไปแล้ว ต่อมาภาคเหนือก็น้ำท่วม

    7 ก.ย. 53 เมฆดำ พายุหมุน ไฟไหม้
    จากวันนั้นมา สหรัฐไฟไหม้หนึ่งครั้ง
    ประเทศไทยไฟไหม้ไม่น้อยกว่าห้าครั้งและมีพายุเกิดขึ้น
    อย่างต่อเนื่องในทั่วโลก

    24 ก.ย. 53 ยุบพรรค

    -----------------------------------------------------------------------

    24 ก.ย. 53

    ศรัทธาใหม่

    ศรัทธาใหม่นอกจากสายธรรมกายอีกสายธรรมะที่น่าจับตาคือสายธรรมที่ก่อตั้ง
    ขึ้นที่ประเทศไต้หวัน ขณะนี้ได้เผยแพร่ไปทั่วเอเซียและยุโรปแล้ว เป็นสายธรรม
    ทางพุทธศาสนาแต่เนื่องจากขณะนี้เป็นกัปส์สุดท้ายของชาวโลก จึงได้เกิดสาย
    ธรรมนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะให้โอกาสชาวโลกได้เข้าไปนับถือและศึกษาะธรรมก่อน
    โดยที่เมื่อได้ละสังขารทางโลกไปแล้วก็ไม่ต้องลงไปตัดสินความที่นรกภูมิ
    สามารถปฏิบัติธรรมต่อในสวรรค์ได้เลย เมื่อศึกษาธรรมก็ต้องทำสมาธิวิปัสนา
    ควบคู่กันไปถึงจะสมบูรณ์


    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเรื่องศรัทธาใหม่นะคะ

    ตามที่เคยอ่านคำทำนาย ถ้าจำไม่ผิด เค้าว่าจะมีศรัทธาใหม่
    เกิดขึ้น แต่ก็ให้ระวัง เพราะอาจจะเป็นศรัทธาที่เต็มไปด้วย
    มิจฉาทิฐิ ทำให้ยิ่งห่างไกลธรรมมากขึ้น

    เรื่องของวัดธรรมกาย (ไม่ได้หมายถึงวิชาธรรมกาย ของ
    หลวงพ่อสดนะคะ) พูดตามตรงก็ไม่กล้าไปฟันธงให้ใคร
    ว่าดีไม่ดีอย่างไร แต่เท่าที่เคยไปสัมผัสมา เพราะเคยไป
    พักที่วัดมาแล้วนะคะ ความรู้สึกบอกว่าไม่ใช่

    พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ ธรรมใดที่เป็นไปเพื่อการ
    ลด ละ เลิก ธรรมนั้นควรเจริญให้มาก ธรรมใดเป็นไป
    เพื่อการยึด ถือ ธรรมนั้นเราไม่ควรน้อมเข้ามา

    ใช้ปัญญาพิจารณาทุกอย่างให้ดี แล้วจะไม่หลงทางนะคะ
     
  4. CASIO12

    CASIO12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +1,133
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2010
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "ยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์"
    จะเหลือเพียงศาสนาเดียวและมีความเชื่ออย่างเดียวกัน
    <!--sizeo:3-->(ไม่มีการมาทะเลาะกันเรื่องสำนักโน้นสำนักนี้อีกต่อไป)

    [​IMG]
    <!--/sizeo-->
    "ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" ของ นพ. สม สุจีรา<!--sizec--><!--/sizec-->​

    มีหลายท่านเข้าใจว่า ธรรมะกับวิทยาศาสตร์เป็นคนละเรื่องกัน แต่ตามความเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดว่า เป็นคนละเรื่องเดียวกัน เพียงแต่วิทยาศาสตร์สมัยนี้ ยังไม่ละเอียดอ่อนเพียงพอที่จะเข้าถึงหรืออธิบายธรรมะได้​

    “ในเมื่อธรรมะคือสภาวะความจริงของธรรมชาติ หากเราจะพูดเรื่องนี้ในกรอบของเซต (set) แล้ว วิทยาศาสตร์เป็นเพียงเซตย่อย (subset) ของเซตใหญ่ ที่เรียกว่าธรรมะนั่นเอง” (24 January 2007, Dayvil) ​

    ปริศนาคำพูดของอัลเบิร์ต ไอสไตล์ กล่าวถึงพระพุทธศาสนาก่อนเสียชีวิต ถึงแม้อัลเบิร์ต ไอสไตล์ ได้จากโลกนี้ไปโดยที่เขายังไม่สามารถค้นพบตำตอบตามที่เขากำลังต้องการก็ตาม แต่ไอสไตล์ได้ทิ้งคำพูดที่เป็นปริศนาที่สำคัญมากให้กับมนุษยชาติ ในช่วงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเขา อัลเบิร์ตได้เริ่มสงสัยแล้วว่า พระพุทธศาสนา อาจจะเป็นศาสนาที่ให้คำตอบต่อคำถามที่เขากำลังพยายามค้นหา ในช่วง 1 ปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตนั้น มหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน ได้ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นหนึ่งของเขาชื่อเรื่อง “The Human Side” ซึ่งนักฟิสิกส์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตว่า ​

    “The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend a personal God and avoid dogmas and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things, natural and spiritual, as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that would cope with modern scientific needs, it would be Buddhism.” ​

    (May 19th, 1939, Albert Einstein’s speech on “Science and Religion” in Princeton, New Jersey, U.S.A.)” ​

    “ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้น เมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้....​

    ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา”

    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพันธภาพ ศาสนาเดียวที่จะเหลืออยู่ในโลกอนาคต ก็คือ ศาสนาที่ถือว่าเป็นวิวัฒนาการตามกฎของธรรมชาติ เหมือนกับที่ไอสน์ไตน์เขาพูดไว้ว่า ​

    “ศาสนาที่เหลืออยู่ในโลก ก็คือศาสนาที่สามารถเผชิญกับความต้องการของโลกแห่งยุคปัจจุบัน”

    แต่......กว่าจะถึงเวลานั้นเกรงว่า............โลกจะไม่เหลือผู้คนให้นับถือศาสนา ​


    [​IMG]

    จากคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอสไตล์ นี้เราก็พอจะมองเห็นกันแล้วว่าเริ่มใกล้ความจริงเข้ามาทุกขณะแล้ว อีกทั้งตรงกับคำทำนายของผู้มีญาณทิพย์ที่สามารถมองเห็นอนาคตได้หลายท่าน ก็กล่าวไว้เช่นนี้เหมือนกัน

    เรามาลองวิเคราะห์ถึงสาเหตุและความเป็นไปได้ ที่จะเหลืออยู่เพียงศาสนาเดียวในโลกนี้กันดูนะครับ เริ่มจากความเชื่อในทุกศาสนาที่มีความเชื่อตรงกัน อยู่อย่างหนึ่งว่า ในอนาคตจะบังเกิดมหาบุรุษท่านหนึ่ง ที่จะมาปฎิวัติเปลี่ยนแปลงโลกนี้ ให้กลับมีสันติสุขอย่างแท้จริง ไม่มีการรบราฆ่าฟันกันอีกต่อไป มหาบุรุษท่านนี้จะมาปลูกฝังคุณธรรม ศีลธรรม อันดีงามให้กับมวลมนุษย์ทั้งโลก

    เริ่มจากคติความเชื่อในทางพุทธศาสนา ก็มีความเชื่อกันว่าในอนาคตอันใกล้นี้ พระศรีอาริยเมตไตรย จะเสด็จมาปกครองโลกนี้ในฐานะพระเจ้าจักรพรรดิ ปกครองมนุษย์ในโลกนี้และปกครองมนุษย์ในดวงดาวอื่นๆ ในจักรวาลนี้ทั้งหมด ให้มีแต่ความสันติสุขด้วยอำนาจของพระเจ้าจักรพรรดิ และแก้ววิเศษ 7 ประการ โดยมีจักรแก้ววิเศษ เป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกนี้ ให้เป็นไปได้ตามที่พระองค์ต้องการ

    จากคติความเชื่อของทางคริสต์ศาสนา ก็เชื่อว่าในไม่ช้านี้พระเมสิอาร์หรือพระเยซูคริสต์ จะเสด็จมายังโลกนี้เป็นครั้งที่ 2เสด็จมาปกครอง โลกนี้ทั้งโลกให้เป็นคริสตศาสนิกชนทั้งหมด โดยจะมาในลักษณะจอมกษัตริย์ขี่ม้าขาวและไม่ได้เสด็จมาเพียงลำพังเพียงพระองค์เดียว แต่จะนำกองทัพสรรค์ลงมาด้วย เพื่อปกครองโลกนี้ให้มีสันติสุขอันยั่งยืนไปอีก 1,000 ปี

    จากคติความเชื่อของทางศาสนาอิสลาม ก็มีความเชื่อว่าในอีกไม่ช้านี้ ศาสดาท่านหนึ่งที่หายตัวไปเมื่อหลายร้อยปีแล้ว จะเสด็จกลับมากอบกู้โลกนี้ ให้กลับคืนสู่สันติภาพ ภราดรภาพ อีกครั้งหนึ่งโดยจะทำให้ทุกคนในโลกนี้ กลายเป็นอิสลามมิกชนไปทั้งโลก จะไม่มีใครยากจนอีกต่อไป ทุกคนจะได้ในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาทั้งหมด จะไม่มีความอดอยาก หิวโหย โรคระบาด หรือสงครามอีกต่อไป ศาสดาในความเชื่อของชาวอิสลามท่านนั้นมีพระนามว่า "มฮุดีย์"

    จากคติความเชื่อของศาสนาฮินดู ก็มีความเชื่อว่าในอีกไม่ข้านี้ พระนารายณ์ จะเสด็จอวตารลงมาปราบคนชั่วให้หมดไปจากโลกนี้ โดยการเสด็จมาครั้งนี้เป็นปางที่ 10 คือเป็นบุรุษขี่ม้าขาว นามว่า กัลกี ในมือของท่านจะถือดาบวิเศษที่มีแสงแวววับ สามารถฟาดฟันเหล่าคนชั่วให้มอดม้วยได้ในพริบตาเดียว และจะคืนสันติสุขให้กลับมาสู่มวลมนุษย์ชาติอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นอันสิ้นสุดของกลียุคอันยาวนานอีกด้วย

    ที่นี้เรามาลองวิเคราะห์กันดูว่า สาเหตุอะไรที่จะทำให้หลายศาสนาต้องหมดไป เหลืออยู่เพียงศาสนาเดียว ถ้าในอนาคตอันใกล้นี้เกิดสงครามนิวเคลียร์ สงครามชีวภาพ(เชื้อโรค) หรือต้องประสบกับภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง ทั้งแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก พายุสายฟ้า พายุเฮอริเคน พายุทอร์นาโด ภูเขาไฟระเบิด คลื่นยักษ์พัดเข้าสู่ชายฝั่งตามเมืองใหญ่ๆ ประชากรโลกจำนวนนับล้านๆคน ต้องจบชีวิตไปกับภัยพิบัติเหล่านี้

    ผู้คนทั้งหลายในเวลานั้นย่อมต้องเรียกร้องหาที่พึ่ง ให้กับชีวิตของตัวเองและครอบครัว ที่พึ่งที่ทุกคนรอคอยตามที่มีบันทึกอยู่ในทุกศาสนานั้นก็จะมีความสำคัญขึ้นในขณะนั้นทันที เมื่อบุคคลสำคัญท่านนั้นปรากฎพระองค์ขึ้นมา ต่างคนต่างก็พร้อมที่จะให้ความเคารพเชื่อฟังอย่างหมดหัวใจ ไม่มีคำโต้แย้งใดๆอีกต่อไป เพราะต่างคนต่างก็ประสบกับความทุกข์ยากแทบจะสิ้นใจตายกันแล้วในเวลานั้น และทุกคนต่างก็เชื่อว่านี่คือบุคคลสำคัญในศาสนาของพวกเขา ที่พวกเขากำลังรอคอยกันอยู่เป็นเวลายาวนาน

    เมื่อบุคคลสำคัญท่านนั้น ประกาศคำสอนใดๆ ออกมา คำสอนนั้นจึงเป็นเสมือนประกาศิต ที่ทุกคนในโลกนี้ยอมรับและประพฤติปฏิบัติตามทันที ผมจึงวิเคราะห์เอาว่า นี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ศาสนาในโลกนี้เหลืออยู่เพียงศาสนาเดียว ส่วนจะเป็นศาสนาใดนั้นผมคิดว่าทุกๆท่าน ที่อ่านในกระทู้นี้คงมีคำตอบอยู่ในใจกันทุกคนแล้วนะครับ

    ข้อความทั้งหมดนี้เป็นความคิด ความเชื่อของผมเพียงคนเดียว ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ จะเชื่อก็ได้หรือไม่เชื่อก็ได้นะครับ -เกษม-
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2010
  6. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    25 ก.ย. 53


    7 ก.ย. 53 เมฆดำ พายุหมุน ไฟไหม้

    ไฟไหม้ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยห้าครั้ง
    เย็นนี้ข่าวช่องสามเสนอข่าวไฟไหม้ที่บราซิล


    24 ก.ย. 53 ยุบพรรค

    ในภาพเห็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งถูกยุบ ถ้าเป็นไปตามนั้นจริง การบริหารงาน
    ก็จะหยุดชงัก ถ้าเกิดได้นำคนกลางขึ้นมาทำการแทนสักระยะ ขอให้ระวังตาม
    สัญญาณที่ผมได้รับเมื่อ

    16 ก.ย. 51 เรื่องเล่าจากภาพ การทะเลาะวิวาท ผู้นำจากคนนอกที่เก่ง
    ด้านการเงิน แผ่นดินไหวจะตามมา


    25 ก.ย. 53 กุศโลบาย

    วันนี้หลานจิ๊บ (อติกานต์ หนุนภักดี) ได้เล่าให้ผมฟังว่า หลานได้ไปดูหนังที่โรง
    หนังสยาม เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศจีน มีคนตายร่วมสอง
    แสนคน เป็นหนังที่สร้างขึ้นอิงกับเหตุการณ์จริง หลานจึงมีแนวคิดว่า จะจัดให้
    คนไปดูฟรี 30 ท่านโดยมีเครื่องดื่มดังยี่ห้อหนึ่งเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ส่วนวิธีการ
    ขอบัตรดูหนังหลานจิ๊บจะเป็นคนกำหนดเอง หลานได้ชวนผมให้ไปดูด้วยในวัน
    นั้นและมีวิธีการจะชักชวนคนที่มีความเชื่อไปร่วมทำงานด้วยกัน




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ขอขอบคุณในความปรารถนาดีของทั้งสองท่านครับ เรื่องข้อขัดแย้งของสำนักปฏิบัติธรรมต่างๆนั้น ผมขออนุญาตที่จะไม่เอ่ยถึงในกระทู้นี้นะครับ เพราะผู้ที่จะมาทำหน้าที่ชำระสะสางความมัวหมองของพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบันนี้ เป็นหน้าที่ของพระเจ้าจักรพรรดิ์ครับ ซึ่งพระองค์ท่านจะมาอัญเชิญพระอุปคุตให้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการทำสังคายานาพระพุทธศาสนาในอนาคตอันใกล้นี้ให้กลับมาสะอาดบริสุทธิ์ เหมือนดั่งสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2010
  8. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    สาธุ สาธุ สาธุ
    เห็นด้วยครับ
     
  9. เด็กอุทัย

    เด็กอุทัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +29
    ยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์ยังอีกนานครับคุณเกษม...ต้องรอให้สิ้นศาสนานี้ไปก่อนครับท่านถึงจะมาไม่ใช่อนาคตอันใกล้นี้แน่นอนครับ
     
  10. มหานอกวัด

    มหานอกวัด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +51
    เพื่อนร่วมโลกทั้งหลายอย่าได้กังวลกับเรื่องพวกนี้เลย ทุกอย่างเป็นไปดั่งคำทำนายหรือไม่นั้นจงอย่าร้อนใจไปเลย ก็รู้แล้วมิใช่หรือว่า ทุกคนต่างมีกรรมเป็นของๆตน กรรมดีชั่วก้อว่ากันไปถึงเวลาแล้วจงทำใจยอมรับชะตา ไม่มีใครหลบพ้นได้ดอก ถ้ายังตัดขาดไม่ได้จากบ่วงแห่งกิเลสทั้งหลาย ก้อยังต้องรับกรรมต่อไปอย่าไปคิดมากเลยนะ ให้นึกถึงพุทโธเอาไว้ เอวังฯ
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ประเทศไทยมีฝนกระจายในระยะนี้อิทธิพลจากลมตะวันออก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ประจำวันที่ 27 กันยายน 2553 ลมตะวันออกพัดเข้ามาปกคลุมอ่าวไทย ประเทศไทย และทะเลอันดามัน ทำให้ประเทศไทยมีฝนกระจายในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัด
    แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก
    และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัด หนองคาย เลย อุดรธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 36 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 36 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัด
    ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
    อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนองพังงา ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แม่น้ำยมล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ในเมืองพิจิตร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ระดับน้ำในแม่น้ำยม</TD></TR></TBODY></TABLE>แม่น้ำยมที่จังหวัดพิจิตรล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรัง ไม่สามารถเดินทางไปพบแพทย์ได้

    สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำยม อำเภอสามง่าม และอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

    ขณะนี้ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ 20-30 เซนติเมตร เนื่องจากน้ำเหนือไหลหลากลงมาสู่แม่น้ำยม รวมทั้งมีฝนตกลงมาอย่างหนัก น้ำป่าจากจังหวัดกำแพงเพชร ไหลลงมาหนุน ทำให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 8 พันหลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1-2 เมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ต้องได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถเดินทางออกมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลได้

    ล่าสุดทางสาธารณสุขจังหวัดพิจิตรต้องนำหน่วยแพทย์พร้อมเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกหน่วยไปให้บริการผู้ป่วยถึงภายในบ้านที่มีน้ำท่วมขัง

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>รบ.ทหารพม่าได้ "ช้างเผือก" ตัวใหม่ เชื่อเป็นสัญลักษณ์ชนะเลือกตั้ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    เอเอฟพี รายงานว่ารัฐบาลพม่ากำลังเชื่อว่าตนเองได้รับสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ "ในการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย"

    มาครอบครอง หลังจากมี "ช้างเผือก" ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งบุญญาบารมีมาตั้งแต่ยุคโบราณตามความเชื่อของชนชั้นนำละแวกนี้ ถูกจับได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา


    ช้างเผือกตัวล่าสุดของพม่าถูกจับได้ที่รัฐยะไข่เมื่อวันที่ 23 กันยายน โดยหนังสือพิมพ์นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ของรัฐบาล ได้ระบุว่าช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างเผือกตัวที่ 5 ซึ่งถูกจับได้ในพม่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 เป็นต้นมา และถือเป็นความภาคภูมิใจของชาติ

    "ประชาชนต่างพากันพูดคุยอย่างมีความสุขว่า เหตุมงคลเช่นนี้ได้เกิดขึ้นอย่างสองคล้องกับช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยของประเทศพม่า และนี่ก็ถือเป็นสัญลักษณ์อันดีงามที่แสดงให้เห็นถึงการประสบความสำเร็จซึ่งจะเกิดขึ้นกับการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน" บทความของหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวระบุ

    นอกจากนี้ บทความชิ้นนั้นยังระบุด้วยว่า ช้างเผือกตัวล่าสุดได้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนพม่าจะพบกับความสงบสุข การมีเสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรือง ในยุคสมัยของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกันกับยุคสมัยที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ทำการปกครองประเทศ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ชาวโลกจะได้พบผู้มีบุญ(พระเจ้าจักรพรรดิ์)ในปีกุน พ.ศ.๒๕๖๒

    [​IMG]

    คุณเด็กอุทัย คงจะสับสนเรื่องยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์ กับยุคของพระเมตไตรยพุทธเจ้า เพราะเป็นคนละช่วงเวลากันครับ พระเจ้าจักรพรรดิ์จะเสด็จมาปกครองโลกนี้ในระยะเวลาอีก 9 ปี นับจากนี้เป็นต้นไป อาจจะดูนานในความคิดของใครหลายๆ คนแต่สำหรับผมแล้วระยะเวลาแค่ 9 ปี ผมถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนยุคของพระเมตไตรยพุทธเจ้า จะเกิดขึ้นหลังจากหมดอายุศาสนาของพระสมณโคดมพุทธเจ้า นี้ไปแล้วนับเป็นเวลาอีกหลายล้านปีมนุษย์ครับ

    พระพุทธทำนาย

    จากศิลาจารึกในมหาวิหารเจตมาหเชตวัน ณ สวนมฤคทายวันประเทศอินเดียโดยคณะฑูตไทยที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อปี พ.ศ. 2485 ตามคำแปลเป็นภาษาไทย ว่าดังนี้

    สาธุ อะระหังตา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาสรรพสัตว์ทั่วโลกที่เกิดมาแล้วแต่ลำบาก ทั่วหน้า ทุกชาติ ทุกศาสนาตามธรรมชาติ เมื่ออาตมาเข้านิพพานไปแล้วครบห้าพันปีเป็นที่สุด โลกจะหมุนไปใกล้จะถึงจำนวนที่ตถาคต ทำนายไว้สองพันห้าร้อยปี มุนษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติเสียครั้งหนึ่งในระยะ 30 ปี สิ่งที่สาธุชนไม่เคยเห็นจะได้เห็น ไม่เคยพบจะได้พบ ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับกับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งนัก ใกล้กับ พ.ศ. ๒๕๕๐ ยิ่งทีวีกันใหญ่ขึ้นทุกทิวาราตรี มนุษย์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันกันจนเลือดนองเด็มพื้นดินพื้นน้ำ จะรุกลามเผามนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลายเหมือนยักษ์กระหายเลือด

    แผ่นดินจะเป็นเปลวไฟ จะตายอย่างละครึ่งหนึ่งจึงจะเลิกล้ม ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งถือกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต ส่วนพุทธศาสนิกชน ผู้ทำแต่บุญเดินตามทางตถาคต สามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดได้บูชาพระโพธิสัตว์ ผ้ากาวสาวพัตร์ ก็จะรับภัยพิบัติเบาบาง แต่หนีภัยธรรมชาติไม่พ้น ไฟจะลุกลามทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณะชีพราหมณ์ จะอดอยาก ยากเข็น ลูกไฟจะตกจากฟ้า เหล็กกล้าจะผุดจากน้ำ สงครามจะเกิดทั่วทิศ พญานาคจะพ่นพิษเป็นเพลง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวสารจะขาดแคลน ทุกแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง สีเหลืองจะชนะ พระยังอยู่คู่เมืองอีกต่อไป สีขาวจะแพ้ภัยในที่สุด ครุฑจะบินกลับฐาน คนจะกลับบำรุงพระพุทธศาสนา ชา ตะ มะ สะ ละ วา ท่านให้ เขียนใส่กระดาษ หรือผ้าขาวติดไว้หน้าบ้าน หรือหัวนอน ดังนี้จะมีอายุยืนยาว

    จะทันผู้มีบุญชื่อ พระยาธรรมมิกราชา เมื่อแรกสถิตอยู่เขตอยุธยา บัดนี้ท่านเสด็จอยู่ลานช้าง (ภาคอีสาน ในปัจจุบัน) พระธรรมิกราชา เข้ามาปีกุน เดือน 11 เป็นเที่ยงแท้นักหนา ท่านเสด็จมาในปีระกา แรม 5 ค่ำ มหากษัตริย์มาทางทิศตะวันตก สมณะชีพราหมณ์ตามมาพอประมาณได้ 76,400 รูป ทั่วอาณาจักร สมเด็จพระบรมนักปราชญ์ได้ประกาศคาถาว่า ดังนี้ นะสัจจังทะ คะยังมะสำคำปัง

    คอยดูในปีมะโรง คนจะเดินโก่งโคงคลาน ผู้ใดอยากพบผู้มีบุญ คอยดูปีมะเส็ง ตลิ่งจะพัง มหาสุมทรจะชอกช้ำ อย่าเที่ยวไปกลางแจ้ง ท่านเข้ามาปีกุน เดือน ๘ เป็นเที่ยงแท้ผู้ใดไม่เชื่อจะรับอันตราย คอยดูในปีจอ คนจะพ้นภัย สะโรนะกา โททายะโม พุทธตะยะ ภาวนาทุกค่ำเช้า ผู้นั้นจะมีอายุยืนนานจะได้เห็นพระธรรมมิกราช (พระโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรย) ในปีกุน ท่านจะเข้ามาอีก ถ้าไมเห็นหนังสือบ้านใด ผู้นั้นจะได้รับอันตรายรู้แล้วให้บอกต่อกันด้วย

    คำเตือนโลกมนุษย์กำลังจะเข้าสู่กาลียุค จะทำให้เกิดภัยธรรมชาติจากดิน น้ำ ลม ไฟ จะเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่สามตามมา มนุษย์จะตายไปกว่าครึ่งสำหรับประเทศไทย จะเริ่มเกิดตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ คาดว่าจะได้รับภัยทางน้ำแล้วไฟโดยเฉพาะที่จังหวัดที่ติดชายทะเลและกรุงเทพฯ แผ่นดินจะยุบตัวคลื่นน้ำจะพัดเข้าถล่ม ความสูง ๒๐๐ เมตร มนุษย์จะล้มตายมากกว่าครึ่ง น้ำจะเข้าช่องแคบสระบุรี และด้านตอนล่างของโคราชบางส่วน ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สุดท้ายประเทศไทยจะเหลือประชากรประมาณ ๓๐% ส่วนประเทศอื่นทั่วโลกจะเหลืองเพียง ๑๐% เท่านั้น

    บุคคลที่รอดชีวิตส่วนมาก ก็จะสูญเสียสติสัมปชัญญะไม่ปลอดภัยเหมือนเมืองที่นับถือพระพุทธศาสนา เพราะไม่เข้าใจบำเพ็ญฌานภาวนา ฉะนั้นอย่าหลงใหลในทรัพย์สินของตนเองให้มาก เพราะเมื่อเข้ายุคศิวิไล เงิน ทอง จะไม่มีค่าเลยเพราะมนุษย์ยุคนั้นวัดกันที่ความดี ศีลธรรม บุญกุศลเท่านั้น (ปีมะโรง พ.ศ. ๒๕๕๕ ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๕๕๖ ปีระกา พ.ศ.๒๕๖๐ ปีจอ พ.ศ.๒๕๖๑ ปีกุน พ.ศ. ๒๕๖๒)

    คำทำนายสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี

    รัชกาลที่ ๑ ทายว่า มหากาฬ (ทำลายเพื่อน พี่น้อง)
    รัชกาลที่ ๒ ทายว่า ฌานยักษ์ (ชำนาญเวทมนต์)
    รัชกาลที่ ๓ ทายว่า รักมิตร (มีการค้าขายกับต่างชาติมากมาย)
    รัชกาลที่ ๔ ทายว่า สนิทคำ (ออกบวช)
    รัชกาลที่ ๕ ทายว่า จำแขนขาด (คือต้องยอมเสียดินแดนฝั่งซ้ายเม่น้ำโขงและ
    เขมร เพื่อป้องกัน อธิปไตย)
    รัชกาลที่ ๖ ทายว่า ราชโจร (เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๑ เกิดกลุ่มโจร มากมาย
    มีการตั้งกองเสือป่าครั้งแรกของไทย)
    รัชกาลที่ ๗ ทายว่า ชนร้อนทุกข์ (เกิดการเดินบขวนเพือเรียกร้องประชาธิปไตย)
    รัชกาลที่ ๘ ทายว่า ยุคทมิฬ (พระเจ้าแผ่นดินถูกลอบปลงพระชนม์)
    รัชกาลที่ ๙ ทายว่า ถิ่นกาขาว (มีฝรั่งเข้ามามากมาย นำเงินมาซื้อประเทศไทย
    เกิดวิกฤตการเงิน)
    รัชกาลที่ ๑๐ ทายว่า ชาวศิวิไล (จะมีเหลือเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้นที่รอด เป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย ที่จะมาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ปกครองคนทั้งโลก)

    ที่มา http://www.1000it.com/simple/?t98.html

    หมายเหตุ

    คำว่าไทยมหารัฐ จักรพรรดิราช เป็นคำสร้อยของยุคชาววิไล ไม่ได้หมายถึงรัชกาลที่ ๑๑ หรือ ๑๒ ตามที่เข้าใจกันแต่อย่างใดครับ

    ปี ค.ศ.2018 เริ่มต้นยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์

    [​IMG]
    [​IMG]

    ช่องที่ 10+ 4 หมายถึงช่วงเวลา 1,000 ปี ของพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์ king of kings) ตามรหัสเวลาจากคัมภีร์ใบเบิ้ล

    พระเจ้าจักรพรรดิ์ ตามความหมายที่แท้จริงหมายถึง ผู้ที่มีบุญญาธิการมากที่สุดในโลก เป็นผู้ที่สามารถปกครองคนได้ทั้งโลก โดยไม่ต้องใช้กำลังทหารหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆทั้งสิ้น ทรงใช้แต่หลักแห่งคุณธรรมและเมตตาธรรม ปกครองคนทั้งโลกนี้ให้ร่มเย็นเป็นสุข เป็นผู้เดียวที่สามารถรวมทุกศาสนาในโลกนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ไม่มีการแบ่งแยกเป็นศาสนาต่างๆ อีกต่อไป เพราะจะเหลืออยู่เพียงศาสนาเดียวที่คนนับถือเหมือนกันทั้งโลก ก็คือพระพุทธศาสนานี้นั่นเอง -เกษม-
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2010
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    ทุ่งสังหาร (the killing fields)ตำนานสังหารที่โลกไม่เคยลืม โศกนาฏกรรม "กัมพูชา" ช่วงเขมรแดงเรืองอำนาจหลังจากยึดกรุงพนมเปญได้ในปี 2518 ทั่วทั้งแผ่นดินแดงฉานด้วยเลือดประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อความโหดเหี้ยมและเป็นการกระทำต่อมนุษย์ด้วยกันอย่างป่าเถื่อนทารุณเมื่อเขมรแดงยึดกรุงพนมเปญ ประชาชนพลเมืองถูกหลอกออกจากเมืองไปยังชนบทกันดาร พล พตต้องการเปลี่ยนให้ชาวกัมพูชากลับไปเป็นชนดั้งเดิม ใช้แรงงานเพื่อการเกษตร ทุกคนต้องเป็นชาวนาชาวไร่ อาศัยอยู่ในค่ายแรงงาน ทำงานวันละ 12 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก 4 ปีที่พล พตอยู่ในอำนาจผู้คนล้มตายนับล้านชีวิต ทั้งอดอยาก ทั้งถูกทารุณกรรม ถูกฆ่ายิ่งมหาศาล "ทุ่งสังหาร" อุบัติขึ้นเวลานั้น นโยบายหนึ่งที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าป็นผักปลา คือเขมรแดงต้องการให้กัมพูชาเป็นประเทศที่มีคนแค่เชื้อสายเดียว คือเชื้อสายกัมพูชา ชนกลุ่มน้อยอย่างชาวเวียดนาม และชาวจีน จึงถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รวมถึงคนเขมรด้วยกันเอง ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 1.5-2 ล้านคนเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เลวร้ายที่สุดของศตวรรษที่ 20


    ขอบคุณข้อมูล Good Morning Mail
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    <TABLE style="MARGIN: 10px 0px 0px; FONT-SIZE: 10pt" cellSpacing=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 4px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px" width=100></TD><TD style="VERTICAL-ALIGN: bottom">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สงครามโลกครั้งที่ 3 มีประเทศร่วม 125 ประเทศ ใช้เวลา 9 ปี !!!

    [​IMG]

    พระผู้ทำนายอนาคต "ฮวน พอล วัลเดส"

    ฮวน พอล วัลเดส เป็นพระที่เขามูนเตซในสเปน เกิดเมื่อ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1832 และตายเมื่อ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1898 ฮวนบวชเป็นพระในนิกายโรมันแคโธลิกตั้งแต่ปี ค.ศ 1860 แต่ด้วยความสามารถพิเศษที่ไม่สำรวมในการทำนายอนาคต ทำให้ฮวนต้องถูกออกจากความเป็นพระในปี ค.ศ.1870 โบสถ์ถือว่าฮวนเป็นพวกนอกคอก เพราะในแต่ละวันฮวนจะใช้เวลา ในการจดบันทึกรายละเอียดตามฝัน ที่โบสถ์ถือว่าไม่สอดคล้องกับจริยวัตรที่ดี ในปีนี้ (ค.ศ.1998) จึงครบ 100 ปี ของการตายของพระฮวน

    หลังการตายของฮวน คำทำนายเป็นสมุดบันทึกถูกเก็บรักษาอย่างดีจากญาติของเพื่อนสนิท การตัดสินใจย้ายที่ฝังศพของฮวน เพื่อเปิดโอกาสให้กับความเจริญของท้องถิ่น ก่อให้เกิดความแตกตื่นทั้งในสเปนและประชาคมยุโรป โลงศพของฮวนวางอยู่ใต้แผ่นหินอัคนีขนาดใหญ่ตามที่นิยมทำกันในศตวรรษที่ 18 จึงต้องใช้รถ บูลโดเซอร์ ขนาดใหญ่กำลังสูงในการขยับแผ่นหิน เมื่อยกโลงศพของฮวนขึ้นเปิด ญาติของเพื่อนสนิทที่ต้องเป็นพยานในเหตุการณ์นี้ เขามีโอกาสอ่านบันทึกของฮวนตั้งแต่ยังเด็ก จึงมีความอยากรู้อยากเห็น เพื่อการค้นพบสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก เมื่อเปิดโรงศพของฮวน พบว่า

    โครงกระดูกของฮวน ถือไม้กางเขนที่จารึก คำทำนายสุดท้าย ของฮวนไว้ว่า หลุมศพของฮวนจะถูกรื้อและเปิดในวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1998 ผู้คนที่อยู่ใน เหตุการณ์ทั้ง 17 คนต่างใบ้กิน ตะลึง ในความแม่นยำของคำทำนาย เพราะการตัดสินใจที่จะย้ายที่ฝังศพของฮวน กระทำโดย ประชาคมเมื่อ 4 วันที่แล้วมานี้เอง เหตุการณ์นี้นำสู่การตีพิมพ์คำทำนายในบันทึกของฮวน ที่เก็บไว้กับญาติของเพื่อนสนิท

    คำทำนายอนาคตของพระฮวน พอล วัลเดส

    - นกทำด้วย เหล็กกล้าบินในท้องฟ้า (เครื่องบิน ?)

    - การลอบปลงชีพผู้นำจากครอบครัวโลกตะวันตก (จอห์น เอฟ เคนเนดี และ โรเบิร์ต เคนเนดี ?)

    - การล่มสลาย ของอาณาจักรยิ่งใหญ่ทิศเหนือ (สหภาพโซเวียต ?)

    - การกระจายของโรคภัยและเข่นฆ่ามวลมนุษย์ (อีโบลา และเอดส์ ?)

    - เยรูซาเลมได้อิสระภาพและสร้างชาติใหม่สำเร็จ (อิสราเอล ?)

    - การสิ้นพระชนม์ของ เจ้าหญิงอังกฤษ ที่ทรงครรภ์ในอุบัติเหตุ (เจ้าหญิงไดอานา ?)

    - การตายของแม่ชีทูตสวรรค์ (แม่ชีเทเรซา ?)

    - แผ่นดินไหวและจำนวนผู้เสียชีวิตที่ถูกต้อง

    - ระเบิดนิวเคลียร์ จะเกิดขึ้นรวม 5 ครั้งในการเผชิญหน้ากันระดับโลก (เกิดแล้ว 2 ครั้งในญี่ปุ่น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังเหลืออีก 3 ครั้ง ?)

    - ประเทศที่มีประชาชนจำนวนหนาแน่นในตะวันออกไกล (อินโดนีเซีย ?) จะมีปัญหาไม่สงบและการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ 20 ปีหลังสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง (สมัยซูกาโน ?) และอีก ครั้งหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 33 ปี หลังครั้งแรก (สมัยซูฮาโต ?) ในขณะที่ผู้นำชั่วคราว (ฮาบีบี ?) จะปกครองแค่ปีเดียว และจะถูกแทนที่ด้วยเผด็จการผู้รักสงบจนสิ้นปี 1999 ประเทศบอบช้ำ อย่างสาหัสทั้งความ ยากจนและอดอยากซ้ำเติมเพียง 2 ปีให้หลัง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่นับเป็นครั้งที่ 3 และนองเลือดที่สุด จะเป็นปีเดียวกับสงครามโลกครั้งที่ 3 กว่าจะสงบลงก็ใช้เวลา 16 ปี

    - สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้น จากเหตุการปลงชีพของผู้นำประเทศตะวันออกกลาง สงครามจะถึงจุดสูงสุดเมื่อประเทศ ตะวันตก ทิศเหนือ (อเมริกา ?) ไม่อาจยอมทนต่อไปกับการวางระเบิด แบบสละชีพและก่อการร้าย ของชนประเทศ ตะวันออกลางตอธิปไตยของประเทศ

    - สงครามโลกครั้งที่ 3 มีประเทศร่วม 125 ประเทศ ใช้เวลา 9 ปี

    - สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเริ่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ของประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย (จีน ?) ต่อชาติเล็ก คู่อริที่ไม่ลงรอยกันเป็นเวลา 50 ปี (ไต้หวัน ?)

    - ระเบิดนิวเคลียร์ลูกที่ 4 และ 5 จะเกิดในประเทศ ที่เพิ่งผ่าน การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่มีการนองเลือด (อินโดนีเซีย ?) ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเป็นล้านเฉพาะในประเทศนี้ และเนื่องจากความยากจนข้นแค้น ประเทศนี้จะยึดประเทศเพื่อนบ้าน 3 ประเทศ (สิงคโปร์ ? มาเลเซีย ? บรูไน ?) เป็นเวลาอีก 15 ปี ผู้นำที่มีเชื้อสาย ผู้อพยพจะเป็นผู้ปกครองในปีที่ 16 และประเทศนี้ในที่สุดจะแยกเป็น 8 รัฐ โดยมีผู้ว่าการรัฐปกครองในแต่ละรัฐ

    - สองประเทศจากคาบสมุทรอินเดีย (อินเดียและปากีสถาน ?) จะสงครามกัน และมีกำลังจากต่างประเทศ (UNSCOM ?) ยื่นมือเข้ามาดูแลประเทศทั้งสอง เป็นเวลา 8 ปี และจะแบ่งเป็น 3 ประเทศเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 3

    อ่านเล่นเพลินๆ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณนะครับ

    ที่มา http://www.sanook.to/thaibros/inbox2/prelook.html<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 21934.jpg
      21934.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.3 KB
      เปิดดู:
      15,953
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2010
  15. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ดูแล้วรู้สึกโหดร้ายทารุณมากๆเลยค่ะ "ทุ่งสังหาร" ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อื่น และเผ่าพันธุ์เดียวกันเอง เหมือนพวกนาซีเยอรมัน
    ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือสงครามไหนๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย.. อยากให้ทุกคน(โดยเฉพาะพวกผู้นำ) มีความรู้จักพอ รู้จักกฏแห่งกรรม มีความอดทนอดกลั้น แก้ปัญหาด้วยสันติวิธีดีกว่าค่ะ ถึงแม้ว่ากรรมจะมานำให้เป็นไป แต่ก็อยากให้มีแสงสว่างแม้ซักน้อยนิด ส่องเข้าไปในจิตใจของท่านเหล่านั้น เพื่อให้มีความยับยั้งชั่งใจ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป เพื่อประโยชน์และความโลภ เชื่อว่าลึกๆแล้ว ทุกคนทุกจิตวิญญาณล้วนมีความบริสุทธิ์ แต่ถูกอกุศลกรรมบดบัง ทำให้มีแต่ตัณหา ราคะ ความชั่วร้ายอยู่ในจิตใจ เห็นผิดเป็นชอบ..
     
  16. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    27 ก.ย. 53


    ช่วงวันปิยะ ( 22-26 ตุลาคม ) ยังไม่ทราบว่าจะได้ขึ้นไปทำบุญทอดกฐิน
    ที่วัดพระพุทธบาทภูควายเงินหรือเปล่า? คงต้องรอคำตอบจากหลานจิ๊บว่า
    ช่วงนั้นเพื่อนของหลานจิ๊บและตัวหลานจะว่างหรือเปล่าที่จะขึ้นไปดูพื้นที่ฐานฯ
    และคิดว่าจะซื้อที่ดินเพิ่ม? ถ้าช่วงนั้นไม่ว่างคงต้องรอถึงปลายปีช่วงปีใหม่

    ถ้าช่วงนั้นว่างก็จะได้ขึ้นไปทำบุญด้วยกัน ส่วนจำนวนวันที่กำหนดไว้ ใคร
    สะดวกกี่วันที่จะอยู่ก็แล้วแต่ ที่กำหนดไว้เผื่อไว้สำหรับการนำน้ำบาดาลไป
    ตรวจสอบ ขออนุญาตการเจาะและถ่ายภาพตัวโยกน้ำบาดาลพร้อมปั้ม
    ซับเมิชมาลงในเว็บฯ

    เรื่องซื้อที่เพิ่มคนซื้อมีความประสงค์จะทำเป็นรีสอร์ต เมื่อดูที่ดินแล้วถ้าไม่ถูกใจ
    ผมจะลองชวนเข้ามาเป็นแนวร่วมช่วยกันทำงาน ผลคืบหน้าอย่างไรแล้วจะแจ้ง
    ให้หลานๆที่เป็นแนวร่วมได้ทราบต่อไป

    อาเค





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7242 ข่าวสดรายวัน


    คางทูมระบาด-มี'ครู-น.ร.'ป่วยอื้อ




    ศรีสะเกษ - ที่ร.ร.ศรีสะอาดวิทยาคม ต.ศรีสะอาด อ.ขุขันธ์ มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยควบคุมโรคระบาด สำนักงานสาธารณสุข ร.พ.ขุขันธ์ และสถานีอนามัยบ้านตะเคียนบังฮีง ออกมาตรวจสุขภาพของนักเรียน หลังจากที่มีนักเรียนป่วยเป็นไข้ ปวดบริเวณแก้ม น้ำมูกไหล เจ็บคอ ปวดตามข้อ และมีอาการคล้ายโรคคางทูม ไปเข้ารับการรักษาที่สถานีอนามัยจำนวน 25 คน และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีผู้ที่มีอาการน่าสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคคางทูมคือนักเรียน 55 คน ครู 2 คน นักการภารโรง 1 คน และผู้ปกครองเด็กนักเรียนอีก 14 คน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สุ่มเจาะเลือดนักเรียนเพื่อส่งผลเลือดไปตรวจพิสูจน์ที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อจะได้ยืนยันโรคอีกครั้งหนึ่ง

    นายสุนทร กุมรีจิต ผอ.ร.ร.กล่าวว่า มีนักเรียนทั้งสิ้น 373 คน นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีนักเรียนที่มีอาการคล้ายกับโรคคางทูมเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ตนจึงได้ส่งตัวนักเรียนเข้ารับการตรวจรักษาที่สถานีอนามัย และได้ประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ทราบ และมีคณะแพทย์ตรวจสุขภาพนักเรียนที่ต้องสงสัย เพื่อที่จะได้หาทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่อไป


    กาฬสินธุ์พบ'ใบเสมา'อายุ1,500ปี ผู้เชี่ยวชาญชี้เป็นกุญแจไขประวัติศาสตร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    อายุพันปี - ชาว อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ พบใบเสมาโบราณ คาดอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 9-10 เป็นใบเสมาเก่าแก่ที่สุดที่พบ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้เป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่เพราะเสมาหินที่พบใหม่มีความสมบูรณ์ และงดงามที่สุด

    </TD></TR></TBODY></TABLE>กาฬสินธุ์ - วันที่ 25 ก.ย. ดร.ไพโรจน์ เพชรสังหาร วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ และผู้เชี่ยวชาญเสมาหิน นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง นายพงษ์ชิต อันชม นายก อบต.เนินยาง และตัวแทนชาวบ้านในชุมชนเข้าตรวจสอบใบเสมาที่พบในที่นาของนายวานิช สาระพัน ชาวบ้านเนินยาง หมู่ที่ 8 ต.เนินยาง อ.คำม่วง โดยใบเสมาที่พบมีความพิเศษ เพราะมีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบในกาฬสินธุ์ ดร.ไพโรจน์กล่าวว่า ใบเสมาหินที่พบเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถแสดงถึงวัฒนธรรมของลุ่มน้ำปาว คาดว่าน่าจะมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 9-10 ซึ่งเป็นระยะที่มีการฟื้นฟูวรรณคดีสันสกฤตและปรัชญาฮินดู

    สำหรับใบเสมาแห่งใหม่มีใบเสมาทั้งที่มีลวดลายและไม่มีลวดลายจำนวน 2 แผ่น มีขนาดความสูง 1.60 เมตร กว้าง 80 ซ.ม. และหนา 40 เมตร เป็นใบเสมาหินตั้ง ยอดเสมามีลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม คาดอายุประมาณ 1,500 ปีขึ้นไป มีความเก่าแก่กว่าใบเสมาโบราณที่เมืองฟ้าแดดสงยาง และถือว่าเป็นใบเสมาเก่าแก่ที่สุดเท่าที่พบมา ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.ขอนแก่น แต่เมื่อสำรวจแล้วพบว่าใบเสมาชิ้นใหม่มีความสมบูรณ์ที่สุด งดงามที่สุดเท่าที่มีการพบมา นอกจากนี้ ยังพบแท่นประติมากรรมแปดเหลี่ยม ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะใบเสมาชิ้นใหม่จะเป็นกุญแจสำคัญในการถอดอดีตกาล ไขปริศนาประวัติศาสตร์ได้ เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่จะมีการค้นพบในอนาคต

    นายเลิศบุศย์ กล่าวว่า อำเภอคำม่วงจะเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนมีจิตสำนึกในการดูแลทรัพย์สินของแผ่นดินร่วมกัน รวมทั้งการให้ความรู้ด้านกฎหมายที่ประชาชนอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการเก็บรักษาหรือนำไปขายให้กับนายทุน หรือนักค้าของเก่า

    โน้ส เดี่ยว 8 และทิชชูสีชมพู

    หมุนก่อนโลก

    วิทยา ผาสุข wittayapasuk@hotmail.com



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เพิ่งได้ชม "เดี่ยว 8" ของ "โน้ส อุดม" ผู้บุกเบิกตลกสแตนด์อัพ คอมเมดี้ ในเมืองไทย

    นั่งๆ ดูไปสังเกตได้ชัดว่า มีอยู่ "มุข" หนึ่งไม่ค่อยตลก แต่ออกจะไปทางให้ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำ จนทำให้กลุ่มผู้ฟังนั่งเงียบ-อึ้งกันไปทั้งโรงมหรสพ

    นั่นคือ มุขที่คุณโน้สให้ข้อมูลบอกว่า อันกระดาษทิชชู "สีชมพู" ที่เราเห็นวางกันตามร้าน ข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ นั้น...

    แท้จริงแล้วมันมีที่มาจาก "กระดาษ เอ 4" เปื้อนหมึก ซึ่งเอามาผ่านกระบวนการรีไซเคิลใหม่!

    แล้วคุณโน้สก็ตบมุขเนียนๆ ว่า ทีนี้คงรู้แล้วนะว่า ระหว่างช้อนส้อมที่วางอยู่เฉยๆ กับการที่เราเอากระดาษทิชชูที่ว่ามาเช็ดช้อนส้อมนั้น อะไรสะอาดกว่ากัน!?

    ประเด็นนี้ คุณโน้สพูดถูก แต่ถูกครึ่งหนึ่ง เพราะอาจไม่มีเวลาเล่าทั้งหมด

    โดยถ้าจะขยายข้อมูลให้ชัดเจนมากขึ้น คงต้องฟังจากสิ่งที่นายช่างใหญ่ ผู้ทำงานอยู่ในโรงงานผลิตกระดาษทิชชูชื่อดังมา 30 ปี กรุณาให้ความรู้กับผมเอาไว้ว่า

    ทิชชูสีชมพูนั้นรีไซเคิลจากกระดาษ เอ 4 รวมถึงกระดาษที่เราใช้พิมพ์เอกสารต่างๆ จริง และกระดาษทิชชูส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่มีกระดาษ เอ 4 ผสมอยู่เช่นกัน

    ข้อแตกต่างอยู่ตรงที่ ยิ่งทิชชูคุณภาพดีเท่าไหร่ สัดส่วนการผสมเอ 4 รีไซเคิลลงไปก็จะน้อยลงเท่านั้น เพราะจะมีปริมาณเยื่อไม้มากขึ้น จึงทำให้เนื้อทิชชูคุณภาพดีมีความนุ่มสูง ไม่สาก แต่ราคาแพง

    อย่างไรก็ตาม ก่อนนำเอ 4 รีไซเคิลมาใช้ มันจะถูกทิ้งลงไป ในหม้อต้มเพื่อดึง หรือดูด เอา "หมึก" ออกไป เรียกว่าขั้นตอน "ดี-อิงก์" ทั้งยังต้องผ่านความร้อนถึง 200 องศาเซลเซียส

    ฉะนั้นไม่ว่าเชื้อโรค สิ่งสกปรกใดๆ ก็ไม่มีทางเล็ดรอดผ่านกระบวนการนี้ไปได้ ส่วนจุดประสงค์การใส่ "สี" ก็เพื่อกลบเนื้อของทิชชูที่ดูไม่ค่อยนวล และทำให้ดูน่าใช้ยิ่งขึ้น

    เรื่องราวการเดินทางของทิชชูสีชมพูในเดี่ยว 8 ก็เอวังด้วยประการฉะนี้ล่ะครับ นำมาเล่าให้ฟังอีกที จะได้ทราบที่ไปที่มาชัดๆ

    ม.อังกฤษคิดค้น'ยาหยอดตา'แก้เด็กสายตาสั้น



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>อาการ "สายตาสั้น" เป็นปัญหาของชาวอังกฤษกว่า 1 ใน 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนยุคใหม่ที่ใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์อังกฤษค้นพบ "ยีน" หรือหน่วยพันธุกรรมที่เป็นต้นเหตุของสายตาสั้นแล้วและแจ้งข่าวดีว่า กำลังพัฒนา "ยาหยอดตา" ที่จะยับยั้งอาการสายตาสั้นในเด็ก คาดว่าจะสำเร็จภายใน 10 ปีนี้

    งานวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญมหาวิทยาลัยคิงคอลเลจในกรุงลอนดอน ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ เจเนติกส์ ระบุว่า ลูกตาที่โตเกินปกติส่วนใหญ่เริ่มพัฒนาช่วงวัยเด็ก เป็นสาเหตุให้สายตาสั้น บางรายทำให้การมองเห็นแย่ลงรวดเร็ว โดยไม่มีทางไหนยับยั้งได้ ในบางรายที่รุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้

    นักวิจัยค้นพบยีนสายตาสั้นจากการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของฝาแฝดชาวอังกฤษกว่า 4,000 คู่ และคนอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลียอีก 13,000 คน เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง พบว่า คนที่มียีนชื่อ RASGRF1 ซึ่งเป็นยีนควบคุมการพัฒนาดวงตาและส่งผ่านสัญญาณภาพไปยังสมองผิดปกติ จะทำให้ลูกตาโตกว่าปกติ ทำให้มองไกลไม่ชัด

    ดร.คริส แฮมมอนด์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมเช่นการเพ่งสายตากับหนังสือ หรือคอมพิวเตอร์นานๆ ทำให้สายตาสั้นได้ แต่การค้นพบยีนนี้จะเป็นหนทางยับยั้งไม่ให้เด็กสายตาสั้น หรือเด็กที่สายตาสั้นอยู่แล้วสั้นยิ่งขึ้น แต่ยาหยอดตาที่กำลังพัฒนาคงไม่สามารถช่วยผู้ใหญ่ที่สายตาสั้นอยู่แล้วได้

    ห่วงนาปรังใช้น้ำ หมดอ่างขุนด่าน



    นายสมัย ธรรมสัตย์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนขุนด่านปราการชล เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล ณ วันที่ 22 ก.ย. มีปริมาณน้ำเก็บกัก 159.60 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 69.02 ของความจุอ่างเก็บน้ำ และถึงแม้ว่าจะมีน้ำเติมเข้ามาในอ่างฯ แต่ก็ปริมาณน้ำยังไม่มากนักจึงขอให้เกษตรกรผู้ใช้น้ำได้ใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อให้มีน้ำใช้อย่างพอเพียงตลอดฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้

    นายสมัย กล่าวอีกว่า คาดว่าสภาว การณ์ฝนตกในช่วงนี้น่าจะทำให้ในสิ้นเดือนต.ค.นี้ มีน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล ราว 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะเป็นปริมาณที่เต็มความจุอ่างพอดี แต่หากปีนี้มีการทำนา 2 ครั้งในพื้นที่เกิน 50,000 ไร่ ก็จะทำให้เขื่อนขุนด่านฯ ประสบปัญหาเช่นปีที่แล้วคือ ต้องปล่อยน้ำที่เก็บกักไว้จนเกือบหมดอ่าง

    ดังนั้น จึงต้องขอร้องทางเกษตรกรให้งดเว้นการทำนาปรัง และทำการปลูกพืชอื่นที่ใช้น้ำน้อยทดแทน


    ระวังหวัด 2009

    แยกประชาชื่น

    ล็อกล้อ



    สภาพอากาศในช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง 5 สิ่งที่น่าเป็นห่วง และหลายฝ่ายกังวลอยู่คือการกลับมาระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009

    เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่กระทรวงสาธารณสุขประเมินว่าจะเป็นคลื่นลูกที่สองของการระบาดไข้หวัดใหญ่

    ไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่เริ่มระบาดจากโรงเรียนกวดวิชา รอบนี้โรงเรียนกวดวิชาเลยกลายเป็นจุดเฝ้าระวังที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง

    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แผนงานความปลอดภัยในเด็ก ภายใต้ การสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และร.พ.รามาธิบดี ก็เพิ่งแถลงเรื่อง "คลื่นลูกที่สองของการระบาดไข้หวัดใหญ่ชุมชนแออัดในเมือง โรงเรียนสอนพิเศษ ศูนย์เด็กเล็ก ต้องเตรียมรับช่วงปิดเทอม"

    โดยแผนงานความปลอดภัยในเด็ก และร.พ.รามาธิบดี ต้องการให้ข้อมูล เพื่อเฝ้าระวังการกระจายตัวของไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่กลับมาระบาดหนักขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา

    โดย รศ.น.พ.กำธร มาลาธรรม หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า ขณะนี้โรงเรียนกำลังจะปิดเทอมทำให้กลุ่มเสี่ยงเปลี่ยนเป็นชุมชน โรงเรียนสอนพิเศษ และศูนย์ เด็กเล็ก

    เพราะฉะนั้นชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะในชุมชนแออัดต้องเตรียมพร้อมมาตรการการดูแล การคัดกรอง การแยกเด็กป่วยในชุมชน

    จากการศึกษาอัตราการป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ในหลายประเทศพบว่า ปัจจัยความยากจนกับการเจ็บป่วยของไข้หวัดใหญ่ 2009 นั้น มีความสอดคล้องกัน โดยการเปรียบเทียบอัตราผู้ป่วยต่อแสนประชากรในชุมชนแออัด พบชัดเจนว่าเด็กในกลุ่มคนจนในชุมชนแออัดในเมืองใหญ่มีความเสี่ยงมากกว่าชุมชนทั่วไปถึง 4 เท่า

    ทางสสส. จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มกลุ่มเด็กเยาวชนในชุมชนแออัดไว้ในกลุ่มเสี่ยงการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009

    นอกเหนือจากเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงแล้ว สถานที่ที่มีประชาชนมารวมตัวกันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ สนามกีฬา ฯลฯ ที่มีคนมารวมกันจำนวนมาก ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้เช่นกัน

    ใครที่ต้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีคนอยู่กันมากๆ ก็ต้องดูแลและป้องกันตัวเองด้วย


    ชี้พิษพลาสติกทำเด็กสับสนเพศ



    พ.ญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิด เผยว่า สถาบันได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาผลกระทบของการใช้พลาสติกในการบรรจุอาหารที่มีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็กไทย หากมีการใช้ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารและน้ำดื่มอย่างไม่ถูก ต้องและปลอดภัย ซึ่งจะทำให้สารเคมีที่เป็นอันตรายจากพลาสติกชนิดต่างๆ ปนเปื้อนลงสู่อาหารและน้ำดื่ม ทำให้เกิดการสะสมสารพิษตั้งแต่ในวัยเด็ก ส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็งในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ทารก และเด็กเล็ก

    พ.ญ.นัยนา ณีศะนันท์ กุมารแพทย์ หน่วยกุมารเวชศาสตร์สังคม สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และหัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า ศูนย์พิษวิทยาแห่งชาติ (NTP) ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า สาร BPA สารเคมีที่ใช้ในการผลิตพลาสติกชนิดแข็งใสที่เรียกว่าโพลีคาร์บอเนต จะส่งผลต่อระบบประสาท พัฒนาการของทารกในครรภ์ เด็กทารก และเด็กเล็กได้ และอาจเป็นสาเหตุก่อมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนี้การวิจัยในต่างประเทศยังพบว่าสาร BPA นั้นมีลักษณะเป็นตัวกวนฮอร์โมน ทำให้ฮอร์โมนเพศในร่างกายเกิดความสับสน และอาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศสำหรับเด็ก รวมไปถึงความสามารถในการสืบพันธุ์ในอนาคต
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    แสดงว่ามีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า พลาสติกมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางยีนที่สงผลให้เกิดความสับสนทางเพศ

    ก็บังเอิญไปงานที่วัดท่าซุง มีโรงทานที่วิหารพระศรี เป็นข้าวเหนียวหมูทอดห่อใบตอง และแบบใส่ถุงพลาสติก

    ได้ทานกันทั้งสองแบบ ก็พบว่า ห่อใบตองอร่อยรสชาดดีกว่ามากๆและให้ความรู้สึกที่ดีกว่าแบบคนละเรื่อง

    จนมีความรู้สึกว่า ทำไมเราไม่หันกลับมาหาสิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นธรรมชาติกันอีก

    แถมยังดีกลับธรรมชาติมากกว่า

    มาใช้ใบตองกันมากขึ้น

    -มีกล้วยกินมากขึ้น

    -มีผลิตภัณฑ์สารพัดจากต้นกล้วยมากขึ้น

    -มีต้นกล้วยมากขึ้น ช่วยเก็บความชื้นเก็บน้ำในชั้นดินมากขึ้น ช่วยสร้างออกซิเจนมากขึ้น ลดอุณห๓ภูมิในบริเวณรอบๆสวนกล้วยมากขึ้น

    -ขยะพลาสติกลดน้อยลงและ ใบตองกลับเป็นขยะที่กลับกลายสภาพเป็นปุ๋ยสร้างความอุดมสมบูรณ์อีก

    ลองมาRe Think อะไรควรอนุรักษ์ อะไรควรพัฒนา ทำให้สมดุลกัน
     
  19. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    แหม.....ผมนึกถึงอดีตเลยครับ

    1.ก๋วยเต๋ยวหลอด >> ใส่ระทงใบตองแห้ง
    2.ขนมครก >> ใส่กระทงใบตองสด
    3.ขนมไทย ( หม้อแกง , สังขยา ฯลฯ ) >> ห่อกระทงใบตองสด
    4.ข้าวเหนี่ยว+เนื่อเค็ม,หมูเค็ม >> ห่อใบตองสด
    5.ข้าวหมาก >> ห่อใบบัวล้วนๆ ( ไม่ใช่ห่อพลาสติดก่อน )
    6.เต้าหู้ทอด >> ใส่กระทงใบตองแห้ง

    และอื่นๆอีกมากมาย เสียดายที่เด็กรุ่นนี้ไม่น่าจะทัน
     
  20. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984

    ผมชอบข้าวเหนียวห่อใบตองครับ ข้าวเหนียวร้อนๆ ห่อใบตอง จะหอมชื่นใจน่ากินเป็นที่สุด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...