ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ภาพต้นฉบับ ก็ไม่เห็นมีอะไรประหลาดเลยนี่ครับ

    [​IMG]
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ลูกสาวเข้าฝันแม่ไปขุดศพถูกฝังดินหลังสูญหายไป 4 เดือน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลูกสาวเข้าฝันแม่ไปขุดศพถูกฝังดินใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านสามีสูญหายไป 4 เดือน

    เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 22 กันยายน พ.ต.ท.พิสิฐ อุ่นใจ พนักงานสอบสวน(สบ.3)สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าถูกฝังดินไว้ที่ใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านเลขที่ 4 หมู่ 12 ต.พรหมพิราม หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.เชาวลิตร วงศ์พิทักษ์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.จิตพงษ์ วิชญาปกรณ์ สวป. แพทย์เวรประจำโรงพยาบาลพรหมพิราม เจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพ ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านอีกประมาณ 50 คนช่วยกัน ขุดดินใต้ต้นมะม่วงกว้าง 1 เมตร ลึก ลงไป 1.5 เมตร จนพบโครงกระดูกของมนุษย์ สภาพนอนหงายกะโหลกศีรษะด้านหน้าแตกคล้ายถูกทุบด้วยของแข็ง เนื้อตัวเปื่อยยุ่ยจนเหลือแต่โครงกระดูก คาดว่าได้ชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน สันนิษฐานในเบื้องต้นศพดังกล่าวน่าจะเป็น นางราตรี ทองดี อาย 21 ปี อยู่บ้านดังกล่าว ที่ทางญาติได้แจ้งความหายไว้เมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ต่อมาได้ประสานของเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเขต 33 พิษณุโลก เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

    จากการสอบถามนางสมจิตร จิตรประจักษ์ อายุ 55 ปี แม่ของผู้เสียชีวิตทราบว่า นางราตรี บุตรสาวของตนเองได้แต่งงานกับนายเสนี ทองดี อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านพักหลังดังกล่าวจนมีบุตรด้วยกัน 1 คน ช่วงแรกตนเองมาเยี่ยมเยียนบุตรสาวที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั้งก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 เดือน ตนเอง ได้แวะมาหาบุตรสาว แต่ทราบจากนายเสนี ลูกเขยว่า บุตรสาวได้หนีออกจากบ้านไปนานสองเดือนแล้ว ในตอนแรกตนเองก็ไม่ได้เอะใจ คิดว่าบุตรสาวได้ทะเลาะกับสามีและหนีออกจากบ้านไปไม่นานก็กลับมา หลังจากนั้นนายเสนี ได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.พรหมพิราม จนเวลาผ่านไปนานถึง 4 เดือน

    "ลูกสาวมาเข้าฝันว่าถูก ฆ่าตายและนำศพมาฝั่งไว้ที่ใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านพักของนายเสนี ดิฉันกับญาติจึงได้มาขุดบริเวณดังกล่าวแต่ก็ไม่พบ และกลับไปที่บ้านที่พิจิตรและปรึกษากับญาติพี่น้องช่วยกันตามหาบุตราสาว จนเมื่อคืนที่ผ่านมาบุตรสาวได้มาเข้าฝันอีกว่าตนเองถูกฝังอยู่ที่เดิมที่แม่เคยไปขุดครั้งก่อนแต่ให้ขุดลึกลงไปกว่าเดิม ในเช้าวันนี้จึงย้อนกลับมาขุดลึกลงไปจนพบโครงกระดูกมนุษย์ดังกล่าว คาดว่าจะเป็นศพของนางราตรี บุตรสาวที่หายไปเมื่อ 4 เดือนตอน ต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกเพื่อยืนยันว่าเป็นใคร" นางสมจิตร

    ทางด้านนายสมชาย ทองดี อายุ 52 ปี เจ้าของบ้าน กล่าว่า ตนเองไม่ทราบว่า นางราตรี ซึ่งมีศักดิ์ เป็นลูกสะใภ้หายไปไหน สอบถามนายเสนี บุตรชายของตนเองก่อนที่จะติดคุกทราบเพียงว่าทะเลาะกันและภรรยาได้หนีไปทิ้งลูกไว้ให้ตนเองตามลำพัง เรื่องการขุดพบโครงกระดูกดังกล่าวตนเองไม่ทราบมาก่อนเลยว่ามีใครนำมาฝังดินเอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติมหาคนร้ายรายนี้และผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นๆมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    พบ ยูนิคอร์นเอเชียสาวล่า ในลาวเป็นครั้งแรก สัตว์หายากของโลก
    22ก.ย.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่ประเทศลาว มีชาวบ้านพบสัตว์ยูนิคอร์นเอเชีย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “สาวล่า” ในป่าแห่งหนึ่ง มีลักษณะเขายาว 2 ข้าง ใบหน้ามีลายสีขาว ซึ่งการพบครั้งนี้ถือว่าเป็นการพบตัวสาวล่าในรอบ 10 ปี ก่อนที่ชาวบ้านจะนำมันกลับมายังหมู่บ้านในแขวงบอริคันไชย และเจ้าหน้าที่ด้านอุทยานของลาวได้ส่งทีมไปตรวจสอบ แต่น่าเสียดายที่มันตายแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาช่วยเหลือ
    สาวล่า ถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่หายากมาก ถูกพบครั้งแรกในเวียดนาม และเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ พบเฉพาะป่าทึบชายแดนลาวกับเวียดนามเท่านั้น ในประเทศลาว มีการพบเห็นสัตว์ประเภทนี้เมื่อปี 1992 โดยเชื่อกันว่า มีสาวล่าอยู่ในบริเวณเทือกเขาในลาวและเวียดนามเป็นจำนวนไม่กี่ร้อยตัว โดยที่ผ่านมา ยังไม่มีตัวใดเคยถูกจับได้
    สาวล่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pseudoryx nghetinhensis มีรูปร่างคล้ายแพะ (Capra aegagrus hircus) ผสมกับเลียงผา (Naemorhedus sumatraensis) แต่อยู่ในวงศ์เดียวกับวัว (Bovidae) มีลักษณะเด่นคือ มีลายสีขาวบริเวณใบหน้า เขาโค้งยาวและแหลมคม อาจมีเขายาวมากกว่า 50 เซนติเมตรได้ ต่อมใต้ตามีขนาดใหญ่ใช้หลั่งสารเคมีที่สื่อสารกับตัวเมียมีความยาวหาง 30 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นดินถึงหัวไหล่ 84 เซนติเมตร น้ำหนัก 80-100 กิโลกรัมออกหากินตามลำพังในช่วงเช้าตรู่ถึงตอนบ่าย แต่บางครั้งอาจพบเห็นหากินในเวลากลางคืน มักอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้น มีฤดูผสมพันธุ์ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ตั้งท้องนานประมาณ 8 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว
    อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ยังไม่มีข้อมูลมากเกี่ยวกับสัตว์ประเภทนี้ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการอนุรักษ์ และทางการของประเทศได้เร่งประกาศห้ามล่าสัตว์ สาวล่า โดยเด็ดขาด
    ยูนิคอร์น เชื่อกันว่าเป็นสัตว์ที่มีความลึกลับ ถูกยกย่องให้เป็นสัตว์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มักปรากฎในเทพนิยายโบราณ เพลง กลอน ต่างๆ
    [​IMG]

    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

    [​IMG]
    หญิงพิการไร้ขา ใจบุญ อุปการะเด็กกำพร้า นานกว่า 37 ปี
    ซู ยือฮัว (Xu Yuehua) หญิงชาวจีนวัย 55ปี อุปการะเลี้ยงดู เด็กกำพร้าจากสถานสงเคราะห์เด็กแห่งหนึ่งในเมืองเชียงทาน ประเทศจีน
    ซู เป็นหญิงพิการไม่มีขา อวัยวะท่อนล่างขาดหายไป เนื่องจากเมื่อตอนที่เธออายุ 13 ปี เกิดอุบัติเหตุทางรถไฟทำให้ต้องเสียอวัยวะท่อนล่างทั้งหมด และนั่นเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถมีบุตรได้
    แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเป็นต้นมา ซู ก็รับอุปการะเลี้ยงดูเด็กกำพร้าที่สถานสงเคราะห์มาโดยตลอด ระยะเวลา 37 ปี ซึ่งปัจจุบัน มีเด็กที่อยู่สถานสงเคราะห์กว่า 130 คน โดยมีสามีคอยรับส่ง
    [​IMG]
    ถึงแม้ว่าซู จะไม่สามารถมีลูกได้ แต่เธอยังมีจิตใจเมตตา มอบความรักให้เด็กกำพร้า ทั้งๆที่เด็กเหล่านี้ไม่ใช่สายเลือดของซู และเธอก็จะรับอุปการะเด็กเหล่านี้ต่อไป
    โดย ทีมข่าวMthai
    [​IMG]
    ซู นำขนมมาให้เด็กกำพร้า และเด็กคนอื่นๆด้วย
    [​IMG]
    ซู เตรียมทำอาหาร ในบ้านพักของเธอ
    [​IMG]
    ซู กล่อมเด็กน้อย ขณะนอนหลับ
    [​IMG]
    อุปกรณ์ที่ช่วยสำหรับเดิน ขึ้น-ลง บันได
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    แม่น้ำโขงคือยูเฟรติส ในคำทำนายจริงหรือไม่?

    [​IMG]

    [​IMG]

    คำทำนายเรื่องภูเขาทองคำ จากศาสนาอิสลาม

    ท่านรซูลของอัลลอฮ ได้กล่าวไว้ว่า **ชั่วโมงสุดท้ายจะยังไม่มาถึง จนกว่า ยูเฟรติส จะเปิดเผยให้เห็น ภูเขาทองคำ ..อันจะทำให้ผู้คนต่อสู้กัน เก้าสิบเก้าในร้อยคนของพวกเขาจะถูกสังหาร แต่ทุกคนในหมู่พวกเขาจะกล่าวว่า.. บางทีฉันอาจเป็นคนหนี่งที่หนีรอดไปได้ ** รายงานโดย มุสลิม

    คัดลอกมาจาก http://www.muslimthai.com/board/sho...f21780e19e792d7

    ขุมทรัพย์ทั้ง 4 ในตำนานพระศรีอาริย์(พระเจ้าจักรพรรดิ์)

    เมื่อปรากฏภัย ๑๐ ประการ

    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    หนาแน่นขึ้นก็จะปรากฏผู้เฒ่าผมขาวหนวดเครายาว ขี่ม้าขาวเหาะลอยมายังท่ามกลางเมืองเชียงใหม่ นั่นคือองสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยมาปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกแล้ว อย่าสงสัยเลย

    หลังจากนั้นไม่นานขุมทรัพย์ทั้ง 4 ของพระศรีอาริย์ก็จะปรากฎเกิดขึ้นในสุวรรณภูมิ ระหว่างเชียงราย ฝาง เชียงใหม่ ลำพูน เพราะขุมทรัพย์อันมหาศาล คือแก้วแหวนเงินทองจะระเบิดออกในภาคเหนือของประเทศไทย ดอยเงินดอยคำและเพชรนิลจินดาจะแตกออกทั้งลูกดอย และจะมีหลายลูกด้วยกัน กองทัพจะเข้าแย่งชิงสมบัติเหล่านี้ มืดมัวไปทั้งสี่ทิศ ทหารของชาติต่างๆ จะล้มตายไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงเหลืออยู่เพียงส่วนเดียวเลือดจะไหลนองเป็นห้วยน้อย จนถึงกับพวกหนูต้องว่ายข้ามต่างก็จะยิงกันจนเหลวแหลก เพราะโลภตัณหา จะรบกันถึง 7 ชาติ แต่ขุนศึกสำคัญนั้นมี 3 คน คือ

    1.พญาลายตีนเป็นกงจักร
    2.พญาแขนสั้นราว (คืนแขนสั้นข้างยาวข้าง)
    3.พญาลิ้นกาฬ (ลิ้นดำ)

    ในตำนานพระศรีอาริย์จุติ ซึ่งพระอิศวรผู้เป็นเจ้าไปนิมนต์มาเกิดนั้นกล่าวไว้เป็นปัญหาว่า"ฤทธิ์เดชของพระยาแขนสั้นยาวนั้นมากมายเหลือหลาย เหล็กกลม 7 กำยาว 4 ศอก นั่งหย่องเยาะ เอามือซ้ายขว้างไปไกลได้ถึง 7 - 8 ไร่นา" ผู้เขียนขอวิจารณ์ว่า "เหล็กกว้าง 7 กำยาว 4 ศอกนั้นคงไม่ใช่เหล็กธรรมดา คงเป็นลูกระเบิดขนาดใหญ่นั่นเอง" แก้วแหวนเงินทองนั้นใครๆ ก็อยากได้ด้วยกันทุกคน ถ้ามันมีมากขนาดเท่าภูเขาเลากา และมันเกิดประเทศใด ประเทศนั้นก็ต้องตกเป็นจุดยุทธศาสตร์ขนาดล้างโลก และนั่นก็เป็นวันตัดสินโลก(Doomsday) ได้มาถึงแล้วโดยไม่มีปัญหา

    (แหล่งที่มา หนังสือพระศรีอาริย์เจ้าโลก โดยรหัสยญาณ สำนักพิมพ์ลานอโศกเพรสกรุ๊ป โรงพิมพ์สหธรรมิก)

    อ้างอิงข้อความของ คุณหนุมาน ผู้นำสาร

    ภาคเหนือ...แม่น้ำโขง จะสร้างอันตรายและภัยพิบัติ ถ้ามีฝนตกหนักทางตะวันตกของจีน แม่น้ำที่จะรองรับน้ำได้ ๑ ในนั้นคือ แม่น้ำโขง น้ำปริมาณมากจะไหลลงมาตามลำน้ำโขง

    บริเวณเหนือสุดที่ติดกับแม่โขงบริเวณเชียงแสน เชียงของ จะมีน้ำทะลักเข้าแผ่นดินไทย เกิดน้ำวนขนาดใหญ่...ดิน หิน ภูเขาจะหลุดทะลายไปตามกระแสน้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกขุดรากถอนโคนไปตามกระแสน้ำ น้ำจะไหลผ่านจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่เหนือ จนถึงอ่าวไทย จังหวัดที่น่าจะเสี่ยงและควรหาทางเตรียมหนีขึ้นเขาสูง เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา แพร่ ลำปาง ตาก กำแพงเพชร และจังหวัดที่อยู่ใต้จนลงมาถึง กรุงเทพฯ

    ขอให้ประชาชนหมั่นติดตามฟังข่าว....หากฝนตกหนักมากทางตะวันตกของจีน ระดับแม่น้ำโขงสูงขึ้นเร็ว ต้องรีบเตรียมอพยพ หัดอ่านแผนที่หาที่หนีภัยใกล้ตัว...ไว้ล่วงหน้า เพราะเหตุการณ์นี้....จะรุนแรงมหันต์ จำเป็นต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อน

    พระไตรปิฎก...ได้ส่งมอบ "สัจจะ" เป็นหนทางปฏิบัติของมนุษย์แล้ว อยู่ที่จะ "เชื่อ" หรือ "ไม่เชื่อ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    ลักษณะภูมิประเทศของทวีปเอเซีย

    ทวีปเอเชียมีลักษณะเด่นคือ มีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงอยู่เกือบใจกลางทวีป ภูเขาดังกล่าวทำหน้าที่เหมือนหลังคาโลกเพราะเป็นจุดรวมของเทือกเขาสำคัญ ๆ ในทวีปเอเชีย จุดรวมสำคัญ ได้แก่ ปามีร์นอต, ยูนนานนอต, และอามีเนียนนอต เทือกเขาสูง ๆ ของทวีปเอเชียวางแนวแยกย้ายไปทุกทิศทุกทางจากหลังคาโลกเช่น เทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาคุนลุ้น เทือกเขาเทียนชาน เทือกเขาอัลตินตัก เทือกเขาฮินดูกูซ เทือกเขาสุไลมาน ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ มีระดับสูง 8,850 เมตร (29,028 ฟุต) เป็นยอดเขาสูงที่สุดในโลกตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย ระหว่างเทือกเขาเหล่านี้มีพื้นที่ค่อนข้างราบแทรกสลับอยู่ ทำให้เกิดเป็นแอ่งแผ่นดินที่อยู่ในที่สูง เช่น ที่ราบสูงทิเบต ที่ราบสูงตากลามากัน ที่ราบสูงมองโกเลีย ที่ราบสูงยูนนาน

    ลักษณะภูมิประเทศดังกล่าวข้างต้นทำให้บริเวณใจกลางทวีปเอเชียกลายเป็นแหล่งต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญ ๆ ที่มีรูปแบบการไหลออกไปทุกทิศโดยรอบหลังคาโลก เช่น ไหลไปทางเหนือมีแม่น้ำ อ็อบ เยนิเซ ลีนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือมีแม่น้ำอามูร์ ทางตะวันออกมีแม่น้ำฮวงโห (หวงเหอ) แยงซีเกียง(ฉางเจียง) ซีเกียง (ซีเจียง) ทางตะวันออกเฉียงใต้มีแม่น้ำแดง โขง เจ้าพระยา สาละวิน อิระวดี ทางใต้มีแม่น้ำพรหมบุตร คงคา สินธุ ทางตะวันตกมีแม่น้ำอามู ดาร์ยา จากที่สูงอามีเนียนนอต มีแม่น้ำไทกรีส ยูเฟรตีส บทบาทของลุ่มน้ำเหล่านี้ คือ พัดพาเอาตะกอนมาทับถมสร้างที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาล กลายเป็นแหล่งเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัยสำคัญ ๆ ของชาวเอเชีย โดยเฉพาะที่ราบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ จึงกลายเป็นแหล่งที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด

    ที่มา http://www.inthecountry.ob.tc/6.html

    หมายเหตุ

    จากคำทำนายของศาสนาอิสลามที่กล่าวว่า แม่น้ำยูเฟรติส จะเปิดเผยให้เห็น ภูเขาทองคำ อันจะเป็นเหตุให้ผู้คนทำสงครามยื้อแย่งกันนั้น ถ้าเรามาพิจารณาดูคำทำนายจากตำนานพระศรีอาริย์, คำทำนายจากคัมภีร์อัลกุรอาน, และดูจากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ต่างๆ แล้วก็พอจะเดาเอาได้ว่า ภูเขาทองคำนั้น ก็คือภูเขาในภาคเหนือของประเทศไทยเรานี่เอง ที่จะถูกแม่น้ำโขงกัดเซาะดิน หิน พังทลายลงไปตามกระแสน้ำ หรืออาจจะเกิดจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ตามแนวรอยเลื่อนจนแผ่นดินแยกออก ทำให้เห็นทองคำจำนวนมหาศาลเป็นภูเขาเลากา ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดสงครามแย่งชิงกันถึง 7 ประเทศนั่นเอง.........
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2010
  4. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    คือที่สวนสันติธรรมหรือ
     
  5. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    จุดที่ทำเครื่องหมายไว้ และวันที่ 9 พ.ค.เป็นวันอุโบสถหรือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2010
  6. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นครพนม - เกิดเหตุการณ์ประหลาดในรอบ 50 ปี ทัพปลาดุกหลายหมื่นตัวโผล่ริมฝั่งโขงเทศบาลเมืองนครพนมชาวบ้านแห่จับขายและนำไปบริโภค

    วันนี้ (23 ก.ย.) ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นที่บริเวณท่าน้ำริมฝั่งแม่น้ำโขงหลังสวนเทิดพระเกียรติเทศบาลเมืองนครพนม ชาวประมงและชาวบ้านในเขตเทศบาลจำนวนมากมารุมจับปลาดุกจนแน่น ขนัดท่าน้ำหลังเกิดเหตุการณ์ประหลาดมีทัพปลาดุกจำนวนมากหลายหมื่นตัวโผล่เล่นน้ำบริเวณท่าน้ำ ซึ่งปลาดุกที่ชาวบ้านจับได้ๆบรรทุกใส่รถสามล้อและรถปิ๊กอัฟนำกลับบ้านหลายเที่ยวเพื่อนำไปจำหน่ายและบริโภคที่บ้านถือว่าเป็นลาภลอยน้ำมา

    นางพิศสมัย ด้วงสงค์ โดยชาวประมงและชาวบ้านที่มาจับปลากล่าวถึงเหตุการณ์ประหลาดทัพปลาโผล่ครั้งนี้ว่าได้มีชาวบ้านมาขุดหาใส้เดือนริมตลิ่งโขงไปเป็นเหยื่อใส่เบ็ดปลาในทุ่งนาและพบปลาดุกจำนวนมากโผล่เล่นน้ำจึงกลับบ้านนำแห่มาขว้างจับปลาดุกแต่จับเท่าไหร่ก็จับไม่หมด นำบรรทุกรถสามล้อกลับบ้านไปขายหลายรอบที่บ้านน้อยใต้เทศบาลเมือง

    จนกระทั่งชาวบ้านและชาวประมงทราบข่าวต่างแตกตื่นนำอุปกรณ์มาแย่งกันจับปลาได้จำนวนมากหลายหมื่นตัว โดยชาวประมงในลำน้ำโขงกล่าวว่า เหตุการณ์ประหลาดนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 50 ปี ที่จะเห็นพบเห็นทัพปลาดุกมารวมตัวเล่นน้ำจำนวนมากขนาดนี้




    *0* จะมีภัยมาหรือป่าวนะ ถ้ามีคงร้ายแรงพอควร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. โอ๊ตศ์

    โอ๊ตศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ^
    ^
    เค้ามาเตือนภัย มนุษย์ก็ว่า ลาภลอย

    เฮ้อ..
     
  8. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    เข้าเว๊บไม่ได้อยู่ตั้ง 3 วันแน่ะค่ะ เมื่อเช้าก็ไม่ได้ พึ่งได้ตอนบ่ายๆ มีใครเป็นเหมือนดิฉันบ้างไม๊คะ
     
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909

    เข้าได้ปกติครับ น่าจะเป็นที่อินเตอร์เน็ตแล้วครับ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    New Faith
    "ศรัทธาใหม่ของชาวโลก"

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    นอสตราดามุสกับ "วิชชาธรรมกาย"

    <!-- Main -->"นอสตราดามุสได้ย้ำไว้อย่างชัดเจนในบทโคลงทำนายร่วม 60 บทว่า จะมี ศรัทธาใหม่ หรือ New Faith ที่คนทั่วโลกหันมาทุ่มเทความศรัทธาให้ ท่านระบุไว้หลายครั้งว่า ความเชื่อใหม่จะปรากฏขึ้นในโลกมนุษย์ก่อนสิ้นสุดศตวรรษที่ 20 หรือก่อนการสิ้นสุดของ ค.ศ. 2000"

    ในโคลงบทที่ ซ. 10 ค. 75 และ ซ. 2 ค. 29 นอสตราดามุสได้ทิ้งเงื่อนงำของ "ศรัทธาใหม่" โดยพรรณาไว้ดังนี้

    "He will appear in Asia at home in Europe…
    One who is issued from great Hermes…"

    "ท่านจะปรากฏกายในเอเชีย ตั้งถิ่นฐานในยุโรป…
    ผู้ซึ่งเป็นผลมาจากองค์เทพผู้ยิ่งใหญ่…" (ซ. 10 ค. 75)

    "The man from the East will come out of his seat,
    Passing across the Apentines to see France,
    He will fly through the sky, the rains and snows,
    And strike everyone with the rod."

    "บุรุษจากตะวันออกจะลุกออกจากที่ประทับ
    เดินทางผ่าน(เทือกเขา) อาเพนไนส์เข้าสู่ฝรั่งเศส
    เขาจะบินมาบนท้องฟ้า ฝ่าสายฝน และหิมะ
    และตีกระทบด้วยไม้วิเศษ"

    โคลงทั้งสองบทข้างต้น ชี้ชัดว่าผู้นำแห่งศรัทธาใหม่ จะต้องมาจากเอเชียแน่นอน แต่อาจจะต้องเดินทางไกลเพื่อเผยแผ่สัจจธรรมจนมีถิ่นฐานในยุโรป และเป็นอัครสาวกขององค์เทพผู้ยิ่งใหญ่ คำว่า "Hermes" เดิมเป็นชื่อเทพเจ้าของชาวกรีกโบราณ จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้นำของ "ศรัทธาใหม่" จะเป็น สาวกของพระพุทธเจ้า

    โคลงทั้งสองบทข้างต้น ชี้ชัดว่าผู้นำแห่งศรัทธาใหม่ จะต้องมาจากเอเชียแน่นอน แต่อาจจะต้องเดินทางไกลเพื่อเผยแผ่สัจจธรรมจนมีถิ่นฐานในยุโรป และเป็นอัครสาวกขององค์เทพผู้ยิ่งใหญ่ คำว่า "Hermes" เดิมเป็นชื่อเทพเจ้าของชาวกรีกโบราณ จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้นำของ "ศรัทธาใหม่" จะเป็น สาวกของพระพุทธเจ้า

    ในโคลงบทที่ ซ. 3 ค. 31 นอสตราดามุสบันทึกคำทำนายไว้ดังนี้

    "The moon in the middle of the night…
    The young sage alone with his mind has seen it.
    His disciples invite him to become immortal…
    His body in the fire…"

    "ดวงจันทร์ลอยเด่นยามราตรี…
    หนุ่มคงแก่เรียนผู้สันโดษมองเห็นภาพในดวงจิต
    เหล่าสาวกจะอัญเชิญท่านไปสู่ความเป็นอมตะ
    ร่างของท่านอยู่ในเพลิง"

    นอสตราดามุสระบุถึงพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ มี "หนุ่มคงแก่เรียน" "เห็นภาพในดวงจิต" "ไปสู่ความเป็นอมตะ" และ "ร่างของท่านอยู่ในเพลิง" ผู้นำของศรัทธาใหม่น่าจะเป็นพระสงฆ์ "เห็นภาพในดวงจิต" น่าจะหมายถึง การเห็นภาพในสมาธิ เพราะมีโคลงบทอื่นๆ ที่ระบุว่า "เห็นสัจจธรรมด้วยดวงตาที่ปิด" หรือ "เปล่งวาจาด้วยปากที่ปิดแน่น" หรือ "การมองเห็นภาพลักษณ์ในความสงบของผืนทะเลสาบ" เป็นต้น

    "ศรัทธาใหม่" ของสังคมโลก ท่านได้พาดพิงไปถึง "พระจันทร์" หรือ "ดวงจันทร์" หรือแม้แต่ "แสงจันทร์" คลายครั้งหลายคราระบุแม้กระทั่งว่า ผู้นำของ "ศรัทธาใหม่" ของโลกนี้ จะมีชื่อเกี่ยวกับ "พระจันทร์" หรือ The Moon เห็นได้จากโคลงทำนาย ซ. 2 ค. 28 ข้างล่างนี้

    "Second to the last of the prophet’s name,
    Will take Diana’s day(The moon’s day) as his day of silent rest…
    He will travel far and wide in his drive to infuriate,
    delivering a great people from subjection."

    "พยางค์ที่สองของนามศาสดาพยากรณ์
    จะใช้วันแห่งพระจันทร์เป็นวันสำหรับพักในความเงียบ
    เขาจะเดินทางกว้างและไกล ส่งแรงขับทำให้ผู้คนสะดุดใจ
    และนำพามหาชนให้หลุดพ้นจากความเป็นข้า(ของบ่วงกรรม?)" ซ. 2 ค. 28

    ประโยคที่บอกว่า "พักในความเงียบ" และ "วันแห่งพระจันทร์" ถ้ามาเชื่อมกับโคลงที่พรรณาว่า "หนุ่มคงแก่เรียนผู้สันโดษเห็นภาพในดวงจิต" จะเป็นไปได้มากทีเดียวว่า นอสตราดามุสมองเห็นภาพการนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ในวันพระจันทร์เต็มดวง เพราะมีอีกโคลงที่พรรณาว่า

    "They see the truth with eye closed,
    Speak the fact with closed mount…
    Then at the time of need the awaited one will come late…"

    "พวกเขาเห็นสัจจธรรมด้วยดวงตาที่ปิด…
    เปล่งสัจจวาจาด้วยปากที่ปิดแน่น…
    บุคคลอันเป็นที่พึ่งยามต้องการจะมาถึงช้า … " (ซ. 5 ค. 96)

    โคลงทำนายบทนี้ยิ่งชี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ศรัทธาใหม่ของโลกมนุษญ์จะสัมพันธ์กับการนั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐานอย่างแน่นอน การมองเห็นสัจจธรรมด้วยดวงตาที่ปิด และเปล่งสัจจวาจาด้วยวาจาที่ปิดแน่น จะเป็นสิ่งอื่นไปไม่ได้ นอกจากการนั่งสมาธิจนถึง ธรรมะ ภายใน มองเห็นดวงธรรม เห็นกายในกาย เห็น ธรรมกาย

    ยังมีโคลงทำนายที่น่าจะตีความได้ว่าเป็นการบ่งบอกถึงการนั่งวิปัสสนากรรมฐานกับความหมายที่เกี่ยวกับ "พระจันทร์" อีกโคลงคือ

    "the great amount of silver of Diana (Moon) and Mercury (Hermes)
    The images will be seen in the lake (the mind of meditation)
    the sculptor looking for new clay,
    He and his followers will be soaked in Gold."

    "รัศมีสีเงินของแสงจันทร์กับบารมีแห่งองค์เทพแผ่กระจายกว้าง
    ภาพลักษณ์ที่ปรากฏในความสงบของผืนทะเลสาบ
    ประติมากรเสาะหาดินปั้นใหม่
    ร่างของท่านกับผู้ติดตาม (สาวก) จะถูกฉาบ (หล่อ) ด้วยทองคำ" (ซ. 9 ค. 12)

    คำว่า Diana ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงพระจันทร์ การออกเสียงแบบฝรั่งเศสยังตรงกับคำว่า Dhyana หรือ ฌาณ อันหมายถึงการนั่งวิปัสสนา ประโยคที่ว่า "ภาพลักษณ์ที่ปรากฏในความสงบของผืนทะเลสาบ" หมายถึงการเข้าฌาณจากการนั่งวิปัสสนาอย่างชัดเจน

    ประโยคใน ซ. 9 ค. 12 ที่บอกว่า "ประติมากรเสาะหาดินปั้นใหม่" น่าจะตีความได้ว่า สาวกของผู้นำศรัทธาใหม่นี้ จะต้องพยายามค้นหาสูตรหรือ มรรควิธีที่จะนำพาผู้ติดตามไปสู่แนวทางแห่งแสงสว่างแห่งสัจธรรม เป็นทางออกใหม่ หรือ ทางเลือกใหม่ หรือที่พึ่งใหม่ทางจิตวิญญาณที่หิวกระหายสัจธรรมของมนุษย์

    สำหรับในประเทศไทย ที่วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี จะมีมหาชนหลั่งไหลมาจากทุกทิศของประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศ มาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน โดยการปฏิบัติของที่นี่ใช้ "วิชชาธรรมกาย" ของพระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) หรือที่รู้จักกันในนาม "หลวงพ่อวัดปากน้ำฯ" เป็นฐานของคำสอน

    ในขณะที่ศึกษาต้นกำเนิดของวัดพระธรรมกาย ก็ได้พบปรากฏการณ์ ที่น่าตื่นเต้นแห่งศตวรรษโดยบังเอิญ เพราะหลวงพ่อวัดปากน้ำ มีฉายาทางพระว่า "สด จนฺทสโร" ชื่อในพยางค์ที่สองของท่าน มีความหมายตรงกับคำว่า "พระจันทร์" พ้องกับคำทำนายของนอสตราดามุสอย่างชัดเจน จากจุดเริ่มต้นนี้เอง ความลี้ลับของโคลงทำนายของนอสตราดามุส จึงได้ถูกไขออกเป็นข้อๆ

    จากการศึกษาชีวประวัติของหลวงพ่อวัดปากน้ำ "สด จันทสโร" พบว่า ตลอดชีวิตท่าน เป็นพระที่เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัยและธรรมปฏิบัติ จนค้นพบมรรควิธีเจริญทางธรรมะบรรลุถึง "วิชชาธรรมกาย" ที่สูญหายไปจากโลกนี้แล้วกว่าสองพันปี เผยแผ่พระธรรมคำสอนจนกระทั่งมรณะภาพ ในปี พ.ศ. 2502 คงเหลือไว้แต่วิชชาธรรมกายไว้เป็นมรดกของโลก

    เมื่อเห็นวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปี พ. ศ. 2460 เป็นวันที่หลวงปู่สด จนฺทสโร บรรลุถึง "วิชชาธรรมกาย" ทำให้โคลงทำนายของนอสตราดามุสทุกบทที่พรรณนาถึง "ศรัทธาใหม่" ของโลกเด่นชัดขึ้นมาฉับพลัน เข้าใจถึงเหตุผลทำไมนอสตราดามุสถึงได้พร่ำเอ่ยถึง "พระจันทร์" กับ "ดวงจันทร์" มากมายผิดปกติ

    พระมงคลเทพมุนี ได้เคยเทศนาส่วนที่เกี่ยวกับ "วิชชาธรรมกาย" ไว้ว่า

    <CENTER>
    "ธรรมจะต้องชนะอธรรมเสมอ เราไม่เดือดร้อนใจ
    เพราะธรรมกายของพระพุทธศาสนาเป็นของแท้
    ไม่ใช่ของเก๊ หรือของเทียม
    ธรรมกายจะปรากฏเป็นจริงแก่ผู้เข้าถึง"

    โดยการตั้งข้อสันนิฐานจากตัวท่านเป็นแกนนำไปสู่ข้อพิสูจน์อื่นๆ แยกเป็นประเด็นๆ เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนดังนี้ ​

    - การค้นพบวิชชาธรรมกาย คือ การค้นพบศรัทธาใหม่ของโลกจากเอเชียหรือ The New Faith ​

    - พระมงคลเทพมุนี คือสาวกแห่งศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ในเอเชีย (Issued from the great Hermes) ​

    - หนุ่มคงแก่เรียนผู้สันโดษเห็นภาพในดวงจิต (The young sage alone with his mind has seen it.) ด้วยวัยเพียง 32 ปีของภิกษุสด จนฺทสโร เป็นผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ​

    - กายที่ห่มด้วยจีวรสีเพลิง (His body in the fire) ร่างของท่านอยู่ในเพลิง ​

    - มือที่ถือไม้ชี้ (He strikes everyone with the rod) ตีทุกคนด้วยแขนงไม้ ​

    - วันที่เข้าถึง "ธรรมกาย" คือวันขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง ตรงกับ "พระจันทร์ลอยเด่นยามราตรี" ท่านนั่งวิปัสสนากรรมฐาน "จนสามารถเห็นภาพในดวงจิต" "ภาพลักษณ์ปรากฏในความสงบของผืนทะเลสาบ" เห็นธรรมกายจาก "การเห็นสัจธรรมด้วยดวงตาที่ปิด" และเปล่งสัจวาจาด้วยปากที่ปิดแน่น" และ "ประติมากรเสาะหาดินปั้นใหม่" คือวิธีการพบสัจธรรมวิธีใหม่ ​

    - พยางค์ที่สองของนามศาสดาพยากรณ์ที่มีความหมายตรงกับพระจันทร์ ตรงกับชื่อพยางค์ที่สองของหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี คือ สด จนฺทสโร "เหล่าสาวกจะอัญเชิญท่านไปสู่ความเป็นอมตะ ร่างของท่านอยู่ในเพลิง" (ความเห็นของผมเอง เข้าใจว่า ร่างของหลวงพ่อวัดปากน้ำ เหล่าสานุศิษย์ ที่ยังไม่ได้เผา (ยังเก็บรักษาไว้ที่วัดปากน้ำ) จึงอาจตีความได้ว่า ร่างท่านยังเป็นอมตะอยู่ในจีวรสีเพลิง ​

    "ร่างของท่านกับผู้ติดตาม(สาวก) จะถูกฉาบหรือหล่อด้วยทองคำ" วัดพระธรรมกายได้มีการหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำเป็นทองคำ ตามด้วยหล่อรูปเหมือนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง (ลูกศิษย์ หรือ ผู้ติดตาม) เป็นทองคำเช่นเดียวกัน ​

    จากหนังสือ "นอสตราดามุส" โดยศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน ​

    </CENTER><CENTER></CENTER>
    ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=penicillin&month=09-2006&date=13&group=1&gblog=17
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1158944678.jpg
      1158944678.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.7 KB
      เปิดดู:
      1,133
    • 1158944774.jpg
      1158944774.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.2 KB
      เปิดดู:
      1,133
    • 1159112755.jpg
      1159112755.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.3 KB
      เปิดดู:
      1,048
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2010
  11. กัลกยาวตาร

    กัลกยาวตาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +64
    ทุกเรื่องราวต่างล้วนเกิดแต่เหตุ พระผู้สร้างฯ และควบคุมกฎแห่งกรรมประสงค์ให้สรรพชีวิตทั้งหลายอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยความดีงาม แต่ด้วยผู้คนส่วนใหญ่หลงเดินทางผิด ไม่รู้จักหน้าที่ของตนอันควร ท่านจึงมาช่วยแก้ไขและนำพาโลกผ่านพ้นมหาวิบัติภัย ส่วนกลุ่มคนที่ไม่รู้จักหน้าที่ของตนอันควรถือว่าต้องเป็นไปตามกฎ "กฎแห่งกรรมด้วยความดีงามเพื่อการมีอยู่และดำเนินต่อไปของสากลจักรวาล"

    บัดนี้ โลกมนุษย์ได้ก้าวเข้าสู่ยุคพระศรีอารยะเมตไตรย์ (ช่วงเริ่มต้น) ภายใต้พระศรีอารยะเมตไตรย์มหาพุทธเจ้า พระประมุขผู้นำการปกครองสูงสุดแห่งสากลจักรวาล ข้อมูลเพื่อการศึกษาให้เข้าใจตามที่แนบมาให้ด้วยนี้เพื่อการประพฤติปฏิบัติต่อไปอย่างถูกต้อง เหมาะสมและดีงาม


    "ขอจงมีแต่ความสุขความเจริญด้วยประพฤติปฏิบัติแต่ความดีงาม"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฝนถล่มโคราช-ท่วมอีกระลอก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.ย. เกิดฝนตกหนักนานกว่า 2 ชั่วโมง ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา

    ส่งผลให้น้ำท่วมขังหลายจุด เนื่องจากมีปริมาณน้ำสะสมอยู่แล้ว อีกทั้งท่อระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน โดยเฉพาะที่ถนนราชดำเนิน เส้นทางหน้าบ้านพัก ผวจ.นครราชสีมา จนถึงทางเข้ากองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี มีระดับน้ำสูง 50 ซ.ม. เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร และพื้นที่ต่ำทางแยกหัวทะเล หรือสามแยกจักราช ถนนสายนครราชสีมา-โชคชัย ตัดกับถนนเพชรมาตุคลา ระดับน้ำสูงกว่า 80 ซ.ม. เป็นระยะทางยาวกว่า 800 เมตร ถนนมิตรภาพ ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และทางแยกสามแยกปักธงชัย ถนนมิตรภาพ ยานพาหนะขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ และมีรถเสียข้างทางหลายสิบคัน รวมทั้งที่บุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ปริมาณน้ำสูงจนล้นประตูระบายน้ำ มีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนในเขต ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเย็นวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสุเทพ อุบาลี ผอ.แขวงการทาง จ.แม่ฮ่องสอน

    ได้รับรายงานจากหมวดการทางปางหมู ว่ามีต้นไม้ใหญ่หักโค่นลงปิดทับถนนทางหลวง 1095 แม่ฮ่องสอน-ปาย หลักก.ม.ที่ 194-195 จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบเป็นต้นไม้แดงขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงนำต้นไม้ออก และเปิดเส้นทางได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2010
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "พระเจ้าจักรพรรดิ์" ในจิตทัศน์ของนอสตราดามุส

    [​IMG]

    " เสียงนุ่มนวลแห่งมิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ยินจากแผ่นดินทิพย์ แสงเพลิงมนุษย์ ฉายรองรับเสียงประเสริฐนั้น จะเป็นเหตุให้โลกต้องเปื้อนเลือด สมณเพศทั้งหลายที่ไม่ยึดถือศีล (พรหมจรรย์) และนำไปสู่การทำลายโบสถ์วิหารที่ไร้ความบริสุทธิ์ "
    (ซ.1 ค.96 )

    นับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกน่าอัศจรรย์อย่างมากเลยทีเดียว ที่นอสตราดามุสได้เขียนโคลงทำนายบทนี้ขึ้นเมื่อ 450 ปีก่อน ภายใต้สังฆจักรโรมันคาทอลิก สมมุติว่าท่านได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 2,000 ปีกว่ามาแล้วในสมัยนั้น ท่านคงจะไม่กล่าวถึงพระศรีอาริยเมตไตรยอย่างแน่นอน ​

    ถ้าในจิตทัศน์ของท่านไม่ได้เห็น สัจธรรมบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีส่วนสัมพันธ์กับศรัทธาใหม่ของโลกโดยตรง คำว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " นี้จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากพระนามของพระศรีอาริยเมตไตรย เพราะคำว่า " เมตไตรย " นี้ แปลว่า " เพื่อน " ในความหมายของภาษาบาลี สันสกฤต บุคคลผู้นี้เป็น Sacred Friend จะเป็นใครก็ตาม แต่การใช้คำว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " หรือ " เพื่อนผู้ศักดิ์สิทธิ์ " แสดงให้เห็นว่าผู้ที่จะมาโปรดสัตว์ในโลกยุคนี้ จะไม่ใช่เป็นบุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน ​

    อีกทั้งมาจากแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ หรือ Holy Ground อีกด้วย ก็ยิ่งชี้ชัดว่าน่าจะเป็นองค์พระศรีอาริยเมตไตรย ซึ่งนายจอห์น ฮอค ฟันธงว่าจะเสด็จมาในโลกนี้ประมาณ ระหว่างคริสต์ศักราช 2000 ( พ.ศ.2543 ) หรือกว่านั้นเล็กน้อย ซึ่งใกล้เคียงกับวันเวลาที่พระเยซู หรือพระมาซิอาร์ พระมะฮุดีย์ ตามความเชื่อของมุสลิม จะเสด็จมาในวันพิพากษาโลกนี้ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อกันอย่างเงียบๆ ว่าอาจจะเป็นพระศาสดาโพธิสัตว์องค์เดียวกันก็ได้​

    การเสด็จมาของพระศรีอาริยเมตไตรย ก็คงต้องมาชำระสะสางความเสื่อมของศาสนาอยู่แล้ว ในภาวะที่มีการวิวัฒนาการ บรรดาพระสงฆ์สมณเพศผู้ยึดถือพรหมจรรย์ ก็คงไม่แตกต่างอะไรกับนักบุญทั้งหลายผู้เสียสละในอดีต วันเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นคงต้องผ่านขั้นตอนตามปรกติวิสัย ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีความเจ็บปวดอันเกิดจากการต่อต้าน หรือขัดแย้งทางอุดมการณ์และความคิดเกิดขึ้น ซึ่งในหลายๆ กรณีที่เกิดขึ้นในอดีต การเสียสละของนักบุญอาจถึงกับต้องเลือดตกยางออก​

    " อังคารกับคฑาของจูปิเตอร์ (พฤหัส) เล็งลัคน์
    เกิดสงครามมหาวิบัติภายใต้ราศีกรกฎ
    หลังจากนั้นไม่นาน กษัตริย์ใหม่จะถูกสถาปนา
    เป็นผู้นำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์เป็นเวลายาวนาน "
    ( ซ.6 ค.24 )

    วรรคที่น่าสนใจในโคลงบทนี้ ได้แก่วรรคที่มีคำว่ากษัตริย์ ที่จะนำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์ หลายฝ่ายตีความกันว่า นอสตราดามุสกำลังพูดถึงวันที่โลกชำระบาปแล้ว หลังจากกลียุคอันเกิดจากสงคราม ภัยพิบัติอันเกิดจากธรรมชาติ หรือโรคระบาด โลกจะปรากฎผู้นำใหม่ที่มาในมิติที่อยู่เหนือธรรมชาติ อาจจะเป็นพระศรีอาริยเมตไตรย พระมาซิอา พระมะฮุดีย์ หรือพระยาธรรมิกราช ที่เสด็จมาโปรดสัตว์ตามพุทธทำนาย ตามคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล หรือตามพระวัจนะในพระคัมภีร์อัลกุรอ่านก็ได้

    ตามการคำนวนทางโหราศาสตร์ โดยอาศัยหลักของดาราศาสตร์ ดาวอังคารจะเล็งลัคน์กับดาวพฤหัสหลังปี ค.ศ.1999 เป็นครั้งแรกในวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ.2002 (พ.ศ.2545) เพราะฉะนั้นเหตุการปาฎิหาริย์ที่จะทำให้ชาวโลกตะลึง น่าจะเกิดขึ้นในกำหนดเวลาดังนี้​

    ระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม ค.ศ.2004 ( พ.ศ.2547 )
    ระหว่างเดือนธันวาคม ค.ศ.2006 ( พ.ศ.2549 )
    ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2009 (พ.ศ.2552 )
    ระหว่างเดือนเมษายน- พฤษภาคม ค.ศ.2011 ( พ.ศ.2554 )​

    วันเวลาดังกล่าวที่บันทึกไว้ข้างต้นนี้ น่าจะเป็นการคำนวนเวลาของวาระแห่งการสิ้นยุค ของสังคมมนุษย์โลกจากหลักฐานต่างๆ เท่าที่จะเสาะหามาได้​

    " บรรยากาศ ท้องฟ้า แผ่นดินโลกจะมืดลง และถูกบดบังจนมืดครึ้ม แม้แต่คนไม่เชื่อศาสนา ยังพร่ำเรียกหาพระผู้เป็นเจ้ากับนักบุญ.... "
    ( ซ.9 ค.83 )​

    คำทำนายของนอสตราดามุสข้างต้นนี้ คล้องจองกับพุทธทำนายที่บอกว่า ท้องฟ้าจะมืดเจ็ดวันเจ็ดคืน ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนจรจะกลับกรุง ฟูกจะมีหนาม ผีป่าจะเข้าบ้าน ผีบ้านจะเข้าไพร....และในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลกับพระคัมภีร์อัลกุรอาน ทำนายว่าพระอาทิตย์จะมืดลง ดวงจันทร์จะหยุดส่องแสง ดวงดาวบนท้องฟ้าจะร่วงหล่น...ช่างเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งเลยทีเดียว.....​

    (คัดลอกมาจาก หนังสือนอสตราดามุส ฉบับเพิ่มเติมเกี่ยวกับศรัทธาใหม่ เขียนโดยศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      5,905
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2010
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>บนฝนมีฝนเพิ่ม เหนือมีฝน 70% ของพื้นที่ กทม.-ภาคกลางมีฝน 60%</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปประจำวันที่ 24 กันยายน 2553 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
    อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา


    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 35 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สธ. เตือนประชาชนอย่าตระหนกแห่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรุงเทพฯ 24 ก.ย.-สธ. เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกแห่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ขณะนี้ถือเป็นโรคระบาดตามฤดูกาล ย้ำประชาชนทั่วไปสามารถป้องกันตนเองได้ ผู้ป่วยที่เหมาะสมรับวัคซีนคือ กลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มเนื่องจากมีอาการรุนแรงเมื่อเจ็บป่วย เตรียมสั่งวัคซีนเพิ่มอีก 200,000 โดส ฉีดให้กลุ่มเสี่ยง

    นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีประชาชนแห่ขอรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์

    ทำให้บางโรงพยาบาลประสบปัญหาวัคซีนขาดว่า ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ เพราะโรคดังกล่าวขณะนี้ถือเป็นโรคระบาดตามฤดูกาลแล้ว หากดูแลร่างกายตนเองดี ทั้งหยุดพักผ่อนเมื่อเจ็บป่วย สวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อหวัดสู่ผู้อื่น หมั่นล้างมือ รับประทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลาง ทำร่างกายให้อบอุ่น แค่นี้ก็สามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนการฉีดวัคซีนจะกระทำเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม เท่านั้น เนื่องจากหากเจ็บป่วยจะมีอาการรุนแรง และผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกัน เพียงแต่ดูแลร่างกายให้ถูกต้องเท่านั้น หากให้รัฐบาลบริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกกลุ่มคงต้องใช้งบประมาณมหาศาลถึง 18,000 ล้านบาท จึงจะเพียงพอ

    นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงขณะนี้ทำได้แล้วร้อยละ 70 หรือประมาณ 1.4 ล้านคน

    โดยร้อยละ 95 ของประชาชนที่รับวัคซีนเป็นกลุ่มเสี่ยง ส่วนความคืบหน้าสั่งซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เพิ่มนั้น ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หลังจากสำรวจการใช้วัคซีน เตรียมสั่งซื้อเพิ่มอีก 200,000 โดส เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง

    สำหรับกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ 7 เดือนขึ้นไป 2.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 3.คนอ้วนน้ำหนัก 100 กิโลกรัม 4.ผู้พิการทางสมอง 5.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หัวใจ 6. เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และ 7.บุคลากรทางการแพทย์ .-สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สธ.แนะนำยาสมุนไพร 3ตำรับต้านแก้หวัด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>หน่วยงานด้านแพทย์แผนไทย แนะ 3ตำรับ"ยาห้าราก-จันทน์ลีลา-เขียวหอม" มีในบัญชีหลัก แนะสารต้านอนุมูลอิสระในผัก-ผลไม้ รวมทั้ง"ไวน์แดง"ต้านหวัดได้
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

    ที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย ดร.พรรณศิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข แถลงข่าวเรื่องสมุนไพรต้านหวัด

    ระบุถึงสถานการณ์โรคหวัดขณะนี้มีอัตราเพิ่มขึ้นทุกวันทั้งนี้การป้องกันตัวเองก่อนป่วยเป็นวิธีการที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามหากมีอาการป่วยหากจะใช้ยาแผนปัจจุบันรับประทาน ยังมียาสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร และขอแนะนำตำรับยาแก้ไขใช้แล้วได้ผลอีก 3 ตำรับ คือ
    1.ยาห้าราก หรือยาแก้วห้าดวง หรือ เบญจโลกวิเชียร ซึ่งมีตัวยาหลัก 5 รายการ คือ รากย่านาง รากคนทา รากมะเดื่อชุมพร รากชิงชี่ และรากท้าวยายม่อม


    2.ตำรับยาจันทน์ลีลา ประกอบด้วย โกศสอ โกศเขมา โกศจุฬาลัมพา แก่นจันทร์ขาว แก่นจันทร์แดง ลูกกระดอม บอระเพ็ด รากปลาไหลเผือก และพิมเสน โดย 2 ตำรับนี้เหมาะสมกับผู้ใหญ่

    และ 3.ตำรับยาเขียวหอม ตำรับยาลดไข้สำหรับเด็ก ประกอบด้วย ใบพิมเสน ใบผักกระโฉม ใบหมากผู้หมากเมีย ใบสันพร้าหอม รากแฝกหอม เปราะหอม แก่นจันทน์เทศ แก่นจันทน์แดง ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง เนระพูสี พิษนาศน์ มหาสดำ รากไคร้เครือ ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี และเกสรบัวหลวง โดยยาทั้ง 3 ตำรับนี้ได้บรรจุอยู่ในบัญชียาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ เป็นยาที่มีใช้ในโรงพยาบาล

    ด้านแพทย์หญิง วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

    กล่าวว่าสำหรับน้ำสมุนไพรที่อยากแนะนำช่วงโรคหวัดระบาด ได้แก่ น้ำมะนาว น้ำตรีผลา น้ำมะขามป้อม น้ำมะยม ส่วนฟ้าทะลายโจรนั้นเป็นยาเย็น จึงไม่แนะนำให้กินป้องกันเพราะอาจเป็นอันตรายได้

    เภสัชกรหญิง ดร.อัญชลี จูฑะพุทธิ รองผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ยาห้ารากนั้นทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้วิจัยในสัตว์ทดลอง สามารถลดไข้ได้

    ส่วนอีก 2 ตำรับก็เช่นกัน อยากแนะนำให้กินผัก ผลไม้ ที่วิตามินซีสูงเพื่อต้านหวัด เช่น ยอดมะยม ฝักมะรุม ยอดสะเดา มะระขี้นก พริกหวาน และพริกทุกชนิด ฟักข้าว แครอท มะขามป้อม ฝรั่ง ส้ม มะม่วง มะละกอ และผักมีสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า บล็อกโคลี ผักโขม นอกจากนี้ ผัก ผลไม้ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารเคอร์ซีตินสูง ได้แก่ หอมแดง กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ ผักใบเขียว แอบเปิล ผลไม้จำพวกส้ม พลูคาว รวมทั้งชาจากต้นชา และชาใบหม่อน ทั้งนี้ยังพบว่า สาร เรสเวอราทรอล ( Resveratrol ) ซี่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีในเปลือกองุ่น และพบได้ในองุ่นแดง หรือไวน์แดงก็สามารถที่จะต้านหวัดได้เช่นกัน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฟ้าผ่าไฟไหม้โกดังฝ้าย เสียหาย40ล้านไร้เจ็บ-ตาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ฟ้าผ่า ไฟไหม้โกดังฝ้ายในสิงห์บุรีข้ามคืน จนท.ระดมรถดับเพลิงเกือบ 10 คัน ใช้เวลา 4 ชม.เพลิงจึงสงบ ความเสียหายเบื้องต้น 40 ล้าน โชคดีไร้เจ็บ-ตาย...

    ฟ้าผ่า ไฟไหม้โกดังฝ้ายในสิงห์บุรีข้ามคืนเร่งดับไร้เจ็บตาย เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.40 น.วันที่ 24 ก.ย. พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ทาศิริ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่โกดังเก็บฝ้าย ตั้งอยู่ภายในสวนอุตสาหกรรมพรหมบุรี อินดัสทรี คอมเพล็ก ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วย พล.ต.ต. อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี –พ.ต.อ.สุเมธ ปุณสีห์ ผกก.สภ.พรหมบุรี-นายช่วงชัย เปาอินทร์ รอง.ผวจ.สิงห์บุรี รุดไปตรวจสอบ จากนั้นได้ขอกำลังรถดับเพลิงในทุกพื้นที่ในเขตจังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดใกล้เคียงเช่น จังหวัดลพบุรี, จังหวัดอ่างทอง กว่า 20 คันและหน่วยบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทยปอเต็กตึ๊ง กทม มาช่วยกันดับเพลิง

    ที่ เกิดเหตุเป็นโกดังเก็บฝ้ายของบริษัท ลัคกี้ สปินนิ่ง จำกัด ที่เก็บฝ้ายอัดเป็นก้อนรอเข้าโรงงานปั่นเป็นด้ายส่งต่างประเทศ ตั้งอยู่ในโกดังพื้นที่กว่า 10 ไร่ เพลิงได้ลุกไหม้โกดังเก็บฝ้ายอัดเป็นก้อนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากในโกดังเป็นฝ้ายอัดซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และในบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นที่แคบ รถดับเพลิงเข้าไปได้เพียงครั้งละ 6 คันเท่านั้น ต้องทะยอยกันเข้าไปดับเพลิง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้



    จากการสอบสวน จ.ส.อ.สมเจตน์ คงเพียร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณโกดังที่เกิดเหตุกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ มีฝนฟ้าคะนอง ฝนตกลงมาอย่างหนัก และได้มีฟ้าผ่า ลงมาที่บริเวณกลางโกดังเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ตนเองจึงรีบนำสารเคมีดับเพลิงไปดับ แต่เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนตนเองดับไม่ไหวจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้รถดับ เพลิงมาช่วยดับเพลิงดังกล่าว อย่างไรก็ดี เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตแต่อย่างใด ค่าเสียหายคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=407 height=335>
























    <embedtype="application/x-shockwave-flash" width="407.6" height="335" src="http://video.mthai.com/Flash_player/flowplayer/flowplayer-3.1.5.swf" flashvars="config=http://video.mthai.com/get_config.php?id=1285301702" allowfullscreen="true" data="http://video.mthai.com/Flash_player/flowplayer/flowplayer-3.1.5.swf"></embed></OBJECT>
    เรื่องเล่าเช้านี้ ปลาฟันคน(24-09-10)ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่</P>สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ขณะที่ นายแฟรงก์ ยาร์โบโรห์ หนุ่มชาวสหรัฐฯ กำลังตกปลาในทะเลสาบไวลี่ รัฐเซาท์แคโรไลนา ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อปลาที่เขาตกได้ตัวหนึ่ง มีฟันเหมือนคน โดยจังหวะที่แฟรงก์จะดึงเบ็ดออกจากปาก ก็ถูกเจ้าปลาประหลาดกัดตอบอีกด้วย
    โดยผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า เจ้าปลาประหลาดนี้คือ ปลาเปคู มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ในลุ่มแม่น้ำอเมซอน รูปร่างคล้าย ๆ กับปลาปิรันย่า และมีฟันที่คล้ายกับของมนุษย์มาก
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

    [​IMG]
    กัมพูชา ตรึงกำลังใกล้ตาเมือนธม ซ้อมรบใหญ่ใกล้ชายแดน อวดแสนยานุภาพ รถถัง-ยานหุ้มเกราะ
    24 กย. รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพของกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 ก.ย. เปิดเผยว่า ทางการกัมพูชาได้สั่งเสริมกำลังและตรึงกำลังอย่างเข้มงวดรอบปราสาทตาเมือนธม (Ta Moan Thom) และปราสาทตาควาย (ตากระบรัย-Ta Krabey) โดยสถานการณ์ปัจจุบันใกล้ปราสาททั้งสองแห่ง ยังคงปกติ เว้น แต่ทหารทั้งไทยและเขมรยังตรึงกำลังอย่างเข้มงวด
    ทั้งนี้ สำนักข่าวดืมอัมปึล รายงาน (วันที่ 22 ก.ย.) อ้างคำกล่าวของ พลเอก คุน คิม (Gen.Kun Kim) รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ว่า ทหารกัมพูชาจะทำซ้อมใหญ่ทาง ครั้งที่ 2 ซึ่งจะมีการซ้อมยิงจรวดหลายร้อยนัดในพื้นที่ จังหวัดโพสัต (Pursat province) และจังหวัดพระตะบอง (Battambang) บริเวณใกล้กับชายแดนไทย-กัมพูชา
    นอกจากนั้น การผึกซ้อมและทดสอบทางการทหารครั้งนี้จะเริ่มในวันที่ 23 กันยายน สิ้นสุดลงในวันที่ 25 กันยายนซึ่งจะมีรถถังและยานหุ้มเกราะลำเลียงพลที่ได้สั่งซื้อมาจากประเทสแถบยุโรปตะวันออกร่วมด้วย แต่ ทางการกัมพูชา ก็ได้ปฏิเสธว่า การฝึกซ้อมทางการทหารครั้งนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ เพื่อแสดงแสนยานุภาพทางทหารของกัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์ ที่จะเสริมความแข็งแกร่งในขีดความสามารถทางทหารเพียงอย่างเดียว
    อนึ่ง ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกรมศิลปากรของไทยจะทำการบูรณะซ่อมแซมปราสาทตาเมือนธม ทำให้ ทางการกัมพูชา ขู่จะใช้กำลังทหารกับเจ้าหน้าที่ไทย ที่เข้ามาซ่อมแซม โดยอ้างว่า ปราสาทดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ส่วนนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมากล่าวตอบโต้อย่างชัดเจนว่า ปราสาทตาเมือนธม เป็นของไทย รวมทั้งระบุว่า ทุกครั้งที่มีการพูดถึงการเข้าไปบูรณะก็จะมีลักษณะของการประท้วง และจะเป็นทำนองเดียวกับเวลาที่มีข้อโต้แย้งกันต่างฝ่ายต่างรักษาสิทธิ์ของตัวเอง
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ไปจนถึงปี พ.ศ.๒๕๖๒

    [​IMG]

    คำพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญของโลกของบรรดาครูบาอาจารย์ โหรสำนักต่างๆ และอาจารย์ในทางวิชาโหราศาสตร์

    1. นับจากนี้ไปจนถึงปี พ.ศ. 2562 จะมีอะไรเกิดขึ้น?

    1.1 อุกกาบาตถล่มโลก

    จากคำทำนายของครูบาอาจารย์บางท่านว่าอุกกาบาตลูกใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1 กิโลเมตร อาจจะเข้ามาชนโลกในปี 2560 ได้ ภาพหายนะดังกล่าวยังมีอยู่อุกกาบาตลูกนี้ เดินทางมาด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อวินาที หรือมีความเร็วเท่ากับ 360,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ฟิสิกส์คำนวณว่า น่าจะมีอำนาจทำลายล้าง เท่ากับระเบิดปรมาณูที่สหรัฐอเมริกานำไปถล่มที่เกาะฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 จำนวน 80,000 ลูกรวมกัน

    ซึ่งคาดหมายว่า จะมีคนตายรวมกันครั้งเดียวไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านคน จากนั้นแรงสั่งสะเทือนเลื่อนลั่นดังกล่าว ก็จะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลก รวมทั้งคลื่นยักษ์สึนามิ ก็จะมีติดตามมา อันเป็นความเชื่อว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ทั่วโลก อาจถึงขนาดเข้าสู่ยุคสมัยโนอาร์ใหม่ ต่างกันตรงที่มิใช่พระผู้เป็นเจ้าหลั่งน้ำตา 40 วันติดต่อกันเท่านั้น สภาพภูมิศาสตร์ของประเทศต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไป พื้นดินหลายส่วน บางส่วนจะโผล่จากพื้นใต้น้ำมาเป็นผืนแผ่นดินใหม่ มีชื่อว่า เกาะแอตแลนติส เป็นต้น

    สำหรับแนวที่จะเกิดภูเขาไฟระเบิดที่จะติดตามมา หรือบริเวณ “ริง ออฟ ไฟร์” หรือ วงแหวนแห่งไฟ ซึ่งจะเกิดตั้งแต่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไปถึงลอสแองเจลลิส ซานฟรานซิสโกและหลาย ๆ มลรัฐในสหรัฐอเมริกา จะเกิดการประทุอย่างรุนแรงของลาวาร้อนใต้พิภพพุ่งขึ้นมาสู่ผิวโลก สร้างหายนะครั้งใหญ่

    ผลพวงที่จะติดตามมาก็คือ ความอดอยากหิวโหย และความแร้นแค้นเป็นมหาทุพภิกภัยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก บรรยากาศของโลกจะเปลี่ยนแปลงไป ปรากฏการณ์ใหม่ที่เรียกว่า “เดอะ เกรท คิง ออฟ เทอร์-เรอร์” ก็จะเกิดขึ้น คือ บางแห่งที่หนาวก็จะหนาวจัด บางแห่งที่ร้อนก็จะร้อนจัด ที่เคยร้อนก็อาจกลายเป็นหนาว พืชพันธุ์ธัญญาหารจะถูกทำลายไปเป็นส่วนมาก การทำสงครามแย่งชิงอาหารจะเกิดขึ้น

    โรคระบาดร้ายแรงก็จะติดตามมา และเชื่อว่า ในประเทศไทย จะได้เห็นหิมะของจริงตกไม่เกินปี 2560 อย่างไรก็ตาม ให้ฟังข่าวจากต่างประเทศให้ดี จะมีการประกาศเขตหายนะในหลายจังหวัดของประเทศไทย และในหลาย ๆ มลรัฐของสหรัฐอเมริกา และหลายพื้นที่ของโลก ซึ่งยังไม่ถึงระดับร้ายแรงของโลกเป็นระดับร้ายแรงของแต่ละชาติ เป็นเพียงการเตือนของธรรมชาติและจักรวาลเท่านั้น

    1.2 สงครามอาร์มาเกดดอน

    - สงครามอาร์มาเกดดอน เป็นเนื้อหาที่มีการจารึกอยู่ในพระคัมภีร์เก่าของพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ (โอลด์ เทสเม้นท์) โดยศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ 7 ประการ หากมีเมื่อไร ให้มนุษยชาติจงรับรู้ เถิดว่าความฉิบหายวิบัติ กำลังจะเกิดขึ้นในโลกของเราแล้ว โดยในพระคัมภีร์เก่าเรียกว่า สงครามล้างโลก

    - เหตุการณ์ทั้ง 7 ประการจะเกิดก่อนมีสงครามล้างโลกนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวได้แก่

    1. มีการอาศัยศาสนาเป็นเครื่องหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนมาก

    2. มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นในหลายๆ แห่งของโลก

    3. มีการเกิดสงครามระหว่างประเทศในหลายๆประเทศ

    4. เกิดสภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ

    5. มีแผ่นดินไหวหลายแห่ง

    6. มีความวิปริตผันแปรทางธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศไม่เป็นไปตามที่เคยเป็น มีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า

    7. เกิดเชื้อโรคร้ายแรงระบาด รักษาไม่หายขาด

    - ณ บริเวณละติจูด 45 องศา จะกลายเป็นทะเลเพลิง ซึ่งหลายคนเชื่อว่า หมายถึง มหานครนิวยอร์ค จะเป็นสัญญาณให้ทราบว่าก่อนการเกิดสงครามอาร์มาเกดดอน รวมทั้งประเทศอาเจนติน่า จะถูกรุกราน เพราะเป็นแหล่งผลิตอาหารใหญ่ของอเมริกาใต้ ยุโรปจะมีปัญหาวิกฤต สหรัฐจะรวมจาไมก้า คิวบา ไฮติ และเม็กซิโก เข้าเป็นมลรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา กองเรือของสหรัฐอเมริกาจะถูกทำลาย รวมทั้งพันธมิตรของสหรัฐ เช่น อิสราเอล ตุรกี จะย่อยยับ แอฟริกาจะอดอยากแร้นแค้นมากขึ้น จีนจะรุกรานเวียตนาม ญี่ปุ่นจะมีปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก (ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ บางเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่อีกหลายเหตุการณ์ยังไม่เกิด คาดว่าจะเกิดครบ น่าจะเกิดครบในปี พ.ศ.2017 หรือปี พ.ศ.2560 โปรดเก็บเอกสารนี้ ไว้ตรวจสอบ)

    1.3. แกนโลกเคลื่อนที่

    - ถ้าเราได้ข่าวว่าแกนโลกเคลื่อนที่ หรือเอียงไปจากองศาเดิม 23.5˚ เมื่อนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติอย่างสำคัญ และจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตมนุษย์ สัตว์ และพืชพันธุ์ธัญญาหาร พื้นแผ่นดินที่เราอยู่อาศัยในปัจจุบันอาจยุบตัวลงประมาณ 9 เมตร น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกจะหลอมละลายผิดปกติ ปริมาณน้ำในทะเลและมหาสมุทรจะเพิ่มมากขึ้นจำนวนมหาศาล ส่วนใหญ่ของเกาะอังกฤษ และญี่ปุ่นจะจมอยู่ใต้น้ำ ยุโรปตอนเหนือจะถูกน้ำท่วมหนัก ชายฝั่งด้านตะวันตกของสหรัฐอเมริกาจะจมอยู่ใต้น้ำเช่นเดียวกัน แต่นอกฝั่งตะวันออกของอเมริกาเหนือ จะมีแผ่นดินใหม่ชื่อว่า แอตแลนติสโผล่ขึ้นมา และมนุษย์จะได้พบ “แคปซูลเวลา” ที่เกาะแอตแลนติส ซึ่งบรรจุเรื่องราวของประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่แตกต่างไปจากที่เราได้เคยรับการอบรมสั่งสอนกันมา

    - การเอียงของแกนโลก จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ มีผลทำให้ลอสแองเจลลีส ซานฟรานซิสโก และแมนฮัตตันพังทลายพร้อม ๆ กับนิวยอร์ค จะมีการระเบิดของภูเขาไฟมากมายติดตามมา เป็นยุคที่เอ็ดการ์ เคย์ซี เรียกว่า “ยุคแห่งบาดแผลอันยิ่งใหญ่” แต่จะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้น เอ็ดการ์ เคย์ซี ไม่สามารถระบุได้ เพียงแต่เห็นในภาพนิมิตเท่านั้น แต่หลายท่านคาดว่าน่าจะเกิดในปี 2017 หรือปี พ.ศ. 2560 )

    - หลังจากผ่านยุคบาดแผลอันยิ่งใหญ่แล้ว ก็จะมีการกลับมาใหม่อีกครั้งของพระคริสต์ ผู้นำแสงสว่างแห่งยุคใหม่มาสู่มวลมนุษยชาติ จะเป็นยุคของการมีสันติภาพ และมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและจิตวิญญาณไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งคาดว่าจะเกิดราวปี 2019 (พ.ศ. 2562) นั่นก็หมายความว่า มนุษยชาติในยุคต่อไป ยังคงมีอยู่ และไม่เพียงเจริญทางด้านวัตถุเท่านั้น จิตวิญญาณก็มีพัฒนาการที่ดีด้วย

    2. ในปี 2551-2560 จะมีอะไรเกิดขึ้น?

    2.1 นักพยากรณ์ชาวรัสเซีย ทำนายว่า แกนของโลกจะเอียงลาดไปอีก 30 องศา และเอียงอย่างปัจจุบันทันด่วน มีผลทำให้คาบสมุทรสแกนดิเนเวียทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำ อังกฤษและญี่ปุ่น หายไปจากแผนที่โลก โดยโลกรอดพ้นหายนะครั้งนี้ได้ เนื่องจากมีมนุษย์ต่างดาวเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หรือแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายให้หายนะลดลง

    2.2 นักพยากรณ์ชาวโปรตุเกส ทำนายว่า ประชากรของโลกจะถูกทำลายล้างด้วยนิวเคลียร์ และหายนะจากสิ่งแวดล้อม เมืองทั้งหลายจะถูกทลายราบเป็นหน้ากลอง โลกทั้งโลกจะตกอยู่ในทะเลเพลิง

    2.3 นักพยากรณ์ชาวอินเดีย ทำนายว่า จะมีเหตุการณ์ทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดภัยธรรมชาติ และวิบัติภัยจากการกระทำของ มนุษย์ อุทกภัยที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 5000 ปี จะมีแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และมีการใช้นิวเคลียร์ถล่มเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว นิวยอร์ค ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลลีส และบอมเบย์ จะถูกทำลาย คนในเมืองเหล่านี้ตายเกือบหมด

    2.4 นักพยากรณ์ชาวอเมริกัน ทำนายว่า แกนโลกจะเอียงจากปัจจุบัน 23.5 องศา ไปเป็น 45 องศา จะทำให้สหรัฐอเมริกาพบอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุด มีคลื่นยักษ์สึนามิ แผ่นดินไหว และพายุเฮอริเคน จะมีความปั่นป่วนทางการเมือง และทุพภิกขภัย ไปทั่วสหรัฐอเมริกา อันเป็นหายนะที่หนักที่สุดตั้งแต่มีประเทศสหรัฐอเมริกามา

    2.5 โหรชื่อดังชาวอเมริกัน ทำนายว่า แอนตี้ไครสต์จะปรากฏตัวในปี 2008 และสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก เป็นเวลา 7 ปี ซึ่งเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ห้วงแห่งทุกข์เข็ญ” ระหว่างปี 2008 – 2015 (ปี 2551 – 2558)

    2.6 นักพยากรณ์เรื่องของโลก บางท่านทำนายแตกต่างออกไปว่า

    - โลกจะพบความวิบัติอย่างวินาศสันตะโร เมื่อประชากรโลกมีครบ 6,660 ล้านคน

    - น้ำแข็งในขั้วโลกใต้แตกตัวและละลาย มีผลทำให้แกนโลกเปลี่ยนแปลง น้ำแข็งและน้ำเย็นจำนวนล้านล้านตัน จะแผ่กระจายไปทั่วโลก แม้ดินแดนทะเลทรายที่อิยิปต์ ก็มีน้ำท่วมถึงกึ่งกลางปิรามิด

    รวบรวมข้อมูลโดย อ.มงคล กริชติทายาวุธ
    ประธานชมรมศาสนาและการกุศล

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=143734
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2010
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ภัยอันตรายในปี ระกา จอ กุน (๒๕๖๐-๒๕๖๒)

    [​IMG]

    หนังสืออินตก-เทพทำนาย

    หนังสือใบลานสี ได้ถูกตกมาในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัด อัตตะบือ ( ประเทศลาว ) ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแผ่ให้ เลยเกิดความศรัทธาเสียสละทรัพย์พิมพ์แจกจ่ายมายังพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นกุศล และเพื่อพิจารณาณด้วยตนเองถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้นตามพุทธทำนายไว้ดังนี้

    โลชังชม โทโพโส อินโตกรุณา

    พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้รู้แล้วจงรีบบอกให้คนอื่นฟังหรือพิมพ์แจกตามกำลังศรัทธา จะเกิดมหากุศลช่วยให้ท่านได้หลุดพ้นจากมหันตภัยพิบัติทั้งปวง ถ้าบุคคลจะลงมาเกิดพร้อมหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าใครไม่มีไว้ในบ้านเรือนจะมีภูตผีปีศาจเข้ามาทำลายย่างแน่แท้

    ในปีจอถึงปีกุน เมื่อเดือนหงายจะมีงูพิษอยู่บนศีรษะฉกกัดให้ถึงตาย และผู้คนทั้งหลายจะเกิดความเดือดร้อนหลายประการ

    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนศึกสงครามบ่แล้ว
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนน้ำและไฟ
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนอึดข้าวปลาอาหาร
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนผัว-บ่เห็นหน้ากัน
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนมีคนตายตามทุ่งนา
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีผู้เฒ่า
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนไปต่างประเทศบ่สะดวก
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนนอนบ่หลับ

    ในปีจอนี้ ในเมืองจันทร์จะมีฤาษีองค์ทองคำสิกขาลาเพศออกมาเป็นพ่อค้าในปีจอขึ้น ๘ ค่ำ ห้ามบ่ให้ตักน้ำอาบ น้ำกิน ตามห้วยหนองคลองบึงหลังพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนค่ำ) พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นใส่โลกมนุษย์

    ในปีจอ เมืองกรุงเทพ จะแตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกต หัวเชียงเมี้ยงข้าวเม็ดใหญ่จะกลับสู่เวียงจันทร์ นี่คือ พระคาถาขององค์อินทร์ พรหม ยมราช ได้เขียนไว้ในใบลาน จงเก็บรักษาไว้ให้ดีเพื่อช่วยหลุดพ้นจากภัยพิบัติได้ในยามเกิดเหตุการณ์มหันตภัย พระคาถาเขียนไว้ว่า

    ปะโต เมตัง ประระชีมัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะมัง สุคะโต จุติ

    พระคาถาบทนี้เขียนลงใบลาน แผ่นทอง หรือ แผ่นผ้าก็ดี ติดไว้ที่ประตูบ้านหรือในรถหรือโพกศีรษะ ยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้หลุดพ้นจากภัยอันตราย

    ในกาลละเวลานี้ เทพเจ้าเหล่าเทวดาผู้รักษาคุ้มครองโลกได้กราบทูลต่อพระอินทร์ว่ามนุษย์โลกทำบุญเพียง ๓ ส่วน และทำบาปกรรมถึง ๗ ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้องค์อินทร์จะสั่งลงโทษมนุษย์ผู้ใจบาป ถึง ๙ ข้อ นับตั้งแต่ปีจอถึงปีกุน ดังนี้

    ๑. จะให้เกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหว
    ๒. จะให้เกิดอัคคีภัย
    ๓. จะให้เกิดอุทกภัย
    ๔. จะเกิดฟ้าผ่า
    ๕. จะเกิดร้อนเกินไป หนาวเกินไป
    ๖. จะเกิดสารพิษต่างๆ
    ๗. จะเกิดกาฬโรคต่างๆ
    ๘. จะเกิดข้าวยากหมากแพง
    ๙. จะเกิดฆาตพยาบาทเบียดเบียนกันเอง

    มหันตภัย ๙ อย่างนี้ จะหลุดพ้นได้โดยเฉพาะผู้มีบุญ คนที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น รู้แล้วจงบอกต่อกันไปให้รับทำความดีมากๆ ถ้าเลยปีจอ ปีกุน ไปแล้ว ทุกคนพร้อมทั้งลูกหลาน จะได้รับความสุขกายสบายใจทุกคน ให้ทุกคนเคร่งครัดในศีล ๕

    นอกจากหนังสืออินตก ที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีพระผู้ทรงศีลอีกองค์หนึ่ง ได้พบเห็นคำสอนที่จารึกไว้ในแผ่นศิลาที่พึ่งพบในภูเขาแห่งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าได้เดินธุดงค์วิปัสสนากรรมฐานผ่านไป พระผู้ทรงศีลกล่าวว่าพี่น้องทั้งหลายถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าท่านเชื่อก็เป็นกุศลรู้เพียงเท่านี้ข้าพเจ้าจึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตามคำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในแผ่นศิลาได้เขียนไว้โดยพระมหากัสสะปะว่า ในปีระกา ปีจอ ปีกุน เดือน ๗-๘ จะเกิดเหตุการณ์ร้ายตามถนนหนทาง ในเดือน ๙-๑๐ คนใจบาปจะถูกล้างผลาญให้หมดไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่มีข้าวแต่ไม่มีคนกิน มีทางแต่ไม่มีคนเดิน

    สุดท้าย พระผู้ทรงศีลได้กล่างย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสือินทร์ตกเพิ่มเติมว่า ถ้าท่านผู้เคารพบูชาหรือบนว่าจะบอกแก่ผู้อื่นหรือพิมพ์แจกจ่ายให้สาธุชนทั้งหลายได้รับรู้แล้วท่านปรารถนาสิ่งใดจะได้สมใจนึก จะปราศจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไป ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2010
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,704
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สัจจะปฏิบัติ ****

    คนที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <CENTER>ตารางสรุปสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ <TABLE border=0 width="100%"><FORM method=post name=form1 action=/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.php><TBODY><TR><TD align=right>วันที่ก่อนหน้านี้ <TD align=middle>วันที่ <INPUT id=sdate class=text value=2010-09-24 size=10 name=sdate> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> Calendar.setup({ inputField : "sdate", ifFormat : "%Y-%m-%d", // format of the input field showsTime : false, // will display a time selector button : "sdate_c" // trigger for the calendar (button ID) }); </SCRIPT> <INPUT class=button value=แสดงข้อมูล type=submit name=submit> <TD>วันที่ถัดไป </FORM></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR bgColor=lightblue><TD class=td rowSpan=3 align=middle>ภาค
    อ่างเก็บน้ำ เขื่อน
    </TD><TD class=td rowSpan=3 align=middle>ความจุ
    ที่
    รนก.
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td colSpan=5 align=middle>ปริมาตรน้ำในอ่างฯ</TD><TD class=td colSpan=4 align=middle>ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ</TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ปริมาณน้ำระบาย</TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ปี 2552

    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ปัจจุบัน</TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ใช้การได้จริง</TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ค่าเฉลี่ย
    รวมทั้งปี
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ปริมาตรน้ำ
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53 </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>วันนี้
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53
    ม.(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ

    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบ
    รนก.
    </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
    ใช้ได้ทั้งอ่างฯ
    </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตร
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
    ค่าเฉลี่ยทั้งปี
    </TD></TR><TR><TD class=td>ภาคเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ภูมิพล (2) <TD class=td align=right> 13,462 <TD class=td align=right> 6,937 <TD class=td align=right> 6,169 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 2,369 <TD class=td align=right> 18 <TD class=td align=right> 5,602 <TD class=td align=right> 45.92 <TD class=td align=right> 2,568.45 <TD class=td align=right> 45.85 <TD class=td align=right> 2.00 <TD class=td align=right> 4,337.48 <TR><TD class=td>สิริกิติ์ (2) <TD class=td align=right> 9,510 <TD class=td align=right> 5,703 <TD class=td align=right> 7,200 <TD class=td align=right> 76 <TD class=td align=right> 4,350 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 5,391 <TD class=td align=right> 39.79 <TD class=td align=right> 5,114.50 <TD class=td align=right> 94.87 <TD class=td align=right> 2.82 <TD class=td align=right> 3,119.98 <TR><TD class=td>แม่งัด <TD class=td align=right> 265 <TD class=td align=right> 177 <TD class=td align=right> 234 <TD class=td align=right> 88 <TD class=td align=right> 212 <TD class=td align=right> 80 <TD class=td align=right> 332 <TD class=td align=right> 0.41 <TD class=td align=right> 252.40 <TD class=td align=right> 76.02 <TD class=td align=right> 3.60 <TD class=td align=right> 117.31 <TR><TD class=td>กิ่วลม <TD class=td align=right> 112 <TD class=td align=right> 80 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 64 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 61 <TD class=td align=right> 281 <TD class=td align=right> 5.04 <TD class=td align=right> 511.46 <TD class=td align=right> 182.02 <TD class=td align=right> 2.05 <TD class=td align=right> 520.47 <TR><TD class=td>แม่กวง <TD class=td align=right> 263 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 104 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 186 <TD class=td align=right> 1.59 <TD class=td align=right> 124.59 <TD class=td align=right> 86.99 <TD class=td align=right> 0.25 <TD class=td align=right> 79.71 <TR><TD class=td>กิ่วคอหมา <TD class=td align=right> 170 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 160 <TD class=td align=right> 94 <TD class=td align=right> 154 <TD class=td align=right> 91 <TD class=td align=right> 297 <TD class=td align=right> 2.54 <TD class=td align=right> 179.94 <TD class=td align=right> 60.58 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 121.97 <TR><TD class=td>แควน้อย <TD class=td align=right> 769 <TD class=td align=right> 271 <TD class=td align=right> 668 <TD class=td align=right> 87 <TD class=td align=right> 632 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 1,653 <TD class=td align=right> 17.25 <TD class=td align=right> 840.05 <TD class=td align=right> 50.82 <TD class=td align=right> 7.78 <TD class=td align=right> 765.70 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคเหนือ <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 24,551 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 13,346 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 14,621 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 60 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 7,889 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 87 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 13,742 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 112.54 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 9,591.39 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 70.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 18.50 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 9,062.62 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ลำปาว <TD class=td align=right> 1,430 <TD class=td align=right> 1,198 <TD class=td align=right> 1,343 <TD class=td align=right> 94 <TD class=td align=right> 1,258 <TD class=td align=right> 88 <TD class=td align=right> 1,985 <TD class=td align=right> 21.97 <TD class=td align=right> 1,774.17 <TD class=td align=right> 89.38 <TD class=td align=right> 21.97 <TD class=td align=right> 1,497.86 <TR><TD class=td>ลำตะคอง <TD class=td align=right> 314 <TD class=td align=right> 142 <TD class=td align=right> 161 <TD class=td align=right> 51 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 270 <TD class=td align=right> 3.54 <TD class=td align=right> 142.68 <TD class=td align=right> 52.84 <TD class=td align=right> 0.17 <TD class=td align=right> 122.19 <TR><TD class=td>ลำพระเพลิง <TD class=td align=right> 110 <TD class=td align=right> 35 <TD class=td align=right> 102 <TD class=td align=right> 93 <TD class=td align=right> 101 <TD class=td align=right> 92 <TD class=td align=right> 184 <TD class=td align=right> 1.19 <TD class=td align=right> 115.87 <TD class=td align=right> 62.97 <TD class=td align=right> 1.51 <TD class=td align=right> 65.47 <TR><TD class=td>น้ำอูน <TD class=td align=right> 520 <TD class=td align=right> 274 <TD class=td align=right> 371 <TD class=td align=right> 71 <TD class=td align=right> 328 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 443 <TD class=td align=right> 2.65 <TD class=td align=right> 274.65 <TD class=td align=right> 62.00 <TD class=td align=right> 0.82 <TD class=td align=right> 80.59 <TR><TD class=td>อุบลรัตน์ (2) <TD class=td align=right> 2,432 <TD class=td align=right> 773 <TD class=td align=right> 1,898 <TD class=td align=right> 78 <TD class=td align=right> 1,317 <TD class=td align=right> 54 <TD class=td align=right> 2,271 <TD class=td align=right> 43.28 <TD class=td align=right> 2,270.45 <TD class=td align=right> 99.98 <TD class=td align=right> 22.11 <TD class=td align=right> 1,228.83 <TR><TD class=td>สิรินธร (2) <TD class=td align=right> 1,966 <TD class=td align=right> 1,545 <TD class=td align=right> 1,230 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 399 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 1,664 <TD class=td align=right> 6.98 <TD class=td align=right> 673.17 <TD class=td align=right> 40.45 <TD class=td align=right> 2.00 <TD class=td align=right> 559.00 <TR><TD class=td>จุฬาภรณ์ (2) <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 105 <TD class=td align=right> 117 <TD class=td align=right> 71 <TD class=td align=right> 73 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 2.17 <TD class=td align=right> 113.15 <TD class=td align=right> 68.58 <TD class=td align=right> 0.94 <TD class=td align=right> 101.06 <TR><TD class=td>ห้วยหลวง <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 109 <TD class=td align=right> 92 <TD class=td align=right> 104 <TD class=td align=right> 88 <TD class=td align=right> 161 <TD class=td align=right> 0.97 <TD class=td align=right> 121.39 <TD class=td align=right> 75.40 <TD class=td align=right> 0.31 <TD class=td align=right> 47.02 <TR><TD class=td>ลำนางรอง <TD class=td align=right> 121 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 20.55 <TD class=td align=right> 68.51 <TD class=td align=right> 0.27 <TD class=td align=right> 17.57 <TR><TD class=td>มูลบน <TD class=td align=right> 141 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 51 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 31 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 0.54 <TD class=td align=right> 30.82 <TD class=td align=right> 37.59 <TD class=td align=right> 0.05 <TD class=td align=right> 54.56 <TR><TD class=td>น้ำพุง (2) <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 127 <TD class=td align=right> 77 <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 103 <TD class=td align=right> 1.03 <TD class=td align=right> 120.54 <TD class=td align=right> 117.03 <TD class=td align=right> 0.58 <TD class=td align=right> 53.95 <TR><TD class=td>ลำแซะ <TD class=td align=right> 275 <TD class=td align=right> 179 <TD class=td align=right> 152 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 145 <TD class=td align=right> 53 <TD class=td align=right> 193 <TD class=td align=right> 1.01 <TD class=td align=right> 95.25 <TD class=td align=right> 49.35 <TD class=td align=right> 0.12 <TD class=td align=right> 134.50 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 7,756 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 4,485 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 5,709 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 74 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 4,066 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 103 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 7,551 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 85.33 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 5,752.69 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 76.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 50.85 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 3,962.60 <TR><TD class=td>ภาคกลาง <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ป่าสักฯ <TD class=td align=right> 960 <TD class=td align=right> 639 <TD class=td align=right> 742 <TD class=td align=right> 77 <TD class=td align=right> 739 <TD class=td align=right> 77 <TD class=td align=right> 2,200 <TD class=td align=right> 33.72 <TD class=td align=right> 1,376.07 <TD class=td align=right> 62.55 <TD class=td align=right> 22.26 <TD class=td align=right> 1,269.36 <TR><TD class=td>กระเสียว <TD class=td align=right> 240 <TD class=td align=right> 88 <TD class=td align=right> 252 <TD class=td align=right> 105 <TD class=td align=right> 212 <TD class=td align=right> 88 <TD class=td align=right> 256 <TD class=td align=right> 7.71 <TD class=td align=right> 291.93 <TD class=td align=right> 114.04 <TD class=td align=right> 0.06 <TD class=td align=right> 196.71 <TR><TD class=td>ทับเสลา <TD class=td align=right> 160 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 98 <TD class=td align=right> 61 <TD class=td align=right> 90 <TD class=td align=right> 56 <TD class=td align=right> 124 <TD class=td align=right> 1.80 <TD class=td align=right> 80.18 <TD class=td align=right> 64.66 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 45.31 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคกลาง <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,360 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 768 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,092 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 80 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,041 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 69 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 2,580 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 43.23 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,748.18 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 68.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 22.32 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,511.38 <TR><TD class=td>ภาคตะวันตก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ศรีนครินทร์ (2) <TD class=td align=right> 17,745 <TD class=td align=right> 15,197 <TD class=td align=right> 13,220 <TD class=td align=right> 74 <TD class=td align=right> 2,955 <TD class=td align=right> 17 <TD class=td align=right> 4,339 <TD class=td align=right> 28.46 <TD class=td align=right> 1,916.92 <TD class=td align=right> 44.18 <TD class=td align=right> 10.20 <TD class=td align=right> 4,116.84 <TR><TD class=td>วชิราลงกรณ (2) <TD class=td align=right> 8,860 <TD class=td align=right> 7,690 <TD class=td align=right> 4,591 <TD class=td align=right> 52 <TD class=td align=right> 1,579 <TD class=td align=right> 18 <TD class=td align=right> 5,369 <TD class=td align=right> 20.77 <TD class=td align=right> 1,813.14 <TD class=td align=right> 33.77 <TD class=td align=right> 1.80 <TD class=td align=right> 3,826.62 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันตก <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 26,605 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 22,887 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 17,811 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 67 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 4,534 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 57 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 9,708 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 49.23 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 3,730.06 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 38.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 12.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 7,943.46 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>บางพระ <TD class=td align=right> 117 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 62 <TD class=td align=right> 53 <TD class=td align=right> 50 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 0.66 <TD class=td align=right> 33.55 <TD class=td align=right> 76.25 <TD class=td align=right> 0.08 <TD class=td align=right> 31.92 <TR><TD class=td>หนองปลาไหล <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 126 <TD class=td align=right> 156 <TD class=td align=right> 95 <TD class=td align=right> 142 <TD class=td align=right> 87 <TD class=td align=right> 203 <TD class=td align=right> 1.58 <TD class=td align=right> 110.07 <TD class=td align=right> 54.22 <TD class=td align=right> 1.14 <TD class=td align=right> 138.58 <TR><TD class=td>คลองสียัด <TD class=td align=right> 420 <TD class=td align=right> 213 <TD class=td align=right> 303 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 273 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 204 <TD class=td align=right> 1.38 <TD class=td align=right> 241.48 <TD class=td align=right> 118.37 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 166.83 <TR><TD class=td>คลองท่าด่าน <TD class=td align=right> 224 <TD class=td align=right> 161 <TD class=td align=right> 157 <TD class=td align=right> 70 <TD class=td align=right> 152 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 337 <TD class=td align=right> 0.29 <TD class=td align=right> 173.17 <TD class=td align=right> 51.39 <TD class=td align=right> 0.08 <TD class=td align=right> 189.63 <TR><TD class=td>ประแสร์ <TD class=td align=right> 248 <TD class=td align=right> 201 <TD class=td align=right> 213 <TD class=td align=right> 86 <TD class=td align=right> 193 <TD class=td align=right> 78 <TD class=td align=right> 295 <TD class=td align=right> 0.69 <TD class=td align=right> 177.97 <TD class=td align=right> 60.33 <TD class=td align=right> 1.93 <TD class=td align=right> 134.35 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันออก <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,173 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 746 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 891 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 76 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 810 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 122 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,083 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 4.60 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 736.24 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 68.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 3.23 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 661.31 <TR><TD class=td>ภาคใต้ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>แก่งกระจาน <TD class=td align=right> 710 <TD class=td align=right> 556 <TD class=td align=right> 225 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 158 <TD class=td align=right> 22 <TD class=td align=right> 929 <TD class=td align=right> 2.02 <TD class=td align=right> 343.71 <TD class=td align=right> 37.00 <TD class=td align=right> 0.37 <TD class=td align=right> 487.82 <TR><TD class=td>ปราณบุรี <TD class=td align=right> 347 <TD class=td align=right> 259 <TD class=td align=right> 94 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 34 <TD class=td align=right> 10 <TD class=td align=right> 436 <TD class=td align=right> 0.88 <TD class=td align=right> 82.41 <TD class=td align=right> 18.90 <TD class=td align=right> 1.35 <TD class=td align=right> 273.76 <TR><TD class=td>รัชชประภา (2) <TD class=td align=right> 5,639 <TD class=td align=right> 4,915 <TD class=td align=right> 3,522 <TD class=td align=right> 62 <TD class=td align=right> 2,170 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 2,598 <TD class=td align=right> 4.52 <TD class=td align=right> 1,206.12 <TD class=td align=right> 46.42 <TD class=td align=right> 13.69 <TD class=td align=right> 2,344.95 <TR><TD class=td>บางลาง (2) <TD class=td align=right> 1,454 <TD class=td align=right> 864 <TD class=td align=right> 749 <TD class=td align=right> 52 <TD class=td align=right> 489 <TD class=td align=right> 34 <TD class=td align=right> 1,545 <TD class=td align=right> 9.08 <TD class=td align=right> 801.77 <TD class=td align=right> 51.89 <TD class=td align=right> 2.98 <TD class=td align=right> 1,199.02 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคใต้ <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 8,150 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 6,594 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 4,590 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 56 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 2,851 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 66 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 5,508 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 16.50 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 2,434.01 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 44.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 18.39 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 4,305.55 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมทั้งประเทศ <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 69,595 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 48,826 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 44,714 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 64 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 21,191 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 77 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 40,172 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 311.43 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 23,992.57 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 60.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 125.29 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 27,446.92 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>หมายเหตุ</TD><TD>รนก. หมายถึง ระดับน้ำเก็บกักของอ่างฯ </TD><TD>ศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือเกษตรในฤดูแล้ง กรมชลประทาน </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตรที่ระดับน้ำสูงสุด </TD><TD>โทร./โทรสาร 0-2243-6956,0-2241-3350 </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>อ่างฯ ขนาดกลาง ปรับปรุงทุกวันจันทร์ </TD><TD>www.rid.go.th</TD></TR><TR><TD> </TD><TD><TABLE border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>% เทียบกับ รนก. </TD></TR><TR><TD bgColor=red> </TD><TD>> 80</TD></TR><TR><TD bgColor=blue> </TD><TD>51 - 80</TD></TR><TR><TD bgColor=green> </TD><TD>31 - 50</TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9900> </TD><TD><= 30</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    <TABLE border=0><TBODY><TR><TD>จัดทำโดย : <TD>สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=blue cellPadding=5 width=600 bgColor=white><TBODY><TR><TD bgColor=blue align=middle>Typhoon MALAKAS (13W) CAT1 # 12 : ประกาศเตือนภัยเรื่อง “ไต้ฝุ่น MALAKAS (มาลากัส/13W) ระดับ 1 ” ฉบ </TD></TR><TR><TD>
    <TABLE border=0 width=590 align=center><TBODY><TR><TD>Typhoon MALAKAS (13W) CAT1 # 12 : ประกาศเตือนภัยเรื่อง “ไต้ฝุ่น MALAKAS (มาลากัส/13W) ระดับ 1 ” ฉบับที่ 12
    ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 07.00น.
    ประจำวันที่ 23 กันยายน 2553 ออกประกาศเวลา 10.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

    ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 23 กันยายน 2553 / 07.00 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 1 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ - ลูก
    1) Typhoon MALAKAS (13W,19.8N 141.1E,65kts): เมื่อเวลา 07.00น.วันนี้(23ก.ย.53) พายุโซนร้อน MALAKAS (มาลากัส/13W) ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมกลางทะเลแปซิฟิค ล่าสุด ได้พัฒนาเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 แล้ว อยู่ที่ละติจูด 19.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 141.1 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศใต้จากเกาะไอโวโตะ ประเทศญี่ปุ่น ห่ างประมาณ 463 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 7 นอต(13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 นอต(65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 75นอต(139กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 974 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 7 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา…….. / คาดไต้ฝุ่น MALAKAS (มาลากัส/13W) ระดับ 1 จะเริ่มมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางเหนือมากขึ้นในอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า ก่อนที่จะทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่น ระดับ 2 ในอีก 36 ชั่วโมงข้างหน้า หรือช่วง ประมาณ 01.00น. 25ก.ย.53 นี้ ก่อนที่พายุนี้มีแนวโน้มเบี่ยงไปทางตะวันออกก่อนเข้าใกล้ชายฝั่งตอนใต้ ของประเทศญี่ปุ่น ในอีก 36-48 ชั่วโมงข้างหน้า หรือในประมาณวันที่ 25 ก.ย. 53 นี้ (ประกาศ Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

    <เพิ่มเติม/ความเห็น> พายุทั้งหมดไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ไทย … / สำหรับวงสีเขียวคือบริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...