ประสบการณ์เมื่อเรามีคนทักว่าเรามีองค์ (แนวให้ความรู้)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย กาลีนะ, 13 มิถุนายน 2013.

  1. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ก็จะสรุปว่าเราเรียนรู้ทุกอย่างไม่ใช่เพื่อสนองกิเลส แต่เราเรียนรู้ เพื่อให้คลายความสงสัย เพื่อนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันคือมีทิฏฐิสามัญญะตา จะได้ไม่ปรามาสสิ่งใดโดยง่าย เพื่อที่จะให้ถึงความสิ้นสงสัย(ได้ผลดีกับจริตของน้อยคน) และเพื่อที่จะให้เกิดความหน่ายในสงสารวัฏ

    สาธุคะ ....

    ..... เป็นความคิดที่ดีมาก ๆ เลยคะ .... ก่อนพุทธองค์ท่านก็มาจากความไม่รู้ ศึกษาจนรู้จนแตกฉาน ท่านก็คลายสงสัยจนไม่สงสัย .. และ เปลี่ยนเป็นรู้แจ้งแจ่มชัดในที่สุด ..
     
  2. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    เริ่มแรกเมื่อหลายปีก่อนญาติของผมกล่าวว่า "ผมเป็นสายพระ แต่เขาเป็นสายเทพ" เรื่องที่เกี่ยวกับทางพระท่านไม่รู้และไม่ยุ่งเลย แต่ท่านว่าสายของท่านเคารพพระพุทธเจ้าให้อยู่สูงกว่าเสมอครับ พอได้ยินอย่างนี้ซึ่งก็หลายปีมาแล้ว ตั้งแต่นั้นมาก็เลยอยากรู้เกี่ยวกับสายต่างๆ ว่าการเวียนว่ายตายเกิดสร้างบารมีต่อยอดในสงสารวัฏนี้เขามีสายกันกี่สาย และมันมีความต่างกันอย่างไร
    ความจริงผมก็พูดไปว่า "จะสายอะไรสุดท้ายก็ต้องไปเป็นพระ(ทำจิตให้เป็นพระ)เหมือนกันหมดไม่ใช่เหรอ?" แต่ดูๆเขาจะไม่เข้าใจที่ผมสื่ออกมาในส่วนที่วงเล็บไว้ว่า "จิตเป็นพระ" คือถ้าถึงเวลาพ้นวัฏฏะสงสารจิตก็เป็นพระกันหมด ญาติก็เลยพูดตัดจบว่า "ของเธอสายพระ มันคนละสายกันนะ.." น่าจะเพราะไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ก็เลยไม่ได้คุยกันในเรื่องของสายเหล่านี้ต่อ ซึ่งตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่คุยกันในเรื่องภพภูมิ ซึ่งต่างคนต่างก็ยังไม่รู้อะไร ญาติผมก็รู้เฉพาะแค่ที่ท่านบอกและไม่บอกหมดด้วย หลายปีผ่านไปก็พอจะเข้าใจอะไรมาบ้างพอสมควรแล้ว ซึ่งความรู้สึกตอนนี้ก็คือ พอจะเข้าใจแต่ไม่รู้จะพูดออกมาเป็นคำพูดยังไง แต่ก็สร้างบารมีกันไปเรื่อยๆให้สมปรารถนาตามภูมิธรรมของตนเองนั่นแหละครับ


    ..... คุรทำให้ กาลีนะ เกิดความอยากรู้อยากเห็นสะแล้วสิคะ ... " สายเทพ กับ สายพระ " มัน คืออะไร เพราะตอนแรกไม่สนใจคะ ..

    รับรู้แค่ว่า

    ..... สายพระ ( พระ ) คือ ผู้รักษา ( ตัวแทนพุทธองค์ ) + เป็นตัวแทนพุทธองค์เผยแพร่ธรรมะ + เป็นผู้สละความสุขทางโลกเพื่อค้นหาสัจจะธรรมของชีวิตมุ่งเข้าสู่การหลุดพ้นจนนิพพาน ฯ คือ จะประมาณนี้คะ

    .... สายเทพ ( ผู้มีองค์เทพเทวดา ) คือ ผู้ที่มีจิตใจดีงาม อ่อนน้อมถ่อมตน ( ไม่ใช่อ่อนแอนะคะ )มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา + เป็นอุบาสก อุบาสิกา ที่จะช่วยทำนุบำรุงศาสนาให้สืบไป + เป็นผู้เสียสละตนเองเพื่อแบกรับทุกข์ของผู้อื่น ฯ

    ..... ส่วน " จิตเป็นพระ " กาลีนะ ก็เพิ่งรู้จักคำนี้เมื่อปีนี้เองแหละคะ .. เพราะ กาลีนะ ไปเจอพี่คนหนึ่งในเว็ปพลังจิตนี้แหละคะ .. ตั้งแต่เห็นโพสต่าง ๆ ของพี่เขาเราก็รู้สึกดี และ รู้สึกถึงความมีเมตตาของพี่เขา และ คิดว่าพี่เขาต้องเป็นพระแน่นอนไม่ผิดแน่ ๆ .... เลยจดหมายไปเรียนถามตรง ๆ เลยคะ ... คำตอบที่ได้คือ ... พี่เขายังเป็น " คนธรรมดา " นี้แหละคะ ตอนนี้ก้ยังเรียนปริญญาเอกอยู่เลยคะ .. พี่เขาขำมากเวลาที่ กาลีนะ ทักอะไรเขาไป ... คงเพราะเราถามเขาตรง ๆ เลยมั้งคะ .. ทุกวันนี้ก็ยังคงสัมผัส " จิต เป็น พระ " ของพี่เขาได้อยู่เช่นเดิม แต่แค่มีจิตของชั้นพรหมเข้ามาร่วมด้วยเนื่องจาก ... มีหลายท่านมาเป็นพันธมิตรกัน .. แต่ถ้าถามว่าลักษณะตัวพี่เขาจริง ๆ ก้เหมือนพระอยู่ดีแหละคะแค่ไม่ได้นุ่งเหลืองห่มชุดแบบพระ .. ส่วนพี่อีกท่านไม่ได้ถามแต่ก็ทราบว่าพี่ท่านมีพระอยู่เพียงแต่ไม่ค่อยได้คุยกันเพราะเวลาไม่ตรงกัน .... แต่ปัญหามันก็มีอยู่นะคะ .... ปัญหาคือ มีหลายท่านสลับเข้าออกเราเองก้จะเริ่มงงว่าตอนนี้ใคร แล้วเมื่อกี้ใครมาสอน ... เลยตัดปัญหาใครมาก็ช่างเอาคำสอนคำแนะนำมาใช้ก็พอแล้ว ...


    ..... สำหรับท่านของ กาลีนะ ก็เกิดมาพร้อมกันนี้แหละคะ แค่สลับตามช่วงเวลา มีบ้างที่ท่านอื่นอยากแวะมาใช้บริการ ... แต่อาจเป็นเพราะ กาลีนะเป็นคนแปลก ๆ มั้งคะท่านอื่นเลยปฏิสัมพันธ์ลำบาก อิอิ ไปที่ไหนก็ถูกหาว่า ดื้อคะ ... จริง ๆ ดื้อมาก และ รั้นมากคะ .. เป็นพวกหาคนจะมาเป็นครูได้ลำบากมาก ... ต้องศึกษาด้วยตนเองมากกว่า .. เรียนรู้จากสิ่งรอบตัวคะ ...
     
  3. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    สายพระ คือ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกมากนัก เน้นการสันโดษฝึกอยู่เงียบๆ รู้หลักธรรมทั้งหมดให้แจ้ง เลือกเอาปฏิบัติให้ได้แล้วไปตัดอาสวะกิเลส เข้านิพพานต่อไปไม่ขอมาเกิดอีก

    สายเทพ จะเน้นการสวดมนต์ ภาวนา คาถา พาหมู่คนมาทำบุญร่วมกัน ศึกษาธรรมะยกเว้นการตัดอาสวะกิเลส ไม่ขอเข้านิพพานขอกลับมาเกิดเพื่อช่วยเหลือผู้คนต่อไปเรื่อยๆ

    จิตเป็นพระ คือการปฏิบัติธรรมที่บ้าน บวชที่ใจไม่ใช่แค่ร่างกาย ปฏิบัติธรรมที่ไหนก็ได้ ศีล 5 เป็นพื้นฐานของความดีทั้งหมดไม่ต้องถึง 8 เอาตามที่เราสามารถทำได้


    จะสายอะไรก็ตาม การทำความดีเป็นพิ้นฐานของคนดี หมั่นทำความดี ละความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ มองความผิดของตนเองก่อนความผิดผู้อื่น สำรวมกาย วาจา ใจ ก็นับว่าประเสริฐแล้ว

    โอม คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิสวาหา
     
  4. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .. สาธุคะ ...

    .... อนุโมทนา ในคำชี้แนะคะ ...
     
  5. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... เดี๋ยวคืนนี้จะมาตั้งคำถาม และ ตอบคำถามที่ทุกคนต้องเคยรู้สึกแบบ กาลีนะ เวลาที่ใครทักว่าเรามีองค์ .... เคยเป็นไหม๊คะ .. เช่น

    1. เขาใช้อะไรดูว่า " ใครมีองค์ หรือ ไม่มีองค์ " ?

    2. ถ้าเรามีเราจะต้องทำอะไรยังไงต่อไป ... ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปไหม๊ ?

    3. ใครที่เป็นองค์ของเรา ?

    4. แล้วเราจะต้องรับขันธ์ไหม๊ .. ถ้าไม่อยากรับต้องทำยังไง ?

    5. แล้วเราจะทำอะไรแบบที่คนอื่นเขาทำได้ไหม๊ เขาทำยังไงกัน ( ที่เจ้าตำหนักเขาทำกัน ) ?

    6. แล้วเวลาไหนที่องค์ลงเราจะรู้ได้ยังไง .. จะแยกได้ยังไง ว่าไหนองคืมาจริง ๆ หรือ โดนหลอก ?

    7. แล้วเรื่องแปลก ๆ ที่เรามี เราเจอ มันเกี่ยวกับการมีองค์นี้ไหม๊ ?

    8. เขามีการแยกประเภทยังไง .. ?

    9. ถ้าเราตัดสินใจเลือกทางเดินให้ตนเองแล้วจะเกิดอะไรกับเราบ้างในวันข้างหน้า ?

    10. แล้วเราจะให้ใครมาสอนเรา. การพิจารณาเลือกครูเขาใช้อะไรมาตัดสิน ?

    ..... คือ สมองของ กาลีนะ มันจะวิ่งมาเป็นชุด ๆ เลยทีเดียว ... จริง ๆ มีคำถามเกิดในใจมากกว่านี้คะ แต่จำไม่ได้เพราะมันนานแล้ว ... หรือใครที่เคยผ่านช่วงนี้มาเอามาแชรื และ หาคำตอบช่วยกันนะคะ .. จะได้เป็นวิทยาทาน และ เคสตัวอย่าง ... ช่วยกันวิเคราะห์ก็ดีคะ ..
     
  6. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ไม่ค่อยได้คลุกคลีและไปเข้าร่วมอะไรกับส่วนนี้มาก ไม่ค่อยรู้รายละเอียด ตอบไม่ได้
    แต่ข้อ
    10. ถ้าเลือกครูส่วนตัวแล้วถ้าเลือกจะเลือกที่ ศีล สมาธิ ปัญญาท่านครบถ้วน และบารมีสูงๆหรือที่ท่านเต็มแล้ว เพราะเลือกที่ท่านรู้จริง ที่คอยชี้แนะได้ถูกทางในยามที่เราไขว้เขวหรือหลงทาง และที่คิดว่าเขาจะชักชวนไปในทางที่ดี แต่จะรู้ได้อย่างไรนี่สิ.. ส่วนเรื่องกำลัง(พละ)นั้นเป็นเรื่องของเราต้องทำเองทั้งหมดอยู่แล้วครับ

    เรื่องสายต่างๆนั้น ผมรู้สึกว่ามันจะยังขาดอะไรไปและยังไม่อาจรับได้ว่าเป็นอย่างนั้นจริงทั้งหมด คงต้องละเอาไว้ก่อน
     
  7. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    2. เปลี่ยนมาก เหมือนเป็นตู้โทรศัพท์สาธารณะใครอยากจะใช้ก็มา ต้องขอว่าให้เฉพาะองค์นั้นๆลง ไม่เป็นร่างสาธารณะ

    3. ท่านบอกรู้ไปก็ไม่ได้เก่งขึ้น ไปปฏิบัติให้ได้ดี

    4. เลือกเองที่จะไม่รับ รับขันธ์พระพุทธเจ้าแทน (ศีล 5)

    5. โดนบังคับให้เปิดตำหนักช่วยคน ก็ขอลดเหลือแค่ถ้ามีใครมาให้ช่วย ก็จะช่วย

    6. มีพระพรหมกับพระแม่ธรณีมาเป็นพยาน ครั้งแรกลงเต็มองค์ ฟ้อนรำคุมตัวเองไม่ได้

    7. ไม่แน่ใจ เพราะปรกติก็เจออะไรแปลกๆตั้งแต่เด็ก (มารู้ตอนโตแม่เคยไปขอลูกกับพระ)

    9. ข้างหน้ายังไม่รู้ แต่ตอนนี้มีลูกศิษย์เรียกอาจารย์แล้ว (ยังไม่แก่) ไปช่วยงานตำหนักไหน ศาลเจ้าไหน ลูกศิษย์เค้ามาไหว้เราแทน โดนไล่จากตำหนักมา 3 รอบละ

    10. ครูท่านเลือกมาสอนเราเอง ไม่มีสิทธิ์เลือก แต่ก่อนเคยมีวิทยาธรจะมาสอนทำเสน่ห์ เรียนไปครึ่งทางก็ไม่เอา รู้สึกมันไม่ใช่แนวของเรา

    ทุกวันนี้ใครมีเรื่องหนักขอให้ช่วยก็ช่วย แต่ต้องไม่เกินกรรมและถึงวาระที่เค้าจะหมดกรรม ส่วนมากจะมาให้ช่วยหนุนดวง แก้ดวงตก ตรวจดวงชะตาเสียมากกว่า
    แต่ก่อนมักเคสหนักๆ เจ้ากรรมนายเวร โดนเสน่ห์ คนหายผีลักไปซ่อน เมียหลวงให้มาดูว่าสามีมีเมียน้อยไหมนี่เลิกช่วยละ ช่วยทีไรเดือดร้อนด้วยทุกที
    ตอนนี้ขอเอาตัวเองให้รอดก่อน กลัวตกรถไม่ได้ไปนิพพาน

    ปล.ถนัดรักษาโรค ไม่ได้เลยเรื่องใบ้หวย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  8. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ..... เรียน ท่านผู้ติดตามอ่านกระู้ทุกท่าน ... ช่วงวันสองวันนี้อาจจะไม่ได้เข้ามาตอบนะคะ .. เพราะต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ และ ภาระกิจส่วนตัวที่เครียยังไม่จบ .. จึงอาจจะไม่ได้มาตอบนะคะ .. ขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยคะ ..

    .... เนื่องจากช่วงนี้ กาลีนะ ทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันจึงจำเป็นต้องเลือกความสำคัญก่อนหลัง .. ถ้ามีเวลาจะมาโพสเรื่อย ๆ นะคะ ..
     
  9. Kunanop

    Kunanop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +218
    มีความสงสัยอย่างหนึ่งครับ
    1.หมอดูรู้ได้อย่างไรว่าเราเก็บพระไว้ในกระเป๋า เป็นกระเป๋าสะพายมิดชิดไม่สามารถมองเห็นข้างในได้แน่นอน เขาทักผมว่าเอาพระใส่กระเป๋าไว้ทำไม น่าจะเอามาห้อยคอ
    2. หมอดูทราบได้อย่างไรว่าเราไม่ค่อยสวดมนต์
     
  10. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ตอบคุณ Kunanop

    มีหลายวิธี เช่น ญาณของตน เทวดาบอก ผีบอก มีคนบอกมาอีกที เดามั่ว ก็ต้องพิจารณาเป็นรายกันไป
     
  11. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    มีความสงสัยอย่างหนึ่งครับ

    ... กาลีนะ ก็เจอบ่อยคะที่ทักแบบนี้ ... ขอตอบตามที่ทราบแล้วกันนะคะ


    1.หมอดูรู้ได้อย่างไรว่าเราเก็บพระไว้ในกระเป๋า เป็นกระเป๋าสะพายมิดชิดไม่สามารถมองเห็นข้างในได้แน่นอน เขาทักผมว่าเอาพระใส่กระเป๋าไว้ทำไม น่าจะเอามาห้อยคอ

    *** ก่อนอื่นคุณต้องรู้จักก่อนว่า หมอดู เขามีกี่แบบ
    1. หมอดูดวงชะตาโดยการเรียนจากตำรา .. ซึ่งส่วนมากจะยึด "พรหมชาติ" เป็นหลัก .. แล้วก็ยังมีแยกย่อยไปอีก เช่น หมอดูจีน (ซินแส ), หมอดูแขก , หมอดูพม่า ฯ เป็นต้น .... จะดูไม่ได้ว่าคุณมีอะไรพกมาบ้าง .. พวกนี้จะทำได้แค่แบบ ... จับยามสามตาได้คะ .. ถ้าโปรฯ จริง ๆ ก็คงจะรู้ได้คะ แต่ยังไม่เคยเจอ

    2. หมอดูจากข้อที่ 1 แต่เป็นพวกมีความสามารถพิเศษติดตัวมา หรือ ฝึกจนมีจักษุทิพย์ , หูทิพย์ หรือ เลี้ยงพรายกระซิบไว้ (พรายกระซิบจะมีระดับเยอะคะ ) .... พวกนี้จะดูรู้คะว่าเราพกพระ หรือ ของขลังติดตัวมา ซึ่งจะเห็น หรือ สัมผัสได้ถึงพลังงานอันนี้ก็แล้วแต่คน ๆ นั้นคะ .. เช่น บางคนก็มองเห็นกายทิพย์เดินตาม แฝงมา ขี่คอ เหยียบหัว ฯ หรือ เห็นเป็นพลังงาน "รัศมี รังสี " ที่แผ่ออกมาจากวัตถุนั้น ๆ ก็จะสามารถแยกออกได้ตามสีที่เห็น .. ก็จะสามารถบอกได้ ... หรือ สัมผัสถึงพลังงานในรุปแบบอื่น ๆ ถ้าชำนาญก็จะแยกได้คะ ... หรือ ได้ยินเสียงจากพรายกระซิบมาบอก

    3. หมอดูญาณทิพย์ ... พวกนี้จะไม่ค่อยได้เรียนดูดวงมาคะ อาศัย ญาณทิพย์ ที่มีติดตัวมา หรือ ฝึกสมาธิจนสามารถล้วงรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ด้วย ฌาณ หรือ ญาณ ทิพย์ที่ตนเองมีคะ .. อันนี้ก็อยู่ที่ระดับของคนนั้นว่าได้ถึงขั้นไหน .. ส่วนมากจะบอกได้คะ

    4. หมอดูที่ใช้อุกรณ์ .. เช่น ไพ่ ไข่ ไม้เสี่ยงทาย ... อันนี้ก็สามารถบอกได้คะ อยู่ที่ความชำนาญของแต่ละบุคคล


    ..... ก็ไม่รุ้จะเอาอะไรมาการันต์ตีความแม่นของหมอดูนะคะ .. เหมือนอย่างที่เคยได้ยินกันมานั้นแหละคะ ... " หมอดู คู่ หมอเดา " เพราะวิชาหมอดูจะเป็นการใช้หลักการของ " สถิติ ตรรกวิทยา ความน่าจะเป็น ฯ " ในการทำนายทายทัก ... เป็นการใช้วิทยาศาสตร์โบราณ คือ การตั้งข้อสังเกต ตั้งสมมติฐาน ทดลอง จดบันทึก วิเคราะห์ และ สรุปผล .. มันยังต้องอาศัยความชำนาญส่วนบุคคลเข้าช่วยด้วย .. ถ้าหมอดูขาดคุณสมบัติพื้นฐานก็จะกลายเป็นหมอเดาทันทีคะ .... อย่างเช่น กาลีนะ ก็สนใจวิชาโหราศาสตร์มาตั้งแต่เด็กอยากรู้อยากเห็นไปเรื่อยก็พยายามค้นคว้าว่าเขารู้ได้ยังไง ทำยังไงจะทายได้แม่นยำ .. จนทุกวันนี้ก้ยังต้องเปิดตำรา และ อาศัยเครื่องทุ่นแรงอยู่เลยคะ .. เพราะมันแม่นยำกว่าการจดจำเอาคะ .. ใช้หลักการประยุกต์หลาย ๆ อย่างมาใช้ให้ได้ความใกล้เคียงที่สุด ... พระอาจารย์บุญชู กับ หลวงปู่ฤษีตาไฟ (วัดหนองทาระภู ชัยนาท ) ท่านก็แนะให้ไปฝึกสมาธิสิ แล้วจะรู้ทุกอย่าง ... กาลีนะ สามารถทำได้ไม่ต้องไปดูดวงกับใครหรอก .... แต่ กาลีนะ ก็ไม่ทำคะ .. คือ ลองนั้งสมาธินะคะแต่นั้งได้ทีละแป๊บเดียวก้ต้องออก ... ใจมันไม่ชอบการนั้งสมาธิคะ .. นับถือคนที่นั้งได้จริง ๆ คะ เลยฝึกสมาธิในแบบอื่นแทน ... แต่ก็ไม่สามารถทายเรื่องที่คุณถามได้คะ ... แต่แฟน กาลีนะ เขาจะตอบได้คะ ... แต่ไม่ใช่ทุกครั้งนะคะ .... เขาบอกว่ามันเป็นภาพขึ้นมาเองตรงกลางหน้าผากถ้าหลับตามันจะชัด ... คือ เขามักเห็นภาพแปลก ๆ บ่อยคะ .. ทำให้ทุกวันนี้เราทำงานเป็นทีม ...


     
  12. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ........ ช่วงนี้อาจหายไปหลายวันนะคะ .. เพราะมีภาระกิจต้องไปแสวงบุญทางเหนือหลายวัน .. และ มีกิจจำเป็นเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขยิ่งใหญ่มากสำหรับ กาลีนะ ถ้ามีเวลาจะมาโพสต่อนะคะ ... กราบขออภัยทุกท่านด้วยคะ . ช่วงนี้ ภาระเยอะจริง ๆ
     
  13. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    1. เขาใช้อะไรดูว่า " ใครมีองค์ หรือ ไม่มีองค์ " ?

    ตอบ มันมีหลายวิธีด้วยกันในการดู ...

    1. ผี เห็น ผี คือมันจะรับรู้ในใจเราเองว่าอีกฝ่ายมีหรือไม่ พวกเดียวกัน หรือ ไม่ ... มันเป็นการใช้ความรู้สึกตัดสิน .. บางทีมันก็พลาดเหมือนกันนะคะ .. อันนี้ทดสอบเองแล้วบางทีก้ยังมีพลาดเหมือนกัน .. ไม่ใช่สามารถบอกได้ว่าใครมีอะไรนะคะ แค่รู้สึกว่ามีความพิเศษในตัวคนนั้นเฉย ๆ บางคนจะรู้สึกคุ้นเคย หรือ เหมือนเคยรู้จักก็มี อาจจะเป็นเพราะเคยมีอดีตชาตอร่วมกันก็ได้ ... ซึ่ง กาลีนะ ก็ฝึกการแยกแยะอยู่ยังไม่เก่ง .. ยกเว้นบางท่านที่มีความโดดเด่นออกมาเลยอันนี้จะรู้ได้เลย แต่ก็แค่รู้ว่าท่านนั้นบารมีสูง .. เป็นต้น

    2. การตรวจจากดวงชะตา ... อันนี้จะใช้วันเดือนปีเกิดมาคำนวณดูว่ามีส่วนเกี่ยวข้องมากแค่ไหน ... หรือ ดูจากชื่อสกุลว่ามีแนวโน้มในการเข้าไปผัวพันธ์กับเรื่องแนวนี้หรือเปล่า .. ซึ่งบางคนจะแสดงออกมาเลยว่ามีความเกี่ยวข้องในดวงชะตา.. บางครั้งต้องผูกดวงในเชิงลึกถึงจะทราบก็มี ( ทำไม่เป็นคะ ) .. อันแรกนี้ทดลองมาเกินร้อยคนแล้วเห็นว่าใช้ได้คะ .. มีทั้งเกี่ยวข้องแบบมารักษา เป็นเจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ แม้แต่ตัวเองก็ทำการทดสอบมาแล้วก็ขึ้นมาให้ทราบโดยชัดเจนว่ามี และ ให้เดินทางใด ... ก็ยังคงอยู่ในขั้นศึกษาอยู่เช่นเดิมในกรณีนี้

    3. การดูโดยใช้ ญาณ หรือ ฌาณ บางคนก็มีติดตัวมามากบ้างน้อยบ้างว่ากันไป อยู่ที่ความใส่ใจฝึกฝนของเจ้าตัวด้วย อันนี้ ทดลองเองไม่ได้คะ มีแค่เลียบ ๆ เคียง ๆ ถามคนอื่นเอาคะ ...

    4. ไปรับขันธ์ อันนี้มีแน่คะไม่ต้องสงสัย .. เรียกว่า การรับมาเอง แต่จะรับอะไรมานั้นอีกเรื่องหนึ่งนะคะ ... ไม่ทราบด้วยเหมือนกัน

    ... เมื่อเดือนที่แล้วที่กาลีนะไปทำบุญที่สกลมา .. พระที่รับสังฆทาน กาลีนะ ท่านมองหน้าแล้วมองหน้าอีก ตอนจะผูกแขนก็ยื่นมืออกไปให้ท่านผูกแขนให้ท่านก็เปรย ๆ ออกมาว่า " ทำไมรับมาเยอะจัง " กาลีนะ หันซ้าย หันขวา ไม่มีใครก็เลยตอบท่านว่า ถ้าฝ้ายผูกแขนนี้ไปทำบุญพระท่านผูกให้ไม่เคยถอดรอให้เปื่อยไปเองรึขาด ส่วนกำไลมีแค่ 1 อันที่มาจากวัด ที่เหลืออุดหนุนหลานคะตัวเองก็ชอบและเคยอยากได้ .. แต่ถ้าสิ่งที่มองไม่เห็นก็เขาตามมากันเองก็ดูแลกันไปตามสภาพคะ ... ท่านก็พยักหน้า
     
  14. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ตอนนนี้ภาระกิจก้สำเร้จไปเกินครึ่งแล้วคงพรุ้งนี้จะกลับมาเล่าเรื่องราวต่อนะคะ ... มีเรื่องใหม่ ๆ มาเล่าสู่กันฟังหลายเรื่องเลยคะ ... รวมทั้งเรื่องของเพื่อนรักอีกคนที่ตอนนี้เป้นตายเท่ากัน .. จะขอเล่าในวันถัดไปนะคะ วันนี้ขอมารายงานตัวก่อน..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2013
  15. aejj

    aejj สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +5
    รอฟังอยู่นะค่ะ
     
  16. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ตอนนี้เธอคนนั้นได้สิ้นใจไปอย่างสงบตอนเวลา 07.06 น. ของวันที่ 26 / 12 / 56 .. ตอนนี้ กาลีนะ กับเพื่อน ๆ คงเวียนกันไปช่วยงานศพเพื่อน .. ตอนนี้ก้ฝึกพับดอกไม้ไว้โปรยในวันเผาศพวันอาทิตย์นี้ ... และ คงจะไปจุดธูปขอเธอว่าจะขอเอาเรื่องของเธอบางส่วนในแง่มุมที่ กาลีนะ รับรู้มาลงในหัวข้อนี้เพราะมันเกี่ยวข้องกับหัวข้อพอดี ... ซึ่งเพื่อน กาลีนะ ตายมา 2 คนแล้ว .. ไม่รู้ว่ามันคือความบังเอิญ หรือ กาลีนะ คิดไปเอง ก็แล้วแต่ทุกท่านจะพิจารณานะคะ ถือว่าเล่าสู่กันฟัง ...

    ...... ไม่อยากให้เกิดการ " ปรามาส " เกิดขึ้นเพราะพระอาจารย์ที่อยู่ใกล้ กาลีนะ ท่านได้เตือน และ ใส่มาเป็นชุดด้วยภาษาที่ฟังกี่รอบก้ไม่รู้เรื่อง .. แต่ท่านก็มักบอกว่า " เจ้ากะเว้าได้ฟังได้เป็นหยั๋งจังบ่เว้า " .. ก็คนมันไม่รู้เรื่องอะจะให้ทำไง --" ... แต่ท่านก็ให้กำลังใจ กาลีนะ เสมอคะโกรธกันไม่ลง .. ท่านให้อดทนไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ให้สาธุรับเอาหมด ... แล้วผลกรรมนั้นจะย้อนเข้าหาคนที่ว่าเราเอง .. ท่านบอกว่ามันคือ " กรรมปรามาส " วึ่ง กาลีนะ เองก้ยังไม่เข้าใจนั้งคิดอยู่หลายวันแล้วตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้วจนวันนี้ก็ยังคิดอยู่ว่ามันจะเกิดผลยังไง ... แล้วกรณีพูดยังไงถึงเข้าข่าย .... แต่ท่านก็ยกตัวอย่างตัวท่านเองที่สมัยก่อนก็ถูกชาวบ้านหาว่า " ท่านบ้า " ท่านก็ไม่พุดอะไรจนตอนนี้คนที่ว่าท่านก็มานั้งยกมือไหว้ท่านกราบท่านแทบทุกคน .... ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไปคะ ...
     
  17. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    2. ถ้าเรามีเราจะต้องทำอะไรยังไงต่อไป ... ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปไหม๊ ?

    ตอบ ... ไม่เปลี่ยนไปมาก ... แค่ต้องเคร่งเรื่องศีลให้มากขึ้น .. ทำบุญ + สวดมนต์ มากขึ้น ... และ ศึกษาหาความรู้ใส่ตัวเยอะขึ้นเพื่อความปลอดภัย ...

    ... ส่วนเรื่องการมาแฝงไม่มีปัญหา ... ราบเรียบดีเหมือนคนเดียวกัน น้อยครั้งที่จะไม่รู้สึกตัวมีเพียงแค่เสียการควบคุมเล็กน้อยแต่ก็ยังรับรู้ตัวเอง .. สมัยก่อนแยกไม่ออกคิดว่าตัวเองคงเป็นพวก 2 บุคคลิก เลยเริ่มฝึกสังเกตความแตกต่างจนสามารถแยกออกได้ .. ไม่ค่อยมีปัญหาที่มีองค์นั้นองค์นี้เข้า ๆ ออก ๆ เพราะมักเป็นองค์เดียวกันเสมอ .. มั้งคะ ... จะมีปัญหานิดหน่อย คือ เวลาโมโหมาก ๆ จนขนหัวตั้ง คือ มันจะรู้สึกพรึ๊บขึ้นมาเหมือนมีไฟลุกพรึ๊บแรง ๆ หูอื้อ ตัวจะรู้สึกเบาเหมือนลอยได้ ใจสมองจะประสานกันเป้นคำเดียวเลยคะ " ทุกอย่างต้องพินาศ " " ม..ง ตาย " มันจะดังอยู่ในหัวแบบนั้น .. คราวนี้แหละคะจะไม่สามารถควบคุม การพูด การกระทำของตัวเองได้ .. มักพูดภาษาโบราณ (ไทยโบราณ ) จำได้ว่าเคยพูดจาคล้ายสาปแช่งไปเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ... ซึ่งก็เกิดขึ้นกับลูกสาวของคนเกือบทั้งหมู่บ้านคิดถึงทีไรก็เสียใจว่าทำไมพูดแบบนั้น .. เพื่อนบอกว่า กาลีนะ คิดไปเอง ... แต่มันเป้นแบบนี้เกิน 5 ครั้งที่เคยพุดจาแบบสาปแช่งคนอื่นไป หรือ คนที่สัญญาแล้วผิดสัญญา ... ตอนนี้มารู้ว่ามันกลายเป็นกรรมที่ทำร้ายตัวเองจนทุกวันนี้
     
  18. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    3. ใครที่เป็นองค์ของเรา ?

    ... มักเป้นคำถามยอดฮิตของทุกคนที่เจอเรื่องแบบนี้ .. ความอยากรู้อยากเห้นของคนมันไม่เข้าใครออกใคร .. อย่าบอกว่าถ้ามีคนทักคุณแล้วคุณจะไม่อยากรู้ต่อปากก็บอกว่าไม่ไร้สาระแต่ใจคุณก็ยังคิดเหมือนเดิมอยู่ที่จะยอมรับไหม๊ .....

    .... กาลีนะ ยอมรับว่าอยากรู้ และ อยากรู้มากคะขอบอกไม่อาย .. และก็เริ่มการค้นหาคำตอบให้ตัวเอง ... ทั้งที่ความจริงคำตอบของคำถามก็แสดงตัวตั้งแต่แรกแล้วจนตอนนี้มั่นใจแล้วว่าเป็นยังไง ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2013
  19. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    4. แล้วเราจะต้องรับขันธ์ไหม๊ .. ถ้าไม่อยากรับต้องทำยังไง ?

    ... คำถามข้อนี้เองที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณทั้งชีวิตได้เลย .... เพื่อน กาลีนะต้องเสียไปก็เพราะข้อนี้นะเอง หรือ แม้แต่ตัว กาลีนะ เองที่รอดได้ทุกวันนี้ก็เพราะการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใส่ตนเองบวกกับเชื่อสัญชาติญาณที่มี ... มันเป็นเรื่องของความเชื่อ และ ความศรัทธาเฉพาะตัวบุคคลคะ ... อยากให้ใช้สติปัญญาความรอบคอบให้มากก่อนที่จะรับ ควรพิจารราทุกด้านก่อนว่าสมควรรับไหม๊ .. ไม่ใช่อยู่ ๆ พอมีคนทักว่ามีองค์ก็รับเลย ... ไม่ได้นะคะห้ามเด็ดขาดเลย ... มันควรจะมีเหตุมากพอที่จะรับเพราะถ้ารับมาแล้วดูปแลไม่ได้ความ " วิบัติจะบังเกิด " อย่างหลีกเลี่ยงลำบากไม่คุ้มกัน

    ... แต่กรณีเพื่อนที่ตายนั้น " สมควรรับ " เพราะอายุขัยนางนั้นสั้นมากอายุแค่ 37 ปี ก็ต้องลาโลกไป แต่ด้วยจิตใจอันดีงามของนางทำให้มีนางฟ้าในชุดสีขาวเมตตาจะยืดเวลาให้นางเพียงแค่นางยอมรับโอกาสนั้น ... แต่มันก้สายไป ... แม้แต่ กาลีนะ ก็ช่วยไม่ได้ทำได้แค่ยืดเวลาให้ไม่กี่วันเท่านั้น ... อันนี้จึงสมควรรับเป็นอย่างมากเพราะท่านมาลอยอยู่เหนือร่างนางเฝ้ารอจนวินาทีสุดท้ายแต่ก็ไม่มีใครทำให้นางจนนางหมดลมไปเอง .. ด้วยญาติของนางไม่เชื่อเรื่องนี้ กาลีนะ ก้ได้แต่ปลงเท่านั้น

    .... ถ้าหากเราไม่อยากรับขันธ์ .. มันก็พอมีทางอยู่บ้าง .. แต่ต้องดูก่อนว่าองค์ท่านมาแบบไหน เกิดมาเพื่อรักษาเรา, มาสร้างบารมี (แบบนี้จะแรงหน่อย) , เราไปรับมาเอง ต้องพิจารณาให้ดี ๆ ก่อนนะคะ ... วิธีแก้มันต่างกัน ความรุนแรงก็ต่างกันออกไปด้วย ... สูตรใครสูตรมันคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2013
  20. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    5. แล้วเราจะทำอะไรแบบที่คนอื่นเขาทำได้ไหม๊ เขาทำยังไงกัน ( ที่เจ้าตำหนักเขาทำกัน ) ?

    ... ข้อนี้มันเป็นความเหลื่อมล้ำกันมาตั้งแต่เกิดเลยคะ .... เพราะบางคนเกิดมาพร้อมวาสนาบารมีเก่ามากมาย .. บางคนถูกกำหนดให้มาสร้างใหม่เองยากง่ายแตกต่างกันออกไปยิ่งผู้ตั้งจิตจะมาสร้างบารมีเพื่อบรรลุแล้วนั้นยิ่งเจอด่านยากแน่นอน ... ตัวนี้เช็คได้จากดวงชะตาคะ กาลีนะ ลองตรวจมาหลายคนแล้วคะ เห้นว่าใช้ได้ ...

    ..... ส่วนของ กาลีนะ เกิดมาพกวาสนามาน้อยคะ ต้องมาสร้างเองใหม่เลย .. ท่านผู้รู้ทั้งหลายก็แนะนำให้ฝึกสมาธิ .. ซึ่งส่วนตัวบอกตามตรงไม่ชอบไม่พร้อมจึงหาทางออกให้ตัวเองด้วยการฝึกกำหนดลมหายใจในทุกอริยาบทจนนิ่งว่างแต่รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ตอนนี้เลยให้พี่ท่านสอนการลดสมาธิลงมาพี่เขาก็หัวเราะว่า กาลีนะ เป็นพวกมีความสามารถแต่ใช้ไม่เป็นแกเลยบอกว่าถ้า กาลีนะ เลิก " บ้าพลัง " เมื่อไหร่แกจะสอนให้ 55555 คาดว่าคงอีกนาน ... อย่างเรื่องมโนยิทที่ฮิต ๆ กันก็เคยมีพี่คนหนึ่งมาสอนให้ช่วงหนึ่งแต่ไม่ใช่แนวที่เหมาะกับ กาลีนะ มั้งคะเพราะพี่เขาสอนอย่างหนึ่ง กาลีนะ ก็ไปอีกอย่างหนึ่งเอาง่าย ๆ แค่ระลึกพระให้ใส่เหมือนแก้ว กาลีนะ ยังเห้นเป็นแก้วสีเขียวใสทรงเครื่องจักรพรรเลยคะ แถมยังนึกไปเห็นอดีตเยอะแยะควบคุมอารมณ์ให้นิ่งไม่ได้ พอเปลี่ยนจากนอนมานั้งยิ่งไปใหญ่ ... แต่มันจะคล้าย ๆ กันอย่างคือ ตัวเบาลอย ... แต่อย่างว่าละคะฝึกแค่ครั้งสองครั้งพี่แกจะให้ทำเหมือนสั่งได้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ... แถมตัวพี่เขายังเข้าบ้าน กาลีนะ ไม่ได้เลยต้องให้อนุญาติก่อนถึงเข้าได้ ... ก็ด้วยความเป้นคนขี้กลัวคะ ก่อนจะมีพี่มาติดต่อสอนดันนอนฝันว่ามีฤษีตนหนึ่งมาลองของมาขโมยพระขรรค์ (ความจริงมีแค่มีดตัดลูกนิมิต ) กับ ของบนหิ้งพระเราไปแถมสู้กันจนเราพลาดโดนแทงที่ท้องแต่ฤษีตนนั้นก็แพ้หนีไปจึงเกิดความกลัวเลยจุดธูปอธิฐานบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านไว้ให้ดูแลเราใครมาไม่ดีอย่าให้เข้ามาไล่ไปเลย .... ส่วนเรื่องอื่น ๆ ยาวเอาแค่นี้ก่อนนะคะ เอาเป็นว่าทุกวันนี้ กาลีนะ ก้ทำไรไม่เป็นนอกจากความรู้ที่ศึกษามาคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...