ประกาศรายชื่อผู้ได้รับ พระบูชา สมเ็ด็จองค์พระปฐมต้น ได้รับทุกท่านครับผม

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย aetipp, 9 กรกฎาคม 2012.

  1. chun2010

    chun2010 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +44
    ลำดับที่ 54

    วิธีแก้ทุกข์เมื่อมีทุกข์ก็คือ "ช่างมัน" (บอกตัวเองให้คิดง่าย ๆ ตามหลักของกฎไตรลักษณ์) พยายามทำให้ทุกข์นั้นมีอายุสั้นที่สุด (อย่าไปต่ออายุให้มัน...มันจะ..ทุกข์นาน) ทุกข์ สุข อยู่ที่ใจ (จิต) กำหนดได้..ด้วยตนเอง

    ขอรับรายการที่ 1
     
  2. siriroj

    siriroj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +562
    วิธีแก้ทุกข์ คือ การที่จะหาวิธีการแก้ทุกข์หรือดับทุกข์นั้นจะต้องรู้ก่อนว่าทุกข์เกิดจากอะไร อะไรทำใ้เกิดทุกข์ และจะใช้อะไร เป็นตัวที่ใช่ในการดับทุกข์ โดยทั้วๆไปจะเห็นได้จากหลายๆที่บอกว่าให้ใช้สตินั้นในการดับทุกข์ เพราะการมีสติทำให้เรารู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้เราตัดสิ้ใจได้ว่าจะต้องทำอะไร และเราต้องมีสัมปชัญญะ ในการตริตรองว่าทุกข์มีเหตุจากอะไรเราจะได้แก้ไขทุกข์นั้นได้ถูกต้อง ดังยกคำกล่าวของพระพุทธองค์ว่า อยากแสวงหาความสุข แต่ถ้าแสวงหาไม่ถูก บนเส้นทางของการแสวงสุขนั้นกลายเป็นการเอาความทุกข์มาใส่ตัว นั้นคือ ทุกข์ของคนๆ หนึ่งกลายเป็นทุกข์ของประเทศชาติบ้านเมืองได้ ดังนั้นถ้าทุกข์กระทบทำยังไงธรรมจะกระเทือน ก็ต้องมีวิธีวิเคราะห์ทุกข์ วิธีวิเคราะห์ทุกข์ก็ต้องถามว่า ทุกข์ทั้งมวลบรรดามีในชีวิตของเรา เริ่มต้นจากไหน บางคนก็บอกว่าที่ใจ ใจนั้นถูกต้อง แต่ว่ากิเลสตัวไหน ตอบว่าที่ใจเนี่ยกำปั้นทุบดิน มันถูกอยู่แล้วล่ะ แต่ต้องวิเคราะห์ลงไปอีก เพราะใจมันมี 4 ห้อง กิเลสตัวไหนที่มันควบคุมทั้ง 4 ห้อง โลภะ โทสะ โมหะ อีกห้องหนึ่งทำอะไร เช่าไว้เป็นวอร์รูม กิเลส 3 ตัว มันเช่าไว้อีกห้องหนึ่ง หัวใจ เอาไว้เป็นวอร์รูม
    ความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงบรรดามีมันเกิดขึ้นเพราะ โลภ โกรธ หลง ซึ่งเป็นรากฐานของความชั่วในชีวิตคน และการที่เราดับทุกข์ไม่ได้ ก็เพราะว่าเราเข้าหาพระพุทธศาสนาในมุมที่ไม่ถูกต้อง
    และจะขอยกคำกล่าวของท่านพุทธทาส ภิกขุไว้เป็นตัวอย่างเพื่อเป็นประโยชน์ไม่ากก็น้อยดังนี้
    ธรรมะ ท่านอาจารย์ “ พุทธทาส อินทปัญโญ “ แห่งวัดป่าสวนโมกข์พลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
    ให้ไว้ วันที่ 22 พฤษภาคม 2531

    จงทำกับเพื่อนมนุษย์โดยคิดว่า

    เขาเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของเรา
    เขาเป็นเพื่อน เวียนว่าย อยู่ในวัฎฎสงสาร ด้วยกันกะเรา
    เขาก็ตกอยู่ใต้อำนาจ กิเลส เหมือนเรา ย่อมพลั้งเผลอไปบ้าง
    เขาก็มีราคะ โทสะ โมหะ ไม่น้อยไปกว่าเรา
    เขาย่อมพลั้งเผลอบางคราว เหมือนเรา
    เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม เหมือนเรา ไม่รู้จักนิพพานเหมือนเรา
    เขาโง่ในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยโง่
    เขาก็ตามใจตัวเองในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยกระทำ
    เขาก็อยากดี เหมือนเรา ที่อยาก ดี – เด่น – ดัง
    เขาก็มักจะกอบโกย และ เอาเปรียบ เมื่อมีโอกาสเหมือนเรา
    เขามีสิทธิ ที่จะบ้าดี – เมาดี – หลงดี – จมดี เหมือนเรา
    เขาเป็นคนธรรมดา ที่ยึดมั่น ถือมั่น อะไรต่าง ๆ เหมือนเรา
    เขาไม่มีหน้าที่ ที่จะเป็นทุกข์ หรือตายแทนเรา
    เขาเป็นเพื่อน ร่วมชาติ ร่วมศาสนา กะเรา
    เขาก็ทำอะไร ด้วยความคิดชั่วแล่น และ ผลุนผลัน เหมือนเรา
    เขามีหน้าที่รับผิดชอบ ต่อครอบครัวของเขา มิใช่ของเรา
    เขามีสิทธิ ที่จะมีรสนิยม ตามพอใจของเขา
    เขามีสิทธิ ที่จะเลือก ( แม้ศาสนา ) ตามพอใจของเขา
    เขามีสิทธิ ที่จะใช้สมบัติ สาธารณะ เท่ากันกับเรา
    เขามีสิทธิ ที่จะเป็นโรคประสาท หรือเป็นบ้า เท่ากับเรา
    เขามีสิทธิ ที่จะขอความช่วยเหลือ เห็นอกเห็นใจ จากเรา
    เขามีสิทธิ ที่จะได้รับอภัย จากเรา ตามควรแก่กรณี
    เขามีสิทธิ ที่จะเป็นสังคมนิยม หรือ เสรีนิยม ตามใจเขา
    เขามีสิทธิ ที่จะเห็นแก่ตัว ก่อนเห็นแก่ผู้อื่น
    เขามีสิทธิ แห่งมนุษยชน เท่ากับเรา สำหรับจะอยู่ในโลก
    ถ้าเราคิดกันอย่างนี้ จะไม่มีการ ขัดแย้งใด ๆ เกิดขึ้น….

    ศิริโรจน์ ผลทวี 79ม.5 บางไผ่ บางแค กทม 10160
     
  3. ฟากห้วย

    ฟากห้วย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +1,736
    ลำดับที่ 2 อนุโมทนาบุญด้วยครับ
    ถ้าได้ ขอรับรายการ ที่ 1 กับ 5 ครับ
    วิธีแก้ทุกข์ ของผมนั้นคือเมื่อทุกข์มากๆนั้นเนื่องมาจากการงานแล้วก็เรียนหนัก ส่วนวิธีแก้ก็คืออยู่กับคนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุดครับกลับบ้านมาอยู่กับพ่อกับแม่กินข้าวพร้อมหน้าพ่อแม่แล้วก็น้องใช้เวลาอยู่กับครอบครัวไปเที่ยวครับชวนพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรตอนเช้าโดยไปกันทั้งบ้านถวายสังฆทานไปไหว้พระเช่นไปไหว้หลวงพ่อโสธร โดยส่วนตัวก็จะพยายามทำบุญครับ ส่วนสวดมนต์นั่งสมาธิก็ทำประจำไม่ทุกวันแต่ก็ทำตลอดครับ ปล่อยนกปล่อยปลาทำความสะอาดหิ้งพระเอาดอกไม้ใส่แจกันพระครับพอทำทั้งหมดที่กล่าวมาก็รุสึกสบายใจขึ้นครับ แล้วก็กลับไปลุยต่อวิธีแก้ทุกข์ของผมมีแค่นี้จริงๆครับ
    นายอัษฎาวุธ บุญขวัญ อพาร์ตเมนต์เลิศศิริ ห้อง 301 เลขที่ 272/48 ซ.ลาดพร้าว 122 (มหาดไทย1) เขต/แขวง วังทองหลาง กรุงเทพ 10310
     
  4. padriew

    padriew Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +83
    วิธีแก้ทุกข์

    ผมจะใช้วิธีตามแนวทางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ
    1.หาเหตุแห่งทุกข์ก่อน ว่ามันเกิดมาจากอะไร จากสิ่งใด พอเราหาเหตุเจอก็มองหาว่า ถ้าจะแก้ทุกข์ต้องทำอย่างไร มีวิธีใดบ้างที่เราจะทำ แล้วเลือกทางที่เหมาะกับเราที่สุด เพื่อแก้เหตุของทุกข์ เมื่อไม่มีเหตุ ทุกข์ก็จะดับไป ครับง่ายๆ
    ไม่ต้องคิดเยอะ คิดมาก แนวอริยสัจ 4 เลยครับใช้ได้ผลจริง แต่ที่สำคัญ ต้องมีสติก่อนนะครับ จึงจะใคร่ครวญปัญหา หาสาเหตุได้ เมื่อมีสติ สมาธิก็จะเกิด และปัญญา คือความรู้แจ้งแห่งทางแก้จะเกิดเองเป็นลำดับไป
     
  5. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ลำดับที่ 65 คุณรจนา พุ่มจันทร์

    วิธีแก้ทุกข์ของท่านคือ...

    ตอบ

    จริงๆแล้วทุกข์แก้ไม่ได้ค่ะ เพราะทุกข์นั้นเป็นผล เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
    ทุกข์จึงมีไว้เพียงเพื่อรู้เท่านั้น
    อุปมากล้วยที่สุกแล้ว จะหาวิธีมาทำให้เป็นกล้วยดิบเหมือนเดิมย่อมไม่ได้
    เหมือนพูดกวนประสาทนะคะ
    แต่หากใคร่ครวญจริงๆ จะเห็นว่าคำกล่าวนี้เป็นความจริง
    ....
    เอาละ เมื่อความทุกข์เกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร
    ความทุกข์บางอย่าง เราไม่ต้องทำอะไร ความทุกข์ก็คลายได้เอง
    ความทุกข์บางอย่างหากเราอาจมีวิธีจัดการแก้ไขให้ดีขึ้น เช่นน้ำเดือด เราเติมน้ำเย็นลงไป ระดับความร้อนก็ลดลง หรือท้องผูก ทานยาระบายก็ช่วยได้

    ความทุกข์ ไม่เกิดทางกาย ก็เกิดกับจิต
    ก็ต้องแก้ไปตามอาการ

    ขั้นแรก มาพิจารณาว่าเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์คืออะไร แล้วแก้จากเหตุนั้น
    ขั้นที่สองแก้ที่ใจตนเอง คิดว่าสักวันมันก็จะผ่านไป ไม่มีสิ่งใดทนอยู่ได้นาน หลังฝนซาฟ้าย่อมสดใจ
    และสิ่งที่ต้องทำโดยตลอดเพื่อเป็นการเร่งให้ความทุกข์หายไปโดยเร็วคือ การให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
    (และหมั่นระลึกถึงคุณงามความดีที่ตนเองได้ทำมา)

    สาธุค่ะ อนุโมทนากับคำตอบของทุกๆท่านนะคะ
    เนื่องในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย คุณพระสยามเทวาธิราช คุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลก คุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกรูปทุกนาม ได้โปรดเมตตาประทานพรแด่น้องเจ้าของกระทู้จงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติอันเลิศ เจริญสูงสุดทั้งทางโลกและทางธรรมนะคะ
    สุขสันต์วันเกิดค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2012
  6. shevvy

    shevvy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +300
    ลำดับที่ 66 นายธีระวุฒิ แก้วศรีศุภวงศ์
    วิธีแก้ทุกข์ของผมคือ
    สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นปล่อยคือหายใจออกแรงๆ จากนั้นคิดว่า เราคงเคยทำสิ่งไม่ดีนี้กับผุ้อื่นสิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์นี้จึงเกิดกับตน จากนั้นบอกตัวเองว่าอย่าทำ เช่น เราเงินหาย ก็คิดเสียว่าเราเคยลักขโมยเขามา และก็บอกกับตัวเองว่าอย่าไปขโมยเงินคนอื่น เราจะได้ไม่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก คิดว่าใครทำอะไรก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น เมื่อคิดแล้ว ผมจะทำกิจกรรมอื่นๆเพื่อให้เพลิดเพลินไม่ให้ใจคิดฟุ้งซ่านถึงทุกข์ที่มี เมื่อเราได้สติกลับมาแล้วจึงค่อยๆคิดหาทางแก้ปัญหาคับ

     
  7. ปารมีธรรม

    ปารมีธรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +13
    ลำดับที่ ๖๗ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
    วิธีแก้ทุกข์ของผมคือหายใจเข้าลึกๆพักไว้สักครู่หนึ่งแล้วก้อปล่อยออกมา ทำแบบนี้หลายๆครั้ง เมื่อจิตใจเริ่มสงบแล้วก้อค่อยๆคิดถึงสาเหตุของปัญหาที่ทำให้เราต้องเป็นทุกข์ วิธีการแก้ไข และลงมือแก้ปัญหานั้น แล้วก้อปล่อยวาง ไม่ยึดติด ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

    1.พระบูชาสมเด็จองค์พระปฐมต้น 1 องค์
    2.พระเครื่องมวลสารครูบาอาจารย์ มีพระธาตุ 10 องค์
    นายณัฐพงษ์ ตันมิ่ง ๑๙๙ ม ๑ ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ๕๑๑๒๐
     
  8. vangiras

    vangiras เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    358
    ค่าพลัง:
    +3,218
    อันดับที่ 68
    วิธีแก้ทุกข์ของข้าพเจ้า เริ่มมาจากสมัยก่อนข้าพเจ้ารู้สึกอิจฉาคนที่เค้ามีบ้าน มีรถ มีเงิน ความรู้สึกอันนี้ทำให้ข้าพเจ้าเป็นทุกข์ว่าทำไมไม่เกิดมารวยอย่างคนอื่นเค้า คิดมากก้ทุกข์มาก จนวันนึงแม่ของข้าพเจ้าได้บอกว่าให้ทำบุญใส่บาตรพระมั้ง ก็เลยเริ่มใส่บาตรพระ จากนั้นก็เริ่มไปวัดวันพระ เริ่มได้ฟังธรรมะ บางเรื่องก็ตรงกับความทุกข์ของผม ผมก็เริ่มหาหนังสือธรรมะมาอ่าน จนมาตอนนี้ความทุกข์ของผมที่อิจฉาคนอื่นหมดไปแล้ว เพราะผมเข้าใจแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจของเรา ใจคิดให้เป็นสุขมันก็สุข คิดให้เป็นทุกข์มันก็ทุกข์ เพราะฉะนั้นการแก้ความทุกข์ต้องแก้ที่ใจเรา ธรรมะเป็นแค่เครื่องชี้นำทางเท่านั้น แต่ตอนนี้ผมเหลือทุกข์อีกอย่างคือ ทุกข์ที่ต้องมาคอยดูแลร่างกายนี้ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่จะหมดทุกข์
     
  9. เอื้อมบุญ

    เอื้อมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    385
    ค่าพลัง:
    +617
    ลำดับ 69
    ขอแชร์ประสบการณ์ทุกข์ๆด้วยคน
    ข้าพเจ้ามีทุกข์อยู่ 2 ลักษณะมีวิธีแก้ดังนี้

    1.ทุกข์ทางกาย ใช้การกำหนดว่า"กายกับจิตแยกกัน"หรือ
    "กายแยกกับจิต"แลอันนี้นึกถึงแต่ลมหายใจโดยละเลยจุดที่ทุกขเวทนานั้น เช่น คราวอุบัติเหตุนิ้วแตกเลือดพุ่งกลัวจนตัวมันชาไปเลยจะวูปๆระหว่างทางไปโรงพยาบาล จึงกำหนดลมหายใจเข้าออกช้าๆจดจ่อแค่หายใจแต่ภาวนาประโยคว่า"กายกับจิตแยกกัน" คราวที่ลำบากต้องฝ่าหมอกหนาวจัดๆมันสะท้านจนแน่นหน้าอกข้าพเจ้าก้อกำหนด"กายแยกกับจิต" มันลดและบรรเทาอาการเจ็บลงได้แต่ไม่สามารถดับทุกขเวทนานั้นได้ทั้งหมด


    2.ทุกข์จากภายใน(จิต) ส่วนตัวถ้าเอาสติไม่อยู่จึงทุกข์ข้าพเจ้าปล่อยให้จิตมันทำงานไปแต่ตามดูมันจะคิดให้มันคิด มันจะร้องให้มันร้องคร่ำครวญไป..ดูไปเรื่อยๆสักพัก(บางทีก้อนาน)มันจะเริ่มเบื่อๆเหนื่อยๆขี้เกลียดร้องลุกไปทำอย่างอื่นดีกว่า แต่ก้อเคยเกือบตามมันไม่ทันคราวนั้นถึงนาทีชีวิตข้าพเจ้ารีบนึกภาพ แม่-พ่อตอนที่ท่านทำงาน..ทำงาน..และนึกถึงคนที่ทำให้เราทุกข์เค้าไม่รู้ไม่ชี้กับเรา เมื่อนั้นสติจึงกลับคืนมาทันเวลา..

    เป็นวิธีแก้ทุกข์ส่วนตัว ส่วนการดับทุกข์ให้สนิทด้วยการตัดต้นเหตุแห่งทุกข์ "สุขก้อตาย"
    "ทุกข์ก้อตาย..เจ็บก้อตาย..ไม่เจ็บก้อตายฯ เป็นแนวทางที่ได้รับมา แต่ยังทำไม่ผ่าน.."


    ทุกข์จากกาย...ไม่ถึงคราวคงไม่ตาย
    ทุกข์จากใจ...ไม่ถึงคราวมันก้อจะทำให้ตายให้ได้
    (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2012
  10. mankind4

    mankind4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +145
    ลำดับที่ 70 กฤตภาส
    วิธีดับทุกข์ รู้จักปล่อยว่าง พยายามลืมทุกข์ให้เร็วที่สุด
    อาบน้ำให้ความเย็นช่วยผ่อนคลาย ทุกอย่างมีทางแก้ ทำใจให้เบิกบาน ทำสมาธิ เพื่อให้เกิดปํญญา
    ขอรับแล้วแต่จะกรุณา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2012
  11. glm13161424

    glm13161424 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +116
    ลำดับที่ 71
    วิธีการดับทุกข์
    จริงๆแล้วการที่เราจะดับทุกข์ได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ซึ่งทุกข์เกิดจากการที่เราทุกๆคนมีกิเลส ตัณหาอยู่ในตัว และตัวกิเลสตัณหาก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์อย่างแท้จริง ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เห็นคนอื่นมี iphone 4s ใช้ เราทำไมไม่มีอย่างเขาบ้าง ( ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง แม้คิดปรารถนาอยากได้สิ่งใด แต่ไม่ได้สิ่งนั้นสมปรารถนา ก็เป็นทุกข์ ) อย่างนี้เป็นต้น มีความทุกข์ที่ไม่สมปรารถนา ดังนั้นสำหรับทางดับทุกข์ของผมก็คือ พยายามฝึกจิตให้มีสติสมาธิเพื่อจะทำให้จิตใจเกิดการ ละ วาง ปล่อย ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจกับต้นเหตุของทุกข์นั้นๆ และก็พยายามไปทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ หรือไปเที่ยวในที่ที่มีธรรมชาติที่สดชื่นก็จะทำให้เราได้รับความสุข หายจากทุกข์ได้ครับ.
    นายวัชกร มูลวิชา
    บมจ.เอทีไบโอพาวเวอร์ 96 ม.2 ต.หอไกร อ.บางมูนาก จ.พิจิตร 66120
     
  12. anan2099

    anan2099 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    405
    ค่าพลัง:
    +473
    ลำดับที่ 72 อนันตร์ภัทร
    คำตอบ....วิธีแก้ทุกข์ของผมคือ ...รู้ทุกข์..ทุกข์เกิดจากจิตที่ส่งออกนอก ผลที่จิตส่งออกนอกเป็นทุกข์ ดังนั้นผมจึงเพียรในการรักษาจิตให้อยู่ข้างใน โดยการรักษาศีลเพื่อสู้กับโลภะ โทสะและโมหะ ทำสมาธิเพื่อสู้กับนิวรณ์ 5 และทำวิปัสนาสู้กับความโง่คือความไม่รู้ว่าขันธ์5 เป็นทุกข์ เพียรให้จิตเห็นไตรลักษณ์ของขันธ์5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2012
  13. Doonlayatham

    Doonlayatham Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +71
    ลำดับที่ 73
    ดุลยธรรม ไกรเดช
    5/2106 ม.ประชาชื่น ซ.8
    ถ.สามัคคี 63 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด
    จ.นนทบุรี 11120

    วิธีแก้ทุกข์ของผมคือ นั่งนิ่ง ๆ หน้าพระพุทธรูป สวดมนต์ นั่งสมาธิ
    ใส่บาตร ถวายสังฆทาน ครับ
     
  14. sky6

    sky6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +457
    ลำดับที่ 74
    วิธีแก้ทุกข์ ต้องแก้ที่เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ เหตุที่ทำให้เกิดมีหลายอย่าง ที่ทำให้เกิดทุกข์ที่แท้คือกิเลส ตัณหา และกิเลส ตัณหา เกิดที่ไหน เกิด ที่ใจ เช่น เวลาโกรธ ผมจะหายใจ
    เข้า ออก ยาว ๆ คิดให้รอบคอบ
     
  15. J00M

    J00M เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2012
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +3,263
    ลำดับที่ 75 วิธีแก้ทุกข์ ที่ทำทุกวัน คือการสวดมนต์ให้เป็นนิตย์(ประจำสม่ำเสมอ) และหากเกิดปัญหาอะไรก็ตามแต่ สิ่งแรกที่ต้องมองคือ ต้นเหตุของปัญหา เกิดจากอะไร หากรู้จึงแก้ไขปัญหานั้น ในการแก้ปัญหาใช่ว่าสักจะแก้อย่างเดียว ต้องดูด้วยว่าปัญหาที่เกิดมีผลกระทบอย่างไรกับใครบ้าง ไม่ใช่จะแก้ให้พ้นตัว เราต้องแก้ไม่ให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย ไม่รู้สินะ แต่ปัญหาทุกอย่างมันต้องมีทางแก้ และปัญหาบางอย่างต้องใช้เวลาในการแก้ด้วย แล้วอะไรที่ยังไม่เกิด ก็อย่าคิดไปก่อนอาจทำให้จิตตกได้ แต่หากรู้สึกว่ามันจะเกิดก็ให้คิดไว้ได้แต่อย่ารีบทำอะไร ให้มันเกิดขึ้นจริงก่อน ทุกข์ที่แก้ยากที่สุด คือ ทุกข์ใจ (จิตไม่นิ่ง คิดโน่นคิดนี่ อยากมี อยากได้ ไม่ได้ดั่งใจ ทุกสิ่งล้วนทำให้ทุกข์ ) หากจะแก้จริง ๆ คงยาก แต่อยากให้คิดว่า พอใจแล้วในสิ่งที่มี สิ่งที่เป็น รวมไปถึงสิ่งที่ได้รับ ณ ปัจจุบัน หากอยากมีเงิน ก็ต้องขยันทำงาน อยากมีโชคลาภ ก็ต้องมั่นทำบุญ ทำความดี อยากมีกินมีใช้ตลอด ก็ต้องรู้จักประหยัด ....พอละ อิอิ ทำงานต่อ
     
  16. oracle_Park

    oracle_Park เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +813
    ลำดับที่ 76 ภาคภพ ฉายแสง
    ทุกข์เกิดจากจิตของคนเรา เรามักเอาจิตไปผูกกับร่างกายและสภาพแวดล้อม เมื่อจิตถูกกระทบด้วยสถานการณ์ต่างๆๆจิตใจก็เกิดการรับรู้สภาพความเศร้าหมองและความทุกข์นั้นๆๆ เมื่อยิ่งย้ำคิดย้ำทำกระบวนความทุกข์ทั้งปวงก็จะปกคลุมอยู่ในจิตยากที่จะทำการสลัดทิ้งได้อย่างง่าย
    วิธีแก้ทุกข์ของข้าพเจ้าคือ เมื่อทุกข์ทั้งหลายเกิดจากการตกแต่งมโนจิตของเรา
    การนำตัวตนของเราเป็นที่ตั้งย่อมทำให้ทุกข์ที่เกิดขึ้นไม่มีวันที่จะลบหายไปได้ ข้าพเจ้าเคยประสบปัญหาเนื่องจากเคยยึดถือตัวตนของตนเองมากเกินไป หลงคิดว่าเราควรจะได้อย่างโน่น ควรจะได้อย่างนี้ เมื่อไม่ได้ตามความคิดที่อยากได้อยากเป็นก็เกิดความเครียดทั้งที่ทำงานและที่บ้านก็เฝ้าแต่ย้ำคิดว่าทำไมเป็นแบบนี้ทำไม่ไม่มีใครเข้าใจ เรา ทำไมต้องมีการอิจฉา ทำไมต้องมีการนินทา ทำไมต้องมีการกลั่นแกล้งกัน ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เพี่ยงแต่มีความตั้งใจมากไป ประเภทเด่นมากก็เป็นภัย คิดว่าคงมีคนเป็นลักษณะนี้หลายคนในที่ทำงาน เจ้านายไม่ผลักดันบ้าง โดนว่าบ้าง อย่างไร้สาเหตุ ในทุกข์เรื่องนี้ข้าพเจ้ามองในหลักความเป็นจริงเพื่อทำการละวางการถือตัวตนเทคนิควิธีง่ายๆ คือมองว่ามันเป็นวิบากกรรมที่เราเคยก่อไว้ในอดีตชาติคงมีชาติใดชาติหนึ่งที่เราเคยทำร้ายเขาด้วยวิธีแบบนี้ ทำให้เขาเจ็บซ้ำ ให้ร้ายร่างกายเขา ทำร้ายจิตใจเขา ผลกรรมเลยมาสนองในชาตินี้ เราก็ทำการตั้งหน้าตั้งตาชดใช้กรรม โดยในทุกครั้งที่โดนเหตุการณ์ร้ายๆที่กล่าวข้างต้น ก็จะถือว่าขอชดใช้กรรมให้หมดสิ้นกันในชาตินี้ไม่ต้องมีการติดค้างกันอีก...ขออโหสิกรรมกันเลยในชาตินี้ ส่วนมีหลายคนที่ยังมีการยึดติดเรื่องความก้าวหน้า ตำแหน่ง ในเรื่องนี้ในตอนต้นในฐานะมนุษย์เงินเดือนก็มีความทะเยอทะยาน แน่นอน แต่เมื่อไม่ได้แต่ก่อนก็ทุกข์มาก เฝ้าแต่ถามว่า ทำไมๆ ๆ แต่ก็รู้คำตอบในใจ แต่ยังรับไม่ได้ แต่หลังจากได้ฟังธรรมมะของครูอาจารย์ที่โหลดจากใน Web พลังจิตนี้ ก็ทำให้ตาสว่างว่า เมื่อเราตายก็ไม่มีอะไรติดตัวไปสักอย่าง เงิน ทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ ต่างเป็นสิ่งที่มันสมมุติขึ้นมาบนโลกนี้ทั้งสิ้น ตายไปเป็นอันจบกัน แต่ก่อนทุ่มเทกับงานจนลืม พ่อแม่ แต่เดี๋ยวนี้เลือกครอบบครัว อันดับแรก คอยดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่ ดีกว่า เราทุ่มไปมาก ไม่พักผ่อน พอป่วยตายไป บริษัทก็ได้แต่แสดงความเสียใจ แต่พ่อแม่เราละใครจะดูแล คิดได้อย่างนี้แล้วเราจึงปล่อยวางการยึดติด เมื่อปล่อยว่างจิตก็โปร่งสบาย เหมือนยกภูเขาออกจากอก ความเครียด โรคเครียดที่นอนไม่หลับ ก็ไม่เกิดขึ้นอีก เมื่อเรายอมรับในความเป็นตัวตนของเราได้ไม่ยึดติด ก็จะทำให้เราปล่อยวางทางโลกได้ ทำงานตามหน้าที่ ทุ่มเทตามความสามารถ และไม่ทำร้ายร่างกายและสุขภาพ นอกจากนี้การคบเพื่อนก็เป็นหนทางในการคลายความทุกข์ เพื่อนที่เป็นกัลยานมิตรที่ดี คอยให้คำปรึกษา หารือ แก้ไขปัญหา และเป็นที่ระบาย และเพื่อนคนแรกที่ไว้ใจที่สุดของเราก็คือพ่อ แม่ ท่านจะให้ข้อคิดดีๆๆให้เราเสมอ อย่างน้อยที่สุดท่านก็เป็นที่พึ่งของเรายามที่เราผิดหวังท้อแท้ที่สุด และท่านก็เป็นกำลังใจอันมหาศาล ปลุกกำลังใจให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งอาจมีหลายคนที่ไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยปรึกษา
    ส่วนเพื่อนกลุ่มที่สองคือเพื่อนที่นำไปสู่หนทางบุญ เมื่อใดเราได้คบเพื่อนกลุ่มนี้ก็จะมีความสุขคลายความทุกข์ได้การได้ไปทำบุญแบบหมูคณะจะทำให้เราลืมความทุกข์ได้ การได้ไปกราบพ่อแม่ครูอาจารย์สายกรรมฐาน ท่านก็จะให้แง่คิดและหลักธรรมดีๆๆกลับมาทุกครั้ง
    การได้ไปทำบุญจะทำให้จิตใจของเราอิมเอิบมีความสุข ลืมความทุกข์โดยสิ้นเชิง
    สำหรับคนบางคนถ้าอยู่ในสถานที่ใดแล้วยิ่งทำให้คิด ให้ทุกข์ก็ขอแนะนำให้ออกห้างจากสถานที่เดิมๆซักพักจิตใจก็จะคลายความทุกข์ได้
    สำหรับทุกข์ที่โถมเข้ามาในหลายๆด้านสำหรับตัวเองใช้วิธีการพิจารณาทุกข์ในแต่ละแบบ แยกที่ละข้อไม่คิดปนกันยิ่งเครียรดหนัก ปกติก็จะนั่งคิดทบทวน หาเหตุผลแห่งทุกข์ และพยายามหาวิธีดับทุกข์นั้นๆๆเมื่อมีเกิด ก็ย่อมมีวิธีดับมัน ไม่ได้วันนี้ ก็ต้องได้วันหน้า คิดแบบนี้ จะทำให้มีกำลังใจมากขึ้น...การมองคนที่เขาต่ำกว่าเป็นวิธีคลายทุกข์วิธีหนึ่ง ยังมีคนที่แย่กว่าเรา ทุกข์กว่าเรา ทำไมเขาอยู่ได้อย่างมีความสุขแล้วก็ย้อนมาดูตัวเรา ก็จะทำให้มีกำลังใจมากขึ้นเป็นทวีคูณ หลายคนดูใช้วิธีดูตามข่าว บางคนเห็นของจริงตามทางเดินผ่าน จะเห็นว่าบางคนอดอยาก ยากจน จนสุดๆ ข้าวปลายังไม่มีจะกิน แล้วเราละยังดีกว่าหลายคนจะทุกข์จะเครียดไปทำไม มันก็จะเกิดกำลังใจมากขึ้น....
    ส่วนการฝึกควบคุมจิตก็เป็นวิธีการอีกอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน การทำจิตปล่อยวาง ไม่ยึดติด การแสวงหาหนทางการหลุดพ้นจากความทุกข์ การไม่ต้องมาเกิดรับกรรมอีก...ทุกๆวัน ถ้าพอมีเวลาผมมักจะเข้าห้องพระสวดมนต์ ง่ายๆๆ ก็ตามหนังสือสวดมนต์ ตามด้วยบทสวดพระจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่ จากนั้นก็นั่งสมาธิกรรมฐานแบบอานปานสติบ้าง กสิน บ้าง แล้วแต่วัน การนั่งสมาธิวันละประมาณ 30 นาที ทำให้จิตของเรานิ่งขึ้นใจเย็นขึ้น เข้าใจเหตุผลและโลกมากขึ้น เป็นผู้ฟังมากขึ้น วิธีนี้ก็จะทำให้ทุกคลายลง บางคนอาจเปิด CD หลวงปู่เหรียญ หลวงพ่อฤษีลิงดำ หรือพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็ได้ จิตจะได้คิดตามและก็จะละวางทุกข์ได้ระดับหนึ่ง..เอาธรรมมะท่านมาคิดพิจารณาไปเรื่อยๆๆ
    แต่ในกรณีท่านที่ยังไม่สามารถทำวิธีข้างต้นได้ผมก็มีอีกวิธีที่เคยใช้คือการนั่งฟังบทสวดพระแม่กวนอิม บทสวดทิเบต และบทสวดบำบัดความเครียด จะเป็นบทเพลงที่ทำให้ใจเราสงบและลืมความทุกข์ได้เป็นเพลงบรรเลงเบาๆก็จะทำให้ลดอาการเครียดและทุกข์ลงได้... และในแต่ละวันการที่เราใช้ชีวิตในสังคมย่อมเกิดความทุกข์ได้ตลอดเวลาผมก็มักจะจับคำว่าพุทโธ ทุกลมหายใจเข้าออก ทำตลอดเวลา ทำตอนเวลาเราว่าง ภายในจิตเราก็จะสงบว่างตลอดเวลา ยามใดที่เครียดและทุกข์ก็หายใจเข้าปอดลึกๆๆ และหายใจออกให้สุด และคิดในใจว่าสักวันมันต้องผ่านไปให้ได้ ตามรู้ตลอดเวลา แต่ไม่เอามาคิดฝังใจ...
    และท้ายสุดของการทิ้งทุกข์ทั้งปวง คือ คิดดี พูดดี ทำดี รักษาศีล ทำบุญทำทาน แม้ไม่มีใครเห็นเราก็เห็นและรับรู้ได้ด้วยตัวเราเอง มนุษย์เกิดมาย่อมมีความทุกข์ ทุกข์เป็นเครื่องทดสอบกำลังใจและความอดทน เราต้องอดทนและต่อสู้อย่างไม่ย้อท้อ สักวันก็ต้องเป็นวันของเรา ทุกข์นะทิ้งมันไปซะอย่าเอามายึดติดอย่าเอามาคิดให้มันวุ่ยวายใจ เรายังมีวันพรุ่งให้ต่อสู้อีก....สักวันเราต้องชนะความทุกข์ทั้งปวง จงมองคนที่เรารักและมอบความรักและเอื้ออาทรกับทุกคน....
    ขอเลือกรับรางวัลรายการที่
    1.พระบูชาสมเด็จองค์พระปฐมต้น 1 องค์
    ที่เหลือก็แล้วแต่ธรรมมะจัดสรรค์คับ.....
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยคับ ...ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2012
  17. watjai124

    watjai124 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2011
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +95
    ลำดับที่ 76 วิธีแก้ทุกข์ ที่ทำทุกวัน ทุกข์กายไม่ยากครับ คิดว่ากายนี้ไม่ใช่ของเรา มันก็ไม่ทุกข์แร้ว
    ทุกข์ใจ ก็วางใจให้เป็นกลาง ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ก็ไม่ทุกข์หล่ะครับ เลิกคิด เลิกปรุงแต่ง
    ก็ไม่ทุกข์แร้วจ้าวางใจเป็นกลาง
    จริตของแต่ละคนไม่เหมือนกันน่ะครับใหม่ๆก็เริ่มจากรักษาศีล5 วิปัสนาก่อน เดินจงกรม นั่งสมาธิ

    ว่าที่ร้อยตรี สาโรจน์ วรรณมโนมัย
    611/123หมู่4 ซ.สุขสวัสดิ์25/2
    ต.บางปะกอก อ.ราษฎร์บูรณะ
    จ.กทม 10140
     
  18. watjai124

    watjai124 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2011
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +95
    อนุโมทนา สาธุ กับทุกๆท่านที่บอกวิธีการแก้ไขทุกข์ มาให้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2012
  19. ธรรมะบารมี

    ธรรมะบารมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    525
    ค่าพลัง:
    +2,145
    ลำดับที่ 77 เธียรวิชญ์ ดู่คำ ขอรับ สมเด็จองค์ปฐม

    ใจ สบาย ทุกอย่างสบาย หลายครั้ง ที่ข้าพเจ้าประสบเหตุอันทำให้เกิดความทุกข์ไม่สบายใจ ข้าพเจ้าจะสูดลมหายใจ เข้า ออกลึกๆ เรียกสติสตังให้กลับมาเสียก่อน แล้วค่อยๆค้นหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ในแต่ละครั้ง ถ้ายังคงวุ่นวาย อยู่ ก็ จะ กำหนดลมหายใจเข้าออก ไปเรื่อยๆ อย่างนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกว่า มันจะคลายอาการทุกข์ไปได้เยอะ แล้ว รื้อเหตุของทุกข์ขึ้นมาพิจารณา แก้ไขเสียใหม่ ........อาจจะสร้างแรงบันดาลในการการคลายทุกข์ขึ้นมาด้วยก็ได้ อย่างข้าพเจ้า เมื่อจวนตัว ก็จะ กุมพระที่ห้อยคอไว้ นึกถึงความวิริยะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่าน กว่าท่านจะตรัสรู้ ท่านผ่านพบอะไรมาอีกตั้งมากมาย นึกถึงพระธรรมของพระองค์ท่าน นึกถึง พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ว่าท่านทั้งหลายก็เคยผ่านทุกข์มาก่อน................กุมพระแล้วนึกเช่นนี้ แล้ว ย้ำในใจเพื่อปลอบตัวเราเองว่า เราเดินตามรอยของครูบาอาจารย์ ทุกข์แค่นี้ เราต้องผ่านให้ได้.........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2012
  20. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    ลำดับที่78 ขอรับสมเด็จองค์ปฐมครับ

    วิธีแก้ทุกข์ นั้นต้องมีสติก่อนระลึกถึงอริยะสัจ4 อย่างแรกเราต้องยอมรับก่อนว่าเป็นทุกข์และหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และหาหนทาง วิธีที่จะขจัดทุกข์ได้อย่างไรให้เด็ดขาด

    หากว่ารู้สาเหตุแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขให้ปัญหานั้นจบได้ในทันที..ก็ต้องปล่อยวาง พยายามคิดให้สมเหตุสมผลว่าทำไมต้องไปคิดมากมายในเมื่อยังแก้ไม่ได้ตอนนี้ ยิ่งไปคิดก็ยิ่งเครียดและไม่เกิดประโยชน์ ก็ควรจะต้องนึกถึงความว่างเปล่าเพื่อให้ตัดอารมณ์ความคิดที่คิดวนไปวนมาในเรื่องที่สร้างความทุกข์ให้เราซ้ำแล้วซ้ำเหล่าเหล่านั้นให้สิ้นสุดลงไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...