ปกิณณกะธรรม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย กระร่อน, 22 กรกฎาคม 2020.

  1. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2021
  2. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2021
  3. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469

     
  4. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
  5. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469

     
  6. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2021
  7. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2021
  8. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
     
  9. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
     
  10. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    นันทิวิสาลชาดก - โคนันทิวิสาล

    nantiwisan.gif

    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วันเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภการพูดเสียดแทงให้เจ็บใจของพวกภิกษุฉัพพัคคีย์ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...


    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในสมัยของพระเจ้าคันธาระครองเมืองตักกศิลา แคว้นคันธาระ พระโพธิสัตว์เกิดเป็นโคนามว่า นันทิวิสาล เป็นโคมีรูปร่างสวยงาม มีพละกำลังมาก มีพราหมณ์คนหนึ่งได้เลี้ยงและรักโคนั้นเหมือนลูกชาย โคนั้นคิดจะตอบแทนบุญคุณการเลี้ยงดูของพราหมณ์ในวันหนึ่ง ได้พูดกะพราหมณ์ว่า
    "พ่อ จงไปท้าพนันกับโควินทกเศรษฐีว่า โคของเราสามารถลากเกวียนหนึ่งร้อยเล่ม ที่ผูกติดกันให้เคลื่อนไหวได้ พนันด้วยเงินหนึ่งพันกหาปณะเถิด"

    พราหมณ์ได้ไปที่บ้านเศรษฐีและตกลงกันตามนั้น นัดเดิมพันกันในวันรุ่งขึ้น ในวันเดิมพัน พราหมณ์ได้เทียมโคนันทิวิสาลเข้าที่เกวียนเล่มแรก เพื่อลากเกวียนหนึ่งร้อยเล่มผูกติดกันซึ่งบรรทุกทราย กรวดและหินเต็มลำ แล้วขึ้นไปนั่งบนเกวียน เงื้อปฏักขึ้นพร้อมกับตวาดว่า
    "ไอ้โคโกง โคโง่ เจ้าจงลากเกวียนไปเดี๋ยวนี้"

    ฝ่ายโคนันทิวิสาลเมื่อได้ยินพราหมณ์พูดเช่นนั้น ก็คิดน้อยใจว่า
    "พราหมณ์เรียกเราผู้ไม่โกง ว่าโกง ผู้ไม่โง่ ว่าโง่"

    จึงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว โควินทกเศรษฐีจึงเรียกให้พราหมณ์นำเงินหนึ่งพันกหาปณะมาให้แล้วกลับบ้านไปฝ่ายพราหมณ์ผู้แพ้พนันเงินหนึ่งพันกหาปณะ ปลดโคแล้วก็เข้าไปนอนเศร้าโศกเสียใจอยู่ในบ้าน ส่วนโคนันทิวิสาลเห็นพราหมณ์เศร้าโศกเสียใจเช่นนั้น จึงเข้าไปปลอบและกล่าวว่า
    "พ่อ ฉันอยู่ในเรือนของท่านตลอดมา เคยทำภาชนะอะไรแตกไหม เคยเหยียบใครๆ เคยถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะในที่อันไม่ควรหรือไม่ เพราะเหตุใด ท่านจึงเรียกเราว่า โคโกง โคโง่ ครั้งนี้เป็นความผิดของท่านเอง ไม่ใช่ความผิดของฉัน บัดนี้ ขอให้ท่านไปเดิมพันกับโควินทกเศรษฐีใหม่ด้วยเงินสองพันกหาปณะ ขออย่างเดียว ท่านอย่าได้เรียกฉันว่า โคโกง โคโง่ ท่านจะได้ทรัพย์ตามที่ท่านปรารถนา ฉันจะไม่ทำให้ท่านเศร้าเสียใจ"

    พราหมณ์ได้ทำตามที่โคนันทิวิสาลบอก ในวันเดิมพัน พราหมณ์จึงพูดหวานว่า
    "นันทิวิสาลลูกรัก เจ้าจงลากเกวียนทั้งร้อยเล่มนี้ไปเถิด"

    โคนันทวิสาลได้ลากเกวียนร้อยเล่มที่ผูกติดกัน ด้วยการออกแรงลากเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้เกวียนเล่มสุดท้ายไปตั้งอยู่ที่เกวียนเล่มแรกอยู่ ทำให้พราหมณ์ชนะพนัน ด้วยเงินสองพันกหาปณะพระพุทธองค์เมื่อนำอดีตนิทานมาสาธกแล้วตรัสว่า
    "ภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่า คำหยาบ ไม่เป็นที่ชอบใจของใครๆ แม้กระทั่งสัตว์เดียรัจฉาน"

    แล้วได้ตรัสพระคาถาว่า
    "บุคคลควรพูดแต่คำที่น่าพอใจเท่านั้น ไม่ควรพูดคำที่ไม่น่าพอใจในกาลใดๆ เมื่อพราหมณ์พูดคำที่น่าพอใจ โคนันทิวิสาลได้ลากสัมภาระอันหนักได้ ทั้งยังทำให้หราหมณ์ผู้นั้นได้ทรัพย์อีกด้วย ส่วนตนเองก็เป็นผู้ปลื้มใจ เพราะการช่วยเหลือนั้นด้วย"



    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
    พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากปากมีสี
     
  11. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
     
  12. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
     
  13. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2021
  14. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
     
  15. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
     
  16. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
  17. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2021
  18. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2021
  19. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2021
  20. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    สุวัณณหังสชาดก - หงส์ทองคำ

    nt318.gif

    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุณีชื่อ ถุลนันทา ผู้ไม่รู้จักประมาณในการบริโภคกระเทียม สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...


    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ตระกูลหนึ่ง มีภรรยาและลูกสาว ๓ คน ชื่อ นันทา นันทวดี และสุนันทา พอลูกสาวทั้ง ๓ ได้สามีแล้วทุกคน พราหมณ์ก็เสียชีวิตไปเกิดเป็นหงส์ทองคำระลึกชาติได้


    วันหนึ่งได้เห็นความลำบากของนางพราหมณีและลูกสาวของตนที่ต้องรับจ้างคนอื่นเลี้ยงชีพ จึงเกิดความสงสาร ได้โผบินไปจับที่บ้านนางพราหมณีแล้วเล่าเรื่องราวให้นางพราหมณีและลูกสาวฟัง และได้สลัดขนให้แก่พวกเขาเหล่านั้นคนละหนึ่งขนแล้วก็บินหนีไป หงส์ทองได้มาเป็นระยะๆ มาครั้งใดก็สลัดขนให้ครั้งละหนึ่งขนโดยทำนองนี้ นางพราหมณีและลูกสาวจึงร่ำรวยและมีความสุขไปตามๆ กัน


    ต่อมาวันหนึ่งนางพราหมณีเกิดความโลภอยากได้มากกว่าเดิมจึงปรึกษากับลูกๆ ว่า
    "ถ้าหงส์มาครั้งนี้ พวกเราจะจับถอนขนเสียให้หมด เพื่อจะได้มีทรัพย์สมบัติมาก"

    พวกลูกๆ ไม่เห็นดีด้วย แต่นางพราหมณีไม่สนใจ ครั้นวันหนึ่งพญาหงส์ทองมาอีก นางก็ได้จับถอนขนเสียให้หมด ขนเหล่านั้นกลายเป็นขนนกธรรมดาเท่านั้น เพราะพญาหงส์ทองมิได้ให้ด้วยความสมัครใจ นางพราหมณีได้เลี้ยงหงส์นั้นจนขนงอกขึ้นมาใหม่เต็มตัว หงส์ก็ได้บินหนีไปโดยไม่ได้กลับมาอีกเลย


    พระพุทธองค์ เมื่อนำอดีตนิทานมาสาธกแล้ว ได้ตรัสพระคาถาว่า
    "บุคคลได้สิ่งใดควรยินดีสิ่งนั้น เพราะความโลภเกินประมาณเป็นความชั่วแท้ นางพราหมณีจับเอาพญาหงส์ทองแล้วจึงเสื่อมจากทองคำ"

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
    โลภมาก มักลาภหาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...