บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วันที่ 8/8/2557

    เรื่ององค์สิริศรีปัฏฐานิกับองค์กฤษณายาตรา
    เป็นช่วงยุคเดียวกัน ผ่านมาแล้ว7กัป จักนานแค่ไหนแล้ว

    กำเนิดมาจากองค์แม่คือกัน แต่องค์กฤษณาเพิ่นเปลี่ยนภพภูมิก่อนหลายกัป องค์ศิริเพิ่นจะคายเลือดออกมากัปละก้อนไม่รู้คายทำไม องค์กฤษณาเพิ่นสิโปรดสละชีพเพิ่นหลายชาติ เพิ่นเคยคายมณีออกมาเท่าลูกมะพร้าวครั้งนึง สีเหลืองก่อนจะคายดวงตาจะเป็นสีนั้น
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ..อุปมาเรื่องกลอง อานกะ..ที่พระศาสดายกขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่า..การที่พระสัทธรรม ของพระศาสดาจะเลือนหายไปเพราะอย่างไร..ใครทำให้หายไป...

    การที่พุทธศาสนาจะหมดไป ไม่ใช่เกิดจากภัยภายนอก แต่เกิดจาก ภัยภายใน...คือพุทธบริษัท สี่ ของพระองค์นี้เอง...

    ..ท่านจะเป็น หนึ่งในการที่จะทำให้พระสัทธรรมเสื่อม หรือ เจริญ....

    [๖๗๒] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี

    เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ตะโพน ชื่ออานกะของพวกกษัตริย์ผู้มีพระนามว่าทสารหะได้มีแล้ว เมื่อตะโพนแตก พวกทสารหะได้ ตอกลิ่มอื่นลงไป สมัยต่อมาโครงเก่าของตะโพนชื่ออานกะก็หายไป ยังเหลือแต่โครงลิ่ม แม้ฉันใด

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในอนาคตกาล เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึกมีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ จักไม่ปรารถนาฟังจักไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อรู้ และจักไม่สำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเล่าเรียน ควรศึกษาแต่ว่าเมื่อเขากล่าวพระสูตร อันนักปราชญ์รจนาไว้ อันนักปราชญ์ร้อยกรองไว้ มีอักษรอันวิจิตร เป็นของภายนอก เป็นสาวกภาษิต อยู่ จักปรารถนาฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญ ธรรมเหล่านั้น ว่าควรเรียน ควรศึกษา ฯ

    [๖๗๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสูตรเหล่านั้น ที่ตถาคตกล่าวแล้วอันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม จักอันตรธานฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ พวกเราจักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้นว่า ควรเรียน ควรศึกษา ดังนี้

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๖
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    "ขุดหาเพชรในตัวเรา"

    สิ่งต่างๆ เนี่ยมันจะถมลงที่แผ่นดินไม่ว่าจะเป็นของดี ของไม่ดี อุจจาระ ปัสสาวะ เพชรนิลจินดา อะไรต่างๆ นี่มันก็จะถมลงมาที่ดินหมด แต่ว่าใต้ดินลงไปนอกจากว่าจะขุดแล้วก็ทำมหกรรมมันถึงจะไปอยู่ใต้ดินได้ ทีนี้ธรรมะที่เขาเรียกว่า ธรรมะที่ลึกซึ้ง มันก็จะต้องมีการค้นหา ถ้าหากว่าไม่ค้นหาเราก็เจอไม่ได้ สิ่งที่ลึกซึ้งนั้นมันก็มีอะไรเป็นเครื่องปิดบัง เมื่อมีเครื่องปิดบังเราก็มองไม่เห็น เหมือนกันกับเพชรนิลจินดา มันอยู่ใต้ดิน ถ้าเราไม่ไปขุดค้นมันเราก็ไม่ได้เพชรนั้นมา

    ธรรมะก็เช่นเดียวกัน ตัวของเรานี่ก็เป็นธาตุดิน เรียกว่าดินน้ำลมไฟ ภายใต้ธาตุดินนี่ก็มี “ใจ” ใจของเรานี่จะเป็นผู้สั่งการ เพราะฉะนั้นการที่เราจะรู้ได้ว่า ธรรมะใต้ดินเนี่ยก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาเรื่องของสมาธิ เพราะว่าสมาธินี่ทำไปส่งใจพอดี เมื่อนึกพุทโธเมื่อไรก็เป็นสมาธิหมายความว่าส่งใจ ก็หมายความว่าอยู่ใต้ดินเราก็จะต้องเข้าใจว่า ร่างกายของเรานี้เป็นดินแต่ว่าเป็นดินพิเศษ ดินเดินได้ ดินพูดได้ ดินทำอะไรได้เยอะ เขาเรียกว่าเป็นดินพิเศษ ดินน้ำไฟลมนั้นไม่ใช่อื่นไกลหรอก ตัวเรานี้คือ ดินน้ำไฟลม ไม่ใช่อื่นไกล แต่ว่าคนก็เลยมาเห็นว่า โอ้ นี่ไม่ใช่ดินนะ นี่เป็นเนื้อเป็นหนัง นี่มันคน แต่แท้ที่จริงก็คือ ดินนั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าใครยังไม่ได้เรียนสมาธิก็มาเรียนสมาธิซะ ได้เล็กได้น้อยก็ยังถือว่าเป็นเพชร ได้มากก็ถือว่าเป็นเพชร ถ้าหากว่าได้มากก็ร่ำรวยไป ถ้าได้น้อยก็เก็บไว้แค่ดู

    "พระอาจารย์วิริยังค์ สิรินฺธโร"
    วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร
    แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    “จิตสุดท้ายก่อนตาย”
    หลังตายไปภายใน20นาที

    นพ.สรศักดิ์. ศุภผล รพ.รามาผู้ส่งบทความดีๆนี้มาให้ สำคัญก็จริง แต่ .......
    “จิตหลังความตาย 20 นาทีแรก”
    ก็มีความสำคัญในการเปลี่ยนภพด้วย “การศึกษาทางประสาทสรีรวิทยา นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่าหนูที่ตายใหม่ๆ หัวใจหยุดทำงาน เลือดหยุดไปเลี้ยงสมอง แต่คลื่นสมองยังคงอยู่ในภาวะ “ตื่นตัวขั้นสูง” บ่งบอกถึงการมีสติสัมปชัญญะของคนเมื่อหัวใจหยุดเต้น” ดังนั้น ทางการแพทย์บอกว่า “ตาย” แต่สมองยังทำงานอยู่ เป็น “การสร้างภาพจากสังขารจิต 20 นาที” ว่าจะไปภพภูมิใด

    ดังนั้น จึงควร “เหนี่ยวนำ ไม่ให้นิมิตมาหลอกหลอน 20 นาที หลังหัวใจหยุดเต้น (กรรม กรรมนิมิต คตินิมิต) การเข้าสู่ความมืด(ภวังคจิต) บังสุกุล คำศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละศาสนาจะปลุกจิตให้ตื่นหรือถอนออกมาเอง”

    แปลว่า ต่อให้ก่อนตายญาติและคนไข้ได้เตรียมตัวเหนี่ยวนำจิตเป็นอย่างดี จนตายไปแล้ว (ก็คือหัวใจหยุดทำงาน) สมองก็ยังเหนี่ยวนำสิ่งที่ทำก่อนตายอยู่ เช่น ถ้ากำลังสวดมนตร์ภาวนา ตายไปแล้วจิตและสมองก็ยังหมกมุ่นอยู่กับการสวดมนต์ภาวนา ดวงจิตก็ย่อมเปลี่ยนภพภูมิไปที่ดี

    แต่หากสมมติว่า ก่อนตายเตรียมตัวดีมาก แต่เมื่อตายไปแล้ว ญาติๆ ร้องไห้ระงมเสียงดังลั่น หรือ ลูกหลานทะเลาะแย่งสมบัติด้วยเสียงแซ่งแซ่ บรรยากาศเหล่านั้นก็จะเหนี่ยวนำให้สมองครุ่นคิดตรงนั้นและก็นำพาดวงจิตไปสู่ภพภูมิไม่ดีได้นั่นเอง

    ดังนั้น สิ่งที่ควรทำหลังความตาย 20 นาทีแรก คือ สวดมนต์ เมื่อรู้ว่ามีคนตาย ก็หยิบขวดน้ำมนต์เย็นๆ ในตู้เย็นติดมือไป และหยดน้ำมนต์ที่ตาที่สาม (จักระ 6) ตรงหน้าผากหว่างคิ้ว เพื่อให้ความเย็นของน้ำไปส่งสัญญาณให้สมองที่ตรงกลางข้างในซึ่งยังทำงานอยู่ได้ตื่นตัวฟังเสียงสวดมนต์หรือบังสุกุล แต่ถ้าใครไม่มีน้ำมนต์ ก็ให้ใช้น้ำเย็นธรรมดาก็ได้

    สรุป

    บรรยากาศในการเตรียมตัวก่อนตายและหลัง
    ความตาย 20 นาที จะต้องปราศจากเสียงร้องไห้เศร้าโศก การทะเลาะเบาะแว้ง หรือการพูดเรื่องไม่สบายใจ เพื่อให้คนตายได้เปลี่ยนภพภูมิที่ดีขึ้น
    แต่ทั้งนี้ ตอนที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องทำความดี ละความชั่ว ขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใสด้วย จะได้พร้อมเปลี่ยนภพภูมิได้ทุกที่ ทุกเวลา

    จิตใครเศร้าหมอง ก็สั่งจิตให้คลายความเศร้าหมอง ให้อภัยปล่อยวาง คิดซะว่ากฎหมายเอาผิดไม่ได้ แต่ก็หนีกฏแห่งกรรมไม่พ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่กฏแห่งกรรม เราไม่ต้องไปเอาคืนแก้แค้น เอาเวลามาทำจิตให้ผ่องใสเข้าสู่ความว่างดีกว่า

    ผู้ใด เผยแผ่ ผู้นั้น ได้สะสมบุญ บารมี

    สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สัมโพชฌงค์นี้ ท่านถือว่าเป็นองค์แห่งการบรรลุถึงโลกุตรมัคคญาน มีอุปมาดังนก ธรรมดาเป็นสัตว์ที่เกิดถึง 3 ครั้ง

    ครั้งแรกเกิดขึ้นเป็นฟองไข่จากท้องของแม่นก
    ครั้งที่ 2 เกิดเป็นตัวนกออกจากเปลือกไข่
    ครั้งที่ 3 เมื่อขนแห้งบริบูรณ์ด้วยปีกและหาง แข็งแรงพอที่จะบินไปตามชอบใจได้ จัดเป็นการเกิดเป็นครั้งที่ 3

    ข้อนี้ฉันใด ผู้ปฏิบัติที่มีความพยายามในการเจริญสติปัฏฐานก็ฉันนั้น เมื่อปรากฏศีลวิสุทธิและจิตวิสุทธิแล้ว รอดพ้นจากกามฉันทนิวรณ์ เป็นต้น นับว่าได้เกิดออกมาจากท้องแม่นกเป็นครั้งที่ 1

    เมื่อเข้าถึงทิฐิวิสุทธิ หรือความเห็นอันบริสุทธิ์ ได้แก่เห็นรูปนามโดยความเป็นไตรลักษณ์ วิปัสสนาญานเกิดแล้ว ย่อมพ้นจากอวิชชาคือความไม่รู้อย่างหยาบ นับว่าได้ออกมาจากเปลือกไข่แล้ว

    และเมื่อสัมโพชฌงค์ทั้ง 7 ประการแก่กล้า และบรรลุมรรคผลได้ตามความประสงค์แล้ว ก็รอดพ้นจากโลกียธรรมทั้งปวง นับได้ว่าเป็นลูกนกโตเต็มที่ บริบูรณ์ด้วยขน ปีก และหาง สามารถบินไปได้ตามชอบก็อุปไมยฉันนั้น

    เมื่อพิจารณาตามสภาพธรรมชาติของสัมโพชฌงค์ทั้ง 7 ประการ จะเห็นว่า.......

    สติเจตสิก นั่นแหละที่เรียกว่า สติปัฏฐาน เมื่อเจริญขึ้นก็มีสภาพเป็น สตินทรีย์ สติพละถึงสัมมาสติ ก็เรียกว่า สติสัมโพชฌงค์

    ปัญญาเจตสิก ที่เจริญขึ้นเป็นวิมังสิทธิบาท ปัญญินทรีย์ สัมมาทิฏฐิ เรียกว่า ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ได้แก่เข้าถึงปัญญาวิสุทธิ 5. ประการ

    วิริยเจตสิก ที่เจริญขึ้นเป็นสัมมัปธาน วิริยิทบาท วิริยินทรีย์ วิริยพละ สัมมาวายามะ เรียกว่า วิริยสัมโพชฌงค๋

    ปิติเจตสิก ที่เจริญขึ้นจากการเจริญสติปัฏฐานเป็นต้น เรียกว่า ปิติสัมโพชฌงค์

    ปัสสัทธิเจตสิก คือกายปัสสัทธิและจิตปัสสัทธิ ที่เจริญขึ้นจากการเจริญสติปัฏฐาน เรียกว่า ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์

    เอกัคตาเจตสิก ที่เจริญขึ้นเป็น สมาธินทรีย์ สมาธิพละ สัมมาสมาธิ ในการเจริญสมถภาวนา เป็นตัวบริกรรมสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปนาสมาธิ สำเร็จเป็นสมาบัติ 8 และในวิปัสสนาภาวนา มีสุญญตสมาธิ อนิมิตตสมาธิ และอัปปณิหิตสมาธิ คือสมาธิที่ตามเห็นไตรลักษณ์ จนถึงมรรค ผล นิพพาน เรียกว่า สมาธิสัมโพชฌงค์

    ตัตรมัชฌัตตตาเจตสิก ที่เกิดขึ้นจากการเจริญกรรมฐานอันปราศจากปลิโพธ ความห่วงใย วางใจสม่ำเสมอในกรรมฐานนั้น เรียกว่า อุเบกขาสัมโพชฌงค์

    โพชฌงค์ทั้ง 7 จึงมีตั้งแต่ชนิดที่เป็นธรรมสามัญคือ สติ ปัญญา วิริยะ ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา เป็นเจตนาที่พยายามจะให้หลุดพ้นจากกิเลส จนถึงโพชฌงค์พิเศษ สามารถนำตนให้พ้นกิเลสได้ เรียกว่า วิเวกนิสสิตะ คือความสงัดจากกิเลส วิราคนิสสิตะ คือความออกจากกิเลส และนิโรธ คือความเข้าถึงความดับแห่งกิเลสได้

    ก็เพียงให้เข้าใจไว้เท่านั้น อย่าได้ไปยึดมั่นถือมั่นว่าจะเป็นไปตามที่กล่าวไว้ข้างต้นเสมอไป

    ทุกขั้นทุกตอนเราต่างไม่รู้ว่า กุศลบารมีเราได้สร้างสมมาแล้วอย่างไร บางท่านเร็ว บางท่านช้า วิบากกรรมกระทำมาไม่เสมอกัน

    โพชฌงค์ทั้ง 7 นั้น เป็นเพียงให้เรารู้จักปรับปรุงจิต ประคับประคองให้เดินไปตามแนวทางที่เหมาะสมถูกต้องเท่านั้น รู้จักปรับจิต ยกจิต ข่มจิตให้เสมอกัน มีปัญญาก็ต้องมีความเพียร จึงจะสำเร็จประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม......./.
     
  6. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ฝากนิทานไว้อีกเรื่อง
    นิมิตไปว่า ร่างกายเจ็บปวดอย่างมาก หลายวันก็ไม่หาย
    ตรวจดูบริเวณที่เจ็บ กลับพบ ดวงจิต เทวีท่านหนึ่ง สอบถามได้ความว่า
    เป็น ภรรยา ในอดีต เจ็บแค้นใจที่สามี มีภรรยาใหม่แล้วไล่เทวีไปอยู่เรือนคนใช้
    จึงหวนกลับมาแก้แค้น ได้ขอร้องไปว่า สามารถมีสิ่งใดที่จะทำเพื่อไถ่โทษได้ไหม
    เทวีบอกว่า ให้ไปหา ธรรม ที่สามารถปฎิบัติได้จากต้นยันปลาย โดยที่ผู้ปฎิบัติมีความสุขที่สุด
    ลองเข้าญาณค้นหาแล้วก็ไม่ทราบ แต่รับปากมาแล้ว ก็ต้องพยายาม
    เลยไปถาม เจ้าหน้าที่ไตรภูมิ ท่าบบอกมาว่า โสรัจจะ
    เมื่อไปบอกเทวี ท่านก็ดีใจ แล้วก็ลาจากไป
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    โสรัจจะเป็นธรรมคู่กับขันตินี่คะ
     
  8. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    อืม... ค่อยตื่นเต้น ขึ้นมาหน่อย

    :D
     
  9. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ก็ท่านถามมาแค่อย่างเดียว ก็เลยตอบแค่อย่างเดียวครับคุณ nouk
    เมื่อก่อนมีสมาชิกถามเหมือนกันว่าทำยังไงถีงมี โสรัจจะ
    ก็ไปถามมาได้ว่า แผ่เมตตา ทุกชั่วโมง
    แต่เราไม่ได้ขึ้นทาง ขันติ โสรัจจะ เราขึ้นทางพรหมวิหาร 4 แต่ก็คล้ายๆกัน
    แต่ทางเมตตา ทางพรหมวิหาร 4 จะมากกว่า
     
  10. ชินภัท0

    ชินภัท0 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +6
    อยากฟังเรื่อง พระยาธรรม ในเวบนี้มีเยอะ แต่อยากฟังที่กระทู้นี้
     
  11. ชินภัท0

    ชินภัท0 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +6
    และหลวงปู่เทพอุดร สงสัยๆ
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขันตินี่เราเจริญมาตั้งแต่เด็กๆ มารู้ภายหลังว่าเมื่อมีขันติก็จะเกิดโสรัจจะค่ะ คือความงดงามในกิริยา
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขออภัยค่ะ ไม่มีความรู้เรื่องพระยาธรรมเลย คงเล่าอะไรไม่ได้
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ประวัติของหลวงปู่เทพโลกอุดรมีมากมายหลายแห่งนะ
     
  15. ชินภัท0

    ชินภัท0 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +6
    อ่านดูมีแต่เหมือน คนทรง
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ความเห็นส่วนตัวนะคะ หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาเมื่อครั้งพุทธกาล ที่ปวารณาตนดูแลพระพุทธศาสนาให้อยู่ครบ 5,000 ปี โดยเจริญอิทธิบาท 4 เพื่อทรงขันธ์ไว้ เกี่ยวข้องกับพระมหากัสสปะค่ะ

    ผู้ที่จะได้พบหลวงปู่เทพโลกอุดรได้นั้น ต้องมีความตั้งมั่นในการปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นจริงๆ ไม่เหลาะแหละ และต้องแลกด้วยขีวิต
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ภาพงานปริวาสกรรม ครั้งที่ 20 ปลายปี 2557 วัดภูเพียง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. %รามา

    %รามา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    เจอคนปั้น อยู่ตรงนี้ เข้าใจๆ
     
  19. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ไม่รู้เรื่องพระยาธรรมเลย

    ส่วนหลวงปู่ ก็เคยได้ฟังเล่าต่อๆกันมาว่า สอนอภิญญาใหญ่

    เรายังเรียนไม่ถึง ครูเคยถามว่าจะเรียนไหม เราตอบไปว่าไม่เรียน อยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว

    ถามหลายปีแล้วล่ะ สงสัยไม่ต้องเรียนแล้ว ส่วนมากปฎิบัติตาม หลวงปู่ดู่กับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    เน้นไปทาง เมตตา มากสุด
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แฟนคุณไม่ได้อยู่ที่นี่o_O
     

แชร์หน้านี้

Loading...