นู๋ฟ้า>ใหม่!แก้วขนเหล็ก,แก้วจอมขวัญ,แก้วโป่งข่ามเถินราคาถูกที่นี่ที่เดียว

-Happy Smile_สวัสดีวันวิสาขบูชาจ๊ะ ไปทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระกันน๊า แต่วันนี้พี่แก้ว แววตาเข้าเวรตั้งกะเที่ยงถึงเที่ยงคืนโน่นแน่ะ..

 

tiger ตัว cat เสือกลับชาติมาเกิดเป็นแมวค่ะพี่แก้ว(sing)
แต่ดูให้รูปไม่น่าเป็นแมวแล้ว เป็นหมูมากกว่า....

 

หวัดดี วันวิสาขบูชาจ๊ะทุกๆคน ...
ขอให้ทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ อย่าลืมไปเวียนเทียนกันด้วย
พี่แก้วยังไม่เฉลยอีก รอคำตอบอยู่ .....อยากรู้จริงๆๆ

จันทร์ ทำโอทีเมกมันนี่หรอ ขยันจริงๆๆ รีบๆๆเมกก่อนชุดใหม่มาเลย

พี่ฟ้าเจ้าสี่ขาที่บ้านพี่ฟ้าน่ารักมาก สีทองแมวอ้วน นึกว่าหมูซะอีก555555
จ้ำม่ำทุกตัวเลยนะ

โดยเฉพาะลัคกี้ นี้ดูไม่เบื่อเลย ขนาดนอนยังน่ารัก น่าหยิก มั่กมาก ดูสิ เค้าขึ้นมานอนขอเค้าเองหรอ เท่ห์ซะ ถูกใจจริงๆๆ

 

อ่ะน๊า หนูดา พี่แก้วเฉลยกะพี่ฟ้าแว้วนา กาเดี๋ยวเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาน้องจันทร์ ก็ให้พี่ฟ้าเฉลยให้นะจ๊ะ แบบว่า น้องๆ ตอบผิดกันทั่วหน้าเลยจ้า ถ้าจะมีคำตอบใกล้เคียงก็คงเป็น น้องจันทร์ วันเพ็ญ (หรือเปล่าหว่า) หละเจ้าค่า

 

;aa27งั้นพ่อ แม่ หรือ ว่าคุณตา คุณยาย พี่ชื่อแก้วล่ะสิ .....

 

fairy3 วันนี้วันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง

หลังจากสวดมนต์ไหว้พระแล้ว อย่าลืมนำแก้วโป่งข่ามบนหิ้งพระ
มาอาบแสงจันทร์ รับพลังบริสุทธิ์กันด้วยนะจ๊ะพี่น้อง...fairy3

 

โห...น้องฟ้า นี่ถ้าใครแกล้งโยนแมว(ยักษ์) ตัวนี้ใส่พี่ ประมาณว่าโยนมาจากชั้น 2 ของบ้าน...พี่คงถึงกับ หลังหักได้เป็นแน่แท้ทีเดียวเชียว!

 

พี่แก้ว เตรียมรอคืนนี้ไว้แล้วค่ะ เมื่อตอน8โมงเช้าก้อถวายนําสะอาด+พวงมาลัยสด+หมากพลู1ถาดเรียบร้อยแล้วค่ะ

 

ไม่หลังหักหรอกพี่ พี่แก้วอ้วนแข็งแรงกว่าแมวอีกกกก55555

 

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=15 width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD vAlign=top><CENTER>อัญมณีบำบัด
[จากหนังสือ อัศจรรย์อัญมณี พลอยสี บำบัดโรค
: มล.อัคนี นวรัตน] </CENTER>
การใช้อัญมณีก็จัดเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการให้สีแก่ร่างกาย เพื่อกระตุ้นจักระต่างๆ หรือเพื่อบำบัดโรค ที่ให้ผลดียิ่งกว่าการให้สีด้วยเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายหรือเครื่องสำอาง เพราะอัญมณีจากธรรมชาติ ล้วนถูกบ่มเพาะอยู่ในชั้นดิน ชั้นหิน ด้วยกาลเวลาอันยาวนาน บางชนิดมีอายุหลายล้านปี ช่วงเวลานั้นๆ ก้อนอัญมณีชนิดต่างๆ จะดูดซับพลังงานจากธรรมชาติ มาเก็บไว้ที่ตัวเอง และเมื่อมนุษย์นำมาใช้กับตัวร่างกาย ก็จะได้รับพลังงานจากอัญมณีนั้นๆ ด้วย </TD></TR><TR><TD colSpan=2>การให้สีแก่ร่างกาย ก็มีจุดประสงค์หลักคือ เพื่อให้เกิดความสมดุลของสีนั้น ๆ ในร่างกาย และระบายความตึงเครียดอันเกิดจากการย่อหย่อนสี ที่อวัยวะนั้นๆ ซึ่งสีของเครื่องแต่งกาย และสีของเครื่องประดับ ก็มีอิทธิพลต่อร่างกายไม่น้อย

สีกระจ่าง สดใส โน้มนำแสงสีได้กว้างไกลกว่า รวดเร็วกว่าสีที่ทืบหรือมีสีมืดๆ และปลุกเร้าร่างการให้มีชีวิตชีวา
ควรใช้สีแดงเมื่อต้องการให้เกิดความอบอุ่น
สีน้ำเงินช่วยลดความร้อน ( อาการไข้ ) อาการตื่นเต้นกระวนกระวาย
ควรใช้สีให้แตกต่างกันในแต่ละวัน เพื่อให้เกิดพลังทีไม่จำเจ ซ้ำซาก ประสานสัมพันธ์และผดุงสุขภาพ
</TD></TR><TR><TD>ก่อนที่คุณจะใช้อัญมณีในการบำบัดรักษา หรือบรรเทาอาการจ็บป่วยต่างๆ แก่ตนเองและคนใกล้ชิด ควรศึกษาก่อนว่า อัญมณีชนิดใด ใช้รักษาหรือบรรเทาอาการของโรคอะไร

อัญมณีที่คุณจะนำมาใช้ ควรเป็น อัญมณีจากธรรมชาติ จะมีคุณสมบัติที่ดี มีพลังงานสูงกว่าอัญมณีที่สังเคราะห์ขึ้นมาในห้องทดลองและเมื่อคุณได้อัญมณีที่ต้องการแล้ว ควรชำระล้างให้สะอาดเสียก่อนก่อนที่จะนำมาใช้งาน เป็นการขจัดคลื่นพลังที่ไม่เหมาะสมที่ติดมากับอัญมณีชิ้นนั้นให้หมดไป

</TD><TD align=middle>

อเมทิสต์ - พลอยที่มีพลังในการปกป้องและให้พลังผู้สวมใส่สูงมาก</TD></TR><TR><TD colSpan=2>การนำอัญมณีมาใช้บรรเทาอาการเข็บป่วยสมารถทำได้หลายวิธี อาจนำมาเรียงร้อยเป็นสร้อยคอ ใช้สวมเพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับคอ หลอดลม หรืออาการนอนไม่หลับ เครียด ใช้เป็นสร้อยข้อมือรักษาอาการเกี่ยวกับข้อ โรคเลือด บางคนอาจนำสร้อยมาวางบนหัวเข่าเพื่อรักษาโรคข้องเข่า หรืออาจนำก้อนอัญมณีทั้งก้อนวางลงบริเวณที่เจ็บปวดเลยก็ได้

ในกรณีที่เจ็บป่วยรุนแรง อาจนำก้อนอัญมณีหลายชิ้นวางเป็นวงกลม ก่อให้เกิดเป็นสนามพลัง แล้วเอาตัวเองเข้ามาอยู่ในวงกลมสนามพลังนั้น บางครั้ง อาจใช้อัญมณีหลายชนิดร่วมกัน เพื่อผลในการรักษามีประสิทธิภาพสูงส่ง และเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ก็ควรชำระล้างอัญมณีให้สะอาดอีกครั้งก่อนจะนำไปเก็บ เพื่อใว้ใช้งานในคราวต่อไป
</TD></TR><TR><TD align=middle>

โรสควอตส์ - สุดยอดแห่งพลอยที่สร้างความเมตตามหานิยมแก่ผู้สวมใส่</TD><TD>อัญมณีหรือหินสีจากธรรมชาติ ถูกบ่มเพาะใต้พื้นพิภพอย่างยาวนาน จึงมีพลังงานตามธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถสรรค์สร้างได้เพียงชั่วข้ามคืน พลอยธรรมชาติแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว แต่พลอยจากธรรมชาติทุกชนิด จะมีพลังซึ่งเป็นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่นเดียวกับพลังงานทิพย์ คือ ออร่า และจักระของมนุษย์
</TD></TR><TR><TD colSpan=2>เมื่อสวมใส่ จับถือ พกพาพลอยเหล่านี้ จึงเป็นการกระตุ้น สรรค์สร้างพลังให้แก่ตัวเอง ส่วนจะเป็นพลังงานเร่งเร้าหรือสงบสุข รุ่งเรือง มั่งคั่ง บรรเทาโรค ขึ้นอยู่กับชนิดของพลอยนั้นๆ และสำคัญคือ ตัวผู้สวมใส่ถ้าประพฤติปฏิบัติในทางที่ไม่เหมาะไม่ควร ไร้ซึ่งธรรมทั้งปวง คือ ศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม เมตตาธรรม ระบบพลังสุขาวดีใน คือ ออร่า จักระ ทางโคจรพลัง ปิดกั้นพลังจากพลอยที่สวมใส่อันเป็นไปตามกฏแห่งธรรมชาติ คือสิ่งที่เหมือนกัน ตอบสนองต่อกัน

เมื่อซื้อหรือได้รับอัญมณีมาใหม่ ประการแรกที่ต้องทำคือ ชำระล้างแล้วโปรแกรมบอกกล่าวหน้าที่การทำงานแก่อัญมณีนั้นๆ และควรทำบ่อยๆ ครั้งเสมอๆ เมื่อจะใช้สวมใส่หรือพกพา
</TD></TR><TR><TD colSpan=2>เสริมพลังบำบัดด้วยคุณสมบัติของอัญมณีสีต่าง ๆ
[จากบทความ : นิตยสาร ELLE ฉบับเมษายน 2548] </TD></TR><TR><TD colSpan=2>1. อัญมณีสีแดง สีแดงจัดเป็นสีร้อน ซึ่งจะกระจายพลังความร้อนออกมาตลอด จึงเป็นสีที่ให้พลังความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการกระตือรือร้นอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดความรู้สึกที่มั่นคง ในเวลาที่ภาวะจิตใจตกต่ำหรือเกิดความหวาดกลัว สีแดงจะช่วยให้สามารถตั้งสติได้รวดเร็วขึ้น ตลอดจนช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายและจิตใจได้ กลุ่มอัญมณี เช่น ทับทิม โกเมน ปะการัง เป็นต้น </TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

ทับทิม ( RUBY ) </TD><TD>พลังบำบัด : ช่วยกระตุ้นและสร้างพลัง เสริมสร้างความสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ ความรู้สึกและจิตวิญญาณ โน้มนำให้เกิดความสำเร็จ กระตุ้นการทำงานของม้าม ต่อมอะดรีนัลและระบบหมุนเวียนโลหิต
</TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

โกเมน ( GARNET ) </TD><TD>พลังบำบัด : ช่วยบำบัดอาการเฉื่อยชา และอาการหดหู่ซึกเศร้า จะช่วยปรับสมดุลสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพทางเพศ ซึ่งให้ผลดีทั้งเพศหญิงและเพศชาย กระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด เหมาะกับผู้ที่มีความดันเลือดต่ำ
</TD></TR><TR><TD colSpan=2>2. อัญมณีสีน้ำเงินและฟ้า เป็นสีเย็น ช่วยชำระล้างอารมณ์และจิตใจ ทำให้สงบเยือกเย็น พิจารณาปัญหาได้อย่างรอบคอบ ช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มอัญมณี เช่น เทอร์ควอยส์ โซดาไลต์ บลูแซฟไฟร์ ลาพิส ลาซูรี่ </TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

ไพลิน ( SAPPHIRE ) </TD><TD>พลังบำบัด : ช่วยควบคุมสติอารมณ์และเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น รู้สึกเชื่อมั่น รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดี บรรเทาอาการติดเชื้อ บำบัดอาการทางสมอง ตลอดจนโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
</TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

ลาพิส ลาซูรี่
( LAPIS LAZULI) </TD><TD>พลังบำบัด : ป้องกันการซึมเศร้าและผิดปกติทางจิต ช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณการหยั่งรู้ ปลุกจิตใจให้แจ่มใสและสงบตลอดจนเสริมพลังความเข้มแข็งให้ร่างกายและจิตใจ
</TD></TR><TR><TD colSpan=2>3. อัญมณีสีเหลือง รังสีของแสงที่กระจายออกมาจะส่งพลังแม่เหล็กของสีในทางบวกซึ่งจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้เกิดความกระปรี้ประเปร่า และระงับความร้อนรน กระวนกระวาย นอกจากนี้ยังเป็นสีแห่งสติปัญญาอีกด้วย กลุ่มอัญมณี เช่น บุษราคัม ไทเกอร์อาย ซิทริน </TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

บุษราคัม
( YELLOW SAPPHIRE ) </TD><TD>พลังบำบัด : สร้างความรื่นรมย์และความสมดุลของฮอร์โมนป้องกันหวัดวัณโรค และช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น ถ้าวางบุษราคัมไว้ใต้หมอนจะช่วยสงบประสาท และเสริมสร้างพลังระหว่างที่ร่างกายพักผ่อนด้วย
</TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

ซิทริน ( CITRINE ) </TD><TD>พลังบำบัด : ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสื่อสารและการจัดระเบียบทางความคิด เกิดการตัดสินใจที่ชัดเจน ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร
</TD></TR><TR><TD colSpan=2>4. อัญมณีสีม่วง สีม่วงสะท้อนถึงความเป็นผู้มีจิตใจดี มีเมตตา พร้อมมอบความรักให้ผู้อื่นอย่างไม่มีเงื่อนไข เป็นสีที่ช่วยให้คลายความรู้สึกอิจฉาริษยาหรืออาฆาต และช่วยเพิ่มพูนความรักและนับถือตัวเอง ช่วยบรรเทาความเศร้าโสกจากการสูญเสีย กลุ่มอัญมณี เช่น แอเมธิสต์ เลพิโดไลต์ </TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

อเมทิสต์
( AMETHYST ) </TD><TD>พลังบำบัด : ช่วยเพิ่มศักยภาพให้สมองข้างขวาซึ่งทำงานเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ช่วยขจัดความเครียด เยียวยาอาการหดหู่และฝันร้าย ควบคุมหรือระงับอารมณ์โกรธ ผู้ที่มีอาการเมาให้ดื่มน้ำแช่หินชนิดนี้จะสร่างเมาเร็วขึ้นและไม่ค่อยมีอาการเมาค้าง นอกจากนี้นังส่งผลดีต่อผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเม็ดเลือดเนื่องจากช่วยในการฟอกเลือด และกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด
</TD></TR><TR><TD colSpan=2>5. อัญมณีสีเขียว เป็นสีที่อยู่ระหว่างสีร้อนกับสีเย็น จึงมีคุณสมบัติในการสร้างความสมดุลทางอารมณ์ ช่วยให้ผ่อนคลาย เกิดความสงบ กลุ่มอัญมณี เช่น หยก มรกต มาลาไคต์ และกรีนเอเวนทูรีน์ </TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

มรกต ( EMERALD ) </TD><TD>พลังบำบัด : ช่วยผ่อนคลายจิตใจ กระตุ้นความจำและช่วยให้สมองแจ่มใส บรรเทาอาการอักเสบหรือติดเชื้อ รวมทั้งปรับระบบสมดุลในร่างกายด้วย
</TD></TR><TR><TD colSpan=2>6. อัญมณีสีส้ม เป็นสีที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจเหมือนสีแดง แต่แผ่พลังที่นุ่มนวลกว่า เป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ช่วยสร้างความสมดุลทางอารมณ์ และทำให้เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และช่วยให้เกิดความรู้สึกรื่นเริง กลุ่มอัญมณี เช่น คาร์เนเลียน สโมกกี้ ควอตซ์ เป็นต้น </TD></TR><TR><TD align=middle width=180>

สโมกกี้ ควอตซ์
( SMOKY QUARTZ) </TD><TD>พลังบำบัด : รักษาตะคริว บรรเทาอาการเจ็บปวด และช่วยให้ปล่อยวางจากการยึดติดทางกาย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ตกอยู่ในอาการสิ้นหวัง ขาดกำลังใจ ซึ่งจะช่วยปรับระดับความคิดและความรู้สึกให้กลับสู่ความสมดุล
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอบคุณข้อมูลดีๆๆจากพลังจิต เว็บพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism

 

pig_balletpig_ballet พี่ไม่ได้อ้วนน๊า น้องดา ตัวพี่ก็แค่เนี้ย
(ชูมือขึ้น แล้วหมุน หมุนฯลฯ ) ตัวนิ๊ดดดดดนึง....อิอิ

พี่ขอไปอาบน้ำ สวดมนต์ก่อนนะจ๊ะ เสร็จแล้วจะรีบไปทำงานจ้า 10 โมงแล๊ะ...เฮ้อ...มัยเวลามันเดินเร้ว เร็ว...

 

แก้วผลึก หรือโป่งขาม (Rock Crystal)
แก้วผลึกเป็นแก้วที่มีทั้งไม่มีสี และมีสีต่าง ๆ เป็นหินโปร่งใส และเป็นผลึก 6 เหลี่ยม ความแข็งประมาณ 7 ความถ่วงจำเพาะ 2.60 – 2.65 การหักเหซ้อน 1.54 – 1.55 สารประกอบคือ Quartz ซึ่งเป็นสารที่ใช้หล่อกระจกที่ใช้กันอยู่ทุกวัน แก้วผลึกชิ้นโตที่มีเหลี่ยมเกาะกันเป็นกลุ่มเหมือนกอต้นไม้แก้ว เรียกว่า เขี้ยวหนุมาน เมื่อถูกทับถมอีกและมีหินแร่ณือพืชเจือปนเข้าไปอีกหรือแก้วผลึกที่มีตำหนิไม่บริสุทธิ์นิยมเจียระไนเป็นหัวแหวน เรียกว่า โป่งข่าม ตำหนิหรือสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์จะต้องตัดแต่งให้อยู่กลางแก้วหรือก้นแก้ว เมื่อมองจากด้านบนก็จะเห็นตำหนินั้นถูกขยายเป็นรูปต่าง ๆ เช่น รูปทิวทัศน์ รูปต้นไม้หรือรูปอื่น ๆ ตำหนิหรือสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์โดยมากเกิดจากจำพวกพืชต่าง ๆ หรือหินแร่เจือปนอยุ่ในแก้วผลึก พืชบางชนิดเมื่อเจือปนอยุ่ในเนื้อแก้วแล้วทำให้แก้งผลึกเกิดเป็นสีต่าง ๆ เช่น กลายเป็นแก้วสีเหลือง สีชา สีม่วง สีดำ ถ้าเป็นสีดำก็เรียกว่าแก้วดำ พืชบางชนิดหรือหินบางชนิดเมื่อเจือปนอยุ่ในแก้วก็ทำให้กลายเป็นตำหนิ ซึ่งเมื่ออยู่ในแก้วผลึกขยายภาพแล้วมองดูเป็นหญ้าเส้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า โป่งข่ามลายผม ถ้ามีฟองก็เรียกว่า แก้วฟอง ถ้าเป็นจุดเป็นแต้ม มองดูเป็นลักษณะต่าง ๆ ก็ตั้งชื่อเรียกกันต่าง ๆ นานา โป่งข่ามที่มีราคาสูงที่สุดได้แก่โป่งข่ามลายผม และโป่งข่ามสีม่วง<O></O>
แก้วผลึกหรือโป่งข่ามเป็นหินพวกเดียวกับทรายแก้ว ดั้งนั้นเวลาที่จะหาแก้วชนิดนี้ต้องไปหาตามบ่อทรายแก้ว บางแห่งก็ลามไปจนถึงถ้ำเขาที่กว้างใหญ่ ที่เรียกกันว่า ถ้ำแก้ว แก้วผลึกมีประโยชน์สำหรับงานในด้านไฟฟ้า ในวงการอุตสาหกรรมอิเล็กทรกนิก เช่น อุตสาหกรรมวิทยุโทรทัศน์ เป็นต้น<O></O>
· สีและแหล่งกำเนิด แก้วผลึกสีขาวบริสุทธิ์มีมากในประเทศจีน และบราซิล <O></O>
สีม่วงมีมากในประทศจีน บราซิล เกาหลี แอฟฟริกาใต้ เม็กซิโก และไทย <O></O>
สีเหลือง สีชา และสีดำ มีในประเทศจีน บราซิล อังกฤษ และสเปน<O></O>
สีชมพู มีในประเทศบราซิล<O></O>
สีเขียว มีในประเทศอินเดีย และบราซิล<O></O>
· การทำเทียม การทำแก้วผลึกเทียมก็คือคัดเลือกหิน Quartz หรือที่เรียกว่า ทรายแก้วบริสุทธิ์ ใช้ความร้อนสูงถึง 2,000˚c ละลายแล้วหล่อเป็นแก้วบริสุทธิ์ ในการหล่อจะต้องระมัดระวังให้ดี ถ้าทำไม่ดีก็จะไม่โปร่งใส หรืออาจกลายเป็นครึ่งโปร่งใส หรือข้างในเนื้อแก้วอาจจะมีฟองอากาศกลม ๆ ปรากฏอยู่ทั่วไป <O></O>
สำหรับแก้วผลึกที่ใช้ทำหัวแหวนหรือแก้วทับกระดาษที่เรียกกันว่า โป่งข่ามก็หล่อโดยวิธีเดียวกัน แต่ต้องเจือปนตำหนิให้เกิดลวดลายตามที่นิยมกัน หรือใช้สีทาที่ก้นแก้วแต่งให้เกิดภาพสวยงาม เช่นให้เกิดลวดลายเป็นลายผมหรือรูปอื่น ๆ ในเวลาหล่อก็อาจทำการย้อมสีให้เป็นแก้วสีม่วง สีแดง และสีอื่น ๆ <O></O>
· การทำความสะอาด<O></O>
แช่ล้างในน้ำสะอาดอย่างเดียว เมื่อชำระล้างสะอาดแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ จึงนำไปเก็บรักษาไว้

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=4057182786c511f3ab056827826252cb&pageid=16&bookID=1028&read=true&count=true<O></O>

 

No sir พี่แก้วม่ายมีญาติพี่น้องชื่อแก้วเลยจ้าคนจ๋วย

 

อย่างนี้ชายจันทร์ก้อตอบผิดค่ะ เพราะตอบว่าพ่อ หรือแม่พี่ชื่อแก้ว....;aa46
อิอิ ไม่มีใครตอบถูกเลย บรู้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
แก้วขนเหล็ก

พูดถึงโป่งข่ามนั้น หลายคนเข้าใจว่ามีเพียง แก้วขนเหล็กเท่านั้นที่เป็นโป่งข่าม หรือบ้างว่าพลอยสีดอกตะแบก หรือแก้วนางขวัญ (Amethyst) เท่านั้นที่เรียกว่าโป่งข่าม แต่ขอย้ำนะคะว่าไม่ว่าจะเป็นแก้วขนเล็ก หรือแก้วนางขวัญ ต้องมาจาก อ.เถิน จ.ลำปางเท่านั้นจึงจะเรียกว่า "แก้วโป่งข่าม"นะคะ

อีกประการหนึ่ง แก้วดังกล่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ในหลายร้อยชนิดของแก้วโป่งข่ามเท่านั้นค่ะ
กระทู้นี้เรามารู้จักกับ "แก้วขนเหล็ก" ให้ดีขึ้นกันดีกว่าค่ะ

แก้วขนเหล็ก : มีความเชื่อกันมาช้านานแล้วว่าสามารถป้องกันคุณไสยภูติผีปีศาจสิ่งร้ายๆ และป้องกันตัวกันภัยได้ อีกทั้งยังทำให้ผู้ถือครองแก้วมีโชคลาภ และเสริมบารมีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

แก้วขนเหล็กน้ำใส เป็นแก้วโป่งข่ามที่มีคนรู้จักมากที่สุด และมักเข้าใจกันผิดๆว่าแก้วขนเหล็กนั้นสามารถป้องกันภูตผีได้อย่างเดียว แต่อันที่จริงแล้วแก้วขนเหล็กใสยังมีคุณประโยชน์นานับประการ โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภแล้ว นับว่าเป็นแก้วที่ยอดเยี่ยมนัก

แก้วขนเหล็กคืออะไร

แก้วขนเหล็ก คือหินแก้วชนิดหนึ่งมีทั้งเนื้อใส และเนื้อขุ่น มีลักษณะพิเศษคือ มีเส้นแร่สีดำคล้ายเส้นผมคน หรือขนสัตว์ ฝังอยู่ภายในเนื้อแก้ว อันเป็นที่มาของชื่อ "แก้วขนเหล็ก"

สรรพคุณโดยสรุป แก้วขนเหล็กมีอำนาจสูงส่งในการคุ้มครองจากอำนาจที่มองไม่เห็น เช่นไสยศาสตร์มนต์ดำ ภูตผีปีศาจ รวมทั้งสามารถคุ้มครองอุบัติภัยทั้งหลายทั้งปวงได้ และสามารถให้โชคลาภได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางติดต่อค้าขาย และต้องการประสบความสำเร็จและความก้าวหน้าในหน้าที่การงานค่ะ

แก้วขนเหล็ก เป็นหนึ่งในแก้วโป่งข่าม ๒๔ ตระกูล ซึ่งตัวของแก้วขนเหล็กมีอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่ที่เป็นหลักในการหากัน มีเพียง ๒ คือ

๑. แก้วขนเหล็กน้ำใส เรียกว่าแก้วตัวผู้ และ

๒. แก้วขนเหล็กน้ำตัน เรียกว่าแก้วตัวเมีย

แก้วขนเหล็ก ๒ ชนิดนี้ต้องหาไว้คู่กันจึงจะทำให้แก้วขนเหล็กมีฤทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งแก้วทั้งสองมีอำนาจในการปกป้องคุ้มครองดีเสมอกัน แต่"แก้วขนเหล็กน้ำตัน" หรือน้ำขุ่น จะดีเน้นในทางร่มเย็นเป็นสุข เมตตามหานิยม ส่วน"แก้วขนเหล็กน้ำใส"จะดีทางตบะเดชะอำนาจทำให้คนเกรงกลัว แก้ว ๒ ชนิดนี้เมื่อได้อยู่ร่วมกันจะส่งพลังงานส่งเสริมกันและทำให้ผู้เป็นเจ้าของบังเกิดความเจริญรุ่งเรือง ปราศจากอันตรายทั้งปวง

มีความเชื่อว่าแก้วขนเหล็กแต่ละชนิดสามารถส่งเสียงที่เราไม่ได้ยินเรียกหากันได้ สิ่งที่คนโบราณกล่าวนี้น่าจะหมายถึงคลื่นความถี่ หรือคลื่นความสั่นสะเทือนบางอย่างที่ออกมาจากแก้วขนเหล็ก ซึ่งคลื่นความถี่ หรือคลื่นความสั่นสะเทือนนี้จะวิ่งเข้าหากันกันเพราะเป็นคลื่นความถี่เดียวกัน การวิ่งเข้าหากันของคลื่น ก็คือการรวมตัวกันของพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมา หรือส่งออกมาจากตัวแก้วขนเหล็กนั่นเอง พลังงานเหล่านี้เมื่อรวมตัวกันแล้วย่อมเกิดเป็นกระแสพลังงานตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติคล้ายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถเกิดปฏิกริยากับบรรยากาศ หรือกระแสไฟฟ้าทั่วไปได้ และที่สำคัญคือ มีผลต่ออารมณ์ความคิดจิตใจของบุคคลที่อยู่ใกล้ๆด้วยค่ะ และเป็นไปได้ว่า การเรียกหากันของแก้วขนเหล็กนั้นอาจหมายถึงเจตสิตบางดวงที่อยู่ภายในแก้วขนเหล็กแต่ละชิ้นที่จะส่งโทรจิตหากัน และอาจทำให้การดลใจให้ผู้ที่เป็นเจ้าของแก้วนั้นไปแสวงหาแก้วอีกชิ้นที่เป็นคู่กันมาเพิ่มเติม เช่นผู้ที่มีแก้วขนเหล็กน้ำใสอยู่แล้ว อาจจะพบแก้ว หรือได้เลือกแก้วน้ำตันมาโดยบังเอิญ หรือไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งแบบนี้ท่านเรียกว่า แก้วเรียกหากัน และบันดาลให้คนเราได้พบเจอเพื่อได้เก็บมาอยู่คู่กัน ดังนั้นใครที่มีแก้วขนเหล็กน้ำใสแล้วก็ควรอย่างยิ่งที่จะหาแก้วขนเหล็กน้ำตันมาไว้เคียงข้าง หรือใครมีแก้วน้ำตันอยู่แล้ว ก็ควรหาแก้วน้ำใสมาเคียงข้างเช่นกันค่ะ เพื่อแก้วทั้งสองจะได้ส่งพลังงานเสริมกัน อันจะเป็นประโยชน์มหาศาลแก่ผู้ครอบครอง เพราะถือว่าได้ทั้งแก้วตัวผู้ตัวเมียไว้เสริมวาสนา และบารมีอย่างครบถ้วนเชียวล่ะค่ะ

๑. แก้วขนเหล็กใส เนื้อแก้วจะเป็นแก้วที่น้ำใส ภายในจะมีเส้นขนเป็นเส้น แร่ที่รากฏอยู่ในแก้วโป่งข่าม มักจะเป็นเส้นเล็กไม่เกินเส้นผม พบในแบบต่างๆ เช่นเส้นทแยงและเส้นขนหมูเป็นส่วนใหญ่

เส้นขนมีลักษณะสีดำ ซึ่งเรียกกันว่าเส้นเหล็ก หรือขนเหล็ก เส้นเหล็กที่ปรากฏอยู่ในแก้วโป่งข่ามจัดอยู่ในประเภทแร่รูไทล์ (Rutile) และธาตุ ไทเทเนียม (Titanium) เป็นแร่โลหะ หรือ BlackTourmaline เป็นสายแร่อยู่ภายใน

๒. แก้วขนเหล็กตัน ตามตำราโบราณได้กล่าวไว้ว่า แก้วลูกใดมีวรรณะดังน้ำข้าวมวก มีเส้นขนบ้งสอดเกี้ยวขึ้นในลูกแก้ว แก้วลูกนั้นมีค่านักแล" เส้นขนจะเป็นลักษณะเดียวกันกับแก้วขนเหล็กใส แตกต่างกันที่เนื้อแก้ว เพราะเนื้อแก้วจะเป็นสีขาวขุ่น เนื้อผิวเมื่อขัดแล้วไม่ค่อยมัน จึงเรียกกันว่า "ขนเหล็กตัน"

แก้วขนเหล็ก นับเป็นแก้วกายสิทธิ์ที่คนไทยในภาคเหนือ ภาคกลาง และอีกหลายๆท้องที่มีความนับถือกันมาช้านานไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ ปีที่ผ่านมา เชื่อกันว่าเป็นของกายสิทธิ์ เป็นหินที่มีเทวดารักษา หรือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ภายในเนื้อแก้ว

แก้วขนเหล็ก ในแต่ละเม็ดนั้นหากมีการผสมผสานระหว่างแก้วชนิดอื่น เช่นเนื้อแก้วมีลักษณะของแก้วหมอกมุงเมือง ก็จะได้อานุภาพเพิ่มขึ้นจากอำนาจของแก้วหมอกมุงเมืองด้วยค่ะ และหากในแก้วนั้นมีแก้วปวกร่วมด้วย ก็จะได้อานุภาพด้านโชคลาภเงินทองเพิ่มขึ้นจากแก้วบวกอีกด้วยเช่นกันค่ะ

แก้วโป่งข่ามทุกชนิดจะดีทางด้านคุ้มครองป้องกัน และดีทางป้องกันไฟ เป็นสิริมงคลแก่ผู้เป็นเจ้าของ และเชื่อกันว่าในแก้วทุกชิ้นมีเทวดาสถิตอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งลี้ลับที่คอยบรรดาลโชคแก่ผู้บูชาแก้วโป่งข่าม ทั้งนี้ผู้ที่พกพาแก้วจึงควรเก็บแก้วไว้ในที่สูง หรือหน้าหิ้งพระจะดีที่สุด แต่ให้ต่ำกว่าพระพุทธรูปจึงจะเป็นมหามงคลแก่บ้านเรือน และนำพาความสุขมาแก่เจ้าของบ้านเรือนและตัวท่านค่ะ

ในความเชื่อของแก้วกายสิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก้วขนเหล็กนั้น เป็นที่นิยมนับถือกันว่าดีทางข่ามคง ซึ่งหมายถึงอำนาจทางคงกระพัน ผู้ที่พกพาติดตัวจะปลอดภัยจากศาสตารวุธ รวมไปถึงภูตผีปิศาจภยันตรายทั้งปวง ซึ่งเรื่องการนับถือแก้วชนิดนี้เชื่อว่านับถือกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว ขุนศึกเมืองเชียงใหม่ในอดีตก็ล้วนนับถือแก้วชนิดนี้ด้วยกันทั้งสิ้น แม้แต่ปัจจุบันนี้ความเชื่อเกี่ยวกับแก้วกายสิทธิ์อย่างแก้วขนเหล็กก็ยังคงนับถือสืบต่อกันมาค่ะ

คนโบราณบ้างที่นำแก้วขนเหล็กไปทำเป็นเครื่องประดับ ทั้งหัวแหวน จี้ห้อยคอ และสำหรับผู้ที่เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์คงกระพันนั้น มีบ้างที่นำแก้วขนเหล็กฝังไว้ตามร่างกาย ซึ่งนิยมฝังไส้ที่หัวไหล่ บางคนเชื่อว่าแก้วขนเหล็กเป็นแก้วที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุตามธรรมชาติ กล่าวคือในธรรมชาตินั้นอาจมีการเข้าผสมของธาตุต่างๆขึ้นเองตามธรรมชาติ คล้ายกับการสร้างธาตุใหม่ๆในเมืองมนุษย์ กล่าวกันว่า การเกิดของแก้วขนเหล็กนั้นเบื้องต้น เมื่อธาตุประชุมกันครั้งแรก เรียกว่า "ทนสิทธิ์" ขั้นนี้จะมีอำนาจดีเด่นทางคงกระพันต่อศาสตราวุธเป็นหลัก เมื่อประชุมครั้งที่ ๒ จะเรียกว่า "กายสิทธิ์" ขั้นนี้เชื่อว่าตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ หมายความว่า แม้ตกน้ำ ถูกกดน้ำก็ไม่ตาย ไฟเผาก็ไม่ไหม้ ไม่เป็นอันตรายด้วยประการทั้งปวง และเมื่อรวมธาตุสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่า "อโลมะประสิทธิ์" ขั้นนี้ถือว่าเป็นที่สุดแห่งพลังอำนาจ คือเมื่ออมแก้ว หรือธาตุนั้นไว้ในปาก อาจสามารถเหาะเหิรเดินอากาศไปป่าหิมพานต์ และอยู่ที่นั่นไม่มีวันแก่เฒ่าเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งกรณีนี้น้อยคนที่จะได้ครอบครอง โดยมากมักได้ยินแต่ในตำนานเท่านั้นค่ะ สำหรับกรณีแก้วขนเหล็ก น่าจะอยู่ในระดับขั้นสำเร็จตัวเป็น "แก้วทนสิทธิ์"ค่ะ คือเด่นด้านคงกระพันนั่นเองค่ะ

เพชรตาแมว...อัญมณีลี้ลับ

ในโลกนี้มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมิใช่มนุษย์ได้ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมา ซึ่งมีอยู่ในเมืองไทย คือ เพชรตาแมว เป็นของวิเศษที่ใครก็อยากได้ ผู้ใดได้ครอบครองจะทำให้มี เอกลาภตลอดไป จะคิดสิ่งใด หวังสิ่งใดได้แต่สิ่งดี

เพชรตาแมวเกิดจากแมวซึ่งตาเป็นต้อหิน ข้างใดที่เป็นจะมีน้ำเลี้ยงไหลออกมาตลอดเวลา แต่แมวจะไม่มีความเจ็บปวด แต่ข้างที่เป็นต้อจะมองไม่เห็น เมื่อแมวเสียชีวิตตาข้างที่เป็นต้อจะแข็งเหมือนก้อนหิน เรียกว่า เพชรตาแมว

เมื่อปี พ.ศ. 2539 มีเจ้าของแมวตาเพชรจัดพิธีวิวาห์ให้กับแมวเพื่อเป็นศิริมงคล ซึ่งเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ จนทำให้ เจ้าของแมวบางคนเกิดความโลภ เข้าใจว่าแมวตัวเองเป็นแมวตาเพชร ควักเอาลูกตาแมวตาเพชรตัวนั้นเพื่อนำไปขาย จนทำให้แมวตัวนั้นตาบอดสนิทเป็นที่น่าเวทนา อันที่จริงเป็นเรื่องของบุญบารมี ที่ผู้ใดจะมีบุญวาสนาอันสูงส่ง และเป็นเรื่องของภพของชาติปางก่อนด้วย ถึงจะให้ครอบครองเพชรตาแมว

แมวสีสวาท คือ แมวตาเพชรที่จัดว่าหายากมาก ตาเพชรทั้ง 2 ข้างของแมวชนิดนี้ จะเป็นแก้วหรือเพชรใส ตอนเป็นแมวตาเพชร (ยังมีชีวิตอยู่) และหลังจากตายแล้วจึงกลายเป็นเพชรตาแมว ถึงแม้ร่างกายจะเน่าเปื่อยเป็น 10 - 20 ปี แต่นัยตาเพชรจะคงสภาพใสวาว ยิ่งกว่าเพชรเสียอีก นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่แมวสีสวาทเป็นเพชรตาแมวมีราคามหาศาลยิ่งกว่าพระเครื่องหลายเท่าตัว ตามที่สนนราคากันเพื่อ ความอยากเป็นเจ้าของ แต่ก็มีโอกาส 1 ในล้าน, ล้าน, ล้าน ที่จะได้ครอบครองเพชรตาแมวชนิดเพชรใสที่ได้จากแมวสีสวาท สุดยอดแมว มหาโชคลาภมีแต่ความร่ำรวย

หิน มีลักษณะคล้ายหินอ่อน, หินลูกรัง บางเม็ดจะมีผิวหยาบบ้าง ละเอียดบ้าง แล้วแต่เพชรตาแมวแต่ละสายพันธุ์ บางเม็ดจะมีสีขาวขุ่น, ใสขุ่น, ดำขุ่น แมวมีชีวิตอยู่เมื่อมองเหยื่อนาน ๆ เหยื่อประเภทจิ้งจก, นก, หนู จะแพ้นัยตาแมวแล้วตกมาเป็นอาหารแมว โดยที่แมวไม่ต้องทำอะไร

ลักษณะพิเศษนี้จะเปลี่ยนไปหลังจากแมวเสียชีวิตแล้ว ขึ้นอยู่กับเจ้าของผู้ครอบครอง จะหมั่นสร้างบุญบารมี ทำคุณงามความดี เพชรตาแมวถึงจะสำแดงฤทธิ์เดชให้เจ้าของได้ประจัก

หินใส
เพชรตาแมวชนิดนี้เกิดขึ้นกับแมวที่เจ้าของเลี้ยงดูแลเป็นอย่างดี ส่วนมากจะเป็นตาเพชรข้างเดียว เพชรตาแมวประเภทนี้จะมีความใสปนขุ่น มีขนาดลูกแก้ว ในความใสจะมีลักษณะเหมือนเสี้ยนไผ่อยู่ในตา ม่านตา เมื่อส่องด้วยกล้องขยายจะเห็นเป็นรังผึ้งขนาดเล็กและมีเส้นเลือดขนาดเล็ก คุณสมบัติจะเหมือนข้อแรก เพชรตาแมวประเภทนี้จะมีสีฟ้าน้ำทะเล, สีเหลือง,เขียวอมฟ้า ม่วงอมชมพู ฯลฯ

ใสเป็นแก้ว
เพชรตาแมวชนิดนี้จะมีลักษณะแตกต่างจาก 2 ประเภทดังกล่าว คือ ตอนเป็นแมวตาเพชร (ยังมีชีวิตอยู่) และมาเป็นเพชรตาแมว (เสียชีวิตแล้ว) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพชรจะมีความใสลึก ไม่มีขาวขุ่นมาเจือปน มีมิติซับซ้อน มีจุดไวแสงต่าง ๆ ไม่อยู่นิ่ง เหมือนตาแมวตอนที่มีชีวิตอยู่ ไม่สามารถทำเทียมเลียนแบบได้ เพชรตาแมวประเภทนี้จะมีสีเดียวกับสัตว์เท่านั้น เนื้อเพชรจึงจะใสบริสุทธิ์ และมีความวาวใสมาก

พราหมณ์ผู้บรรลุชาญชั้นสูงให้ข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะได้เห็นหรือครอบครอง เพราะเป็นเรื่องบุญวาสนา ตั้งแต่ชาติ ปางก่อน ที่สัตว์ประเภทนี้ตามมารับใช้เจ้าของ ที่นำแต่ความร่ำรวบ, ทรัพย์สมบัติ, ลาภยศ
สุข สรรเสริญมาให้ เพชรตาแมวประเภทใส ยังมีคุณสมบัติแคล้วคลาดจากอันตรายได้ และเพชรตาแมวยังมีคุณสมบัติคล้ายกับเหล็กไหล จะต่างกันเพียงแต่เพชรตาแมวเกิดจากสัตว์ ส่วนเหล็กไหลเกิดจากแร่ธาตุที่มีวิญญาณมนุษย์, อมนุษย์, ยักษ์, เทพ, เทวา, ฤษี คุ้มอยู่

พราหมณ์ท่านนี้ยังกล่าวอีกว่าไปแสวงบุญทั่วประเทศไทย เพิ่งเจอเพชรตาแมวประเภทนี้และคิดว่ามีอยู่คู่แรกและคู่เดียว ซึ่งตรงตามตำราเก่าแก่ตั้งแต่โบราณที่บันทึกไว้ ซึ่งเป็นสมบัติส่วนพระมหากษัตริย์ที่ทรงโปรดให้บันทึกไว้ เพื่อเป็นความรู้แก่คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า

เพชรตาแมวที่เกิดจากแมวสีสวาท เป็นแมวพันธุ์ไทยแท้ ซึ่งหายากมาก เชื่อว่าเป็นเพชรตาแมวคู่เดียวที่มีอยู่ในประเทศไทยที่เป็นเพชรตาแมวแบบใสเป็นแก้ว และมีคุณสมบัติพิเศษ คือ แกร่งตกไม่แตก และมีชาวต่างชาติเสนอราคาให้ 22 ล้านบาท แต่เจ้าของยังไม่ให้คำตอบ ทุกวันนี้ฝากไว้ในตู้เชพธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แมวสีสวาทนี้เป็นแมวไทยพันธุ์แท้ของจังหวัดนครราชสีมาที่อื่นไม่มี เพชรตาแมวที่นำเสนอได้จากเขตรอยต่ออำเภอเสิงสาง กับอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์

ขอบคุณข้อมูลจากอยากรู้....อยากเห็น....

 

สวัสดีครับ พี่แก้ว พี่ดา พี่ฟ้า และทุกท่าน

สองวันที่ผ่านมางานยุ่งมากๆเลยครับ...
มีแอบสลบในห้องตัดด้วย จนน้องeditor มาปลุกนึกว่าไหลตายซะแล้ว 555+

พี่แก้ว... ไม่มีรางวัลใกล้เคียงเหรอครับ? แบบสลากกินแบ่งอ่ะ 555+

พี่ดา... คิดถึงจังครับ

คุณฟ้า... แมวหรือหมูครับ 555+

(ผมชอบแมวหรือสุนัขลายเสือมากๆครับ คิดว่ากลับไปอยู่บ้านนอกเมื่อไหร่-บ้านมีบริเวณ
จะไปหาสุนัขลายเสือ หลังอาน หางดาบ มาเลี้ยงครับ)

เดี๋ยวไปทานข้างก่อนนะ แล้วจะออกไปเวียนเทียนกับคุณแม่ครับ
แล้วจะเอาบุญมาฝาก

 

มาแล้วเหรอ.....เอ่อ..เอาแบบชินจังมาไงคะ..
- อ้าวเข้ามาก็โดนทิ้งให้เฝ้าบ้านซะแระ..
- วันนี้ ไปเยี่ยมช่างแกะหินมา ปรากฏว่าช่างเพิ่งไปผ่าตัดมาค่ะ..
- งานแกะก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป...เดี๋ยวจะกลายไปทรมาณคนป่วยอ่ะ
- แต่หินแกะพระพุทธรูปองค์เล็กสีชมพูกะสีม่วง ก็ออเดอร์ไปแล้วแล่ะ..ไม่ลืมนะจ๊ะ..
- ว่าแต่วันนี้ พี่ลูกแก้ว น้องดาไปวัดไหนมามั่งน้อ..
- อนุโมทนากับชายจันทร์ด้วยจ้า...ฟ้าไปไม่ไหว ไอแค็กๆ ทานลิ้นจี่มากไปร้อนในเรย..ฮ่าๆ (สม...)
- ก้อหน้านี้ลิ้นจี่ แถวเชียงรายเยอะมาก ถูก อร่อยด้วย
- แต่วันนี้ก็มีหินหยกมัณฑาเลย์สวยๆ แกะเป็นองค์พระมาให้ชมแทนก่อนน้าคะ..

 

อ้าว น้องดามาพอดี..
- สวัสดีค่ะ น้องดา..
- อิอิ พี่แก้วเค้าเฉลย กะพี่ฟ้าแล้วล่ะ เรื่องชื่อน่ะ
- ก็ประมาณว่าคุณพ่อพี่แก้ว ท่านอยากระลึกถึงคุณป้าที่เป็นกามเทพ ที่ทำให้คุณป๋า กะคุณ ม่ะมี้ของพี่แก้วได้มารักกัน แล้วคุณป้าท่านนั้น ท่านก็มีลูกสาวชื่อลูกแก้ว (หรือ แก้ว นี่แหล่ะ อิอิ อันไซเมอร์ซะงั้น..เฮ้อ อย่าถือสาวัยรุ่นหยั่งพี่เรยน้า) ก้อ เรย บอกคุณแม่พี่แก้วว่า ถ้ามีลูก ก็จะตั้งชื่อลูกว่าลูกแก้วนี่ไง....
- (ฮา) เล่นงี้ ครายจาไปตอบถูกเน้อะ..อิอิพี่แก้วน้าพี่แก้ว น้องๆ เดากันจะหมองแทบแตก..
- เดาไงก็ไม่ถูกแล่ะ...
- วันนี้ น้องดา เป็นพุทธบริษัท ที่ดี น่ารักมากจ้า..แป่ะๆๆๆๆ ปรบมือให้หน่อยเร้ว..ว..

 

นู๋ไม่ได้ไปวัดหรอกค่ะ พ่อกะแม่ไปทำธุระแถวสาธร กว่าจะเสร็จธุระก้อมืดแล้ว ก้อเลยขับรถแล้วไปกินข้าวกันแถวๆๆนั้นเลย ขับผ่านวัดเห็นเค้าเวียนเทียนกันไปแล้ว ได้แต่โมทนาบุญด้วยนะคะ คนอื่นๆๆคงไปวัดหมดแล้วล่ะค่ะ

คืนนี้แถวบ้านไม่มีพระจันทร์เลย ท้องฟ้ามืดครื้มไปหมด เอาแก้วไปอาบ ไม่รู้จะได้รับแสงจันทร์รึป่าวอ่ะ

ไม่มีใครอยู่เลย สงสัยต้องเฝ้าบ้านคนเดียวซะแล้ว....เด๋วดึกๆๆจะมาปิดบ้านให้นะ


ช่วงนี้อากาศร้อน เป็นร้อนในกันได้ง่ายๆๆ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ดื่มนำกันเยอะๆๆล่ะ

 

พี่ฟ้าแถวบ้านพี่มีพระจันทร์มั๊ย

จันทร์อย่าลืมเอาแก้วไปอาบแสงจันทร์ด้วยล่ะ ขึ้น15คำแล้ว...