นู๋ฟ้า>ใหม่!แก้วขนเหล็ก,แก้วจอมขวัญ,แก้วโป่งข่ามเถินราคาถูกที่นี่ที่เดียว

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย nu_fah, 23 มีนาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    หุหุ พี่ฟ้า นู๋ดาก้อหายหน้าหายตาไป2-3วันแล้ว มาออนแอร์ไม่ไหว
    ไปเวียนเทียนเข้าพรรษา ทำงานดึก ก้อเลยพักผ่อนไม่พอ
    ไปหมอเมื่อวาน...เป็นหวัดธรรมดาค่ะ ช่วงนี้ของดกิจกรรมก่อน...อิอิ
    (ต้องกลับมารักษาสุขภาพให้แข็งแรงก่อน)
    ช่วงนี้ไปไหนมาไหน ดูแลสุขภาพ รักษาความสะอาดกันด้วยละกัน ฝากด้วยนะ;k03;aa34
     
  2. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    HOT!!!วันนี้ขอเอาเรื่องประเด็นร้อนจี๋ที่อยู่ใกล้ๆๆตัวมาฝาก

    ไข้หวัดใหญ่ 2009 หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดทั่วโลก


    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, อ.ส.ม.ท.

    ข่าวคราวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือ H1N1 ปรากฎให้เห็นมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 แล้ว แต่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ทำให้องค์การอนามัยโลกกังวลว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 อาจจะสร้างความรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก

    ทั้งนี้ประเทศแถบเอเชียใกล้ๆ บ้านเรา ก็มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทย ดังนั้นโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป วันนี้กระปุกจึงนำเรื่องราวของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มาบอกต่อเพื่อเป็นความรู้ค่ะ

    [​IMG]


    [​IMG] สถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุด

    องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเตือนภัยการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ระดับ 5 หมายถึง มีการติดต่อของเชื้อไวรัสจากคนสู่คน และแพร่ระบาดไปอย่างน้อยสองประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก รายงานว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 12,954 รายแล้ว ใน 46 ประเทศ และมีจำนวนผู้เสียชีวิต 92 ราย ขณะที่ในประเทศเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 85 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 4,721 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2552)

    [​IMG]


    [​IMG] รู้จักโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

    โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีชื่อเรียกในประเทศต่างๆ หลายชื่อ คือ ไข้หวัดเม็กซิโก, ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอชวัน เอ็นวัน 2009, ไข้หวัดใหญ่จากสุกร (Swine Influenza) เป็นต้น เป็นไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ตามปกติมีการระบาดในหมูเท่านั้น สามารถพบได้ทั้งในหมูเลี้ยง และหมูป่า ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้ง H1N1, H1N2 และ H3N2 แต่บางครั้งหมูอาจมีเชื้อไข้หวัดอยู่ในตัวมากกว่า 1 ชนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดการผสมกันของยีนได้ ทำให้เกิดเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่สามารถข้ามสายพันธุ์มาติดต่อยังมนุษย์ได้ เริ่มต้นจากการสัมผัสกับหมูที่เป็นโรค

    สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เริ่มแพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ก่อนจะแพร่ระบาดไปหลายๆ ประเทศทั่วโลกนั้น เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน และไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากเป็นการผสมกันของสารพันธุกรรมไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์, ไข้หวัดนกที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ และไข้หวัดหมูที่พบในทวีปเอเชีย และยุโรป ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากหวั่นวิตกว่า เชื้อ H1N1 อาจจะกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายยิ่งขึ้น

    [​IMG]


    [​IMG] วิวัฒนาการไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

    ก่อนที่ไข้หวัดหมูดั้งเดิมจะกลายพันธุ์เป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 นั้น ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ดั้งเดิม พบมาตั้งแต่ ค. ศ.1918-1919 ในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก จนมีผู้เสียชีวิตประมาณ 50 ล้านคน ส่วนใหญ่อายุ 20-40 ปี และตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จากนั้นโรคไข้หวัดหมูได้แพร่ระบาดในช่วงต่างๆ ก่อให้เกิดโรคในคนอยู่มากกว่า 50 ราย โดยผู้ป่วย 61% มีประวัติสัมผัสหมู และมีอายุเฉลี่ย 24 ปี หลังจากนั้นใน ค.ศ.1974 ไข้หวัดหมูได้แพร่ระบาดในค่ายทหาร (Fort Dix) ที่รัฐนิวเจอร์ซี่ มีผู้ป่วย 13 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยที่อีก 230 ราย ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรือมีอาการแต่น้อยมาก ทั้งหมดนี้ไม่มีประวัติสัมผัสหมู ซึ่งแสดงว่าน่าจะมีการพัฒนาจนมีการติดต่อจากคนสู่คน

    ต่อมาใน ค.ศ.1988 หญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งเสียชีวิตในรัฐวิสคอนซิน และมีประวัติสัมผัสหมู จึงเกิดการสงสัยว่าไข้หวัดหมูอาจไม่ใช่พันธุ์หมูล้วน (classic H1N1) จนกระทั่งปี ค.ศ.1998 จึงพิสูจน์พบว่า หมูที่เลี้ยงในประเทศสหรัฐอเมริกา มีไวรัสไข้หวัดหมูกลายพันธุ์ โดยมีพันธุกรรมผสมระหว่างหมู คน และนก เกิดสายพันธุ์ผสม (Triple assortant virus) H3N2, H1N2, และ H1N1 (วารสารโรคติดเชื้อ JID 2008) และสายพันธุ์ผสมนี้ยังพบได้ในเอเชีย และแคนาดา

    [​IMG]

    จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2008 ได้พบไข้หวัดหมูผสมสายพันธุ์ใหม่ (H1N1) ที่ประเทศสเปน จากหญิงอายุ 50 ปีที่ทำงานในฟาร์มหมู โดยมีอาการไข้ ไอ เหนื่อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คันคอ คันตา และหนาวสั่น แต่อาการเหล่านี้หายไปได้เอง โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาใดๆ จึงไม่มีการคาดการณ์ว่า ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่จะเป็นอันตรายมากนัก

    จนกระทั่งล่าสุด เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมู หรือที่มีการบัญญัติชื่อใหม่ว่า ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ลามไปทั่วโลก และมีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่า โรคนี้สามารถแพร่กันระหว่างคนสู่คน เนื่องจากเชื้อโรคได้วิวัฒนาการอย่างสมบูรณ์แล้ว

    [​IMG] การติดต่อโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

    เชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีการติดต่อเหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนทั่วไป และเชื้อจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยระยะฟักเชื้อของไข้หวัดใหญ่ 2009 นั้นอยู่ที่ประมาณ 3-7 วัน หากผู้ป่วยได้รับเชื้อมากระยะฟักตัวก็จะเร็ว ซึ่งทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยด้วยว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน

    ทั้งนี้เชื้อโรคจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และสามารถแพร่กระจายไปยังผู้อื่นด้วยการไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด รวมทั้งติดต่อกันทางลมหายใจ หากอยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ และสามารถติดต่อได้จากมือ หรือสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ทั้งนี้เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา ซึ่งสามารถแพ้เชื้อได้ ตั้งแต่ผู้ติดเชื้อยังไม่ปรากฎอาการ หรือหลังจากปรากฎอาการไข้แล้ว

    ขณะที่นักวิชาการขององค์การอนามัยโลก ระบุไว้ว่า โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีอัตราการแพร่ระบาดมากกว่าโรคซาร์ส และไข้หวัดนก แต่อัตราการเสียชีวิตมีน้อยกว่า คืออยู่ที่ร้อยละ 5-7 ขณะที่โรคไข้หวัดนกมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 60

    [​IMG]


    [​IMG] อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

    เมื่อเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะปรากฎอาการที่คล้ายกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่มีอาการรุนแรงกว่าและรวดเร็วกว่า นั่นคือ มีไข้สูงราว 38 องศาเซลเซียส ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ ไอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปอดบวม เบื่่ออาหาร บางรายอาจท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน จากนั้นเชื้อจะแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต จึงทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีการทรงตัวผิดปกติ เดินเอนไปเอนมาเหมือนคนเมาสุรา นอกจากนี้อาจสูญเสียการได้ยินจนถึงขั้นหูหนวกได้ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที


    [​IMG] ระยะติดต่อ

    ระยะติดต่อหมายถึงระยะเวลาที่เชื้อสามารถติดต่อไปยังผู้อื่น ระยะเวลาที่ติดต่อคนอื่นคือ 1 วันก่อนเกิดอาการ ห้าวันหลังจากมีอาการ ในเด็กอาจจะแพร่เชื้อ 6 วันก่อนมีอาการ และแพร่เชื้อได้ นาน 10 วัน

    [​IMG] โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ

    ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคปอดอักเสบตามมา รวมถึงหัวใจวาย และอาจจะทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งโรคแทรกซ้อนนี้สามารถคร่าชีวิตได้ หากผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และติดยาเสพติด เป็นต้น

    [​IMG]


    [​IMG] ผู้ป่วยควรจะพบแพทย์เมื่อไร

    ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ที่ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 แล้วพบว่าตัวเองมีไข้สูง 38.5 องศา มีไข้นานเกิน 7 วัน เจ็บหน้าอก ปวดท้อง อาเจียน มีจุดเลือดตามตัว ตาเหลือง เจ็บคอมาก มีเสมหะสีเขียวๆ เหลืองๆ ผิวสีม่วง หรือได้พยายามรักษาตัวเองแล้ว แต่ยังไม่หาย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ด้วยวิธี PCR ซึ่งการตรวจด้วยวิธีนี้สามารถหาเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ได้ภายใน 24 ชั่วโมง และควรเข้ารับการตรวจรักษาภายในห้องตรวจพิเศษ Negative Pressure เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อไวรัสต่อไปยังผู้อื่น


    [​IMG]


    [​IMG] การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

    องค์การอนามัยโลก ระบุว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ยังไม่สามารถป้องกัน และรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้ได้ แต่จากผลการทดสอบในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ คือ

    1. "โอเซลทามิเวียร์" (ชื่อทางการค้าว่า ทามิฟลู) เป็นยาที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กอ่อนถึงผู้ใหญ่ มีตัวยาทั้งที่เป็นเม็ดและเป็นน้ำ แต่มีผลข้างเคียง ที่พบบ่อยที่สุด คือ อาการคลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนั้นในเด็กอาจมีอาการปวดท้อง เลือดกำเดาออก ปัญหาเรื่องหู และโรคตาแดง

    2."ซานามิเวียร์" (ชื่อทางการค้าว่า รีเลนซา) เป็นยาที่ใช้ได้เฉพาะในผู้ป่วยอายุมากกว่า 5 ปี และไม่แนะนำให้ใช้ในคนที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหืด หรือผู้ป่วยในสถานพยาบาล และผู้ที่มีอาการแพ้สารแลคโตส ตัวยามีลักษณะเป็นเบบชนิดพ่นเท่านั้น ผลข้างเคียงของยานี้คือ เพิ่มความเสี่ยงของอาการหายใจลำบาก ในเด็กวัยเล็กและวัยรุ่น อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากอาการชัก อาการสับสน ความประพฤติผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากไข้หวัดใหญ่ในระยะแรก

    ทั้งนี้ ยาทั้งสองชนิด สามารถป้องกันเชื้อไวรัสไม่ให้แตกตัว แต่ต้องรับยาภายใน 48 ชั่วโมง เพราะมีโอกาสที่เชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์ได้อีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกกำลังเร่งผลิตวัคซีนเพื่อป้องกัน และรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้อยู่ ซึ่งยังคงต้องใช้เวลา อย่างน้อย 5-6 เดือน เพื่อให้ได้วัคซีนที่ใช้รักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ


    [​IMG]


    [​IMG] การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

    โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นไข้หวัดใหญ่ที่ติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งวิธีการป้องกันการติดต่อของโรคได้ดีที่สุด คือ การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด และล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งผู้ที่ป่วยเป็นหวัด ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโอกาสการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่จะเข้าไปผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลในตัวผู้ป่วย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเชื้อใหม่ที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ดื้อยาเพิ่มขึ้น และแพร่ระบาดจากคนสู่คนมากขึ้นต่อไป

    นอกจากนี้หากใครที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และมีไข้สูง ให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที เพื่อจะได้เฝ้าระวังและรักษาได้ทัน

    [​IMG]


    [​IMG] วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่

    วัคซีนสำหรับรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ อาจไม่สามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ แต่ก็ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นตามฤดูกาลได้ ซึ่งอาจจะช่วยป้องกันไม่ให้ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ผสมกับไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ จนกลายพันธุ์เป็นพันธุ์ที่รุนแรงมากกว่าเดิม

    ทั้งนี้วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนชนิดฉีด และเป็นวัคซีนเชื้อตาย จำนวน 3 สายพันธุ์ คือ ชนิดเอ 2 สายพันธุ์ และชนิดบี 1 สายพันธุ์ ทุกปีจะมีการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ขึ้นมาใหม่ โดยองค์กรอนามัยโลกจะคาดเดาว่า ในปีนั้นจะมีเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใดระบาด และแยกผลิตเป็นสองสูตร สำหรับประเทศในซีกโลกเหนือ และประเทศในซีกโลกใต้

    วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่นี้ สามารถฉีดได้ในเด็ก ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 9 ปี หากไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อนในปีแรก ให้ฉีด 2 เข็ม โดยห่างกัน 1 เดือน จากนั้นให้ฉีด 1 เข็ม ในแต่ละปี หากเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ให้ฉีดวัคซีนปีละครั้ง

    โดยทั่วไปการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันโรคได้ร้อยละ 60-90 หรือหากเป็นขึ้นมา อาการของโรคก็จะไม่รุนแรงนัก ทั้งนี้หลังจากฉีดวัคซีนแล้ว อาจมีอาการปวดบวมแดงเฉพาะที่ หรืออาจมีไข้หรือปวดเมื่อยตามตัว นาน 1-2 วัน

    แม้ว่าโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะมีอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไม่มากนัก และผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจะได้รับการรักษาจนหายแล้วก็ตาม แต่อย่างไรเราก็ควรต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถเตรียมการป้องกัน และเฝ้าระวังได้อย่างถูกต้อง ซึ่งวิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ดีที่สุด ก็คือการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และล้างมือบ่อยๆ เพื่อกำจัดเชื้อโรคออกไปนั่นเอง



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

     
  3. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    วิธีการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ด้วยตัวคุณเอง

    เมื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดเข้ามาในเเชีย (ฮ่องกง) ชักจะใกล้บ้านเราเข้าไปทุกที วันนี้จึงขอเสนอ วิธีการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นั่นคือ การล้างมือ วิธีง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง และหลายๆ คนมองข้าม ฝึกให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา
    การป้องกัน
    1. การป้องกันทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ล้างมือบ่อยๆ กรมควบคุมโรคได้เปิดศูนย์ call acenter ให้ประชาชนสอบถามสถานการณ์ของโรคได้ที่หมายเลข 0-2590-3333
    2. เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มีการแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนโดยทั่วไป เชื้อที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอหรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือ และสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก และตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ มีน้ำมูก หากป่วย และมีอาการดังกล่าว ควรสวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด ประชาชนทั่วไปควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผัก ผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ล้างมือบ่อยๆ
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ที่มา : นพ.วรวุฒิ เจริญศิริ
    ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ


    <!-- creat pic ---><!-- TAG --><!-- END TAG -->
     
  4. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    ขอบคุณ คุณพยาบาล น้องดาแสนสวย...อิอิ

    - พี่ฟ้าละกลั๊วกลัวอ่ะ กลัวจะอินเทรนด์ เป็นไข้หวัด 2009 กะเค้าเจงๆนะ...

    - น้องดาและพี่ๆเพื่อนๆในเว็บพลังจิตก็รักษาสุขภาพดีๆเน้อจ้า....

    - ไม่จำเป็นก็อย่าไปในที่แออัด ชุมชน คนพลุกพล่านบ่อยๆละกันนะคะ...

    - ถ้าจำเป็นออกนอกบ้านก็ควรหมั่นล้างมือ ใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโรคเมื่อไปในที่แออัด หรือที่ๆอาจจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคด้วยก็ดีค่ะ

    - ก๊อ อยู่บ้าน- ออนไลน์ - ดูเว็บพลังจิตไปดีก่านะ...อิอิ(smile)
     
  5. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    (smile)เข้าเช็ก PM ไม่ได้ ไม่ทราบเป็นอะไร???

    - ได้อ่านในเมล์แล้วค่ะ คุณ anuchang วันจันทร์นี้ ฟ้าจะจัดส่งไปให้นะคะ

    - ชุดใหม่ยังงรอก่อนค่ะ เพราะช่วงนี้ ยังวุ่นๆอยู่กับงานเรื่องอื่นพอสมควรค่ะ

    - หากมีโอกาสไปลำปางอีกครั้ง คงจะรีบมาแจ้งให้ทราบกันที่นี่อีกทีค่ะ....

    - ขอบพระคุณ/และขออนุโมทนาด้วยนะคะคุณ anuchang

    - วันนี้ ไปสนทนาธรรม ขอคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมและการนั่งสมาธิกับหลวงพ่อ ที่สถานปฏิบัติธรรมเวฬุวัน (ธรรมะสวัสดี) หลวงพ่อใจดี มีเมตตา มานั่งสอนหลายเรื่อง

    - แต่ที่ชอบ ถูกใจ ก็คงเป็นคำสอนที่อ้างอิงตามแนวของท่านพุทธทาสค่ะ เช่น

    "ถ้าไม่ทำตามคำสอน ไม่ต้องมาอ้อนพระอาจารย์"

    "ท่านไม่ทำสกปรก ท่านก็ไม่ต้องทำความสะอาด"

    "การปฏิบัติธรรม เป็นกุศลธรรม ที่ยิ่งใหญ่"

    "การช่วยคนที่หลงทาง(ชีวิต) หลงผิด ให้กลับตัวเป็นคนดี เป็นการสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำบุญทำทานด้วยการสร้างวัตถุหลายร้อยล้าน"

    :cool:
     
  6. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    The lastest Quartz please preview on page 123

    โป่งข่ามชุดล่าสุด เชิญชมได้ที่ หน้า 123 ค่ะ....
     
  7. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    ขอบคุณค่ะพี่ฟ้า
    ยังไงก้อฝากทุกๆๆคนด้วยโรคหวัด ติดกันง่ายมาก
    แค่สัมผัส ไปไหนมาไหน หมั่นล้างมือกันด้วยนะค๊ะ ..._heart+love_rabbit_
     
  8. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    The lastest Quartz please preview on page 123

    โป่งข่ามชุดล่าสุด เชิญชมได้ที่ หน้า 123 ค่ะ....
     
  9. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    เห็นช่วงนี้โรคหวัดกำลังระบาดหนักเลยทีเดียว
    ขอฝากหน้ากากอนามัยเก๋ๆๆๆ หลากหลายแบบมาให้ทุกคนที่กะลังป่วยได้สวมใส่กันด้วย
    ***สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค***

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ไม่ทราบว่าเพื่อน ๆ ที่นี่เวลาไม่สบายแล้วต้องเดินทางออกนอกบ้านเคยสวมหน้ากากอนามัยกันบ้างหรือเปล่า--เวลาใส่หน้ากากอนามัย ผลที่ได้คือคนที่เดินผ่านไป - มามองกันใหญ่เลย

    ก็ต้องยอมรับว่าอายเล็ก ๆ เหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขเองได้รณรงค์ให้ประชาชนที่ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม วัณโรค และไข้หวัดนก หันมาสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคแล้วนะคะเพราะว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคดังกล่าวรวมไปถึงคุณหมอ และคุณพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วยนั้นหากสวมหน้ากากอนามัยแล้วล่ะก็จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคมากกว่าร้อยละ 80 เลยทีเดียว เพราะว่าโรคทางเดินหายใจนั้นจะมีเชื้ออยู่ในละอองเสมหะ หรือน้ำลาย เมื่อผู้ป่วยไอเชื้อจะกระจายในระยะ 1-5 เมตร การสวมหน้ากากอนามัยจึงสามารถช่วยป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้ป่วยได้

    แถมช่วงนี้ฝนยิ่งตกบ่อย ๆ อยู่ด้วย ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะไม่สบายเอาได้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ตัวว่าเริ่มมีอาการไม่สบายก็ควรจะหาหน้ากากอนามัยมาใช้นะคะ จะได้เป็นการลดการแพร่เชื้อได้ บางคนอาจจะรู้สึกเขิน ๆ เพราะว่ามีคนมองแต่ก็มองข้าม ๆ ไปเถอะค่ะ ถือว่าเพื่อเป็นการรักษาสุขอนามัยที่ดีนะคะ

    ขอบคุณhttp://www.thaiblogonline.com/members/newsdpc5/1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2009
  10. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    น้องหมีใส่หน้ากากอนามัยตัวนี้ ฝากเยี่ยมพี่แก้วด้วยละกันนะจ๊ะ
    ขอให้หายป่วยในเร็ววันค่ะ....

    [​IMG]
    ขอบคุณhttp://farm3.static.flickr.com/2483/3578866312_51b98c9d00.jpg
     
  11. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    ขอบคุณน้องดาค่ะที่มาฝากสาระดีๆๆ...
    - กระแสไข้หวัด และกระแสฝนตกน้ำท่วมกะลังมาแรง...
    - ช่วงนี้ก็ระมัดระวัง ดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นพิเศษนะคะ
    - หากต้องการเลือกชมแก้วโป่งข่ามก็เชิญชมได้ที่หน้า 123 นะคะ
    - วันนี้พอมีเวลา เอาภาพต้นกล้วยตานีที่ออกหลังบ้านมาให้ชมจ้า...อิอิ ใครกลัว "ผี" ห้ามดูเน้อเจ้า...
    (ต้นนี้ ออกมาเอง คิดว่านกมาถ่ายทิ้งไว้ค่ะ และก็ปล่อยให้เค้าโตมาเรื่อยๆ จนออกหัวปลี -ออกผลแล้วค่ะ ผลกล้วยจะอยู่ใต้กลีบหัวปลี ที่สีเขียวๆนั่นล่ะค่ะ...อิอิ ลูกดกซะด้วยจิ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2009
  12. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    เนื่อมาจาก FW.Mail คร้าบ......
    อดไม่ได้ เลยขอเอามาฝากให้ชมและศึกษากันนะคะ...

    จากวัดปัญญานันทารามครับ


    [​IMG]

    พระท่านนำเรื่องนี้มาแฉพร้<wbr>อมสอนอีกครั้ง
    ให้ทุกคนได้รู้เท่าทันและพึ<wbr>งกระทำสิ่งใดด้วยปัญญาอย่างแท้<wbr>จริง
    มีกล้องอยู่ก็พยายามถ่ายมาแต่ก็<wbr>ไม่ค่อยชัดและถ่ายไม่ทันบ้<wbr>างเพราะ
    กล้องมันเจ๊งนิดนึงและ
    ถ่ายติดๆกันไม่ได้ แต่ก็น่าจะพอเอามาเล่าสู่ให้เห็<wbr>นคร่าวๆได้นะ


    [​IMG]




    เรื่องมันก็เกี่ยวกับ "สังฆทาน" และ "ถังสังฆทาน"
    พระท่านนำถังสังฆทานมาให้ดูพร้<wbr>อมกับแกะให้เห็นกันจะๆ

    [​IMG]

    เอาเบาะๆก่อนที่ทุกคนพอจะเดาได้<wbr>อยู่แล้วก็คือถังมันไม่ได้เต็<wbr>มหรอก
    มีแค่ของที่เอาแปะไว้ให้เห็<wbr>นรอบๆกับด้านบน นอกนั้นก็กลวงหรือไม่ก็
    เอากระดาษยัดแทน


    [​IMG]

    ต่อมาก็ของข้างในแต่ละอย่าง
    มันจะมีพวกกล่องชากับอะไรอีกอย่<wbr>างจำไม่ได้โทษที
    แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรที่สำคั<wbr>ญคือในกล่องนั้น!!!
    อันที่เป็นชามันมีซองชาสี่เหลี่<wbr>ยมเล็กๆอยู่ไม่กี่ซอง! 3ซองอะไรประมาณนี้ได้
    บางอันก็ว่างเปล่า! แปลว่าไม่มีอะไรเลย!!
    พระท่านบอกดูซิๆ ซื้อกันมาทำไมเนี่ย


    [​IMG]

    ต่อไปกล่องธูปเทียน

    [​IMG]


    [​IMG]

    มันมีอยู่ไม่กี่อันอีกแล้วครั<wbr>บท่าน!
    กว่าจะนำไปใช้จริงได้ต้องรวมเท่<wbr>าไหร่กันนี่


    ต่อไปอันนี้ ข้าวสาร

    [​IMG]

    พระท่านบอกว่าข้าวก็มีอยู่นิ<wbr>ดเดียว
    เมื่อไหร่จะรวมกันจนสามารถหุ<wbr>งเลี้ยงพระหรือคนได้จริงๆ
    อีกนาน...
    แล้วก็นี่ แปรงสีฟัน...

    [​IMG]

    พระท่านบอกว่า
    ดูซิแปรงเข้าไปได้ยังไง ฟันหลุดแน่ๆ!!
    มันแข็งมาก...

    และสุดท้าย เด็ดสุด
    จีวร ผ้าอาบน้ำพระ(ถ้าเรียกผิดก็<wbr>ขออภัยค่ะ)

    [​IMG]

    มันผืนเท่าเนี๊ยะ!!!
    ห่มยังไม่มิดเลย!!!!
    พระท่านบอกว่าใช้นุ่งอาบไม่ได้ แต่ใช้มาผูกตาแล้วอาบก็พอได้อยู<wbr>่555

    [​IMG]


    สรุปแล้วใช้ประโยชน์จริงไม่ได้!
    ประการฉะนี้แล......
    ที่เอามาแฉนี่ไม่ได้หมายความว่<wbr>าจะให้ทุกคนเลิกซื้อถังสั<wbr>งฆทานถวายพระนะ
    เพียงแต่จะบอกเพื่อให้ได้รู้เท่<wbr>าทัน
    และลองใช้ปัญญาคิดดูว่า สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร
    สิ่งใดเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
    สำหรับบางคนอาจคิดว่าบางแห่งวั<wbr>ดก็ใช้เป็นสังฆทานเวียนแล้<wbr>วนำเงิน
    ที่ได้จากการขายไปซื้อของเครื่<wbr>องใช้ที่จำเป็น นั่นก็ไม่ได้ผิดอะไรไม่มีปัญหา
    มันก็เป็นวิธีการ เป็นสัญลักษณ์
    แต่ที่จะบอกจริงๆ พระท่านสอนทิ้งท้ายว่า
    "สังฆทาน"
    หมายถึงการทำทานที่เป็นประโยชน์<wbr>แก่คนหมู่มาก
    ไม่ได้หมายถึงถังสังฆทาน มันไม่จำเป็นต้องเป็นถังสังฆทาน
    แต่การที่เราซื้ออะไรที่จะเป็<wbr>นประโยชน์ใช้ได้จริงไปถวายวัด
    เช่น อาจซื้อน้ำยาล้างจานแบบขวดใหญ่<wbr>ๆไปถวาย
    ถุงดำถุงขยะ แฟ๊บกล่องใหญ่ หรือซื้อข้าวซักถุง ไม้กวาดซักด้าม ฯลฯ
    เหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์แก่<wbr>คนหมู่มาก ล้วนเป็นสังฆทานทั้งสิ้น
    อาจใช้วิธีถามที่วัดว่า ขาดเหลืออะไรยังไง เราก็จะได้ถวายสิ่งที่จะเกิ<wbr>ดประโยชน์
    และถูกนำไปใช้จริง เท่านี้ก็ได้บุญหลายๆแล้ว
    ถ้าเรารู้จักดำเนินชีวิตอย่างมี<wbr>สติปัญญา ไม่ไปยึดติดกับรูปแบบ
    หรือสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิ<wbr>ดประโยชน์และการทำความดีอย่<wbr>างแท้จริง
    เรื่องเหล่านี้เอาไปประยุกต์กั<wbr>บชีวิตประจำวันอื่นๆได้
    จะได้ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นสุข รู้เท่าทัน และหลั่นล้าต่อไป (อันสุดท้ายนี่อะไร!!!)
    จริงๆเรื่องราวที่น่าสนใจของวั<wbr>ดปัญญาฯยังมีอีกเพียบเลย
    โอกาสหน้าจะเอามาเล่าสู่กันฟั<wbr>งอีก
    เพราะวัดปัญญานันทาราม เป็นวัดที่เปี่ยมไปด้วย"ปัญญา"จ<wbr>ริงๆ!

    ขอบคุณ FW.Mail ค่ะ
     
  13. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    มาทำความรู้จักกับแก้วโป่งข่ามอย่างถูกต้อง!!!

    แก้วโป่งข่าม ก็คือหินควอทซ์ (Quartz) หรือที่เรียกกันว่า "หินเขี้ยวหนุมาน" ที่เรียกว่าหินเขี้ยวหนุมานนั้น สืบเนื่องมาจากลักษณะการก่อกำเนิดภายใต้พื้นผิวดิน ซึ่งลงตัวกันอย่างเหมาะเจาะกับรูปลักษณ์และคุณสมบัติของตัวเอง อันเปรียบได้กับเขี้ยวของ "หนุมาน" ที่ทรงอิทธิฤทธิ์

    แก้วโป่งข่าม หรือหินควอทซ์นั้น เป็นผลึกของหินปูนที่มีแร่ซิลิกาปนอยู่จำนวนมาก ซึ่งคุณสมบัติของแร่ซิลิกา คือความสามารถในการปะจุพลังงานไว้ในตัว และคายพลังงานออกมารอบ ๆ ตัวเองได้

    พลังงานที่กล่าวถึงนี้คือคลื่น พลังงานไฟฟ้าอันเกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของ "แมกม่า" ภายใต้ผิวโลก ซึ่งก่อให้เกิดสนามพลังงานซึ่งเรียกกันว่า "สนามแม่เหล็กโลก" การกระเพื่อมของสนามแม่เหล็กโลกนี้เองที่ทำการประจุและสะสมพลังงานในตัวของ แก้วโป่งข
    ่าม (หรือหินควอทซ์) ซึ่งหลังจากผ่านกาลเวลานับล้าน ๆ ปี ทำให้พลังงานเหล่านี้มีมากพอที่จะกระจายออกมารอบ ๆ ตัวและเหนี่ยวนำปรับเปลียนพลังงานของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเองได้

    ดัง นั้น จึงสามารถที่จะกล่าวได้ว่า ผู้ที่ปลุกเสกแก้วโป่งข่ามก็คือ "ธรรมชาติ" นั่นเอง พลังงานจากธรรมชาติซึ่งบริสุทธิ์ ปราศจากอารมณ์ อันเปรียบเสมือนกับการปลุกเสก "พระเครื่อง" ซึ่งต้องอาศัยพลังทางจิตที่บริสุทธิ์ ปราศจากอารมณ์ที่จะมาขวางหรือกรองพลังจิตให้อ่อนแอลงได้

    เมื่ออยู่ ภายใต้ผิวดิน แก้วโป่งข่ามสามารถที่จะดูดซับพลังงานจากธรรมชาติได้ ย่อมที่จะสามารถดูดซับพลังงานจากผู้ที่ครอบครองได้เช่นกัน ดังนั้นจึงเชื่อกันว่า แก้วโป่งข่ามสามารถที่จะประจุรูปแบบของชีวิต, ความคิด, เจตนารมณ์และความปรารถนาของผู้ที่เป็นเจ้าของ และเหนี่ยวนำปรับเปลี่ยนพลังงานเหล่านั้นให้กลมกลืนกัน อันมีผลในทางบำบัด ปรับเปลี่ยนสภาวะทางจิตใจ ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงสุขภาพ, สมาธิ และการสนองตอบต่อเจตนารมณ์ของผู้ที่ครอบครองอีกด้วย
     
  14. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    โป่งข่ามแต่ละประเภท

    1.แก้วเข้าแก้ว [​IMG]
    แก้ว เข้าแก้ว จัดเป็นแก้วที่เรียกได้ว่าแปลกประหลาด มีค่าสูงและหาได้ยาก เมื่อยังไม่ได้ทำการเจียรไน โดยยังเป็นหน่อแก้วอยู่นั้น จะมองเห็นหน่อแก้วลิ่มเล็ก ๆ อาจจะลิ่มเดียวหรือเป็นกลุ่ม งอกขึ้นอยู่ภายในหน่อแก้วใหญ่ โดยแทงทะลุจากภายนอกด้านใดด้านหนึงเข้าไปภายใน หรืออาจจะเป็นหน่อแก้วซ่อนอยู่ภายในหน่อแก้วใหญ่ ซึ่งแก้วเข้าแก้วชนิดนี้หาได้ยากมาก และมีราคาสูง

    แก้วเข้าแก้ว ได้จัดแยกประเภทสืบกันมาแต่โบราณดังนี้

    1.แก้วเข้าแก้วเง่า
    แก้วเข้าแก้วที่มีการงอกของหน่อแก้วเล็ก จากทางด้านใดด้านหนึ่งของหน่อแก้วใหญ่
    2. แก้วเข้าแก้วโตน แก้วเข้าแก้วที่มีหน่อแก้วเล็กที่เรียกว่าแก้วโตน (โทน) หรือหน่อแก้วเดี่ยว ๆ งอกอยู่ตรงกลางหน่อแก้วใหญ่ โดยไม่สัมผัสกับ3.ผิวด้านใดของหน่อแก้วใหญ่
    4.แก้วเข้าแก้วแฝด แก้วเข้าแก้วที่มีแก้วสองหน่อติดกันหรือเกิดจากด้านใดด้านหนึ่งของของหน่อแก้วใหญ่
    5.แก้วเข้าแก้วซ้อนแก้ว แก้วที่มีหน่อแก้วเข้าซ้อนกันอยู่ถึงสองชั้น ซึ่งเป็นประเภทที่หายากมากที่สุด
    6.แก้วเข้าแร่ หน่อแก้วที่อยู่ภายในมีลักษณะเป็นก้อนแร่ และมีสีสันที่แตกต่างกันออกไป
    7.แก้วเข้าแก้วสลัก แก้วที่เกิดขึ้นภายในจะเป็นแก้วช่อสีอื่น ๆ

    แก้ว เข้าแก้วแต่โบราณ มีความโดดเด่น ในเรื่องของอำนาจ ความสำเร็จทางการติดต่อค้าขาย ความมีชื่อเสียง ซึ่งสามารถเปลี่ยนโชคชะตาของผู้ที่เป็นเจ้าของ ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น แก้วเข้าแก้วเป็นแก้วที่มีพลังสูง ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของอาจจะสัมผัสได้ถึงขุมพลังเร้นลับเหล่านั้น หากผู้ที่ได้ครอบครองปฏิบัติต่อแก้ว ย่อมที่จะได้รับผลดีตอบแทนอย่างคาดไม่ถึง

    แก้วเข้าแก้วเป็นแก้วที่มีค่าหาได้ยาก เป็นที่ต้องการ และมีราคาสูง


    2.แก้วพิรุณแสนห่า [​IMG]
    แก้ว พิรุณแสนห่า หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ฝนแสนห่า" เป็นแก้วที่มีลักษณะเด่นของลวดลายที่เป็นเหมือนเส้นสายฝนที่ตกลงมาเป็นริ้ว ๆ เส้นเหล่านี้จะเป็นเส้นเล็ก ๆ อาจจะเป็นเส้นตรง หรือพริ้วไหวอ่อนช้อยหมือนสายฝนที่ต้องลม

    ลักษณะของเส้นสายจะเป็น ริ้วบาง ๆ เหมือนกับผ้าแพรบาง ๆ ที่แผ่ขยายออกมาเป็นสาย เป็นแก้วชนิดที่หายากอีกชนิดหนึ่ง และมีราคาสูง โดยเฉพาะเส้นสายฝนที่มีสีสันเป็นสีฟ้า

    แก้วพิรุณแสนห่านี้ มีความเชื่อกันว่า สามารถคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ทำให้ทรัพย์สินงอกเงย อีกทั้งทำให้ประสพแต่ความเจริญรุ่งเรือง

    อาณุภาพของแก้วพิรุณแสนห่าอีกประการหนึ่งตามประสพการณ์ของผู้ที่ครอบครอง คือทางด้านการค้าขาย ทำให้สามารถค้าขายได้ดีกว่าคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันและอยู่ใน บริเวณเดียวก
    ัน เรียกว่าสามารถเรียกลูกค้าได้เลยเดียว

    3.แก้วขนเหล็ก [​IMG] [​IMG]
    แก้ว ขนเหล็ก เป็นแก้วโป่งข่ามอีกชนิดหนึ่งที่มีความต้องการสูง โดยเฉพาะแก้วขนเหล็กแบบน้ำใส ซึ่งมีราคาสูงและพบได้ยากกว่าแก้วขนเหล็กน้ำตัน แก้วขนเหล็กเป็นแก้วโป่งข่ามที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เพราะมีการนำเอาไปสร้างเป็นภาพยนต์ถึงสองครั้ง กล่าวกันว่า หากเอ่ยถึงแก้วโป่งข่ามแล้ว คนจะรู้จักแก้วขนเหล็กเป็นอันดับแรก

    แก้วขนเหล็กแบ่งออกได้เป็นสองประเภทคือ

    แก้วขนเหล็กใส แก้วโป่งข่ามชนิดนี้เป็นแบบน้ำใส ภายในมีเส้นแร่ปรากฏอยู่ มีขนาดไม่เกินเส้นผม มีสีดำ บางคติความเชื่อกล่าวกันว่า เส้นขนสีดำที่อยู่ภายในเม็ดแก้วคือ "เหล็กไหล" ในทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า เส้นขนในแก้วชนิดนี้เป็นแร่รูไทล์ (Rutile) ธาตุติตาเนียม (Titanium) ซึ่งเป็นแร่ประเภทโลหะที่มีราคาแพง
    แก้วขนเหล็กใส เชื่อกันว่าให้คุณในด้านคงกระพัน โชคลาภและเสริมบารมีให้กับผู้ที่ครอบครอง


    แก้วขนเหล็กตัน แก้วโป่งข่ามชนิดนี้ จะมีเส้นขนสีดำลักษณะเดียวกันกับแก้วขนเหล็กใส เส้นขนอาจจะใหญ่และหยาบกว่า เนื้อแก้วเป็นสีขาวขุ่นหรือสีเทา
    แก้วขนเหล็กตัน เป็นแก้วที่ให้คุณในด้าน โชคลาภ ยศและตำแหน่งหน้าที่การงาน อีกทั้งในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ โดยเฉพาะทหาร จะนิยมแก้วชนิดนี้กันมาก

    4. แก้วปวก [​IMG]
    คำว่า "ปวก" เป็นภาษาเหนือโบราณ แปลว่า ต่อมน้ำหรือฟองน้ำ (ไม่ใช่ "ปลวก" ดั่งที่คนทางภาคกลางเข้าใจกัน เมื่อได้ยินครั้งแรก) คำว่า "ปวก" แสดงถึงสิ่งที่มีลักษณะฟูขึ้นมา เหมือนต้นไม้, ใบหญ้า, ตะใคร่น้ำ, ประการังหรือสาหร่าย จะเรียกรวมกันว่าปวก

    แก้วปวกแต่ละชนิดจะมีชื่อ ตามสี เช่นปวกเขียว, ปวกแดง, ปวกทอง, ปวกเงิน, ปวกชมพู, ปวกครั่ง แก้วที่มีปวกลอยอยู่กลางเม็ดแก้ว เรียกว่า "ปวกลอย" ส่วนที่ปวกราบกับก้นแก้วเรียกว่า "ปวกทราย" หรือ "ปวกตา"

    คุณสมบัติของแก้วปวกนั้น ถือกันว่าให้คุณในด้านเมตตามหานิยม เหมาะสำหรับผู้ที่ทำการค้าขาย ผู้ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ๆ รวมทั้งทำให้อยู่เย็นเป็นสุข คลาดแคล้วและความสำเร็จในหน้าที่การงาน

    5.แก้วทราย [​IMG]
    ลักษณะ ของแก้วทรายนั้น เมื่อนำมาเจียรไนแล้ว ด้านบนของเม็ดแก้วจะใส โดยพื้นแก้วด้านล่างจะมีลักษณะของเม็ดทรายเรียงกันเป็นพื้น โดยทั่วไปแล้ว ทรายที่เกิดขึ้นที่พื้นแก้วนั้น จะเกิดอยู่ภายนอกของแท่งแก้ว ซึ่งพวกสารแร่และทรายต่าง ๆ นี้จะอยู่ด้านนอกเป็นสีต่าง ๆ กัน

    แก้วทรายนี้ จะมีอยู่หลายสีเช่น สีแดง มีคุณทางด้านป้องกันโรคภัย ทำให้สุขภาพแข็งแรง มีชีวิตชีวาและเพิ่มความกระตือรือล้นให้ชีวิต และยังส่งผลไปถึงความสำเร็จในหน้าที่การงานด้วย

    สีทอง ซึ่งเป็นสีที่พบมาก และเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมแก้วโป่งข่าม เนื่องจากจะส่งผลในเรื่องของเงินทอง โชคลาภ รวมไปถึงความมั่งมีและแคล้วคลาดอีกด้วย

    6.แก้วหมอกมุงเมือง [​IMG]
    แก้ว หมอกมุงเมือง เป็นแก้วที่มีลักษณะภายในเหมือนกับลายที่เกิดขึ้นในก้อนน้ำแข็ง คือจะมีลักษณะเป็นลายสีขาว ๆ อาจจะขาวบาง ๆ หรือขาวขุ่นหนาทึบเหมือนกับเมฆบนท้องฟ้า หรืออาจจะเป็นเพียงริ้วบาง ๆ แทรกด้วยสีฟ้าอ่อน หรือมีลักษณะเหมือนกับควันไฟขาว ๆ ก็ได้

    หากใครได้ครอบครองแก้วหมอกมุงเมือง จะทำให้เกิดความชุ่มเย็น อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดความบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง

    ในอีกด้านหนึ่งนั้น แก้วหมอกมุงเมืองจะเหมาะกับผู้ที่ฝีกสมาธิ เนื่องจากแก้วจะช่วยเสริมสมาธิให้กับผู้ฝีก โดยในสมัยโบราณ แก้วชนิดนี้ถูกนำมาให้ในการเสี่ยงทาย และทำสมาธิในการเพ่งดูนรกสวรรค์

    แก้ว หมอกมุงเมืองสามารถใช้ได้กับวันเกิดทุกวัน โดยเฉพาะคนที่เกิดวันอังคาร หรือผู้ที่ต้องการเสริมบารมี หรือเสริมสมาธิ เนื่องจากคำว่า "หมอกมุงเมือง" หมายถึงความร่มเย็น เสมือนมีหมอกมามุงเมืองไว้ ไม่มีความเดือดร้อนเลย

    อีกประการหนึ่ง คำว่า "หมอกเมือง" ในตำราพิไชยสงครามโบราณมีความหมายถึงบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเทพประจำเมืองอีกด้ว
    ย ดังนั้น คำว่าหมอกมุงเมืองจึงมีนัยว่า เป็นแก้วที่มีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองให้ร่มเย็น มั่งคั่ง และยังข่ามคงสีหนาถอีกด้วย

    7.แก้วนางขวัญ (จอมขวัญ) [​IMG]
    แก้ว นางขวัญ หรือแก้วจอมขวัญ เป็นแก้วอีกชนิดหนึ่งที่หาได้ยากมาก มีสีพื้นเป็นสีม่วงอ่อน ๆ จนถึงสีม่วงเข้ม (ซึ่งหาได้ยากมาก) สีม่วงนี้จะคล้ายสีม่วงดอกตะแบก หรือม่วงไวโอเล็ต หลายคนเข้าใจว่าจะเหมือนกับอเมทิส (Amethyst) ของประเทศทางตะวันตก แต่แก้วนางขวัญเมื่อทดสอบแล้ว จะมีเนื้อแข็งกว่ามาก

    คุณวิเศษของแก้ว นางขวัญนี้ ดีไปในทางด้านจิต และการนั่งสมาธิ อีกทั้งยังทำให้ผู้ที่ครอบครองมีความเจริญรุ่งเรือง มีชื่อเสียง เป็นยอดในด้านเมตตามหานิยม ส่งเสริมความรักและวาสนา

    ในสมัยโบราณ แก้วชนิดนี้ถือได้ว่าสูงค่ามาก ดั่งที่ว่า "มีค่าแสนคำ" เนื่องจากเป็นแก้วที่กษัตริย์โบราณถวายเป็นสักการะแก่พระบรมสารีริกธาตุใน คราวบรรจุพ
    ระธาตุเจดีย์ต่าง ๆ

    อานุภาพของแก้วนางขวัญจะทำให้ผู้ ที่ครอบครองมีเสน่ห์ต่อคนรอบข้าง และยังเชื่อถือกันว่าจะทำให้แคล้วคลาดจากอาถรรพ์เสน่ห์มายาทั้งปวง เพราะจิต (ขวัญ) ของคนผู้นั้นจะถูกคุ้มครองโดยอานุภาพของแก้ว ไม่ให้โดนอำนาจมนต์มายาใดใดสะกดเอาไว้ได้

    8.แก้ววิทูร(วิตูล)สีน้ำผึ้ง [​IMG]
    " ผู้ใดได้ครอบครองแก้ววิทูรสีน้ำผึ้ง จะทำให้เกิดโชคลาภทวีคูณ เกิดความชุ่มเย็น มีชื่อเสียงและอำนาจ การติดต่อค้าขายจะสำเร็จดังปรารถนา และยังจะทำให้แคล้วคลาดอีกประการหนึ่ง"

    ลักษณะทั่วไปของแก้ววิทูรสี น้ำผึ้ง จะมีสีเหลืองขุ่น แต่จะไม่ออกสีเหลืองมากนัก โดยจะเป็นสีเหลืองอมส้ม อาจจะมีสีเดียวทั้งเม็ด หรืออาจจะมีลายเป็นริ้ว หรือเป็นวง ๆ โดยจะมีสีเหลือง, เทา, และขาว

    แก้ววิทูรส่วนใหญ่ที่พบจะมีสีออกสีเหลืองขุ่น หรือเหลืองขุ่นมีลาย ส่วนสีเหลืองใสจะพบน้อยมาก

    9.แก้วแร [​IMG]
    เมื่อ เอ่ยถึงคำว่า "แร" คนทางเหนือจะใช้คำนี้กับความหมายที่ตรงกับคำว่า "แรเงา" อย่างเดียว โดยคนทางภูมิภาคอื่น ๆ มักจะเข้าใจว่าเป็นคำว่า "แล" ที่แปลว่า "ดู"

    "แก้วแร" นี้เป็นแก้วที่ส่งผลในการค้ำชูสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจค้าขาย เป็นแก้วที่จะเหนี่ยวนำให้เกิดความคิด หรือภูมิปัญญาอันเป็นที่มาของโภคทรัพย์ ซึ่งอาจเปรียบเสมือนแก้วจินดามณี อันหมายถึงพระนางจินดา (พระสุรัสวดี) เทวีแห่งปัญญานั่นเอง

    ผู้ที่ครอบครองแก้วแรมักจะเกิดญาณทัศนะบางอย่าง ที่ทำให้สามารถหยั่งลึกได้ในลู่ทางของทรัพย์ หรือก่อให้เกิดจินตนาการเชิงศิลปะ อีกทั้งบังเกิดโชคลาภอันเป็นที่มาของทรัพย์อีกด้วย

    10.แก้วมังคละจุฬามณี
    แก้ว มังคละจุฬามณี คือแก้วที่มีลักษณะภายในเป็นรูปมงคลต่าง ๆ เช่น องค์พระ, ต้นโพธิ์, ใบโพธิ์, เจดีย์, นาค หรือช้าง เป็นต้น เป็นแก้วที่หาพบได้ ยากมาก และถือได้ว่าเป็นแก้วที่มีค่าเหลือคณานับ หากผู้ใดได้ครอบครอง จะก่อให้เกิดความชุ่มเย็น เจริญด้วยสมบัติ แคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ ทั้งปวง อีกทั้งยังช่วยเสริมบารมี ก่อให้เกิดโชคลาภ ประสพความสำเร็จในหน้าที่การงาน และการค้าขาย

    11.แก้วสามกษัตริย์ [​IMG]
    แก้ว สามกษัตริย์ จัดได้ว่าเป็นแก้วที่มีคุณอนันต์ เนื่องจากเป็นแก้วที่รวบรวมเอาสิ่งที่เป็นมงคล หรือรวมสกุลแก้วอื่น ๆ ไว้ในแก้วเม็ดเดียวกัน จึงทำให้เป็นแก้วที่เชื่อกันว่ามีคุณวิเศษบริบูรณ์ ทั้งในด้านโชคลาภ ร่ำรวยเงินทอง แคล้วคลาด เมตตามหานิยม และเสริมบารมีให้กับผู้ที่ถือครองแก้วชนิดนี้

    ในปัจจุบันแก้วสาม กษัตริย์เม็ดขนาดปานกลางถึงขนาดใหญ่ ค่อนข้างที่จะหาพบได้ยาก เนื่องจากเป็นแก้วที่ไม่มีแหล่ง (บ่อ) ที่แน่นอน รวมทั้งมีความต้องการสูง เพราะถือกันว่าแก้วชนิดนี้สามารถใช้ได้กับวันเกิดทุกวัน

    แก้วสามกษัตริย์สามารถจำแนกออกได้เป็นสองประเภทคือ


    แก้วสามกษัตริย์ ที่เกิดจากการสหชาติ (รวม) ของแก้วต่างสกุลกัน เช่นแก้วเข้าแก้ว, ปวก, ขนเหล็ก หรือ แก้วขนเหล็ก, ปวก, ทรายคำ เป็นต้น ในปัจจุบันแก้วสามกษัตริย์ประเภทนี้หาพบได้ยาก และมีราคาสูงมาก

    แก้วสุวรรณสาม คือแก้วสามกษัตริย์ที่เกิดจากการสหชาติ ของแก้วที่อาจจะอยู่ในสกุลเดียวกัน แต่ต่างวรรณะกัน เช่น ประกอบด้วยปวกเขียว, ทอง, แดง หรือทรายทอง, ปวกเขียว, แดง

    12.แก้วกาบ [​IMG]
    แก้ว กาบ เป็นแก้วที่มีแก้วหรือแร่ประกอบอยู่ภายใน ในลักษณะที่เป็นแผ่นบาง ๆ ซึ่งอาจจะมีสีเป็นสีทองหรือน้ำตาล ซึ่งเรียกว่า "กาบทอง" หรือมีสีขุ่นเรียกว่า "กาบเงิน" ในบางครั้งอาจจะพบว่าเป็นแก้วใส ๆ ไม่มีสี ประกอบเป็นแผ่นบาง ๆ อยู่ภายใน

    เชื่อกันว่า แก้วกาบเป็นแก้วที่ให้คุณแก่ผู้ถือครอง ทางด้านหน้าที่การงาน, ยศและตำแหน่ง รวมไปถึงการร่ำรวยเงินทองและอยู่เย็นเป็นสุข


    ขอบคุณที่มา: http://xchange.teenee.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  15. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    ส่งแก้วให้คุณ นพพร (บางละมุง) เรีบร้อยแล้วค่ะ วันจันทร์คงได้รับนะคะ
    EMS. No. EH 1027 3083 5 TH
    ขอบพระคุณมากค่ะ / อนุโมทนาค่ะ
    thx1
     
  16. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    [FONT=ZF ImRightSir?]หน้ากากอนามัย [/FONT][FONT=ZF ImRightSir?]VS[/FONT][FONT=ZF ImRightSir?] ไข้หวัด[/FONT][FONT=ZF ImRightSir?]2009[/FONT]

    [FONT=ZF ImRightSir?][​IMG][​IMG][/FONT]
    [FONT=ZF ImRightSir?][​IMG][/FONT]​


    [FONT=ZF ImRightSir?]ถึงแม้ว่าการสวมหน้ากากอนามัยจะไม่ได้ช่วยให้เราปลอดภัยจากการเชื้อโรคซึ่งเป็นที่มาของไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การสวมหน้ากากกอนามัยจะช่วยลดการแพร่กระจายของละอองเล็กๆ จากการไอจามที่มีเชื้อโรคอยู่ ได้ถึงร้อยละ 80 เลยทีเดียว[/FONT]
    [FONT=ZF ImRightSir?]><O:p></O:p> สำหรับหน้ากากอนามัยนั้นปัจจุบันมีให้เลือกใช้กันหลายประเภท ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ตามประสิทธิภาพในการใช้งานดังต่อไปนี้ค่ะ


    [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG]




    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 459pt; mso-cellspacing: 0cm; mso-yfti-tbllook: 1184; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=612 border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #d4d0c8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #d4d0c8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #d4d0c8; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #d4d0c8; BACKGROUND-COLOR: transparent">[FONT=4711_AtNoon_Olive]>>> หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น[FONT=4711_AtNoon_Olive]<O:p></O:p>[/FONT][/FONT]

    นิยมใช้กันมากในปัจจุบันหน้ากากชนิดนี้มี<O:p></O:p>
    ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นได้ดี สามารถป้องกันของเหลวซึมผ่านได้ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจากการไอหรือจาม ซึ่งหน้ากากอนามัยชนิดนี้อาจสามารถป้องกันผู้สวมใส่จากเชื้อโรคได้ในจำพวกเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา แต่หากเป็นเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากในระดับไมครอน อาจจะไม่สามารถป้องกันได้ และไม่ควรมีการนำมาใช้ซ้ำ ควรเปลี่ยนหน้ากากใหม่ทุกวัน โดยหน้ากากมีราคาชิ้นละประมาณ 5 บาท หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปค่ะ<O:p></O:p>


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #d4d0c8; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #d4d0c8; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #d4d0c8; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #d4d0c8; BACKGROUND-COLOR: transparent"><O:p> </O:p>




    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    [/FONT]> </O:p> [​IMG][​IMG]
    <O:p>[FONT=4711_AtNoon_Olive]>>> หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าฝ้ายหน้ากากชนิดนี้จะเน้นใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลายจากการไอจาม แต่อาจไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้เช่นเดียวกับหน้ากากอนามัยกระดาษ แต่ข้อดีของหน้ากากผ้าฝ้ายนี้คือสามารถซักทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ค่ะ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดมากขึ้น ราคาของหน้ากากประมาณชิ้นละ 5-10 บาท เท่านั้นค่ะ</O:p>[/FONT]
    <O:p> [​IMG]</O:p>[​IMG] [​IMG]
    <O:p>[FONT=4711_AtNoon_Olive]>>> หน้ากากอนามัยชนิด N95<O:p></O:p>
    ถือเป็นหน้ากากอนามัยที่ยอมรับกันในขณะนี้ว่า สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุด เพราะป้องกันได้ทั้งฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน และมีอายุการใช้งานนานประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรจะเปลี่ยนใหม่ทุกวัน หน้ากากชนิดนี้มีราคาชิ้นละประมาณ 30-50 บาท <O:p></O:p>
    ... ถ้าน้องๆ คนไหนกลัวที่จะได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ล่ะก็ หน้ากากอนามัยชนิด N95 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือกนึงเลยทีเดียวล่ะค่ะ
    </O:p>[/FONT]

    <O:p></O:p> [​IMG][​IMG]
    <O:p>ส่วนหน้ากากป้องกันมลพิษ สามารถป้องกันฝุ่นละออง ควันพิษ ไอเสียรถ</O:p><O:p>ยนต์ และไอระเหยของสารเคมีต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ว่าไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ค่ะ ฉะนั้นจึงไม่เหมาะที่จะนำมาสวมใส่เพื่อป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ</O:p>
    <O:p
    ></O:p>... ที่ลืมไม่ได้ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" และ "สวมหน้ากากอนามัย" จะช่วยให้ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ค่ะ

    <O:p>ข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์ & www.dek-d.com</O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2009
  17. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    [​IMG]

    ขอบคุณน้องดาจ้า...
    อิอิ ถ้าจะให้ดี พี่ฟ้าว่า น้องดามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยดีกว่า..
    น่าจะ hot hit กว่าก็ได้นะคะ....
    - อืม...ว่าแต่ตะเองก็รักษาสุขภาพด้วยนะก๊ะ....
     
  18. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
  19. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    [​IMG]
    ฮัดชิ้ววววๆๆๆ...
    อิอิ...อากาศเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน....ก็ระวังเป็นหวัดด้วยนะจ๊ะ...
    ขอให้สมาชิกทุกท่าน รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...
     
  20. nu_fah

    nu_fah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +162
    >>>>อันนี้ ตั้งแต่เม็ดละ 150-300 บาท (ขนาดเล็กประมาณปลายนิ้วก้อยค่ะ สำหรับทำหัวแหวน-ได้ทั้งหญิงและชายค่ะ)
    ดูรายละเอียดที่หน้า 105.

    [​IMG][​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    (เม็ดที่ 19,26 จองแล้ว)


    ดูรายละเอียดที่หน้า 108.

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] (เม็ดที่ 31 จองแล้วค่ะ)

    ดูรายละเอียดที่หน้า 109.
    [​IMG] [​IMG] (เม็ดที่ 41 จองแล้วค่ะ)

    ดูรายละเอียดที่หน้า 110.

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] (เม็ดที่ 52 จองแล้วค่ะ)

    ดูรายละเอียดที่หน้า 111.

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] (เม็ดที่ 68 กับ 75 จองแล้วค่ะ)

    ดูรายละเอียดที่หน้า 112.

    [​IMG]

    ดูรายละเอียดที่หน้า 114.

    [​IMG] เม็ดที่ 81 คุณบีจองแล้วค่ะ [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] (เม็ดที่ 87 จองแล้ว) [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ดูรายละเอียดที่หน้า 115.

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    ดูรายละเอียดที่หน้า 116.

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ดูรายละเอียดที่หน้า 117.

    [​IMG] [​IMG]

    ดูรายละเอียดที่หน้า 118.

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    >>อันนี้ เม็ดละ 200 (ค่าจัดส่ง EMS 50 บาท)

    PAGE 121.

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] เม็ดที่ ๑. แก้วเข้าแร่+กาบเงิน น้ำใสมาก...ขนาด 2.5 x 3.5 cm. (จองแล้วค่ะ)
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด อยู่เย็นเป็นสุข เรียกทรัพย์
    _____________________________________________________________________________________________

    [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] เม๋ดที่ ๒. แก้วสามกษัตริย์ (ปวกเขียว/ปวกน้ำตาล-ทรายเงิน-กาบเงิน) ขนาด 2.3 x 3 cm.
    ให้คุณด้าน ร่ำรวยมั่นคง ป้องกันไฟ เมตตามหานิยม เสริมอำนาจวาสนา บารมี
    ____________________________________________________________________________________________

    [​IMG]

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๖. แก้วน้ำใส มีเส้นขนเหล็กผ่ากลางเม็ด โดดเด่น ขนาด 1.4 x 1.4 cm
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม ร่ำรวย เสริมอำนาจวาสนาบารมี ยศตำแหน่งหน้าที่การงาน แคล้วคลาด ป้องกันสิ่งไม่ดีมิให้กล้ำากลายผู้ที่บูชาไว้

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๗. แก้วกาบเงินน้ำใส ขนาด 1.7 x 2.2 cm.
    ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวย มั่นคง แคล้วคลาดปลอดภัย

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๙. แก้วกาบเงินกาบทอง +พิรุณแสนห่าเล็กน้อยตรงปลายเม็ดค่ะ น้ำใสเห็นกาบเงินชัดเจน ขนาด 2.2 x 3.9 cm. (จองแล้วค่ะ)
    (มีตำหนินิดหน่อยด้านข้าง เข้าแหวนหรือทำจี้ก็ยังสวยค่ะ)
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม ร่ำรวยเงินทอง อยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ


    [​IMG]
    เม็ดที่ ๑๐. แก้วไหมเงิน + ปวกขาว น้ำใสค่ะ ขนาด 2.3 x 3.3 cm.
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม ร่ำรวยมั่นคง โชคลาภ แล้วคลาดปลอดภัย


    _[​IMG]
    เม็ดที่ ๑๑. แก้วปวกสามสี =ปวกเงิน/ปวกคำ/ปวกน้ำตาล +ทรายเงิน ขนาด 1.9 x 2.3 cm.
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยเงินทอง

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๑๒. แก้วกาบเงิน+ปวกเงิน+ปวกเขียว ขนาด 1.8 x 3.3 cm.
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยเงินทอง



    [​IMG]
    เมดที่ ๑๕. แก้วกาบเงิน น้ำใส ขนาด 2.1 x 3.3 cm.
    ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวย มั่นคง แคล้วคลาดปลอดภัย

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๑๖. แก้วสามกษัตริย์ =ไหมเงิน+ปวกเขียว+กาบเงิน ขนาด 1.8 x 2.0 cm.(จองแล้วค่ะ)
    ให้คุณด้านป้องกันไฟ เมตตามหานิยม อำนาจ,วาสนา,บารมี ยศตำแหน่งหน้าที่การงาน ร่ำรวยเงินทอง อยู่เย็นเป็นสุข

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๑๗. แก้วทรายเงิน+ปวกเขียว น้ำใสมาก ขนาด 1.8 x 2.7 cm.
    เมตตามหานิยม อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยมั่นคง เรียกทรัพย์

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๑๘. แก้วปวกสามสี =ปวกเงิน+ปวกคำ+ปวกเขียว +ทรายเงิน
    ขนาด 2.3 x 3.0 cm.
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยเงินทอง

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๑๙. แก้วปวกสามสี = ปวกน้ำตาล/ปวกคำ/ปวกเขียวเข้ม ทรายเงิน
    (ตำหนิผิวแก้วด้านบนเล็กน้อยและด้านขอบข้างแก้วนิดนึงค่ะ)
    ขนาด 1.9 x 2.1 cm.
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยเงินทอง

    [​IMG]
    เม็ดที่ ๒๐. แก้ว ปวกเงินปวกคำ+ทรายเงิน ขนาด 1.8 x 2.1 cm.
    ให้คุณด้านเมตตามหานิยม อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยเงินทอง


    [​IMG]
    เม็ดที่ ๑๓. แก้วปวกน้ำตาล แบบตาแมว(ปวกตั้งแนวผ่ากลางแก้ว)
    size 1.6 x 1.8 cm.
    ให้พลังในด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ เงินทอง


    [​IMG]
    เม็ดที่ ๑๖. แก้วเข้าแร่+ หลักเงินอันใหญ่ +ปวกไร +มีกาบทองอยู่ด้วย
    size 2.0 x 3.0 cm.
    ให้พลังในด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ เงินทอง อยู่เย็นเป็นสุข

    [​IMG]

    รับลูกแก้วสารพัดนึกฟรี 1 ลูกค่ะ


    _________________________________________________________________________
    โอนเข้าบัญชี ยุพิน ท้าวธิ
    ธ. กรุงเทพจำกัด สาขาย่อยโลตัสแม่จัน เชียงราย
    เลขที่บัญชี 757-0-03141-4
    (ออมทรัพย์)

    สนใจเม็ดไหน รีบเป็นเจ้าของเลยนะคะ...
    ฟ้า...087- 190-8408
    nufah_ganes@live.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2009
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...