ติงเคยสนทนาธรรมกับท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน ท่านกล่าวว่าพระพุทธศาสนานั้นยืนยาวอยู่ได้ด้วยวัฒนธรรมแห่งข้าว ใบตอง น้ำ และพญานาค.......
มาขอตอบแบบด้อยความรู้อีกแล้ว คำว่าบรรลุธรรมนั้นขั้นไหนหากหมายถึงนิพพานหรือเกรงว่าคงไม่สามารถทำได้ต่อให้บำเพ็ญเพียรแบบเอกอุก็ตาม เหมือนจะจำได้ลางๆจากไหนไม่รู้ว่า หากเป็นนาคต่อให้บำเพ็ญเพียรรักษาศีลเพียงใด ก็ไม่สามารถจะบรรลุนิพพานได้ สิ่งที่ได้จะเป็นตะบะญาณบารมี มีแต่ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อเร่งปฏิบัติเท่านั้นจึงจะบรรลุและก้าวผ่านวัฎฎะสงสารนี้ได้ บางครั้งจำต้องมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อปฎิบัติให้หลุดพ้น ผิดพลาดประการใดขออภัยเพราะไม่มีความรู้ด้านนี้เท่าไหร่นัก
กำลังฌานสมถกรรมฐานของฤาษีแก่กล้าดีแล้ว ถ้าฤาษีเจริญวิปัสสนากรรมฐานพิจารณาทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ผมว่าฤาษีสามารถบรรลุธรรมได้ นอกจากท่านจะปรารถนาโพธิญาณอาจช้าหน่อยครับ
ข้าพเจ้าถามท่านพญานาคสีเขียวว่า "เราจะรู้ได้อย่างไรว่า มนุษย์คนนั้นมาจากภพภูมิของบาดาลครับ" พญานาคสีเขียวตอบว่า "ส่วนใหญ่ พญานาคนั้น จะมีจิตใจเดิม เหมือนหรือคล้ายดังนี้จ๊ะ" 1.เวลาไปสถานที่ใดที่มีรูปปั้น รูปสักการะพญานาค จะรู้สึกรักและคุ้นเคย 2.มีความสนใจ ใคร่รู้ในเรื่องพญานาค 3.มักจะมีนิมิตต่างๆ มาเกี่ยวกับพญานาคฝันเห็นบ้าง นิมิตว่าได้รัตนมณีแก้วบ้าง การฝันนั้น เป็นนิมิตเตือนให้เราเริ่มรู้ตัวว่าสายสัญญาเก่าๆ ว่า เราเคยอยู่ภพภูมินี้ แต่ต้องการมาเกิดเพื่อสร้างบุญ บารมีต่อในภพมนุษย์ จึงมามีนิมิตให้เราเร่งทำบุญ ทาน ศลี ภาวนา 4.เป็นผู้มั่นคงในพระรัตนตรัย 5.พญานาคได้รับหน้าที่ให้ดูแลพระศาสนา คนที่เคยเป็นลูกหลานที่เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น จึงเหมือนมีความรู้สึกว่ามีสัญญาเดิมของเหล่าพระนาคา พญานาคทุกตนมักรักถิ่นฐานบ้านเกิด และรักพวกพ้องมากกว่าอื่นๆใด ไม่ว่าลูกหลานนั้นจะไปอยู่ภพภูมิใด ก็มักจะเป็นห่วงใยอยู่เสมอๆจ๊ะ เมื่อมีเรื่องเดือนร้อน ถ้าเขาอธิษฐานจิต เหล่าพญานาคที่เป็นญาติก็มักจะมาช่วยเหลืออยู่เนืองๆ
พญานาคสีเขียว กล่าวต่อว่า" ฤษี คือ พญานาคที่มีอายุมากแล้ว เบื่อหน่ายทางโลกทิพย์ และทรัพย์สมบัติ ก็เลยจำศลี ภาวนา บำเพ็ญ พรตเป็นฤษี อยู่เมืองบาดาลนั้นหรือนาคพิภพนั่นเอง แต่ก็เพียงได้ฤทธิ์ทางจิตทางใจเท่านั้น อาจจะวิเศษถึงขั้น เนรมิตเมืองขึ้นมาได้ แต่ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ เพราะยังคงดำรงกายและภพเป็นพญานาคอยู่ จำเป็นต้องสร้างบารมีให้มากพอ จนเมื่อถึงวาระที่ต้องทิ้งสังขารเดิมแล้ว จิตก็ไปสู่ภพภูมิที่สูงกว่า ส่วนใหญ่จะกลับมาเป็นมนุษย์ เพื่อปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมจ๊ะ พญานาคนั้นมีการย้ายถิ่นฐานเหมือนมนุษย์ โดยที่ไหนสงบสุข ไม่วุ่นวาย พวกเราก็จะไปอยู่ และที่ไหนมีพระบรมสารีริกธาตุ เราชาวพญานาคก็ชอบไปอยู่ เพราะมีโอกาสอย่างมากที่จะได้รับฟังธรรมจากพระอริยบุคคลจ๊ะ
ถ้ำที่เราอยู่นั้น จะมีลักษณะ เป็นถ้ำมืด ปากถ้ำนั้น มักจะแคบ แต่ข้างในนั้นจะกว้างขวาง และทุกถ้ำที่มีพวกเราอยู่นั้น จะไม่มีพวกค้างคาวต่างๆ มาอาศัยอยู่โดยเด็ดขาด ข้าพเจ้าถามว่า" ทำไม ถ้ำ ที่ข้าพเจ้าไปนั้น มีกลิ่นคาวคล้ายของทะเล" พญานาคสีเขียวตอบว่า " เป็นเรื่องปกติจ๊ะ พญานาคนั้นจะมีกลิ่นที่เกิดจาก กิเลส โทสะ และพิษของเรา โดยเฉพาะการห่วงใยลูกหลาน ญาติวงศ์ ตระกลู ต่างๆของพญานาค จะไม่เคยลืม ท่านเองก็รู้ดีนี่จ๊ะ" ข้าพเจ้ารู้ดี รู้ซึ้งความห่วงใยของท่านอนันตนาคราช เรียกว่า ลืมไม่ลงความห่วงใยของพญานาคที่มีต่อธิดาของท่าน
อ่านถึงตรงนี้แล้วปิติขนลุกยังไงไม่รู้ครับ มีรูปอยุ่ 2รูปอยากให้ ท่าน คุรุวาโร ดูให้หน่อยครับ รูปนึงเป็น อุโบสถ เงิน ที่ไปสวดมนต์ข้ามปี ตอนผมสวดอัญเชิญเทวดา แล้วหลับตาทำสมาธิ ดูเห็นแสีงสีน้ำเงินเป็น รูปพญานาค 7 ตนเรียงตัวกัน อีกรูปเป็น ลูกแก้ว สีน้ำเงินได้มาโดยไม่คิดว่าจะได้มา รบกวนช่วย ให้ความกระจ่างด้วยครับ
เรื่องพญาอนันตนาคราชนั้น บังเอิญเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ขอเสียงโหวตหน่อยแล้วกันครับ ว่า สมควรเล่าให้รับรู้หรือเปล่า เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องยังมีชีวิตอยู่ครับ(แต่เขาอนุญาติแล้วครับ) พรุ่งนี้ถ้าอยากให้เล่า ก็จะเล่าให้ฟังครับ
เมื่อก่อนเราก็เคย ขี้สงสัยนะ..แต่ไม่มี ใครมาตอบให้เราได้เดี๋ยวนี้เลย ไม่ถาม ใคร..ก็จะมีฝันมาตอบข้อสงสัยทุกครั้ง จนหลังสุด สงสัยเรื่อง แก้วนภากาศ โดยคิคว่า..ไม่มีในโลก ..จนวันหนึ่ง ตกลงมาจากฟ้าให้เรา ตอนนี้เลยไม่สงสัยอีกเลยค่ะ......
ถ้าสัมภเวสี ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง วิญญาณเร่ร่อน แต่เป็นโอปปาติกะ (เกิดขึ้นได้ทันที) นาค ก็เป็นโอปปาติกะ ด้วยกระมังจ๊ะ เพราะนาค มีหลายชนชั้น กำเนิดขึ้นได้หลายอย่าง (จำไม่ค่อยได้ล่ะ) มีแบบที่เป็นโอปปาติกะด้วย นาคเป็นสัตว์กึ่งเทพ สัตว์ที่เป็นเทพด้วย ก็คงต้องมีความดีอยู่มาก อนุโมทนาค่ะ