ธรรมะไร้กาลเวลาทั้งทางโลกทั้งทางธรรม

ไม่เกี่ยวเลยลุงแมว..

ลุงแมวเข้าใจผิดแล้ว..

มันขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ ปรารภความเพียร มีเท่านี้แหละ..

พอรู้แจ้ง หรือ เข้าถึงแล้ว ก็ รู้แจ้งแบบเดียวกันหมด..

เพียงแต่ แบบเถรวาท จะคงคำสอนไว้สมบูรณ์ที่สุด..

สรุป ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยความเพียร แค่นี้เอง..

 

เลือกศึกษาหาทางเดินง่ายๆ มันจะตาย
รึงัย
จริงๆ ทางเดินต่างๆ ก็ไม่ได้มีไว้เดินจริง
หรอกคับ
เพราะการบรรลุธรรม คือการหาทางหยุด
การให้ค่าแก่สิ่งปรุงแต่งทั้งหลาย
นั่นต่างหากจะเป็นตัวบรรลุ

 

ตรงนี้ ถูกต้อง..

"หยุดจิต" ได้อย่างสมบูรณ์เมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็ พ้นภพ พ้นขันธ์ ทันที..

 

มีเหตุผลที่ผมนอนบ่อยๆเพราะวาสนาทางธรรมใช้ป่าวลุง
เรากะหลงนึกว่าเราเป็นคนขี้เกียจ55

 

จิต นี้ เปรียบดังนักแสวงหา..

จิต นี้ ชอบดิ้นรน ไม่หยุดนิ่ง..

จิต นี้ ชอบแส่ส่าย..

หยุดจิตได้ ก็ พ้นสังขารทั้งปวง..

 

ตรงนี้แหละ สภาวะนี้แหละ ที่พระศาสดาอุปมาว่า.."เราตถาคตเปรียบเหมือนลูกไก่ที่เจาะออกจากเปลือกไข่เป็นตัวแรก"

 

เอา พอ หอม ปาก หอม คอ..

ผู้มี ความเพียร พ้นได้ ไม่ยาก..

 

เดี๋ยว แดนซ์ซิ่ง ต่อละ..

เจริญพร..

 

ใช่ช่าย ต้องหาพ่อแม่ครูอาจารย์
อาการอย่างนี้ช่วยตัว
เองไม่ไหวแย้วฮับ

 

รับสมัครพ่อแม่ครูอาจารย์จร้า
คุณสมบัติ
ต้องไม่มีตัณหานุสัยอันกำเริบ
ต้องมีนิรุตชันติเนืองๆ
ต้องมีธรรมมนิยามอันพิสดาร

 

ประเภทอะไรอะไรกะสิ้นยึดแบบลุงแมวไม่เอานะ
เรียนบรรทัดเดียวจบหลักสูตร
สิ้นยึด55

 

อันนี้เข้าใจผิดแน่ๆ ฮับ
ตราบใดที่ยังมีทวาร 6 คือตา หู จมูก ลิ้น
กายสัมผัส ใจ
จิตก็ย่อมจะเกิด ดับตลอดไปเท่าที่
ประตูทั้ง 6
ยังมีการกระทบกับสิ่งที่ถูกรู้
และจะมีการปรุงแต่ง ด้วยการคิด นึก
ตรึกตรอง พอใจ ไม่พอใจ เฉยๆ
เรียกว่าจิตเกิด จิตดับ
เป็นธรรมชาติของจิตตะสังขาร ห้ามไม่ได่
หยุดไม่ได้ และการเกิดดับของจิตจะ
เกิดดับต่อเนื่องแม้เวลาหลับ
ประตูทั้ง5 ปิดแต่ประตุใจก็อาจทำงาน
ปรุงแต่งจากสัญญาเก่าๆ ปรุงมาเป็น
อาการฝันยังได้
ดังนั้น การไปหยุดจิต หรือหยุดคิดหยุดปรุงแต่ง จึงไม่มีใครเอาอะไร
ไปหยุดมันได้ แต่มีสติรู้ทันทำได้คับ

 

55 สิ้นยึด.. แค่ 2 คำ
ไม่ใช่บรรทัดเดียว

 

เอาตามที่ลุงแมวเข้าใจนั้นละ..

ลุงแมวคงไปไม่ถึงไหน ถ้ายังไม่ปรารภความเพียร..

 

ครูบาอาจารย์ให้ปล่อยไปดังสายน้ำ..

ครูบาอาจารย์ให้สังเกตุดูสัญลักษณ์อะไรบางอย่างหากจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้น..

ครูบาอาจารย์ให้มั่นคงกับสิ่งที่ทำอยู่..

ใครรับได้แค่ไหนก็แล้วแต่วาสนาของตน เลยละกัน..

งั้นก็ แดนซ์ซิ่ง พร้อมทั้ง สอดแทรก ธรรมปฏิบัติ ไปแบบเดิม..

 

มีสติก็รู้
เผลอเพลินไปก็(หลุด)หลงและไหลตาม
สิ่งปรุงแต่ง(สังขาร)นั้นไป
ถ้ามีหลักแล้วก็จะหลงน้อยลง รู้มากขึ้น
มากขึ้น
คับ
(จะมีบางท่านที่ไม่เข้าใจก็จะมีคำถาม ในหัว
ว่า"รู้" อะไร)

 

จักระที่สามโดนบล็อค มันคงมีอะไรบ่างอย่างเกิดขึ้น..

กระแสจิตด้านลบมีมาก คนถอดจิตตามหามีมาก คนชอบลองมีมาก..

ครูบาอาจารย์ บล็อคไว้ ปิดไว้ เพื่อความปลอดภัย เพื่อความสงบ สันโดษ..


หรือไม่ก็เพื่อความปลอดภัยจากอะไรบางอย่าง..

 

เซ็นคับ ลุงแมวเซ็น สาธุุ

 

แล้วแต่วาสนา เลย ละ กัน..

อุเบกขา ล่ะ นะ..

ไม่โอบอุ้ม ล่ะ นะ..

สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม..