ทำไมยิ่งปฏิบัติ ยิ่งรู้สึกแย่ๆ กับตัวเอง ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย tunwarat_s, 22 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. lotustoday

    lotustoday สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    น้อมรำลึกพระคุณของพระพุทธองค์ที่ได้มาพบกระทู้นี้

    กำลังอยู่ในสภาวะนี้เหมือนกัน ทำสมาธิและเดินจงกรมได้ไม่เหมือนเคย อึดอัดและท้อใจมาได้ 2 เดือนกว่า แล้ว ยังเคยนึกว่าตัวเรานี้คงปฏิบัติธรรมไม่ขึ้น ทำไม่กิเลสมันหนาขนาดนี้.. วันก่อนเราเห็นคนอื่นมายา วันนี้เราดันมายาเสียเอง.. เพราะเรายังรักตน หวงตน ขอบคุณทุกกระทู้มาก ๆค่ะที่ชี้แนะ

    น้อมรำลึกถึงพระคุณของพระบรมศาสดา องค์พระปฐมถึงองค์ปัจจุบัน รำลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ที่น้อมนำคำสอนของพระบรมศาสดามาเผยแผ่ให้สัตว์โลกตนนี้ได้มีโอกาสเข้าถึงพุทธรรม
     
  2. tunwarat_s

    tunwarat_s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +141

    ถ้างั้น เรามาเป็นกำลังใจกันสู้ สู้ สู้ ต่อไปนะคะ
     
  3. tunwarat_s

    tunwarat_s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +141
    ขอสอบถามผู้รู้เพิ่มเติมด้วยค้า....

    คือ ในเวลาที่ขับรถอยู่ แล้วมีรถมาปาดหน้ากระทันหัน เราก้อจะเหยียบเบรค... ที่สงสัยก้อคือ พิจารณาเห็นว่ากายมันเหยียบเบรคเอง ไม่มีความคิดมาสั่งกาย เพราะมันเกิดขึ้นกระทันหันมาก เลยสงสัยว่า อาการที่กายมันเหยียบเบรคเอง คือ สัญชาติญาณ ใช่หรือเปล่าค่ะ แล้ว สัญชาติญาณ นี้มันคืออะรัยค่ะ

    ขอความกรุณาผู้รู้ทุกท่านช่วยให้คำชี้แนะด้วยนะคะ
     
  4. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    พระอาจารย์ของผม นิยามไว้ว่าเป็น "ความชำนาญ ในการใช้กิเลส" ครับ
    ความคิดว่าวัตถุรถ เป็นของเรา -> เราต้องรักษาของๆ เรา -> ตาเรามองเห็นรถปาดหน้า -> แปลงเป็นสัญญา -> กำหนดเห็นอันตรายในสิ่งที่เราคิดว่าเป็นของๆ เรา -> เราไม่อยากให้เกิดอันตรายนั้นขึ้น -> เราคิดหาทางไม่ให้เกิดอันตรายนั้น -> เราได้คำตอบว่า เราต้องทำให้รถของเราหยุด -> เราเหยียบเบรค
     
  5. tunwarat_s

    tunwarat_s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +141
    ...คือ สังเกตุสภาวะธรรมของคำว่า สัญชาติญาณ ไม่ทันเลยค่ะ"........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มีนาคม 2012
  6. blank123

    blank123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +229
    [​IMG]



    อิอิ ว่าจาแพล่ม แจมกาทู้นี้ตั้งน้านนาน มาแระ
    แต่มัวแวะ ตอบจม. แควนขับ ระหว่างทาง เรยม่ะได้โพสซ้าที
    ไหน ๆ วันนี้ ฤกษ์งามยามดี แวะมาปล่อยผี ที่เวบพังจิต
    ตอบหั้ย จขกท.จั๊กดอกส์ ก็แระกัน เอิ๊ก ๆ



    อาการของคุณ อิฉันเรียกมันว่า

    การถูก หิริโอตตัปปะ มัน ทิ่มแทง
    อ่า


    อืม...สมัยเข้าสู่วงการปฏิบัติใหม่ ๆ
    อิฉันเก๊าะเคยโดน อิเจ้หิฯ มันซ้อมเอาซะสะบักสะบอม เหมือนกันนะ
    กว่า อิอ่อน มันจะ ทำใจยอมรับ ความระย่ำตำบอน ของตัวเองได้อ่ะ อิอิ


    ว่าแต่ ช่วงที่คุณ ลู้สึกแย่ ๆ นั่น
    มันเป็นช่วงที่คุณใกล้เป็น เมนส์ป่ะ
    บางที ฮอร์โมนที่ กระพร่องกระแพร่ง
    มันก็ทำให้สติสัมปชัญะ ของเรา เว้า ๆ แหว่ง ๆ
    อ่อนไหว และ บอบบาง ซะจน
    โดน อิเจ้หิ มันแอบแทงข้างหลัวได้ง่าย ๆนะ


    เฮ่ย ม่ะได้พูดเล่นนะ เคยมาแระ
    อารมณ์ซึมเศร้าเหงาแฮ้งค์ แบ่บเนี๊ยะ
    แค่ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่พอใจ นิด ๆ หน่อย ๆ
    ก็รู้สึก ผิดมากมายบานตะไท จนจิตตกเรยมั้ง
    แถม ยังต้องย้อนกลับมาตั้ง คำถามกับตัวเองว่า


    เฮ้ยย ทำไมยิ่งปฏิบัติ แล้วจิตมันถึง ได้เปราะบาง
    และ อ่อนไหวง่ายงี้นะ ? ช่างไม่เอาไหน จิง ๆ เรย กรู
    อืม...รู้ไหม อารมณ์ ตอนนั้น มันแย่มากมาย
    ถึงขนาดที่คิดเลยเถิดไปว่า การปฏิบัติ ที่ทำ ๆ อยู่นี้
    มันทำหั้ย อิฉันมี จุดอ่อน มากขึ้น ว่ะ
    และ จุดอ่อน พวกนี้ มันก็สมควรที่ จะกำจัดทิ้ง
    แบ่บขุดรากถอนโคน ด้วย


    ชั่วขณะหนึ่ง เคยคิดจะหันหลังให้การปฏิบัติ
    แล้วกลับมาเป็น ผู้หญิงลั้ลลา ที่ใช้ชีวิตแบ่บ ชิล ๆ
    สามารถ หัวเราะแล้วขำกลิ้ง ได้กับทุก ๆ เรื่อง เหมือนสมัยก่อนนะ
    ดีนะที่ ไม่บ้าจี้ ทำตามที่ใจคิดไว้ แต่ยอมกัดฟันถูลู่ถูกัง
    ปฏิบัติต่อ ไปอย่างเรื่อยเปื่อย เมื่อยก็พัีก
    เด๋วนี้ ไอ้เจ้าอาการ โดนอิเจ้หิฯ มันแว้งกัด ก็ลดลงแล้วนะ


    อืม...เวลาที่โดนโดนอิเจ้หิฯ มันแว้งกัดเนี่ย
    อิฉันมักจะปลอบใจ ตัวเอง เวลา ทวนศีลทวนจิต ว่า

    เป็นไปไม่ได้หรอกที่ ทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่าง
    ที่เราทำจะถูกใจคนทั้งโลก
    และเป็นไปไม่ได้หรอก ที่ ทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่าง
    ที่คนทั้งโลกทำ จะถูกใจเรา
    แม้แต่ ทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างที่เราทำ
    บางที ก็ยังไม่ถูกใจตัวเองเรย

    แต่เราก็สามารถยืนหยัดอยู่บนโลกนี้อย่างสงบสุขได้
    เพราะเรา รู้จัก ...

    ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และ ปล่อยวาง อัตตา ตัวเอง





    ปอลิง

    มามะ อิฉันจะให้ คาถา ป้องกันอิเจ้หิ มันชกใต้เข็มขัด
    นี่ ๆ ท่องไว้น้าาาาาาาาาาาาาาาา


    การปฏิบัติธรรม ม่ายช่าย การประกวดมิสยูนิเวิร์ส นะจ๊ะเธอว์
    ฉะนั้น ไม่ต้องงามเลิศเลอ ตลอด 24 ชม ! ก็ด้ายยยยยย เหอ...เหอ...



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2012
  7. tunwarat_s

    tunwarat_s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +141
    แจ้งผลการปฏิบัติหลังจากนำคำแนะนำของผู้รู้ทุกท่านค่ะ

    ก้อยอมรับมุมมืดของตัวเองได้มากขึ้นกับตัวตนที่ไม่ได้ดีอย่างที่เคยหลงคิด และมองออกไปถึงคนอื่นๆ ก้อคงจะเป็นเหมือนๆ กันอยู่ที่ว่ายังมีโมหะบดบังอยู่หรือเปล่า ทำให้จิตสงบเมื่อถูกกระทบได้มากขึ้น และเร็วขึ้น แรงกระเพื่อมของจิตเวลาถูกกระทบจะน้อยลงค่ะ
     
  8. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ต้องไปเริ่มนับอีกครั้งนะครับ

    เริ่มที่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ครับหากท้อเริ่มใหม่หมายถึงว่าทางที่เราเลือกเดินนี้เราพบความจริงแล้ว แต่ยังไปไม่หมดหรือยังมาไม่ถึง
    ดังนั้น ศรัทธาอย่าเสื่อมครับ

    ขอทุกท่านเจริญในธรรมครับ
     
  9. tunwarat_s

    tunwarat_s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +141
    มาถึง ณ วันนี้ ก็ 6 ปีแล้วที่เคยตั้งกระทู้ถาม พี่ๆ เพื่อน กัลยาณมิตรกัลยาณธรรมในเว็ปพลังจิตนี้ มีความรู้สึกว่าหากไม่ได้ ตั้งกระทู้ถาม ณ วันนั้น ก็คงจะท้อแท้และถอยห่างจากการปฏิบัติไปแล้ว
    ต้องน้อมกราบขอบพระคุณในคำชี้แนะของพี่ๆ เพื่อน กัลยาณมิตรกัลยาณธรรมในเว็ปพลังจิตนี้ ที่ทำให้ ณ วันนี้ ทางชีวิตก็ยังยืนอยู่บนเส้นทางแห่งการภาวนา ไม่ท้อไปซะก่อนค่ะ
    กราบขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
    _/\_ _/\_ _/\_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 เมษายน 2015
  10. tunwarat_s

    tunwarat_s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +141
    พร้อมทั้ง กราบขอบพระคุณคณะผู้จัดทำเว็ปพลังจิตนี้ที่ยังประโยชน์ในการเป็นศูนย์กลางความรู้ให้ให้ผู้ที่เกิดปัญหาในการภาวนาได้มีโอกาสที่จะได้รับความรู้ และแนวทางแก้ไขปัญหาในการภาวนาค่ะ

    กราบขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
    _/\_ _/\_ _/\_
     
  11. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,631
    ปกติจิตเรามันก็โดนกิเลสชวนให้คิดไปต่างๆนานาอยู่แล้วครับ เพียงแต่เราไม่ทันสังเกตุเท่านั้น พอมาเริ่มฝึกสมาธิได้สักพักก็ทำให้สติของเรามีความเร็วสามารถตามรู้สภาวะของจิตได้ คือ สติรู้เท่าทันจิตมากขึ้น ทีนี้เมื่อรู้แล้วก็ปล่อยไป รู้สักแต่ว่ารู้ เห็นสักแต่ว่าเห็น เรามีหน้าที่ภาวนาไปอย่างเดียว นอกนั้นรู้แล้วก็ปล่อยมันไป คือ รู้อะไรขึ้นมาก็ ช่างมันๆ
     
  12. tunwarat_s

    tunwarat_s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +141
    กราบขอบพระคุณในคำแนะคำค่ะ คุณ Apinya Smabut

    _/\_ _/\_ _/\_
     
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    นั่นแสดงว่าท่าน รู้ตัวการใหญ่แล้ว ว่าจิตเป็นผู้แล่นไป
    ในกุศล และ อกุศล หากท่านรู้สึกจิตท่านแล่นออกไม่ในด้านที่คิดไม่ดี
    อย่าได้ตกใจไป จิตของท่านกำลังขัดเกลากิเลสในส่วนหยาบให้หลุดออก
    ขบวนการชำระล้างทางจิต จึงทำให้ท่านไม่สบายกายไม่สบายใจเมื่อมาเห็น
    ความชั่วในตน พยายามละต่อไป ละให้มาก แล้วจิตจะเบากายเบาผู้บำเพ็ญเป็นแบบนี้แทบจะทุกคน มีอาการยากเลิกปฏิบัติธรรมไปเลย รับไม่ได้จริงๆ
    เมื่อเห็นความชั่วในตนมีแต่เพิ่มขึ้น ไม่เห็นจะลดลง ขอบอกให้ท่านรู้ไว้เลยนะว่า ธรรมชาติของอารมณ์เมื่อขึ้นถึงที่สุด ถึงจะขึ้นไปมากกว่านั้น ก็จะเป็นอารมณ์ ที่ลดลง ลดลง ตามความเป็นจริง
     
  14. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
  15. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014




    ผมว่า ที่่คุณเห็นจิตตัวเอง
    เป็นอกุศลได้นั่้น
    ถือว่า ปฏิบัติมาถูกทางแล้ว


    เพราะว่า คนส่วนมาก ไม่อาจมองเห็นจิตในจิตได้
    ต้องเป็นคนที่ปฏิบัติมาอย่างโชกโชนเท่านั้น
    ที่มีสิทธิ์จะเห็น เมื่อคุณเห็นแล้ว


    ต่อไปก็ลอง มองดูจิต
    ตอนที่มันปรุงแต่งดู
    คือ เมื่อโดนโลกกระทำมากระทบ แรกๆ
    เราจะไม่รู้สึกอะไรกับมัน
    มันมีอาการเฉยๆ
    แต่พอเรามี อยาก ขึ้นมา
    จิตมันก็ปรุงแต่งต่อไป
    ให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้


    วิธีการฝึกต่อไปก็คือ
    จับความรู้สึกเฉยๆ นั้นไว้
    หรือ ใช้อุเบกขาจากการฝึกสมาธิ
    มาวางลง ตรงที่จิตถูกกระทบ
    พอถูกกระทบปุ๊บ
    ให้ท่องว่า อุเบกขาหนออุเบกขา


    เมื่อฝึกจนชำนาญในการใช้อุเบกขาแล้ว
    ต่อไป ให้ฝึกยิ้ม เมื่อโลกกระทำมากระทบ
    ก็ยิ้มใส่มันทันที
    ใครชมก็ยิ้ม ใครด่าก็ยิ้ม
    ใครบ่นก็ยิ้ม ใครนินทาใครก็ยิ้ม


    ฝึกคิดอยู่ในใจเสมอๆว่า
    ตัวนี้ ไม่ใช่ตัวเรา ตัวเรามีแค่จิตเท่านั้น
    ตัวนี้เป็นแค่เปลือกเท่านั้น
    จะไปใส่ใจอะไรกับเปลือก
    มันก็ไม่ต่างอะไรกับเปลือกหอย
     
  16. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014





    การที่มันยังอึดอัดอยู่
    เพราะกาย ยังมีอยู่
    กายยังไม่ถูกตีแตก
    คุณยังคิดว่า กายนี้ เป็นของคุณร้อยเปอร์เซนต์


    คุณจะต้องตีกายนี้ให้แตกด้วย
    การฝึก มองดูกายในกาย
    ฝึกแยกอวัยวะต่างๆ ในร่างกายดู
    ฝึกบ่อยๆก็จะชิน
    ความคิดที่ว่า กายเป็นเราร้อยเปอเซนต์
    ก็จะลดลง ไปเรื่อยๆ
    เพ่งอสุภะในกายของเราเท่านั้น ให้บ่อยๆ
     
  17. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014





    ให้ฝึก กายานุปัสสนา หรือ การแยกกาย
    ให้พอๆ กับการทำสมาธิ
    ฝึกอย่างเดียวพอ


    ต่อไปให้กราบผู้ใดผู้หนึ่ง ที่สอน การแยกกายได้ ให้เป็นอาจารย์ของเรา
    เมื่อมีปัญหา หรือ ข้อข้องใจก็จะสามารถซักถามได้
    เมื่อท้อแท้ ก็จะได้มีคนคอย ให้กำลังใจ
     
  18. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014








    การเจริญปัญญา ตามที่ท่านสอนคือ
    วิปัสสนา ฝึกมองให้เห็นทุกสิ่งว่า
    มันก่อทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน
    ฝึกบ่อยๆ ปัญญาในไตรลักษณ์ ก็จะเกิดเอง
     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014



    ให้พิจารณาอยู่เนื่องๆ ว่า
    กายนี้เป็นทุกข์
    ต้องสู้กับกายก่อน


    ศีล ย่อมรักษา ผู้ที่มีศีล
    ศีล ย่อมประหาร ผู้ที่ทุศีล
    ศีล ย่อมประหาร กิเลสอย่างหยาบด้วย
    แต่การตัดกิเลสด้วยศีล
    เต็มที่ก็ได้เฉพาะ ชาตินี้ เท่านั้น
    ชาติหน้าก็ต้องมาเริ่มใหม่อีก


    ทำสมาธิ ดุจเร่งความเพียร ประหาร ความเกียจคร้าน
    ย่อมประหาร กิเลสอย่างกลางด้วย ด้วยการข่มทับไว้
    เต็มที่ ก็ทำได้ตั้งแต่ ชาตินี้ จนถึงชั้น อรูปพรหม
    เมื่อหมดบุญแล้ว ก็ต้องกลับมาเริ่มใหม่อีก


    ปัญญาในไตรลักษณ์ ย่อมประหาร ความเป็นตัวตนของเราลงได้
    ย่อมประหาร กิเลสอย่างละเอียดด้วย
    คือ กิเลสที่มันแอบซ่อนอยู่ในสันดานเรา


    เมื่อประหารเสร็จสิ้นแล้ว
    ไม่ใช่ว่าตัวเราจะ หมด กิเลสไป
    แต่กิเลสทำร้ายเราไม่ได้อีกแล้ว
    เพราะเราไม่ปรุงแต่ง ตามมันอีกแล้ว
    เราวางมันลงแล้ว
    มันเกิดเมื่อไหร่
    เราก็วางมันลงทันที
     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


    สู้ๆๆ ครับ

    ตอนนี้คุณกำลังต่อสู้โรมรัม กับ พญามาร อยู่ครับ
    หากพ้นด่านท้อแท้ ไปได้
    ต่อไปก็เป็น ด่านลำพอง ครับ
    ต้องระวังให้ดี ทั้งสองด่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...