ถูกหลอกไปรับ ขันธ์ ครอบครู รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ

ณฉัตร · 29 กุมภาพันธ์ 2016

foxdevilza said: ↑

คือเมื่อประมาน 8 ปีที่แล้ว ปี 2550

ผมเคยถูก เพื่อนฝูง (เพื่อนไม่ดี) ชักชวนไปดูดวงที่ตำหนักร่างทรงแห่งหนึ่ง ไปทีแรกก็เข้าไปดูดวง ปรกติด แต่ปรากฎว่า ซักพัก เขาก็ให้ครอบเศียร กินน้ำมนต์ แล้วก็ รับขันธ์ 5 มา (แต่ขันธ์ 5 นี้ลักษณะ ไม่ใช่เป็นพานใหญ่ ๆ นะครับ ของผมเป็นขันธ์ 5 ที่เป็นกรวย 5 อันวางอยู่บนพาน เสร็จแล้วร่างทรงก็ทำพิธีสวด ๆ ไรไม่รู้แล้วยื่นให้ผมถือพานเขา ) ผมก็ทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริง ๆ ครับ เสียใจมาก ๆ ทุกข์ใจจริง ๆ แล้วหลังจากนั้นผมก็กลับบ้าน ไม่ได้กลับย้อนเข้าไปหาตำหนักดังกล่าวอีกเลย ทุกวันนี้ก็ปวดเนื้อปวดตัว ใช้ชีวิตไม่ค่อยเป็นปรกติสุขเลยครับ

ขอคำแนะนำ จากผู้รู้ ช่วย สงเคราะห์ เมตตาด้วยการ ชี้ช่องทาง ให้ไปพบไปเจอครูบาอาจารย์ที่เป็น พระภิกษุสงฆ์ เพราะไม่อยากไปหา หมอดู ร่างทรง ฆราวาสอีกครับ ใจอยากไปทางผ้าเหลืองมากกว่า
สามารถช่วยสงเคราะห์ แก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับผมได้

ขอแนวทางการแก้ไขนะครับ ส่วนเรื่องแนะนำโทษภัย อันตรายจากการรับขันธ์ ผมศึกษา มาจากในเว็บนี้ และหลายๆเว็บพอสมควรจน น้ำตาแทบตกในละครับ ว่าเราไม่น่าหลงเดินทางชีวิตผิด ๆ เลย ยังไง ขอผู้รู้ช่วยชี้แนะหน่อยนะครับ
ถ้าภายใน กทม ได้ยิ่งดี

ขอบคุณครับ

ยังไงรบกวนเมตตาด้วยนะครับ ท่านทั้งหลาย จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ
Click to expand...

ความจริง ไม่อยากตอบเลย เพราะเหมือนชี้โพรงให้กระรอก

คนที่อ่านแล้วคิดชั่ว ก็เหมือนอ่านคดีฆาตกรรมแล้วเป็นฆาตรกรเสียเอง

พวกหมอดูบางคนก็ใช้เล่ห์กลอันนี้

ผมจะย่นย่อให้เข้าใจ ลักษณะของรับขันธ์ ครอบขันธ์ ไม่ต่างจากองค์กรระดับใหญ่ที่ช่วงชิงเสรีภาพทางจิตของผู้คน โดยความเชื่อทางลัทธิ หรือศาสนา ถ้ามีลักษณะแบบใช้คุณไสย ส่วนวิชาของคุณไสย ที่เรียกว่า จิตตานุภาพ แบบผิดๆ เป็นมิจฉา ทำให้คนเราขาดอิสรภาพ และเสรีภาพของตนเองในการตัดสินใจ นั้นเป็นส่วนของคุณไสย

การรับขันธ์ ครอบขันธ์ ฝ่ายชั่ว คือ การที่ผู้ทำ ใช้ ดังนี้

1จิตตานุภาพ แบบสะกดจิต
2จิตตานุภาพ แบบคำสาป
3จิตตานุภาพ แบบคาถาอาคมอย่างหนึ่ง
4จิตตานุภาพ แบบผีเจ้าเข้าทรงอย่างหนึ่ง
5จิตตานุภาพ แบบเทพฝ่ายมิจฉาหรือมาร

พิจารณาว่า จขกท โดนระดับไหนก่อน

1ระดับสะกดจิต แก้โดยการคลายการสะกดจิต แก้เองก็ได้ โดยฝึกฝนการสะกดตนเอง ไปหาแพทย์ด้านสะกดจิตแก้ไขก็ได้ บำบัดโดยการสะกดจิต อยู่ที่ว่า ผู้สะกดใช้สมาธิจิตระดับไหน ถ้าแก้โดยพลังสะกดจิตทีีเหนือกว่าก็ชนะ

ระดับคำสาป ไม่มีการสะกดจิตในพิธี แต่ผู้กระทำได้เข้าสมาธิจิตโดยทำบริกรรมเป็นคำสาป ซึ่งมีสองระดับง่าย ระดับผู้กระทำก็รู้ตัวเห็นกระแสพลังคำสาปคุณไสยนั้น กับระดับที่ผู้กระทำเองก็ไม่รู้เห็นกระแส แต่ทำไปโดยเชื่อมั่นอย่างนั้น ระดับนี้ ไม่มีผลสะกดจิต แต่มีผลให้จิตผู้ถูกกระทบโดนคลื่นจิตของผู้กระทำทำร้ายโดยผู้กระทำคุณไสยก็ไม่อาจทราบฤทธิ์ได้ ระดับนี้อยู่ที่ความแรงของสมาธิเวลาตั้งคำสาป บริกรรมคำสาป แก้โดยการถอนคำสาปหรือทำลายคำสาป การถอนแบบธรรมดาคือ ให้ผู้กระทำคำสาปถอนคำสาป (แต่ใครจะรับว่าตนเองทำ นอกจากว่าคนรับว่าไม่รักษาขันธ์ ไม่บูชา รับแล้วก็ต้องบูชา) การถอนที่ไม่ต้องอาศัยผู้กระทำ คือ ผู้ต้องคำสาป ใช้การอธิษฐานจิตของตน ก็ถอนออกได้ แต่หากการอธิษฐานไม่เป็น ลองศึกษาพระปริตรดู แบบแปลเป็นไทย เช่น ข้าพเจ้ามีความโกรธเคืองผู้กระทำคุณไสยแก่ข้าพเจ้า แต่ตะหนักถึงคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ไม่ให้จองเวรแก่กัน ข้าพเจ้าจึงขอให้อโหสิกรรมแก่เค้า ใจของข้าพเจ้าให้อภัยเค้าได้จริง ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ของคำสาปทั้งหลายที่เกิดจากการรับขันธ์ ครอบขันธ์ จงสลายไป หากรวมจิตตั้งคำอธิษฐานไม่ได้ ให้ท่อง ชินบัญชร ๑๑ จบ แบบว่าต้องท่องจำได้โดยไม่ดูหนังสือสวดมนต์ก่อนนะ แล้วอธิษฐานของพระคาถา ทำลายคำสาป(คาถาอื่นก็ได้ เช่น อิติปิโสฯ 108 จบ แต่ผมท่องชินบัญชร และเห็นอานุภาพ) ถ้าทำเองไม่ได้ ทำสังฆทานโดยศึกษาผลบุญของสังฆทานก่อน แล้วไปทำสังฆทานโดยตั้งใจทำทุกขั้นตอน เห็นประโยชน์ของการทำสังฆทานที่มีผลในการต่ออายุพระศาสนา(การบำรุงพระสงฆ์ คือ การรักษาพระธรรมไว้ให้สรรพสัตว์) เมื่อทำสังฆทานเสร็จ ให้ขอพรต่อพระ ให้ทุกข์โศกโรคภัยที่ได้จากการรับขันธ์หายไป วิธีการนี้ อาจไปทำมหากุศลอื่น เช่น บริจาคโลหิตอันบริสุทธิ์ เป็นมหาทานแก่มหาชนแบบไม่เฉพาะเจาะจง เมื่อโลหิตไหลริน ก็กล่าวอธิษฐานได้ ความเจ็บและทรมานจากการเสียโลหิต เพื่อประโยชน์และความสุขของมหาชน ของ..

3 ระดับคาถาอาคม พวกนี้ใช้จิตตานุภาพ ประเภทสร้างหรือเนรมิต ภาพในใจได้ สร้างผีปลอม และสามารถจนถึงระดับติดต่อผีจริงได้ อำนาจจิตจะแก่กล้ามาก การรับมือ การแก้ไข ถ้าจิตไม่เป็นกุศลจิต จนมีพลังเหนือกว่า ก็โดนกวนอยู่อย่างนั้น วิธีแก้ระดับคาถา ใช้ระดับคาถา คือ ต้องสร้างจิตตานุภาพของตน จนสร้างกำแพงแก้วครอบตัวเอง หรือสร้างออร่าสีทองชำระร่างกายตน อาจมีคาถากำกับ เช่น คาถากำแพงแก้ว(ใช้แบบมโนมยิทธิ กำหนดเห็นประดุจเห็นพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เป็นแสงดุจเพชรมาสร้างเป็นกำแพงครอบตัว) หรือชินบัญญชร (สวดโดยกำหนดแบบกึ่งมโนมยิทธิ เห็นพุทธคุณ เป็นพระพุทธเจ้าต่างๆ พระอรหันต์ต่างเปล่งอานุภาพเป็นแสงจากเบื้องบนลงมาสถิตย์ในร่างกาย เป็นคุณของพระรัตนตรัย) ระดับนี้ ถ้าแก้เองไม่ได้ คือ จิตตัวเองทำไม่ถึง ไปงานพิธีสวดมนต์ แบบยันต์เกราะเพชรก็ได้ เพราะงานเหล่านั้น จะสัมผัสถึงอานุภาพ จิตตานุภาพของพระได้ชัดเจน

4-5 ระดับ ผีเจ้า กับระดับเทพมาร เป็นระดับพวกมีฌาณโลกีย์ ที่ติดต่อกับผี กับเจ้า จนติดต่อได้ จนถึงมีการติดต่อสร้างบารมีข้ามภพชาติกัน แบบตามกันทุกภพ ก็มี ระดับนี้ เรียกว่า เจองานช้าง การแก้ หาหมอผี หรือเจ้าตำหนักฝ่ายดีมาหักล้าง ก็ต้องดูนะว่าดีจริง แต่ไม่อยากแนะนำ ระดับผีเจ้า แบบอ่อนๆ แก้ไขแบบข้อสามก็น่าจะได้

ถ้าเจอระดับเทพมาร แบบนี้ ต้องกรรมฐานเลยเจ็ดวันเจ็ดคืน แล้วพุทธคุณต้องระดับ คาถาบารมีสามสิบทัศน์ เท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องสะสมศีลอุโบสถ หรือมหาทานบ่อยๆ จนสะสมกำลังใจของตนเต็มและเหนือกว่า เทพมาร ไม่อย่างนั้น ไปกราบพระแบบตลุยเลย อธิษฐานว่า เจอพระดีสักองค์ ที่กราบแล้ว เหมือนได้รับบุญจากท่านแบบมโหฬาร (เห็นพระองค์ใด แล้วจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย แบบว่า รู้สึกว่า ขอให้ได้กราบสักครั้ง ตายก็ถือว่ามีบุญ ใช้จิตของเราวัดเลย ถ้าจิตมีความรู้สึกขนาดนี้ เทพมารก็หยุดเราไม่อยู่ ทำอะไรเราไม่ได้ กุศลจิตจะต้องมากแน่ๆ) หรือว่า ถ้าจะไม่หาพระ ก็อ่านพระไตรปิฎกดู ถ้าเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จนมีความรู้สึกในจิตว่า โชคดีนักหนาได้เกิดมาพบพระรัตนตรัย เราจะไม่เสียชาติเกิดที่ได้ศึกษาพระธรรมไว้เป็นนิสัยในการหลุดพ้นต่อไป เทพมารก็หยุดอะไรเราไม่ได้เช่นกัน

รวมความโดยสรุป วิธีแก้ คือ จิตตานุภาพ อันกอปรด้วยกุศลจิต มหากุศลจิตต่างๆ นั้นเอง ทำลายทุกจิตตานุภาพฝ่ายต่ำได้หมด

ยศวดี · 29 กุมภาพันธ์ 2016

ณฉัตร said: ↑

ความจริง ไม่อยากตอบเลย เพราะเหมือนชี้โพรงให้กระรอก

คนที่อ่านแล้วคิดชั่ว ก็เหมือนอ่านคดีฆาตกรรมแล้วเป็นฆาตรกรเสียเอง

พวกหมอดูบางคนก็ใช้เล่ห์กลอันนี้

ผมจะย่นย่อให้เข้าใจ ลักษณะของรับขันธ์ ครอบขันธ์ ไม่ต่างจากองค์กรระดับใหญ่ที่ช่วงชิงเสรีภาพทางจิตของผู้คน โดยความเชื่อทางลัทธิ หรือศาสนา ถ้ามีลักษณะแบบใช้คุณไสย ส่วนวิชาของคุณไสย ที่เรียกว่า จิตตานุภาพ แบบผิดๆ เป็นมิจฉา ทำให้คนเราขาดอิสรภาพ และเสรีภาพของตนเองในการตัดสินใจ นั้นเป็นส่วนของคุณไสย

การรับขันธ์ ครอบขันธ์ ฝ่ายชั่ว คือ การที่ผู้ทำ ใช้ ดังนี้

1จิตตานุภาพ แบบสะกดจิต
2จิตตานุภาพ แบบคำสาป
3จิตตานุภาพ แบบคาถาอาคมอย่างหนึ่ง
4จิตตานุภาพ แบบผีเจ้าเข้าทรงอย่างหนึ่ง
5จิตตานุภาพ แบบเทพฝ่ายมิจฉาหรือมาร

พิจารณาว่า จขกท โดนระดับไหนก่อน

1ระดับสะกดจิต แก้โดยการคลายการสะกดจิต แก้เองก็ได้ โดยฝึกฝนการสะกดตนเอง ไปหาแพทย์ด้านสะกดจิตแก้ไขก็ได้ บำบัดโดยการสะกดจิต อยู่ที่ว่า ผู้สะกดใช้สมาธิจิตระดับไหน ถ้าแก้โดยพลังสะกดจิตทีีเหนือกว่าก็ชนะ

ระดับคำสาป ไม่มีการสะกดจิตในพิธี แต่ผู้กระทำได้เข้าสมาธิจิตโดยทำบริกรรมเป็นคำสาป ซึ่งมีสองระดับง่าย ระดับผู้กระทำก็รู้ตัวเห็นกระแสพลังคำสาปคุณไสยนั้น กับระดับที่ผู้กระทำเองก็ไม่รู้เห็นกระแส แต่ทำไปโดยเชื่อมั่นอย่างนั้น ระดับนี้ ไม่มีผลสะกดจิต แต่มีผลให้จิตผู้ถูกกระทบโดนคลื่นจิตของผู้กระทำทำร้ายโดยผู้กระทำคุณไสยก็ไม่อาจทราบฤทธิ์ได้ ระดับนี้อยู่ที่ความแรงของสมาธิเวลาตั้งคำสาป บริกรรมคำสาป แก้โดยการถอนคำสาปหรือทำลายคำสาป การถอนแบบธรรมดาคือ ให้ผู้กระทำคำสาปถอนคำสาป (แต่ใครจะรับว่าตนเองทำ นอกจากว่าคนรับว่าไม่รักษาขันธ์ ไม่บูชา รับแล้วก็ต้องบูชา) การถอนที่ไม่ต้องอาศัยผู้กระทำ คือ ผู้ต้องคำสาป ใช้การอธิษฐานจิตของตน ก็ถอนออกได้ แต่หากการอธิษฐานไม่เป็น ลองศึกษาพระปริตรดู แบบแปลเป็นไทย เช่น ข้าพเจ้ามีความโกรธเคืองผู้กระทำคุณไสยแก่ข้าพเจ้า แต่ตะหนักถึงคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ไม่ให้จองเวรแก่กัน ข้าพเจ้าจึงขอให้อโหสิกรรมแก่เค้า ใจของข้าพเจ้าให้อภัยเค้าได้จริง ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ของคำสาปทั้งหลายที่เกิดจากการรับขันธ์ ครอบขันธ์ จงสลายไป หากรวมจิตตั้งคำอธิษฐานไม่ได้ ให้ท่อง ชินบัญชร ๑๑ จบ แบบว่าต้องท่องจำได้โดยไม่ดูหนังสือสวดมนต์ก่อนนะ แล้วอธิษฐานของพระคาถา ทำลายคำสาป(คาถาอื่นก็ได้ เช่น อิติปิโสฯ 108 จบ แต่ผมท่องชินบัญชร และเห็นอานุภาพ) ถ้าทำเองไม่ได้ ทำสังฆทานโดยศึกษาผลบุญของสังฆทานก่อน แล้วไปทำสังฆทานโดยตั้งใจทำทุกขั้นตอน เห็นประโยชน์ของการทำสังฆทานที่มีผลในการต่ออายุพระศาสนา(การบำรุงพระสงฆ์ คือ การรักษาพระธรรมไว้ให้สรรพสัตว์) เมื่อทำสังฆทานเสร็จ ให้ขอพรต่อพระ ให้ทุกข์โศกโรคภัยที่ได้จากการรับขันธ์หายไป วิธีการนี้ อาจไปทำมหากุศลอื่น เช่น บริจาคโลหิตอันบริสุทธิ์ เป็นมหาทานแก่มหาชนแบบไม่เฉพาะเจาะจง เมื่อโลหิตไหลริน ก็กล่าวอธิษฐานได้ ความเจ็บและทรมานจากการเสียโลหิต เพื่อประโยชน์และความสุขของมหาชน ของ..

3 ระดับคาถาอาคม พวกนี้ใช้จิตตานุภาพ ประเภทสร้างหรือเนรมิต ภาพในใจได้ สร้างผีปลอม และสามารถจนถึงระดับติดต่อผีจริงได้ อำนาจจิตจะแก่กล้ามาก การรับมือ การแก้ไข ถ้าจิตไม่เป็นกุศลจิต จนมีพลังเหนือกว่า ก็โดนกวนอยู่อย่างนั้น วิธีแก้ระดับคาถา ใช้ระดับคาถา คือ ต้องสร้างจิตตานุภาพของตน จนสร้างกำแพงแก้วครอบตัวเอง หรือสร้างออร่าสีทองชำระร่างกายตน อาจมีคาถากำกับ เช่น คาถากำแพงแก้ว(ใช้แบบมโนมยิทธิ กำหนดเห็นประดุจเห็นพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เป็นแสงดุจเพชรมาสร้างเป็นกำแพงครอบตัว) หรือชินบัญญชร (สวดโดยกำหนดแบบกึ่งมโนมยิทธิ เห็นพุทธคุณ เป็นพระพุทธเจ้าต่างๆ พระอรหันต์ต่างเปล่งอานุภาพเป็นแสงจากเบื้องบนลงมาสถิตย์ในร่างกาย เป็นคุณของพระรัตนตรัย) ระดับนี้ ถ้าแก้เองไม่ได้ คือ จิตตัวเองทำไม่ถึง ไปงานพิธีสวดมนต์ แบบยันต์เกราะเพชรก็ได้ เพราะงานเหล่านั้น จะสัมผัสถึงอานุภาพ จิตตานุภาพของพระได้ชัดเจน

4-5 ระดับ ผีเจ้า กับระดับเทพมาร เป็นระดับพวกมีฌาณโลกีย์ ที่ติดต่อกับผี กับเจ้า จนติดต่อได้ จนถึงมีการติดต่อสร้างบารมีข้ามภพชาติกัน แบบตามกันทุกภพ ก็มี ระดับนี้ เรียกว่า เจองานช้าง การแก้ หาหมอผี หรือเจ้าตำหนักฝ่ายดีมาหักล้าง ก็ต้องดูนะว่าดีจริง แต่ไม่อยากแนะนำ ระดับผีเจ้า แบบอ่อนๆ แก้ไขแบบข้อสามก็น่าจะได้

ถ้าเจอระดับเทพมาร แบบนี้ ต้องกรรมฐานเลยเจ็ดวันเจ็ดคืน แล้วพุทธคุณต้องระดับ คาถาบารมีสามสิบทัศน์ เท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องสะสมศีลอุโบสถ หรือมหาทานบ่อยๆ จนสะสมกำลังใจของตนเต็มและเหนือกว่า เทพมาร ไม่อย่างนั้น ไปกราบพระแบบตลุยเลย อธิษฐานว่า เจอพระดีสักองค์ ที่กราบแล้ว เหมือนได้รับบุญจากท่านแบบมโหฬาร (เห็นพระองค์ใด แล้วจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย แบบว่า รู้สึกว่า ขอให้ได้กราบสักครั้ง ตายก็ถือว่ามีบุญ ใช้จิตของเราวัดเลย ถ้าจิตมีความรู้สึกขนาดนี้ เทพมารก็หยุดเราไม่อยู่ ทำอะไรเราไม่ได้ กุศลจิตจะต้องมากแน่ๆ) หรือว่า ถ้าจะไม่หาพระ ก็อ่านพระไตรปิฎกดู ถ้าเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จนมีความรู้สึกในจิตว่า โชคดีนักหนาได้เกิดมาพบพระรัตนตรัย เราจะไม่เสียชาติเกิดที่ได้ศึกษาพระธรรมไว้เป็นนิสัยในการหลุดพ้นต่อไป เทพมารก็หยุดอะไรเราไม่ได้เช่นกัน

รวมความโดยสรุป วิธีแก้ คือ จิตตานุภาพ อันกอปรด้วยกุศลจิต มหากุศลจิตต่างๆ นั้นเอง ทำลายทุกจิตตานุภาพฝ่ายต่ำได้หมด
Click to expand...

ว่าจะเอาระเบิดไปหย่อนไว้ซักลูก..นะ
5555+

ยศวดี · 29 กุมภาพันธ์ 2016

งานช้างเลย
คาถาอาคม...วิ่งในตัวได้ด้วยเจ๋งเลย
ปืนลูกโม้
ระเบิด
ตูม...
ตำหนัก...หาย
คนไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ....
ยังไม่รวม....
นังนกต่อ...ฮึฮึ

ยศวดี · 29 กุมภาพันธ์ 2016

ถามทำไม...รับไม่ได้เหรอ
ลองเจอมั๊งแล้วจะรู้....
คนที่โดนที่เสีย.....
ช่วงเวลาดีดีของชีวิตไป...เป็น..10ปี..20ปีนี่
บางคน...ตายฟรี
ยังไม่รู้เรื่องเลบ
ตัวกูอยู่ใหน....
มันคุ้มมั๊ย....
กินกับผี..อยูากับผี...นอนกับผี
และอีกอย่าง
เคยเห็น.....
ผีดึงดูดผีมั๊ย.....
ไม่ไปใหน...วนมันตรงเนี้ยะแหละ
บางทีมันนานเกินไปกับความเจ็บปวดที่ได้รับ....
เอาคืนไปมั้ง....
จะได้รู้....

กัญชา · 20 มกราคม 2020

การถอนขันธ์

ในขั้นตอนนี้เราไม่อาจรู้ได้ว่าในชาติก่อนๆที่ผ่านมา เราได้ทำการวางขันธ์อะไปบ้างและเพื่อเหตุผลใด ตัวอย่างเช่น...

๑) ขันธ์น้อย แบ่งเป็น ขันธ์ ๕ , ขันธ์ ๘ , ขันธ์ ๑๒ , ขันธ์ ๑๖ , ขันธ์ ๒๔ , ขันธ์ ๒๘ , ขันธ์ ๓๒

- ขันธ์ ๕ นี้หมายถึง ขันธ์ศีล ๕ เป็นขันเบญศีลหรือศีล ๕

- ขันธ์ ๘ นี้หมายถึง ขันธ์ศีล ๘ เป็นขันอุโบสถศีลหรือศีล ๘

- ขันธ์ ๑๒ นี้หมายถึง ขันธ์พ่อครู เป็นขันของผู้เป็นครูอาจารย์ลำดับชั้นต้น

- ขันธ์ ๑๖ นี้หมายถึง ขันธ์ครูบูชาพระเจ้า ๑๖ พระองค์

- ขันธ์ ๒๔ นี้หมายถึง ขันธ์พ่อครูลำดับที่สอง เป็นขันของผู้เป็นครูอาจารย์ลำดับชั้นสูง

- ขันธ์ ๒๘ นี้หมายถึง ขันธ์ครูบูชาพระเจ้า ๑๘ พระองค์

- ขันธ์ ๓๒ นี้หมายถึง ขันพ่อครูลำดับที่สอง เป็นขันของผู้เป็นครูอาจารย์ลำดับชั้นสูง สูงกว่าขัน ๑๒ ขัน ๓๒ นี้ เป็นขันครูใหญ่ไหว้เทวดาทั้งสามโลก และอีกนัยหนึ่งคือ ขันอาการ ๓๒ หมายถึง รูปขันธ์ทั้ง ๓๒ ประการ

๒) ขันธ์หลวง แบ่งเป็น ขันธ์ ๑๐๘ , ขันธ์ ๑๐๙ , ขันธ์ ๒๒๗ , ขันธ์ ๑๐๐๐

- ขันธ์ ๑๐๘ , ๑๐๙ นี้หมายถึง ขันธ์ครูเครื่องใหญ่ เป็นอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ระดับบรมครู ระดับผู้อาวุโส ขั้นพระสงฆ์ที่มีวิชาแก่กล้า ขั้นเจ้าเมืองหรือพระมหากษัตริย์

- ขันธ์ ๒๒๗ นี้หมายถึง ขันธ์ศีล ๒๒๗

หมายเหตุ : เหตุผลที่ให้ทำการถอนขันธ์ก็เพื่อต้องการให้ถอนสายสัมพันธ์ หรือพันธะสัญญาขันธ์ทั้งหมดที่เราเคยทำการวางไว้ ด้วยเหตุผลที่ว่าการวางขันธ์นั้นหมายถึงการที่เราสร้างพันธะสัญญายินยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดมีสิทธิ์ในขันธ์ ๕ ของเรา อันได้แก่รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ โดยมีสิทธิ์ที่จะทำการใดกับเราก็ได้ผ่านขันธ์ ๕ นี้ แม้แต่จะถ่ายกรรมชั่ว หรืออึกนัยหนึ่งคือให้เรารับกรรมแทนทั้งหมดทั้งที่ไม่ใช่เวรกรรมอันใดที่เราสมควรได้รับซึ่งบางช่วงบางเวลาของชีวิตเราที่มันไม่ดี ย่ำแย่ บางทีอาจไม่ใช่เวรกรรมของเราเองก็ได้...โดยในเรื่องของการวางขันธ์มันไม่ได้มีแค่ด้านดีอย่างเดียวอย่างที่เข้าใจกันมา ด้านแย่ๆมันก็มีเหมือนกันซึ่งก็น่าจะมากกว่าด้านดี ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครมาบอกโต้งๆ ให้รู้อย่างตรงไปตรงมาหรอกว่ามันไม่ดียังไง เอาแค่ขันธ์ครู คุณคิดว่าครูคนที่คุณ หรือใครๆก็ตามที่คุณให้เกียรติยกขึ้นมาเป็นครู ชาติถัดๆไปเค้าจะยังเป็นครูที่เรานับถืออยู่รึเปล่า การเวียนว่ายตายเกิดจะทำให้เค้าเป็นคนดีไปตลอดทุกภพทุกชาติเลยหรือ แล้วถ้าชาติภพถัดๆมาเค้ากลายเป็นอะไรที่ไม่ดีขึ้นมา เช่นเปรต อสุรกาย สัมภเวสี ฯลฯ แต่ขันธ์ที่เราวางไว้ก่อนหน้านั้นก็ยังไม่ได้ทำการถอนถึงแม้ว่าจะผ่านมาหลายภพชาติแล้วก็ตาม แต่พันธะสัญญามันยังมีอยู่ซึ่งที่เหลือจะเป็นยังไงต่อไปคุณก็ลองจินตนาการเอาเองแล้วกัน

ดำเนินการถอนขันธ์

ข้าแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ตลอดทั่วทั้งพระนิพพานนี้ ด้วยขันธ์ใดๆที่ข้าพเจ้า...(ชื่อ-นามสกุล)...ได้จัดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ที่สมควรถอดถอนคลายสิ้นตามวิจารณญาณของพระพุทธองค์แล้ว ข้าพเจ้าขออาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ตลอดทั่วทั้งพระนิพพานนี้ จงสำเร็จบันดาลผลถอดถอนคลายสิ้นขันธ์ใดๆทั้งหลายดังกล่าวนี้ออกไปจากชีวิตข้าพเจ้านี้ ณ บัดนี้เทอญ (กล่าว ๓ ครั้ง)

กัญชา · 20 มกราคม 2020

ลองอธิษฐานดูนะครับ

tjs · 20 มกราคม 2020

ขันธ์ คือเครื่องร้อยรัด ที่เราอุปโหลกเรียกเครื่องร้อยรัดต่างๆตามความเหมาะสม

แท้จริงแก่นแท้คือจิต จิตเข้าถึงย่อมสำเร็จด้วยจิต อย่างอื่นถือเป็นเรื่องรองเรื่องเล็กน้อย

ให้ฝึกที่จิต การสักการะไหว้นอบน้อม ทำอะไรก็ต้องทำด้วยจิตเป็นอันดับแรก สาธุ

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ถูกหลอกไปรับ ขันธ์ ครอบครู รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ

ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

ยศวดี ยายแก่แล้ว_

ยศวดี ยายแก่แล้ว_

ยศวดี ยายแก่แล้ว_

กัญชา สมาชิกใหม่

กัญชา สมาชิกใหม่

tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ถูกหลอกไปรับ ขันธ์ ครอบครู รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา