ถามมาสิจ๊ะ...แม่ชีณัฐทิพย์ ตนุพันธ์ ยินดีตอบจ้า...

อ้าว ยายจ๋าช่วยเช็คข่าวดีๆนะจ้ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นวิบาก เพราะขวางบุญเขา

ภาพถ่ายโบรชัวร์นี้ ลูกศิษย์พระอาจารย์เมตตานำลงให้ เพราะเข้าไปสัมนา
ที่หาดใหญ่พอดี จึงตามกลิ่นไปจนได้สนทนากับแม่ชีท่านเองที่สำนักปฏิบัติ
ธรรมทิพยสถาน

ชื่อนี้ไม่ผิดแน่จ้ะ ท่านสุธรรมาก็เมตตาบอกให้ในอีกกระทู้หนึ่งมาหลายวันแล้ว

ลูกศิษย์ท่านอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ก็โทรคุยกับคุณหงสนาถและบอกเล่าข้อมูล
นี้ละเดียวกันจ้ะ

ยายรีบหาข่าวเองเร็วๆ แล้วมาช่วยยืนยันด้วยซี่ คนที่เขาลังเลเพราะยาย จะได้
สิ้นกังขา

 

ชื่อรุ่นนี่อลังการงานสร้างดีนะครับ

 

ตอนที่คุยกับยาย โบรชัวร์ยังไม่ออกค่ะ ยายเลยยังไม่ทราบ ส่วนโบรชัวร์ที่คุณคนเก่านำมาลงให้นั้น ถูกต้องแล้วค่ะ ช่วงนี้งานที่ธนาคารมากจนไม่มีเวลาลงรายละเอียด มีสมาชิกท่านหนึ่งโทร.คุยกับยายว่าไปที่เกาะยอแล้ว แต่ไปที่วัดที่อยู่บนเขา ก็เลยบอกกับยายว่า สำนักปฏิบัติธรรมของท่านอาจารย์นั้น ไม่ได้อยู่บนเขา แต่อยู่ริมถนน

วันที่ 30 พค.50 เวลา 18.00 น. จะมีพิธีบวงสรวงที่เกาะยอ
วันที่ 31 พค.50 เวลา 8.49 น. มีพิธีมหาพุทธาภิเษกและเทวาภิเษก ที่เกาะยอ เช่นกัน หลวงพี่เล็ก ท่านจะมาร่วมในพิธี ในวันนี้ค่ะ

มวลสารที่นำมาสร้างพิมพ์พระพุทธเจ้า,เจ้าแม่กวนอิมและจตุคาม-รามเทพ นั้น
เดิมมีมวลสาร 1,435 รายการ มีผู้นำมาสมทบอีกประมาณ 2,000 รายการ รวมมวลสารทั้งหมด 3,000 กว่ารายการ ซึ่งรวมทั้งมวลสารที่ยายผีป่ามอบให้ด้วยหลายอย่าง เช่น นิล,แร่ทรายคำ,เหล็กไหล,เขี้ยวหนุมาน และสมเด็จ
สัมพุทเธ ,คุณสิทธิพงศ์ มอบพระที่สมเด็จวังหน้าสร้าง ซึ่งชำรุด ,แป้งร่ำ,ดินสอพอง ซึ่งคุณสิทธิพงศ์ได้นำเข้าพิธีพิเศษแล้ว

สำหรับรายการมวลสาร 1,435 รายการนั้น คุณสิทธิพงศ์จะทะยอยนำมาลงให้ทราบกันค่ะ

รายละเอียดเกี่ยวกับการจองเหรียญต่างๆนั้น คงจะตั้งป็นกระทู้ใหม่ค่ะ คงต้องรอให้เสร็จงานพิธีพุทธาภิเษกก่อนนะคะ

อนุโมทนาสาธุกับยาย,คุณสิทธิพงศ์และทุกๆท่านที่ร่วมบุญในงานครั้งนี้ด้วยค่ะ

รูปถ่ายนี้เป็นคืนที่มีการผสมมวลสาร

 

โมทนาสาธุครับ

(verygood) (verygood) (verygood)
.

 

เจริญธรรม...

เสร็จจากงานปลุกเสกวัตถุมงคลแล้ว รู้สึกโล่งอกไปอีกหนึ่งเรื่อง

ในวันงานนั้นมีเรื่องราวที่ทำให้ขำและประทับใจ ที่สำคัญคือ หลวงพี่เล็กที่เมตตาต่อแม่ชีเป็นอย่างมาก รวมทั้งพระท่านอื่นๆด้วย

ทีแรกนึกว่าจะไม่มีพระมาในงานวันนั้นซะแล้ว เป็นกังวลมาก แต่ก็ทำใจไว้แล้วว่า ถ้าไม่มีใครมาก็จะลุยเอง

แต่ผิดคาดมาก วันนั้นมีพระมาในงานหลายรูป ทั้งพระผู้ใหญ่ ทั้งพระจากแดนไกล
พิธีเสร็จด้วยความสมบูรณ์ มีเสียงหัวเราะ มีรอยยิ้มออกมาจากใบหน้าของหลายๆคน

แม่ชีได้เห็นน้ำใจของหลายๆคนเช่นกัน ถึงแม้ว่าบางคนจะไม่ได้มาร่วมในวันนั้น แต่ก็มีเสียงส่งผ่านโทรศัพท์ มาถามข่าวคราวกันเสมอ

ต้องขอขอบพระคุณหลวงพี่เล็ก พระเดชพระคุณทุกๆท่าน ยายผีป่า เจ้าหน้าที่ทุกคนและเพื่อนๆที่ช่วยกันอย่างไม่เห็น แก่ความลำบากและความเหน็ดเหนื่อย

น้ำใจ น้ำคำ น้ำกายนี้จะประทับอยู่ในความทรงจำของแม่ชีตลอดไป

ขอให้ทุกท่านสมหวังในทุกประการดังวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นในชื่อ "สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด"

ความหมายก็คือ ทำอะไรก็จะได้สมหวังดังตั้งใจในสิ่งที่ทำ

ส่วนโคตรอภิมหาเศรษฐีนั้นหมายความว่า มวลสารที่นำมาผสมนั้นต่อไปจะเป็นสิ่งที่หายากที่สุดในโลก แต่ว่าคนที่ มีไว้ครอบครองนั้นแหละย่อมได้ชื่อว่าโคตรเศรษฐี เพราะคนอื่นเขาไม่มี

และเมื่อถึงวันนั้นราคาของมันย่อมมีค่ามหาศาล ขายได้มีเงินมาใช้จ่าย ก็เท่านั้นเอง...

ธรรมะสวัสดี สาธุ!!!!

 

โมทนาสาธุครับ

.

 

ให้จองยังไงเมื่อไหร่ช่วยแจ้งข่าวด้วยนะครับ

 

โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

พอดีป้าจ้อย(ลูกศิษย์หลวงพี่เล็ก)รับอาสาที่จะช่วยคนที่อยู่ห่างไกล
ให้มีโอกาสบูชาองค์พ่อจตุคาม รุ่น"สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด"
หลวงพี่เมตตา(ลูกศิษย์หลวงพี่เล็ก)ท่านก็เลยบอกให้ผมมาช่วยประกาศข่าวบุญให้ก่อนครับ

http://palungjit.org/board/showthread.php?t=81540
http://palungjit.org/board/showthread.php?t=81543

 

กระทู้ มวลสารวัตถุมงคลรุ่น "สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด" เกาะยอ


ผมได้ลงรายละเอียดของมวลสารวัตถุมงคลรุ่น "สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด" เกาะยอ ทั้งหมดแล้วนะครับ โมทนาสาธุครับ

 

เจริญธรรม...

ห่างหายไปหลายวัน ตอนนี้แม่ชีติดสอนและอบรมมากเป็นพิเศษ
เพราะเอาตัวเข้าไปเป็นอาสาสมัครของโรงพยาบาล ช่วยอนุเคราะห์คนไข้
ใกล้ตาย ให้ตายอย่างสงบสุข แม้จะเป็นเพียงช่วงเสี้ยวนาที
ทำแล้วสุขใจ แต่กายเหนื่อยก็ไม่เป็นไร เห็นรอยยิ้มของคนรอบข้างผู้ตาย
ก็ถือว่าได้กำไรในชีวิตแล้ว

มีคติเตือนใจมาฝาก...มนุษย์ผู้ประเสริฐ คือมนุษย์ผู้ทำหน้าที่
โดยสมบูรณ์ หน้าที่นั้นมีทั้งหน้าที่ของตน และหน้าที่ต่อบุคคลอื่น ด้วยการ
น้อมนำเอา ทาน ศีล ภาวนามาประพฤติปฏิบัติ

หน้าที่ที่พึงกระทำ ได้แก่ การให้ เสียสละ ให้อภัย ให้น้ำใจ ให้น้ำคำ
ให้โอกาส (ทาน) ไม่เบียดเบียนตนและคนอื่น (ศีล) สงบจิตของตัวเอง
(ภาวนา) บุคคลผู้ทำได้โดยสมบูรณ์
ผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่า ผู้ประเสริฐ
เกิดมาไม่เสียชาติเกิด และไม่เป็นคนรกโลก...

บุญรักษา ธรรมะสวัสดีค่ะ!!!!

 

แหะๆ ...กว่าจะเข้าเนตได้ เขาไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วไม่รู้ค่ะ

เดี๋ยวคุยปะเดี๋ยวจ้า จะพาน้องใบตองไปฉีดวัคซีน แล้วไปตลาดนัด อดอาหารสามสัปดาห์แล้วค่ะ กินแต่ไข่กับปลากระป๋อง เพราะฝนตกตลอดวัน

อนุโมทนากับทุกท่านเจ้าค่ะ

เมื่อคืนก็ได้ให้ผู้ช่วยเก๋ขอบารมีองค์ท่านที่เป็นเนื้อพิเศษ(องค์ล่ะ ๕๐๐๐ บาท)
แล้วยายก็ลองขอบ้าง

เมื่อคืนเจอค่ะ ท่านมากันเพียบเลย แต่งตัวสวยๆ กันทั้งนั้น เพิ่งเห็นว่า ผีอิสลาม เขาก็เป็นเทวดาเหมือนเราได้ รับอานิสสงค์จากเราได้ เขาบอกว่า ขอบคุณ

นี่เป็นสัมผัสส่วนตัว ขออย่าเอาไปเป็นข้ออ้างใดๆ เดี๋ยวพวกที่เขาไม่เชื่อจะหาว่าบิดเบือนความเชื่อเขาค่ะ

สรุปว่า

คนเรามีทางไปเหมือนกัน มีธรรมะที่คลุมครอบไว้ไม่ต่างกัน

 

เจริญธรรม...

วันก่อนมีนักศึกษาทั้งพุทธ /คริสต์ / อิสลาม มานั่งคุยที่ ทิพยสถานธรรม ซึ่งทีแรกเด็กๆนึกว่าแม่ชีจะสั่งสอนแบบเข้าข้าง
แต่ศาสนาพุทธดีเยี่ยมฝ่ายเดียว โดยเด็กถามว่าคนศาสนาอื่นเป็นเทวดาไม่ได้หรือไง?
(เห็นยายผีป่าพูดเรื่องนี้จึงขออธิบายหน่อย)

พระพุทธองค์ทรงเป็นนักประชาธิปไตยเยี่ยมยอด ไม่ได้บอกว่าพระพุทธศาสนาดีกว่าศาสนาใด หากทุกคนทำได้อย่างที่
พระองค์ทรงบอกทรงอธิบายมา ทุกคนก็เป็นผู้ประเสริฐ เป็นคนดีและเป็นเทวดาได้เหมือนกัน

แต่ในศาสนาอื่นไม่มีคำจำกัดความเรียก คนดี คนประเสริฐว่า เทวดา
เทวดาจึงมีแต่ในศาสนาพุทธ ส่วนในฮินดู เขาเรียกเทวดาว่า เทพ
ในศาสนาคริสต์ไม่ได้เรียกศาสดาว่า พระพุทธเจ้า แต่เรียกว่า พระเจ้า
พุทธศาสนา ไม่ได้หมายความว่าเป็นแต่คนพุทธหรือคนไทยเท่านั้น พุทธะ หมายความว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม
มีธรรมประจำใจ เพื่อกำกับกาย วาจาให้ดีงาม

ผู้รู้ คือ รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว รู้บุญ รู้บาป
ผู้ตื่น คือ ตื่นจากการหลงผิด เพราะไม่รู้ ไม่เข้าใจ
ผู้เบิกบาน คือ มีใจผ่องใส ไม่ขุ่นมัว เป็นสุขสงบจากกิเลสเลว

หากคนที่นับถือศาสนาอื่น ทำอย่างที่กล่าวมา ก็สามารถเป็นพุทธะได้ แต่ในศาสนาอื่นไม่ได้ใช้คำพูดแบบพุทธ มันก็เท่านั้นเอง
และถ้าหากผู้ถือศาสนาอื่นทำอย่างพุทธได้โดยครบถ้วน ก็ถึงนิพพานได้เช่นกัน เพราะแค่เรารักษาศีล 5 ได้ครบถ้วน
โดยสมบูรณ์ ก็ยังเป็นพระอรหันต์ เข้านิพพานได้เลย ไม่เห็นต้องโกนหัวบวช เลย

แต่การโกนหัวบวชเป็นเครื่องหมายของ
การสละในสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำได้ยาก บ่งบอกถึงหน้าที่ เหมือนคนแต่งเครื่องแบบนั่นแหละ ตำรวจก็มีเครื่องแบบ
พยาบาลก็มีเครื่องแบบ นักบวชก็มีเครื่องแบบเช่นกัน เครื่องแบบเป็นเหมือนเครื่องหมายแสดงให้รู้ ให้เข้าใจได้ทันทีว่า
เครื่องแบบนี้มีหน้าที่นั้น หน้าที่นี้ต่อสังคม อีกทั้งเป็นการตอกย้ำกำกับจิตของผู้สวมใส่เครื่องแบบให้ตระหนักในหน้าที่ของตนด้วย

นักบวชในศาสนาอื่นหรือพระภิกษุของพุทธศาสนาก็มีหน้าที่ต่อสังคม คือ สอนธรรมให้ความกระจ่างแก่บุคคล เพื่อการลุล่วง
แห่งทุกข์ และการอยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุขและสันติ

ส่วนในเรื่องของการทำสมาธิ ทุกศาสนาก็ทำได้ เพียงแต่อาการที่ทำต่างกันไปตามความเชื่อ ความศรัทธาและวัฒนธรรมของตน
คนอิสลามทำสมาธิจะบริกรรมท่องบ่นคำว่า "อัลเลาะห์ๆๆๆ" ไปเรื่อยๆก็ไม่เห็นแปลก

คนคริสต์ท่องคำว่า "เยซูๆๆๆ"นั่นก็ไม่เห็นผิด

คนพุทธก็ท่องคำว่า "พุทโธๆๆๆๆ" ไปเรื่อยๆ ลองคิดดูสิว่า เมื่อว่างจากการทำงานในกิจวัตรประจำวันกันแล้ว
ทุกคนในทุกศาสนามานั่งสวดมนต์ ทำสมาธิตามวัฒนธรรมของศาสนานั้น อะไรจะเกิดขึ้น? คิดดูแล้วกัน

ส่วนคนพุทธได้รับการสั่งสอนมาในเรื่องของการนั่งทำสมาธิ เดินจงกรม ยืน และนอน ในที่สงัดและต้องสันโดษ
คนเลยเข้าใจว่า ต้องหนีเข้าป่า ไม่อยู่ร่วมกับใคร ทิ้งทุกอย่างให้หมดจึงจะบรรลุ มีฤทธิ์ และรู้อะไรเหนือกว่าใคร
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ตาม สุดท้ายทุกคนก็ต้องอยู่ร่วมกัน รวมกันในสังคม เกื้อกูล ช่วยเหลือกัน ไม่มีใครจะอยู่บนโลกใบนี้ได้คนเดียว
โดยไม่ต้องพึ่งพาใครเลย

พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้ทุกฝ่ายเกื้อหนุน ช่วยเหลือกัน พระภิกษุ สอนสั่งธรรม ญาติโยมให้ข้าว ให้น้ำ ผู้ปกครองช่วยเหลือผู้ใต้ปกครอง ผู้ใต้ปกครองช่วยเหลือสนับสนุน เชื่อฟังผู้ปกครอง ฯลฯ

ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ศาสนาไหนนั้นไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่คุณเป็นคนดี คนประเสริฐ คือ ไม่เบียดเบียน ไม่รุกราน
ไม่เอารัดเอาเปรียบ มีการสละ มีการให้และทำหน้าที่ของคุณดีแล้วหรือยัง?

ถ้าทำได้ คุณก็เป็นเทวดา เป็นเทพ เป็นพรหม
เป็นพระอรหันต์ได้โดยลำดับแล้ว จริงไหมล่ะ?

สุดท้ายแม่ชีเลยได้แนวร่วมเกือบทุกศาสนา มาช่วยกันทำประโยชน์ต่อ
สาธารณะชน ไม่ได้เงิน แต่ได้กำไรในชีวิต ได้ความเบิกบาน ได้รอยยิ้ม
ที่สำคัญ ทุกคนได้เพื่อน

บุญรักษา ธรรมะสวัสดี

 

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ pang1972
<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 width="100%" bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR class=b><TD>คือว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ไปหล่อพระมาค่ะ คณะที่กำลังหล่อก็ได้อฐิฐานจิตขอให้ดวงจิตของลูกที่หลงตายหรือเศร้าตายเมื่อชาติที่แล้วให้ได้รับบุญกุศลในครั้งนี้ด้วยเมื่อได้รับอานิสงฆ์แล้วขอให้ดวงจิตของลูกจงหลุดพ้นจากอบายภูมิเท่านั่นแหละค่ะก็อยากร้องไห้ดัง ๆ แต่ก็เก็บไว้ในใจไม่กล้าร้องออกมาเพราะมีคนอยู่ร่วมทำพิธีเยอะค่ะ เมื่อเห็นเปลวไฟในขณะที่กำลังหล่อพระรู้สึกว่าไฟที่หล่อพระเมื่อกับภาพที่เราเห็นในสมาธิเลยค่ะ </TD></TR><TR class=a><TD noWrap>แม่ชีช่วยเมตตาต่อคำถามนี้ด้วยน่ะค่ะ</TD><TD class=e noWrap></TD><TD></TD></TR><TR class=b><TD noWrap></TD><TD class=e noWrap></TD><TD></TD></TR><TR class=a><TD noWrap>เจริญธรรม...
อาการที่เกิดมันเป็นความปิติ เกิดเป็นความสุขใจ เหมือน
ได้สลัดออกจากห้วงแห่งทุกข์ที่มันติดอยู่ในใจมาช้านาน
ดีนะที่เก็บอารมณ์ได้เก่ง ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเป็นตัวประหลาด
ในสายตาของหลายๆคนก็ได้ อย่าตกใจเลย ถือว่าพ้นทุกข์
หลุดพ้นกันที ดีใจด้วยนะ
บุญรักษา ธรรมะสวัสดี
</TD><TD class=e noWrap></TD><TD></TD></TR><TR class=b><TD noWrap>ที่หนูเอามาลงก็อยากให้ทุกคนได้รู้ว่าการเป็นทุกข์ทางใจมันเจ็ปปวดมากที่สุด
ก็เลยอยากให้ทุกคนได้รู้ว่าการยึดมั่นถือมั่นมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยสิ่งไหน
ที่ควรปล่อยวางได้ควรปล่อยวางอย่าไปยึดติดกับมัน
ปฏิบัติธรรมหมั่นภาวนารักษาศีลและอยากให้ทุกคนได้ปฏิบัติกันทุกวัน
โดยมีสติอยู่ที่ตัวตลอดเวลาเพื่อเป็นการเตือนไม่ให้ตัวเราหลงไปกับกองกิเลส
สำหรับใครที่มีทุกข์แล้วแก้ไม่หายพยายามทำบุญบ่อย ๆ แล้วหมั่นอฐิฐานจิต
ให้กับจิตเดิมของตัวเองด้วยน่ะค่ะ เพื่อที่จิตเดิมของตัวเองจะได้หลุดพ้นจากอบายภูมิ
</TD><TD class=e noWrap></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
สุดท้ายหนูขอบคุณแม่ชีมากน่ะค่ะ ที่เป็นกำลังใจให้หนูตลอดมา
ด้วยบุญกุศลใดที่หนูทำมาหนูขอให้แม่ชีได้รับบุญขอหนูด้วยน่ะค่ะ
และเจริญในธรรมสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<!-- / message -->

</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack --><!-- End Post Groan Hack --></TD><TD><!-- Start Post Thank You Hack --><!-- End Post Thank You Hack --> <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แม่ชีเจ้าขา เมื่อซักครู่มีน้องสาวท่านหนึ่งถามอ้อยว่า นั่งสมาธิแล้ว จิตมักจะลอยออกนอกตัว ซึ่งมองเห็นตัวเองกำลังนั่งสมาธิอยู่ จะมีผลเสียอะไรไหมเจ้าค่ะ

 

เจริญธรรม...

ทำสมาธิแล้วจิตออกไปนอกตัว มันเป็นเรื่องปกตินะ
แต่ถ้ามีการทึกทักผสมกับการปรุงแต่งเข้าไปด้วยนั้น อาจบ้าได้จ้า...

อย่าตกใจไปเลย จิตที่เริ่มสงบนิ่งในขั้นต้นนั้น จิตจะแยกออกจากกาย คือไม่รับรู้เวทนาที่เกิดขึ้น แต่มีเวทนาคือความเจ็บเกิดอยู่

หลังจากนั้นหากทำจิตให้สงบนิ่งดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความว่างอีก
จิตกับกายจะรวมเข้าหากัน เกิดเป็นความแนบแน่นแห่งจิต ที่เรียกว่า จิตรวมเป็นหนึ่ง

มีอุเบกขาเป็นอารมณ์ คือปล่อยวาง หรือสลัดออกจากความเจ็บปวดของสังขาร

เนื่องจากสังขารเจ็บมากจนหายเจ็บและกลายเป็นความเคยชินไป รู้เจ็บแต่ไม่ยึดเจ็บ จึงดูเหมือนไม่เจ็บ

เพราะความเจ็บมันเกิดขึ้นชั่วขณะ ตั้งอยู่ชั่วคราวและดับไปในที่สุดและมันก็จะวนเวียนอยู่เช่นนี้ ขอให้ทำต่อไปอย่าตกใจไปเลยนะ

บุญรักษา ธรรมะสวัสดี

 

รบกวนสอบถาม แม่ชีครับ เมื่อต้นเดือนมิย. ผมได้ร่วมทำบุญสร้างที่เกาะยอ โดยโอนเงินเข้าบัญชีแม่ชีที่ สงขลา เพื่อรับองค์จตุคามชุดกรรมการเป็นที่ระลึก โดยโทรและให้ที่อยู่ติดต่อผ่านแม่ชี กวางไว้ ไม่ทราบว่ากำหนดการจะเสร็จ และจัดส่งให้เมื่อใดครับ
ขอกราบขอบพระคุณครับ
ชาญชัย

 

เจริญธรรม...

สำหรับชุดกรรมการนั้นต้องรออีกสักนิดนะ เพราะอยู่ในระหว่างการปิดทองทุกองค์ จะส่งให้ได้ประมาณวันที่ 10 สิงหาคม เป็นต้นไปจ้า
อย่าเพิ่งโมโหนะ...เพราะทุกฝ่ายต่างเร่งรีบกันทุกคนจ้า

บุญรักษา ธรรมะสวัสดี

 

โมทนาบุญกับคุณแม่ชีและคุณหงสนาถด้วยนะครับ ที่ร่วมกันกับท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ร่วมบุญซื้อที่ดินเพื่อสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมของท่านอาจารย์แม่ชีณัฐทิพย์ ที่ เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ผมเพิ่งมีเวลาว่างพอที่จะเข้ามาในกระทู้ของคุณแม่ชีครับเพราะที่ผ่านมางานยุ่งมากเนื่องจากมีการย้ายหน้าที่รับผิดชอบใหม่ครับ
โมทนาสาธุครับ
ตถตา

 

ได้รับองค์จตุคามที่ระลึกแล้วครับวันนี้ กราบขอบพระคุณและโมทนาบุญในการจัดสร้างทิพยสถานธรรม เกาะยอให้ลุล่วงด้วยดีครับ
ชาญชัย

 

greetings from the north slope
thursday's aftenoon, what have i got to lose..