ถามนักปฏิบัติขณะนั่งสมาธิมีถามตอบในจิตถือเป็นอุปทานหรือไม่

ก่อนอื่นขออ้างอุปาทาน ๔ ก่อนนะครับ
คือ ยึดมั่นในกาม
ยึดมั่นในทิฐิ
ยึดมั่นในศีลพรต
ยึดมั่นในอัตตา

คุณนั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงถามตอบ.. เป็นอุปาทานหรือเปล่า
ใครสอบทานให้คุณได้ คนๆนั้นย่อมต้องมีอธิจิตมีฌานสมาบัติคล่องตัว
มีทิพจักขุญาณแจ่มใส สามารถตรวจสอบได้ว่าใครมีอุปาทานหรือไม่มี

ทีนี้ ผมไม่มีทิพจักขุญาณแจ่มใสอย่างนั้น ผมจะตอบยังไง ตอบแบบนี้แล้วกัน
การนั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงเป็นอุปาทานแบบไหนละ กาม คงไม่ใช่
อยู่ในสมาธิกามมาจากไหนละ
ทิฐิ... คิดเอาเองหรือ คุณคิดไว้ก่อนหรือเปล่าละว่าจะได้ยินเสียงอย่างนี้ๆ
ศีลพรต.. ไม่เข้าพวก
อัตตา.. เสียงที่ได้ยินคิดมั้ยว่าเป็นของเราเป็นตัวเป็นตน

ผมว่าอย่างนี้ดีกว่านะ
เป็นอะไรก็ช่าง แต่เราฟังแล้วมีธรรมะอยู่ไหมละ
ถ้ามีก็ใช้ได้ จะเป็นอะไรก็ช่าง ตอบมามีธรรมะเราก็เก็บไว้ ไม่มีก็ช่างมัน
ใครจะสื่อกับเรา หรือเราเพ้อไปเอง ก็ช่างมัน
สัพเพ ธัมมา อนัตตา เราไม่ยึดมั่นถือมั่น
ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เจริญภาวนาต่อไป
เข้าเขตอุปาจารฌาน อะไรก็มาได้ทั้งนั้น ของจริงของหลอกมาได้ทั้งนั้น
เราเฉยซะก็หมดเรื่อง แต่ระวัง อย่าปรามาสละครับ
ของจริงมาจะซวย
อย่าไปสงสัย ปฏิบัติต่อไป ทำฌานสมาบัติให้คล่องตัว เดี๋ยวรู้เองนะ