ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปรับโครงสร้างหนี้ สู้ภัย COVID-19
    FB_IMG_1595658307818.jpg FB_IMG_1595658310279.jpg FB_IMG_1595658313756.jpg FB_IMG_1595658316152.jpg FB_IMG_1595658318548.jpg
    #mgronline #ปรับโครงสร้างหนี้ #โควิด19

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีน : ประกาศ 34 รายผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันศุกร์เชื้อนำเข้า 5 ราย ติดในประเทศ 29 ราย
    จากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ 20 ราย
    อีก 9 รายเมืองท่าต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง
    # มณฑลเหลียวหนิง เมืองต้าเหลียน กว่า 111 วัน ที่ประกาศปลอดเชื้ออยู่ๆพบชายวัย 58 ปีทำงานใน บ.แปรรูปอาหารทะเลติดเชื้อ และมีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน 15.00น. วันศุกร์รวม 12 ราย ทางเมืองประกาศล็อคดาวน์ตรวจ 190,000 คนทันทีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของจีนเตือนว่าบรรจุภัณฑ์จากต่างประเทศเช่นอาหารและยาอาจมี coronavirus ถึงแม้ไม่ได้แช่เย็นก็ตาม
    #สรุปประเด็นว่า จีนกำลังสงสัยว่า มีการส่งเชื้อมากับสินค้า จากต่างประเทศ ด้วยเจตนาก่อการร้าย หรือ ปลอมปนติดมากับสินค้าแบบไม่ได้เจตนาถึงแม้ไม่ได้แช่เย็น
    Cr .News.cn

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฟิลิปปินส์ : มะนิลา สนาม Rizal Memorial
    ผู้คนติดค้างรอส่งกลับต่างจังหวัดในวันที่ 24 ก.ค.
    # ผู้คนมากกว่า 8,000 คนมารอส่งกลับต่างจังหวัดเนื่องจากกรุงมะนิลา เลือกล็อคดาวน์ครั้งที่ 2 ในหลายโซนเพราะยอดคนติดเชื้อพุ่ง และให้ประชาชนเลือกว่าจะกลับต่างจังหวัดหรือไม่ รัฐบาลเตรียมรถบัส 120 คัน เรือ 5ลำสำหรับขนส่ง สถานการณ์โควิดในฟิลิปินส์ไม่ดีขึ้นหลังจากล็อคดาวน์รอบแรก กลับมียอดติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการหลายอย่างก่อนหน้า เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ปัญหาความแออัด ความยากจน ขาดอาหาร ทำให้ต้องแหกกฎล็อคดาวน์ จนนำมาสู่ล็อคดาวน์รอบสองในหลายโซน
    *ติดเชื้อสะสมล่าสุด 76,444 คนเสียชีวิต1,879 คน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดติดเชื้อโควิดทั่วโลก 25 กรกฎาคม 2563
    ติดเชื้อ 15,941,806 คนเสียชีวิต 642,751 คน
    # ติดเชื้อรายใหม่ใน 24 ชั่วโมง +289,028 คน
    # เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง -6,199 คน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อังกฤษ : ลอนดอน G-string FACE MASK
    ชายใส่ จีสตริงทำด้วยหน้ากากอนามัย เดินท้าทาย คำสั่งให้ใส่หน้ากากในถนน อ๊อกซฟอร์ด ท่ามกลางผู้คนมากมายต่างสนใจ
    # ในอังกฤษมีออกคำสั่งให้ใส่หน้ากากอนามัย
    ในห้าง ร้านค้า ธนาคาร ไปรษณีย์ แต่หลายคนยังสับสนในสถานที่ หลายคนปฏิบัติตาม
    Cr : ภาพ Reuters

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jul 25 , 2020 ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ย้ำไม่ห้ามนักศึกษาชุมนุม แต่ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย-เว้นระยะห่าง ชี้หากจะให้ยุบสภาต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อน
    .
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาว่า เป็นห่วงความปลอดภัย ซึ่งหลักในการป้องกันโควิด-19 คือ ออกมาชุมนุมได้ แต่ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่าง แต่คงไม่ห้ามให้ออกมาชุมนุม เพราะเป็นความรู้สึกของนักศึกษาที่ต้องการสื่อให้รัฐบาลรับทราบ และต้องเคารพ
    .
    นอกจากนี้การชุมนุมที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีเหตุให้ติดเชื้อโควิด เพราะไทย ไม่ติดเชื้อภายในประเทศมา 2 เดือนแล้ว และไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดเดินทางเข้าไทยด้วย ส่วนคนมาจากต่างประเทศก็ต้องได้รับการกักตัว 14 วัน แต่ขอให้ชุมนุม สงบ อย่ารุนแรง เพราะทุกคนมีอารยะ และรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยที่พร้อมรับฟังความรู้สึกและเจตนารมณ์ของทุกฝ่าย
    .
    ส่วนข้อเรียกร้องหลายเรื่องนำมาพิจารณาได้ เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพร้อมแก้ไข แต่ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำประชามติ และถ้าทุกคนเห็นด้วยก็ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ซึ่งควรเป็นไปตามขั้นตอนทางการเมืองและเป็นกระบวนการประชาธิปไตย แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยหากจะให้ยุบสภา โดยไม่แก้รัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
    .
    #ครม. #นักศึกษา #ชุมนุม #ไวรัสโควิด19 #Misterban

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    July 24, 2020 อึ้ง-ทึ่ง-มึน เสียวแทนลุงแซม เจ้าแห่งสถิติที่โลกไม่มีวันลืม
    #ทรัมป์ #โรคระบาด #misterban โควิด19

    FB_IMG_1595659004956.jpg

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • T&G Global สำนักงานใหญ่ในประเทศนิวซีแลนด์จะเริ่มจำหน่ายแอปเปิลพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์แรกที่ได้รับการยอมรับว่ามีความทนต่อ "สภาวะอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งที่สุดในโลก"

    • แอปเปิลสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นแอปเปิลสายพันธุ์แรกที่เกิดจากโครงการ Hot Climate Program ซึ่งเป็นโครงการปรับปรุงสายพันธุ์พืช โดยมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืนระยะยาวในสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง

    • ปีเตอร์ แลนดอน-เลน ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมและด้านเทคนิคของ T&G Global กล่าวว่า ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาแอปเปิลสายพันธุ์ใหม่

    • “เรารู้ว่าสภาพอากาศของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงและผู้บริโภคจะยังคงต้องการอาหารอร่อย ส่งเสริมสุขภาพและปลอดภัยที่ผลิตอย่างยั่งยืน ดังนั้น T&G Global พร้อมกับพันธมิตรของเราในโปรแกรม Hot Climate ได้ทำการพัฒนาแอปเปิลสายพันธุ์ที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อจำหน่าย” แลนดอน-เลน กล่าว

    • แอปเปิลสายพันธุ์ทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศสายพันธุ์แรกที่จะจำหน่ายคือ 'HOT84A1 ซึ่งได้ผ่านการทดลองปลูกในประเทศสเปนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส และแอปเปิลนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าทนต่อการถูกแดดเผา ในขณะที่คุณภาพยังดีเยี่ยม สีแดง ผิวฉ่ำและหวานกรอบ

    • ด้วยการปรับปรุงพันธุ์พันธุ์ใหม่นี้ขึ้น ทำให้ภูมิภาคที่ไม่สามารถปลูกแอปเปิลได้ก่อนหน้านี้ สามารถนำสายพันธุ์นี้ไปปลูกได้แล้ว ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแอปเปิลในพื้นที่ของตัวเองได้ง่ายขึ้น และนอกจากจะทนต่อพื้นที่สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง แอปเปิล HOT84A1 ยังมีความต้องการน้ำและปุ๋ยน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย

    • โปรแกรม Hot Climate เริ่มขึ้นในปี 2545 โดยการวิจัยพืชและอาหารและสถาบันการวิจัยและเทคโนโลยีเกษตร (IRTA) และ Fruit Futur สมาคมผู้ผลิตผลไม้หลักในคาตาโลเนีย ทำการพัฒนาแอปเปิลและลูกแพร์สายพันธุ์ใหม่ที่ปรับให้เข้ากับพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกแอปเปิลในสเปนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคาตาโลเนียได้ประสบปัญหากับพันธุ์ดั้งเดิม แอปเปิลสีไม่สด ผิวไหม้และนิ่ม

    • แอปเปิล 'HOT84A1' จะเริ่มจำหน่ายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าในสเปน และคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตสำหรับประเทศอื่นๆ ตามไป

    ที่มา : T&G Global

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • ในขณะที่ความหวังเรื่องการลดมลภาวะทางอากาศยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ (เพราะมลภาวะทางอากาศไม่ได้มีแค่ก๊าซเรือนกระจกแต่ยังรวมถึงฝุ่นละลองขนาดเล็กและควันไฟ) แต่เราก็มีวิธีป้องกันสุขภาพจากปัญหานี้อยู่บ้าง เมื่อผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกาพบว่าการกินปลาที่มีน้ำมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาแมคเคอเรลอาจช่วยป้องกันสมองที่ได้รับความเสียหายที่เกิดจากมลพิษทางอากาศ

    • หลายคนคงจะยังไม่รู้ว่ามลพิษทางอากาศๆ ไม่ได้ทำลายแค่ปอด แต่ทำลายสมองของเราด้วย สมองของเราจะเกิดความเสียหายหากได้รับสารพิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin) เช่น ตะกั่ว และปรอท เนื้อขาวในสมอง ซึ่งมีผลสำคัญต่อการเรียนรู้และการทำงานของสมองจะมีปริมาณลดลงเมื่อสัมผัสกับมลพิษทางอากาศในระดับที่สูงขึ้น

    • ศาสตราจารย์ Jordi Sunyer แห่งสถาบัน ISGlobal กล่าวว่า ในช่วงทศวรรษที่ 90 เรามักคิดว่าระบบหัวใจและหลอดเลือดเป็นเป้าหมายสำคัญของมลพิษทางอากาศ จนกระทั่งในปี 2551 มีการศึกษาในสัตว์เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศที่มีผลต่อสมอง ซึ่งพบว่ามันมีผลร้ายแรงจริงๆ นี่เป็นเพราะขนาดของอนุภาคของมลพิษมีขนาดเล็กมากจนสามารถเข้าไปในสมองและทำให้เกิดอาการประสาทอักเสบได้

    • นอกจากนี้ยังมีการค้นพบว่าลพิษทางอากาศที่สูงเกี่ยวข้องกับการลดความสามารถในการรู้คิดในเด็กทำให้เด็กมีเรียนรู้ได้แย่ลงและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความเสื่อมทางปัญญา โดยในปี 2558 ศาสตราจารย์ Sunyer และเพื่อนร่วมงานของเขาตีพิมพ์ผลการวิจัยแสดงว่าระดับมลพิษที่สูงขึ้นนั้นเชื่อมโยงกับการลดลง 5% ของความจำในการทำงานของเด็กอายุ 7 ถึง 10 ปี

    • ส่วนผู้ใหญ่ก็ไม่รอดเช่นกัน เพราะหากรับมลพิษทางอากาศมากๆ ก็อาจเกิดภาวะซึมเศร้าในผู้ใหญ่ แต่โชคดีที่เราพอจะพบทางแก้ไขได้บ้าง

    • ผู้เชี่ยวชาญจากจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาอาหาร, การสัมผัสมลภาวะ และปริมาณสมองของสตรีสูงวัย 1,315 คน เพื่อดูว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 อาจป้องกันมลภาวะทางอากาศได้หรือไม่ ทีมวิจัยพบว่าผู้หญิงที่กินปลาที่มีกรดไขมันโอเมกา-3 มากกว่าหนึ่งครั้งหรือสองมื้อต่อสัปดาห์มีปริมาณสมองส่วนฮิปโปแคมปัส (เกี่ยวกับความทรงจำระยะยาว) และปริมาณเนื้อขาวมากขึ้น

    • นักวิจัยพบว่าคนที่อาศัยอยู่บนถนนที่จอแจและมีกรดไขมันโอเมกา-3 ในเลือดในระดับต่ำที่สุด มักจะมีเซลล์ประสาทน้อยกว่าคนที่บริโภคกรดไขมันมากขึ้น

    • ดร. คา ฮี (Ka He) จากทีมนักวิจัยบอกว่า "การค้นพบของเราชี้ให้เห็นว่าระดับที่สูงขึ้นของกรดไขมันโอเมกา-3 ในเลือดที่เกิดจากการบริโภคปลา อาจช่วยรักษาปริมาณสมองเมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้นและอาจป้องกันพิษที่อาจเกิดขึ้นจากมลพิษทางอากาศได้"

    • แต่ไม่ใช่ว่าเราจะกินปลาตามใจชอบแล้วรอรับโอเมก้า 3 กันตามสบาย เช่น การกินปลาทอดไม่เหมาะอย่างยิ่ง เพราะการทอดจะทำลายกรดไขมันโอเมกา-3 ในเนื้อปลา และนักวิจัยย้ำว่าไม่ได้หมายความว่าการกินปลาจะช่วยรักษาปริมาณสมองของเราได้ เพราะยังมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพสมองของเรานอกเหนือจากมลพิษทางอากาศ

    (งานวิจัยชิ้นนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารประสาทวิทยาของ American Academy of Neurology)

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • ออสเตรเลียวางแผนสร้างรันเวย์คอนกรีตยาว 2.7 กิโลเมตรบนทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกใต้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของสนามบินที่จะสร้างใกล้กับสถานีเดวิส (Davis Station) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามฐานที่มั่นถาวรของออสเตรเลียในแอนตาร์กติกา และยังจะเป็นรันเวย์คอนกรีตแห่งแรกในขั้วโลกใต้ด้วย

    • แผนดังกล่าวยังต้องรอการอนุมัติด้านสิ่งแวดล้อมจากรัฐบาลกลาง กรมแอนตาร์กติกของออสเตรเลีย (AAD) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลระบุว่า การสร้างรันเวย์จะเปิดทางให้เครื่องบินเดินทางระหว่างโฮบาร์ตในเกาะแทสเมเนียของออสเตรเลียไปยังแอนตาร์กติกาได้ตลอดทั้งปี

    • ในปัจจุบันมีเที่ยวบินออสเตรเลียไปยังแอนตาร์กติกาเพียงแห่งเดียในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น เครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินใกล้กับสถานีวิจัยเคซีย์ (Casey research station) แต่สถานีจะไม่สามารถเข้าถึงได้ทั้งทางอากาศและทางเรือในฤดูหนาว

    • AAD อ้างว่าที่จำเป็นต้องสร้างสนามบินให้ถาวรก็เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเดินทางไปยังแอนตาร์กติกาได้สะดวกขึ้นเพื่อศึกษาชีวิตสัตว์ท้องถิ่นและศึกษาการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอื่นๆ และเปิดทางให้นักวิจัยทำการวิจัยในช่วงฤดูหนาวได้

    • แต่ประเด็นก็คือหากโครงการนี้อนุมัติ นักวิทยาศาสตร์จะเดินทางไปแอนตาร์กติกาได้ยากขึ้นนานอีกหลายปีเพราะเที่ยวบินที่มีอยู่จะต้องขนส่งคนงานและอุปกรณ์ในการสร้างรันเวย์ใหม่

    • และที่สำคัญก็คือหากโครงการนี้ได้รับการอนุมัติ มันจะกลายเป็นร่องรอยจากน้ำมือมนุษย์ต่อธรรมชาติ หรือ Footprint ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของทวีปแอนตาร์กติกา มันจะเพิ่ม Footprint ในแอนตาร์กติกาขึ้นมาถึง 40% ทำให้ออสเตรเลียสร้างความเสียหายต่อทวีปมากว่าประเทศไหนๆ แม้แต่สหรัฐซึ่งตอนนี้มี Footprint มากที่สุดคือ 24%

    • เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากเพราะแอนตาร์กติกาเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ พื้นที่รอบ ๆ สถานีเดวิสน่าจะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีน้ำแข็งและเป็นชายฝั่งที่สำคัญที่สุดของแอนตาร์กติกา มีทั้งทะเลสาบ, แนวผาฟยอร์ด, แหล่งค้นพบฟอสซิลโบราณ และสัตว์ป่า ดังนั้นการสร้างสนามบินจึงอาจส่งผลสะเทือนต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก

    • บางทีรัฐบาลออสเตรเลียอาจไม่ได้คิดกับพูดที่ว่าต้องการเปิดทางให้นักวิทยาศาสตร์เข้าไปศึกษาปัญหาโลกร้อนได้ง่ายขึ้น เพราะหลายประเทศเริ่มเข้ามาปักหลักในแอนตาร์กติกามากขึ้น แต่มันคือการเมืองของการอ้างวิทยาศาสตร์เพื่อเข้ามาปักหมุดในขั้วโลกใต้นั่นเอง

    ข้อมูลจาก
    • Australia Wants to Build a Huge Concrete Runway in Antarctica. Here’s Why That’s a Bad Idea (https://rb.gy/dcp2f6)
    ภาพสถานีเดวิส ถ่ายโดย Graham Denyer (CC BY-SA 2.5)

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โรงแรมลอยน้ำรักษ์โลก ใช้พลังงานอาทิตย์ 100% ท่องเที่ยวกลางทะเล ชมธรรมชาติ

    anthenea โรงแรมลอยน้ำในฝรั่งเศสที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการออกแบบการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ท้าทายธรรมชาติอย่างเช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และความหนาแน่นของทะเล

    ผู้ออกแบบได้ดีไซน์ให้ห้องพักมีรูปทรงที่กลมตามหลักการของเรื่องแรงตึงผิว เพื่อช่วยต้านทานความรุนแรงของน้ำหรือคลื่น และด้วยความที่เจ้าโรงแรมนี้ใช้นวัตกรรมการยึดสกรูทรายที่รับรองอย่างแน่นอนได้ว่าไม่สร้างความเสียหายให้แก่ระบบนิเวศใต้น้ำอย่างแน่นอน

    ด้วยความที่ anthenea เป็นโรงแรมลอยน้ำทำให้แขกสามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยวิวของทะเลอย่างจุใจและสามารถมองลอดไปยังใต้น้ำได้ นอกจากนี้ห้องทรงกลมลอยน้ำยังสามารถดัดแปลงไปทำสปา และพื้นที่ให้ทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกด้วย

    ตัวโรงแรมมาด้วยหลังคากันแดดที่สามารถปรับได้ อ่างอาบน้ำที่มีมองวิวได้แบบพาโนราม่า และเส้นผ่านศูนย์กลางเตียงอยู่ที่ 220 เซนติเมตร และจุดเด่นที่ทำให้โรงแรมนี้กลายเป็นโรงแรมสายอีโค่ก็คือมันมีแผงพลังงานโซลาร์เซลที่ติดตั้งอยู่บนหลังคา นอกจากนี้ตัวของที่พักลอยน้ำยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% อีกด้วย ยังไม่หมดเจ้าโรงสุดเจ๋งนี้ยังมีระบบจัดการน้ำและจะปล่อยน้ำที่สะอาดออกมาเท่านั้นด้วย

    https://www.designboom.com/architecture/anthenea-pod-floating-eco-hotel-electric-energy-07-17-2020/

    https://www.anthenea.fr/en/the-anthenea-suite/

    เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
    environman

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เขย่าวงการแฟชั่น Nike ผลิตรองเท้ารักษ์โลก ทำจากขยะรีไซเคิล! และวัสดุเหลือใช้ มาหมุนเวียนใหม่ ใส่ใจลดผลกระทบแวดล้อม | Nike Air VaporMax 2020 Flyknit

    Nike ผลิตรองเท้ารักษ์โลก ทำจากขยะรีไซเคิล! และวัสดุเหลือใช้ มาหมุนเวียนใหม่ ใส่ใจลดผลกระทบแวดล้อม

    ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องช่วยเร่งแก้ไขจากทุกฝ่าย ในด้านธุรกิจผู้ผลิตสินค้าก็หันมาใส่ใจ ผลิตสินค้าที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยไม่นานมานี้ Nike ได้เขย่าวงการรองเท้าผลิต Space Hippie รองเท้าไลน์ใหม่ที่พยายามสร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    วันนี้ชวนดู 5 จุดเด่นด้านการออกแบบอย่างยั่งยืน (Circular Design) ของรองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต (Nike Air VaporMax 2020 Flyknit)

    รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต (Nike Air VaporMax 2020 Flyknit) เป็นหนึ่งในรองเท้าของไนกี้ที่พัฒนาโดยเน้นเรื่องความยั่งยืนมากที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน เนื่องจากรองเท้ารุ่นนี้ใช้วัสดุรีไซเคิลกว่าร้อยละ 50 ของน้ำหนักเป็นองค์ประกอบของรองเท้า ไนกี้พัฒนารองเท้ารุ่นนี้จากกระบวนการสร้างสรรค์และทดลองต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านการออกแบบอย่างยั่งยืน (Circular Design) ในหลายๆ องค์ประกอบของรองเท้ารุ่นนี้

    “เราศึกษาทั้งเศษวัสดุจากกระบวนการผลิตของไนกี้และเศษวัสดุอื่นๆ เพื่อหาวิธีที่จะนำเศษวัสดุเหล่านั้นกลับมาใช้ใหม่” เจซี่ สมอลล์ (Jesi Small) หัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของไนกี้อธิบาย “ข้อเท็จจริงนี้เป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการพัฒนาของเราทั้งหมด”

    รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิตเป็นรองเท้าที่พัฒนาขึ้นจากหลักการเดียวกับหลักการที่ไนกี้ใช้พัฒนารองเท้า ไนกี้ สเปซ ฮิปปี้ (Nike Space Hippie) ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ สังเกตได้ทั้งจากโครงสร้างชิ้น เวเปอร์แม็กซ์ แอร์ (VaporMax Air Unit) รุ่นใหม่ที่มีความยาวตลอดพื้นรองเท้าไปจนถึงการเลือกสรรวัสดุที่ให้ความสำคัญอย่างที่สุดกับความยั่งยืน เมื่อพิจารณารองเท้ารุ่นใหม่นี้อย่างละเอียด จุดเด่นของรองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต มีทั้งหมด 5 ประการดังต่อไปนี้

    1.ครั้งแรกของการพัฒนาโครงสร้างชิ้นเวเปอร์แม็กซ์แอร์ รุ่นใหม่ที่มีความยาวตลอดพื้นรองเท้าและผลิตโดยใช้วัสดุ รีไซเคิลกว่าร้อยละ 75 นอกจากนี้ โครงสร้างไนกี้แอร์ในรองเท้ารุ่นนี้ยังมีลักษณะเป็นชิ้นเดียว มีความหนาสุดที่ส่วนส้นเท้าไล่ลงไปจนเพรียวบางที่สุดที่บริเวณปลายนิ้วเท้า ซึ่งช่วยให้รองเท้าดูเพรียวบางกว่ารองเท้าตระกูลเวเปอร์แม็กซ์รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ รองเท้าตระกูลเวเปอร์แม็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังสวมใส่ได้สบายยิ่งขึ้นและให้ความรู้สึกขณะเดินที่ดีกว่าเดิมด้วย (ทั้งนี้ โครงสร้างแอร์ของไนกี้ทุกชิ้นผลิตจากวัสดุรีไซเคิลกว่าร้อยละ 50 มาตั้งแต่ปี 2008)

    2. เส้นใยฟลายนิตที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (Recycled Flyknit Yarn) นั้นผลิตจากวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตกว่าร้อยละ 67 ของน้ำหนัก ผสานกับเส้นใยที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลอื่น (รวมถึงเส้นใยจากขวดพลาสติก)

    3. พื้นในรองเท้า ออโธไลท์ (Ortholite Sockliner) แบบ 2 ชั้นหล่อขึ้นโดยใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบกว่าร้อยละ 50 และไนกี้ยังพัฒนาให้รู้สึกสบายขณะสวมใส่ได้มากยิ่งขึ้น ส่วนลิ้นรองเท้าใช้โฟมรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 80

    รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิตจะมีตราประทับ Sunburst logo ของไนกี้
    แสดงให้เห็นว่ารองเท้ารุ่นนี้เป็นผลิตภัณฑ์ในโครงการ Move to Zero

    ผู้สวมใส่ยังสามารถดึงแถบปรับความกระชับที่บริเวณลิ้นรองเท้าเพื่อการถอดหรือสวมใส่ที่สะดวกยิ่งขึ้นได้

    4. วัสดุ TPU สำหรับส่วนปลายเท้าและเกราะรองส้นเท้านั้นใช้ TPU รีไซเคิลเป็นองค์ประกอบมากกว่าร้อยละ 60 ซึ่ง TPU รีไซเคิลที่ไนกี้ใช้ยังก่อให้เกิดลวดลายริ้วที่สวยงามที่ตัวรองเท้าด้วย

    5. ส่วนพื้นนอกรองเท้ารองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต มีเทคโนโลยีไนกี้กรินด์ (Nike Grind) ซึ่งผลิตจากวัสดุรีไซเคิลทั้งชิ้น

    รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต เป็นรองเท้าสำหรับใส่ได้ในชีวิตประจำวัน และมาสร้างนิยามใหม่ของความกระชับ มอบความรู้สึกที่ดี และมีประสิทธิภาพขณะสวมใส่ นอกจากนี้รองเท้าคู่นี้ยังยกระดับนวัตกรรมของเครื่องแต่งกายสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันไปพร้อมกับความยั่งยืนของโลกอีกด้วย

    “เราต้องการสร้างสรรผลิตภัณฑ์ที่เสริมสร้างความยั่งยืนของโลกขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น และผลิตภัณฑ์นั้นต้องสวมใส่ได้ง่ายและรวดเร็วในชีวิตประจำวัน”

    “นี่เป็นเหตุผลที่ไนกี้พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยให้ความสำคัญกับการสวมใส่หรือถอดออกที่ง่าย และต้องเป็นรองเท้าที่กระชับ ให้ความรู้สึกที่ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับนักกีฬาทุกคน” สมอลล์ หัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของไนกี้กล่าวเพิ่มเติม

    สีสันที่สดใสของรองเท้ารุ่นนี้เป็นผลลัพธ์ของการผสานทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งองค์ประกอบที่เกิดจากเศษวัสดุกระบวนการออกแบบที่เน้นความยั่งยืน และนวัตกรรมฟลายอีซของไนกี้

    “หนึ่งในรากฐานสำคัญของสิ่งที่ไนกี้ทำตลอดกระบวนการพัฒนารองเท้ารุ่นนี้คือการผสานแนวคิดของการแสดงสภาพเดิมของเศษวัสดุเมื่อนำมาประกอบขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือ ‘Rawthenticity’” จาร์รอด เฮล (Jarrod Hale) หัวหน้าอาวุโสฝ่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของไนกี้สปอร์ตสแวร์ (Nike Sport Wear) กล่าว

    “แนวคิดนี้คือการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่โดยใช้เศษวัสดุเป็นส่วนประกอบให้ได้มากที่สุด เราคาดหวังว่าแนวคิดนี้จะช่วยให้ผู้สวมใส่ตระหนักว่าเราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้อย่างไรและสร้างขึ้นทำไม รวมไปถึงการผสานทั้งประสิทธิภาพและสุนทรียะเข้าด้วยกันในผลิตภัณฑ์ที่เราพัฒนาตามแนวคิดนี้”

    เพื่อให้รองเท้าตระกูลเวเปอร์แม็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุด สวมใส่และถอดออกได้ง่าย เหมาะสมกับผู้สวมใส่ทุกคน และสวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน ไนกี้จึงเสริมคุณสมบัติไนกี้ฟลายอีซ เข้ามาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของรองเท้าตระกูลนี้ คุณสมบัติไนกี้ฟลายอีซ
    คือกลไกสำหรับการสวมใส่และถอดรองเท้าที่ผู้สวมใส่สามารถทำได้ด้วยมือข้างเดียว

    เทคโนโลยีนี้ออกแบบขึ้นตามหลักการออกแบบเพื่อทุกคน ช่วยเสริมคุณค่าสำคัญ คือการพัฒนาให้ทุกคนสวมใส่และถอดรองเท้าได้ง่ายกว่าเดิม เทคโนโลยีไนกี้ฟลายอีซ พัฒนาขึ้นจากรากฐานของความมุ่งมั่นประการหนึ่งของไนกี้ที่ดำรงอยู่อย่างยาวนาน คือ “การรับฟังข้อคิดเห็นของนักกีฬา” รวมไปถึงการคำนึงถึงคุณสมบัติของรองเท้าที่ดี

    รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต จะวางจำหน่ายในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ทางเว็บไซต์ nike.com

    ที่มา

    https://www.nike.com/gb/sustainability

    https://www.nike.com/gb/w/vapormax-2020-look-7tppm



    ร่มธรรม ขำนุรักษ์

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฟิลิปปินส์ไอเดียกรีนผุดแก้วกระดาษจากใบสับปะรดเหลือทิ้ง สวยงาม ดีต่อโลก ปลอดภัย ย่อยสลายได้ ช่วยลดขยะเกษตร

    ถึงแม้ว่าเราจะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้แก้วพลาสติกใช้ทิ้งและหันมาใช้แก้วกระดาษแล้ว แต่ก็ไม่พ้นมีสารเคลือบพลาสติกด้านในเพื่อให้กันน้ำได้อยู่ดี ซึ่งนั้นทำให้แก้วกระดาษที่ใช้อยู่ทั่วไปหลาย ๆ ยี่ห้อไม่สามารถย่อยสลายได้

    นักวิจัยชาวฟิลิปปินส์ ออกสินค้าที่จะช่วยให้แก้วกระดาษเป็นแก้วกระดาษจริง ๆ ด้วย “Pinyapel" แก้วน้ำที่ทำขึ้นจากใบของสับปะรด 100%

    แบรนด์ Pinyapel เกิดขึ้นจากคำสองคำในภาษาฟิลิปปินส์รวมกันคือ pinya สับปะรด และ papel ที่แปลว่ากระดาษ

    ผลิตภัณฑ์จากกระดาษสับปะรดจะให้อารมณ์ขอความมินิมอลและความสวยงามตามธรรมชาติ นอกจากจะเป็นมิตรต่อโลกแล้วเจ้า Pinyapel ยังปลอดภัยสำหรับการนำมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารอย่างแน่นอน

    Pinyapel สามารถย่อยสลายได้มากถึง 55.32% ภายใน 4 สับดาห์ มันมีอัตราการย่อยสลายมากกว่าบรรจุภัณฑ์จากกระดาษทั่วไปเสียอีก ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ที่เพียง 21.33% เท่านั้น

    ด้วยแก้วกระดาษ Pinyapel จะทำให้ขยะจากการเกษตรลดลง เนื่องจากได้นำส่วนที่ไม่ใช้แล้วอย่างใบมาสร้างประโยชน์ให้เกิดสูงสุด และนอกจากจะมีแก้ว Pinyapel แล้ว ทางแบรนด์ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่ทำมาจากกระดาษ Pinyapel อีกด้วยเช่น โคมไฟ สมุด

    ไม่เพียงแต่แก้วสับปะรดเท่านั้นที่จะเข้ามาแทนที่แก้วกระดาษทั่วไป แต่ทาง DCP (Design Centre of the Philippines) ยัง ตั้งเป้าที่จะผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารแบบกลับบ้านจากใบสับปะรดอีกด้วย นอกจากนี้ทาง DCP ยังระบุอีกด้วยว่า อยากให้ Pinyapel กลับคืนธรรมชาติในรูปแบบของปุ๋ย เพราะมันจะทำให้ดินอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

    เมื่อปี 2019 ที่ผ่านา Pinyapel ได้รับรางวัล Wood Pencil จาก D&AD Future Impact Award เนื่องจากได้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารใช้ทิ้งทางเลือกที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    https://truththeory.com/2020/01/25/...es-win-awards-for-world-changing-innovations/

    https://insidemanila.ph/article/921...estone-of-sustainability-and-pinoy-creativity



    https://nolisoli.ph/69536/cdo-handmade-paper-pinyapel-dandad-csanjose-20191028/

    https://www.greenqueen.com.hk/pinya...s-paper-made-from-discarded-pineapple-leaves/

    เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
    environman

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิจัยพบครั้งแรก! ก๊าซมีเทนรั่วไหลจากก้นทะเลแถบขั้วโลกใต้! ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ หวั่นโลกร้อนทำสถานการณ์แย่ เกิดจากซากสาหร่าย-สิ่งมีชีวิตทับถม

    เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ได้พบก๊าซมีเทนรั่วไหลออกมาจากพื้นทะเลในแอนตาร์กติกา
    นอกจากนี้ยังพบเชื้อจุลินทรีย์จำนวนน้อย ซึ่งปกติแล้วเชื้อจุลินทรย์จะทำหน้าที่บริโภคก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ก่อนที่จะออกสู่ชั้นบรรยากาศ เมื่อจำนวนของมันน้อยจึงทำให้ก๊าซมีเทนที่ถูกปล่อยออกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมีเพิ่มขึ้น

    ก๊าซมีเทนปริมาณมากถูกกักเก็บอยู่ใต้พื้นทะเลของบริเวณอาร์กติก โดยก๊าซเหล่านี้จะรั่วไหลมากขึ้นเนื่องจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศทำให้ทะเลอุ่นขึ้น ซึ่งนักวิจัยเผยว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก

    อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ก๊าซรั่วไหลออกมา แต่ที่แน่ ๆ มันไม่ได้เกิดจากการที่โลกร้อนขึ้น เพราะทะเล Ross ได้ร้อนขึ้นอย่างมีนัยอยู่แล้ว และไม่ได้เกี่ยวกับการหนีมีเทนของจุลินทรีย์ด้วย

    การรั่วไหลที่กำลังเกิดขึ้นถูกพบครั้งแรกโดยนักดำน้ำในปี 2011 แต่นักวิทยาศาสตร์ใช้เวลาจนถึงปี 2016 ที่จะนำหลักฐานเหล่านี้กลับมาศึกษารายละเอียดและกลับไปที่นั่นอีกครั้ง

    “ความล่าช้าของการบริโภคมีเทนของจุลินทรีย์ถือเป็นข่าวร้าย โดยมันใช้เวลามากถึง 5 ปีกว่าพวกมันจะโผล่มาให้เห็น ขณะที่พื้นทะเลจุดนั้นก็ยังคงปล่อยก๊าซมีเทนออกมาอย่างต่อเนื่อง” Andrew Thurber จาก Oregon State University

    การที่ก๊าซมีเทนที่ถูกกักเก็บไว้ใต้น้ำแข็งหรือชั้นดินเยือกแข็ง (Permafrost) ละลายเป็นปัจจัยที่ทำให้โลกร้อนมากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

    ปัจจุบันเรามีความรู้เรื่องวัฏจักรก๊าซมีเทนของอาร์กติกน้อยมาก แต่การรั่วไหลของก๊าซครั้งนี้เปิดโอกาสให้นักวิจัยสามารถศึกษาได้จากแหล่งธรรมชาติได้

    Prof Jemma Wadham จาก University of Bristol กล่าวว่า แอนตาร์กติกาและแผนน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ของการศึกษาเรื่องของวัฏจักรก๊าซมีเทนของโลก เพราะเป็นสถานที่ที่ทำงานได้ยาก แต่ได้เผยว่าคาดว่ามีเทนนั้นอยู่ในแผ่นน้ำแข็ง แต่คำถามที่สำคัญคือมากขนาดไหน

    โดยก๊าซมีเทนคาดว่าเกิดจากการหมักหมมของสาหร่ายใต้ตะกอนเป็นพัน ๆ ปี พื้นที่ส่วนใหญ่ของมหาสมุทรที่พบมีเทนรั่วไหลออกมาจะถูกจัดการโดยจุลินทรีย์ แต่การเติบโตที่ช้าของมันและความลึกของพื้นที่ที่พบนั้นหมายความว่ามันจะรั่วไหลไปสู่ชั้นบรรยากาศ

    โดยการศึกษาพื้นที่ที่มีการรั่วไหลแห่งนี้ในอนาคต จะทำให้เราเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้รวมถึงแอนตาร์กติกามากขึ้น

    https://www.theguardian.com/environ...k-of-sea-bed-methane-discovered-in-antarctica

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักสิ่งแวดล้อมพัฒนา AI ติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก แบบเรียลไทม์ตามเวลาจริง! แม่นยำ ชี้แหล่งที่มา แก้ปัญหาได้ถูกจุด

    ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจกที่มีอยู่อย่างมหาศาล หลายคนคงคิดว่าเบื้องหลังน่าจะมีการติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดและทันต่อเหตุการณ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับเป็นตรงกันข้าม ข้อมูลที่ออกมานั้นล่าช้าและมาจากการสันนิษฐานเกือบหมด

    เพื่อกำจัดความไม่แม่นยำและข้อถกเถียงต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลชุดนี้ กลุ่มนักสิ่งแวดล้อมจับมือกับบริษัทเทคโนโลยี และอดีตรองประธานบริษัทอย่าง Al Gore พัฒนาแพลตฟอร์ม “Climate TRACE” ติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกแม้ในพื้นที่ห่างไกลตามเวลาจริง ผ่านการประมวลผลของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ข้อมูลภาพจากดาวเทียมและเทคโนโลยีสุดล้ำอื่น ๆ

    โดย Gore และนักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าตัวแพลตฟอร์ม Climate TRACE จะติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแม้จากหน่วยงานย่อย ๆ อย่างโรงงานผลิตพลังงาน โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป เรือขนส่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุว่าจะติดตามการปล่อยก๊าซจากแหล่งเกษตรกรรม แหล่งการทำป่าไม้ และพื้นที่ที่เต็มไปด้วยการคมนาคมต่าง ๆ ยังไม่แน่ใจว่าจะเพิ่มบริเวณการปล่อยก๊าซดังกล่าวในหมวด “อื่น ๆ” ในแพลตฟอร์มหรือไม่

    แต่สิ่งที่ Climate TRACE จะมีแน่ ๆ ก็คือ ข้อมูลว่าก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ “มาจากไหน” “ปล่อยออกมาเมื่อไหร่” “ใครเป็นคนปล่อย” อย่างที่ Gore และ Gavin McCornick ผู้อำนวยการบริหาร Climate TRACE จากบริษัท WattTime ได้เขียนไว้ในบล็อก Medium

    ที่ผ่านมา ข้อมูลที่เกี่ยวกับก๊าซต่าง ๆ มักเก็บบันทึกโดยรัฐบาลของแต่ละประเทศ ดังนั้นข้อมูลอาจมีปัญหาเรื่องความแม่นยำ แต่ละประเทศอาจปล่อยข้อมูลก๊าซที่แตกต่างกันออกไป การสร้างแพลตฟอร์มทางการที่ให้คนเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำและน่าเชื่อถือได้ในที่เดียวจึงน่าจะเป็นที่ต้องการ

    แล้ว Climate TRACE จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนี้ได้อย่างไร? ด้วยข้อมูลของก๊าซที่เป็นไปได้ว่าจะมีเยอะมาก ๆ นี้ ทาง Climate TRACE ตัดสินใจใช้เครื่องมือการรับรู้จากระยะไกล (Remote Sensing) ที่ประกอบไปด้วย AI ภาพดาวเทียมและส่วนการเรียนรู้ของเครื่องกล (Machine Learning)

    ทางทีมหวังว่าจะปล่อยเวอร์ชั่นแรกของแพลตฟอร์มนี้ให้พร้อมใช้ภายในฤดูร้อนของปี 2021 ที่จะมาถึง และจะนำไปเสนอในการประชุมระดับโลกด้านสิ่งแวดล้อม “COP26” ที่สหราชอาณาจักร ในวันที่ 1-12 พ.ย. 2021 ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ หลังจากที่ต้องเลื่อนออกไปในปีนี้ รวมถึงหวังว่าจะปล่อยออกมาให้สาธารณชนเห็นด้วย

    Gore กล่าวในแถลงการณ์เรื่อง Carbon Tracker Initiative ว่า “โลกของเรามาถึงจุดเดือดในเรื่องของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายในการผลักดันให้การปล่อยคาร์บอนของโลกในอนาคตเป็นศูนย์ เราจำเป็นต้องมีชุดข้อมูลที่ครอบคลุมว่ามลพิษมาจากไหน”

    “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ Climate TRACE จะเข้ามาช่วยปฏิวัติความพยายามของโลกในการวัดและลดการปล่อยมลพิษของทุกภาคส่วน ผ่านการสร้างเครื่องวัดข้อมูลแบบใหม่ที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือ วิสัยทัศน์ของพวกเราคือติดอาวุธให้บริษัท นักวางแผนนโยบาย และผู้นำทุกคนให้มีเครื่องมือที่จำเป็น สามารถนำไปใช้ในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และงานที่ยั่งยืน” Gore เสริม

    อีกทั้ง McCornick ได้บอกถึงความจำเป็นของแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลที่แม่นยำว่า “โลกของเราเหมือนคนไข้คนหนึ่งที่กำลังป่วยด้วยโรคที่ชื่อว่า ‘สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง’ การรักษาคนไข้ด้วยข้อมูลที่คนไข้บอกและจากงานวิจัยที่ไม่อัพเดทล่าช้าไป 1 ปี ก็เหมือนการให้หมอรักษาโรคร้ายแรงที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา เว้นแต่ลิสต์ของอาการต่าง ๆ ของโรคที่เคยมีการเก็บจากคนไข้เมื่อปีก่อน ๆ”

    “หมอทำตามหน้าที่ของพวกเขาให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้น ทุกโรงพยาบาลก็ต้องมีเครื่องวัดความดัน เครื่องมือตรวจภายในร่างกายคนไข้อย่างเครื่อง X-ray หรือ เครื่องสแกน MRI เพื่อตรวจว่าร่างกายของคุณผิดปกติอย่างไร ดังนั้น ถ้าเราอยากจะจริงจังเรื่องการหยุดโรคร้ายอย่างสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ มันถึงเวลาแล้วที่ต้องให้หมอที่ดูแลสภาพอากาศเข้าถึงอุปกรณ์ที่เหมือนกับอุปกรณ์ในโรงพยาบาลจริง ๆ” McCornick เสริม

    การมีข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่แม่นยำนั้นจำเป็นมาก ถ้าไม่มีมันก็มีความเสี่ยงที่ว่าเราอาจจะเรียงลำดับความสำคัญสิ่งที่ควรแก้ไขเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการณ์โลกร้อนนี้ผิด หวังว่า Climate TRACE จะรีบปล่อยออกมาตามเวลาที่ทางบริษัทได้กำหนดไว้ หมอโลกอย่างนักวิชาการและนักสิ่งแวดล้อมทั้งหลายจะได้ข้อมูลที่อัพเดท ทันเวลา เพื่อนำไปรักษาโลกของเราสักที เพราะเหมือนกับโรคร้ายต่าง ๆ สภาพอากาศที่เปลี่ยนไปนี้ร้ายแรงและไม่เคยรอใคร

    https://www.greenmatters.com/p/clim...S8hEi-WKnU6dGmxctCR2g33ygdD2yHTvqBL3HFfXCPf2M

    https://time.com/5866881/al-gore-cl...vxcctHZZE3NRfKmVc7jT6WAjHoVyjmr312gNGmXWUg-YA

    https://www.vox.com/energy-and-envi...G1L9oC7bmAgqZ8KYk5b_xGCcUTTxIBjLDZo1IG5tmQttY

    https://www.voicetv.co.th/read/f3Wl...6a7dZUeySXELvb3e9PomyXBgQSq2-RMbK8az5fOx2Qn8k

    ณิชากร บัวทรัพย์
    Environman

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รู้จักกุย หรือไซกา Saiga Antelope จมูกงวง เข้าขั้นวิกฤต จำนวนลดลงต่อเนื่อง เหตุภาวะโลกร้อน - การล่าจากมนุษย์ วอนเร่งอนุรักษ์ก่อนสิ้นชื่อ

    Antelope เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเขา มีลักษณะทางกายภาพที่สวยสง่างาม แต่ Saiga Antelope มีลักษณะที่เด่นเห็นได้ชัดเลยก็คือจมูกที่ดูห้อยคล้อยยานเหมือนงวง

    Saiga Antelope สามารถพบได้ในทุ่งหญ้า และพื้นที่กึ่งทะเลทรายในเอเชียกลางอย่าง คาซัคสถาน เป็น Antelope สายพันธุ์เล็ก ขนาดตัวอยู่ที่ประมาณแพะเท่านั้น สูงประมาณ 63-80 เซนติเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 23 - 40 กิโลกรัม อาหารหลักของ Saiga คือพืช โดยมันสามารถกินพืชที่เป็นพิษต่อสัตว์อื่นได้ด้วย

    ขนของพวกมันมีสีน้ำตาลอ่อนซึ่งจะหนาขึ้นและกลายเป็นสีขาวในฤดูหนาว ตัวผู้จะมีเขาสีเหลืองซีด ยาวประมาณ 28 - 38 เซนติเมตร

    จมูกที่มีรูปร่างคล้ายงวงของพวกมันมีประโยชน์ในการป้องกันสิ่งสกปรกและทรายไม่ให้เข้าปอด และในฤดูหนาวจมูกที่ยื่นออกมาจะทำให้อากาศอุ่นขึ้นก่อนที่จะเดินทางถึงปอด

    Saiga Antelope ถูกจัดให้อยู่ในสัตว์ประเภทที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤตต่อการสูญพันธุ์ (Critically Endangered) เนื่องจากสภาวะโลกร้อนที่สร้างทั้งความแห้งแล้งและสภาพอากาศแบบสุดขั้ว รวมถึงการที่มันถูกล่าทำให้จำนวนของพวกมันลดลงอย่างต่อเนื่อง

    https://mongolia.panda.org/en/about_mongolia/wildlife/saiga_antelope/

    https://www.iucnredlist.org/species/19832/50194357

    https://www.nationalgeographic.com/animals/2020/06/saiga-antelope-baby-boom-endangered-species/

    https://mongolia.wcs.org/wildlife/saiga-antelope.aspx

    http://realmetro.com/saiga-antelope/

    https://animals.net/saiga-antelope/

    https://animals.net/saiga-antelope/

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ ยังเผชิญกับภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทดสอบเชื้อไวรัส

    ปัจจุบันห้องปฏิบัติการหลายแห่งในสหรัฐฯ ขาดแคลนน้ำยาทดสอบเชื้อไวรัส หลอด pipette tips และอุปกรณ์พลาสติกอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทดสอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้แก้ไขปัญหาการขาดแคลน swabs ที่ใช้ในการเก็บเชื้อ จนทำให้ระยะเวลาในการแจ้งผลการทดสอบล่าช้าออกไปมากจนเกินกว่า 1 สัปดาห์ โดย pipette tips นี้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องการตรวจอัตโนมัติซึ่งช่วยให้ตรวจได้ปริมาณมากซึ่งจะลดระยะเวลาในการตรวจหาเชื้อ โดยในระยะหลังความต้องการทดสอบเชื้อปรับเพิ่มขึ้นหลังจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ห้องปฏิบัติการหลายแห่งทั่วสหรัฐฯ เริ่มกักตุนและแก่งแย่งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทดสอบ

    ด้านบริษัท Tecan ผู้ผลิต pipette tips ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ จำนวนมาก จนไม่สามารถผลิตได้ทัน และอยู่ระหว่างการเร่งกำลังการผลิตให้รองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ภายในสิ้นปีนี้

    นอกจากนี้ ห้องปฏิบัติการหลายแห่งยังประสบปัญหาขาดแคลนภาชนะและน้ำยาที่ใช้ในการทดสอบเช่นกัน จนต้องลดกำลังการทดสอบลงกว่าครึ่งหนึ่งโดยให้ความสำคัญกับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงก่อน และระยะเวลาการแจ้งผลต้องล่าช้าไปเป็น 7-10 วัน

    จากผลการสำรวจล่าสุดพบว่ากว่าร้อยละ 20 ของห้องปฏิบัติการขาดแคลนอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 1 ชิ้น และหลายแห่งแจ้งว่าไม่สามารถรองรับความต้องการทดสอบเชื้อได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเห็นว่าการทราบและแจ้งผลการทดสอบเชื้อที่ล่าช้าเกือบสัปดาห์นั้นทำให้ประสิทธิผลในการควบคุมการแพร่ระบาดด้อยลงมากจนแทบจะไม่ช่วยอะไรเลย

    สถานการณ์โรคระบาดในสหรัฐฯ ยังปรับแย่ลง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรวมในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่า 4 ล้านคน เช่นเดียวกับอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากรายงานข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดพบว่ากว่า 39 รัฐทั่วสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรัฐ Texas และ California ที่ทำลายสถิติใหม่ของจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวันโดยวานนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 69,707 คน และจำนวนผู้ติดเชื้อรวมในรัฐ California ปรับสูงกว่ารัฐ New York เป็นครั้งแรก

    ด้านประธานาธิบดี Trump ออกมากล่าววานนี้ว่า การเร่งทดสอบเชื้อไวรัสนั้นทำให้ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ดูแย่ลง รวมทั้งกล่าวหาพรรค Democrat ว่านำเรื่องไวรัสมาโยงกับการเมือง และยืนยันว่าหลังวันที่ 4 พ.ย. ทุกอย่างจะกลับมาเปิดเป็นปกติ

    Source: BoTSS

    - https://www.nytimes.com/2020/07/23/health/coronavirus-testing-supply-shortage.html

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สมาชิกรัฐสภายุโรปหลายประเทศต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดแผนงบประมาณจำนวน 1.1 ล้านล้านยูโร ของสหภาพยุโรป ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติ

    สมาชิกรัฐสภายุโรปหลายท่านต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดแผนงบประมาณระยะยาวสำหรับปี 2021-27 จำนวน 1.1 ล้านล้านยูโร ของสหภาพยุโรป ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากกลุ่มผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 ก.ค.)

    นาย Manfred Weber สมาชิกรัฐสภายุโรปจากเยอรมนี กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่สามารถหาข้อสรุปให้แก่แผนงบประมาณดังกล่าวได้ แต่ยังไม่เห็นด้วยในรายละเอียด เนื่องจากมองว่า แผนงบประมาณที่ได้รับการเห็นชอบจากกลุ่มผู้นำประเทศสมาชิก ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความท้าทายของยุโรปในระยะ 7 ปีข้างหน้าได้มากเพียงพอ

    นาย Weber และสมาชิกรัฐสภายุโรปอีกหลายท่าน ต้องการให้ปรับเพิ่มงบประมาณในหลายๆ ด้าน อาทิ ด้านสุขภาพ ด้านการทหาร และ ด้านการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น ขณะที่เงินงบประมาณจากกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 หรือ European Recovery Fund ควรถูกจัดสรรไปยังโครงการของสหภาพยุโรปโดยรวมมากขึ้น อาทิ การพัฒนาระบบเครือข่าย 5G การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่ การพัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากจีนได้ และการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงาน เป็นต้น

    นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภายุโรป ยังต้องการให้มีการหารือเกี่ยวกับการนำประเด็นเรื่อง “rule of law” เข้ามาเกี่ยวข้องกับการอนุมัติงบประมาณดังกล่าวให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยต้องการให้มีการระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวแนวทางการเบิกจ่ายและจัดสรรเงินว่า จะไม่มีการเบิกจ่ายหรือจัดสรรเงินงบประมาณให้แก่ประเทศสมาชิกที่ไม่เคารพต่อกฎและหลักเกณฑ์ของสหภาพยุโรปใช่หรือไม่ ซึ่งการหารือในประเด็นเรื่อง “rule of law” เป็นการมุ่งเป้าไปยังฮังการีและโปแลนด์ 2 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่กำลังอยู่ภายใต้การสอบสวนเกี่ยวกับการละเมิด ความเป็นอิสระของระบบศาลและสื่อมวลชน

    ทั้งนี้ แผนงบประมาณของสหภาพยุโรปที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจากกลุ่มผู้นำประเทศสมาชิกดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสมาชิกรัฐสภายุโรปอีกขั้นตอนหนึ่ง ก่อนที่จะถูกนำไปใช้จริง เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวจากวิกฤตโรคระบาด ขณะที่รัฐบาลอิตาลีมีมติอนุมัติร่างแผนการใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษจำนวน 25 พันล้านยูโร ในวันนี้ (23 ก.ค.) เพื่อนำไปช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ หลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตโรคระบาด

    นาย Giuseppe Conte นายกรัฐมนตรีอิตาลี สนับสนุนให้เพิ่มการขาดดุลงบประมาณในปีนี้ ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกรัฐสภาอิตาลีต่อไป โดย นาย Conte เคยกล่าวต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า อิตาลีมีแนวโน้มจะได้รับผลประโยชน์จาก European Recovery Fund ทั้งส่วนของเงินให้เปล่าและเงินกู้ยืมรวมกันที่ประมาณ 209 พันล้านยูโร

    Source: BoTSS

    เพิ่มเติม
    MEPs threaten to reject €1.8 trillion EU budget & COVID-19 rescue package: https://www.euronews.com/2020/07/23...ver-1-8-trillion-euro-covid-19-rescue-package

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ [#KPInsight] ⚠️ เมื่อวานนี้เพิ่งได้ฟังคลิปที่ Elon Musk ออกมาประกาศงบของ Tesla ในไตรมาส 2 ซึ่งออกมามีกำไรมากกว่าที่ตลาดคาดและ #เป็นการกำไร4ไตรมาสติดต่อกันเป็นครั้งแรก ของ Tesla ถึงแม้ Elon จะไม่ได้ประกาศออกมาตรงๆ แต่เขากำลังเตรียมลดราคารถ Tesla ครั้งใหญ่ให้พวกเรา !

    ทำไมนักวิเคราะห์ถึงปากกาหักกันหมดเมื่อพูดถึงหุ้น Tesla ?

    เหตุผลที่นักวิเคราะห์ต่างๆไม่เชื่อว่า Tesla จะสามารถทำกำไรได้มาจากการวิเคราะห์งบดุล ซึ่งนักวิเคราะห์ทุกวันนี้สามารถวิเคราะห์จุดต่างๆได้อย่างละเอียดมากจนบางทีการสนใจในรายละเอียดมากเกินไปนั้นทำให้ลืมมองภาพใหญ่ โดยสิ่งที่นักวิเคราะห์มองคือ Elon #ได้ใช้เงินลงทุนมากเกินไปแล้วทั้งที่รายได้ยังไม่โตขนาดนั้น

    แต่ทางเรายังคงเชื่อว่าบริษัท Tesla นั้นเป็นหนึ่งในบริษัทที่ไม่สามารถวิเคราะห์ทิศทางของบริษัทได้ด้วยงบดุลของบริษัทเพียงอย่างเดียวจริงๆ เพราะแผนที่ Elon Musk เขาวางไว้นั้นมันขัดกับหลักแผนธุรกิจธรรมดาอย่างสิ้นเชิง (ท่านใดสนใจลองฟังดูจากคลิปที่เคยโพสต์ไว้ได้ครับ แนบให้ในคอมเม้นท์ด้วย)

    ยกตัวอย่างเรื่องของราคาของรถ Tesla นั้น วันนี้ผมมีข่าวดีมาบอกก่อนเลยว่า #ราคารถTeslaนั้นจะถูกลงเรื่อยๆ ! ถึงแม้ว่าต้นทุนของ Tesla จะเริ่มถูกลงเรื่อยๆเมื่อการผลิต Tesla ถึง Economy of scale ที่ Elon วางไว้

    โดยแผนธุรกิจโดยปกตินั้นแต่ละบริษัทจะ #พยายามลดต้นทุนเพื่อให้มีกำไรสูงขึ้น หรือเพื่อเพิ่ม Margin นั้นเอง หรือเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด ทุกวันนี้นั้น Tesla ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของส่วนแบ่งตลาดเพราะรถทุกๆคันที่ผลิตออกมามีคนจองคิวรออยู่แล้วเพียบ

    แต่ข่าวดีคือทาง Elon Musk ได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่า เขาต้องการลดต้นทุนของ Tesla ลงเพื่อที่จะได้ลดราคาของรถยนต์ต่อไปอีก ไม่ได้ต้องการทำกำไรเพิ่ม ไม่ได้มีปัญหาเรื่องส่วนแบ่งตลาด แต่เขาต้องการจะคง Margin ไว้ที่ 30% เท่านั้น

    ทำไม Elon ถึงคิดแบบนี้ ?

    เพราะแผนที่ Elon วางไว้เมื่อ 20 ปีก่อนนั้นไม่ใช่การ #พยายามทำธุรกิจให้มีกำไรมากที่สุด แต่ Mission ของ Tesla คือ "Tesla’s mission is to accelerate the world’s transition to sustainable energy." หรือการเร่งการเปลี่ยนแปลงให้โลกของเราเข้าสู่พลังงานสะอาดที่ยั่งยืนให้ได้

    เพราะฉะนั้นทาง Elon นั้นตั้งใจที่จะลดราคาขายรถของ Tesla ลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้สนใจว่าคู่แข่งรถยนต์ค่ายอื่นๆนั้นจะตั้งราคาไว้เท่าไหร่ แต่ทาง Elon #กำลังเพียงแข่งกับตัวเอง และพยายามทำรถไฟฟ้าที่ถูกที่สุดออกมาเพื่อเร่งให้ทุกๆคนบนโลกได้ใช้

    แน่นอนว่าถึงแม้แผนนี้ของ Elon Musk จะดูเหมือนไม่ได้พยายามแข่งขันกับใคร แต่แผนนี้กำลังมีพิษมีภัยต่อหมู่บริษัทรถยนต์และบริษัน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่างแน่นอน เพราะความต้องใจของ Elon ที่กำลังทำธุรกิจแบบไม่สนกำไรนั้นแหละ ที่จะทำให้คนหยุดใช้รถยนต์แบบเก่า รถยนต์ค่ายอื่นๆที่มีราคาแพงกว่า และคนก็จะเลิกเติมน้ำมันไปด้วย อย่างที่เร็วกว่าที่คิด

    แต่การขายรถ Tesla ถูกๆนั้นก็ไม่ได้แปลว่า Elon จะเสียผลประโยชน์

    แน่นอนว่าในเชิงแผนธุรกิจปกตินั้นการตัดราคาขายรถลงโดยที่ไม่ได้มีปัญหาทางด้านยอดจองนั้นจะดูเหมือนไม่มีเหตุผล แต่นอกเหนือจาก Mission ของ Tesla ที่จะสำเร็จเร็วขึ้นแล้วนั้น ทางบริษัทยังได้ประโยชน์จาก

    1️⃣ #ไม่ต้องเสียค่าโฆษนา

    ต่างจากค่ายรถอื่นๆ ทางบริษัท Tesla นั้นไม่เคยต้องเสียเงินค่า Marketing หลายหมื่นล้าน เพราะสินค้าของเขานั้นมีคุณภาพอย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้ว การที่รถ Tesla ขายออกไปได้คันนึง และเจ้าของได้สัมผัสถึงคุณภาพและนำไปเล่าต่อนั้น เป็นการ Marketing ที่ดีกว่าการทำโฆษนาเสียอีก

    Elon เชื่อว่ายิ่งขายรถของเขาไปได้มากเท่าไหร่ รถของเขาก็จะยิ่งขายได้มากขึ้นเท่านั้น (ยิ่งมีความต้องการมากขึ้น)

    2️⃣ #ประโยชน์ที่ได้จากข้อมูลรถที่ขายไป

    อย่าลืมว่า Elon ไม่ได้ขายแค่เพียงรถยนต์ไฟฟ้าให้คุณ แต่เขากำลังขายคอมพิวเตอร์ติดล้อให้คุณต่างหาก จุดมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่ของ Tesla นั้นคือการพยายามสร้างโปรแกรม AI ที่จะมาขับรถแบบ Automatic 100% ให้คุณให้ได้ เพราะหากทำสำเร็จมันจะเปิดโลกธุรกิจให้ Tesla อีกมากมาย

    แต่การที่จะทำโปรแกรมนี้ให้สำเร็จนั้น ทาง Tesla จำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลการขับรถบนเส้นทางจริงๆอย่างมหาศาล และการเร่งยอดการขายให้ลูกค้านำไปขับและเก็บข้อมูลเข้ามาจึงเป็นประโยชน์ต่อ Tesla แน่นอน

    3️⃣ #การขายระบบบนรถยนต์

    การขายรถโดยทั่วไปนั้น ทางบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งราคาให้สูงที่สุดเท่าที่จะยังขายได้ออกอยู่ เพราะเมื่อขายออกไปแล้วก็ได้รายได้เพียงเท่านั้น ที่เหลือก็มีเพียงการบริการหลังการขายอีกเพียงนิดหน่อย แต่สิ่งที่ Tesla ยังขายได้บนรถยนต์นั้นยังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Application บนรถยนต์ การ Upgrade รถผ่านทาง Online หลังเสียเงินเพิ่ม หรือแม้แต่ขายระบบ Entertainment บนรถให้เราดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมส์บนรถ หลังจากที่ระบบ Automatic Drive 100% เสร็จสมบูรณ์แล้ว

    จะเห็นได้ว่า Tesla ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขายสินค้าในราคาแพงเกินไป เพราะสามารถหาเงินเพิ่มจากการขาย Software ต่างๆต่อได้ ไม่ต่างอะไรจาก Iphone ของ Apple เลยทีเดียว

    4️⃣ #การแข่งกับตัวเองโดยไม่สนข้อมูลตลาด

    โดยปกติแล้วการวางแผนธุรกิจนั้นเราจะดูข้อมูล Demand / Supply / Market share เป็นหลักเพื่อวางแผนธุรกิจ เพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายมากเกินควร หรือผลิตของออกมามากหรือน้อยเกินไป

    แต่ในเมื่อ Tesla นั้นพยายามแข่งกับตัวเองอย่างเดียว ทาง Elon นั้นไม่ได้สนใจข้อมูลตลาดเลยและพยายามที่จะสร้างโรงงานที่ใหญ่ที่สุด ที่ผลิตรถยนต์ให้ได้มากที่สุด ที่ต้นทุนต่ำสุดเพียงอย่างเดียว เพราะเหตุนี้ถึงแม้ว่างบดุลบริษัทจะดูไม่สวยแต่ในทางอ้อมนั้น Tesla จึงกำลังจะสามารถพัฒนารถยนต์ที่ต้นทุนถูกที่สุดออกมาได้

    และในการประกาศงบเมื่อ 2 วันก่อนนั้น ทาง Elon ก็ยังได้พูด Recruit หรือดึงดูดวิศวกรใหม่ๆ ให้รีบเข้ามาร่วมงานกับ Tesla ใน Gigafactory ใหม่ที่ Tesla กำลังสร้างที่ Berlin และ Texas เพราะ Elon นั้นขยายธุรกิจเร็วกว่าที่จะหาคนได้เพียงพอแล้วตอนนี้

    สิ่งที่อยากจะมาสรุปให้ฟังจากข้อความของ Elon Musk นั้นก็คือ บริษัท Tesla นั้นไม่สามารถวิเคราะห์ได้จากงบดุลเพียงอย่างเดียว Elon นั้นวางแผนหลายๆอย่างที่ขัดกับหลักธุรกิจตามธรรมชาติ แต่ถ้าหากแผนการต่างๆที่เขาวางไว้ในหลายๆมุม หลายๆกลุ่มธุรกิจมากๆ หากเมื่อไหร่ที่แผนทั้งหมดสามารถมาบรรจบกันได้... เมื่อนั้น Tesla #จะกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกแน่นอน

    ⛔️ อย่างลืมนะครับ "Don't Bet Against Elon Musk" ⛔️

    #ปล. ทาง Elon ยังประกาศอีกว่าพร้อมจะให้เงินก้อนโตกับบริษัทเหมืองที่ขุดเจาะ Nickle ส่วนประกอบสำคัญของแบตเตอรี่ Tesla ได้เยอะๆ เพราะทาง Tesla #กำลังจะขยายการผลิตเร็วกว่าที่ทุกคนคาดเดาได้แน่ๆ !

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเราฝาก Like และ Share เป็นกำลังใจให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,795
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ... "ดอลล่าร์จะตายช้าหรือตายโหง?"

    ... การที่เฟดออกมาตราการคิวลดดอกเบี้ยเรี่ยดิน เยียวยาคนจนและส่วนใหญ่อุ้มคนรวยนั้นมันทำให้คนทั่วโลกลดความน่าเชื่อถือของดอลลาร์ลงมาก

    ... อดีตพนักงานไอเอ็มเอฟบอกว่าดอลล่าร์พังค่อนข้างแน่จะตายแบบช้าๆหรือกระทันหันตายโหงแค่นั้นเอง

    ... ธนาคารกลางทั่วโลกค่อยๆซื้อทองคำมาเก็บแทนดอลล่าร์, ปริมาณการซื้อในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราช่วงโควิด19ก็น้อยลง

    ... จึงทำให้นักลงทุนหันไปหาทองคำ ทำให้ทองคำราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์โลก

    ... การสร้างความขัดแย้งกับจีนทางการทูตในการปิดสถานทูตจีนในฮูสตันและจีนปิดของอเมริกันในเฉิงตูในการตอบโต้กัน อาจจะช่วยให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นชั่วคราว ให้ดอลล่าร์แข็งขึ้นเป็นระยะสั้นๆ

    ... แต่ในระยะยาวดอลล่าร์ยังคงเดินหน้าไปหาสุสานอยู่ดี

    .

    ... https://www.rt.com/business/495726-dollar-collapse-debt-imf/

     

แชร์หน้านี้

Loading...