ติดตามสถานะการณ์

จับตา: งบประมาณโดยสังเขป ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

(คลิกไปดูในลิงค์ จะมีรายละเอียดร่างงบประมาณ)
https://www.tcijthai.com/news/2020/7/watch/10700

 

ปิดกงสุล วงในฯ ชี้สมมติฐานที่ 2: ปมขัดแย้งมาตรการกักโรคนักการทูต จับตาดูจีนโต้กลับ

โพลสำรวจในเวยปั๋ว รวบรวมผู้ตอบแบบสอบถามชาวจีน เกือบ 10,000 คน โดย 64.9% โหวตให้รัฐบาลจีนโต้กลับสหรัฐฯ ซึ่งสั่งปิดสถานกงสุลใหญ่จีนในฮูสตัน รัฐเท็กซัส โดยพบว่า 64.9% โหวตต้องการให้ปิดสถานกงสุลใหญ่สหรัฐในฮ่องกงและมาเก๊า ขณะที่รองลงมา 10.4% โหวตให้กับกงสุลสหรัฐฯ ในกวางโจว และกว่า 7.8% โหวตให้ปิดกงสุลสหรัฐฯ ที่เฉิงตู

รอยเตอร์กล่าวเมื่อวันพุธ (22 ก.ค.) โดยอ้างถึงบุคคลที่มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าจีนกำลังพิจารณาสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองอู่ฮั่นมณฑลหูเป่ยตอนกลางของจีน

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่คาดการณ์ว่าจีนจะปิดสถานกงสุลสหรัฐฯในอู่ฮั่น ยังดูเป็นการโต้ตอบที่เบาเกินไป เพราะปกติตอนนี้ก็ยังไม่มีชาวต่างชาติอยากกลับไปทำงานในอู่ฮั่นนัก ดังนั้นจึงเป็นการแลกที่ไม่สมน้ำสมเนื้อนักกับกลยุทธ์ของสหรัฐฯ

การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ล่าสุดนี้ เรื่องของเรื่องคือมีรายงานฯ อ้างว่านักการทูตสหรัฐบางคนไม่สามารถกลับไปยังจีนได้ เนื่องจากวอชิงตันและปักกิ่งไม่สามารถตกลงในขั้นตอนการทดสอบและกักกันโรค สำหรับนักการทูตและครอบครัวทูต แต่สหรัฐฯ มองว่าเป็นการกีดกัน

อย่างไรก็ตามคนวงในกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เหตุผลที่สหรัฐฯ จะขอให้จีนปิดสถานกงสุลในฮูสตัน สหรัฐฯ ไม่มีข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผลเลย

จ้าว หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมว่าจีนและสหรัฐฯ ได้สื่อสารอย่างใกล้ชิดกับการส่งทูตอเมริกัน และได้ช่วยสหรัฐฯ จัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำเพื่อนำนักการทูตกลับมาหลังจากการหารือทวิภาคี

"มาตรการกักกันของเราใช้กับภารกิจทางการทูตต่างประเทศทั้งหมดในการเดินทางเข้าประเทศจีน" โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน

 

กลยุทธ์สั่งปิดสถานกงสุลจีน สมมติฐานที่ 1: โค้งสุดท้ายเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ?
.
กลุ่มสื่อต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ต่อต้านจีนของสหรัฐอเมริกาที่กำลังดำเนินมาตรการต่าง ๆ เร่ง รัว เข้มข้นตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในลักษณะที่เรียกว่าเป็นการตัดความสัมพันธ์โดยตรง-อ้อม อาทิ วอชิงตันได้เพิ่มความพยายามในการคว่ำบาตรสินค้าจีน, ร่างคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อยกเลิกวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน และล่าสุด คือการกีดกันบริษัทจีน 11 แห่ง ที่ซื้อเทคโนโลยีอเมริกันและสินค้าอื่น ๆ โดยอ้างว่าเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง กับการยกระดับต่อต้านขั้นที่เรียกว่าสูงสุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คือคำสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัสอันถือเป็นข่าวสำคัญในสัปดาห์นี้ นอกเหนือจากข่าวตามสื่อตะวันตกที่ระดมรายงานประเด็นเขื่อนสามผาว่ากำลังจะแตกจากอุทกภัยใหญ่แยงซี

ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ระบุเหตุผลคำสั่งปิดกงสุลว่าเป็น “ ความจำเป็นในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของอเมริกา” และสมาพันธ์มาร์โกรูบิโออ้างว่าสถานกงสุลเป็น “ศูนย์สายลับขนาดใหญ่”

นอกจากนั้น ไม่มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม ฮูสตันเป็นตัวเลือกที่แปลกสำหรับเป้าหมายข้อกล่าวหาด้านข่าวกรอง กิจกรรมที่อ้างโดยฝ่ายบริหารนั้นคลุมเครือ แม้ว่าหากจะเป็นความจริง ก็ดูจะไม่เกินกว่าที่สหรัฐฯ เคยกล่าวหาการจารกรรมอื่น ๆ ของจีนที่ผ่าน ๆ มา

งานข่าวกรองจีนในสหรัฐอเมริกานั้นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สถานกงสุลซานฟรานซิสโก หรือไม่ก็ในนิวยอร์กและชิคาโก

ส่วนสถานกงสุลฮูสตันส่วนใหญ่ดำเนินการ แต่เรื่องเอกสารวีซ่าแม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการเจรจาด้านพลังงานเชิงรุกของจีนก็ตาม

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยนามให้ข้อมูลว่า สถานกงสุลซานฟรานซิสโก ก็อยู่ในคำสั่งให้ปิดเช่นกัน แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากขนาดและความสำคัญ เพราะเมืองนี้มีประชากรชาวอเมริกันเชื้อสายจีนจำนวนมากและมีการดำเนินการขอวีซ่าจำนวนมาก ในทางตรงกันข้ามฮูสตันเป็นกงสุลในลำดับที่ยังไม่สำคัญนัก

ในประเด็นที่มีข้อสงสัยเรื่องการเผาเอกสารนั้น บางฝ่ายกล่าวว่าสถานทูตทุกแห่งสำหรับทุกประเทศทั่วโลกจะต้องมีเอกสารลับทางราชการ หรือเอกสารทั่วไป ซึ่งถ้าย้ายเอกสารไปที่อื่นไม่ได้ ก็ต้องทำลายเอกสารทั้งหมดก่อนออกเดินทาง ซึ่งใคร ๆ ก็ทำ สุดแต่ว่าจะวิธีไหน? และในโลกที่ทางการทหารจะพัฒนาไปใช้ 6G กันแล้ว จารชนคงไม่ใช้กระดาษเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร

กลยุทธ์สั่งปิดสถานกงสุล สมมติฐานที่ 1:กลยุทธ์การเลือกตั้ง?
นักวิเคราะห์มองว่า การไม่เปิดเผยหรืออธิบายเหตุผลน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับยั่วยุจีนโดยรัฐบาลทรัมป์ จากที่ยั่วยุต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การแฉให้ประเทศจีนเป็นผู้ร้ายในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การออกข่าวบุคลากรสหรัฐในประเทศจีนถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับพล็อตเรื่องราวคำกล่าวหาของหน่วยงานซีไอเอ และการโจมตีครั้งใหญ่ทางไซเบอร์ ทั้งหมดนี้กำลังเพิ่มยกระดับขึ้นหลังจากที่จีนผ่านกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง ยังมีความเคลื่อนไหวในทะเลจีนใต้ และปัญหาชายแดนจีน-อินเดีย

นักวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ บางส่วนมองว่า การโหมยกระดับต่อต้านจีนทั้งตรงและอ้อมเหล่านี้ในจังหวะเวลานี้ มีนัยยะสำคัญที่ต้องพิจารณาอะไรบ้าง เหมือนการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว โดยเป้าหมายที่แท้จริงนั้น อาจเป็นทั้งกลยุทธ์การเลือกตั้ง และการกดดันกิจการต่าง ๆ ของสหรัฐในประเทศจีนให้ออกและทิ้งการลงทุนในจีนโดยสมัครใจ แต่ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม คาดว่าความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน คงจะเลวร้ายลงในอนาคตอันใกล้ นอกเสียจากว่ามีการเปลี่ยนแปลงผู้นำทรัมป์ ซึ่งมีจุดแข็งเดียวในเวลานี้คือ "ข่มจีนอยู่"

 

โครงการ “โกทู แคมเปญ” ของรัฐบาล #ญี่ปุ่น ที่ต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ถูกวิจารณ์อย่างมากว่า ทำไมจึงไม่ยกเลิกหรือเลื่อนออกไปในสถานการณ์เช่นนี้ ❓ ประชาชนหลายคนบอกว่าอาจเป็นการ GO TO HELL หรือ “ไปสู่นรก” มากกว่าจะไปท่องเที่ยว

ญี่ปุ่นจะมีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วันในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความเสี่ยงที่การติดเชื้อโรคโควิด-19 จะแพร่กระจายไปในพื้นที่ทั่วประเทศ จากโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวของรัฐบาล

https://mgronline.com/japan/detail/9630000075085

 

เทพก็ต้องป้องกัน #โควิด วัดชินโกจิ ในเมืองโทโกโรซาวะ จังหวัดไซตามะ ได้สวมหน้ากากอนามัยให้กับรูปปั้นพระโพธิสัตว์สูง 2เมตร ซึ่งเป็นที่สักการะของผู้คนในท้องถิ่นตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิดเมื่อเดือนเมษายน โดยมุ่งหมายเพื่อเตือนใจประชาชนให้ป้องกันตัว เพราะในช่วงเวลานั้นเมืองโทโกโรซาวะมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในจังหวัด นอกจากนี้ ยังเป็นการอธิษฐานให้โรคร้ายสูญสลายไปโดยเร็ว.

 

หนึ่งนาที คือชีวิต! หมอจีนอุ้มผู้ป่วยฉุกเฉิน ลงบันได 4 ชั้น รักษาเร่งด่วน

กว่างโจว, 23 ก.ค. (ซินหัว) — คลิปจากกล้องวงจรปิดโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เผยภาพแพทย์อุ้มผู้ป่วยฉุกเฉินวิ่งลงบันไดจากชั้น 4 เพื่อพาเธอไปถึงห้องตรวจฉุกเฉินภายใน 1 นาที

ผู้ป่วยคนหนึ่งเกิด ‘ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ’ ฉับพลันและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ในคลินิกศัลยกรรมกระดูกของโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น

ในยามวิกฤตเช่นนี้ การเสียเวลาคอยลิฟต์เพียงไม่กี่วินาทีก็เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ หูซวี่หมิน แพทย์ผู้ดูแลคงจะรู้ว่าลิฟต์กว่าจะลงแต่ละชั้นนั้นคงนานเกินไป จึงตัดสินใจอุ้มผู้ป่วยวิ่งลงบันไดจากชั้น 4 ลงมายังชั้น 1 เพื่อพาเธอไปถึงห้องตรวจฉุกเฉินภายใน 1 นาที

จากนั้นหูซวี่หมินยังช่วยเหลือการตรวจผู้ป่วยรายนี้อย่างเร่งด่วน ทำให้เธอกลับมามีอาการปกติในเวลาไม่นาน ก่อนจะกลับขึ้นมาประจำการที่ห้องตรวจของเขาตามเดิม

ภายหลังผู้ป่วยทราบเรื่องโดยละเอียดจึงได้ส่งเงินเป็นค่าดำเนินการฉุกเฉินมาให้ หูซวี่หมินก็ได้โพสต์ว่าสิ่งที่เขาทำเป็นเรื่องที่สมควรแล้วและขอขอบคุณแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือในวันนั้น ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างชื่นชมนายแพทย์คนนี้ที่ ‘ทุ่มเทสุดชีวิต’ เพื่อผู้ป่วย
.....

- ภาพจากคลิปฯ / ข่าว https://www.xinhuathai.com/vdo/124987_20200723

 

ถึงพยาบาลผู้พลีชีพการต่อสู้กับ covid-19
.
รองเท้าพยาบาลป๋าร้อย 60 คู่ถูกวางที่หน้าสนามหญ้า ของรัฐสภาสหรัฐโดยปลายเท้าทุกคู่มุ่งไปที่ตัวอาคารรัฐสภาเพื่อระลึกถึงลาวพยาบาลที่ต้องเสียชีวิตจากการทำหน้าที่ในการเป็นแนวหน้าสู้รบกับโควิค 19 ที่กำลังระบาดในสหรัฐ

 

แรบไบอิสราเอล สวดมนต์ ให้กษัตริย์ซัลมาน ซาอุฯ หายป่วย

หน้า Facebook อิสราเอลสนทนาภาษาอาหรับ ได้โพสต์วิดีโอ ของแรบไบอิสราเอลที่ได้สวดมนต์ขอภาวนาขอให้กษัตริย์ซัลมาน บินอับดุลอาซิซ แห่งซาอุดีอาระเบียหายป่วยและมีสุขภาพที่ดี

กษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบียเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ด้วยอาการถุงน้ำดีอักเสบ

หน้าเฟสต์ เป็นพันธมิตรกับกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลได้โพสต์วิดีโอ "แรบไบชาวยิวสวดมนต์ภาวนาเพื่อการหายป่วยของกษัตริย์ซัลมาน และขอให้เขามีสุขภาพที่ดี

แรบไบชาวยิวผู้ซึ่งพูดภาษาอังกฤษในวิดีโอดังกล่าวซึ่งคำแปลเป็นภาษาอาหรับและมีคำบรรยายที่ด้านล่างของวิดีโอ ว่า "ฉันหวังว่าพระเจ้าจะให้สุขภาพที่สมบูรณ์แก่เขา เพื่อเขาจะได้เป็นผู้นำประชาชนของเขา และดำเนินการต่อและพัฒนาโครงการสันติภาพในภูมิภาคและโลกต่อไป"

เขากล่าวเสริมว่า "ฉันใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณกษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบียที่ยอมรับพวกเราเป็นสมาชิก KAICIID (คณะกรรมการร่วมของสหรัฐฯ - ยิว) คณะผู้บริหาร - ศูนย์ระหว่างประเทศเพื่อการเจรจาเรื่องศาสนาและวัฒนธรรม

ข่าวโลกที่3
https://www.aljazeera.net/news/2020/7/21/بالفيديو-حاخام-إسرائيلي-يصلي-من-أجل

https://fa.alalamtv.net/news/5059206/دعای-خاخام-اسرائیلی-برای-شفای-ملک-سلمان--ویدئو

https://www.farsnews.ir/news/13990501000105/دعای-خاخام-صهیونیست-برای-شفای-شاه-سعودی

 

หรือปีนี้โลกจะเผชิญกับภัยพิบัติใหญ่ ไม่รวมถึงเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดไปทั่วโลก จนมวลมนุษย์เจ็บป่วยล้มตายจำนวนมาก และล่าสุดดาวหางนีโอไวส์ ได้โผล่เข้ามาใกล้โลกมากที่สุด ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับดาวเคราะห์น้อย “2020ND” ขนาดใหญ่ความสูง 170 เมตร กำลังเคลื่อนที่เฉียดโลกเรา ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ คาดว่าจะพาดผ่านเมืองไทยในเวลาหัวค่ำ หรือ 1 ทุ่ม

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในจักรวาล จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อโลกหรือไม่นั้น “ดร.ก้องภพ อยู่เย็น” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งอนาคต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ศึกษาปรากฏการณ์ดาวเรียงตัว กล่าวกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า ในช่วงปีนี้โดยความเห็นส่วนตัวเรียกได้ว่าวิกฤติจริงๆ จากหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกมาตั้งแต่ต้นปี เริ่มจากเกิดไฟไหม้ป่า และจากการศึกษาเรื่องราวในอดีตและประวัติศาสตร์ของโลก จะพบว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดพร้อมๆ กันรวมทั้งภัยพิบัติ และปีนี้เกิดปรากฏการณ์ดาวเรียงตัวมากที่สุดในรอบหลายร้อยปี โดยดาวต่างๆ ได้เรียงตัวกันเป็นแถวตั้งแต่ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวอังคาร ดาวศุกร์ ดาวพุธ และโลก เป็นเส้นตรง ซึ่งตามทฤษฎีควอนตัม จะทำให้เกิดพลังงานนอกโลก ทั้งการโผล่มาของดาวหาง และอุกกาบาต หรือที่เรียกว่าดาวเคราะห์น้อย จะปรากฏให้เห็นชัดมากขึ้น

“ดาวหางที่โผล่มาเป็นจำนวนมาก ทำให้โลกร้อนมากกว่าเดิม มีโอกาสเกิดภัยพิบัติสูงมาก หากถามว่าจะเกิดช่วงไหน เพราะจากการคำนวณความเสี่ยงพบว่าจะเกิดในช่วง 21-23 ก.ค. อย่างวันที่ 23 ก.ค.นี้ และเมื่อวันที่ 22 ก.ค. เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และทั่วโลกเกิดความวุ่นวายจีนและสหรัฐฯทะเลาะกัน ประเทศไทยเกิดการชุมนุมประท้วง ล้วนแล้วเกิดจากอิทธิพลของดวงดาวมาตั้งแต่เดือนพ.ค.จนมาถึงเดือน ก.ค. ทำให้คนใจร้อนมากขึ้น หากมีสติปล่อยวางก็ไม่เกิดอะไรขึ้น”

นั่นคือสิ่งที่ “ดร.ก้องภพ” ออกมาเตือนผู้คนอย่าประมาท แต่ไม่ใช่ให้คนงมงาย นำไปปรุงแต่ง โดยเฉพาะเดือนก.ค.นี้ ร้ายแรงมากจากอิทธิพลดวงดาว จะนำไปสู่ความขัดแย้ง และมาพร้อมกับภัยพิบัติ นอกจากนี้เดือน ต.ค. เป็นอีกเดือนที่ดาวพฤหัส ดวงอาทิตย์ และดาวเสาร์ เรียงตัวในแนวกันในรอบ 20 ปี ซึ่งเดือน ต.ค. ไปเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์เป็นอย่างมาก จะก่อให้เกิดฟ้าครึ้ม เกิดการปะทุของพายุที่จะก่อตัวรุนแรง แต่โชคดีที่ช่วงนั้นไทยได้ผ่านหน้าฝนไปแล้ว อาจมีปัญหาเฉพาะภาคใต้ของไทย และจังหวัดที่ติดน้ำโขงจะโดนหนักเกิดน้ำท่วม เนื่องจากจีนปล่อยน้ำในเขื่อน ส่วนประเทศในโซนยุโรป อาจเจอพายุพิมะ ทอร์นาโดหนัก

ดร.ก้องภพ ออกมาย้ำอีก สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกและควรตั้งรับกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แม้ประเทศไทยจะไม่เจอแจ็กพอตเต็มๆ แต่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีโอกาสที่จะเกิดสนามแม่เหล็กสลับขั้วสูงมากบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ อาจเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยอาจโดนได้เหมือนกัน และยังทำให้โลกเปลี่ยนไป เกิดความแปรปรวนมากขึ้น ทำให้เกิดความสว่างมากจนก่อให้เกิดเมฆมากขึ้น ทำให้เกิดฝนตกหนัก

“โอกาสที่ไทยจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ก็มีโอกาส เพราะแดดแรง อากาศร้อนมากขึ้น จากน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือละลาย ฝนจะเริ่มตกหนักช่วงเดือน ส.ค.ไปจนถึง ก.ย. ต้องเตือนเอาไว้ก่อน และปลายปีนี้ประเทศอื่นๆ จะโดนหนักเป็นพิเศษ แต่จากความเชื่อของผม คนไทยใจบุญมีการแบ่งปันซึ่งกันและกัน เป็นการทำความดี และมีผู้มีบารมีมากเป็นพิเศษ จะทำให้ไทยรอดจากภัยพิบัติใหญ่”

ส่วนวันที่ 24 ก.ค.นี้ ดาวเคราะห์น้อย “2020ND” จะเฉียดใกล้โลก จะส่งผลต่อสภาพอากาศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เช่น มืดช้าลง หรือสว่างเร็วเกินไปอย่างผิดปกติ โดยส่วนหนึ่งเกิดจากอิทธิพลดวงดาว ซึ่งโลกจะตอบสนองต่ออิทธิพลดวงดาวเหล่านี้ อยากให้สังเกตสีของท้องฟ้าในช่วงนี้จะแปลกๆ จะทำให้เกิดฝนตกหนัก และแล้งผิดปกติ เกิดความสุดโต่งในช่วงนี้ รวมถึงอาจมีแผ่นดินไหว ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าปรากฏการณ์ในปีนี้ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เป็นปกติในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา บ่งบอกการเปลี่ยนแปลงอารยธรรมของมนุษยชาติ.

https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1896047

 

ชาวบ้านอินโดนีเซียพบซากวาฬยักษ์ยาวเกือบ 23 เมตร เกยชายหาดเมืองทางตอนใต้ของอินโดนีเซีย โดยไม่ทราบแน่ชัดว่ามันตายเพราะอะไร #ไทยรัฐออนไลน์

 

ชัยชนะของชาวซิกข์ในปากีสถาน
.
ศาลปากีสถานตัดสินให้ทางการท้องถิ่นส่งคืนพื้นที่และอาคารของวัดเก่าแก่อายุ 200 ปีให้แก่ชาวซิกข์หลังจากทางการท้องถิ่นยึดพื้นที่วัดเพื่อนำไปทำเป็นโรงเรียน
โดยเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อราวๆ 73 ปีที่แล้วเมื่อหลังจากที่อังกฤษได้แยกย่อยอนุทวีปออกเป็นประเทศต่างๆในปี 1947 ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวมีการเคลื่อนย้ายของชาวซิกจากดินแดน Quettaไปยังอินเดียทำให้วัดอายุเก่าแก่ 200 ปีแห่งนี้ปราศจากผู้คนเป็นเวลาทั้งสิ้น 1 ถึง 2 ปีและในระหว่างนั้นเองทางการท้องถิ่นก็ได้นำมาทำเป็นโรงเรียน เมื่อชาวซิกข์กลับมาพวกเขาก็ได้สูญเสียวัดอายุ 200 ปีไปแล้วจึงได้มีการฟ้องร้องและต่อสู้ทางกฎหมายอย่างยาวนาน จนในที่สุดทางศาลได้สั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นคืนอาคารและพื้นที่ทั้งหมดกับแก่ชุมชนชาวซิกข์ ทำให้เขาสามารถทำให้พวกเขาสามารถกลับมาใช้วัดในการสักการะอีกครั้งหลังจาก 73 ปีแห่งการสูญไป

 

ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ พุ่งเกิน 4 ล้านคนในวันพฤหัสบดี(23ก.ค.) สะท้อนถึงการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศแห่งนี้ นับตั้งแต่ตรวจพบเคสแรกเมื่อวันที่ 21 มกราคม

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000075841
………………………………

 

ตัวเลขคนว่างงานของสวีเดนแตะระดับเกือบ 10% ในเดือนมิถุนายน สูงสุดในนับตั้งแต่ปี 1998 สืบเนื่องจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แม้ประเทศแห่งนี้เลือกยุทธศาสตร์แตกต่างจากชาติอื่นๆ ไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองระหว่างเกิดการระบาดใหญ่ จากการเปิดเผยของสำนักงานสถิติแห่งชาติสวีเดนในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.)

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000075812
………………………………

 

กระแสประท้วงหน้ากากลามลอนดอน หลังรัฐบาลออกกฎหมายบังคับใส่หน้ากากเข้าซุปเปอร์-ร้านค้า มีผลศุกร์นี้

 

สหรัฐฯ เซ็น MOU หนุนประมงเวียดนามต่อต้านการคุกคามในทะเลจีนใต้
.
เวียดนาม 24 ก.ค. - สหรัฐฯ และเวียดนาม ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจที่มีวัตถุประสงค์ที่จะเสริมขีดความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายและการจัดการการประมงของเวียดนาม รวมทั้งต่อต้านการคุกคามอย่างผิดกฎหมายต่อชาวประมงเวียดนามในทะเล
.
บันทึกความเข้าใจดังกล่าวลงนามโดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเวียดนาม และอธิบดีกรมประมงเวียดนาม
.
“สหรัฐฯ มีประสบการณ์มากมายในการจัดการการประมงและการบังคับใช้กฎระเบียบ ซึ่งเรายินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันให้แก่เวียดนาม และเราเฝ้ารอที่จะได้ทำงานร่วมกันกับเวียดนามเพื่อเสริมความยั่งยืนของการประมงและสนับสนุนชาวประมงของเวียดนามต่อต้านการข่มขู่คุกคามผิดกฎหมาย” นายเดเนียล เจ คริเทนบริงค์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวในพิธีลงนามที่กรุงฮานอย

บันทึกความเข้าใจจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเวียดนาม สหรัฐฯ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อรับประกันการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน และต่อสู้กับการประมงผิดกฎหมาย สถานทูตสหรัฐฯ ระบุ
.
ความช่วยเหลือทางเทคนิคจากสหรัฐฯ จะเพิ่มขีดความสามารถของกรมประมง และกรมเฝ้าระวังทรัพยากรประมง ที่เป็นหน่วยงานของกระทรวงเกษตร ผ่านการแบ่งปันข้อมูล การปฏิบัติ และการดำเนินการโครงการต่างๆ และโครงการทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง
.
สหรัฐฯ ยังวางแผนที่จะส่งมอบสถานที่ฝึกอบรมบนเกาะฝูก๊วกให้แก่กรมเฝ้าระวังทรัพยากรประมงในปีหน้า เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านทรัพยากรมนุษย์ของหน่วยงาน และหน่วยบังคับใช้กฎหมายกับการประมงในจังหวัดชายฝั่ง
.
บันทึกความเข้าใจฉบับนี้เกิดขึ้น 1 สัปดาห์ หลังสหรัฐฯ ออกถ้อยแถลงยืนยันจุดยืนในการสนับสนุนชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งเวียดนามต่อข้อพิพาททางทะเลกับจีน
.
“ปักกิ่งใช้การข่มขู่คุกคามบ่อนทำลายสิทธิอธิปไตยของประเทศชายฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในทะเลจีนใต้ ขัดขวางพวกเขาจากทรัพยากรนอกชายฝั่ง ยืนยันการครอบครองเพียงฝ่ายเดียว และแทนที่กฎหมายระหว่างประเทศด้วยการใช้อำนาจเพื่อทำให้เกิดความชอบธรรม” ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐฯ ระบุ
.
ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธการอ้างสิทธิของจีนเหนือน่านน้ำส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ที่เวียดนามเรียกว่าทะเลตะวันออก รวมทั้งน่านน้ำรอบสันดอนแวนการ์ด (Vanguard Bank) เกาะปะการังลูโคเนีย (Luconia Shoals) นอกชายฝั่งมาเลเซีย น่านน้ำในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของบรูไน และน่านน้ำใกล้หมู่เกาะนาตูนา (Natuna Besar) ของอินโดนีเซีย.

 

ถ้าไม่ถูกใจผู้มีอำนาจ ก็เป็นไอ้โรคจิต

#มอร์มูฟเป็นข่าว ถูกทารุณกรรมเพราะวิจารณ์รัฐบาล!!?? สื่อเรดิโอฟรีเอเชีย รายงานว่า มีบล็อกเกอร์ชาวเวียดนามรายหนึ่งถูกจับกุมตัวและถูกบังคับส่งโรงพยาบาลจิตเวช ในขณะที่เขากำลังรอการไต่สวนคดีในข้อกล่าวหาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดยรายงานข่าวระบุว่า นักโทษการเมืองรายนี้ได้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการถูกทุบตี มัดกับเตียง และถูกบังคับให้รับยาจิตเวชที่ทางการเวียดนามอ้างว่า เพื่อรักษาอาการป่วยของเขา

** เวียดนามมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กประมาณ 55 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 92 ล้านคน เป็นประเทศที่ถูกจัดอันดับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นจากฟรีดอมเฮาส์ให้อยู่ในข่าย 'ไม่เสรี' มาโดยตลอด ซึ่งในประเทศเวียดนามมักจะมีการอ้างใช้กฎหมายที่มีลักษณะกำกวมเพื่อคุมขังประชาชนทั้งนักเขียนและบล็อกเกอร์

ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุไว้เมื่อปี 2562 ว่า เวียดนามมักจะใช้กฎหมายจับกุมคนที่ถูกมองว่าเผยแพร่ข้อมูลต่อต้านรัฐบาล โดยอ้างว่า 'เป็นภัยต่อความมั่นคง' หรือ 'ส่งเสริมแนวคิดแบบฝ่ายขวาปฏิกิริยา' นอกจากนี้ ยังมักจะบล็อกเว็บไซต์และสั่งปิดบล็อกต่างๆ และขอให้ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนำเนื้อหาหรือโซเชียลมีเดียที่พวกเขา "รับไม่ได้ในทางการเมือง" ออก.
-------------------------------------------
อ่านต่อ : https://prachatai.com/journal/2020/07/88693

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว โวยแรว๊งซ์!!!! นายไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์ ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย อัดรัฐบาล-ช่วย SMEs ไร้ประสิทธิภาพ เสี่ยงทำ 20 ล้านคนเดือดร้อน-ตกงาน "ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการต่อว่ารัฐบาล แต่กำลังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดการช่วยเหลือจึงไม่มีแนวทางที่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในระดับรากหญ้า"

ด้าน นายโภคิน พลกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ด้านนโยบายและแผนงานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า "อะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมันดูยากเย็นหมด ขั้นตอนเยอะทุกอย่างดูลำบากไปหมด แต่เวลาอำนาจนิยม หรือเผด็จการมาเพียงแค่ชั่วข้ามคืนทำได้หมด แต่ทำแล้วไม่ใช่ว่าดีขึ้นกลับสร้างภาระต่อไปอีก นี่คือสังคมไทยที่ปกครองโดยระบบอำนาจนิยม" ทั้งนี้ นายโภคินยังแนะรัฐบาลต่อไปด้วยว่า "ส่วนตัวขอแนะแนวทางดังนี้ ให้ร่างกฎหมายดังกล่าวเขียนโดยประชาชนเพื่อปลดปล่อยให้ทุกคนที่ทำมาหากิน ได้ทำอย่างมีพลัง เสนอ 3 ปีนี้ทำมาหากินโดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ให้รวมตัวกันได้ เพื่อดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กำหนดมาตรฐานของเขาเอง สามารถบอกภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ว่าความต้องการเป็นแบบไหน และผู้บริโภคจะเสียเปรียบหรือไม่ ตนมองว่าถ้าทุกฝ่ายได้มาพูดคุย ปรึกษาหารือกัน ก็เชื่อว่าประเทศไทยจะมีพลังมหาศาล และทำให้ประเทศสามารถเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง".
----------------------------------------------
อ่านต่อ : https://voicetv.co.th/read/Tpx2ADfh...z1LATYy6p0jjpdZfmgPmr-NrPopHS4Q8O8m2O3O4iGlhE

 

หลังใช้เวลากว่าพิจารณากว่า 30 ชั่วโมง ในที่สุดวันนี้ (22 กรกฎาคม) กฎหมายว่าด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพิจารณาพิพากษาคดีอาญา (หรือกฏหมายประชาชนร่วมพิจารณาคดี) ก็ผ่านมติสภานิติบัญญติทั้ง 3 วาระแล้ว ระบบตุลาการของไต้หวันจะเปลี่ยนไปโดยมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการ คาดจะมีผลใช้บังคับปีพ.ศ.2566 อนาคตการพิจารณาคดีในศาลจะประกอบด้วยผู้พิพากษา 3 คน และผู้พิพากษาประชาชนอีก 6 คน เข้าร่วมกันพิจารณาคดี ชาวไต้หวันที่มีอายุ 23 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปล้วนมีสิทธิ์ได้เป็นผู้พิพากษาประชาชน นายจ้างต้องให้เป็นวันหยุด และเพื่อความยุติธรรมจะใช้วิธีสุ่มจับฉลาก และไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของผู้พิพากษาประชาชนได้ กฎหมายใหม่นี้ใช้กับกรณีคดีอาญาที่มีโทษจำคุก 10 ปีขึ้นไป หรือคดีอาชญากรรมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหาจะถูกลงโทษหรือไม่ ต้องมีเสียงรับรอง 2 ใน 3 จากทั้ง 9 คน ส่วนกรณีโทษประหารชีวิตจะต้องได้รับเสียงมากกว่า 2 ใน 3 ขึ้นไป

 

คดีบอสจากข่าวคือ CNN รายงานว่า ตำรวจได้รับรายงานจากสำนักอัยการฯ สั่งไม่ฟ้องตั้งแต่ 12 มิ.ย.แต่ไม่เห็นมีแถลงข่าวใดๆ จนกระทั่งนักข่าวไปเจอบทความเมื่อวานนี้แล้วนำเสนอ

 

ปิดมาปิดกลับ ไม่โกง จีนตอบโต้ขู่ปิดกงสุลสหรัฐฯ
หลังทรัมป์สั่งปิดสถานกงสุลจีน กระตุ้นวิกฤตโลกตึงเครียด
.
ท่ามกลางความตึงเครียดของวิกฤตไวรัสระบาดไปทั่วโลกที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นในเร็ววัน ชาติมหาอำนาจก็ยังคงตีกันไม่หยุดไม่หย่อน โดยเฉพาะสหรัฐและจีน ที่ยังคงแลกกันหมัดต่อหมัดเพื่อตอบโต้การกระทำของอีกฝ่าย ซึ่งก็สะเทือนไปทั่วโลกว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบนโลกที่แสนเปราะบางใบนี้
.
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่มีการทำสงครามทางการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจ ที่ต่างขึ้นภาษีสินค้าระหว่างกันเพื่อกีดกันทางการค้า ลามมาจนถึงช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ก็ยังไม่วายหยิบยกนำเรื่องนี้มาโจมตีกันว่าใครคือตัวการของไวรัส ไวรัสนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือว่าถูกสร้างขึ้นมาในห้องแล็ป รวมทั้งการแบนสินค้าเทคโนโลยี การกล่าวหาเรื่องการล้วงข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญา จนมาถึงความของการปิดสถานกงสุลของจีนในสหรัฐฯ ที่กลายเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ถือเป็นการตัดขาดทางการทูตอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
.
ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ออกมายืนยันว่า ทรัมป์ได้สั่งปิดสถานกงสุลจีนในนครฮูสตัน รัฐเทกซัส ซึ่งทางการจีนเองก็ได้รับหนังสือสั่งปิดดังกล่าวเพียง 72 ชั่วโมงก่อนปิดเพียงเท่านั้น โดยคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ ก็คือ จีนได้กระทำการขโมยข้อมูลสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับสหรัฐฯ แล้วต้องการทำลายหลักฐานทิ้งด้วยการเผาเอกสารทิ้งที่หน้าสถานกุงสุล แต่จริง ๆ อาจมีการทำการคัดลอกทำสำเนาเอาไว้แล้ว ซึ่งจะจริงหรือไม่นั้นไม่มีใครทราบ เนื่องจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่กงสุลของฝั่งสหรัฐฯ ที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่กงสุลของจีน เผากระดาษบางอย่างอยู่ จึงนำความนี้ไปแจ้งยังกระทรวงการต่างประเทศ
.
นั่นจึงเป็นที่มาของการสั่งปิดสถานกงสุลจีนในฮูสตันวันนี้ และเมื่อจีนทราบว่าสหรัฐฯ ทำแบบนี้โดยไม่มีการสืบหาข้อเท็จจริงและเป็นการกล่าวหากันแบบลอย ๆ ไร้หลักฐานใด ๆ มันก็น่าโกรธอยู่ไม่น้อย เพราะนี้เหมือนเป็นการหาช่องเพื่อสบโอกาสจะเล่นงานจีนให้ได้
.
ทำให้จีนเองก็เตรียมตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการขู่จะสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในประเทศจีนเป็นการตอบโต้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าที่ไหนจะโดนแจ็คพอตประเดิมเป็นที่แรก เนื่องจากสหรัฐฯ มีสถานกงสุลในประเทศจีนอยู่ 5 แห่ง ได้แก่ อู่ฮั่น เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเสิ่นหยาง ส่วนสถานกงสุลใหญ่จะอยู่ที่ฮ่องกง และมาเก๊า แต่มีความเป็นไปได้ว่าจีนอาจเพ่งเล็งไปที่สถานกงสุลใหญ่ที่ฮ่องกง เนื่องจากจะเป็นการลดทอนอำนาจของสหรัฐฯ ในฮ่องกง และเป็นไม้ก้านมะยมที่ฟาดไปที่สหรัฐฯ ได้เจ็บแสบ เพราะเรื่องของฮ่องกงเองก็เป็นเรื่องที่สหรัฐฯ ใช้โจมตีจีนอยู่ตลอดเวลา
.
แต่ว่าก็มีทางเป็นไปได้ว่าที่จีนจะเลือกปิดสถานกงสุลที่นครเฉิงตูแทนเช่นกัน เพราะตรงจุดนั้นถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากว่ามันคือจุดที่สหรัฐฯ ใช้เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของจีนที่กระทำต่อพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศที่เต็มไปด้วยเขตปกครองตนเองอย่างทิเบตและซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างครุกรุ่นและสหรัฐฯ เองก็มักหยิบยกการกระทำของจีนด้านสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มชาติพันธ์ุเหล่านี้ที่ไม่ใช่ชาวฮั่น (ชาวจีนส่วนใหญ่) มาโจมตีเช่นกัน
.
ซึ่งหากจีนเลือกสั่งปิดที่ใดสักที่ในสองที่นี้ ก็จะสะเทือนต่อสหรัฐฯ ค่อนข้างรุนแรง และถือเป็นการโต้กลับที่แรงมาก
.
มีข้อสังเกตอยู่ 2 ประการที่ชวนน่าสงสัยให้คิดตามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
.
1. นับตั้งแต่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ดูเหมือนว่าจะเป็นฝั่งของสหรัฐฯ ที่ออกตัวแรงมาก่อนเสมอ และผู้ที่จะออกมา “เทคแอคชั่น” ก็คือโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะสั่งการหรือทำอะไรก็ตามบนที่สว่างให้คนเห็น หรือว่าปรากฏออกสื่ออยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ สี จิ้น ผิง ผู้นำของจีน กลับเลือกที่จะเงียบ ไม่เต้นแร้งเต้นกา แต่ใช้วิธีบัญชากรอยู่เบื้อหลังแล้วให้ลูกน้องในปกครองออกมาทำหน้าที่แทน ซึ่งสะท้อนบุคลิกของผู้นำทั้งสองประเทศได้อย่างชัดเจน
.
2. การที่ทรัมป์แสดงออกชัดเจนขนาดนี้มันสามารถมองไปถึงความพยายามเฮือกสุดท้ายในการเรียกคะแนนเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากที่คะแนนความนิยมจากผลสำรวจของโพลล์สำนักต่าง ๆ และจากบทวิเคราะห์ของสื่อมวลชนในสหรัฐฯ ผลปรากฏว่าคะแนนความนิยมตกต่ำอย่างมาก และต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล และอาจเกิดการเพลี่ยงพล้ำเสียตำแหน่งผู้นำสมัยที่ 2 ให้กับ โจ ไบเดิน ผู้ท้าชิงจากเดโมแครต ที่ตอนนี้คะแนนความนิยมสูงกว่าหลายสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งการแสดงออกโดยการนำประเด็นของจีนมาเล่นนั้น ก็อาจเป็นกลยุทธ์ที่จะใช้ดึงคะแนนเสียงกลับมาจากฝั่งผู้สนับสนุนที่เริ่มแปรพักตร์ไปหาฝ่ายตรงข้าม จากความนิยมที่ลบฮวบที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างอันเป็นผลพวงมาจากกระแพร่ระบาดของไวรัส ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ ผู้คนตกงานมหาศาล และจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่สูงอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้
.
แม้ว่าตามลำดับชั้นแล้วสถานกงสุลจะมีศักดิ์น้อยกว่าสถานทูตอยู่มาก และการสั่งปิดสถานกงสุลในประเทศที่ตั้งนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ขัดต่ออนุสัญญากรุงเวียนนาก็ตาม แต่ด้วยมารยาททางการทูตนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่ “ไร้มารยาททางการทูต” และจะยิ่งทำให้ความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ลดลง
.
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงคิดว่า 2 ประเทศเขาทะเลาะกัน มันไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับไทย ทำต้องให้ความสนใจด้วย? สิ่งที่จะบอกก็คือแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของ 2 ประเทศทะเลาะกัน แต่ 2 ประเทศที่ทะเลาะนั้นคือประเทศที่เป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ละ 2 ของโลก ที่เมื่อจะทำอะไรก็ตามแต่ผลกระทบมันจะสะเทือนไปทั่วโลก ประเทศไทยคือเป็นเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ใหญ่ไปกว่ารัฐหรือมณฑลหนึ่งของทั้งคู่ ซึ่งไทยต้องติดต่อค้าขาย หรือทำธุรกิจธุรกรรมร่วมกับ 2 ประเทศนี้และนับเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นหากเกิดอะไรที่รุนแรงขึ้นมาจากการที่ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ ซึ่งหญ้าแพรกนั้นไม่ใช่แค่ประเทศไทยประเทศเดียว แต่มันหมายถึงหญ้าแพรกอีกหลายร้อยประเทศที่ก็หวั่นอยู่ไม่น้อย
.
และหากช้างยังไม่สามารถเลิกตีกันได้ โลกทั้งโลกก็เสี่ยงพัง โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่จะพากันทรุดจนพังครืนไปทั้งระบบนั่นเอง