ติดตามสถานะการณ์

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ผู้นำของประเทศรัสเซีย ได้สั่งการให้กองทัพซ้อมรบ
อย่างกะทันหัน เพื่อรับประกัน “ความมั่นคงของรัสเซีย”
.
สำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานว่า ทหารในสังกัดกองทัพ
ทางภาคใต้และภาคตะวันตกของรัสเซีย กำลังทำการ
ซ้อมรบอย่างกะทันหัน ตามคำสั่งของท่านประธานาธิบดี
โดยการฝึกซ้อมทางยุทธวิธีในครั้งนี้ รัสเซียใช้ทหาร
เกือบ 150,000 นาย จากหน่วยพลร่ม และหน่วยนาวิก
โยธินในสังกัดกองเรือทะเลหนือและกองเรือแปซิฟิก
.
การซ้อมรบครั้งนี้ยังใช้ยานยนต์ทางการทหาร
กว่า 26,000 คัน เครื่องบินรบกว่า 414 ลำ
เรือรบอีกกว่า 106 ลำ ซึ่งจะทำการซ้อม
ในน่านน้ำทะเลดำและทะเลแคสเปียน
.
ซึ่งทางรัสเซียได้ชี้แจงว่า เป้าหมายของการซ้อมรบครั้งนี้
เพื่อทดสอบความพร้อมของกองทัพรัสเซีย ในการ
รับประกันความมั่นคงในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้
ของประเทศ ที่ยังคงมีภัยคุกคามจากการก่อการร้าย
อย่างต่อเนื่อง และสามารถเผชิญทุกเหตุการณ์
ที่อาจเกิดขึ้นจนนำไปสู่การใช้กำลังทางการทหารได้
.
ในขณะเดียวกันทางยูเครนเองก็มีความกังวลว่า
รัสเซียจะใช้การซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่นี้
เพื่อบุกเข้าโจมตีพื้นที่ประเทศตนเองหรือไม่
.

 

Eat Like 852 - ตะลุยกิน เที่ยวฮ่องกง โดยคนไทยในฮ่องกง

#อัพเดท ... สถานการณ์ Covid-19 ในฮ่องกง
(20 กค 63 เวลา 11.45 น.)
.
สรุปข่าวเมื่อวานค่ะ (19 กค 63)
ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 108 คน #ติดเชื้อในฮ่องกง 83 คน รักษาหาย 20 คน
.
#ไฮไลท์ภาพรวม
- ยอดผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมดในระลอก 3 (#เฉพาะติดในฮ่องกง) (15 วัน, 5-19 กค) มีจำนวน #494 คน
(จำแนกจำนวนเคสแต่ละวัน 2, 1, 9, 19, 34, 32, 16, 30, 41, 40, 14, 63, 50, 60, 83)
.
- รัฐบาลประกาศมาตรการคุมโควิดฉบับใหม่ เนื้อหาสำคัญ คือ
ให้ข้าราชการกลับไป work from home 1 สัปดาห์ (เริ่ม 20 กค),
บังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะในร่ม เช่น ในห้าง ฯลฯ,
ขยายเวลามาตรการคุมธุรกิจเดิม เช่น ธุรกิจร้านอาหาร ปิดร้านนวด ฟิตเนส ฯลฯ ไปอีก 1 สัปดาห์ ถึง 28 กค
.
- สธ กล่าวในการแถลงประจำวันเมื่อวานว่า #เชื้อโควิดในระลอกนี้ #รุนแรงขึ้นกว่าในครั้งที่ระบาดในระลอก2 (ราวเดือนมีค)
หากสัมผัสผู้ป่วยที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย มีโอกาสติดเชื้อได้ภายใน 2-3 นาที หากมีหน้ากากอนามัย การติดเชื้อจะขึ้นกับสภาพแวดล้อม
นอกจากนี้ ยังแนะนำเรื่องการสัมผัสเงินว่า #เชื้อโควิดที่ปนเปื้อนอยู่บนธนบัตรไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยแอลกอฮอล์ เพราะฉะนั้น หากมีการสัมผัสเงิน ขอให้อย่านำมือสัมผัสตา จมูก ปาก และให้รีบล้างมือให้เร็วที่สุด
.
#ผู้ติดเชื้อใหม่ (108 คน)
- 89 คนเป็นพลเมืองฮ่องกง 19 คนไม่สามารถระบุได้ โดยเป็นชาย 45 คน หญิง 63 คน อายุระหว่าง 7-91 ปี
- 25 คน มีประวัติเดินทางต่างประเทศในระยะฟักตัว
- 83 คน ถูกระบุว่า #ติดเชื้อในฮ่องกง โดย 48 คน #ยังไม่พบต้นตอของการติดเชื้อ
.
==============
#ผู้ติดเชื้อใหม่จากต่างประเทศ (25 คน)
- 2 คน มาจาก #สหรัฐอเมริกา คนนึงเป็นลูกเรือ เข้าพักที่ รร Sheraton (Tsim Sha Tsui) อีกคนเป็นนักเรียน ถูกส่งตัวจาก Asia World Expo
- 1 คน มาจาก #UAE กำลังกักตัวเองที่ รร YMCA (Tsim Sha Tsui)
- 2 คน มาจาก #ญี่ปุ่น คนนึงออกจากฮ่องกงไปแล้ว อีกคนถูกส่งจากศูนย์รอผลตรวจ รร Regal Oriental (Kowloon City)
- 16 คน มาจาก #ฟิลิปปินส์ ถูกส่งตัวจาก Asia World Expo, รร Regal Oriental, state quarantine
- 2 คน มาจาก #อินเดีย ถูกส่งตัวจาก state quarantine
- 1 คน มาจาก #ฝรั่งเศส ถูกส่งตัวจาก Asia World Expo
- 1 คน มาจาก #ปากีสถาน ถูกส่งตัวจาก state quarantine
.
==============
#ไฮไลท์ผู้ติดเชื้อใหม่ในฮ่องกง (83 คน)
- ยังพบมากในโซนเกาลูนตะวันออก โดยเฉพาะเมือง Tsz Wan Shan นอกนั้น พบในเขต Yau Tsim Mong, Sha Tin, Tuen Mun, Kowloon City, Tai Po, Tsuen Wan ฯลฯ
ส่วนในฝั่งเกาะฮ่องกง พบที่เมือง Siu Sai Wan จำนวน 1 เคส
.
ตัวอย่างผู้ติดเชื้อใหม่
- คนขับแท็กซี่ 3 คน
- คนขายของในตลาดสดที่ Hung Hom
- สมาชิก Pure Fitness สาขา Langham Place
- เจ้าหน้าที่ในกองบรรณาธิการ นสพ South China Morning Post 1 คน ติดพร้อมครอบครัวอีก 4 คน
- Outsource ลูกจ้างชั่วคราวหน่วยงานการประปา (Pak Kong Water Treatment Works, Water Supplies Department)
.
====================
#ที่พักและสถานที่ที่ผู้ติดเชื้อเคยไป
(หมายเหตุ: เลขทะเบียนของผู้ติดเชื้อใหม่ คือ 1779-1886)
https://www.chp.gov.hk/files/pdf/building_list_eng.pdf
.
==================
#ผู้รักษาหาย (20 คน)
- ชาย 13 คน หญิง 7 คน
- อายุ 3 เดือน - 68 ปี
- รวมเวลารักษาใน รพ 4-19 วัน
.
#ไฮไลท์ผู้รักษาหาย
- เด็กชายวัย 3 เดือน ติดเชื้อจากต่างประเทศ ใช้เวลารักษาใน รพ 10 วัน
.
=================
อื่นๆ
- ทางการเตรียมเปิดศูนย์กักตัวแห่งใหม่ในสัปดาห์นี้ที่ Penny’s Bay หรือ พื้นที่โครงการส่วนขยายของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ที่ยังไม่ได้ถูกใช้งาน
อีกทั้งเตรียมใช้ Asia World Expo เป็นหอแยกผู้ติดเชื้อที่มีอาการคงที่และสามารถดูแลตนเองได้
.
=================
#ภาพรวมฮ่องกง
=================
- ผู้ติดเชื้อคอนเฟิร์มแล้วแบบสะสม 1,885 คน
- แบบไม่คอนเฟิร์ม (probable) 1 คน (ออกจาก รพ แล้ว)
- เสียชีวิต 12 คน
อัตราการเสียชีวิต - ฮ่องกง (0.64%) ไทย (1.79%) ทั่วโลก (4.16%)
- รักษาหาย 1,294 คน
อัตราการรักษาหาย - ฮ่องกง (68.61%) ไทย (95.29%) ทั่วโลก (59.67%)
- รักษาหายแล้วกลับเข้า รพ อีกครั้ง
รวม 11 คน (0.85%) ทั้งหมดออกจาก รพ แล้ว
- รวมยังรักษาอยู่ใน รพ ทั้งหมด - ฮ่องกง 463 คน อาการหนัก 19 คน, ไทย 95 คน ไม่มีข้อมูลผู้ป่วยอาการหนัก
.
#eatlike852 #covid19hongkong

 

Eat Like 852 - ตะลุยกิน เที่ยวฮ่องกง โดยคนไทยในฮ่องกง

#อัพเดท (20 กค) สถานที่ท่องเที่ยวช่วงโควิดระลอก 3
.
พอเมื่อวาน รัฐบาลปรับมาตรการคุมเข้มมากขึ้น เลยส่งผลถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ตามนี้ค่ะ
.
(1) #OceanPark
เดิม: ปิด 14-21 กค
ใหม่: ปิดไม่มีกำหนด
.
(2) #HongKongDisneyland
เดิม: สวนสนุกปิดไม่มีกำหนดตั้งแต่ 15 กค โรงแรมยังเปิดแบบจำกัดบริการ
ใหม่: ยังไม่เปลี่ยนแปลง
.
(3) #กระเช้านองปิง
เดิม: ปิดถึง 21 กค
ใหม่: ยังไม่เปลี่ยนแปลง
.
(4) #PeakTram
เดิม: เปิดปกติ
ใหม่: ยังไม่เปลี่ยนแปลง
.
หากมีอัพเดท พี่แป๋วจะมา edit ที่โพสต์นี้ค่ะ
.
#eatlike852 #covid19hongkong

 

Jul 20 , 2020 โฆษก ศบค.เผยตรวจหาเชื้อโควิดกลุ่มเสี่ยงกทม.-ระยองกว่า 6,600 คนไม่พบเชื้อ เชื่อกทม.ปิดเคสได้แล้ว ส่วนระยองต้องรอติดตามจนถึงศุกร์นี้
.
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มเสี่ยงทหารอียิปต์ – คณะทูตซูดานว่า การตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสูงและต่ำในพื้นที่จังหวัดระยองขณะนี้อยู่ที่ 6,501 ราย แบ่งเป็น 6,287 รายไม่พบเชื้อ และอีก 214 รายอยู่ระหว่างรอผล ซึ่งในวันศุกร์ที่ 24 ก.ค.นี้ จะครบ 14 วัน หากไม่มีผู้ติดเชื้อก็น่าจะปลอดภัยแล้วขณะที่การตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่กทม.เคสคณะทูตจำนวน 364 ราย ไม่พบเชื้อ ดังนั้นในเคสของกรุงเทพเชื่อว่าน่าจะปิดเคสได้แล้ว
.
#กทม. #ระยอง #คณะทูต #Misterban

 

#แอดถามชาวเพจ มหาวิทยาลัยที่ไทยเปิดปรกติแล้วหรือยังคะ?

นักเรียนไปเรียนได้เหมือนเดิมไหม มีกำหนดจำนวนคนต่อห้อง หรือ social distancing หรือเปล่า ? มีมาตรการอะไรพิเศษไหมคะ?

ขอเป็นมหาวิทยาลัยนะคะ เนื่องจากที่ญี่ปุ่นตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยที่ยังออนไลน์อยู่ รร. เปิดไปแล้ว

คือ ตอนนี้ทางอาจารย์ฝั่งญี่ปุ่นก็เป็นห่วงว่า ถ้าเทอมหน้าออนไลน์อีก เด็กมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นหลายคนอาจจะเป็นซึมเศร้ากันอีกเยอะ (และอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้) อยากรู้ว่าที่ไทยเราเป็นยังไงบ้างคะ?

ไม่ต้องบอกว่าเรียนมหาวิทยาลัยไหนก็ได้นะคะ แต่บอกแค่จังหวัดก็ได้นะคะ อยากรู้ว่า กทม. กับ ต่างจังหวัด หรือ แต่ละภูมิภาคมีมาตรการต่างกันไหม อย่างไร

กราบขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ถือว่าแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศกันค่ะ m(_ _)m

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #คุยกับแอด

 

สื่ออังกฤษ รายงาน แบนหัวเว่ย เป็นเรื่องการเมือง รอทรัมป์ไปก่อน
.
ความเคลื่อนไหวของฝั่งจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่หลิวเสี่ยวหมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหราชอาณาจักร ออกมากล่าวว่าบรรดาผู้ที่เห็นว่าจีนเป็น “คู่แข่งทางระบบ” หรือ “รัฐที่อาจเป็นปฏิปักษ์” ล้วนคิดและทำผิดทั้งหมด : พวกเขาเลือกเป้าหมายผิด

คำกล่าวของหลิวเสี่ยวหมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหราชอาณาจักร มีหลังจากอังกฤษสั่งห้ามหัวเว่ยพัฒนาเครือข่าย 5G และกล่าวว่า หัวเว่ยได้มีส่วนร่วมสำคัญในการจ้างงานและการเติบโตในสหราชอาณาจักร มาเกือบ 20 ปีที่แล้ว โดยนักธุรกิจชาวจีนอื่นๆ และมีอิทธิพลต่อความมั่นใจของพวกเขา

คำกล่าวของ หลิวเสี่ยวหมิง กล่าวแย้ง คำแถลงของรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรที่ระบุว่า หัวเว่ยถูกแบนจากข้อกังวลด้านความมั่นคง โดยว่า “การตัดสินใจเกี่ยวกับหัวเว่ยของสหราชอาณาจักร ไม่ได้เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่เป็นแรงกดดันทางการเมือง” ซึ่งกล่าวมาจากความเชื่อมั่นในข่าววงใน แต่ยังไม่มีข้อมูลจริงจังนักว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่

แต่ล่าสุด หนังสือพิมพ์ “ดิ ออบเซิร์ฟเวอร์” และ "เดอะการ์เดียน" รวมทั้งสื่ออังกฤษหลายราย ได้รายงานว่า เป็น 'ปัจจัยทางการเมือง' อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว และบริษัทหัวเว่ย ยังได้รับการบอกกล่าวพร้อมคำแนะนำว่า การตัดสินใจอาจเปลี่ยนได้ในอนาคต

รายงานข่าวกล่าวว่า เบื้องหลังการหารือแบบปิดลับระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษกับผู้บริหารหัวเว่ย ซึ่งบางช่วงบางตอนระหว่างนั้น หัวเว่ยได้รับการบอกเล่าว่า "เหตุผลด้านภูมิรัฐศาสตร์มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจ และยังได้รับการกล่าวรักษาถ้อยทีว่า หากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แพ้การเลือกตั้ง ที่กำลังจะมีขึ้นต้นเดือนพฤศจิกายน และกระแสต่อต้านจีนในวอชิงตันเบาลง อาจมีการทบทวนการตัดสินใจได้ในอนาคต
..

ข้อมูล - https://www.theguardian.com/technology/2020/jul/18/pressure-from-trump-led-to-5g-ban-britain-tells-huawei

 

บูรพาไม่แพ้

มองโกเลียค้นพบหลักฐานสำคัญ บ่งชี้เป็นนครหลวงของจักรวรรดิซยงหนู
.
นักโบราณคดีมองโกเลียค้นพบร่องรอย "เมืองมังกร" เมืองหลวงของจักรวรรดิซยงหนู ชนกลุ่มน้อยคู่ปรับชาวฮั่นตั้งแต่ยุคสองพันปีก่อน ในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ เผยพบตัวอักษรจีนโบราณจารึกไว้ว่า ‘โอรสสวรรค์ฉานอวี๋’ บ่งชี้เป็นเมืองหลวงโบราณของอาณาจักรซยงหนู
.
เมื่อวันเสาร์ (18 ก.ค.) ที่ผ่านมานักโบราณคดีมองโกเลียเปิดเผยถึงการค้นพบ ‘หลงเฉิง (龙城)’ หรือ ‘เมืองมังกร’ เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิซยงหนู ในพื้นที่ตอนกลางของมองโกเลีย ใกล้กับเมืองอาร์คัน
.
“จากผลการวิจัยกว่าสิบปีเกี่ยวกับศูนย์กลางทางการเมืองของจักรวรรดิซยงหนู ฉันดีใจมากที่เราได้พบและขุดค้นเมืองหลวงแห่งนี้” ทูมูร์-โอชีร์ ไอเดอร์คันไก หัวหน้าทีมนักโบราณคดีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว
.
“การตกแต่งส่วนหน้าของหลังคาอาคารในเมือง มีตัวอักษรจีนโบราณจารึกไว้ว่า ‘โอรสสวรรค์ฉานอวี๋ (天子单于)’ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเชื่อว่าเมืองนี้เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิซยงหนู” ไอเดอร์คันไก ซึ่งเป็น ศาสตราจารย์ภาควิชาโบราณคดีของมหาวิทยาลัยอูลานบาตอร์สเตทด้วยกล่าว
.
เขากล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการพบวัตถุที่มีคำจารึกว่า ‘โอรสสวรรค์ฉานอวี๋’ ในดินแดนมองโกเลีย
.
คลิก >> https://mgronline.com/china/detail/9630000074185

 

หรรสาระ By Jeans Aroonrat

#เรื่องเศร้าคดีสังหารโหดStart_Upหนุ่มอนาคตไกล
#ไว้ใจคนผิดชีวิตดับ

แชร์ข่าวรอบโลกวันนี้ ตามติดคดีฆาตกรรมโหด กลางคอนโดหรูในย่านแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ค เมื่อวันอังคารที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งเหตุพบศพ Start-Up หนุ่มอัจฉริยะชื่อดัง นายฟาฮิม ซาเลห์ ชาวอเมริกันเชื้อสายบังคลาเทศ ที่เป็นถึง CEO และ หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Adventure Capital เจ้าของ Application บริการเรียกรถแท็กซี่ รับส่งสินค้า และอาหาร ที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญ
โดยนายฟาฮิม หายตัวไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่มีใครติดต่อได้ ญาติของนายฟาฮิมจึงไปตามหาเขาที่คอนโดหรูในแมนฮัตตัน พอเปิดประตูบ้านเข้าไปถึงกับผงะ เมื่อพบว่านายฟาฮิมกลายเป็นศพไปแล้ว
และไม่ใช่แค่การฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดา แต่เป็นการฆ่าหั่นศพด้วยเลื่อยไฟฟ้า ชิ้นส่วนร่างกายกระจายไปทั่ว บางส่วนถูกบรรจุในถุงขยะสีดำ เตรียมนำไปทิ้ง ทำให้เข้าใจได้ว่าฆาตกรยังทำงานค้างอยู่ และจะต้องกลับมาเก็บศพ ทำลายหลักฐานที่เหลือ แต่ถูกค้นพบเสียก่อน
ฟาฮิม ซาเลห์ อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในสหรัฐ หรือในระดับสากลมากนัก แต่เขาเป็นที่รู้จักดีในบังคลาเทศ และไนจีเรีย ด้วยแอพลิเคชั่นที่เขาพัฒนาขึ้น 2 ตัว คือ Pathao แอพที่ใช้เรียกรถแท็กซี่ หรือส่งอาหารคล้ายๆ Grab แต่เป็นที่นิยมมากๆในบังคลาเทศ และเนปาล
และเขาได้สร้างแอพแบบเดียวกันชื่อ Gokada ที่เป็นแอพ ride-sharing ตัวแรกในประเทศไนจีเรีย
แอพลิเคชั่นที่เขาสร้างขึ้น มีมูลค่านับ 100 ล้านเหรียญ และทำให้เขากลายเป็นเศรษฐี Start up ด้วยวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น
ความเก่งกาจด้านการพัฒนาซอฟท์แวร์ของเขาฉายแววมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่เขาสร้างแอพล้อเลียนเสียงตอบรับโทรศัพท์ ที่ชื่อว่า PrankDial เป็นโปรเจคที่เขาทำเอาสนุก แต่มันกลับสร้างรายได้จริงกว่า 10 ล้านเหรียญ ตั้งแต่เพิ่งจบมหาวิทยาลัย
ก่อนที่เขาจะเอาเงินไปลงทุนทำแอพที่เป็นประโยชน์กับคนทั่วไปมากขึ้น และก็กลายเป็น Pathao และ Gokada แอพมาแรงที่ไปตีตลาดในประเทศกำลังพัฒนา จนเพื่อนของเขาตั้งฉายาให้ว่าเป็น อีลอน มัคส์ แห่งประเทศโลกที่ 3
แต่ Start up หนุ่มอนาคตไกล กลับถูกฆาตกรรมอย่างสยดสยองภายในคอนโดหรูของตัวเอง ที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ตัว
และก็เป็นดังนั้น เพราะเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจได้เข้าจับกุมตัว นาย ไทรีส ฮาสพีล ผู้ช่วยส่วนตัวของนายฟาฮิม ขณะกำลังกบดานในห้องพัก ที่เขาเช่าผ่าน Airbnb
โดยตำรวจตรวจกล้องวงจรปิด พบว่านายไทรีส เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับฟาฮิม และเดินเข้าไปในคอนโดด้วยกันในวันเกิดเหตุ แต่กลับออกจากคอนโดของเจ้านายคนเดียว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบ ปืนช็อตไฟฟ้าในบ้านพักของไทรีส ที่ตรงกับเศษทะเบียนกระสุนปืน ในคอนโดของฟาฮิม ที่คาดว่าจะใช้เป็นอาวุธโจมตีเหยื่อ ก่อนที่จะจ้วงแทงอย่างโหดเหี้ยมหลายแผลทั้งที่ลำคอ และช่องท้องจนเสียชีวิต จากนั้นจึงหั่นศพด้วยเลื่อยไฟฟ้าหมายทำลายหลักฐาน
และยังพบว่าไทรีสยังขโมยบัตรเครดิตของเจ้านายไปใช้ ซื้ออุปกรณ์ชะล้าง ทำความสะอาด ที่คาดว่าเขาจะนำไปล้างคราบเลือดในคอนโดของผู้ตาย แล้วจะทยอยขนศพออกไปทิ้ง แต่ศพถูกพบ และแจ้งตำรวจเสียก่อน
สิ่งที่น่าเศร้าใจในคดีนี้คือ นายไทรีส ฮาสพีล ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ อายุเพียง 21 ปี ในวันที่ถูกตำรวจจับตัว เขาแทบไม่สะทก สะท้านเท่าไหร่ ราวกับเด็กถูกจับได้ว่าขโมยขนมในซุปเปอร์มาร์เก็ต
แม้แต่เจ้าของบ้านเช่า ยังแทบไม่เชื่อเลยว่า หนุ่มน้อยไทรีส จะเป็นฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพคนได้
ไทรีส ฮาสพีล เคยเป็นเพียงนักศึกษา ที่ต้องดร็อปเรียนก่อนที่เข้ามาทำงานพิเศษกับฟาฮีม
ซึ่งนายฟาฮีมก็ให้โอกาส ตั้งให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัว ให้ทำงานแล้วแต่จะสั่ง
แต่แล้วไทรีส กลับฉวยโอกาสนี้ ยักยอกเงินจากบริษัทของฟาฮีมไปกว่า 1 แสนเหรียญ และถูกจับได้
แต่แทนที่นายฟาฮีมจะแจ้งความเอาผิด เขายังให้โอกาสผู้ช่วยทรพีได้แก้ตัวด้วยการผ่อนชำระ โดยไม่ไล่ออก
แต่สุดท้ายกลับต้องถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ที่หลักฐานมัดตัวนายไทรีส ว่าเป็นผู้ร้ายในคดีนี้
หากสุดท้ายเป็นเช่นนั้นจริง ก็นับว่าเนรคุณมากๆ เอาไว้ไม่ได้ เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง
คดีนี้ สะเทือนขวัญชาวนิวยอร์คอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พอหลายคนได้อ่านประวัติของนายฟาฮีม ซาเลห์ ผู้เสียชีวิต ต่างบอกว่าเสียดาย ด้วยความสามารถระดับนี้ เขาอาจกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในวงการ Start up ระดับโลกก็ได้ หากยังมีชีวิตอยู่
แต่ผิดที่ไว้ใจคนผิดจริงๆ
แหล่งข้อมูล
https://edition.cnn.com/2020/07/18/us/fahim-saleh-death-trnd/index.html
https://nypost.com/2020/07/17/tyrese-haspil-charged-with-murdering-tech-ceo-fahim-saleh/?utm_medium=SocialFlow&utm_source=NYPFacebook&utm_campaign=SocialFlow&sr_share=facebook
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-53452034
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Fahim_Saleh

 

KFC ลุยตลาด ‘อาหารแห่งอนาคต’ เปิดตัว ‘นักเก็ตห้องแล็บ’ 3D Bioprinting หลังเมนู ‘เนื้อสัตว์ไร้เนื้อ’ ได้รับความนิยม
.
เนื้อสัตว์ทางเลือก หรือ Plant-based meat เนื้อจากพืช ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเริ่มมีแบรนด์อาหารระดับโลกนำเนื้อสัตว์แบบนี้มาปรุงเป็นอาหารให้บริการภายในร้านของตนเอง เช่น Starbucks ใช้เนื้อจากพืชของบริษัท Beyond Meat และ Impossible Food สองผู้ผลิตเนื้อไร้เนื้อรายใหญ่ หรือ Burger King ให้บริการหลายเมนูจากเนื้อสัตว์ Plant-based ไม่ว่าจะเมนูอาหารเช้าครัวซองแซนด์วิช และ เบอร์เกอร์ Impossible Whopper
.
ด้าน KFC แบรนด์ไก่ทอดชื่อดัง กระโดดเข้ามาในตลาดเนื้อสัตว์ทางเลือกเช่นกัน โดยจับมือกับ Beyond Meat เริ่มทดลองออกเมนู Plant-based อาทิ นักเก็ตไก่ไร้เนื้อ วางจำหน่ายจำนวนจำกัดในบางเมืองของอเมริกาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ได้แก่ แอตแลนตา แนชวิลล์ และ ชาร์ลอตต์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี KFC จึงขยายไปยังตลาดที่ใหญ่กว่า ที่ แคลิฟอร์เนียตอนใต้ โดย 20 กรกฎาคมนี้ จะเริ่มขายไก่ทอดจากพืชด้วยวัตถุดิบจาก Beyond Meat ใน 50 สาขา ทั่ว ลอสแอนเจลิส ออเรนจ์เคาน์ตี และซานดิเอโก
.
Andrea Zahumensky ผู้บริหารฝ่ายการตลาด (CFO) KFC สหรัฐอเมริกา เผย ‘รสชาติของ KFC ที่ทำจากเนื้อไร้เนื้อ ยังคงความอร่อยและเอกลักษณ์ของ KFC ทุกประการ โดยเน้นเจาะตลาดผู้บริโภคในโซนใต้ของอเมริกาก่อน แต่ก็มีแผนที่จะขยายไปโซนตะวันตกเช่นกัน’
.
นอกจากการใช้เนื้อ Plant-based meat ทาง KFC ยังสร้างความฮือฮาไม่น้อย เมื่อล่าสุด 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา แถลงรายละเอียดร่วมมือกับบริษัท 3D Bioprinting Solutions ประเทศรัสเซีย ผลิตนักเก็ตไก่ด้วยกรรมวิธี 3D Bioprinting เทคโนโลยีชีวภาพ 3 มิติ ซึ่งปกติใช้ทางการแพทย์ เช่น การผลิตอวัยวะเทียม
.
ความร่วมมือกับบริษัท 3D Bioprinting ในประเทศรัสเซีย ของ KFC ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อผลิตนักเก็ตไก่ในห้องแล็บเป็นครั้งแรกของโลก และยังคงมีรสชาติและเนื้อสัมผัสทั่วไปเหมือนเนื้อไก่ทั่วไปมากที่สุด ซึ่งผลิตจากเซลล์เนื้อไก่ วัตถุดิบจากพืช และเครื่องเทศ เครื่องปรุงตามสูตร KFC โดยกำหนดเปิดตัวให้แฟน KFC ได้ลิ้มลองในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
.
ทั้งการใช้เนื้อเทียมจากพืช และผลิตเนื้อสัตว์ในแล็บด้วย 3D Bioprinting แสดงให้เห็นถึงการขยับตัวเพื่อเทรนด์วัตถุดิบเนื้อทางเลือก ที่มีแนวโน้มสูงว่าเป็นที่ต้องการและจะมาแทนที่เนื้อสัตว์แบบปกติในอนาคตอันใกล้
.
อ้างอิงจาก:

Techcrunch https://tcrn.ch/2BeTZMI

#OnUFO #PlantBasedMeat #BeyondMeat #3DBioprinting #KFC #Russia #USA

 

IEA ยก ‘รถ SUV’ ภัยร้ายต่อสิ่งแวดล้อม ปล่อยคาร์บอน-สร้างมลพิษเป็นอันดับ 2 มากกว่า ‘อุตสาหกรรมหนัก’ ‘รถบรรทุก’
.
ภาวะโลกร้อนเป็นประเด็นสิ่งแวดล้อมที่มีการถกถึงแนวทางแก้ปัญหามานานนับสิบปี โดยหนึ่งในแนวทางแก้ปัญหาคือพลังงานทางเลือก หรือที่เรียกว่าพลังงานสีเขียว อย่าง พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสิ่งที่ถูกมองเป็นผู้ร้าย หนีไม่พ้น พลังงานแบบเดิม เช่น ถ่านหิน และ น้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์ ซึ่งสำหรับอย่างหลัง เริ่มถูกแทนที่ด้วย ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ เพราะเป็นตัวการปล่อยคาร์บอนออกสู่บรรยากาศโลก
.
แต่ต้องยอมรับว่าปริมาณรถยนต์เชื้อเพลิงน้ำมันยังคงไม่น้อยลง เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังคงมีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องราคา หรือนโยบายการสนับสนุนของแต่ละประเทศ
.
โดยรายงานการวิเคราะห์จากองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA: International Energy Agency) ระบุว่า ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาจากรถยนต์ประเภท SUV มากเป็นอันดับที่ 2 ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา รองจากภาคการผลิตและบริโภคไฟฟ้า ขณะที่รถบรรทุก ยานพาหนะอีกประเภทหนึ่งอยู่ในอันดับ 4
.
ทำไม SUV จึงกลายเป็นรถยนต์ที่อาจก่อผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด?

ในรายงานของ IEA วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจ โดยตั้งประเด็นว่า ช่วงระยะเวลาสิบปีมานี้ ความต้องการ SUV ของกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกมากขึ้น ครองสัดส่วนครึ่งหนึ่งของรถยนต์ทั้งหมดที่ขายในอเมริกา และ หนึ่งในสามยอดขายรถยนต์ทั่วภูมิภาคยุโรป ซึ่งสาเหตุหลัก เป็นเรื่องของภาพลักษณ์ ถูกมองเป็นรถครอบครัว ประโยชน์ใช้สอยเยอะ และในประเทศจีน เป็นเครื่องแสดงถึงฐานะ ความมีอันจะกิน
.
ปัจจุบัน มีจำนวนรถยนต์ SUV ราว 200 ล้านคันทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 35 ล้านคัน เมื่อปี 2010 กล่าวคือ ในระยะเวลาเพียง 10ปี SUV ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่า ส่วนใหญ่ยังคงใช้พลังงานน้ำมัน นี่จึงเป็นที่มาของการปล่อยคาร์บอนที่มากจนติดอันดับ 2 ของโลก
.
ใครที่เป็นเจ้าของ SUV อ่านโพสต์นี้แล้วก็ไม่ต้องคิดมากจนถึงขั้นขายรถทิ้งโดยทันใดนะ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรา ล้วนเกี่ยวข้องต่อการปล่อยคาร์บอนและมลพิษทางอากาศด้วยกันทั้งนั้น แต่เราสามารถช่วยกันลดลงเท่าที่สามารถทำได้ ศึกษาการแก้ปัญหาอย่างเข้าใจ และหากเป็นไปได้ ก็ค่อยๆเปลี่ยนมาใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น ทั้งนี้นโยบายภาครัฐก็มีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง โดยหลายประเทศขยับตัวกันแล้ว อาทิ นโยบายสร้างแหล่งพลังงานทางเลือกทั่วประเทศในจีนและเกาหลีใต้ เป็นต้น
.
อ้างอิงจาก:
https://www.wired.com/story/suvs-are-worse-for-the-climate-than-you-ever-imagined/

https://www.iea.org/commentaries/growing-preference-for-suvs-challenges-emissions-reductions-in-passenger-car-market

#OnUFO #SUV #ClimateChange #Pollution

 

‘ล่องเรือดูหนัง’ ใจกลางปารีส วิถีใหม่ในการชมภาพยนตร์ยุคโควิด
.
โรงหนัง Drive-in เป็นการปรับตัวของธุรกิจภาพยนตร์ในยุคการแพร่ระบาด COVID-19 ทั่วโลก เพราะผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงไม่ไว้วางใจต่อการเข้าไปชมภาพยนตร์ในโรงหนัง และต้องการป้องกันลดความเสี่ยงด้วยการ Social Distancing อย่างต่อเนื่อง แต่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผุดไอเดียที่เจ๋งไปกว่าการดูหนังในรถยนต์ ด้วยแนวคิด ‘ล่องเรือดูหนัง ดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำแซน (Seine river) ใจกลางปารีส’
.
ตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา ปารีสได้เนรมิต Paris Plages ‘ชายหาดจำลอง’ ขึ้นที่ริมแม่น้ำแซน เพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและจัดกิจกรรมทางน้ำ ร่วมถึงความบันเทิง ในช่วงฤดูร้อนเป็นประจำทุกปี แต่สำหรับปีนี้ 2020 ซึ่งจัดงานตั้งแต่ 18 กรกฎาคม ถึง 30 สิงหาคม มีกิจกรรมพิเศษด้วยแคมเปญ ‘ล่องเรือดูหนัง’ โดยมีเรือไฟฟ้า 38 ลำ ให้บริการ และทุกลำต่างถูกกำหนดให้เว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อลดความเสี่ยงการติดCOVID-19
.
นอกจากนี้ ถ้าหากใครไม่อยากล่องเรือ หรือจองไม่ทัน ยังคงสามารถรับชมภาพยนตร์ในบรรยากาศชายทะเล(จำลอง) ได้เช่นกัน เพราะผู้จัดงานเตรียมเก้าอี้ไว้มากถึง 150 ตัว เพื่อให้บริการ ดังนั้น จะล่องเรือจะนั่งริมหาด ก็ดูหนังผ่านจอขนาดใหญ่ 16 x 9 เมตร ได้อย่างสบายใจ
.
อ้างอิงจาก:
https://www.designboom.com/design/paris-floating-cinema-socially-distant-electric-boats-07-16-2020/

#OnUFO #FloatingCinema #Paris #ParisPlages #France #SocialDistancing

 

"ถ้ารอดก็ยิ่งแกร่ง" "มีโอกาสได้คนเก่งๆ" "ถ้าตอบโจทย์ จะยิ่งยั่งยืน" 3 เหตุผลที่ควรรันธุรกิจช่วงวิกฤติ
.
ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นเสมอ ประโยคนี้ยังคงเป็นจริงไม่ว่าโลกของเราเจอกับวิกฤติมากี่วิกฤติก็ตาม แม้แต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ของโลกอย่าง Great Depression ช่วงยุค 1930 ที่ธุรกิจจำนวนมากล่มสลาย จึงไม่น่าแปลกใจที่คงไม่มีใครกล้าคิดถึงการเริ่มต้นประกอบกิจการส่วนตัวในสถานการณ์เช่นนั้น แต่รู้หรือไม่ ธุรกิจระดับโลกอย่าง General Motors , IBM และ Disney ต่างยืนหยัดผ่าน Great Depression มาได้

หรือบริษัทดังอย่าง Google, eBay, Amazon, Facebook และ Twitter ต่างก็ก่อร่างสร้างตัวในภาวะเศรษฐกิจของยุคนั้น ไม่ว่าจะยุคฟองสบู่ดอทคอม ปลายยุค 90 และ วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ 2008
.
ในโลกธุรกิจ มันไม่มีเวลาช่วงไหนที่ถือเป็น Perfect time หรือเวลาอันสมบูรณ์แบบ แต่ธุรกิจสามารถเริ่มได้ตลอดเวลา และแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจหรือสภาพแวดล้อม ณ ช่วงเวลาในการเริ่มต้นธุรกิจ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลถึงการดำเนินการ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องล้มเหลว ในทางกลับกัน หากเราดำเนินธุรกิจที่กำลังเป็นที่ต้องการในวิกฤตินั้น ก็ไม่ได้การันตีว่า เราจะใช้โอกาสนั้นจนสำเร็จไปได้ตลอดกาล
.
แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีเป้าหมายและแผนเริ่มต้นธุรกิจอย่างชัดเจนแล้ว ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาด COVID-19 เช่นนี้ อาจเป็นเวลาทองแห่งการตอกเสาเข็มธุรกิจใหม่ของเรา ด้วย 3 เหตุผล ดังนี้
.
1.ถ้าสามารถสร้างธุรกิจของตนเองท่ามกลางปัญหาอุปสรรคในวันนี้ จะมีภูมิคุ้มกันทำให้แข็งแกร่งในวันข้างหน้า
เป็นความจริงซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า เราต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคไม่น้อย ในช่วงวิกฤติ แต่ปัญหาสามารถกลายเป็นบทเรียนและประสบการณ์สำหรับการนำพาธุรกิจให้ผ่านไปได้ในวันข้างหน้า
.
2. มีโอกาสได้คนเก่งมาร่วมงานมากขึ้น เพราะ คนในสายงานต่างๆ เข้าสู่ภาวะว่างงาน หรือเปลี่ยนงานใหม่มากขึ้น

หลายธุรกิจปิดตัวลงเพราะโควิด ทำให้พนักงานที่มีฝีมือจำนวนไม่น้อยต้องหางานใหม่ ดังนั้น ผู้เริ่มต้นธุรกิจในช่วงนี้ จึงมีตัวเลือกร่วมทีมที่ดีมาก
.
3. ธุรกิจซึ่งตอบโจทย์ความต้องการและแก้ปัญหาในแต่ละวิกฤติ เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ดูได้จากตัวอย่างของธุรกิจสายไอที เช่น Google , Amazon, Facebook และอื่นๆที่กล่าวไปข้างต้น ต่างเริ่มธุรกิจในยุควิกฤติที่สามารถใช้เทคโนโลยีและออนไลน์เข้ามาแก้ปัญหา รวมทั้งสร้างนวัตกรรมใหม่จาก ณ ขณะเกิดวิกฤติจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้ามองเฉพาะในยุคโควิด หลายธุรกิจที่ตอบโจทย์ Digital disruption การป้องกันตนเองด้วย Social distancing อาทิ ธุรกิจจักรยาน เพราะคนกลัวการนั่งรถยนต์หรือยานพาหนะอื่น เนื่องจากต้องนั่งรวมกัน เสี่ยงติดเชื้อ ก็ทำให้บริษัทผู้ผลิตและส่งออกจักรยานจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพิ่ม 135.36% เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สร้างรายได้รวม 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และผู้เชี่ยวชาญต่างคาดกันว่า มูลค่าเพิ่มขึ้นอีกหลังการเกิดโควิด
.
อ้างอิงจาก:
https://www.inc.com/heidi-zak/why-yes-you-can-start-a-business-right-now.html
#OnUFO #Business #Crisis #Startup #COVID19

 

Moody ฟันธง สถานการณ์ธุรกิจการบิน ‘ทรุดหนักจนถึงปี 2023’ หากไม่มีวัคซีนโควิด ไม่มีทางฟื้น
.
ตอนนี้ธุรกิจการบินในหลายประเทศเริ่มกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งได้เห็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของแต่ละสายการบินเพื่อให้เข้ากับวิถีปกติใหม่ (New Normal) หลังการระบาด COVID-19 เช่น การออกแคมเปญขายที่นั่งเสริมนอกเหนือจากที่นั่งตามหน้าตั๋วเครื่องบินของลูกค้า สำหรับ Social distancing เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการใช้บริการเครื่องบิน หรือในประเทศไทย ก็มีออกโปรโมชันส่วนลด กระตุ้นยอดขายจำนวนมาก
.
แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่สายการบินจะกลับมาสร้างรายได้เหมือนตอนก่อนระบาด (ความจริงที่น่าเศร้าใจ คือ หลายสายการบินขาดทุนสะสมตั้งแต่ก่อนการระบาดใหญ่ด้วยซ้ำ) โดย Moody’s Investor Service บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก คาดการณ์ว่าสถานการณ์ของธุรกิจการบินจะเจอกับวิกฤติยาวไปจนสิ้นปี 2023 และก็ต้องรอจนกว่าจะมีวัคซีนและยารักษา COVID-19 ออกมาครอบคลุมทั่วโลกด้วย
.
ความต้องการของผู้คนในการโดยสารเครื่องบินตกลงถึง 90% ในระยะเพียงไม่กี่สัปดาห์ของการระบาด ซึ่งเป็นผลจากโรคระบาดส่งผลกระทบทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ Moody ยังฟันธงว่า วัคซีน เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ภาคเศรษฐกิจของแต่ละประเทศกลับมาฟื้นตัว และสำหรับการประคองธุรกิจสายการบินให้ยังคงอยู่รอดจนถึงวันนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการช่วยเหลือเงินอุดหนุนและเยียวยาจากรัฐบาล
.
อ้างอิงจาก:

https://www.bloomberg.com/amp/news/articles/2020-07-17/global-air-passenger-slump-to-last-until-2023-moody-s-says

#OnUFO #Moody #InvestorService #Airlines #Business #COVID19

 

ตั้งคำถาม, สอนคนอื่น, เชื่อมโยงความรู้ 3 หลักในการฝึกฝนประมวลความคิด ของ Steve Jobs
.
เราทุกคนคงเคยเจอกับเหตุการณ์ต้องตัดสินใจคิดหรือทำอะไรบางอย่างด้วยความรวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่สามารถทำได้ หากมีประสบการณ์ความรู้เกี่ยวข้อง เช่น นักการตลาดมากประสบการณ์กว่า 10 ปี สามารถคิดแคมเปญพร้อมคาดการณ์ประสิทธิภาพได้ทันที ขณะประชุมวางแผนการตลาด

หรือกรณี Steve Jobs ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple และตำนานแห่งวงการไอที ที่มักจะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆให้เราได้ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ ซึ่งเบื้องหลังคือการตัดสินใจได้ดีและฉับไว แม้ในสถานการณ์ยากๆ อย่างการกลับมาแก้วิกฤติที่ Apple หลังจากขายบริษัท และซื้อกลับมาอีกครั้ง
.
เบื้องหลังของการคิดไว ทำไว และมีประสิทธิภาพอย่างคาดไม่ถึง สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) ที่เรียกว่า ‘Chunking’ การเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทเข้าด้วยกัน เพื่อนำความรู้หรือสิ่งที่เราเคยมีประสบการณ์ซึ่งถูกจดจำเอาไว้ มาใช้แก้ปัญหาหรือสร้างสิ่งใหม่ๆได้โดยทันที แม้ไม่ใช่สิ่งที่คุ้นเคยมาก่อน
.
Barbara Oakley ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยโอ๊กแลนด์ (Oakland University) สหรัฐอเมริกา เจ้าของคอร์สยอดนิยม Learning How to Learn กล่าวว่า ‘Chunking เป็นแม่แห่งการเรียนรู้ทั้งมวล’ เพราะเมื่อเรารู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งดีพอ มันจะเป็นเรื่องง่ายในการต่อยอดไปในสิ่งอื่นๆ
.
หนึ่งในวิธีที่เราสามารถสร้าง Neural Chunk หรือการรวมเซลล์ประสาท เพื่อให้เราตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำตาม 3 ขั้นตอนง่ายๆ ของ Adam Grant นักจิตวิทยาและศาสตราจารย์ชื่อดังแห่งโรงเรียนธุรกิจวอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (Wharton School of University of Pennsylvania)
.
1. ตั้งคำถามกับตนเอง ทุกครั้งที่เรียนรู้สิ่งใดก็ตาม

การเรียนรู้ที่ทำให้เกิดความรู้และความเชี่ยวชาญจริง คือการนำความรู้ไปลงมือปฏิบัติ ซึ่งการตั้งคำถามกับตนเอง ถือเป็นหนึ่งในการลงมือใช้ความรู้นั้น เพื่อทดสอบว่า เราสามารถนำความรู้ไปประยุกต์หรือไปใช้ได้จริงไหม
.
2. นำความรู้ไปสอนผู้อื่น

การสอนหรือการถ่ายทอดความรู้ออกมา เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการฝึกกระบวนการคิดและนำความรู้ประยุกต์ใช้จริง โดยงานวิจัย Expecting to teach enhances learning and organization of knowledge in free recall of text passages ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ journal Memory & Cognition เมื่อปี 2014 ระบุว่า แม้ไม่ได้สอนจริง แต่แค่เตรียมการสอนและคาดว่าจะไปสอนผู้อื่น ก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแล้ว
.
3. เชื่อมโยงความรู้ที่เพิ่งได้เรียนรู้กับสิ่งที่รู้อยู่แล้ว
การนำความรู้หนึ่งไปเชื่อมโยงกับอีกหลายส่วน ไม่ใช่แค่เพียงเพิ่มความเข้าใจในสิ่งนั้น แต่ยังทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่และทำให้เห็นถึงความแตกต่างของแต่ละสิ่ง รวมถึงได้ประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น
.
ทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา เป็นหนึ่งในเหตุผลว่า ทำไม Steve Jobs ถึงคิดและสร้างนวัตกรรมที่อาจไม่เคยมีมาก่อนในโลกนี้ได้ตลอดเวลาขณะที่เขามีชีวิตอยู่ เพราะเขาทำทั้ง 3 ข้ออยู่เสมอ
.

อ้างอิงจาก: https://www.inc.com/jeff-haden/neuroscience-reveals-how-steve-jobs-made-better-decisions-faster.html

#OnUFO #SteveJobs #Apple #NeuralChunk #Chunking #Neuroscience

 

TESCO อังกฤษ เริ่มขายสินค้ารีฟิล ‘ใช้หมด เติมใหม่’ ด้วยแพกเกจรียูส
.
เมื่อผู้คนต้องอยู่บ้าน เพราะวิกฤติการระบาด COVID-19 ทำให้ส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตของการซื้อสินค้าทางออนไลน์ และการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เนื่องจากเชื่อว่าป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ แต่ทางกรีนพีซหน่วยงานต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมได้อ้างถึงการทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญนับร้อยคน ย้ำว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ Reusable ยังคงปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดขยะต่อสภาพแวดล้อมเหมือนกับพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งอีกด้วย
.
Tesco ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ให้ความสำคัญต่อประเด็นนี้เช่นกัน ประกาศร่วมมือกับ LOOP แพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์รักษ์โลก รับขวดบรรจุภัณฑ์ของลูกค้าที่ใช้จนหมด นำกลับไปบรรจุสินค้าและนำไปขายต่อไป โดยมีแบรนด์สินค้าต่างๆเข้าร่วม อาทิ ซอสมะเขือเทศ Heinz น้ำยาซักผ้า Persil น้ำอัดลมโค้ก และโยเกิร์ต Danone ที่มีแบรนด์ในเครือ เข้ามาทำตลาดในไทย ในนาม แอคทีเวีย
.
ทาง Tesco จะทดลองให้บริการขายสินค้า ‘รีฟิล’ ผ่านบรรจุภัณฑ์หมุนเวียน หรือ Reusable ในสหราชอาณาจักร ครอบคลุม 150 รายการสินค้า โดยเป็นการขายสินค้าทางออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์ Tesco สหราชอาณาจักร เมื่อลูกค้าสั่งสินค้า จะทำการจัดส่งด้วยบริการส่งสินค้าของบริษัท DPD และเมื่อใช้สินค้าจนหมด ก็ส่งคืนขวดและบรรจุภัณฑ์ด้วยการเรียกพนักงาน DPD มารับ แต่ถ้าไม่ต้องการสั่งสินค้าครั้งหน้า สามารถขอคืนเงินมัดจำบรรจุภัณฑ์ที่ทางระบบเรียกเก็บเมื่อสั่งสินค้าครั้งแรก
.
สำหรับการทำความสะอาดบรรจุภัณฑ์ Tom Szaky ผู้บริหารบริษัท LOOP เผยว่า ใช้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ของบริษัท Ecolab ซึ่งเมื่อถูกตั้งคำถามถึงความกังวลของผู้บริโภคท่ามกลางการระบาด COVID-19 เขาได้กล่าวอีกว่า ‘มันก็เหมือนกับการไปหาหมอฟัน พวกเราทุกคนต่างทราบดี อุปกรณ์ทั้งหลายผ่านปากของคนนับร้อยมาแล้ว แต่เราก็มั่นใจได้ด้วยกระบวนการทำความสะอาด’
.
ทั้งนี้หากโปรเจคขายสินค้าบรรจุภัณฑ์หมุนเวียนทางออนไลน์ของ Tesco สหราชอาณาจักรประสบความสำเร็จ ทาง Tesco มีแพลนขยายนอกเหนือจากการขายออนไลน์ และ LOOP เอง ก็จะขยายความร่วมมือไปยังห้างสรรพสินค้าอื่นเช่นกัน
.
อ้างอิงจาก:
https://www.bbc.com/news/business-53406881

ภาพจาก:
https://www.tescoplc.com/media/476273/tesco-store.jpg

#OnUFO #Refill #Reusable #LOOP #TESCO #UK

 

Amazon ประกาศ WFH ถึงม.ค. 2021 ด้านพนักงานคลังโวยไม่ได้รับสิทธิ์ เสี่ยงติด COVID-19 มากกว่าตำแหน่งอื่น
.
หลังจาก Amazon นำเทคโนโลยี AI ปัญญาประดิษฐ์มาใช้ตรวจจับการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ของพนักงานคลังสินค้าในอเมริกา ล่าสุด แพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ระดับโลกขยับตัวรับมือ COVID-19 อีกครั้ง เมื่อประกาศขยายระยะเวลา WFH ทำงานที่บ้านของพนักงานออฟฟิศตำแหน่งที่สามารถทำงานที่บ้านได้ ไปจนถึง 8 มกราคมปีหน้า 2021 จากเดิมกำหนด WFH ถึงต้นเดือนตุลาคมปีนี้
.
ใจความสำคัญจากแถลงการณ์บริษัทระบุว่า ‘ทาง Amazon ให้ความสำคัญต่อสุขภาพของพนักงานเป็นอันดับแรก และเพื่อทำตามคำแนะนำของรัฐบาลท้องถิ่น จึงขอขยายการทำงานที่บ้านไปเป็น 8 มกราคม 2021 สำหรับคนที่รับผิดชอบงานซึ่งไม่จำเป็นต้องทำที่ออฟฟิศ และสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการทำงานออนไลน์เช่นนี้’
.
พนักงานส่วนใหญ่ของ Amazon ได้รับสิทธิ์ทำงาน WFH ยกเว้นพนักงานคลังสินค้า เพราะพนักงานเหล่านี้ต้องดูรายการสั่งซื้อทางออนไลน์ที่มีเข้ามาอย่างมหาศาลในช่วงวิกฤติแพร่ระบาด ซึ่งเริ่มแรก Amazon ชดเชยด้วยการเพิ่มค่าจ้างพิเศษ 2 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อชั่วโมง (63 บาท) และอนุญาตให้ลางานได้โดยไม่ต้องแจ้งบริษัท แต่ ณ ตอนนี้ยกเลิกกฎลาโดยไม่แจ้ง เรียบร้อยแล้ว
.
พนักงานคลังสินค้าจำนวนหนึ่งในเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ไม่พอใจต่อการยกเลิกนโยบายลาโดยไม่ต้องแจ้งบริษัทซึ่งเป็นการลาแบบไม่รับค่าจ้าง โดยมองว่า พวกเขามีสิทธิเสรีภาพในการหยุดงานเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 เพราะเพื่อนร่วมงานในคลังสินค้าเมืองเมมฟิสหลายคนติด COVID-19
.
อ้างอิงจาก: https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-07-15/amazon-extends-work-from-home-for-corporate-employees-until-2021

ภาพจาก:
https://bit.ly/3fPoKXH

.

#OnUFO #WFH #WorkFromHome #Amazon

 

5 สัญญาณแจ้งเตือน ‘ลูกค้าไม่น่ารัก’ ที่ต้องหลีกเลี่ยงและไม่ควรดีลงานด้วย
.
หากเราเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือยังคงเป็นพนักงานกินเงินเดือนแต่ทำงานในตำแหน่งติดต่อพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง มันคงเป็นเรื่องปกติในการเจอคำถามมากมายจากลูกค้า ทั้งเกี่ยวกับงานโดยตรงหรืออาจไม่เกี่ยว และที่ขาดไม่ได้คือ การต่อรองราคา และรายละเอียดงาน แต่หลายครั้ง เราอาจเจอลูกค้าผู้ไม่น่ารักเสียเลย และเราอยากให้คุณหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากปวดหัวจนเสียงาน
.
ลูกค้าแบบเข้าข่าย ‘ไม่น่ารัก’ จนเราควรโบกมือลาตั้งแต่เริ่มต้น และไม่ดีลงานด้วย สามารถสรุปได้ดังนี้

1. ชอบพูด ‘ลองใช้บริการมาหลายเจ้าแล้ว มันเสียเงินเสียทองมากๆเลย’

มันเป็นสิ่งถูกต้อง หากเราต้องการแก้ไขปัญหาและทำให้เขารู้สึกว่า ดีที่สุดตั้งแต่เคยใช้บริการหรือซื้อสินค้าแนวเดียวกันมาเลย แต่ส่วนใหญ่ ลูกค้าที่พูดประโยคข้างต้น จะไม่รู้ความต้องการของตนเองว่า ต้องการอะไรแน่ ทำให้ไม่ว่าใครจะให้บริการหรือสินค้าอะไรก็ตาม ก็ไม่ถูกใจไปเสียหมด
.
ดังนั้น ลองคุยเพื่อวิเคราะห์ลูกค้าเสียก่อน ถ้าหากรู้สึกว่า ลูกค้ายังไม่มีความชัดเจนใดๆ และไม่พยายามจะเข้าใจในสิ่งที่คุณอธิบายด้วย ขอแนะนำว่า ให้คำแนะนำเท่าที่ทำได้ และ Say Goodbye รอให้ลูกค้าตกตะกอนในความต้องการของเขา และเขาอาจกลับมาหาเราด้วยความคาดหวังและความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันทั้งสองฝ่าย
.
นอกจากความต้องการที่ไม่ชัดเจน ปัจจัยอื่นๆที่ทำให้ลูกค้าพูดว่า ไม่เคยมีใครทำให้เขาพอใจได้เลย มาจาก ‘งบประมาณ’ ที่ต้องการในราคาถูกแสนถูกจนเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้บริการหรือซื้อสินค้าด้วยงบเท่านั้นได้ และต้องการอะไรที่มันง่ายๆ จนเกินไป
.
2. ตั้งข้อสงสัยตลอดเวลา แม้อธิบายรายละเอียดมากแค่ไหนก็ตาม เสมือนพยายามเบี่ยงเบนประเด็นและไม่ฟังในรายละเอียด

มีว่าที่ลูกค้าจำนวนไม่น้อย ไม่ได้ต้องการซื้อสินค้าหรือบริการจริงๆ แต่ต้องการเก็บข้อมูลหรือสอบถามทั่วไปเท่านั้น เราสามารถสังเกตได้จากท่าทางระหว่างการพูดคุย อย่างยิ่งในการตั้งคำถามข้อสงสัย คนที่ต้องการซื้อหรือใช้บริการจริงๆ จะถามคำถามตรงประเด็นซึ่งเกี่ยวข้องกับสินค้าบริการนั้นๆ แต่ถ้าไม่ใช่ จะถามไปเรื่อยๆ และไม่รับฟังคำอธิบาย
.
3. ข้อเรียกร้องที่เป็นไปไม่ได้ เช่น การรับประกันยอดขาย

แต่ละสินค้าและบริการมีรายละเอียดและข้อจำกัดแตกต่างกันไป ถ้าเราอธิบายรายละเอียดบริการหรือสินค้าให้ลูกค้าเข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว แต่มีข้อเรียกร้องที่ขัดกับรายละเอียดและข้อจำกัด เช่น หากเสนอขายแคมเปญการตลาด แต่ลูกค้าต้องการรับประกันยอดขาย 10 เท่า ภายใน 1 เดือน ด้วยงบประมาณอันน้อยนิดซึ่งประเมินผลแล้วว่าไม่มีทางทำได้แน่
.
4. กังขาในคุณค่าของงานที่เราทำ

ถ้าหากลูกค้าตั้งคำถามหรือมีข้อกังขาเกี่ยวกับตัวสินค้าหรือบริการในเชิงลบเกินไป เช่น มองว่างานการตลาด เป็นงานราคาถูก ใครๆก็ทำได้ ทำไมต้องจ่ายแพง หรือ มองว่าสินค้าแพงเกินไป โดยไม่สนใจคำอธิบายว่า ทำไมถึงแพง ถ้าเจอเหตุการณ์ทำนองนี้ แนะนำให้ ‘ปฏิเสธร่วมงาน’
.
5. ยื่นข้อเสนอ ‘จ่ายเป็นผลกำไร’ หรือ ‘สิ่งทดแทน‘ แทนการจ่ายเงินปกติ แต่ไม่เปิดเผยแผนธุรกิจ หรือรายละเอียดชัดเจน

มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าวันหนึ่งเจอลูกค้ายื่นข้อเสนอแทนการจ่ายค่าจ้างหรือค่าสินค้า เพราะมันเกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งหลายครั้งมันเป็นข้อเสนอที่สร้างมูลค่าได้มากกว่าการรับเงิน ถ้ามีแผนหรือรายละเอียดชัดเจน ซึ่งในทางกลับกัน ถ้าไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม นอกเหนือจากข้อเสนอด้วยคำพูด นั่นเป็นสัญญาณว่า ‘ไม่ควรดีล’
.
อ้างอิงจาก:

https://www.inc.com/marla-tabaka/dont-work-with-clients-who-show-these-5-warning-signs.html

ภาพจาก:
https://bit.ly/2WGLZvx

#OnUFO #NotGoodClient #การทำงาน #ลูกค้า

 

สายการบินจีนจัดโปร Social Distancing ‘ซื้อที่นั่งเสริม’ ไม่ให้มีใครมานั่งใกล้
.
แม้สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ในประเทศจีนจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดยังคงเป็นสิ่งที่ต้องเข้มงวดทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะการทำ Social distancing หรือเว้นระยะห่าง

ล่าสุด สายการบินในจีนจัดมาตรการ ‘ซื้อที่นั่งเพิ่ม หากไม่ต้องการให้คนอื่นมานั่งใกล้ ขณะโดยสารเครื่องบิน’ เพราะในช่วงระบาดหนักเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทางการจีนเคยออกมาเตือน สามารถติดเชื้อบนเครื่องบินได้ จากการสัมผัสใกล้ชิดและนั่งใกล้กัน
.
การซื้อที่นั่งเพิ่มเติม นอกเหนือจากตั๋วเครื่องบินของตนเอง จะเป็นการซื้อเฉพาะที่นั่ง เหมือนการจองตั๋วเพื่อไม่ให้มีใครมานั่งใกล้เรา แต่จะไม่ได้รับน้ำหนักกระเป๋า หรือ อาหารบนเครื่องบินเพิ่มเติม โดยแต่ละสายการบินจะจำกัดจำนวนที่นั่งเสริมที่สามารถซื้อได้แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น

- สายการบิน Juneyao Airlines อนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถซื้อที่นั่งข้างๆได้ ไม่เกิน 2 ที่นั่ง ก็คือเหมาแถวเดียวกันกับที่นั่งของตนเอง ถ้าหากที่นั่งยังว่าง โดยมีให้บริการในไฟล์ทบินเส้นทางจากเซี่ยงไฮ้ไปยังเมืองอื่นภายในประเทศจีน ราคาสนนอยู่ที่ ที่นั่งละ 200 หยวน (ประมาณ 1,000 บาท)
.
- Air Changan ให้ผู้โดยสารซื้อที่นั่งเสริมได้มากถึง 8 ที่นั่ง ได้แก่ ที่นั่งในแถวเดียวกันกับตนเอง 2 ที่นั่ง แถวหน้า 3 ที่นั่ง และ แถวหลัง 3 ที่นั่ง โดยให้บริการเฉพาะเส้นทางภายในประเทศ บินจากเมืองซีอาน มณฑลส่านซี และให้บริการจนกระทั่งปลายปีนี้
.
นอกจากสองสายการบินข้างต้น สายการบินอื่นๆ อย่าง China Eastern Airlines, Xiamen Airlines และ Fuzhou Airlines ก็มีให้บริการซื้อที่นั่งเพิ่มเติม สำหรับ Social Distancing เช่นกัน
.
จากการจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้โดยสารสายการบิน Juneyao Airlines ซึ่งมาตรการดังกล่าว ผู้โดยสารส่วนใหญ่พึงพอใจ เพราะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงสะดวกสบายมากขึ้น เช่น การลุกไปเข้าห้องน้ำ โดยไม่ต้องปลุกคนนั่งข้างๆที่กำลังหลับอยู่ ซึ่งทางสายการบินมีแผนจะจัดแคมเปญซื้อที่นั่ง ลดความเสี่ยงติดเชื้อ สำหรับเส้นทางบินระหว่างประเทศในอนาคตข้างหน้าอีกด้วย
.
อ้างอิงจาก:
http://www.ecns.cn/m/business/2020-07-15/detail-ifzyahzt5332578.shtml

ภาพจาก:
https://bit.ly/2DKN2nj

#OnUFO #SocialDistancing #ExtraSeat #Airline #China #COVID19

 

Forex Investor Trader Survivor

ต่างชาติเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม ส่วนจีนเพิ่มสัดส่วนครั้งแรกนับตั้งแต่มกราคม
เมื่อเดือนพฤษภาคม มีรายงานว่าต่างชาติเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ 27,700 ล้านเหรียญ ซึ่งแบ่งเป็นธนาคารกลางซื้อ 10,000 ล้านเหรียญ ส่วนต่างชาติที่เป็นฝั่งเอกชนขาย 37,700 ล้านเหรียญ
ในด้านของธนาคารกลาง พบว่าธนาคารกลางจีนเพิ่มปริมาณอีกครั้งประมาณ 10,900 ล้านเหรียญ จาก 1.0728 ล้านล้านเหรียญ ไปที่ 1.0837 ล้านล้านเหรียญ นับเป็นการเพิ่มปริมาณครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม
ญี่ปุ่นลดปริมาณลงจาก 1.266 ล้านล้านเหรียญ มาที่ 1.2602 ล้านล้านเหรียญ หรือลดลงประมาณ 5,800 ล้านเหรียญ
ขณะที่สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ฮ่องกง และอินเดีย เพิ่มปริมาณเช่นเดียวกัน รวมกันแล้วประมาณ 66,800 ล้านเหรียญ
ส่วนฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มียอดขายสูงสุดที่ 7,000 ล้านเหรียญ
ด้านปริมาณทุนสำรองที่เป็นทองคำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสวนทางปริมาณการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ และหากเกิดขึ้นก็คิดว่าคงต้องใช้เวลาเปลี่ยนผ่านอีกสักพัก
Cr : CrisisMan
Source : https://www.zerohedge.com/markets/foreigners-bought-record-amount-us-stocks-may-sold-treasuries
https://ticdata.treasury.gov/Publish/mfh.txt

 

... "การท่องเที่ยวทางอากาศของโลก: จะกลับมาเหมือนเดิมอย่างน้อยในปี2023"

... หลังจากโควิดทำให้ทั่วโลกปิดประเทศทั้งโลก สายการบินเป็นเหยื่อรายแรกที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสเพราะคนไม่เดินทาง และกระเทือนการโรงแรมและการจ้างงานทั่วโลก

... มีการวิเคราะห์ว่าถ้าจะให้อุตสาหกรรมการบินเพื่อท่องเที่ยวกลับมาเหมือนก่อนโควิด19นั้น ต้องรอถึง3 ปี คือจนถึงปี 2023 เป็นอย่างเร็ว

... โดยตัวแปรสำคัญคือการคิดค้นตัวยารักษาที่ได้ผลดี เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งฟื้นเร็วเท่านั้น

... แต่ที่แย่กว่านั้น มีการสำรวจนักท่องเที่ยวพบว่า พวกเขาจะลดการท่องเที่ยวลงร้อยละ 60, แม้ว่าสถานการณ์โควิดจะกลับมาปรกติแล้วก็ตาม

.

... https://www.rt.com/business/495013-air-travel-slump-moodys/