ติดตามสถานะการณ์

ปี 2020 กำลังทำลายสถิติโลกร้อนที่สุด
นักวิทย์ฯ เตือน! 'ภาวะโลกร้อน' คือหายนะลำดับต่อไปของมนุษยชาติ!!

นักวิทยาศาสตร์ทำนายว่ามีโอกาสถึง 50-75% ว่าในปี 2020 จะทำลายสถิติเป็นปีที่ร้อนที่สุด ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาทำให้ท้องฟ้าสะอาด แทบจะปราศจากมลพิษ อันเนื่องมาจากการล็อกดาวน์ ( Lockdown) ในหลายประเทศทั่วโลก แต่นั่นยังไม่ได้ช่วยอุณหภูมิโลกลดลง

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9630000048041

#ภาวะโลกร้อน #globalwarming #Antarctic #NewEmission #ElNiño #Arctic #Lockdown #

 

ส่อปิดรอบ 2 หยุดยาว 3 วันคนทะลักบางแสน-เขาสามมุข
ซ้ำฝืนกฎกันโควิด-19 "นายกตุ้ย" ลั่นไม่ไหวแล้ว
.
ส่อปิดรอบ 2 หยุดยาว 3 วันประชาชน นักท่องเที่ยวทะลักบางแสน เขาสามมุข แหลมแท่น ทำจราจรติดขัด หนักกว่านั้นแห่ถ่ายภาพจุดชมวิวชนิดไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากากอนามัย “นายกตุ้ย” ลั่นไม่ไหว เตรียมเสนอจังหวัดปิดถนนอีกครั้งให้เหลือแค่พื้นที่ออกกำลังกาย เห็นใจ จนท.ทำงานหนัก
.
วันนี้ (11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางมายัง จ.ชลบุรี ของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ช่วงวันหยุดยาวพืชมงคล ว่า ตั้งแต่บริเวณชายหาดบางแสน ชายหาดแหลมแท่นเรื่อยไปจนถึงจุดชมวิวเขาสามมุข ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี มีรถยนต์จำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณจุดชมวิวเขาสามมุข คลาคล่ำไปด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่พากันมานั่งพักผ่อนและถ่ายภาพ เนื่องจากชายหาดบางแสน ยังไม่อนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่ และยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองแสนสุข เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ขณะที่การจราจรในช่วง 3 วันอยู่ในสภาพติดขัด รถวิ่งสวนทางกันไม่ได้
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/local/detail/9630000049012
#mgronline #คนทะลัก #บางแสน #เขาสามมุข #ฝืนกฎกันโควิด-19 #ส่อปิดรอบ2

 

ฝูงวัวหลบฝนใต้ต้นไม้กลางทุ่งนา
โชคร้าย! #ฟ้าผ่าต้นไม้ตายทั้งฝูง

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ร.ต.ท.นุกรณ์ ประกอบศรี หน.ตู้ยามบ้านตาด จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่ ทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน บ้านตาด หมู่ 1 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้มีฟ้าผ่าฝูงวัวของชาวบ้านเสียชีวิต จำนวน 6 ตัว จึงได้ไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุพบวัวจำนวน 6 ตัวนอนตายอยู่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่กลางทุ่งนา

นายสมาน ศรีจันทร์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 370. ม.1 ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี คนเลี้ยงวัว เปิดเผยว่า วัวที่นำมาเลี้ยงนั้นเป็นของตน 4 ตัว อีก 2 ตัวเป็นของญาติ โดยวัวทั้งหมดมีอายุประมาณ 4 ปี ในทุกวันจะพาวัวออกมากินหญ้าตามปกติ

ล่าสุดวันนี้เวลาประมาณ 15.10 น.ขณะที่กำลังพาวัวออกมาเดินกินหญ้าได้มีฝนตกและลมกระโชกแรง ทำให้วัวทั้งหมดเข้าไปหลบฝนบริเวณใต้ต้นไม้ ตนก็ไปหลบฝนที่กระท่อม กระทั่งฝนหยุดจึงเดินมาที่ทุ่งนาเพื่อที่จะพาวัวกลับบ้าน

ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ยินเสียงฟ้าผ่าเสียงดัง ไม่คิดว่าจะผ่าใส่บริเวณต้นไม้ที่วัวหลบอยู่ เมื่อพบว่าวัวตายจึงไปแจ้งให้กับทางผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ทราบ สำหรับความเสียหายนั้นคิดเป็นเงินประมาณ 270,000 บาท

 

ตัณหาไม่เข้าใครออกใคร

ครูวิพจน์ เป็นคนดี!
เปิดตัวตนครูหื่น ในมุมมองของพี่ชาย

นายเชิตชาย ศรีเจริญ พี่ชายของครูวิพจน์ เล่าว่า ตั้งแต่เด็ก ๆ น้องชายของตนเป็นคนเรียนเก่ง ไม่เคยสร้างปัญหา เป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีคดีความ หรือปัญหาเรื่องชู้สาวให้เห็น

ขนาดพานักเรียนมาที่บ้าน ก็ไม่เคยเห็น
เวลาไปสอน จะกลับมาบ้านทุกวัน
ยกเว้นวันที่มีเวรต้องนอนค้างที่โรงเรียน
ครูวิพจน์ เป็นคนที่รักภรรยา
มีลูกแล้ว 1 คน วัย 3 ขวบเศษ
นอกจากนี้ภรรยาก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 อยู่ด้วย

ที่มา : รายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ทีวี

 

#มนุษย์เห็นแก่ตัว
#ไม่แคร์สายตาไม่รู้หนาวรู้ร้อน
#แต่คนดีมีน้ำใจอย่าท้อโครงการตู้ปันความสุขคือรากเหง้าสะท้อนความดีงามของสังคมไทย
#คงต้องพึ่ง จนท.บ้านเมืองหรืออาสาช่วยสอดส่องอย่าให้คนไร้วัฒนะธรรมพวกนี้มาบั่นทอนความมุ่งมั่นของเราได้

#คนอื่นเอาเยอะกว่าผมอีก
#เรื่องมันมีอยู่ว่า
วันนี้หนูเป็นคนนึงที่มีโอกาสได้ไปเติมของใส่ตู้ที่หน้าร้านสันติและหน้าพิพิธภัณฑ์อุบลค่ะ เมื่อไปถึงตู้หน้าพิพิธภัณฑ์ ไปเจอรถมอเตอร์ไซน์ 2 คัน พ่อและลูกชาย 3 คน มาหอบของในตู้จนหมดค่ะ คันพ่อเอาน้ำเปล่าใส่ตะกร้าหน้ารถจนเต็ม จนไม่สามารถใส่อะไรได้อีก และมีถุงพลาสติกใส่ไข่น่าจะ 1-2 ถาดค่ะ ส่วนคันลูกชาย มีตระกร้าใบใหญ่ ใส่ของจนเต็มและเอาผ้าปิดบังไว้ ในตู้เหลือน้ำเปล่าแค่ 4-5 ขวดเอง คือเกลี้ยงตู้เลยค่ะ เลยลงรถไปถาม #พอลงรถคนพ่อขับหนีค่ะเลยถามลูกว่าไม่แบ่งคนอื่นเลยเหรอ #ลูกก็บอกว่าคนอื่นเอาเยอะกว่าผมอีก

#MGR_Thaicrime

 

(May 11) ซาอุฯ จ่อเก็บVAT เพิ่ม 3 เท่า จากมาตรการรับมือโควิด-ราคาน้ำมันโลกตกต่ำ : รัฐบาลซาอุดีอาระเบียประกาศเตรียมใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 และราคาน้ำมันโลกที่ตกต่ำ โดยหนึ่งในยาแรงของมาตรการชุดนี้คือการเพิ่มการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ถึง 3 เท่า จาก 5% เป็น 15% และระงับการจ่ายเบี้ยเลี้ยงสำหรับลูกจ้างรัฐ

สำนักข่าวท้องถิ่นของทางการซาอุดีอาระเบียรายงานแถลงการณ์จาก โมฮัมเหม็ด อัล-จาดาน รัฐมนตรีคลังซาอุดีอาระเบีย ในวันนี้ (5 พฤษภาคม) ว่ารัฐบาลจะเริ่มต้นระงับการจ่ายเบี้ยเลี้ยงสำหรับลูกจ้างรัฐตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน จากนั้นจะเพิ่มการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% ในวันที่ 1 กรกฎาคม

“มาตรการเหล่านี้เจ็บปวด แต่จำเป็น เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจในระยะกลางจนถึงระยะยาว และเพื่อเอาชนะวิกฤตโควิด-19 ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยความเสียหายที่น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” อัล-จาดาน กล่าว

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียในฐานะผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกต้องเผชิญผลกระทบรุนแรงจากภาวะราคาน้ำมันตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกันมาตรการล็อกดาวน์และการหยุดชะงักของกิจกรรมในภาคธุรกิจเพื่อรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ก็ฉุดเศรษฐกิจซาอุดีอาระเบียให้ทรุดหนักมากยิ่งขึ้น

แผนรัดเข็มขัดดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางตัวเลขรายจ่ายงบประมาณของซาอุดีอาระเบียที่พุ่งสูงแซงหน้ารายรับ โดยเฉพาะในภาคสาธารณสุขและการใช้งบประมาณเพื่อช่วยพยุงภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ซาอุดีอาระเบียต้องเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณในไตรมาสแรกของปีนี้

“ความท้าทายทั้งหมดเหล่านี้หั่นรายรับของรัฐ และเพิ่มความกดดันทางการเงินจนถึงระดับที่ยากจะรับมือและเดินหน้าต่อไปโดยไม่เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งในระยะกลางจนถึงระยะยาว สิ่งที่ต้องการคือลดการใช้จ่ายให้มากขึ้นและมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนเสถียรภาพของรายได้อื่นที่ไม่ใช่จากน้ำมัน” อัล-จาดาน กล่าว

ขณะที่ตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางซาอุดีอาระเบียในเดือนมีนาคมยังลดลงด้วยอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 20 ปี และต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011

ส่วนรายได้จากน้ำมันของซาอุดีอาระเบียในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ประมาณ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีที่แล้วถึง 24% และฉุดตัวเลขรายรับทั้งหมดของซาอุดีอาระเบียลงกว่า 22%

นอกจากนี้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียยังได้ยกเลิกและระงับการใช้จ่ายด้านการดำเนินงานและการลงทุนสำหรับหน่วยงานรัฐบางแห่ง และลดงบประมาณสำหรับโครงการ Saudi Vision 2030 อันเป็นเป็นกรอบยุทธศาสตร์เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันของซาอุดีอาระเบียภายในปี 2030 ตลอดจนเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 1 แสนล้านริยัล หรือประมาณ 26,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะเดียวกันยังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาเรื่องผลประโยชน์ทางการเงินทั้งหมด ที่จ่ายให้กับลูกจ้างและพนักงานสัญญาจ้างภาครัฐ โดยกำหนดให้ส่งข้อแนะนำแก่รัฐบาลภายใน 30 วัน

Source: สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=YkZDTGZ1ZExpaGc9

เพิ่มเติม

-Saudi Arabia’s austerity drive ‘decisive and necessary,’ but could delay a consumer recovery : https://www.cnbc.com/2020/05/11/sau...sary-but-could-delay-a-consumer-recovery.html

ความคืบหน้าล่าสุด

- ซาอุฯประกาศหั่นกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน มิ.ย.: https://www.ryt9.com/s/iq30/3122638

 

อินเดียเกี้ยว บ.อเมริกันย้ายฐานการผลิตจากจีน : การแพร่ระบาด ของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอ โรคโควิด-19 ทำให้ทุกประเทศเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนระบบห่วงโซ่อุปทานเสียใหม่ โดยพึ่งพาจีนให้น้อยลง เพราะการพึ่งพาจีนทั้ง100% ทำให้เมื่อเกิดวิกฤติใดๆขึ้น กระบวนการผลิตทางด้านอุตสาหกรรมทั่วโลกก็ พลอยชะงักงันไปด้วย สร้างความเสียหาย แก่ธุรกิจและเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ามหาศาล

ล่าสุด รัฐบาลอินเดีย กำลังดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อดึงบริษัทอเมริกันกว่า 1,000 แห่งให้ถอนฐานการผลิตออกจากจีนและมาตั้งในอินเดีย โดยบริษัทอเมริกันที่ทางการอินเดียสนใจอยากเชื้อเชิญให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศมีกลุ่มบริษัทผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ อย่างบริษัทแอบบอต ลาบอราทอรีส์ และกลุ่มบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

ความพยายามในเรื่องนี้ของทางการอินเดียเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามโยนความผิดให้รัฐบาลจีนกรณีที่เกิด การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก โดยทรัมป์ บอกว่าเตรียมออกรายงานเปิดโปงต้นตอของโรคโควิด-19 พร้อมเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา หลังจาก ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เคยอ้างว่ามีหลักฐานบ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสมีต้นตอจากห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่น

นอกจากนี้ ยังระบุว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีเจตนาปกปิดข้อมูลความรุนแรงของโควิด-19 และพยายามทำทุกวิถีทาง ไม่ให้โลกรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐระบุว่า ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับจุดกำเนิดของโรคโควิด-19 และเน้นย้ำว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้น่าจะมาจากธรรมชาติ

แหล่งข่าววงในรัฐบาลอินเดีย ซึ่งปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อ ระบุว่า ช่วงเดือนเม.ย. รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี พยายามติดต่อบริษัทอเมริกันจำนวนกว่า 1,000 แห่งในสหรัฐ และจัดทีมงานลงพื้นที่ไปยังประเทศต่างๆเพื่อเสนอแรงจูงใจให้แก่บรรดา ผู้ประกอบการต่างชาติ รวมทั้งผู้ประกอบการ สัญชาติอเมริกันที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน โดยรัฐบาลอินเดีย ให้สิทธิประโยชน์เป็นพิเศษแก่กลุ่มผู้ประกอบการ ด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ กลุ่มผลิต อาหารสำเร็จรูป กลุ่มสิ่งทอ กลุ่มเครื่องหนัง และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และ การเดินสายเพื่อเสนอแรงจูงใจของรัฐบาลอินเดียครั้งนี้ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์กว่า 550 รายการ

อย่างไรก็ตาม ความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะป้ายความผิดให้กับรัฐบาลจีนกรณีการแพร่ระบาดของ

โรคโควิด-19 ทำให้นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากมีความเห็นตรงกันว่า อาจจะนำไปสู่การทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสองประเทศนี้ และความพยายามของทรัมป์ก็เกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทข้ามชาติและรัฐบาลประเทศต่างๆ พยายามหาแหล่งผลิตใหม่ที่ไม่ใช่ในจีน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดกับระบบห่วงโซ่อุปทาน โดยญี่ปุ่นลงทุนไป 2.2 พันล้านดอลลาร์เพื่อโยกฐาน การผลิตออกจากจีน ส่วนประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ก็วางแผนลดการพึ่งพา ซัพพลายเออร์จีนเช่นกัน

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 นั้น Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุด ที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 3,885,193 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 268,801 ราย โดยสหรัฐ มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลก (1,278,485) รองลงมาคือสเปน (256,855), อิตาลี (215,858), สหราชอาณาจักร (206,715), รัสเซีย (177,160), ฝรั่งเศส (174,791) และเยอรมนี (169,015)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (76,101) ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร (30,615), อิตาลี (29,958), สเปน (26,070) และฝรั่งเศส (25,987)


สำหรับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี การลงทุนของต่างชาติที่เพิ่มขึ้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาลง อย่างหนักจากมาตรการล็อกดาวน์ ทั่วประเทศนาน 8 สัปดาห์ได้ ทั้งยัง ช่วยให้แผนเพิ่มกำลังการผลิตด้านอุตสาหกรรมตามเป้า 25% ของจีดีพีประเทศ ภายในปี 2565 บรรลุผล หลังจากการระบาด ของโรคโควิด-19 ทำให้ชาวอินเดียตกงาน 122 ล้านคน

"นี่เป็นโอกาสของอินเดียที่จะ ก้าวขึ้นไปอยู่ในระบบห่วงโซ่อุปทานของโลก แต่อินเดียต้องเร่งลงทุน ก้อนโตเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างความเป็นธรรมาภิบาล เพราะทุกวันนี้ อินเดียมีคู่แข่งที่เขี้ยวๆ มากมายหลายประเทศโดยเฉพาะ ในภูมิภาคเอเชียใต้และอาเซียน" พอล สตานิแลนด์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก ซึ่งเขียนตำราเกี่ยวกับการเมืองและนโยบายต่างประเทศของอินเดีย ให้ความเห็น

เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียพยายาม โน้มน้าวผู้ประกอบการต่างชาติให้เข้ามาลงทุนโดยบอกว่าการลงทุนในอินเดีย คุ้มค่ากว่าเพราะอินเดียมีความพร้อม ด้านที่ดิน มีแรงงานที่มีทักษะจำนวนมากเมื่อเทียบกับการเข้าไปตั้งฐานการผลิตในสหรัฐหรือญี่ปุ่น แม้ว่าต้นทุนการดำเนินธุรกิจในอินเดียโดยรวมยังคงสูงกว่าในจีน พร้อมทั้งบอกว่า รัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาคำร้องของบริษัทต่างชาติให้ปรับปรุงกฎหมายแรงงาน และกำลังพิจารณา เลื่อนการประกาศใช้กฎหมายจัดเก็บภาษีในการซื้อขายสินค้าและบริการทางออนไลน์ที่แต่เดิมจะเริ่มใช้ในปีงบประมาณนี้

นี่เป็นโอกาส ของอินเดีย ที่จะก้าวขึ้น ไปอยู่ในระบบห่วงโซ่อุปทานของโลก

Source: กรุงเทพธุรกิจ

- Covid-19: India looks to lure more than 1,000 US companies out of China
:
http://timesofindia.indiatimes.com/...ofinterest&utm_medium=text&utm_campaign=cppst:
http://timesofindia.indiatimes.com/...ofinterest&utm_medium=text&utm_campaign=cppst

 

Update 20:00> "ยอดรักษาหายเพิ่มขึ้นเป็น 84.13% "

วันที่ 10.05.2020 ยอดรักษาหายยังคงเพิ่มขึ้น หากแต่ว่า ยอดผู้ติดเชื้อก็ทยอยขึ้นเช่นกัน เลยทำให้ยอดรักษาหายไม่สามารถแตะ 90% ภายในอาทิตย์นี้ได้ แต่ก็ถือว่าดี สรุปยอดรวมวันนี้ได้ดังนี้

ติดเชื้อสะสม 171,639 ราย
เสียชีวิต 7,549 ราย
รักษาหาย 144,400 ราย

ยอดที่ไทย
ติดเชื้อสะสม 3,009 ราย
เสียชีวิต 56 ราย
รักษาหาย 2,794 ราย

- เยอรมัน ถึงแม้ว่าทางภาครัฐจะผ่อนปรนมาตรการลง หากแต่ว่ายังมีม็อบออกมาประท้วงเรื่องของมาตรการของเยอรมนี ในเมือง Stuttgart, Berlin และ Mannheim โดยจำนวนล่าสุดมีคนร่วมประท้วงสูงถึง 10,000 คน

- เยอรมัน จากวิกฤตโคโรนาไวรัส ส่งผลให้ผู้บริโภคนั้นต้องจ่ายสินค้าจำพวกอุปโภคบริโภคสูงขึ้นเกือบ 10% โดยเฉพาะในกลุ่มผักและผลไม้

- เยอรมัน จับตาดูการผ่อนปรนมาตรการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดในเยอรมันอีกครั้งหรือไม่?

- เยอรมัน "อากาศแปรปรวน" ทั้งๆ ที่ แดดออกมาหลายวัน แต่อาทิตย์หน้าในประเทศจะมีบางพื้นที่ๆ มีอากาศหนาวเย็นมาก จนจะมีหิมะตก และอุณหภูมินั้นมีความแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ 1 องศา ถึง 22 องศา

- เยอรมัน "พักร้อน" ความเป็นไปได้ในการหยุดพักผ่อนภายในประเทศในเดือนสิงหาคมนั้นเป็นไปได้สูงมาก แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัด เช่นโรงแรมต้องจำกัดจำนวนเตียงในการเข้าพัก ซึ่งต้องรอฟันธงอีกครั้ง

- เยอรมัน รัฐ NRW และ Schleswig-Holstein สั่งตรวจเชื้อโควิดกับพนักงานในโรงงานบรรจุเนื้อสัตว์ทุกคน!!!

- เยอรมัน "งงกันเป็นแถว" หลังจากเพจดังบอกว่าสามารถซื้อบ้านที่มิวนิคได้ในราคา 50,000 Euro เพราะบ้านที่เยอรมันถูกว่ากรุงเทพ ส่วนสาวไทยโพสกลับว่าห้าหมื่นถ้าซื้อแค่ห้องน้ำน่าจะได้อยู่

- เยอรมัน "พ่อบ้านเยอรมันเศร้า" ส่งการบ้านการทำปาท่องโก๋ให้ลูกเพจไม่ได้เนื่องจากทอดแล้ววิ่งไปดูลูก "จึงไหม้" และภาพไม่ควรออกอากาศ

- สเปน ทยอยอนุญาตให้เปิดร้านอาหาร และ Bar ในบางเมืองได้แล้ว

- คูเวต Lockdown ประเทศยาวจนถึง 30.05.2020

- เกาหลีใต้ ส่งสัญญาณเตือนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสรอบที่สอง หลังจากพบผู้ติดเชื้อหลายคนจากย่านการเที่ยวกลางคืนของประเทศ

- รัสเซีย ยอดผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง หลังจากพบยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึงวันละหมื่นหลายวัน จนทำให้ยอด ณ ปัจจุบันทะลุ 200,000 รายไปเป็นที่เรียบร้อย

- UK พบผู้คนจำนวนมาก ออกมาดื่มเบียร์ และกินข้าวกันในสวนสาธารณะจนตำรวจต้องออกมาควบคุม

- Scotland ปฏิเสธที่จะใช้สโลแกนใหม่ในการสู้ไวรัสของ UK ที่ว่าด้วย "Stay alert, control the virus, protect lives." และยืนยันว่าจะใช้ตัวเก่าคือ #StayHomeSaveLives

- USA อดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา วิจารณ์การจัดการโควิด19 ของ Trump ว่า "มันคือหายนะของความโกลาหล"

- จีน "ยังไม่จบ" เมืองหวู่ฮั่นพบผู้ติดเชื้อรายแรกหลังจากไม่พบมานานนับเดือน

- ออสเตรเลีย ผ่อนปรนมาตรการ อนุญาตให้ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 15.05.2020

- TikTok เติบโตเป็นอย่างมากในช่วงวิกฤตโคโรนา เพราะเนื่องจากคนแห่กันเข้าไปเล่น และล่าสุดแอบซุ่มเงียบเข้าไปตั้งสำนักงานในอังกฤษเพื่อเป็น Hub ในยุโรปแล้วเรียบร้อย

- ไทย นายกรัฐมนตรีสั่งทำโพลว่าประชาชนอยากจะให้ประกาศเลิก พรก ฉุกเฉินหรือไม่

- ไทย เพื่อลดความแออัด เตรียมเสนอให้เหลื่อมเวลาการเข้างานของรัฐวิสาหกิจและข้าราชการ ไม่ให้ตรงกับภาคเอกชน

- ราศีที่จะมีความสุขเพราะได้ข่าวดี และได้รับความห่วงใยจากครอบครัวอย่างเต็มที่คือราศี "ธนู"

- ราศีที่จะได้รับผลตอบแทนจากสิ่งที่คุณทำหรือลงทุนไปอย่างคุ้มค่า จนพ่อบ้านบอกได้เลยครับว่า คุ้มค่าทุกหยาดเหงื่อคือราศี "มังกร"

"อยากสอบถามว่า ข้อมูลของเพจพ่อบ้าน เป็นอย่างไรบ้าง"

"ถ้าเหมือนว่าข้อมูลไป Copy เพจไหนรบกวนแจ้งด้วยนะครับ"

"พร้อมปรับปรุง อยู่เสมอ"

"ปาท่องโก๋ ขอทอดใหม่พรุ่งนี้นะครับ ไหม้ไปแล้วเรียบร้อย ทำใจไม่ได้ ฮ่า"

"สำหรับวันนี้ ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ"

#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German #Covid19

ที่มาของข่าวการประท้วง
https://www.bild.de/video/clip/news...tieren-gegen-corona-regeln-70552752.bild.html

ที่มาของข่าวการพักร้อนในประเทศ
https://www.bild.de/bild-plus/sparf...cht-70559454,view=conversionToLogin.bild.html

ที่มาของข่าวคูเวต, จีน และ USA
https://edition.cnn.com/world/live-news/coronavirus-pandemic-05-10-20-intl/index.html

https://www.bbc.com/news/live/world-52601754

ที่มาข่าวอากาศแปรปรวน
https://www.focus.de/panorama/wette...nstart-schnee-und-frost-gibt_id_11975022.html

ที่มาข่าวราคาของแพงขึ้น
https://www.focus.de/finanzen/news/...obst-und-gemuese-unbezahlbar_id_11974131.html

ที่มาของข่าวอื่นๆ:
Tagesschau เวลา 20:00 น
Aljazeera : https://www.aljazeera.com/
CNN Asia : https://www.cnn.com/asia
CNBC : https://www.cnbc.com
BBC : www.bbc.com
CNN : www.cnn.com
The Local : https://www.thelocal.de/
Siamtownus : http://news.siamtownus.com/
Kapook.com : www.kapook.com
Sanook.com : www.sanook.com
Welt.de : https://www.welt.de/
Merkur.de : https://www.merkur.de/welt/

 

ตามที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวได้เปิดให้คนไทยในญี่ปุ่น ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะกลับประเทศไทยโดยเร่งด่วน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการดำเนินการจัด “เที่ยวบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทย” เป็นกรณีพิเศษในช่วงการประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยได้ประสานงานกับสายการบินไทย All Nippon Airways และ Japan Airlines จัด “เที่ยวบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทย” ได้ 10 เที่ยวบิน โดยมีคนไทยในญี่ปุ่นสามารถเดินทางกลับกว่า 460 คนแล้ว นั้น
โดยที่ยังไม่มีความแน่ชัดว่าจะมีการขยายช่วงห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวต่อไปในเดือนมิถุนายนอีกหรือไม่ กอปรกับยังมีคนไทยอีกเป็นจำนวนมากแสดงความจำนงจะเดินทางกลับไทยในโอกาสแรก สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขออนุมัติจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 (ศบค.) โดยความร่วมมือของสายการบินต่างๆ จัด “เที่ยวบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทย” ดังนี้

1. All Nippon Airways และ Japan Airlines ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 จำนวน 120 ที่นั่ง (จากสนามบินฮาเนดะ)

2. สายการบินไทย ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 จำนวน 30 ที่นั่ง (จากสนามบินนาริตะ)

3. สายการบิน Nok Scoot ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 จำนวน 50 ที่นั่ง (จากสนามบินนาริตะ)

ในการนี้ จึงขอให้ผู้ที่ประสงค์และพร้อมที่จะเดินทางในวันดังกล่าวลงทะเบียนตามลิงค์ต่อไปนี้
https://forms.gle/TUuxtFJekCW8jpm58
ภายในวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2563 เวลา 15.00 น.

ทั้งนี้
- ผู้โดยสารที่มีบัตรโดยสารของ ANA หรือ JAL อยู่แล้ว ขอให้ลงทะเบียนโดยอย่ายกเลิกบัตรโดยสารที่มีอยู่ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะประสานงานกับสายการบินในการเปลี่ยนวันเดินทางให้เป็นวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 (หากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบ) ท่านที่ไม่มีบัตรโดยสาร แต่ประสงค์จะเดินทางในเที่ยวบินนี้ ขอให้ซื้อบัตรโดยสารของเดือนมิถุนายนของสายการบิน JAL โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะประสานงานกับสายการบินในการเปลี่ยนวันเดินทางให้เป็นวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ต่อไป

- ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับโดยสายการบินไทย สามารถจองบัตรโดยสารโดยตรงทางเว็บไซต์ของการบินไทย และส่งสำเนาหนังสือเดินทางและบัตรโดยสารมาให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ rtetokyo2020.3@gmail.com

- ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับโดยสายการบิน Nok Scoot เมื่อท่านลงทะเบียนแล้วและได้รับการจัดสรรที่นั่งบนเที่ยวบินนี้ สายการบิน Nok Scoot จะติดต่อท่านโดยตรงในเรื่องการซื้อบัตรโดยสาร สำหรับท่านที่มีบัตรโดยสารของ Nok Scoot อยู่ สามารถทำการขอคืนเงินเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทย

❗️❗️❗️เมื่อท่านได้บัตรโดยสารแล้ว ขอให้ส่งหน้าหนังสือเดินทางและบัตรโดยสารมาที่
Email : rtetokyo2020.3@gmail.com โดยทันที
โดยเขียนหัวข้อว่า
25 MAY flight-ชื่อ-นามสกุล (ภาษาอังกฤษ)-เที่ยวบินที่มี-วันเดินทางในตั๋ว เช่น
“25 MAY flight-KONTHAI JAIDEE-TG643-25 MAY”

อนึ่ง โดยที่โควตาที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับจัดสรรในการนำคนไทยกลับในแต่ละเที่ยวบินมีจำกัด สถานเอกอัครราชทูตฯ ของสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาจัดสรรให้ตามหลักมนุษยธรรมและกรณีเร่งด่วนก่อน สำหรับท่านที่ยังไม่มีความเร่งด่วนในการเดินทางกลับประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ชะลอการเดินทางออกไปก่อน ทั้งนี้ เมื่อมีเที่ยวบินถัดไป จะประกาศให้ทราบต่อไป

 

#ข่าวสั้น โตเกียวพบผู้ติดเชื้อใหม่ 15 ราย ยอดต่ำกว่า 100 รายเป็นวันที่ 6 ติดกันแล้ว

✒️วันนี้วันจันทร์ ปรกติยอดน้อยอยู่แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องน่ายินดีค่ะ ลุ้นกันต่อนะคะทุกคน Golden week cluster ระเบิดหรือเอาอยู่ เห็นภายใน 2 อาทิตย์นี้ค่ะ

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

ภาพ: NNN

 

#ข่าวสั้น (11 พ.ค.) โยมิอุริรายงานว่า ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อของโตเกียวอาจผิดพลาดหายไปประมาณ 100 ราย เนื่องจากทางอนามัยเมือง/เขต รายงานซับซ้อน/ กรอกไม่ครบ ขณะนี้กำลังแก้ไขเลขอยู่

จากข่าวที่แล้วรายงานเรื่องการใช้ Fax เพื่อมาเขียนต่อทำให้ข้อมูลพลาดไปนั้น จ. โตเกียวกำลังชำระข้อมูลใหม่

ก็เลยไปพบว่า อนามัยเมือง/เขต ของโตเกียวกรอกไม่ครบ / กรอกซ้ำซ้อนเยอะมาก

สาเหตุหนึ่งนอกจาก Fax แล้วก็คือ ต้องนำข้อมูลที่อยู่ในเครื่องออกมากรอกด้วยมือ ก่อนส่งไปให้โตเกียว ทำให้เกิด human error ได้ง่าย

สาเหตุน่าจะมาจากการไม่มี “format หลัก” ให้กับอนามัย

อนามัยเองก็งานก็เต็มมือ ไหนจะต้องรับโทรศัพท์ปรึกษาว่าจะไปรพ. ไหนดี (ที่ญี่ปุ่นเป็น blind / คนไข้ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน) ไหนจะต้องตามหาต้นตอคนติดเชื้อ ฯลฯ

โยมิอุริบอกว่าน่าจะทำให้ข้อมูลผู้ติดเชื้อหายไปประมาณ 100 ราย

✒️ของวันไหนที่ผิด ช่วง GW หรือ ช่วงเดือนเมษา หรือ ช่วงไหน ยังไม่รู้นะคะ อาจจะรวม ๆ กันเพราะน่าจะผิดมาเรื่อย ๆ

✒️อย่างที่แอดคุยให้ฟังมาหลายวันนะคะ ว่าสถิติของญี่ปุ่นตอนนี้งงและมั่วมาก เพราะไม่มี format ที่แน่นอน แต่ละที่แต่ละจังหวัด อยากจะรายงานอะไรก็ยึดของท้องถิ่นเป็นหลัก

อย่าง คานางาวะ ชิบะ ลงไปถึงชื่อสถานที่ แต่ไอจิบอกแค่เมืองคร่าว ๆ

✒️ดังนั้น ถ้าอาทิตย์นี้อยู่ดี ๆ ยอดเด้ง อาจจะมียอดแก้เข้ามาด้วย ไม่ใช่คนติดเชื้อใหม่นะคะ

✒️ไม่รู้จะเชื่อเลขของใครดีแล้วค่ะเนี่ย....

✒️แต่อย่างน้อยก็ควรชื่นชมที่ออกมายอมรับและคิดแก้ไขนะคะ

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

https://news.livedoor.com/article/detail/18243470/

 

ประท้วงมาตรการกักกันของรัฐบาลเยอรมัน
.
ประชาชนหลายเมืองในเยอรมันออกมาประท้วงรัฐบาลกับมาตรการกักกัน เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด19
ปัจจุบันในโลกตะวันตก การสั่งกักตัวเพื่อควบคุมโรคกลายเป็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน ชาวตะวันตกหลายคนไม่ยอมและในหลายๆชาติมีการประท้วงเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 

สว สหรัฐฯเสนอเปลี่ยนชื่อถนนประชดจีน
.
Tom Cotton สว สหรัฐฯแห่งรัฐ อาคันซอ เสนอเปลี่ยนชื่อถนนหน้าสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันดีซีเป็น Li Wenliang Plaza ตามชื่อคุณหมอ Li Wenliang ซึ่งคุณหมอเสียชีวิตหลังออกมาเปิดเผยการระบาดของไวรัสครูหน้าอันเป็นต้นทางของโรคโควิด 19
โดยข้อความของคุณหมอคือ
“มีคนติดเชื้อไวรัสที่มีอาการคล้ายโรคซาร์ส ที่คาดว่าติดเชื้อมาจากตลาดสดค้าเนื้อสัตว์ป่า” ในคืนนั้น #WuhanSars ติดเทรนด์ Weibo เฟสบุคจีน
แต่ข้อความดังกล่าว ถูกทางรัฐบาลลบและเซ็นเซอร์ข้อความไปเสียก่อน นอกจากนี้เขายังถูกดำเนินคดีว่าจะเสนอข้อความอันเป็นเท็จ ก่อนที่รัฐบาลจีนจะประกาศยืนยันว่ามีการติดต่อจากคนสู่คนก็มีคนติดเชื้อไวรัสพุ่งไป 536 คนแล้ว หมอหลี่โพสต์ข้อความใน Weibo 1 วันก่อนจะพบว่าเขาติดเชื้อไวรัสโคโรนาและเสียชีวิตในเดินธันวาคมปีที่แล้ว
.
โดยสว ผู้เสนอเปลี่ยนชื่อถนนกล่าวว่าเรื่องราวของคุณหมอกำลังถูกลบเลือนโดยรัฐบาลจีน เขาจึงเสนอเปลี่ยนชื่อถนนหน้าสถานทูตเป็นชื่อคุณหมอ เพื่อให้คนจดจำการปกปิดข้อมูลของรัฐบาลจีน

 

เรียนออนไลน์ไปช่วยแม่ไป
.
กลายเป็นภาพส่งต่อมากที่สุดภาพหนึ่งในประเทศจีน ของเด็กผู้หญิง 7 ขวบในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน โดยเธอเรียนใต้เขียงเนื้อของแม่ โดยหลังยุคการระบาดของโควิด 19 การเรียนในประเทศจีนบางส่วนใช้การเรียนออนไลน์ ซึ่งการเรียนแบบนี้นั้นผู้ปกครองจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการเรียนของเด็กๆด้วย ดังนั้นคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาแล้วต้องทำงานจึงพาลูกมาเรียนโดยให้ลูกอยู่ใต้เขียงของเธอและเมื่อลูกว่างจากการเรียนก็มาช่วยคุณแม่ทำงานด้วยเช่นกัน

 

โรงแรมลดราคาแข่งกับอพาร์ทเม้นท์?
.
ฟังดูอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่โรงแรมซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าจะลดราคาไปแข่งสู้กับอพาร์ทเม้นท์แต่ต้องบอกว่าสิ่งเหล่านี้เกิดแล้วหลังการระบาดของโควิด 19 โรงแรมหลายแห่งยอมลดราคาลงจนน่าตกใจบางแห่งนั้นราคารายเดือนระดับเดียวกับอพาร์ทเม้นท์ด้วยซ้ำ แถมยังมีบริการทำความสะอาดให้อีก นี่เป็นเรื่องจริง ผมได้ลงเฟสของโรงแรมที่มีราคารายเดือนน่าสนใจลองไปดูกันได้
ว่าตามจริงนะด้วยดีไซน์ขนาดห้องทำเลที่ตั้งเมื่อดูราคารายเดือนแล้วน่าสนใจจริงๆ











https://facebook.com/111916962201299/posts/3049270138465952/?d=n

https://facebook.com/1307906602598008/posts/2831346780253975/?d=n

https://facebook.com/497276564094798/posts/818852568603861/?d=n

https://www.facebook.com/263790997140682/posts/1419128978273539/

 

ยูทูปเบอร์ชาวอินโดนีเซียอาจถูกจำคุก 12 ปี หลังแกล้งสตรีข้ามเพศ
.
Ferdian Paleka และเพื่อนของเขาได้ถ่ายทำวีดีโอคลิปกลั่นแกล้งสตรีข้ามเพศโดยการบริจาคอาหารให้กับสตรีข้ามเพศเหล่านั้นแต่ในกล่องอาหารกลับเป็นขยะ
เขากล่าวในวีดีโอเขาว่า
.
“We want to survey whether or not the bencong are on the streets in this fasting month... If we encounter them, we’ll give them the packages. But if they’re not around, that means the city is safe from them.”
“ เราต้องออกสำรวจว่ามี bencong(กระเทย คำหยาบ)อยู่บนท้องถนนในเดือนที่ศีลอดนี้หรือไม่…ถ้าเราเจอพวกเขาเราจะมอบแพ็คเกจ(ที่เป็นกล่องอาหารใส่ขยะ)ให้พวกเขา แต่ถ้าพวกเขาไม่อยู่นั่นหมายความว่าเมืองปลอดภัยจากพวกเขา”
.
เรื่องนี้สร้างความโกรธเคืองให้กับสตรีข้ามเพศที่ได้รับการแกล้งโดยพวกเธอมองว่าพวกเขากระทำกับเธอเหมือนถังขยะ
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางสังคมของอินโดนีเซียเนื่องจากมีประเด็นในเรื่องของการเหยียดเพศ LGBT โดยทาง YouTube ได้ลบวีดีโอของพวกเขาและนอกจากนี้พวกเขายังโดนตำรวจจับกุมและกำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนมาตรา 45 ของกฎหมายข้อมูลและธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ITE) เรื่องการหมิ่นประมาทรวมถึงมาตรา 36 ของกฎหมายเดียวกัน
ซึ่งหากเขาถูกตัดสินว่าผิดอ่านถูกจำคุก 12 ปีและถูกปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 12 พันล้านรูเปียห์ (25 ล้านบาท)

 

ติดโตวิด 19 เพราะรวมกลุ่มประท้วง
.
เรียกว่า พีคในพีคคงได้ เร็วๆนี้มีการตรวจผู้ชุมนุมประท้วงมาตรการ #Lockdown ที่รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา พบว่าหลังจากการชุมนุมหนนั้นมีการตรวจไปราวๆ 1 ใน 3 พบผู้ติดเชื้อ #โควิด19 ไป 75 คน........หลายคนเชื่อว่าหากตรวจทั้งหมดน่าจะเจอมากกว่านี้......

#COVID19 #ไวรัสโคโรนา #coronavirus #Wisconsin

 

การระบาดของโรคโควิด-19ในไต้หวันเริ่มทุเลาลง ศูนย์บัญชาการฯประกาศเริ่มปลดล็อกกิจกรรมต่างๆ ทางกระทรวงคมนาคมและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ได้จัดประชุมทำแผนการท่องเที่ยวปลดล็อก 3 ขั้นตอนโดยเริ่มจากการท่องเที่ยวป้องกันการแพร่ระบาด เริ่มใช้แผนเร็วสุดเดือนมิถุนายนนี้

 

จีนออกโรงค้านสหรัฐกรณีเล่นเกมการเมืองด้วยการกดดันสื่อจีน

จีนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง และยื่นเรื่องคัดค้านการตัดสินใจของสหรัฐอย่างถึงที่สุด เนื่องจากสหรัฐได้ร่นระยะเวลาวีซ่าหรือเอกสารอนุมัติที่ประทับตราบนหนังสือเดินทางแก่ผู้สื่อข่าวจีนเหลือเพียง 90 วัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าวนั้น นายเจ้า ลี่เจียน โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้กล่าวเรียกร้องให้สหรัฐเปลี่ยนแปลงการกระทำอันไม่ชอบธรรมนี้โดยด่วน มิฉะนั้นจีนจะใช้มาตรการตอบโต้กลับเช่นกัน

Ryt9

 

The World after unlimited QE
โลกหลังยุค QE Unlimited จะเป็นยังไง..❓

ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำจากวิกฤติโรคระบาด ประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะสหรัฐ ยูโร ญี่ปุ่น
➡️ ล้วนใช้กลไกการอัดฉีดเศรษฐกิจด้วยการพิมพ์เงิน หรือที่เรียกว่า QE กันทั้งสิ้น

แต่ในมุมประเทศเล็กๆ ล่ะ ข่าวว่าตุรกีเตรียม QE แล้วประเทศอย่างไทย ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีโอกาสจะพิจารณาทางเลือกนี้อยู่

สิ่งที่จะตามมาจากการ QE ของประเทศเล็กคืออะไร..❓

ก่อนอื่น เราต้องมองภาพให้ชัดก่อนว่า เงินที่ธนาคารกลางพิมพ์ออกมานั้นจะเอาไปทำอะไร

โดยปกติแบงค์ชาติพิมพ์เงินก็เอาไปใช้ไม่กี่อย่างครับ
1️⃣. ซื้อสินทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์
2️⃣. ปล่อยกู้ให้รัฐบาล

ถ้าเป็นข้อ 1 คือแบงค์ชาติ
➡️ เพิ่มสภาพคล่องให้ธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์สามารถประกอบธุรกิจ หรือ
➡️ ปล่อยสินเชื่อให้ real sector เดินหน้าต่อได้

ส่วนข้อ 2 คือ
➡️ การอัดฉีดเงินให้รัฐโดยตรง
➡️ รัฐก็เอาเงินที่ได้ ไปกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น แจกเงินประชาชน อุ้ม SME ฯลฯ ก็ว่ากันไป

แต่รัฐต้องแลกมาด้วยการทำงบประมาณขาดดุล‼️
นั่นคือ หนี้รัฐบาลจะสูงขึ้นมาก⬆️ (ปัจจุบันอยู่แถวๆ 40% ของ GDP แต่ปีนี้คงโดดไปเยอะ เพราะกู้เพิ่มเยอะ แล้ว GDP น่าจะตกหนักด้วย)

แต่เดี๋ยวก่อน..

ปกติแล้วรัฐสามารถออกพันธบัตรขายให้ประชาชนหรือนักลงทุนได้อยู่แล้ว แล้วทำไมแบงค์ชาติต้องมาซื้อพันธบัตรด้วย..?

สาเหตุชัดเจนมีสาเหตุเดียวครับ

หานักลงทุนที่อยากให้รัฐบาลกู้ไม่ได้..!!
⤵️⤵️
พูดง่ายๆ ว่า ถ้าแบงค์ชาติ QE มาซื้อพันธบัตร นั่นหมายถึง พันธบัตรของรัฐบาลประเทศนั้นๆ ไม่จูงใจให้คนมาถือ

หรือก็คือ ผลตอบแทน เทียบกับความเสี่ยง มันไม่คุ้มกัน

ตอนสหรัฐ QE ทั้งช่วงหลัง Subprime และช่วง Covid คือ รัฐต้องการเงินมหาศาลอย่างเร่งด่วน รอไม่ได้ ธนาคารกลางเลยมาจัดการเป็นคนแทรกแซงตลาด ซื้อพันธบัตรแทนซะ

ตอนประกันสังคมญี่ปุ่น ทนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไม่ไหว ขายพันธบัตรทิ้ง ธนาคารกลางญี่ปุ่นเลยต้องมารับซื้อพันธบัตรไม่อั้น ให้รัฐมีเงินไว้ใช้จ่ายต่อไป

แต่..

ถ้าธนาคารกลางประเทศเล็กๆ QE เพื่อมาซื้อพันธบัตรประเทศตัวเอง

‼️ ความเสี่ยงนี่น่ากลัวอย่างนึงอาจจะเกิดขึ้น นั่นคือ เครดิตความน่าเชื่อถือของรัฐจะเสียไป เหมือนกรณีประเทศอย่างซิมบับเว เคยพิมพ์เงินจนเงินเฟ้อรุนแรง
➡️ (Hyperinflation)

แต่ในภาวะผิดปกติอย่าง Covid ตอนนี้ ผมไม่แน่ใจว่าทฤษฏี พิมพ์เงินแล้วเงินจะเฟ้อ จะยังคงได้ผล

เพราะหัวใจสำคัญของโลกเราตอนนี้ คือการยื้อระบบเศรษฐกิจ ไม่ให้ล่มสลายไปเพราะโรคระบาด

ถ้าการพิมพ์เงิน มันช่วยให้รัฐมีกระสุนที่จะอัดฉีดประคองระบบเศรษฐกิจได้จริง

มันอาจจะกลับกลายเป็นเรื่องดี ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ว่าประเทศจะยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ล่มสลายไปพร้อมกับโรคติดต่อ

‼️ สุดท้าย ประเทศใดๆ
➡️ จะเกิดอภิมหาเงินเฟ้อ (Hyperinflation) หรือไม่นั้น
➡️ ท้ายสุดแล้วมันไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับปริมาณเงินที่พิมพ์ออกมาเลย‼️

แต่มันเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่น (trust) ที่นักลงทุนมีต่อประเทศนั้นๆ ต่างหาก

สหรัฐอเมริกา ยูโร ญี่ปุ่น อังกฤษ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ถึงพิมพ์เงิน ก็ไม่เฟ้อ และอยู่มายาวๆ ร่วม 10 ปี

การพิมพ์เงินของธนาคารกลางอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำลายเครดิตประเทศ แต่ถ้าพิมพ์เงินแล้ว ช่วยให้ประเทศเดินหน้าต่อได้ เรื่องราวก็อาจจะกลับกลายเป็นตรงกันข้าม

เหมือนตอนสหรัฐ QE หลัง Covid ปรากฏว่า Dollar Index แข็งโป๊ก สวนทฤษฏีหน้าตาเฉย‼️

นั่นก็เพราะคน "เชื่อ" ว่าเงินที่พิมพ์ออกมานี้จะช่วยให้สหรัฐเดินหน้าต่อไปได้

แต่ยังไงก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว เงินที่พิมพ์ออกมา มันต้องไหลไปที่ไหนซักแห่ง

ถ้าเงินนั้น ไหลเข้ามือนายทุน ไหลเข้าตลาดหุ้น ตลาดเก็งกำไร ภาพโลกเราหลังจากนี้ ก็คงจะกลับไปคล้ายกับช่วงหลัง Subprime นั่นคือสินทรัพย์ทั่วโลกวิ่ง bull กันถ้วนหน้า แต่ภาวะเงินฝืดก็จะยังมีต่อไป เพราะเงินไม่ได้ไหลเวียนใน real sector คนส่วนใหญ่ยังจน ไม่มีเงินที่จะหมุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

แต่กลับกัน ถ้าเงินนั้น ไหลเข้ามือรากหญ้า ไหลเข้า real sector โลกเราหลังจากนี้คงมีเงินหมุนดีขึ้น
⬆️เงินก็จะเริ่มเฟ้อขึ้น และเศรษฐกิจคงจะเริ่มขยับเขยื้อนได้บ้าง (ขึ้นกับภาวะโรคระบาดหลังจากนี้ด้วย)

ส่วนประเทศนั้นๆ จะเกิด Hyperinflation หรือไม่ ผมคิดว่ามันขึ้นกับพื้นฐานความแข็งแกร่งของประเทศ‼️

สมมตินะครับ สมมติว่าจีนหรือเกาหลีใต้ QE ไม่อั้น เพื่อเอามากระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเกิด Covid Wave 2 จริง

คนที่เชื่อมั่น ว่าปัญหานี้เป็นเพียงปัญหาชั่วคราว อีก 1-2 ปี เมื่อวิคซีนสำเร็จ ปัญหาก็จะหายไป
จีนและเกาหลีก็จะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในกรณีแบบนี้ ยังไงเงินหยวน กับเงินวอน ก็จะไม่ Hyperinflation แน่ๆ‼️

พูดง่ายๆ ว่า ถ้าคนยังเชื่อ ว่าประเทศนั้นจะไม่ล่มสลาย เงินก็ไม่มีทางหมดค่า แต่กลับกัน ถ้าประเทศไทย QE เราคงต้องกลับมาตั้งคำถามว่า พื้นฐานของไทยนั้นแข็งแกร่งในระดับไม่มีโอกาสเจ๊งหรือไม่

อันนี้เป็นคำถามปลายเปิด ที่พวกเราอาจจะมีคำตอบในใจที่แตกต่างกัน

PS. แต่ในระยะยาวแล้ว อย่าลืมว่า ปริมาณเงินในเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้นเยอะมากจนเกินไปมานานแล้ว จะช้าหรือเร็ว วงจรการเพิ่มหนี้จากเครดิต จะต้องชะลอลง เข้าสู่ช่วง ➡️ deleveraging

หัวใจสำคัญของระบบทุนนิยมหลังจากนี้ คือ
➡️ โลกของเรา จะ deleverage หนี้ต่างๆ อย่างไร ถ้าเดินหน้าผิดพลาด อาจจะถึงระดับการล่มสลายของทุนนิยมเลยทีเดียว

ผมเองก็ไม่รู้อนาคต แต่บอกได้เพียงว่า ระบบเศรษฐกิจโลกหลังจากนี้ แทบจะอ้างอิงทฤษฏีจากในตำราไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

เราได้แต่ติดตาม ทำความเข้าใจ เหตุ/ผล ของกลไกเศรษฐศาสตร์ใหม่ๆ และหวังว่า ซักวันหนึ่งเราอาจจะเข้ามันได้มากขึ้นในที่สุด

Cr:niran pravithana