ติดตามสถานะการณ์

Rodolfo Brenes

อีกหนึ่งวิดีโอ ตำรวจอินเดียที่ทุบตีผู้ที่ละเมิดการกักกันเนื่องจาก coronavirus

 

Setiawan

เพื่อนของฉันหลายคนกำลังแพร่กระจายข่าวปลอม☹️
นี่คือวิดีโอ 2017 ในเม็กซิโก

โปรดลบทิ้ง
คุณให้ข้อมูลเท็จและทำร้ายผู้คนในเมืองและประเทศนั้น
คุณให้ข่าวที่ทำร้ายพวกเขา

Many of my friends are spreading fake news ☹️
This is 2017 video in Mexico

Please delete it.
You gave false information and hurt the people of that city and country.
You gave news that harmed them

 

ดีไม่ดีคืนนี้หรือพรุ่งนี้ยอดผู้ติดเชื้อน่าจะเกินครึ่งล้าน

https://www.worldometers.info/coronavirus/

 

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งเป็นประวัติการณ์จากพิษโควิด-19
: กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.28 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในช่วง 1-4 ล้านราย ส่วนตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 ล้านราย

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 695,000 รายที่ทำไว้เมื่อเดือนต.ค.2525

การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้แห่ปิดกิจการ ท่ามกลางผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 27,500 ราย สู่ระดับ 1,731,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

Source: --อินโฟเควสท์
แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
www.cnbc.com

 

แจ้งเตือน: ผู้ที่นั่งเครื่องTG350ปากี-กรุงเทพ และ TG911ลอนดอน-กรุงเทพ 20มี.ค. (ถึงไทย21มี.ค.) ควรกักตัว เพราะ กว่างโจวพบผู้โดยสารเที่ยวบิน TG668 ที่บินจากไทยไปกว่างโจว เมื่อ21มี.ค.63 ติดเชื้อ 8ราย เป็นผู้โดยสารจีนและต่างชาติที่บินจากปากีสถานและอังกฤษมาเปลี่ยนเครื่องที่ไทย (เที่ยวบินจากปากีสถาน TG350 และจากลอนดอน TG911)

.

โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ชายชาวจีน วัย53ปี ช่วงนี้ไปอยู่ที่ปากีสถาน

วันที่ 20มี.ค. นั่งเครื่องจากปากีสถานไปยังกรุงเทพ เที่ยวบินTG350 เลขที่นั่ง43F

เมื่อถึงไทยวันที่21มี.ค. ได้นั่งเครื่องจากกรุงเทพบินต่อไปยังกว่างโจว ด้วยเที่ยวบิน TG668 เลขที่นั่ง54G

2. ชายชาวจีน 4ราย ไปทำกิจกรรมที่ปากีสถาน จากนั้นวันที่ 20มี.ค. นั่งเครื่องจากปากีสถานไปยังกรุงเทพ เที่ยวบินTG350 จากนั้น 21มี.ค. เปลี่ยนเครื่องเป็น TG668 เพื่อไปกว่างโจว โดยหมายเลขที่นั่ง คือ 58D,58E,58F และ 59D

3. ชายชาวจีน วัย25ปี เรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษ วันที่ 20มี.ค. นั่งเครื่องจากลอนดอนไปยังกรุงเทพ เที่ยวบิน TG911 โดยถึงกรุงเทพวันที่ 21มี.ค. หลังจากถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 3ชั่วโมง นั่งเครื่องจากกรุงเทพไปกว่างโจว ด้วยเที่ยวบิน TG668

ตรวจอุณหภูมิร่างกายถึง4รอบ พบว่าปกติ แต่สุดท้ายผลตรวจก็ออกมาว่า ป่วยCOVID-19

4. ชายชาวจีน วัย30ปี เป็นชาวจีน แต่ช่วงนี้พักที่ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 20มี.ค. นั่งเครื่องจากลอนดอนไปยังกรุงเทพ เที่ยวบิน TG911 เลขที่นั่ง39J

จากนั้น 21มี.ค. นั่งเครื่อง เที่ยวบิน TG668 จากกรุงเทพไปยังกว่างโจว หมายเลขที่นั่ง 55K

ผู้ป่วยรายนี้ เมื่อถึงสนามบินกว่างโจว พบว่ามีไข้ อุณหภูมิร่างกายวัดได้ 38องศา

5. ชายชาวอังกฤษ วัย23ปี

วันที่ 20มี.ค. นั่งเครื่องจากลอนดอนไปยังกรุงเทพ และ 21มี.ค. นั่งเครื่องจากกรุงเทพไปกว่างโจว ด้วยเที่ยวบิน TG668 เลขที่นั่ง 44K

เมื่อถึงสนามบินกว่างโจว พบว่ารู้สึกไม่สบาย

.

สรุป

- เดินทางจากปากีสถานเข้าไทยและจากกรุงเทพไปกว่างโจว ด้วยเที่ยวบินเดียวกันทั้งไฟล์ทปากีสถาน-กรุงเทพ TG350 และ กรุงเทพ-กว่างโจว TG668 ทั้งหมด 5ราย

- เดินทางจากลอนดอน อังกฤษ เข้าไทยและจากกรุงเทพไปกว่างโจว ด้วยเที่ยวบิน TG668 ทั้งหมด 3 ราย

(ในรายละเอียดจากสื่อจีน มี2ใน3ราย ที่ระบุเที่ยวบินจากลอนดอน เที่ยวบิน TG911)

- ใครที่รู้ตัวว่า นั่งเที่ยวบิน TG350 ปากีสถาน-กรุงเทพ วันที่ 20มี.ค. , TG911 ลอนดอน-กรุงเทพ 20มี.ค. ควรกักตัวนะครับ (สำหรับเที่ยวบิน TG668 กรุงเทพ-กว่างโจว 21มี.ค. อันนี้พอไปถึงจีน ก็จะโดนกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอยู่แล้ว และยิ่งตอนนี้มี 8รายที่นั่งเที่ยวบินนี้ด้วยกัน ทุกคนบนเครื่องจึงเป็นกลุ่มเสี่ยง)

- นอกจาก ผู้ป่วยทั้ง8ราย เที่ยวบินTG668 กรุงเทพ-กว่างโจว ล่าสุดวันที่ 26 มี.ค. 63 ยังพบผู้ป่วยรายใหม่ในจีน ที่เดินทางจากอังกฤษ เปลี่ยนเครื่องที่ไทย เพื่อเดินทางจากไทยไปยังสนามบินผู่ตง มหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อ22มี.ค. จากการรายงานของ 央视新闻 (CCTV News) แต่ไม่ได้ระบุเลขเที่ยวบิน

.

อ้ายจงอ้างอิงข้อมูลจาก

- Weibo: 羊城晚报 (Yangcheng Evening news) สื่อท้องถิ่นกว่างโจว
https://m.weibo.cn/1497087080/4486381159897399

- Beijing News
http://www.bjnews.com.cn/wevideo/2020/03/25/708965.html

- Weibo:人民网 (People's Daily)
https://m.weibo.cn/2286908003/4486010480031708

- CCTV News
https://m.weibo.cn/2656274875/4486635267317881

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

เปิด10ข้อ มาตรการของทางการจีน ในการช่วยเหลือและดูแลบุคลากรทางการแพทย์ที่สู้ศึกในแนวหน้าการแพร่ระบาดCOVID-19

.

1. เพิ่มค่าตอบแทนเป็น 2เท่า พร้อมกับสวัสดิการด้านสุขภาพและป้องกันการติดโรคระบาด สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ปฏืบัติหน้าที่ ณ แนวหน้า มณฑลหูเป่ย ซึ่งครอบคลุมทั้งที่เป็นบุคลากรในมณฑลหูเป่ยอยู่แล้วและมาจากมณฑลอื่นๆ

2. มีมาตรการในการดูแลหากบุคลกรทางการแพทย์ ณ แนวหน้า ได้รับการบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้า

3. ได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษในการประเมินเพื่อปรับเลื่อนตำแหน่งในสายงาน

4.อำนวยความสะดวกและจัดเตรียมที่พักที่ดีสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในแนวหน้า พร้อมทั้งเตรียมสิ่งจำเป็นต่างๆที่ต้องใช้ เช่น เตรียมยาในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บพื้นฐานเอาไว้ให้, จัดเตรียมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ , ที่พักมีสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยที่ดี

นอกจากนี้ยังจัดเตรียมรถเอาไว้บริการรับส่งโดยเฉพาะ

5. จัดหามาตรการและอุปกรณ์ป้องกันตนเองให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ณ แนวหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะปลอดภัยและเสี่ยงน้อยที่สุด

6. มีมาตรการผลัดเปลี่ยนเวรของบุคลากรทางการแพทย์อย่างเหมาะสม ไม่ให้มีภาระงานโหลดและระยะเวลายาวนานเกินไป

เมื่อการระบาดสิ้นสุด ให้บุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ตรวจร่างกายฟรี และได้รับวันลาพักร้อนเพิ่ม

7. มีมาตรการป้องกันการเกิดปัญหาต่อสขภาพจิตอันเนื่องมาจากการปฏิบัติงาน โดยจะมีการประเมินทางสุขภาพจิตของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน และให้การปรึกษา-รักษาอย่างทันท่วงที หากบุคลากรทางการแพทย์คนใดมีปัญหา

8. ให้ความช่วยเหลือพิเศษแก่ครอบครัวของบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานแนวหน้า

9. เพื่อให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนมีความปลอดภัยมากที่สุด หากเกิดเหตุที่มีคนเข้ามาทำให้บุคลากรทางการแพทย์เกิดการบาดเจ็บ บุคคลผู้นั้นจะต้องได้รับโทษอย่างหนัก

10. เพื่อเป็นการตอบแทนการเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ ณ แนวหน้า ที่ปฏิบัติหน้าที่จนเสียชีวิต ทางการจะมีเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว และการช่วยเหลือทางการศึกษาแก่บุตร รวมถึงสรรเสริญบุคลากรทางการแพทย์เหล่านั้นในฐานะฮีโร่ของประเทศจีน

.

เพราะกำลังใจของคนทำงานเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้จึงเป็น 10 ข้อ ที่ทางการจีนใช้ในการดูแลกำลังสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดCOVID-19 จนสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ไทยทุกคน อ้ายจงขอเป็นกำลังใจให้นะครับ พวกคุณเยี่ยมที่สุด

.

อ้ายจงนำมาตรการทั้ง 10ข้อนี้ มาจาก บทความที่เผยแพร่เมื่อ 23กุมภาพันธ์ ทางWeibo: 央视新闻 (CCTV News) สื่อทางการจีน

https://m.weibo.cn/2656274875/4475181789477141

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

มาตรการอุ้มเศรษฐกิจ&การเงิน$6ล้านล้านของสหรัฐ

มันจะบ้าไปแล้ว อังเกิ้ลแซมจะMake America Great Again ด้วยใช้เงิน$6ล้านล้าน (180ล้านล้าน) เพื่ออุ้มระบบการเงินและเศรษฐกิจทุกภาคส่วนที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากโคโรนาไวรัส ไม่ว่าจะเป็นแบงก์วอลล์สตรีท บริษัทใหญ่ บริษัทเล็ก อุตสาหกรรมต่างๆ ตลาดหุ้น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้เอกชน รวมท้ังครัวเรือน

ในจำนวนนี้ $2ล้านล้านเป็นเงินที่สภาคอนเกรซจะผ่านกฎหมาย เพื่อดูแลบริษัทขนาดใหญ่ และขนาดเล๋็ก ให้อุตสาหกรรมต่างๆกู้และให้ครัวเรือนอเมริกัน ส่วนอีก$4ล้านล้านจะเป็นเงินที่ทางธนาคารกลางสหรัฐ และรัฐมนตรีการคลังดูแออัดฉีดเข้าระบบการเงิน โดยจะเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนีที่มีทรัพย์สินอสังหาฯหนุนหลัง พันธบัตรเอกชน EFT หรือกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นฯลฯ

$6ล้านล้านที่ทรัมป์เตรียมใช้อุ้มเศรษฐกิจเทียบเท่า25%ต่อจีดีพี

ทรัมป์พูดเสมอว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้มแข็งที่สุดในโลก นักเศรษฐศาสตร์ และนักวิเคราะห์ก็เชื่อสนิทใจเช่นนั้น โดยมองดูตลาดหุ้นที่บูมในช่วง3ปีแรกของทรัมป์ แต่พอเกิดวิกฤติโควิด สหรัฐกลับล้่มก่อนประเทศอื่น ต้องใช้เงินงวดแรก$6ล้านล้านอุ้มเศรษฐกิจและระบบการเงินทั้งยวง แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐกลวงมากๆ

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยยามโคขวิดระบาดแค่117,000ล้าน ประมาณ2%ต่อจีดีพีบวกลบ แต่ทำไมสหรัฐต้องใช้180ล้านล้าน หรือ25%ต่อจีดีพี จีนไม่เห็นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรที่เป็นยาแรง ดอกเบี้ยแทบไม่ขยับอะไรที่ระดับ4%กว่าๆ แต่สหรัฐลดดอกเบี้ยจาก1.50% เป็น0%ในเดือนมีนาคมเดือนเดียว

มีอะไรลับลมคมในแผนล้างหนี้ของอังเกิ้ลแซมหรือเปล่า?

มีรายงานว่า$6 ล้านล้านแค่ก๊อกแรก ก๊อกสองจะตามมาอีก พิมพ์เงินก่อหนี้แบบนี้ยิ่งเพิ่มความเป็นกงเต๊กให้ดอลล่าร์แบบกู่ไม่กลับ

26/3/2020

 

หนุ่มมะกันสุดพิเรนทร์
อัดคลิป ‘เลียโถส้วม’
สุดท้ายติดเชื้อ ‘โควิด-19’
.
หนุ่มอเมริกันเล่นพิเรนทร์อัดคลิปเลียโถส้วม เพื่อทำ ‘โคโรนา ชาลเลนจ์’ ซึ่งกำลังเป็นที่โด่งดังในโลกออนไลน์ สุดท้ายต้องนอนซมอยู่โรงพยาบาลเพราะติดเชื้อโควิด-19
.
เว็บไซต์เดลีเมล์ของอังกฤษรายงานว่า หนุ่ม ‘อินฟลูเอนเซอร์’ ชาวแคลิฟอร์เนียวัย 21 ปีที่ชื่อ ลาร์ซ (Larz) ได้ทวีตข้อความว่าตนเองกำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพราะติดไวรัสโคโรนา หลังจากเมื่อ 5 วันก่อนได้โพสต์คลิปเลียโถส้วมลงในแอปฯ TikTok พร้อมกับเขียนแคปชั่นว่า “รีทวีตกันหน่อยเพื่อแชร์ความเข้าใจเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส”
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000030597
#mgronline #หนุ่มอเมริกัน #อัดคลิป #เลียโถส้วม #ติดเชื้อโควิด-19

 

4 วันยังไม่หมด!! ชาวพม่าหลายพันคน
รอข้ามแดนแม่สอดหนีโควิด-19

ตาก - ต้องผ่อนปรนเปิดด่านฯ แม่สอด-เมียวดี วันที่สี่..คลื่นแรงงานพม่าทะลักเบียดเสียด-ไม่สวมหน้ากาก รอข้ามแดนล้นด่านต่อเนื่อง บางส่วนลอบข้ามน้ำเมยไม่ผ่านจุดคัดกรองโควิด-19 จนต้องสกัดจับวุ่น แถมเจอชาวปากีฯ มาแม่สอดติดเชื้อจนชาวบ้านผวากันทั่ว

อ่านต่อ>>
https://mgronline.com/local/detail/9630000030566
#พม่าหนีโควิด19

 

รพ.โรมาเนียกลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดโควิด-19
หมอ, พยาบาลติดเชื้อ 83 คน

เอเอฟพี - โรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของโรมาเนีย กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ของประเทศ ด้วยมีเจ้าหน้าที่ถูกตรวจพบติดเชื้อ 83 คน จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขในวันพุธ(25มี.ค.)

"ผมขอให้ปลดผู้อำนวยการโรงพยาบาล โทษฐานบริหารจัดการได้อย่างย่ำแย่" เนลู ตาตาลู เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขกล่าว หลังจากเดินทางตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลฉุกเฉิน สฟานตุน โยอัน ในเมืองซูซาวา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000030450

#สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด19 #โรมาเนีย #romania #covid19 #coronavirus

 

โควิดขย้ำโตเกียว!!
ผู้ว่าฯ ชี้อาจต้อง “ปิดเมือง”

กรุงโตเกียวขึ้นแท่นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงที่สุดในญี่ปุ่น วิกฤตยิ่งกว่าฮอกไกโด ผู้ว่าฯ ขอร้องประชาชนงดออกจากบ้านในสุดสัปดาห์นี้ และอาจต้องสั่ง “ชัตดาวน์” เมืองหลวง หากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุด

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/japan/detail/9630000030592

#สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด19 #ญี่ปุ่น #โตเกียว #covid19

 

สภาสูงสหรัฐฯ ผ่านงบประมาณฝ่าวิกฤตโควิด 2 ล้านล้านดอลลาร์
อเมริกันชนได้ 1,200 ดอลลาร์/คน

เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(25 มี.ค)สภาสูงสหรัฐฯอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณเยียวยาวิกฤตไวรัสโคโรนาจำนวน 2 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยเสียง 96 ต่อ 0 ช่วยเหลือคนสหรัฐฯที่กำลังประสบปัญหารวมไปถึงบริษัทต่างๆ ชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยได้รับเงินช่วยเหลือตก 1,200 ดอลลาร์ต่อคน ว่างงานรับเช็ค 600 ดอลลาร์/สัปดาห์ ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่รวมไปถึง บริษัทสายการบินและเรือเดินสมุทรได้งบ 500,000 ล้านดอลลาร์

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000030770

#สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด19 #สภาสูงสหรัฐฯ #งบประมาณ2ล้านล้านดอลลาร์ #อเมริกันชนได้เงิน1200ดอลลาร์ต่อคน

 

สุดหดหู่!!
สเปนวิกฤตยอดตายแซงหน้าจีน
เยอะจนต้องใช้ลานสเกตเก็บศพ

รอยเตอร์ - จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสเปนช่วงข้ามคืนพุ่ง 738 ศพในวันพุธ (25 มี.ค.) ส่งผลให้ยอดรวมขยับขึ้นเหนือจีน แหล่งอุบัติของโรคระบาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังดิ้นรนรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจเช่นกัน

ด้วยยอดผู้เสียชีวิต 3,434 ศพ ส่งผลให้เวลานี้สเปน กลายเป็นชาติที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากอิตาลี 6,820 ศพ ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดที่ได้เห็นมาดริดต้องเปลี่ยนลานสเก็ตเป็นที่เก็บศพชั่วคราว และมีหลายสิบศพเสียชีวิตคาเตียงในบ้านพักคนชราอย่างเดียวดาย

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000030403

#สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด19 #สเปน #covid19 #spain #coronavirus

 

พ่อเมืองอิตาลีสารภาพ
รพ.ช่วยผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนไม่ไหว
หลายคนต้องนอนตายอยู่ที่บ้าน

รัสเซียทูเดย์ - ด้วยโรงพยาบาลต่างๆไม่มีเนื้อที่และทรัพยากรมากพอที่จะช่วยเหลือทุกคน นั่นเท่ากับว่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) จำนวนมากต้องเสียชีวิตอยู่ที่บ้าน จากคำเตือนของจอร์จิโอ กอรี นายกเทศมนตรีเมืองแบร์กาโม ในแคว้นลอมบาร์ดี ทางภาคเหนือของอิตาลี พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัสมรณะหนักหน่วงที่สุด

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000030442

#สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด19 #อิตาลี #italy #covid19

 

#ข่าวสั้น (18:00 น.) เอาหัวข้อข่าวไปก่อนนะคะ เดี๋ยวมาสรุปให้ฟังทีเดียวพร้อมยอดวันนี้ตอนกลางคืนเลย

โตเกียวยังคงพีคไม่หยุด วันนี้เจออีก 47 ราย ทั่วประเทศเฉพาะวันนี้ 67 รายแล้ว (คืนนี้ดึก ๆ ประกาศอีก)

กราฟผู้ติดเชื้อทั่วประเทศก็เริ่มตั้งชัน......

จริง ๆ คือ เพิ่มจำนวนตรวจด้วยค่ะ ดังนั้นโอกาสจะเจอมีอยู่แล้ว

✈️ยอดเจอที่สนามบินก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

❌จังหวัดรอบข้างโตเกียว : ไซตามะ ชิบะ คานางาวะ ก็ออกมาขอร้องประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ากรุงโตเกียว เน้นทำงานที่บ้าน

ส่วน 5 จังหวัด โตเกียว ไซตามะ ชิบะ คานางาวะ และยามานาชิ มาขอร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านช่วงปลายสัปดาห์ (เสาร์-อาทิตย์) นี้เช่นกัน

หุ้นก็ร่วงกระแทกโควิดไปเลย ระยะหนึ่งถึงหลักพันจุด

โรงหนังโตโฮ ปิดในพื้นที่โตเกียวและคานางาวะเสาร์อาทิตย์นี้

รัฐบาลญี่ปุ่นเลื่อนระดับการเตือนภัยสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศของคนญี่ปุ่น ต่อ “ทุกประเทศทั่วโลก” เป็นระดับ 2 (หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่าไป)  การประกาศแนวนี้เป็นการประกาศครั้งแรกของญี่ปุ่นค่ะ 

———-

หยุดสุดสัปดาห์นี้ อยู่บ้านเป็นเพื่อนกันหมดเน็ตนะคะทุกคน ｷﾞｭ━(*>д<人･ω<*)━ｯ

ป.ล. แอดยังไม่จบนะคะ ยังมีสอบอีก ขอบพระคุณทุกคนมาก ๆ สำหรับกำลังใจและคำอวยพรค่า

 

News: "รัสเซีย หมีขาว ผู้ห้าวหาญ"

ขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกกำลังราคาลดลงอย่างหนัก เหตุเกิดจากในการประชุมOPEC+ที่ผ่านมา ที่รัสเซียไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงที่จะลดกำลังผลิตน้ำมัน และยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด โดยที่ซาอุดีอาระเบียเปิดสงครามการค้า ลดราคาน้ำมันเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด

-- ทางด้านรัสเซีย --

ดูเหมือนว่ารัสเซียเตรียมการรับมือเอาไว้แล้ว กระทรวงการคลังรัสเซียเปิดเผยว่าได้จัดงบประมาณเพื่อให้ประเทศสามารถทนต่อสภาวะราคาน้ำมันที่ลดลงได้นานถึง 6-10ปี นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่ารัสเซียยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือสามารถควบคุมทิศทางตลาดน้ำมันโลก และได้โจมตีผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐอเมริกา ที่เคยได้ส่วนแบ่งการตลาดและราคาที่ดีเพราะกลุ่มOPEC+ เคยพยุงมาตลอด

-- ความขัดแย้งของรัสเซียกับอเมริกาในด้านพลังงาน --

ความขัดแย้งด้านการเมืองของรัสเซียกับอเมริกา พัวพันมาถึงด้านพลังงานอยู่ตลอด
- Rosneft บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย รวมถึงบริษัทลูกทั้งหมด อยู่ในรายชื่อการคว่ำบาตรที่จำกัดส่วนของอเมริกาตั้งปี พศ. 2557
- ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายคว่ำบาตรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียไปเยอรมนี 20 ธ.ค. 2562
- สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของอเมริกา เพิ่มบริษัทลูกของ Rosneft ไปในบัญชีดำ ส่งผลให้นิติบุคคลอเมริกาต้องยุติธุรกิจกับบริษัทนี้ภายในวันที่ 20 พ.ค. 2563
ดูเหมือนว่าอเมริกาใช้การเมืองกดดันธุรกิจน้ำมันของรัสเซียมาโดยตลอด รัสเซียจึงหาโอกาสกดดันธุรกิจพลังงานสหรัฐอเมริกากลับบ้าง ทำให้ผู้ผลิตน้ำมันในอเมริกาต้องดิ้นรนปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดในระดับราคาใหม่ให้ได้

-- ควรจับตามองในอนาคตอันใกล้นี้ --
- สหรัฐอเมริกาที่กำลังพยายามลดผลกระทบต่อผู้ผลิตน้ำมันในประเทศ จากความไม่ลงรอย ระหว่างรัสเซีย และ ซาอุดีอาระเบีย
- การเตรียมเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาใน 3 พ.ย. 2563 นี้
- สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้อุปสงค์พลังงานมีแนวโน้มลดลง
- รัสเซียกับบทบาทใหม่ หากสามารถคงแนวทางให้ราคาน้ำมันดิบโลกสามารถทรงตัวได้ในระดับนี้ (20-30ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ บาร์เรล)อาจจะเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นฟูได้

เมืองไทยเราอาจได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ไปด้วย ถ้าแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงแบบนี้ น้ำมันในไทยก็คงจะปรับตัวลดลงในไม่ช้านี้แน่นอน

#PTTNews
#ราคาน้ำมัน
#รัสเซีย

 

News : " กักตัวทำงานที่บ้านจะ Productive ได้อย่างไร?"

เนื่องจาก ณ ตอนนี้ "โรคCovid-19" ได้มีจำนวนของผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น สถานธุรกิจหลายแห่ง เริ่มให้คำแนะนำแก่พนักงาน ในการให้ทำงานจากที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและลดการระบาดของโรคCovid-19

Karen Eyre-White โค้ช ทางด้าน Productivity ก็ได้ให้คำแนะนำในการทำให้การทำงานบ้าน ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมาดังนี้

--1. แยกแยะการทำงานกับชีวิตในบ้านให้ได้ --
"สิ่งที่ยากที่สุด คือพาตัวเองลุกจากเตียงเพื่อนั่งทำงานที่บ้าน"
หลายๆคนเคยได้ยินคำคำนี้มากันบ้างแล้ว และแน่นอนว่ามันมักจะกินเวลาไม่น้อยกว่า 5 นาที แต่อย่าลืมนะว่าคุณอยู่ที่นี่เพื่อทำงานดังนั้นควรวางตัวให้ถูก ถ้าจะให้ดี ก็ตั้งแต่วิธีแต่งกายและแปรงฟันในช่วงเริ่มต้นของวันแทนที่จะนั่งในชุดนอนไปทั้งวัน

--2. วางแผนให้ดี ไม่ต้องทำทุกอย่างก็ได้ --
Eyre-White ได้แนะนำว่า ให้คุณทำเท่าที่คุณทำได้ ไม่จำเป็นต้องหวังสูง และคุณจะรู้สึกพึงพอใจแทนที่จะรู้สึกผิดหวังที่คุณไม่ได้ทำทุกอย่างใน1วัน

--3. ทำงานในระยะเวลาสั้น ๆ --
Eyre-White ได้แนะนำให้เราจัดแผนการทำงานของตัวคุณเอง ตัวอย่างเช่น ทุกการทำงาน 45-60 นาที เราควรจะมีการพักผ่อนระยะสั้นควบคู่ไปด้วย “ เพื่อเป็นการรักษาระดับสมาธิของคุณ”

--4. อย่าลืมที่จะพัก --
อย่ากดดันตัวเองในการทำงานจนเกินไป การที่คุณได้ทำงานที่บ้านไม่มีคนคิดว่าคุณอู้หรอก คุณแค่ควรจัดเวลาให้ตัวเองได้พักบ้าง และคุณควรจะมีเวลาในการจัดหา/ทำอาหารและดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ

--5. จัดการกับสิ่งรบกวนให้ได้ --
ลองสังเกตุตัวเองว่า "อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เราเสียสมาธิ" และจัดการสิ่งต่าง ๆเหล่านั้นซึ่งอาจขัดขวางสมาธิในการทำงานของคุณ”

--6. เป็นธรรมชาติ --
การทำงานที่บ้านก็ได้หมายความว่าคุณจะไม่ออกจากบ้านเลยเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ดังนั้นให้แน่ใจว่าคุณยังคงมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอยู่เสมอ โดยอาจจะโทรหรือVideo Call ไปหาเพื่อนร่วมงานเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ และสร้างโอกาสในการเข้าสังคมในแต่ละวันของคุณ แต่อย่านานเกินไปล่ะ

" มาเปลี่ยนตัวเรา ให้เป็นองค์กรที่ทำงานอย่างมีความสุข "

#PTT
#สานพลังใจWeFightTogether
#WorkAtHome

 

Topic : "ไวรัสโคโรนา เข้าไปวุ่นวายกับร่างกายของเราอย่างไร?"
"ไวรัสโคโรนา" เป็นไวรัสชนิดหนึ่งในตระกูลโคโรนา โดยแท้จริงได้ถูกค้นพบมานานกว่า 50-60 ปีแล้ว โดยลักษณะจะคล้ายมงกุฎ สามารถก่อให้เกิดโรคได้ทั้งในสัตว์และมนุษย์ ซึ่งในมนุษย์จะก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบ

-- ไวรัสชนิดนี้ทำอะไร กับร่างกายเราบ้าง?--
ในการติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้น จะสามารถแบ่งระยะคร่าวๆได้เป็น4ระยะ ดังนี้

1.ระยะฟักตัว
ไวรัสชนิดต่าง ๆ ทำงานโดยการเข้าไปและยึดเซลล์ร่างกายของคุณไว้ ไวรัสโคโรนาก็เช่นกัน ซึ่งระยะนี้เป็นช่วงที่ไวรัสพยายามเข้าไปฝังอยู่ในร่างกายคุณ เมื่อคุณหายใจเอาเชื้อเข้าไป ผ่านทางการจามหรือไอของผู้ที่ติดเชื้อรอบๆตัวคุณ หรือการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้ออยู่

โดยเชื้อจะแพร่ไปตามเซลล์ที่เยื่อบุคอ ท่อทางเดินหายใจและปอด ก่อนจะเปลี่ยนอวัยวะเหล่านี้เป็น "โรงงานผลิต" ที่สามารถแพร่กระจายไวรัสให้ไปติดเซลล์อื่นเพิ่มขึ้น

และในระยะนี้คุณอาจไม่มีอาการป่วย และแทบไม่แสดงอาการใดๆ ประมาณ 5 วัน แต่ระยะเวลาอาจจะแตกต่างกันไปตามกรณี

2.ระยะเริ่มต้น
โดยปรกติ 8 ใน 10 คนที่เป็นโรคโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะมีอาการ
- เป็นไข้
- ไอ
- ร่างกายจะปวดระบม
- เจ็บคอ
- ปวดหัว
ซึ่งอาการก็แล้วแต่คนและปัจจัยภายในด้วย

" อาการไข้และอาการไอ "
เกิดจากการตอบสนองของร่างกายคุณต่อไวรัส ระบบภูมิคุ้มกันแต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ร่างกายปวดระบมและมีไข้ บางคนอาจจะไอจนมีเสมหะปนอยู่ด้วย โดยเสมหะนี้เป็นเซลล์ปอดที่ตายจากเชื้อไวรัส อาการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ สามารถรักษาด้วยการนอนพัก ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินยาพาราเซตามอล

โดยระยะเริ่มต้น จะกินเวลาราวหนึ่งสัปดาห์ โดยคนส่วนใหญ่จะสามารถฟื้นสภาพร่างกายได้เองเนื่องจากเอาชนะไวรัสได้ แต่ในบางคนก็อาการแย่ลงเป็นโรคโควิด-19 ในขั้นรุนแรงกว่า

นี่คือสิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ตอนนี้ แต่ก็เริ่มมีงานวิจัยบางชิ้นที่เสนอว่าโรคโควิด-19 มีอาการคล้ายการเป็นหวัด เช่น การมีน้ำมูก

3.ระยะร้ายแรง
ดร.นาธาลี แมคเดอร์มอตต์ จากคิงส์คอลเลจลอนดอน ได้กล่าวว่า "ไวรัสนี้ทำให้เกิดการตอบโต้ของระบบภูมิคุ้มกันอย่างไม่สมดุล มีอาการอักเสบมากเกินไป เรายังไม่ทราบว่าไวรัสทำเช่นนี้ได้อย่างไร"

อาการปอดบวมที่พบในระยะนี้ เป็นไปว่าเชื้อได้เดินทางเข้าปาก ผ่านหลอดลม และเข้าไปสู่ถุงลมในปอดในที่สุด ในนี้จะมีกระบวนการการนำออกซิเจนเข้าสู่เลือดและขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป แต่ในภาวะปอดบวม น้ำจะเริ่มเข้ามาในถุงลมเล็ก ๆ และทำให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่มและหายใจไม่สะดวกในที่สุด

ในระยะนี้ บางคนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งข้อมูลจากจีนชี้ว่า 14 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้รับผลกระทบในขั้นนี้

4.ระยะสาหัส
คาดการณ์ว่ามี 6 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่อาการทรุดจนสาหัส
เนื่องจาก ระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถจัดการตัวเองได้ และสร้างความเสียหายไปทั่วร่างกาย และหากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถสู้ไวรัสได้ ไวรัสก็จะแพร่กระจายไปทุกที่เพื่อทำลายร่างกายไปเรื่อยๆ เช่น ไตอาจหยุดฟอกเลือด เยื่อบุลำไส้ถูกทำลาย
การรักษาในขั้นนี้อาจต้องใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด หรือ ECMO แต่ร่างกายก็อาจจะเสียหายถึงขั้นที่ไม่สามารถทำงานต่อไปได้อีก

"เรียนรู้เพื่อรู้ทันและรับมือภาวะเสี่ยง"

#PTTNews
#Covid19

 

Topic : "Social D i s t a n c i n g"
ห่างเพื่อให้จบ
ให้ทุกคนได้ก้าวต่อ ...

ต้องยอมรับว่า "ไวรัสโคโรนา" ได้เข้ามามีผลกับชีวิตเรามากขึ้น ทั้งการกิน ,ใช้ชีวิตประจำวัน ,ไปท่องเที่ยว รวมไปถึงการพูดคุยกับผู้คน เราตระหนักกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น และบางคนเลือกที่จะ รอบคอบกับกิจกรรมเหล่านี้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่แปลกแต่อย่างใด เพราะสิ่งเหล่านี้คือ "การลดความเสี่ยงเบื้องต้น" ที่คนธรรมดาอย่างเราจะสามารถทำได้ ในชีวิตประจำวัน

-- ห่างกัน ดียังไง? --
ในสถานการณ์ ปัจจุบัน ระยะห่างระหว่างบุคคล (Social Distancing) นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจาก เชื้อไวรัสบางส่วนเเพร่ระบาดผ่านทาง การไอ,จาม ซึ่งระยะห่างระหว่างบุคคลที่ปลอดภัยคือ 6 ฟุต หรือ 2 เมตร เพราะเป็นระยะปลอดภัยที่ฝอยละอองน้ำลายไม่กระเด็นถึงคู่สนทนา ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องคุยกันแบบใกล้ๆ ก็ต้องใช้หน้ากากอนามัย มีแอลกอฮอล์เจลติดตัวก็จะดีมาก

-- หลีกเลี่ยงพื้นที่คนเยอะ --
"ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งเสี่ยง" เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้เลยว่า แต่ละคนที่เราเดินชนไหล่ด้วยกันนั้น ผ่านอะไรกันมาบ้าง หรือสัมผัสอะไรกันมาบ้างแล้ว การเลือกที่จะหลีกเลี่ยงสถานที่เหล่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ควรจะทำ ซคางสิ่งที่เกิดขึ้นหลายที่ในเวลานี้ คือ การยกเลิกจัดงาน ประชุมใหญ่ งานมหกรรม งานแฟร์ งานโชว์ต่าง ๆ หลายคนหลีกเลี่ยงไปห้างสรรพสินค้า ไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ และสั่งซื้อของทางออนไลน์มากขึ้น

" ห่างกันด้วยความเข้าใจ และจะผ่านมันไปด้วยกัน "

#PTTNews
#ปตท.
#สานพลังใจWeFightTogether
#สานพลังสู่ความยั่งยืน
#GodjiPTT

 

แผ่นดินไหว ขนาด 6.1
ภูมิภาค มินดาเนา, ประเทศฟิลิปปินส์
วันที่ 2020-03-26 เวลา 15:38:02.8 UTC
สถานที่ 5.76 N ; 125.14 E
ความลึก 50 km
Macroseismic
เอฟเฟกต์ความเข้ม V: สั่นสะเทือนรุนแรง

Magnitude 6.1
Region MINDANAO, PHILIPPINES
Date time 2020-03-26 15:38:02.8 UTC
Location5.76 N ; 125.14 E
Depth50 km

Macroseismic
IntensityV Effects: Strong Shaking

Distances 154 km S of Davao, Philippines / pop: 1,213,000 / local time: 23:38:02.8 2020-03-26

88 km S of Koronadal, Philippines / pop: 126,000 / local time: 23:38:02.8 2020-03-26

7 km W of Kablalan, Philippines / pop: 2,700 / local time: 23:38:02.8 2020-03-26

https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=842102