ติดตามสถานะการณ์

Rodolfo Brenes

น้ำท่วมสเปนในภูมิภาคมูร์เซีย ส่งผลให้ถนนถูกตัดขาด อพยพและช่วยเหลือประชาชนอย่างน้อยสองคน

 

สธ.เผยอัตราแพร่โควิด-19ในกทม. สูงกว่าจีนจ่อเท่าอิตาลี

24 มีนาคม 2563

สธ.เผยอัตราแพร่โควิด-19ในกทม. 1:3 เจอผู้ป่วย1 คนแพร่เชื้อไปอีก 3 คน สูงกว่าจีนจ่อเท่าอิตาลี พื้นที่ 4 จังหวัด 1:2 ส่วนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 106 ราย เสียชีวิตอีก 3 ราย โคม่า 4 ราย ผู้ป่วยกระจายใน 47 จังหวัด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 มี.ค.2563 ที่ศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยว่า ผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนักก่อนนี้ โดยรายแรก ชาวไทยอายุ 70 ปี เป็นผู้ป่วยที่มีวัณโรคร่วม รายที่2 ผู้ป่วยชาวไทย 79 ปี เป็นเซียนมวย มีโรคประจำตัวหลายโรค อาการรุนแรงตั้งแต่แรกรับเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ทั้ง 2 รายรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร และรายที่ 3 ชาวไทย อายุ 45 ปี มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ภาวะโรคอ้วน รักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ รวมผู้เสียชีวิตสะสม 4 ราย โดยก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย


ผู้ป่วยเพิ่ม 106 ราย
ส่วนผู้ป่วยยืนยันเพิ่มอีก 106 ราย แบ่ง 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่ม 1 เป็นผู้ที่สัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับผู้ป่วย หรือสถานที่ที่มีคนจำนวนมากอยู่ จำนวน 25 ราย สนามมวย 5 ราย จากสนามมวยลุมพินี ราชดำเนิน เป็นผู้ชม เซียนมวย จากกรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรสาคร อุบลราชธานี สถานบันเทิง 6 ราย ในจังหวัดสระบุรี กรุงเทพฯ บุรีรัมย์ ชลบุรี ผู้สัมผัสโรคที่มีรายงานมาก่อนหน้านี้ 12 ราย มีเซียนมวย พนักงานบริการ มีประวัติกินข้าวกับผู้ป่วย กินเลี้ยง กินดื่มสุรากับผู้ป่วยสถานบันเทิง และใกล้ชิดกับผู้ป่วยในสนามมวย ผู้ที่ประกอบกิจทางศาสนา 2 รายจากปัตตานี


2 .ผู้ป่วยรายใหม่ 34 ราย ผู้เดินทางจากจากต่างประเทศจำนวน 20 ราย เป็นคนไทย 8 ราย นักศึกษา พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานร้านแถวปอยเปต และต่างชาติ 12 ราย เป็นชาวฝรั่งเศส สวีเดน ปากีสถาน อังกฤษ และนิวซีแลนด์ ผู้ทำงานเกี่ยวกับข้องกับคนต่างชาติอีก 10 ราย เป็นพนักงานรปภ. พนักงานรับรถ รถแท็กซี่ พนักงานเสิร์ฟ จากกรุงเทพฯ ชลบุรี อุบลราชธานี ภูเก็ต กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์มี 4 ราย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จากภูเก็ต ยะลา บุรีรัมย์ นครปฐม สืบเนื่องจากผู้ป่วยไม่แจ้งประวัติเสี่ยงมาก่อน ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่ทราบและไม่ได้ปกป้องตัวเอง จึงติดเชื้อและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และ3.กลุ่มผู้ป่วยได้รับผลแล็ปยืนยันพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างสอบสวนโรคอีก 47 ราย นอกจากนี้ มีผู้ป่วยอาการหนักมี 4 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ประเทศไทยมรผู้ป่วยสะสม 827 ราย กลับบ้านแล้ว 57 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 766 ราย มีอาการหนัก 4 ราย และเสียชีวิต 4 ราย




นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอย้ำเตือนประชาชน ช่วยกันรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1 -2 เมตร งด/ลด การเดินทางโดยไม่จำเป็น ไม่ไปในพื้นที่แออัด แยกสำรับอาหารไม่ใช้ช้อน ถ้วย ชาม แก้วน้ำร่วมกัน หากมีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัยไปพบแพทย์ทันทีพร้อมแจ้งประวัติเสี่ยง ขอให้ทุกคนร่วมมือกันกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไปในวงกว้าง ลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ให้มีน้อยที่สุด

ศพไม่แพร่เชื้อ
“กรณีที่ชาวบ้านมีความกังวลในการจัดการงานศพของผู้ที่เสียชีวิตหลังจากมีการติดเชื้อโควิด-19ด้วยนั้น ขอย้ำว่าการติดเชื้อโรคนี้เกิดจากการได้รับละอองฝอยจากผู้ป่วยผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ซึ่งศพไม่สามารถไป หรือจามได้ ศพจึงไม่แพร่เชื้อ อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ มีผู้เสียชีวิตจากการที่เป็นวัณโรค ที่สามารถติดเชื้อได้ทางอากาศง่ายกว่าการติดเชื้อจากละอองฝอย การจัดการงานศพก็ไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อแต่อย่างใด โรคนี้ก็เช่นกันศพไม่แพร่เชื้อ แต่ในการจัดงานศพที่จะเป็นการไปรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ต้องระวังมากกว่าว่าจะเป็นการแพร่เชื้อระหว่างกัน”นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าว

ผู้ป่วยอายุ30-39ปีมากสุด
ด้านแพทย์หญิงวลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยในประเทศไทยจากฐานจำนวนผู้ป่วยที่ 588 ราย พบว่า เป็นคนไทย 528 ราย คิดเป็น 89.8 % จีน 27 ราย เดนมาร์ก 4 ราย ฝรั่งเศส 4 ราย ญี่ปุ่น 3 ราย อังกฤษ 3 ราย อิตาลี 3 รายและอื่นๆ 16 ราย ช่วงอายุ 30-39 ปีมากที่สุด 22.45 % รองลงมาเป็น 20-29 ปี 18.50 % และ40-49 ปี 14.15 %
กระจายใน 47 จ.
แพทย์หญิงวลัยรัตน์ กล่าวอีกว่า จากผู้ป่วยจำนวน 827 ราย พบว่ามีการกระจายไปใน 47 จังหวัดโดยยึดตามจังหวัดที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล ได้แก่ กรุงเทพฯ 349 ราย นนทบุรี 47 ราย ชลบุรี 30 ราย สมุทรปราการ 26 รายและปัตตานีจังหวัดละ 26 ราย ภูเก็ต 21 ราย ยะลาและสงขลาจังหวัดละ 15 ราย อุบลราชธานี 12 ราย ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานีและนครปฐมจังหวัดละ 7 ราย นราธิวาสและปทุมธานีจังหวัดละ 6 ราย บุรีรัมย์และสระแก้วจังหวัดละ 5 คน นครราชสีมา กระบี่ สมุทรสาคร กาญจนบุรี และสุรินทร์จังหวัดละ 4 ราย เพชรบูรณ์ ขอนแก่น สระบุรี และอุดรธานีจังหวัดละ 3 ราย นครศรีธรรมราช ร้อยเอ็ด สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี พัทลุง ระยอง ราชบุรี ศรีสะเกษ จังหวัดละ 2 ราย กาฬสินธุ์ สุพรรณบุรี เชียงราย เลย แพร่ จันทบุรี ตาก นครนายก นครสวรรค์ ยโสธร ลพบุรี หนองบัวลำภู จังหวัดละ 1 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรคอีก 172 ราย

อัตราแพร่เชื้อกทม.สูงกว่าจีน
แพทย์หญิงวลัยรัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับอัตราแพร่เชื้อหรืออัตราที่แสดงว่าผู้ป่วย 1 คนจะสามารถแพร่เชื้อไปให้บุคคลอื่นได้อีกกี่คน ซึ่งใน 7 วันล่าสุดคือระหว่างวันที่ 16-24 มีนาคม 2563 พบว่า พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล อยู่ที่ 1ต่อ 3.4 แปลว่าผู้ป่วย 1 คน สามารถแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นได้อีก 3.4 คน ส่วนพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา ภูเก็ต อัตราแพร่เชื้ออยู่ที่ 1 ต่อ 2.2 และจังหวัดอื่นๆ 1 ต่อ 1.8
ผู้สื่อข่าวถามว่า อัตราแพร่เชื้อพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเมื่อเทียบกับต่างประเทศเป็นอย่างไร แพทย์หญิงวลัยรัตน์ กล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลมีอัตราแพร่เชื้ออยู่ที่ 1 ต่อ 3.4 ใกล้เคียงกับประเทศที่มีการระบาดอย่างรุนแรงอยู่ในขณะนี้ คือประเทศอิตาลี ซึ่งมีอัตราการแพร่เชื้ออยู่ที่ 1ต่อ 4 ขณะที่ในประเทศจีนซึ่งสถานการณ์การระบาดอยู่ในช่วงขาลงแล้วนั้นมีอัตราแพร่เชื้อน้อยกว่ากรุงเทพฯที่เป็นช่วงขาขึ้นของโรคแล้ว

แพทย์หญิงวลัยรัตน์ กล่าวอีกด้วยว่า หากประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตรการการลดการแพร่เชื้ออย่างเคร่งครัด เช่า การหยุดอยู่บ้าน รักษาระยะห่างระหว่างสังคมและบุคคล โดยหากประชาชนให้ความร่วมมือ 50 % จะทำให้จำนวนผู้ป่วยอยู่ที่หลักพันราย หากร่วมมือ 80 % จะทำให้จำนวนผู้ป่วยไม่ถึงพันราย แต่หากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ จำนวนผู้ป่วยอาจเพิ่มมากขึ้นถึงหลักหมื่นราย
https://www.bangkokbiznews.com/news...tions&utm_campaign=-19&utm_content=&utm_term=

 

เปิด ‘ยา 4 ขนาน’ ที่ WHO ใช้ทดลองต้านโควิด-19

25 มีนาคม 2563 | โดย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

แม้การพัฒนายาชนิดใหม่ต้องใช้เวลาหลายปี แต่นักวิทยาศาสตร์หลายประเทศ รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังแข่งกับเวลาในการปรับจุดประสงค์การใช้ยาที่มีอยู่แล้วหรือนำมาทดลองซ้ำ เพื่อพยายามผลิตตัวยาต้านเชื้อไวรัสมาต่อสู้กับโรคโควิด-19 ที่ลุกลามทั่วโลก

เมื่อไม่นานนี้ WHO เริ่มการทดลองระดับโลกที่ใช้ชื่อว่า “โซลิดาริตี” (Solidarity) กับตัวยา 4 ขนานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ประกอบด้วย

1. เรมเดซิเวียร์ (remdesivir) ที่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้าแล้วให้ใช้รักษาโรคอีโบลา

2. ยาสูตรผสมที่ใช้ต้านไวรัสเอชไอวีระหว่างโลปินาเวียร์ (lopinavir) กับริโทนาเวียร์ (ritonavir)

3. ยาสูตรผสมระหว่างโลปินาเวียร์กับริโทนาเวียร์ที่เพิ่มอินเตอเฟอรอนเบต้า

และ 4. ยาคลอโรควิน (chloroquine) ที่ใช้ต้านโรคมาลาเรีย

ยาเรมเดซิเวียร์ที่พัฒนาโดยบริษัทกิเลียด ไซแอนซ์ (Gilead Sciences) ได้รับการยกย่องว่ามีหวังรักษาโควิด-19 ได้ และกำลังมีการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่อยู่ 5 การทดลอง ซึ่งจะทราบผล 2 การทดลองได้ในต้นเดือน เม.ย.


- เรมเดซิเวียร์ -

ยาดังกล่าวถูกใช้ครั้งแรกกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนักในจีนแผ่นดินใหญ่ราวเดือน ก.พ. จากนั้นขยายไปอีกหลายประเทศ และทำให้ความต้องการใช้ยาชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นจนผู้ผลิตแจ้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะระงับการจ่ายยาตัวนี้ให้แก่ผู้ป่วยใหม่เป็นการชั่วคราว

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เผยว่า ยาเรมเดซิเวียร์ที่ใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดดำขนานนี้มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสได้อย่างกว้างขวาง และสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสได้

อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ WHO เตือนว่า ผลการทดลองรักษาอีโบลาที่ผ่านมาพบว่า อาจมีผลข้างเคียงทำให้ตับเป็นพิษได้

ส่วน ยาคลอโรควิน ได้รับความสนใจในสหรัฐ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อวดอ้างเกี่ยวกับยารักษาโรคมาลาเรีย 2 ชนิด ได้แก่ ไฮดร็อกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) และคลอโรควิน สามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้

สอดคล้องกับที่คณะนักวิจัยในสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนเผยเมื่อเดือน ก.พ. ว่า ยาคลอโรควินสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส Sars-CoV-2 ซึ่งเป็นชื่อทางการของไวรัสต้นตอโรคโควิด-19 เมื่อทดลองกับเซลล์มนุษย์ในห้องทดลอง


- คลอโรควิน -

นพ.จง หนานซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางเดินหายใจจีนบอกว่า ยาคลอโรควินปลอดภัยเพราะได้รับอนุญาตให้ใช้รักษามาลาเรียแล้ว อย่างไรก็ตาม ซีดีซียืนยันว่า ยังไม่อนุมัติให้ใช้รักษาโควิด-19 และยังต้องทดสอบเพิ่มเติม

ขณะที่ยาสูตรผสมโลปินาเวียร์กับริโทนาเวียร์ คณะนักวิจัยของโรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่นเผยว่า หลังใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 100 คนที่ได้รับการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป พบว่าได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน


- โลปินาเวียร์และริโทนาเวียร์ -

ส่วนยาอีกชนิดที่ไม่อยู่ในโครงการทดลองของ WHO อย่าง "ฟาวิพิราเวียร์" (favipiravir) ซึ่งเป็นยาต้านไข้หวัดใหญ่ที่บริษัทฟูจิฟิล์มโตยามาเคมิคัลของญี่ปุนพัฒนาขึ้น ผลการทดลองรักษาผู้ป่วยในเมืองอู่ฮั่นและเสิ่นเจิ้นของจีนพบว่า ได้ผลอย่างเห็นได้ชัดและมีความปลอดภัยสูง แต่ต้องทดสอบเพิ่มเติมก่อนทำการทดลองทางคลินิกต่อไป


- ฟาวิพิราเวียร์ -
https://www.bangkokbiznews.com/news...ce=slide_topnews&utm_medium=internal_referral

 

ดาวโจนส์ทะยานกว่า2พันจุดหวังคองเกรสไฟเขียวมาตรการเยียวยาโควิด-19

25 มีนาคม 2563

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร(24มี.ค.)ปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบ 87 ปี ท่ามกลางความหวังว่า สภาคองเกรสจะเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือผลกระทบวิกฤตโควิด-19เร็วๆนี้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 2,112.98 จุด หรือ 11.37% ปิดที่ 20,704.91 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 209.93 จุด หรือ 9.38% ปิดที่ 2,447.33 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 557.18 จุด หรือ 8.12% ปิดที่ 7,417.86 จุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันนี้ กดดันให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการดังกล่าว

“คองเกรสจะต้องอนุมัติข้อตกลงดังกล่าวในวันนี้ โดยไม่เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ เพราะหากยิ่งลากเวลาออกไปนานเท่าใด ก็จะทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นเท่านั้นในการทำให้เศรษฐกิจของเราเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่แรงงานของเราจะได้รับผลกระทบ” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวในวันนี้

“ดิฉันคิดว่าเราสามารถมองในแง่ดีได้ว่าเราจะสามารถทำบางสิ่งบางอย่างสำเร็จภายในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง” นางเพโลซีกล่าว และเสริมว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังมีความคืบหน้าเป็นอย่างดี

รายงานข่าวระบุว่า นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว ซึ่งมีวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์

ข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุว่า ขณะนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากกว่า 46,000 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 600 ราย

รัฐนิวยอร์ก ถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวนกว่า 20,000 ราย ตามมาด้วยรัฐนิวเจอร์ซีย์ และวอชิงตัน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19

ขณะเดียวกัน ดัชนีดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าเขาพร้อมที่จะทำให้ภาคธุรกิจและเศรษฐกิจกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

“เรากำลังเตรียมเปิดประเทศของเรา และสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในไม่ช้า” ปธน.ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าว
https://www.bangkokbiznews.com/news...ce=slide_topnews&utm_medium=internal_referral

 

มีผลพรุ่งนี้! บังคับใส่ 'หน้ากากอนามัย' ขึ้นรถไฟ-รถไฟฟ้า

24 มีนาคม 2563

"กรมราง" ออกประกาศบังคับใส่ "หน้ากากอนามัย" หรือ "หน้ากากผ้า" ก่อนขึ้นรถไฟ-รถไฟฟ้า เริ่มทันทีพรุ่งนี้

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า วันนี้(24 มี.ค.) ได้ลงนามในคำสั่งประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่องข้อแนะนำในการปฎิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) สำหรับผู้โดยสารและหน่วยงานที่ใช้บริการระบบขนส่งทางราง ฉบับที่ 2 ประกาศดังกล่าวจะกำหนดบังคับให้ผู้โดยสารที่จะใช้บริการสาธารณะทางรางทุกคนก่อนใช้บริการระบบราง ทั้ง รถไฟ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.), และ รถไฟฟ้า ประกอบด้วย รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ ของ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.)และ รถไฟฟ้า ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดย บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) รวมถึง รถไฟฟ้าบีทีเอส ของ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จะต้องให้ผู้โดยสารทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ก่อนเข้ามาใช้บริการในระบบ โดยผู้ประกอบการรถไฟ และ รถไฟฟ้า จะต้องอำนวยความสะดวกในการจัดหาหน้ากากมาจำหน่ายในราคาประหยัดให้ผู้โดยสารที่ไม่มีหน้ากากสามารถซื้อก่อนเข้าใช้บริการระบบราง

"กรมการขนส่งทางราง ได้มีการประสานงานไปยัง กรมราชทัณฑ์ และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อจัดหาหน้ากากมาจำหน่ายหน้าสถานีรถไฟ และ รถไฟฟ้า โดยนำหน้ากากมาจากบริเวณหน้าสถานีในเขตกรุงเทพมหานคร รวมถึงหน้ากากอนามัยจากกรมราชทัณฑ์ ขณะนี้ขร.ได้รวบรวมหน้ากากอนามัยอีก 5,000 ชิ้น เนื่องจากของมีไม่มากและได้จัดสรรให้ แอร์พอร์ตลิงค์ แจกฟรี หรือ จำหน่ายราคาถูก ในราคาไม่เกิน 20 บาทต่อชิ้น โดยเริ่มจำหน่ายในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ทั้ง 3 สถานี ประกอบด้วย สถานีพญาไท สถานีมักกะสัน และสถานีลาดกระบัง ซึ่งเป็นหน้ากากผ้าป่านมัสลิน 2 ชั้น สีขาว"



https://www.bangkokbiznews.com/news...cations&utm_campaign=-&utm_content=&utm_term=

 

... "รัสเซีย : ส่งทีมแพทย์และเวชภัณฑ์ชุดใหญ่ช่วยอิตาลียามยาก"

... วันอาทิตย์ที่ 22มีนาคม2020 ที่ผ่านมา"รัสเซีย" ได้ส่งทีมแพทย์ทหารและเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือกับ "อิตาลี" ในการสู้รบกับไวรัสโควิด19แล้วหลังจากเมื่อวันเสาร์ก่อนหน้านั้นลุงปูตินได้คุยโทรศัพท์กับทางลุงกุยเซปเป้ คอนเต้ เพราะมีข่าวออกมาว่าทางการอิตาลีเอาไม่ไหว ทั้งต้องระดมแพทย์ที่เกษียณอายุมาช่วย หรือต้องเลือกช่วยเหลือคนที่ช่วยได้บางส่วนต้องยอมปล่อยให้เสียชีวิต และตัวเลขเมื่อวันเสาร์นั้นเสียชีวิตล่าสุดก็เกือบ 800 คน

... โดยการส่งครั้งนั้นเป็นครั้งใหญ่เพราะนอกจากเวชภัณฑ์รัสเซียยังได้ส่งทีม "ทหารผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและโรคระบาด" ชุดใหญ่ประมาณ100 นายไปช่วยอิตาลีด้วย

... รัสเซียเองก็มีคนติดเชื้อ แต่แค่ 306 คน ที่ส่วนใหญ่อยู่ในมอสโกว์เสียชีวิตหนึ่งคน, ถือว่ายังไม่มากหนักเลยต้องส่งไปช่วยอิตาลีที่อาการหนักกว่า

... "A friend in need, is a friend indeed"

... "เพื่อนยามยากคือเพื่อนแท้"

.

.
... Italy recorded a jump in deaths from the coronavirus of almost 800 on Saturday, taking the toll in the world’s hardest-hit country to almost 5,000.

The Russian Defence Ministry said that military transport planes would deliver eight mobile brigades of military medics, special disinfection vehicles and other medical equipment to Italy from Sunday.

Russia will also send about 100 military specialists in virology and epidemics, the Interfax news agency cited the defense ministry as saying.

... https://ottawacitizen.com/pmn/health-pmn/russian-army-to-send-coronavirus-help-to-italy-after-putin-phone-call-2/wcm/c339d105-0c28-476d-8d0e-c37c632a466e/

 

Environman กำลังรู้สึกเศร้าที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่
เทศบาลนครเชียงใหม่, จังหวัดเชียงใหม่ ·

ไฟป่าหางดง! ภาพมุมสูงจากทีมโดรนอาสา ที่บินสำรวจสถานการณ์ไฟป่า บริเวณหลังวัดป่าธรรมชาติ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ล่าสุดไฟ 23.30น. มีรายงานว่าไฟยังคงลุกลามขยายเป็นวงกว้าง
•
ขณะที่พื้นที่มีใบไม้แห้งเป็นเชื้อเพลิงจำนวนมาก มีลมที่พัดแรงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ฯติดตามและเฝ้าสังเกตุการณ์ ในพื้นที่แล้ว
•
ภาพ : ทีมโดรนอาสา

ที่มา WEVO สื่อสู้ฝุ่น

#WEVO #สื่อสู้ฝุ่น

 

เราหยุด เผาป่าไม่หยุด เจ้าหน้าที่ไม่ได้หยุด! วอนเห็นใจ ขอหยุดเผาป่า! รักษาธรรมชาติ ลดหมอกควัน ดอยอินทนนท์ เผยเจ้าหน้าที่ออกดับไฟทั้งวันคืน
ร่วมให้กำลังใจ สนับสนุนอาหาร-น้ำ-สิ่งของได้
•

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ - Doi Inthanon National Park เผยถึงสถานการณ์ไฟป่าขณะนี้ว่า

" สถานะการณ์ไฟป่า ช่วงนี้ก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง เรียกว่าออกดับกันทั้งวันทั้งคืน ขอเถอะครับ อย่าเผาป่า เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ป้องกันปัญหาหมอกควัน ท่านยังสามารถให้กำลังใจ และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการออกดับไฟได้ครับ ทั้งอาหารแห้ง เครื่องดื่ม หรือสิ่งของต่างๆ ครับ"
•
ที่มา

https://www.facebook.com/DoiInthanonNationalPark/

 

สาวติดโควิด วอนช่วย แน่นหน้าอก-หายใจไม่ออก ขอเข้ารักษา แต่เตียงเต็ม รพ.ประกันสังคม ก็ไม่รับ!



24 มี.ค. 2563-14:06 น.

สาวติดโควิด วอนช่วย แน่นหน้าอก-หายใจไม่ออก ขอเข้ารักษา แต่เตียงเต็ม รพ.ประกันสังคม ก็ไม่รับ!
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ติดโควิด 19 โพสต์เล่าเรื่องราวปัญหาของตัวเองขณะทำการรักษาความว่า ยาวหน่อยแต่ช่วยอ่านให้จบค่ะ!!!!!!!!!! #เสียงจากผู้ติดเชื้อโควิด19

เมื่อวันที่18ที่ผ่านมาเราได้เข้ารับการตรวจเชื้อโควิด 19 ที่สนามมวยราชดำเนิน ทางเวทีราชดำเนินได้ให้กรมควบคุมโรคมาตรวจให้เจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องฟรี

เช้าวันเสาร์ที่ 21 เราได้รับสายการสาธารณสุขแห่งหนึ่งในเขตที่เราพักอาศัยว่า ผลตรวจคุณเป็นบวก...คือตรวจพบเชื้อ โควิด19 ทางสาธารณสุขแจ้งวิธีการปฏิบัติตัวเบื้องต้นและจะโทรมาถามอาการเราทุกระยะ

อาการของเราเบื้องต้นไม่มีไข้ มีเจ็บคอเล็กน้อย แน่นหน้าอก จนกระทั่งวันอาทิตย์(22 มี.ค.)ช่วงค่ำเรามีอาการแน่นหน้าอกมากขึ้น ปวดศีรษะหนัก มีไข้ เช้าวันจันทร์ยังคงปวดศีรษะอยู่มีไข้วัดได้ที่ 38 องศา และมีอาการแน่นหน้าอกมากขึ้นและหายใจหอบขึ้นเรื่อยๆ

เราต้องการการเข้ารับการรักษาแต่ทว่า...เบอร์1669 แจ้งเราว่าเตียงเต็มให้เรารอคิว อ้าว..งงซิค่ะ เราเลยแจ้งไปทางสาธารณสุข ประสานงานให้เราใช้สิทธิประกันสังคม แต่ทว่า...ร.พ.สิทธิประกันสังคมโทรมาแจ้งเราว่าไม่สามารถให้เราแอดมิตได้ เพราะเค้าไม่มีห้องแยก ไม่มียา ไม่มีเครื่องมือสำหรับผู้ป่วยโรคนี้ ให้เราดูอาการตัวเองอยู่บ้าน ย้ำค่ะ!!!ดูแลตัวเองอยู่บ้าน

อีเราก็อึ้งๆไปพักนึงเลยถามเค้าไปว่าช่วยประสานงานให้เราได้ไหม คือเราอยากได้รับการรักษาเพราะเรารู้สึกว่าเราหายใจไม่ค่อยปกติและอาการมันมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับมีไข้เราทานยาลดไข้แต่ไข้ก็ยังอยู่ที่37.6 ทางร.พ.บอกว่าโทรไป1669ค่ะ ก็วนมาอีรอบเดิม1669 ก็ให้รอบอกเตียงเต็ม

คือยังไงค่ะ!!!!!!!!!!มีใครช่วยดิฉันได้ไหมหรือดิฉันต้องเดินเข้าไปร.พเอง ขอความเห็นใจหน่อยเถอะค่ะอย่าให้ผู้ป่วยต้องนั่งรอๆๆๆๆแล้วรออยู่ที่บ้านเลย เราไม่รู้ว่าเชื้อเราลงไปที่ปอดหรือยังอันตรายแค่ไหน ทำไมเราถึงหายใจได้ไม่สะดวกขึ้นเรื่อยๆ หาทางออกไม่ได้เลยไม่มีใครบอกได้เลยว่าเมื่อไหร่เราจะได้รับการรักษา

วอนภาครัฐช่วยหน่อยเถอะค่ะ อย่าให้ถึงขั้นตัดสนใจเดินเข้าไปโรงพยาบาลเองเลยค่ะ เราไม่ได้อยากทำให้คนอื่นเดือนร้อน ไม่ได้อยากไปแพร่เชื้อให้ผู้อื่น #เสียงจากผู้ติดเชื้อโควิด19





https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_3812084

 

จีนจับมืออังกฤษ ฝ่าวิกฤตโควิด-19
.
1.สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในคืนวันจันทร์ที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา
.
2.สี จิ้นผิง กล่าวยืนยันพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออังกฤษ และมั่นใจว่า อังกฤษจะมีชัยเหนือการแพร่ระบาดของไวรัสได้อย่างรวดเร็ว
.
3.สี จิ้นผิง ย้ำว่า วิกฤตไวรัสแสดงให้โลกรู้ว่า ไม่มีขอบเขตหรือเส้นแบ่งระหว่างเชื้อชาติ และการทำงานร่วมกันเท่านั้น จะทำให้มนุษยชาติเอาชนะการต่อสู้กับไวรัสได้
.
4.นายบอริส จอห์นสัน กล่าวยินดีต่อรัฐบาลจีนและประชาชนในความสำเร็จของการป้องกันและควบคุมโรคระบาด และขอชื่นชมจีนที่ใช้ความพยายามอย่างหนักและความเสียสละอย่างมหาศาล
.
5.นายบอริส กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษกำลังน่าวิตก ซึ่งอังกฤษกำลังศึกษาและเรียนรู้จากประสบการณ์การใช้มาตรการป้องกันและควบคุมทางวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพของจีน
.
6.บอริส จอห์นสัน ยืนยันว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ที่ว่า ไม่มีประเทศใดเพียงลำพัง ที่สามารถป้องกันตัวเองจากโรคระบาด โดยไม่กระชับความร่วมมือกับชาติอื่น
.
++ สถานการณ์ในอังกฤษ ++
.
1.นายบอริส จอห์นสัน ออกแถลงการณ์ล่าสุด มีสาระสำคัญว่า นับจากนี้ไปเป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ รัฐบาลขอให้ทุกคนอยู่บ้าน เนื่องจากตอนนี้ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากภายนอกสู่ครัวเรือน
.
2.อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงสามารถออกจากบ้านหรือที่พักได้ในกรณีที่จำเป็น เช่น ต้องไปซื้อสินค้าจำเป็น ไปพบแพทย์ ซื้อยาที่ร้านขายยา หรือไปทำงานที่เร่งด่วน
.
3.สถานประกอบการที่สามารถเปิดให้บริการได้ ต้องเกี่ยวข้องกับอาหาร ยา เวชภัณฑ์ หรือสินค้าหรือบริการที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น
.
4.กิจกรรมทางสังคม เช่น งานแต่งงานขอให้เลื่อนไปก่อน จัดงานศพได้ แต่ขอให้พิธีการสั้นที่สุด
.
5.ห้องสมุดและศาสนสถานปิดให้บริการทั้งหมด ยกเว้น 'สวนสาธารณะ' ที่ยังคงเปิดให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้ตามปกติ แต่ห้ามรวมตัวกันเกิน 2 คน
.
6.ตำรวจมีอำนาจในการจับปรับ สั่งยุติการรวมกลุ่ม และมีอำนาจตรวจสอบพฤติกรรมของประชาชนที่ละเมิดมาตรการ
.
7.รัฐบาลอังกฤษให้เหตุผลถึงการยกระดับมาตรการว่า เป็นผลมาจากการที่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือในการขอให้รักษาระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 2 เมตร
.
8.บุคลากรการแพทย์คือ บุคคลที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ กองทัพจะเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งเครื่องมือแพทย์ และสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของบุคลากรการแพทย์ ตลอด 24 ชั่วโมง
.
9.จำนวนผู้ป่วยในอังกฤษเพิ่มเป็นอย่างน้อย 6,650 คน รักษาหายแล้ว 135 คน เสียชีวิต 335 คน
.
10.อังกฤษพบผู้ป่วยคนแรกเมื่อวันที่ 31 ม.ค. และมีผู้เสียชีวิตคนแรกเมื่อวันที่ 5 มี.ค.
.

 

(มาเก๊า) ชาวฮ่องกง, ไต้หวัน, จีนที่ไปต่างประเทศช่วง 14 วันห้ามเข้ามาเก๊า

มาเก๊าได้ยกระดับมาตรการขึ้นอีก หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด 15 ราย ที่ล้วนมาจากการเดินทางไปต่างประเทศ

เริ่มตั้งแต่วันนี้ (25 มีนาคม 2020) มาเก๊าจะไม่อนุญาตให้พลเมืองฮ่องกง, ไต้หวัน, จีนที่ได้เดินทางไปต่างประเทศช่วง 14 วันเข้ามาเก๊า

พลเมืองฮ่องกง, ไต้หวัน, จีนที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศจะยังสามารถเข้ามาเก๊าได้ แต่ต้องเข้ารับการกักกันเชื้อ 14 วัน

ผู้ว่าการฯ มาเก๊า Ho Iat-seng เผยว่าได้รับคำแนะนำให้ปิดเมืองเช่นกัน แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากยังมีนักเรียนที่ไปเรียนต่างประเทศและต้องใช้สนามบินฮ่องกงในการเดินทางกลับมาที่มาเก๊า

สัปดาห์ที่แล้ว มาเก๊าได้ออกมาประกาศแบนห้ามผู้ไม่ใช่พลเมืองมาเก๊าเข้ามา โดยได้ยกเว้นพลเมืองฮ่องกงและไต้หวัน แต่นับตั้งแต่วันนี้พลเมืองฮ่องกงและไต้หวันจะต้องเข้ารับการกักกันเชื้อ

Source : https://asiatimes.com/2020/03/macau-starts-medical-checks-on-hk-taiwan-visitors/

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong #ข่าวมาเก๊า

 

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไต้หวันในช่วงสองวันที่ผ่านมา 2 ราย มีอาการสูญเสียการรับรสและกลิ่น ในต่างประเทศก็พบกรณีคล้ายกัน นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษชี้ให้เห็นว่า ผู้ติดเชื้อวัยหนุ่มสาวอาจไม่มีไข้และอาการไอ แต่อาจเริ่มต้นด้วยการสูญเสียการรับรสและกลิ่น ผู้เชี่ยวชาญยังเสริมด้วยว่า ถึงแม้ผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการเหล่านี้ยังพบไม่มาก แต่ผลการวิจัยพบว่าไวรัสมีผลทำลายระบบประสาทด้วย

 

ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดกลับแรงมากเมื่อคืนนี้ Dow Jones +2,100 จุด มากที่สุดในรอบ 87 ปี ! ด้วยความหวังว่าสภาจะผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านเหรียญ ได้เร็วๆนี้ ทางด้านทองบวกสูงถึง +7% ! ถึงแม้ #ผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะทะลุ 400,000 รายแล้ว

หุ้นทั่วโลกนั้นมีความหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัตติศาสตร์ของสหรัฐ (ครั้งปี 2008 ประมาณ 8 แสนล้านเหรียญ) นี้จะมาช่วยเป็นยาแก้วิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกได้ นอกจากตลาดหุ้นสหรัฐจะดีดกว่า 10-12% ครบทุกดัชนี Dow Jones, S&P และ Nasdaq ทางตลาดหุ้นยุโรปก็ดีดกว่า +10% เช่นกันถึงแม้ว่าสถานการณ์ผู้ป่วยในยุโรปยังวิกฤตอยู่ก็ตาม

โดยแรงกระตุ้นนั้นกระเด็นมาถึงฝั่งเอเชียด้วยเช่นกัน เช้านี้้ดัชนี Nikkei และ HangSeng ต่างบวกอย่างละ +3% เชื่อว่าทาง #ตลาดหุ้นไทย
SET น่าจะได้รับผลบวกไปด้วยครับ

ทางด้านสมาชิกสภาทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกันเภยว่า ทั้งสองฝั่งใกล้บรรลุข้อตกลงในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านเหรียญนี้แล้ว (ตอนแรกถกกันว่าจะเป็น 2.5) ซึ่งมีเป้าหมายมอบความช่วยเหลือทางการเงินแก่ชาวสหรัฐที่ต้องตกงานและช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ยังติดอยู่ที่รายละเอียดย่อยต่างๆ เพราะทางฝ่ายค้านอยากให้ใส่รายละเอียดไว้ให้ชัดเจนว่าเงินจำนวนนี้จะไปช่วยเหลือใครและธุรกิจอะไรบ้าง ในขณะที่ฝั่งรัฐบาลทรัมป์นั้นต้องการที่จะทิ้งว่างไว้ให้เป็นสิทธิของรัฐบาลทรัมป์เป็นผู้เลือกว่าจะช่วยเหลือใครบ้าง

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความออกมากดดันให้สภาอนุมัติมาตรการดังกล่าวอย่างรวดเร็ว

"Congress must approve the deal, without all of the nonsense, today. The longer it takes, the harder it will be to start up our economy. Our workers will be hurt! "

"สภาจะต้องอนุมัติข้อตกลงดังกล่าวในวันนี้ ! โดยไม่เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ เพราะหากยิ่งลากเวลาออกไปนานเท่าใด ก็จะทำให้เศรษฐกิจของเราเริ่มฟื้นตัวยากขึ้นอีกครั้ง และแรงงานของเราจะได้รับผลกระทบหนัก" ทรัมป์ทวีต

ทรัมป์ยังได้ออกมาย้ำอีกว่าจะไม่ปิดประเทศสหรัฐแน่ๆ แถมการบิน
ของสหรัฐที่สั่งปิดไปเยอะจนยอดการบินหายไป -86% ทั้งประเทศจะกลับมาเป็นปกติภายในวันหยุด Easter นี้ (12 เม.ย.)

ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐนั้นทะลุ 52,000 รายแล้วเป็นอันดับที่ 4 ของโลกและจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 680 ราย แต่ทางด้านทรัมป์นั้นยังยืนยันคำเดิม ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นทำให้หลายๆฝ่ายประหลาดใจว่าทรัมป์จะมั่นใจได้อย่างไรว่าทุกอย่างจะดีขึ้นภายใน 2 อาทิตย์

ทางด้าน #ราคาทอง ที่ดีดขึ้นอย่างแรงนั้นทางเราจะเขียนบทวิเคราะห์แยกให้อีกทีครับ

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

ทรัมป์ออกมาย้ำว่าจะไม่ปิดประเทศสหรัฐแน่ๆ แถมการบิน
ของสหรัฐที่สั่งปิดไปเยอะจนยอดการบินหายไป -86% ทั้งประเทศจะกลับมาเป็นปกติภายในวันหยุด Easter นี้ (12 เม.ย.) ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐยัง +9% อยู่และกำลังรอลุ้นอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.5 ล้านล้านเหรียญจากสภาในวันนี้

ทรัมป์ได้ให้สัมถาษณ์กับ Fox News ว่า "เราจะไม่ทำการปิดประเทศเป็นอันขาด เพราการยอมทำแบบนั้นผลกระทบต่อประเทศอาจจะเลวร้ายไปกว่าปัญหาที่เจออยู่ และเราตั้งใจจะเปิดประเทศเราให้กลับไปเป็นปกติภายในเทศกาลวันหยุด Easter นี้ ส่วนผู้คนควรจะไปทำงานได้เป็นปกติหากว่าไม่ป่วย"

ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐนั้นจะทะลุ 50,000 รายแล้วเป็นอันดับที่ 4 ของโลกและจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 556 ราย แต่ทางด้านทรัมป์นั้นยังยืนยันคำเดิม ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นทำให้หลายๆฝ่ายประหลาดใจว่าทรัมป์จะมั่นใจได้อย่างไรว่าทุกอย่างจะดีขึ้นภายใน 2 อาทิตย์

ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง Dow Jones และ S&P ยังบวกหนักที่ +8% ถึง +9% อยู่และทั้งตลาดกำลังรอลุ้นอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.5 ล้านล้านเหรียญจากสภาในวันนี้ ซึ่งเข้าใจว่าปัญหาเดียวที่มีตอนนี้คือทางฝั่ง Democrat อยากให้ใส่รายละเอียดไว้ให้ชัดเจนว่าเงินจำนวนนี้จะไปช่วยเหลือใครและธุรกิจอะไรบ้าง ในขณะที่ฝั่งรัฐบาลทรัมป์นั้นต้องการที่จะทิ้งว่างไว้ ให้เป็นสิทธิของรัฐบาลทรัมป์เป็นผู้เลือกว่าจะช่วยเหลือใครบ้าง

ต้องมาติดตามกันดูว่าจะมีเซอไพรส์หรือไม่ครับ

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)
นวัตกรรมเชิงพื้นที่: กรณี Coronavirus contact
Innovative Containment from Pandemic to Social distance

1. ตอนนี้ข้อมูลการแพร่กระจายเชิงพื้นที่วันต่อวันก็มีมากพอสมควร พอที่จะใช้คำนวน
Coronavirus contact transmission rate ในประเทศเราได้

2. ผู้ใดว่างๆอยู่ที่บ้าน เสาร์-อาทิตย์นี้ขอให้ลองนั่งคำนวน Epidemiologic Matrix
เช่นจาก Model ของ Dr.Adam Kucharski (นักคณิตศาสตร์ at London School of
Hygiene and Tropical medicine ที่เขาใช้กันอยู่)

3. จากนั้นเราจะสามารถสร้างระบบ Area Containment อันเป็นนวัตกรรมเชิงพื้นที่ได้ หาก
อยู่ในชุมชนใด จัดประชุมที่ไหน (มี Ecosystem เช่นใด) เราต้องห่างจากบุคคลใด
ระยะห่างเท่าไหร่.........เดินกับแฟนให้เหมาะสมต้องทำอย่างไร

4. ชีวิตนี้ดูแล้วน่าจะอยู่ง่ายขึ้น ! enjoy สูตรข้างล่างนี้

สมเจตน์ ทิณพงษ์ 20/03/2563

 

Extreme Weather World

# โมร็อกโก
2020/03/24

 

กิ๊ฟจังนั่งเล่า


#สรุป ยอดโควิด-19 ในญี่ปุ่นวันที่ 24 มีนา 2020

ผู้ติดเชื้อใหม่รวม 71 ราย จากในประเทศ
เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย (โตเกียว)

ทำนิวไฮใหม่ทั้งยอดติดทั้งประเทศ และ ยอดในโตเกียว
โตเกียวแซงหน้าฮอกไกโดขึ้นแท่นอันดับ 1 ยอดผู้ติดเชื้อแล้ว
ผู้ว่าโคอิเคะ ของกรุงโตเกียว ตอบในรายการซีโร่เมื่อคืนถึงคำถามว่า โตเกียว Overshoot แล้วหรือยัง? เพราะครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อหาต้นตอไม่เจอด้วย
>>ผู้ว่ามีอึกอักนิดก่อนตอบประมาณ เอาอยู่แบบคาบเส้นยาแดง

ช่วงนี้จะเจอศัพท์นี้บ่อยมาก オーバーシュート Overshoot แปลไทย ๆ ง่าย ๆ คือ เอาไม่อยู่นั่นเอง หรือ การระบาดแบบระเบิด คนป่วยพุ่งพรวด ๆ 爆発的な感染拡大、患者の急増

———-
สรุปผล
———-
ยอดรวม 1923 ราย แบ่งเป็น

ในประเทศ+ชาร์เตอร์ 1211 ราย
เรือสำราญ 712 ราย

✝เสียชีวิต 53 ราย แบ่งเป็น
—>เรือสำราญ (ลงมารักษาที่รพ.) 10 ราย
—-> ในประเทศ 43 ราย (+1)

☺️หายแล้ว (ออกรพ.) 891 ราย
- ในประเทศ 301 ราย (+16)
- เรือสำราญ 590 ราย (+3)

ยอดผู้ป่วยที่กำลังรักษาอยู่ ณ ตอนนี้ 867 ราย (+54) (ไม่รวมเรือ)
✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

ในประเทศแยกตามจังหวัด*
⚠️***เป็นยอดสะสม บางคนออกรพ. ไปแล้ว***
ตรวจเช็ครายละเอียดรายเคส: https://coromap.info/ <ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว สีเขียว = หายแล้ว เช็คจากแผนที่ได้นะคะ >

⚠️(ในวงเล็บคือ เพิ่มจากเมื่อวาน)
หมายถึง อันดับขึ้นเทียบกับตำแหน่งเมื่อวาน เช่น โตเกียว แซง ฮอกไกโด

▽โตเกียว 171 ราย (+17) ✝️เสียชีวิต 5 (+1)
▽ฮอกไกโด 163 ราย (+1)✝️เสียชีวิต 6

▽ไอจิ 148 ราย (+4) ✝️เสียชีวิต 17
▽โอซาก้า 142 ราย (+8) ✝️เสียชีวิต 2
▽เฮียวโกะ 118 ราย (+5) ✝️เสียชีวิต6

▽คานางาวะ 83 ราย (+6) ✝️เสียชีวิต 4
▽ไซตามะ 59 ราย (+7) ✝️เสียชีวิต 1
▽ชิบะ 48 ราย (+1)

▽นีกาตะ 28 ราย (+1)
▽เกียวโต 27ราย (+2)
▽โออิตะ 23 ราย (+1)

▽วาคายามะ 17 ราย ✝️เสียชีวิต 1
▽กุนมะ 13 ราย (+2)✝️เสียชีวิต 1
▽โคจิ 12 ราย
▽กิฟุ 11 ราย (+3)
▽อิบารากิ 10 ราย (+5)

▽มิเอะ 9 ราย
▽นาระ 9 ราย
▽ฟุกุโอกะ 9 ราย (+3)

▽อิชิคาวะ 8 ราย
▽คุมาโมโตะ 7 ราย
▽โทจิกิ 6 ราย (+2)

▽ชิกะ 5 ราย
▽โอกินาว่า 5 ราย (+1)
▽นางาโนะ 5 ราย (+1)

▽ยามากุจิ 4 ราย (+1)
▽ยามานาชิ 4 ราย (+2)

▽ชิซุโอกะ 3 ราย
▽เอะฮิเมะ 3 ราย
▽ฮิโรชิม่า 3 ราย
▽มิยาซากิ 3 ราย

▽อาคิตะ 2 ราย
▽ฟุคุชิมะ 2 ราย
▽อาโอโมริ 2 ราย

▽โทคุชิมะ 1 ราย
▽มิยากิ 1 ราย
▽ซากะ 1 ราย
▽นางาซากิ 1 ราย
▽คางาวะ 1 ราย
▽ฟุคุอิ 1 ราย
▽โอคายามะ 1 ราย

▽เจ้าพนักงานต่าง ๆ บนเรือสำราญ/ เจอที่สนามบิน 28 ราย
———-

เกณฑ์เข้ารับการตรวจโควิด
https://www.facebook.com/106549004058389/posts/195878838458738/?d=n

Process ในการเข้ารับ
https://www.facebook.com/106549004058389/posts/208899980489957/?d=n

ทางรัฐบาลญี่ปุ่นออกมาแนะนำให้ประชาชน ป้องกันจากการติดเชื้อ โดยใช้วิธีเดียวกับการป้องกันไข้หวัดใหญ่นั่นคือ

สวมแมส
ล้างมือบ่อย ๆ อย่างน้อยครั้งละ 20 วินาที
หลีกเลี่ยงการนำมือขยี้ส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ตา จมูก ปาก
└( 'ω')┘ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
กลุ่มเสี่ยง เช่น หญิงมีครรภ์ คนป่วย คนชราควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด อย่างบนรถไฟเป็นต้นค่ะ

✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

Map from:NewsDigest

Info from: NHK/ NewsDigest / Kyodo
Asahi Shimbun / Yahoo! News

 

#ข่าวด่วน #ข่าวสั้น ชิมุระเคน พิธีกรชื่อดังเป็นโควิด-19 ตอนแรกอาการหนัก แต่ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว เข้ารพ. แห่งหนึ่งในโตเกียว

ภาพจาก: น.ส.พ. Sankei sports / TVAsahi

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

การบินไทยเตรียมยกเลิกเที่ยวบินเป็นการชั่วคราว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ที่ยังทวีความรุนแรงไปทั่วทุกภูมิภาคในโลก ทำให้แต่ละประเทศเพิ่มมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการออกมาตรการคัดกรองและห้ามเดินทางเข้า-ออกประเทศอย่างเข้มงวด ทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนของประเทศต่างๆ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จึงจำเป็นต้องจัดทำแผนรับมือ และทยอยยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มเติมเป็นการชั่วคราว ดังนี้

1. ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ได้แก่ ฮ่องกง ไทเป โตเกียว (นาริตะ และฮาเนดะ) โอซากา นาโกยา โซล พนมเปญ เวียงจันทน์ โฮจิมินห์ ฮานอย ย่างกุ้ง สิงคโปร์ จาการ์ตา เดนปาซาร์ คุนหมิง เซี่ยเหมิน เฉิงตู ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว การาจี กาฐมาณฑุ ละฮอร์ ธากา อิสลามาบัด โคลัมโบ สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ โอนย้ายเที่ยวบินให้สายการบินไทยสมายล์ทำการบินแทนทุกเที่ยวบิน

2. ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ได้แก่ บริสเบน ซิดนีย์ เมลเบิร์น เพิร์ท

3. ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะยกเลิกเที่ยวบินเกือบทั้งหมดในภูมิภาคยุโรป ได้แก่ ลอนดอน แฟรงก์เฟิร์ต ปารีส บรัสเซลส์ โคเปนเฮเกน ออสโล มอสโก สตอกโฮล์ม

โดยก่อนหน้านี้ การบินไทยได้ยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศ ได้แก่ เซนได ซัปโปโร ฟุกุโอกะ ปูซาน มะนิลา กัวลาลัมเปอร์ โรม มิลาน เวียนนา นิวเดลี มุมไบ กัลกัตตา เจนไน เบงกาลูรู ไฮเดอราบัด มัสกัต ดูไบ และโอ๊คแลนด์

ทั้งนี้ บริษัทฯ อำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงและขยายเวลาการเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร ที่ถือบัตรโดยสารการบินไทย และเดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทย หรือ เที่ยวบินร่วมของไทยสมายล์ ซึ่งผู้โดยสารสามารถขยายเวลาบัตรโดยสารที่ยังไม่ได้ใช้ทั้งฉบับ โดยเปลี่ยนมูลค่าบัตรโดยสารเป็น Travel Voucher ที่มีอายุการใช้งาน 1 ปี และยกเว้นค่าธรรมเนียม โดยต้องเป็นบัตรโดยสารที่ออกก่อนวันที่ 25 มีนาคม 2563 และมีกำหนดการเดินทางในเส้นทางเอเชีย ที่เดินทางระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2563 และ เส้นทางยุโรป ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ที่เดินทางระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 31 พฤษภาคม 2563

สำหรับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส ที่ใช้ไมล์สะสมออกบัตรโดยสารรางวัล โดยระบุวันเดินทางระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2563 สามารถติดต่อคืนบัตรโดยสารรางวัลได้ภายในอายุของบัตรโดยสาร โดยบริษัทฯ จะคืนไมล์ให้เต็มจำนวน หรือ สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม และหากบัตรโดยสารรางวัล ที่ทำการคืนมีส่วนของไมล์ที่หมดอายุ ไมล์สะสมดังกล่าวจะได้รับการต่ออายุไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563

ผู้โดยสารสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของตารางการบิน เปลี่ยนแปลงและขยายเวลาการเดินทาง สามารถดำเนินการด้วยตนเอง ได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com และสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส สามารถติดต่อเพื่อดำเนินการ ได้ที่สำนักงานขายการบินไทย หรือ ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ thaiairways.com/rop

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังให้บริการขนส่งสินค้าในบางเส้นทาง รวมทั้งอาจจัดเที่ยวบินพิเศษหากกรณีมีผู้โดยสารตกค้างเป็นจำนวนมาก และได้รับการติดต่อประสานงานจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงการทำการบิน บริษัทฯ จะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบต่อไป

 

ไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 ใหม่ 107 ราย ยอดสะสม 934 ราย

25 มีนาคม 2563

ไทย พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 รายใหม่ 107 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 934 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาล 860 ราย หายกลับบ้านแล้ว 70 ราย


https://www.bangkokbiznews.com/news...m_campaign=-19 107 934&utm_content=&utm_term=