ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Aug 14, 2024 มีผลสองทาง! นักวิชาการ ภาคเอกชน ประเมินศาลรัฐธรรมนูญเคาะตัดสิทธิ นายกฯหรือได้ไปต่อ มีผลกกระทบเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ไม่อยากเห็นถึงขั้นยุบสภาฯเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า

    นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะออกมาบวกหรือลบ หรือยังมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรักษาการณ์หรือไม่ โดยรวมภาพคงไม่กระทบต่อภาคการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดต่างประเทศทั่วโลกในปี 67 นี้แน่นอน เนื่องจากตลาดโลกยังมีความต้องการสินค้าไทยอยู่เป็นจำนวนมากและยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ดังนั้น สิ่งที่ภาคเอกชนโดยเฉพาะขนส่งทางเรืออยากเห็นคือความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐบาล

    อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลมีความเป็นเอกภาพและดำเนินนโยบายพัฒนาด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องได้ โดยเป็นแผนการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน การขนส่ง และการต่างประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันจะทำให้เศรษฐกิจไทยและประเทศไทยจะได้รับความสนใจจากต่างประเทศเพิ่มมากยิ่งขึ้น จึงมองว่าไม่ว่าใครหรือพรรคการเมืองใดเข้ามาบริหารประเทศจะต้องมีแผนหรือยุทธศาสตร์ต่อการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นแผนเดียวกัน โดยปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการค้า การลงทุน การขนส่งระหว่างประเทศมีควมาเชื่อมโยงกัน จึงอยากฝากให้ผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศจะต้องวางแนวทางทั้งภาครัฐและเอกชนควรดำเนินนโยบายไปในทิศทางเดียวกัน.

    ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่าหากผลออกมา ได้ไปต่อ สิ่งที่นายกฯ เศรษฐา จะต้องเร่งขับเคลื่อนทุกแนวทางให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อเรียกความเชื่อมั่นการค้า การลงทุนรวมถึงแนวทางต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ให้เห็นผลโดยเร็ว โดยเฉพาะมาตรการดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน แต่หากนายกรัฐมนตรีถูกตัดสิทธิและไม่ได้ไปต่อ ก็ต้องมาดูว่ารองนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์จะดำเนินการอย่างไร แต่หากรองนายกรักษาการณ์สามารถยุบสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็เห็นว่าจะไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้แต่อย่างใด

    อย่างไรก็ดี เห็นว่าพรรคแกนนำคือพรรคเพื่อไทยอาจจะต้องนำบุคคลในพรรคที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ถึง 2 คน เลือกให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อรักษาสิทธิโครงการดิติทัลวอลเล็ตและแนวนโยบายอื่นๆ ไว้ที่จะเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าและไม่หยุดชะงักไป ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างมากโดยไม่ต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่จะทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอไปอีกเป็นปีได้ ดังนั้น จึงเชื่อว่าหากไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ เศรษฐา โดยเศรษฐกิจไทยจะเติบโตหลังมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิดขึ้นในช่วงปลายปีอยู่ที่ร้อยละ 2.6-2.8 และปี 68 อยู่ที่ร้อยละ 3.2-3.5 ได้ แต่หากยุบสภาและเลือกตั้งใหม่คงต้องประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง

    #นายกฯเศรษฐา #ศาลรัฐธรรมนูญ #เศรษฐกิจ #ดิจิทัลวอลเล็ต #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/md6seBoa1zxFKLpB/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Aug 14, 2024 ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญลงมติ 5:4 นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 สิ้นสุดตำแหน่งนายกฯ 355 วัน ดัชนีหุ้นไทยดิ่ง -14 จุด(-1.13%) แตะ 1,283 จุด

    วันนี้ 14 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลา 15.30 น. โดยประมาณ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจภัยมีมติโดยตุลาการเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4)

    ย้อนกลับไปเมื่อเวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขึ้นนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย กรณีที่ 40 สว. ยื่นผ่านประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากการแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยฝ่ายนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง มี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนนายกฯ มาฟังคำวินิจฉัย

    ขณะที่ทราบมติของศาลรัฐธรรมนูญทันที ดัชนีหุ้นไทย SET เคลื่อนไหวที่ระดับ 1,283 จุด ลดลง -14 จุด หรือ -1.13% ในเวลาต่อมาเมื่อ 16.00 น. ดัชนีหุ้นไทย SET เคลื่อนไหวที่ระดับ 1,288.53 จุด ลดลง -9.26 จุด หรือ -0.71% มูลค่าซื้อขายสุทธิ 41,751 ล้านบาท

    ย้อนเส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ในในวันที่ 23 ส.ค.2566 นายเศรษฐา รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยหนึ่งในคำสัญญาที่นายเศรษฐา ประกาศว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมมั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้า และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน นับจากวันนี้เป็นต้นไป

    https://www.facebook.com/share/p/uzrWi9NSGu14uwAB/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หุ้นไทยไหลลงเรื่อยๆ ล่าสุด -16.80 จุด ทำจุดต่ำสุดที่ 1,280.99 จุด ท่ามกลางข่าว ‘เศรษฐา’ พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    #TODAYBizview
    FB_IMG_1723628702009.jpg
    'ณัฐชาต เมฆมาสิน' ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) บ่ายวันนี้ (14 ส.ค.67) ปรับตัวลดลงอย่างหนักสาเหตุมาจาก 'เศรษฐา ทวีสิน' หลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับนโยบายที่รอคอยอย่าง 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ที่อาจจะถูกเลื่อนออกไป หรือในกรณีที่เลวร้ายก็อาจถูกยกเลิกไปเลย
    .
    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทำให้เศรษฐกิจเกิดสุญญากาศ ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอติดตามว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่หรือมีการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเมื่อไหร่
    .
    ซึ่งหากกระบวนการเสร็จสิ้นโดยเร็วภายในไตรมาส 3 นี้ก็ยังมองว่าตลาดยังมีโอกาสฟื้นกลับมาได้ แต่หากล่าช้าออกไปก็อาจจะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดทุนมากขึ้น
    .
    โดยประเมินแนวรับสำคัญหากกระบวนการเสร็จสิ้นโดยเร็วภายในเดือนกันยายน ดัชนีน่าจะไม่หลุด 1,270 จุด แต่หากล่าช้ามีการลากยาวไปไตรมาส 4 ก็มีโอกาสค่อนข้างสูงที่ดัชนีจะหลุด 1,270 จุด ไปอยู่ที่ระดับ 1,240-1,250 จุดได้
    .
    ขณะที่ 'บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด' ประเมินหุ้นไทยปรับตัวลงมาในกรอบ 1,250-1,270 จุด (อิงสถิติการเมืองในอดีต) โดยเน้นหุ้นกลุ่ม Global Play หรือ REIT จะเด่นกว่า Domestic Play เพราะเกิดสุญญากาศทางการเมือง
    .
    #TODAYBizview
    #MAKETomorrowTODAY
    https://www.facebook.com/share/p/CKMj3krevA93Lv2i/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “เศรษฐา” แถลงข่าวว่า

    เขายังไม่ทราบว่า
    จะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับโครงการ

    “เงินดิจิทัล”

    (Bloomberg) -- นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง กล่าวว่า รัฐสภาจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าใครจะมาแทนที่เขาหลังจากที่เขาถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์เนื่องจากการละเมิดจริยธรรม

    - นายเศรษฐาในแถลงข่าวทางโทรทัศน์กล่าวว่า เขาไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล

    - เขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อถูกถามว่าใครน่าจะมาแทนที่เขา

    - คำตัดสินของศาลจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและแผนการกระเป๋าเงินดิจิทัล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพุธ

    https://www.facebook.com/share/p/24rMTdstT6FXuscH/?mibextid=oFDknk
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [MUST WATCH] - 19.30 น. คืนนี้ จับตาดูตัวเลข CPI ให้ดี !

    ตลาดคาดตัวเลข CPI จะปรับตัวลดลงจาก -3.4% ซึ่งสอดคล้องกับการที่ FED อาจจะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน - พฤศจิกายนนี้

    นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตามองรายงาน CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยตลาดมองว่า

    1) CPI ทั่วไป (รวมหมวดอาหารและพลังงาน) ของเดือนกรกฎาคมจะปรับตัวลดลงเหลือ -3.1% เมื่อเทียบกับรายปี และปรับตัวลดลง -0.3% เมื่อเทียบกับรายเดือน

    2) CPI พื้นฐาน (ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน) ของเดือนกรกฎาคมจะปรับตัวลดลงต่ำกว่า -3.4% เมื่อเทียบกับรายปี และปรับตัวลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับรายเดือน

    เมื่อไม่นานมานี้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก สอดคล้องกับการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเหลือ -3.851% นักลงทุนรอดูตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะลดลงในปีนี้เหลือเพียง 1 ครั้ง

    นายเดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด (Fed) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก่อนเดือนกันยายน แต่ยังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 กันยายนนี้

    ล่าสุดตอนนี้ FedWatch Tool ของ CME Group ยังชี้ว่านักลงทุนให้โอกาสสูงถึง 99.4% ที่ FED ยังจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ต่อไป และมี 0.6% เท่านั้นที่คาดว่า FED ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 5.00-5.25%

    มุมมองตัวเลข CPI คืนนี้จากธนาคารและนักวิเคราะห์ชื่อดังต่าง ๆ

    GOLDMAN SACHS 2.9%
    SCOTIABANK 2.9%
    BMO 2.9%
    UBS 2.9%
    TD 2.9%
    CITI 3%
    CITADEL 3%
    BARCLAYS 3%
    JP MORGAN 3%
    BANK OF AMERICA 3%
    MORGAN STANLEY 3%
    MEDIAN 3%

    จะเห็นได้ชัดว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองว่า CPI จะลดลงต่ำกว่า -3.4% อีกทั้งนักลงทุนคาดว่าเฟดจะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ออกไปเป็นเดือนพฤศจิกายน จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นเดือนกันยายน

    ดังนั้นมาติดตามพร้อมกัน ว่าตัวเลขที่แท้จริงจะออกมาเช่นไร 19.30 น. คืนนี้

    ผู้เขียน ศิวพร ชีเจ็ดริ้ว

    ข่าวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567

    #TraderKP #CPI #FED #อัตราดอกเบี้ย #เงินเฟ้อ #ธนาคารกลางสหรัฐ #เศรษฐกิจสหรัฐ #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวการเงิน #ข่าวเศรษฐกิจล่าสุด #ข่าวการเงินล่าสุด #ข่าวเศรษฐกิจวันนี้ #ข่าวการเงินวันนี้ #ข่าวเศรษฐกิจล่าสุด #ข่าวการเงินล่าสุด

    https://www.facebook.com/share/p/7BEzy27G8yd8d2iB/?mibextid=oFDknk
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [ALERT] - Goldman Sachs ปรับเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด “เศรษฐกิจถดถอย” ในสหรัฐขึ้นเป็น 41% แล้ว ! (จากเดิมที่ให้โอกาส 29%)

    ในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวนอย่างรุนแรง และวอลล์สตรีท (Wall Street) ต้องเผชิญกับความกังวลที่แพร่สะพัดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินได้ส่งสัญญาณถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐอเมริกา

    แม้ว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะถดถอยนี้ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ แต่โมเดลจาก Goldman Sachs Group Inc. และ JPMorgan Chase & Co. แสดงให้เห็นว่าโอกาสนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการส่งสัญญาณในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของหุ้นที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของวัฏจักรธุรกิจ

    ล่าสุดเช้านี้ทาง Goldman Sachs เพิ่งปรับเพิ่มการคาดการณ์ความน่าจะเป็นของการเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐฯ ขึ้นเป็น 41% ซึ่งสูงขึ้นจาก 29% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน สัญญาณนี้เป็นการบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเผชิญกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า (...)

    https://www.facebook.com/share/p/49tuWmSqtBMaB48g/?mibextid=oFDknk
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "พาราเมาท์" สตูดิโอดัง (เจ้าของ"ทรานสฟอร์เมอร์"และ"มิสชั่น อิมพอสซิเบิล") #layoff ปลดคนงานอเมริกา15% (2,000 หัว) & ยุบแผนกทีวีทิ้ง

    โอ ... ก็ไม่มีอะไรให้เขียนเลยครับ ตามสภาพ
    ถามว่าหนังดีมั้ย ... อืมม์ ก็ยังตอบยาก ก้ำๆ กึ่งๆ --- อุตสาหกรรมโดยรวมไม่ถึงกับเลว ส่วนสำหรับตัวค่ายหนังก็แล้วแต่ เป็นเรื่องๆ ไป ว่าแทงถูกหรือไม่ถูก
    แต่ทีวีก็ โอ เมืองไทยเป็นไง อเมริกาก็ไม่ต่างนะครับ ทำพวกธุรกิจบันเทิงยุคนี้ยาก ทีวีก็ไม่ใช่คำว่าซบเซาแล้วล่ะครับ เกินกว่านั้นละ กำลังจะมอดในอีกไม่ช้านาน (ไม่ก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบอย่างมาก --- ดูทีวีไทย ตอนนี้โฆษณาก็มีแต่ขายของพวก "อมาโด้" หรือ "ไตรลาจิน่า" แทบทั้งนั้น ; สมัยก่อนพวกนี้โผล่จอยากมาก) ส่วนหนัง ... กี่เรื่องกันที่ดัง ที่ทำเงิน --- ไอ้ที่แป้กๆ ก็เยอะมาก

    https://www.reuters.com/business/me...anned-layoffs-with-15-job-cuts-us-2024-08-13/

    https://www.facebook.com/share/N6vNYJVdabQ1ki7R/?mibextid=oFDknk
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผัก-ผลไม้จีนทะลักตลาดสดโคราช ถูกกว่าไทยเท่าตัว นำเข้าผ่านรถไฟความเร็วสูงลาว เกษตรกรไทยกระทบเต็มๆ
    Screenshot_2024-08-14-16-56-54-40_4641ebc0df1485bf6b47ebd018b5ee76.jpg
    อ่านต่อ : http://pptv36.news/1kYv

    https://www.facebook.com/share/9WzGfyAkSn45CDFp/?mibextid=oFDknk
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ธุรกิจจีน คือ #เอเลี่ยนสปีชีส์ ของโลก อย่างชามตราไก่ ชามคู่ไทยรุ่นดึกดำบรรพ์ อยู่คู่กันมาหลายรุ่น
    จีนก๊อปเป๊ะ ราคา 5 บาท ต้นทุนลำปางซัดไป 20 จะสู้ไงไหว โรงงานเซรามิกจาก 300 โรงเหลือไม่ถึง 100 โรง #จริงๆจีนทำมานานแล้วหมักหมมสะสมจนค่อยๆกัดกินทีละอุตสาหกรรม

    https://www.facebook.com/share/pEuS9DA85UqrvB1q/?mibextid=oFDknk
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Aug 15, 2024 ยกฉุกเฉิน! อนามัยโลกประกาศ เคลด(ฝีดาษลิง)เป็นภาวะสาธารณสุขฉุกเฉินทั่วโลก เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปี ระบาดหนักในประเทศคองโก ลามข้ามประเทศในทวีปแอฟริกา

    นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวว่า การประชุมของคณะกรรมาธิการฉุกเฉินมีมติให้ประกาศว่า โรคเคลด(Clade) หรือชื่อเดิมคือโรคฝีดาษลิง(Mpox) เข้าสู่ภาวะสาธารณสุขฉุกเฉินทั่วโลก หรือพีเอชอีไอซี (Public Health Emergency for International Concern) สาเหตุจากภาวะการระบาดของโรคเคลดแพร่เป็นวงกว้างในประเทศสาธารณรัฐแห่งคองโก และยังส่งผลให้เกิดการติดเชื้อและระบาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศที่อยู่ในทวีปแอฟริกา ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันและใช้รักษาโรคเคลด

    ในขณะนี้องค์การอนามัยโลกยืนยันว่าโรคระบาดเครเป็นการติดต่อโดยการสัมผัสใกล้ชิด ตามปกติแล้วจะมีภาวะอาการปานกลางแต่การติดเชื้อรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิต ลักษณะอาการเบื้องต้นของผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการเป็นไข้และเกิดตุ่มมีหนองตามผิวหนังร่างกายรวมถึงบริเวณอวัยวะเพศสืบพันธุ์ ในปัจจุบันรูปเคลด ในทวีปแอฟริกาเป็นสายพันธุ์เคลดวัน (Clade I) แต่ในขณะเดียวกันตรวจพบมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เคลดวันบี (Clade Ib) ส่งผลให้มีการติดเชื้อแพร่ระบาดง่ายยิ่งขึ้นผ่านการสัมผัสใกล้ชิดรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ุระหว่างกัน

    องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวว่า แหล่งที่พบการติดเชื้อและแพร่ระบาดในทวีปแอฟริกาเกิดขึ้นในภาคตะวันออกของประเทศสาธารณรัฐแห่งคองโก จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง ได้แก่ บูรันดี เคนยา ราวันดา และอูกานคา ที่สำคัญคือทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวนั้น ไม่มีข้อมูลหรือประวัติของการตรวจพบโรคเคลดก่อนหน้านี้เลย

    การประกาศให้โรคเคลดเข้าสู่ภาวะองค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวว่าการประกาศสาธารณสุขฉุกเฉินทั่วโลก หรือพีเอชอีไอซีในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ภายในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา สถานะดังกล่าว นับเป็นการเตือนระดับสูงสุดในแง่การตื่นตัว และกำหนดเป้าหมายในการเร่งรีบงานวิจัย การระดมทุน กำหนดมาตรการ สาธารณสุขระหว่างประเทศร่วมกัน และ และความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อควบคุมภาวะการระบาดของโรคเคลด (มีต่อหน้า 2/3)

    (หน้า 2/3) องค์การอนามัยโลกเตรียมงบประมาณจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 54 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนภายใต้สภาวะสาธารณสุขฉุกเฉินทั่วโลก หรือพีเอชอีไอซีสำหรับโรคเคลด และเปิดโอกาสให้มีการระดมเงินทุนมาสมทบในกองทุนดังกล่าว ทั้งนี้เม็ดเงินตั้งต้นสำหรับกองทุนนี้จะต้องอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 540 ล้านบาท

    ในต้นสัปดาห์นี้ สาธารณสุขแห่งทวีปแอฟริกา ประกาศให้โรคเคลดเป็นภาวะฉุกเฉินสำหรับทวีปแอฟริกา ในปัจจุบันตรวจพบผู้เข้าข่ายสงสัยจะติดเชื้อมากกว่า 17,000 คน ในขณะที่ผู้ติดเชื้อดังกล่าวและเสียชีวิตมีจำนวนสะสมมากกว่า 500 คนนับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กในประเทศสาธารณรัฐคองโก

    สำหรับในไทย ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคเคลด หรือฝีดาษวานรจากสถาบันบำราศนราดูร เสียชีวิตรายแรกในไทยที่จังหวัดชลบุรี โดยพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย อายุ 34 ปี มีประวัติเป็นไข้ ปวดศีรษะ คัน มีผื่นและตุ่มขึ้นบริเวณผิวหนังตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ต่อมาในวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 แพทย์สงสัยเป็นโรคฝีดาษวานร จึงส่งตัวอย่างตรวจยืนยันผลพบสารพันธุกรรมของไวรัสฝีดาษวานร และขณะเดียวกัน ยังตรวจพบการติดเชื้อเอชไอวีและเชื้อซิฟิลิส ต่อมาผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอ ตรวจพบภาวะติดเชื้อรา ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อฉวยโอกาสของเอชไอวี (มีต่อหน้า 3/3)

    (หน้า 3/3) ส่วนบริเวณผิวหนังมีผื่นแผลจากโรคฝีดาษวานรกระจายทั่วตัว ได้รับการรักษาจนครบ 4 สัปดาห์ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ต่อมาวันที่ 9 สิงหาคม ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย หายใจลำบาก ญาติจึงนำผู้ป่วยมารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ตรวจพบว่ามีผื่นจากโรคฝีดาษวานรกระจายทั่วตัว และมีการตายของเนื้อเยื่อที่จมูกและคอเป็นบริเวณกว้าง มีการติดเชื้อแทรกซ้อนที่แขนและขา มีภาวะปอดอักเสบ และอาการสมองอักเสบ ผลตรวจเม็ดเลือดขาว CD4 เท่ากับ 16 เซลล์ต่อ มล. แสดงถึงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง แพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัสฝีดาษวานรและยาปฏิชีวนะร่วมด้วย ต่อมาผู้ป่วยอาการทรุดลงและเสียชีวิตในคืนวันที่ 11 สิงหาคม 2566

    กรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคฝีดาษวานร หรือโรคเคลดเป็นโรคติดต่ออุบัติใหม่ของประเทศไทย ข้อมูลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 มีผู้ป่วยรวม 189 รายในไทย เป็นสัญชาติไทย 161 ราย ชาวต่างชาติ 28 ราย ซึ่งในช่วงเวลานั้นนับเป็นระยะแรกที่พบผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ก่อนแพร่ไปจังหวัดอื่น ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และมีติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย จำนวน 82 ราย (43%)

    วันที่ 13 สิงหาคม 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศถึงการเปลี่ยนชื่อสายพันธุ์ไวรัส Monkeypox หรือ “ฝีดาษลิง” โดยชื่อของโรคยังอยู่ในการระดมความเห็น ส่วนชื่อไวรัสให้เปลี่ยนเป็น “เคลด” (Clade) โดย WHO ได้ระบุเหตุผลสองประการ

    1.ป้องกันการเลือกปฏิบัติ หรือปกป้องผลกระทบต่อกลุ่มวัฒนธรรม สังคม และสวัสดิภาพสัตว์ 2.เหตุผลด้านการจัดเรียงลำดับพันธุกรรมและอนุกรมวิธานไวรัส

    ดังที่กล่าวว่าแต่เดิมมีการตั้งชื่อไวรัสตามถิ่นที่แพร่ระบาด ดังนั้นเชื้อไวรัสฝีดาษจากลิงยุคแรกจึงได้ชื่อว่า “คองโก เบซิน” เนื่องจากพบการแพร่ในลุ่มน้ำคองโก หรือ “เวสต์ แอฟริกัน” เนื่องจากแพร่ระบาดฝั่งตะวันของแอฟริกา

    ดังนั้นชื่อใหม่ของไวรัสฝีดาษลิง (Monkeypox) ที่ระบาดใหม่ในครั้งนี้จะใช้ชื่อว่า “เคลด” และให้ใช้เลขและอักษรโรมันกำกับตามหลัง เพื่อระบุสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการทำอนุกรมวิธานไวรัสเคลด จึงมีสองสาย ได้แก่ เคลดวัน ใช้เรียกแทนไวรัสฝีดาษลิงกลายพันธุ์ กลุ่มที่เคยเรียกชื่อว่า คองโก เบซิน ส่วนเคลด 2 ใช้เรียกแทนไวรัสฝีดาษลิงกลายพันธุ์ กลุ่มที่เคยเรียกว่าเวสต์ แอฟริกัน

    #ฝีดาษลิง #ฝีดาษวานร #โรคติดต่อ #สหรัฐ #อเมริกาเหนือ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/wt14r3XeMn5iR1nM/?mibextid=oFDknk
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้า เรื่อง นี้จริง ก็ ถือว่าเป็นความฉลาดของปูติน ที่จะหาประชากรรัสเซียเข้าไปอยู่ในเขตยึดครองใหม่ ที่เคยเป็นของยูเครน

    Screenshot_2024-08-15-13-31-44-12_68e74cc0265513bba3f4cf8e2c9891fe.jpg
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Aug 15, 2024 ปลดตามนัด! ซิสโก้ประกาศเคาะปลดพนักงาน 7% กว่า 5,600 คนตกงาน รวมปลด 2 รอบในปีนี้เกือบ 10,000 คน ซิสโก้ปลดพนักงาน 3 รอบใน 1 ปีกว่าตกงานกว่า 12,000 คน

    ซิสโก้ อินคอร์ปอเรชั่น (Cisco) ยักษ์ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมผลิตเราท์เตอร์และสวิทช์ควบคุมการใช้ปริมาณงานอินเตอร์เน็ตใหญ่ อุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสารในธุรกิจไอที และโทรคมนาคมชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานรอบที่ 2 ที่ 7% หรือจำนวนมากกว่า 5,645 คนของพนักงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมผ่านมา ซิสโก้เปิดเผยว่าจะปลดพนักงานมีจำนวนใกล้เคียงกับการปลดพนักงานในรอบแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ผ่านมา เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้เป้าหมายที่กำหนดไว้ และปรับรูปแบบธุรกิจไปเน้นบริการความปลอดภัยไซเบอร์รวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ

    สาเหตุในการปลดพนักงานจำนวนมากในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความต้องการในตลาดเราท์เตอร์และสวิทช์ควบคุมการใช้ปริมาณงานอินเตอร์เน็ตใหญ่ อุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสารในธุรกิจไอที และโทรคมนาคม ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และปัญหาห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เชื่อมต่อในอุตสาหกรรมหลักๆ ที่ยังคงเกิดขึ้น

    ด้านผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ซิสโก้ จะประกาศในวันพุธหน้า พร้อมกับจำนวนพนักงานที่จะถูกปลดชัดเจนในครั้งนี้ ขณะที่ ราคาหุ้นของซิสโก้ร่วงลงกว่า 9% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ผ่านไป

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2024 ผ่านมา ซิสโก้ อินคอร์ปอเรชั่น ประกาศเตรียมปลดพนักงานจำนวนมากถึง 4,250 คน หรือราว 5% จากพนักงานในปัจจุบันที่มีอยู่ 84,900 คนทั่วโลก การประกาศปลดพนักงานในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 ปี 3 เดือนผ่านมา ขณะที่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2022 ซิสโก้ อินคอร์ปอเรชั่น ประกาศปลดพนักงานมากกว่า 4,100 คน หรือ 5% ของพนักงานทั้งหมดในเวลานั้น นอกจากนี้ เตรียมปิดสำนักงานสาขาที่ไม่มีประสิทธิภาพในการสร้างผลประกอบการตามเป้าหมาย

    นายชัค รอบบิ้นส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ซิสโก้ อินคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การตัดลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานในครั้งนั้นเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 21,600 ล้านบาท

    ทั้งนี้ ผลประกอบการในภาพรวมของซิสโก้สิ้นสุดปีงบประมาณในวันที่ 31 ตุลาคม 2022 พบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 489,600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6% เทียบช่วงเดียวกันในปีงบประมาณซิสโก้ผ่านมา

    #ซิสโก้ #ซิสโก้ซิสเตมส์ #ปลดพนักงาน #ตกงาน #เศรษฐกิจ #สหรัฐ #BTimes
    https://www.facebook.com/share/p/RJZyqSPxmQvyVHaH/?mibextid=oFDknk
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1723703808525.jpg

    เตือนภัย! สารเคมีใกล้ตัว ห้ามใช้คู่กัน อันตรายถึงชีวิต

    จากกรณีเหตุการณ์อันโศกเศร้าสำหรับครอบครัวตำรวจ ที่เสียชีวิต 3 คนในวันแม่ โดยมีสาเหตุมาจากน้ำยาล้างท่อตัน ไปทำปฏิกิริยากับสิ่งอุดตันสารตกค้างในท่อ ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำที่เทไปก่อนหน้านี้ จนทำให้เกิด “ก๊าซไข่เน่า” มีกลิ่นฉุน และมีพิษรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต เมื่อสูดดมเข้าไป

    เหตุการณ์นี้กระตุกเตือนสังคมถึงภัยร้ายใกล้ตัวที่แฝงอยู่ในน้ำยาทำความสะอาดครัวเรือน เราจะป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยได้อย่างไร ? และนี่คือข้อปฏิบัติในการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำ ว่ามีอะไรบ้าง และไม่ควรนำไปใช้กับอะไร

    #TNNOnline #ก๊าซไข่เน่า

    https://www.facebook.com/share/p/FjYDe3bKXmhZ1kde/?mibextid=oFDknk
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ป่วยแล้ว 14,000 คน เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 524 คน ในสาธารณรัฐคองโก

    นี่คือการระบาดใหญ่ของฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานร ระลอกล่าสุดในชาติแอฟริกา โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก บูรุนดี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง เคนยา และรวันดา

    การระบาดร้ายแรงจนองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระดับโลก

    แล้วฝีดาษลิงอันตรายแค่ไหน? เราไปดูกัน

    ---ทำความเข้าใจฝีดาษลิง---

    ฝีดาษลิง จริง ๆ มีแหล่งโรคไม่เพียงแค่สัตว์ตระกูลลิงเท่านั้น แต่รวมไปถึงกระรอก และหนูป่า ด้วย

    ปกติแล้ว โรคนี้เป็นโรคหายาก ที่แสดงอากาศมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง แต่ที่เพิ่มมาคือ ต่อมน้ำเหลืองโต และเกิดผื่นขึ้นตามแขนขา ก่อนลามไปถึงใบหน้าและลำตัว จนกลายเป็นตุ่มหนองและสะเก็ด

    ---การติดต่อของฝีดาษลิง---

    ฝีดาษลิง ติดต่อกันได้สองแบบ คือ จากสัตว์สู่คน คือ เราไปสัมผัสสารคัดหลั่ง เลือด และผิวหนังของสัตว์ที่ติดโรค หรือนำซากสัตว์มาปรุงอาหาร

    ส่วนมนุษย์สู่มนุษย์นั้น เกิดไม่บ่อย แต่ก็เกิดขึ้นได้ จากการสัมผัสสารคัดหลั่งผู้ป่วย สัมผัสเลือด ไปจนถึงสิ่งของเครื่องใช้ อย่างไรก็ควรเลี่ยง

    ฝีดาษลิงที่ระบาดนี้ เป็นสายพันธุ์แอฟริกากลาง แต่ก็พบว่ามีสายพันธุ์ใหม่ระบาดอยู่ด้วย เรียกว่า เคลด ไอบี (Clade Ib) ที่ระบาดได้ง่ายกว่า ผ่านการสัมผัสและการมีเพศสัมพันธ์

    ---อันตรายของฝีดาษลิง---

    ต้องบอกว่า นี่เป็นโรคที่ยังไม่มียารักษาแบบเจาะจง ผู้ป่วยส่วนใหญ่รักษาแบบประคองอาการจนกว่าจะหายเอง ใช้เวลา 2-4 สัปดาห์

    แต่สถิติในการระบาดครั้งล่าสุดนี้ พบว่า ผู้ป่วย 4 ใน 100 คน ล้วนเสียชีวิต

    ส่วนการป้องกันนั้นทำได้ ด้วยการเลี่ยงสัมผัสต่าง ๆ กับสัตว์ป่า และคนที่ติดเชื้อ เวลาจะทานเนื้อสัตว์ก็ควรปรุงสุก ล้างมือบ่อย ๆ และหมั่นสังเกตอาการของตนเอง
    -----
    #TNNOnline
    -----
    ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNN
    ได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originals
    ทางนี้ https://bit.ly/TNNOriginals

    https://www.facebook.com/share/p/V1eGcD3HU1emAo7J/?mibextid=oFDknk
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1723731206826.jpg

    บลูมเบิร์กชี้ อาจถึงเวลาเปลี่ยนทิศ.. จากที่เงินไหลเข้าพันธบัตรไทยสูงสุดรอบ 2ปี (ไตรมาสนี้) หลังการเมืองระส่ำและแบงก์ชาติจ่อหั่นดอก

    จะเป็นไงต่อไป???
    ไตรมาสนี้ เอาเข้าจริงจัดว่าหรูนะครับ (นับถึงปัจจุบัน เพราะยังไม่ครบไตรมาส) เงินทุนต่างชาติไหลเข้าพันธบัตรรัฐบาลไทยสุทธิ จำนวน 1.7 พันล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส (ก็เกือบจะ 2 ปีแล้ว)
    โดดเด่นเป็นสง่าในเอเชียเลยล่ะครับ (ส่วนหนึ่งก็เพราะเก็งกันว่าเกาหลีใต้ อินเดีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จะด่วนชิงลดดอกเบี้ยก่อนไทย)
    แต่ก็อย่างที่รู้แหละครับ การเมืองไทยขณะนี้ ... สภาพแบบนี้ แน่นอน เรื่องราวพลิกผันไปเลย ความเชื่อมั่นที่เคยมีต่อเสถียรภาพ ต่อนโยบายเศรษฐกิจ ต่ออะไรต่อมิอะไร จบกันเลยล่ะครับทีนี้
    "ไหลเข้าน้อยลง" หรือ กลายเป็น "ไหลออกสุทธิ"
    เลือกตอบเอาเองละกันครับ ว่าแบบไหน
    แล้วเรื่องลดดอกเบี้ยก็เปลี่ยนภาพเลยนะครับ จากที่ดึงๆ ไปก่อน แต่ถ้าการเมืองแย่แล้วกระทบเศรษฐกิจมากๆ เข้า ทางแบงก์ชาติอาจจำเป็นต้องตัดสินใจลดดอกเบี้ยหรือเปล่า (ตลาดอาจจะกังวลแบบนี้)
    เหล่านี้กระทบต่อพันธบัตรทั้งนั้นครับ
    https://www.bloomberg.com/news/arti...-bot-policy-political-risk?srnd=homepage-asia

    https://www.facebook.com/share/p/9K9bics1SeUcbRJx/?mibextid=oFDknk
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'เอกชน' ชี้ถ้าเลิก 'ดิจิทัลวอลเล็ต' รัฐบาลต้องเยียวยาประชาชน แนะจ่ายคนที่ลงทะเบียนแล้ว
    .
    "เอกชน" ระบุ หากรัฐบาลยกเลิกโครงการแจกเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ต้องเยียวยาจิตใจประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น "ทางรัฐ" แล้ว
    .
    นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกระแสข่าว ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญลงมติถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปมแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมาว่า โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะถูกทบทวนและอาจจะไม่เดินหน้าต่อนั้น
    .
    ทั้งนี้ จากกระแสดังกล่าว ต้องยอมรับว่าถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สามารถทำได้แต่ต้องสื่อสารและทำความเข้าใจกับกลุ่มประชาชนที่ลงทะเบียนแล้ว ถ้ากรณีที่มีข่าวว่า เมื่อเปลี่ยนจากนายเศรษฐา มาเป็นท่านอื่น และแม้จะเป็นพรรคเพื่อไทยก็มีโอกาสที่จะไม่ทำต่อ เพราะยังมีความสุ่มเสี่ยงต่อกฎหมายซึ่งได้เห็นผลว่าเป็นหนึ่งในบทเรียนของพรรค โดยที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคเพื่อไทย ล้วนต้องเผชิญกับคดีด้านกฎหมายทั้งสิ้น
    .
    อย่างไรก็ตาม ในเชิงนโยบาย มองว่า หากเป็นพรรคเดิมที่มาเป็นผู้นำ อย่างน้อยยังเชื่อว่านโยบายหลายอย่างยังคงจะต่อเนื่องในหลายโครงการ แต่แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่ทุกโครงการ เพราะจากเวลาหนึ่งสู่เวลาหนึ่ง และจากเงื่อนไขหนึ่งสู่เงื่อนไขหนึ่ง บางโครงการที่อาจจะมีความเสี่ยงหรือล่อแหลมต่อเรื่องของการผิดกฎหมาย หรืออาจเสี่ยงถูกฟ้องร้องและนำไปสู่การถูกดำเนินคดีต่างๆ ก็อาจจะต้องทบทวน
    .
    นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่า จากคดีทางการเมืองต่าง ๆ ของพรรคเพื่อไทย ได้เห็นชัดล่าสุด คือ คดีของนายเศรษฐา การใช้กฎหมายต่าง ๆ ถือเป็นจุดอ่อนทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกทั้ง จากประสบการณ์ของพรรคตั้งแต่ต้นจนล่าสุดคงจะต้องพยายามเลี่ยงอะไรที่มีความเสี่ยงด้านกฎหมาย เพราะที่ผ่านมานายกฯ ของกลุ่มเพื่อไทยถูกฟ้องในคดีต่าง ๆ จนต้องหลุดจากเก้าอี้ ถือเป็นการสุ่มเสี่ยง ซึ่งนายชัยเกษม จึงระมัดระวังด้านกฎหมายเป็นพิเศษ
    .
    "หากรัฐบาลจะไม่เดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็จะต้องเยียวยาจิตใจประชาชนที่ลงทะเบียนไปแล้ว ซึ่งในช่วงการปรับตำแหน่งถือเป็นจังหวะที่คนพอรับได้และก็ทำได้ แต่ก็ต้องบริหารจัดการในเรื่องของความรู้สึก คาดหวังของคนที่รอรับเงินหลาย 10 ล้านคนที่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐไปแล้ว และจะต้องมีคำอธิบายที่ดี" นายเกรียงไกร กล่าว
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    https://www.facebook.com/share/p/kU3aVB1Sg5rjRnSY/?mibextid=oFDknk
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.08 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.92 บาทต่อดอลลาร์

    โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน ก่อนที่จะทยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่องทะลุโซนแนวต้าน 35.00 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในช่วง 34.84-35.10 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น

    หลังตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม ที่ชะลอลงต่อเนื่องสู่ระดับ 2.9% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย (+0.2%m/m ตามคาด)

    ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มทยอยปรับลดความคาดหวังต่อการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ โดยล่าสุดผู้เล่นในตลาดกลับมามองว่า การชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวก็อาจทำให้เฟดลดดอกเบี้ยเพียง -25bps ตามปกติ ในการประชุมเดือนกันยายน

    จากที่ก่อนหน้า ตลาดคาดหวังว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยถึง -100bps (ทั้งนี้ในภาพรวม ผู้เล่นในตลาดยังคงมองว่า เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยราว -100bps ในปีนี้ อยู่) ซึ่งการปรับมุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดได้ช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น

    นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม จากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำ (XAUUSD) ทยอยปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่โซนแนวรับระยะสั้น 2,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังไม่ได้น่ากังวลอย่างที่ตลาดเคยประเมินไว้ (ทั้งนี้ควรระวังความผันผวนจากปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงที่ทางอิหร่านและพันธมิตร Axis of Resistance จะโจมตีอิสราเอล)

    อนึ่ง ความไม่แน่นอนของการเมืองไทยก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่กดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่า แต่ท่าทีของนักลงทุนต่างชาติในวันก่อนหน้านั้น สะท้อนว่า ความเสี่ยงการเมืองไทยก็อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติได้รับรู้ (priced-in) ไปพอสมควรแล้ว

    ด้านเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทว่า เงินดอลลาร์ก็พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง สู่ระดับที่สูงกว่าก่อนรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI หลังผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนกันยายน

    ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 102.6 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 102.2-102.7 จุด) ในส่วนของราคาทองคำ มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เริ่มคลายกังวลปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึงจังหวะพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ตามการปรับมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดของผู้เล่นในตลาด

    สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท มีโมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทมากขึ้น หลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกัน ก็กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ที่ในช่วงนี้ ราคาทองคำก็ขาดปัจจัยหนุน หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางก็ดูจะยังไม่ทวีความรุนแรงมากขึ้น อย่างที่ตลาดเคยกังวล

    อย่างไรก็ดี ในเชิงเทคนิคัลนั้น เงินบาทอาจเข้าสู่ช่วงผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 35.15-35.20 บาทต่อดอลลาร์ ได้ชัดเจน ซึ่งเรามองว่า ในระยะสั้น ควรจับตาสถานการณ์การเมืองไทยที่อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ หากบรรดานักลงทุนต่างชาติกังวลต่อสถานการณ์การเมืองไทยมากขึ้นและเลือกที่จะลดการถือครองสินทรัพย์ไทย

    โดยหากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็อาจอ่อนค่าลงต่อ ทดสอบโซนแนวต้านสำคัญแถว 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนี้นั้นอาจจำกัดอยู่แถวโซน 35.00 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ ฝั่งสนับสนุนการแข็งค่าของเงินบาทเพิ่มเติม

    เรียบเรียงจาก ธนาคารกรุงไทย

    ผู้เขียน นายพูน พานิชพิบูลย์
    https://www.facebook.com/share/vYscYXLgrRZ5BegV/?mibextid=oFDknk
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในสหรัฐฯ เรียกร้องวานนี้ (15 ส.ค.) ให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ พิจารณาเก็บภาษีย้อนหลังจากไทยและเวียดนาม สืบเนื่องจากปริมาณการนำเข้าสินค้าที่สูงขึ้นระหว่างที่ทั้ง 2 ประเทศกำลังถูกตรวจสอบฐานมีแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม
    .
    เมื่อเดือน พ.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เปิดการสอบสวนแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตจากเวียดนาม ไทย มาเลเซีย และกัมพูชา หลังมีกลุ่มผู้ผลิตภายในประเทศร้องเรียนว่าสินค้าเหล่านี้ถูกส่งเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐฯ ด้วยราคาต่ำกว่าท้องตลาด และยังได้รับประโยชน์จากมาตรการอุดหนุนของ "จีน" ซึ่งมีผู้ผลิตหลายรายเข้าไปตั้งโรงงานผลิตสินค้าในภูมิภาคนี้
    .
    แผงโซลาร์เซลล์จาก 4 ชาติอาเซียนคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80% ของทั้งหมดที่สหรัฐฯ นำเข้าในปีที่แล้วเมื่อเทียบมูลค่าเป็นดอลลาร์สหรัฐ ตามฐานข้อมูลการค้าที่สืบค้นโดยรอยเตอร์
    .
    รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ให้คำมั่นสัญญาจะฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตในสหรัฐฯ และมอบแรงจูงใจ (incentives) เพื่อส่งเสริมการผลิตสินค้าภายในประเทศที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อน รวมถึงแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งส่วนใหญ่ยังมีที่มาจากจีน
    .
    ผู้ผลิตรายย่อยในอุตสาหกรรมแผงโซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ ยอมรับว่า พวกเขาเผชิญความยากลำบากในการแข่งขันกับสินค้านำเข้าซึ่งมีราคาถูกกว่า
    .
    คณะกรรมการกลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์อเมริกัน (American Alliance for Solar Manufacturing Trade Committee) ระบุในคำร้องที่ส่งถึงกระทรวงพาณิชย์ว่า หลังจากที่ได้มีการยื่นร้องเรียนให้มีการสอบสวนแผงโซลาร์เซลล์นำเข้าจากทั้ง 4 ประเทศไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย. ปรากฏว่าตัวเลขการนำเข้าจากไทยและเวียดนามยังคงเพิ่มสูงขึ้น
    .
    กระบวนการสอบสวนนี้อาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็นต้นไป หากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าพบพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมในผลการสอบสวนเบื้องต้นที่จะออกในช่วงเดือน ต.ค. ซึ่งอาจนำไปสู่การสั่งเก็บภาษีย้อนหลัง 90 วันนับตั้งแต่มีคำตัดสิน
    .
    กระทรวงพาณิชย์ของเวียดนามและไทยยังไม่ออกมาตอบคำถามสื่อในประเด็นนี้
    .
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระบุว่า มาตรการทางภาษีใหม่นี้อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเวียดนาม ซึ่งเสี่ยงที่จะโดนอัตราภาษีขั้นสูงสุด เนื่องจากสหรัฐฯ ยังคงตราหน้าว่าเป็นชาติที่มีระบบเศรษฐกิจไม่อิงกลไกตลาด (non-market economy) ซึ่งสถานะดังกล่าวมักจะนำไปสู่บทลงโทษที่หนักขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าภายในประเทศถูกมองว่าเชื่อถือไม่ได้
    .
    สหรัฐฯ ประเมินว่าส่วนต่างระหว่างราคาส่งออกกับมูลค่าปกติของสินค้าที่ขายในประเทศ หรือที่เรียกว่า dumping margins นั้นอาจสูงกว่า 270% ในกรณีของเวียดนาม หรือมากกว่าไทยกว่า 3 เท่าตัว ซึ่งส่วนต่างยิ่งมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสถูกเก็บภาษีลงโทษสูงขึ้นเท่านั้น
    .
    ในคำร้องฉบับล่าสุด กลุ่มผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในสหรัฐฯ ระบุว่า ปริมาณการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากเวียดนามและไทยเพิ่มขึ้น 39% และ 17% ตามลำดับในช่วงไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ และยังกล่าวหาว่าทั้ง 2 ประเทศเพิ่มการส่งออกมายังสหรัฐฯ มากขึ้นก่อนที่จะมีคำตัดสินของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งอาจนำไปสู่บทลงโทษ
    .
    กลุ่มผู้ผลิตสหรัฐฯ ชี้ว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็น “สถานการณ์ขั้นวิกฤต” (critical circumstances) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ จะต้องตรวจสอบว่ามีสถานการณ์วิกฤตดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เพื่อนำไปสู่การสั่งรีดภาษีย้อนหลัง
    .
    ที่มา: รอยเตอร์

    https://www.facebook.com/share/p/YFcyB59LZRrFu6nK/?mibextid=oFDknk
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    16/8/67 แรงงานเมียนมา 700 ชีวิต ฮือปิดโรงงานจีน ใน #สวนอุตสาหกรรมโรจนะ #ปราจีนบุรี
    ทำงาน 2 เดือน ซับฯ ไม่จ่ายค่าแรงพนกังาน (ไม่รู้ว่าใช่ซับฯดัง ที่ติดป้ายรับสมัครงานภาษาจีน ที่เป็นข่าวเมื่อเดือนที่แล้วหรือไม่?)

    ขณะนี้พนักงานทั้ง 700 ชีวิต ต่างไม่มีเงินซื้อข้าว ต้องอยู่อดอยาก

    ----
    แรงงานพม่า 700 คน ฮือปิดโรงงานจีน ในนิคมโรจนะ ทำงาน 2 เดือนไม่จ่ายค่าแรง ไม่มีเงินซื้อข้าว... อ่านข่าวได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_9365900

    https://www.facebook.com/share/JmRmGPzEdMjQdm3f/?mibextid=oFDknk

    PSX_20240817_155606.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...