ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 23, 2024 ไม่ใช่กาแฟ! ถึงยุคร้านอาหารตัวจริงที่อยู่ได้ ร้านอาหารตามสั่งเจ๊งมากสุด ปิดตัวปีละ 50,000-100,000 ร้าน มั่นใจร่วมโครงการเงินดิจิตอล วอลเล็ท ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย จ่อจ้างไรเดอร์เพิ่มอีก 10,000 คน

    นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไลน์แมน วงใน กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารตามสั่งที่เปิด และปิดตัวไปมากสุด เพราะเกิดจากภาวะเศรษฐกิจ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 คนไทยออกมาทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น แต่ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ก็ยังเติบโตต่อเนื่องปีละมากกว่า 10% ของมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 แสนล้านบาท เพียงแต่ร้านที่ขายเดลิเวอรี่อย่างเดียวอาจจะหายไปบ้าง เพราะอาหารยังเป็นสินค้าจำเป็น

    เมื่อมองภาพรวมตลาดร้านอาหารทั่วประเทศในปี 2567 จะมีผู้ประกอบการประมาณ 700,000 ร้านค้า และมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 800,000-900,000 ล้านบาท ธุรกิจดังกล่าวเข้าง่ายและออกง่าย นับเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการ เพราะแต่ละปีจะมีการปิดตัวสูง ร้านอาหารตัวจริงเท่านั้นถึงจะอยู่รอด

    สถิติที่เห็นจากแพลตฟอร์มของไลน์แมนวงในมีร้านอาหารจำนวนกว่า 700,000 ร้าน โดยมีร้านอาหารปิดตัวมากกว่าปีละ 50,000-100,000 ร้าน โดยเทรนด์ที่เห็นจำนวนร้านน้อยลง แต่จำนวนยอดขายเพิ่มขึ้น ดังนั้น ปีนี้จึงเป็นปีของร้านอาหารตัวจริง คนทำธุรกิจอย่างมืออาชีพจะเติบโตได้ แต่ที่เปิดตัวมาช่วงโควิด-19 เช่น ใช้พื้นที่หน้าบ้านขายทำอาหารส่ง เป็นมือสมัครเล่น ทำเป็นอาชีพเสริมมีปิดตัวไปมาก

    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไลน์แมน วงใน กล่าวว่า ได้ร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อให้ร้านค้าในแพลตฟอร์มไลน์แมน วงในมีกว่า 700,000 ร้านค้า ได้เข้าระบบในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทที่รัฐบาลกำลังจะผลักดันออกมาในเดือนตุลาคมนี้ด้วย

    ปัจจุบันบริษัทมีร้านค้าครอบคลุมถึง 290 อำเภอทั่วประเทศและมั่นใจในระบบว่ามีความรัดกุมและเคยเข้าร่วมกับโครงการคนละครึ่งมาแล้วก็ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพราะฟู้ดเดลิเวอรี่เป็นสินค้าจำเป็น ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟื่อย หากสามารถเข้าร่วมได้ ทำให้เพิ่มยอดลูกค้าที่เข้ามาใช้งาน และเกิดการจ้างงานเพิ่ม โดยจะเปิดรับไรเดอร์เพิ่มอีกเป็น 10,000 คน จากปัจจุบันมีกว่า 1 แสนคนทั่วประเทศ

    #ไลน์แมน #ร้านอาหาร #อาหารตามสั่ง #เจ๊ง #ปิดกิจการ #เงินดิจิตอล #ไรเดอร์ #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/iv1EbrojLoHLN6pX/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Clips:ดีเลย์ยันอวกาศ! NASA กุมขมับ “โบอิ้ง” ทิ้ง “2 นักบินอวกาศ” ไว้บน ISS เลื่อนเป็นครั้งที่ 2 หลังแก้ปัญหาเทคนิกไม่คืบ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ - 2 นักบินโบอิ้งสตาร์ไลเนอร์ต้องติดยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS นานออกไปและยังไม่มีกำหนดกลับออกมาทิ้งยาน CST-100 Starliner ต่อเชื่อมกับ ISS ต่อไประหว่างที่ทีมวิศวกรโบอิ้งที่พื้นโลกกำลังทำงานแข่งเวลาเพื่อแก้ปัญหาทางเทคนิกหลังกำหนดการเดินทางกลับโลกในวันที่ 26 มิ.ยถูกเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่ 2
    .
    เอบีซีนิวส์ของออสเตรเลียรายงานวันเสาร์(22 มิ.ย)ว่า องค์การบริหารอวกาศสหรัฐฯ NASA และบริษัทโบอิ้งในคืนวันศุกร์(21) สั่งเลื่อนกำหนดการขึ้นไปรับ 2 นักบินอวกาศโบอิ้งสตาร์ไลเนอร์ แบร์รี "บุตช์" วิลมอร์ (Barry "Butch" Wilmore) และ ซูนีตา "ซูนี" วิลเลียมส์ (Sunita "Suni" Williams)
    .
    หลังโบอิ้งเกิดปัญหายังไม่สามารถแก้ปัญหาการขัดข้องทางเทคนิกได้ทันหลังเลื่อนมาแล้วตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย และล่าสุดวันที่ 24 มิ.ย
    .
    กำหนดการเดินทางกลับครั้งใหม่ยังไม่ออกแต่จะไม่มีการเดินทางกลับสู่พื้นโลกก่อนกรกฎาคม
    .
    วิลมอร์และวิลเลียมส์เป็นชาวอเมริกันทั้งคู่เดินทางออกจากโลกเมื่อวันที่ 5 มิ.ยก่อนหน้า ยานอวกาศโบอิ้ง CST-100 Starliner ที่เดินทางไปประสบปัญหาระหว่างการเดินทางแต่ยังสามารถจอดเทียบท่าที่สถานีอวกาศนานาชาติ ISS ได้สำเร็จซึ่งเป็นการเดินทางที่โบอิ้งซึ่งกำลังแข่งขันกับบริษัทสเปซเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์นั้นบินคนทั้งคู่ขึ้นไปเพื่อรับใบอนุญาตการบินประจำเส้นทางจาก NASA
    .
    NASA กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “ผู้จัดการภารกิจกำลังประเมินโอกาสการเดินทางกลับหลังการออกปฎิบัติการเดินนอกตัวยานกลางอวกาศตามแผนการในวันที่ 24 มิ.ย และวันที่ 2 ก.ค” สตีฟ สติช (Steve Stich) ผู้จัดการโครงการนักบินพาณิชย์ประจำ NASA แถลง
    .
    สติชกล่าวย้ำว่า “สตาร์ไลเนอร์ (CST-100 Starliner) นั้นแสดงประสิทธิภาพได้ดีบนระดับวงโคจรหลังต่อเชื่อมเข้ากับสถานีอวกาศ” พร้อมเสริมว่า เวลาที่เพิ่มมากขึ้นจะเปิดโอกาสให้สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ถึงการปรับปรุงระบบสำหรับภารกิจต่อไปในอนาคต
    .
    อ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯ ซึ่งในเวลานี้ยานอวกาศสตาร์ไลเนอร์ยังคงเทียบท่าในระดับวงโคจรเข้ากับสถานีอวกาศนานาชาติ ISS โดย NASA ชี้ว่า ยานสตาร์ไลเนอร์ซึ่งเป็นยานอวกาศที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ซ้ำจะสามารถจอดเทียบท่า ISS นาน 45 วัน
    .
    สื่อออสเตรเลียตั้งข้อสังเกตว่าจากปัญหามากมายและการทดสอบเป็นที่ต้องตั้งคำถามว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดที่โบอิ้งจะสามารถแก้ไขปัญหาและบินนักบินอวกาศทั้ง 2 เดินทางกลับโลกได้
    .
    โบอิ้งที่ตอนนี้ประสบปัญหาจนเป็นที่วิตกหลังเครื่องบินโดยสารที่ตัวเองผลิตเกิดปัญหานานาประการ โดยในโครงการอวกาศบริษัทโบอิ้งต้องเผชิญภาวะต้นทุนบานปลาย (cost overrun)มากถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์จากโครงการพัฒนาสตาร์ไลเนอร์ที่ชนะสัญญาจาก NASA มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์
    .
    สหรัฐฯต้องการให้โบอิ้งกลายเป็นบริษัทที่ 2 ต่อจากสเปซเอ็กซ์ของ 'อีลอน มัสก์' ที่สามารถส่งยานอวกาศขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ได้หรือไม่
    .
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปเพิ่มได้ที่...https://mgronline.com/around/detail/9670000053605

    https://www.facebook.com/share/p/D6F3xMTtiDjr2fuE/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกร้อนสาหัส! ซาอุฯร้อนตัวปัด “ไม่ได้ทำผิด” หลังผู้แสวงบุญดับสลด 1,126 ห้ามใช้ห้องแอร์หลบร้อน 51.8 C “อียิปต์” ลงดาบดำเนินคดีบ.ท่องเที่ยวทำตายเยอะ(ชมคลิป)
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – นายกรัฐมนตรีอียิปต์สั่งดำเนินคดีทางกฎหมายบริษัทท่องเที่ยว 16 บริษัทหลังผู้แสวงบุญอียิปต์เสียชีวิตมากที่สุด 658 คนเกือบทั้งหมดไม่ได้ลงทะเบียนถูกต้อง ริยาดร้อนตัวออกมายืนยันไม่ได้จัดการผิดพลาด แต่อากาศร้อนผิดปกติ 51.8 องศาเซลเซียส ดับสูงสุด 1,126 คนรวมอเมริกัน สุดอึ้งไม่ให้ผู้แสวงบุญเข้าใช้ห้องพักปรับอากาศหนีร้อน
    .
    เอเอฟพีรายงานวานนี้(22 มิ.ย)ว่า นายกรัฐมนตรีอียิปต์ Mostafa Madbouly ไม่พอใจอย่างหนักหลังเห็นตัวเลขผู้แสวงบุญแดนอัยคุปต์เสียชีวิตมากที่สุดจากทั้งหมด 1,126 คนรวมอเมริกันชนมีผู้แสวงบุญอียิปต์ดับ 658 คนและจากทั้งหมด 630 คนไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อประกอบพิธีอย่างถูกต้อง อ้างอิงจากแหล่งข่าวนักการทูตที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดี(20)
    .
    และออกคำสั่งให้ดำเนินคดีบริษัทท่องเที่ยว 16 บริษัทโดยแถลงการณ์ที่ออกมาจากคณะรัฐมนตรีอียิปต์ระบุว่า
    .
    “นายกรัฐมนตรีอียิปต์มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทเหล่านี้ ผู้จัดการบริษัทจะส่งไปยังอัยการ และการปรับเป็นเงินเพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวของเหยื่อผู้แสวงบุญที่ต้องเสียชีวิตเพราะบริษัทเหล่านี้”
    .
    ทั้งนี้การเสียชีวิตจำนวนมากในกลุ่มผู้แสวงบุญชาวอียิปต์เกิดมาจากบริษัทท่องเที่ยวใช้วิธีส่งผู้แสวงบุญเข้าซาอุดีอาระเบียด้วยวีซ่าการเยี่ยมญาติซึ่งจะห้ามเข้าไปในนครเมกกะผ่านช่องทางทางการ
    .
    โดยในวันศุกร์(21) เจ้าหน้าที่ระดับสูงริยาดออกมาให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีกล่าวปกป้องการจัดงานพิธีฮัจญ์ว่า ริยาดไม่ได้ล้มเหลวในการจัดการแต่ทว่าเป็นเพราะอากาศร้อนจัดอย่างผิดปกติ
    .
    “ทางรัฐไม่ได้ล้มเหลว แต่มีการประเมินผิดพลาดในส่วนของกลุ่มผู้แสวงบุญที่ไม่ชื่นชอบต่อการเสี่ยงภัย” เจ้าหน้าที่ซาอุฯกล่าว ซึ่งเป็นคำกล่าวแรกออกมาจากริยาดหลังข่าวการเสียชีวิตเป็นจำนวนมากออกมา
    .
    และเสริมต่อว่า “สิ่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางเงื่อนไขสภาพอากาศที่เลวร้ายและอุณหภูมิที่สาหัส”
    .
    เจ้าหน้าที่ซาอุฯยอมรับว่ามีผู้เสียชีวิตแค่เฉพาะ 2 วันคือวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่มีตัวเลขสูงถึง 577 คน และยังไม่ได้จบสิ้นกระบวนการที่มีต่อมาจนถึงวันพุธ
    .
    CNN รายงานว่า ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯแถลงวันศุกร์(21)คนว่า มีพลเมืองสหรัฐฯหลายคนวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตระหว่างพิธีฮัจญ์ในซาอุดีอาระเบีย รวม 2 สามีภรรยาผิวสี อีซาตู เตจาน วูรี(Isatu Tejan Wurie)วัย 65 ปีและ อาลิว เดาซี วูรี(Alieu Dausy Wurie)วัย 71 ปีจากรัฐแมรีแลนด์ใช้เงินสูงถึง 23,000 ดอลลาร์เพื่อไปประกอบพิธี
    .
    ลูกสาวเพิ่งมาทราบข่าวจากหนึ่งในลูกทัวร์ที่ไปด้วยว่า พ่อแม่ได้หายตัวไประหว่างเดินขึ้นเขาอาราฟัต(Mount Arafat)หลังผู้เป็นพ่อพูดออกมาว่า 'เดินต่อไปไม่ไหว'
    .
    กงสุลสหรัฐฯในเมืองเจดดาห์ได้รับแจ้งจากข่าวการเสียชีวิตจากกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบียว่า พ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตในวันที่ 15 มิ.ย ด้วยสาเหตุการเสียชีวิตตามธรรมชาติ และได้แจ้งต่อไปยังลูกสาวที่สหรัฐฯ
    .
    ซึ่งทางสถานกงสุลสหรัฐฯเปิดเผยว่า ฮีทสโตรกถือเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตตามธรรมชาติในซาอุดีอาระเบีย และแจ้งให้บุตรสาวของผู้แสวงบุญชาวอเมริกันทราบว่า ทางการริยาดได้จัดการฝังศพบิดามารดาของเธอเรียบร้อยแล้วแต่ไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าอยู่ที่ใด
    .
    ขณะที่เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานอ้างการเปิดเผยจากแหล่งข่าวนักการทูตว่า ริยาดปิดไม่ให้ผู้แสวงบุญเข้าไปหลบความร้อนด้านในห้องปรับอากาศจึงทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมาก
    .
    “ผู้คนต่างเหน็ดเหนื่อยหลังถูกวิ่งไล่ตามโดยเจ้าหน้าที่ซาอุญก่อนวันอาราฟัต(Arafat day) คนเหล่านั้นเหนื่อยล้า”หนึ่งในนักการทูตอาหรับให้สัมภาษณ์ในวันพฤหัสบดี(20) โดยอ้างไปถึงการทำพิธีด้านนอกที่ยาวนานในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดของพิธี
    .
    ปราศจากใบอนุญาตทางการ ผู้แสวงบุญที่ไม่ได้ลงทะเบียนจะไม่สามารถเข้าไปใช้ในพื้นที่ห้องปรับอากาศที่จัดไว้สำหรับผู้แสวงบุญที่ลงทะเบียนจำนวน 1.8 ล้านคนหลังการเดินและสวนภาวนาด้านนอกนานหลายชั่วโมงท่ามกลางอากาศร้อนจัดที่สูงถึง 51.8 องศาเซลเซียส
    .
    บรรดาเพื่อนและครอบครัวต่างพากันตามหาผู้แสวงบุญที่สูญหาน คนเหล่านี้ไปค้นหาที่โรงพยาบาลและประกาศตามหาทางออนไลน์
    .
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปเพิ่มได้ที่...https://mgronline.com/around/detail/9670000053731
    https://www.facebook.com/share/p/nEFUvSiFdX3FEyc8/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียในวันอาทิตย์(23มิ.ย.) กล่าวโทษสหรัฐฯต้องเป็นผู้รับผิดชอบเหตุยูเครนยิงขีปนาวุธโจมตีแคว้นไครเมีย ที่มอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน สังหารประชาชนที่กำลังพักผ่อนอยู่บริเวณชายแดนไป 5 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 3 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน

    ขีปนาวุธระเบิดเหนือพื้นที่ชายหาดของเมืองเซวาสโตโพล ปล่อยเศษแหลมคมพุ่งกระจายเข้าใส่ประชาชนที่กำลังพักผ่อนอยู่บริเวณชายหาดดังกล่าว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่าวอชิงตันและเคียฟ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเหตุจงใจยิงขีปนาวุธโจมตีเข้าใส่ชาวบ้านผู้รักสงบ ซึ่งใช้ขีปนาวุธ ATACMS ที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ ขณะที่ มิฮาอิล ราซโวซาเยฟ ผู้ว่าการแคว้นเซวาสโตโพล ระบุในวิดีโอที่โพสต์บนเทเลแกรม ว่าการโจมตีสังหารเด็กไป 3 รายและผู้ใหญ่ 2 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 120 คน

    เมืองริมทะเลดำแห่งนี้และฐานทัพเรือในแหลมไครเมีย ถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหน่งของดินแดนในปี 2014 แต่นานาชาติยังคงรับรองในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน

    เซวาสโตโพล ถูกโจมตีเป็นประจำจากยูเครน แต่เหตุโจมตีในวันอาทิตย์(23มิ.ย.) ถือเป็นครั้งนองเลือดที่ไม่เป็นปกติ ในขณะที่ ราซโวซาเยฟ บอกว่าการโจมตีโดนเขตอุชคูเยฟกา พื้นที่อันเป็นที่ตั้งของชายแดนและโรงแรมต่างๆ

    คลิปวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ พบเห็นผู้คนวิ่งหนีออกจากชายแดน ท่ามกลางระเบิดที่ระเบิดตูมสนั่น และพบเห็นคนในชุดว่ายน้ำถูกหามขึ้นเปล อย่างไรก็ตามเอเอฟพีไม่ยืนยันว่ามันเป็นภาพเหตุการณ์จริงหรือไม่

    สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานผ่านช่องเทเลแกรม อ้างผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่าหญิงชราคนหนึ่งเสียชีวิต ขณะกำลังว่ายน้ำอยู่ในบริเวณดังกล่าว ขณะที่คณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบอาชญากรรมสำคัญๆ ระบุว่าได้เปิดการสืบสวนในฐานะคดีก่อการร้ายแล้ว

    ผู้ว่าการแคว้นเปิดเผยว่ายูเครนยิงขีปนาวุธออกมา 5 ลูก ซึ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถสกัดไว้ได้เหนือทะเล แต่เศษซากของมันตกลงสู่ชายฝั่ง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมบอกว่าเศษแหลมคมตกลงสู่พื้นที่ชายหาดทางเหนือของเมือง และทำไฟลุกไหม้บ้านหลังหนึ่งและพื้นที่ป่าแห่งหนึ่ง

    ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ยูเครน ก่อการ "โจมตีก่อการร้ายเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนของเซวาสโตโพล ด้วยขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS บรรทุกหัวรบครัสเตอร์ ที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ" พร้อมบอกว่าขีปนาวุธ 4 ลูกถูกสอยร่วง แต่ลูกที่ 5 เปลี่ยนวิถีโคจรหลังถูกสกัด "ด้วยหัวรบของมันระเบิดกลางอากาศเหนือเมือง"

    "ทุกภารกิจที่เกี่ยวกับขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ กดปุ่มโดยพวกผู้เชี่ยวชาญอเมริกา บนพื้นฐานของข้อมูลสอดแนมทางดาวเทียมของสหรัฐฯเอง การกระทำต่างๆเหล่านี้จะต้องถูกตอบโต้" กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ

    กองทัพยูเครนยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุโจมตี ซึ่งเกิดขึ้น 1 วันหลังจากการโจมตีด้วยระเบิดนำวิถีของรัสเซียใส่เมืองคาร์คิฟ ของยูเครน โดนอาคารอพาร์ทเมนต์หลังหนึ่ง สังหารประชาชนไป 2 รายและบาดเจ็บมากกว่า 50 คน

    ในวันอาทิตย์(23มิ.ย.) โอเล็ก ซีเนกูบอฟ ผู้ว่าการแคว้น เปิดเผยว่ารัสเซียโจมตีใส่บ้านหลังหนึ่งและที่ตั้งด้านการศึกษาของเด็กๆในคาร์คิฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอีก 1 รายและบาดเจ็บ 10 คน ในนั้น 2 คนยังเป็นผู้เยาว์

    ที่แคว้นเบลโกรอดของรัสเซีย ในวันอาทิตย์(23มิ.ย.)เช่นกัน ยูเครนใช้โดรนโจมตีเมืองไกรวารอน ใกล้ชายแดนติดกับยูเครน โดนลานจอดรถแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้อาคารชุดหลายชั้น ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 3 คน

    ประธานาธิบดีโวโลดิมร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ เรียกร้องบรรดาชาติผู้สนับสนุน ให้ช่วยเหลือยูเครน ยกระดับโจมตีใส่ดินแดนรัสเซีย "เรามีความมุ่งมั่นมากพอที่จะทำลายพวกก่อการร้ายในดินแดนของพวกเขา มันเป็นสิ่งที่ยุติธรรม และเราต้องการความมุ่งมั่นแบบเดียวกันจากพันธมิตรของเรา เราสามารถหยุดยั้งรัสเซียได้"

    (ที่มา:เอเอฟพี)

    https://www.facebook.com/share/p/Bv57iSHRuVo4rYA6/?mibextid=oFDknk
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซีย ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในโลก อาจลดเวลาในการตัดสินใจที่กำหนดไว้ในนโยบายอย่างเป็นทางการ สำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่มอสโกเชื่อว่ากำลังเผชิญภัยคุกคามเพิ่มมากขึ้น จากคำชี้แนะของประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมของรัฐสภาเมื่อวันอาทิตย์(23มิ.ย.)

    สงครามในยูเครน โหมกระพือการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างรัสเซียกับตะวันตก นับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962 โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุในเดือนที่แล้วว่า รัสเซีย อาจปรับเปลี่ยนนโยบายนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการ ที่กำหนดเงื่อนไขต่างๆสำหรับการใช้อาวุธชนิดนี้

    ในวันอาทิตย์(23ม.ย.) อังเดรย์ คาร์ตาโปลอฟ ประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมของสภาผู้แทนราษฏรรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ ระบุว่าหากภัยคุกคามต่างๆเพิ่มมากขึ้น เมื่อนั้นการมีการเปลี่ยนแปลงกรอบเวลาในการตัดสินใจในการใช้อาวุธนิวเคลียร์

    "ถ้าเราเห็นความท้าทายและภัยคุกคามต่างๆเพิ่มขึ้น มันหมายความว่าเราสามารถทำบางสิ่งบางอย่างในนโยบายให้ถูกต้อง ในเรื่องของกรอบเวลาของการใช้อาวุธนิวเคลียร์และการตัดสินใจใช้อาวุธนี้" สำนักข่าวอาร์ไอเอ อ้างคำกล่าวของคาร์ตาโปลอฟ

    คาร์ตาโปลอฟ ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการกองกำลังรัสเซียในซีเรีย และตอนนี้ทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรครัฐบาล "ยูไนเต็ด รัสเซีย" อย่างไรก็ตามเขาบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอย่างเฉพาะเจาะจงในนโยบายนิวเคลียร์

    นโยบายนิวเคลียร์ปี 2020 ของรัสเซีย กำหนดไว้ว่าประธานาธิบดีของประเทศ จะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ ก็ต่อเมื่อเป็นการตอบโต้การใช้อาวุธนิวเคลียร์หรืออาวุธทำลายล้างอื่นๆ หรืออาวุธทั่วไป ที่ทำให้ความอยู่รอดของรัฐรัสเซียตกอยู่ในความเสี่ยง

    ณ ปัจจุบัน รัสเซียและสหรัฐฯ คือ 2 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่ทิ้งคู่แข่งอื่นๆค่อนข้างห่าง ทั้ง 2 ชาติมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองรวมกันคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 88% ของอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดบนโลก

    ทั้ง 2 ชาติกำลังดำเนินการปรับปรุงคลังแสงนิวเคลียร์ของตนเองให้มีความทันสมัย ส่วน จีน อีกชาติมหาอำนาจ ก็กำลังยกระดับคลังแสงนิวเคลียร์ของตนเองอย่างรวดเร็ว

    ปูติน กล่าวในเดือนนี้ว่า รัสเซีย ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อการันตีชัยชนะในยูเครน ขณะที่วังเครมลิน ส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ว่าความขัดแย้งนองเลือดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะไม่ลุกลามขยายวงสู่สงครามนิวเคลียร์

    อย่างไรก็ตาม ปูติน บอกว่าเขาไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายนิวเคลียร์ของรัสเซีย ท่าทีที่ถูกมองว่าเป็นการโอนอ่อนตามแรงกดดันของพวกสายแข็งกร้าวในชนชั้นสูงของรัสเซีย ที่เชื่อว่า ปูติน ควรสามารถลงมือได้อย่างรวดเร็วหากสถานการณ์ทางนิวเคลียร์ลุกลามบานปลาย และจำเป็นต้องลดกฎเกณฑ์สำหรับใช้อาวุธนิวเคลียร์

    ในสัปดาห์ที่แล้ว ปูติน กล่าวอีกครั้งว่า อาจมีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ เพราะว่าพวกศัตรูของรัสเซีกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แบบทำลายล้างต่ำสุดขั้ว

    ทั้งมอสโกและวอชิงตัน ได้ปรับลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง หลังจากสหภาพโซเวียตล่มลาย แต่สนธิสัญญาควบคุมอาวุธต่างๆหลังสงครามเย็นถูกฉีกทิ้งไปแล้ว และปัจจุบันทูตหลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันทางอาวุธรอบใหม่

    ผู้ช่วยระดับสูงของทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อช่วงกลางเดือนว่า สหรัฐฯอาจประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อป้องปรามภัยคุกคามจากรัสเซีย จีนและศัตรูอื่นๆ

    รัสเซีย บอกว่าพวกเขามีความสนใจที่จะหารือควบคุมอาวุธกับสหรัฐฯ แต่ก็ต่อเมื่อมันเป็นส่วนหนึ่งของการพูดคุยอย่างกว้างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของยุโรปและอนาคตของยูเครน

    ในรายงานทบทวนยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ 2022 Nuclear Posture Review สหรัฐฯระบุว่าด้วยที่รัสเซียและจีนกำลังพัฒนาคลังแสงนิวเคลียร์อย่างรวดเร็ว "ดังนั้นภายในปี 2030 จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาจะต้องเผชิญหน้ากับ 2 มหาอำนาจหลักนิวเคลียร์ ในฐานะคู่แข่งขันทางยุทธศาสตร์ และเป็นไปได้ว่าจะในฐานะศัตรูด้วย"

    (ที่มา:รอยเตอร์)

    https://www.facebook.com/share/p/5rTDrd3L32RbmitF/?mibextid=oFDknk
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1719358283866.jpg

    #เอาแล้ว #พลิกเกม ญี่ปุ่นลั่นพร้อมลุย ทุ่ม"สู้ค่าเงิน"ทุกนาที! 24ชม./วัน! หลังเงินเยนจ่อแตะ 160เยน/ดอลลาร์ ทุบสถิติอ่อนสุดรอบ 34ปี

    https://www.bloomberg.com/news/arti...s-a-day-if-needed-lxs5zzqw?srnd=homepage-asia

    https://www.facebook.com/share/p/fCkyRWR8ftpyeg9t/?mibextid=oFDknk
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เงินอ่อนแค่ไหน หุ้นถึงขึ้นดี? เงินเยนยิ่งอ่อน หุ้นญี่ปุ่นยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ อ่อนซะจนหุ้นขึ้นไม่ไหวแล้ว!!! ขณะที่เงินบาทกับหุ้นไทยล่ะ สัมพันธ์กันไง???
    ตั้งแต่เปิดปี 2023 เป็นต้นมา ยิ่งเงินเยนอ่อนยับ หุ้นญี่ปุ่นยิ่งพุ่งขึ้นแรง
    (กลับกัน ช่วงที่เยนแข็งขึ้นมานิด หุ้นญี่ปุ่นก็จะหล่นลงมาหน่อย)
    ถ้าไม่คิดอะไรมาก --- ตลาดมองว่า {เงินอ่อน กระตุ้นส่งออก} งั้นมั้ง
    ถึงเวลา "แยกทาง"?
    เงินเยนทำสถิติอ่อนสุดรอบใหม่ๆ นับตั้งแต่สงกรานต์ 2022 เรื่อยมา (และเหมือนจะเรื่อยไป!)
    แต่ แต่ แต่
    หุ้นญี่ปุ่น "พีก" เมื่อปลายๆ มี.ค. 2024
    (ดัชนี Nikkei 225 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดัชนี TOPIX สูงสุดในรอบ 34 ปี)
    ถัดจากนั้น ก็ไม่ยอมพุ่งต่อซะแล้ว
    ถ้าคิดไม่ซับซ้อน --- มันถึง "ขีดจำกัด" threshold
    {เยนอ่อน หุ้นขึ้น} ความสัมพันธ์นี้จริง --- ตราบจนกระทั่งมันอ่อนเกินเยียวยา!
    จากที่อ่อนแล้วกระตุ้นส่งออก จะกลายเป็นอ่อนจนวายวอด!

    160 เยน/ดอลลาร์ อาจจะเป็น "พิกัด" นั้น

    อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เงินเยนจ่อคอหอย 160 แม้หุ้นไม่ขึ้นอีก แต่ก็ยังไม่ร่วงกราว ... มันแค่หย่อนๆ ผ่อนๆ

    แต่นาทีนี้ มันหมิ่นเหม่ อาจถึง "จุดหักเห" พลิกเป็นดิ่งวูบ!?!?
    เงินทุนต่างชาติ ไหลออกจากตลาดหุ้นญี่ปุ่น 4 สัปดาห์ซ้อนแล้วล่ะครับท่าน ... สัญญาณไม่ดีเอาซะเลย
    ไทยล่ะ?
    รู้หรือไม่ ตรงกันข้ามกับญี่ปุ่นเลยจ้า! เงินบาทไทยกับหุ้นไทย ค่อนข้างจะไปทิศทางเดียวกัน
    {เงินบาทแข็ง หุ้นไทยขึ้น}
    ค่อนข้างจะเป็นเช่นนั้น

    และทุกวันนี้ก็ยิ่งชัด
    บาทอ่อนย้วย และ SET บัดซบไปด้วยกัน

    ภาพ {เงินอ่อน กระตุ้นส่งออก} ที่เกิดกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะหลัง ไม่เคยเกิดกับตลาดหุ้นไทยครับท่าน

    สรุปว่าคนละภาพ นักลงทุนต้องทำความเข้าใจ
    https://www.facebook.com/share/p/CchFkhG9WsHARdZX/?mibextid=oFDknk
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศาลฎีกาจำคุก 12 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทปิคนิค คดียักยอกทรัพย์มูลค่า 700 กว่าล้าน

    ศาลฎีกาจำคุก 2 อดีตกรรมการบริษัทปิคนิค คนละ 12 ปี คดียักยอกทรัพย์ 700 กว่าล้าน ส่วนกรรมการบริษัทที่ปรึกษาและทนายความ ไม่รอดโดนคุก 12 ปี แต่หลบหนี ศาลให้ออกหมายจับมารับโทษ

    ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา หมายเลขดำ อ.1396/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุเทพ อัคควุฒิไกร อดีตกรรมการรับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น ,นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ อดีตกรรมการรับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น ,บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ฯ,นายสนธยา น้อยเจริญ อดีตกรรมการบริษัท สีลมฯ ,นายธรรมนูญ ทองลือ ,หม่อมหลวงชัยภัทร ชยางกุร ,บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด และนางวันดี โตเจริญ เป็นจำเลยที่ 1-8 ในความผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 307,308,311, 313,315

    โดยคดีนี้ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2557 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 8 กับนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์สรุปว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2549-25 ธ.ค.2550 จำเลย ได้ร่วมกันสนับสนุน ช่วยเหลือ และกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยร่วมกันยักยอกหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI มูลค่า 711 ล้านบาท และร่วมกันยักยอกเงินของ PICNI จำนวน 50 ล้านบาท เหตุเกิดที่แขวงสวนหลวง และหลายท้องที่ใน กทม.

    เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2562 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 8 คน ส่วนนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน กับพวกอีกหลายคนได้หลบหนีคดีต่อมาพนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ และเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2563 ศาลอุทธรณ์มีพิพากษาแก้เป็นว่า นายสุเทพ อัคควุฒิไกร จำเลยที่ 1 และ นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 313 ประกอบมาตรา 307 ,308 ,311 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
    การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษฐานเป็นกรรมการ ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ร่วมกันเบียดบังเอาทรัพย์ของนิติบุคคลโดยทุจริตตามมาตรา 313 ประกอบมาตรา 308 จำคุกคนละ 12 ปี และปรับคนละ 1,522 ล้านบาท

    ส่วนบริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำเลยที่ 3 มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 315 ประกอบมาตรา 307,308 ,311, 313 ให้ลงโทษฐานช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่กรรมการ ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบียดบังเอาทรัพย์ของนิติบุคคลโดยทุจริต ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 313 ประกอบมาตรา 308 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้ปรับ 1,422 ล้านบาท

    นายสนธยา น้อยเจริญ จำเลยที่ 4 และ บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด จำเลยที่ 7 มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตรา 315 ประกอบมาตรา 307,308,311,313 ให้ลงโทษฐานร่วมกันช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่กรรมการ ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เบียดบังเอาทรัพย์ของนิติบุคคลโดยทุจริต ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 313 ประกอบมาตรา 308

    โดยจำคุก นายสนธยา น้อยเจริญ จำเลยที่ 4 2 กระทง กระทงละ 6 ปี รวมจำคุก 12 ปี ปรับ 1,522 ล้านบาท และให้ลงโทษปรับ บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด จำเลยที่ 7 จำนวน 1,522 ล้านบาท นางวันดี โตเจริญ จำเลยที่ 8 ยกฟ้อง สำหรับนายธรรมนูญ ทองลือ จำเลยที่ 5 กับนายสุริยาที่หลบหนีให้ออกหมายจับปรับนายประกัน

    ต่อมานายสุเทพ อัคควุฒิไกร จำเลยที่ 1, บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำเลยที่ 3 และนายสนธยา น้อยเจริญ จำเลยที่ 4 ยื่นฎีกา อัยการโจทก์ไม่ฎีกา เมื่อถึงเวลานัด จำเลยที่ 1 และ3 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 4 ซึ่งหลบหนี มีนายประกันมาศาล

    ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว เห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายสุเทพ อัคควุฒิไกร จำเลยที่ 1 และ นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ จำเลยที่ 2 ครอบครองหุ้นตามฟ้องแล้วอาศัยโอกาสเป็นกรรมการบริหารบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กระทำผิดหน้าที่เบียดบังหุ้นไปจริง โดยกระทำร่วมกันเป็นเหตุลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 2 ไม่ฎีกา ก็มีผลถึงจำเลยที่ 2 ด้วย พิพากษาจำคุกยืน คนละ 12 ปี และพิพากษาแก้ปรับบทลงโทษเป็นไม่มีโทษปรับ ส่วนบริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำเลยที่ 3 ศาลพิพากษาแก้ปรับบทลงโทษคงปรับ 1 ล้านบาท ส่วนนายสนธยา น้อยเจริญ ผู้บริหารบริษัทสีลมฯและทนายความ จำเลยที่ 4 พิพากษายืนจำคุก 12 ปี และบริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด จำเลยที่ 7 แม้ไม่ฎีกาแต่เป็นเหตุลักษณะคดีมีผลไปถึงด้วย คงปรับ 2 ล้านบาท

    ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสุเทพ อัคควุฒิไกร ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่าระดับพันล้าน แต่วันนี้ได้ประกันตัวชั้นอุทธรณ์ เมื่อรู้ว่าจะเข้าเรือนจำก็ถอดสร้อยนาฬิกาฝากญาติ เพื่อไปเข้าเรือนจำรับโทษทันที

    https://www.facebook.com/share/p/uikrwjS2VUbe7dp2/?mibextid=oFDknk
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 27, 2024 พลิกขึ้นนิด! ตลาดน้ำมันดิบตลาดโลกหวนปิดขึ้นแคบๆ ปิดเหนือ 85 ดอลลาร์ กังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ท่ามกลางสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสูงกว่าคาด

    ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 80.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.05% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 85.25 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ 0.3%

    ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดขึ้นเกือบ 3% ส่งผลเป็นราคาปิดเป็นบวกในสัปดาห์ที่ 2 ในรอบ 4 สัปดาห์ผ่านมาด้วย ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม ราคาน้ำมันดิบโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดดิ่งลง -6% และ -7.1% ตามลำดับ ทำสถิติราคาปิดร่วงลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 ที่สำคัญ ยังเป็นราคาน้ำมันดิบรายเดือนที่แย่ที่สุดในปีนี้ด้วย

    สาเหตุจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายนลดลง ท่ามกลางมุมมองของผู้บริโภคในสหรัฐหวั่นเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ลดลงเร็วตามคาด ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐเพิ่มขึ้น 914,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.843 ล้านบาร์เรล

    ตลาดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบในฤดูร้อนที่เริ่มต้นขึ้นแล้วในสหรัฐอเมริกาจะมีความต้องการสูงมากขึ้น กลุ่มสหภาพยุโรปมีมติคว่ำบาตรรัสเซียด้านพลังงานชุดใหม่โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี เนื่องจากการทำสงครามรุกรานยูเครนนับตั้งแต่กว่า 3 ปีผ่ารมา นอกจากนี้ ยูเครนใช้โดรนติดขีปนาวุธโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสำเร็จรูปในรัสเซีย

    ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยว่า ความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกยังไม่มีจุดสูงสุดในระยะกลางหรือระยะยาว พร้อมปรับคาดการณ์ว่า ปริมาณบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 116 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2045 และสำนักบริหารจัดการข้อมูลพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ อีไอเอ ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกปี 2024 เป็นวันละ 1.10 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่วันละ 900,000 บาร์เรล

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

    ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมัน มีผลวันที่ 22 มิถุนายน 2567 โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ขึ้น 40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาครั้งที่ 3 ใน 11 วันผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2567 ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่แพงขึ้นในรอบ 4 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมผ่านมา

    #น้ำมันดิบ #ราคาน้ำมันดิบ #ราคาน้ำมัน #ราคาน้ำมันวันนี้ #เศรษฐกิจ #BTimes
    https://www.facebook.com/share/p/BfLaCGzGUA1FAurm/?mibextid=oFDknk
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 27, 2024 ฟังเจ็บจี๊ด! แบงก์ชาติพูดชัดคุณภาพคนกู้ด้อยลง ยันสินเชื่อรถยนต์ไม่ได้เข้มจัดอย่างที่พูดกัน ราคารถมือสองดิ่ง ฉุดคนไม่สามารถซื้อรถใหม่ รถอีวีเปิดศึกดั้มราคาทำคนซื้อรถไม่กล้าซื้อ หวั่นขายได้ราคาตกต่ำในอนาคต

    นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ กล่าวว่า เท่าที่คุยกับผู้ประกอบการ และสถาบันการเงิน พบว่า มาตรฐานสินเชื่อรถยนต์โดยรวมไม่ได้เปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนคือคุณภาพของลูกหนี้ที่จะมาขอกู้แย่ลงทำให้การปฏิเสธสินเชื่อมีมากขึ้น

    ปัจจุบันราคาของรถยนต์มือสองถูกกดดันอย่างมาก เห็นได้ว่ามีราคาลดลงทำให้ตลาดซบเซา ปกติจะมีผู้ซื้อกลุ่มหนึ่งที่จะซื้อรถใหม่โดยเอารถเก่าไปตีราคา เพื่อให้ได้เงินมาเติมซื้อรถใหม่ แต่เมื่อราคาขายรถมือสองตกต่ำ ทำให้ผู้ซื้อต้องเพิ่มเงินมากขึ้นถึงจะซื้อรถใหม่ ส่งผลให้ความสามารถในการซื้อรถใหม่ลดลงไปด้วย

    สำหรับรถไฟฟ้า หรือรถอีวีที่เข้ามาในประเทศไทยกลายเป็นเพิ่มความยากลำบากให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไปด้วย ดูได้จากการแข่งขันด้านราคาของรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่หรือคือราคารถยนต์ที่มีส่วนลดเป็นหลักแสนบาท ทำให้คนที่มีกำลังซื้อรอดูก่อนว่าราคาจะปรับลดลงกว่าเดิม หรือไม่ ในเวลาเดียวกัน ผู้ซื้อก็มีความกังวลว่า ถ้าซื้อไปวันนี้ และต้องการขายในอนาคต อาจจะได้ราคาขายที่น้อยลง สร้างความลังเลสำหรับผู้ซื้อ ตลาดส่งออกรถปิคอัพของไทยไปต่างประเทศก็ชะลอลง สาเหตุจากต่างประเทศยังมีความต้องการไม่มากอย่างที่คาดไว้

    ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มข้างหน้ามีโอกาสที่จะค่อย ๆ ดีขึ้นทั้งตลาดโลกและตลาดในประเทศ แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก โดยประเด็นที่เป็นปัญหาเชิงวัฎจักรจะใช้เวลาไม่นานในการฟื้นตัว เช่น เรื่องการส่งออก แต่หากเป็นประเด็นปัญหาเชิงโครงสร้างจะใช้เวลานานกว่านั้น เช่น เรื่องรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องให้เวลาปรับตัว ซึ่งในต่างประเทศก็เจอปัญหานี้เช่นกัน

    การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของภาคการส่งออกมีทิศทางชะลอลงต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนเป็นหมวดสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของการส่งออกของไทย โดยมีน้ำหนักที่ 16% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดในปี 2566 นอกจากนี้ มีสัดส่วนต่อการเติบโตของภาคส่งออกคิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของการขยายตัวของการส่งออกสินค้าทั้งหมดในปี 2555-2561
    โดยภาพรวมการส่งออกของไทยฟื้นตัวช้าจากปัญหาเชิงโครงสร้าง และถูกซ้ำเติมจากแนวโน้มการส่งออกของรถยนต์และชิ้นส่วนที่หดตัว โดยในปี 2567 การส่งออกรถยนต์ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในต่างประเทศโดยเฉพาะตลาด อาเซียน

    ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงจากปัญหา รถยนต์ล้นตลาดของจีน ซึ่งจะกระทบต่อ ความสามารถในการแข่งขันของไทย รวมถึงการเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ EV ในระยะข้างหน้า ดังนั้น การปรับตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย และเร่งผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่การผลิตรถยนต์ EV ในอนาคต จึงเป็นเรื่องสำคัญ

    https://www.facebook.com/share/p/ky4fYiunnK15S4hB/?mibextid=oFDknk
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 27, 2024 อย่าตามกัน! ต้นเดือนกรกฎาคมสายการบินแห่งชาติเวียดนามมีเสี่ยงล้มละลาย ลุ้นรัฐสภาเวียดนามไฟเขียวต่อเวลาเวียดนาม แอร์ไลน์ส จ่ายคืนเงินกู้รัฐบาล

    รัฐสภาเวียดนามโพสต์แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของรัฐสภาเวียดนาม มีใจความว่า เวียดนาม แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศเวียดนามมีความเสี่ยงต่อกิจการที่จะล้มละลายภายในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐสภาเวียดนาม หากรัฐสภาเวียดนามไม่อนุมัติการขยายกำหนดเวลาชำระคืนเงินกู้ของสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ส ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลออกไป

    เวียดนาม แอร์ไลน์ส ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตทางการเงิน เนื่องจากยังคงอยู่ในกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ได้แก่ การปรับโครงสร้างการลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการการบินซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และแผนการขายหุ้นใหม่ ความล่าช้าในการกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวมาจากความล่าช้าในการอนุมัติตามกฎระเบียบ ด้านคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ รัฐสภาเวียดนาม เปิดเผยว่า ได้เรียกร้องให้สภานิติบัญญัติดำเนินการอนุมัติอย่างรวดเร็ว

    สอดคล้องกับรัฐบาลเวียดนาม เปิดเผยว่า ได้แนะนำให้รัฐสภาเวียดนามพิจารณามติอนุมัติให้ขยายเวลาการชำระคืนเงินกู้ของสายการบินออกเวียดนาม แอร์ไลน์ส ออกไปเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2027 เพื่อให้สายการบินดังกล่าวมีเวลาในการปรับโครงสร้างให้แล้วเสร็จ

    ทั้งนี้ สายการบินแห่งชาติ เวียดนาม แอร์ไลน์ส ทำการเงินกู้ยืมเงินส่วนหนึ่งจากธนาคารพาณิชย์จำนวน 4 ล้านล้านด่อง หรือกว่า 5,777 ล้านบาท ซึ่งเงินกู้จำนวนนี้ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% ตั้งแต่ในปี 2021 ด้านผลประกอบการ พบว่าในปี 2023 สายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ส มีผลการดำเนินงานขาดทุน 5.6 ล้านล้านด่อง หรือกว่า 8,089 ล้านบาท

    #เวียดนามแอร์ไลน์ส #ล้มละลาย #เวียดนาม #เครื่องบิน #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/4zecxs9ntEGdtBvC/?mibextid=oFDknk
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 27, 2024 ยังซึมต่อ! เศรษฐกิจพ่นพิษอสังหาฯ ซึมยาว 5 เดือนแรกปีนี้ยังไม่มีปิดดีลซื้อขาย สถานการณ์ปฏิเสธสินเชื่อไม่มีแผ่วสูงถึง 50-60% ที่ดินเปล่าขายไม่ออก ‘ภูเก็ต’ พุ่งไร่ละ 40-100 ล้าน

    นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การซื้อขายที่ดินเปล่าพื้นที่กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ช่วง 5 เดือนตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567ยังไม่มีปิดดีลการซื้อขายเกิดขึ้น เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังซบเซา แม้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคธุรกิจอสังหริมทรัพย์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ตรงจุดพอเป็นแรงส่งต่อตลาดให้กลับมาพื้นตัวได้ในปีนี้ ยังมีปัญหากำลังซื้อที่ถูกปฎิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินสูงถึง 50-60% จึงทำให้ผู้ประกอบการชะลอการซื้อที่ดินพัฒนาโครงการใหม่ๆ ยกเว้นราคาที่ดินถูกหรืออยู่ทำเลมีศักยภาพจริงๆ ตอนนี้ภาพที่เห็นจึงมีแต่เจ้าของที่ดินนำที่ดินมาประกาศขายหรือเช่า ส่วนหนึ่งลดภาระภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นแปลงเล็ก ขณะที่แปลงใหญ่ยังปิดดีลการขายไม่ได้ เพราะมีมูลค่าสูง เช่น ย่านแจ้งวัฒนะ ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู และอีกแปลงติดถนนวิภาวดี-รังสิต แต่ที่ยังพอไปได้ คือ ธุรกิจแวร์เฮาส์ และการซื้อขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม

    สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ภูเก็ตในปี 2567 ถือว่าเลยช่วงโบนัสหรือจุดพีคของตลาดมาแล้ว หลังจากปี 2566 มีผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯและในพื้นที่ได้มีการลงทุนพัฒนาโครงการไปจำนวนมาก ทำให้ตลาดในปีนี้เป็นการเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นช่วงที่ทุกบริษัทต้องเร่งสร้างยอดขายและรายได้ ขณะที่การซื้อขายที่ดินยังมีออกสู่ตลาดต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นแปลงเล็กและราคาก็ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี แต่การซื้อขาย ยังไม่หวือหวาเหมือนก่อนหน้านี้

    จากการสำรวจราคาซื้อขายที่ดินในพื้นที่ภูเก็ต พบว่ามีหลายแปลงที่ปิดป้ายให้เช่าระยะยาว และประกาศขาย โดยตั้งราคาขายตั้งแต่ 40-100 ล้านบาทต่อไร่ เช่น ติดถนนบายบาสภูเก็ต เนื้อที่ประมาณ 11 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตั้งราคาขายอยู่ที่ 800 ล้านบาทหรือไร่ละ 70-80 ล้านบาท อีกแปลงอยู่ในเมืองภูเก็ต ขนาดพื้นที่ 565 ตารางวา ตั้งราคาขาย 100 ล้านบาท เป็นต้น

    #อสังหาริมทรัพย์ #ที่ดิน #บ้าน #คอนโด #สินเชื่อบ้าน #BTimes
    https://www.facebook.com/share/p/TTpQo83oAZxdXAH5/?mibextid=oFDknk
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 27, 2024 มาอีกดอก! พันธบัตร-หุ้นกู้เอกชนไทยจ่อโดนขายออกมากสุด แถมโดนลดน้ำหนักลงทุนมากสุดในตลาดตราสารหนี้เกิดใหม่ ผลพวงพันธบัตรอินเดียเข้าดัชนีตราสารหนี้โลก ต่างชาติจ่อขายตราสารหนี้ไทยเกือบ 120,000 ล้านบาท

    ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ธนาคารฯได้นำตราสารหนี้ของประเทศอินเดียทยอยเข้ามารวมในการคำนวณดัชนีตราสารหนี้สำหรับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Government Bond Index-Emerging Markets) หรือ (GBI-EM) มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 28 มิถุนายน 2024 เป็นต้นไป นอกจากนี้ จะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของตลาดตราสารหนี้อินเดียในสัดส่วน 1% ต่อเดือน ไปจนถึงสูงสุดที่ระดับ 10% ในวันที่ 31 มีนาคม 2025

    ดังนั้น ธนาคารฯ ต้องตัดลดน้ำหนักการลงทุนตราสารหนี้ในหลายประเทศตามการคำนวนสัดส่วนในดัชนีตราสารหนี้สำหรับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่สำคัญ ทำให้กองทุนตราสารหนี้ต่างๆ ต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนตลาดตราสารหนี้ตามน้ำหนักใหม่หลังจากได้เพิ่มตราสารหนี้อินเดียเข้ามา ส่งผลเกิดเงินทุนต่างชาติที่ถือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศที่ถูกลดน้ำหนักลงไหลออกจำนวนมาก

    สำหรับตราสารหนี้ของประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด มี 6 ประเทศ คือ ไทย แอฟริกาใต้ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี และสโลวัก ในส่วนของตราสารหนี้ไทยนั้น ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่าตราสารหนี้ไทยถูกลดลงราว 1.60% แอฟริกาใต้จะลดลง 1.44% และโปแลนด์จะลดลง 1.41% ที่สำคัญ จะมีเงินต่างชาติขายตราสารหนี้และโยกเงินออกจากใน 3 ประเทศดังกล่าว ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีเงินไหลออกจากตลาดตราสารหนี้แอฟริกาใต้ 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 173,900 ล้านบาท โปแลนด์ 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 122,100 ล้านบาท และประเทศไทย 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 118,400 ล้านบาท ดังนั้น ตลาดตราสารหนี้ประเทศเหล่านี้ยังเป็นกลุ่มที่จะสูญเสียผลประโยชน์มากที่สุดจากการนำตราสารหนี้ของอินเดียเข้าสู่ดัชนีในครั้งนี้

    ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยต่อไปว่า ตราสารหนี้ไทยมีความเปราะบางมากเป็นอันดับที่ 4 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการไหลออกของเงินทุนต่างชาติจึงทำให้ตลาดตราสารหนี้ไทยมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินโลก ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค จึงแนะนำให้ลดน้ำหนัก หรือ Underweight การลงทุนในตราสารหนี้ของไทย โดยลดน้ำหนักให้น้อยกว่าน้ำหนักที่มีอยู่เดิมในดัชนี GBI-EM

    ในทางกลับกัน ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ไม่มีการลดน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศจีน อินโดนีเซีย และเม็กซิโก และทั้ง 3 ประเทศดังกล่าวยังคงมีน้ำหนักการลงทุนเต็มเพดานสูงสุดที่ 10% ทำให้ไม่สูญเสียประโยชน์ด้านราคาตราสารหนี้ ซึ่งมีผลน้อยที่สุดจากการนำตราสารหนี้อินเดียเข้าสู่ดัชนีดังกล่าว

    นักลงทุนต่างชาติได้ใส่เงินเข้าไปลงทุนถือครองตลาดตราสารหนี้ของอินเดียล่วงหน้ามาได้ระยะหนึ่งแล้วราว 32-40% ของยอดรวมการลงทุนในตราสารหนี้ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่ 20,000-25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 740,000-925,000 ล้านบาท

    ทั้งนี้ ก่อนที่จะเริ่มนำตราสารหนี้อินเดียเข้าสู่ดัชนี GBI-EM ดังกล่าว พบว่าตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 เป็นต้นมา มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้าลงทุนอยู่แล้ว 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 300,000 ล้านบาท

    #ตราสารหนี้ #หุ้นกู้ #พันธบัตร #การลงทุน #ต่างชาติ #อินเดีย #ไทย #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/tACdrws34UrJdzVt/?mibextid=oFDknk
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 27, 2024 ยอดมันฟ้อง! กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายอมรับทุนจดทะเบียนของบริษัทเลิกกิจการของไทยพุ่งสูงผิดปกติกว่า 54,000 ล้าน พุ่งกระฉูดเกือบ 1,000%

    กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไป ไทยมีการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการร่วม 1,004 ราย เพิ่มขึ้นถึง 23.95% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกกิจการถือว่าอยู่ในภาวะสูงผิดปกติ ที่ 54,804.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49,707 ล้านบาท คิดเป็น 975.26% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 46,564 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 565.11% เมื่อเทียบกับปี 2566 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเลิกประกอบกิจการของ 2 บริษัทขนาดใหญ่ ที่ต้องการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของธุรกิจให้คล่องตัวยิ่งขึ้น

    สำหรับธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ 3 อันดับแรก ได้แก่
    1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 98 ราย
    2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 59 ราย
    3. ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการอื่นๆ 25 ราย ส่งผลให้ ปัจจุบัน ณ 31 พ.ค. 2567 ประเทศไทย มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 1,916,267 ราย โดยจำนวนนี้เป็นนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวน 916,634 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 22.26 ล้านล้านบาท

    ข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 1,916,267 ราย โดยจำนวนนี้เป็นนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวน 916,634 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 22.26 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็นบริษัทจำกัดจำนวน 714,143 ราย คิดเป็น 77.91% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียน 16.02 ล้านล้านบาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดและห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลจำนวน 201,031 ราย คิดเป็น 21.93% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียน 0.47 ล้านล้านบาท และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,460 ราย คิดเป็น 0.16% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียน 5.77 ล้านล้านบาท

    #เจ๊ง #เลิกกิจการ #ปิดกิจการ #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/8gV5xLGdXaELyRoF/?mibextid=oFDknk
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 27, 2024 ไม่กล้าใช้จ่าย ! เครือสหพัฒน์ ชี้เศรษฐกิจไทยเงียบเหงา คนไม่มั่นใจไม่กล้าซื้อ สะท้อนยอดขายไตรมาส 2 เสื้อผ้า แฟชั่นตกลงมากกว่า 30% ให้กำลังใจรัฐบาลทำให้เต็มที่ ยันแบกรับภาระต้นทุนไม่ขึ้นราคา

    นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในครึ่งปี 67 ถือว่าเงียบเหงา โดยในช่วงยอดขายของในกลุ่มเครือสหพัฒน์ ช่วงไตรมาสแรกถือว่าดีอยู่ แต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ยอดขายทั้งกลุ่มเสื้อผ้าและแฟชั่นค่อนข้างเงียบมาก ยอดตกลงไปมากกว่าร้อยละ 30 สะท้อนว่าผู้ซื้อไม่กล้าซื้อสินค้า แต่หากรวมสินค้าทั้งกลุ่มยังถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ประกอบกับช่วงนี้ผลกระทบจากต้นทุนทั้งด้านขนส่งและต้นทุนวัตถุดิบเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมาก แต่ทางกลุ่มจะยังไม่ใช้มาตรการปรับราคาสินค้าขึ้นเพื่อชดเชยกับต้นทุนที่แพง แต่จะใช้แนวทางการปรับบริหารองค์กรทั้งระบบเพื่อลดภาระต้นทุนแพงแทน ดังนั้น จึงขอให้ผู้บริโภคสบายใจทางกลุ่มจะไม่ใช้แนวทางขึ้นราคาสินค้าเพื่อผลักภาระให้ผู้บริโภคแน่นอน หากจุดใดรับภาระได้ทางกลุ่มพร้อมช่วยเต็มที่

    “เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกเงียบ แต่อยากฝากและเป็นกำลังใจรัฐบาลที่กำลังแก้ไขและหามาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังซื้อต่างๆ นั้นเพื่อให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาดีขึ้นก็ขอเป็นกำลังใจรัฐบาลให้ดำเนินการทุกด้านให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้”

    ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือลดค่าครองชีพให้กับประชาชน จึงได้จัดงานในกลุ่มสหกรุ๊ปแฟร์ปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 27-30 มิ.ย.67 เวลา 10.00–21.00 น. ที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา โดยจะนำสินค้าแบรนด์ดังในเครือสหพัฒน์มาจำหน่ายในราคาพิเศษ รวมกว่า 100 บริษัท 1,000 รายการ อาทิ มาม่า, ฟาร์มเฮ้าส์, วาโก้, กีลาโรช, ลาคอสต์, บีเอสซี, เวลแคร์, เปา, ซื่อสัตย์, ซิสเท็มมา, โชกุบุสซึ, โคโดโมะ และจะจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุด สินค้าใหม่จากแบรนด์ต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมพิเศษ แฟชั่นโชว์ การประกวด และการสัมมนา มากมาย รวมทั้งยังมี 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ของเครือสหพัฒน์นำสินค้ามาจัดแสดงและจำหน่ายด้วย

    สำหรับสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 28 จะมาพร้อมรูปแบบการจัดงานโฉมใหม่ในคอนเซปต์ Fair & Fest ซึ่งจะเนรมิตงานให้เป็นทั้งแฟร์และเฟสติวัลในงานเดียว โดยจะมีกิจกรรมความบันเทิงกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ทั้งบนเวทีการแสดง พื้นที่ส่วนกลาง บูธแสดงสินค้า เพื่อสร้างสีสัน ความแปลกใหม่ และทำให้การเลือกซื้อสินค้าสนุกสนานและเพลิดเพลินมากกว่าเดิม อาทิ การประกวดเต้นโคฟเวอร์และฮิปฮอปสุดมันส์ คอนเสิร์ตจากยูทูบเบอร์ในโลกเสมือน (VTuber Concert) ที่กำลังมาแรง แฟชั่นโชว์ WACOAL BRACATION ที่นำเสนอคอลเลกชันใหม่ ในปี 2024 กิจกรรม ODEN-YA รวมพลคนสะสมการ์ดพลัง แฟชั่นโชว์สัตว์เลี้ยง Meet & Greet กับเซเลบสี่ขา ที่จะมาร่วมสร้างสีสัน การแสดงดนตรีและคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย พร้อมด้วยงานแสดงศิลปะป๊อปอาร์ต อาร์ตทอยแกลลอรีที่มีคาแรกเตอร์ชื่อดัง ‘HUUYAOW’ มาโชว์ และยังมีมุมตกแต่งสวย ๆ อีกมากมายให้ผู้ร่วมงานถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

    #เครือสหพัฒน์ #สหกรุ๊ปแฟร์ #เศรษฐกิจ #สินค้า #ต้นทุนสินค้า #กำลังซื้อ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/cyuh1Trs2kteLd6K/?mibextid=oFDknk
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 27, 2027 ช็อคทั้งวง! ต่างชาติถล่มเทหุ้นไทยอีกเกือบ 2,400 ล้านบาท เทขายยาว 27 วันทำการติดกันแตะ 49,000 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีนี้แห่ขายเกินกว่า 114,000 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยปิดร่วงต่ำสุดใน 4 วันผ่านมาแตะ 1,309 จุด

    วันนี้ 27 มิถุนายน 2024 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานว่า ดัชนีหุ้น SET Index ปิดที่ระดับ 1,309.46 จุด -9.69 จุด หรือ -0.73% มูลค่าการซื้อขาย 34,140.71 ล้านบาท โดยทำจุดต่ำสุด 1,307.67 จุด และทำจุดสูงสุด 1,316.58 จุด

    ในวันนี้ 27 มิถุนายน 2567 พบว่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย -2,385.86 ล้านบาท เมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -32,251.44 ล้านบาท สอดรับกับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 27 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -114,411.06 ล้านบาท ส่งผลให้วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยทะลุหลัก 100,000 ล้านบาทเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน

    ข้อมูลถึงเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิหุ้นไทยรวมกัน 27 วันทำการติดต่อกัน หรือตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2024 (ในวันทำการ) มูลค่า -49,015.23 ล้านบาท ส่งผลทำสถิตินักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยยาวนานที่สุดในรอบ 4 เดือน 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง หรือนับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2024

    ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นปิดในวันนี้ 27 มิถุนายน 2567 นั้น ยังดำดิ่งมากถึง -513.20 จุด หรือดิ่งลงเหวถึง -28.15% เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,822.66 จุด ส่งผลตลาดหุ้นไทยเข้าภาวะหมี หรือ Bear Market มาอย่างยาวนาน

    #หุ้นไทย #หุ้น #ต่างชาติ #การลงทุน #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/4LB5gQczD8RaCPwx/?mibextid=oFDknk
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาลควักงบประมาณ
    ช่วยค่าน้ำมัน 120 บาท/เดือน
    จ่าย ‘บัตรคนจน‘ 14 ล้านคน พร้อมสั่งตรึงราคา LPG นาน 3 เดือน มีผล 1 ก.ค. 67
    #กรุงเทพธุรกิจ

    "กบง." ช่วยค่าน้ำมัน "ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 120 บาท นาน 3เดือน เริ่ม ต.ค.–ธ.ค. 67 พร้อมสั่งตรึงราคา LPG นาน 3 เดือน มีผล 1 ก.ค. 67

    https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1133410?anm=

    https://www.facebook.com/share/p/j9rAfU8iAC9tGnyc/?mibextid=oFDknk
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 28, 2024 ไม่ดีก็เปลี่ยน! ญี่ปุ่นเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคลัง คาดจ่อออกนโยบายแทรกแซงเงินเยน หลังเงินเยนดำดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี เบรกกระแสเก็งกำไร

    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแต่งตั้งนายอัตสึชิ มิมูระ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแทนนายมาซาโตะ คันดะ ในวันนี้ (28 มิ.ย.) ขณะที่เงินเยนดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน

    โดย นายมิมูระ ซึ่งมีประสบการณ์การกำกับดูแลด้านการเงิน จะเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ แทนนายคันดะ โดยนายคันดะเป็นผู้ผลักดันการแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยนครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้และถ้อยแถลงของเขาทำให้บรรดานักเก็งกำไรทุบขายเงินเยนมากจนเกินไป

    นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรคลังญี่ปุ่นเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า การที่นายมิมูระเข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวแทนนายคันดะนั้น จะทำให้นายมิมูระต้องใช้ความพยายามในการบริหารจัดการเงินเยน

    ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนบุคลากรด้านการกำกับดูแลที่ญี่ปุ่นดำเนินการในทุก ๆ ปี และเกิดขึ้นในขณะที่ตลาดกำลังทดสอบความสามารถของรัฐบาลญี่ปุ่นว่าจะสามารถสกัดการอ่อนค่าของเงินเยนได้หรือไม่ โดยเงินเยนที่อ่อนค่านั้นได้สร้างความยากลำบากให้กับภาคครัวเรือนและบริษัทเอกชนเนื่องจากทำให้ต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น

    นายฮิเดโอะ คุมาโนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันไดอิจิ ไลฟ์ รีเสิร์ช กล่าวว่า "นายคันดะมีความแข็งกร้าว เมื่อพิจารณาจากการที่เขาแสดงความเห็นว่าทางการญี่ปุ่นเตรียมพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาดทุกเวลา" และการลงจากตำแหน่งของเขาจะมีผลกระทบต่อวิธีการสื่อสารด้านนโยบายค่าเงินของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี "ขณะนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะพูดเช่นนั้น จนกว่าเราจะเป็นว่านายมิมูระดำเนินนโยบายอย่างไร แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผมคิดว่าทิศทางด้านนโยบายค่าเงินของญี่ปุ่นจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก"

    #ค่าเงินเยน #เยนญี่ปุ่น #การเงิน #ญี่ปุ่น #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/SbKXgZt4TZi4S1LM/?mibextid=oFDknk
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 28, 2024 โตแผ่ว! แบงก์ชาติยอมรับเศรษฐกิจไทย พ.ค.โตชะลอตัวลง จากเดือนก่อนหน้า ลงทุนเอกชนแผ่ว การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว แต่ระยะข้างหน้ายังมีแรงส่งจากท่องเที่ยว เบิกจ่ายงบฯรัฐบาล

    ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค. พบว่า มีทิศทางขยายตัวชะลอลงบ้าง หลังจากเร่งไปในเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้าลดลง สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี ภาคการบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านการใช้จ่ายภาครัฐกลับมาขยายตัวสูง ทั้งรายจ่ายประจำและลงทุน

    สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไป ยังมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยว และการกลับมาเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ แต่คาดกว่าการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะในบางอุตสาหกรรรมที่ได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ส่งผลให้รายรับธุรกิจและรายได้ครัวเรือนในบางกลุ่มยังเปราะบาง

    ปัจจัยที่ยังต้องติดตามในระยะต่อไป ได้แก่ ผลของการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการภาครัฐ, การฟื้นตัวของการส่งออกและการผลิต และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์

    https://www.facebook.com/share/p/t9iaZHPvHA5wXHLz/?mibextid=oFDknk
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อ้าว ไม่ไว้หน้ากันเลยค่า
    "เฟด" เพิ่งออกผลสอบ stress test มาสดๆ ร้อนๆ ไม่ทันจะข้ามคืน ก็โดนแบงก์ยักษ์ใหญ่อย่าง "เจพีมอร์แกน" ตอกหน้าหงายซะแล้ว!
    (stress test คือจำลองสถานการณ์วิกฤติ แล้วทดสอบดูว่าแบงก์ใหญ่ๆ ในอเมริกาจะล้มไม่ล้ม รอดไม่รอด --- เมื่อก่อนไม่มีขมีขมันทำนักหรอก แต่ครั้นพอเกิดวิกฤติ "เลห์แมน บราเธอร์ส" ปี 2008 เป็น "บทเรียน" แสนแพง แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ต้องระวัง too-big-to-fail ล่ะครับ)
    ผลการสอบงวดนี้ ปรากฏว่า "ผ่าน" หมดเลยล่ะครับ ทั้ง 31 แบงก์ใหญ่
    แล้ว "เจพีมอร์แกน" ที่เป็นแบงก์ใหญ่สุดในอเมริกาก็ต้องเริงร่ายินดีสิ ... เปล่าเลย!
    กลับวิพากษ์วิจารณ์การตรวจข้อสอบของ "เฟด" ว่าประเมินคะแนนสูงเกินไป อ้าว ไหงงั้นล่ะนักเรียน!?
    ประการแรก หมวด "other comprehensive income" ที่หมายถึงรายได้อื่นๆ (รวมถึงค่าใช้จ่ายและการขาดทุนอื่นๆ) นอกเหนือจากที่นำมาคำนวณใน net income นั้นมันใหญ่เกินไป
    ประการถัดมา trading loss ที่ขาดทุนจากการลงทุนในสินทรัพย์ (มิใช่จากผลประกอบการของธุรกิจแบงก์) เมื่อทาง "เจพีมอร์แกน" วิเคราะห์ของตัวเองแล้ว พบว่าผลมันแรงกว่าที่ "เฟด" เฉลย
    แฉทำไม?
    ... แทนที่จะเงียบๆ ไป จะได้ทำให้ "ความเชื่อมั่น" ต่อแบงก์สูงขึ้นดีกว่า (จะได้หุ้นขึ้นด้วย)
    จรรยาบรรณ?
    การเคลื่อนไหวต่างหากครับ! แบงก์กำลังมีแผนจะ "ซื้อหุ้นคืน" (เพื่อกระตุ้นให้หุ้นขึ้น)
    ทีนี้ ถ้าทุกอย่างดูดี ก็แปลว่ารีบทำได้เลย
    แต่ถ้ามันดูไม่ค่อยดี ก็ต้องเป็นห่วงสถานะการเงินก่อน ชะลอแผน อย่าเพิ่งด่วนทำไร
    ... คือมันก็อยู่ที่การวางหมากด้วย (หรือการเมืองภายในด้วย ของบอร์ดฝั่งที่อยากทำกับยังไม่อยากทำ ... เหมือนในหนังเลย)
    "เฟด" บอกผ่านฉลุย ก็เหมือน "ไฟเขียว" ให้แผนเดินหน้า
    ทีนี้ ทางแบงก์ท้วงติงอาจารย์ บอกตรวจข้อสอบผิด มันผ่านแบบมีถลอก ... งี้ก็เลื่อนแผนไปก่อน
    *แต่ถ้ามองตรงไปตรงมา ไม่คิดมาก การกระทำของ "เจพีมอร์แกน" เท่ากับบอกว่า "เฟด" ประเมินไม่ดีพอ ธุรกิจแบงก์ของอเมริกามีความเสี่ยงข้างในมากกว่าที่เห็น มากกว่าที่คิด
    เนอะ?
    https://www.cnbc.com/2024/06/27/jpmorgan-chase-fed-stress-test-results-error.html

    https://www.facebook.com/share/p/BsQxWxdQ6DiXwv7M/?mibextid=oFDknk
     

แชร์หน้านี้

Loading...