ติดตามสถานะการณ์

แรงงานไทยหนี้ท่วม ‘รายได้ไม่พอจ่าย’ ค่าครองชีพสูงกดดัน ‘คุณภาพชีวิต’
.
ม.หอการค้าไทย เผย ปี 67 แรงงานไทย แบกหนี้หลังแอ่น มีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนที่ 344,522.22 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26.4% รายได้ไม่พอรายจ่าย จี้รัฐ ปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ลดค่าครองชีพ
.
สถานการณ์หนี้สินครัวเรือนของแรงงานแย่ลง โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ทำการสำรวจพบมีอัตราการขยายตัวถึง 26.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ซึ่งค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นแรงกดดันที่ทำให้แรงงานต้องการให้มีการปรับค่าจ้างเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบรายได้ไม่พอรายจ่าย
.
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยสำรวจสถานภาพแรงงานไทย ว่า จากผลสำรวจจากผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท จำนวน 1,259 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 19 – 25 เม.ย. 2567 แบ่งเป็นอยู่นอกระบบประกันสังคม 57.4% อยู่ในระบบประกันสังคม 42.6%
.
สำหรับรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของกลุ่มตัวอย่างในปี 2567 พบว่า ส่วนใหญ่ 80.5 % อยู่ที่ 10,001-15,000 บาท รองลงมา 19.4% อยู่ที่ 5,000-10,000 บาท และ 0.1% รายได้ ต่ำกว่า 5,000 บาท
.
และหากดูรายได้ครัวเรือน จะพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ที่ 30,001-60,000 บาทต่อเดือน รองลงมา สูงกว่า 6 หมื่นบาทขึ้นไป และอันดับ 3 อยู่ที่ 15,001-30,000 บาท และแรงงานส่วนใหญ่ยอมรับว่าไม่มีเงินออม มีเพียง 33.8 % ที่มีเงินออม
.
อย่างไรก็ตาม ปี 2567 แรงงานมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนที่ 344,522.22 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26.4% แยกเป็นหนี้สินในระบบ 64.8% และนอกระบบ 35.2% ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต ใช้คืนเงินกู้ ที่อยู่อาศัย เป็นต้น
.
เมื่อถามต่อว่า หนี้ส่วนบุคคลหรือหนี้บัตรเครดิตส่วนใหญ่นำไปใช้จ่ายเรื่องใดมากที่สุด พบว่า นำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค รองลงมาเป็นที่อยู่อาศัย ใช้หนี้เดิม ยานพาหนะโทรศัพท์ หรือแทปเล็ต ค่ารักษาพยาบาลอย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และการหมุนเวียนธุรกิจ เป็นประเภทหนี้ส่วนบุคคล 3 อันดับแรก ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากที่สุดเมื่อเทียบกับปี 2566
.
“เป็นที่น่าสังเกตว่า หนี้นอกระบบของแรงงานมีการปรับตัวลง เนื่องจากรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ แต่แรงงานก็ยังมีความกังวลต่อการเป็นหนี้ในระดับปานกลางถึงเล็กน้อย แม้ว่าแรงงานมีการปรับตัวระมัดระวังการใช้จ่าย แต่ค่าครองชีพสูงจึงต้องการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ” นายธนวรรธน์กล่าว
.
สำหรับในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาแรงงาน 45.7% เคยประสบปัญหาผิดนัดการผ่อนชำระหนี้ และไม่เคย 54.3% สาเหตุเพราะรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย 34.5% คนในครอบครัวตกงาน/เกษียณอายุ 10.5% มีเหตุฉุกเฉินทำให้เงินขาดมือ 0.7% เมื่อเทียบระหว่างรายได้ต่อหัวกับการผ่อนชำระต่อเดือน จะพบกลุ่มที่น่าห่วง คือมีหนี้สินสูงกว่ารายได้
.
แบ่งเป็นในกลุ่มที่รายได้ต่ำกว่า 5,000 บาท มีถึง 9.8% กลุ่มรายได้ 5,001-10,000 บาท 3.4 % และกลุ่มรายได้ 10,001-15,000 บาท 5%โดยรูปแบบของการใช้หนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 60.3% เลือกแบ่งชำระบางส่วน รองลงมา 36.2 % ชำระเต็มจำนวน มีเพียง 3.5 % ที่ขาดหรือผ่อนผันการชำระ
.
ส่วนภาระหนี้ในปัจจุบันส่งผลต่อการใช้จ่ายในภาพรวมของแรงงงานหรือไม่ ส่วนใหญ่บอกว่ามีผลทำให้มีการใช้จ่ายลดลงประมาณ 48% แล้ว 3 เดือนข้างหน้าก็ยังมีผลอยู่ประมาณ 41.6% ทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย เนื่องจากราคาสินค้าแพงขึ้น ภาระหนี้มากขึ้น รายได้ไม่เพิ่มแต่ราคาสินค้าเพิ่ม ดอกเบี้ยสูงขึ้น โดยการแก้ปัญหารายได้ไม่พอจ่าย จะเลือกกู้ยืมเงินในระบบ 30.9% หาอาชีพเสริม 17% ขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้อง 16.6% กู้ยืมเงินนอกระบบ 15.7% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงขึ้นกว่าปี 2566 ที่อยู่ประมาณ 9.7% ด้วย
.
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แรงงานต้องทำเพื่อประคองหนี้และประหยัดในสิ่งที่จำเป็น ทั้งนี้ แรงงานต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแล ในเรื่องของการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและค่าครองชีพ การเงินช่วยเหลือในกรณีที่ตกงาน และหนี้ของแรงงานตามลำดับ
.
.
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1124715?anm=
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
ttps://www.facebook.com/photo/?fbid=839282914903963&set=a.605386548293602

 

แอสตราเซนเนก้ารับแล้ว! วัคซีนโควิด-19 ส่งผลข้างเคียงทำลิ่มเลือด-เกล็ดเลือดต่ำ

แอสตร้าเซนเนก้า ยอมรับครั้งแรก วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท มีผลข้างเคียง ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และ เกล็ดเลือดต่ำ

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. สำนักข่าวดิ อินดิเพนเดนท์ ของอังกฤษ รายงานว่า บริษัทยายักษ์ใหญ่ แอสตร้าเซนเนก้า ออกมายอมรับแล้วว่าวัคซีนป้องกันโควิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชื่อ โควิชิลด์ (Covishield) สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ยาก รวมถึงลิ่มเลือด และจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ

ทั้งนี้วัคซีนโควิดดังกล่าว ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทอังกฤษ และสวีเดนโดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย และถูกใช้ฉีดไปในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสหราชอาณาจักร อินเดีย และประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม การวิจัยพบว่าวัคซีนดังกล่าวของแอสตร้าเซนเนก้า อาจทำให้บางคนเกิดลิ่มเลือด ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้ โดย คดีฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักรอ้างว่าวัคซีนดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส และเรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,600 ล้านบาท) แก่เหยื่อประมาณ 50 ราย

แม้บริษัทแอสตร้าฯ จะพยายามโต้แย้งข้อกล่าวอ้างดังกล่าว แต่ก็ยอมรับเป็นครั้งแรกในเอกสารของศาลฉบับหนึ่งว่า วัคซีน สามารถทำให้เกิด thrombocytopenia syndrome (TTS) หรือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน-ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ได้ในบางกรณี หรือก็คือ ภาวะที่มีลิ่มเลือดอุดตันและมีเกล็ดเลือดต่ำภายหลังการได้รับวัคซีน
ttps://www.facebook.com/photo?fbid=985351233593314&set=a.520190890109353

 

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ทิศทางการเคลื่อนไหวของสกุลเงินต่างๆ ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ราว 4.4% ขณะที่ค่าเงินบาทนั้น นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (Year to Date) อ่อนค่าไป 7.8% เป็นรองก็เพียงเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนค่าไปแล้วถึง 9.6%
.
อย่างไรก็ดีพบว่าในช่วงไตรมาสแรก เงินบาทอ่อนค่านำสกุลเงินอื่น ซึ่งนอกจากจะได้รับผลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ยังมีผลมาจากปัจจัยในประเทศเอง ที่ตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดไว้ จึงเป็นผลให้เงินบาทอ่อนค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาค
.
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่เข้าสู่ไตรมาส 2 ในเดือนเม.ย.เงินบาทเริ่มอ่อนค่าตามปัจจัยภายนอก และอ่อนค่าน้อยกว่าสกุลเงินในภูมิภาค โดยอ่อนค่าเพียง 1.7% ขณะที่สกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคยังอ่อนค่ามากกว่า 2% โดยตั้งแต่เม.ย.เงินบาทเกาะกลุ่มเคลื่อนไหวในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับภูมิภาค เชื่อว่าปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าจะค่อยๆลดลงไปในช่วงครึ่งปีหลัง
.
https://www.salika.co/2024/04/30/salika-news-vol-121-4/
.
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
tps://www.facebook.com/photo/?fbid=966415728821948&set=a.542806074516251

 

ไทยเจอจุดความร้อน 2,367 จุด ลาวพุ่งทะลุ 4,770 จุด

(อ่านข่าวเพิ่มเติมในคอมเมนต์)

#จุดความร้อน #GISTDA #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

https://mono29.com/news/481886.html

https://www.facebook.com/share/p/1humbPzMH2zJLPf7/?mibextid=oFDknk

 

May 1, 2024 กระแทกทอง! ถล่มทุบตลาดทองคำโลกทรุดหนักปิดต่ำสุดใน 1 สัปดาห์ กระแทกราคาดิ่งเหวกว่า 60 ดอลลาร์ ปิดเหลือ 2,285 ดอลลาร์ หยุดราคาปิดขึ้น 3 วันรวมเกือบ 24 ดอลลาร์ ผลพวงดอลลาร์สหรัฐสุดแข็ง บอนด์ยีลด์พุ่ง รอผลแถลงประชุมดอกเบี้ยสหรัฐคืนนี้ ปิดเมษายนทองคำโลกยังเพิ่ม 3.3%

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,285.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -56.42 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.1% ส่งผลหยุดราคาทองคำปิดขึ้น 3 วันรวมกัน +23.96 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.8% ทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่ราคาส่งมอบทันทีปิดสูงสุดในวันศุกร์ที่ 12 เมษายนผ่านมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,431.29 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,297.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -60.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.6% ส่งผลหยุดราคาทองคำปิดขึ้น 3 วันรวมกัน +20.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.0% สำหรับทองคำล่วงหน้าเมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2024 มีสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,413.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ในเดือนเมษายนผ่านไป ทองคำปิดเพิ่มของ้น +3.3% นับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น ขณะที่ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกปิดลดลง -2.2% ส่งผลเป็นราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่เดือนธันวาคมผ่านมา และหยุดราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้นยาวนานที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งสูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าอย่างมาก 0.3% นักลงทุนขายทำกำไรอย่างรุนแรงเพื่อรอผลการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ที่จะมีขึ้น 2 วันติดกันในวันที่ 30 เมษายนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม และรอประกาศตัวเลขการจ้างงานชายอเมริกันนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้ เพื่อตัดสินใจต่อการลงทุนทองคำต่อไปหรือไม่

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในช่วง 2 การประชุมติดต่อกันของเฟดนั้น พบว่ามีโอกาสลดต่ำลงในทุกรอบการประชุม เริ่มจากการประชุมในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ น้อยกว่า10% เดือนกันยายนอยู่ที่น้อยกว่า 58% และโอกาสลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ก็ลดต่ำลงเช่นกัน

ทั้งนี้ เดือนเมษายนผ่านไปนั้น ทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้น 3.3% เดือนมีนาคมผ่านไป ทองคำตลาดโลกพุ่งทะยาน 9% ทำสถิติทองคำรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2020 นอกจากนี้ ราคาทองคำปิดขึ้น +8% ในไตรมาสที่ 1 ส่งผลเป็นราคาทองคำที่ปิดบวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 อีกด้วย

#ทองคำ #ทองรูปพรรณ #ทองแท่ง #ดอกเบี้ย #ดอลลาร์สหรัฐ #การลงทุน #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/MEtcTsj59FcJJ3i7/?mibextid=oFDknk

 

คลื่นความร้อนถาโถมเวียดนาม ทำปลาลอยตายเต็มอ่างเก็บน้ำนับแสนตัว
.
.
เอเอฟพี - ปลาหลายแสนตัวลอยตายเป็นแพเต็มอ่างเก็บน้ำในจ.ด่งนาย ทางตอนใต้ของเวียดนาม ตามการรายงานของสื่อและคนท้องถิ่นที่ระบุว่ามีสาเหตุจากคลื่นความร้อนรุนแรงและการบริหารจัดการ
.
เช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่โรงเรียนต้องปิดเร็วขึ้น และการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูง พื้นที่ภาคใต้และภาคกลางของเวียดนามกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด
.
“ปลาทั้งหมดในอ่างเก็บน้ำซองเมตายเพราะขาดน้ำ” ชาวบ้านในอ.จ๋างบอม กล่าวกับเอเอฟพี
.
จากภาพถ่ายเผยให้เห็นชาวบ้านกำลังเดินลุยน้ำและพายเรืออยู่ในอ่างเก็บน้ำขนาด 300 เฮกตาร์ ท่ามกลางปลาตายจำนวนมากที่ลอยอืดเป็นแพจนมองไม่เห็นผืนน้ำ
.
รายงานของสื่อระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่มีฝนตกมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว และน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ในระดับต่ำเกินไปสำหรับสิ่งมีชีวิตที่จะอยู่รอดได้
.
ฝ่ายบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำได้ปล่อยน้ำออกมาเพื่อพยายามรักษาพืชผลที่อยู่ท้ายน้ำ ชาวบ้านกล่าว
.
“จากนั้นพวกเขาพยายามปรับปรุงอ่างเก็บน้ำ เอาปั๊มมาดูดโคลนออกเพื่อให้ปลามีพื้นที่และน้ำมากขึ้น” ชาวบ้านระบุ
.
อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวไม่ได้ผล และจากนั้นไม่นานปลาจำนวนมากก็ตายลง โดยรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่าอาจมีปลาตายมากถึง 200 ตัน
.
หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานว่าบริษัทที่รับผิดชอบการจัดการอ่างเก็บน้ำได้เริ่มขุดลอกเมื่อต้นปี 2567 โดยเริ่มแรกนั้นได้วางแผนที่จะเติมน้ำลงในอ่างให้กับปลา
.
“แต่เนื่องจากคลื่นความร้อนที่ไม่บรรเทาเบาบางลง นักลงทุนได้ปล่อยน้ำออกสู่พื้นที่ท้ายน้ำ ส่งผลให้ระดับน้ำลดลงจนทำให้ปลาทั้งหมดตาย” รายงานระบุ
.
อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำสำหรับการเพาะปลูกในอ.จ๋างบอม และอ.วีงกือ ของจ.ด่งนาย
.
เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ทำงานเพื่อนำปลาที่ตายแล้วออกจากพื้นที่โดยเร็ว
.
“เราหวังว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้” ชาวบ้านระบุ.

https://www.facebook.com/share/iJ4Rmi1joCrNccy6/?mibextid=oFDknk

 

[BREAKING]
FED ประกาศคงดอกเบี้ยตามคาด
ที่ 5.25% - 5.50%
แต่ย้ำว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังไม่ลดดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่า "เงินเฟ้อ" นั้นควบคุมได้ (Powell ขึ้นเวทีอีกครึ่งชั่วโมง)

https://www.facebook.com/share/p/2WHiKf5QsiYKvbDb/?mibextid=oFDknk

 

May 3, 2024 ด่วน!! เงินเฟ้อไทยเดือนเมษายน 67 พลิกกลับมาบวก 0.19% เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนเทียบต่างประเทศ ลดลง 0.47% ยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศเงินเฟ้อต่ำ โดยเฉพาะในอาเซียน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยเดือนเมษายน 2567 เท่ากับ 107.96 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 0.19% กลับมาบวกครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

อย่างไรก็ตามหากดูจากอัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศในเดือนมีนาคม 2567 พบว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยลดลง 0.47% และยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ที่ระดับต่ำอันดับ 5 จาก 136 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และอยู่ในระดับต่ำอันดับ 2 ในอาเซียน จาก 8 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (สปป.ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน)

#เงินเฟ้อ #พาณิชย์ #สนค #ราคาสินค้า #เศรษฐกิจ #ดอกเบี้ย #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/m3d5XqZbrhw5XWy9/?mibextid=oFDknk

 

May 6, 2024 ไม่ธรรมดา! คนไทยคงลืมโควิด-19 หมอธีระเตือนโควิด-19 รอบนี้ไม่ธรรมดา ปอดอักเสบพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง เสียชีวิตพุ่งกว่า 33% สูงสุดใน 10 เดือน ฟันธงคนไทยติดโควิด-19 จริง ถึงวันละกว่า 17,000 คน

นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 มีดังนี้

วิเคราะห์การระบาดของไทย…” ความว่า บันทึกไว้ว่าจำนวนปอดอักเสบในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทำลายสถิติสูงสุดในรอบ 16 เดือน ครั้งสุดท้ายที่ปอดอักเสบเกิน 500 คนนั้นคือวันที่ 7 มกราคม 2023 มี 529 คน

สัปดาห์ล่าสุด 28 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2024 จำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,792 ราย เสียชีวิต 12 ราย ปอดอักเสบ 501 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 187 ราย ผู้ป่วยนอนรักษาตัวในรพ.มากกว่าสัปดาห์ก่อน 7.2% และขึ้นต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ติดต่อกัน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 33.3% จำนวนปอดอักเสบ เพิ่มขึ้น 26.4% และใส่ท่อช่วยหายใจก็เพิ่มขึ้น 28.5% คาดประมาณจำนวนคนติดเชื้อใหม่ต่อวันอย่างน้อย 12,800-17,778 ราย อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าจำนวนติดเชื้อจริงจะมากกว่านี้ จำนวนป่วยนอนรพ. สูงสุดในรอบ 11 เดือน

จำนวนปอดอักเสบ สูงสุดในรอบ 16 เดือน จำนวนใส่ท่อช่วยหายใจ สูงสุดในรอบ 11 เดือน จำนวนเสียชีวิต สูงสุดในรอบเกือบ 10 เดือน

ลักษณะข้างต้น เป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วง และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โควิด-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา ไม่กระจอก ไม่ได้เป็นไปตามฤดูกาล แต่แปรผันกับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องเทศกาล กิจกรรม รวมถึงพฤติกรรมป้องกันตัวของประชาชน ติดแต่ละครั้ง นอกจากเสี่ยงป่วย ป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิตแล้ว ยังเสี่ยงต่อ Long COVID ที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตระยะยาว ช่วยกันป้องกันตัวนะครับ เพื่อให้ตัวเรา และคนที่เรารักปลอดภัย

อย่าปล่อยแบบ let it rip เพราะสุดท้ายแล้วผลลัพธ์สุขภาพที่เกิดขึ้น ไม่มีใครแบกรับ นอกจากตัวเราและครอบครัว ใส่หน้ากากป้องกันตัว ระวังที่แออัด เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้านโดยไม่ได้ป้องกันตัว ไม่แชร์ของกินของใช้กับผู้อื่น และที่สำคัญคือ คอยสังเกตและรักษาระยะห่างจากคนที่มีอาการป่วย

#โควิด #โควิด19 #ไทย #ปอดอักเสบ #เสียชีวิต #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/SemfPLg9v8ZQqvpK/?mibextid=oFDknk

 

May 6, 2024 ยกทัพค้าน! หอการค้าไทยชวน 30 สมาคมการค้าตั้งโต๊ะพรุ่งนี้ (7) แถลงค้านขึ้นค่าแรงวันละ 400 ทุกจังหวัดทั่วไทย กฎหมายให้ขึ้นค่าแรงปีละ 1 ครั้ง แต่ปีนี้ขึ้นแล้ว 2 ครั้ง

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) หอการค้าทั่วประเทศและสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น ซึ่งล่าสุดแจ้งเข้าร่วมแล้วกว่า 30 สมาคม ครอบคลุมทุกอุตสาหรกรม เช่น กลุ่มก่อสร้าง โรงแรม ค้าปลีกค้าส่ง โลจิสกติกส์ ยางพารา เป็นต้น จะร่วมแถลงการณ์คัดค้านการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ

สาเหตุจากส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ที่น่าห่วง คือ ภาคการเกษตรในไทย วันนี้ไม่มีใครพูดถึง กลุ่มนี้มีการจ้างงานแบบเข้ม ขัน เช่น ชาวไร่-ชาวนา ชาวสวนผลไม้ ที่เห็นชัดคือ สวนผลไม้ในภาคตะวันออก ที่ต้องจ้างงานต่างด้าวเข้ามาเก็บผลผลิต ซึ่งในวันพรุ่งนี้ 7 พฤษภาคม ทางหอการค้าไทยและสมาคมการค้า จะเสนอแนวทางการปรับ ขึ้นค่าแรงต่อภาครัฐ ซึ่งในหลักการไม่ได้ค้านการปรับให้แรงานมีรายได้ดีขึ้น แต่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ และขอให้ยึดตามกรอบกฎหมาย ที่ให้ขึ้นค่าแรงปีละ 1 ครั้ง เท่ากับตามหลักกฎหมายต้องขึ้นต้นปีหน้า แต่ปีนี้ขึ้นไป 2 ครั้งแล้ว

หอการค้าไทยและสมาคมการค้า เตรียมทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และจะนำไปยื่นในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ ซึ่งในวันดังกล่าวปลัดกระทรวงแรงงาน ได้เชิญสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการรวมกว่า 40 คน เข้าไปหารือ ที่กระทรวงแรงงาน เพื่อสอบถามความเห็นของผู้ประกอบการต่อการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งเป็นการหารือก่อนการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง หรือ บอร์ดค่าจ้างในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้มีข้อมูลประกอบการหารือกันในไตรภาคี โดยทางหอการค้าไทยพร้อมทส่งตัวแทนเข้าร่วม

#ค่าจ้างขั้นต่ำ #ค่าแรง400 #เอกชน #แรงงาน #เศรษฐกิจ #หอการค้าไทย #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/55cbyNMzhw8d68WU/?mibextid=oFDknk

 

May 6, 2024 สัญญาณแย่! กรมโรงงานเปิดยอดโรงงานไตรมาส 1 ปีนี้เลิกกิจการกว่า 360 แห่งพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่า ตกงานรวมเกิน 10,000 คน พุ่งกว่า 170%

กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยสถิติการเลิกกิจการโรงงาน ไตรมาส 1/2567 ว่า จำนวนกิจการเลิก/ยุติ มี 367 โรง คิดเป็นเงินลงทุน 9,417.27 ล้านบาท มีการเลิกจ้างพนักงานรวมทั้งสิ้น 10,066 คน ประกอบด้วยโรงงานประเภท 2 มีเครื่องจักรไม่เกิน 75 แรงม้า จำนวน 19 โรง คิดเป็นเงินลงทุน 195.38 ล้านบาท โรงงานประเภท 3 มีเครื่องจักรเกิน 75 แรงม้า จำนวน 348 โรง คิดเป็นเงินลงทุน 9,221.79 ล้านบาท สำหนับพื้นที่ที่มีการยุติ/เลิกโรงงานสูงสุด คือ จังหวัดชลบุรี กรุงเทพฯ และพระนครศรีอยุธยา

ประเภทโรงงานที่เลิกกิจการ อันดับ 1 การขุดลอกกรวดทรายหรือดิน อันดับ 2 การทำพลาสติกเป็นเม็ดแท่งท่อหลอดแผ่นชิ้นผง หรือรูปทรงต่าง ๆ อันดับ 3 การทำภาชนะบรรจุเครื่องมือหรือเครื่องใช้จากไม้ และรวมถึงชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว อันดับ 4 การกลึงเจาะขวานกัดใสเจียนหรือเชื่อมโลหะทั่วไป อันดับ 5 โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการคัดแยก หรือฝังกลบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว

ขณะที่ในไตรมาส 1 ในปี 2566 พบว่ามีการเลิกกิจการ 169 โรง คิดเป็นเงินลงทุน 2,432.72 ล้านบาท มีการเลิกจ้าง 3,745 คน พื้นที่ที่มีการยุติ/เลิก สูงสุด คือ สมุทรปราการ กรุงเทพฯ และชลบุรี ประเภทโรงงานที่เลิกกิจการ อันดับ 1 การขุดลอก กรวด ทราย หรือดิน อันดับ 2 การทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมผลิตภัณฑ์ยิปซัม อันดับ 3 การดูดทราย อันดับ 4 การทำเครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องเรือนพลาสติก และอันดับ 5 การต้มนึ่งหรืออบพืชหรือเมล็ดพืช, การเป่าหัวพืชหรือทำหัวพืชให้เป็นเส้นแว่นหรือแท่ง, การทำวงกบขอบประตูหน้าต่าง บานหน้าต่าง, การทำภาชนะบรรจุหรือถุงหรือกระสอบ, การทำพลาสติก และการซ่อมแซมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์

#กรมโรงงาน #ปิดโรงงาน #เลิกกิจการ #ปลดพนักงาน #ตกงาน #เศรษฐกิจ #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/7EzUrj1XzkvfkRaS/?mibextid=oFDknk

 

May 6, 2024 น้ำหมดเกาะ! ธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะจ่อเลิกกิจการชั่วคราว นักท่องเที่ยวแห่เลิกจองเที่ยวเกาะพีพี ภัยแล้งลามหนัก ฝนไม่ตกพ่วงร้อนจัด ขาดน้ำประปาใช้ทั้งเกาะ

นายสรรเพ็ชญ์ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็ก รวมถึงบ้านที่อยู่อาศัยของประชาชนบนเกาะพีพี ซึ่งไม่มีบ่อน้ำบาดาลเป็นของตัวเองนั้น เผชิญกับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากขาดแคลนน้ำประปาไว้ใช้อุปโภคบริโภค เป็นผลจากเอกชนผู้ผลิตน้ำประปาหยุดจ่ายน้ำประปาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ปัญหาดังกล่าวเกิดจากแหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาขนาดกว่า 5 ไร่ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาบนเกาะพีพีแห้งหมด

ผลกระทบได้ลุกลามมาถึงธุรกิจท้องเที่ยวของผู้ประกอบการบนเกาะพีพีแล้ว นักท่องเที่ยวจำนวนมากยกเลิกการจองที่พักโรงแรม รวมถึงยกเลิกโปรมแกรมการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนี้ได้อยู่ระหว่างการดำเนินการของจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีแนวทางแก้ไข 2 แนวทาง คือขอรับการสนับสนุนเรือจากกองทัพเรือภาค 3 บรรทุกน้ำครั้งละ 1 แสนลิตรจากจังหวัดภูเก็ตมาส่งที่เกาะพีพี หรือว่าจ้างเรือเอกชนขนน้ำประปาครั้งละ 2 แสนลิตร ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการแล้ว

ผู้ประกอบการหลายรายที่ต้องช่วยตนเองด้วยการซื้อน้ำประปาจากบนฝั่งแผ่นดินใหญ่ หลังจากนี้ หากยังไม่มีการแก้ไขปัญหา หรือฝนไม่ตก และไม่มีน้ำใช้ ต่อเนื่องอีก คงต้องปิดกิจการชั่วคราวไปก่อน

#เกาะพีพี #ภูเก็ต #ภาคใต้ #ท่องเที่ยว #ภัยแล้ง #น้ำประปา #เศรษฐกิจ #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/g6tUjQJ6dV5uoKqT/?mibextid=oFDknk

 

May 5, 2024 แข่งยากแน่! 2 เดือนแรกปี 67 นี้ ยอดส่งออกน้ำปลาไทยร่วง 30% เมื่อคนเวียดนามย้ายมาอยู่นอร์เวย์ ตั้งใจคิดค้นพัฒนาตั้งโรงงานผลิตน้ำปลาแซลมอน ชี้สะเทือนน้ำปลาไทยในอนาคต
.
แทบไม่มีใครรู้ ถ้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ สคต. ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ไม่ได้เปิดเผย ยอดนำเข้าน้ำปลาผลิตจากไทยไปประเทศนอร์เวย์ พบว่า ในมกราคม-กุมภาพันธ์ผ่านมา มียอดมูลค่าตกต่ำถึง -30% เหลือแค่ 1.11 ล้านบาท !!! ที่น่าห่วงอีก คือ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศถึงกับยอมรับชัดเจนว่า สินค้าน้ำปลาไทยมีเซแน่ในอนาคต เพราะนูมามิ
.
นาทีนี้ ต้องรู้จัก นูมามิ เป็นบริษัทที่ก่อตั้งเมื่อปี 2017 หรือ 7 ปีผ่านมา โดยนายจง เหงียน เป็นชาวเวียดนามที่อพยพย้ายไปอยู่อาศัยในประเทศนอร์เวย์ ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ บริษัทอูมานิ (Oumami) ที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสินค้าน้ำปลาแซลมอนมีชื่อแบรนด์ว่า นูมามิ โรงงานตั้งที่เมืองสกาสเวเกน (Skasvegen) เมืองชายฝั่งทางตอนใต้ของนอร์เวย์ ระยะห่างจากกรุงออสโลประมาณ 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 7 ชั่วโมง
.
ปี 2018 บริษัทฯ ดังกล่าวเริ่มการผลิตน้ำปลาเป็นครั้งแรกหลังจากค้นคว้าและวิจัยมาเป็นเวลา 5 ปี การพัฒนาและวิจัยร่วมกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ สถาบันอาหารนอร์เวย์ (Norwegian Institute of Food) สถาบันวิจัยด้านการประมงและการเพราะเลี้ยงพืชและสัตว์น้ำ โนฟิมา (Nofima) บริษัท เพลาเจีย (Pelagia AS) และกองทุนวิจัยอาหารทะเลนอร์เวย์ (Norwegian Seafood Research Fund) จุดแข็งแกร่ง คือ น้ำปลาของนูมามิเกิดขึ้นจากประเทศนอร์เวย์เป็นชาติที่มีทรัพยากรปลาทะเลอันดับที่ 1 ของโลก โดยเฉพาะตอนเหนือสุดของมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างฟยอร์ดตามแนวชายฝั่งยาวของนอร์เวย์ ที่นี่เต็มไปด้วยแซลมอนและปลาที่มีคุณภาพอย่างไม่มีใครเทียบได้ มีเพียงไม่กี่คนในโลกเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรนี้ได้
.
แบรนด์ นูมามิ ก็มีความหมายซึ่งเกิดจากการผสมตัวอักษรเข้าไป เริ่มมาจากคำว่า “อูมามิ” (oumami) แปลว่า เป็นรสชาติที่ 5 หรือรสกลมกล่อม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ปลา เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม ส่วนตัวอักษร N มาจากตัวแรกของชื่อประเทศ Norway เมื่อเอามารวมกันเป็น Noumami ซึ่งสื่อถึงความอูมามิในแบบประเทศนอร์เวย์
.
นูมามิดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำปลาเพียงอย่างเดียว ทุกวันนี้ น้ำปลาของนูมามิมี 3 ประเภท คือ น้ำปลาจากปลาคอด น้ำปลาจากแซลมอน และน้ำปลาจากปลาผิวน้ำทะเล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการผสมระหว่างปลาแฮร์ริ่งและปลาคาเปลิน ความพิเศษของกระบวนการผลิต คือ น้ำปลาของนูมามิหมักด้วยเกลือ Eurosalt Aquamarine โดยหมักเป็นเวลา 8-14 เดือน เพื่อให้ได้ผลผลิตน้ำปลาออกมาโดยไม่ใส่สารปรุง
.
ปัจจุบันน้ำปลาของนูมามิมีจำหน่ายทั้งในประเทศนอร์เวย์และส่งออกไปต่างประเทศ สำหรับตลาดส่งออกมีการส่งไปยังหลายประเทศในทวีปยุโรป ทั้งเดนมาร์ก เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ฮังการี เช็ก สโลวาเกีย และส่งไปไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกา
.
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก มองว่า แบรนด์น้ำปลาจานูมามิอาจทำให้การแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์น้ำปลาคุณภาพสูงในนอร์เวย์และกลุ่มประเทศนอร์ดิก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มนี้มากนัก แต่ในอนาคตอาจกระทบต่อธุรกิจน้ำปลาจากประเทศไทย
.
การใช้จุดแข็งของอุตสาหกรรมประมงนอร์เวย์ โดยเฉพาะปลาแซลมอนนอร์เวย์มาเป็นจุดขาย มาดัดแปลง และพัฒนาจนมาเป็นน้ำปลาจากปลาแซลมอน รวมถึงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่อาหารเอเชียในนอร์เวย์ กลุ่มประเทศนอร์ดิก และทั่วโลกมีความนิยมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มการบริโภคอาหารที่ผู้บริโภคใส่ใจด้านการรักษาสุขภาพ โดยบริษัทเลือกที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใส่สารปรุงแต่งใดๆ ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจน้ำปลาจากประเทศไทยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำปลาที่มาจากธรรมชาติ ปลอดสารปรุงแต่ง หรือผงชูรส เพื่อตอบสนองสู่แนวโน้มความต้องการตลาดนี้ได้
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3JPJyP6
.
Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
YouTube: https://www.youtube.com/c/MisterBan
X: https://twitter.com/BTimes_ch3
Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
Website: https://btimes.biz
Podcast : https://btimes.podbean.com/
TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
.
#น้ำปลา #น้ำปลาไทย #น้ำปลาแซลมอน #ส่งออก #นอร์เวย์ #เศรษฐกิจ #เวียดนาม #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/qTkNpdBBsBVShP9Q/?mibextid=oFDknk

 

May 7, 2024 พึ่งมาฮึ่ม! รัฐมนตรีพลังงานวีนใส่ปั้มน้ำมัน ผู้ค้าคิดจะขึ้นราคาก็ขึ้น คิดจะลงราคาก็ลง ทุกวันนี้ไม่มีใครคุมได้ เร่งคลอดกฎหมายควบคุมราคาน้ำมัน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงสายวันนี้ ว่า “ต้องยอมรับว่าราคาน้ำมันขึ้นลงตามอำเภอใจ ทุกวันนี้ไม่มีใครคุมได้ ผู้ค้าคิดจะขึ้นก็ขึ้น คิดจะลงก็ลง ซึ่งวิธีการแก้ปัญหานี้คือการแก้กฎหมาย เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐไม่มีอำนาจ ได้แต่ขอความร่วมมือ คิดดูว่าบ้านเมืองเราตลกหรือไม่ ที่อยู่กันมาแบบนี้”

นายพีระพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ตนกำลังร่างกฎหมายซึ่งใกล้เสร็จแล้ว การผลิตไฟฟ้าต้องใช้แก๊สเป็นวัตถุดิบ แต่ราคาก็มีความผันผวน เราไม่ได้ปรับราคาขึ้น ลงทุกวัน เพราะไฟฟ้ามีกฎหมายกำกับอยู่แต่ราคาน้ำมันปรับขึ้นลงทุกวัน ตอนนี้ทำได้แค่เพียงการประกาศให้มีการแจ้งต้นทุนซึ่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะที่ผ่านมาสังคมไม่รู้เลยต้นทุนเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปขายปลีกในไทยถูกปรับราคาลดลงมีผลในวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 โดยเฉพาะเบนซินและกลุ่มแก๊สโซฮอล์ ลดลง 0.50 บาทต่อลิตร ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ 91 ทึ่คงตัว ส่งผลให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาขายลิตรละ 39.85 บาท นับเป็นราคาน้ำมันต่ำสุดในรอบ 8 วัน หรือนับตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2567 เป็นต้นมา นอกจากนี้ นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 มีการการปรับราคาน้ำมันรวม 23 ครั้ง (ไม่รวมการปรับราคาดีเซล) โดยเฉพาะในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ประกอบด้วยปรับขึ้นราคา 17 ครั้ง รวม +6.90 บาท/ลิตร และปรับราคาลง 6 ครั้ง รวม +2.30 บาท/ลิตร ส่งผลสุทธิราคาเพิ่มขึ้น +4.60 บาท/ลิตร หรือเพิ่มขึ้นสุทธิ +13.04%

#น้ำมันดิบ #ราคาน้ำมันดิบ #ราคาน้ำมัน #ราคาน้ำมันวันนี้ #เศรษฐกิจ #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/2EbnBtZraopW1dxU/?mibextid=oFDknk

 

May 7, 2024 ค้านชนฝา! หอการค้าไทยผนึกสมาคมการค้าใช้แรงงานเข้มข้น ค้านขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ เอกชนไม่ใช่ทุกรายที่พร้อมรับได้
.
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 ซึ่งตรงกับวันแรงงานที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศขึ้นค่าแรง 400 บาทแบบถ้วนหน้าทั่วประเทศทุกอาชีพ ภายในวันที่ 1 ต.ค. 2567 นั้น
.
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ได้แถลงข่าวคัดค้านนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ
.
นายพจน์ ได้อ่านแถลงการณ์คัดค้าน พร้อมกล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ 54 สมาคมการค้า ได้ส่งรายชื่อไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงดังกล่าวเพราะเป็นการเพิ่มภาระต้นทุนจนไม่เหลือผลกำไร และทางหอการค้าไทย จะนำรายชื่อสมาคมที่คัดค้านไปยื่นให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในวันที่ 13 พ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีร่วม 100 สมาคมการค้าที่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง
.
ทั้งนี้ หอการค้าทั่วประเทศและสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น เห็นด้วยกับการยกระดับรายได้ให้แรงงานแต่การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประจำปีควรปรับตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 87 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 การขึ้นค่าแรงควรคำนึงถึงผลการศึกษาและการรับฟังความคิดเห็นจากคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและกรรมการค่าจ้าง(ไตรภาคี)อีกครั้ง การปรับอัตราค่าจ้างควรพิจารณาจากทักษะฝีมือแรงงาน และการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเฉพาะพื้นที่จังหวัดและประเภทธุรกิจ ควรมีการรับฟังความคิดเห็นและศึกษาความพร้อมของแต่ละจังหวัด

การปรับค่าแรงจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเพราะบางจังหวัดจะขึ้นไปถึง 21% ดังนั้นการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำโดยไม่คำนึงถึงตามที่กฎหมายกำหนดจะทำให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ หยุดกิจการ ลดขนาดกิจการหรือปรับธุรกิจออกนอกระบบภาษี จนนำไปสู่การปลดลูกจ้างและเลิกจ้างพนักงานในที่สุด
.
นายธนวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับค่าจ้างครั้งนี้ คือ การกระชากด้วยนโยบายจากการหาเสียงไม่ได้ปรับขึ้นตามความจำเป็น โดยปีที่แล้วเศรษฐกิจไทยเติบโตเพียงแค่ 1.9% และเมื่อมองย้อนหลังไป 3 ปี เศรษฐกิจไทยเติบโตแต่ 6% ซึ่งจากผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า การปรับค่าจ้างแรงงาน ควรปรับตามกลไกลและตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น การปรับครั้งนี้จะทำให้การจ้างงานไม่สดใส ผู้ประกอบการจะหันไปใช้เครื่องจักรมากขึ้นในอนาคต
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3y5DY8F
.
Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
YouTube: https://www.youtube.com/c/MisterBan
X: https://twitter.com/BTimes_ch3
Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
Website: https://btimes.biz
Podcast : https://btimes.podbean.com/
TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
.
#ขึ้นค่าแรง #หอการค้าไทย #ค่าแรงขั้นต่ำ #เอกชน #แรงงาน #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/ftr4a5oXDNYZQAch/?mibextid=oFDknk

 

May 7, 2024 ด่วน!! ครม.ไฟเขียว ใช้เงินกองทุนน้ำมันอุ้มราคาพลังงาน ตรึงดีเซล แอลพีจี ลดค่าไฟช่วยกลุ่มเปราะบาง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานตามที่กระทรวงพลังงาน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน โดยมี 3 มาตรการหลัก คือ
- ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกินราคา 33 บาท/ลิตร
- ราคาปลีกของก๊าซ LPG ต้องอยู่ในระดับ 423 บาท/ถัง 15 กก.
- ส่วนลดค่าไฟ 19.05 สตางค์/หน่วย สำหรับกลุ่มเปราะบางใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน

ส่วนการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ขอให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปก่อน หากไม่พอจึงค่อยมาดูงบกลาง ซึ่งได้ขอให้กระทรวงพลังงานได้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป

#ครม #พลังงาน #ค่าไฟฟ้า #น้ำมันดีเซล #แอลพีจี #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/m36bzwfFzr5aGT37/?mibextid=oFDknk

 

May 7, 2024 ยังดูก่อน! สภาผู้ส่งออกคงเป้าส่งออกทั้งปีโต 1-2% แม้ มี.ค.ทรุดลงแรง ขอรัฐทบทวนขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาททั่วประเทศ
.
สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก มั่นใจภาวะการส่งออกของไทยในปีนี้ยังสามารถขยายตัวได้ในระดับ 1-2% ถึงแม้สถานการณ์ส่งออกในเดือน มี.ค. 67 จะหดตัวลดลงกว่า 10% ก็ตาม โดยเสนอให้มีทบทวนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาททั่วประเทศ เนื่องจากสร้างภาระให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนเพิ่มขึ้น และสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งประเมินสถานการณ์ในไตรมาสแรกแล้ว ยังมั่นใจว่าจะผลักดันให้การส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ 1-2% แต่ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่าสร้างแรงกดดันเพิ่ม
.
การส่งออกในเดือน มี.ค. 67 ที่มีมูลค่า 24,960.6 ล้านดอลลาร์ ถือว่าไม่น้อย แต่หดตัว 10.9% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนที่สูงกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์ โดยช่วงไตรมาสแรกเมื่อหักสินค้าทองคำและอาวุธออกแล้วยังขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่ภาวะการส่งออกของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซียหดตัว -5% หรืออินโดนีเซีย หดตัว -7% อย่างไรก็ตามจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงกลางปี เนื่องจากยังมีสินค้าหลายตัวที่มีแนวโน้มในการส่งออกได้ดี โดยมีปัจจัยเฝ้าระวังสำคัญ คือ
.
1. ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาสที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบไปยังประเทศอื่นในตะวันออกกลาง อาทิ อิหร่าน ส่งผลกระทบต่อการค้าและเศรษฐกิจโดยรวม และกระทบต่อช่องแคบฮอร์มุสที่เป็นเส้นทางหลักของการขนส่งน้ำมันโลก
.
2. ความกังวลเรื่องต้นทุนภาคการผลิต ประกอบด้วย
- ค่าแรงขั้นต่ำ ที่ปรับตัวเป็นวันละ 400 บาท
- ต้นทุนพลังงาน อาทิ น้ำมันและไฟฟ้า
- อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงทรงตัวระดับสูง กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% ต่อปี
- ค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นทุกเส้นทาง
.
3. ปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตภาคการเกษตร (ผลไม้ออกช้ากว่าฤดูกาลปกติ ยางพาราผลผลิตมีน้อยกว่าปกติ)
.
ทั้งนี้ สรท.มีข้อเสนอแนะให้สนับสนุนและช่วยเหลือให้ผู้ส่งออกทำประกันความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่
1. ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรองรับความผันผวนของตลาดการเงินในช่วงปลายปี
2. ความเสี่ยงการชำระเงินของคู่ค้า เพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความสามารถในการชำระเงินของคู่ค้า
.
ประธาน สรท.กล่าวว่า การปรับค่าแรงนั้นต้องพิจารณาให้รอบด้านและกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการภายใต้กลไกคณะกรรมการค่าจ้าง โดยพิจารณาถึงผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานในภาพรวม เนื่องจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่สอดคล้องกับรูปแบบการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นและใช้ทักษะไม่สูง อาทิ อาหาร เกษตร สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งไทยต้องแข่งขันกับสินค้าต้นทุนต่ำจากจีนและเวียดนามที่ผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำดังกล่าวทำให้ไทยเสียความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก
.
นอกจากนี้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่สอดคล้องกับผลิตภาพแรงงาน (Productivity) จะก่อให้เกิดปัญหาต่อภาคการผลิต ขณะที่การจัดสรรงบประมาณเพื่อยกระดับผลิตภาพแรงงานน้อยกว่า 1% สะท้อนผลิตภาพที่เปราะบาง และ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแบบก้าวกระโดดจะกระทบอุตสาหกรรมเดิมหรืออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น และ SMEs ที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมชั้นสูงได้ในเวลาอันสั้น
.
ทั้งนี้ สรท.ได้เสนอให้ภาครัฐปรับค่าแรงและกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการภายใต้กลไกคณะกรรมการค่าจ้าง (คณะกรรมการไตรภาคี) ในแต่ละพื้นที่ โดยต้องคำนึงถึงค่าครองชีพที่แตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่และผลิตภาพของแรงงาน (Productivity) และต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานในภาพรวม รวมทั้งขอให้พิจารณาปรับค่าแรงอย่างรอบคอบและปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป และการปรับค่าแรงต้องสอดคล้องกับฝีมือแรงงาน โดยรัฐต้องสนับสนุนเรื่อง Total Productivity และ Innovation skill ของแรงงานไทยให้ชัดเจน รวมถึงควรตั้งกองทุนร่วมลงทุนกับบริษัทที่ต้องเสริมสภาพคล่องสำหรับจ้างแรงงานมีฝีมือมาปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้การแข่งขัน
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/4bvXb21
.
Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
YouTube: https://www.youtube.com/c/MisterBan
X: https://twitter.com/BTimes_ch3
Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
Website: https://btimes.biz
Podcast : https://btimes.podbean.com/
TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
.
#ขึ้นค่าแรง #สภาผู้ส่งออก #ค่าแรงขั้นต่ำ #เอกชน #ส่งออก #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/nuKT6cjcGKLRRT86/?mibextid=oFDknk

 

May 7, 2024 คาดจะเฟ้อ! วิจัยกรุงไทย ประเมินเงินเฟ้อปี 2567 จะทยอยเพิ่มขึ้น ทั้งปีจะอยู่ที่ 0.8% จากแนวโน้มราคาพลังงานอาหารสดจ่อแพงขึ้น
.
Krungthai compass เผยอัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. อยู่ที่ 0.19% พลิกกลับมาเป็นบวกในรอบ 7 เดือน จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ผักและผลไม้ เป็นสำคัญ คาดอัตราเงินเฟ้อจะทยอยเพิ่มขึ้นและทั้งปีจะอยู่ที่ 0.8%
.
โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน เม.ย. อยู่ที่ 0.19%YoY กลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 7 เดือน จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและการสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และราคาผัก ผลไม้ที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศร้อนและภาวะขาดแคลนน้ำในบางพื้นที่ทำให้อุปทานออกสู่ตลาดลดลง ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.37%YoY ทรงตัวจากเดือนก่อน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 4 เดือนแรกอยู่ที่ -0.55%YoY และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.42%YoY
.
Krungthai COMPASS ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อจะทยอยเพิ่มขึ้นและทั้งปีจะอยู่ที่ 0.8% จากราคาอาหารสดที่ยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่ร้อนอาจทำให้ปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรลดลง และจากราคาพลังงานซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลสิ้นสุดลง ขณะที่สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 31 บาท/ลิตร มีลดลงท่ามกลางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/4acoBJ9
.
Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
YouTube: https://www.youtube.com/c/MisterBan
X: https://twitter.com/BTimes_ch3
Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
Website: https://btimes.biz
Podcast : https://btimes.podbean.com/
TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
.
#Krungthaicompass #วิจัยกรุงไทย #ราคาพลังงาน #อาหารสด #เงินเฟ้อ #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/zMvXL9RWLjRfrT5t/?mibextid=oFDknk