เรื่องเด่น ตำนานรักเลือด เรื่องผี ที่ดังเรื่องชื่่อที่สุดของยุโรป

ถ้าเป็นปีศาจ ในตำนานของเยอรมัน ที่ชื่อ Krampus นั้นมาจาก
คำว่า claw (Krampen) ในภาษาเยอรมัน ใน แคว้น อัลไพน์ เป็นผีในตำนาน เซนต์ นิโคลัส
อาศัยตามป่าเขา และหลอกเด็ก เดี๋ยวจะเล่าเรื่อง ผี อินคิวบัส
และซัคคิวบัส ที่มาร่วมประเวณีกับคนในระหว่างหลับ ต่อในหน้าสอง
ผีทั้งสองชนิดมีปรากฏ ทั้งใน ไบเบิ้ลของชาวคริตส์
และ คะบาเลาะฮ์ Kabalah ของยิว

 

ขอสมัครเป็นแฟนคลับอีกคนนะคะ ได้อ่านหลายๆเรื่องแล้ว สนุกดีค่ะ อิอิ ประหยัด


เงินไปเยอะเลยค่ะ เพราะเหมือนมีหนังสือ แปลมาอยู่ในเว็บนี้



" ขอบคุณมากนะคะ ที่นำมาให้ได้อ่าน เพราะบางเรื่องยาวมาก "

 

ขอบคุณคะคุณ ทัศมาลี กำลังจะเอาเรื่องลงเพิ่มคะ ดิฉันเองก็ชอบอ่านแนวนี้เหมือนกัน เลยเชื่อว่าต้องมีเพื่อนๆในเวปเป็นหนอนหนงสือ ชอบหาความรู้รอบตัวเหมือนๆกัน เป็นการแบ่งปันความรู้ ถ้าหากชาติหน้ายังไม่ได้ไป นิพพานจะได้เกิดมามีปัญญาคะ'(*v^)

 

อินคิวบัส กับ ซัคคิวบัส

อินคิวบัส กับ ซัคคิวบัส ปีศาจความฝัน หรือ ผีที่มาร่วมประเวณีกับมนุษย์




ปีศาจชนิดนี้มีตำนานเกิดขึ้นปรากฏ ครั้งแรก
อย่างเป็นทางการในสมัย ยุคกลางของยุโรป
ในความเชื่อของชาคริตส์ ปีศาจที่มาร่วมหลับ
นอนกับมนุษย์ จนทำให้ฝันติดต่อกันว่ามีเพศสัมพันธ์
กับบุคลลึกลับนั้น หาก เกิดกับมนุษย์ผู้ชายก็จะ
เป็น Incubus, ปีศาจที่ปรากฏตัวเป็นหญิง งามมายั่วยวล
ผู้ชายในความฝันให้ความสัมพันธ์ด้วย
ผีชนิดนี้เรียก ซัคคิวบัส Saccubus ซึ่งเป็นที่น่าแปลกว่า
ตำนานเช่นนี้มีปรากฏ ในทุกชนชาติ
เพียงแต่มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ในประเทศ
ตะวันออกกลาง ผีผู้หญิงที่มาเข้าฝันร่วมเพศกับผู้ชาย
จะเรียก ชื่อ กันว่า นาง กาลีน่า ในขณะที่
ในประเทศอินเดียมีชื่อว่า นางโมหิณี




ในขณะที่ ผีที่ปรากฏตัวเป็นชายมาร่วมเพศ
กับผู้หญิงในขณะหลบ ทายุโรป เรียกผีชนิดนี้ว่า
อินคิวบัส การปรากฏตัว และจารึกอย่างเป็นทาง
การว่า มีสตรีถูก ผีข่มขื่นขณะหลับ มาตลอดหลายปี
มีปรากฏ้เห็นในครั้งแรก ย้อนหลังโบราณไป
ถึงยุคเมโสโปเตเมีย ในอาณาจักร ที่เป็น
ประเทศ อิรักในปัจจุบัน
กล่าวกันว่า วีรบุรุษ กิลเกเมซ ในคำภีร์
กิลเกเมซ นั้น มีมารดา ที่ตั้งครรภ์ วีระบุรุษผู้นี้ขึ้น
มาจาก ผี ทีมาร่วมเพศในฝันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่ง
ผีผู้ชายที่ร่วมเพศกับสตรีในระหว่างนอนหลับ
ในเมโสโปเตเมีย นั้นถูกเรียก่า ลิลู ถ้า
ผีนั้นเป็นสตรีก็จะเรียกว่า ลิตู





ซึ่งอันที่จริงแล้วผีนั้นไม่สามารถทำให้
มนุษย์ตั้งครรภ์ได้ แต่ทฤษฎีการตั้งครรภ์
โดย อินคิวบัส หรือ ผีผู้ชายนั้นมีดังนี้คือ
กล่าวกันว่า ปีศาจหรือผีนั้นมีความสามารถ
ในการจำแลงมาให้มนุษย์เห็นได้ทั้งในคราบชาย
หรือ คราบผู้หญิง ปีศาจชนิดนี้เหมือนดัง
ความชั่ว หรือ ด้านเลวที่เข้าครอบงำมนุษย์
ยามหลับนอนได้ทั้งเพศหญิง หรือ ชาย ดัง
นั้นมันจะเก็บอสุจิจากผู้ชายที่หลับนอนด้วย




ครั้นพอ ไปหลอกลวงมนุษย์เพศหญิง
ในยามนอนหลับก็จะเอาอสุจิที่ได้จาก
เพศชายที่มันเคยไปหลับนอนด้วย
ปฏิสนธิในครรภ์ของสตรอีกคนหนึ่ง




เรืองราวของ ผี อินคิวบัส และซัคคิวบัส
นั้นมาโด่งดัง อีกครั้งในช่วงต้นของคริสต์ศาสนา
สมัยเซนต์ออกัสติน ซึ้งอ้างว่ามีผู้รายงานว่า
ถูกผี ข่มขืนมากมาย ทั้งหญิงและชายซึ่ง 800 ปีต่อมา
โธมัส อะคีนาส บาทหลวงชาวอิตาเลี่ยนได้ขุด
ประเด็นนี้ขึ้นมาให้ศาสนจักรหาวิธีแก้ไข
โดยกล่าวว่าตัวเขาเองก็ประสบปัญหา โดน
ปีศาจชนิดนี้คุกคามขณะหลับ




พ่อมดเมอรร์ลินในตำนานกษัตริย์อาเธอร์
ก็เป็นลูกชายที่เกิดจากการกรณีผีล่อลวง
มนุษย์ขณะหลับในตำนานของเยอรมัน
ผีที่มีลักษณะคล้ายก็อบบิ้น หากมาขึ้น
นั่งคล่อมทับหน้าอกคนนอนหลับในตอน
กลางคืน คนคนนั้นจะมีอาการเหมือนกับฝัน
ร้าย หรือ อึดอัดหายใจไม่ออกหรือ
ที่เรียกว่าผีอำ





[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.2626822/[/MUSIC]



ในตามความเชื้อของศาสนาคริตส์นั้นเชื่อกันว่า
ปีศาจชนิดนี้ มีต้นกำเนิดมาจาก ลิลิธ ราชินีแห่งรัตติกาล
มนุษย์ผู้หญิงคนแรกที่พระเจ้าสร้าง ให้คู่อดัม
แต่ด้วยเหตุที่นางกลับไม่พอใจอดัมคู่รักชาย
ที่พระเจ้าหาให้เพราะ ลิลิธ ไม่ประสงค์จะเป็น
ฝ่ายอยู่ด้านล่างของบุรุษขณะมีควาสัมพันธ์
ซึ่ง ทำให้เธอโกรธงอน อดัม และหนีไปอยู่คนเดียว
ฝ่ายลูซิเฟอร์ ซาตาน ซึ่ง แต่ก่อนคือ เทวดา
องค์หนึ่งที่ไม่พอใจที่พระเจ้าบอกให้ตนเคารพ
ให้เกียรติมนุษย์ปะหนึ่งพวกเทพ จึงล่อลวงลิลิธ
ให้เป็นพวกและเป็นปรปักษ์ กับพระเจ้า ที่ไม่ทรงยุติธรรมต่อมนุษย์
สตรี, ลิลิธ จึงหนีไปเสพสมเป็น เมียของซาตาน
และมีลูกมามากมายหลังจากนั้น พระเจ้าจึง
สร้างภรรยาใหม่ ชื่อ อีฟ หรือ เอวา ให้เป็นภรรยาของ
อดัม ลิลิธก็มาล่อลวงเอาอีก กล่าวกันว่าลิลิธ นั้นคือ
มารดาของ บรรดา ปีศาจ ที่ลักหลับนอนกับมนุษย์ทุกตน







......................

 

ขอบคุณค่ะที่นำมาให้อ่าน ขออนุโมทนาสาธุ ขิให้เจริญทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไป

ตราบเข้าสู่ นิพพานนะคะ........



นอนไม่ค่อยหลับค่ะ.. มันหลับๆตื่นๆ...มีเรื่องให้คิดเยอะ........

 

ตำนานพญานาค หรือ นาคา




ตามตำนาน เทพนิยายของ ฮินดูที่มีมาแต่โบราณ
นั้นเล่าว่านาคาสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้
และ มีตำนานอันโด่งดังที่เชื่อมโยงกับพุทธศาสนาคือ
การที่มีนาคา ตนหนึ่ง แปลงกายเป็นมนุษย์เพราะอยาก
จะมาบวชกับพระพุทธเจ้า

แต่ในทางโลกตะวันตก นาคา หรือ มังกรนั้นถูกเชื่อม
โยงกับสิ่งชั่วร้าย และความมืด เช่น พวกพ่อมดแม่มด
และพวกที่เล่นคุณไสย์เท่านั้นที่เลี้ยงดูหรือสามารถ
ติดต่อกับสัตว์เช่นมังกรได้




ในตะวันตกก็มีการแบ่งประเภทของมังกรที่ค่อนข้าง
คล้ายของจีน คือ มังกรที่อาศัยอยู่ในน้ำ, มังกรที่อาศัย
อยู่ถ้ำหรือใต้พิภพ, ตลอดจนมังกรทีมีปีกบินได้
และสามารถผลิตแก็สมีเทนในท้องให้พ้นไฟและทำให้ตัวลอย
ในอากาศ เมื่อคตวรรษที่ 19ได้มีนักโบราณคดีชาว
ตะวันตกที่ขุดพบซากไดโนเสาร์ชนิดหนึ่งที่มีรูปร่าง
คล้ายกับมังกรตามที่กล่าวไว้ในตำนาน ที่ เซนต์ จอร์ช
แห่งเกาะทางเหนือของไอร์แลนด์ได้ มีบันทึกว่า
ปราบมังกรล้ม ซึ่งคาดว่ามังกรในบันทึกนันคือตัว
สุดท้ายที่เหลืออยู่






ตลอดทั้งในคำภีร์ ไบเบิล ฉบับพัณธสัญญาเก่า
และคำภีร์ทานักของชาวยิวก็ได้มีการกล่าถึง สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่
คล้าย พญานาคหรือมังกรอาศัยอยู่ในท้องทะเลลึก
และมีนามว่า เลฟเวียร์ทาน เช่น
ตำนาน พ่อมด มาดุ๊ก สู้กับ สัตว์ทะเลคล้ายมังกรนามว่า เธียเม็ท




บาเอาล์ สู้กัเจ้าแห่งทะเลและท้องน้ำ แม่น้ำ นามว่า
แยม หรือ ตำนาน อาทุม สู้กับ เนเฮ็พกัลว์ ของ
อียิป ซึ่ง ศาสนาทางตะันออกกลางได้มีอิทธิพล
ต่อทั้งศาสนาในเอเชีย เช่น พรามณ์ พุทธ ฮินดู ในแงของ
วรรณกรรม ตำนาน ต่สงๆเช่นเรื่องมังกร ในขณะที่ก็ส่ง




ผลกระทบต่อ ศาสนา คริตส์ ฮิบรู และอิสลาม ที่ทำให้
ตำนานของมังกรได้แพร่เข้าสู่ยุโรปเช่นกัน





.

 

แล้วเรื่องผีตนที่ยังมารบกวนนั้น ได้ไปสอบถามผู้รู้มาหรอยังคะ ถ้ายังไงลองไป หา หลวงพ่อ จรัญ ที่สิงค์บุรีดูไหมคะ หรือหลวงพ่อ กฤษดา วัดหน้าพระเมรุ ที่ จังหวัดอยุธยาดูก็ได้คะ

 

จองคิวรรออ่านอยู่ค่ะ อิอิ ( วันนี้รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวานเยอะเลยค่ะ )

 

ผึ เลโกวิ หรือ เลอไชน์


ตำนานนางไม้ และผีป่าในยุโรป





ผีเลโซวิก หรือ เลอไชน์




ผีป่าในตำนานชาวสลาวิกในยุโรปตะวันออก

เลโซวิกหรือเลอไชน์ เป็นเทพประจำป่าไม้ชนิด
หนึ่งที่ปรากฏในความเชื่อของชาวยุโรปตะวันออก




เล่ากันว่า มีหน้าที่ในดูแลรักษาป่าไม้ และสัตว์ต่างๆ
เลอโซวิก จะปรากฏกายให้ชาวบ้านได้เห็นในคราบ
ผู้ชายผิวขาวซีดร่างสูง มีหนวดเคราสีเขียวคล้าย
ห่อหุ้มไปด้วยกิ่งไม้ และเถาวัลย์ เลอโกวิก
จะมีตำหนิที่แสดงออกว่าต่างจากมนุษย์ผู้ชายธรรมดา
ตรงที่นัยตาจะเรืองแสง และมีเท้าหันกลับไปด้านหลัง
เล่ากันว่า เทดาต้นไม้ชนิดนี้สามารถแปรงร่าง
ให้เล็กเท่ากอหญ้าได้ ในขณะที่สามารถแปรง
กายเป็นเห็ดยักษ์ พูดได้



นางไม้ประเภทต่างๆ





นางไม้ประเภทแรกที่จะกล่าวถึงคือนาง ไดรแยด
เป็นประเภทของนางไม้ที่สิงค์สถิตย์อยู่ในต้น
โอ๊คในตำนานความเชื่อของชาวกรีกโบราณ


นางไม้ประเภทที่สองเรียกว่า เมลิไลย์ เป็น
นางไม้ประเภทที่สิงค์สถิตย์อยู่ในต้น แอช
ถ้าเป็นนางไม้ในต้น แอ๊ปเปิ้ลจะเรียว่า แอพริเมเลียด
และนางไม้ในต้นวอลนัทจะเรียกว่า แคร์ยาไทด์
มีการเชื่มโยงว่านางไม้นั้นเกิดจาก บิดา คือ
เทพเจ้าซุส กับ เรียย์ นางฟ้ ที่เป็นพลังงาน
บริสุทธิ์ในธรรชาติ ธิดาของ เทพ แห่งท้องฟ้า
และ แม่พระธรณี


นางไม้ประเภทที่3 เรียก ฮามาไดรย์แยด
เป็นนางไม้ประเภทที่มีอายุยืนที่สุด ที่สิงค์สถิตย์
อยู่ในบ้านซึ่งคือต้นไม้จิตผุกติดเป็นส่นหนึ่งของต้นไม้
และไม่ออกไปนอกต้นไม้ แต่หากต้นไม้นั้นตายลง
นางไม้ก็จะตายตามไปด้วย

ยูริดิซี่นั้นเป็นนางไม้ในตำนานที่ชื่อดังและงดงาม ที่สุด
ในประวัติศาสตร์






พ่อมดดรูอิดส์ ดรูอิดส์นั้น เป็นตำแหน่งพ่อมด
ในศาสนาของชาวเคลท์ติกโบราณ หรอ
สหราชอาณาจักรอังกฤษ เมื่อ 3000 ปีก่อน ในสมัย
ที่ยังไม่มีศาสนาคริตส์ พวกเขาบูชา Stonehange
หรือ วงล้อมหิน ปริศนา ที่ มีกระจายอยู่มาก
มายทั่วยุโรป ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครหรือ
ชนกลุ่มใด้ป็นผู้สร้าง ดรูอิดส์จะ มีความสำคัญใน
ศาสนาของชาวเคลท์มาก และสามารถสื่อสาร
กับวิญญาณตลอดจน นางไม้ ที่สิงค์สถิตย์ อยุ่ในต้นโอ๊คได้







แต่กระนั้น ชาวเคลท์ก็มีพิธีกรรมที่น่าสยดสยอง
ในแต่ละปีที่ การเพาะปลูกเป็นไปไม่ดีเท่าที่ควร
พวกเขาจะบูชายัญคนและสัตว์ด้วยการ นำไม้มาต่อ
ทำเป็นร่างมนุษย์ขนาดยักษ์ และในชั้นต่างๆจะใส่
สัตว์ชนิดต่างๆแะมนุษย์ลงไปด้วยก่อนที่จะเผาไฟ
รวมกันทั้งหมด




ในประเพณีของชาวเคลท์นั้นจะให้สตรีเป็นใหญ่
และผู้หญิงสามารถออกรบ และเป็นผู้นำเผ่าได้


เดี๋ยวมาต่อเรื่อง สถานที่ลึกลับ เช่น สุสานหินแม่มด
ในนอรเวย์และ หินที่มีชีวิต วันหลังคะ:boo:








..........

 

รออ่านเรื่องต่อไปอยู่นะคะ "จากแฟนขับค่ะ อิอิ....เพราะดิฉันขับไม่เป็น "

 

เดี๋ยวจะเอามาลงอีกนะคะ :boo:

 

เป็นแฟนคลับมานานแล้วค่ะ แต่ไม่ค่อยได้โพสต์ .... กระทู้ของคุณมีเรื่องราวน่าสนใจทุกกระทู้นะคะ พร้อมภาพสวยงามไม่เคยเห็นมาก่อน..เมื่อได้อ่านรู้สึกเพลินเพลิดและมีความสุขค่ะ...ดิฉันเป็นหนอนหนังสือพอสมควรมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ pocket book ของเมืองไทยชิดซ้ายเรื่องแปลของคุณเลยค่ะ (ไม่ได้เข้าข้างนะค่ะ) ...อยากให้เรื่องราวเหล่านี้ออกมาเป็นรูปเล่มให้คนอื่นๆได้เห็นบ้างจังจ้ะ...เป็นกำลังใจให้คุณในทุกๆเรื่องนะค่ะ สู้ๆค่ะ...

 

ขอบคุณคะ คุณเขากระโดง ว่าแต่ได้ไปศึกษามาเพิ่ม จะใช้คำว่าอ่านคงไม่ได้ เรียกว่าศึกษาดีกว่า เพราะได้มีคนรู้จักที่เจอผีสิงค์ และมีอาการกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นออกมาคล้ายๆกับ เหตุการณ์ แอนเนลไรซ์ มิเชว เด็กสาวชาวเยอรมันที่เกิดในรุ่นคุณตาคุณยายพวกเรานี้แหละ... มีคนที่ดิฉันรู้จักมีอาการและการตายคล้ายๆกับเรื่องราวของเธอ เดี๋ยวจะเอาเรื่องผีๆฝรั่งมาลงต่อ คะ แต่ตอนนี้กำลังจะทำกระทู้ใหม่เกี่ยวกับผีฝรั่งอีกนั้นแหละแต่ตัวเองเจอเอง มาเล่าให้ฟัง :boo:












................

 

แอบซุ่มตามอ่านเงียบๆมาตั้งนาน ขอบคุณคุณดัชเชสมากๆค่ะ กระทู้สนุกมากจริงๆ เรื่องราวน่าสนใจ ลึกลับ สยอง น่ากลัวและบางเรื่องไม่สิเกือบทั้งหมดน่าสงสารและหดหู่จริงๆ แต่ละชีวิตแต่ละเรื่องของยุโรปมันโหดร้ายมาก


แอบไปเสิร์ชเกี่ยวกับออสเตรียมา ปัจจุบันเมืองTamwegs และ Lungau เป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจของใครหลายๆคนไปแล้วดูจากเว็บท่อแล้ว บรรยากาศสงบ รื่นเริง น่าไปเที่ยวพักผ่อนจริงๆ มันนึกไม่ค่อยออกเลยว่าย้อนกลับไปจะมีอะไร......อย่างนี้


เจอจากเว็บท่อเหมือนกันค่ะ GHI ปราสาทมูแซมกับปราสาทPredjama Castle ที่สโลเวเนีย โห.....ช่างกล้า ไปดูมาแล้ว แอบตัดสินในใจคนเดียวเราว่าปราสาทมูแซมน่ากลัวและหลอนกว่าค่ะ เหมือนวิญญาณมีแรงแค้นมากกว่า

คุณดัชเชสอยู่ยุโรปเคยมาเที่ยวเยอรมันบ้างไหมคะ ถ้าจำไม่ผิดเยอรมันนี่แดนเผาแม่มดตายมากที่สุดในยุโรปเลยมั้งคะ ถ้าไม่รบกวนจนเกินไปรอเรื่องผีๆลึกลับๆใหม่อยู่นะค่าาาาาาา ขอบคุณค่ะfly_pigfly_pigfly

 

เคยไป บาวาเรีย & ดามสตัดคะ เยอรมันก็สวยและโบราณมาก บ้านคนก็โบราณ เยอรมันตัวล่าแม่มดเลยคะ แต่ ดิฉันจะถนัดไปทางโซนอังกฤษมากกว่า เพราะบ้านอยู่ไม่ไกล เดี๋ยวจะเอาเรื่อง หินแม่มดที่นอรเวย์มาลงด้วย แต่ตอนนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับอีกกะทู้นึงนะคะ

 

รอได้ค่าาาาาาาาา ^^ oishi_oishi_;41;41 ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

สนุกแบบหลอนๆ ดีค่ะ ชอบหนังผี อิอิ

 

ลืม ว่าก็เคยผ่านดูเซลดอฟ ด้วย ในเทพนิยายกริมส์ เรื่อง หนึ่งตา สองตา สามตา ป่าเยอะดี ปราสาท แฟรงเกนสไตน์เคยแบบคนขับรถพาไปแล้วผ่าน......ส่วนพี่สาวดัสเชสเคยไป
ปราสาท แดร็กคูล่า ที่รูเมเนีย เคยไปนอนในพระราชวังโบราณ ที่เขาอนุญาตเฉพาะแขกบ้านแขกเมือง อย่างนายกไปนอนเท่านั้น ส่วนเหตุใดพี่ของดัชเชสเข้าไปนอนได้ อันนี้ไม่ขอเล่านะคะ ว่าเขาไปที่นั้นได้เพราะอะไร ถ่ายรูปมาด้วย ถ้ารูเมเนียจะออกแขกๆหน่อย เหมือนอยู่ในยุคกลาง :boo:

 

สถานที่ลึกลับชวนสยองและงดงามในขณะเดียวกัน




สุสานหิน แม่มดแห่ง แอนด้า





สุสานหินแม่มด แห่ง แอนด้าอยู่ที่ประเทศนอรเวย์คะ มีการ
แกะสลักหินแหลมๆที่ขึ้นตามธรรมชาติเป็นรูปหน้าผู้หญิง เป็นสัญลักษณะว่าที่นี้
เคยมีหมู่บ้านแม่มดอีกที่คือ
ป้ายสุสานหินอนุสาวรีย์การเผาแม่มด
ในเมืองเบอร์เก้น ประเทศนอรเวย์
ซึ่งเป็นประจักษ์พยานถึงยุคล่าแม่มด
ในช่วงเรอเนซองส์ 1500-1695


ภาพ อนุสาวรีย์แม่มดอีกแห่งในนอรเวย์



และภาพอนุสาวรีย์แม่มดในประเทศ เบลเยี่ยม





รอบๆอนุสาวรีย์แม่มด มีสวนที่ปลูกพืชสมุนไพรที่แม่มดใช้ในการรักษาโรค
และทำพิธีสมัยโบราณด้วยคะ อันนี้อยู่ไม่ไกลบ้านดัชเชสคะ

เอาแค่นี้ก่อนแล้วจะมาเล่าต่อไม่มีอะไรที่
ดัชเชสชอบเล่ามากไปกว่า เรื่องประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยว
มีเรื่องจะเล่าเยอะ เดี๋ยวจะมาพิมพ์เล่าให้ฟังเรื่อยๆ :boo:

 

วีรสตรีแห่งโคเวนทรี่




ที่ถูกบันทึกขึ้นโดยนักบันทึกศาสตร์ โรเจอร์ แห่ง เอนโดเวอร์ ในสมัยยุคกลาง คตวรรษที่ 10 หรือ 900 ปีที่ผ่านมาในเมือง โคเวนทรี่ ประเทศอังกฤษ มีสตรีสาวนางหนึ่งหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมาในตระกูลชนชั้นสูง เธอมีนามว่า เลดี้ ก็อดดิว่า เป็นหญิงสาวผมยาวลากพื้นตามแบบฉบับลูกผู้ดีในสมัยนั้น หน้าตาสวยนอกจากนี้เลดี้ ก็อดดิว่า ยังเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย มีจิตใจงดงามมากอีกด้วย เธอเป็นคนที่ ศรัทธาในคริตศาสนามาก เวลามีเงินก็จะเอาไปซื้อเพชรซื้อทองมาให้ช่างทำเป็นสร้อยคอไม้กางเขนประดับพระแม่มารีบ้าง และช่วยงานศาสนาอยู่เป็นนิจแต่แล้วก็เช่นสตรีทั่วไปในสมัยโบราณที่เป็นช้างเท้าหลัง และมักโดนพ่อแม่จับคลุมถุงชน เธอเองก็เช่นกัน ครั้นพอเข้าสู่วัยรุ่น ตระกูลของเธอก็ยกก็อดดิว่าให้เป็นภรรยาของ ขุนนางหนุ่มผู้หนึ่งมีนามว่า ลีโอฟริคเป็นท่านเอิร์ลแห่งเมอร์เซีย และลอร์ดแห่งเมืองโคเวนทรี่ หลังจากแต่งงานกันไปในฐานะทั้งทั้งคู่ต่างเป็นชาว แองโกล แซกซอน เลดี้ก็อดดิว่าก็ทนุบำรุงปฏิรูป โบสถ์วิหาร คอนแวนซ์ สำนักนางชีต่างๆในยุคก่อนที่โดนชาวไวกิ้งจากเดนมาร์คเผาทำลายจนนางมีชื่อเสียงในความใจบุญสุนทาน ในขณะที่ ลีโอฟริค สามีของนางกลับมิได้มีอุปนิสัยเช่นภรรยาเลย เขาเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง ชอบเก็บส่วย เก็บภาษีต่างๆแสนแพง แต่กระนั้นก็หลงไหลในภรรยาของเขาเป็นอันมาก

จนกระทั้งครั้งหลังสุดเขาได้ขึ้นภาษีชาวบ้านร้านตลาดสูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เลดี้ ก็อดดิว่าเห็นดังนั้นก็ได้ขอร้องให้สามีมีความเมตตาต่อพวกชาวเมือง แต่ก็ได้รับคำปฏิเศทเลดี้ก็อดดิว่าไม่รู้จะทำอย่างไรดีจึงได้ปรึกษากับชาวบ้านในวันหนึ่งว่า ในวันที่จะถึงนี้ห้ทุกคนปิดประตูหน้าต่างบ้านอย่าได้เผย่อเปิดเด็ดขาด นางทำการบางอย่างในการข่มขู่สามีให้ยอมลดภาษี ซึ่งในวันที่นัดกันนั้นก็มาถึง ในระหว่างที่สามีของนางออกไปทำงานราชการที่อำเภอ เลดี้ ก็อดดิว่าก็ได้เปลื้องผ้าทั้งตัวและปกคลุมร่างของนางด้วยเรือนผมอันยาวจรดเท้า และขึ้นหลังม้า เดินผ่านไปทั่วเมืองโคเวนทรี่ แต่เนื่องด้วยชาวบ้านทุกคนได้ปิดหน้าต่างจึงไม่มีใครมองเห็นนางเปลือยกาย นางบังคับม้าต่อไปยังศาลากลางที่สามีทำงานอยู่ ครั้นเมื่อเห็นภรรยาของตัวเองเปลือยกายเช่นนั้น ขุนนางหนุ่มก็รู้สึกอับอายมากรีบลงไปห้ามปรามเลดี้ ก็อดดิว่า นางจึง กล่าวกับสามีว่าจะหยุดทำหน้าบัดสีเช่นนั้นก็ต่อเมื่อ ท่านเอิร์ลจะยอมลดภาษีให้พวกชาวเมือง ขุนนางหนุ่มจึงจำใจตามคำสั่งของนางเพราะอับอายคนอื่นๆมีเรื่องเล่ากันว่า ในระหว่างตอนที่เลดี้ ก็อดดิว่าขับม้าผ่านไปตามบ้านช่องของพวกชาวเมือง มีอยู่เพียงบ้านเดียวทีได้แง่มแอบดูความงามของนาง คือ บ้านของชายที่มีนามว่าทอม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พระเจ้าได้ลงโทษ เขาโดยไม่ทันที่เขาจะได้เห็นเรือนร่างของ วีรสตรีแห่งโคเว่นทรี่ ก็มีแสงสว่างจ้าจากหน้าต่างสาดใส่ไปที่ดวงตาของเขาจนบอด เป็นการลงโทษ