ตัวรู้ การสัมผัสรู้ ที่อยู่กลางอก หายไป

ธรรม ไม่ใช่เรื่อง จ๋าจ๊ะ

ไม่ใช่ อธิบาย แล้ว พยักหน้า เข้าใจเอา

นะ

เว้นขาด บุคคลจิตไม่ตั้งมั่น

ไปพินาเอา

หากตรงนี้ไม่ได้ พูดเหมือนแค่ไหน ก็เป็นได้แค่ ................

 

แค่......?

1. เฮียย
2.พวกนาหญ้าขึ้นรก
3. จานลาย
4......

โถ่ววว อย่ามาหางอนกันเลยค่าา

 

กลางอก อย่าไปเข้าใจ ว่าไปเพ่งดูแล้วจะเห็นจะรู้สึกนะฮับ

มันคนละเรื่องของกลางอก

มันไม่ได้สั่งให้มีให้เกิดได้
หากรู้สึกยุบยับที่กลางอก มันบ่งบอกว่า สติที่ถูกต้องเริ่มเกิดขึ้น

เพราะทำให้เริ่มรู้สึกตัว เห็นอารมณ์จิตตัวเอง

 

จะไปเรียน วิชา น้ำลายรดฟ้าทะม๊าย

 

อ๋อ อารมณ์จิตนี่ต้ิองเห็นที่กลางอกนะ ไม่เชื่อหรอกฮับ

 

จิตมีสภาพรู้อารมณ์

แต่ไม่รู้สึกตัวหรือรู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง

แต่หาก จิตเริ่มมีสติประกอบ มันจึงระเริ่มรู้สึกตัวเริ่มรู้เท่าทันอารมณ์ในตัวมัน

ถ้าเริ่มรู้สึกตัวเห็นอารมณ์ในตนเอง
กลางอกมันจะเป้นส่วนนีง ที่เป็นพยาน

 

เนี่ยะ ว่า จะถามอยู่ ที่คุยกันมา มันเก็บได้แต่เรื่องพวกนี้

สังเกตไปเลย

ที่เก็บได้แต่เรื่องพวกนี้

เป็นเพราะไป เสพ บุคคลมีจิตไม่ตั้งมั่น ใช่ หรือ ไม่ใช่

 

ลองสังเกตุที่หัวใจตัวเองค่ะ เวลาแต่ละความคิดเข้ามา หัวใจจะเต้นเปลี่ยนจังหว่ะ เร็วขึ้น ผ่อนลง ตามความคิดค่ะ ไม่ได้สม่ำเสมอตลอด อีกแบบคือสังเกตุอาการวูบวาบทั้งตัว เวลาความคิดเกิด ความคิดดับ

 

แซวเล่นนิดเดียวเองงงง ขอแหย่ ขอจิ้มหน่อย

 

คุณแนนเขาก็มีความตั้งใจในการปฎิบัติ พยามสอบถามตลอด พูดเป็นงานเป็นการมั่ง ฮามั่ง สลับไป ก็จะได้ไม่เครียดอะไรมาก ทำไมต้องคอยห้ามไปคุยคนนั้นคนนี้ ค่าเน็ตเขาก็เสียกันเอาเอง

ถ้าเจตนาจะโฟกัสที่ธรรม ก็บอกแนะนำไป ถูกมั่งผิดมั่ง แต่มองที่เจตนา ก็ถือว่าเจตนาดี ส่วนเขาจะเชื่อมั้ย ก็ให้ถือเป็นสิทธิ์ส่วนตัวเขาไป

แล้วพูดบอกอย่าไปคุย แต่ยกชื่อมาอ้างด้วย ใครๆ ก็น่าจะเข้าใจแบบนั้น หวียังเข้าใจแบบนั้นเลย ถ้าคุณเมามีเจตนาอื่น ก็ไม่น่าอ้างอิงชื่อแต่แรกไม่ใช่หรอคะ

 

กดไลค์ไปเนี่ย จิตไม่ตั้งมั่นรึเปล่าไม่รุ้

(ชำเลืองตาแอบมอง)

 

ตั้งแต่รู้จักแก แค่ในเวป
เฮียปัง แกเป็นคนมี ปัญญา ปัญญาล้ำหน้า ออฟไซน์ตลอด

 

ธรรมของแก ก็น่าฟังไปอีกแบบนะ เหมือนได้เห็นอีกมุมนึงที่เราอาจจะลืมมองไป ตอนที่แกพูดแบบคนปกติ คือดีเลยแหล่ะ....(แผลบๆ)....แต่พูดจิงนะ

 

ไป พินาเอา

จิต ไม่ใช่เรา ของเรา นี่เป็น สัมมาทิฏฐิ ที่สำคัญ

จิตกดไลค์ ตอนไหน เสียหาย หรือ จะก้าวหน้า
นอกจาก จะต้อง มนสิการ จิตไม่ใช่เรา ของเรา
แล้ว

จะต้องแยกให้ออก "จิตในสมัย"

จิต ไม่ใช่อะไรที่จะ สั่งสม สะสม พยักหน้าไปเรื่อยๆ
บรรลุเอง ไม่มี

หาก สมัยที่ควรประครองจิต จิตกำลังเกิด กงขาวิตรณวิสุทธิ
ในธรรมอันใด ก็ควรที่จะ อุปาการะจิต ในสมัยนั้นให้
มี เหตุ ปัจจัยที่ถูกต้อง

หากล่วงเลย สมัยไปแล้ว

หรือ ไปกระทบผัสสะ ที่ไม่เป็นไปเพื่อ อุปาการะธรรม

ก็จะยิ่ง จม เหลวไหล ล้มเหลว

กว่าจิตจะวิวัฏไปข้างหน้า กว่าจะได้โอกาส เฝ้นธรรม
เหมือนเต่าตาบอดรอดช่องกระดาน หากจังหวะนั้น
คลาดไป ก็จะเนิ่นช้า

หาก ไปรับผัสสะ ที่ไม่ทำให้เกิดความ ตั้งมั่น ก็จะ
ยิ่ง ล้มประดาตาย

ไปพินาเอา


ส่วนใครป่านนี้ ยังเห็นจิตเป็น กะระรู ของ กะระรู
ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ไม่มีประโยชน์จะเสวนาด้วย

 

ไปสังเกต เอาเองนะ

จังหวะ หน้า หากจะมี หากจะเกิด คำถามการภาวนา

หากยังไป ข้องแวะ กับ ธรรมเลว ก็จะเหมือนวันนี้
แทนที่จะไปข้างหน้า ก็โน้นไป โน้น ไปคว้าเอา
หัวใจ เลือด [ นักภาวนาพุทธแท้ๆ เขาข้ามไปปีมะโว้
แล้ว แต่ที่ตกไป ฟันธงเลย เพราะ เฮียตัวหนึ่ง
ส่วนที่เป็น ตุ๊กตา อันนั้น ไม่มีอิทธิพลอะไร จิตไม่กำลัง ]

 

ณ จุดนี้ผมก็ไม่อยากจะพูด แต่ก็ขอพูดอะไรบ้าง เอหรือจะไม่พูดดี
ก็เพราะว่า กรู ของ กรู อยู่ไม่ใช่หรือ ถึงได้มอง ไม่ตั้งมั่นบ้าง
เห็นคนอื่นยึดจิตไม่ใช่เราบ้าง ถ้าไม่มองผ่านความเป็นกรูออกไป

อนึ่ง ถ้าไม่มีกรู ก็คงไม่เห็นถูกไหมครับ การงดเสวนาอะไรนี่
ก็เพราะยึดความเป็นกรู เหนียวแน่น
กว่าสมาชิกท่านอื่นๆ กรูเลย มะคุย ธรรมกรู ถูกกว่า

อ สอง บายจั๋ย ผมแล้ว

อ สาม หากมีอะไรเกินๆ ไปผมก็ชอบเตะให้เข้าที่เหมือนกัน

 

อ่อ เข้าใจคอนเซ็ปคุณปังละค่ะ

แต่แนนก็ยอมรับนะว่ายังมีเผลอบ้าง ชอบสนุกบ้าง ตามจริตนิสัยเดิม

ดีแล้วค่ะที่กระตุกเตือนให้แนนสังเกตุ ไม่ลืมดูตัวเอง

 

ธรรมเลว คือแบบไหนน้อ

 

การงดเสวนา ไม่ใช่ ว่าเคยทำครั้งแรก

ก่อนหน้านั้น ก็มี เคสนึง

จังหวะชีวิต ควรไปทาง ธรรม

แต่เพราะ เฮียตัวหนึ่ง

ทำให้ จังหวะชีวิต ผลิกจากธรรม ไปโน้น แต่งงาน

เอาเท่านี้นะ

เพราะ กระทบโลกในยามที่สาย ก็จะเข้าใจ
ว่า ธรรมเป็นเรื่องทำร้ายให้เสียประโยชน์

 

บอกก่อนว่า หวีไม่ถึงธรรมอะไรสักอย่างนะ มาคุยก็คุยเล่นไปเรื่อยเปื่อย

ปิดเน็ตก็ออกไปแรดนอกบ้านแระ อ้อ ร่านด้วย ตามประสา อิอิ