ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ****************************************

    นี่คืออีกหนึ่งความรู้สึกของผู้ที่ได้รับคำชี้แนะจากน้องไปในช่วงแรก โดยไม่เสียค่าตอบแทนใด ๆ แม้แต่บาทเดียว และก็ประสบผลสำเร็จได้เร็วเกินความคาดหมาย เป็นผู้ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้เขียน สนทนาธรรมกันอย่างต่อเนื่องค่ะ

    ศศิริยะ
     
  2. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751

    *********************************************
    ขอบพระคุณมากค่ะ ที่ชอบอ่าน จะพยายามมานำเสนอนะคะ แต่อ่านแล้วต้องพิจารณาให้ดีนะคะ ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและต่อผู้อื่น เพราะทุกเรื่องที่เล่าให้ฟัง ผู้เขียนมีคติแฝงอยู่ให้คิดเองเสมอนะคะ ว่าที่เล่าให้ฟัง เพราะต้องการให้รู้อะไรค่ะ

    ขอบคุณจากใจอีกครั้งนะคะที่ชื่นชอบ

    ศศิริยะ
     
  3. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    http://palungjit.org/showthread.php?t=129821&page=14

    ..
     
  4. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ***********************************************
    นี่ๆ ไงคะ คุณก็แปลความที่ผู้เขียน ๆ ผิดเจตนาจริง ๆ การที่ผู้เขียน ๆ สัพยอกคุณเล่นฐานมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน และบอกว่าน้องเรียนเร็วไม่ได้อยู่ ป 4 นั่นก็เป็นเรื่องจริงสามัญชีวิตที่เกิดขึ้น จริง ๆ และที่ครูอนุบาลไล่ส่งขึ้นพาสชั้นไป ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่ผู้อื่นกระทำต่อน้อง ปฎิบัติต่อน้องตามนั้นจริง ๆ

    ไม่ใช่น้องเรียนช้าเรียนแย่ แล้วผู้เขียนมานั่งคุยโม้โอ้อวดเกินความจริง ว่าลูกฉันเก่งนะ เรียนดี เรียนเร็ว ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความจริงและหาหลักฐานไม่ได้ แบบนี้จึงจักเรียกว่า ชื่นชมลูกจนเกินลิมิตแห่งความเป็นจริงจนแลดูเลิศเลอในสายตาผู้คนและตัวเองนะคะ

    รบกวนตีความให้ถูก เพราะถ้าตีความกันไปในทิศทางลบตลอดเวลา ทุกคำทุกตัวอักษารที่ผู้เขียนได้เขียน และของทุก ๆ ท่านที่เขียนมารวมทั้งของคุณซานตานคลั่ง ก็สามารถตีความไปในทิศทางลบได้หมดทุกคนทุกประโยคเช่นกัน หากเป็นแบบนี้สังคมคงหาความสงบสุขยากนะคะ

    ขอบคุณมากค่ะที่อุตส่าห์มาบอกสื่งที่ทำให้คุณเข้าใจผิด ดีค่ะ จะได้ชี้แจงขยายความกันให้เข้าใจ สังคม บ้านเมืองจะได้ไม่วุ่นวาย

    ขอบคุณค่ะ

    ศศิริยะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2008
  5. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ความจริงผู้เขียนเองก็ยังมีเรื่องจริงที่ประสบมากับชีวิตตัวเองที่อยากจะเล่าสู่กันฟังอีกมากมาย ที่อยากเล่า เพราะอยากให้เป็นแง่คิดอุทาหรณ์สอนใจได้บ้างไม่มากก็น้อยในบางเรื่องกับท่านผู้อ่านทุกท่าน หาใช่อยากจะเล่าเพื่อคุยโม้โอ้อวดว่าตัวเองและลูกเป็นผู้ทรงภูมิปัญญาทางธรรมพันแปดร้อยเล่ม หรืออวดอ้างว่าตัวเองและลูกเก่งเป็นผู้วิเศษเหนือมนุษย์สามัญธรรมดาทั่วไป.....แต่หากสถานที่แห่งนี้มีผู้คอยจับคอยจ้องคอยตีความทุกตัวอักษรที่ผู้เขียนได้เขียนขึ้นไปในทิศทางที่ผิด ๆ อยู่ตลอดเวลา ก็คงไม่กล้าที่จะมานำเสนอให้รู้กัน เพราะหากมีการกล่าวอ้างพาดพิงถึงกัน จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่เยาวชน ยุวพุทธ รุ่นนี้และรุ่นหลังกันต่อไป และก็เป็นการเสียเวลาผู้เขียนเสียเปล่า ๆ ที่จะต้องคอยมานั่งขยายความอธิบายกันเหมือนเด็ก ๆ เพราะผู้เขียนต้องทำงานเลี้ยงชีพเลี้ยงชีวิตกับธุรกิจส่วนตัวของตัวเอง คงไม่มีเวลามากมายขนาดนั้น

    เอาเป็นว่า หากท่านใดที่ชื่นชอบ ที่ติดตาม คอยให้กำลังใจผู้เขียนเสมอมา และอยากทราบเรื่องใด ก็รบกวนติดต่อตามหาผู้เขียนกันเอาเองก็แล้วกันนะคะ สุดแต่ใจจะไขว่คว้า หากพบก็คือพบ ไม่พบก็คือไม่พบก็แล้วกันค่ะ ตามสบายค่ะ เพราะผู้เขียนกล่าวไว้แต่แรกแล้วว่านี่ไม่ใช่อาชีพของผู้เขียนและน้อง ไม่ได้เดือดร้อนอะไรในชีวิตเหมือนที่บางท่านคิดและพยายามสร้างข้อมูลบิดเบือนในตัวผู้เขียนนำเสนอผู้คนเพื่อให้ผู้คนคิดว่าตนเองนั้นเป็นผู้หยั่งรู้ และการมาอยู่ ณ ที่ตรงนี้ หากไปขวางหูขวางตาสายงานอาชีพของท่านใดที่อยู่ในที่นี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็คงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ เพราะไม่เคยคิดที่จะขวางอาชีพของผู้ใดค่ะ

    สำหรับท่านที่เขียนเมลล์มาหาผู้เขียน และบอกว่าต้องไปสอบถามอีเมลล์ผู้เขียนจากท่านอื่น ๆ ที่ติดต่อกับผู้เขียนได้ นั้น ขออนุญาติบอกกล่าวกันตรงนี้อีกครั้งว่าอีเมลล์ของผู้เขียนอยู่ที่หน้า 20 กรุณากลับไปอ่านเจตนาเดิมของผู้เขียนให้เคลียร์และให้เกิดความเข้าใจทุก ๆ ตัวอักษรที่ผู้เขียนเขียนไว้ตั้งแต่เริ่มแรกที่เขียนกระทู้นี้เข้ามา และทุก ๆ ความคิดเห็นของผู้เขียนที่ได้เขียนตอบอย่างต่อเนื่องให้ครบ อย่าอ่านแค่ผ่านตา ข้าม ๆ เพราะเมื่อเกิดปัญหาความไม่เข้าใจ ก้จะเป็นการเสียเวลาของผู้เขียนเป็นอย่างมากที่ต้องมานั่งคอยอธิบายเรื่องเดิมที่กล่าวไว้ซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ รอบ

    และขออนุญาติกล่าวให้ข้อคิดท่านผู้อ่านทุกท่านสักนิดว่า การที่เราจะเขียนเรื่องใด ๆ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ลงสื่อที่เป็นสาธารณะ ขอให้คิดให้รอบคอบในความถูกต้องและชัดเจน อย่าเขียนสิ่งใดแล้วทำให้ผู้อ่านตีความบิดเบือนไปได้มากมาย อันนำมาซึ่งความเข้าใจผิดแก่ยุวพุทธ และพุทธศานิกชนรุ่นหลังสืบกันต่อไป เพราะที่นี่คือเวปพระพุทธศาสนา ซึ่งมีผู้คนอ่าน เห็นข้อความของท่านอยู่ทั่วโลก มิใช่คนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่เห็นที่อ่าน ชื่อเสียงของเวปนี้ และชื่อเสียงของพระพุทธศาสนาในสายตาของคนทั้งโลก จะโด่งดังเผยแผ่เป็นที่เคารพศรัทธายิ่ง ๆ ขึ้น หรือจะถูกบิดเบือนจากหลักแห่งความเป็นจริงของพระธรรม-พระไตรปีฎก หรือจะเสื่อมสลายชื่อเสียงและความศรัทธาไปจากคนทั้งโลก ก็อยู่ที่ทุกตัวอักษรที่พวกท่านเขียนนั้นแล สาธุ

    ด้วยพลังแห่งกุศลผลบุญทั้งหมดที่ผู้เขียนและน้องได้ทำ สร้าง ปฏิบัติมาทั้งชีวิตและทุกชาติ ทุกภพ ทุกภูมิ จงส่งผลให้ท่านผู้มีกุศลจิตในธรรมทุกท่าน มีแต่ความสุข ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม หลุดพ้นจากพันธนาการแห่งกรรม และพบเส้นทางแห่งพระนิพพานในชาตินี้ภพนี้โดยถ้วนหน้ากันเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    ด้วยความปรารถนาดีค่ะ
    ศศิริยะ

    sasiriya6699@yahoo.com

    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คือกฏแห่งความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง
    อีเมลล์นี้ก็คงเช่นกัน เมื่อถึงเวลา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2008
  6. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    "ผู้ที่ตาเห็นธรรม เมื่อเกิดความไม่เข้าใจ ย่อมต้องพยายามศึกษาและทำความเข้าใจเสียใหม่ให้รอบคอบและถ่องแท้.....
    หาใช่...นำความไม่เข้าใจนั้นมาเป็นบรรทัดฐาน ชี้นำเผยแพร่เป็นความรู้ให้แก่ผู้คนต่อไป.."
     
  7. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ********************************************
    ผู้เขียนไม่ได้หมายถึงคุณนะคะ ขออภัยที่ต้องเขียนรวม ๆ ยินดีตอบเสมอค่ะสำหรับผู้มีไมตรีกุศลทุกท่าน
     
  8. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ********************************************

    ค่ะ ขอตอบเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ เพื่อความเข้าใจ หากคุณอ่านต่อเนื่องเสมอมาคุณจะทราบเหมือนที่ทุกคนทราบนะคะ ว่าผู้เขียนต้องมีค่าใช่จ่ายต้องพริ้นซ์เรื่องราวรูปภาพต่าง ๆ ที่คนส่งเข้ามาบางท่านก็มาก เพื่อให้น้องดูอย่างเป็นระเบียบ และไม่ให้เสียสายตาจากหน้าคอม ซึ่งเครืองของผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาซื้อมาเพื่องานพริ้นซ์เฉพาะล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายตรงนี้จึงสูง และตอนที่เริ่มแรกผู้เขียนช่วยฟรีไปมาก จ่ายเงินเองไปก็เยอะ ก็ยังมีบุคคลที่ก่อกวนอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นที่จะต้องมีกติกาที่เด่นชัดเพื่อสกรีนคน และนำเงินส่วนหนึ่งไปสร้างกุศล ซึ่งผู้เขียนชี้แจงไปแล้วที่หน้าที่ 20 ชัดเจน เพื่อให้กุศลนั้นส่งให้เจ้าของเงินด้วย และเหลือเพียงเล็กน้อยตามที่ทุกท่านต้องการบอกผู้เขียนว่าอยากตอบแทนน้องที่เสียเวลาตรงนี้ เมื่อแรกไม่รับ ก็ทำให้พวกเขาเหล่านั้นอึดอัดใจ และอีกประการผู้เขียนและน้องไม่ใช่ร่างทรงองค์เจ้าองค์เทพทั้งหลาย และยังไม่ได้ใช้นามสกุลมหาเศรษฐี เมื่อมีผู้เข้ามามากจึงไม่สามารถกล้าประกาศตัวเป็นนักสงเคราะห์พลีเวลาทั้งชีวิตไม่ต้องทำมาหากินเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัว ด้วยการมาทำอะไรตรงนี้ทั้งวันทุกวันค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าอวดร่ำอวดรวยกันได้อีก
    และอีกประการ อันนี้ผู้เขียนไม่ได้พูดเองนะคะ ทุกท่านเล่ากันเข้ามาให้ฟัง ว่า ผู้เขียนก็อยู่ในสถานะช่วยชี้แนะธรรมดา ไม่ใช่อวดอ้างสรรพคุณไปต่าง ๆ นานา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือ ฟรีหมด แต่ตบท้ายตามที่คนบอกเล่ามาว่ามักได้รับคำทำนายจากผู้อื่นว่าว่า มีเคราะห์ ต้องสะเดาะเคราะห์โดยให้ผู้ชี้แนะแก้ไขทำพิธีให้ ซึ่งก็คือเสียเงินเป็นจำนวนมาก ๆ หลายพัน เป็นหมื่น ๆ บางท่านบอกโดนเรียกเป็นแสนยังมี อันนี้ไม่ใช่ผู้เขียนค่ะ จบแล้วจบกัน ไม่มีการเรียกร้องเงินทองมานั่งสะเดาะเคราะห์ให้ใคร สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนภายหลัง ที่กล่าวมาอ่านให้ดีนะคะ ผู้เขียนไม่ได้กล่าวเอง มีผู้ขอความช่วยเหลือเล่าให้ฟังในสิ่งที่เขาเหล่านั้นโดนมา

    ฉะนั้นตรงนี้ ชัดเจน เพราะถ้ามาหากิน ตรงนี้คงสร้างความร่ำรวยอะไรให้ผู้เขียนกินดีอยู่สุขได้มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นอยู่ไม่ได้หรอกค่ะ

    ก็ปรึกษาหลาย ๆ ท่านนะคะ ไม่ได้ตั้งเอง ทุกท่านก็มีมติ ให้ตั้งจำนวนเงินที่ไม่ทำให้ทั้งผู้เข้ามา และผู้ที่ทำอาชีพนี้อยู่เดือดร้อนค่ะ ลองคิดดูนะคะ คนอื่นมาตรฐานเขาพัน ถ้าดิฉันตั้งต่ำกว่าพัน ก็คงจะโดนสายอาชีพเขาโจมตีหาว่าตัดหน้าแย่งลูกค้า คงไม่ดีแน่ หาก99บาทคงเหมือนหมอดูเปิดตำราอ่านมากไปไม๊คะ ทำใจลำบากนะคะ

    ขออนุญาติตอบครั้งสุดท้าย เพราะผู้เขียนเองไม่ได้บังคับใคร และผู้ที่เข้ามาก็ไม่ใช่ต้องจ่ายเท่านี้ทุกท่านด้วย บางท่านไม่ต้องจ่ายเลยก็มี แต่ไม่มีใครเกินกว่าที่ตั้งกติกานี้แน่นอน ยังยึดหลัก เมตตาเป็นที่ตั้งอยู่ค่ะ ไม่ใช่การหากินบนความทุกข์ของผู้ที่ทุกข์อยู่แล้ว แบบนั้น ไม่ใช่ผู้เขียนและลูกแน่นอนค่ะ ยังไม่ได้อดอยากยากจนขนาดนั้นค่ะ แล้วก็แค่เฉพาะกิจชั่วระยะเวลาเดียวตามคำเรียกร้องด้วยค่ะ ไม่ใช่อาชีพ เจตนายังเหมือนเดิมค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2008
  9. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    *******************************************
    ก็นั่นแหล่ะค่ะ ถึงบอกว่าไม่ได้กำหนดเอง นานาจิตตังนะคะ
    ตอนฟรีก็โดนโจมตีทั้งต่อหน้าและหลังสารพัด ประมาณแย่งลูกค้า
    พอมีกติกา จะถูก 99 บาท คนคงเฮโลมากันอีก เขาก็เสียลูกค้า
    ก็เลยต้องเคารพการช่วยตัดสินใจทุกท่านที่แนะนำ ก็เท่า ๆ ชาวบ้านเขาแหล่ะดีที่สุด ไม่ทำร้ายอาชีพใครโดยไม่เจตนา อยู่ที่ความสมัครใจ แฟร์ ๆ ก็ยังไม่วายถูกโจมตี คิดว่าเมื่อคนเรียกร้อง ผู้เขียนก็ทำดีที่สุดแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนอาชีพใคร ไม่ชอบค่ะ ไม่เคยมีนิสัยชอบทำร้ายคนไม่ว่าด้วยกาย วาจา หรือใจ ไม่ว่าด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาค่ะ ใจอยากคิดบาทเดียวด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำ คงโดนหนักกว่านี้เป็นแน่แท้ สาธุ ไม่ต้องกลัวผู้เขียนรวยเพราะตรงนี้หรอกค่ะ เพราะไม่ได้ออกมานั่งรับดูตั้งแต่เช้าจรดค่ำทุกวันเหมือนมืออาชีพค่ะ ทำงานอย่างอื่นรวยเร็วกว่าค่ะ
     
  10. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ขอจบการตอบคำถามจากผู้เขียนหน้าเวปเพียงแค่กระทู้นี้นะคะ

    ขอได้รับความขอบคุณจากใจผู้เขียนทุกท่านค่ะ
    ท่านที่ได้รับคำชี้แนะไปจากน้องก็แฮปปี้กันไปแล้ว คงทราบว่า ไม่มีการหลอกลวงใด ๆ ทั้งสิ้นจากผู้เขียนและน้อง เพราะมิเช่นนั้นหลาย ๆ ท่านคงไม่พาใครต่อใครมาร่วมสร้างกุศลและขอคำชี้แนะกับน้องต่อ ซึ่งผู้เขียนก็ขอโมทนาบุญกับทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

    ส่วนท่านที่มิได้ทุกข์ แต่เพียงอยากลอง ขอบอกตรงนี้ว่า ผู้เขียนและน้องไม่มีอะไรให้ท่านลองหรอกค่ะ ไม่ได้เป็นนักแสดงสร้างอภินิหารใด ๆ ที่จินตนาการกันทั้งหลาย ก็แค่เดินอยู่ในเส้นทางการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักแห่งพระพุทธศาสนาเท่านั้น ขอให้ท่านเก็บเงินอันมีค่าของท่านไว้ใช้ในยุคข้าวยากหมากแพงที่จะแพงขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปเถิดนะคะ

    ส่วนท่านที่อยากพูดคุยกับผู้เขียนและน้อง ก็เมลล์ตามที่ให้ไว้ ยินดีเสมอค่ะ sasiriya6699@yahoo.com แต่ทุกอย่างก็อย่างที่กล่าวมาแล้วว่า เมลล์นี้เมื่อถึงเวลา ก็เช่นกัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

    โชคดีมีสุขค่ะ
    ศศิริยะ



    ***** ท่านที่อยากแสดงความคิดเห็นใด ๆ ในทางที่ไม่เสียหายต่อพระพุทธศาสนา และช่วยสืบสานพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวต่อไป ก็ขอเชิญตามสบายนะคะ เวปนี้จะได้ร่มเย็นน่าอยู่ น่าดู น่าแล แต่ผู้เขียนคงไม่ขอตอบคำถามใด ๆ ที่หน้าเวปนี้อีกนะคะ ขอบคุณจากใจอีกครั้งค่ะ ****

    ส่วนท่านที่อยากอ่านเรื่องราว เล่าสู่กันฟังจากผู้เขียน คงต้องขอพิจารณาดูอีกครั้งนะคะ ขอเวลาหาที่ใหม่ ที่เขียนแล้วน่าจะ สงบ ร่มเย็น กว่าเดิมให้ได้เสียก่อน แล้วอาจจะกลับมาบอกกล่าวกันค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2008
  11. mooing2546

    mooing2546 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +571
    พี่ศศิริยะคะหนู mail ไปแล้วพี่ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย รบกวนพี่อีกครั้งนึงค่ะ
     
  12. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ;8

    " แม้ไม่ใช่คนโปรด....อย่างคนอื่นเขา...
    แม้จะดูว่างเปล่า....ในสายตา เธอ...
    ไม่เคยทำให้คำ...ว่า..ฉันรักเธอ..
    ลดน้อยลงได้เลย...สักวัน
    ขอเพียง เธอ ไม่ลืม..ว่าใครอยู่ตรงนี้
    ขอเพียงมี สักคำ..ว่า คิดถึงกัน...
    แค่นั้นก็เกินพอ.. ให้คนอย่างฉัน
    ฝันดี..ยิ่งกว่า...คืนไหน... "

    ;30

    ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านในไมตรี ในความรักและปรารถนาดีที่มอบมาให้ผู้เขียน ตื่นมาวันนี้พร้อมกลิ่นธูปเต็มไปหมดเกือบสำลัก (ไม่รู้ใครจุดคนละดอกๆเต็มเลย ฮา ) เลยต้องกลับมาแบบตั้งตัวไม่ทัน พร้อมมอบบทเพลงจากใจ ("คนไม่สำคัญ " ) ให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน ท่านผู้กำลังมีความทุกข์ทุกท่าน ท่านเจ้าของและทีมงานเว็ปพลังจิตทุกท่าน จากใจจริง "ศศิริยะ" คนนี้ เป็นการตอบแทน

    พรุ่งนี้จะเข้ามาประเดิมเรื่องจริงเล่าสู่กันฟัง ให้ได้อ่านกันถ้วนหน้าต่อไป ณ ที่แห่งนี้ ตราบเท่าที่ยังไม่โดนเชิญออกจากเว็ป (deejai)

    ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของเว็ปและทีมงานพลังจิตทุก ๆ ท่าน มา ณ ที่นี้ เป็นอย่างยิ่งนะคะ ที่เมตตาให้พื้นที่ใช้สอยต่อไป ซึ่งผู้เขียนเริ่มเกรงใจอย่างแรง เพราะใช้พื้นที่ของท่านเปลืองมาก
    ;aa13
    กราบขอบพระคุณจากใจจริงค่ะ

    " ศศิริยะ "

    (ขอเป็นเพียงแค่ คนไม่สำคัญ ที่อยู่ในซอกเล็ก ๆ ของความรู้สึกของทุกท่านก็เกินพอแล้วค่ะ สาธุ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2008
  13. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    พระไตรปิฎกนั้นสำคัญ
    แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือ พระธรรมในพระไตรปิฏก
    หากจะเอาเนื้อความข้างใน สรุปมาเหลือโอวาทสาม คือ
    ละชั่ว สร้างกุศล ทำจิตให้ผ่องใส
    ตรงนี้เราชนะกรรมด้วยสร้างกรรมใหม่ โดยไม่ต้องแก้

    ดังนั้น ผู้เห็นสัมมาทิฏฐิ ย่อมลงมรรคแปดโดยอัตโนม้ติ จึงได้ชื่อว่าผู้ทำนุศาสนา
    อะไรที่ชี้ให้มืด ไม่เป็นไปเพื่อตื่น ไม่ต่างกับเห็นตำราแต่ไม่เข้าถึงตำรา
    เห็นธรรม แต่ ไม่ทำ
    รู้เสื่อม แต่ ก็ปล่อย

    ก็ฝากคุณศศิพิจารนาด้วย
     
  14. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ขอบใจสำหรับคำตอบ ที่เราชี้

    การต่ออายุศาสนา มันก็มีหลายวิธีแตกต่างกันไป
    ที่สุดแล้วต้องมี สัมมาทิฎฐิเป็นที่ตั้ง คือ
    ละความเห็นผิด หมายความว่า รู้เหตุ รู้ผล รู้ที่มาและที่ไป
    ยึดพุทธพจน์โอวาทสาม หมายความว่า

    ไม่แสวงหาบุญนอกข่าย ละความเห็นผิดความงมงายทั้งปวง
    มีวาจาเป็นศีล พูดดี คิดดี ทำดี และ ออกมาจากใจ
    ทำจิตให้ผ่องใส คือ หมั่นสางกิเลสออกจากใจ
    ซื่งทั้งสามข้อนี้ หวังว่าคุณศศิคงไม่ละเลยเป็นแน่

    ในฐานะคุณ ศศิ เป็นเจ้าของกระทู้...
    ก็อยากจะทราบ
    และเพื่อประโยชน์ต่อเพื่อนสมาชิกร่วมอุดมการณ์

    จุดประสงค์ ความเข้าใจ และจุดมุ่งหมายเดียวกัน ของคุณนั้นคืออะไร
     
  15. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    เมื่อหลายวันก่อนอ่านเจอเมลล์ท่านที่ได้รับคำชี้แนะจากน้องไป เขียนมาบอกว่า ขอให้ผู้เขียนกับน้องอยู่ตรงนี้ต่อไปอีกนาน ๆ จะได้ไหม อ่านแล้วก็ทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตได้เรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจมีคติธรรมหรือมุมมองใหม่ ๆ ในชีวิต ให้กับทุกท่านได้บ้างไม่มากก็น้อย ก็ขอนำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้ก็แล้วกันนะคะ

    ผู้หญิงบ้า.....ใครว่าไม่รู้ธรรม
    เวลาผ่านมานานมากแล้ว ที่เกิดเรื่องราวนี้ขึ้นกับผู้เขียน จำได้ชัดเจนและยังระลึกอยู่ในใจผู้เขียนเสมอมา วันนั้นผู้เขียนและครอบครัวพากันไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเกตุง น่าจะสมุทรสาครนะ ถ้าจำไม่ผิด ทุกอย่างปกติ นอกจากชำเลืองเห็นใครหนอ มาแอบข้างพระเจดีย์ หลบไปหลบมาแอบมองผู้เขียน ถามคนขายของในบริเวณ ก็ได้รับคำเตือนว่า ให้ระวังนะ นั่นน่ะมันผู้หญิงบ้าวิกลจริต ชอบแอบด้อม ๆ มอง ๆ ผู้คนที่มาที่นี่

    พอผู้เขียนได้โอกาสเหมาะ เจอเธอผู้นี้ซึ่งหน้า ก็เรียกตัวพูดคุยกับเธอ ตอนแรกที่สนทนากัน เธอก็แลดูเหมือนคนวิกลจริตจริง ๆ นั่นแหล่ะทั้งหน้าตา ทรงผม และการพูดจา แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนสังเกตุเห็นคือ ดวงตาของเขา มันไม่ได้ส่อถึงความเป็นคนวิกลจริต จึงพูดกับเขาดี ๆ จนเขาวางใจ และในที่สุดความจริงก็ปรากฏออกมาดั่งคิด เธอไม่ได้เป็นคนบ้า ไม่ได้เสียสติใด ๆ ทั้งสิ้น เธอเล่าให้ฟังว่า เธอมีปัญหาชีวิตต้องระหกระเหินออกจากบ้านมา และระหว่างทาง เธอโดนข่มขืน ทุกคนรังแกเธอเสมอ ด่าว่าเธอต่าง ๆ นา ๆ เธอจึงต้องแกล้งปกป้องตัวเองด้วยการทำตัวเป็นคนวิกลจริต ให้คนกลัวและอยู่ห่าง ๆ เธอ
    เธอมีการศึกษานะ พูดภาษาอังกฤษเก่งมากด้วย เธอบอกเธอพูดได้ ถ้าเธอบ้าเธอจะพูดภาษาอังกฤษได้อย่างไร ผู้เขียนก็แกล้งพูดกับเธอเป็นภาษาอังกฤษเพื่อทดสอบ เธอตอบคำถามได้หมดอย่างถูกต้อง

    หลังจากนั้นผู้เขียนและครอบครัวก็นำอาหาร เครื่องนุ่งห่มดี ๆ ไปให้เธอ วันนั้นเป็นวันที่ผู้เขียนได้รับคติธรรมมุมมองที่ถูกต้องในเรื่องของความรัก ซึ่งผู้เขียนเคยแค่คิดว่าความรักคือสิ่งที่สวยงามในทุกรูปแบบนะ แต่วันนั้นเธอรับของไป ร้องไห้ และพูดว่า

    " คุณรู้ไหม ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ คุณกำลังทำร้ายหนู ด้วยความรักของคุณที่มีให้หนูนะ ......คุณเคยคิดบ้างไหม ว่าหนูจะรู้สึกอย่างไรที่เวลาเจอคนดี ๆ แบบคุณ เพราะความรัก ความเมตตาที่คุณให้ มันทำให้หนูต้องคอยชะเง้อหาคุณทุกวัน ว่าวันไหนหนูจะได้พบคุณอีก ต้องเฝ้ารอด้วยความทุกข์ใจที่อยากพบคุณ แล้ววันหนึ่งในที่สุด คุณก็ต้องจากหนูไปตามเส้นทางของคุณ ปล่อยให้หนูต้องทุกข์ทรมานจิตใจอย่างแสนสาหัสที่ต้องคิดถึงคุณ คุณกำลังทำร้ายหนู คุณได้ยินไหม "

    ผู้เขียนอึ้งกับคำกล่าวของเธอ พร้อมได้คติ ได้มุมมองที่แท้จริงของชีวิต จากผู้หญิงที่ใคร ๆ ก็เรียกเธอว่า หญิงบ้า คนนี้
    จริงสินะ เราไม่เคยคิดหรอกว่า สิ่งที่เราทำดี มอบความรักที่บริสุทธิ์ใจให้กับผู้ใด มันจะสามารถไปสร้างความทุกข์ให้เขาแทนความสุขที่พึงน่าจะได้ มุมมองนี้คนส่วนใหญ่มองข้ามไปเสียถนัดใจ
    ความรัก ความเมตตาที่เราให้หญิงผู้นี้ กำลังทำร้ายเธอ อย่างที่เธอพูดจริง ๆ สมแล้วที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ " ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีทุกข์ " ไม่ว่ารักนั้นจะบริสุทธิ์สักปานใด และในรูปแบบใด มันย่อมสร้างความทุกข์ให้กับทุกผู้ทุกนาม หาใข่ความสวยสดอย่างที่ใจเราคิดเลยสักนิดจริง ๆ

    และแล้ว หลังจากนั้น ผู้เขียนกลับไปที่นั่น ก็หาเธอไม่เจอเสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่เธออยู่ที่นั่นมานาน เธอตัดสินใจจากไปเอง เพื่อจะได้ไม่มีทุกข์จากความรักที่ผู้อื่นมอบให้ เดินไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงของชีวิต
    หญิงบ้าคนนั้น สอนให้ผู้เขียนรู้จักคำว่า ความรัก ในมุมมองที่ถูกต้อง ผู้เขียนได้ธรรมข้อนี้จากเธอต่อหน้าพระมหาเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
    นี่แลคือ คำตอบ ที่หลายท่านสงสัยว่า ทำไมผู้เขียนและน้องจึงชอบปิดทองหลังพระ ทำไมจึงไม่ปรากฏตัว

    พอเขียนเรื่องของเธอผู้นี้ ก็ทำให้นึกถึงเคสจริงที่น้องเห็น เรื่องของการข่มขืน กรรมที่ผู้กระทำจักได้รับทุกชาติทุกภพคราบเท่าที่ตายังไม่เห็นธรรม ท่านทราบหรือไม่ว่าภพนี้ บุคคลที่กระทำการแบบนี้ ได้รับผลเช่นไร บางราย ต้องเกิดมาชดใช้กรรมด้วยการเกิดเป็นผู้หญิงในภพต่อมา....เป็นมะเร็งในช่องท้อง เลือดและหหนองไหลออกมาไม่หยุด ทรมานแสนสาหัส นี่คือสิ่งที่เป็นเรื่องจริงเสียงจริง บางราย ใช้ความรักไปในทางที่ผิด ใครขัดขวางความรักของตนเอง ก็จ้างคนไปทำร้ายและข่มขืนเขาเป็นการสั่งสอน ผลที่ได้รับ เลือดรอบเดือนออกไม่หยุดทั้งเดือนหลาย ๆ เดือน แพทย์ไม่สามารถรักษาให้หยุดได้ ส่งผลให้สุขภาพกาย สุขภาพจิตเป็นไปในทิศทางที่ไม่ดี สร้างความทุกข์ ความทรมานให้เป็นอย่างมาก

    บางเคสเคยทำร้ายร่างกายผู้หญิงด้วยตัณหาราคะ ผลที่ส่งมาเคยทำร้ายเขาไว้จนบอบช้ำทั้งตัวเช่นไร ชาตินี้ก็ทุกข์ทรมานกับโรคภัยที่รุมเร้าทั้งตัวสารพัดโรค สร้างความทรมานให้สังขารทั้งร่าง เฉกเช่นเดียวกัน ทุกอย่างทุกเคสกฏแห่งกรรมไม่เคยทำร้ายผู้ใดเกินเหตุ เพียงแต่ต่างกันในรูปแบบที่ได้รับเท่านั้นเอง ส่วนผลยังคงเดิมตามที่ท่านทำไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
    กฏแห่งกรรมไม่เคยละเว้นผู้ใด จนกว่าผู้สร้างกรรมนั้นจะมีดวงตาเห็นธรรม สาธุ

    เสี่ยงเกินไปไหม.....หากคิดจะทำ

    เล่าสู่กันฟัง สบาย ๆ สไตล์ ....ศศิริยะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2008
  16. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ไปเจอข้อความดี ๆ จาก อาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เลยขอนำมาฝากทุกท่านต้อนรับวันดี ๆ ของศาสนาค่ะ

    "ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90 % ดูตัวเองแค่ 10 %"
    คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น .... จริงไม๊นะ ?
    พระอาจารย์สอนคนชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น

    โดย พระอาจารย์
    มิตซูโอะ คเวสโก

    อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามากๆ ดูตัวเองมากๆ
    "ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90 % ดูตัวเองแค่ 10 %"
    คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น
    เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น

    กลับเสียใหม่นะ ดูคนอื่นเหลือไว้
    10 %
    ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร

    เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ

    ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง
    90 %

    ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง

    โบราณพูดว่า เรามักจะเห็น ความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม

    มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มากๆ

    เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10
    เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย
    10
    จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม

    เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมากๆ

    และตำหนิติเตียนตัวเองมากๆ

    แต่ถึงอย่างไรๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ


    พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น

    ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมากๆ

    เช่น เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจ

    แล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจ


    ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก

    รีบแก้ไข ระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน

    เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร ก็สักแต่ว่า ใจเย็นๆ ไว้ก่อน

    ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่ ..... ไม่แน่

    อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้

    เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้

    สักแต่ว่า ..... สักแต่ว่า ..... ใจเย็นๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูด


    ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน

    เมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว

    จึงค่อยพูด จึงค่อยออกความเห็น

    พูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา

    ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด

    ทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น

    ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง

    ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร

    มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป


    เพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้าน

    ก็สงบๆ ๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิดๆ ๆ

    ดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มากๆ
    พยายามแก้ไข พัฒนาตัวเรา ..... นั่นแหละ


    เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน

    เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา

    ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ

    หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด

    มีแต่ยินดี ยินร้าย
    พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน
    อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวันๆ ก็หมดแรง


    ระวังนะ

    พยายามตามดูจิตของเรา รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก

    ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา
    แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา..... ก็เรื่องของเขา

    อย่าเอามาเป็นอารมณ์

    อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา


    ดูใจเรานั่นแหละ

    พัฒนาตัวเองนั่นแหละ

    ทำใจเราให้ปกติ สบายๆ มากๆ

    หัด
    -ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง
    ไม่มีอะไรหรอก

    ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา

    คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข



    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    รู้ในกรรมในอดีต รู้ในกรรมในปัจุบัน รู้ในกรรมในอนาคต
    รู้ในทุกข์ในอดีต รู้ในทุกข์ในปัจุบัน รู้ในทุกข์ในอนาคต
    รู้ในใจในปัจุบัน รู้ในใจในอดีต รู้ในใจในออนาคต
    ผู้รู้ก็รู้อยู่ ผู้ที่ไม่รู้ก็รู้อยู่ แต่ผู้ที่รู้แล้วบอกว่าไม่รู้ แต่ผู้ที่ไม่รู้บอกว่ารู้แล้ว
    ที่ว่าสุขนั้นก็เป็นทุกข์ ท่านมีความสุขได้นานแค่ไหนหนอ ท่านอยากมีสุขมากแค่ไหนหนอ ตามหาความสุขเหนื่อยไหมหนอ
     
  18. แพน้อย

    แพน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
    หัวใจของพระพุทธศาสนาสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมคือ การพ้นทุกข์ เข้าถึงอริสัจ 4 ได้ดวงตาเห็นธรรม เข้ากระแสธรรมเป็นพระอริยบุคคล 4 ระดับ
    1.พระโสดาบัน
    2.พระสกิทาคามี
    3.พระอนาคามี
    4.พระอรหันตร์
    ปิดอบาย ไม่ไหลลงต่ำอีก

    เนื้อแท้ของการปฏิบัติธรรมเป็นการปฏิบัติ เพื่อ ลด ละ เลิก แต่ถ้ายังเป็นไปด้วยการเพิ่ม ยึด และ ยกตัวตน นับว่าเป็นการเดินผิดเส้นทางของศาสนาพุทธ


    การช่วยเหลือคน ช่วยด้วยด้วยใจช่วยด้วยพลังใจ นับเป็นเรื่องดีน่าสรรเสริญ เพราะทรงพรหมวิหาร 4
    1. เมตตา ปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับความสุข
    2. กรุณา ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
    3. มุทิตา ยินดีที่เห็นผู้อื่นได้ดีกว่า
    4. อุเบกขา การวางใจเป็นกลาง การวางเฉย

    การช่วยเหลือคนที่มีความทุกข์เป็นการต่อกำลังใจให้คนที่ต้องการที่พึ่งทางใจ เป็นแขนขาช่วยพยุงยามอ่อนล้า เมื่อเดินพบทางตันของชีวิต ฉะนั้น การแนะนำธรรมที่ถูกต้องจึงนับได้ว่าเป็นเรื่องยากยิ่งนัก สำหรับผู้ที่ยังคงมีอัตตา มีศีล8ไม่บริสุทธิ์ และ ฟุ้งธรรม แนะนำธรรมทั้งที่ยังไม่มีธรรมในตน ซ้ำยังไม่ได้เป็นอริยะ หรือ ไม่เคยมีโอกาสได้บรรลุธรรมใดใดเลย

    การแนะนำธรรมผิดจึงเป็นดาบ 2 คม สำหรับทั้งผู้แนะนำ และผู้รับคำแนะนำ ส่วนกรรมเป็นของผู้แนะนำไป และจะทวีค่าต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ผู้แนะนำยังคงเดินผิดทางพระไตรปิฏก หากินกับพุทธศาสนา ให้คนเชื่อกับเรื่องงมงาย หาเหตุผล หาต้นปลายไม่ได้

    อย่าลืมว่า คนเราก่อนหน้านั้นเคยเกิดมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชาติแล้ว เจ้ากรรมนายเวรนับไม่ถ้วน การแก้กรรมแค่ครั้งเดียว วาระเดียว ไม่เป็นการแก้ทุกข์ที่ถูกทาง เรื่องนี้จบ ก็ยังคงมีเรื่องใหม่ทยอยเข้ามาไม่มีจบสิ้น

    เป็นการดีกว่าที่ชักชวนให้ทุกคนหันมาถือศีล 5 ศีล 8 ปฏิบัติธรรม มีสมาธิ มีปัญญาเป็นของตน เพื่อให้ทุกคนสามารถ สู้กับทุกข์ สู้กับกรรมที่เข้ามา และมีสติมีธรรมคุ้มครองตน อันเป็นทางมรรค 8 ที่พระพุทธเจ้าทรงดำรัสว่า "ตราบใดที่ยังมีผู้เดินตามมรรค 8 ตราบนั้น โลกไม่ว่างจากอรหันตร์"

    คุณsasiriya เห็นด้วยกับแพน้อยมั้ยคะ
    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กรกฎาคม 2008
  19. รัตมา

    รัตมา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมเป็นสมาชิกใหม่ครับมีเรื่องอยากปรึกษาศศิริยาไม่ทราบต้องติดต่อทางใหนดี อีเมล์ผมคือ sulakhana@hotmail.com ขออนุโมทนาบุญกับคุณและลูกสาวด้วยครับ
     
  20. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ดิฉันเพิ่งเป็นสมาชิกได้ไม่นาน ไม่รู้จักใครในเว็บเป็นการส่วนตัว

    แต่บังเอิญญาติมีปัญหา ได้เมล์ไปถามคุณศศิริยะ (แนะนำให้เมล์ไปจะเร็วกว่าทิ้งอีเมล์ไว้ในหน้ากระทู้นะคะ) เพราะได้รับการตอบกลับเร็วมากๆ

    ก็ได้ทราบว่ากฎกติกาเป็นดังนี้นะ อ่านแล้วก็เข้าใจได้ว่าหากดูฟรี คงเสียเวลาแต่ละวันไปเยอะเหมือนกันแฮะ กว่าจะถึงคิวคนที่เดือดร้อนจริงๆ


    เมื่อทำตามกติกาเรียบร้อยก็ได้คำตอบ ซึ่งก็เป็นคำตอบที่เป็นจริงแท้ และไม่ได้งมงาย
    ดิฉันก็ฟอร์เวิดเมล์นี้ไปให้ญาติที่มีปัญหาเขาอ่านดู ส่วนเขาจะทำตามหรือไม่ ได้ไม่ได้อย่างไรนั้น คงไปบังคับเขาไม่ได้


    เรื่องค่าดูนั้นหากคิดว่าเป็นตัวเงินมันก็เป็นมูลค่าหนึ่ง ซึ่งบางคนก็ว่าถูก ว่าแพงต่างกันไป
    (แต่ก็แอบตกใจเหมือนกันนะ อิๆ)

    แต่ก่อนจะกดโอนเงินก็ตั้งใจอธิษฐานแผ่เมตตาและอนุโมทนาไว้ล่วงหน้าเลย


    ก็เป็นสิ่งที่จะเล่าสู่กันฟังเท่านั้นล่ะจ้ะ ว่าเขาไม่ได้ช่วยแก้กรรมให้ใครเลย เขาเพียงแค่มองเห็นและบอกทางให้ แต่เมื่อบอกแล้ว จะไปถึงทางนั้นได้ไหม ก็เป็นเรื่องของคนๆนั้นแล้วแหละทีนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...