ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19



    ตามอ่านนานแล้วเมื่อไหร่น้องเค้าจะตอบบ้าง ใครได้รับความช่วยเหลืออย่างไรบอกมาบ้างซิค่ะ
     
  2. คมธันวา

    คมธันวา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +41
    ใช่ครับ เมื่อไหร่น้องจะสงเคราะห์คนตามที่โพสไว้บ้าง
    เห็นบอกว่าแต่ละคนดูเพียงไม่กี่นาทีก็รู้แล้ว
    ช่วยแจ้งชื่อคนที่ดูแล้วให้ทราบด้วยครับ
    ผมตามอ่านทุกวันเลย รวมทั้งอีเมลล์ที่ให้ไว้กับน้อง
     
  3. จิระธรรม

    จิระธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ขออนุโมทนาบุญกับสิ่งที่คุณ ศศิริยะ กับลูกสาว กำลังช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยครับ

    และรบกวนช่วยแนะนำด้วยครับว่าผมควรจะปฏิบัติกรรมฐานในแนวทางไหนใน กรรมฐาน๔๐ jirapanon@yahoo.com
     
  4. แม่ลูกตาล

    แม่ลูกตาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    784
    ค่าพลัง:
    +1,206
    ขออนุโมทนา สาธุค่ะ
    อยากให้น้องช่วยแนะแนวทางในการแก้ไขในกรรมของดิฉันด้วยค่ะ ชีวิตแย่ค่ะ ลูกสาวก็ยังเล็กค่ะ
    ช่วยติดต่อกลับเบอร์นี้นะคะ 0832317857
    ส่วนทางเมลล์ sarisa94@chaiyo.com ค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
    ขออำนาจพระรัตนตรัย จงบันดาลบุญข้าพเจ้าให้ถึงแก่ครอบครัวคุณศศิริยะ ด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2008
  5. pawan

    pawan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +19
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
    ดิฉันเคยเขียนมารบกวนตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่ได้ข่าวคราวยังไงช่วยติดต่อ email นี้ได้มั้ยคะ
    deesuk-ann@hotmail.com
     
  6. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    สวัสดีค่ะ ท่านกัลยาณมิตร ท่านผู้มีกุศลจิต ไมตรีจิตทุกท่าน<O:p</O:p
    ก่อนอื่นต้องขออภัยที่เงียบไป เนื่องจากนับตั้งแต่ก่อนน้องปิดเทอม จนถึงวันนี้<O:p</O:p
    ผู้เขียนและน้องก็ได้ทยอยช่วยเหลือท่านที่เดือดร้อนจริง ๆ และมีความจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องรับความช่วยเหลือก่อนตามวาระกรรม โดยการพิจารณาของน้องเขาเอง ไปได้จำนวนหนึ่งมากพอสมควร แต่ที่ล่าช้าอย่างที่มีผู้สงสัยว่า ทำไมน้องใช้เวลาไม่มาก ป่านนี้ยังไม่ครบทุกคนหรือ ทำไมไม่แจ้งรายชื่อออกมา ขอตอบรวมที่ตรงนี้เลยว่า เมื่อไม่มีการเรียกร้องสิ่งตอบแทนใด ๆ กระแสผู้คนก็เข้ามาขอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก เป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้นการที่จะให้ครบนั้นคงเป็นไปได้ยากในขณะนี้ จึงต้องเลือกเฉพาะเคสที่สำคัญและถึงวาระกรรมนั้น ๆ อีกทั้งน้องใช้เวลาน้อยก็จริง แต่ผู้เขียนนี้แหละที่ต้องใช้เวลามากในการตอบกลับไปอธิบายรายละเอียดให้เข้าใจ เพื่อจะได้ไปปฎิบัติกันอย่างถูกต้องไม่สับสน และทำผิด ซึ่งตัวผู้เขียนเองมีภาระหน้าที่ส่วนตัวอยู่ จะมีเวลาว่างก็แค่เพียงวันละ ไม่เกิน 1-2 ช.ม. ที่จะมาช่วยตรงนี้ มิได้มีเวลาตรงนี้ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ขอรบกวนทำความเข้าใจกันใหม่ และอีกอย่างที่ไม่ออกมาแจ้งรายชื่อผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้ว ก็เพราะผู้เขียนต้องเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นด้วย ไม่ใช่เป็นผู้ช่วยแล้วจะสามารถนำเรื่องออกมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหลายท่านก็ไม่ปรารถนาเผยแพร่โดยพร้อมเพรียงกัน อันเนื่องมาจากเหตุผลไม่อยากโดนผู้มีจิตอกุศลออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องส่วนตัวของพวกเขาไปในทิศทางที่ไม่ดี ดังเช่นที่ผู้เขียนเคยโดนปรามาสไว้ ก็ต้องเคารพในความรู้สึกตรงนี้ของท่านเหล่านั้นไปตามระเบียบ ทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ เรื่องผู้เขียนอยากหยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง เพราะกรรมของบางท่านสามารถเป็นอาจารย์สอนให้อุทาหรณ์ในเรื่องของกฎแห่งกรรมที่น่าสนใจและดีมาก ๆ ทีเดียว ยิ่งกว่าเรื่องที่ผู้เขียนยกมาเล่าให้ฟังด้วยซ้ำ แต่ต้องขอแสดงความเสียใจในผู้ที่อยากทราบ ว่าผู้เขียนไม่สามารถทำได้ในขณะนี้ ต้องเคารพเจ้าของเรื่องราวนั้น ๆ <O:p</O:p
    และต้องขอประกาศมา ณ ที่นี้ว่า ผู้เขียนและน้องได้ยุติการให้ความช่วยเหลือท่านที่เหลือและไม่ได้ติดต่อกลับไปเพียงเท่าที่ผ่านมา ได้หลายวันแล้ว เนื่องจากน้องเขาทราบด้วยตัวเขาเองว่ามีผู้จิตไม่เป็นกุศลแทรกเข้ามาเพื่อผลบางประการ อีกทั้งยังมีเสียงครหาปรามาสออกมาเป็นระยะ ทั้งที่ยังอยู่ในกระทู้และที่ถูกเวปลบทิ้งไป น้องเขาทราบหมดทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เข้ามาอ่านอีกเลยนับจากวันที่เข้ามาตอบด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่วันนั้นเขาก็อ่านเพียงแค่ผ่าน ๆ ไม่กี่ข้อความเท่านั้น ด้วยซ้ำ<O:p</O:p
    ผู้เขียนและน้องก็ไม่ได้หวั่นไหวกับคำครหาปรามาสแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อยากเป็นผู้เปิดประตูนรกภูมิให้บุคคลเหล่านั้นแค่นั้น อีกทั้งเมื่อมาพิจารณาแล้ว และผู้เขียนก็ได้ช่วยเหลือตามที่กล่าวไว้แล้ว ก็ไม่มีเรื่องจำเป็นที่ต้องทำอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องมานั่งอ่านคำปรามาสไร้สาระพวกนั้นให้เสียเวลา อย่างที่ประกาศแต่ต้นว่า นี่ไม่ใช่อาชีพของผู้เขียนและลูก ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ผู้เขียนก็ยังสามารถหาเลี้ยงตัวเองและลูกให้มีสุขได้ตามอัตภาพ ไม่จำเป็นต้อง หากิน ทางนี้หรือด้วยการหลอกลวง สร้างกระแสความดังอะไรให้ตัวเองและลูกอย่างที่มีผู้กล่าวปรามาส น้องเป็นผู้ปิดแฟ้มทั้งหมดด้วยตัวเอง<O:p</O:p
    การปิดทองต้องหน้าพระให้ชาวบ้านรู้ ต้องออกมาพูดกล่าวท้าประลองกันเหมือนรายการวาไรตี้ นั่นไม่ใช่วิสัยของผู้เขียนและลูก อีกทั้งบางเรื่องราวที่ถูกท้าทายว่าถ้าแน่จริงรู้จริงก็ออกมาพูดสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้ท่านทำความเข้าใจเสียใหม่อย่างถ่องแท้ ในบางเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนท่านก็มิต้องการให้เป็นที่เปิดเผยอย่างกว้างขวาง ผู้เขียนและลูกไม่อาจกล้าสร้างกรรมให้ตัวเองเพียงเพื่อสนองความต้องการแบบไร้สติ เพียงเพื่อความอยากดัง หรือสนุกสนานเฮกันเวลารู้ผล แต่บุคคลที่ใกล้ชิดในสังคมก็มักได้รับรู้และได้ร่วมพิสูจน์ในสิ่งที่น้องบอกด้วยความไม่ลบหลู่ในจิตกันอยู่เป็นเนือง ๆ อยู่แล้ว ไม่จำเป็น<O:p</O:p
    ก่อนที่ผู้เขียนยุติการให้การช่วยเหลือ ก็มีการบอกกล่าว บางท่านที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ และผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือบ้าง ก็มีเสียงขอร้องกลับมาว่าอยากให้ผู้ที่ไม่ได้สัมผัสกับน้องเหมือนที่ตัวเองได้รับซึ่งเป็นผู้มีจิตกุศลกรรมที่ดีจริง ๆ ได้มีโอกาสบ้าง จะได้รู้และมีโอกาสหลุดพ้นแบบตนเอง นี่คือเสียงที่ทำให้ผู้เขียนซึ่งเดินหันหลังให้แล้วอย่างถาวรต้องเริ่มไหวหวั่นและเหลียวหลังมาเล็กน้อย ต่างก็ให้คำแนะนำที่ดีในการสกรีนคน ร่วมด้วยช่วยกันสามัคคีกันดีเหลือเกิน ผู้เขียนก็ยังไม่รับปาก จนกระทั่ง เมื่อวันเสาร์ที่ 7 -6 -51 ที่ผ่านมาผู้เขียนไปทำธุระส่วนตัวอยู่นอกบ้าน เวลาประมาณ สิบโมงเช้า มีสายโทรศัพท์จากผู้ได้รับความช่วยเหลือไปท่านหนึ่ง โทรเข้ามาบอกจะขอรายงานผลให้ผู้เขียนทราบด้วยความดีใจ บอกว่าหลังจากที่ไปทำตามที่น้องแนะนำ วันนี้ลูกของเขาซึ่งพูดไม่ได้เสียงไม่ออกมากว่าหกปี จนคุณหมออาจฟันธงเป็นออทิสติกร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่น้องบอกเด็กคนนี้จะเปล่งเสียงพูดได้ เพราะที่เขาพูดไม่ได้เนื่องมาจากกรรมที่ตามมาทันวาระนั่นเอง แต่ระยะเวลาแก้ไขตามที่เจ้ากรรมนายเวรบอกค่อนข้างนาน 6 เดือน ผู้เขียนคาดและบอกเขาว่าปีใหม่เขาจะได้ยินเสียงลูกเป็นของขวัญที่ดีสำหรับเขานะหากทำตามที่น้องพูด หรืออาจมีปาฎิหาริย์เกิดขึ้นก่อนกำหนดเหมือนรายอื่น ๆ ก็ได้ อย่าท้อ นี่คือคำพูดที่ผู้เขียนกล้าพูดตรงนี้ว่าเป็นผู้พูดกับคุณแม่ท่านนั้นด้วยตัวเอง และขณะนี้เพียงแค่สองอาทิตย์ที่เขาตั้งใจทำด้วยจิตกุศลอันแรงกล้า วันนี้เด็กชายผู้นั้นเริ่มถูกปลดปล่อยพันธนาการแห่งกรรมนั้นให้เปล่งเสียงพูดออกมาให้ผู้เป็นแม่ชื่นใจเป็นของขวัญก่อนปีใหม่ล่วงหน้าแล้ว เกินคาด ผู้เขียนและลูกต้องขอแสดงความยินดีด้วยกับครอบครัวของบุคคลที่กล่าวถึง เขาบอกว่าเคยเข้ามาเขียนกระทู้ขอบคุณผู้เขียนแล้วเป็นกระทู้ใหม่แต่อาจมีคนอ่านเจอน้อยมาก ไม่ทราบไปอยู่หน้าไหนแล้ว และเดี๋ยวถ้าว่างจากงานเขาจะเข้ามาเขียนแจ้งผลด้วยตัวเองในกระทู้ของเขา <O:p</O:p
    วันนี้อย่างน้อยผู้เขียนและลูกที่เคยทำให้เพียงแต่ผู้คนรอบตัวในสังคมได้ประจักษ์ในตัวน้อง วันนี้ผลออกมาเป็นที่ประจักษ์ในสังคมระดับสาธารณะชนแล้วว่า ผู้เขียนและลูกเป็นอย่างไร คำว่าของจริง กับหลอกลวงสร้างกระแส มันมีความแตกต่างกันอย่างไร <O:p</O:p
    ผู้ที่ได้ทราบเรื่องนี้ต่างก็ยินดี และเรียกร้องให้ผู้เขียนและน้องหันกลับมาอีกครั้ง<O:p</O:p
    แต่ให้ตั้งกติกา โดยเก็บค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง เพื่อ<O:p</O:p
    - เป็นค่าเสียเวลาให้น้องที่ต้องเสียเวลาส่วนตัวไปกับบางท่านที่ไม่ได้มีความตั้งใจจริงที่จะแก้ไข เพียงแค่อยากรู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ซึ่งเคสนี้เจอมาแล้ว <O:p</O:p
    - เพื่อเป็นการสกรีนคนให้ลดจำนวนลง และพ้นจากคำครหา ฝนตกไม่ทั่วฟ้าและคนที่ไม่ได้ทุกข์จริงให้น้อยลง<O:p</O:p
    - เพื่อลดปัญหาผู้ที่มีเจตนาอื่นแอบแฝงให้ลดลงไป<O:p</O:p
    - เพื่อให้น้องนำเงินส่วนหนึ่งหลังจากปรึกษาเขาแล้วน้องบอกว่าจะนำไปซื้อข้าวสารที่แพงขึ้นทุกวันๆ ไปทำบุญให้สถานปฎิบัติธรรมในที่ต่าง ๆ ให้ผู้ที่ไปปฎิบัติได้มีรับประทานกันอย่างพอเพียงในระหว่างปฎิบัติธรรม<O:p</O:p
    ขอประกาศให้ทราบกันด้วยความจริงใจ และชัดเจน ว่านี่ไม่ใช่เป็นการ หากิน เพราะไม่ใช่อาชีพอย่างที่บอก และไม่ได้เป็นการหันกลับมาเองหรือคิดเอง หากใครจะออกมาปรามาสว่ามาทำมาหากินสร้างกระแส ก็ขอให้กลับไปอ่านทบทวนเสียใหม่ และที่สำคัญ การหันกลับมาครั้งนี้มิใช่เป็นการถาวรเป็นอาชีพ น้องบอกว่าจะขอกลับมาแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งยังไม่แน่ใจว่ากี่วัน<O:p</O:p
    ท่านใดที่คิดว่าตนเองมีความทุกข์มีกรรมที่อยากรู้เหตุแห่งกรรม และอยากแก้ไขจริง ๆ ด้วยความตั้งใจ ขอย้ำ ด้วยความตั้งใจ และสามารถรับกติกานี้ได้ และต้องการร่วมกุศลกับน้อง ก็ขอให้ติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงเข้ามาที่ sasiriya6699@yahoo.com<O:p</O:p
    **** หากท่านใดที่มิได้ทุกข์จริง เพียงแค่อยากรู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ขออนุญาตแนะนำ ขอให้ท่านเก็บเงินอันมีค่าของท่านไว้ดำรงชีพในยุคข้าวยากหมากแพง<O:p</O:p
    เพราะไม่ว่ามากหรือน้อยเงินทุกบาทผู้เขียนคิดว่าน่าจะมีค่าในการดำรงชีวิตของท่านได้บ้างไม่มากก็น้อย และเพื่อให้ผู้ที่ทุกข์จริงได้มีโอกาสได้รับคำชี้แนะจากน้องด้วย ในระยะเวลาจำกัดนี้ ซึ่งผู้เขียนไม่สามารถกำหนดแทนน้องเขาได้<O:p</O:p
    * ส่วนท่านที่อยากสนทนาธรรม อยากรู้จัก ผู้เขียนก็ยินดีค่ะ แต่กรุณาส่งหัวข้อเข้ามาว่าสนทนาธรรม จะได้แยกง่ายและเป็นระเบียบกว่าที่ผ่านมา และจะพยายามติดต่อกลับไป แต่อาจช้าหน่อยนะคะก็ต้องขออภัยล่วงหน้า ค่ะ<O:p</O:p
    ท้ายนี้ ขอให้ผลบุญกุศลที่น้องเขาสร้างจนเป็นที่ประจักษ์ในสาธารณะชนแล้วนี้ จงส่งผลให้ทุกท่านที่มีจิตอันเป็นกุศล จงมีแต่ความสุข มีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งทางแห่งความหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานโดยถ้วนหน้าในชาตินี้ภพนี้ด้วย เทอญ สาธุ.<O:p</O:p
    ศศิริยะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ( ท่านที่อยากทราบชื่อน้องและถามกันเข้ามาเยอะ ต้องขออนุญาตไม่บอกนะคะ ก็เรียกเขาไปแบบนั้นแหละค่ะ ดีแล้วเขาบอก เพราะเขาไม่อยากดัง ไม่อยากให้ใครยึดติดชื่อเขาค่ะ เวลาที่เขาหันหลังกลับจะได้ไม่มีปัญหาชื่อติดอยู่ในใจของใคร เขาว่างั้น ก็คงต้องว่าตามกันค่ะว่า ชื่อนั้นสำคัญไฉน สาธุ ) <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2008
  7. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ....อนิจจามวลมนุษย์ในโลกหล้า
    การณ์ภายหน้าเป็นอย่างไรมิรู้เห็น
    ใช้ชีวิตต่อไปอย่างที่เป็น
    ดุจดั่งเช่นผู้ประมาทในครรลอง
    ....สิ่งที่เกิดมานั้นแค่ตัวอย่าง
    ยังเกลื่อนกลาดดาษดา น่าอดสู
    หากของจริงตามมาคงน่าดู
    ต่างวิ่งกรูหนีกันให้วุ่นวาย
    ....ทั้งซากตึก ทั้งน้ำลม คร่าชีวิต
    ต้องยึดติดที่สูงน่าใจหาย
    หากลงมาเจอน้ำชีพมลาย
    ผู้ทักทายหนีไม่พ้นชาละวัน
    ....หนีอย่างไรก็หนีไปไม่พ้น
    ต่างดิ้นรนอดอยากน่าใจหาย
    ทั้งเงินทองเพชรนิลล้วนกลับกลาย
    ค่ามลายหมดสิ้นทั้งแผ่นดิน
    ....หากวันนี้ได้เกิดเป็นมนุษย์
    ใจลึกสุดยังไม่มีธรรมสั่งสอน
    สร้างกรรมชั่วกรรมเลวทุกบทตอน
    จักวิงวอนอย่างไร ไม่รอดเอย......

    ........มีอยู่นิดเดียวที่แปลกไปจากผู้อื่น หาให้เจอ แต่ก็ไม่ได้บอกอะไร แค่อ่านเล่นเขียนเล่นสบาย ๆ สไตล์ ศศิริยะ.......แค่นั้น สาธุ
     
  8. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    เข้าใจที่คุณศศิริยาเขียนมาเลยค่ะ ดิฉันนึกห่วงทุกครั้งที่มีคนเขียนปรามาสคุณและลูก กลัวว่าจะรับไม่ได้เหมือนกับที่คนดี ๆ หลายคนที่มีจิตเป็นกุศลออกมาช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่
    หวังผลตอบแทนเหมือนคุน จนต้องหนีหายไปกันหมด ดิฉันขอเอาใจช่วยค่ะ และขอคุณพระรัตนตรัยคุ้มครองคุณและครอบครัวทุกคนค่ะ
     
  9. ตรงแหน่ว

    ตรงแหน่ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +283
    ครับ...ผมเองได้แอบ ๆ อ่าน ๆ มาตั้งแต่แรกที่กระทู้นี้ได้เปิดขึ้นมา พลางก็คิดลุ้น ๆ อยู่ว่า จะมีประโยคบรรทัดทำนองนี้เกิดขึ้นกับกระทู้เยี่ยงนี้มั้ยน้อ แต่แล้ว...ก็จริง ๆ ด้วย

    ไม่แปลกใจเลยครับ เพราะหลาย ๆ ท่านที่มีสัมผัสพิเศษ ต่างก็ตกที่นั่งแบบนี้แทบทั้งสิ้น สรุปแล้วก็ต้องมี...พรหมวิหาร 4 กันให้เป็น

    ขึ้นชื่อว่า "กรรม " ตราบใดที่ยังมีขันธ์ 5 ไม่มีคำว่า "หมดกรรม" ขนาดพุทธองค์ก่อนจะดับขันธปรินิพพาน ท่านก็ยังมีเศษกรรมตามเล่นงาน ทั้ง ๆ ที่กระหายน้ำ แต่ก็ไม่อาจเสวยน้ำขุ่น ๆ นั้นได้ พระองค์ท่านก็ยัง ใช้เวลา คอยให้น้ำใสซ่ะก่อน

    ประสาอะไรกับน้ำหน้าคนธรรมดาอย่างเรา ๆ จะไปเหลือเหรอ !! ซึ่งโดยสัจธรรมจริง ๆ แล้วสัตว์โลกล้วน " มี แต่ ไม่เป็น "
     
  10. จื่อหลิง

    จื่อหลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +698
    น่าจะเป็นการบำเพ็ญมาทางด้านนี้มาแต่ก่อนแล้วเด็กจึงมีความสามารถผุดออกมาเร็วขนาดนี้ ดีไม่ดีอาจเปิดจิตไร้สำนึกมากกว่าจิตสำนึกในช่วงปกติก็ได้
     
  11. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ************************************************
    ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้าใจและห่วงใย และมีไมตรีกุศลต่อผู้เขียนและลูก วางใจเถอะค่ะ กว่าที่ผู้เขียนจะมาถึงจุดนี้ชีวิต ณ วินาทีนี้ ผู้เขียนเจอมาทุกรสจนจะเรียกว่าอุเบกก็ได้แล้วกับคำว่า "คน" แต่ก็ยังไม่กล้าใช้คำ(อุเบก)นี้ เพราะผู้เขียนยังใช้ชีวิตธรรมดา ยังมีปรุงแต่งตามสภาวะสังคม ยังไม่ได้โกนผมนุ่งขาวตลอดชีวิต ฉะนั้นแค่คำปรามาสไร้แก่นสารสาระพวกนั้น ไม่ได้มีอิทธิพลกับผู้เขียนและลูกหรอกค่ะ ไม่งั้นคงกลับเข้าป่า ไม่ฟังกระแสเสียงเรียกร้องจากคนที่เป็นทุกข์เป็นครั้งที่สองแล้ว แม้ว่าจะกลับมาในแบบใหม่ก็ตามที ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรสำหรับผู้เขียนและลูกเลย
    แต่บังเอิญอย่างที่บอก เมื่อมันไม่ใช่อาชีพ เราก็ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้า ตะกละตะกลามอยากได้ของใคร รีบตระครุบผลประโยชน์ หรือต้องทำร้ายใครเพื่อรักษาผลแห่งตน แบบดูๆเดาๆทั่วไป หรือจะพูดแบบบ้าน ๆ ก็ ของจริงไม่จำเป็นต้องง้อใคร สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ไม่มีใครมาฉันก็ไม่อดตาย สบาย จริงไหมคะ หากผู้เขียนหามีเมตตาเป็นที่ตั้งสักนิดไม่ คงประกาศทำมาหากินรวยไปแล้วแต่แรก เพราะช่วยไปก็เยอะโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทนนี่คือความจริง
    ทำไมผู้เขียนถึงประกาศยุติในผู้คนเซทแรก เปล่าค่ะ ไม่ได้หมดเมตตา หรือไหวหวั่นคำครหา แต่ วัตถุประสงค์ที่อยู่ในใจผู้เขียนที่ไม่ได้บอกทุกท่านแต่แรกเลยที่ตอบตกลงยินดีช่วยโดยไม่เรียกร้องใด ๆ ก็คือ ผู้เขียนต้องการฝึกจิตของคน ให้พร้อมที่จะเป็นผู้รับที่ดี และในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ให้ที่ดีที่ออกมาจากจิตเบื้องลึกด้วยตัวเองเช่นกัน (ผู้เขียนค่อนข้างเป็นคนขี้เล่นนะ สำหรับคนที่รู้จักกันดีเขาจะรู้ และก็ชอบลองใจคน ทดสอบจิตคนนะ) เปล่า ผู้เขียนไม่ได้อยากได้เงินทองสิ่งของจากใคร เพราะอย่างที่บอกตอนนี้ก็สุขตามอัตภาพ แต่ผู้เขียนคิดเสมอว่า ที่สังคมเราทุกวันนี้มันวุ่นวาย จนผู้คนรวมทั้งเรา ๆ ท่าน ๆ เดือดเนื้อร้อนใจ ไม่ใช่เพราะ ความไม่รู้จักการเป็นผู้ให้ที่ดีหรอกหรือ เมื่อคุณเป็นผู้ให้ที่ดีที่ออกมาจากจิตเบื้องลึกแท้ ๆ ของคุณไม่ได้ มันก็จะตามมาด้วยความเห็นแก่ตัว แก่งแย่งชิงดี ฆ่าฟันกันเพื่อผลประโยชน์แห่งตนในที่สุด นี่ไง หากคุณมีคำว่า รู้จักคำว่า "ให้" กันทุกคน คิดดูสิว่าสังคมแวดล้อมตัวเราลูกหลานเรามันจะน่าอยู่แค่ไหน จริงไหมคะ
    นี่คือเป้าหมายที่จะดูจิตดูใจคน สอนคนด้วยการกระทำแบบลึก ๆ ที่ไม่ได้บอกใคร เพราะหากบอกก็คงไม่รู้ใจคน การรู้จักให้ หากต้องเป็นการวางกฎบังคับ มันก็ไม่ได้ออกมาจากจิต แล้วเมื่อไหร่สังคม "คน" จะยกระดับขึ้นไปเป็น "มนุษย์"โดยสมบูรณ์เสียที จะสงบสุขมีแต่ความเอื้ออาทรกันเสียที ในเมื่อเด็กอายุ 13 ยังบอก เวลาที่ได้ให้ เขารู้สึกหัวใจพองโตอย่างมีความสุขมากเสียกว่าได้รับของมีค่าเป็นไหน ๆ แล้ววันนี้พวกผู้ใหญ่ล่ะ คิดแบบน้องเขาบ้างหรือยัง
    บางท่านที่ได้รับความช่วยเหลือไปก็เป็นผู้รับที่ดี และพร้อมจะเป็นผู้ให้ที่ดี แม้เป็นเพียงคำพูดนามธรรม แค่นี้ผู้เขียนกับลูกก็ซาบซึ้งอิ่มใจแล้ว แต่บางท่านก็ไม่มีเลยแม้คำพูด บางรายหนักไปอีกเหมือนเด็กพออยากได้ขนมก็ร้องฟูมฟายต้องได้ให้ได้ทุกวัน พอได้ไปแม้คำขอบคุณสักคำก็ยังไม่มี อุตส่าห์ถามกลับไปด้วยความห่วงใยว่าเข้าใจถูกต้องไหม ก็ไม่มีคำตอบกลับมาต่างจากตอนร้องขอ บางรายก็แฝงเจตนาไม่ดีอยากรู้เพื่อนำไปปรุงแต่งเพื่อผลบางอย่างแห่งตน (อย่านึกว่าไม่รู้นะ)อันจะนำมาซึ่งความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
    นี่ไงคือเหตุที่ผู้เขียนไม่เล่าถึงวิธีแก้ไข เพราะแม้เรารู้อยู่แล้วว่ากรรมแต่ละคนไม่เหมือนกัน การขอโทษมันก็ต้องต่างกัน แต่ผู้มีจิตไม่ดีก็สามารถนำไปปรุงแต่งตามท้องเรื่องให้ใกล้เคียงกับน้องเพื่อให้ผู้คนเชื่อศรัทธาว่าเหมือนกัน สุดท้ายก็จะไปจบลงที่เรียกร้องเงินทองมากมาย เสียเงินไม่ว่าแต่แก้ไม่ได้นี่สิยิ่งทุกข์หนักกว่าเดิม คุณว่าจริงไหมคะ นี่แหละคือสิ่งที่ผู้เขียนกลัวที่สุด ถึงไม่เล่าในที่สาธารณะ ขนาดเรื่องกรรมในอดีตชาติบางท่านยังไม่อุเบกเลยว่ามันคนละชาติกันแล้ว ยังเกิดความอายไม่กล้าออกมาเล่ากลัวคนประนามเลย ผู้เขียนก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไร นานาจิตตัง อยากนะที่จะเล่าให้รู้ว่าทำกรรมใดส่งผลใด บางเคส ผู้เขียนเองยังอึ้งนึกไม่ถึง มันเป็นอุทาหรณ์ที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังจะสร้างอกุศลกรรม แต่ก็จนปัญญา
    ผู้เขียนบอกทุกท่านที่ได้รับความช่วยเหลือไปเสมอนะ ว่า ที่ดูมั่งเดามั่ง อย่างเก่งก็อ้างอิงธรรมะเปรียบเทียบที่มีอยู่ตามหนังสือนะ ปรุงรสมั่งต่อเติมมั่ง แต่นี่คนหนึ่งก็เรื่องหนึ่งไม่ซ้ำ บางรายกรรมแยบยลสลับซับซ้อนจนผู้เขียนเองก็ นิ่ง ไปเหมือนกันเมื่อได้ฟังจากลูก หากเด็กมีจินตนาการล้ำเลิศพูดเองเออเองได้ขนาดนี้สอดคล้องโยงใยเหตุแห่งผลกรรมได้ขนาดนี้ ผู้เขียนบอกทุกท่านเสมอว่า ฉันให้ลูกมานั่งเขียนนิยายขายดีกว่า คงรวยในพริบตา สบายใจกว่ากันเยอะเลย ท่านว่าจริงหรือไม่
    ขอให้วางใจ ท่านที่เป็นห่วงเป็นใยกันมาว่าเกรงจะโดนทำร้ายให้สาหัสผ่านหน้าจอคอม จากผู้มีอิทธิพลทางจิต บอกน้องเขาแล้วนะคะ ว่าท่านเป็นห่วง น้องเขาหัวเราะยิ้ม ๆ ค่ะ แล้วบอกว่าฝากขอบพระคุณในความห่วงใยแต่ไม่ต้องห่วงหนู หากใครทำได้แบบนั้นน้องฝากบอกไปช่วยชาตินั่งหน้าจอคอมเอารูปโจรใต้ขึ้นมาที่ละคน แล้วจัดการโจรผ่านจอ ช่วยตำรวจดีกว่ามั๊ย ชาติจะได้สงบสุข ตำรวจจะได้ไม่เหนื่อย แถมได้รับยกย่องเป็นวีรบุรุษวีรสตรีด้วย ก็มุกเด็กขำ ๆ กันไป น้องเขาเป็นเด็กขี้เล่น พูดสนุก อย่าถือสา

    โอกาสหน้าคงได้คุยกันใหม่นะคะ
    ศศิริยะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2008
  12. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
    จากการติดตามอ่านกระทู้ ตั้งแต่หน้าแรก มาถึงหน้าปัจจุบัน .. ยังหาแก่นสารของเนื้อหา หามีไม่..
    จุดประสงค์ของการเขียนกระทู้ต้องการอย่างไร .. เหตุใด จึงไม่ชัดเจน

    " ของจริง ไม่ต้องพิสูจน์ "

    อายุเป็นเพียงตัวเลข หาใช่คำชี้ขาดที่จะบ่งบอกได้ว่า ควรปรากฎ หรือ ไม่..
    หากแม้นคิดเพียงว่า มีผู้ต้องการผลประโยชน์ แล้วใย จึงปรุงเต่งกระทู้ ขึ้นมา..

    จริต มนุษย์ นั้น ยากแท้ หยั่งถึง ..

    โปรดใช้วิจารณญาณ และมีสติสัมปชัญญะ อยู่ทุกเมื่อ.. สาธ สาธุ ..
    [​IMG]




     
  13. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    **********************************************
    ขอบคุณค่ะ ที่คอยแอบ ๆ อ่าน ๆ ไม่ต้องแอบก็ได้นะคะ อ่านไปเลยสบาย ๆ ค่ะ อยากวิจารณ์ติชมอย่างไรก็ทำเลยค่ะ อย่าแอบ (smile) แต่ผู้เขียนอาจพิมพ์วรรคตอนไม่สละสลวยจนทำให้บางท่านปวดตาไปบ้างก็ขออภัย เนื่องจากเวลามีจำกัด
    ไม่เป็นไรค่ะ ที่นั่งแบบนี้มันก็น่านั่งดี สำหรับผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อ ศศิริยะ เพราะอย่างที่บอก เป็นคนขี้เล่น พูดธรรมะก็แบบสนุกสไตล์บ้าน ๆ ไม่เคยอ่านหนังสือธรรมะท่องจำจนขึ้นใจเต็มหัวแล้วงัดมาพูดสอนใคร เดี๋ยวคนคิดว่าภูมิธรรมเยอะจะยิ่งวุ่นหนอ ๆ ไปกันใหญ่ (deejai) คนที่เมลล์มาคุย เขาก็บอกพี่คุยธรรมะได้สนุก แต่ได้คติธรรมเยอะ เข้าใจง่ายจัง ผู้เขียนก็ อ้าว...ก้คนมีทุกข์มา จะให้พูดแต่ตัวหนังสือในหนังสือธรรมะ แล้วจะรู้เรื่องกันไหมเล่า แบบนั้นตัวผู้เขียนเองยังไม่รู้จะพูดรู้เรื่อง เข้าใจเองรึเปล่าเล๊ย แล้วคนฟังจะฟังรู้เรื่องไหม ทุกข์อยู่แล้วเจอแบบนี้ก็ยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีก ก็หัวเราะกันสนุกสนานไป

    อีกอย่างก็เป็นคนชอบสอนคนด้วยการกระทำ มากกว่าคำพูด ด้วย เพราะฉะนั้น ที่ๆกำลังนั่งอยู่ ก็นั่งแบบสนุกสนาน ไม่ได้เครียดหรือทุกข์อะไร
    มีสหายธรรมหลายท่านที่รู้จักผู้เขียนมาช้านาน และก็มากด้วยอภิญญา เคยติง ๆ ห่วง ๆ ผู้เขียนว่า คิดดี ๆ นะ หากใครปรามาสน้องมานี่ อาจเจอข้อหาเป็นผู้เปิดประตูนรกให้เขาผู้นั้นเต็ม ๆ เหมือนกันได้นะ ผู้เขียนก็ตอบไปว่า
    "ไม่กลัว" เพราะ คนที่มีอกุศลจิตหากไม่ได้รับรู้ผลแห่งการกระทำเสียบ้าง เมื่อไหร่จักเลิก เมื่อไหร่พระศาสนาจะยาวไกล นรกย่อมรู้เจตนารมณ์ผู้เขียนดี
    ว่า ทำเพื่ออะไร ไม่ได้เป็นผู้ผลักเขาเข้าประตูนรก แต่หากอยากลงไปลิ้มลองด้วยตัวเองว่ามีจริงหรือไม่ ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะฉันประเภทธรรมะปราบมารเสียด้วยสิ มารกลับตัวกลับใจมาอยู่เส้นทางสายกุศลกันก็เยอะแล้ว จะต้องกลัวอะไร ขนาดลงไปต่อแถวเขายังถูกไล่กลับมาแทบไม่ทัน ซี้กันๆ กับผู้คุมเมืองนรกแล้ว ..ก็หัวเราะกันไปสนุกสนาน อีกอย่างที่ผู้เขียนอยากติงมา หากผู้มีความสามารถจริง ๆ หลบลี้หายหน้ากันไปหมดอย่างที่ท่าน ๆ กล่าวกันมา แล้วต่อไปพระพุทธศาสนาจะอยู่ได้อย่างไร คนเข้ามาอยากเริ่มต้นศึกษาธรรม อยากเป็นคนดี ก็กลายเป็นมาได้รับข้อมูลเริ่มต้นยังไม่ทันปฎิบัติก็ผิดทางแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะหลุดพ้นตามเจตนารมณ์แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บางท่านสามารถมาก แต่ไม่กล้าเปิดเผย กลัวครหาว่าบ้า ผู้เขียนก็เลยถามไปว่าหากเป็นแบบนี้เมื่อไหร่ศาสตร์แห่งชีวิตที่แท้จริงแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าท่านจะเป็นที่แพร่หลาย จนต่างชาติผมทองเขาศึกษา พิสูจน์กันจนรู้ข้อเท็จจริงจนเอาไปบรรจุอยู่ในหลักสูตรตำราเรียนจนกว้างขวางแล้ว แล้วพวกเราชาวพุทธล่ะ ทำไรอยู่ มัวแต่กลัวคนจะหาว่าบ้า เพ้อเจ้อ คนไม่มีสติเท่านั้นแหละที่คิดแบบนั้น เพราะกรรมเก่าหนาจนต้องอยู่ใต้โคลนตมไง ซึ่งก็ไม่มากหรืออาจจะมีมาก ก็คิดกันแบบนี้แต่แรกล่ะวันนี้ถึงเป็นแบบนี้กัน
    หากใครปรามาสว่าเรื่องเวรกรรมอดีตชาติการเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องบ้า ๆ ของคนบ้า ๆ คุณลองคิดดูให้ดีด้วยสติ เขากำลังหมิ่นใคร ไม่ได้หมิ่นเราๆท่าน ๆ นะ แต่หมิ่นผู้ที่ค้นพบศาสตร์แห่งความเป็นจริงนี้ได้โดยพระองค์เอง อย่าว่าแต่ประตูนรกเลย มหานรกโลกันต์ก็ไม่ปล่อยให้ขึ้นมาผุดเกิดเป็นสิ่งตอบแทนอยู่แล้ว จะต้องไปรบราอะไรกับใคร ไม่ต้องเหนื่อยเลยนะ
    ผู้เขียนอยากให้ทุกท่านที่เริ่มต้นศึกษาธรรมะ การปฎิบัติสมาธิก็ดี ขอให้มีเป้าหมายไปที่พระนิพพานทางหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนะคะ ขอให้ลบภาพหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ อภินิหารปาจิงโกะ หมอผีไซเบอร์อะไรออกไปจากสมองท่านให้หมด แล้วท่านจะพบทางสำเร็จ
    เกือบสิบปีก่อนผู้เขียนเคยฟังเทปของพระอาจารย์ท่านใดไม่ทราบจำชื่อไม่ได้แล้ว ท่านตอบดีมากนะ โดนใจ มีคนถามท่านว่า ที่ว่าคนฝึกสมาธิมาก ๆ เนี่ยจะกลายเป็นคนบ้า จริงหรือเปล่าครับท่าน ท่านตอบว่า จริงโยมก็มันบ้าตั้งแต่ยังไม่เริ่มฝึก เมื่อฝึกไปแล้วจะไม่ให้เขาบ้าได้อย่างไรกันล่ะโยม (โดนๆ ใจ)
    ก็เปรียบเสมือนพวกนักเลงอันธพาน ยืนขวางซอย ใครเดินเข้าซอยต้องบอก เฮ้ยไอ้น้องอย่าเข้าไปเลย อย่างเสี่ยง ซอยนี้ใครเข้าไปลูกพี่ข้าฆ่าตายมาสิบศพแล้ว อยากเป็นศพที่11ไม๊ แค่นี้คนไม่มีสติก็วิ่งหนีกรู แถมบอกต่อกันจนป็นที่กล่าวขาน ไม่มีใครกล้าเข้าไป สุดท้ายเจอคนมีสติเข้าไปมันก็ไม่เห็นเกิดอะไรขึ้น หากเป็นอย่างนั้นจริง ทั้งคนพูดคนฆ่าคงเข้าไปเที่ยวฮ่องกงฟรีตลอดชีวิตไปนานแล้ว
    นี่แหละหนอ สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา

    คุยกันสบาย ๆ สไตล์ ศศิริยะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2008
  14. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อ่านช่วงนี้แล้วนึกถึงกระทู้ที่เคยไปอ่านมาเจอครับ เค้าเขียนว่า
    <hr>
    เมื่อการทำสมาธิ แบบชาวพุทธ พิสูจน์ได้แล้วว่า ช่วยยกระดับจิตใจ และสมองปลอดโปร่ง คลายความวิตกกังวล ได้ในระดับหนึ่ง

    หลายๆ บริษัทใหญ่ๆ ในฮอลแลนด์ จึงมีโครงการนำร่อง โดยให้พนักงานในบริษัทของตน ไปเรียนทำสมาธิ ในวัดไทย ที่ประเทศฮอลแลนด์

    ยกตัวอย่าง บริษัทโฮย่า ของญี่ปุ่น ที่มีสาขาในประเทศฮอลแลนด์

    อนุญาต ให้พนักงาน หยุดไปเรียนทำสมาธิ ได้ 3 วัน

    การเรียนทำสมาธิ แบบชาวพุทธ กำลังได้รับความสนใจ จากฝรั่งที่นี่อย่างมากมาย อาทิเช่น นักกีฬาปาเป้า แชมป์โลกชาวฮอลแลนด์

    เขาเปิดเผยว่า ก่อนการแข่งขัน เขาทำสมาธิ เพื่อความผ่อนคลาย

    ตอนนี้ ศาสนาพุทธ ค่อยๆ ซึมลึกเข้าไปในประเทศฮอลแลนด์ อย่างเหลือเชื่อ

    ทีวี ช่อง 1 ของฮอลแลนด์ ได้บรรจุ เรื่องของพุทธศาสนา เผยแพร่ เป็นประจำ อาทิตย์ละ 1 วัน จากเดิมที่เคยมีแต่ คาธอทิก คริสเตียน และมุสลิม

    ตอนนี้ ใครอยู่ฮอลแลนด์ จะสังเกตได้ว่า พระพุทธรูป ถูกวางประดับไว้ในรายการต่างๆ จนชินตา

    แม้ใครจะมองเป็นเครื่องประดับก็ตามที แต่ถ้าคิดอีกที ของไม่รักไม่ชอบ เขาก็คงไม่เอามาวางไว้หรอกนะ ฝรั่งก็จะเข้าใกล้ศาสนาพุทธ แบบไม่รู้ตัวไง

    วัดไทยล่าสุด ที่ฮัมสเตอร์ดัม ก็สร้างโดยคนจีน และเวียดนามที่นี่

    เดี๋ยวนี้ วัดไทยในยุโรป ก็มากมาย ไม่เว้นแม้แต่ รัสเซีย จะเห็นพระท่านบินไปต่างประเทศบ่อยๆ ตอนมาที่นี่ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้เอง

    ก็เห็น หลวงพ่อ 2 รูป ท่านถูกนิมนต์มาที่นี่ เห็นฝรั่งนอบน้อมกับท่าน แบบรู้จักที่ต่ำที่สูง เห็นแล้ว คนไทยบางคน ยังทำไม่ได้อย่างฝรั่งเลย

    ฝรั่งที่นี่ รู้จักหลวงพ่อชา กับหลวงพ่อสด ดีกว่าคนไทยบางคนเสียอีกนะ แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้วก็ตาม ภูมิใจมาก

    ทีวี ที่เผยแพร่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ ที่นี่ แล้วขนลุกเลย

    เมื่อฝรั่ง ที่หันมานับถือศาสนาพุทธ เขามีรูปหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ขนาดใหญ่มาก แขวนบูชาไว้ที่บ้านของเขา

    ทราบว่า ที่เยอรมันอยากเปิดสอนหลักสูตรพระพุทธศาสนาในระดับไฮสคูล แต่ขาดแคลนครูหาคนสอนไม่ได้

    JIN

    ขอย้ำการทำสมาธิ มีกันทุกศาสนา แต่ของพุทธะจะก้าวข้ามไปอีกหลายชั้นล้ำลึกนัก ตั้งแต่การดูจิต หายใจเข้าออกพุทธ-โท จนถึงขั้นได้ญาณสมานาบัติเห็นถึงกิเลสอย่างละเอียด หลุดพ้นกันไปเลยทีเดียว

    การที่ฝรั่งสนใจกันแบบนี้ ลือดวงอาทิตย์จะขึ้นทางตะวันตกเหมือนดั่งคำทำนาย...

    ตัวอย่างการฝึกโยคะเป็นต้น กำเนิดจากดินเดีย ฝั่งเอเชีย โด่งดั่งในโลกตะวันตก แล้วกลับกลายเป็นว่าคนตะวันตกมาสอนโยคะ คนเอเชีย... โลกเรามันก็มีอะไรแปลกๆเช่นนี้เหนอ...

    จากคุณ : vierzehn

    http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6688555/X6688555.html
     
  15. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
     
  16. สุมหัว

    สุมหัว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +3
    ทำยังไง เราถึงจะทำได้อย่างนี้บ้าง

    ยิ่งคิดยิ่งทำ เหมือนยิ่งไกลไปทุกที

    เวลาก็เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ

    ทำไงดี
     
  17. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
     
  18. mw1958

    mw1958 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +302
    การมีชีวิตเพื่อคนอื่น หรือ การบำเพ็ญโพธิสัตว์บารมี
    นับว่าเป็นเรื่องยากยิ่ง และต้องการการทดสอบอย่างหนักหนา
    ชีวิตหนึ่งไม่ถึงร้อยปี หากทำให้มนุษย์เข้าซึ่งถึงสัจจะคำว่า ตายแล้วไม่สูญ บุญบาปมีจริง
    นับว่าประเสริฐยิ่ง
     
  19. ตรงแหน่ว

    ตรงแหน่ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +283


    ครับ...ไม่แอบก็ไม่แอบ อิอิ..!! แรก ๆ ก็นึกว่าคงจะปิดกระทู้นี้ไปซะแล้ว กระทู้ที่ตอบมาล่าสุดเขียนราวกับจะกล่าวอำลา พออ่าน ๆ ดูก็ต้องขอสาธุดัง ๆ ด้วยน่ะครับ !! ที่ยังคงมีกำลังใจเต็มเปี่ยมในการถ่ายทอดเรื่องราว เพื่อประโยชน์ต่อการสืบทอดดำรงพระศาสนาสืบต่อไป

    การที่คุณ ศศิริยา มุ่งแน่ะนำเน้นหนักไปที่การปฏิบัติให้ถึงพระนิพพานเป็นที่สุดแบบนี้ ผมเองมีความเป็นสุขใจมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆ แม้จะเจอปัญหาอุปสรรคที่อาจบั่นทอนกำลังใจ แต่ก็หาได้สะเทือนต่อการบำเพ็ญบารมีไม่ นับถือ ๆ !!

    "การเกิด" แม้จะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่สุดยอดแค่ไหน รวยสุด ๆ เด่นดังสุด ๆ ไม่ว่าจะมีความสุขสุด ๆ ด้านไหนเพียงไรก็ตาม ที่สุดแล้วก็ล้วนฉิบหายไปหมด ทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึกทุกสรรพสิ่ง จริง ๆ แล้วเป็นภาวะที่ซ้ำซากจำเจสุด ๆ ไม่ได้เป็นของแปลกใหม่แต่อย่างใดเลย

    ทว่า..คนเราไม่รู้สึกตัวกันเลยว่า เราดักดานจมปรักอยู่กับความที่ต้องฉิบหายมานับไม่ถ้วน ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติกันมาแล้ว ต่างก็ยังพากันดิ้นรนแสวงหา สิ่งยึดเหนี่ยวที่ไม่จีรังเหล่านี้กันไม่เลิก !!

    หากได้รู้ ได้เข้าใจใน ความจริง อย่างถูกต้องตรงทาง พระนิพพานจะกลายเป็นเรื่องที่ปฏิบัติได้ง่าย มาก ๆ ขอเป็นกำลังใจในการสืบทอดพระศาสนาไปให้นาน ๆ จนถึงที่สุดน่ะครับ !!
     
  20. goragote

    goragote สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +19
    ไม่เชื่อไม่ศรัทธาก็อยู่เฉย ๆ ดีกว่า คนที่เชื่อศรัทธาและต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ ยังมี คนอย่างพวกคุณนี่แหล่ะที่จะทำให้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ
    และมีความหวังต้องหมดหวังเพราะคนที่ช่วยเขาท้อใจและปฏิเสธที่จะช่วยเพราะว่ารำคาญไอ้พวกมือไม่พายเอาปากลาน้ำอย่างคุณนี่แหล่ะ
    และอยากบอกอีกอย่างว่าถ้าน้องเขาเป็นอย่างที่เขาเป็นจริง ๆ นั่นหมายถึงน้องเขาอยู่ในระดับที่ว่าใครดูหมิ่นแล้วคนนั้นมีบาปก็ขอบอกเลยว่านรกได้จดชื่อคุณไว้แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...