ตอนนี้ฝึกพลังจิตอยู่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย free_hippy, 8 ตุลาคม 2010.

  1. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152

    ผมติดตาม กระทู้ของท่านอยู่นะครับ ถึงปิดไปแล้วก็ขอเข้าไปดูอยู่
    ขอถามนิดนึงครับ!!!!
    ถ้ากำลังเรียน ธรรมบรรลุอยู่นี่ แล้วฝึกเรียนธาตุต่อเลยจะติดขัดหรือมีผลเกี่ยวเนื่องต่อกันรึเปล่าครับ
     
  2. Dio2499

    Dio2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +542
    ไม่ติดหรอก ดีซะอีก ธรรมบรรลุที่เราเรียน มันจะได้ แข็งๆแรงๆ เพราะธาตุนี้ มันเป็นธาตุเฉพาะ เป็นธาตุของฤษี คิดดูเองว่า ฤษีท่านเก่งแบบไหน
     
  3. free_hippy

    free_hippy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอบคุณมากๆครับ...(จะคอยอ่านไปทำงานไปนะครับอิอิอิ ช่วงนี้เข้าเส้นเลยวันๆอยากจะนั่งฝึกอย่างเดียว555)เอ่อ..คุณdioครับ ผมรบกวนถามซักหน่อยนะครับ
    คือว่าเวลาจะเคลื่อนนสิ่งของเช่นแก้วนำพลาสติกเวลามันเคลื่อน มันเคลื่อนช้ามากๆๆๆยิ่งกว่า ชอตสโลโมชั่น อีกอะครับ อยากทราบว่าแบบนี้มันมาถูกทางรึปล่าวครับ มันยังสับสนอยู่คับ...ขอบคุณอักทีครับ
     
  4. Dio2499

    Dio2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +542
    ถูกหรือไม่นั้น ก็สามารถทำได้แล้วไม่ใช่เหรอ แต่อยากจะบอกว่า การใช้พลังจิตที่แปลงเป็นพลังงานกระแสไฟฟ้าสถิตในร่างกายนั้น มีผลกระทบสูงนะ อวัยวะในร่างกายเราจะถูกกระทบกระเทือน โดยพลังงานไฟฟ้าสถิตในร่างกายเราเอง มากน้อยตามการเค้นพลังงานนั้นออกมาใช้ ซึ่งมีผลทำให้เจ็บป่วยตามอวัยวะภายในร่างกาย ตรงไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ปล่อยไปมากแค่ไหน โดยเฉพาะก้านสมองนะ ระวังด้วย นั้นเป็นอีกเหตุผล ของนักพลังจิตเคลื่อนย้ายที่อายุสั้นกัน ตอนนี้ มันยังไม่ออกอาการหรอก เพราะเพิ่งเริ่มใช้ไม่มาก แต่ทำวันล่ะนิด มากเข้า นานเข้า เจอแน่ๆ แต่มันก็มีทางแก้ไขอยู่ ก็อย่างที่ผมเคยแนะไปเรื่อง การควบคุมการเต้นของหัวใจ นั้นเป็นหลักการเดียวกัน ที่จะใช้ป้องกัน ถ้าคุณเค้นพลังงานมากๆ อาการออกแน่ๆ ระวังเส้นเลือดฝอยในสมองด้วยล่ะนะ
     
  5. free_hippy

    free_hippy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +52
    ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาติsaveข้อความของคุณที่ให้ตามลิ้งไปอ่านนะครับ

    เสียววาบเลยนะเนี่ย!

    ขอบพระคุณมากๆครับ

    :cool:
     
  6. Dio2499

    Dio2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +542
    ตามสบายนะ แต่อย่าเอาไปเผยแพร่ล่ะ เดี๋ยวโดนสาปแช่งนะ อีกอย่างที่บอกไป ไม่ต้องเชื่อนะ อย่าเชื่อคนง่าย มันต้องลองดู อีกอย่างเรื่องอารมณ์โกรธเนี่ยะ ระวังเพราะบางครั้งควบคุมพลังงานตรงนี้ ไม่ได้ หน้ามืด เค้นมาใช้มาก อย่างดีกล้ามเนื้อบางจุดในร่างกายฉีกนะ อย่างหนักก็โน้นเลย ไม่กล้ามเนื้อหัวใจฉีก ก็ปอดฉีก ระวังหน่อยล่ะกัน
     
  7. free_hippy

    free_hippy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอถามแบบซื่อๆนะครับ
    แล้วคุณdioไม่โดนสาปแช่งหรือครับ
    ถ้าเป็นอย่างที่โพสมากระผมก็รู้สึกเป็นห่วงอะครับ...
     
  8. Dio2499

    Dio2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +542
    แล้วคุณคิดว่า ลิงค์ที่ผมให้ไป ใครเป็นคนทำ สิ่งที่อยู่ในนั้นใครเป็นคนโพสส์
     
  9. phongpeera

    phongpeera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +138
    พี่เดี่ยวเขาไม่โดนสาบแช่งหรอกครับ เพราะพี่เขาเป็นคนเผยแพร่ ได้รับอนุญาติจากครูอาจารย์แล้ว
    แต่ถ้าเราเอาไปเผยแพร่หละ โดนแน่ๆ
    ตอนนี้ผมก็ฝึกวิชาธาตุอยู่ ไม่คิดจะฝึกเคลื่อนย้ายวัตถุ เพราะคิดว่าคงมีผลต่อร่างกายสูง
    เพราะการที่กระตุ้นสารอะดรีนาลีน นั้นทำให้มีพลังงานเพิ่มขึ้นในร่างกายมากก็จริง
    แต่ผลกระทบ ทำให้เส้นเลือดภายในอวัยวะต่าง ๆ หดตัวอย่างรวดเร็ว
    ดึงไกลโคเจนในกล้ามเนื้อและอวัยวะต่าง ๆ มาใช้ เพื่อเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้สูง
    แต่หากรับประทานอาหารเกินที่ร่างกายต้องการ ร่างกายก็จะเก็บในรูปไกลโคเจน อีกครั้ง
    ที่พี่เดี่ยวพูดนั้นเชื่อได้ว่า คนที่ฝึกเคลื่อนย้ายอายุจะสั้น ก็คิดว่าเพราะแบบนี้แหละ
    กระตุ้นให้เซลล์ทำงานหนักเกินไป ทำให้เซลล์ร่างกายเสื่อมเร็ว
    แต่ถ้ารู้วิธีแก้ก็ดีไปครับ (ส่วนผมไม่รู้เพราะไม่ได้ฝึกเคลื่อนย้าย)
    ส่วนผม ขอไปเรื่อย ๆ เหมือนรถขายโอ่งแล้วกัน ไม่รีบเร่ง เรื่อย ๆ
    *********************************************
    ใครไม่คิดจะมีเมีย ก็มาเรียนธาตุครับ จะได้รู้ว่าโลกนี้มันมีแต่สิ่งที่น่าเบื่อ
    อ่านนี่แล้วชอบครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2010
  10. lldreamll

    lldreamll Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +84
    อายุสั้นท่านเจอทางแก้หรือไม่ครับ
     
  11. free_hippy

    free_hippy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +52
    ไม่รู้สิครับ555...ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะครับ...แต่ว่าสงสัยจึงถามครับผม
     
  12. free_hippy

    free_hippy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +52
    :VOรับทราบคร๊าบ
    ไอเรื่องวิธีแก้...คิดว่าการควบคุมการเต้นของหัวใจที่ลิ้งของพี่เดี่ยว(ขออณุญาติเรียกตามนะครับ)น่าจะใช้ได้นะครับถ้าได้ลองซะก่อนพึ่งจะได้อ่านนะครับ
    ยังงัยก็ขอบคุณ คุณpongpeeraนะครับที่ช่วยแสดงความคิดเห็น
     
  13. phongpeera

    phongpeera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +138
    สำหรับความเห็นผมกับคำถามนี้
    (ผมไม่รู้มากอะไรแค่ให้ความเห็นน่ะครับ ย้ำผมไม่ฝึกเคลื่อนย้ายวัตถุน่ะ เดี๋ยวเข้าใจผิด)
    1. สำหรับคนจะฝึกเคลื่อนย้าย ต้องศึกษาเรื่องกายภาพ ของร่างกายเพิ่มเติม
    เพื่อให้เข้าใจการทำงานของระบบร่างกาย เพราะถ้าฝึกถึงขั้นที่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจได้
    นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ ที่มันทำงานเองโดยไม่ผ่านการสั่งการจากสมอง
    ในความเห็นผมถ้าถึงขั้นนี้คุณก็ต้องสามารถควบคุมอวัยวะอื่นในร่างกายได้แล้วหละ
    ก็สั่งให้มัน สร้างสารอะไรมาเพิ่มเติมก็ได้ แต่อะไรหละเป็นวัตถุดิบ นั่นก็คืออาหารไง คุณก็ต้องกินเยอะขึ้น เพื่อสร้างไกลโคเจนและกลูโคส
    2. ถ้าคุณอ้วนอยู่แล้ว ผมว่ายิ่งดีเลย ลดน้ำหนักได้อีก เพราะร่างกายมันจะไปสลาย
    โปรตีน ไขมัน แป้ง ในร่างกายคุณมาสร้างพลังงานในการเคลื่อนย้ายวัตถุ
    ดีเลยลดความอ้วนโดยไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องลดอาหาร
    3. ทำไมพี่เดี่ยวถึงต้องให้ฝึกญาณก่อน เพราะถ้าสมาธิเรานิ่งแล้ว
    เวลาเราเข้าสมาธินั้นมันคือการพักผ่อนร่างกาย จิตใจที่ดีมาก ๆ ดีกว่าคุณนอนไปเฉย ๆ
    เพราะเวลาคุณนอนเฉย ๆ จิตปรุงแต่ง ไปโน่นนี่ (ฝัน) เหนื่อยใหมหละ กับการที่คุณนั่งสมาธิจิตสงบ ไม่ให้ส่ายไปมา ไม่ต้องคิดอะไร นี่ซิดีของจริง พักได้เต็มที่
    4. "ทำไมจึงห้ามมีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเองไม่งั้นหายหมด" อันนี้ ถ้าพูดไปแล้วพลังงานร่างกายใช้ไป ในจุดนี้มากน่ะ
    ทั้งจิต ทั้งกาย อ่อนล้าไปหมด ใช่ปล่าวหละ ก็ลองเปรียบเทียบใส่ตัวเองแล้วกันน่ะครับ ไม่พูดมาก ทำให้การปฏิบัติไม่ถึงใหน
    *************************
    เขาก็ว่ากันว่า พลังงานรอบตัว เรา ดิน น้ำ ไฟ ลม นี้ คนฝึกสมาธิเท่านั้นถึงจะรับรู้ได้ดี
    ถ้าทางวิทยาศาสตร์ก็ ทุกสิ่งนั้นมีอะตอม โมเลกุล หมดที่ประกอบกันเป็น ธาตุ สารอาหาร
    ถ้าคุณสังเคราะสิ่งรอบข้างคุณให้เป็นอาหาร (น้ำตาลกลูโคส) ได้ นั่นหละพลังงานมหาศาลเลยน่ะ
    แต่ถ้าไปสนใจกับพลัง มันก็ไม่ไปถึงใหน ผมแค่ตั้งสมมติฐาน ใครจะไปลองดูก็ได้ ได้ผลยังไงบอกกันบ้างน่ะ

    เผื่อเราจะเลิกเบียนเบียนสัตว์ ได้ ไม่ต้องฆ่า ไม่ต้องกินเขา ดีเลยได้บุญด้วย
    *************************
    ทุกอย่างมีทางแก้เสมอ หากเราค้นหามันน่ะผมว่า
    ผมแค่ให้ความเห็นน่ะ
    บางทีการนำวิทยาศาสตร์ เข้ามาบวกกันบ้างก็เป็นการดี

    *************************
    แต่สุดท้ายคนเราก็ต้องตาย
    ยินดีครับ จัดไปตามนั้นเลย ต้องลองถึงจะรู้ ต้องฝึกดูแล้วค่อยเชื่อ
    อิอิ สำหรับวัยรุ่นข้อนี้หนักน่ะ ผมก็ยี่สิบสองเอง เหอะ ๆ
    ถ้าจับมันแยกออกระหว่างกายกับจิต มันอยากมองให้มันมองไป (เห้อกูชอบรูขี้หรือนี่ สกปรกทั้งน้าน
    นี่ก็ผี นั่นก็กระดูก ไม่งั้นก็นี่เลยสวยนักใช่ใหม ลองไม่มีหนังห่อหุ้มร่างซิ เหอะ ๆ ดูซิยังสวยอีกป่าว
    ลองดูตัวเองกับเขาซิไม่ต่างกัน ยังรักยังชอบมันอีก ดูให้มันดูไปแต่จิตอย่าไปคิดตาม ไม่ให้มันครอบงำ )
    พี่เดี่ยวยังบอกเลย เอ้าให้มันรู้ไปซิว่ะ กูต้องเป็นนายมึง กูไม่ให้คิดมึงก็ต้องไม่คิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2010
  14. free_hippy

    free_hippy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +52
    ข้อ4เนี่ยทำให้ผมสะอึก...............อิอิอิ

    ขอตัวไปทำธุระซักพักครับผม

    แหมกำลังคุยเพลินเลยครับ
     
  15. neungnus

    neungnus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +124
    ขอขอบคุณคับคุณDio2499 ทำให้ผมรู้รายละเอียดมากขึ้น เพราะผมเองก็ฝึก กสินธาตุต่างๆๆอยู่ แต่ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไหร่เพราะ ท่านๆที่สอนผมท่านไม่บอกรายละเอียดให้รู้แต่บอกว่าให้ฝึกแบบที่ท่านสอน ท่านสอนแบบเข้าใจง่ายๆคับ
    ผมไปอ่านรายละเอียดแล้วนึกตามที่คุณDio2499บอก ทุกขึ้นตอน ถามนึกๆดูแล้ว
    เหมือนๆกับที่คุณDio2499บอก แต่เรื่องรับครูผมยังไม่เคยทำคับ แต่ท่านๆบอกว่า
    ผมเป็นลูกศิษย์นานแล้ว พอผมฝึกไปแรกๆ ทำให้ผมรู้ผมสิ่งที่ผมฝึกอยู่เคยฝึกแล้ว
    แล้วตอนนี้ผมฝึกต่อยอดที่ผมไม่เคยฝึกคับ แต่ก็ต้องขอขอบคุณDio2499 มากๆๆคับกับรายละเอียดต่างๆๆๆและขออนุโมธนาบุญด้วยนะคับที่เผยแพร่ วิชา ความรู้ ธรรม ต่างๆๆ คับ
     
  16. free_hippy

    free_hippy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +52
    นอกเรื่องนะครับ...คือผมว่าผมเกิดอาการ เดจาวู! อยู่อะครับ
    เมื่อกี้เปิดเข้าห้องมา เหมือนจำได้ว่าได้อ่านข้อความของคุณmanusneugที่อยู่ด้านบนครับ และจำได่ว่าฝันแบบนี้ด้วย...วันนี้คุ้นๆขึ้นมาทันทีเลยครับ...
    ไม่มีอะไรหรอกครับพอดีรู้สึกก็เลยโพสมาเฉยๆครับ:z16
     
  17. neungnus

    neungnus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +124
    เดจาวูคืออะไร

    <!--Main-->
    คำว่า เดจาวู เป็นคำในภาษาฝรั่งเศส (Déjà vu) แปลว่า เคยได้พบเห็นมาแล้ว บัญญัติขึ้นโดย นักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศสนามว่า Emile Boirac (1851–1917) ในหนังสือ L'Avenir des sciences psychiques (แปลว่า อนาคตของวิทยาศาสตร์จิตวิทยา)

    ความหมายของคำนี้คื่อลักษณะอาการของจิตที่บอกเจ้าของว่า เหตุการณ์นี้ สภาพแวดล้อมแบบนี้ หรือการสนทนานี้ เคยเกิดขึ้นแล้ว หรือจำได้ว่าเคยฝันเห็น

    อาการนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน หลายคนอาจจะยังไม่เคยเป็น หลายคนเป็นนานๆครั้ง หลายคนเป็นบ่อยจนตัวเองประหลาดใจ แต่คนที่เคยเป็น จะมีความรู้สึก "รับรู้" เหมือนๆกัน


    <CENTER>ทฤษฎีอธิบายการเกิด
    (ข้อมูลต่อไปนี้นำมาจากวิกิพีเดีย)</CENTER>

    ทฤษฎีแรก อดีตชาติ

    ทฤษฎีนี้อธิบายว่า สิ่งใดก็ตามที่เคยเกิดไปแล้วในอดีต จะย้อนกลับมาเกิดซํ้าอีก เราจะผ่านประสบการณ์มากมาย และบางสิ่งอาจหลงเหลือในความทรงจำ แล้วย้อนกลับมาเกิดอีก ทำให้รู้สึกว่าเคยเห็นมาก่อน

    ทฤษฎีที่สอง พลังจิต

    บ้างก็ว่า เดจาวู เป็นพลังจิตรูปหนึ่ง บ้างก็ว่าเป็นทิพจักขุญาณ (ความรู้คล้ายตาทิพย์) ซึ่งได้มาจากการเจริญสมถะภาวนาในหมวดของกสิณ 3 กองคือ เตโชกสิณ (กสิณไฟ), โอทากสิณ (กสิณสีขาว) และ อาโลกสิณ (กสิณแสงสว่าง) จากทั้งหมด 10 กอง

    เราทุกคนมีพลังจิต เพียงแต่จะอ่อนจะเข้ม บางทีเพราะเราไม่ได้ฝึก จะเก็บกดไว้ภายใน วันดีคืนดีก็ล้นออกมา ตามตำรา ถ้าได้ฝึก เราสามารถควบคุมได้

    มีนักพยากรณ์หลายคน พยากรณ์ได้จากการเพ่ง ว่ากันว่า มีผู้หนึ่งมีเดจาวูแรงกล้ามาก หาใครเปรียบได้ไม่ เขาชื่อ นอสตราดามุส

    ทฤษฎีที่สาม จักรวาลคู่ขนาน

    อธิบายเกี่ยวกับ โลกคู่ขนาน หรือ จักรวาลคู่ขนาน ก่อนหมายถึง จักรวาลที่ดำเนินไปพร้อมกับจักรวาลที่เราอยู่นี้ ทฤษฎีนี้นักฟิสิกส์ริเริ่มคิดขึ้นมา มีเหตุการณ์ที่เราลังเลอยู่ 2 ทาง แต่เราก็ตัดสินใจไปทางหนึ่ง แล้วคิดไหมว่า ถ้า ณ วันนั้นเราติดสินใจเป็นอย่างอื่น อะไรจะเกิดขึ้น

    ในโลกนี้ที่เรามีตัวตนอยู่ในขณะนี้ ขณะเดียวกันก็มีเราอีกคนหนึ่งในอีกโลกหนึ่ง และมีโลกคู่ขนานมากมายนับไม่ถ้วน..

    มีคนผูกทฤษฎีเดจาวู กับทฤษฎีจักรวาลคู่ขนาน กล่าวว่า การที่เรารู้สึกหรือเห็นภาพที่คล้ายว่าเคยทำมาก่อน นั่นแหละ คุณเคยทำจริง แต่เป็นคุณในอีกโลกหนึ่งต่างหากที่ได้ทำ คุณในทุก ๆ โลก ถูกผูกกันด้วยสายใยบางอย่าง อาจเป็นเพราะ สมองมีคลื่นตรงกัน ก็เป็นคุณคนเดียวกันนี่นา ในบางจังหวะที่เหมาะสม กระแสประสาทจูนกัน คุณก็ได้รับรู้ถึงกระแสความคิดจากคุณในอีกโลก

    ทฤษฎีสุดท้าย คิดไปเอง

    ตามแนวคิดของหลักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า เกิดจากสมองแปลข้อมูลผิดพลาด พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้เห็นมาแล้วหรอก แต่คิดไปว่าเห็นมาแล้ว

    ทางการแพทย์เรียกว่า การไหลของคลื่นกระแสไฟฟ้าในสมองเกิดการผิดปกติ ทำให้การกระทำที่กำลังทำอยู่ ณ ขณะนั้น คลับคล้ายว่าเคยเกิดมาก่อนหน้านี้มาแล้ว แต่ไม่สามารถจำเวลาได้..
     
  18. neungnus

    neungnus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +124
    ลองอ่านดูแต่ถ้าเคยสัมผัสด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าเป็นแบบไหน และสภาวะที่ที่เกิดกะผมคือผมไม่ได้หลับนอนนะคับ ผมนั่งสมาธิและควบคุมจิต เมื่อผมฝึกสำเร็จท่านๆก็จะมาบอกและสอนผมขั้นต่อไป จะเป็นแบบนี้เรื่อยๆๆอะคับ ซึ่งผมไม่รู้หลอกว่า สิ่งที่ผมทำในตำราหรือคำศัพเรียกว่าอะไร ผมฝึกตามที่ท่านๆๆสอนเพราะผมพิจารณาว่าฝึกแล้วดีไม่มีอะไรเสียหาย ก็เลยฝึกดู คับ ก็ขอบคุณที่บอกคับ แต่ที่คุณบอกผม ผมยังไม่รู้เลยว่าเดจาวูคืออะไร ผมก็เลยดูความหมายในเน็ทเอา ก็เลยเอามาโพทดู
     
  19. free_hippy

    free_hippy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +52
    แหม...มาเป็นชุดเลยอะครับ...555
    ขอบคุณมากๆ:cool:เจ๋ง...ครับ....
     
  20. Dio2499

    Dio2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +542
    ฝึกธาตุใดธาตุหนึ่งให้เป็นฐาน ดีกว่าเอาทุกธาตุแต่ไม่ได้ความ
    จิตของฤษีนั้น อานุภาพจิต จะมีพลังมาก บำเพ็ญบารมีต่างๆได้ง่าย ถ้าฤษีท่านจะขจัดกิเลสออกไปนั้น แค่ชั่วพริบตาท่านก็สามารถบรรลุอรหันต์ได้ เพราะกำลังจิตท่านมากนัก แต่ท่านต้องการบำเพ็ญบารมี
    อีกอย่าง การน้อมจิตในการสำผัสสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นกสิน หรือสิ่งของ นั้นเป็นหลักสำคัญนะ หรือจะเป็นการน้อมจิตคุยกับวิญญาณก็ตามแต่ นี่เป็นหลักแรกที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือวิธีการนั้น เห็นเขาว่ากันว่า ทำจิตให้นิ่งไม่ต้องใช้คำบริกรรมนะ แล้วรวมจิตไว้ที่เราตรงไหนก็ได้ ค่อยๆเคลื่อนจิตพลังสัมผัสไปสู่สิ่งนั้น อารมณ์เป็นปกติของฌานนะฌานไหนนั้น ไปหาคำตอบกันเอาเอง ต้องลอง แล้วใช้อารมณ์จิตสำผัสกับสิ่งนั้น จะรู้สึกว่าจิตเราที่นิ่งๆเป็นสมาธินั้นมันเข้าใกล้ และสัมผัสเริ่ม หรือ อย่างชัดเจนขึ้นตามลำดับ แล้วทำให้เป็นอันเดียวกัน นี่พูดถึงกสินนะ ส่วนเคลื่อนย้ายนี่จะแปลกหน่อย ใช้สัมผัสจิตมากกว่าแต่ว่าสัมผัสพลังงานจิตนะตัวนี้ จับพลังงานจิตเราให้ได้ก่อน แล้วปล่อยไป นี่คร่าวๆ แต่อย่าปล่อยแรงนะ เดี๋ยวเส้นเอ็นเล็กๆๆๆที่อยู่ตรงจุดนั้นจะฉีกล่ะ หรือไม่ก็ชา ส่วน คุยกับวิญญาณนั้น ก็ง่ายมาหน่อย ทำจิตให้เป้นกลาง นิ่งๆ ใช้จิตสัมผัสกับวิญาณนั้น โดยที่เขาจะสื่อกับเราเอง ถ้าเขาต้องการนะ แล้วเราก็ถามเขา เขาก็จะตอบในจิต แต่ไม่ใช่เสียงเรานะ บางทีมันก้องในหูเราก็มี อันนี้คราวๆ ที่เขาเล่าให้ฟังมาอีกที จิงไม่จิงยังไงก็ลองดูนะ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันไม่เคยลอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...