ตรวจด้วยตาทิพย์พบแล้ว พระศรีอาร์ฯ คือ คนนี้!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย physigmund_foid, 28 พฤศจิกายน 2008.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    จากนั้น ไม่มีใคร เอาผม ใครๆก็ว่าผมบ้ากันทั้งนั้น
    แบบว่าไม่มีใครเข้าใจผม(ยกเว้นอาจารย์ที่สอนผม)กับ tvj
    ผมเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก ไร้ค่า คนอื่นมองไม่เห็น
    เพราะผมก็มองไม่สนคนอื่นเหมือนกัน ผมไม่สนคนทั้งโลกจริงๆ
    และคนอื่นก็ไม่สนผมเหมือนกัน ..สุดท้าย อาจารย์แนะนำให้บวชเพื่อให้รูปนามสมดุลย์ตรงกัน ปัญญาจะได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น
    กว่าจะบวชได้ ก็ยาก เพราะ ตัวผม เหมือนเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่เข้าใจ
    สุดท้ายได้บวช บวช 24วัน..มั้ง เข้าใจชีวิตและคุณค่าของชีวิตของลูกเมีย...สึกเลย...ออกมาเป็นฆราวาส ..อาจารย์ท่านได้เตือนเรื่อง อย่าประมาท...ปัจฉิมโอวาท..
    แต่ที่สุดผมก็ประมาทจนได้...กินเหล้าไม่เมา ....เมื่อเข้าทำงานเจอแก๊งกินเหล้า ยิ่งสนุก กินทุกวัน เอาที่แรงๆ เล่นวอสก้า เป็นลังๆ...กาแฟเย็นวันละห้าแก้ว ของหวาน
    จนเบาหวานขึ้นตา ร่างกายมีแต่สารพิษ หยุดเหล้า กินยารักษาเบาหวาน เป็นไตวาย
    ต้องฟอกไต ต่อด้วยตับแข็ง น้ำออกที่ท้อง ท้องโต...สุดท้าย หยุดทุกอย่าง เพื่อชำระกายใจ...นอนรับผลกรรม...
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตอนดับอวิชชา ตอนนั้นอายุ ประมาณ 40
    เข้าบวชหลังจากนั้น ...เข้าทำงานอีก 4 5 ปี
    เบาหวานขึ้นตาปีกลาง59 ฟอกไตปี 60..61
    ตอนนี้ ท้องโตหายแล้ว โรคไต ก็ดูแล้ว คงจะหายในเร็วๆนี้
    ตาขวา มันมองไม่เห็นมาสองปีแล้ว เหลือตาซ้ายข้างเดียว
    ก็มัว ...เป็นกรรม ที่เคยดูรูปโป้ สมัย ดับอวิชชาใหม่ๆ
    คือ ปิกะจู้มันไม่โด่ เลยพยายาม หาทางสร้างอารมณ์ สุดท้าย
    จนป่านนี้มันก็ยัง หมดอารมณ์ตามเคย เลยได้แต่ผลกรรม
    ล้วนๆ...ที่ต้องจ่ายด้วยเลือดและน้ำตา วันที่ 1 เมษานี้ ผมก็ครบ 48ปี
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    สิ่งที่ ทำได้ยากก็คือ...เมื่อ กลับมาเกิดใหม่ในร่างเดิม
    ชีวิตเดิม มันยังคง จำได้ว่าเคยทำอะไร ...มันเปลี่ยนแปลงได้ไม่ง่ายนัก ดูเหมือนการเริ่มต้น วิถีชีวิตใหม่ ที่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเองนั้น...ยากเสียเหลือเกิน..(พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว)
    ตอนที่บวช (เข้าสู่แดนพระธรรม) รวมทั้งตอนที่ ละวางจิตที่นอกโลก...เรากลับมาได้เพราะ มี ลูกเมียนี่แหล่ะ เป็นเหมือนห่วง เชือก
    ชี้ทางให้เรากลับโลกได้ ...ถ้าไม่มีลูกเมีย คงจะกลับมาได้ยาก
    และคงจะสึก ได้ยากเช่นกัน...เพราะผมเองไม่สนใจตัวเองอยู่แล้ว
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แม้ตอนนี้ ก็เหมือนว่าการชดใช้กรรม คงมีวันจบลง
    ผมคงได้ตายสมใจ หวัง....

    วันนี้ ผมก็พยายาม ถ่ายทอดในสิ่งที่ตนเองเดินทางผ่านมา
    แต่ ก็นั่นแหล่ะ เมื่อ มันไม่ง่าย คนอื่นเลยไม่รับ เพราะหาว่า
    ผมสุดโต่ง...ผมเลยหันมาช่วยจิตวิญญาณ คนที่ตาย ง่ายกว่า
    ได้ไปเรียนี้ ภาษาจิต ไปรับรู้เรื่องต่างดาว ภพภูมิ ...ไปโน่น
    ดูเหมือน ยิ่งบ้าไปใหญ่ แต่ข้อดีคือ ผมไม่มีจิตหลงตามสิ่งเหล่านั้น
    ได้อีก....แต่ก็ยังคง ไม่ยอมต่อความไม่ถูกต้อง...มโนกรรมผมยังคงสร้างอยู่ เพร่ะไม่พอใจต่อการหลงผิด...ของพุทธบริษัท
    แต่ก็ ตอนนี้ พยายาม ช่วยเปลี่ยนจิต ความคิด ให้ทุกสรรพจิต สรรพธาตุ สรรพขันธ์ ได้สัมผัสพลังแห่งนิพพาน...ที่ดีงามและความถูกต้อง

    เพราะธรรมะ สอนเรื่องการใช้ชีวิต ที่สงบ สุข ด้วยความรัก
    ความดีงาม ความถูกต้อง...ตามมรรคแปด ตามอริยะสัจสี่
    นั่นคือธรรมจักร ที่อยู่เหนือ สามโลก....นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2019
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผมชื่อขจรศักดิ์..ธรรมภัทรปัญโญ
    แต่ก่อน ไม่ไช่นามสกุลนี้ นามสกุลนี้ ท่านอาจารย์ประทานให้
    ส่วน

    ตัวละครทั้งหมดที่ผ่านมาในกระทู้นี้ ต่างก็ได้แยกกันไป
    ผมได้พบหน้าท่านอาจารย์ ได้พบ tvj ...แล้ว
    แต่คนชื่อขวัญนี่ ยังไม่เคยพบ คนอื่นๆก็ยังไม่เคยพบ
    พอได้มาอ่านกระทู้นี้อีกครั้ง โห ผมนี่ก็ ...บ้าระห่ำ ไม่เบา

    แต่ก็แผ่เมตตา ให้ทุกคนนะครับ ใครจะอภัยหรือไม่
    กรรมที่ผมได้เคยกระทำ ก็เป็นของผมคนเดียวครับ

    กรุณาอย่าลอกเลียนแบบนะครับ
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผมนี่แหล่ะครับ พะสีข้าง...อาน...ตัวจริง

    อ่ะด้อเด้น.....รักทุกคนครับ....ต่างก็ถือว่า ล้วนเป็นกัลยาณมิตร
    เป็นเหมือนครูผู้ช่วยกระหน่ำทุบตี ให้ตัวผมได้ ออกมาเป็นผู้เป็นคน ได้ ในวันนี้...รักทุกคนนะ จุ๊บุ๊ๆๆๆๆๆๆ
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ที่ผ่านมา ผมพยายามสรุป ใจความสำคัญ เรื่อง กาย...ใจ.... จิต
    ว่าแรกเกิด คนเรา มีรูปคือกาย กับ นามคือจิตใจ(เรียกรวมกัน)
    พอเอาจิตตัวรู้มาตั้ง มากำหนดว่าเป็นสติ เอามาฝึกสติปัฏฐานดูกายเวทนาจิตธรรม
    จิตที่เป็นสติตัวรู้ตัวดู ถ้าวางกายวางเวทนากาย(ไม่ยึดมั่นถือมั่น) แล้วสามารถแยก เวทนาจิต(ความคิดที่ใจมันปรุงมันคิด)..แยกจากกันได้ จะเห็นความจริงว่า ใจคิด จิตรู้
    คนละตัวกัน..ใจทำหน้าที่คิด จิตตัวรู้ (ถ้าไม่ฝึกเอามาตั้งเป็นสติ จิตตัวรู้นี้แหล่ะคือจิตวิญญาณ ตัวสร้าง อุปทานทั้งหลาย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2019
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผมก็สรุปว่า ถ้าจิตสติตัวรู้นี้ ถูกละวางได้ ..คือเห็นอริยสัจสี่
    คนเรา ก็จะเหลือแค่ กายกับใจ....(ใจคือมโนธาตุที่มีอยู่ก่อนแล้วกับธาตุต่างๆของโลก...) อวิชชาจิตวิญญาณ เป็นผู้นำมาสร้างภพสร้างชาติ

    พูดไป คนเขาก็โต้แย้งผม ....ก็เลยหาเรื่อง ทะเลาะกัน เรื่องวิธีการฝึกของผมไปโน่น....ว่าผมแยกจิตดูกาย 45องศา มัน...ผิดไปซะงั้น

    มันก็เลย ตามถล่มผมจน สีข้างอาน ถลอกปอกเปิด อิอิ

    สนุกมั้ยล่ะ
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตอนแรกที่จิตสติรู้ของผมวางกายใจ ลอยออกนอกโลก ไปบ้าเป็นพระอรหันต์
    โห..หลายคนเห็นดีเห็นงาม ว่า....ถูกต้องแล้ว..(แต่ในกายใจผมสิ บอกตัวเองว่าไม่ถูกต้อง มันไม่จบเพียงแค่นี้นะ) ผมเลยออกลาย อาละวาดไปทั่ว.

    (ผมฝึกแยกจิตดูกายจากท่านขุนพลที่นำการปฏิบัตินี้มาจากท่านหลวงปู่เทพโลกอุดร มาให้ผมฝึกโดยเฉพาะ) คุณto2504 ฝึกดูลูกแก้วจากกลางหน้าผาก

    เมื่อ ผมอาละวาดไปทั่ว ท่านอาจารย์ผมท่านจึงเมตตา มาชี้ทางต่อ..จากนี้แหล่ะ ที่ใครๆก็เริ่มไม่เข้าใจผม หาว่าผมละทิ้งธรรม ละทิ้งจิตที่รู้ธรรม ละทิ้งจิตที่เป็นอรหันต์...ไม่เข้าข้างผมละ...

    จนผม ละวางจิตรู้ได้ ..และกลับมา(สัมปชัญะคือใจ) ใจหรือมโนธาตุกลับคืนมาที่กาย
    มาที่โลก เหมือนเกิดใหม่...นี่แหล่ะ ...ได้แต่เรื่องเลยทีนี้...ใครๆก็ว่าผม บ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2019
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    มันจึงออกมาเป็นอย่างที่ได้เห็นกัน เช่นกระทู้นี้ ความจริงมีหลายกระทู้...อัดกันแทบทุกวัน ...อย่างเมามัน
    แต่ก็นะ...มันผ่านมาหลายปีแล้ว...วีรกรรม...ของผม
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    สรุปเรื่อง...กายใจ
    กายคือ ผัสสะ..ตาหูจมูกลิ้นกาย
    ใจคือ..ตัวปรุงตัวคิด...เป็นเครื่องรับรู้โลก

    อายตนะ กายใจ คือเครื่องรับ รู้..โลก...(ผมจะเรียกใจว่า สติเหมือนเดิมก็ได้ แต่จะไม่เรียกว่าจิต) ผมเรียกใจว่า คือ สัมปชัญญะหรือมโนธาตุ...ไม่มีจิต

    ไม่มีจิต มีแต่กายกับใจ.....คำนี้แหล่ะ ที่เถียงกันเป็นเรื่องเป็นราว ซะโดนแบนตลอด
    ผมบอกว่า ผมไม่มีจิตวิญญาณ มีแต่ใจ....คนอื่นก็บอกว่าอันเดียวกัน
    ผมก็เถียงว่า ผมแยกออก เป็นคนละอันกัน...เมื่อจิตรู้ ละวางไป..ยังจะเรียกว่าจิตตัวเดิมได้ไง...ก็เรียกใจสิ จิตไม่มีแล้ว
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตอนนี้เบื่อที่จะเถียงแล้ว
    ตัวใครตัวมันแล้วกัน
    อยากโง่ ก็จงโง่ต่อไป...ผมบ้าคนเดียวก็ได้...ฟะ
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เหตุผลที่ต้องกลับคืนมาสู่โลก ด้วยใจที่ ถึงนิพพานแล้ว

    ท่านอาจารย์ ให้เหตุผล ว่า เพื่อเป็นการพิสูจน์ตนเองว่า ถึงนิพพานจริงหรือไม่
    ถ้านิพพานจริงคือ....พ้นจากทุกข์แล้วโดยสิ้นเชิง ...จริง....หรือ ...บอกคนอื่น ไม่มีใครเชื่อหรอก มันต้องบอกตนเอง..เอง ว่าจริงหรือไม่

    จึงต้องเอาใจหยั่งลงมาที่กายยังโลก เหมือนการเกิดใหม่ เพื่อพิสูจน์ว่า กายใจนี้ ไม่กลัวทุกข์ พ้นทุกข์ ได้จริงหรือไม่...อันนี้ต้องรู้ด้วยตนเองเท่านั้น
    ใครก็รับรองให้ไม่ได้...แม้พระพุทธเจ้า..ตนเองต้อง..ตรัสรู้ได้ด้วยตนเอง

    ตรัสรู้ แปลความหมายตามตัวว่า...ตนเองออกปากร้องอุทานด้วยตนเองว่า...ตนรู้แล้ว ตนเข้าใจแล้ว ตนพ้นแล้ว.....นั่นเอง(ด้วยน้ำตาแห่งความสุข ตื้นตันในพระคุณอันยิ่งใหญ่ขององค์พระศาสดา)
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    วีรกรรมที่ผ่านมา มีแต่ ผมคนเดียวรุมคนทั้งหลาย ผมหวังดีแต่กลายเป็นทำร้ายคนหลายๆคนมาตลอด...ผมไม่เป็นอะไรเลย แต่คนอื่นคง..เคืองแค้นในตัวผมบ้าง...ต้องมีแน่
    ผมได้เรียนรู้ว่า..อย่าข่มเขาโคให้กินหญ้า...เพราะคนบางคน พวกเขาทำได้ รู้ได้ เข้าใจได้ เพียงเท่านั้นจริงๆ ต่างคนต่างรับรู้ได้ไม่เท่ากัน..เพราะมันเป็นกรรมของแต่ละคน...ตอนนี้ ผมจึง...แผ่เมตตาแผ่กุศลแผ่ปัญญา ให้โดยทั่วถึง

    จนหมดแล้ว......ถ้าตายก็ไม่เสียดายอะไร...เลย ทำเพื่อตัวผมเองจะได้ไม่ติดค้างกับใคร...

    ร้องเพลง...สิ้นสุดกันที ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน เท่านี้ก็ฉาแก่ใจ ชาบชึ้งชวงในอกราว.....อิอิ..จบ
     
  15. นาคานาวี

    นาคานาวี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +14
    @วรณ์นิ มีประสบการณ์หรือเรื่องราวอะไรนอกตำรา ก็มาเล่าสู่กันฟังอ่าน อีกนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...